แชร์

บทที่ 5

ผู้เขียน: มู่มู่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-02-21 16:37:30
ทันทีที่เสิ่นหรูโจวปิดกล่องยาบนโต๊ะเครื่องแป้ง มันก็หายไปเอง แต่มันติดอยู่ในสมองของนางอย่างน่าอัศจรรย์

นางมองมู่หว่านหรงพาสาวใช้คนสนิทหลิงเฟิงก้าวผ่านคานประตูเข้ามาด้วยสายตาเย็นชา

วันนี้มู่หว่านหรงสวมกระโปรงยาวสีเขียวชอุ่มเรียบ ๆ ศีรษะปักด้วยปิ่นมุกดอกยี่หุบ แม้แต่น้ำมันหอมที่ใช้ก็ยังเป็นกลิ่นหอมพรรณพืชจาง ๆ ที่มู่หว่านชิงใช้เป็นประจำ

นางเป็นแบบจำลองของมู่หว่านชิงในทุก ๆ ด้าน แต่นางรูปงามน้อยกว่ามู่หว่านชิงเล็กน้อย หน้าตาไม่มีความละมุนละไมเช่นนาง

มู่หว่านหรงเหมือนได้กลิ่นฉุนของยาสมุนไพรภายในห้อง จึงขมวดคิ้วมุ่นอย่างรังเกียจพร้อมหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นปิดจมูกกับปาก

“พระชายา รบกวนกลางดึก ท่านคงไม่รังเกียจหว่านหรงใช่หรือไม่เจ้าคะ”

มู่หว่านหรงเพิ่งเข้ามาใกล้ สายตาของนางก็จับจ้องไปที่คอของเสิ่นหรูโจว จากนั้นก็ส่งเสียงดังขึ้นด้วยความไม่เชื่อทันที “ท่านกับพี่เฉินเหยี่ยนร่วมหอกันแล้วหรือเจ้าคะ!!”

เสิ่นหรูโจวกวาดสายตามองนางด้วยความเย็นชา “ถ้าใช่แล้วจะเป็นอย่างไร ไม่ใช่แล้วจะเป็นอย่างไร!”

ชาติที่แล้ว นางได้ร่วมหอกับเซียวเฉินเหยี่ยนจนสำเร็จและมู่หว่านหรงก็มาหาเรื่องเหมือนกัน ตอนนั้นนางรู้สึกไม่สบายทั้งตัวแต่ไม่กล้าล่วงเกินมู่หว่านหรง เพราะนางเป็นผู้มีพระคุณของเซียวเฉินเหยี่ยน ที่สำคัญยังเป็นคนที่แต่งเข้ามาเหมือนกับนางด้วย นางจึงได้แต่ปล่อยให้นางรังแกและทนทุกข์ทรมานอยู่ไม่น้อย

“ท่าน…” เมื่อเห็นนางพูดอย่างมั่นใจ มู่หว่านหรงก็มั่นใจความคิดของตนเองทันที ในแววตานางเต็มไปด้วยไฟแห่งความอิจฉาริษยา “ท่านไร้ยางอายสิ้นดี! กล้าดีอย่างไรปีนขึ้นเตียงของพี่เฉินเหยี่ยน!”

“ข้าไร้ยางอาย!” เสิ่นหรูโจวลุกขึ้นและเดินเข้าไปหามู่หว่านหรงทันที “ก่อนที่เจ้าจะออกเรือน เจ้าก็แบกหน้าที่ไร้ยางอายเข้ามาอยู่ในจวนของสามีของคนอื่น นั่นต่างหากคือไร้ยางอาย คุณธรรมส่วนตัวเสื่อมเสีย คนชั้นต่ำ!”

“ต่อให้วันนี้ขึ้นเป็นพระชายารองแล้ว แต่สันดานก็ไม่เคยเปลี่ยน”

เมี่ยวตงชะงักอึ้ง เมื่อก่อนคุณหนูมีแต่จะหลีกทางให้มู่หว่านหรง เหตุใดวันนี้ถึงด่านางก่อน!!

แถมยังด่าได้รุนแรงขนาดนี้อีก!

มู่หว่านหรงอึ้งตะลึงไม่ต่าง วันนี้เสิ่นหรูโจวเป็นอะไรไป เมื่อก่อนนางไม่มีวันแย้งกลับนางอย่างแน่นอน!

ใบหน้าของนางแดงก่ำ นางทั้งโกรธทั้งอิจฉา “ท่านเป็นถึงพระชายา แต่กลับพูดจาหยาบคายเหลือทนเช่นนี้ ไม่คู่ควรกับพี่เฉินเหยี่ยนเลยสักนิด! จริงสิ หากไม่ใช่เพราะท่านทูลขอพระราชทานงานแต่งกับไท่ซั่งหวง พี่เฉินเหยี่ยนก็คงไม่มีวันแต่งงานกับท่าน!”

เสิ่นหรูโจวหัวเราะเย็นชา “แล้วเจ้าคู่ควรรึ! จริงสิ เซียวเฉินเหยี่ยนอนุญาตให้เจ้าเข้ามาพักในจวนอย่างไม่รู้สึกอับอาย ส่วนเจ้าไม่สนใจเสียงพูดนินทาใด ๆ ดึงดันจะเข้ามาอยู่ให้ได้ เดินเข้าออกจวนพร้อมกับเซียวเฉินเหยี่ยน ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะสูญเสียความบริสุทธิ์และตั้งครรภ์ก่อนแต่งงาน”

“ตอนนี้เซียวเฉินเหยี่ยนให้หนังสือเทียบหมั้นกับเจ้าแล้ว และยังยกเกี้ยวไปรับเจ้าแต่งเข้ามาก็นับว่าเป็นการยินยอมพร้อมใจโดยทั้งสองฝ่ายจนสมดั่งปรารถนาหญิงโฉดชายชั่วอย่างพวกเจ้า สมกับเป็นคู่ที่ฟ้าประทานจริง ๆ!”

เมี่ยวตงกับหลินเฟิงที่ยืนอยู่ด้านข้างแสดงสีหน้าตะลึงทั้งคู่!

คนหนึ่งไม่เคยเห็นคุณหนูของตนเองวาจาคมคายเช่นนี้มาก่อน ส่วนอีกคนหนึ่งไม่เคยเห็นคุณหนูของตนเองถูกเหยียดย่ำเช่นนี้มาก่อน ทั้งคู่มองตาค้างและไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร

“ท่าน!” มู่หว่านหรงงงเป็นไก่ตาแตกยิ่งกว่า นางถูกเสิ่นหรูโจวด่าจนพูดไม่ออก เพราะว่าสิ่งที่เสิ่นหรูโจวพูดออกมาเป็นสิ่งที่นางคิดทุกอย่าง

นางมีฐานะต่ำต้อย อาศัยอยู่ในจวนด้วยสถานะผู้มีพระคุณช่วยชีวิตมานานหลายปี นางต้องการใช้โอกาสนี้เข้าใกล้เซียวเฉินเหยี่ยน หวังไว้ว่าจะได้ร่วมชมฤดูใบไม้ผลิบานและตั้งครรภ์กับเขา จนกลายเป็นพระชายาของเขาจากการมีลูก

แต่น่าเสียดายที่เซียวเฉินเหยี่ยนเป็นสุภาพบุรุษ ปฏิบัติตามกฎระเบียบธรรมเนียม เขาจะแตะต้องนางก็ต่อเมื่อแต่งเข้ามาแล้วเท่านั้น ปรากฏว่าถูกเสิ่นหรูโจวชิงย่างเท้าเข้ามาก่อน นางถึงได้เป็นเพียงพระชายารอง

แต่ความคิดไร้ยางอายเช่นนี้ จะถูกเปิดโปงต่อหน้าทุกคนได้อย่างไร!

นางอับอายขายหน้าและโมโหในทันใดพลางยกแขนขึ้นเตรียมตบหน้าเสิ่นหรูโจว “เสิ่นหรูโจว เจ้าใส่ร้ายข้า ใส่ร้ายท่านอ๋อง เจ้าทำเกินไปแล้ว!”

ฝ่ามือที่ง้างขึ้นยังไม่ทันฟาดลงที่หน้าเสิ่นหรูโจว นางก็ถูกเสิ่นหรูโจวคว้าเอาไว้และยกมือขึ้นตบซ้ายและขวาอย่างรุนแรงทันที นางตบอยู่หลายทีกว่าจะหยุดมือ!

“โอ้ยยย!” มู่หว่านหรงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อหลิงเฟิงได้สติ นางจึงรีบเข้าไปพยุงมู่หว่านหรง “พระชายารอง!”

สองแก้มของมู่หว่านหรงแดงก่ำในทันใด นางทั้งรู้สึกเจ็บและชา ปิ่นปักผมยุ่งเหยิงไปหมด ต้องให้หลิงเฟิงพยุงตัวถึงจะยืนไหว

ตั้งแต่เด็กนางไม่เคยถูกใครตบตีเช่นนี้!

สิ่งที่น่าโมโหยิ่งกว่าคือ คนที่ตบหน้านางคือเสิ่นหรูโจวที่ยอมถอยให้นางเสมอและไม่เคยกล้าหาเรื่องนาง!

มู่หว่านหรงสูดหายใจฮึดฮัดอย่างโมโห นางชี้หน้าเสิ่นหรูโจวอย่างไม่เชื่อสายตา “เจ้ากล้าตบหน้าข้า!!”

เสิ่นหรูโจวมองสภาพไม่เชื่อสายตาของมู่หว่านหรงแล้วหัวเราะขึ้นอย่างเย็นชา

ชาติที่แล้ว แม้ว่ามู่หว่านหรงจะกระโดดโลดเต้นต่อหน้านางอย่างสนุกสนาน แต่ด้วยความกลัวจะทำให้เซียวเฉินเหยี่ยนโกรธ นางก็ไม่เคยลงมือทำอะไรนางเลย จนทำให้มู่หว่านหรงเข้าใจผิดคิดว่านางรังแกได้ง่าย ๆ

และไม่เคยคิดว่านางเองก็เป็นบุตรสาวที่เกิดในครอบครัวนักรบ!

“ใช่ ข้าตบเจ้าเอง ยัยคนหน้าไม่อาย”

“เจ้า!” สีหน้าของมู่หว่านหรงทั้งแดงทั้งดำ นางจ้องหน้าเสิ่นหรูโจวด้วยแววตาแปลกใจและไม่มั่นใจ แต่กลับพูดอะไรไม่ออกท่ามกลางสายตาอันเย็นเยือกของเสิ่นหรูโจว

ความเจ็บแปลบบนใบหน้ายังคงตักเตือนนางว่า เสิ่นหรูโจวในวันนี้แตกต่างจากวันปกติ หรือว่านางเสียสติไปแล้ว…

แต่มู่หว่านหรงสู้ไม่ไหว เนื้อตัวพลันเอนเอียงเหมือนจะล้ม นางยกมือขึ้นจับที่หัวใจและกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง

“หลิงเฟิง รีบไปบอกท่านอ๋อง จู่ ๆ พระชายาก็ลงมือตบตีข้า ตีจนหัวใจข้าเจ็บไปหมด ให้ท่านอ๋องรีบมาช่วยข้า…”
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Meaw Tewika
ลองอ่านก่อน ถ้านางเอกโง่ ไม่อ่านต่อนะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 6

    หลิงเฟิงที่อยู่ด้านหลังคว้าตัวกอดนางอย่างชำนาญ จ้องเสิ่นหรูโจวเขม็งด้วยความขุ่นเคือง: “พระชายา! แม้สถานะของพระชายารองจะไม่ดีเท่าท่าน แต่นางก็หาใช่คนที่ท่านจะรังแกได้ไม่! ข้าจะไปเชิญท่านอ๋องมาเดี๋ยวนี้ ให้ท่านอ๋องลงความเห็นเสียหน่อย!”ตบหน้ากลับเจ็บไปถึงหัวใจ ช่างเป็นเรื่องประหลาดในใต้หล้าเสียจริง!เสิ่นหรูโจวส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยัน เร่งนำเข็มเงินสองเข็มในช่องสุญญากาศออกมาอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันได้สังเกตว่านางเคลื่อนไหวเช่นไรก็เข้าใกล้มู่หว่านหรงเสียแล้ว เพียงออกแรงหนักสองครั้งจึงได้ยินเสียงกรีดร้องแหลมบาดหู…“กรี๊ด!”ใบหน้าของมู่หว่านหรงซีดเผือดกะทันหัน หัวใจเจ็บแปลบ เจ็บปวดจนเหงื่อเย็นผุดขึ้นบนหน้าผาก นางมองเสิ่นหรูโจวอย่างเหลือเชื่อ “ท่าน ท่านทำอะไรข้า!”หลิงเฟิงคิดว่านางกำลังแสดงละครอีกรอบ ครั้นพบว่านางตัวสั่นเทาจากเจ็บปวดจึงมองเสิ่นหรูโจวด้วยความหวาดกลัวจนหน้าถอดสี“พระชายา ท่านทำอะไรกับพระชายารอง!”เสิ่นหรูโจวยังคงยิ้มเล็กน้อย หยิบเข็มเงินกลับมาโดยไม่หลบซ่อน“เจ้าไม่ได้มองหาเซียวเฉินเหยี่ยนเพราะเจ็บหัวใจหรอกหรือ หากหัวใจของเจ้าไม่ได้เจ็บแล้วจะตามหาเขาได้อย่างไร”นางอยากแสด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 7

    หมดสติ!เมื่อได้ยิน สีหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนพลันเปลี่ยนไป “เกิดเรื่องอะไรขึ้น”ผู้มารายงานโค้งคำนับพลางเอ่ยตอบ: “เมื่อครู่หลิงเฟิงมาบอกว่าพระชายารองมีใจไปเยี่ยมเยียนพระชายา แต่พระชายากลับทุบตีคนไม่เลือกหน้า ส่งผลให้พระชายารองโรคหัวใจกำเริบและอาการแย่อยู่พักหนึ่ง”แววเยือกเย็นปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของเซียวเฉินเหยี่ยน ทันใดนั้นจึงยิ้มเย้ยหยันที่แท้เสิ่นหรูโจวยังคงเป็นเสิ่นหรูโจวคนเดิมที่ขี้หึงและขี้อิจฉาจากท่าทีของนางที่มีต่อมู่หว่านหรง เช่นนั้นจะต้องการหย่ากับเขาจริง ๆ ได้อย่างไรแล้วเขายังสัมผัสได้ว่าเสิ่นหรูโจวเปลี่ยนไปแล้ว ฮ่าฮ่าเขายืนขึ้นสวมเสื้อคลุม วางหนังสือสัญญาไว้บนโต๊ะก่อนเอ่ยสั่งจวินอู่“เก็บหนังสือสัญญาให้ดีแล้วตามข้าไปเยี่ยมเรือนชิงจู”หว่านหรงเป็นน้องสาวของหว่านชิง อีกทั้งเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตของเขาด้วย เขาสัญญากับนางว่าจะปกป้องนางไปตลอดชีวิต…เซียวเฉินเหยี่ยนเร่งรีบเข้าไปในเรือนของมู่หว่านหรง หลิงเฟิงย่อตัวคารวะเขา เขาสาวเท้าก้าวเข้าไปในห้อง เมื่อมองแวบเดียวก็ได้เห็นว่ามู่หว่านหรงหงายหน้าขึ้นฟ้า ใบหน้าของนางเผยความเจ็บปวดเต็มกลืนร้องครวญครางเสียงแผ่ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 8

    “อีกอย่าง จวินอู่ไม่ได้บอกท่านว่าข้าทุบตีคนอื่นหรือไร หรือว่าท่านคิดว่าข้ายังถูกข่มเหงได้ง่ายเช่นเมื่อก่อน”ความเจ็บของเซียวเฉินเหยี่ยนหายไป เขามองนางพลางคลายความสงสัยเล็กน้อย บางทีนางอาจจะแทงเข็มโดยมิมีหลักการใดก็เป็นได้ มีความถมึงทึงบนใบหน้าหล่อเหลาไร้ผู้เทียบเคียง“เจ้าน่ะหรือถูกข่มเหงได้ง่าย เจ้าทุบตีนางจนหมดสติ จนโรคหัวใจกำเริบ จิตใจโฉดชั่วเช่นนี้ก็เรียกว่าถูกข่มเหงด้วยหรือ แล้วหว่านหรงไปทำอันใดให้เจ้าขุ่นเคือง เจ้าถึงต้องทำร้ายนางรุนแรงเพียงนั้น”เสิ่นหรูโจวยิ้มเหยียดหยัน ลำคอแดงก่ำ ในคอรู้สึกราวกับถูกไฟแผดเผาแม้เซียวเฉินเหยี่ยนจะพบเพชรตัดเพชร วางกลยุทธ์เผด็จศึกในระหว่างทางยึดครองราชบัลลังก์ แต่ตราบใดที่เกี่ยวข้องกับสองพี่น้องนั่น ไม่ว่าจะทำอะไรเขาก็ยังคงโง่เขลา แม้แต่สตรีที่แสร้งทำตัวใสซื่อเช่นมู่หว่านหรงซึ่งมีกลอุบายต่ำเตี้ย เพียงบุญคุณก็สามารถทำให้เขาหัวหมุนได้แล้ว“นางดูแคลนข้าดุด่าข้า ข้าก็ควรจะตอบแทนความกรุณาสิ ทำไมหรือ พระชายาผู้ยิ่งใหญ่เช่นข้าหรือจะสอนบทเรียนให้ชายารองไม่ได้เลยท่านบอกว่าข้าโฉดชั่วแต่ท่านก็ลงมือกับชายาของตนโดยไม่ถามไถ่เรื่องราว หรือท่านไม่โหดร้าย ไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 9

    ดวงตาของจวินอู่ขยับเล็กน้อย “ขอรับ ข้าน้อยรับคำสั่ง”ครึ่งชั่วยามต่อมาเสิ่นหรูโจวเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสีแดงสดขับผิวขาวของนาง ชุดสีแดงยังทำให้ใบหน้าใสซื่อของนางดูเย้ายวนยิ่งขึ้น นางสวมผ้าคลุมหน้าแล้วเดินตรงออกจากจวนอ๋องท้ายที่สุดแล้วเสิ่นหรูโจวอาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายปี ย่อมรู้จักจวนอ๋องดี เดินหลบหลีกหูตาทุกคนและเข้าไปในร้านขายยานาม “อวิ๋นเซิง” ทางตะวันตกของเมืองเถ้าแก่กำลังคำนวณสมุดบัญชี เงยหน้าขึ้นมองนางปราดเดียว และคิดจะไปทักทายนางอย่างอบอุ่น ทว่าเห็นเสิ่นหรูโจววางกล่องยาไว้บนโต๊ะจนเกิดเสียง “กึก” พลันเสียงชัดเจนดังมาจากใต้ผ้าคลุมหน้า“เถ้าแก่ ข้ามีการค้า ท่านอยากจะเจรจาหรือไม่”ครั้นเถ้าแก่เห็นว่านางมาที่นี่เพื่อทำการค้า ความกระตือรือร้นก็ลดลงทันใด “คุณหนู ท่านอยากเจรจาการค้าใดเล่า”“ช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา ได้ยินว่าผู้คนจำนวนไม่น้อยเป็นภูมิแพ้ น่าจะมีคนมาซื้อยาเยอะเลยสินะ”เสิ่นหรูโจวแย้มยิ้มเล็กน้อย เปิดกล่องหยิบขวดกระเบื้องสีเขียวขนาดเล็กออกมาหนึ่งขวด“ข้ามียาทาที่มีกลิ่นเฉพาะตัว มีฤทธิ์เหมาะสำหรับโรคภูมิแพ้ จึงต้องการเจรจาความร่วมมือกับท่าน”กล่องยาอันล้ำค่าของนางหยิบจั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 10

    เสิ่นหรูโจวเข้าไปในหออวี้เหอ ห่อขนมแป้งกรอบและไก่ย่างดอกกุ้ยอวี่สองส่วนทว่าของในมือยังไม่ได้ส่งต่อก็ได้ยินเสียงที่ทั้งคุ้นหูทั้งน่ารำคาญดังขึ้นมา...“จิ๊จิ๊ บังเอิญจังเลยนะ ท่านกับข้าพบกันทุกที่เลย”เสิ่นหรูโจวกวาดมองคนที่เดินเข้ามาในปราดเดียว ครั้นเห็นหลิงเฟิงเดินประคองมู่หว่านหรงเข้ามา ดวงตาพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา ส่งเสียงจิ๊ด้วยความเดียดฉันท์“สามารถกระโดดโลดเต้นได้เร็วเช่นนี้ ดูแล้วข้าคงลงมือเบาเกินไป”สีหน้าของมู่หว่านหรงแข็งค้าง แท้จริงแล้วหัวใจของนางยังคงเจ็บอยู่ เพียงแต่บรรเทาลงบ้างแล้วแต่หลิงเฟิงบอกว่าท่านอ๋องสั่งสอนเสิ่นหรูโจวอย่างฉุนเฉียว อีกทั้งยังได้ยินว่าเสิ่นหรูโจวลอบออกจวน นางจึงยิ่งรู้สึกว่าเสิ่นหรูโจวคงถูกท่านอ๋องตำหนิเป็นแน่ เช่นนั้นถึงได้ออกจวนมาผ่อนคลายอารมณ์!ก่อนนี้เสิ่นหรูโจวมักจะแอบเศร้าโศกอยู่ตลอดหลังจากถูกท่านอ๋องตำหนิ นางย่อมไม่สามารถพลาดโอกาสได้ทีขี่แพะไล่เช่นนี้ ดังนั้นจึงตามมามู่หว่านหรงบิดผ้าเช็ดหน้าด้วยท่าทีอวดดีพลางส่งเสียงหัวเราะ ท่าทางแสนเย่อหยิ่ง“เสิ่นหรูโจว เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว หรือท่านยังจะกล้าเอาเข็มมาแทงข้าอีก เป็นไปได้หรือไม่ว่าท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 11

    “แม่นางท่านนี้กล่าวหาผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐานเช่นนี้ได้อย่างไรกัน คุณหนูท่านนี้มีเงินอยู่แล้ว! เกือบเข้าใจผิดคนดี ๆ แล้วไหมล่ะ!”“นั่นสิ รูปร่างหน้าตาสู้เขาไม่ได้ คิดไม่ถึงเลยว่าจิตใจก็ยังเลวเช่นนี้อีก!”มู่หว่านหรงถูกด่าจนหน้าเขียวหน้าซีดเป็นพัก ๆ แต่นัยน์ตากลับแสดงไว้ด้วยอาการงุนงงอย่างชัดเจน นางคว้ามือของเสิ่นหรูโจวพร้อมซักถามด้วยความโกรธ “เสิ่นหรูโจว เจ้ามีเงินมากมายเช่นนี้ได้อย่างไร! พ่อของเจ้าไม่ได้ให้สินเดิมกับเจ้าด้วยซ้ำ พูด เจ้าไปขโมยเงินเหล่านี้มาจากที่ใด! จากในจวนใช่หรือไม่!!”ขโมย!เสิ่นหรูโจวหยิบของตัวเองคืนจากมือเถ้าแก่ร้านอย่างไม่เร่งรีบ จากนั้นถึงหันไปหามู่หว่านหรงนางสะบัดมือของมู่หว่านหรงออกแล้วฟาดลงที่หน้าของมู่หว่านหรงอย่างแรงสองทีเสียง “เพียะ เพียะ” ดังสนั่นชัดเจน!รอยฝ่ามือเดิมบนหน้าของมู่หว่านหรงเพิ่งหายไป แล้วก็เกิดรอยใหม่ขึ้นอีกครั้ง แก้มทั้งสองข้างเจ็บแสบไปหมด“เจ็บนะ!”หลิงเฟิงชะงักตาค้างทันที นางพยุงมู่หว่านหรงและกล่าว “พระชายารอง!”เสิ่นหรูโจวดึงมือกลับพร้อมกวาดมองพวกนางด้วยสายตาเย็นเยือกดั่งผู้อยู่เหนือกว่าท่านพ่อกับท่านพี่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 12

    เสิ่นหรูโจวไม่เอาชีวิต แต่นางเอา!มู่หว่านหรงเรียกเถ้าแก่ร้านอีกครั้ง “ท่านยังไม่รีบห้ามนางอีก ถ้าคนคนนี้ถูกนางรักษาจนตายขึ้นมา ร้านของท่านยังเปิดได้อีกหรือไม่!”เถ้าแก่ร้านฟังแล้ววิ่งไปหยิบไม้ปัดฝุ่นด้านข้างและขับไล่เสิ่นหรูโจวออกไปทันที“เจ้าไม่รู้วิชาแพทย์แล้วจะหาเรื่องอีกทำไม หากเกิดคนตายขึ้นมา นายท่านขุนนางจะปรับเงินข้านะ!”เสิ่นหรูโจวไม่สบอารมณ์ต่อความไม่เอาถ่านของเถ้าแก่ร้าน: “หากท่านยังห้ามข้าอีก ถึงจะมีคนตายเกิดขึ้นจริง ๆ!”เพิ่งพูดเสร็จ คนหนุ่มตรงพื้นกระตุกรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ลมหายใจก็ถี่ขึ้นกว่าเดิมราวกับจะหยุดหายใจวินาทีถัดไปทันที!เสิ่นหรูโจวไม่มีเวลาต่อล้อต่อเถียงกับคนเหล่านี้อีก เข็มหลายด้ามถูกหยิบออกจากชุดแดงสดของนางและอยู่บนนิ้วที่สวยงามของนาง“หลีกไปให้หมด ข้ารู้วิชาแพทย์ หากเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ ข้าจะรับผิดชอบเอง!”สีหน้าของทุกคนเปลี่ยน เมื่อเห็นนางเผยความสามารถของตนเองและถูกนางบังคับจนถอยออกไปหนึ่งก้าวเสิ่นหรูโจววิ่งเข้าไปทันที สีหน้าของคนหนุ่มเริ่มกลายเป็นสีม่วง เขามีเหงื่อออกทั่วร่างกายและหายใจเสียงหวีดไม่ขาดสายไม่ได้การล่ะ คนหนุ่มใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว!นางค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 13

    ถึงตอนนั้น ทั้งเมืองหลวงยังต้องหวั่นกลัว“ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว” คนหนุ่มส่ายหัวและไม่มีการหายใจถี่กับกระตุกอีก ลมหายใจกลับคืนปกติช้า ๆ จากนั้นมองหน้าเสิ่นหรูโจว “โชคดีที่พี่สาวท่านนี้ช่วยข้าไว้ทัน”ทุกคนรอบตัวไม่มีใครเชื่อ แม้แต่มู่หว่านหรงก็ยังตะลึงตาค้างอย่าบอกนะว่า เสิ่นหรูโจวรู้วิชาแพทย์จริง ๆ ! ที่นางทำลงไปเมื่อครู่นี้ นางกำลังช่วยคนจริง ๆ!ฉินอวี่มองเสิ่นหรูโจด้วยความรู้สึกผิดและรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจ เขายกมือขึ้นประสานและกล่าวอย่างเคารพ: “ข้าขอขอบใจแม่นางมากที่ช่วยนายน้อยของข้า เมื่อครู่นี้ข้าเสียมารยาทกับท่าน ได้โปรดแม่หญิงให้อภัยข้าด้วย”เสิ่นหรูโจวไม่โกรธเขา ญาติของผู้ป่วยเกิดอาการใจร้อน กังวลใจย่อมเป็นเรื่องสมเหตุผล เมื่อนึกย้อนไปชาติที่แล้วที่นางอดทนอดกลั้นนานนับหลายปี ทุกครั้งที่อาการของนางกำเริบ เมี่ยวตงก็ใจร้อนจนสามารถดึงหนวดหมอหลวงได้จนเกลี้ยงนางกำลังจะตอบกลับ แต่มู่หว่านหรงกลับพูดแทรกขึ้นมา“นางเพียงโชคดีก็เท่านั้นที่ช่วยนายน้อยของท่านไว้ได้โดยบังเอิญ ท่านไม่ต้องเก็บใส่ใจ”มู่หว่านหรงไม่ชอบท่าของคนอื่นที่แสดงความนอบน้อมต่อเสิ่นหรูโจว ที่สำคัญ นางจะไม่ยอมให้เสิ่นหร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 270

    เสิ่นหรูโจวกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “เช่นนั้นก็ไม่ผิดแล้ว ในเวลานี้ ความสามารถในการทำงานของตับของพระองค์ได้รับความเสียหายอย่างมากแล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซียวจิ่นซีก็คล้ายจะเจ็บยิ่งกว่าเดิมแล้ว เจ็บจนยืดเอวไม่ขึ้นมองเซียวจิ่นซีที่มีสีหน้าเจ็บปวด เซียวเฉินเหยี่ยนก็ขมวดคิ้ว “เช่นนั้นมีวิธีการรักษาหรือไม่?”เสิ่นหรูโจวมิได้รีบกล่าว นางหยิบขวดยาเล็กๆ ขวดหนึ่งออกมาจากถุงผ้า เทยาลงบนในกลางฝ่ามือเม็ดหนึ่งยื่นไปที่เบื้องหน้าเซียวจิ่นซี “ทรงเสวยสิ่งนี้ลงไปก่อน” เซียวจิ่นซีฝืนยืดเอวขึ้น มองเสิ่นหรูโจวด้วยสีหน้าหวาดระแวง “นี่คือสิ่งใด?”“สายพระเนตรขององค์หญิงทรงไม่ดีหรือเพคะ นี่คือยาอย่างไรเล่าเพคะ”เซียวจิ่นซีไม่เชื่อว่าเสิ่นหรูโจวจะปรารถนาดีเช่นนี้ ลังเลอยู่นานไม่ยอมรับไปเสิ่นหรูโจวจึงชักมือกลับมา กล่าวอย่างไม่อนาทรร้อนใจว่า “ไม่เสวยก็ช่างเถอะ ปล่อยให้ทรงปวดตายก็แล้วกัน” เซียวจิ่นซีกัดฟัน คว้าแย่งมาจากนั้นยัดเข้าปากไปเสิ่นหรูโจวโค้งริมฝีปาก หัวเราะอย่างเย้ยหยันทีหนึ่ง จากนั้นจึงพูดวิธีการรักษาออกมา “ตับของพระองค์ยามนี้เสียหายแล้ว หากทรงต้องการมีชีวิตรอด ก็จะต้องตัดตับของพระองค์ออก

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 269

    เซียวจิ่นซีคิดจะบันดาลโทสะอีกครั้ง ทว่าเซียวเฉินเหยี่ยนขมวดคิ้วมองนาง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เสด็จพี่ แทนที่จะทรงตรัสสิ่งใดด้วยโทสะเพื่อความสะใจเพียงชั่วครู่ มิสู้ทรงให้เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้พระองค์อย่างว่าง่ายดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ การรักษาพระวรกายให้หายดีสำคัญที่สุดนะพ่ะย่ะค่ะ"เต๋อเฟยก็เกลี้ยกล่อมเช่นกัน “นั่นสิ จิ่นซี อย่าได้เสียเวลาอีกเลย รีบให้หรูโจวตรวจให้เจ้าเถอะ” สุดท้ายแล้ว เซียวจิ่นซีก็ต้องการรักษาชีวิตตน ไม่ว่าจะเคียดแค้นเสิ่นหรูโจวอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะมาก่อเรื่อง นางจึงแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่ง แล้วก็ไม่กล่าวสิ่งใดอีกเซียวเฉินเหยี่ยนมองไปยังเสิ่นหรูโจว พูดเสียงเบาว่า “นี่เป็นพระบัญชาของเสด็จพ่อ เจ้าก็อย่าได้เอาแต่ใจ” เดิมเสิ่นหรูโจวก็ไม่คิดจะจากไปจริงๆ เพียงแค่ขู่เซียวจิ่นซีไปอย่างนั้น บัญชาของฮ่องเต้ไม่อาจฝืน นอกจากนี้ นางก็จำเป็นจะต้องสร้างโอกาสให้ตนได้หย่าเช่นกันนางเดินกลับไปอย่างเรื่อยเฉื่อย นั่งลงข้างกายเซียวจิ่นซี “รบกวนองค์หญิงทรงยื่นพระหัตถ์ออกมาด้วยเพคะ” สีหน้าของเซียวจิ่นซีไม่น่ามอง ทว่ายังคงทำตามครั้งก่อนที่เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้เซียวจิ

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 268

    เมื่อเสิ่นหรูโจวได้ยินคำพูดประโยคสุดท้าย สีหน้าก็ผ่อนคลายลงไม่น้อยดูไปแล้ว จนถึงตอนนี้ยังคงถือได้ว่าราบรื่น ด่านเคราะห์ของท่านพ่ออยู่ที่การศึกครั้งสุดท้าย ไม่รู้ว่าเวลานี้ยาของนางส่งไปถึงหรือยัง หากดูตามเวลาก็น่าจะทันการอยู่ขอเพียงท่านพ่อใช้ยาของนาง ก็จะไม่ทิ้งโรคเรื้อรังไว้ในภายหลังแล้วนับแต่ได้ถือกำเนิดใหม่กลับมา นางยังมิได้พบท่านพ่อเลย นางจะต้องทำให้ท่านพ่อกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้เซียวเฉินเหยี่ยนเห็นว่าเมื่อนางได้ฟังข่าวของบิดาและพี่ชาย อารมณ์ก็คล้ายจะสงบลงไม่น้อย จึงลองกล่าวว่า “ในอนาคต เจ้ายังคงแก้นิสัยของเจ้าหน่อยเถิด” เสิ่นหรูโจวเงยหน้ามองเขา “นิสัยของข้าเป็นอย่างไร?”“ทุกครั้งที่เจ้าพบกับองค์หญิงเจาหยาง ล้วนมีเรื่องกันจนตึงเครียด” เซียวเฉินเหยี่ยนพยายามพูดอย่างละมุนละม่อม หวังว่านางจะรับฟัง “ถึงอย่างไรนางก็เป็นเสด็จพี่หญิงของข้า เมื่ออยู่ต่อหน้านาง เจ้าก็แสดงท่าทีที่ดีสักหน่อย อย่าใช้อารมณ์ไปเสียทุกเรื่อง” เสิ่นหรูโจวหัวเราะอย่างเยาะหยันทีหนึ่ง กล่าวอย่างดูแคลนว่า “ท่านอย่าได้มาบงการข้า” บนใบหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนมีความไม่พอใจวาบผ่าน "หากเจ้ามีสิ่งใดไม่พอใจ อยาก

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 267

    เริ่มจากชายแดนส่งข่าวด่วนมา บิดาและพี่ชายของเสิ่นหรูโจวจึงนำทัพไปช่วยที่ชายแดน ภาพเหตุการณ์เปลี่ยนไป กลายเป็นฉากที่รายงานการรบถูกส่งมา ท่านแม่ทัพเสิ่นถูกธนูของศัตรูยิงทะลุมือ เนื่องจากขาดแคลนยาและสิ่งของทำให้ไม่มียารักษา ทว่าก็ยังคงรบชนะต่อมา หลังจากแม่ทัพใหญ่เสิ่นกลับมาถึงเมืองหลวงพร้อมชัยชนะ ก็ล้มป่วยจนต้องนอนอยู่บนเตียงตลอด ส่วนที่จวนอ๋อง เสิ่นหรูโจวกับมู่หว่านหรงทะเลาะกันครั้ง เขาจึงลงโทษกักบริเวณให้นางสำนึกตน นางบังเอิญเป็นหวัดพอดี จึงนอนซมลุกไม่ขึ้น ทำให้ไม่รู้เรื่องที่ท่านแม่ทัพใหญ่เสิ่นได้รับบาดเจ็บผ่านไปไม่กี่วันเมื่อนางรู้ข่าว ก็มาขอร้องต่อหน้าเขา ต้องการให้เขาไปส่งของบำรุงจำนวนหนึ่งไปให้บิดา เขามองใบหน้าที่อ่อนแรงและซีดขาวของนาง ไม่มีความสงสารแม้แต่น้อย มองดูนางอย่างเย็นชาท้ายที่สุดเขายังคงให้คนไปส่งของ ทว่าเด็กรับใช้ส่งไปในนามของเขา รอจนพวกเขารู้เรื่อง เรื่องราวก็ผ่านไปนานแล้ว ความสัมพันธ์ของเสิ่นหรูโจวและตระกูลเสิ่นก็มาถึงจุดเยือกแข็งแล้วเช่นกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่นางปวดใจอย่างที่สุด และก็เป็นครั้งแรกที่นางใส่อารมณ์กับเขา ดั่งเช่นในยามนี้เซียวเฉิยเหยี่ยนยันรถม้าไว้

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 266

    สีหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนไม่น่ามองอยู่บ้าง “หรือเจ้าจะให้ข้ายืนรอเจ้าอยู่ด้านนอก?”“ท่านจะนั่งยองลงก็ได้เช่นกัน” ใบหน้าของเสิ่นหรูโจวไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย “ข้าขอบอกท่านไว้เลย เวลานี้ไม่ว่าข้าจะมองท่านที่ใดก็ขัดตาไปหมด หากท่านไม่ต้องการสร้างความอับอายให้ตนเอง ก็อย่าได้มายั่วโมโหข้า!”กล่าวจบ นางก็หมุนตัวเดินเข้าประตูไป จากนั้นปิดประตูลงดัง ‘ปัง’เซียวเฉินเหยี่ยนยืนอยู่ที่เดิม เขากำหมัดแน่นมองประตูใหญ่ที่ถูกปิดสนิท เขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก ทว่าในใจก็เกิดความรู้สึกถึงความแตกต่างขึ้นมาเช่นกันในอดีต ทั้งดวงตาและหัวใจของเสิ่นหรูโจวล้วนมีแต่เขา ไม่มีทางกีดกันเขาไว้ภายนอกอย่างเด็ดขาด ทว่า ในยามนี้ เขาไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะเหยียบเข้าประตูเรือนของนางแล้วอย่างนั้นหรือ?ทว่า ความรู้สึกของคนเปลี่ยนแปลงได้ง่ายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ เหตุใดเขาจึงโชคไม่ดีเช่นนี้ แต่งงานได้เพียงช่วงสั้นๆ สิบกว่าวัน นางก็ไม่หลงเหลือความรักให้เขาแล้วหลังเสิ่นหรูโจวปิดประตูลง ก็เข้าสู่ห้องของตนเมี่ยวตงเดินมาหาพร้อมรอยยิ้ม “คุณหนูกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านอยากทานสิ่งใด บ่าวจะไปเตรียมให้เจ้าค่ะ” “ไม่ต้องแล้

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 265

    ชาติก่อนมู่หว่านหรงอาศัยว่าได้รับความโปรดปราน มักแย่งของนางอย่างเปิดเผย ของพระราชทานที่ในวังประทานให้ชายาเอกทุกงานเทศกาลนางก็จะแย่ง ไปช่วยเหลือราษฎรจนสร้างผลงาน นางก็จะแย่งอีก เซียวเฉินเหยี่ยนไม่เคยสนใจแม้แต่น้อย เวลานี้ยิ่งดี แม้แต่ตัวเขาเองก็จะมาแย่งรางวัลของนางด้วย!เซียวเฉินเหยี่ยนถูกคำพูดของเสิ่นหรูโจวซัดไปเป็นชุด ทำให้ภายในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่บ้างเขาจับข้อมือเสิ่นหรูโจวแน่นไม่ยอมปล่อย ความโมโหในก้นบึ้งของดวงตาปรากฏขึ้นแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนเป็นความมืดมิด จับจ้องไปที่เสิ่นหรูโจวแล้วกล่าวว่า “หากข้าไม่ชิงลงมือก่อนเจ้าก้าวหนึ่ง เจ้าก็คงจะไปขอให้เสด็จพ่อประทานการหย่าให้แล้ว” “ไม่ผิด!” เสิ่นหรูโจวตอบอย่างไม่ลังเลนี่เป็นเรื่องที่นางเฝ้าปรารถนา รอคอยมาสองชาติ!“เจ้า…" เซียวเฉินเหยี่ยนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ รู้สึกว่าอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อนนับหมื่นอัดอั้นอยู่ในอก อึดอัดจนหายใจไม่ออก”โดยพื้นฐานแล้ว เขาดูแคลนต่อการแย่งผลงานสตรี ที่ทำเช่นนี้ ประการแรก เป็นเพราะจดหมายฉบับนั้นของมู่หว่านชิง ประการที่สอง…เขาคิดได้ว่า เสิ่นหรูโจวจะใช้คำสัญญานี้มาหย่ากับเขา เขารู้สึกไม่อยากห

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 264

    ฉินหมิงตะลึงไป ถามอย่างไม่แน่ใจว่า “ท่านอ๋องไม่เป็นอะไร? คำพูดนี้ของนายน้อยหมายความว่าอย่างไร?”ลู่หวายหนิงดึงฉินหมิงเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด พยายามระงับความตื่นเต้น ลดเสียงเบาลงแล้วกล่าวว่า “ความหมายก็คือบนร่างของอาจารย์ไม่มีผื่นขึ้น อาจารย์อาการภูมิแพ้ไม่กำเริบตอนอยู่กับพี่สาวน่ะสิ” ดวงตาทั้งคู่ของฉินหมิงเบิกกว้าง พูดอย่างตกใจว่า “จริงหรือขอรับ?”ลู่หวายหนิงหัวเราะออกมา “จริงแท้แน่นอน ข้าทำการยืนยันแล้ว” ฉินหมิงรู้สึกไม่อยากเชื่อ “หลายปีมานี้ ไม่ว่าสตรีนางใดสัมผัสท่านอ๋อง ก็ล้วนทำให้ท่านอ๋องเกินอาการแพ้ มีเพียงหญิงที่นายท่านพบในปีที่แล้วนางนั้นที่ไม่เป็นไร” “พูดไปแล้ว ตามหาสตรีนางนั้นไม่เจอเสียที ช่างน่าเสียดายนัก คิดไม่ถึงว่าพระชายาของอ๋องอู่เฉิงก็ไม่ทำให้นายท่านเกิดอาการแพ้เช่นกัน ช่างเป็นเรื่องดีจริงๆ ราวสวรรค์ได้สรรค์สร้างมา” “นั่นสิ!” ลู่หวายหนิงเห็นด้วยอย่างมาก “อาจารย์หาผู้หญิงคนนั้นไม่เจอสักที อย่างนั้นพี่สาวก็เป็นคู่ชะตาที่สวรรค์ลิขิตมาให้อาจารย์แล้ว! ถ้าพวกเขามาอยู่ด้วยกันเร็วหน่อยก็ดี ข้าแทบรอวันนั้นไม่ไหวแล้ว!”ฉินหมิงพยักหน้า จากนั้นก็รีบส่ายหน้าอย่างรุนแรงทันที “

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 263

    ในขณะที่พูด เขาก็ยื่นศีรษะเข้าไป มองซ้ายมองขวาเป่ยซิวเยี่ยนยื่นมือออกไปผลักหัวของเขาเบาๆ “ไม่ต้องดูแล้ว ไม่มีหรอก” ลู่หวายหนิงตกใจอย่างมาก ดวงตาเบิกจนกลมโตมองไปที่เป่ยซิวเยี่ยนบนใบหน้าเย็นชาดุจน้ำแข็งของเป่ยซิวเยี่ยน ก็มีความประหลาดใจอยู่อย่างเลือนรางเช่นกันลู่หวายหนิงยังคงรู้สึกไม่ยากที่จะเชื่ออยู่บ้าง จึงทำการยืนยันอีกครั้ง “อาจารย์ขอรับ เมื่อครู่พี่สาวสัมผัสถูกท่านแล้วใช่หรือไม่ขอรับ?” เป่ยซิวเยี่ยนเอนกายไปด้านหลัง พิงลงบนพนักเก้าอี้ ดวงตาล้ำลึกดุจบึงน้ำอันเยือกเย็นหรี่ลงเล็กน้อยเรื่องที่เขาเป็นภูมิแพ้ผู้หญิงมีน้อยคนนักที่จะรู้ เมื่อครู่คิดจะหยุดนางเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง แต่กลับทำให้เรื่องกลับตาลปัตรไปกุมมือของนางเข้าโดยบังเอิญ จนเกิดเป็นผลลัพธ์ที่ไม่ได้ตั้งใจขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ เขามั่นใจว่าอีกครู่อาการของตนต้องกำเริบ จึงปล่อยให้นางเปลี่ยนยาให้ตนเสียเลย คิดไม่ถึงว่า จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีอาการผิดปกติอะไรอาการคันชาบริเวณเอวคล้ายจะยังไม่จางหายไป ปลายนิ้วที่เย็นเล็กน้อยตกลงบนหน้าท้องของเขาครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับการยั่วเย้า เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ลู่หวายหนิงร้อ

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 262

    เป่ยซิวเยี่ยนมองดวงหน้าที่งดงามดั่งหยกของนาง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความคาดหวัง หัวใจของเขาก็อ่อนลงอย่างน่าประหลาด “ในเมื่อข้ารับปากเจ้าแล้ว ก็ไม่มีทางผิดคำสัญญา เพราะถึงอย่างไรพวกเราก็ต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน”เสิ่นหรูโจวพลันหัวเราะออกมาแล้ว มองเป่ยซิวเยี่ยนอย่างซาบซึ้ง “ท่านผู้สำเร็จราชการ ท่านเป็นคนดีจริงๆ ข้าจะต้องพยายามสุดความสามารถเพื่อรักษาท่านให้ได้แน่” ไม่ว่าในชาติก่อนเขาจะก่อกบฏ เพราะเหตุใด เหตุใดจึงถูกคนขนานนามว่าเป็นพญามัจจุราชที่มีชีวิต แต่สำหรับนางแล้ว เขาก็คือคนดีคนหนึ่งเป่ยซิวเยี่ยนตะลึงไปเล็กน้อย เมื่อเห็นรอยยิ้มที่แย้มบานราวบุปผาของนาง ริมฝีปากบางก็อดโค้งขึ้นเล็กน้อยไม่ได้เช่นกัน “คำชมของพระชายาช่างแปลกใหม่เหลือเกิน” นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคนพูดว่าเขาเป็นคนดีแปลกใหม่? แปลกใหม่ตรงที่ใดกัน?เสิ่นหรูโจวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ว่าบาดแผลของเขาได้รับการจัดการเรียบร้อยแล้ว นางจึงถือกล่องยาขึ้นมา“ท่านผู้สำเร็จราชการ สองสามวันนี้บาดแผลของท่านกำลังสมานตัว จะคันอย่างมาก เพียงระวังอย่าไปเกาก็จะหายดีแล้ว เช่นนั้นข้าก็ขอตัวก่อนแล้ว” เป่ยซิวเยี่ยนพยักหน้าเบาๆ รอจนเสิ่

DMCA.com Protection Status