“รู้ได้ยังไง”“ก็พี่หมี่เศร้า...ร้องไห้ คนรักกันมันต้องไม่เป็นแบบนี้”กลายเป็นเรื่องถกเถียงกันระหว่างสามีภรรยาไปเสียแล้ว คนอีกจังหวัดได้แต่เฝ้าดู“นั่นเพราะพี่หมี่รักเขา คุณกระทิงก็รักพี่หมี่ ไม่งั้นคงไม่มาตากหน้าตามถึงบ้าน ให้โดนด่าฟรี ๆ หรอกใช่ไหมครับเตี่ย”เสี่ยจิวเม้มปากไม่คัดค้าน“ถ้าเขาไม่ได้เลวร้ายอะไร ยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง เราก็ควรปล่อยให้เขาได้ทำความเข้าใจกัน เด็กที่โตมาในครอบครัวที่ขาดพ่อหรือแม่ ต่อให้รวยขนาดไหนก็ไม่มีความสุขหรอกนะครับ”พรสรวงจับแขนเสื้อเขา เพราะนั่นเป็นชีวิตจริงของเจมส์ เขาขาดแม่ พ่อก็ใฝ่หาอำนาจ มีอีหนูเป็นพรวน เจมส์จึงไม่อยากเป็นอย่างนั้น อยากสร้างครอบครัว ธุรกิจเอง“แล้วถ้าเขาทำร้ายหมี่ล่ะ”จิรัฐฎ์ยังไม่ยอม“ผมจะให้คุยกันในที่เปิดโล่ง มีคนของผมดูอยู่ตลอด”เจมส์อาสาเป็นเจ้าภาพจัดการเจรจาครั้งนี้ เพราะเรื่องคาราคาซังของพี่ ก็ทำให้พรสรวงไม่สบายใจเช่นเดียวกัน เมื่อเห็นคนที่รักทุกข์ เขาพลอยไม่สบายใจไปด้วย“เตี่ยกับม๊าก็อยากเห็นพี่หมี่มีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ใช่ไหมครับ”เจมส์ส่งยิ้มอบอุ่น นี่แหละที่สาวเปรี้ยวอย่างเธอหลงเสน่ห์เขา หนุ่มเนิร์ดดธรรมดา ๆ หน้าตาเรี
พงศพัศและมัญชุพรกลับมาที่ไร่ดาวเรืองอีกครั้ง และนี่คือชีวิตแต่งงานที่แท้จริง เขาพาเธอไปร้านเว็ดดิ้งแพลนเนอร์ ลองชุด ถ่ายรูปพรีเว็ดดิ้ง“สวยหล่อสมกันมากเลยค่ะ”เจ้าของร้านกรี๊ดกร๊าด การได้เงินสองรอบจากคู่รักคู่เดิมเกิดขึ้นง่าย ๆ เสียที่ไหน ต้องชมไว้ก่อน เผื่อมีรอบสาม“เอารูปใหญ่ ๆ เลย จะเอาไปติดฝาบ้าน”“รูปติดผนังก็พอมั้งคุณกระทิง”มัญชุพรต้องปราม เขาร่าเริงมากต่างกับพงศพัศคนเดิมเป็นคนละคน“จะเอาติดตามที่ว่างตรงบันไดด้วย ลูกเกิดมาจะได้เห็นว่าแม่น่าเจี๊ยะขนาดไหน”การหยอกล้อ ดูจะเป็นเรื่องปรกติของเขาไปเสียแล้ว“พ่อก็หล่อ แม่ก็สวย ลูกเราต้องเกิดมาหน้าตาดีแน่”คนขี้เห่อลูบพุงที่เริ่มแข็งขึ้นมาแล้วบ้างของเธอ“เกิดลูกได้หน้าดุ ๆ ของคุณ กับผิวตองเหลืองอย่างฉันล่ะ”พงศพัศยักไหล่“ถือว่าหน้าตาดีนะ แบบเอ็กโซติคส์”มัญชุพรกลอกตา ตกลงแบบที่เขาว่ามามันตีความได้กว้างเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไร หากเป็นลูกเขาและเธอ มัญชุพรก็จะรักแกมาก ๆอีกกลุ่มที่เห่อหลานคือเหล่าผู้สูงวัย ต่างหายาจีนและสารพัดเคล็ดลับในการดูแลตัวเองช่วงตั้งครรภ์มาให้เธอ“โชคดีจริง ๆ ที่มุกอยู่ภูเก็ต”น้องสาวหัวเราะยามเฟซไทม์คุยกัน“ไม่มีใค
“มุกไม่แต่งค่ะ”ท่ามกลางห้องรับแขกอันเย็นฉ่ำไปด้วยไอจากเครื่องปรับอากาศ ลูกสาวคนที่สองของบ้านอย่างพรสรวงแทบจะดิ้นร่า ๆ มือกำแน่น ตามองมารดาแบบจริงจัง ตอกย้ำเรื่องที่เจ้าตัวไม่ต้องการ“ม๊าไปตกลงลับหลังได้ไง มุกไม่ยอมนะ”พร้อมทำท่าผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้หลุยส์ มัญชุพรผู้พี่ต้องรีบดึงมือไว้“แต่งงานกับหลานชายคุณยายบัวแก้วไม่ดีตรงไหนฮึ”นางพิสมัยรินชาอุ่นลงถ้วย หนึ่งยื่นให้สามี สองให้ตัวเอง“นายกระทิงคนนี้มีดีกว่านายเจมส์ลูกสส.นั่นอีก วันดีคืนดีไม่รู้พ่อเขาจะโดนไข้โป้งวันไหน หมดบารมีพ่อแล้วก็ไม่เหลืออะไร”“ม๊าไม่เข้าใจอะไรเลย เจมส์เขากำลังทำบริษัทของตัวเอง ไม่พึ่งบารมีพ่อ”เพราะเขาเป็นคนเช่นนี้อย่างไรเล่า พรสรวงจึงรัก เขาทำทำตัวเป็นโล้เป็นพายกว่าลูกนักการเมืองคนอื่น“จะเชื่อได้ยังไง คนไม่เคยลำบาก คาบช้อนเงินช้อนท้องมาเกิด บริษัทนั่นไม่ใช่เปิดเพื่อผลาญเงินพ่อเขาเล่นรึ”นางพิสมัยไม่ใช่พวกตื่นคนรวย หากมองการณ์ไกลกว่านั้น นางมองที่มาของความรวย มองต้นตระกูลซึ่งเหมือนดังรากลึก บ่งบอกการสั่งสอนอบรม อันจะเป็นพื้นฐานนิสัยของคน ลูกนักการเมืองที่เพิ่งรวย นางจึงไม่ชอบ“ม๊า...”ห้ามไม่ทันเสียแล้ว ร่างน้อ
“ลูกพี่ ทำไมไม่ยอมรับโทรศัพท์คุณยายละครับ” การันต์คนสนิทถามในเช้าวันต่อมา ขณะยืนอยู่ข้างรถกระบะมองรถไถคันโตกำลังพรวนดินเพื่อไว้ปลูกพืชรุ่นต่อไป“กูเบื่อ ยายเซ้าซี้จะให้แต่งงาน”ลูกน้องผิวปากล้อเลียน“อ้อยมาประเคนถึงปากช้างแล้ว ทำไมไม่กินเลยล่ะลูกพี่”แซวไปอย่างนั้น เพราะสุนีย์กระจายข่าวเรื่องเขาจะมีเมียให้คนทั้งไร่รู้หมดแล้ว“กูไม่อยากโดนบังคับ”เจ้าของไร่หนุ่มเชิดหน้า ศักดิ์ศรี...ขอมีไว้หน่อยเถอะ การที่มียายหาเมียให้ดูลูกแหง่เกินไปในสายตาเขา“ลูกสาวคุณนายพิสมัยกับเสี่ยจิว ได้ข่าวว่าสวย เรียนจบโทมาจากกรุงเทพฯ”การันต์ได้ยินเสียงลือเล่าอ้างเรื่องพรสรวงมาจากสายข่าวที่ใกล้ชิดยายสุนีย์เช่นเดียวกัน“มึงคิดว่าคนอย่างนั้นจะยอมมาอยู่ไร่แบบนี้เหรอ”ดวงตาคมภายใต้แผงขนตาหนามองกวาดไปทั่วบริเวณไร่ดาวเรือง ที่มีอาณาเขตกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาแรกทีเดียวยายบัวแก้วมีดาวเรืองแม่ของเขาเป็นลูกสาวคนเดียว ตาเป็นทหาร ทั้งสองอยากเห็นลูกมีชีวิตที่ดีไม่ต้องโยกย้ายตามอาชีพเฉกเช่นบิดาเป็น แม่เขาเรียนมหาวิทยาลัย แล้วก็ไปพบรักกับทองโปรย เด็กวัดกำพร้าที่เรียนเกษตรตาคัดค้านหัวชนฝาที่ไปเลือกหนุ่มจน ๆ แถมยังเรียนสาขาที
พงศพัศแปลกใจที่บ้านนี้ให้คนรับใช้มานั่งเทียมเจ้านาย จนนางพิสมัยแนะนำตัวเธอว่าเป็นใคร เขาจึงได้แค่กระแอมในลำคอ พงศพัศไม่ผิด เพราะไม่เคยเจอเธอเลยมัญชุพรก็อาจไม่ผิดด้วยเหมือนกัน เพราะเห็นการแต่งตัวแถมถือถาดมาขนาดนั้น ใครก็ต้องคิดว่าเป็นคนรับใช้พรสรวงเข้าบ้านมาท้ายสุด เธอกลับเร็วด้วยแม่บอกว่าพ่อไม่สบาย“บ่าย ๆ อย่างนี้ต้องดื่มน้ำชา ไปอีกห้องเถอะค่ะคุณยาย ยัยมุกเลือกขนมจีบมาให้ด้วยตัวเองเลยนะคะ ต้องอร่อยแน่ พูดแล้วจะหาว่าคุย ลูกคนนี้รสนิยมดี”พิสมัยปิดปากหัวเราะโฮะ ๆ พรสรวงขมวดคิ้ว จำไม่ได้ว่าตัวเองไปเลือกขนมจีบตอนไหน แล้วยังนายหนวดหน้าดุคนนี้อีก เธอถูกจัดฉากเข้าเสียแล้ว“เอ่อ ต้องขอตัวก่อนนะคะ มุกรู้สึกไม่ค่อยสบาย” หญิงสาวหาแผนเตรียมชิ่งหนี“ไหน เป็นอะไรมาให้แม่ดูหน่อยสิ”มารดายิ้มหวานจนขนลุก เข้ามายกมืออังหน้าผาก“ไม่เห็นเป็นอะไรเลยมุก หนูอาจแค่เหนื่อย”เล็บแต่งเจียนทาสีแดงอย่างดีจิกลงบนแขนลูกสาว“ไปนั่งพักหน่อยก็หาย”สองพี่น้องรู้กันทันที นางพิสมัยกำลังของขึ้น อย่าได้ขัดใจเป็นอันขาด มิเช่นนั้นองค์จะลงพรสรวงแม้จะเอาแต่ใจ แต่ก็กลัวมารดาเป็นที่สุด เพราะนิสัยแรง ๆ ร้าย ๆ เธอถอดแบบมาจากนา
“ทิงนี่ไม่ได้เชื้อพ่อเชื้อตามาเลยนะ”ยายบัวแก้วทำเสียงเวทนาหลาน“ตากับพ่อของทิงน่ะ มีเสน่ห์จนทำให้ยายกับแม่หนีตามมาอยู่ด้วยกัน”เรื่องเล่าประจำตระกูลคือขณะนั้นตาเป็นทหารยศน้อย มาหลงรักลูกสาวคหบดี ทั้ง ๆ ที่พ่อแม่หาคนที่เหมาะสมให้แล้ว แต่ยายบัวแก้วยังหนีตามมาลำบากอยู่กับตา สร้างครอบครัวน้อย ๆ ด้วยความรัก“ทิงกลัวตัวเองจะทำให้หนูมุกรักจนยอมคืนเงินสิบล้านให้ไม่ได้ใช่ไหม”ยายบัวแก้วเลี้ยงหลานมา รู้ดีถึงนิสัยฆ่าได้หยามไม่ได้ของเขา“ผมจะเอาเงินคืนมาทั้งหมดยี่สิบล้าน”คนตัวโตที่เท้าสะเอวอยู่ประกาศก้อง“งั้นแสดงว่ายอมแต่งงานกับหนูมุกแล้วใช่ไหม”หน้าบึ้งและตาวาว ๆ นั้นเป็นคำตอบว่าเจ้าตัวไร้ซึ่งความเต็มใจ“สุนีย์เดี๋ยวโทรหามัคนายกอนุพงษ์นะ นัดวันไปเจอพระอาจารย์หน่อย เอาสักวันศุกร์ ฉันจะไปขอฤกษ์แต่งกับท่าน”“เอาฤกษ์หมั้นด้วยไหมคะ แบบหมั้นเช้าแต่งเย็น เร็วดี”คนสนิทเจ้าปัญญาแนะ“ดีเหมือนกัน เอาตามนั้น”พงศพัศกลับไปนั่งซดชาอย่างทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ เอาว่ะ! อย่างน้อยผู้หญิงคนนี้หน้าตา การศึกษาก็ยังพอทนได้ ที่เหลือก็แค่หว่านเสน่ห์นิดหน่อย ถ้าเธอไม่หลงก็ขู่เอาเลยละกัน ให้เลือกเอาระหว่างชีวิตกับเ
วันเสาร์พรสรวงมีนัดที่ร้านเว็ดดิ้งแพลนเนอร์เที่ยง เธอให้มัญชุพรไปรอที่นั่นเลย พนักงานรีบมาต้อนรับหญิงสาวอย่างนอบน้อม“สนใจบริการด้านไหนของร้านเราคะ”พร้อมยกอัลบั้มรูปเล่มโตมาให้ เธอต้องรีบบอกว่ามาด้วยเรื่องนัดของพรสรวง สักพักรถกระบะคันเก่าของไร่ดาวเรืองก็มาจอดที่ลานใกล้ร้าน รปภ.แทบไม่ให้จอดเพราะคิดว่าพงศพัศมาส่งของ จนเขาต้องบอกว่าเป็นลูกค้าที่มาใช้บริการ จึงได้จอดชายหนุ่มจงใจจะแกล้งให้พรสรวงเสียหน้า เพราะท่าทางอย่างเธอคงแทบกรี๊ดแน่เมื่อเห็นว่าที่เจ้าบ่าวขับรถโทรม ๆเขาเปิดประตูกระจกใสเข้ามา พนักงานในร้านถึงกับชะงัก ด้วยการแต่งตัวเสื้อยืด กางเกงยีนเก่า ๆ บูทคู่มอซอ ยิ่งผมยาวระต้นคอและหนวด ค้านกับการเป็นแขกผู้มาใช้บริการในสถานที่นี้เหลือเกิน“มาติดต่อเรื่องอะไรคะคุณพี่”หนุ่มหน้าสวยเต็มไปด้วยจริตนางหนึ่งใจกล้าปรี่มาถาม ตาคมเข้มแลกวาดไปทั่วร้าน สะดุดตากับสาวถักผมเปีย สวมชุดแซกแขนตุ๊กตาสีชมพูอ่อน เธอกำลังเปิดดูรูปในอัลบั้มทีละภาพ...ทีละภาพ“น้องสาวเธอล่ะ”เงาทะมึนที่ยืนค้ำศีรษะมัญชุพรถาม ดวงตากลมโตเงยขึ้นมองจนคอแทบตั้งบ่า“เธอไปไหน”หญิงสาวกลืนน้ำลายเอื๊อก ฝืนยิ้มให้“มุกกำลังทำงานอยู่ค
“แม่เธอหลอกยายฉัน”พงศพัศหรี่ตามองพี่ว่าที่เจ้าสาว“ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอกคุณ”“ยายฉันแก่แล้ว ไม่ทันเล่ห์แม่เธอหรอก”มีลมร้อนพัดมาวูบ ทำให้ชายกระโปรงชุดแซกยกขึ้นจนเห็นปลีน่องเรียวกลมกลึง ...มีเรื่องให้แปลกใจเยอะจริง ๆ พี่ว่าที่เจ้าสาวเขา“แม่ฉันไม่ใช่คนร้าย”ดวงตากลมโตวาววับเมื่อได้ยินชายหนุ่มพาดพิงถึงมารดา“เขาร้ายมาตั้งแต่ยังสาวนี่ ถึงมาจับเสี่ยจิวได้”ประวัติพิสมัยเป็นที่รู้กันทั่ว นางคือสาวนักขุดทองที่ได้มาเจอเป้าหมายกระเป๋าหนัก จากแม่ม่ายลูกติดผู้ยากจนกลายเป็นเมียเศรษฐีในพริบตา“คุณยายบัวแก้วก็ดูเป็นคนดี ทำไมถึงได้มีหลานปากร้าย ใจสกปรกอย่างคุณ ว่าคนอื่นเขาไปหมด”มัญชุพรหน้าแดง อาจเพราะอากาศปนอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูง“อย่าเอายายฉันมาเกี่ยวด้วย!”เขาก็มีจุดอ่อนเรื่องบุพการีเหมือนกัน“ตกลงจะขึ้นรถมากับฉันดี ๆ หรือจะให้ลากขึ้นมา อุตส่าห์ใจดีเห็นไม่มีรถกลับ เธอยังมีตีฝีปากใส่ฉันอีก”“คุณปากร้ายใส่ฉันก่อนนะ แล้วอีกอย่างฉันไม่ยอมนั่งรถไปกับคุณเด็ดขาด”มัญชุพรไม่รู้เลย ว่าคำพูดตนเป็นชนวนให้อะไรในตัวพงศพัศขาดผึ่ง ชายหนุ่มลงจากรถ เดินอาด ๆ มาหาสาวร่างบาง เธอกลัวจนใจไปตกที่ตาตุ่ม ขยับเท้าเ
พงศพัศและมัญชุพรกลับมาที่ไร่ดาวเรืองอีกครั้ง และนี่คือชีวิตแต่งงานที่แท้จริง เขาพาเธอไปร้านเว็ดดิ้งแพลนเนอร์ ลองชุด ถ่ายรูปพรีเว็ดดิ้ง“สวยหล่อสมกันมากเลยค่ะ”เจ้าของร้านกรี๊ดกร๊าด การได้เงินสองรอบจากคู่รักคู่เดิมเกิดขึ้นง่าย ๆ เสียที่ไหน ต้องชมไว้ก่อน เผื่อมีรอบสาม“เอารูปใหญ่ ๆ เลย จะเอาไปติดฝาบ้าน”“รูปติดผนังก็พอมั้งคุณกระทิง”มัญชุพรต้องปราม เขาร่าเริงมากต่างกับพงศพัศคนเดิมเป็นคนละคน“จะเอาติดตามที่ว่างตรงบันไดด้วย ลูกเกิดมาจะได้เห็นว่าแม่น่าเจี๊ยะขนาดไหน”การหยอกล้อ ดูจะเป็นเรื่องปรกติของเขาไปเสียแล้ว“พ่อก็หล่อ แม่ก็สวย ลูกเราต้องเกิดมาหน้าตาดีแน่”คนขี้เห่อลูบพุงที่เริ่มแข็งขึ้นมาแล้วบ้างของเธอ“เกิดลูกได้หน้าดุ ๆ ของคุณ กับผิวตองเหลืองอย่างฉันล่ะ”พงศพัศยักไหล่“ถือว่าหน้าตาดีนะ แบบเอ็กโซติคส์”มัญชุพรกลอกตา ตกลงแบบที่เขาว่ามามันตีความได้กว้างเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไร หากเป็นลูกเขาและเธอ มัญชุพรก็จะรักแกมาก ๆอีกกลุ่มที่เห่อหลานคือเหล่าผู้สูงวัย ต่างหายาจีนและสารพัดเคล็ดลับในการดูแลตัวเองช่วงตั้งครรภ์มาให้เธอ“โชคดีจริง ๆ ที่มุกอยู่ภูเก็ต”น้องสาวหัวเราะยามเฟซไทม์คุยกัน“ไม่มีใค
“รู้ได้ยังไง”“ก็พี่หมี่เศร้า...ร้องไห้ คนรักกันมันต้องไม่เป็นแบบนี้”กลายเป็นเรื่องถกเถียงกันระหว่างสามีภรรยาไปเสียแล้ว คนอีกจังหวัดได้แต่เฝ้าดู“นั่นเพราะพี่หมี่รักเขา คุณกระทิงก็รักพี่หมี่ ไม่งั้นคงไม่มาตากหน้าตามถึงบ้าน ให้โดนด่าฟรี ๆ หรอกใช่ไหมครับเตี่ย”เสี่ยจิวเม้มปากไม่คัดค้าน“ถ้าเขาไม่ได้เลวร้ายอะไร ยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง เราก็ควรปล่อยให้เขาได้ทำความเข้าใจกัน เด็กที่โตมาในครอบครัวที่ขาดพ่อหรือแม่ ต่อให้รวยขนาดไหนก็ไม่มีความสุขหรอกนะครับ”พรสรวงจับแขนเสื้อเขา เพราะนั่นเป็นชีวิตจริงของเจมส์ เขาขาดแม่ พ่อก็ใฝ่หาอำนาจ มีอีหนูเป็นพรวน เจมส์จึงไม่อยากเป็นอย่างนั้น อยากสร้างครอบครัว ธุรกิจเอง“แล้วถ้าเขาทำร้ายหมี่ล่ะ”จิรัฐฎ์ยังไม่ยอม“ผมจะให้คุยกันในที่เปิดโล่ง มีคนของผมดูอยู่ตลอด”เจมส์อาสาเป็นเจ้าภาพจัดการเจรจาครั้งนี้ เพราะเรื่องคาราคาซังของพี่ ก็ทำให้พรสรวงไม่สบายใจเช่นเดียวกัน เมื่อเห็นคนที่รักทุกข์ เขาพลอยไม่สบายใจไปด้วย“เตี่ยกับม๊าก็อยากเห็นพี่หมี่มีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ใช่ไหมครับ”เจมส์ส่งยิ้มอบอุ่น นี่แหละที่สาวเปรี้ยวอย่างเธอหลงเสน่ห์เขา หนุ่มเนิร์ดดธรรมดา ๆ หน้าตาเรี
มือนวลลออจับที่หน้าท้องแบนราบของตน ใบหน้าของคนที่ตั้งอกตั้งใจทำลูกลอยมาในห้วงกมล มัญชุพรจะมีลูกกับพงศพัศจริง ๆ นะหรือ เด็กที่เกิดจากความปรารถนาของบิดาว่าอยากมี แต่ปราศจากความรักเด็กที่หากพงศพัศรู้ เขาจะเอาลูกไปจากเธอ มัญชุพรกุมหน้าท้องอย่างหวงแหน เธอจะไม่ยอมให้ใครเอาลูกไปได้ตอนนี้มัญชุพรอยู่นอกเหนือเขตอาณัติของเขา เธอเป็นอิสระ เธอจะไม่ให้ลูกกับเขาหรอก จะคลอดที่นี่ ลูกดูให้เติบโตเป็นคนน่ารัก อ่อนโยน ไม่หน้าบึ้ง เคราเฟิ้ม เหมือนผู้เป็นพ่อแต่ก่อนอื่นต้องรู้ให้แน่ว่าท้องจริงหรือเปล่า คืนนี้เธอแอบสั่งที่ตรวจครรภ์จากแอปพลิเคชันมาหลายอัน ไม่กี่วันก็มาถึง แบบพรสรวงไม่รู้เพราะมัญชุพรบอกให้ผู้จัดการเก็บไว้ให้ก่อนเมื่อยามดึกมาถึงและเธออยู่ตัวคนเดียว เวลาห้านาทีที่จะเปลี่ยนชีวิตมัญชุพรก็เริ่มขึ้น เธอวางที่ตรวจไว้ในห้องน้ำ ตัวเองออกไปเดินเป็นหนูติดจั่นอยู่ในห้องนอนลมทะเลพัดมาโชยชื่น แต่ไม่อาจระบายความชื้นเหงื่อบนใบหน้าเธอได้ ใจมัญชุพรก็ร้อน จวนเจียนจะระเบิด ในห้องเงียบจนแทบได้ยินเสียงหัวใจตัวเองนาฬิกาที่มือถือตั้งไว้ดังขึ้น บอกว่าเวลาแห่งการรอคอยจบลงแล้ว และที่ตรวจครรภ์มีขีดแดงสองขีดMi_Mhi:
“คุณรักอาหมี่เหรอ”คำถามเสี่ยจิวดังก้องในหัว พงศพัศแค่อยากให้เธออยู่ด้วย เป็นแม่ของลูก กลับมาจากทำงานเหนื่อยก็อยากเห็นหน้าเธอ ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันหนุ่มจากของไร่ดาวเรืองนิ่งต่อหน้าชามก๋วยเตี๋ยว คิดถึงวันที่พาเธอไปกินอาหารด้วยกันครั้งแรก นึกถึงใบหน้าพึงพอใจ เสียงใส ๆ ท่าทางเธอที่ร่าเริงตอนกินไอศกรีม นึกถึงยามกอดกัน กลิ่นกายหอม ผมนุ่มลื่นเหมือนเส้นไหม ริมฝีปากเธอที่ครวญครางชื่อเขา ความแน่นที่ตอดรัด...นี่เขาเกิดอารมณ์ทางเพศในร้านก๋วยเตี๋ยวกลางตลาดอย่างนั้นหรือพงศพัศหยิบน้ำเย็นมาดื่ม หวังดับอะไรที่ตื่นให้สงบลง การันต์กับส้มจี๊ดคุยกันกะหนุงกะหนิง ลูกน้องแบ่งลูกชิ้นที่เป็นของโปรดให้ภรรยา ขณะอีกฝ่ายคีบถั่วงอกที่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ชอบให้สามีอิจฉาเขาเพิ่งรู้ซึ้งกับคำนี้ ชีวิตแต่งงานที่ราบเรียบธรรมดา ๆ แค่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวด้วยกันก็สุขเหลือล้น หากเขาอยู่กับมัญชุพรคงเป็นสุขนักยอมรับเสียเถิด ...เขาหลงรักเธอ เสียงในสมองชายหนุ่มสรุป ที่ทำไปทุกอย่าง ยอมไปเฝ้าหน้าบ้าน ยอมเจ็บตัว เขาทำเพราะรัก...คำเดียวเท่านั้นเขาไม่รู้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่มัญชุพรเข้ามาแทรกในชีวิต เธอทำให้เขาติดและโหยห
สวนทางกับพงศพัศที่ขับรถมาดักรอหน้าบ้านตั้งแต่เช้า ทำเอารถเจ้าบ้านออกไปไหนไม่ได้“ฉันอยากเจอหมี่”ชายหนุ่มเกาะซี่กรงลูกประตูรั้วแจ้งกับคนรับใช้ จิรัฐฎ์วางช้อนตักโจ้ก กะจะไปฉะฝีปากเสียหน่อย แต่เสี่ยจิวยกมือห้าม“อั้วจะไปคุยกับอาคุณกระทิงเอง”เมื่อเรื่องทั้งหมดคลี่คลาย เสี่ยใหญ่ก็กลับมาแจ่มใส มีแรงต่อสู้กับทุกอย่าง“มันหน้าด้านหน้าทนนะเตี่ย บอกอะไรก็ไม่ฟัง เดี๋ยวความดันจะขึ้น”นางพิสมัยพยักหน้าเห็นด้วย“อั้วจัดการได้น่า อั้วอาบน้ำร้อนมาก่อน”เสี่ยจิวอยากไปดูหน้าอดีตเขย ขอดูหน่อยเถิดว่ามาตามลูกสาวเพราะเหตุใด ดื้อดึง อยากเอาชนะ หรือมีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น“สวัสดีครับเตี่ย”คนนอกรั้วยกมือไหว้ สรรพนามเรียกเปลี่ยนไป เพราะเห็นว่าเป็นบิดาของมัญชุพร“ผมมาหาหมี่”เขาบอกความตั้งใจแบบไม่อ้อมค้อม ตาเล็กหยีสบตาคนหนุ่มนิ่ง“มาหาเรื่องอะไร เงินเราก็คืนคุณไปหมดแล้ว”เสี่ยจิวใช้น้ำเสียงราบเรียบ ผู้เป็นพ่อใจเย็นกว่าลูกชาย“ผมมีเรื่องจะคุยกับหมี่ เรื่องส่วนตัว”พงศพัศยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าจะพูดอะไรกับเธอ รู้เพียงอย่างเดียว...เขาอยากเจอ“คุณกับอาหมี่ไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว เรื่องวันหย่านัดมาเลย ทางฝั่งผมพร้อม”“ผ
“กูไม่ให้เจอ มึงออกไปจากบ้านกูเลย ไม่งั้นจะเรียกตำรวจ”เมื่อพูดกันดี ๆ สุภาพ ๆ อีกฝ่ายก็ไม่ฟัง จิรัฐฎ์จึงใช้ภาษาพ่อขุน“เรียกมาเลยสิ กูไม่กลัว หมี่...อยู่ไหน มาหาฉันหน่อย”มือใหญ่จับซี่ประตูเหล็ก ส่งเสียงตะโกนเข้าไปในบ้าน จิรัฐฎ์หน้าแดงจัด“พวกแกเฝ้ามันไว้!”แม้เขาจะดูด้อยกำลังกว่า แต่จิรัฐฎ์ก็มีวิธีจัดการเรื่องยุ่งในแบบของตน เขาโทรหาพรสรวง กระซิบบอกว่าพงศพัศมาตามมัญชุพร ให้หลอกล่อเธอให้อยู่แต่ในบ้าน อย่าอยู่ใกล้หน้าต่างเป็นอันขาด เพื่อไม่ให้เห็นพงศพัศจากนั้นก็โทรหานายตำรวจที่เป็นเพื่อนกัน ขอให้ช่วยมาจับพงศพัศไปโรงพัก“ผมมาตามเมีย”ผู้มาเยือนบอกตำรวจเสียงกร้าว“มันทำร้ายน้องสาวผม”จิรัฐฎ์กล่าวหา คะเนจากน้ำตาของมัญชุพรที่เห็น“ผมไม่เคยทำร้ายหมี่ เรียกเธอมาถามได้”ขนาดตำรวจมาถึงสามนายยังเกรง ๆ บรรยากาศมาคุรอบตัวพงศพัศ“มันกำลังจะบุกรุกบ้านผม มาโวยวายสร้างความเดือดร้อน”“กูแค่จะมาเอาเมียคืน”เขาเขย่าลูกกรงเป็นผลให้ประตูทั้งบานสั่น ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด“เห็นไหมคุณตำรวจ มันพยายามจะเข้ามาก่อความวุ่นวาย บ้านผมมีแต่คนแก่กับคนท้องอ่อน ๆ นะครับ”จิรัฐฎ์ผันตัวเป็นลูกอีช่างฟ้อง พร้อมส่งสายตาขอความ
“พี่หมี่”พรสรวงแทบถลาลงจากบ้านเมื่อเห็นมัญชุพรเปิดประตูรถออกมา“อย่าวิ่ง เดินระวัง ๆ หน่อย เธอกำลังท้องอยู่นะมุก”พี่ชายส่งเสียงเอ็ด แล้วไปเปิดหลังรถหยิบกระเป๋าให้คนรับใช้“มุกคิดถึงพี่หมี่มากเลย” น้องกอดเธอไว้แน่น“จ้ะ พี่ก็คิดถึงมุก”เธอยิ้มให้ ทั้ง ๆ ที่ขอบตายังช้ำจากการร้องไห้“นายกระทิงทรมานพี่เหรอ ไปแจ้งความกันไหม”พงศพัศในสายตาพรสรวงเป็นผู้ร้ายเต็มขั้น ทำให้เธอบอกคนรักอย่างไม่อายเลยว่าที่บ้านมีปัญหาเรื่องเงิน ขอไปไถ่ตัวพี่สาว เจมส์เป็นคนดีและรักพรสรวงมาก รีบโอนเงินให้จิรัฐฎ์ทันที แล้วเขาก็รีบไปพาตัวมัญชุพรมา“เตี่ย ไม่สบายเหรอ”“อือ”เสี่ยจิวไม่ร่าเริง หน้าหมองเศร้า บ่นว่าตนเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ไม่ได้เรื่อง ครั้งหนึ่งก็เหมือนขายลูกสาวแลกเงิน ครั้งที่สองก็เหมือนให้ลูกสาวไปสูบเงินจากฝ่ายชาย“พี่หมี่กลับมาอย่างนี้เตี่ยคงดีใจ สมาชิกในบ้านครบกันสักที”น้องจูงมือพี่ไปยังห้องนั่งเล่น มีเสี่ยจิวนั่งดูข่าวบนเก้าอี้ไม้โยก บิดาเลี้ยงน้ำตารื้นเมื่อลูกสาวคนโตกลับมา“ต่อแต่นี้อั้วจะปกป้องลื้อเองอาหมี่ จะไม่ให้ใครมารังแก ไม่ให้ใครดูถูกได้”นางพิสมัยหงอยลงไปมาก แต่ก็สวมกอดทันทีที่ลูกสาวก้มกร
มัญชุพรตื่นมาด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ด้วยคนตื่นก่อนปลุกเธอด้วยจุมพิตอุ่น “ขี้เซาจริงหมี่”พงศพัศหัวเราะเมื่อภรรยาทางพฤตินัย เบียดหน้าลงกับหมอน“คุณมีอะไรกับฉันเกือบถึงเช้า ขอฉันนอนบ้างเถอะ” เธอประท้วง “ตื่นมาส่งผัวหน่อยเร็ว”เขาสอดมือเข้าใต้หลัง ยกเธอพิงหัวเตียง คนยังง่วงอยู่ในสภาพคอพับคออ่อน“ไปละนะ ดูแลแม่ด้วย”มือสากตบเบา ๆ บนผ้าห่มบริเวณท้องเธอ “บ้าแล้วคุณ มีอะไรกันครั้งเดียวจะท้องเลยได้ยังไง”เธอปรือตาเถียง นางเอกในหนังละคร เวลาตื่นมาในเช้าแรกของการมีอะไรกัน พวกเจ้าหล่อนช่างมีผมยุ่งที่เซ็กซี่ผิดกับในความเป็นจริง ที่มัญชุพรตื่นมาด้วยสภาพผมยุ่ง ...เธอหมายถึงยุ่งจริง ๆ แบบปิดหน้าปิดตาไปหมด“ทำไปตั้งหลายครั้งต่างหาก ฉันจัดไปเต็มแม็กซ์ อยากกินมะม่วงหรือยัง เดี๋ยวเย็นนี้จะเอามาฝาก”คนแรงดีเสียงรื่นเริง“ไม่เอา ไปเลยนะ รีบไปทำงาน”สามีเสยผมเธอออก จุ๊บเหม่งแล้วถึงยอมไป มัญชุพรหลับต่อจนถึงแปดโมงจึงได้ลงมาข้างล่าง“คุณหมี่ ปวดหัวเป็นยังไงบ้างคะ”ส้มจี๊ดส่งสายตาล่อกแล่ก วันนี้เจ้านายใส่เสื้อมีฮู้ดปิดถึงคอ บังไม่ให้เห็นรอยแดงที่กระทิงดุ จอมกินจุทำไว้“ดีขึ้นแล้วจ้
“ถ้าสักวันหนึ่งคุณมีเมียใหม่ล่ะ”มัญชุพรหาเหตุผลมาค้านเท่าที่นึกออก“ไม่มีเป็นตัวเป็นตนหรอก ฉันชอบซื้อกิน”“น่ากลัว เกิดคุณเอาโรคมาติดลูก”เธอเอามือลูบแขนด้วยความขยะแขยง“จะสนไปทำไม ในเมื่อพอคลอดลูกแล้วเธอก็ต้องไป” เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ“ฉันให้ลูกกับคุณไม่ได้หรอก เพราะคุณน่ะขาดคุณสมบัติความเป็นพ่อ ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของลูก”“แต่ฉันต้องการลูก ได้ยินไหม แล้วหน้าที่เธอคือคลอดลูกให้กับฉัน แล้วสิบล้านไม่ต้องใช้คืน เจ๊ากันไป”ข้อเสนอดี ๆ แบบนี้ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงอ้าแขนรับ มีแต่มัญชุพรที่เกิดคุณธรรมสูงขึ้นมา แต่ไม่มีอะไรจะแข็งแกร่งเท่าอำนาจเงินหรอก“แค่นอนนิ่ง ๆ ก็จบแล้ว”“ฉันไม่ยอมมีเซ็กซ์กับคุณแน่ คนบ้ากาม”พงศพัศมองใบหน้าแดงซ่านนั้นแล้วหัวเราะ เธอคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วล่ะสิ“ฉันหมายถึงทำเด็กหลอดแก้วต่างหากล่ะ จืด ๆ อย่างเธอ แค่มานอนดิ้นเตียงฉันก็รำคาญแล้ว”“คุณกระทิงปากร้าย”“เธอนอนดิ้นนะหมี่ จำเอาไว้”“ไหนคุณสาบานว่าจะไม่แตะต้องฉัน”มัญชุพรส่งสายตาไม่ไว้ใจ เมื่อคืนเขาแอบลักเธอหรือเปล่า พงศพัศช่างไม่กลัวเทวดาฟ้าดินลงโทษเอาเสียเลย“แค่มอง นั่นไม่นับ อีกอย่างเธอก็เบียดฉันมาเอง” เขาหั