แชร์

บทที่ 12 หมาเลียปาก

ผู้เขียน: ฮาลาปัญ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-25 15:05:15

นิ้วเรียวของดารินธิราเกลี่ยหยาดน้ำตาที่ชุ่มเลอะทั่วใบหน้าของตน วาดขายาวนั่งลงด้านข้างร่างสูงที่กำลังก้มหน้าก้มตาร้องไห้ ฝ่ามือวางลงบนแผ่นหลังกว้าง ปลอบประโลมด้วยการตบเบา ๆ ใบหน้าขาวผงกขึ้นหันมอง เผยให้เห็นสภาพของอัจฉริยะหน้าตายที่เลอะเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาของลูกผู้ชาย

ปลายจมูกโด่งคมสันที่แดงอมชมพูนั่นดูไร้เดียงสาราวกับเด็กน้อย ชวนให้มือของเธอรั้งตัวเขาเข้ามา ร่างของเขาเสียหลักลงในอ้อมกอดอุ่นของเธอ

ช่วงเวลานี้เธอจะไม่ผลักไสเขา ขอให้เธอเป็นฝ่ายโอบกอดปลอบใจเขาสักครั้ง แม้ว่ามันอาจจะเป็นครั้งเดียวก็ตาม

ดวงตาแดงของแม็กนัสเบิกกว้าง ยามที่กระพริบน้ำใสก็ไหลรินหยดลงอย่างไม่ขาดสาย เขาตอบรับโดยการโอบกอดแผ่นหลังเล็กแล้วกระชับกอดแน่น 

ดารินธิราลูบแผ่นหลังของเขาขึ้นลงไปมาดุจดั่งมารดาผู้ปลอบโยนบุตรชาย เพราะผู้ชายคนนี้ขาดความรักความอบอุ่นจากครอบครัว เขาจึงเป็นเช่นนี้ ปากร้ายใจดี แต่บางทีก็ตรงแรงแต่จริงใจ และบางครั้งก็เถรตรงจนคนฟังรับไม่ไหว

คงมีแต่เธอเพียงเท่านั้นที่รับทุกการกระทำและคำพูดของเขาได้เสมอ

 ชายหนุ่มยอมผละออกจากอ้อมกอดของร่างบอบบาง จังหวะที่เขาเตรียมจะลุกขึ้นเธอก็รั้งข้อมือของเขาเข้ามา แล้วยื่นปากลงไปประทับที่หน้าผากมนสว่าง

ดวงตาบวมช้ำเบิกกว้างสับสนกับสิ่งที่เธอทำ แต่เพราะเขาทำร้ายเธอก่อนหน้านี้ จึงทำให้เขาไม่สามารถตอบรับความหวังดีของเธอ 

"ผมขอโทษ"

"แม็กนัส คุณโอเคใช่ไหม"

"ผมจะให้ฮัลค์ไปส่งคุณที่บ้าน"

การที่เขาบอกว่าจะส่งเธอกลับบ้านทำไมฟังแล้วมันช่างเจ็บแปลบถึงเพียงนี้ ทั้งที่เธออุตส่าห์ปลอยโยนเขา

คำว่าขอบคุณสักคำก็ไม่มีให้เธองั้นเหรอ "จูบเมื่อกี้พอจะลดค่าความเกลียดได้บ้างไหม ฉันอยากให้มันลดเหลือศูนย์ หรือถ้ามันลดไม่ได้ เราก็เกลียดกันต่อไปดีกว่า"

"ได้ตามนั้น ระหว่างเราเกลียดกันเหมือนเดิมนี่แหละ น่าจะเหมาะสมกันมากที่สุดแล้ว" น้ำเสียงของเขาเอ่ยขึ้นอย่างประชดประชัน

"งั้นคุณก็ช่วยทำตัวให้มีกาลเทศะด้วยนะ หลินเย่ซี อย่าทำตัวเป็นผู้ว่าจ้างป่าเถื่อน ฉันจะคิดว่าจูบเมื่อกี้ก็คือหมาเลียปากล่ะกัน"

แผ่นหลังบางหมุนกายกลับออกไป แม็กนัสชายตามองอย่างปวดใจ เขาทั้งแค้น ทั้งเกลียด แต่ขณะเดียวกันก็บอกความจริงกับเดมี่ไม่ได้ว่า ในความรู้สึกว้าวุ่นเหล่านี้มีคำว่า 'รัก' รวมอยู่ด้วย

สามวันผ่านไป เป็นสามวันที่ยาวนานเหมือนสามเดือน

ตั้งแต่เธอจากคฤหาสน์อาเวนชี่มา ก็ขาดการติดต่อกับนายอัจฉริยะคนนั้น แต่ก็เป็นจังหวะดี เพราะเธอปั่นงานวาดภาพสีน้ำมันของงานนิทรรศการ 'มองสื่อผ่านศิลปะ' เสร็จเรียบร้อย และก็เดินทางมาถึงสถานที่จัดงาน ฟอร์ทเมสัน เซ็นเตอร์ 

"พี่เดมี่คะ ตรงนี้จัดสไตล์นี้โอเคมั้ยคะพี่" กุ๊กไก่ถามขณะที่กำลังช่วยทีมออกาไนซ์ของสถาบันจัดเตรียมงานนิทรรศการอย่างตั้งอกตั้งใจ แต่พอสังเกตุไปที่ใบหน้าของเจ้านายสาวก็ทำให้เธอต้องรีบเดินเข้ามาใกล้ ๆ แล้วตบที่หัวไหล่ของเธอ

"จ้า....เธอว่าไงนะ" 

"ฉันจะถามพี่ว่าสวยถูกใจพี่หรือยัง" 

ดารินธิรากวาดจตามองหาจุดบกพร่องที่ทีมงานของเธอจัดวางชิ้นงานภาพศิลปะและประติมากรรมต่าง ๆ

ทว่าทุกอย่างก็ดูดีเกินความคาดหมาย 

"เป๊ะปัง ไม่ดูรก แล้วก็ชูความโดดเด่นของภาพได้อย่างยอดเยี่ยม" 

"เย้! งั้นพวกเราไปเดินหาอะไรกินที่ฟิชเชอร์แมนวาร์ฟกันมั้ยคะพี่"

"ได้สิ" 

ตอบรับด้วยรอยยิ้มสดใส แต่กระนั้นเมื่อขายาวพลิกหันหลัง ใบหน้าเริดเชิดหยิ่งยโสของฟีโอน่า พาร์สันก็เคลื่อนเข้ามา พร้อมกับเขา บุคคลที่เธอไม่ได้เจอเกือบสามวัน 

"ก็ดู...เรียบหรูแล้วก็เข้ากันกับเงินที่ฉันเปย์ให้เธอไปจัดงานนี้ คุณว่าสวยมั้ยคะแม็ก"

ยิ้มหวานถามชายในชุดสูทสีดำสนิทด้านข้าง แต่เขาทำเพียงส่งยิ้มจาง ๆ ให้เป็นคำตอบ แล้วเดินตวัดปลายเท้าไปทางอื่น มองผ่านดวงตากลมโตของดารินธิราไปในทันที

"ทำไมนังปีศาจนั่นมากับคุณแม็กนัสได้ล่ะเนี่ย โอ๊ย..แล้วที่เขาปั่นเทรนด์ช่วยพี่นั่น มันคืออะไรกันแน่ หรือเขาทำเพื่อเรียกขวัญกำลังใจให้ตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อพี่" 

"พอเถอะน่ากุ๊กไก่ เราไปกันเถอะ"

หญิงสาวเดินหาของกินอร่อยๆ กับทีมงานของบีเดอะไลท์ หลังจากนั้นพอฟ้าเริ่มมืดต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปพักผ่อนตามอัธยาศัย

"กุ๊กไก่เธอกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมก่อนนะ พี่ว่าจะไปถ่ายรูปเก็บไอเดียสำหรับโปรเจค 4D อาร์ทของสถาบันสักหน่อย"

"ได้ค่ะ ยังไงพี่ก็อย่ากลับดึกนะคะ"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 13 การกอดช่วยให้หายป่วย

    ดารินธิราเดินชมบรรยากาศยามค่ำคืนของ Pier 39 ท่าเรือจำนวนมากที่จอดเทียบท่าส่องแสงสีส้มสว่างไสวยามค่ำคืนชวนให้นึกถึงกลิ่นอายของความวินเทจเก่า ๆ ที่คละคลุ้งอยู่รอบท่าเรือคลาสสิคแห่งนี้ แต่การบันทึกภาพเพื่อเป็นไอเดียก็ต้องจบลง พลันใดเมื่อหยาดฝนเทกระหน่ำลงมา พร้อมกับลมกระโชกที่พัดโบกขึ้นมาจากอ่าวซานฟรานซิสโก ทำให้เรือลำใหญ่น้อยทั้งหลายโคลงเคลงตามคลื่นที่ยกตัวขึ้นมากระทบฝั่งเม็ดฝนที่โปรยปรายลงมาเทสาดบงพื้นทางเดินบดบังทัศนียภาพตรงหน้าให้พร่ามัว ผู้คนและนักท่องเที่ยวที่เดินออกมาชมวิวทิวทัศน์แห่กันวิ่งหลบฝนจ้าละหวั่น รวมทั้งเธอด้วย ทันใดเสียงคำรามก็ดังกึกก้อง ไฟฟ้าบริเวณนี้ดับพรึ่บมืดสนิท จึงแทบมองอะไรไม่เห็นและเพราะความรีบร้อนของหญิงสาวทำให้โทรศัพท์ในมือกระเด็นหลุดจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ดารินธิราจึงก้มลงควานหาจนทั่วแต่พอหยิบขึ้นมา แขนเสื้อกลับคล้องเกี่ยวกับร่องไม้ทางเดิน ติดแน่นจนตึงแขนไปหมด พยายามดึงเท่าไหร่ก็ดึงไม่ออกตอนนี้เธอทั้งหนาวทั้งสั่น ปากและฟันกระทบกันเสียงดังจนแทบบรรเลงเป็นเพลง ดวงตาสลดหลี่มองหาความช่วยเหลือ และสะดุดเข้ากับแหวนที่ผู้ชายเย็นชาคนนั้นมอบให้ จึงลองกดแหวนหัวลูกปัดดู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 14 ภรรยาแสนดื้อ

    ฮัลค์ บอดี้การ์ดอาสาให้เจ้านายทั่วราชอาณาจักรขับรถมาส่งเดมี่ที่โรงแรม หญิงสาวหอบหิ้วถุงเสื้อผ้ามากมายเข้ามาแล้วกองลงตรงหน้าของกุ๊กไก่อยู่ตรงหน้าของหญิงสาว เลขาสาวเหลือบตาดูสภาพของเดมี่ที่ดูอิดโรยอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีดำผู้ชายเพียงตัวเดียวเธอก็เผลอคิดจินตนาการไปไกลว่าบอสสาวกับแม็กนัสไปถึงแดนสวรรค์ชั้นเจ็ดเรียบร้อย"พี่กับคุณแม็ก คงไม่ได้แบบว่า" เธอพูดพลางบิดตัวไปมาแล้วทำท่านิ้วชี้ชนกันให้เจ้านายสาวดู "ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ คุณแม็กนัสของเธอแค่ผ่านไปเจอพี่ตอนกำลังพายุฝนเมื่อคืนก็เลยพากลับมาพักที่โรงแรม""งั้นเหรอคะ อ้อ...แล้วพี่จะไปร่วมพิธีเปิดงานนิทรรศการวันนี้มั้ยคะ ชุดสวย ๆ ของพี่ที่เตรียมไว้ฉันก็เอามาเผื่อด้วยค่ะ" "พี่ต้องไปสิ ถ้าพี่ไม่ไปก็ไม่รู้ว่าพวกเธอจะโดนฟีโอน่าเล่นงานอะไรอีก"งานเปิดตัวนิทรรศการมองสื่อผ่านศิลปะที่ฟอร์ท เมสัน เซ็นเตอร์เปิดตัวอย่างสวยงาม ภายในงานหนับหนาฝาคั่งไปด้วยแขกเหรื่อพันธมิตรและศิลปินที่เป็นส่วนหนึ่งของการจัดแสดงผลงานร่วมกันจำนวนมาก ดารินธิรายืนไหว้และส่งยิ้มให้กับช่างภาพและสื่อหลายสำนัก พร้อมกับโพสท่าถ่ายรูปร่วมกับเหล่าแฟนคลับที่ชื่นชอบศิลปินสาวคนนี้ขณะที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 15 ปาตาโกไททัน มาโยรัม

    "คุณกำลังจะไปไหนหรือเปล่า" เดมี่ตัดสินใจถามออกไปตรง ๆ"เอ้า....ฉลาดขึ้นมาหน่อยแล้วนิคุณ""อย่ากวนบาทาได้มั้ยคะ ตอบมาเฉย ๆ ยากนักหรือไง""ตอบคำถามคุณเนี่ยยากที่สุดในโลกเลยล่ะ ความจริงก็ไม่ได้มีอะไร อีกสองวันผมแค่จะไปโจฮัสเนสเบิรก์" "แล้วไปนานแค่ไหนคะ ไอ้ที่ฉันถามก็เพราะ... เพราะว่าจะได้สบายใจ ยิ่งคุณไปนาน ๆได้ยิ่งดี""ผมยังไม่มีกำหนดกลับ ไงล่ะนานสมใจคุณดีมั้ย"หัวใจของดารินธิราเหมือนหล่นวูบหาย ราวกับว่าออกซิเจนบนโลกใบนี้ไม่มีเหลือให้เธอหายใจอีกเหตุผลสำคัญอะไรกันที่เขาต้องไปแบบไม่มีกำหนดเดินทางกลับ แล้วความรู้สึกที่เขายัดเยียดให้เธอล่ะ เขาไม่คิดจะรับผิดชอบบ้างเลยใช่มั้ยความจริงแล้วในใจของอัจฉริยะอย่างเขาที่เอาแต่คิดแต่นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อผดุงความยุติธรรมให้โลก มันมีความรู้สึก 'ผูกพัน' กับผู้หญิงธรรมดาอย่างเธออยู่บ้างไหม ชายหนุ่มผมสีเงินเห็นว่าเธอนิ่งเงียบไร้การถกเถียงต่อปากต่อคำกับเขาก็อดเป็นห่วงความรู้สึกของเธอไม่ได้ แต่เธอจะรู้สึกอะไรกับคนที่ทำเรื่องเลวร้ายกระทบกระเทือนจิตใจเธอสารพัดภายในใจของดารินธิราคงกำลังกระโดดโลดเต้นอยู่เสียมากกว่าที่รู้ว่าผู้ชายน่ารำคาญอย่างเขากำลังจะจากไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 16 คนที่รักเรามากที่สุด

    ดารินธิรานอนคว่ำเหยียดยาวอยู่บนเตียงนอนและอยู่ในชุดนอนเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ที่ยาวคลุมถึงเพียงแค่ช่วงสะโพกกลมกลึง ท่อนล่างใส่ซับในแบบกางเกงเพื่อปกปิดเรียวขาเปล่งปลั่งไม่ให้ดูน่าเกลียด หลังจากที่ชำระล้างร่างกายจนสดชื่นดีแล้ว เพียงแค่หยิบสมุดโน็ตในกระเป๋าออกมาเขียนจดไอเดียอยู่ไม่ถึงยี่สิบนาทีความง่วงก็เข้ามาทำหน้าที่สั่งการให้ร่างกายได้พักผ่อนเดี๋ยวนั้นขณะที่ปาตาโกไททัน มาโยรัม นอนหลับเงียบอยู่บนฟูกของมันโดยไม่รบกวนทาสสาวแต่อย่างใด ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูเรียกดังถึงสองครั้งแต่เจ้าของห้องนอนก็ยังคงหลับเงียบฝันลึกจนคนด้านนอกต้องเป็นฝ่ายเปิดประตูเข้ามาแทน และเห็นว่าหญิงสาวหลับสนิทอยู่บนเตียงนอนด้วยสภาพใบหน้านอนทับอยู่กับสมุดโน๊ดมือข้างหนึ่งยังคงกำดินสอ ชายหนุ่มยกกระเป๋าเดินทางและสัมภาระที่เขาไปขนมาจากโรงแรมซึ่งทีมงานของดารินธิราพักระหว่างงานนิทรรศการที่ ฟอร์ทเมสัน เซ็นเตอร์ เขานึก ๆ แล้วก็รู้สึกตลกกับพฤติกรรมของตนเองอยู่เหมือนกัน เพราะเขาหอบหิ้วดารินธิราไป ๆ มา ๆ ทำให้เธอไม่ได้มีโอกาสนอนพักที่โรงแรมกับทีมงานของตัวเองเลยสักครั้ง ป่านนี้เธอคงคิดในใจอยู่ว่าเขาเป็นคนมักง่ายเห็นแก่ตัว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 17 พี่ใหญ่

    ใบหน้าที่เลอะเทอะคราบน้ำตาสะอื้นเสียงดังแข่งกับเสียงฟ้าร้องคำรามด้านนอกตัวบ้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่กุ๊กไก่โทรเข้ามาหา เธอพยายามหยุดร้องไห้และกดรับโทรศัพท์ของเลขา"จ้ะ ว่าไงกุ๊กไก่""พี่คะ คุณแม็กโอเคไหมคะ""ทำไมคนพรรค์นั้นต้องไม่โอเคด้วยล่ะ""นี่คุณแม็กยังไม่ได้บอกพี่เหรอคะ เฮ้อ!...พ่อพระจริง ๆ ชอบปิดทองหลังพระตลอด""เธอพูดอะไรพี่ไม่เห็นเข้าใจ""ก็คุณแม็กกับมือขวาร่างยักษ์มาหาฉันที่โรงแรม บอกว่าจะมาเอาสัมภาระของพี่ แต่อยู่ดี ๆ ยัยปีศาจฟีโอน่า ก็โผล่พรวดมากับคุณเบลค อาเวนชี่เฉยเลย""เธอหมายถึงพ่อของเขาน่ะเหรอ""ใช่ค่ะ แถมคนของพ่อเขายังจับคุณแม็กลากไปแบบถูลู่ถูกัง พาเข้าไปห้อง ๆ หนึ่งในโรงแรม ฉันเห็นว่าเขาหายเงียบไป กลัวจะเกิดเรื่องไม่ดี ก็เลยโทรตามคุณฮัลค์ที่บอกว่าจะแวะไปซื้ออาหารแมว หลังจากที่คุณฮัลค์มาถึงก็รีบเข้าไปเจรจาพาตัวคุณแม็กออกมา แต่ฉันก็ยืนดูอยู่พักใหญ่กว่าพวกเขาจะกลับออกมา แถมสีหน้าคุณแม็กก็ดูไม่ค่อยดี" "ตกลงเธอรู้หรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น" "ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกค่ะ คุณแม็กไม่ยอมเล่า แต่มันคันปาก ตะกี้ก็เลยโทรหาคุณฮัลค์เพื่อถามตรง ๆ คุณฮัลค์บอกว่าก่อนวันที่คุณแม็กจะมาฟอร์ทเม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 18 ความอดกลั้นผมเหลือแค่ 1%

    สมองของคนฟังเบลอไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินประโยคที่เสียงหวานเอ่ยถามขึ้นอย่างชัดเจนเต็มสองหูสายฟ้าที่ฟาดลงมาดังเปรี้ยงปร้างก็ไม่อาจดับความตื่นเต้นแปลกใหม่ที่ก่อตัวขึ้นในใจ ฮัลค์ทำตาลุกวาวมองเจ้านายหนุ่มพร้อมกับเกาหัวแกรก ๆ แก้อาการเขิน"ทำไมคุณเดมี่ต้องขออนุญาตผมด้วยล่ะครับ ก็ขอกับคุณแม็กเองเลยสิครับ เอ่อ...คุณแม็กครับผมขอตัวก่อนนะครับ" มือขวาคนสนิทเดินสับขาเข้าห้องนอนชั้นล่างของตนเองในพริบตาเดียว เพราะตอนนี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวได้ที่เหลือคงต้องให้เจ้านายหนุ่มของเขาตัดสินใจเอาเองฝ่ามือของดารินธิรายังคงยื่นค้างรอให้เขาจับ แต่ชายหนุ่มก็ยังคงหยิ่งยโส ทำเมินเฉยกับสิ่งที่เธอถาม"จะนั่งตัวเปียกอยู่ตรงนี้ไปยันเช้าเลยเหรอคะ" "คุณพูดอะไรออกมารู้ตัวไหม"หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก้มลงรวบใบหน้าขาวมึนตึงของเขามากอบกุมแล้วบดจูบลงไปยังเรียวปากซีดเซียวนั่นดวงตาของคนโดนปล้นจูบถึงกับลุกวาวตื่นตะลึง กระทั่งปากอิ่มละออก กระซิบบอกข้าง ๆ กกหูร้อนผ่าวของเขา"ขอบคุณสำหรับทุกเรื่องที่คุณทำให้ฉัน หลินเย่ซี"ยิ้มกว้างสดใสและลุกเดินจากเขามาด้วยความรู้สึกกระดากอาย จังหวะที่มือน้อย ๆ กำลังผลั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 19 มาขอลูกสาวแม่

    ดารินธิราออกมาจากห้องนอนของชายหนุ่มได้อย่างโล่งใจ ใจหนึ่งก็อยากรู้ว่าเขาคุยอะไรกับคนในแชทต่อ แต่ว่ามันไม่ใช่กงการอะไรที่เธอจะต้องรับรู้ ต่อให้รู้ก็คงช่วยอะไรเขาไม่ได้อยู่ดี ม๊าว! ม๊าว!"ว่าไง ปาตาโกไททันมาโยรัมสุดหล่อ" หญิงสาวเขี่ยคางของเจ้าเหมียวขี้อ้อนแล้วอุ้มมันขึ้นมานอนบนเตียงด้วยทว่าขณะที่สมองเริ่มเกิดอาการสะลืมสะลือ ร่างสูงก็เข้ามายืนจังก้าอยู่ปลายเตียงเสียแล้ว"ไอ้ปาตาโกไททัน มาโยรัมนี่มันที่ฉัน" พูดกับเจ้าเหมียวที่นอนซุกหลับอยู่บนหน้าท้องของดารินธิรา จนเจ้านายขนฟูลุกบิดขี้เกียจพลางกระโดดตุ้บลงไปหาทาสหนุ่มขี้อิจฉา ทำเป็นออดอ้อนไซ้หน้าขาให้ตายใจแต่พอทีเผลอก็ฝังเขี้ยวแหลมคมลงมาที่ข้อเท้าของเขาอย่างแรง"โอ๊ย! แกไอ้แมวขี้โกง ไปนอนโน่นเลย " เขาทะเลาะกับปาตาโกไททันมาโยรัม แล้วจับเจ้าแมวหนุ่มโยนเข้าไปในห้องนอนของตัวเองขณะที่ใบหน้างัวเงียผุดลุกขึ้นดูพลางใช้มือขยี่ดวงตาชะเง้อมองว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างคนกับแมว"เสียงดังอะไรอีกล่ะคุณ แล้วเจ้าเหมียวล่ะ" "ผมให้ไปนอนที่ห้องผมแทน""ทำไมล่ะคะ""ก็คืนนี้ผมจะนอนกับคุณไง""ห๊ะ!! เดี๋ยว ๆ นอนยังไง ต่างคนต่างหลับ หรือนอนแบบนู๊ดคอนเซ็ปต์" "โฮ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 20 รดน้ำดำหัว

    หญิงสาวเดินตรงไปสะกิดหัวไหล่ ขณะกำลังคุยกับพ่อครัวของร้านอาหาร และพลิกหันกลับตามแรงสะกิด ทันใดนั้นดินสอพองในขันน้ำลายไทยสีเงินของเธอก็ถูกป้ายลงมาที่ใบหน้าขาวใสอย่างว่องไวแม็กนัสเบิกตากว้างไม่ใช่เพราะกำลังรู้สึกเหวอกับสิ่งที่เธอป้ายลงมาทีหน้าซึ่งมาพร้อมกับความหอมจรุงจมูกแบบไทย แต่สิ่งที่เขาไม่ชอบใจนักเพราะแม่ศิลปินสาวดันอยู่ในชุดเดรสสั้น ความยาวกระโปรงนั่นที่เป็นปัญหา เพราะมันยาวเลยเข่ามาเล็กน้อย ทำให้ดูจะสั้นเกินไปสำหรับเขา ดวงตาเรียวสีน้ำตาลเข้มมองสลับซ้ายสลับขวา สอดส่องดูว่ามีสายตาหื่นคู่ไหนบ้างแอบมองแม่แมวเหมียวเดมี่ของเขาอยู่บ้าง "เป็นอะไรคะ ทำไมต้องทำหน้าทำตาล่อกแล่กแบบนั้นด้วยอ่ะ""ก็...กระโปรงมันจะดูสั้นไปหน่อยไหมคุณ""วันสงกรานต์ใครเขาจะมาใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์อยู่ล่ะคะ""ผมว่ามันโป๊ไปหน่อย แต่เอาเถอะ...ให้ใส่แค่ช่วงเทศกาลสงกรานต์เท่านั้นนะ เทศกาลอื่นคุณต้องงด แต่อนุญาตให้ใส่เฉพาะอยู่กับผมคนเดียวเท่านั้น""คุณแม็กครับ อาหารโต๊ะ 12 ได้แล้วครับ" "ครับพ่อครัวแสง" เขาขานรับพ่อครัวแสงด้วยน้ำเสียงดังฟังชัด รับถาดอาหารแล้วเดินไปเสริฟ์ปล่อยทิ้งให้คนขี้เล่นอย่างดารินธิรายืนเก้อเซ็ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25

บทล่าสุด

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 44 ป๋าไม่ใช่แฟน ป๋าเป็นสามี

    หลังจากที่เมื่อวานเขามาส่งเธอที่บ้าน และพูดกับเธอว่า "ดูแลตัวเองให้ดี เพราะอาทิตย์นี้เขาอาจจะไม่มีเวลามาหา" พอได้ยินแบบนั้นใจมันก็แป้วจนบอกไม่ถูก เหมือนมีลางว่าจะเกิดเรื่องโกลาหลอะไรขึ้นทั้งที่เกือบหนึ่่งเดือนมานี้ตอนที่อยู่แอฟริกาใต้เธอตัวติดกับเขาตลอดเวลา ถึงแม้จะมีเรื่องวุ่นวายทั้งหลายเข้ามาแทรกกลางบ้าง แต่เขาก็ตามไปช่วยเธอกลับมาได้ทุกครั้งทว่าเวลานี้.....เธอทำได้แค่ยืนมองดูเขา อยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกผ่านหน้าจอทีวีเท่านั้นน่ะเหรอ เธอไม่สามารถที่จะช่วยอะไรเขาได้เลยพลันใดคำพูดของพี่โมนา ก็สะท้อนดังขึ้นมา ที่บอกว่า "การช่วยใครสักคนไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องจับปืนถือมีด แต่หมายถึงทำในสิ่งที่เราสามารถทำได้ เพื่อเขา""หนูจะไปทำธุระสักหน่อย ฝากทางนี้ด้วยนะคะคุณเบ็ค"บอกกับพนักงานอาวุโสที่สุดของสถาบันและเดินตรงออกไปจากสถาบันทันที"ได้จ้ะ"รถมินิคูปเปอร์ของหญิงสาวแล่นฉิวออกจากลานจอดรถด้วยความร้อนใจไม่นานนักก็ถึงตึกรูปตัวเอ็มสูงใหญ่ที่มองเห็นไกล ๆ ว่ามีคนหัวดำหัวสีหลายคนยืนมุงอยู่หน้าบริษัทจนมองไม่เห็นชายหนุ่มที่เธอเป็นห่วงไมค์หลายตัวยื่นจ่อปาก บางตัวก็เกือบเขกโดนหัวของเจ้

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 43 ออร่าของปาตาโก

    ไม่นานนักความกระจ่างก็มาตั้งอยู่ตรงหน้าของเธอ หน้าจอทีวีขนาด 24 นิ้วลิงค์เชื่อมต่อกับแท็บเล็ตของเขาทันทีที่ปลายนิ้วสวยจิ้มตรงนั้นทีตรงนี้ที พลันนั้นสรีระโครงสร้างร่างกายของปาตาโกไททันมาโยรัมก็ปรากฏขึ้นในรูปแบบกราฟฟิก พร้อมกับตำแหน่งที่ขึ้นเป็นจุดสีแดง และเส้นกราฟแสดงผลบอกระดับของอารมณ์ ระดับพลังงานของร่างกาย ความเครียดและความผ่อนคลายแม้กระทั่งตำแหน่งแสดงภาพรวมว่าผลของร่างกายเป็นบวกหรือลบ สุดท้ายคือพีระมิดที่แสดงขึ้นด้านข้างเหมือนกับสีออร่า"คุณเขียนโปรแกรมนี้เองเหรอคะ ดูเทพทรูมากเลยอ่ะ"จ๊วบ!เรียวปากกระจับของเขาฝังลงบนแก้มนุ่มออกแรงบดด้วยความหมั่นเขี้ยวจนเจ้าของพวงแก้มถึงกับจิกตาเขียวปัด"เอ๊ะคุณนี่! เสียงดังไปแล้วนะคะ""ในห้องมีแต่เรากับแมวหนึ่งตัวที่ป่วยอยู่ จะอายอะไร" "คุณไม่อายแต่ฉันอาย คุณดูหน้ามันสิ มันดูตะลึงมากเลย" หญิงสาวบอกแล้วชี้ไปที่หน้าของปาตาโกไททันที่นั่งจ้องเขม็งมาที่มนุษย์อย่างไม่สบอารมณ์นัก "แกป่วยก็นอนพักไปสิ มานั่งจ้องจับผิดอะไรอยู่ได้" เขาตวาดใส่มันแล้วก็กลับไปดูที่หน้าจอทีวีเช่นเดิม"คุณยังจะไปดุมันอีก สรุปแล้วเจ้าเหมียวเป็นอะไรคะ" ดารินธิราสงสารเจ้าเหมียวท

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 42 จอมเหวี่ยงป่วย

    แม็กนัส ทำท่าทีเป็นรีบทำเป็นดำน้ำนอนอยู่ใต้อ่างจากุชชี่เพื่อแกล้งแหย่เดมี่หลังจากที่เธอบรรจงถอดเสื้อผ้าที่ทั้งเปียกทั้งหนักออกอย่างทุลักทุเล เหลือเพียงแต่ปราการสองชิ้นน้อย ๆ ที่ปกปิดเรือนร่างบางเย้ายวนเอาไว้หญิงสาวค่อย ๆ หันกลับมาเผชิญกับชายหนุ่มในอ่างเก้ ๆกัง ๆ ทว่าพ่อคนเมายากลับไม่ได้นั่งหัวโด่อยู่ตรงนั้นแต่เขากลับนอนอยู่ใต้ผิวน้ำใสของอ่างน้ำร้อนนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง "แกล้งฉันอีกแล้วใช่ไหมคะ เชิญนอนใต้น้ำนั่นไปเลย ฉันไม่สนใจคุณหรอก" เธอยืนจ้องดูเขาเท้าสะเอวรอคอยว่าเขาจะหมดลมหายใจใต้น้ำเมื่อไหร่ แต่เวลาก็ผ่านไปพักใหญ่แล้วน่าจะเกือบสองนาทีทำไมเขายังไม่ขยับเขยื้อนตัวอีก หรือว่าเขาจะเป็นลมใจใต้น้ำจริง ๆด้วยความตื่นตระหนกตกใจหญิงสาวจึงพุ่งพรวดลงไปในอ่าง งัดล่างของเขาขึ้นมา พอดึงร่างของเขาขึ้นมาพิงกับขอบอ่างได้ ฝ่ามือก็รีบตบ ๆ เรียกสติของเขาให้ตื่นขึ้น "นี่คุณอย่ามาล้อเล่นนะ....เย่ซี! คุณตื่นสิ ไม่งั้นฉันจะโกรธคุณจริง ๆ แล้วนะคะ" ประชดประชันใส่และเตรียมลุกออกจากอ่างสวบ!ทันใดนั้นร่างบางถูกรวบเข้าไปกอดอย่างรวดเร็วทำให้เซถลาล้มลงบนหน้าขาแกร่ง"อย่าโกรธผมนะ....ขอร้อง"คนคนเจ้าเล่ห์พูด

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 41 หลอนติดลบ

    ร่างกายของซุนย่าฉงที่กอดก่ายชายหนุ่มในสระว่ายน้ำอยู่นั้นพยายามจะยั่วยวนให้แม็กนัสตบะแตกสายลับแสนเจ้าเล่ห์จึงได้แต่เล่นไปตามบทบาทเพื่อรอจังหวะเหยื่อตายใจ"เวลาคุณเปียกแล้วเซ็กซี่น่าฟัดไปหมด คุณรู้ไหม..เย่ซี" นางนกต่อพร่ำบอกพลางยกฝ่ามือลูบไล้กล้ามหน้าท้องขาวจั๊วะมือหนาจึงรีบเอื้อมมือคว้าแก้วที่มียาหลอนติดลบ 18+ ยาสูตรพิเศษของสมาคมใช้เพื่อทำให้เหยื่อคิดว่าตนกำลังทำกิจกรรมบนเตียงกับคนที่ตนปรารถนา "ดื่มนี่ก่อนสิ"เขายื่นขอบแก้วแตะลงบนริมฝีปากสีเลือดนกของซุนย่าฉง หญิงสาวเหลือบมองอย่างลังเลแต่ก็ยอมรับแก้วดังกล่าวมาดื่มโดยไม่ปฏิเสธ"ก็ได้ค่ะ"ริมฝีปากบางจิบแต่พองาม พลางส่งกลับไปให้แม็กนัสดื่มสายลับหนุ่มจึงต้องจำใจดื่มพราะซุนย่าถิงกำลังคลางแคลงใจในพฤติกรรมของเขาอยู่เช่นเดียวกัน"ครับดื่มก็ได้ คุณว่าไงผมว่าตาม"เหล้าสีใสถูกกรอกผ่านลำคอลงไป ภายในเสี้ยววินาทีความหนาวสะท้านก็แผ่ซ่านเข้ามาปกคลุมผิวกายอย่างเฉียบพลันแม้ยานี้จะแตกต่างกับยาจำพวกเสียสาวตรงที่ให้ความรู้สึกหนาวสั่น แต่สองสามนาทีถัดมายาหลอนติดลบจะสำแดงฤทธิ์ให้เห็นภาพที่เปี่ยมด้วยกิเลสตัณหาภายในจิตใจและตอนนี้มันก็เกิดขึ้นกับเขาจนไม่อา

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 40 เป็นเอามาก

    รถติดฟิลม์อำพรางไม่ให้คนข้างนอกเห็นมาจอดยังชายหาดแซนดี้ใจกลางเมืองเคปทาวน์ตามนัดของซีอีโอผู้ก่อตั้งนิตยสารโมนาลิซ่าชายหาดแห่งนี้ห่างไกลผู้คนเต็มด้วยคลื่นสีครามน้ำใสอันสุขสงบ และโอบล้อมด้วยทิวเขาเขียวขจีเหมาะแก่การใช้เป็นสถานที่ถ่ายแบบมากที่สุด"สวัดสีค่ะพี่โมนา""มาแล้วเหรอจ๊ะ งั้นมาแต่งหน้าทำผมกันเลย เอ้....ปกติเราแต่งตัวแบบนี้เหรอมันดูจะสุภาพไปหน่อยนะพี่ว่า"เจ้าของนิตยสารสาวเอ่ยถามพลางดึงแขนของดารินธิราให้นั่งลงบนเก้าอี้แต่งตัว"คนโน้นค่ะที่อุตริจัดแจงเสื้อผ้าพวกนี้ให้หนูใส่"โมนาเอี้ยวตัวหันไปมองชายหนุ่มด้านหลังที่พกพาบอดี้การ์ดมาคุมกองถ่ายแบบจำนวนหนึ่งคล้ายกับกำลังคุมนักโทษ"โหว.....นี่เป็นขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย""ค่ะ......เป็นเอามาก""โถ ๆ เดมี่ หนูอิศของพี่ก็พอกัน หมอนั่นนะถึงกับประสาทเสียเลยแหละ คิดแล้วก็ขำ เฮ้อ....แล้วถ้าพ่อแฟนอัจฉริยะของเราเห็นชุดถ่ายแบบแต่ละชุดแล้ว จะไม่องค์ลงแย่เลยเหรอ""ช่างเขาเถอะค่ะ จะได้รู้จักมีขันติซะบ้าง แบ่งแยกว่าอะไรคืองานอะไรคือเรื่องส่วนตัว"ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดารินธิราก็ก้าวออกมาจากห้องแต่งตัวเคลื่อนที่ในชุดบีชแวร์สวยสง่าดั่งนางฟ้าที่เดินกรุยกรายอย

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 39 คนเพี้ยน

    ขายาวในเสื้อเชิ้ตสีดำตัวโคร่งนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้วาดรูป หลังจากตื่นนอนภาพเมื่อคืนก็ผุดพรายขึ้นราวกับสตอรี่ที่แสนร้อนรุ่ม ทำให้ต้องควานหากิจกรรมอย่างอื่นทำเพื่อกลบภาพอันซาบซ่านดารินธิรารีบไปบอกฮัลค์ให้จัดหาอุปกรณ์วาดรูปให้เธอ ไม่น่าเชื่อว่าภายในกี่นาทีเขาก็กลับมาพร้อมกับสิ่งที่เธอต้องการ ศิลปินสาวจดจ้องใบหน้าสว่างที่คว่ำแนบอยู่กับหมอนอิงใบใหญ่ "น่ารักน่าหยิกเหลือเกิน"กรอบหน้านวลสว่างงดงามกว่าผู้หญิงดึงดูดใจให้เธออยากตวัดปลายดินสอเพื่อสเก็ตรูปของเขายามหลับใหลอีกครั้งรูปเมื่อห้าปีก่อนของเธอถูกเขาทำลาย เป็นรูปที่เธอแอบวาดเขาตอนกำลังป่วยอยู่ในคฤหาสน์อาเวนชี่ จำได้ว่าตอนนั้นแม็กนัสมีไข้สูง หน้าขาว ๆ ของเขาก็กลายเป็นสีแดงจัด วันนั้นน้าสาวของเธอไปงานเลี้ยงกับพ่อของเขา ทำให้น้ากำชับว่าให้เธออยู่คฤหาสน์อาเวนชี่คอยช่วยแม่บ้านใหญ่คอยดูแลคุณหนูแถมคุณหนูที่ว่าก็คือเด็กหนุ่มอายุ 18 ที่ป่วยนอนซมอยู่ ตอนนั้นเธอที่อายุ 21 ปีก็เป็นเหมือนพี่เลี้ยงเด็กไปอีกคนโดยปริยาย ช่วงนั้นเธอกำลังส่งรูปภาพเข้าประกวดเพื่อชิงรางวัลศิลปินแห่งซิลิคอนวัลเล่ย์ รวมทั้งต้องเฝ้าเด็กหนุ่มที่ย้อมผมสีเทาเงินประชดชีวิต

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 38 หยุดที่รัก

    ยามที่เรียวปากกระจับลากไล้ต่ำลงมายังชายโครง ระดมจูบที่กล้ามเนื้อแน่นตึงแข็งแรง และดูเร่าร้อนช่วงเวลาที่ใบหน้าอิ่มสุขร่ายมนต์อยู่บนเวทีที่ลินคอร์นเซ็นเตอร์เมื่อห้าปีก่อนก็ผุดพรายขึ้นมาในความทรงจำของแม็กนัส"ผมเป็นสาเหตุทำให้คุณเลิกเต้นหรือเปล่า" คำถามถูกพ่นออกมารดลงมายังหน้าท้องแบนราบ ดวงตาเรียวคมเหลือบมองใบหน้าที่แหงนหงายมองเพดานห้อง นัยน์ตากลมโตหลุบมองสบตาพลางผลักตัวของชายหนุ่มออกเบา ๆ ค่อย ๆ หยัดตัวลุกขึ้น ประคองเต้าเปลือยเปล่าอย่างกระดากอาย เรียวขายาวพับเพียบเบียดเข้าหากันเพราะสายตาร้อนที่สำรวจมองอยู่นั้น มันชวนให้กระอักกระอ่วนและเย็นยะเยือก"ไม่ใช่เพราะคุณ แต่....เพราะฉันในเวลานั้นแค่ไม่อยากเป็นเงาของน้า และไม่อยากให้คุณรังเกียจกันไปมากกว่านี้" "โธ่!...เดมี่"ร่างบางสั่นเทาขณะบอกเล่าเรื่องราวเก็บกดมาทั้งชีวิตถูกรวบเข้าไปโอบกอด ฝ่ามือที่ประคองทรวงอกอยู่นั้นเคลื่อนขยับมาโอบกอดแผ่นหลังกว้างนั้นกลับ "คนที่ผมรังเกียจไม่ใช่คุณ แต่เป็นพ่อผมกับน้าของคุณ"พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดันตัวคนที่กำลังสั่นเทาออก ปลายจมูกโด่งฝังลงบนหัวไหล่มนสูดดมความหอมจากเรือนร่าง เคลื่อนมายังไหปลาร้าคู่สวยพ

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 37 ผมมัดมือคุณคนเดียว

    ใบหน้าซีดนั่งเงียบมาตลอดทางที่นั่งรถกลับมากับเขา ตอนนี้เธอไม่อาจให้เขาแตะเนื้อต้องตัวเพราะกลัวว่าจะดูเป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจและไร้ยางอายในสายตาของเขากระทั่งเสื้อที่เขาถอดคลุมผิวกายที่สั่นระริกของเธอก็ยังไม่สมควรจะอยู่บนเรือนร่างนี้ด้วยซ้ำ ถ้าเกิดว่าเขามาไม่ทัน หรือตัดใจทิ้งเธอไป วินาทีนั้นเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงของเขาอีกต่อไปแล้ว "ทำไมคุณต้องนั่งห่างผมขนาดนั้นเดมี่""มี่รู้สึกตัวเอง.....สกปรก"ช่างเป็นคำพูดที่ทำให้คนฟังอย่างเขาหดหู่ใจขึ้นมา ทำไมเธอต้องพูดดูแคลนตัวเองขนาดนี้ เขาไม่เคยมองว่าเธอสกปรกเลยสักนิดหรือเธอเห็นว่าเขาเป็นคนที่รักความสมบูรณ์แบบจึงกลัวว่าตนจะไม่สมบูรณ์แบบสำหรับเขาแม็กนัสพาดารินธิรามาที่พักแห่งใหม่ซึ่งอยู่บนยอดเขาห่างไกลจากอันตราย ซึ่งบนนี้มีกำแพงเขื่อนสูงใหญ่และประตูเหล็กนิรภัยอีกสองชั้นสถานที่แห่งนี้จะใช้เป็นเซฟเฮาส์ทุกครั้งเมื่อมาปฏิบัติภารกิจที่แอฟริกาใต้แต่ด้วยสถานการณ์คับขัน เพราะผู้หญิงของเขาตกเป็นเป้าหมายของพวกกลุ่มเฮริฟ์อย่างไม่ทันตั้งตัว เขาจำเป็นต้องพาเธอมาซ่อนตัวสักพักร่างบางที่กอดก่ายเสื้อสูทตัวนอกที่เขาใช้คลุมปกปิดความล่อแหลมบนเรือนร่าง ค่อย ๆ ปลดอ

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 36 ทวงหัวใจคืนมา

    ปลายหมึกปากกาสีดำที่ลากเส้นบนพื้นผิวกระดาษอยู่นั้นผงะเล็กน้อย เมื่อมีบางอย่างถูกโยนลงมาบนโต๊ะที่เธอบรรจงวาดรูปอยู่ดารินธิรามองชุดตรงหน้าเอื้อมหยิบมากางดูอย่างข้องใจ "คุณลูคัสสั่งให้คุณใส่ชุดนี้แล้วลงไปร่วมงานเลี้ยงของโรงแรมกับเขา" "แต่ชุดนี้มันค่อนข้างจะเซ็กซี่เกินไปหน่อยมั้ยคะ""คุณมีหน้าที่ใส่ก็ใส่ไป" ชายชุดดำกำชับแล้วเดินจากไป "เฮ้อ" ดารินธิราถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่นึกถึงคำพูดที่เคยให้สัญญากับเขาไว้ว่าเธอจะใส่ชุดโชว์เนื้อหนังมังสาแบบนี้ให้เขาดูแค่คนเดียวแต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป ถ้าเธอเกิดหยิ่งยโสอยู่ ไม่รู้ว่าจะโดนกระสุนปืนเจาะหัวเมื่อไรถ้าต้องผิดคำสัญญาที่ให้ไว้ก็คงต้องปล่อยไป เพราะเธอทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากยอมรับชะตากรรมงานเลี้ยงหรูที่ทุกคนมาในธีม 'Midnight' แถมบางคนก็ใส่หน้ากากปิดซะเหลือแต่คอบางคนก็แต่งชุดดำตั้งแต่หัวจรดเท้า สรุปแล้วนี่มันงานอะไรกันแน่ดู ๆ ไปก็คล้ายกับงานรวมตัวของเหล่าวายร้ายยังไงยังงั้น"คุณสวยมาก" "ขอบคุณ" หญิงสาวตอบอย่างกล้ำกลืนทว่ายิ่งเธอทำจองหองใส่เขา มือใหญ่ก็รั้งเอวคอดเข้ามาแนบชิดใบหน้าจิ้มลิ้มจึงสะบัดมองมือที่ทาบกดอยู่บนเอวเปลือยเปล่าของเธออ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status