ฉินอวี่ฟังแล้วร้อนใจสีหน้าเปลี่ยนไปจนแทบร้องไห้จะเกิดข้อผิดพลาดขึ้นกับนายน้อยแม้เพียงเล็กน้อยไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้น เขาไม่รู้จะรายงานต่อท่านอุปราชอย่างไรจริง ๆ!เขาไม่มีเวลาคิดอะไรอีกจึงคุกเข่าข้างหนึ่งให้กับกงฉางจื้อ“หมอกง ท่านเก่งกาจวิชาแพทย์ ท่านจะต้องช่วยชีวิตนายน้อยของข้านะขอรับ!”“หากวันนี้ท่านสามารถช่วยชีวิตของนายน้อยไว้ได้ วันที่นายท่านของข้ากลับมา เขาจะตอบแทนท่านอย่างแน่นอน! ได้โปรดด้วยเถิดขอรับ!”กงฉางจื้อวางมือที่กำลังเก็บของและมองฉินอวี่ที่กระวนกระวายพร้อมเผยสีหน้าลำบากใจเป็นอย่างมาก“เอาล่ะ ๆ เจ้าจริงใจถึงเพียงนี้ ข้าเองก็ไม่อาจจะทนอยู่นิ่งเฉยได้ ข้าจะลองดูแล้วกัน เพียงแต่ว่าหากข้าช่วยไว้ไม่ได้ ไม่ใช่ความผิดของข้านะ”“ขอรับ” ฉินอวี่ตอบตกลงทันทีอย่างดีใจ ตอนนี้คนที่เขาสามารถเชื่อได้มีเพียงหมอผู้เก่งกาจท่านนี้ “รบกวนด้วยขอรับ!”กงฉางจื้อเปิดกระเป๋าฝังเข็มและหยิบเข็มสองด้ามออกมาฝังลงที่แขนของลู่หวายหนิงเขากำลังจะหยิบเข็มด้ามที่สาม แต่ประตูห้องพลันถูกใครบางคนเปิดออก “ปัง”เสิ่นหรูโจวสวมชุดแดงปรากฏตัวขึ้นตรงประตู เมื่อเห็นเข็มในมือของกงฉางจื้อ แววตาพลันเต็มไปด้ว
จากนั้น นางล็อกกลอนประตูทันทีฉินอวี่เพิ่งจะทรงตัวได้ แต่พบว่าประตูถูกล็อกเรียบร้อยก็รู้สึกร้อนใจเป็นอย่างมาก“ท่านจะทำอะไรนายน้อย!! เปิดประตูนะ!” ฉินอวี่ถีบประตูอย่างแรงสองที อยากจะถีบจนเปิดออกแต่ประตูของจวนอ๋องแน่นหนาเป็นอย่างมาก เขาใช้แรงมากถึงขนาดนั้นกลับไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆเขาจับตัวบ่าวรับใช้เฝ้าประตูไว้คนหนึ่งและตะโกนสั่ง: “ไปเรียกท่านอ๋องของพวกเจ้าเร็วเข้า พระชายาของพวกเจ้ากำลังจะก่อเรื่อง นางจะทำร้ายนายน้อยของข้า!”บ่าวรับใช้ตกใจไม่น้อยจึงวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วส่วนฉินอวี่ยังคงเตะประตูและกล่าวเตือนเสิ่นหรูโจวอยู่ข้างนอกเสิ่นหรูโจวทำเหมือนไม่ได้ยิน นางรู้ว่ามีเวลาไม่มากนางจึงต้องให้ความสำคัญกับการรักษาลู่หวายหนิงนางตรวจดูร่างกายของลู่หวายหนิงด้วยหน้านิ่วคิ้วขมวด ร่างกายของเขาแย่กว่าที่นางคิดไว้มาก!ดูเหมือนว่าร่างกายของลู่หวายหนิงมีปฏิกิริยาต่อยาที่นางป้อน ถึงได้มีอาการรุนแรงเช่นนี้ ไม่เพียงแต่มีผดผื่นเป็นแผ่นขึ้นบนใบหน้า บวมเป่งจนเกือบกลายเป็นหัวหมูเสิ่นหรูโจวหยิบยาถอนพิษเม็ดหนึ่งออกจากกล่องยาป้อนให้เขากินและเปิดชั้นล่างสุดของกล่องยา ข้างในนั้นมีอุปกรณ์ฝังเข็มครบ
เขาเพียงออกแรง ร่างกายของเสิ่นหรูโจวก็ยืนตรงไม่ได้คุกเข่าลงกับพื้นทันทีนางกำลังจะลุกขึ้น แต่กลับถูกเซียวเฉินเหยี่ยนจับคางและถูกบังคับให้คุกเข่าใบหน้ารูปงามของเซียวเฉินเหยี่ยนกลายเป็นหน้าดำที่ดูแย่มาก ม่านตาดำสนิทคู่นั้นสะท้อนใบหน้าสวยสดงดงามและดื้อดึงหัวแข็งของเสิ่นหรูโจวเอาไว้ชุดแดงบนตัวเสิ่นหรูโจว เหมือนเป็นเปลวไฟที่ลุกไหม้อยู่ในดวงตาของเขา“เสิ่นหรูโจว ทำไมเจ้าถึงกล้าหาเรื่องทุกคนเช่นนี้ เจ้ารู้ว่าคนนั้นคือผู้ใดหรือไม่! เขาคือลู่หวายหนิง ลูกศิษย์ที่ท่านอุปราชเอ็นดูมากที่สุด! เจ้ากลับกล้าทำร้ายเขาอย่างนั้นรึ!”“ข้าสั่งให้เจ้าอยู่นิ่ง ๆ อย่าก่อเรื่อง เจ้าหูตึงไปแล้วรึ!”ก่อนหน้านี้ถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญ อุบัติเหตุ มีน้ำใจช่วยเหลือคนแต่เลือกวิธีผิด ตอนนี้ มันคือการลอบทำร้ายอย่างชัดเจน!เสิ่นหรูโจวแหงนหน้ามองเขาด้วยสีหน้าไร้ความหวาดกลัวแต่อย่างใด“ข้ากำลังช่วยเขา”เซียวเฉินเหยี่ยนโมโหกว่าเดิม: “ปลดเสื้อผ้าเขาออก แล้วยังฝังเข็มจนเหมือนตัวเม่น คือการช่วยเขางั้นรึ!!”“เสิ่นหรูโจว เจ้ามีความสามารถอะไร ข้ารู้ดีแจ่มแจ้งทั้งหมด!”“ข้าไม่สนใจว่าเจ้าเกิดอาการบ้าอะไร แต่เหตุใดอุปนิ
“อยากได้หนังสือหย่ารึ!” เวลานี้เซียวเฉินเหยี่ยนเพิ่งตื่นจากภาพที่แตกสลาย เมื่อได้ยินเช่นนั้น ไฟโมโหไร้สาเหตุก็ปะทุขึ้นข้างในหัวใจ “เจ้าฝันไปเถอะ!”“เจ้าวางแผนใช้ทุกวิถีทางเพื่อแต่งงานกับข้า ข้ายังไม่ทันทรมานเจ้าคืน แต่เจ้ากลับนึกเสียใจจะจากไป”“เจ้าคิดว่าจวนอ๋องอู่เฉิงของข้าเป็นสถานที่ใด อยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไปงั้นรึ!!”ที่สำคัญ เขาต้องรู้ให้ได้ว่าภาพที่อยู่ในหัวเมื่อครู่นี้คืออะไร ใช่คำทายหรือไม่!หากใช่ เสิ่นหรูโจวสวมชุดคลุมลายหงส์ นางก็คือฮองเฮาอย่างแน่นอนนั่นหมายความว่า…ผู้ใดแต่งงานกับเสิ่นหรูโจว ผู้นั้นคือผู้ปกครองแผ่นดิน!เช่นนั้นแล้ว เขายิ่งไม่ควรยอมให้เสิ่นหรูโจวจากไป!อีกอย่าง เขารังเกียจเสิ่นหรูโจวจริง ๆ แต่พวกเขาก็เป็นสามีภรรยากัน เมื่อนึกถึงภาพสุดท้ายที่เขาเห็นนางจบชีวิตลงอย่างน่าเวทนาเช่นนั้น ภายในใจก็เกิดความทนไม่ได้ขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจหากเขาได้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้ ขอเพียงนางไม่ก่อกรรมทำชั่ว เขาก็ไม่มีวันเอาชีวิตนางไปอย่างแน่นอน……ใบหน้าขาวผ่องงดงามของเสิ่นหรูโจว มีความโกรธเผยออกมาทันใดทำไม นางไม่เข้าใจเลยสักนิด ทำไมถึงตัดขาดความสัมพันธ์กับเซียวเฉินเ
เฮอะ!เขาพยายามระงับความโกรธในใจ มุมริมฝีปากบางได้รูปยกโค้งขึ้นอย่างเย็นชา“เสิ่นหรูโจว เจ้าใจร้ายยิ่งนัก”“ถ้าเจ้าต้องการหย่ากับข้า ได้ เอาหนึ่งล้านตำลึงทองมา ข้าก็จะปล่อยเจ้าไปเสียตอนนี้เลย”“แค่กลัวว่าคนโง่งมเช่นเจ้าจะไม่สามารถหาหนึ่งล้านตำลึงทองมาได้น่ะสิ!”ขอบตาที่มีหยาดน้ำคลอของเสิ่นหรูโจวแดงก่ำ น้ำเสียงกลายเป็นแหบแห้ง "ข้าทำได้ ข้าทำได้แน่นอน!"ครั้นเซียวเฉินเหยี่ยนเห็นท่าทางที่เด็ดเดี่ยวของนาง หัวใจเต้นผิดจังหวะ และไม่อยากพูดคุยกับนางอีกต่อไป จึงเรียกทหารยามสองสามคนด้วยใบหน้านิ่ง“ใครก็ได้ พาพระชายาออกไปและขังนางไว้ หากไม่ได้รับคำสั่งจากข้าไม่ว่าผู้ใดก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้นาง! จับตาดูอย่างเข้มงวด!”ทหารยามตอบน้ำเสียงแข็งขัน: “ขอรับ!”เมื่อได้ยินเช่นนี้ก็มองเซียวเฉินเหยี่ยนแล้วหัวเราะเย้ยหยัน“อย่าแตะต้องข้า ข้าเดินเองได้”เอ่ยจบ นางก็หลีกเลี่ยงทหารยามและเดินจากไปเองเสิ่นหรูโจวถูกพาตัวไปแล้ว อารมณ์ของเซียวเฉินเหยี่ยนถึงได้สงบลง ใบหน้าหล่อเหลาของเขาฉายแววเย็นชา “จวินอู่”จวินอู่ปรากฏตัวขึ้นทันที “ท่านอ๋อง มีอะไรรับสั่งข้าน้อย”เซียวเฉินเหยี่ยนก้าวไปทางห้องหนั
เสิ่นหรูโจวถูกพาไปจนถึงเรือนตนคนที่รับผิดชอบในการพาตัวนางไปคือจ่างหลินคนสนิทของเซียวเฉินเหยี่ยน นอกจากจวินอู่แล้ว เขายังเป็นบุคคลที่สองที่เซียวเฉินเหยี่ยนไว้วางใจชาติก่อนเขาสงสารนางมาก บางครายังช่วยเหลือนางอีกด้วย เป็นคนที่เข้ากันได้ดีกับนางอย่างหาได้ยากในจวนอ๋องแห่งนี้เสิ่นหรูโจวมองสีหน้ามืดมนของเขา ขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางถาม: “จ่างหลิน ชายหนุ่มผู้นั้นเป็นอย่างไรบ้าง”จ่างหลินเหลือบมองนาง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหุนหันพลันแล่น“ท่านยังถามได้โดยไม่ละอายใจ ถ้าไม่ใช่ท่านที่เป็นคนทำร้ายเขา เขาจะเป็นแบบนี้หรือ”“แม้ว่าในยามนี้คุณชายลู่จะยังเคลื่อนไหวไม่ได้ แต่ต้องขอบคุณหมอกง นับว่าช่วยชีวิตเขากลับมาได้แล้ว มิเช่นนั้นจะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นหรือไม่ก็ยังไม่รู้เลย!”ช่วยชีวิตกลับมาได้แล้วเสิ่นหรูโจวถอนใจด้วยความโล่งอก ดูแล้วนางมองไม่ผิด อาการของลู่หวายหนิงคลี่คลายลงบ้างแล้วจริง ๆหากมิใช่ว่าเซียวเฉินเหยี่ยนมาขัดขวางการรักษาของนางกะทันหัน นางคงมีเวลามากอีกหน่อย คาดว่าลู่หวายหนิงคงเกือบจะหายดีแล้วจ่างหลินกอดอกมองนาง ครั้นเห็นนางไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อยจึงเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา“ดูหมอกง
กงฉางจื้อพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง ร่างกายก็ไม่สามารถขยับได้ รูม่านตาขยายกว้างขึ้นในทันใดหญิงมีพิษผู้นี้ทำอะไรกับเขา!เสิ่นหรูโจวมองเขาพลางหยันเหยียด “เป็นอะไรหรือหมอกง มิใช่ว่าท่านเก่งกาจนักหรือ ไยท่านถึงเอาเข็มของข้าออกไม่ได้”นางไม่มีทางยอมให้กงฉางจื้อผูกสัมพันธ์มั่วซั่วกับคนจากจวนผู้สำเร็จราชการแทนได้ เขาเป็นคนของมู่หว่านหรง ชาติก่อนทำร้ายนางและเมี่ยวตงไม่น้อยครั้นตอนนี้เขาออกหน้าแล้ว นี่เป็นยามดีสำหรับนางที่จะจัดการกับเขา ดังนั้นนางจะไม่มีทางปล่อยให้เขามีชื่อเสียงขึ้นพรวดพราดไปมากกว่านี้อีกแล้วกงฉางจื้อไร้ปฏิกิริยาตอบกลับ ดวงตาแดงก่ำ จ้องเขม็งมองไปยังเสิ่นหรูโจวอย่างดุเดือดชั่วช้า กล้าดีเช่นไรมาทำร้ายเขาแบบนี้ รอพระชายารองมาแล้วจะได้เห็นดีกัน!ฉินอวี่ดูตกตะลึงเมื่อเห็นว่ากงฉางจื้อไม่สามารถขยับตัวได้ “หมอกง ท่าน...”เสิ่นหรูโจวแข็งแกร่งเกินไป หรือว่าหมอกงอ่อนแอเกินไป ทำไมเขาถึงได้ถูกตรึงในทันทีเช่นนี้แต่เขายังพูดไม่จบ เสียงหวีดแหลมได้ทำลายความเงียบลง “พระชายา! หยุด!”มู่หว่านหรงยกกระโปรงขึ้น เดินจ้ำอย่างรวดเร็ว ลมปะทะจนทำให้มวยผมบนศีรษะของนางแกว่งไกวไปมาอย่างแรงฉินอวี
“แม้ว่าข้าจะไม่สามารถลืมตาขึ้นได้ พูดไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้ แต่จิตใต้สำนึกของข้านั้นชัดเจนมาก การฝังเข็มสองครั้งของชายอัปลักษณ์นั่นเกือบทำให้ข้าเจ็บตาย!”“ถ้าพี่หญิงคนงามผู้นั้นไม่ให้ยาและฝังเข็มให้ข้า เกรงว่าข้าคงตายไปนานแล้ว! หมอเถื่อนแบบนี้จะช่วยข้าได้อย่างไร”อะไรนะ!ใบหน้าของฉินอวี่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกตกใจ “พระชายาช่วยท่านไว้จริงหรือ!”เช่นนั้นเขาถือว่าหมอกงเป็นหมอมหัศจรรย์และมาดร้ายพระชายา นี่...นี่ไม่ใช่ว่ากำลังช่วยเหลือผู้กระทำความผิดหรอกหรือ!“ตอนนี้พี่หญิงคนนั้นอยู่ที่ไหน” ครั้นลู่หวายหนิงเห็นว่าเขาไม่ได้พูด จึงถามอีกครั้งอย่างเร่งรีบฉินอวี่รีบพูด: “นายน้อยไม่ต้องกังวล ข้าน้อยจะไปเชิญนางมาเดี๋ยวนี้!”ตอนนี้เขาต้องพบเสิ่นหรูโจวทันที!เพื่อไม่ให้เกิดหายนะ!…เสิ่นหรูโจวเพิ่งถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินได้ไม่นาน มู่หว่านหรงก็เข้ามาหาเสียแล้วเสิ่นหรูโจวไม่แปลกใจเลยสักนิด เพราะกงฉางจื้อยังขยับตัวไม่ได้เขาเป็นสุนัขที่เชื่อฟังมู่หว่านหรงมากที่สุด และมู่หว่านหรงจะไม่มีทางยอมแพ้เรื่องของเขามู่หว่านหรงยืนอยู่นอกประตูห้องขัง ใบหน้างามไม่แสดงอาการอ่อนแอใด ๆ อีกต่อไป ใบหน้าของ
เสิ่นหรูโจวกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “เช่นนั้นก็ไม่ผิดแล้ว ในเวลานี้ ความสามารถในการทำงานของตับของพระองค์ได้รับความเสียหายอย่างมากแล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซียวจิ่นซีก็คล้ายจะเจ็บยิ่งกว่าเดิมแล้ว เจ็บจนยืดเอวไม่ขึ้นมองเซียวจิ่นซีที่มีสีหน้าเจ็บปวด เซียวเฉินเหยี่ยนก็ขมวดคิ้ว “เช่นนั้นมีวิธีการรักษาหรือไม่?”เสิ่นหรูโจวมิได้รีบกล่าว นางหยิบขวดยาเล็กๆ ขวดหนึ่งออกมาจากถุงผ้า เทยาลงบนในกลางฝ่ามือเม็ดหนึ่งยื่นไปที่เบื้องหน้าเซียวจิ่นซี “ทรงเสวยสิ่งนี้ลงไปก่อน” เซียวจิ่นซีฝืนยืดเอวขึ้น มองเสิ่นหรูโจวด้วยสีหน้าหวาดระแวง “นี่คือสิ่งใด?”“สายพระเนตรขององค์หญิงทรงไม่ดีหรือเพคะ นี่คือยาอย่างไรเล่าเพคะ”เซียวจิ่นซีไม่เชื่อว่าเสิ่นหรูโจวจะปรารถนาดีเช่นนี้ ลังเลอยู่นานไม่ยอมรับไปเสิ่นหรูโจวจึงชักมือกลับมา กล่าวอย่างไม่อนาทรร้อนใจว่า “ไม่เสวยก็ช่างเถอะ ปล่อยให้ทรงปวดตายก็แล้วกัน” เซียวจิ่นซีกัดฟัน คว้าแย่งมาจากนั้นยัดเข้าปากไปเสิ่นหรูโจวโค้งริมฝีปาก หัวเราะอย่างเย้ยหยันทีหนึ่ง จากนั้นจึงพูดวิธีการรักษาออกมา “ตับของพระองค์ยามนี้เสียหายแล้ว หากทรงต้องการมีชีวิตรอด ก็จะต้องตัดตับของพระองค์ออก
เซียวจิ่นซีคิดจะบันดาลโทสะอีกครั้ง ทว่าเซียวเฉินเหยี่ยนขมวดคิ้วมองนาง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เสด็จพี่ แทนที่จะทรงตรัสสิ่งใดด้วยโทสะเพื่อความสะใจเพียงชั่วครู่ มิสู้ทรงให้เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้พระองค์อย่างว่าง่ายดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ การรักษาพระวรกายให้หายดีสำคัญที่สุดนะพ่ะย่ะค่ะ"เต๋อเฟยก็เกลี้ยกล่อมเช่นกัน “นั่นสิ จิ่นซี อย่าได้เสียเวลาอีกเลย รีบให้หรูโจวตรวจให้เจ้าเถอะ” สุดท้ายแล้ว เซียวจิ่นซีก็ต้องการรักษาชีวิตตน ไม่ว่าจะเคียดแค้นเสิ่นหรูโจวอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะมาก่อเรื่อง นางจึงแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่ง แล้วก็ไม่กล่าวสิ่งใดอีกเซียวเฉินเหยี่ยนมองไปยังเสิ่นหรูโจว พูดเสียงเบาว่า “นี่เป็นพระบัญชาของเสด็จพ่อ เจ้าก็อย่าได้เอาแต่ใจ” เดิมเสิ่นหรูโจวก็ไม่คิดจะจากไปจริงๆ เพียงแค่ขู่เซียวจิ่นซีไปอย่างนั้น บัญชาของฮ่องเต้ไม่อาจฝืน นอกจากนี้ นางก็จำเป็นจะต้องสร้างโอกาสให้ตนได้หย่าเช่นกันนางเดินกลับไปอย่างเรื่อยเฉื่อย นั่งลงข้างกายเซียวจิ่นซี “รบกวนองค์หญิงทรงยื่นพระหัตถ์ออกมาด้วยเพคะ” สีหน้าของเซียวจิ่นซีไม่น่ามอง ทว่ายังคงทำตามครั้งก่อนที่เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้เซียวจิ
เมื่อเสิ่นหรูโจวได้ยินคำพูดประโยคสุดท้าย สีหน้าก็ผ่อนคลายลงไม่น้อยดูไปแล้ว จนถึงตอนนี้ยังคงถือได้ว่าราบรื่น ด่านเคราะห์ของท่านพ่ออยู่ที่การศึกครั้งสุดท้าย ไม่รู้ว่าเวลานี้ยาของนางส่งไปถึงหรือยัง หากดูตามเวลาก็น่าจะทันการอยู่ขอเพียงท่านพ่อใช้ยาของนาง ก็จะไม่ทิ้งโรคเรื้อรังไว้ในภายหลังแล้วนับแต่ได้ถือกำเนิดใหม่กลับมา นางยังมิได้พบท่านพ่อเลย นางจะต้องทำให้ท่านพ่อกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้เซียวเฉินเหยี่ยนเห็นว่าเมื่อนางได้ฟังข่าวของบิดาและพี่ชาย อารมณ์ก็คล้ายจะสงบลงไม่น้อย จึงลองกล่าวว่า “ในอนาคต เจ้ายังคงแก้นิสัยของเจ้าหน่อยเถิด” เสิ่นหรูโจวเงยหน้ามองเขา “นิสัยของข้าเป็นอย่างไร?”“ทุกครั้งที่เจ้าพบกับองค์หญิงเจาหยาง ล้วนมีเรื่องกันจนตึงเครียด” เซียวเฉินเหยี่ยนพยายามพูดอย่างละมุนละม่อม หวังว่านางจะรับฟัง “ถึงอย่างไรนางก็เป็นเสด็จพี่หญิงของข้า เมื่ออยู่ต่อหน้านาง เจ้าก็แสดงท่าทีที่ดีสักหน่อย อย่าใช้อารมณ์ไปเสียทุกเรื่อง” เสิ่นหรูโจวหัวเราะอย่างเยาะหยันทีหนึ่ง กล่าวอย่างดูแคลนว่า “ท่านอย่าได้มาบงการข้า” บนใบหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนมีความไม่พอใจวาบผ่าน "หากเจ้ามีสิ่งใดไม่พอใจ อยาก
เริ่มจากชายแดนส่งข่าวด่วนมา บิดาและพี่ชายของเสิ่นหรูโจวจึงนำทัพไปช่วยที่ชายแดน ภาพเหตุการณ์เปลี่ยนไป กลายเป็นฉากที่รายงานการรบถูกส่งมา ท่านแม่ทัพเสิ่นถูกธนูของศัตรูยิงทะลุมือ เนื่องจากขาดแคลนยาและสิ่งของทำให้ไม่มียารักษา ทว่าก็ยังคงรบชนะต่อมา หลังจากแม่ทัพใหญ่เสิ่นกลับมาถึงเมืองหลวงพร้อมชัยชนะ ก็ล้มป่วยจนต้องนอนอยู่บนเตียงตลอด ส่วนที่จวนอ๋อง เสิ่นหรูโจวกับมู่หว่านหรงทะเลาะกันครั้ง เขาจึงลงโทษกักบริเวณให้นางสำนึกตน นางบังเอิญเป็นหวัดพอดี จึงนอนซมลุกไม่ขึ้น ทำให้ไม่รู้เรื่องที่ท่านแม่ทัพใหญ่เสิ่นได้รับบาดเจ็บผ่านไปไม่กี่วันเมื่อนางรู้ข่าว ก็มาขอร้องต่อหน้าเขา ต้องการให้เขาไปส่งของบำรุงจำนวนหนึ่งไปให้บิดา เขามองใบหน้าที่อ่อนแรงและซีดขาวของนาง ไม่มีความสงสารแม้แต่น้อย มองดูนางอย่างเย็นชาท้ายที่สุดเขายังคงให้คนไปส่งของ ทว่าเด็กรับใช้ส่งไปในนามของเขา รอจนพวกเขารู้เรื่อง เรื่องราวก็ผ่านไปนานแล้ว ความสัมพันธ์ของเสิ่นหรูโจวและตระกูลเสิ่นก็มาถึงจุดเยือกแข็งแล้วเช่นกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่นางปวดใจอย่างที่สุด และก็เป็นครั้งแรกที่นางใส่อารมณ์กับเขา ดั่งเช่นในยามนี้เซียวเฉิยเหยี่ยนยันรถม้าไว้
สีหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนไม่น่ามองอยู่บ้าง “หรือเจ้าจะให้ข้ายืนรอเจ้าอยู่ด้านนอก?”“ท่านจะนั่งยองลงก็ได้เช่นกัน” ใบหน้าของเสิ่นหรูโจวไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย “ข้าขอบอกท่านไว้เลย เวลานี้ไม่ว่าข้าจะมองท่านที่ใดก็ขัดตาไปหมด หากท่านไม่ต้องการสร้างความอับอายให้ตนเอง ก็อย่าได้มายั่วโมโหข้า!”กล่าวจบ นางก็หมุนตัวเดินเข้าประตูไป จากนั้นปิดประตูลงดัง ‘ปัง’เซียวเฉินเหยี่ยนยืนอยู่ที่เดิม เขากำหมัดแน่นมองประตูใหญ่ที่ถูกปิดสนิท เขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก ทว่าในใจก็เกิดความรู้สึกถึงความแตกต่างขึ้นมาเช่นกันในอดีต ทั้งดวงตาและหัวใจของเสิ่นหรูโจวล้วนมีแต่เขา ไม่มีทางกีดกันเขาไว้ภายนอกอย่างเด็ดขาด ทว่า ในยามนี้ เขาไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะเหยียบเข้าประตูเรือนของนางแล้วอย่างนั้นหรือ?ทว่า ความรู้สึกของคนเปลี่ยนแปลงได้ง่ายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ เหตุใดเขาจึงโชคไม่ดีเช่นนี้ แต่งงานได้เพียงช่วงสั้นๆ สิบกว่าวัน นางก็ไม่หลงเหลือความรักให้เขาแล้วหลังเสิ่นหรูโจวปิดประตูลง ก็เข้าสู่ห้องของตนเมี่ยวตงเดินมาหาพร้อมรอยยิ้ม “คุณหนูกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านอยากทานสิ่งใด บ่าวจะไปเตรียมให้เจ้าค่ะ” “ไม่ต้องแล้
ชาติก่อนมู่หว่านหรงอาศัยว่าได้รับความโปรดปราน มักแย่งของนางอย่างเปิดเผย ของพระราชทานที่ในวังประทานให้ชายาเอกทุกงานเทศกาลนางก็จะแย่ง ไปช่วยเหลือราษฎรจนสร้างผลงาน นางก็จะแย่งอีก เซียวเฉินเหยี่ยนไม่เคยสนใจแม้แต่น้อย เวลานี้ยิ่งดี แม้แต่ตัวเขาเองก็จะมาแย่งรางวัลของนางด้วย!เซียวเฉินเหยี่ยนถูกคำพูดของเสิ่นหรูโจวซัดไปเป็นชุด ทำให้ภายในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่บ้างเขาจับข้อมือเสิ่นหรูโจวแน่นไม่ยอมปล่อย ความโมโหในก้นบึ้งของดวงตาปรากฏขึ้นแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนเป็นความมืดมิด จับจ้องไปที่เสิ่นหรูโจวแล้วกล่าวว่า “หากข้าไม่ชิงลงมือก่อนเจ้าก้าวหนึ่ง เจ้าก็คงจะไปขอให้เสด็จพ่อประทานการหย่าให้แล้ว” “ไม่ผิด!” เสิ่นหรูโจวตอบอย่างไม่ลังเลนี่เป็นเรื่องที่นางเฝ้าปรารถนา รอคอยมาสองชาติ!“เจ้า…" เซียวเฉินเหยี่ยนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ รู้สึกว่าอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อนนับหมื่นอัดอั้นอยู่ในอก อึดอัดจนหายใจไม่ออก”โดยพื้นฐานแล้ว เขาดูแคลนต่อการแย่งผลงานสตรี ที่ทำเช่นนี้ ประการแรก เป็นเพราะจดหมายฉบับนั้นของมู่หว่านชิง ประการที่สอง…เขาคิดได้ว่า เสิ่นหรูโจวจะใช้คำสัญญานี้มาหย่ากับเขา เขารู้สึกไม่อยากห
ฉินหมิงตะลึงไป ถามอย่างไม่แน่ใจว่า “ท่านอ๋องไม่เป็นอะไร? คำพูดนี้ของนายน้อยหมายความว่าอย่างไร?”ลู่หวายหนิงดึงฉินหมิงเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด พยายามระงับความตื่นเต้น ลดเสียงเบาลงแล้วกล่าวว่า “ความหมายก็คือบนร่างของอาจารย์ไม่มีผื่นขึ้น อาจารย์อาการภูมิแพ้ไม่กำเริบตอนอยู่กับพี่สาวน่ะสิ” ดวงตาทั้งคู่ของฉินหมิงเบิกกว้าง พูดอย่างตกใจว่า “จริงหรือขอรับ?”ลู่หวายหนิงหัวเราะออกมา “จริงแท้แน่นอน ข้าทำการยืนยันแล้ว” ฉินหมิงรู้สึกไม่อยากเชื่อ “หลายปีมานี้ ไม่ว่าสตรีนางใดสัมผัสท่านอ๋อง ก็ล้วนทำให้ท่านอ๋องเกินอาการแพ้ มีเพียงหญิงที่นายท่านพบในปีที่แล้วนางนั้นที่ไม่เป็นไร” “พูดไปแล้ว ตามหาสตรีนางนั้นไม่เจอเสียที ช่างน่าเสียดายนัก คิดไม่ถึงว่าพระชายาของอ๋องอู่เฉิงก็ไม่ทำให้นายท่านเกิดอาการแพ้เช่นกัน ช่างเป็นเรื่องดีจริงๆ ราวสวรรค์ได้สรรค์สร้างมา” “นั่นสิ!” ลู่หวายหนิงเห็นด้วยอย่างมาก “อาจารย์หาผู้หญิงคนนั้นไม่เจอสักที อย่างนั้นพี่สาวก็เป็นคู่ชะตาที่สวรรค์ลิขิตมาให้อาจารย์แล้ว! ถ้าพวกเขามาอยู่ด้วยกันเร็วหน่อยก็ดี ข้าแทบรอวันนั้นไม่ไหวแล้ว!”ฉินหมิงพยักหน้า จากนั้นก็รีบส่ายหน้าอย่างรุนแรงทันที “
ในขณะที่พูด เขาก็ยื่นศีรษะเข้าไป มองซ้ายมองขวาเป่ยซิวเยี่ยนยื่นมือออกไปผลักหัวของเขาเบาๆ “ไม่ต้องดูแล้ว ไม่มีหรอก” ลู่หวายหนิงตกใจอย่างมาก ดวงตาเบิกจนกลมโตมองไปที่เป่ยซิวเยี่ยนบนใบหน้าเย็นชาดุจน้ำแข็งของเป่ยซิวเยี่ยน ก็มีความประหลาดใจอยู่อย่างเลือนรางเช่นกันลู่หวายหนิงยังคงรู้สึกไม่ยากที่จะเชื่ออยู่บ้าง จึงทำการยืนยันอีกครั้ง “อาจารย์ขอรับ เมื่อครู่พี่สาวสัมผัสถูกท่านแล้วใช่หรือไม่ขอรับ?” เป่ยซิวเยี่ยนเอนกายไปด้านหลัง พิงลงบนพนักเก้าอี้ ดวงตาล้ำลึกดุจบึงน้ำอันเยือกเย็นหรี่ลงเล็กน้อยเรื่องที่เขาเป็นภูมิแพ้ผู้หญิงมีน้อยคนนักที่จะรู้ เมื่อครู่คิดจะหยุดนางเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง แต่กลับทำให้เรื่องกลับตาลปัตรไปกุมมือของนางเข้าโดยบังเอิญ จนเกิดเป็นผลลัพธ์ที่ไม่ได้ตั้งใจขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ เขามั่นใจว่าอีกครู่อาการของตนต้องกำเริบ จึงปล่อยให้นางเปลี่ยนยาให้ตนเสียเลย คิดไม่ถึงว่า จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีอาการผิดปกติอะไรอาการคันชาบริเวณเอวคล้ายจะยังไม่จางหายไป ปลายนิ้วที่เย็นเล็กน้อยตกลงบนหน้าท้องของเขาครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับการยั่วเย้า เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ลู่หวายหนิงร้อ
เป่ยซิวเยี่ยนมองดวงหน้าที่งดงามดั่งหยกของนาง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความคาดหวัง หัวใจของเขาก็อ่อนลงอย่างน่าประหลาด “ในเมื่อข้ารับปากเจ้าแล้ว ก็ไม่มีทางผิดคำสัญญา เพราะถึงอย่างไรพวกเราก็ต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน”เสิ่นหรูโจวพลันหัวเราะออกมาแล้ว มองเป่ยซิวเยี่ยนอย่างซาบซึ้ง “ท่านผู้สำเร็จราชการ ท่านเป็นคนดีจริงๆ ข้าจะต้องพยายามสุดความสามารถเพื่อรักษาท่านให้ได้แน่” ไม่ว่าในชาติก่อนเขาจะก่อกบฏ เพราะเหตุใด เหตุใดจึงถูกคนขนานนามว่าเป็นพญามัจจุราชที่มีชีวิต แต่สำหรับนางแล้ว เขาก็คือคนดีคนหนึ่งเป่ยซิวเยี่ยนตะลึงไปเล็กน้อย เมื่อเห็นรอยยิ้มที่แย้มบานราวบุปผาของนาง ริมฝีปากบางก็อดโค้งขึ้นเล็กน้อยไม่ได้เช่นกัน “คำชมของพระชายาช่างแปลกใหม่เหลือเกิน” นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคนพูดว่าเขาเป็นคนดีแปลกใหม่? แปลกใหม่ตรงที่ใดกัน?เสิ่นหรูโจวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ว่าบาดแผลของเขาได้รับการจัดการเรียบร้อยแล้ว นางจึงถือกล่องยาขึ้นมา“ท่านผู้สำเร็จราชการ สองสามวันนี้บาดแผลของท่านกำลังสมานตัว จะคันอย่างมาก เพียงระวังอย่าไปเกาก็จะหายดีแล้ว เช่นนั้นข้าก็ขอตัวก่อนแล้ว” เป่ยซิวเยี่ยนพยักหน้าเบาๆ รอจนเสิ่