หมดสติ!เมื่อได้ยิน สีหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนพลันเปลี่ยนไป “เกิดเรื่องอะไรขึ้น”ผู้มารายงานโค้งคำนับพลางเอ่ยตอบ: “เมื่อครู่หลิงเฟิงมาบอกว่าพระชายารองมีใจไปเยี่ยมเยียนพระชายา แต่พระชายากลับทุบตีคนไม่เลือกหน้า ส่งผลให้พระชายารองโรคหัวใจกำเริบและอาการแย่อยู่พักหนึ่ง”แววเยือกเย็นปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของเซียวเฉินเหยี่ยน ทันใดนั้นจึงยิ้มเย้ยหยันที่แท้เสิ่นหรูโจวยังคงเป็นเสิ่นหรูโจวคนเดิมที่ขี้หึงและขี้อิจฉาจากท่าทีของนางที่มีต่อมู่หว่านหรง เช่นนั้นจะต้องการหย่ากับเขาจริง ๆ ได้อย่างไรแล้วเขายังสัมผัสได้ว่าเสิ่นหรูโจวเปลี่ยนไปแล้ว ฮ่าฮ่าเขายืนขึ้นสวมเสื้อคลุม วางหนังสือสัญญาไว้บนโต๊ะก่อนเอ่ยสั่งจวินอู่“เก็บหนังสือสัญญาให้ดีแล้วตามข้าไปเยี่ยมเรือนชิงจู”หว่านหรงเป็นน้องสาวของหว่านชิง อีกทั้งเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตของเขาด้วย เขาสัญญากับนางว่าจะปกป้องนางไปตลอดชีวิต…เซียวเฉินเหยี่ยนเร่งรีบเข้าไปในเรือนของมู่หว่านหรง หลิงเฟิงย่อตัวคารวะเขา เขาสาวเท้าก้าวเข้าไปในห้อง เมื่อมองแวบเดียวก็ได้เห็นว่ามู่หว่านหรงหงายหน้าขึ้นฟ้า ใบหน้าของนางเผยความเจ็บปวดเต็มกลืนร้องครวญครางเสียงแผ่ว
“อีกอย่าง จวินอู่ไม่ได้บอกท่านว่าข้าทุบตีคนอื่นหรือไร หรือว่าท่านคิดว่าข้ายังถูกข่มเหงได้ง่ายเช่นเมื่อก่อน”ความเจ็บของเซียวเฉินเหยี่ยนหายไป เขามองนางพลางคลายความสงสัยเล็กน้อย บางทีนางอาจจะแทงเข็มโดยมิมีหลักการใดก็เป็นได้ มีความถมึงทึงบนใบหน้าหล่อเหลาไร้ผู้เทียบเคียง“เจ้าน่ะหรือถูกข่มเหงได้ง่าย เจ้าทุบตีนางจนหมดสติ จนโรคหัวใจกำเริบ จิตใจโฉดชั่วเช่นนี้ก็เรียกว่าถูกข่มเหงด้วยหรือ แล้วหว่านหรงไปทำอันใดให้เจ้าขุ่นเคือง เจ้าถึงต้องทำร้ายนางรุนแรงเพียงนั้น”เสิ่นหรูโจวยิ้มเหยียดหยัน ลำคอแดงก่ำ ในคอรู้สึกราวกับถูกไฟแผดเผาแม้เซียวเฉินเหยี่ยนจะพบเพชรตัดเพชร วางกลยุทธ์เผด็จศึกในระหว่างทางยึดครองราชบัลลังก์ แต่ตราบใดที่เกี่ยวข้องกับสองพี่น้องนั่น ไม่ว่าจะทำอะไรเขาก็ยังคงโง่เขลา แม้แต่สตรีที่แสร้งทำตัวใสซื่อเช่นมู่หว่านหรงซึ่งมีกลอุบายต่ำเตี้ย เพียงบุญคุณก็สามารถทำให้เขาหัวหมุนได้แล้ว“นางดูแคลนข้าดุด่าข้า ข้าก็ควรจะตอบแทนความกรุณาสิ ทำไมหรือ พระชายาผู้ยิ่งใหญ่เช่นข้าหรือจะสอนบทเรียนให้ชายารองไม่ได้เลยท่านบอกว่าข้าโฉดชั่วแต่ท่านก็ลงมือกับชายาของตนโดยไม่ถามไถ่เรื่องราว หรือท่านไม่โหดร้าย ไ
ดวงตาของจวินอู่ขยับเล็กน้อย “ขอรับ ข้าน้อยรับคำสั่ง”ครึ่งชั่วยามต่อมาเสิ่นหรูโจวเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสีแดงสดขับผิวขาวของนาง ชุดสีแดงยังทำให้ใบหน้าใสซื่อของนางดูเย้ายวนยิ่งขึ้น นางสวมผ้าคลุมหน้าแล้วเดินตรงออกจากจวนอ๋องท้ายที่สุดแล้วเสิ่นหรูโจวอาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายปี ย่อมรู้จักจวนอ๋องดี เดินหลบหลีกหูตาทุกคนและเข้าไปในร้านขายยานาม “อวิ๋นเซิง” ทางตะวันตกของเมืองเถ้าแก่กำลังคำนวณสมุดบัญชี เงยหน้าขึ้นมองนางปราดเดียว และคิดจะไปทักทายนางอย่างอบอุ่น ทว่าเห็นเสิ่นหรูโจววางกล่องยาไว้บนโต๊ะจนเกิดเสียง “กึก” พลันเสียงชัดเจนดังมาจากใต้ผ้าคลุมหน้า“เถ้าแก่ ข้ามีการค้า ท่านอยากจะเจรจาหรือไม่”ครั้นเถ้าแก่เห็นว่านางมาที่นี่เพื่อทำการค้า ความกระตือรือร้นก็ลดลงทันใด “คุณหนู ท่านอยากเจรจาการค้าใดเล่า”“ช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา ได้ยินว่าผู้คนจำนวนไม่น้อยเป็นภูมิแพ้ น่าจะมีคนมาซื้อยาเยอะเลยสินะ”เสิ่นหรูโจวแย้มยิ้มเล็กน้อย เปิดกล่องหยิบขวดกระเบื้องสีเขียวขนาดเล็กออกมาหนึ่งขวด“ข้ามียาทาที่มีกลิ่นเฉพาะตัว มีฤทธิ์เหมาะสำหรับโรคภูมิแพ้ จึงต้องการเจรจาความร่วมมือกับท่าน”กล่องยาอันล้ำค่าของนางหยิบจั
เสิ่นหรูโจวเข้าไปในหออวี้เหอ ห่อขนมแป้งกรอบและไก่ย่างดอกกุ้ยอวี่สองส่วนทว่าของในมือยังไม่ได้ส่งต่อก็ได้ยินเสียงที่ทั้งคุ้นหูทั้งน่ารำคาญดังขึ้นมา...“จิ๊จิ๊ บังเอิญจังเลยนะ ท่านกับข้าพบกันทุกที่เลย”เสิ่นหรูโจวกวาดมองคนที่เดินเข้ามาในปราดเดียว ครั้นเห็นหลิงเฟิงเดินประคองมู่หว่านหรงเข้ามา ดวงตาพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา ส่งเสียงจิ๊ด้วยความเดียดฉันท์“สามารถกระโดดโลดเต้นได้เร็วเช่นนี้ ดูแล้วข้าคงลงมือเบาเกินไป”สีหน้าของมู่หว่านหรงแข็งค้าง แท้จริงแล้วหัวใจของนางยังคงเจ็บอยู่ เพียงแต่บรรเทาลงบ้างแล้วแต่หลิงเฟิงบอกว่าท่านอ๋องสั่งสอนเสิ่นหรูโจวอย่างฉุนเฉียว อีกทั้งยังได้ยินว่าเสิ่นหรูโจวลอบออกจวน นางจึงยิ่งรู้สึกว่าเสิ่นหรูโจวคงถูกท่านอ๋องตำหนิเป็นแน่ เช่นนั้นถึงได้ออกจวนมาผ่อนคลายอารมณ์!ก่อนนี้เสิ่นหรูโจวมักจะแอบเศร้าโศกอยู่ตลอดหลังจากถูกท่านอ๋องตำหนิ นางย่อมไม่สามารถพลาดโอกาสได้ทีขี่แพะไล่เช่นนี้ ดังนั้นจึงตามมามู่หว่านหรงบิดผ้าเช็ดหน้าด้วยท่าทีอวดดีพลางส่งเสียงหัวเราะ ท่าทางแสนเย่อหยิ่ง“เสิ่นหรูโจว เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว หรือท่านยังจะกล้าเอาเข็มมาแทงข้าอีก เป็นไปได้หรือไม่ว่าท
“แม่นางท่านนี้กล่าวหาผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐานเช่นนี้ได้อย่างไรกัน คุณหนูท่านนี้มีเงินอยู่แล้ว! เกือบเข้าใจผิดคนดี ๆ แล้วไหมล่ะ!”“นั่นสิ รูปร่างหน้าตาสู้เขาไม่ได้ คิดไม่ถึงเลยว่าจิตใจก็ยังเลวเช่นนี้อีก!”มู่หว่านหรงถูกด่าจนหน้าเขียวหน้าซีดเป็นพัก ๆ แต่นัยน์ตากลับแสดงไว้ด้วยอาการงุนงงอย่างชัดเจน นางคว้ามือของเสิ่นหรูโจวพร้อมซักถามด้วยความโกรธ “เสิ่นหรูโจว เจ้ามีเงินมากมายเช่นนี้ได้อย่างไร! พ่อของเจ้าไม่ได้ให้สินเดิมกับเจ้าด้วยซ้ำ พูด เจ้าไปขโมยเงินเหล่านี้มาจากที่ใด! จากในจวนใช่หรือไม่!!”ขโมย!เสิ่นหรูโจวหยิบของตัวเองคืนจากมือเถ้าแก่ร้านอย่างไม่เร่งรีบ จากนั้นถึงหันไปหามู่หว่านหรงนางสะบัดมือของมู่หว่านหรงออกแล้วฟาดลงที่หน้าของมู่หว่านหรงอย่างแรงสองทีเสียง “เพียะ เพียะ” ดังสนั่นชัดเจน!รอยฝ่ามือเดิมบนหน้าของมู่หว่านหรงเพิ่งหายไป แล้วก็เกิดรอยใหม่ขึ้นอีกครั้ง แก้มทั้งสองข้างเจ็บแสบไปหมด“เจ็บนะ!”หลิงเฟิงชะงักตาค้างทันที นางพยุงมู่หว่านหรงและกล่าว “พระชายารอง!”เสิ่นหรูโจวดึงมือกลับพร้อมกวาดมองพวกนางด้วยสายตาเย็นเยือกดั่งผู้อยู่เหนือกว่าท่านพ่อกับท่านพี่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
เสิ่นหรูโจวไม่เอาชีวิต แต่นางเอา!มู่หว่านหรงเรียกเถ้าแก่ร้านอีกครั้ง “ท่านยังไม่รีบห้ามนางอีก ถ้าคนคนนี้ถูกนางรักษาจนตายขึ้นมา ร้านของท่านยังเปิดได้อีกหรือไม่!”เถ้าแก่ร้านฟังแล้ววิ่งไปหยิบไม้ปัดฝุ่นด้านข้างและขับไล่เสิ่นหรูโจวออกไปทันที“เจ้าไม่รู้วิชาแพทย์แล้วจะหาเรื่องอีกทำไม หากเกิดคนตายขึ้นมา นายท่านขุนนางจะปรับเงินข้านะ!”เสิ่นหรูโจวไม่สบอารมณ์ต่อความไม่เอาถ่านของเถ้าแก่ร้าน: “หากท่านยังห้ามข้าอีก ถึงจะมีคนตายเกิดขึ้นจริง ๆ!”เพิ่งพูดเสร็จ คนหนุ่มตรงพื้นกระตุกรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ลมหายใจก็ถี่ขึ้นกว่าเดิมราวกับจะหยุดหายใจวินาทีถัดไปทันที!เสิ่นหรูโจวไม่มีเวลาต่อล้อต่อเถียงกับคนเหล่านี้อีก เข็มหลายด้ามถูกหยิบออกจากชุดแดงสดของนางและอยู่บนนิ้วที่สวยงามของนาง“หลีกไปให้หมด ข้ารู้วิชาแพทย์ หากเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ ข้าจะรับผิดชอบเอง!”สีหน้าของทุกคนเปลี่ยน เมื่อเห็นนางเผยความสามารถของตนเองและถูกนางบังคับจนถอยออกไปหนึ่งก้าวเสิ่นหรูโจววิ่งเข้าไปทันที สีหน้าของคนหนุ่มเริ่มกลายเป็นสีม่วง เขามีเหงื่อออกทั่วร่างกายและหายใจเสียงหวีดไม่ขาดสายไม่ได้การล่ะ คนหนุ่มใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว!นางค
ถึงตอนนั้น ทั้งเมืองหลวงยังต้องหวั่นกลัว“ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว” คนหนุ่มส่ายหัวและไม่มีการหายใจถี่กับกระตุกอีก ลมหายใจกลับคืนปกติช้า ๆ จากนั้นมองหน้าเสิ่นหรูโจว “โชคดีที่พี่สาวท่านนี้ช่วยข้าไว้ทัน”ทุกคนรอบตัวไม่มีใครเชื่อ แม้แต่มู่หว่านหรงก็ยังตะลึงตาค้างอย่าบอกนะว่า เสิ่นหรูโจวรู้วิชาแพทย์จริง ๆ ! ที่นางทำลงไปเมื่อครู่นี้ นางกำลังช่วยคนจริง ๆ!ฉินอวี่มองเสิ่นหรูโจด้วยความรู้สึกผิดและรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจ เขายกมือขึ้นประสานและกล่าวอย่างเคารพ: “ข้าขอขอบใจแม่นางมากที่ช่วยนายน้อยของข้า เมื่อครู่นี้ข้าเสียมารยาทกับท่าน ได้โปรดแม่หญิงให้อภัยข้าด้วย”เสิ่นหรูโจวไม่โกรธเขา ญาติของผู้ป่วยเกิดอาการใจร้อน กังวลใจย่อมเป็นเรื่องสมเหตุผล เมื่อนึกย้อนไปชาติที่แล้วที่นางอดทนอดกลั้นนานนับหลายปี ทุกครั้งที่อาการของนางกำเริบ เมี่ยวตงก็ใจร้อนจนสามารถดึงหนวดหมอหลวงได้จนเกลี้ยงนางกำลังจะตอบกลับ แต่มู่หว่านหรงกลับพูดแทรกขึ้นมา“นางเพียงโชคดีก็เท่านั้นที่ช่วยนายน้อยของท่านไว้ได้โดยบังเอิญ ท่านไม่ต้องเก็บใส่ใจ”มู่หว่านหรงไม่ชอบท่าของคนอื่นที่แสดงความนอบน้อมต่อเสิ่นหรูโจว ที่สำคัญ นางจะไม่ยอมให้เสิ่นหร
หลิงเฟิงรู้สึกกลัวเล็กน้อย “พระชายารอง…”คนอื่นกำลังดูละครและไม่กล้าส่งเสียงใดเสิ่นหรูโจวยิ้มเยาะ นางรู้สึกชอบใจมากกับท่าทีถูกบีบบังคับของมู่หว่านหรงไม่ใช่ว่ามู่หว่านหรงไม่เคยกล่าวขอโทษมาก่อน แต่สำหรับเสิ่นหรูโจว ที่สำคัญยังเป็นการกล่าวขอโทษต่อหน้าธารกำนัลและยังเป็นครั้งแรกอีก อัปยศอดสูยิ่งนัก!แต่คุณชายน้อย นางไม่สามารถขัดใจได้มู่หว่านหรงมองเสิ่นหรูโจว “ท่านพี่ เมื่อครู่นี้หว่านหรงล่วงเกินท่าน ได้โปรดอย่าเก็บใส่ใจเลยนะเจ้าคะ”“หว่านหรงเพียงแค่รู้สึกว่าตอนท่านพี่อยู่ในจวนแม่ทัพ ท่านไม่เคยร่ำเรียนวิชาแพทย์ฉีหวงมาก่อน กลัวว่าท่านพี่จะพลั้งมือทำร้ายคุณชายน้อย ข้าเลยอดห่วงไม่ได้”จวนแม่ทัพ! ท่านพี่!สีหน้าของฉินอวี่เปลี่ยนไปทันที เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหรือว่า ผู้มีพระคุณของนายน้อยคือพระชายาอู่เฉิง…เสิ่นหรูโจว!แต่เสิ่นหรูโจวเป็นคนไร้ประโยชน์มิใช่หรือ!คนหนุ่มลู่หวายหนิงกลับไม่สนใจ เขายิ้มมองเสิ่นหรูโจว“ท่านพี่ พอใจหรือไม่ขอรับ”เสิ่นหรูโจวรู้สึกดีขึ้นมากเมื่อเห็นท่าทางหงุดหงิดของมู่หว่านหรงที่ไม่สามารถแสดงความโกรธได้ จากนั้นจึงมองลู่หวายหนิง“ทำดีมาก ข้าขอขอบใจ”คนห