Share

Chapter 6 มื้อไม่ปรารถนา

“แม่เธอหลอกยายฉัน”

พงศพัศหรี่ตามองพี่ว่าที่เจ้าสาว

“ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอกคุณ”

“ยายฉันแก่แล้ว ไม่ทันเล่ห์แม่เธอหรอก”

มีลมร้อนพัดมาวูบ ทำให้ชายกระโปรงชุดแซกยกขึ้นจนเห็นปลีน่องเรียวกลมกลึง ...มีเรื่องให้แปลกใจเยอะจริง ๆ พี่ว่าที่เจ้าสาวเขา

“แม่ฉันไม่ใช่คนร้าย”

ดวงตากลมโตวาววับเมื่อได้ยินชายหนุ่มพาดพิงถึงมารดา

“เขาร้ายมาตั้งแต่ยังสาวนี่ ถึงมาจับเสี่ยจิวได้”

ประวัติพิสมัยเป็นที่รู้กันทั่ว นางคือสาวนักขุดทองที่ได้มาเจอเป้าหมายกระเป๋าหนัก จากแม่ม่ายลูกติดผู้ยากจนกลายเป็นเมียเศรษฐีในพริบตา

“คุณยายบัวแก้วก็ดูเป็นคนดี ทำไมถึงได้มีหลานปากร้าย ใจสกปรกอย่างคุณ ว่าคนอื่นเขาไปหมด”

มัญชุพรหน้าแดง อาจเพราะอากาศปนอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูง

“อย่าเอายายฉันมาเกี่ยวด้วย!”

เขาก็มีจุดอ่อนเรื่องบุพการีเหมือนกัน

“ตกลงจะขึ้นรถมากับฉันดี ๆ หรือจะให้ลากขึ้นมา อุตส่าห์ใจดีเห็นไม่มีรถกลับ เธอยังมีตีฝีปากใส่ฉันอีก”

“คุณปากร้ายใส่ฉันก่อนนะ แล้วอีกอย่างฉันไม่ยอมนั่งรถไปกับคุณเด็ดขาด”

มัญชุพรไม่รู้เลย ว่าคำพูดตนเป็นชนวนให้อะไรในตัวพงศพัศขาดผึ่ง ชายหนุ่มลงจากรถ เดินอาด ๆ มาหาสาวร่างบาง เธอกลัวจนใจไปตกที่ตาตุ่ม ขยับเท้าเตรียมซอยหนี แต่มือสากแข็งก็มาจับแขนไว้ก่อน

“ปล่อย ไม่งั้นฉันจะเรียกให้คนช่วย ...ใครก็ได้ช่วยทีค่ะ ผู้ชายคนนี้จะทำร้ายฉัน”

เธอฝืนดึงมือกลับ ปากก็ร้อง รปภ.ป้อมยามรีบวิ่งมาดู ทว่าก็คอย่นเมื่อเจอสายตาพิฆาตของคนขับรถกระบะ

“ฉันช่วยเธอเพราะไม่อยากให้ยืนรอแท็กซี่กลางแดดเฉาตายหรอกนะ กลัวเป็นภาพติดตา”

พงศพัศออกแรงกระตุกนิดเดียว ร่างหญิงสาวก็ลอยมากระทบหน้าอกแกร่ง ได้กลิ่นแดดปนอะไรบางอย่างที่หวาน ๆ ตาโตเงยมองสบเขา ริมฝีปากเธอชมพูจาง ๆ ไม่รู้สีจริงหรือลิปสติก ยิ่งอยู่ใกล้ก็เห็นใบหน้าเนียน พวงแก้มแดงระเรื่อ

“ขึ้นรถ!”

เขายกตัวเธอจับยัดใส่รถ ปิดประตู ส่วนตัวเองเดินอ้อมไปอีกทาง ขึ้นประจำหน้าที่คนขับ

“อย่าทุบประตูมาก ตัวล็อกยิ่งไม่ดีอยู่ มันเคยหลุดออกมาแล้ว”

เป็นผลให้มือที่กำลังทั้งผลักทั้งทุบถึงกับชะงัก พงศพัศหัวเราะหึในลำคอ อารมณ์ค่อยรื่นรมย์ขึ้นมาบ้าง

“นั่งนิ่ง ๆ ฉันจะพาไปส่งบ้าน”

“ถ้าไม่เต็มใจ ปล่อยฉันลงไว้ที่เซเว่นแถวนี้ก็ได้” มัญชุพรเม้มปาก ทำคอแข็ง รวบรวมสติให้มั่นคงขึ้น

“ฉันบอกแล้วว่าจะไปส่งก็ต้องไปส่งสิ”

แค่พูดเฉย ๆ ยังเหมือนดุ คะแนนในใจของเธอที่มีต่อเขายิ่งติดลบเข้าไปใหญ่ นึกสงสารพรสรวงที่มีเจ้าบ่าวเป็นเขา น้องต้องกลับมาบ้านภายในครึ่งชั่วโมงเป็นแน่ ขนาดเธอที่ว่าใจเย็น อยู่กับเขาชั่วโมงกว่ายังปรี๊ดแตก แล้วพรสรวงจะเหลือหรือ

รถคันเก่าแล่นมาสักพักก็เลี้ยวเข้าซอยติดถนนใหญ่

“จะพาฉันไปไหน”

มัญชุพรมองอย่างไม่ไว้ใจ เพราะในซอยนั้นมีแต่บ้านเรือนที่ปิดเงียบ

“กินข้าว เธอไม่หิวหรือยังไง”

เวลานี้ก็บ่ายแล้ว เธอที่ทำงานนั่งโต๊ะตลอดยังไม่หิว แต่คนใช้แรงงานนั้นหิวมาก ยิ่งต้องขับรถเข้ามาเมืองมาให้ทันเวลานั้นยิ่งแล้วใหญ่ เขาจึงต้องการจัดหนักจัดเต็มใส่ท้อง

ร้านที่พงศพัศพามาหยุดเป็นเพิงเล็ก ๆ ติดคลอง ป้ายเขียนว่าอาหารตามสั่ง มีหม้อก๋วยเตี๋ยวร้อนส่งควันฉุย

เขาเดินลงไปก่อน ส่วนเธอแลกวาดไปทั่วบริเวณ เห็นวินมอเตอร์ไซด์เสื้อสีส้มนั่งกินข้าวสองสามคน

“ฉันเลี้ยงเอง แต่ไม่มีหมูเห็ดเป็ดไก่อาหารขึ้นเหลาหรอกนะ”

เจ้าของรถมายืนอยู่ประตูฝั่งเธอ

“ฉันไม่หิว”

“งั้นลงมานั่งเป็นเพื่อนฉันหน่อยก็ได้”

“คุณกินข้าวคนเดียวไม่ได้หรือไง”

เป็นครั้งที่สองที่มัญชุพรโดนเขาลาก

“เฮีย...เอาเกาเหลาเนื้อสด ข้าวกะเพรานรกแตกเผ็ดพิเศษไข่ดาวไม่สุก มีต้มยำพวงไข่ไหม เอาด้วยนะ แล้วก็ปลาอะไรทอดกับผัดผักมาสักอย่าง”

พงศพัศสั่งแบบไม่ดูเมนู แสดงว่าคุ้นเคยกับที่นี่ เขาจับเธอนั่งลงบนเก้าอี้พลาสติกสีแดง โต๊ะปูผ้าใบเป็นรูปโฆษณาน้ำอัดลม ส่วนเจ้าตัวโน่น...ไปตักน้ำแข็งใส่ถังพร้อมถือแก้วเปล่ามาให้เธอ

“บริการตัวเองนะ”

แต่ชายหนุ่มก็คีบน้ำแข็งใส่แก้วให้ เธอมองหาน้ำดื่มบรรจุขวด เขากลับเทน้ำจากเหยือกสีเขียวใส่แก้วแทน

“ที่นี่มีแต่น้ำฝนเย็นชื่นใจ ไม่มีน้ำขวดหรอก”

เจ้าตัวพิสูจน์โดยยกดื่มอึกใหญ่ เธอกล้า ๆ กลัว ๆ ยกจิบตาม น้ำมีความหวานอย่างที่ไม่เคยได้ลิ้มรสมานานแล้ว ทำให้นึกถึงน้ำในตุ่ม นึกถึงยามยังลำบากอยู่กับแม่ ร้านอย่างนี้มัญชุพรเคยมากินข้าวเมื่อตอนเป็นเด็ก ไม่ได้รังเกียจบรรยากาศ แต่ไม่ชอบคนพามา

เกาเหลาเนื้อสดมาวางบนโต๊ะเป็นอย่างแรก กลิ่นหอมกระตุ้นให้เธอต้องแอบกลืนน้ำลาย

พงศพัศปรุงพริกตามใจชอบ ไม่เกรงใจคนร่วมโต๊ะเลย เธอฉุนในอารมณ์ ก่อนจะฉุนจริงจากผัดกะเพราจนต้องจามออกมา หลังจากนั้นจานต้นเหตุก็มาวางเป็นจานที่สอง

มัญชุพรทำหน้าแขยงเมื่อเห็นพริกท่วมจานมิดใบกะเพรา จานต่อมาเป็นปลาอินทรีทอด สุดท้ายคือกะหล่ำปลีผัดน้ำปลา หอมเสียจนท้องร้อง

“นั่นไง เธอหิวแล้ว กินเถอะ ฉันเลี้ยง”

หญิงสาวมองเขาอย่างสองจิตสองใจ หิวก็หิว ขณะเดียวกันก็ไม่อยากเสียศักดิ์ศรี พงศพัศเคี้ยวข้าวยั่ว

“หรือเธอกินของธรรมดาบ้าน ๆ พวกนี้ไม่เป็น”

เขาแกล้งใช้มือพัดกลิ่นเกาเหลาเข้าหาตัว แต่เธอกลับได้กลิ่นด้วย ไม่ไหวแล้ว!

มัญชุพรหยิบช้อนตักผัดกะหล่ำปลีเป็นอย่างแรก ผักรสหวานและกรอบ กลิ่นเค็มของน้ำปลาที่โดนความร้อนชวนให้ยิ่งเจริญอาหาร เธอตักกับข้าวเข้าปากไปถึงสองรอบ อีกจานที่พอกินได้คือปลาทอด บีบมะนาวนิด กินกับหอมแดงหั่น อร่อยจนข้าวหมดไปครึ่งจาน

พงศพัศมองภาพมัญชุพรกินข้าวอร่อยอย่างพึงพอใจ

เลี้ยงง่าย เขาคิด

พอหมดฤทธิ์แล้วเธอก็ดูน่ารักดี เรียบ ๆ แต่มีเรื่องให้ได้แปลกใจ

เหมือนกับร้านที่พามาวันนี้ เป็นเพิงเหมือนจะโทรม กลับมีลูกค้าเข้าตลอด เพราะพ่อครัวเคยเป็นกุ๊กในภัตตาคารมาก่อน พออายุมากขึ้นจึงมาเปิดร้านเล็ก ๆ พอมีรายได้เลี้ยงครอบครัว

มัญชุพรเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขามาพา เขาไม่ได้ติดใจเธอขนาดพามากินร้านที่ชอบ แค่วันนี้หิวมากเท่านั้นเอง มื้อนี้จบลงที่ไอติมถั่วดำคนละแท่ง พงศพัศเห็นเธอตาโตกับมัน มุมริมฝีปากประดับรอยยิ้ม

ทำไมยายบัวแก้วถึงไม่ได้ให้เขาเลือกเจ้าสาวเองหนอ ถ้าเห็นทั้งสองสาวตั้งแต่แรก เขาจะเลือกมัญชุพร เธอดูควบคุมง่ายกว่าน้องสาวแสนเปรี้ยว ผู้หญิงอย่างนี้เขาหว่านเสน่ห์เพื่อเอาอีกยี่สิบล้านของตนคืนมาได้ไม่ยาก

“พาฉันไปส่งที่บ้านได้หรือยัง”

เธอแปลกใจที่คนดุอยู่ ๆ ก็มองหน้าเธอนิ่ง ไอศกรีมถั่วดำละลายลงมือเขาแล้ว

“เธอน่ะอิ่มแล้วใช่ไหม จะได้ไปกันเลย”

เขาทิ้งไอศกรีมที่ละลายแล้วลงจานอาหาร หยิบทิชชูมาเช็ดมือ

“ค่ะ”

เห็นแก่ที่เขาเลี้ยง พามาร้านอร่อย มัญชุพรยอมมารยาทดีด้วยก็ได้ รถกระบะคันเก่าจึงได้แล่นอีกครั้ง มีจุดมุ่งหมายที่บ้านเสี่ยจิว

เมื่อเข้ามาในบ้านมัญชุพรต้องทำตัวลีบ ๆ แอบย่องขึ้นบันได

“อะแฮ่ม! ทำอะไรน่ะ”

จิรัฎฐ์แกล้งส่งเสียงจนเธอสะดุ้ง

“โธ่เฮีย ตกใจหมด”

หญิงสาวเอามือทาบอกฝั่งซ้ายของร่างกาย

“มุกไปลองชุดแต่งงานมาเป็นยังไงบ้าง”

ทุกคนในบ้านรู้ว่าวันนี้เธอไปไหนมา แต่ที่ไม่รู้คือไร้เงาว่าที่เจ้าสาวไปลองชุด

“ตีกับนายกระทิงเยอะไหม”

พี่ชายคุ้นกับพงศพัศดี เพราะเป็นลูกค้าประจำ และเดาจากนิสัยน้องเล็กสุดของบ้านว่าไม่ยอมแต่งแต่โดยดีแน่

“ก็พอสมควรค่ะ”

มัญชุพรปด ตั้งใจจะชำระความกับพรสรวงทีหลัง

“น้าไหมไม่น่ารีบไปเอาเงินฝั่งนั้นมาเร็วเลย”

เขาไม่เห็นด้วยกับเรื่องเงินยี่สิบล้านตั้งแต่แรก ทว่านางพิสมัยก็หว่านล้อมด้วยเหตุผล

“ไม่อยากเห็นเฮียจิวเหนื่อยหาดอกเบี้ยส่งธนาคาร”

เงินจำนวนนี้เกินดอกเบี้ยธนาคารไปมากโข จ่ายรวมได้ถึงเงินต้น แถมขยายร้านได้อีก พี่น้องสองสาวรู้เพียงค่าสินสอดยี่สิบล้าน ไม่รู้เชิงลึกว่านางพิสมัยกับยายบัวแก้วตกลงกันว่าจะโอนคืนให้พงศพัศสิบล้านเพื่อเป็นเหยื่อล่อให้เขายอมแต่งงาน ส่วนอีกสิบล้านจะเข้าบ้านเสี่ยจิว

“แต่งงานกันแล้ว เงินของผัวก็เหมือนเงินของเมีย ยังไงเราก็ได้ยี่สิบล้านอยู่ดี”

แผนนี้รู้กันเพียง เขา นางพิสมัย เสี่ยจิว

“ทำอย่างนี้ เกิดนายกระทิงฆ่ายัยมุกหมกป่าเพื่อเอาเงินล่ะน้า”

จิรัฎฐ์ถามด้วยความสงสัย ผู้เป็นพ่อบ่นว่าเขาปากไม่เป็นมงคล ส่วนแม่เลี้ยงจิกตามอง

“เชื่อมือยัยมุกเถอะ จะต้องทำให้นายกระทิงรักหลงแน่ ๆ คนอยู่ป่าอยู่ไร่ ไม่เคยเจอสาวขาว ๆ อวบ ๆ มาเอาใจ ขี้คร้านจะให้เงินเพิ่ม”

ลูกชายคนโตเสี่ยจิวนึกภาพพรสรวงเอาใจใครไม่ออกจริง ๆ เธอต่างหากล่ะที่เป็นฝ่ายถูกเอาใจ

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status