ดวงตาของจวินอู่ขยับเล็กน้อย “ขอรับ ข้าน้อยรับคำสั่ง”ครึ่งชั่วยามต่อมาเสิ่นหรูโจวเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสีแดงสดขับผิวขาวของนาง ชุดสีแดงยังทำให้ใบหน้าใสซื่อของนางดูเย้ายวนยิ่งขึ้น นางสวมผ้าคลุมหน้าแล้วเดินตรงออกจากจวนอ๋องท้ายที่สุดแล้วเสิ่นหรูโจวอาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายปี ย่อมรู้จักจวนอ๋องดี เดินหลบหลีกหูตาทุกคนและเข้าไปในร้านขายยานาม “อวิ๋นเซิง” ทางตะวันตกของเมืองเถ้าแก่กำลังคำนวณสมุดบัญชี เงยหน้าขึ้นมองนางปราดเดียว และคิดจะไปทักทายนางอย่างอบอุ่น ทว่าเห็นเสิ่นหรูโจววางกล่องยาไว้บนโต๊ะจนเกิดเสียง “กึก” พลันเสียงชัดเจนดังมาจากใต้ผ้าคลุมหน้า“เถ้าแก่ ข้ามีการค้า ท่านอยากจะเจรจาหรือไม่”ครั้นเถ้าแก่เห็นว่านางมาที่นี่เพื่อทำการค้า ความกระตือรือร้นก็ลดลงทันใด “คุณหนู ท่านอยากเจรจาการค้าใดเล่า”“ช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา ได้ยินว่าผู้คนจำนวนไม่น้อยเป็นภูมิแพ้ น่าจะมีคนมาซื้อยาเยอะเลยสินะ”เสิ่นหรูโจวแย้มยิ้มเล็กน้อย เปิดกล่องหยิบขวดกระเบื้องสีเขียวขนาดเล็กออกมาหนึ่งขวด“ข้ามียาทาที่มีกลิ่นเฉพาะตัว มีฤทธิ์เหมาะสำหรับโรคภูมิแพ้ จึงต้องการเจรจาความร่วมมือกับท่าน”กล่องยาอันล้ำค่าของนางหยิบจั
เสิ่นหรูโจวเข้าไปในหออวี้เหอ ห่อขนมแป้งกรอบและไก่ย่างดอกกุ้ยอวี่สองส่วนทว่าของในมือยังไม่ได้ส่งต่อก็ได้ยินเสียงที่ทั้งคุ้นหูทั้งน่ารำคาญดังขึ้นมา...“จิ๊จิ๊ บังเอิญจังเลยนะ ท่านกับข้าพบกันทุกที่เลย”เสิ่นหรูโจวกวาดมองคนที่เดินเข้ามาในปราดเดียว ครั้นเห็นหลิงเฟิงเดินประคองมู่หว่านหรงเข้ามา ดวงตาพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา ส่งเสียงจิ๊ด้วยความเดียดฉันท์“สามารถกระโดดโลดเต้นได้เร็วเช่นนี้ ดูแล้วข้าคงลงมือเบาเกินไป”สีหน้าของมู่หว่านหรงแข็งค้าง แท้จริงแล้วหัวใจของนางยังคงเจ็บอยู่ เพียงแต่บรรเทาลงบ้างแล้วแต่หลิงเฟิงบอกว่าท่านอ๋องสั่งสอนเสิ่นหรูโจวอย่างฉุนเฉียว อีกทั้งยังได้ยินว่าเสิ่นหรูโจวลอบออกจวน นางจึงยิ่งรู้สึกว่าเสิ่นหรูโจวคงถูกท่านอ๋องตำหนิเป็นแน่ เช่นนั้นถึงได้ออกจวนมาผ่อนคลายอารมณ์!ก่อนนี้เสิ่นหรูโจวมักจะแอบเศร้าโศกอยู่ตลอดหลังจากถูกท่านอ๋องตำหนิ นางย่อมไม่สามารถพลาดโอกาสได้ทีขี่แพะไล่เช่นนี้ ดังนั้นจึงตามมามู่หว่านหรงบิดผ้าเช็ดหน้าด้วยท่าทีอวดดีพลางส่งเสียงหัวเราะ ท่าทางแสนเย่อหยิ่ง“เสิ่นหรูโจว เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว หรือท่านยังจะกล้าเอาเข็มมาแทงข้าอีก เป็นไปได้หรือไม่ว่าท
“แม่นางท่านนี้กล่าวหาผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐานเช่นนี้ได้อย่างไรกัน คุณหนูท่านนี้มีเงินอยู่แล้ว! เกือบเข้าใจผิดคนดี ๆ แล้วไหมล่ะ!”“นั่นสิ รูปร่างหน้าตาสู้เขาไม่ได้ คิดไม่ถึงเลยว่าจิตใจก็ยังเลวเช่นนี้อีก!”มู่หว่านหรงถูกด่าจนหน้าเขียวหน้าซีดเป็นพัก ๆ แต่นัยน์ตากลับแสดงไว้ด้วยอาการงุนงงอย่างชัดเจน นางคว้ามือของเสิ่นหรูโจวพร้อมซักถามด้วยความโกรธ “เสิ่นหรูโจว เจ้ามีเงินมากมายเช่นนี้ได้อย่างไร! พ่อของเจ้าไม่ได้ให้สินเดิมกับเจ้าด้วยซ้ำ พูด เจ้าไปขโมยเงินเหล่านี้มาจากที่ใด! จากในจวนใช่หรือไม่!!”ขโมย!เสิ่นหรูโจวหยิบของตัวเองคืนจากมือเถ้าแก่ร้านอย่างไม่เร่งรีบ จากนั้นถึงหันไปหามู่หว่านหรงนางสะบัดมือของมู่หว่านหรงออกแล้วฟาดลงที่หน้าของมู่หว่านหรงอย่างแรงสองทีเสียง “เพียะ เพียะ” ดังสนั่นชัดเจน!รอยฝ่ามือเดิมบนหน้าของมู่หว่านหรงเพิ่งหายไป แล้วก็เกิดรอยใหม่ขึ้นอีกครั้ง แก้มทั้งสองข้างเจ็บแสบไปหมด“เจ็บนะ!”หลิงเฟิงชะงักตาค้างทันที นางพยุงมู่หว่านหรงและกล่าว “พระชายารอง!”เสิ่นหรูโจวดึงมือกลับพร้อมกวาดมองพวกนางด้วยสายตาเย็นเยือกดั่งผู้อยู่เหนือกว่าท่านพ่อกับท่านพี่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
เสิ่นหรูโจวไม่เอาชีวิต แต่นางเอา!มู่หว่านหรงเรียกเถ้าแก่ร้านอีกครั้ง “ท่านยังไม่รีบห้ามนางอีก ถ้าคนคนนี้ถูกนางรักษาจนตายขึ้นมา ร้านของท่านยังเปิดได้อีกหรือไม่!”เถ้าแก่ร้านฟังแล้ววิ่งไปหยิบไม้ปัดฝุ่นด้านข้างและขับไล่เสิ่นหรูโจวออกไปทันที“เจ้าไม่รู้วิชาแพทย์แล้วจะหาเรื่องอีกทำไม หากเกิดคนตายขึ้นมา นายท่านขุนนางจะปรับเงินข้านะ!”เสิ่นหรูโจวไม่สบอารมณ์ต่อความไม่เอาถ่านของเถ้าแก่ร้าน: “หากท่านยังห้ามข้าอีก ถึงจะมีคนตายเกิดขึ้นจริง ๆ!”เพิ่งพูดเสร็จ คนหนุ่มตรงพื้นกระตุกรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ลมหายใจก็ถี่ขึ้นกว่าเดิมราวกับจะหยุดหายใจวินาทีถัดไปทันที!เสิ่นหรูโจวไม่มีเวลาต่อล้อต่อเถียงกับคนเหล่านี้อีก เข็มหลายด้ามถูกหยิบออกจากชุดแดงสดของนางและอยู่บนนิ้วที่สวยงามของนาง“หลีกไปให้หมด ข้ารู้วิชาแพทย์ หากเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ ข้าจะรับผิดชอบเอง!”สีหน้าของทุกคนเปลี่ยน เมื่อเห็นนางเผยความสามารถของตนเองและถูกนางบังคับจนถอยออกไปหนึ่งก้าวเสิ่นหรูโจววิ่งเข้าไปทันที สีหน้าของคนหนุ่มเริ่มกลายเป็นสีม่วง เขามีเหงื่อออกทั่วร่างกายและหายใจเสียงหวีดไม่ขาดสายไม่ได้การล่ะ คนหนุ่มใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว!นางค
ถึงตอนนั้น ทั้งเมืองหลวงยังต้องหวั่นกลัว“ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว” คนหนุ่มส่ายหัวและไม่มีการหายใจถี่กับกระตุกอีก ลมหายใจกลับคืนปกติช้า ๆ จากนั้นมองหน้าเสิ่นหรูโจว “โชคดีที่พี่สาวท่านนี้ช่วยข้าไว้ทัน”ทุกคนรอบตัวไม่มีใครเชื่อ แม้แต่มู่หว่านหรงก็ยังตะลึงตาค้างอย่าบอกนะว่า เสิ่นหรูโจวรู้วิชาแพทย์จริง ๆ ! ที่นางทำลงไปเมื่อครู่นี้ นางกำลังช่วยคนจริง ๆ!ฉินอวี่มองเสิ่นหรูโจด้วยความรู้สึกผิดและรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจ เขายกมือขึ้นประสานและกล่าวอย่างเคารพ: “ข้าขอขอบใจแม่นางมากที่ช่วยนายน้อยของข้า เมื่อครู่นี้ข้าเสียมารยาทกับท่าน ได้โปรดแม่หญิงให้อภัยข้าด้วย”เสิ่นหรูโจวไม่โกรธเขา ญาติของผู้ป่วยเกิดอาการใจร้อน กังวลใจย่อมเป็นเรื่องสมเหตุผล เมื่อนึกย้อนไปชาติที่แล้วที่นางอดทนอดกลั้นนานนับหลายปี ทุกครั้งที่อาการของนางกำเริบ เมี่ยวตงก็ใจร้อนจนสามารถดึงหนวดหมอหลวงได้จนเกลี้ยงนางกำลังจะตอบกลับ แต่มู่หว่านหรงกลับพูดแทรกขึ้นมา“นางเพียงโชคดีก็เท่านั้นที่ช่วยนายน้อยของท่านไว้ได้โดยบังเอิญ ท่านไม่ต้องเก็บใส่ใจ”มู่หว่านหรงไม่ชอบท่าของคนอื่นที่แสดงความนอบน้อมต่อเสิ่นหรูโจว ที่สำคัญ นางจะไม่ยอมให้เสิ่นหร
หลิงเฟิงรู้สึกกลัวเล็กน้อย “พระชายารอง…”คนอื่นกำลังดูละครและไม่กล้าส่งเสียงใดเสิ่นหรูโจวยิ้มเยาะ นางรู้สึกชอบใจมากกับท่าทีถูกบีบบังคับของมู่หว่านหรงไม่ใช่ว่ามู่หว่านหรงไม่เคยกล่าวขอโทษมาก่อน แต่สำหรับเสิ่นหรูโจว ที่สำคัญยังเป็นการกล่าวขอโทษต่อหน้าธารกำนัลและยังเป็นครั้งแรกอีก อัปยศอดสูยิ่งนัก!แต่คุณชายน้อย นางไม่สามารถขัดใจได้มู่หว่านหรงมองเสิ่นหรูโจว “ท่านพี่ เมื่อครู่นี้หว่านหรงล่วงเกินท่าน ได้โปรดอย่าเก็บใส่ใจเลยนะเจ้าคะ”“หว่านหรงเพียงแค่รู้สึกว่าตอนท่านพี่อยู่ในจวนแม่ทัพ ท่านไม่เคยร่ำเรียนวิชาแพทย์ฉีหวงมาก่อน กลัวว่าท่านพี่จะพลั้งมือทำร้ายคุณชายน้อย ข้าเลยอดห่วงไม่ได้”จวนแม่ทัพ! ท่านพี่!สีหน้าของฉินอวี่เปลี่ยนไปทันที เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหรือว่า ผู้มีพระคุณของนายน้อยคือพระชายาอู่เฉิง…เสิ่นหรูโจว!แต่เสิ่นหรูโจวเป็นคนไร้ประโยชน์มิใช่หรือ!คนหนุ่มลู่หวายหนิงกลับไม่สนใจ เขายิ้มมองเสิ่นหรูโจว“ท่านพี่ พอใจหรือไม่ขอรับ”เสิ่นหรูโจวรู้สึกดีขึ้นมากเมื่อเห็นท่าทางหงุดหงิดของมู่หว่านหรงที่ไม่สามารถแสดงความโกรธได้ จากนั้นจึงมองลู่หวายหนิง“ทำดีมาก ข้าขอขอบใจ”คนห
เสิ่นหรูโจวได้สติกลับมาอีกครั้งหลังจากได้ยินเสียงนายบ่าวคู่นั้น นางฟังแล้วยิ้มชาติที่แล้ว นางไม่เคยเห็นลู่หวายหนิง คิดไม่ถึงเลยว่านิสัยของเขาจะสดใสและเป็นมิตรเช่นนี้เมื่อคิดอย่างถี่ถ้วนดูแล้ว ปีนี้ลู่หวายหนิงเพิ่งจะสิบเอ็ด แม้ว่าเป็นชายหนุ่มอัจฉริยะ แต่เด็กก็คือเด็ก เก็บอุปนิสัยไว้ไม่อยู่เพียงแต่ว่า เวลานี้นางยังไม่ได้หย่ากับเซียวเฉินเหยี่ยน หากไป นางไม่รู้ว่าเหมาะสมหรือไม่ นิสัยของท่านอุปราชไม่ดีเท่าไหร่นัก นางไม่อยากมีเรื่องแค้นใจกับเขา“คืนสิบห้าเป็นเวลาที่เหมาะแก่การชมจันทร์จริง ๆ เพียง…”นางยังพูดไม่จบก็ถูกมู่หว่านหรงพูดขัดทันใด“พระชายา! ท่านช่วยชีวินคนไว้ได้เพราะโชคช่วยและบังเอิญก็เท่านั้น ไม่ควรลำพองตนนะเจ้าคะ!”“ถ้อยแสดงความขอบคุณกับการเชิญชวนของคุณชายน้อยก็ไม่จำเป็น อย่างไรเสียคำพูดไม่เพียงพอที่จะแสดงความขอบคุณ หากท่านอ๋องทราบเรื่องก็คงไม่เห็นด้วยเช่นกัน พระชายารีบกลับจวนเถอะเจ้าค่ะ อย่าให้ท่านอ๋องเรียกหาท่านเลย”นางฟังคนเหล่านี้พูดคุยสนุกสนานแล้วเกิดรู้สึกอิจฉา นางจะไม่ยอมให้เสิ่นหรูโจ มีปฏิสัมพันธ์กับจวนผู้สำเร็จราชการอย่างแน่นอน หากมี ก็ควรเป็นนางถึงจะถูกต้อง!
ยามที่เขาเพิ่งรู้ว่านางคือเสิ่นหรูโจวก็รู้สึกไม่ดี นอกจากเสิ่นหรูโจวจะสร้างปัญหาอย่างไร้เหตุผล อีกทั้งเกาะติดอ๋องอู่เฉิงแล้ว ยังมีความสามารถอื่นใดอีกหรือทว่าสุดท้ายแล้วนายน้อยก็ได้รับการช่วยเหลือจากนาง จึงไม่ได้พูดอะไรมาก เวลานี้ดูแล้วจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญดังที่พระชายารองพูด!นายน้อยถูกนางทำร้ายเข้าแล้วจริง ๆ !เมื่อผู้คนออกไปแล้ว เถ้าแก่สะบัดมือพลางสบถด่าไปหนึ่งคำเสิ่นหรูโจวสูญเสียความยับยั้งชั่งใจ ไม่สนใจว่าผู้อื่นจะทอดทิ้งนางไว้กลับเร่งติดตามไปรวดเร็วทว่ารถม้าได้เคลื่อนตัวออกไปแล้ว ซ้ำตอนนี้ไม่มีเวลาไปตลาดตะวันออกเพื่อซื้อม้าด้วย เสิ่นหรูโจวจึงวิ่งตามไปด้วยตัวเองหากศิษย์รักของผู้สำเร็จราชการแทนตายในน้ำมือของนาง เพียงแค่อาศัยวิธีการที่เหี้ยมโหดของผู้สำเร็จราชการแทน จุดจบของนางคงจะไม่ได้ดีไปกว่าชาติก่อนอย่างแน่นอน!อีกทั้งนางยังมีชะตาต้องกันกับเด็กหนุ่ม สถานการณ์ของเขาเองก็เป็นเรื่องเร่งด่วน หมอทั่วไปเกรงว่าจะรับมือไม่ไหว ในฐานะหมอ นางไม่สามารถนั่งมองเฉยได้!…จวนอ๋องอู่เฉิงจวินอู่วิ่งกลับไปก่อนที่รถม้าของลู่หวายหนิงจะเข้าจวน บอกทุกอย่างกับเซียวเฉินเหยี่ยนว่าเกิดอะไร