Share

บทที่ 9

Penulis: มู่มู่
ดวงตาของจวินอู่ขยับเล็กน้อย “ขอรับ ข้าน้อยรับคำสั่ง”

ครึ่งชั่วยามต่อมา

เสิ่นหรูโจวเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสีแดงสดขับผิวขาวของนาง ชุดสีแดงยังทำให้ใบหน้าใสซื่อของนางดูเย้ายวนยิ่งขึ้น นางสวมผ้าคลุมหน้าแล้วเดินตรงออกจากจวนอ๋อง

ท้ายที่สุดแล้วเสิ่นหรูโจวอาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายปี ย่อมรู้จักจวนอ๋องดี เดินหลบหลีกหูตาทุกคนและเข้าไปในร้านขายยานาม “อวิ๋นเซิง” ทางตะวันตกของเมือง

เถ้าแก่กำลังคำนวณสมุดบัญชี เงยหน้าขึ้นมองนางปราดเดียว และคิดจะไปทักทายนางอย่างอบอุ่น ทว่าเห็นเสิ่นหรูโจววางกล่องยาไว้บนโต๊ะจนเกิดเสียง “กึก” พลันเสียงชัดเจนดังมาจากใต้ผ้าคลุมหน้า

“เถ้าแก่ ข้ามีการค้า ท่านอยากจะเจรจาหรือไม่”

ครั้นเถ้าแก่เห็นว่านางมาที่นี่เพื่อทำการค้า ความกระตือรือร้นก็ลดลงทันใด “คุณหนู ท่านอยากเจรจาการค้าใดเล่า”

“ช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา ได้ยินว่าผู้คนจำนวนไม่น้อยเป็นภูมิแพ้ น่าจะมีคนมาซื้อยาเยอะเลยสินะ”

เสิ่นหรูโจวแย้มยิ้มเล็กน้อย เปิดกล่องหยิบขวดกระเบื้องสีเขียวขนาดเล็กออกมาหนึ่งขวด

“ข้ามียาทาที่มีกลิ่นเฉพาะตัว มีฤทธิ์เหมาะสำหรับโรคภูมิแพ้ จึงต้องการเจรจาความร่วมมือกับท่าน”

กล่องยาอันล้ำค่าของนางหยิบจับได้ไม่มีวันหมด ไม่มีค่าใช้จ่าย อีกทั้งนางสามารถปรุงยาได้หลากหลายชนิด

วันนี้มาร่วมมือกับร้านขายยาเสียก่อนจะเปิดร้านเล็ก ๆ เมื่อทำกำไรได้ในภายหลัง กิจการของนางก็ย่อมเปิดขายได้ ถึงเวลานั้นจะไม่ต้องกังวลเรื่องไม่มีเงิน

นางจำเป็นต้องหย่าขาดกับเซียวเฉินเหยี่ยนโดยเร็วที่สุด แน่นอนว่าก็ยังต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินด้วย

เถ้าแก่เกิดความเคลือบแคลงในคำพูดของนาง ระยะนี้คนมาซื้อยารักษาโรคภูมิแพ้ไม่น้อย ทว่าอาการแพ้แตกต่างกันไปในแต่ละคน ครั้นหมอหลายคนทำได้เพียงบรรเทาอาการเท่านั้น ถึงยาจะดีทว่าโดยพื้นฐานแล้วไม่สามารถรักษาอาการได้

ยาทาที่หญิงสาวหยิบออกมาตามใจชอบ เขาย่อมไม่สามารถเชื่อถือได้

แน่นอนว่าเสิ่นหรูโจวรู้ดีว่ามันยากที่จะเป็นไปได้ ลำพังแค่เอ่ยออกมาไม่ได้ทำให้การเจรจาสำเร็จ เช่นนั้นจึงขอร้านให้เวลานางหนึ่งชั่วยาม

ด้านหน้าผู้คนมากมายมาหาซื้อยาภูมิแพ้อย่างต่อเนื่อง เสิ่นหรูโจวหยุดพวกเขาไว้ และให้พวกเขาลองใช้ยาทาของตน

คาดไม่ถึงว่าอาการของผู้ป่วยหลายคนบรรเทาลงในทันที ผลการรักษารวดเร็วกระทั่งเถ้าแก่ที่เปิดร้านขายยามาหลายปีเพียงนี้ยังต้องประหลาดใจ

“เจรจาได้! เจรจาได้!” ราวกับเถ้าแก่เห็นสมบัติล้ำค่าบางอย่าง ยกขวดกระเบื้องเล็กไม่ยอมปล่อย “การค้านี้เจรจาได้!”

เสิ่นหรูโจวยกมุมริมฝีปากเล็กน้อย เจรจาเงื่อนไขกับเถ้าแก่อย่างมั่นใจ

“ข้าจะจัดหายาทาให้กับท่าน ท่านเพียงต้องรับผิดชอบในการขายมันแทนข้าเท่านั้น กำไรจะแบ่งเป็นสองส่วนและแปดส่วน ข้าแปด ท่านสอง หากข้าปรุงยาอื่นในอนาคตก็จะร่วมมือกับท่านเพียงคนเดียว เป็นเช่นไร”

แม้ว่าเถ้าแก่จะรู้สึกว่าตนเสียเปรียบกับสองส่วนและแปดส่วนอยู่นิดหน่อย แต่เมื่อคิดว่ายาทามหัศจรรย์เช่นนี้ เกรงว่าจะมีเพียงร้านของเขาเท่านั้นที่สามารถมีได้ในอนาคต เงินที่จะหาได้ไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย

“ไม่มีปัญหา!” เถ้าแก่ตอบรับทันที “แต่ข้าหวังว่าคุณหนูจะให้สัญญาได้ ว่ายาทานี้จะมอบให้กับร้านของข้าเพียงร้านเดียว”

“ตกลง!”

นางเลือกร้านขายยาอวิ๋นเซิงเพราะเป็นร้านขายยาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง แต่เดิมนางก็ไม่เคยคิดที่จะมอบให้ร้านใดอยู่แล้ว เมื่อสิ่งของกลายเป็นธรรมดาสามัญไปก็ไร้ค่า

หลังเจรจาการค้าเสร็จสิ้น เสิ่นหรูโจวก็เขียนใบสั่งยาและซื้อยาปรับสภาพร่างกายให้ตัวเอง

ประการแรกกลัวว่าจะมีคนจับนางออกจากจวน ถุงยานี้ช่วยทำให้เอาตัวรอดไปได้

ประการที่สองสุขภาพของนางไม่ดี จำเป็นต้องปรับมัน ไม่ว่าชาติก่อนหรือชาตินี้ เพื่อตามเกี้ยวเซียวเฉินเหยี่ยนแล้ว นางล้วนทนทุกข์ไม่น้อย

ชาติก่อนนางไม่ทะนุถนอมตน ทำให้ต้องทนทรมานด้วยโรคภัยไข้เจ็บ บัดนี้นางมีชีวิตใหม่แล้ว นางจะต้องทำดีกับตัวเอง

ยิ่งไปกว่านั้นการดูแลร่างกายให้แข็งแรงเท่านั้นที่จะมีพละกำลังเพียงพอในการเอาคืนคนที่ทำร้ายนางในชาติก่อน!

เสิ่นหรูโจวเผลอบีบถุงยาในมือแน่น ดวงตาที่ซ่อนอยู่หลังผ้าคลุมหน้านั้นดุดันและชัดแจ้ง

ครั้นออกมาจากร้านขายยา เสิ่นหรูโจวยืนอยู่บนถนนทางตะวันตกของเมืองที่คุ้นเคย มองผู้คนเข้ามาออกไป การสัญจรพลุกพล่าน ความงุนงงตีตื้นขึ้นมาเล็กน้อย

ถนนสายนี้นางเคยเดินผ่านมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ยามนางยังเด็ก พี่ชายชอบพานางมาที่นี่ ซื้อขนมแป้งกรอบและไก่ย่างดอกกุ้ยอวี่ของหออวี้เหอ ทั้งครอบครัวชอบทานกันมาก

น่าเสียดาย หลังนางแต่งงานกับเซียวเฉินเหยี่ยนก็ไม่ได้ติดต่อกับท่านพ่อและพี่ชายอีกเลย

กระทั่งพวกเขาเสียชีวิต นางยังไม่เคยได้กลับบ้าน อีกทั้งไม่รู้ว่ายามที่ท่านพ่อและพี่ชายจากไป ได้ให้อภัยในความอกตัญญูของนางหรือไม่...

ขอบตาของเสิ่นหรูโจวร้อนผ่าว นางหายใจเข้าพลางหันหลังกลับเข้าไปในหออวี้เหอ

ความกตัญญูที่สายเกินไปในชาติก่อน ชาตินี้นางจะต้องชดเชยให้ดี!

จวินอู่ตามติดเสิ่นหรูโจวตลอด คอยมองจากมุมถนนขณะที่เสิ่นหรูโจวเข้าไปในร้านขายยาและออกมาหลังจากนั้นไม่นาน

ครั้นเห็นนางเข้าไปในประตูหออวี้เหอจึงหันหลังกลับเดินเข้าไปในร้านขายยาอวิ๋นเซิง

เขาวางเงินก้อนหนึ่งไว้บนโต๊ะพลางเอ่ยถาม: “เถ้าแก่ หญิงที่สวมผ้าคลุมหน้าเมื่อครู่มาซื้อยาชนิดใดกัน”

เถ้าแก่มองเขาขึ้นลง พบว่าเขาแต่งตัวตัวดี เสื้อผ้าทำจากวัสดุชั้นดี ไม่น่าจะเป็นคนทราม

เขาลอบคิดให้ถี่ถ้วนมากขึ้นแล้วตอบ: “อ้อ นางซื้อสมุนไพรสองสามตัวจำพวกโสม หวงฉิน ขู่เซิน เหล่านี้เป็นยาสามัญในการปรับสภาพร่างกาย สตรีน่ะ ย่อมมีอาการร่างกายเย็นเป็นปกติ”

“ปรับสภาพร่างกายเย็น” จวินอู่หรี่ตาลงเล็กน้อย เหลือบมองไปในทิศทางของหออวี้เหอ

อิสตรีในโลกหล้าจำเป็นต้องปรับสภาพร่างกายเย็น ส่วนใหญ่ล้วนเกิดขึ้นหลังแต่งงานใหม่ ๆ เพื่อจะได้ตั้งครรภ์ง่ายขึ้น

ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะเหยียดหยาม

ไม่ต้องสงสัยเลย เสิ่นหรูโจวเรียกร้องการหย่าร้างอย่างแข็งข้อในตอนเช้า ซ้ำยังลงนามในหนังสือสัญญาหนึ่งล้านตำลึงทองอย่างเลือดเย็น ทั้งหมดนี้เป็นเพียงวิธีการปล่อยเพื่อจับของนางเท่านั้นเอง

เมื่อครู่นางยังโต้เถียงกับท่านอ๋องอยู่ พอคล้อยหลังก็แอบย่องออกจวน วิ่งโร่มาซื้อยาปรับสภาพร่างกาย มิใช่เพื่อตั้งท้องลูกของท่านอ๋องดีเสียกว่า แล้วก็จะทำไปเพื่ออะไร

เมื่อนางมีซื่อจือน้อย แม้ว่าท่านอ๋องเต็มใจหย่า แต่ไท่ซั่งหวงก็จะไม่มีวันเห็นพ้อง ดังนั้นหนังสือที่นางลงนามไว้ก่อนหน้านี้ย่อมไม่นับรวม

หึ มีกลอุบายมากมาย ช่างร้ายกาจ!
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 10

    เสิ่นหรูโจวเข้าไปในหออวี้เหอ ห่อขนมแป้งกรอบและไก่ย่างดอกกุ้ยอวี่สองส่วนทว่าของในมือยังไม่ได้ส่งต่อก็ได้ยินเสียงที่ทั้งคุ้นหูทั้งน่ารำคาญดังขึ้นมา...“จิ๊จิ๊ บังเอิญจังเลยนะ ท่านกับข้าพบกันทุกที่เลย”เสิ่นหรูโจวกวาดมองคนที่เดินเข้ามาในปราดเดียว ครั้นเห็นหลิงเฟิงเดินประคองมู่หว่านหรงเข้ามา ดวงตาพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา ส่งเสียงจิ๊ด้วยความเดียดฉันท์“สามารถกระโดดโลดเต้นได้เร็วเช่นนี้ ดูแล้วข้าคงลงมือเบาเกินไป”สีหน้าของมู่หว่านหรงแข็งค้าง แท้จริงแล้วหัวใจของนางยังคงเจ็บอยู่ เพียงแต่บรรเทาลงบ้างแล้วแต่หลิงเฟิงบอกว่าท่านอ๋องสั่งสอนเสิ่นหรูโจวอย่างฉุนเฉียว อีกทั้งยังได้ยินว่าเสิ่นหรูโจวลอบออกจวน นางจึงยิ่งรู้สึกว่าเสิ่นหรูโจวคงถูกท่านอ๋องตำหนิเป็นแน่ เช่นนั้นถึงได้ออกจวนมาผ่อนคลายอารมณ์!ก่อนนี้เสิ่นหรูโจวมักจะแอบเศร้าโศกอยู่ตลอดหลังจากถูกท่านอ๋องตำหนิ นางย่อมไม่สามารถพลาดโอกาสได้ทีขี่แพะไล่เช่นนี้ ดังนั้นจึงตามมามู่หว่านหรงบิดผ้าเช็ดหน้าด้วยท่าทีอวดดีพลางส่งเสียงหัวเราะ ท่าทางแสนเย่อหยิ่ง“เสิ่นหรูโจว เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว หรือท่านยังจะกล้าเอาเข็มมาแทงข้าอีก เป็นไปได้หรือไม่ว่าท

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 11

    “แม่นางท่านนี้กล่าวหาผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐานเช่นนี้ได้อย่างไรกัน คุณหนูท่านนี้มีเงินอยู่แล้ว! เกือบเข้าใจผิดคนดี ๆ แล้วไหมล่ะ!”“นั่นสิ รูปร่างหน้าตาสู้เขาไม่ได้ คิดไม่ถึงเลยว่าจิตใจก็ยังเลวเช่นนี้อีก!”มู่หว่านหรงถูกด่าจนหน้าเขียวหน้าซีดเป็นพัก ๆ แต่นัยน์ตากลับแสดงไว้ด้วยอาการงุนงงอย่างชัดเจน นางคว้ามือของเสิ่นหรูโจวพร้อมซักถามด้วยความโกรธ “เสิ่นหรูโจว เจ้ามีเงินมากมายเช่นนี้ได้อย่างไร! พ่อของเจ้าไม่ได้ให้สินเดิมกับเจ้าด้วยซ้ำ พูด เจ้าไปขโมยเงินเหล่านี้มาจากที่ใด! จากในจวนใช่หรือไม่!!”ขโมย!เสิ่นหรูโจวหยิบของตัวเองคืนจากมือเถ้าแก่ร้านอย่างไม่เร่งรีบ จากนั้นถึงหันไปหามู่หว่านหรงนางสะบัดมือของมู่หว่านหรงออกแล้วฟาดลงที่หน้าของมู่หว่านหรงอย่างแรงสองทีเสียง “เพียะ เพียะ” ดังสนั่นชัดเจน!รอยฝ่ามือเดิมบนหน้าของมู่หว่านหรงเพิ่งหายไป แล้วก็เกิดรอยใหม่ขึ้นอีกครั้ง แก้มทั้งสองข้างเจ็บแสบไปหมด“เจ็บนะ!”หลิงเฟิงชะงักตาค้างทันที นางพยุงมู่หว่านหรงและกล่าว “พระชายารอง!”เสิ่นหรูโจวดึงมือกลับพร้อมกวาดมองพวกนางด้วยสายตาเย็นเยือกดั่งผู้อยู่เหนือกว่าท่านพ่อกับท่านพี่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 12

    เสิ่นหรูโจวไม่เอาชีวิต แต่นางเอา!มู่หว่านหรงเรียกเถ้าแก่ร้านอีกครั้ง “ท่านยังไม่รีบห้ามนางอีก ถ้าคนคนนี้ถูกนางรักษาจนตายขึ้นมา ร้านของท่านยังเปิดได้อีกหรือไม่!”เถ้าแก่ร้านฟังแล้ววิ่งไปหยิบไม้ปัดฝุ่นด้านข้างและขับไล่เสิ่นหรูโจวออกไปทันที“เจ้าไม่รู้วิชาแพทย์แล้วจะหาเรื่องอีกทำไม หากเกิดคนตายขึ้นมา นายท่านขุนนางจะปรับเงินข้านะ!”เสิ่นหรูโจวไม่สบอารมณ์ต่อความไม่เอาถ่านของเถ้าแก่ร้าน: “หากท่านยังห้ามข้าอีก ถึงจะมีคนตายเกิดขึ้นจริง ๆ!”เพิ่งพูดเสร็จ คนหนุ่มตรงพื้นกระตุกรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ลมหายใจก็ถี่ขึ้นกว่าเดิมราวกับจะหยุดหายใจวินาทีถัดไปทันที!เสิ่นหรูโจวไม่มีเวลาต่อล้อต่อเถียงกับคนเหล่านี้อีก เข็มหลายด้ามถูกหยิบออกจากชุดแดงสดของนางและอยู่บนนิ้วที่สวยงามของนาง“หลีกไปให้หมด ข้ารู้วิชาแพทย์ หากเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ ข้าจะรับผิดชอบเอง!”สีหน้าของทุกคนเปลี่ยน เมื่อเห็นนางเผยความสามารถของตนเองและถูกนางบังคับจนถอยออกไปหนึ่งก้าวเสิ่นหรูโจววิ่งเข้าไปทันที สีหน้าของคนหนุ่มเริ่มกลายเป็นสีม่วง เขามีเหงื่อออกทั่วร่างกายและหายใจเสียงหวีดไม่ขาดสายไม่ได้การล่ะ คนหนุ่มใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว!นางค

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 13

    ถึงตอนนั้น ทั้งเมืองหลวงยังต้องหวั่นกลัว“ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว” คนหนุ่มส่ายหัวและไม่มีการหายใจถี่กับกระตุกอีก ลมหายใจกลับคืนปกติช้า ๆ จากนั้นมองหน้าเสิ่นหรูโจว “โชคดีที่พี่สาวท่านนี้ช่วยข้าไว้ทัน”ทุกคนรอบตัวไม่มีใครเชื่อ แม้แต่มู่หว่านหรงก็ยังตะลึงตาค้างอย่าบอกนะว่า เสิ่นหรูโจวรู้วิชาแพทย์จริง ๆ ! ที่นางทำลงไปเมื่อครู่นี้ นางกำลังช่วยคนจริง ๆ!ฉินอวี่มองเสิ่นหรูโจด้วยความรู้สึกผิดและรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจ เขายกมือขึ้นประสานและกล่าวอย่างเคารพ: “ข้าขอขอบใจแม่นางมากที่ช่วยนายน้อยของข้า เมื่อครู่นี้ข้าเสียมารยาทกับท่าน ได้โปรดแม่หญิงให้อภัยข้าด้วย”เสิ่นหรูโจวไม่โกรธเขา ญาติของผู้ป่วยเกิดอาการใจร้อน กังวลใจย่อมเป็นเรื่องสมเหตุผล เมื่อนึกย้อนไปชาติที่แล้วที่นางอดทนอดกลั้นนานนับหลายปี ทุกครั้งที่อาการของนางกำเริบ เมี่ยวตงก็ใจร้อนจนสามารถดึงหนวดหมอหลวงได้จนเกลี้ยงนางกำลังจะตอบกลับ แต่มู่หว่านหรงกลับพูดแทรกขึ้นมา“นางเพียงโชคดีก็เท่านั้นที่ช่วยนายน้อยของท่านไว้ได้โดยบังเอิญ ท่านไม่ต้องเก็บใส่ใจ”มู่หว่านหรงไม่ชอบท่าของคนอื่นที่แสดงความนอบน้อมต่อเสิ่นหรูโจว ที่สำคัญ นางจะไม่ยอมให้เสิ่นหร

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 14

    หลิงเฟิงรู้สึกกลัวเล็กน้อย “พระชายารอง…”คนอื่นกำลังดูละครและไม่กล้าส่งเสียงใดเสิ่นหรูโจวยิ้มเยาะ นางรู้สึกชอบใจมากกับท่าทีถูกบีบบังคับของมู่หว่านหรงไม่ใช่ว่ามู่หว่านหรงไม่เคยกล่าวขอโทษมาก่อน แต่สำหรับเสิ่นหรูโจว ที่สำคัญยังเป็นการกล่าวขอโทษต่อหน้าธารกำนัลและยังเป็นครั้งแรกอีก อัปยศอดสูยิ่งนัก!แต่คุณชายน้อย นางไม่สามารถขัดใจได้มู่หว่านหรงมองเสิ่นหรูโจว “ท่านพี่ เมื่อครู่นี้หว่านหรงล่วงเกินท่าน ได้โปรดอย่าเก็บใส่ใจเลยนะเจ้าคะ”“หว่านหรงเพียงแค่รู้สึกว่าตอนท่านพี่อยู่ในจวนแม่ทัพ ท่านไม่เคยร่ำเรียนวิชาแพทย์ฉีหวงมาก่อน กลัวว่าท่านพี่จะพลั้งมือทำร้ายคุณชายน้อย ข้าเลยอดห่วงไม่ได้”จวนแม่ทัพ! ท่านพี่!สีหน้าของฉินอวี่เปลี่ยนไปทันที เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหรือว่า ผู้มีพระคุณของนายน้อยคือพระชายาอู่เฉิง…เสิ่นหรูโจว!แต่เสิ่นหรูโจวเป็นคนไร้ประโยชน์มิใช่หรือ!คนหนุ่มลู่หวายหนิงกลับไม่สนใจ เขายิ้มมองเสิ่นหรูโจว“ท่านพี่ พอใจหรือไม่ขอรับ”เสิ่นหรูโจวรู้สึกดีขึ้นมากเมื่อเห็นท่าทางหงุดหงิดของมู่หว่านหรงที่ไม่สามารถแสดงความโกรธได้ จากนั้นจึงมองลู่หวายหนิง“ทำดีมาก ข้าขอขอบใจ”คนห

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 15

    เสิ่นหรูโจวได้สติกลับมาอีกครั้งหลังจากได้ยินเสียงนายบ่าวคู่นั้น นางฟังแล้วยิ้มชาติที่แล้ว นางไม่เคยเห็นลู่หวายหนิง คิดไม่ถึงเลยว่านิสัยของเขาจะสดใสและเป็นมิตรเช่นนี้เมื่อคิดอย่างถี่ถ้วนดูแล้ว ปีนี้ลู่หวายหนิงเพิ่งจะสิบเอ็ด แม้ว่าเป็นชายหนุ่มอัจฉริยะ แต่เด็กก็คือเด็ก เก็บอุปนิสัยไว้ไม่อยู่เพียงแต่ว่า เวลานี้นางยังไม่ได้หย่ากับเซียวเฉินเหยี่ยน หากไป นางไม่รู้ว่าเหมาะสมหรือไม่ นิสัยของท่านอุปราชไม่ดีเท่าไหร่นัก นางไม่อยากมีเรื่องแค้นใจกับเขา“คืนสิบห้าเป็นเวลาที่เหมาะแก่การชมจันทร์จริง ๆ เพียง…”นางยังพูดไม่จบก็ถูกมู่หว่านหรงพูดขัดทันใด“พระชายา! ท่านช่วยชีวินคนไว้ได้เพราะโชคช่วยและบังเอิญก็เท่านั้น ไม่ควรลำพองตนนะเจ้าคะ!”“ถ้อยแสดงความขอบคุณกับการเชิญชวนของคุณชายน้อยก็ไม่จำเป็น อย่างไรเสียคำพูดไม่เพียงพอที่จะแสดงความขอบคุณ หากท่านอ๋องทราบเรื่องก็คงไม่เห็นด้วยเช่นกัน พระชายารีบกลับจวนเถอะเจ้าค่ะ อย่าให้ท่านอ๋องเรียกหาท่านเลย”นางฟังคนเหล่านี้พูดคุยสนุกสนานแล้วเกิดรู้สึกอิจฉา นางจะไม่ยอมให้เสิ่นหรูโจ มีปฏิสัมพันธ์กับจวนผู้สำเร็จราชการอย่างแน่นอน หากมี ก็ควรเป็นนางถึงจะถูกต้อง!

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 16

    ยามที่เขาเพิ่งรู้ว่านางคือเสิ่นหรูโจวก็รู้สึกไม่ดี นอกจากเสิ่นหรูโจวจะสร้างปัญหาอย่างไร้เหตุผล อีกทั้งเกาะติดอ๋องอู่เฉิงแล้ว ยังมีความสามารถอื่นใดอีกหรือทว่าสุดท้ายแล้วนายน้อยก็ได้รับการช่วยเหลือจากนาง จึงไม่ได้พูดอะไรมาก เวลานี้ดูแล้วจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญดังที่พระชายารองพูด!นายน้อยถูกนางทำร้ายเข้าแล้วจริง ๆ !เมื่อผู้คนออกไปแล้ว เถ้าแก่สะบัดมือพลางสบถด่าไปหนึ่งคำเสิ่นหรูโจวสูญเสียความยับยั้งชั่งใจ ไม่สนใจว่าผู้อื่นจะทอดทิ้งนางไว้กลับเร่งติดตามไปรวดเร็วทว่ารถม้าได้เคลื่อนตัวออกไปแล้ว ซ้ำตอนนี้ไม่มีเวลาไปตลาดตะวันออกเพื่อซื้อม้าด้วย เสิ่นหรูโจวจึงวิ่งตามไปด้วยตัวเองหากศิษย์รักของผู้สำเร็จราชการแทนตายในน้ำมือของนาง เพียงแค่อาศัยวิธีการที่เหี้ยมโหดของผู้สำเร็จราชการแทน จุดจบของนางคงจะไม่ได้ดีไปกว่าชาติก่อนอย่างแน่นอน!อีกทั้งนางยังมีชะตาต้องกันกับเด็กหนุ่ม สถานการณ์ของเขาเองก็เป็นเรื่องเร่งด่วน หมอทั่วไปเกรงว่าจะรับมือไม่ไหว ในฐานะหมอ นางไม่สามารถนั่งมองเฉยได้!…จวนอ๋องอู่เฉิงจวินอู่วิ่งกลับไปก่อนที่รถม้าของลู่หวายหนิงจะเข้าจวน บอกทุกอย่างกับเซียวเฉินเหยี่ยนว่าเกิดอะไร

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 17

    เซียวเฉินเหยี่ยนหรี่ตาลงพลางกล่าวกับฉินอวี่“เจ้าวางใจได้ ด้วยคนของข้าเป็นคนก่อเรื่องวุ่นวาย ข้าต้องรับผิดชอบจนถึงที่สุดอย่างแน่นอน!”“เข้าจวนไปหาหมอก่อนเถิด นายน้อยของเจ้ามาก่อนทุกสิ่ง”ฉินอวี่ยกมือคารวะเซียวเฉินเหยี่ยน หันหลังกลับและติดตามนายน้อยของตนที่เข้าไปในจวนเพื่อรับการรักษามู่หว่านหรงเห็นสถานการณ์นี้ นางยังคงดูเศร้าโศก ทว่าดวงตาดูโล่งใจมากเมื่อมองเหตุการณ์นี้ ดูเหมือนจะดีกว่าที่นางคาดไว้เสียอีก นางเพียงอยากให้ท่านอ๋องหย่าเสิ่นหรูโจวแต่ถ้าลู่หวายหนิงไม่ฟื้นขึ้นมา เสิ่นหรูโจว เกรงว่าจะตายด้วยน้ำมือของผู้สำเร็จราชการแทนกระมังเห็นมู่หว่านหรงยังคงยืนอยู่ข้าง ๆ เซียวเฉินเหยี่ยนมุ่นคิ้วพลางเอ่ย “หว่านหรง กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”เดิมทีมู่หว่านหรงยังอยากดูละครอีก ท้ายที่สุดแล้วเสิ่นหรูโจวก็ยังไม่กลับมา กระนั้นนางรู้สึกได้อย่างกระจ่างแจ้งว่ารัศมีความกดดันทั่วทั้งร่างกายของเซียวเฉินเหยี่ยนสูงมาก ไม่ทำให้เขาหงุดหงิดจะดีกว่า“เจ้าค่ะ ท่านอ๋อง”มู่หว่านหรงเพิ่งจากไป เสิ่นหรูโจวก็รีบร้อนมาถึงนางวิ่งมาตลอดทาง กระโปรงสีแดงเปรอะเปื้อนรอยโคลนสกปรก หน้าผากผุดเหงื่อเต็มพื้นที่นางห

Bab terbaru

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 270

    เสิ่นหรูโจวกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “เช่นนั้นก็ไม่ผิดแล้ว ในเวลานี้ ความสามารถในการทำงานของตับของพระองค์ได้รับความเสียหายอย่างมากแล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซียวจิ่นซีก็คล้ายจะเจ็บยิ่งกว่าเดิมแล้ว เจ็บจนยืดเอวไม่ขึ้นมองเซียวจิ่นซีที่มีสีหน้าเจ็บปวด เซียวเฉินเหยี่ยนก็ขมวดคิ้ว “เช่นนั้นมีวิธีการรักษาหรือไม่?”เสิ่นหรูโจวมิได้รีบกล่าว นางหยิบขวดยาเล็กๆ ขวดหนึ่งออกมาจากถุงผ้า เทยาลงบนในกลางฝ่ามือเม็ดหนึ่งยื่นไปที่เบื้องหน้าเซียวจิ่นซี “ทรงเสวยสิ่งนี้ลงไปก่อน” เซียวจิ่นซีฝืนยืดเอวขึ้น มองเสิ่นหรูโจวด้วยสีหน้าหวาดระแวง “นี่คือสิ่งใด?”“สายพระเนตรขององค์หญิงทรงไม่ดีหรือเพคะ นี่คือยาอย่างไรเล่าเพคะ”เซียวจิ่นซีไม่เชื่อว่าเสิ่นหรูโจวจะปรารถนาดีเช่นนี้ ลังเลอยู่นานไม่ยอมรับไปเสิ่นหรูโจวจึงชักมือกลับมา กล่าวอย่างไม่อนาทรร้อนใจว่า “ไม่เสวยก็ช่างเถอะ ปล่อยให้ทรงปวดตายก็แล้วกัน” เซียวจิ่นซีกัดฟัน คว้าแย่งมาจากนั้นยัดเข้าปากไปเสิ่นหรูโจวโค้งริมฝีปาก หัวเราะอย่างเย้ยหยันทีหนึ่ง จากนั้นจึงพูดวิธีการรักษาออกมา “ตับของพระองค์ยามนี้เสียหายแล้ว หากทรงต้องการมีชีวิตรอด ก็จะต้องตัดตับของพระองค์ออก

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 269

    เซียวจิ่นซีคิดจะบันดาลโทสะอีกครั้ง ทว่าเซียวเฉินเหยี่ยนขมวดคิ้วมองนาง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เสด็จพี่ แทนที่จะทรงตรัสสิ่งใดด้วยโทสะเพื่อความสะใจเพียงชั่วครู่ มิสู้ทรงให้เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้พระองค์อย่างว่าง่ายดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ การรักษาพระวรกายให้หายดีสำคัญที่สุดนะพ่ะย่ะค่ะ"เต๋อเฟยก็เกลี้ยกล่อมเช่นกัน “นั่นสิ จิ่นซี อย่าได้เสียเวลาอีกเลย รีบให้หรูโจวตรวจให้เจ้าเถอะ” สุดท้ายแล้ว เซียวจิ่นซีก็ต้องการรักษาชีวิตตน ไม่ว่าจะเคียดแค้นเสิ่นหรูโจวอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะมาก่อเรื่อง นางจึงแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่ง แล้วก็ไม่กล่าวสิ่งใดอีกเซียวเฉินเหยี่ยนมองไปยังเสิ่นหรูโจว พูดเสียงเบาว่า “นี่เป็นพระบัญชาของเสด็จพ่อ เจ้าก็อย่าได้เอาแต่ใจ” เดิมเสิ่นหรูโจวก็ไม่คิดจะจากไปจริงๆ เพียงแค่ขู่เซียวจิ่นซีไปอย่างนั้น บัญชาของฮ่องเต้ไม่อาจฝืน นอกจากนี้ นางก็จำเป็นจะต้องสร้างโอกาสให้ตนได้หย่าเช่นกันนางเดินกลับไปอย่างเรื่อยเฉื่อย นั่งลงข้างกายเซียวจิ่นซี “รบกวนองค์หญิงทรงยื่นพระหัตถ์ออกมาด้วยเพคะ” สีหน้าของเซียวจิ่นซีไม่น่ามอง ทว่ายังคงทำตามครั้งก่อนที่เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้เซียวจิ

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 268

    เมื่อเสิ่นหรูโจวได้ยินคำพูดประโยคสุดท้าย สีหน้าก็ผ่อนคลายลงไม่น้อยดูไปแล้ว จนถึงตอนนี้ยังคงถือได้ว่าราบรื่น ด่านเคราะห์ของท่านพ่ออยู่ที่การศึกครั้งสุดท้าย ไม่รู้ว่าเวลานี้ยาของนางส่งไปถึงหรือยัง หากดูตามเวลาก็น่าจะทันการอยู่ขอเพียงท่านพ่อใช้ยาของนาง ก็จะไม่ทิ้งโรคเรื้อรังไว้ในภายหลังแล้วนับแต่ได้ถือกำเนิดใหม่กลับมา นางยังมิได้พบท่านพ่อเลย นางจะต้องทำให้ท่านพ่อกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้เซียวเฉินเหยี่ยนเห็นว่าเมื่อนางได้ฟังข่าวของบิดาและพี่ชาย อารมณ์ก็คล้ายจะสงบลงไม่น้อย จึงลองกล่าวว่า “ในอนาคต เจ้ายังคงแก้นิสัยของเจ้าหน่อยเถิด” เสิ่นหรูโจวเงยหน้ามองเขา “นิสัยของข้าเป็นอย่างไร?”“ทุกครั้งที่เจ้าพบกับองค์หญิงเจาหยาง ล้วนมีเรื่องกันจนตึงเครียด” เซียวเฉินเหยี่ยนพยายามพูดอย่างละมุนละม่อม หวังว่านางจะรับฟัง “ถึงอย่างไรนางก็เป็นเสด็จพี่หญิงของข้า เมื่ออยู่ต่อหน้านาง เจ้าก็แสดงท่าทีที่ดีสักหน่อย อย่าใช้อารมณ์ไปเสียทุกเรื่อง” เสิ่นหรูโจวหัวเราะอย่างเยาะหยันทีหนึ่ง กล่าวอย่างดูแคลนว่า “ท่านอย่าได้มาบงการข้า” บนใบหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนมีความไม่พอใจวาบผ่าน "หากเจ้ามีสิ่งใดไม่พอใจ อยาก

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 267

    เริ่มจากชายแดนส่งข่าวด่วนมา บิดาและพี่ชายของเสิ่นหรูโจวจึงนำทัพไปช่วยที่ชายแดน ภาพเหตุการณ์เปลี่ยนไป กลายเป็นฉากที่รายงานการรบถูกส่งมา ท่านแม่ทัพเสิ่นถูกธนูของศัตรูยิงทะลุมือ เนื่องจากขาดแคลนยาและสิ่งของทำให้ไม่มียารักษา ทว่าก็ยังคงรบชนะต่อมา หลังจากแม่ทัพใหญ่เสิ่นกลับมาถึงเมืองหลวงพร้อมชัยชนะ ก็ล้มป่วยจนต้องนอนอยู่บนเตียงตลอด ส่วนที่จวนอ๋อง เสิ่นหรูโจวกับมู่หว่านหรงทะเลาะกันครั้ง เขาจึงลงโทษกักบริเวณให้นางสำนึกตน นางบังเอิญเป็นหวัดพอดี จึงนอนซมลุกไม่ขึ้น ทำให้ไม่รู้เรื่องที่ท่านแม่ทัพใหญ่เสิ่นได้รับบาดเจ็บผ่านไปไม่กี่วันเมื่อนางรู้ข่าว ก็มาขอร้องต่อหน้าเขา ต้องการให้เขาไปส่งของบำรุงจำนวนหนึ่งไปให้บิดา เขามองใบหน้าที่อ่อนแรงและซีดขาวของนาง ไม่มีความสงสารแม้แต่น้อย มองดูนางอย่างเย็นชาท้ายที่สุดเขายังคงให้คนไปส่งของ ทว่าเด็กรับใช้ส่งไปในนามของเขา รอจนพวกเขารู้เรื่อง เรื่องราวก็ผ่านไปนานแล้ว ความสัมพันธ์ของเสิ่นหรูโจวและตระกูลเสิ่นก็มาถึงจุดเยือกแข็งแล้วเช่นกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่นางปวดใจอย่างที่สุด และก็เป็นครั้งแรกที่นางใส่อารมณ์กับเขา ดั่งเช่นในยามนี้เซียวเฉิยเหยี่ยนยันรถม้าไว้

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 266

    สีหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนไม่น่ามองอยู่บ้าง “หรือเจ้าจะให้ข้ายืนรอเจ้าอยู่ด้านนอก?”“ท่านจะนั่งยองลงก็ได้เช่นกัน” ใบหน้าของเสิ่นหรูโจวไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย “ข้าขอบอกท่านไว้เลย เวลานี้ไม่ว่าข้าจะมองท่านที่ใดก็ขัดตาไปหมด หากท่านไม่ต้องการสร้างความอับอายให้ตนเอง ก็อย่าได้มายั่วโมโหข้า!”กล่าวจบ นางก็หมุนตัวเดินเข้าประตูไป จากนั้นปิดประตูลงดัง ‘ปัง’เซียวเฉินเหยี่ยนยืนอยู่ที่เดิม เขากำหมัดแน่นมองประตูใหญ่ที่ถูกปิดสนิท เขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก ทว่าในใจก็เกิดความรู้สึกถึงความแตกต่างขึ้นมาเช่นกันในอดีต ทั้งดวงตาและหัวใจของเสิ่นหรูโจวล้วนมีแต่เขา ไม่มีทางกีดกันเขาไว้ภายนอกอย่างเด็ดขาด ทว่า ในยามนี้ เขาไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะเหยียบเข้าประตูเรือนของนางแล้วอย่างนั้นหรือ?ทว่า ความรู้สึกของคนเปลี่ยนแปลงได้ง่ายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ เหตุใดเขาจึงโชคไม่ดีเช่นนี้ แต่งงานได้เพียงช่วงสั้นๆ สิบกว่าวัน นางก็ไม่หลงเหลือความรักให้เขาแล้วหลังเสิ่นหรูโจวปิดประตูลง ก็เข้าสู่ห้องของตนเมี่ยวตงเดินมาหาพร้อมรอยยิ้ม “คุณหนูกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านอยากทานสิ่งใด บ่าวจะไปเตรียมให้เจ้าค่ะ” “ไม่ต้องแล้

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 265

    ชาติก่อนมู่หว่านหรงอาศัยว่าได้รับความโปรดปราน มักแย่งของนางอย่างเปิดเผย ของพระราชทานที่ในวังประทานให้ชายาเอกทุกงานเทศกาลนางก็จะแย่ง ไปช่วยเหลือราษฎรจนสร้างผลงาน นางก็จะแย่งอีก เซียวเฉินเหยี่ยนไม่เคยสนใจแม้แต่น้อย เวลานี้ยิ่งดี แม้แต่ตัวเขาเองก็จะมาแย่งรางวัลของนางด้วย!เซียวเฉินเหยี่ยนถูกคำพูดของเสิ่นหรูโจวซัดไปเป็นชุด ทำให้ภายในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่บ้างเขาจับข้อมือเสิ่นหรูโจวแน่นไม่ยอมปล่อย ความโมโหในก้นบึ้งของดวงตาปรากฏขึ้นแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนเป็นความมืดมิด จับจ้องไปที่เสิ่นหรูโจวแล้วกล่าวว่า “หากข้าไม่ชิงลงมือก่อนเจ้าก้าวหนึ่ง เจ้าก็คงจะไปขอให้เสด็จพ่อประทานการหย่าให้แล้ว” “ไม่ผิด!” เสิ่นหรูโจวตอบอย่างไม่ลังเลนี่เป็นเรื่องที่นางเฝ้าปรารถนา รอคอยมาสองชาติ!“เจ้า…" เซียวเฉินเหยี่ยนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ รู้สึกว่าอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อนนับหมื่นอัดอั้นอยู่ในอก อึดอัดจนหายใจไม่ออก”โดยพื้นฐานแล้ว เขาดูแคลนต่อการแย่งผลงานสตรี ที่ทำเช่นนี้ ประการแรก เป็นเพราะจดหมายฉบับนั้นของมู่หว่านชิง ประการที่สอง…เขาคิดได้ว่า เสิ่นหรูโจวจะใช้คำสัญญานี้มาหย่ากับเขา เขารู้สึกไม่อยากห

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 264

    ฉินหมิงตะลึงไป ถามอย่างไม่แน่ใจว่า “ท่านอ๋องไม่เป็นอะไร? คำพูดนี้ของนายน้อยหมายความว่าอย่างไร?”ลู่หวายหนิงดึงฉินหมิงเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด พยายามระงับความตื่นเต้น ลดเสียงเบาลงแล้วกล่าวว่า “ความหมายก็คือบนร่างของอาจารย์ไม่มีผื่นขึ้น อาจารย์อาการภูมิแพ้ไม่กำเริบตอนอยู่กับพี่สาวน่ะสิ” ดวงตาทั้งคู่ของฉินหมิงเบิกกว้าง พูดอย่างตกใจว่า “จริงหรือขอรับ?”ลู่หวายหนิงหัวเราะออกมา “จริงแท้แน่นอน ข้าทำการยืนยันแล้ว” ฉินหมิงรู้สึกไม่อยากเชื่อ “หลายปีมานี้ ไม่ว่าสตรีนางใดสัมผัสท่านอ๋อง ก็ล้วนทำให้ท่านอ๋องเกินอาการแพ้ มีเพียงหญิงที่นายท่านพบในปีที่แล้วนางนั้นที่ไม่เป็นไร” “พูดไปแล้ว ตามหาสตรีนางนั้นไม่เจอเสียที ช่างน่าเสียดายนัก คิดไม่ถึงว่าพระชายาของอ๋องอู่เฉิงก็ไม่ทำให้นายท่านเกิดอาการแพ้เช่นกัน ช่างเป็นเรื่องดีจริงๆ ราวสวรรค์ได้สรรค์สร้างมา” “นั่นสิ!” ลู่หวายหนิงเห็นด้วยอย่างมาก “อาจารย์หาผู้หญิงคนนั้นไม่เจอสักที อย่างนั้นพี่สาวก็เป็นคู่ชะตาที่สวรรค์ลิขิตมาให้อาจารย์แล้ว! ถ้าพวกเขามาอยู่ด้วยกันเร็วหน่อยก็ดี ข้าแทบรอวันนั้นไม่ไหวแล้ว!”ฉินหมิงพยักหน้า จากนั้นก็รีบส่ายหน้าอย่างรุนแรงทันที “

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 263

    ในขณะที่พูด เขาก็ยื่นศีรษะเข้าไป มองซ้ายมองขวาเป่ยซิวเยี่ยนยื่นมือออกไปผลักหัวของเขาเบาๆ “ไม่ต้องดูแล้ว ไม่มีหรอก” ลู่หวายหนิงตกใจอย่างมาก ดวงตาเบิกจนกลมโตมองไปที่เป่ยซิวเยี่ยนบนใบหน้าเย็นชาดุจน้ำแข็งของเป่ยซิวเยี่ยน ก็มีความประหลาดใจอยู่อย่างเลือนรางเช่นกันลู่หวายหนิงยังคงรู้สึกไม่ยากที่จะเชื่ออยู่บ้าง จึงทำการยืนยันอีกครั้ง “อาจารย์ขอรับ เมื่อครู่พี่สาวสัมผัสถูกท่านแล้วใช่หรือไม่ขอรับ?” เป่ยซิวเยี่ยนเอนกายไปด้านหลัง พิงลงบนพนักเก้าอี้ ดวงตาล้ำลึกดุจบึงน้ำอันเยือกเย็นหรี่ลงเล็กน้อยเรื่องที่เขาเป็นภูมิแพ้ผู้หญิงมีน้อยคนนักที่จะรู้ เมื่อครู่คิดจะหยุดนางเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง แต่กลับทำให้เรื่องกลับตาลปัตรไปกุมมือของนางเข้าโดยบังเอิญ จนเกิดเป็นผลลัพธ์ที่ไม่ได้ตั้งใจขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ เขามั่นใจว่าอีกครู่อาการของตนต้องกำเริบ จึงปล่อยให้นางเปลี่ยนยาให้ตนเสียเลย คิดไม่ถึงว่า จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีอาการผิดปกติอะไรอาการคันชาบริเวณเอวคล้ายจะยังไม่จางหายไป ปลายนิ้วที่เย็นเล็กน้อยตกลงบนหน้าท้องของเขาครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับการยั่วเย้า เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ลู่หวายหนิงร้อ

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 262

    เป่ยซิวเยี่ยนมองดวงหน้าที่งดงามดั่งหยกของนาง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความคาดหวัง หัวใจของเขาก็อ่อนลงอย่างน่าประหลาด “ในเมื่อข้ารับปากเจ้าแล้ว ก็ไม่มีทางผิดคำสัญญา เพราะถึงอย่างไรพวกเราก็ต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน”เสิ่นหรูโจวพลันหัวเราะออกมาแล้ว มองเป่ยซิวเยี่ยนอย่างซาบซึ้ง “ท่านผู้สำเร็จราชการ ท่านเป็นคนดีจริงๆ ข้าจะต้องพยายามสุดความสามารถเพื่อรักษาท่านให้ได้แน่” ไม่ว่าในชาติก่อนเขาจะก่อกบฏ เพราะเหตุใด เหตุใดจึงถูกคนขนานนามว่าเป็นพญามัจจุราชที่มีชีวิต แต่สำหรับนางแล้ว เขาก็คือคนดีคนหนึ่งเป่ยซิวเยี่ยนตะลึงไปเล็กน้อย เมื่อเห็นรอยยิ้มที่แย้มบานราวบุปผาของนาง ริมฝีปากบางก็อดโค้งขึ้นเล็กน้อยไม่ได้เช่นกัน “คำชมของพระชายาช่างแปลกใหม่เหลือเกิน” นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคนพูดว่าเขาเป็นคนดีแปลกใหม่? แปลกใหม่ตรงที่ใดกัน?เสิ่นหรูโจวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ว่าบาดแผลของเขาได้รับการจัดการเรียบร้อยแล้ว นางจึงถือกล่องยาขึ้นมา“ท่านผู้สำเร็จราชการ สองสามวันนี้บาดแผลของท่านกำลังสมานตัว จะคันอย่างมาก เพียงระวังอย่าไปเกาก็จะหายดีแล้ว เช่นนั้นข้าก็ขอตัวก่อนแล้ว” เป่ยซิวเยี่ยนพยักหน้าเบาๆ รอจนเสิ่

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status