ใบหน้าที่เลอะเทอะคราบน้ำตาสะอื้นเสียงดังแข่งกับเสียงฟ้าร้องคำรามด้านนอกตัวบ้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่กุ๊กไก่โทรเข้ามาหา เธอพยายามหยุดร้องไห้และกดรับโทรศัพท์ของเลขา
"จ้ะ ว่าไงกุ๊กไก่"
"พี่คะ คุณแม็กโอเคไหมคะ"
"ทำไมคนพรรค์นั้นต้องไม่โอเคด้วยล่ะ"
"นี่คุณแม็กยังไม่ได้บอกพี่เหรอคะ เฮ้อ!...พ่อพระจริง ๆ ชอบปิดทองหลังพระตลอด"
"เธอพูดอะไรพี่ไม่เห็นเข้าใจ"
"ก็คุณแม็กกับมือขวาร่างยักษ์มาหาฉันที่โรงแรม บอกว่าจะมาเอาสัมภาระของพี่ แต่อยู่ดี ๆ ยัยปีศาจฟีโอน่า ก็โผล่พรวดมากับคุณเบลค อาเวนชี่เฉยเลย"
"เธอหมายถึงพ่อของเขาน่ะเหรอ"
"ใช่ค่ะ แถมคนของพ่อเขายังจับคุณแม็กลากไปแบบถูลู่ถูกัง พาเข้าไปห้อง ๆ หนึ่งในโรงแรม ฉันเห็นว่าเขาหายเงียบไป กลัวจะเกิดเรื่องไม่ดี ก็เลยโทรตามคุณฮัลค์ที่บอกว่าจะแวะไปซื้ออาหารแมว หลังจากที่คุณฮัลค์มาถึงก็รีบเข้าไปเจรจาพาตัวคุณแม็กออกมา แต่ฉันก็ยืนดูอยู่พักใหญ่กว่าพวกเขาจะกลับออกมา แถมสีหน้าคุณแม็กก็ดูไม่ค่อยดี"
"ตกลงเธอรู้หรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น"
"ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกค่ะ คุณแม็กไม่ยอมเล่า แต่มันคันปาก ตะกี้ก็เลยโทรหาคุณฮัลค์เพื่อถามตรง ๆ คุณฮัลค์บอกว่าก่อนวันที่คุณแม็กจะมาฟอร์ทเมสันกับยัยฟีโอน่านั่น คุณแม็กโทรไปเจรจาเรื่องไม่ให้นังงูพิษนั่นถอนตัวจากการเป็นสปอนเซอร์ให้สถาบันของพี่"
เดมี่แทบเข่าทรุด ไม่คิดว่าคนที่ปากบอกเกลียดเธอแต่มักจะทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคำพูดเสมอ เช่น คอยปกป้องเธออย่างลับ ๆ
"แล้วยังไงต่อกุ๊กไก่"
"หลังจากนั้นฟีโอน่าก็ต่อรองโดยการขอให้คุณแม็กยอมเป็นแฟน โชคร้ายที่คุณแม็กไม่ตกลง แต่จะยอมเดินทางไปกับฟีโอน่าที่ฟอร์ทเมสันแทนเพื่อให้นังประสาทนั่นสบายใจ แต่อีงูเห่าตัวร้ายก็อิจฉาเพราะเห็นคุณแม็กเอาแต่ดูแลพี่" กุ๊กไก่เล่าเป็นช่องเป็นฉาก
"ร้ายชะมัดนังนี่มันยิ่งกว่างูเห่าอีก มันคือผีห่าซาตาน" ดารินธิราเปรียบเทียบความเลวร้ายของคู่ค้า
"แล้วพี่รู้ไหมว่ายัยนั่นทำไงต่อ สุดท้ายแม่นั่นก็เลยโทรหาพ่อของนางที่มีหุ้นอยู่ในบริษัทเบลค คอร์ปเปอเรชั่น พ่อนางเลยขู่ว่าจะถอนหุ้นทิ้ง ถ้าพ่อคุณเบลคไม่เป็นฝ่ายมาเจรจาให้คุณแม็กคบกับลูกสาวขี้วีน นี่ก็เลยเป็นเหตุให้คุณเบลควิ่งหน้าตาตื่นมาบังคับให้ลูกชายสมยอมนังงูพิษนั่น"
"ที่แท้เรื่องก็เลวร้ายขนาดนี้เลยเหรอ เมื่อกี้พี่ก็เพิ่งจะอารมณ์เสียใส่เขาไปหมาด ๆ ด้วย"
"โธ่ พี่เดมี่ เชื่อกุ๊กไก่เถอะค่ะ ว่าคนที่เกลียดเราที่สุดเนี่ย ก็คือคนที่รักเราที่สุด บางทีการแสดงออกอาจจะดูฝืนกับสิ่งที่พูด แต่ที่คุณแม็กทำ เขาทำเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายไม่เดือดร้อน ทั้งทางครอบครัวของเขา และครอบครัวพี่"
"พี่เข้าใจแล้ว ยังไงก็ขอบคุณเธอมากนะกุ๊กไก่"
ท่ามกลางเสียงสายฟ้าฟาดรุนแรง เสียงเคาะประตูของบ้านสีลูกกวาดดังขึ้น
หลังจากที่เธอเพิ่งกระจ่างแจ้งเรื่องของแม็กนัส อาเวนชี่ หญิงสาวสังเกตุเห็นชายสามคนยืนอยู่หน้าประตูบ้าน เธอเห็นฮัลค์เดินออกมาคุยที่ระเบียงหน้าบ้าน
ทว่ากลับถูกชายคนหนึ่งชกล้มไปกองกับพื้น จังหวะเดียวกันก็เห็นแม็กนัสวิ่งถลาออกไปรับกำปั้นของชายร่างใหญ่อีกคน เขาต่อสู้กันพัลวัน ร่างของเขากระเด็นออกไปจากชานหน้าบ้านจนเปียกโชกด้วยเม็ดฝน
"หรือจะเป็นคนที่พ่อเขาส่งมา"
ดารินธิรากระซิบกับตัวเองคว้าหยิบเสื้อฮู้ดสีดำตัวหนาในตู้มาสวมทับชุดนอน แล้ววิ่งลงไปข้างล่างด้วยความวิตกกังวล ขณะที่ชายคนหนึ่งที่ถือร่มสีดำอยู่นั้นเดินเข้าไปกระชากตัวของแม็กนัสขึ้นมาให้ลูกน้องชายชุดดำอีกสองคนล็อคแขนของเขาไม่ให้ขยับเขยื้อน
ทันใดฝ่ามือของชายที่อยู่ใต้คันร่มก็ฟาดลงมาที่ใบหน้าคมขาวของกรอบหน้าขาวจนสะบัดเหวี่ยงไปตามแรงฟาดของฝ่ามือ และเตรียมง้างขึ้นมาตบหน้าของเขาซ้ำอีกรอบ
ภาพนี้มันเหมือนกับเดจาวูซะเหลือเกิน ช่างเหมือนกับตอนที่น้าสาวของเธอทำกับแม่แล้วเธอพุ่งเข้าไปรับฝ่ามือนั่นแทน
เช่นเดียวกับช่วงเวลาอันมืดมนนี้ เธอจะทำแบบเดิมอย่างที่เคยทำ จะไม่ยอมให้คนที่แสนดีกับเธอต้องเจ็บปวดอยู่เพียงฝ่ายเดียวอีก
เผียะ!!!!
ใบหน้าของดารินธิราสะบัดหัน ขณะที่ดวงตาสีเข้มของแม็กนัสเบิกโพลงด้วยความตกใจ ทำไมเธอถึงวิ่งมารับฝ่ามือนี้แทนเขา
ทำไมถึงต้องลงทุนเจ็บตัวเพื่อเขา
"เดมี่!!!"
เสียงเข้มร้องเรียกชื่อของหญิงสาว ดารินธิราตวัดใบหน้าที่เจ็บแปลบและแสบมาที่เจ้าของฝ่ามือหนักที่ฉาบลงบนแก้มของเธอ
ไม่นึกเลยว่าคนที่โหดเหี้ยมทารุณ จะเป็นผู้ที่ให้กำเนิดอัจฉริยะที่คนทั่วโลกชื่นชม
"คุณเบลค!! ทำไมคุณต้องทำกับลูกตัวเองขนาดนี้ เขาเป็นลูกแท้ ๆ ของคุณนะคะ"
"เพราะมันเป็นลูกแท้ ๆ ไง ฉันจึงทำอะไรกับมันก็ได้ เธอมันเป็นแค่คนนอก อย่ามาสอดเรื่องพ่อลูกเลยจะดีกว่า"
"ผมว่าคุณหยุดเท่านี้เถอะครับ คุณเบลค"
เสียงเข้มของชายหนุ่มคนหนึ่งโพล่งดังเข้ามาในความมืด ร่างสูงใหญ่ของเขาที่อยู่ใต้ร่มสีแดงขัดกับรูปร่างทำให้ทุกคนต่างมองไปที่เขาด้วยความแปลกใจ
ป้ายตราสัญลักษณ์พื้นสีน้ำเงินบ่งบอกถึงสถานะของชายลึกลับที่โผล่มายามค่ำคืนที่พายุบ้าคลั่งนี้ ทำให้เบลค อาเวนชี่ และลูกน้องคนอื่น ๆ ปล่อยมือจากตัวของน้องเล็กแห่งสมาคมลับทันที
"แกอย่านึกนะว่ามีพรรคพวกเป็นถึงซีไอเอจะรอดพ้นจากพ่ออย่างฉันไปได้ กลับ!!!" เขาขู่ลูกชาย แล้วจากไปพร้อมกับลูกน้องอีกสองคนอย่างรีบร้อนเนื่องด้วยกลัวอิทธิพลอันยิ่งใหญ่ของ เซท เอร์โดอัน
ดารินธิราไม่ได้สนใจว่าคนที่มาช่วยแม็กนัสจะเป็นใคร แต่เธอรู้สึกขอบคุณเขาอย่างสุดซึ้งที่ช่วยผู้ชายหัวรั้นคนนี้
หญิงสาวเข้าไปประคองเขาขึ้นมา แล้วพยุงให้นั่งที่เก้าอี้หน้าบ้าน ขณะที่ชายร่มแดงเดินตามมาส่งแล้วยื่นถุงขนมส่งให้กับเธอ
"น้องคงเป็น ดารินธิรา ธนินกุลใช่ไหม"
"ค่ะ คุณ..." ทำหน้างงพักหนึ่งแล้วรับถุงขนมมา
"พี่ชื่อ เซทนะ เป็นพี่ใหญ่ของไอ้หมอนั่น พอดีพวกเราทำงานด้วยกันมานานก็เลยนับถือแบบพี่น้องร่วมสาบาน"
"เหรอคะ ดีจัง แล้วพี่เซททำงานอยู่ใกล้ ๆ นี่เหรอคะถึงโผล่มาได้ทันเวลาพอดิบพอดี"
"พี่แค่แวะมาหาช็อกโกแลตกินเฉย ๆ ยังไงก็ฝากดูแลเจ้าแม็กด้วยนะครับ ขอตัวก่อน กินขนมให้อร่อยนะครับ"
"เอ่อค่ะ ลาก่อนนะคะ" ดารินธิรายิ้มเผล่ แล้วเอานิ้วชี้เขี่ยที่แก้มของตัวเองแบบงุนงงไม่ค่อยเข้าใจกับสิ่งที่เขาพูดเท่าไร แต่ก็ยอมรับถุงขนมมาจากชายชื่อเซท โดยไม่ปฏิเสธ ก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้กับชายหนุ่มที่นั่งหน้าตาปูดบวมอยู่อย่างเงียบเชียบ
"ผมว่าคุณเดมี่ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่านะครับ เปียกฝนมาเดี๋ยวก็ไม่สบายอีก" ฮัลค์บอกหญิงสาว ทว่าเธอก็ยังคงเขม็งมองดวงตาที่แข็งขืนของแม็กนัสอยู่
เพื่อทำให้เขาเปิดปากพูดอะไรสักคำ แต่จะบังคับให้เขาพูดความจริงตอนนี้ก็คงไม่ทันการ เพราะอีกวันเดียวเขาก็จะจากเธอไปแอฟริกาใต้
แถมยังไปแบบไม่มีกำหนดกลับ ดังนั้นเธอต้องเคลียร์เดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นคงหมกหมุ่นแล้วไม่เป็นอันทำอะไรแน่
"ฉันจะพาคุณแม็กนัสไปอาบน้ำด้วยได้มั้ยคะ....คุณอนุญาตหรือเปล่าคุณฮัลค์?"
ใบหน้าขาวคมที่เอาแต่แน่นิ่งเฉยชา เบิกดวงตากว้างและมองเข้าไปภายในดวงตากลมโต ที่เอื้อนเอ่ยประโยคที่เขย่าหัวใจให้สั่นแรงหลายริกเตอร์อย่างไม่อยากเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ
เพราะเธอกำลังยื่นมาส่งมาให้เขาจับ เพียงแค่เขาจับมือเธอตอบเท่านั้น
เธอก็พร้อมจะบอกทุกสิ่งที่เก็บกดไว้ในใจกับเขาอย่างไม่มีเงื่อนไขใด ๆ อีก
สมองของคนฟังเบลอไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินประโยคที่เสียงหวานเอ่ยถามขึ้นอย่างชัดเจนเต็มสองหูสายฟ้าที่ฟาดลงมาดังเปรี้ยงปร้างก็ไม่อาจดับความตื่นเต้นแปลกใหม่ที่ก่อตัวขึ้นในใจ ฮัลค์ทำตาลุกวาวมองเจ้านายหนุ่มพร้อมกับเกาหัวแกรก ๆ แก้อาการเขิน"ทำไมคุณเดมี่ต้องขออนุญาตผมด้วยล่ะครับ ก็ขอกับคุณแม็กเองเลยสิครับ เอ่อ...คุณแม็กครับผมขอตัวก่อนนะครับ" มือขวาคนสนิทเดินสับขาเข้าห้องนอนชั้นล่างของตนเองในพริบตาเดียว เพราะตอนนี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวได้ที่เหลือคงต้องให้เจ้านายหนุ่มของเขาตัดสินใจเอาเองฝ่ามือของดารินธิรายังคงยื่นค้างรอให้เขาจับ แต่ชายหนุ่มก็ยังคงหยิ่งยโส ทำเมินเฉยกับสิ่งที่เธอถาม"จะนั่งตัวเปียกอยู่ตรงนี้ไปยันเช้าเลยเหรอคะ" "คุณพูดอะไรออกมารู้ตัวไหม"หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก้มลงรวบใบหน้าขาวมึนตึงของเขามากอบกุมแล้วบดจูบลงไปยังเรียวปากซีดเซียวนั่นดวงตาของคนโดนปล้นจูบถึงกับลุกวาวตื่นตะลึง กระทั่งปากอิ่มละออก กระซิบบอกข้าง ๆ กกหูร้อนผ่าวของเขา"ขอบคุณสำหรับทุกเรื่องที่คุณทำให้ฉัน หลินเย่ซี"ยิ้มกว้างสดใสและลุกเดินจากเขามาด้วยความรู้สึกกระดากอาย จังหวะที่มือน้อย ๆ กำลังผลั
ดารินธิราออกมาจากห้องนอนของชายหนุ่มได้อย่างโล่งใจ ใจหนึ่งก็อยากรู้ว่าเขาคุยอะไรกับคนในแชทต่อ แต่ว่ามันไม่ใช่กงการอะไรที่เธอจะต้องรับรู้ ต่อให้รู้ก็คงช่วยอะไรเขาไม่ได้อยู่ดี ม๊าว! ม๊าว!"ว่าไง ปาตาโกไททันมาโยรัมสุดหล่อ" หญิงสาวเขี่ยคางของเจ้าเหมียวขี้อ้อนแล้วอุ้มมันขึ้นมานอนบนเตียงด้วยทว่าขณะที่สมองเริ่มเกิดอาการสะลืมสะลือ ร่างสูงก็เข้ามายืนจังก้าอยู่ปลายเตียงเสียแล้ว"ไอ้ปาตาโกไททัน มาโยรัมนี่มันที่ฉัน" พูดกับเจ้าเหมียวที่นอนซุกหลับอยู่บนหน้าท้องของดารินธิรา จนเจ้านายขนฟูลุกบิดขี้เกียจพลางกระโดดตุ้บลงไปหาทาสหนุ่มขี้อิจฉา ทำเป็นออดอ้อนไซ้หน้าขาให้ตายใจแต่พอทีเผลอก็ฝังเขี้ยวแหลมคมลงมาที่ข้อเท้าของเขาอย่างแรง"โอ๊ย! แกไอ้แมวขี้โกง ไปนอนโน่นเลย " เขาทะเลาะกับปาตาโกไททันมาโยรัม แล้วจับเจ้าแมวหนุ่มโยนเข้าไปในห้องนอนของตัวเองขณะที่ใบหน้างัวเงียผุดลุกขึ้นดูพลางใช้มือขยี่ดวงตาชะเง้อมองว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างคนกับแมว"เสียงดังอะไรอีกล่ะคุณ แล้วเจ้าเหมียวล่ะ" "ผมให้ไปนอนที่ห้องผมแทน""ทำไมล่ะคะ""ก็คืนนี้ผมจะนอนกับคุณไง""ห๊ะ!! เดี๋ยว ๆ นอนยังไง ต่างคนต่างหลับ หรือนอนแบบนู๊ดคอนเซ็ปต์" "โฮ้
หญิงสาวเดินตรงไปสะกิดหัวไหล่ ขณะกำลังคุยกับพ่อครัวของร้านอาหาร และพลิกหันกลับตามแรงสะกิด ทันใดนั้นดินสอพองในขันน้ำลายไทยสีเงินของเธอก็ถูกป้ายลงมาที่ใบหน้าขาวใสอย่างว่องไวแม็กนัสเบิกตากว้างไม่ใช่เพราะกำลังรู้สึกเหวอกับสิ่งที่เธอป้ายลงมาทีหน้าซึ่งมาพร้อมกับความหอมจรุงจมูกแบบไทย แต่สิ่งที่เขาไม่ชอบใจนักเพราะแม่ศิลปินสาวดันอยู่ในชุดเดรสสั้น ความยาวกระโปรงนั่นที่เป็นปัญหา เพราะมันยาวเลยเข่ามาเล็กน้อย ทำให้ดูจะสั้นเกินไปสำหรับเขา ดวงตาเรียวสีน้ำตาลเข้มมองสลับซ้ายสลับขวา สอดส่องดูว่ามีสายตาหื่นคู่ไหนบ้างแอบมองแม่แมวเหมียวเดมี่ของเขาอยู่บ้าง "เป็นอะไรคะ ทำไมต้องทำหน้าทำตาล่อกแล่กแบบนั้นด้วยอ่ะ""ก็...กระโปรงมันจะดูสั้นไปหน่อยไหมคุณ""วันสงกรานต์ใครเขาจะมาใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์อยู่ล่ะคะ""ผมว่ามันโป๊ไปหน่อย แต่เอาเถอะ...ให้ใส่แค่ช่วงเทศกาลสงกรานต์เท่านั้นนะ เทศกาลอื่นคุณต้องงด แต่อนุญาตให้ใส่เฉพาะอยู่กับผมคนเดียวเท่านั้น""คุณแม็กครับ อาหารโต๊ะ 12 ได้แล้วครับ" "ครับพ่อครัวแสง" เขาขานรับพ่อครัวแสงด้วยน้ำเสียงดังฟังชัด รับถาดอาหารแล้วเดินไปเสริฟ์ปล่อยทิ้งให้คนขี้เล่นอย่างดารินธิรายืนเก้อเซ็ง
ชายหญิงโบกมือร่ำลาทุกคนในร้านก่อนจะพากันเดินขึ้นรถมุ่งหน้ากลับบ้านสีลูกกวาด แต่เจ้าของรถเลือกที่จะขับไปอีกทางซึ่งเป็นเส้นทางมุ่งสู่ทวินเพริกส์ จุดชมวิวที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของซานฟรานซิสโก และเป็นยอดเขาสูงใจกลางเมืองที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณสองร้อยกว่าเมตรบรรยากาศยามค่ำที่นี่จะสวยงามตระการตา ทำให้สามารถมองเห็นหมู่ดาวระยิบระยับทอแสงเหนือน่านฟ้าอ่าวซานฟรานซิสโกได้อย่างชัดเจน"ทำไมถึงพาฉันมาที่นี่ล่ะคะ""เพราะผมมีเรื่องจะพูดกับคุณ ผมอยากให้มันพิเศษก็เลยพาคุณมาที่นี่""คุณหวานกับเขาก็เป็นเหรอเนี่ย แล้วจะพูดอะไรกับฉันเหรอ""แม่คุณคงเล่าให้ฟังแล้วล่ะสิ งั้นผมไม่ยืดเยื้อแล้วนะ คือ...พรุ่งนี้ผมจะไปแอฟริกาใต้แล้ว และก็ยังไม่มีกำหนดกลับที่แน่นอน""ที่ว่าไม่มีกำหนดกลับ มันนานขนาดไหนเหรอคะ สองเดือน หรือหนึ่งปี""สำหรับผมสามวันที่ต้องจากคุณ ผมก็กินไม่ได้นอนไม่หลับแล้ว""ไม่เชื่อหรอก เมื่อก่อนคุณเกลียดฉันจะตาย""คุณโกรธเหรอ""ไม่ได้โกรธค่ะ แค่หมั่นไส้นิดหน่อย""ผมยอมโดนคุณหมั่นไส้ไปทั้งชีวิตเลย ผมสัญญาว่าจะรีบกลับมาหาคุณนะเดมี่""นานแค่ไหนฉันก็จะรอคุณกลับมา สรุปมีแค่นี้เหรอคะที่จะพูดกับฉัน" ถ
นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจดจ่ออยู่กับจอมอนิเตอร์ผ่านซอฟต์แวร์ที่เขาเขียนขึ้น 'ออร่าแสกนนิ่ง' ที่ใช้กับ 'ออร่าชิฟ' เป็นเทคโนโลยีที่เขาพัฒนาขึ้นเพื่อฝังลงบนร่างกายของมนุษย์โดยใช้แนวคิดของปรสิตที่อาศัยอยู่ในตัวของสิ่งมีชีวิตนั้น ๆนานวันเข้าออร่าชิฟนี้จะกลมกลืนไปกับสรีระและกายภาพ แม้จะตรวจจับได้ก็จะเห็นเป็นเพียงก้อนขนาดเล็กใต้ผิวหนังที่มีขนาดเท่ากับเม็ดข้าวหรือถูกเข้าใจว่าเป็นปรสิตจำพวกหนึ่งความสามารถและจุดเด่นของออร่าชิฟคือการบ่งชี้อารมณ์ ความรู้สึก กรุ๊ปเลือด สารสื่อสมอง ที่ผลิตอยู่ ณ เวลานั้น แนวโน้มของพฤติกรรมในอนาคต ช่วงเวลาที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องจีพีเอสระบุตำแหน่งที่แม่นยำสูงโปรแกรมออร่าแสกนนิ่งจะทำการวิเคราะห์ออกมาในรูปแบบของพลังงานจากแสงรังสีของร่างกาย ซึ่งพลังงานนี้ของบุคคลนั้นๆ จะส่งคลื่นความถี่ของสมองและอัตราการเต้นของหัวใจไปยังโปรแกรมประมวลผลอีกครั้งถ้าในคนที่มีฌาณอาจเรียกว่า 'ทิพย์จักษุ" แต่สำหรับแม็กนัส อาเวนชี่ มันคือวิวัฒนาการที่ผสานปรจิตวิทยาเข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูงที่เป็นไปได้"ออร่า ชิฟของอาชญากรที่คนของสมาคมไปฝังไว้ เป็นของวัคกาโซ่ อดีตเจ้าหน้าที่SAPSของแอฟร
ล่วงเข้าอาทิตย์ที่สามของเดือน ช่างแสนยาวนานปานจะขาดใจไม่น่าเชื่อเลยว่าการอยู่ห่างไกลกับเขาจะทำให้หัวใจเหมือนคนตายด้านยังไงยังงั้น กินอะไรก็คล้ายกับว่าจะจืดชืดไร้รสชาติ วาดภาพก็ตวัดปลายพู่กันไปไม่สุดสักครั้งบวกกับเจ้าปาตาโกไททันมาโยรัมขี้งอน แมวอะไรทำนิสัยไม่ต่างกับเจ้าของแม้แต่น้อยดุอะไรนิดหน่อยก็น้อยใจเดินสะบัดก้นหายไปเป็นวันวัน พอเรียกเสียงหวาน ๆ และยื่นอาหารจานโปรดไปให้ ก็วิ่งหน้าตาตื่นทำตากลมบ้องแบ๊วมาถึงถาดอาหารภายในเสี้ยววิ"สเต็กปลาแสนอร่อยฝีมือผมเองครับคุณเดมี่" ฮัลค์ บอดี้การ์ดที่แปรสภาพเป็นพ่อบ้านชั่วคราววานจานสเต็กปลากลิ่นหอมร้อน ๆ บนโต๊ะอาหาร"ขอบคุณมากค่ะ แต่คุณฮัลค์ไม่ต้องดูแลฉันตลอดเวลาก็ได้นะคะ" "ไม่ได้หรอกครับ คุณแม็กสั่งไว้ว่าให้ดูแลคุณให้ดีที่สุด""เขาคงไม่ได้ห่วงลายแทงฉบับนี้มากกว่าฉันหรอกนะคะ" พูดยิ้ม ๆ แล้วใช้มือตบลงบนแผนที่ลายแทงกรุสมบัติโบราณที่เธอกำลังร่างรอยต่อที่ขาดหายไปตามกาลเวลา "ไม่มีทางครับ คุณแม็กน่ะห่วงคุณยิ่งกว่าชีวิตตัวเองซะอีก ขนาดครั้งก่อนที่คุณฟีโอน่าขาวีนมาออดอ้อนขอความรักจากคุณแม็ก แต่พอไม่สำเร็จก็ใช้พ่อคุณแม็กเป็นเครื่องมือ แถมยังถูกคนของ
กลางดึกคืนหนึ่งในบ้านสีลูกกวาดที่เธอกำลังเร่งสเก็ตภาพส่วนสุดท้ายและแก้ไข้บางส่วนของเนื้อกระดาษที่เสียหายไป โดยมีฮัลค์ชายร่างใหญ่คอยอยู่อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับคนพิเศษของเจ้านายหญิงสาวที่นั่งอยู่ใต้โคมไฟชะโงกหน้ามองออกไปที่หน้าต่างและเห็นว่าฮัลค์เดินออกไปดูลาดเลารอบบ้านพร้อมกับพูดคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ สักพักเขาก็ผลุบหายเข้ามาในบ้านกระนั้นเสียงเคาะประตูห้องของเธอก็ดังขึ้นจนชวนให้รู้สึกใจคอไม่ดี"มีอะไรหรือเปล่าคะ" "มีครับ เดี๋ยวผมจะเล่าให้คุณเดมี่ฟังอีกทีนะครับ แต่ตอนนี้คุณต้องเก็บของแล้วเตรียมไปกับผมที่สนามบินเดี๋ยวนี้""ไปเดี๋ยวนี้" "ครับ เพราะตอนนี้คนของพ่อเจ้านายกำลังมาที่นี่เพื่อมาจับตัวคุณไปเป็นตัวประกัน"หญิงสาวไม่ต่อความยาวสาวความยืดให้เสียเวลาและชีวิต เร่งเก็บแผนที่ฉบับเก่าและใหม่ลงในหลอดเก็บม้วนกระดาษแล้วหยิบของสำคัญเสื้อผ้าสองสามตัวลงในกระเป๋าเป้ขนาดกระทัดรัดด้วยความรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นานเธอก็มาอยู่บนเครื่องบินส่วนตัวของ Magnus Co. ขณะที่ปาตาโกไททันมาโยรัมเอาแต่นั่งจ้องหน้าเธออย่างมีคำถามว่ามันทำไมถึงมาอยู่ที่นี่แต่พอฮัลค์ยื่นลูกบอลสมุนไพรมาให้เจ้าแมวต
หลังจากที่ฮัลค์ไปนอนเฝ้ายามที่กระท่อมบนไหล่เขาสูงความเงียบก็ประเดประดังเข้ามา ทำให้ชายหนุ่มเห็นท่าทีเย็นชาดุจหิมะขาวโพลนข้างนอกของเธอ เขาจึงไม่ค่อยสบายใจนักขณะที่กำลังคิดหาวิธีการพูดให้เธอเพื่อไม่ให้ดูตกอกตกใจกับงานเบื้องลึกเบื้องหลังของเขามากนักพลันใดดวงตาสีเข้มก็สะดุดเข้ากับเจ้าปาตาโกไททันมาโยรัมที่กำลังปีนต้นเรดวูดเล่นอยู่ด้านนอกหน้าต่างแล้วทำท่าจะปีนขึ้นไปสูงเรื่อยเรื่อยเขาเห็นท่าไม่ดีเพราะพายุหิมะกำลังจะตก จึงรีบวิ่งออกไปห้ามเจ้าแมวแสนซนอย่างร้อนลนกับพฤติกรรมไม่อยู่สุขของมัน"เฮ้! ปาตาโกไททัน แกลงมาเดี๋ยวนี้เลยนะ" ม๊าว! ม๊าว! เจ้าเหมียวตัวเขื่องร้องตอบ มันหันหลังมองลงมาอย่างกล้า ๆกลัว ๆ เพราะรู้ตัวอีกทีก็ปีนขึ้นมาซะสูงยากต่อการตะเกียกตะกายลงไปหาเจ้าของปากจัดด้านล่างเสียแล้วซึ่งระดับความสูงของพื้นกับกิ่งไม้ใหญ่ที่มันเกาะอยู่ก็ห่างกันจนแมวอย่างมันทำได้เพียงร้องเสียงเงี้ยวง๊าวขอความช่วยเหลืออย่างเดียว"ทีนี้จะทำยังไงล่ะ เดือดร้อนฉันอีกแล้ว"เสียงเอะอะโวยวายระหว่างคนกับแมวทำให้ใบหน้าที่หันคุยกับกำผนังบ้านด้วยความหงุดหงิดอยู่นั้นต้องชะเง้อมองดู และเห็นว่านายหงอกของเธอกำลังแบกบั
หลังจากที่เมื่อวานเขามาส่งเธอที่บ้าน และพูดกับเธอว่า "ดูแลตัวเองให้ดี เพราะอาทิตย์นี้เขาอาจจะไม่มีเวลามาหา" พอได้ยินแบบนั้นใจมันก็แป้วจนบอกไม่ถูก เหมือนมีลางว่าจะเกิดเรื่องโกลาหลอะไรขึ้นทั้งที่เกือบหนึ่่งเดือนมานี้ตอนที่อยู่แอฟริกาใต้เธอตัวติดกับเขาตลอดเวลา ถึงแม้จะมีเรื่องวุ่นวายทั้งหลายเข้ามาแทรกกลางบ้าง แต่เขาก็ตามไปช่วยเธอกลับมาได้ทุกครั้งทว่าเวลานี้.....เธอทำได้แค่ยืนมองดูเขา อยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกผ่านหน้าจอทีวีเท่านั้นน่ะเหรอ เธอไม่สามารถที่จะช่วยอะไรเขาได้เลยพลันใดคำพูดของพี่โมนา ก็สะท้อนดังขึ้นมา ที่บอกว่า "การช่วยใครสักคนไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องจับปืนถือมีด แต่หมายถึงทำในสิ่งที่เราสามารถทำได้ เพื่อเขา""หนูจะไปทำธุระสักหน่อย ฝากทางนี้ด้วยนะคะคุณเบ็ค"บอกกับพนักงานอาวุโสที่สุดของสถาบันและเดินตรงออกไปจากสถาบันทันที"ได้จ้ะ"รถมินิคูปเปอร์ของหญิงสาวแล่นฉิวออกจากลานจอดรถด้วยความร้อนใจไม่นานนักก็ถึงตึกรูปตัวเอ็มสูงใหญ่ที่มองเห็นไกล ๆ ว่ามีคนหัวดำหัวสีหลายคนยืนมุงอยู่หน้าบริษัทจนมองไม่เห็นชายหนุ่มที่เธอเป็นห่วงไมค์หลายตัวยื่นจ่อปาก บางตัวก็เกือบเขกโดนหัวของเจ้
ไม่นานนักความกระจ่างก็มาตั้งอยู่ตรงหน้าของเธอ หน้าจอทีวีขนาด 24 นิ้วลิงค์เชื่อมต่อกับแท็บเล็ตของเขาทันทีที่ปลายนิ้วสวยจิ้มตรงนั้นทีตรงนี้ที พลันนั้นสรีระโครงสร้างร่างกายของปาตาโกไททันมาโยรัมก็ปรากฏขึ้นในรูปแบบกราฟฟิก พร้อมกับตำแหน่งที่ขึ้นเป็นจุดสีแดง และเส้นกราฟแสดงผลบอกระดับของอารมณ์ ระดับพลังงานของร่างกาย ความเครียดและความผ่อนคลายแม้กระทั่งตำแหน่งแสดงภาพรวมว่าผลของร่างกายเป็นบวกหรือลบ สุดท้ายคือพีระมิดที่แสดงขึ้นด้านข้างเหมือนกับสีออร่า"คุณเขียนโปรแกรมนี้เองเหรอคะ ดูเทพทรูมากเลยอ่ะ"จ๊วบ!เรียวปากกระจับของเขาฝังลงบนแก้มนุ่มออกแรงบดด้วยความหมั่นเขี้ยวจนเจ้าของพวงแก้มถึงกับจิกตาเขียวปัด"เอ๊ะคุณนี่! เสียงดังไปแล้วนะคะ""ในห้องมีแต่เรากับแมวหนึ่งตัวที่ป่วยอยู่ จะอายอะไร" "คุณไม่อายแต่ฉันอาย คุณดูหน้ามันสิ มันดูตะลึงมากเลย" หญิงสาวบอกแล้วชี้ไปที่หน้าของปาตาโกไททันที่นั่งจ้องเขม็งมาที่มนุษย์อย่างไม่สบอารมณ์นัก "แกป่วยก็นอนพักไปสิ มานั่งจ้องจับผิดอะไรอยู่ได้" เขาตวาดใส่มันแล้วก็กลับไปดูที่หน้าจอทีวีเช่นเดิม"คุณยังจะไปดุมันอีก สรุปแล้วเจ้าเหมียวเป็นอะไรคะ" ดารินธิราสงสารเจ้าเหมียวท
แม็กนัส ทำท่าทีเป็นรีบทำเป็นดำน้ำนอนอยู่ใต้อ่างจากุชชี่เพื่อแกล้งแหย่เดมี่หลังจากที่เธอบรรจงถอดเสื้อผ้าที่ทั้งเปียกทั้งหนักออกอย่างทุลักทุเล เหลือเพียงแต่ปราการสองชิ้นน้อย ๆ ที่ปกปิดเรือนร่างบางเย้ายวนเอาไว้หญิงสาวค่อย ๆ หันกลับมาเผชิญกับชายหนุ่มในอ่างเก้ ๆกัง ๆ ทว่าพ่อคนเมายากลับไม่ได้นั่งหัวโด่อยู่ตรงนั้นแต่เขากลับนอนอยู่ใต้ผิวน้ำใสของอ่างน้ำร้อนนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง "แกล้งฉันอีกแล้วใช่ไหมคะ เชิญนอนใต้น้ำนั่นไปเลย ฉันไม่สนใจคุณหรอก" เธอยืนจ้องดูเขาเท้าสะเอวรอคอยว่าเขาจะหมดลมหายใจใต้น้ำเมื่อไหร่ แต่เวลาก็ผ่านไปพักใหญ่แล้วน่าจะเกือบสองนาทีทำไมเขายังไม่ขยับเขยื้อนตัวอีก หรือว่าเขาจะเป็นลมใจใต้น้ำจริง ๆด้วยความตื่นตระหนกตกใจหญิงสาวจึงพุ่งพรวดลงไปในอ่าง งัดล่างของเขาขึ้นมา พอดึงร่างของเขาขึ้นมาพิงกับขอบอ่างได้ ฝ่ามือก็รีบตบ ๆ เรียกสติของเขาให้ตื่นขึ้น "นี่คุณอย่ามาล้อเล่นนะ....เย่ซี! คุณตื่นสิ ไม่งั้นฉันจะโกรธคุณจริง ๆ แล้วนะคะ" ประชดประชันใส่และเตรียมลุกออกจากอ่างสวบ!ทันใดนั้นร่างบางถูกรวบเข้าไปกอดอย่างรวดเร็วทำให้เซถลาล้มลงบนหน้าขาแกร่ง"อย่าโกรธผมนะ....ขอร้อง"คนคนเจ้าเล่ห์พูด
ร่างกายของซุนย่าฉงที่กอดก่ายชายหนุ่มในสระว่ายน้ำอยู่นั้นพยายามจะยั่วยวนให้แม็กนัสตบะแตกสายลับแสนเจ้าเล่ห์จึงได้แต่เล่นไปตามบทบาทเพื่อรอจังหวะเหยื่อตายใจ"เวลาคุณเปียกแล้วเซ็กซี่น่าฟัดไปหมด คุณรู้ไหม..เย่ซี" นางนกต่อพร่ำบอกพลางยกฝ่ามือลูบไล้กล้ามหน้าท้องขาวจั๊วะมือหนาจึงรีบเอื้อมมือคว้าแก้วที่มียาหลอนติดลบ 18+ ยาสูตรพิเศษของสมาคมใช้เพื่อทำให้เหยื่อคิดว่าตนกำลังทำกิจกรรมบนเตียงกับคนที่ตนปรารถนา "ดื่มนี่ก่อนสิ"เขายื่นขอบแก้วแตะลงบนริมฝีปากสีเลือดนกของซุนย่าฉง หญิงสาวเหลือบมองอย่างลังเลแต่ก็ยอมรับแก้วดังกล่าวมาดื่มโดยไม่ปฏิเสธ"ก็ได้ค่ะ"ริมฝีปากบางจิบแต่พองาม พลางส่งกลับไปให้แม็กนัสดื่มสายลับหนุ่มจึงต้องจำใจดื่มพราะซุนย่าถิงกำลังคลางแคลงใจในพฤติกรรมของเขาอยู่เช่นเดียวกัน"ครับดื่มก็ได้ คุณว่าไงผมว่าตาม"เหล้าสีใสถูกกรอกผ่านลำคอลงไป ภายในเสี้ยววินาทีความหนาวสะท้านก็แผ่ซ่านเข้ามาปกคลุมผิวกายอย่างเฉียบพลันแม้ยานี้จะแตกต่างกับยาจำพวกเสียสาวตรงที่ให้ความรู้สึกหนาวสั่น แต่สองสามนาทีถัดมายาหลอนติดลบจะสำแดงฤทธิ์ให้เห็นภาพที่เปี่ยมด้วยกิเลสตัณหาภายในจิตใจและตอนนี้มันก็เกิดขึ้นกับเขาจนไม่อา
รถติดฟิลม์อำพรางไม่ให้คนข้างนอกเห็นมาจอดยังชายหาดแซนดี้ใจกลางเมืองเคปทาวน์ตามนัดของซีอีโอผู้ก่อตั้งนิตยสารโมนาลิซ่าชายหาดแห่งนี้ห่างไกลผู้คนเต็มด้วยคลื่นสีครามน้ำใสอันสุขสงบ และโอบล้อมด้วยทิวเขาเขียวขจีเหมาะแก่การใช้เป็นสถานที่ถ่ายแบบมากที่สุด"สวัดสีค่ะพี่โมนา""มาแล้วเหรอจ๊ะ งั้นมาแต่งหน้าทำผมกันเลย เอ้....ปกติเราแต่งตัวแบบนี้เหรอมันดูจะสุภาพไปหน่อยนะพี่ว่า"เจ้าของนิตยสารสาวเอ่ยถามพลางดึงแขนของดารินธิราให้นั่งลงบนเก้าอี้แต่งตัว"คนโน้นค่ะที่อุตริจัดแจงเสื้อผ้าพวกนี้ให้หนูใส่"โมนาเอี้ยวตัวหันไปมองชายหนุ่มด้านหลังที่พกพาบอดี้การ์ดมาคุมกองถ่ายแบบจำนวนหนึ่งคล้ายกับกำลังคุมนักโทษ"โหว.....นี่เป็นขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย""ค่ะ......เป็นเอามาก""โถ ๆ เดมี่ หนูอิศของพี่ก็พอกัน หมอนั่นนะถึงกับประสาทเสียเลยแหละ คิดแล้วก็ขำ เฮ้อ....แล้วถ้าพ่อแฟนอัจฉริยะของเราเห็นชุดถ่ายแบบแต่ละชุดแล้ว จะไม่องค์ลงแย่เลยเหรอ""ช่างเขาเถอะค่ะ จะได้รู้จักมีขันติซะบ้าง แบ่งแยกว่าอะไรคืองานอะไรคือเรื่องส่วนตัว"ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดารินธิราก็ก้าวออกมาจากห้องแต่งตัวเคลื่อนที่ในชุดบีชแวร์สวยสง่าดั่งนางฟ้าที่เดินกรุยกรายอย
ขายาวในเสื้อเชิ้ตสีดำตัวโคร่งนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้วาดรูป หลังจากตื่นนอนภาพเมื่อคืนก็ผุดพรายขึ้นราวกับสตอรี่ที่แสนร้อนรุ่ม ทำให้ต้องควานหากิจกรรมอย่างอื่นทำเพื่อกลบภาพอันซาบซ่านดารินธิรารีบไปบอกฮัลค์ให้จัดหาอุปกรณ์วาดรูปให้เธอ ไม่น่าเชื่อว่าภายในกี่นาทีเขาก็กลับมาพร้อมกับสิ่งที่เธอต้องการ ศิลปินสาวจดจ้องใบหน้าสว่างที่คว่ำแนบอยู่กับหมอนอิงใบใหญ่ "น่ารักน่าหยิกเหลือเกิน"กรอบหน้านวลสว่างงดงามกว่าผู้หญิงดึงดูดใจให้เธออยากตวัดปลายดินสอเพื่อสเก็ตรูปของเขายามหลับใหลอีกครั้งรูปเมื่อห้าปีก่อนของเธอถูกเขาทำลาย เป็นรูปที่เธอแอบวาดเขาตอนกำลังป่วยอยู่ในคฤหาสน์อาเวนชี่ จำได้ว่าตอนนั้นแม็กนัสมีไข้สูง หน้าขาว ๆ ของเขาก็กลายเป็นสีแดงจัด วันนั้นน้าสาวของเธอไปงานเลี้ยงกับพ่อของเขา ทำให้น้ากำชับว่าให้เธออยู่คฤหาสน์อาเวนชี่คอยช่วยแม่บ้านใหญ่คอยดูแลคุณหนูแถมคุณหนูที่ว่าก็คือเด็กหนุ่มอายุ 18 ที่ป่วยนอนซมอยู่ ตอนนั้นเธอที่อายุ 21 ปีก็เป็นเหมือนพี่เลี้ยงเด็กไปอีกคนโดยปริยาย ช่วงนั้นเธอกำลังส่งรูปภาพเข้าประกวดเพื่อชิงรางวัลศิลปินแห่งซิลิคอนวัลเล่ย์ รวมทั้งต้องเฝ้าเด็กหนุ่มที่ย้อมผมสีเทาเงินประชดชีวิต
ยามที่เรียวปากกระจับลากไล้ต่ำลงมายังชายโครง ระดมจูบที่กล้ามเนื้อแน่นตึงแข็งแรง และดูเร่าร้อนช่วงเวลาที่ใบหน้าอิ่มสุขร่ายมนต์อยู่บนเวทีที่ลินคอร์นเซ็นเตอร์เมื่อห้าปีก่อนก็ผุดพรายขึ้นมาในความทรงจำของแม็กนัส"ผมเป็นสาเหตุทำให้คุณเลิกเต้นหรือเปล่า" คำถามถูกพ่นออกมารดลงมายังหน้าท้องแบนราบ ดวงตาเรียวคมเหลือบมองใบหน้าที่แหงนหงายมองเพดานห้อง นัยน์ตากลมโตหลุบมองสบตาพลางผลักตัวของชายหนุ่มออกเบา ๆ ค่อย ๆ หยัดตัวลุกขึ้น ประคองเต้าเปลือยเปล่าอย่างกระดากอาย เรียวขายาวพับเพียบเบียดเข้าหากันเพราะสายตาร้อนที่สำรวจมองอยู่นั้น มันชวนให้กระอักกระอ่วนและเย็นยะเยือก"ไม่ใช่เพราะคุณ แต่....เพราะฉันในเวลานั้นแค่ไม่อยากเป็นเงาของน้า และไม่อยากให้คุณรังเกียจกันไปมากกว่านี้" "โธ่!...เดมี่"ร่างบางสั่นเทาขณะบอกเล่าเรื่องราวเก็บกดมาทั้งชีวิตถูกรวบเข้าไปโอบกอด ฝ่ามือที่ประคองทรวงอกอยู่นั้นเคลื่อนขยับมาโอบกอดแผ่นหลังกว้างนั้นกลับ "คนที่ผมรังเกียจไม่ใช่คุณ แต่เป็นพ่อผมกับน้าของคุณ"พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดันตัวคนที่กำลังสั่นเทาออก ปลายจมูกโด่งฝังลงบนหัวไหล่มนสูดดมความหอมจากเรือนร่าง เคลื่อนมายังไหปลาร้าคู่สวยพ
ใบหน้าซีดนั่งเงียบมาตลอดทางที่นั่งรถกลับมากับเขา ตอนนี้เธอไม่อาจให้เขาแตะเนื้อต้องตัวเพราะกลัวว่าจะดูเป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจและไร้ยางอายในสายตาของเขากระทั่งเสื้อที่เขาถอดคลุมผิวกายที่สั่นระริกของเธอก็ยังไม่สมควรจะอยู่บนเรือนร่างนี้ด้วยซ้ำ ถ้าเกิดว่าเขามาไม่ทัน หรือตัดใจทิ้งเธอไป วินาทีนั้นเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงของเขาอีกต่อไปแล้ว "ทำไมคุณต้องนั่งห่างผมขนาดนั้นเดมี่""มี่รู้สึกตัวเอง.....สกปรก"ช่างเป็นคำพูดที่ทำให้คนฟังอย่างเขาหดหู่ใจขึ้นมา ทำไมเธอต้องพูดดูแคลนตัวเองขนาดนี้ เขาไม่เคยมองว่าเธอสกปรกเลยสักนิดหรือเธอเห็นว่าเขาเป็นคนที่รักความสมบูรณ์แบบจึงกลัวว่าตนจะไม่สมบูรณ์แบบสำหรับเขาแม็กนัสพาดารินธิรามาที่พักแห่งใหม่ซึ่งอยู่บนยอดเขาห่างไกลจากอันตราย ซึ่งบนนี้มีกำแพงเขื่อนสูงใหญ่และประตูเหล็กนิรภัยอีกสองชั้นสถานที่แห่งนี้จะใช้เป็นเซฟเฮาส์ทุกครั้งเมื่อมาปฏิบัติภารกิจที่แอฟริกาใต้แต่ด้วยสถานการณ์คับขัน เพราะผู้หญิงของเขาตกเป็นเป้าหมายของพวกกลุ่มเฮริฟ์อย่างไม่ทันตั้งตัว เขาจำเป็นต้องพาเธอมาซ่อนตัวสักพักร่างบางที่กอดก่ายเสื้อสูทตัวนอกที่เขาใช้คลุมปกปิดความล่อแหลมบนเรือนร่าง ค่อย ๆ ปลดอ
ปลายหมึกปากกาสีดำที่ลากเส้นบนพื้นผิวกระดาษอยู่นั้นผงะเล็กน้อย เมื่อมีบางอย่างถูกโยนลงมาบนโต๊ะที่เธอบรรจงวาดรูปอยู่ดารินธิรามองชุดตรงหน้าเอื้อมหยิบมากางดูอย่างข้องใจ "คุณลูคัสสั่งให้คุณใส่ชุดนี้แล้วลงไปร่วมงานเลี้ยงของโรงแรมกับเขา" "แต่ชุดนี้มันค่อนข้างจะเซ็กซี่เกินไปหน่อยมั้ยคะ""คุณมีหน้าที่ใส่ก็ใส่ไป" ชายชุดดำกำชับแล้วเดินจากไป "เฮ้อ" ดารินธิราถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่นึกถึงคำพูดที่เคยให้สัญญากับเขาไว้ว่าเธอจะใส่ชุดโชว์เนื้อหนังมังสาแบบนี้ให้เขาดูแค่คนเดียวแต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป ถ้าเธอเกิดหยิ่งยโสอยู่ ไม่รู้ว่าจะโดนกระสุนปืนเจาะหัวเมื่อไรถ้าต้องผิดคำสัญญาที่ให้ไว้ก็คงต้องปล่อยไป เพราะเธอทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากยอมรับชะตากรรมงานเลี้ยงหรูที่ทุกคนมาในธีม 'Midnight' แถมบางคนก็ใส่หน้ากากปิดซะเหลือแต่คอบางคนก็แต่งชุดดำตั้งแต่หัวจรดเท้า สรุปแล้วนี่มันงานอะไรกันแน่ดู ๆ ไปก็คล้ายกับงานรวมตัวของเหล่าวายร้ายยังไงยังงั้น"คุณสวยมาก" "ขอบคุณ" หญิงสาวตอบอย่างกล้ำกลืนทว่ายิ่งเธอทำจองหองใส่เขา มือใหญ่ก็รั้งเอวคอดเข้ามาแนบชิดใบหน้าจิ้มลิ้มจึงสะบัดมองมือที่ทาบกดอยู่บนเอวเปลือยเปล่าของเธออ