เสิ่นหรูโจวได้สติกลับมาอีกครั้งหลังจากได้ยินเสียงนายบ่าวคู่นั้น นางฟังแล้วยิ้มชาติที่แล้ว นางไม่เคยเห็นลู่หวายหนิง คิดไม่ถึงเลยว่านิสัยของเขาจะสดใสและเป็นมิตรเช่นนี้เมื่อคิดอย่างถี่ถ้วนดูแล้ว ปีนี้ลู่หวายหนิงเพิ่งจะสิบเอ็ด แม้ว่าเป็นชายหนุ่มอัจฉริยะ แต่เด็กก็คือเด็ก เก็บอุปนิสัยไว้ไม่อยู่เพียงแต่ว่า เวลานี้นางยังไม่ได้หย่ากับเซียวเฉินเหยี่ยน หากไป นางไม่รู้ว่าเหมาะสมหรือไม่ นิสัยของท่านอุปราชไม่ดีเท่าไหร่นัก นางไม่อยากมีเรื่องแค้นใจกับเขา“คืนสิบห้าเป็นเวลาที่เหมาะแก่การชมจันทร์จริง ๆ เพียง…”นางยังพูดไม่จบก็ถูกมู่หว่านหรงพูดขัดทันใด“พระชายา! ท่านช่วยชีวินคนไว้ได้เพราะโชคช่วยและบังเอิญก็เท่านั้น ไม่ควรลำพองตนนะเจ้าคะ!”“ถ้อยแสดงความขอบคุณกับการเชิญชวนของคุณชายน้อยก็ไม่จำเป็น อย่างไรเสียคำพูดไม่เพียงพอที่จะแสดงความขอบคุณ หากท่านอ๋องทราบเรื่องก็คงไม่เห็นด้วยเช่นกัน พระชายารีบกลับจวนเถอะเจ้าค่ะ อย่าให้ท่านอ๋องเรียกหาท่านเลย”นางฟังคนเหล่านี้พูดคุยสนุกสนานแล้วเกิดรู้สึกอิจฉา นางจะไม่ยอมให้เสิ่นหรูโจ มีปฏิสัมพันธ์กับจวนผู้สำเร็จราชการอย่างแน่นอน หากมี ก็ควรเป็นนางถึงจะถูกต้อง!
ยามที่เขาเพิ่งรู้ว่านางคือเสิ่นหรูโจวก็รู้สึกไม่ดี นอกจากเสิ่นหรูโจวจะสร้างปัญหาอย่างไร้เหตุผล อีกทั้งเกาะติดอ๋องอู่เฉิงแล้ว ยังมีความสามารถอื่นใดอีกหรือทว่าสุดท้ายแล้วนายน้อยก็ได้รับการช่วยเหลือจากนาง จึงไม่ได้พูดอะไรมาก เวลานี้ดูแล้วจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญดังที่พระชายารองพูด!นายน้อยถูกนางทำร้ายเข้าแล้วจริง ๆ !เมื่อผู้คนออกไปแล้ว เถ้าแก่สะบัดมือพลางสบถด่าไปหนึ่งคำเสิ่นหรูโจวสูญเสียความยับยั้งชั่งใจ ไม่สนใจว่าผู้อื่นจะทอดทิ้งนางไว้กลับเร่งติดตามไปรวดเร็วทว่ารถม้าได้เคลื่อนตัวออกไปแล้ว ซ้ำตอนนี้ไม่มีเวลาไปตลาดตะวันออกเพื่อซื้อม้าด้วย เสิ่นหรูโจวจึงวิ่งตามไปด้วยตัวเองหากศิษย์รักของผู้สำเร็จราชการแทนตายในน้ำมือของนาง เพียงแค่อาศัยวิธีการที่เหี้ยมโหดของผู้สำเร็จราชการแทน จุดจบของนางคงจะไม่ได้ดีไปกว่าชาติก่อนอย่างแน่นอน!อีกทั้งนางยังมีชะตาต้องกันกับเด็กหนุ่ม สถานการณ์ของเขาเองก็เป็นเรื่องเร่งด่วน หมอทั่วไปเกรงว่าจะรับมือไม่ไหว ในฐานะหมอ นางไม่สามารถนั่งมองเฉยได้!…จวนอ๋องอู่เฉิงจวินอู่วิ่งกลับไปก่อนที่รถม้าของลู่หวายหนิงจะเข้าจวน บอกทุกอย่างกับเซียวเฉินเหยี่ยนว่าเกิดอะไร
เซียวเฉินเหยี่ยนหรี่ตาลงพลางกล่าวกับฉินอวี่“เจ้าวางใจได้ ด้วยคนของข้าเป็นคนก่อเรื่องวุ่นวาย ข้าต้องรับผิดชอบจนถึงที่สุดอย่างแน่นอน!”“เข้าจวนไปหาหมอก่อนเถิด นายน้อยของเจ้ามาก่อนทุกสิ่ง”ฉินอวี่ยกมือคารวะเซียวเฉินเหยี่ยน หันหลังกลับและติดตามนายน้อยของตนที่เข้าไปในจวนเพื่อรับการรักษามู่หว่านหรงเห็นสถานการณ์นี้ นางยังคงดูเศร้าโศก ทว่าดวงตาดูโล่งใจมากเมื่อมองเหตุการณ์นี้ ดูเหมือนจะดีกว่าที่นางคาดไว้เสียอีก นางเพียงอยากให้ท่านอ๋องหย่าเสิ่นหรูโจวแต่ถ้าลู่หวายหนิงไม่ฟื้นขึ้นมา เสิ่นหรูโจว เกรงว่าจะตายด้วยน้ำมือของผู้สำเร็จราชการแทนกระมังเห็นมู่หว่านหรงยังคงยืนอยู่ข้าง ๆ เซียวเฉินเหยี่ยนมุ่นคิ้วพลางเอ่ย “หว่านหรง กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”เดิมทีมู่หว่านหรงยังอยากดูละครอีก ท้ายที่สุดแล้วเสิ่นหรูโจวก็ยังไม่กลับมา กระนั้นนางรู้สึกได้อย่างกระจ่างแจ้งว่ารัศมีความกดดันทั่วทั้งร่างกายของเซียวเฉินเหยี่ยนสูงมาก ไม่ทำให้เขาหงุดหงิดจะดีกว่า“เจ้าค่ะ ท่านอ๋อง”มู่หว่านหรงเพิ่งจากไป เสิ่นหรูโจวก็รีบร้อนมาถึงนางวิ่งมาตลอดทาง กระโปรงสีแดงเปรอะเปื้อนรอยโคลนสกปรก หน้าผากผุดเหงื่อเต็มพื้นที่นางห
เซียวเฉินเหยี่ยนสั่งเสร็จสิ้น เสิ่นหรูโจวก็ถูกบังคับพากลับไปยังเรือนของตน ถูกลากเข้าไปในห้อง โยนลงบนพื้นอย่างหยาบคายนางเพิ่งถูกผลักกระเด็นด้วยกำลังภายในของเซียวเฉินเหยี่ยน หน้าอกจึงเจ็บราวกับว่าถูกบดละเอียดพลันหายใจเข้าลึก ๆ สองสามที หยิบยาออกมาสองสามเม็ดแล้วกินเข้าไป มันช่วยบรรเทาความรู้สึกเจ็บปวดได้เล็กน้อยเมี่ยวตงรอจนกว่าทหารยามจะออกไป ถึงจะเข้าไปด้านในห้องได้ “คุณหนู!”นางประคองเสิ่นหรูโจวนั่งลงบนเตียง พลางเอ่ยอย่างเป็นกังวล: “ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ข้าน้อยได้ยินทั้งหมดแล้ว พระชายารองบอกว่าท่านทำร้ายผู้อื่นจนท่านอ๋องเข้าใจผิดและสั่งลงโทษ ช่างน่ารังเกียจเสียจริง!”เสิ่นหรูโจวโบกมือ “บัญชีแค้นของนางไว้ค่อยคิดภายหลัง ทางฝั่งลู่หวายหนิงเป็นเช่นไรบ้าง”เมี่ยวตงขมวดคิ้ว “ท่านอ๋องไม่ยอมให้ใครเข้าไปเลย หมอกงที่ได้รับเชิญจากพระชายารองกำลังรักษาอยู่”หมอกง...กงฉางจื้อ!ดวงตาของเสิ่นหรูโจวเปลี่ยนเป็นเย็นชาในฉับพลัน: “หมอกงอะไรกัน ด้วยวิชาแพทย์เพียงเล็กน้อยนั่น เขาสมควรที่จะถูกเรียกว่าหมอด้วยหรือ”เขาเป็นเพียงหมอต้มตุ๋นที่ได้รับการเชื้อเชิญจากมู่หว่านหรงให้มาหลอกเซียวเฉินเหยี่ยนก็เท่า
มู่หว่านหรงเอ่ยจบ เสิ่นหรูโจวยังไม่ทันเกิดอารมณ์โมโห เมี่ยวตงก็ทนไม่ได้เสียก่อน อาละวาดยกใหญ่“พระชายารอง ท่านบังอาจนัก! ท่านกล้าดีอย่างไรถึงพูดกับพระชายาเช่นนี้!”การบังคับคุณหนูให้ฆ่าตัวตายนี่มันมากเกินไปแล้ว!หากท่านแม่ทัพใหญ่และท่านแม่ทัพน้อยรู้ว่าคุณหนูถูกรังแก กลัวแต่จะบุกเข้าจวนอ๋องนี่สิ!มู่หว่านหรงเหลือบมองเมี่ยวตงอย่างเย็นชา "นางสารเลว เจ้าต่างหากบังอาจนัก! เจ้ากล้าดีอย่างไรมาพูดเช่นนี้กับข้า! เสิ่นหรูโจวไม่เคยสั่งสอนเรื่องสถานะสูงต่ำให้กับเจ้าเลยหรือ”“เช่นนั้นวันนี้ข้าจะสอนบทเรียนให้เจ้าแทนนางเอง!”พูดจบ นางก็ยกมือขึ้นและกำลังจะตบเมี่ยวตงทันใดนั้น เสิ่นหรูโจวรีบคว้าผ้าแพรไหมมารัดคอนาง!รูม่านตาของมู่หว่านหรงก็ขยายออกในทันใด สองมือดึงผ้าที่ผูกรอบคอนางไว้ไม่หยุด!หลิงเฟิงตกใจมากจนแข้งขาอ่อนแรง “พระชายา ท่าน หากท่านกล้าทำร้ายพระชายารอง ข้าจะรายงานเรื่องนี้ให้ท่านอ๋องทราบและจะลงโทษท่านแน่นอน!”พูดจบนางก็จะวิ่งไป เสิ่นหรูโจวตะโกนทันที: “เมี่ยวตง! จับนางไว้!”เมี่ยวตงจับหลิงเฟิงทันที หลิงเฟิงสีหน้าขาวซีดด้วยตกใจ“ถ้าพูดเรื่องไร้สาระกับเซียวเฉินเหยี่ยนอีก ข้าจะตัดลิ้น
เสิ่นหรูโจวเงยหน้าขึ้น มองเห็นเซียวเฉินเหยี่ยนเร่งฝีเท้าเข้าหานางราวกับเสือดาวเดือดดาล ดวงตาแดงฉานเขาโบกมืออย่างแม่นยำ ใบไม้สีเขียวสองสามใบก็ตัดผ้าแพรไหมด้านหนึ่งออกเสิ่นหรูโจวถูกบีบให้คลายมือ มู่หว่านหรงทรุดตัวลงกับพื้นขณะที่ไออย่างหนักเมี่ยวตงก็ปล่อยตัวหลิงเฟิงออกไป หลิงเฟิงรีบเข้าไปประคองมู่หว่านหรงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “พระชายารอง...”เซียวเฉินเหยี่ยนย่างก้าวไปหาพวกนางด้วยความโมโหพลุ่งพล่าน ดวงตาสีเข้มกลิ้งไปมาเขาเพิ่งลงมือทำร้ายเสิ่นหรูโจว ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทันใดนั้นภาพแปลกประหลาดก็แวบขึ้นมาในใจของเขาในภาพ เสิ่นหรูโจวยังคงสดใสและงดงาม ทว่าใบหน้าซีดเซียว แลดูอ่อนแรงมาก สายตาที่มองไปเปี่ยมความเกลียดชัง!นางนอนอยู่ใต้ร่างของเขา สองมือถือกริชแล้วใช้กำลังแทงเข้าที่หัวใจของเขา แต่เขาเพียงมองดวงตาแสนเยือกเย็นราวกับสระน้ำเย็นเยียบอายุพันปีของนาง เม้มริมฝีปากดึงกริชของนางออก ในที่สุดก็สัมผัสศีรษะของนาง พูดอะไรบางอย่างเขาไม่ได้ยินชัดเจน แต่รู้สึกว่าในภาพนิมิตเขารักใคร่เสิ่นหรูโจว แม้กระทั่ง...ภาพนี้ ความรู้สึกนี้ มันไม่เคยเกิดขึ้นกับเขาและเสิ่นหรูโจวมาก่อน แต่ราวกับว่าเขาจะมีป
“ข้าปฏิบัติอย่างเป็นกลางก็เท่านั้น”เขาดูออก ไม่ว่าหว่านหรงคิดอย่างไร นางเป็นคนก่อเรื่องวันนี้จริง ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรที่เสิ่นหรูโจวทำร้ายหว่านหรง“เป็นกลาง!” เสิ่นหรูโจวรู้สึกว่าประโยคนี้ออกมาจากปากของเขาแล้วไม่อาจประชดไปมากกว่านี้อีกแล้ว นางจึงมองกลับอย่างเย้ยหยัน“เรื่องของวันนี้ เพราะว่าท่านไม่รู้จะทำอย่างไรถึงได้ผลักความผิดมาให้ข้า ท่านเคยปฏิบัติอย่างเป็นกลางเมื่อไหร่!”ชาติที่แล้วหรือชาตินี้ เขาเป็นไอ้เศษสวะเสมอ!“เสิ่นหรูโจว เจ้าไม่หุบปากแล้วยังมีหน้าพูดประชดข้าอีกรึ!” เซียวเฉินเหยี่ยนถูกผู้หญิงฉีกหน้าจนโครงหน้ารูปงามอันชัดเจนยังไม่สามารถปิดบังสีหน้าอันเย็นเยือกได้ “บัญชีของเจ้า ข้ายังคิดกับเจ้าไม่หมด”ช่วงนี้เสิ่นหรูโจวเปลี่ยนไปมากขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับแมวป่าที่เลี้ยงไม่เชื่อง คอยกางเล็บอันแหลมคมแวววาวอยู่เสมอ หากไม่ทันระวังตัวก็จะถูกนางข่วนอย่างรุนแรงที่สำคัญ แววตาที่นางมองเขาตอนนี้ มักจะรู้สึกเสมอว่าคล้ายกับเสิ่นหรูโจวที่อยู่ในหัวมาก มากเป็นพิเศษ…แววตาของเสิ่นหรูโจวเต็มไปด้วยความเย็นชา เซียวเฉินเหยี่ยนจ้องนางพร้อมกล่าวเตือน“ต่อจากนี้ไป เจ้าจงอยู่อย่างสงบ ครั้งห
ฉินอวี่ฟังแล้วร้อนใจสีหน้าเปลี่ยนไปจนแทบร้องไห้จะเกิดข้อผิดพลาดขึ้นกับนายน้อยแม้เพียงเล็กน้อยไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้น เขาไม่รู้จะรายงานต่อท่านอุปราชอย่างไรจริง ๆ!เขาไม่มีเวลาคิดอะไรอีกจึงคุกเข่าข้างหนึ่งให้กับกงฉางจื้อ“หมอกง ท่านเก่งกาจวิชาแพทย์ ท่านจะต้องช่วยชีวิตนายน้อยของข้านะขอรับ!”“หากวันนี้ท่านสามารถช่วยชีวิตของนายน้อยไว้ได้ วันที่นายท่านของข้ากลับมา เขาจะตอบแทนท่านอย่างแน่นอน! ได้โปรดด้วยเถิดขอรับ!”กงฉางจื้อวางมือที่กำลังเก็บของและมองฉินอวี่ที่กระวนกระวายพร้อมเผยสีหน้าลำบากใจเป็นอย่างมาก“เอาล่ะ ๆ เจ้าจริงใจถึงเพียงนี้ ข้าเองก็ไม่อาจจะทนอยู่นิ่งเฉยได้ ข้าจะลองดูแล้วกัน เพียงแต่ว่าหากข้าช่วยไว้ไม่ได้ ไม่ใช่ความผิดของข้านะ”“ขอรับ” ฉินอวี่ตอบตกลงทันทีอย่างดีใจ ตอนนี้คนที่เขาสามารถเชื่อได้มีเพียงหมอผู้เก่งกาจท่านนี้ “รบกวนด้วยขอรับ!”กงฉางจื้อเปิดกระเป๋าฝังเข็มและหยิบเข็มสองด้ามออกมาฝังลงที่แขนของลู่หวายหนิงเขากำลังจะหยิบเข็มด้ามที่สาม แต่ประตูห้องพลันถูกใครบางคนเปิดออก “ปัง”เสิ่นหรูโจวสวมชุดแดงปรากฏตัวขึ้นตรงประตู เมื่อเห็นเข็มในมือของกงฉางจื้อ แววตาพลันเต็มไปด้ว
เสิ่นหรูโจวกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “เช่นนั้นก็ไม่ผิดแล้ว ในเวลานี้ ความสามารถในการทำงานของตับของพระองค์ได้รับความเสียหายอย่างมากแล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซียวจิ่นซีก็คล้ายจะเจ็บยิ่งกว่าเดิมแล้ว เจ็บจนยืดเอวไม่ขึ้นมองเซียวจิ่นซีที่มีสีหน้าเจ็บปวด เซียวเฉินเหยี่ยนก็ขมวดคิ้ว “เช่นนั้นมีวิธีการรักษาหรือไม่?”เสิ่นหรูโจวมิได้รีบกล่าว นางหยิบขวดยาเล็กๆ ขวดหนึ่งออกมาจากถุงผ้า เทยาลงบนในกลางฝ่ามือเม็ดหนึ่งยื่นไปที่เบื้องหน้าเซียวจิ่นซี “ทรงเสวยสิ่งนี้ลงไปก่อน” เซียวจิ่นซีฝืนยืดเอวขึ้น มองเสิ่นหรูโจวด้วยสีหน้าหวาดระแวง “นี่คือสิ่งใด?”“สายพระเนตรขององค์หญิงทรงไม่ดีหรือเพคะ นี่คือยาอย่างไรเล่าเพคะ”เซียวจิ่นซีไม่เชื่อว่าเสิ่นหรูโจวจะปรารถนาดีเช่นนี้ ลังเลอยู่นานไม่ยอมรับไปเสิ่นหรูโจวจึงชักมือกลับมา กล่าวอย่างไม่อนาทรร้อนใจว่า “ไม่เสวยก็ช่างเถอะ ปล่อยให้ทรงปวดตายก็แล้วกัน” เซียวจิ่นซีกัดฟัน คว้าแย่งมาจากนั้นยัดเข้าปากไปเสิ่นหรูโจวโค้งริมฝีปาก หัวเราะอย่างเย้ยหยันทีหนึ่ง จากนั้นจึงพูดวิธีการรักษาออกมา “ตับของพระองค์ยามนี้เสียหายแล้ว หากทรงต้องการมีชีวิตรอด ก็จะต้องตัดตับของพระองค์ออก
เซียวจิ่นซีคิดจะบันดาลโทสะอีกครั้ง ทว่าเซียวเฉินเหยี่ยนขมวดคิ้วมองนาง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เสด็จพี่ แทนที่จะทรงตรัสสิ่งใดด้วยโทสะเพื่อความสะใจเพียงชั่วครู่ มิสู้ทรงให้เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้พระองค์อย่างว่าง่ายดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ การรักษาพระวรกายให้หายดีสำคัญที่สุดนะพ่ะย่ะค่ะ"เต๋อเฟยก็เกลี้ยกล่อมเช่นกัน “นั่นสิ จิ่นซี อย่าได้เสียเวลาอีกเลย รีบให้หรูโจวตรวจให้เจ้าเถอะ” สุดท้ายแล้ว เซียวจิ่นซีก็ต้องการรักษาชีวิตตน ไม่ว่าจะเคียดแค้นเสิ่นหรูโจวอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะมาก่อเรื่อง นางจึงแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่ง แล้วก็ไม่กล่าวสิ่งใดอีกเซียวเฉินเหยี่ยนมองไปยังเสิ่นหรูโจว พูดเสียงเบาว่า “นี่เป็นพระบัญชาของเสด็จพ่อ เจ้าก็อย่าได้เอาแต่ใจ” เดิมเสิ่นหรูโจวก็ไม่คิดจะจากไปจริงๆ เพียงแค่ขู่เซียวจิ่นซีไปอย่างนั้น บัญชาของฮ่องเต้ไม่อาจฝืน นอกจากนี้ นางก็จำเป็นจะต้องสร้างโอกาสให้ตนได้หย่าเช่นกันนางเดินกลับไปอย่างเรื่อยเฉื่อย นั่งลงข้างกายเซียวจิ่นซี “รบกวนองค์หญิงทรงยื่นพระหัตถ์ออกมาด้วยเพคะ” สีหน้าของเซียวจิ่นซีไม่น่ามอง ทว่ายังคงทำตามครั้งก่อนที่เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้เซียวจิ
เมื่อเสิ่นหรูโจวได้ยินคำพูดประโยคสุดท้าย สีหน้าก็ผ่อนคลายลงไม่น้อยดูไปแล้ว จนถึงตอนนี้ยังคงถือได้ว่าราบรื่น ด่านเคราะห์ของท่านพ่ออยู่ที่การศึกครั้งสุดท้าย ไม่รู้ว่าเวลานี้ยาของนางส่งไปถึงหรือยัง หากดูตามเวลาก็น่าจะทันการอยู่ขอเพียงท่านพ่อใช้ยาของนาง ก็จะไม่ทิ้งโรคเรื้อรังไว้ในภายหลังแล้วนับแต่ได้ถือกำเนิดใหม่กลับมา นางยังมิได้พบท่านพ่อเลย นางจะต้องทำให้ท่านพ่อกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้เซียวเฉินเหยี่ยนเห็นว่าเมื่อนางได้ฟังข่าวของบิดาและพี่ชาย อารมณ์ก็คล้ายจะสงบลงไม่น้อย จึงลองกล่าวว่า “ในอนาคต เจ้ายังคงแก้นิสัยของเจ้าหน่อยเถิด” เสิ่นหรูโจวเงยหน้ามองเขา “นิสัยของข้าเป็นอย่างไร?”“ทุกครั้งที่เจ้าพบกับองค์หญิงเจาหยาง ล้วนมีเรื่องกันจนตึงเครียด” เซียวเฉินเหยี่ยนพยายามพูดอย่างละมุนละม่อม หวังว่านางจะรับฟัง “ถึงอย่างไรนางก็เป็นเสด็จพี่หญิงของข้า เมื่ออยู่ต่อหน้านาง เจ้าก็แสดงท่าทีที่ดีสักหน่อย อย่าใช้อารมณ์ไปเสียทุกเรื่อง” เสิ่นหรูโจวหัวเราะอย่างเยาะหยันทีหนึ่ง กล่าวอย่างดูแคลนว่า “ท่านอย่าได้มาบงการข้า” บนใบหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนมีความไม่พอใจวาบผ่าน "หากเจ้ามีสิ่งใดไม่พอใจ อยาก
เริ่มจากชายแดนส่งข่าวด่วนมา บิดาและพี่ชายของเสิ่นหรูโจวจึงนำทัพไปช่วยที่ชายแดน ภาพเหตุการณ์เปลี่ยนไป กลายเป็นฉากที่รายงานการรบถูกส่งมา ท่านแม่ทัพเสิ่นถูกธนูของศัตรูยิงทะลุมือ เนื่องจากขาดแคลนยาและสิ่งของทำให้ไม่มียารักษา ทว่าก็ยังคงรบชนะต่อมา หลังจากแม่ทัพใหญ่เสิ่นกลับมาถึงเมืองหลวงพร้อมชัยชนะ ก็ล้มป่วยจนต้องนอนอยู่บนเตียงตลอด ส่วนที่จวนอ๋อง เสิ่นหรูโจวกับมู่หว่านหรงทะเลาะกันครั้ง เขาจึงลงโทษกักบริเวณให้นางสำนึกตน นางบังเอิญเป็นหวัดพอดี จึงนอนซมลุกไม่ขึ้น ทำให้ไม่รู้เรื่องที่ท่านแม่ทัพใหญ่เสิ่นได้รับบาดเจ็บผ่านไปไม่กี่วันเมื่อนางรู้ข่าว ก็มาขอร้องต่อหน้าเขา ต้องการให้เขาไปส่งของบำรุงจำนวนหนึ่งไปให้บิดา เขามองใบหน้าที่อ่อนแรงและซีดขาวของนาง ไม่มีความสงสารแม้แต่น้อย มองดูนางอย่างเย็นชาท้ายที่สุดเขายังคงให้คนไปส่งของ ทว่าเด็กรับใช้ส่งไปในนามของเขา รอจนพวกเขารู้เรื่อง เรื่องราวก็ผ่านไปนานแล้ว ความสัมพันธ์ของเสิ่นหรูโจวและตระกูลเสิ่นก็มาถึงจุดเยือกแข็งแล้วเช่นกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่นางปวดใจอย่างที่สุด และก็เป็นครั้งแรกที่นางใส่อารมณ์กับเขา ดั่งเช่นในยามนี้เซียวเฉิยเหยี่ยนยันรถม้าไว้
สีหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนไม่น่ามองอยู่บ้าง “หรือเจ้าจะให้ข้ายืนรอเจ้าอยู่ด้านนอก?”“ท่านจะนั่งยองลงก็ได้เช่นกัน” ใบหน้าของเสิ่นหรูโจวไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย “ข้าขอบอกท่านไว้เลย เวลานี้ไม่ว่าข้าจะมองท่านที่ใดก็ขัดตาไปหมด หากท่านไม่ต้องการสร้างความอับอายให้ตนเอง ก็อย่าได้มายั่วโมโหข้า!”กล่าวจบ นางก็หมุนตัวเดินเข้าประตูไป จากนั้นปิดประตูลงดัง ‘ปัง’เซียวเฉินเหยี่ยนยืนอยู่ที่เดิม เขากำหมัดแน่นมองประตูใหญ่ที่ถูกปิดสนิท เขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก ทว่าในใจก็เกิดความรู้สึกถึงความแตกต่างขึ้นมาเช่นกันในอดีต ทั้งดวงตาและหัวใจของเสิ่นหรูโจวล้วนมีแต่เขา ไม่มีทางกีดกันเขาไว้ภายนอกอย่างเด็ดขาด ทว่า ในยามนี้ เขาไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะเหยียบเข้าประตูเรือนของนางแล้วอย่างนั้นหรือ?ทว่า ความรู้สึกของคนเปลี่ยนแปลงได้ง่ายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ เหตุใดเขาจึงโชคไม่ดีเช่นนี้ แต่งงานได้เพียงช่วงสั้นๆ สิบกว่าวัน นางก็ไม่หลงเหลือความรักให้เขาแล้วหลังเสิ่นหรูโจวปิดประตูลง ก็เข้าสู่ห้องของตนเมี่ยวตงเดินมาหาพร้อมรอยยิ้ม “คุณหนูกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านอยากทานสิ่งใด บ่าวจะไปเตรียมให้เจ้าค่ะ” “ไม่ต้องแล้
ชาติก่อนมู่หว่านหรงอาศัยว่าได้รับความโปรดปราน มักแย่งของนางอย่างเปิดเผย ของพระราชทานที่ในวังประทานให้ชายาเอกทุกงานเทศกาลนางก็จะแย่ง ไปช่วยเหลือราษฎรจนสร้างผลงาน นางก็จะแย่งอีก เซียวเฉินเหยี่ยนไม่เคยสนใจแม้แต่น้อย เวลานี้ยิ่งดี แม้แต่ตัวเขาเองก็จะมาแย่งรางวัลของนางด้วย!เซียวเฉินเหยี่ยนถูกคำพูดของเสิ่นหรูโจวซัดไปเป็นชุด ทำให้ภายในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่บ้างเขาจับข้อมือเสิ่นหรูโจวแน่นไม่ยอมปล่อย ความโมโหในก้นบึ้งของดวงตาปรากฏขึ้นแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนเป็นความมืดมิด จับจ้องไปที่เสิ่นหรูโจวแล้วกล่าวว่า “หากข้าไม่ชิงลงมือก่อนเจ้าก้าวหนึ่ง เจ้าก็คงจะไปขอให้เสด็จพ่อประทานการหย่าให้แล้ว” “ไม่ผิด!” เสิ่นหรูโจวตอบอย่างไม่ลังเลนี่เป็นเรื่องที่นางเฝ้าปรารถนา รอคอยมาสองชาติ!“เจ้า…" เซียวเฉินเหยี่ยนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ รู้สึกว่าอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อนนับหมื่นอัดอั้นอยู่ในอก อึดอัดจนหายใจไม่ออก”โดยพื้นฐานแล้ว เขาดูแคลนต่อการแย่งผลงานสตรี ที่ทำเช่นนี้ ประการแรก เป็นเพราะจดหมายฉบับนั้นของมู่หว่านชิง ประการที่สอง…เขาคิดได้ว่า เสิ่นหรูโจวจะใช้คำสัญญานี้มาหย่ากับเขา เขารู้สึกไม่อยากห
ฉินหมิงตะลึงไป ถามอย่างไม่แน่ใจว่า “ท่านอ๋องไม่เป็นอะไร? คำพูดนี้ของนายน้อยหมายความว่าอย่างไร?”ลู่หวายหนิงดึงฉินหมิงเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด พยายามระงับความตื่นเต้น ลดเสียงเบาลงแล้วกล่าวว่า “ความหมายก็คือบนร่างของอาจารย์ไม่มีผื่นขึ้น อาจารย์อาการภูมิแพ้ไม่กำเริบตอนอยู่กับพี่สาวน่ะสิ” ดวงตาทั้งคู่ของฉินหมิงเบิกกว้าง พูดอย่างตกใจว่า “จริงหรือขอรับ?”ลู่หวายหนิงหัวเราะออกมา “จริงแท้แน่นอน ข้าทำการยืนยันแล้ว” ฉินหมิงรู้สึกไม่อยากเชื่อ “หลายปีมานี้ ไม่ว่าสตรีนางใดสัมผัสท่านอ๋อง ก็ล้วนทำให้ท่านอ๋องเกินอาการแพ้ มีเพียงหญิงที่นายท่านพบในปีที่แล้วนางนั้นที่ไม่เป็นไร” “พูดไปแล้ว ตามหาสตรีนางนั้นไม่เจอเสียที ช่างน่าเสียดายนัก คิดไม่ถึงว่าพระชายาของอ๋องอู่เฉิงก็ไม่ทำให้นายท่านเกิดอาการแพ้เช่นกัน ช่างเป็นเรื่องดีจริงๆ ราวสวรรค์ได้สรรค์สร้างมา” “นั่นสิ!” ลู่หวายหนิงเห็นด้วยอย่างมาก “อาจารย์หาผู้หญิงคนนั้นไม่เจอสักที อย่างนั้นพี่สาวก็เป็นคู่ชะตาที่สวรรค์ลิขิตมาให้อาจารย์แล้ว! ถ้าพวกเขามาอยู่ด้วยกันเร็วหน่อยก็ดี ข้าแทบรอวันนั้นไม่ไหวแล้ว!”ฉินหมิงพยักหน้า จากนั้นก็รีบส่ายหน้าอย่างรุนแรงทันที “
ในขณะที่พูด เขาก็ยื่นศีรษะเข้าไป มองซ้ายมองขวาเป่ยซิวเยี่ยนยื่นมือออกไปผลักหัวของเขาเบาๆ “ไม่ต้องดูแล้ว ไม่มีหรอก” ลู่หวายหนิงตกใจอย่างมาก ดวงตาเบิกจนกลมโตมองไปที่เป่ยซิวเยี่ยนบนใบหน้าเย็นชาดุจน้ำแข็งของเป่ยซิวเยี่ยน ก็มีความประหลาดใจอยู่อย่างเลือนรางเช่นกันลู่หวายหนิงยังคงรู้สึกไม่ยากที่จะเชื่ออยู่บ้าง จึงทำการยืนยันอีกครั้ง “อาจารย์ขอรับ เมื่อครู่พี่สาวสัมผัสถูกท่านแล้วใช่หรือไม่ขอรับ?” เป่ยซิวเยี่ยนเอนกายไปด้านหลัง พิงลงบนพนักเก้าอี้ ดวงตาล้ำลึกดุจบึงน้ำอันเยือกเย็นหรี่ลงเล็กน้อยเรื่องที่เขาเป็นภูมิแพ้ผู้หญิงมีน้อยคนนักที่จะรู้ เมื่อครู่คิดจะหยุดนางเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง แต่กลับทำให้เรื่องกลับตาลปัตรไปกุมมือของนางเข้าโดยบังเอิญ จนเกิดเป็นผลลัพธ์ที่ไม่ได้ตั้งใจขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ เขามั่นใจว่าอีกครู่อาการของตนต้องกำเริบ จึงปล่อยให้นางเปลี่ยนยาให้ตนเสียเลย คิดไม่ถึงว่า จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีอาการผิดปกติอะไรอาการคันชาบริเวณเอวคล้ายจะยังไม่จางหายไป ปลายนิ้วที่เย็นเล็กน้อยตกลงบนหน้าท้องของเขาครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับการยั่วเย้า เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ลู่หวายหนิงร้อ
เป่ยซิวเยี่ยนมองดวงหน้าที่งดงามดั่งหยกของนาง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความคาดหวัง หัวใจของเขาก็อ่อนลงอย่างน่าประหลาด “ในเมื่อข้ารับปากเจ้าแล้ว ก็ไม่มีทางผิดคำสัญญา เพราะถึงอย่างไรพวกเราก็ต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน”เสิ่นหรูโจวพลันหัวเราะออกมาแล้ว มองเป่ยซิวเยี่ยนอย่างซาบซึ้ง “ท่านผู้สำเร็จราชการ ท่านเป็นคนดีจริงๆ ข้าจะต้องพยายามสุดความสามารถเพื่อรักษาท่านให้ได้แน่” ไม่ว่าในชาติก่อนเขาจะก่อกบฏ เพราะเหตุใด เหตุใดจึงถูกคนขนานนามว่าเป็นพญามัจจุราชที่มีชีวิต แต่สำหรับนางแล้ว เขาก็คือคนดีคนหนึ่งเป่ยซิวเยี่ยนตะลึงไปเล็กน้อย เมื่อเห็นรอยยิ้มที่แย้มบานราวบุปผาของนาง ริมฝีปากบางก็อดโค้งขึ้นเล็กน้อยไม่ได้เช่นกัน “คำชมของพระชายาช่างแปลกใหม่เหลือเกิน” นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคนพูดว่าเขาเป็นคนดีแปลกใหม่? แปลกใหม่ตรงที่ใดกัน?เสิ่นหรูโจวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ว่าบาดแผลของเขาได้รับการจัดการเรียบร้อยแล้ว นางจึงถือกล่องยาขึ้นมา“ท่านผู้สำเร็จราชการ สองสามวันนี้บาดแผลของท่านกำลังสมานตัว จะคันอย่างมาก เพียงระวังอย่าไปเกาก็จะหายดีแล้ว เช่นนั้นข้าก็ขอตัวก่อนแล้ว” เป่ยซิวเยี่ยนพยักหน้าเบาๆ รอจนเสิ่