ล่วงเข้าอาทิตย์ที่สามของเดือน ช่างแสนยาวนานปานจะขาดใจไม่น่าเชื่อเลยว่าการอยู่ห่างไกลกับเขาจะทำให้หัวใจเหมือนคนตายด้านยังไงยังงั้น กินอะไรก็คล้ายกับว่าจะจืดชืดไร้รสชาติ วาดภาพก็ตวัดปลายพู่กันไปไม่สุดสักครั้งบวกกับเจ้าปาตาโกไททันมาโยรัมขี้งอน แมวอะไรทำนิสัยไม่ต่างกับเจ้าของแม้แต่น้อยดุอะไรนิดหน่อยก็น้อยใจเดินสะบัดก้นหายไปเป็นวันวัน พอเรียกเสียงหวาน ๆ และยื่นอาหารจานโปรดไปให้ ก็วิ่งหน้าตาตื่นทำตากลมบ้องแบ๊วมาถึงถาดอาหารภายในเสี้ยววิ"สเต็กปลาแสนอร่อยฝีมือผมเองครับคุณเดมี่" ฮัลค์ บอดี้การ์ดที่แปรสภาพเป็นพ่อบ้านชั่วคราววานจานสเต็กปลากลิ่นหอมร้อน ๆ บนโต๊ะอาหาร"ขอบคุณมากค่ะ แต่คุณฮัลค์ไม่ต้องดูแลฉันตลอดเวลาก็ได้นะคะ" "ไม่ได้หรอกครับ คุณแม็กสั่งไว้ว่าให้ดูแลคุณให้ดีที่สุด""เขาคงไม่ได้ห่วงลายแทงฉบับนี้มากกว่าฉันหรอกนะคะ" พูดยิ้ม ๆ แล้วใช้มือตบลงบนแผนที่ลายแทงกรุสมบัติโบราณที่เธอกำลังร่างรอยต่อที่ขาดหายไปตามกาลเวลา "ไม่มีทางครับ คุณแม็กน่ะห่วงคุณยิ่งกว่าชีวิตตัวเองซะอีก ขนาดครั้งก่อนที่คุณฟีโอน่าขาวีนมาออดอ้อนขอความรักจากคุณแม็ก แต่พอไม่สำเร็จก็ใช้พ่อคุณแม็กเป็นเครื่องมือ แถมยังถูกคนของ
กลางดึกคืนหนึ่งในบ้านสีลูกกวาดที่เธอกำลังเร่งสเก็ตภาพส่วนสุดท้ายและแก้ไข้บางส่วนของเนื้อกระดาษที่เสียหายไป โดยมีฮัลค์ชายร่างใหญ่คอยอยู่อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับคนพิเศษของเจ้านายหญิงสาวที่นั่งอยู่ใต้โคมไฟชะโงกหน้ามองออกไปที่หน้าต่างและเห็นว่าฮัลค์เดินออกไปดูลาดเลารอบบ้านพร้อมกับพูดคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ สักพักเขาก็ผลุบหายเข้ามาในบ้านกระนั้นเสียงเคาะประตูห้องของเธอก็ดังขึ้นจนชวนให้รู้สึกใจคอไม่ดี"มีอะไรหรือเปล่าคะ" "มีครับ เดี๋ยวผมจะเล่าให้คุณเดมี่ฟังอีกทีนะครับ แต่ตอนนี้คุณต้องเก็บของแล้วเตรียมไปกับผมที่สนามบินเดี๋ยวนี้""ไปเดี๋ยวนี้" "ครับ เพราะตอนนี้คนของพ่อเจ้านายกำลังมาที่นี่เพื่อมาจับตัวคุณไปเป็นตัวประกัน"หญิงสาวไม่ต่อความยาวสาวความยืดให้เสียเวลาและชีวิต เร่งเก็บแผนที่ฉบับเก่าและใหม่ลงในหลอดเก็บม้วนกระดาษแล้วหยิบของสำคัญเสื้อผ้าสองสามตัวลงในกระเป๋าเป้ขนาดกระทัดรัดด้วยความรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นานเธอก็มาอยู่บนเครื่องบินส่วนตัวของ Magnus Co. ขณะที่ปาตาโกไททันมาโยรัมเอาแต่นั่งจ้องหน้าเธออย่างมีคำถามว่ามันทำไมถึงมาอยู่ที่นี่แต่พอฮัลค์ยื่นลูกบอลสมุนไพรมาให้เจ้าแมวต
หลังจากที่ฮัลค์ไปนอนเฝ้ายามที่กระท่อมบนไหล่เขาสูงความเงียบก็ประเดประดังเข้ามา ทำให้ชายหนุ่มเห็นท่าทีเย็นชาดุจหิมะขาวโพลนข้างนอกของเธอ เขาจึงไม่ค่อยสบายใจนักขณะที่กำลังคิดหาวิธีการพูดให้เธอเพื่อไม่ให้ดูตกอกตกใจกับงานเบื้องลึกเบื้องหลังของเขามากนักพลันใดดวงตาสีเข้มก็สะดุดเข้ากับเจ้าปาตาโกไททันมาโยรัมที่กำลังปีนต้นเรดวูดเล่นอยู่ด้านนอกหน้าต่างแล้วทำท่าจะปีนขึ้นไปสูงเรื่อยเรื่อยเขาเห็นท่าไม่ดีเพราะพายุหิมะกำลังจะตก จึงรีบวิ่งออกไปห้ามเจ้าแมวแสนซนอย่างร้อนลนกับพฤติกรรมไม่อยู่สุขของมัน"เฮ้! ปาตาโกไททัน แกลงมาเดี๋ยวนี้เลยนะ" ม๊าว! ม๊าว! เจ้าเหมียวตัวเขื่องร้องตอบ มันหันหลังมองลงมาอย่างกล้า ๆกลัว ๆ เพราะรู้ตัวอีกทีก็ปีนขึ้นมาซะสูงยากต่อการตะเกียกตะกายลงไปหาเจ้าของปากจัดด้านล่างเสียแล้วซึ่งระดับความสูงของพื้นกับกิ่งไม้ใหญ่ที่มันเกาะอยู่ก็ห่างกันจนแมวอย่างมันทำได้เพียงร้องเสียงเงี้ยวง๊าวขอความช่วยเหลืออย่างเดียว"ทีนี้จะทำยังไงล่ะ เดือดร้อนฉันอีกแล้ว"เสียงเอะอะโวยวายระหว่างคนกับแมวทำให้ใบหน้าที่หันคุยกับกำผนังบ้านด้วยความหงุดหงิดอยู่นั้นต้องชะเง้อมองดู และเห็นว่านายหงอกของเธอกำลังแบกบั
ฮัลค์เล่าต่ออีกว่าพ่อของแม็กนัสมาส่งแม่กับเขาที่บ้านเกิดในเดนมาร์ก เพราะแม่อยากย้ายกลับมาอยู่ที่นี่ถาวรส่วนพ่อก็กลับไปเจรจาธุรกิจ และรับปากว่าถ้าว่างเมื่อไหร่จะมาเยี่ยม แต่พ่อก็ไม่เคยมา กระทั่งหนังสือพิมพ์ลงข่าวอึกทึกครึมโครมว่า พ่อกำลังคบหากับนักเต้นบัลเล่ต์ดาวรุ่งคนหนึ่ง ซึ่งก็คือ ดมิสา ธนินกุล น้าแท้ ๆ ของเธอหลังจากนั้นไม่กี่เดือนแม่ของเขาที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งตับก็เสียชีวิตอย่างสงบ ดังนั้นเด็กหนุ่มอายุเพียง 6 ขวบอย่างเขาก็ถูกเลี้ยงดูจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่แม่ไว้ใจ แม็กนัส ณ เวลานั้น แม้จะยังเป็นเพียงแค่เด็กที่ยังไม่ตาสีตาสาแต่ก็พยายามเสาะหาสาเหตุที่พ่อทิ้งแม่ไป กระทั่งรู้ว่าพ่อนอกใจแม่ ไปมีผู้หญิงคนอื่นนานแล้ว และยังมีอีกหลาย ๆ คนตามมาไม่นานพวกผู้หญิงเหล่านั้นก็ล้วนแต่มีชะตากรรมอันแสนอัปยศไม่ต่างจากแม่ใครก็ตามที่ให้ประโยชน์แก่พ่อของเขา พ่อจะเข้าไปผูกสัมพันธ์อย่างไม่ลังเล เพื่อแลกกับอำนาจในมือ ต่อให้ต้องสูญเสียสิ่งใดเขาก็ไม่เคยแยแสจวบจนปู่แท้ ๆ ของเขา มารับเขาไปดูแลต่อที่เมืองจีน ที่นั่นเขาได้พบกับพ่ออีกครั้ง ทว่าความเกลียดชังที่เขามีต่อพ่อของตัวเองก็ยากที่จะสลายให้มลายไปเสียแล
ไม่นึกเลยว่าในยามที่เขาเจ็บป่วยนอนซมจะมีโอกาสเห็นอีกมุมของเธอ บุคคลที่เขาเลือกจะมีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้านด้วยและผู้หญิงคนนี้เหมาะสมที่สุดที่เขาจะฝากชีวิตที่เหลือไว้ ซึ่งเขาเองก็พร้อมที่จะปกป้องดูแลเธอเช่นเดียวกันหน้าเตาผิงไฟส่องสว่าง แสงสีส้มของมันตกกระทบพอที่จะทำให้งานสำคัญในมือของดารินธิราเสร็จสิ้นลง นิ้วมือสวยตวัดปลายดินสอรอบสุดท้ายลงบนกระดาษแผ่นใหญ่ ในที่สุดเธอก็สามารถปิดจ๊อบงานร่างแผนที่ฉบับใหม่ให้นายจ้างหัวสีเงินได้สำเร็จสาวผมยาวสีดำขลับลุกขึ้นจากเก้าอี้บิดขี้เกียจไปมา เดินตรงไปหาผู้ป่วยไข้หวัดที่นอนหลับเงียบเชียบอยู่บนเตียงนอนหลังมือของพยาบาลพิเศษยื่นลงไปทาบหน้าผากตรวจดูว่าไข้ทุเลาเบาบางลงบ้างหรือยัง โชคดีที่ตัวของเขาเริ่มเย็นขึ้นมาหน่อย ดังนั้นการอดหลับอดนอนของเธอก็ถือว่าคุ้มค่า"ตัวเหนียวจัง อาบน้ำหน่อยดีกว่า"ศิลปินสาวขอใช้เวลาส่วนตัวแช่น้ำอุ่น ๆ ในถังไม้อาบน้ำใบใหญ่เพื่อผ่อนคลายระหว่างที่คนป่วยนอนหลับหญิงสาวฮัมเพลงแช่น้ำในถังไม้สบายใจ ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงจึงตัดสินใจขึ้นจากน้ำ "อ้าวตายแล้ว ลืมผ้าเช็ดตัวเฉยเลย ทำไงดีล่ะเนี่ย"คนตัวชื้นมองหาบางสิ่งที่จะห่อหุ้มร่างกายอ
แม็กนัสยืนตัวแข็งค้างเพราะใบหน้าด้านหลังถูไถเสียดสีไม่หยุด ต้องใช่แน่ ๆ ไอ้ปาตาโกไททันมันต้องถ่ายทอดดีเอ็นเอแมวให้เดมี่ไปเรียบร้อย"หอมจัง อุ่นด้วย""ปล่อยได้หรือยัง""ปล่อยก็ได้ค่ะ"พอสองมือของดารินธิราปล่อยออกเท่านั้น ทาสหนุ่มผู้เจ้าเล่ห์ก็หันหลังดึงแมวน้อยเข้ามาสู่อ้อมอกอย่างว่องไวจนใบหน้าจมมิดหายลงไปในอ้อมกอด"ฉันปล่อยแล้วนะคะ คุณมากอดทำไมอีกอ่ะ ขี้โกงเห็น ๆ""คุณอ่อยผู้ชายไม่ได้เรื่องเลย ทำตัวเหมือนแมวกำลังขอปลาทู" เขาแซวจนอีกฝ่ายร้อนผะผ่าวไปทั้งหน้า"อ่อยเหมือนแมวขอปลาทูเหรอคะ....คุณดูถูกฉันมาก" จะว่าไปเธอก็เพิ่งอ่อยผู้ชายเป็นครั้งแรก แล้วใครมันจะไปรู้เล่าว่าต้องทำท่าทางยังไงหนุ่มผมเงินก้มหน้าลงมองแก้มก้อนที่แสนน่ารัก ที่ตอนนี้กำลังบู้บี้เกยอยู่กับแผงอกของเขาช่างน่าเอ็นดูและน่าจับฟัดในเวลาเดียวกัน"คุณกำลังจะทำให้ผมคลั่งตาย รู้ตัวไหม"หญิงสาวส่ายหน้าและกระพริบตาเป็นเชิงขอคำตอบจากอัจฉริยะหนุ่ม เขาทำท่านึกสักพักและฝังจมูกโด่งลงมาบนหน้าสูดดมความหอมจากพวงแก้มขาวอมชมพูฟอด!!!!"อื้อ..หอมแรงไปแล้ว เดี๋ยวแก้มมี่พังหมด" หญิงสาวเผลอแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นสั้น ๆ ที่ฟังแล้วโคตรน่ารัก"มี่เห
ช่วงเวลาที่หนุ่มสาวคลอเคลียกันอยู่ริมทะเลสาบ ไม่ทันไรเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะ เป็นโทรศัพท์ฉุกเฉินจากฮัลค์ แม้จะไม่กดรับก็รู้ว่าอันตรายคืนคลานเข้ามาใกล้เขาทุกทีแม็กนัสอ่านข้อความที่คนสนิทของเขาส่งมา บอกว่ากลุ่มเฮริฟ์เดินทางมาถึงเดนมาร์กเพื่อตามล่าแผนที่ฉบับนั้น ให้เจ้านายของเขารีบไปจากที่นี่โดยด่วน"เราต้องไปกันแล้ว มีคนตามล่าแผนที่ฉบับนั้นที่ผมให้คุณร่างขึ้นมาใหม่ ตอนนี้ฮัลค์คงเก็บแผนที่นั่นไปไว้กับตัวเป็นอย่างดี แต่พวกเราต้องไปจากเดนมาร์กเดี๋ยวนี้เลย เพื่อให้คนของผมไล่ล่าจับพวกมันสะดวกขึ้น""สรุปแล้วคุณทำงานอะไรกันแน่""ผมจะบอกคุณทุกเรื่องเดมี่ ผมสัญญา แต่ตอนนี้รีบไปกันก่อน"หญิงสาวรีบพยักหน้ารับและคร่อมขึ้นรถสโนว์โมบิลที่มีเขาเป็นผู้ขับอย่างไม่โต้เถียงใด ๆ แม็กนัสขับไปจนถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง และเห็นกลุ่มชายชุดดำสามคนที่ยืนรอรับเขาขึ้นรถโฟล์วิลล์คันใหญ่"เจ้านายเครื่องบินส่วนตัวที่โคเปนเฮเกนพร้อมบินไปแอฟริกาใต้แล้วครับ""อืม ขอบใจพวกนายมาก.....เดมี่ขึ้นรถเถอะ"เขาหันไปบอกแล้วเปิดประตูรถให้เธอขึ้นไปก่อน ขณะที่สายตาคอยมองรอบข้างอย่างระมัดระวังเผื่อว่าจะมีมือปืนของกลุ่ม เฮริฟ์ซุ่
การสนทนาระหว่างแม็กนัสและอิศณะเป็นไปอย่างเคร่งเครียดและจริงจังทำให้โมนาถือโอกาสคุยกับหญิงสาวผู้ที่เธอเคยใฝ่ฝันถึงว่าสักวันจะนำน้องสาวคนนี้มาเป็นนางแบบฉลองครบรอบนิตยสารโมนาลิซ่าเข้าสู่ปีที่ 9 ไหน ๆ ตอนนี้โชคก็เข้าข้างเธอแล้ว เธอไม่ยอมพลาดการเจรจาครั้งนี้เด็ดขาด"พี่ตามข่าวเราอยู่บ้างก็เลยรู้ว่าเราเผชิญปัญหาอะไร พี่เคยบอกเดมี่แล้วไม่ใช่เหรอ ถ้าเราเดือดร้อนเมื่อไร ขอแค่เราเอ่ยปากบอก พี่ก็พร้อมจะช่วยเราทุกเรื่อง""หนูขอโทษค่ะ ก็หนูเกรงใจนี่นา" ดารินธิราก้มหน้าคอตก"พี่เข้าใจว่าเราชอบที่จะยืนหยัดด้วยลำแข้งตัวเอง พี่ชื่นชมในส่วนนี้นะ แต่เรื่องสปอนเซอร์นั่นพี่ขอเถอะ พี่อยากช่วยจริง ๆ พี่เคยเจอฟีโอน่าปลานกแก้วนั่นพูดจ้อกับพี่ราวกับสนิทกันมาพันปีได้ ตอนนั้นนางเสนอตัวจะขึ้นปกถ่ายแบบด้วยนะ ช่างมั่นหน้าซะเหลือเกิน แต่พี่ปฏิเสธไป เพราะลุคนางไม่แมสกับโมนาลิซ่า" โมนา ผู้บริหารนิตยสารคนดังจีบปากจีบคอเบะปากพูดถึงฟีโอน่าด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์"ฮ่า ๆ แต่เธอก็ไฮโซดูโก้หรูดีออกนะคะ ส่วนเรื่องสปอนเซอร์ ความจริงถ้าหนูได้พี่โมนามาเป็นสปอนเซอร์รายใหม่ทุกคนที่สถาบันคงดีใจกันมากแน่ ๆ เลยค่ะ""งั้นถือว่าเราตกลง
หลังจากที่เมื่อวานเขามาส่งเธอที่บ้าน และพูดกับเธอว่า "ดูแลตัวเองให้ดี เพราะอาทิตย์นี้เขาอาจจะไม่มีเวลามาหา" พอได้ยินแบบนั้นใจมันก็แป้วจนบอกไม่ถูก เหมือนมีลางว่าจะเกิดเรื่องโกลาหลอะไรขึ้นทั้งที่เกือบหนึ่่งเดือนมานี้ตอนที่อยู่แอฟริกาใต้เธอตัวติดกับเขาตลอดเวลา ถึงแม้จะมีเรื่องวุ่นวายทั้งหลายเข้ามาแทรกกลางบ้าง แต่เขาก็ตามไปช่วยเธอกลับมาได้ทุกครั้งทว่าเวลานี้.....เธอทำได้แค่ยืนมองดูเขา อยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกผ่านหน้าจอทีวีเท่านั้นน่ะเหรอ เธอไม่สามารถที่จะช่วยอะไรเขาได้เลยพลันใดคำพูดของพี่โมนา ก็สะท้อนดังขึ้นมา ที่บอกว่า "การช่วยใครสักคนไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องจับปืนถือมีด แต่หมายถึงทำในสิ่งที่เราสามารถทำได้ เพื่อเขา""หนูจะไปทำธุระสักหน่อย ฝากทางนี้ด้วยนะคะคุณเบ็ค"บอกกับพนักงานอาวุโสที่สุดของสถาบันและเดินตรงออกไปจากสถาบันทันที"ได้จ้ะ"รถมินิคูปเปอร์ของหญิงสาวแล่นฉิวออกจากลานจอดรถด้วยความร้อนใจไม่นานนักก็ถึงตึกรูปตัวเอ็มสูงใหญ่ที่มองเห็นไกล ๆ ว่ามีคนหัวดำหัวสีหลายคนยืนมุงอยู่หน้าบริษัทจนมองไม่เห็นชายหนุ่มที่เธอเป็นห่วงไมค์หลายตัวยื่นจ่อปาก บางตัวก็เกือบเขกโดนหัวของเจ้
ไม่นานนักความกระจ่างก็มาตั้งอยู่ตรงหน้าของเธอ หน้าจอทีวีขนาด 24 นิ้วลิงค์เชื่อมต่อกับแท็บเล็ตของเขาทันทีที่ปลายนิ้วสวยจิ้มตรงนั้นทีตรงนี้ที พลันนั้นสรีระโครงสร้างร่างกายของปาตาโกไททันมาโยรัมก็ปรากฏขึ้นในรูปแบบกราฟฟิก พร้อมกับตำแหน่งที่ขึ้นเป็นจุดสีแดง และเส้นกราฟแสดงผลบอกระดับของอารมณ์ ระดับพลังงานของร่างกาย ความเครียดและความผ่อนคลายแม้กระทั่งตำแหน่งแสดงภาพรวมว่าผลของร่างกายเป็นบวกหรือลบ สุดท้ายคือพีระมิดที่แสดงขึ้นด้านข้างเหมือนกับสีออร่า"คุณเขียนโปรแกรมนี้เองเหรอคะ ดูเทพทรูมากเลยอ่ะ"จ๊วบ!เรียวปากกระจับของเขาฝังลงบนแก้มนุ่มออกแรงบดด้วยความหมั่นเขี้ยวจนเจ้าของพวงแก้มถึงกับจิกตาเขียวปัด"เอ๊ะคุณนี่! เสียงดังไปแล้วนะคะ""ในห้องมีแต่เรากับแมวหนึ่งตัวที่ป่วยอยู่ จะอายอะไร" "คุณไม่อายแต่ฉันอาย คุณดูหน้ามันสิ มันดูตะลึงมากเลย" หญิงสาวบอกแล้วชี้ไปที่หน้าของปาตาโกไททันที่นั่งจ้องเขม็งมาที่มนุษย์อย่างไม่สบอารมณ์นัก "แกป่วยก็นอนพักไปสิ มานั่งจ้องจับผิดอะไรอยู่ได้" เขาตวาดใส่มันแล้วก็กลับไปดูที่หน้าจอทีวีเช่นเดิม"คุณยังจะไปดุมันอีก สรุปแล้วเจ้าเหมียวเป็นอะไรคะ" ดารินธิราสงสารเจ้าเหมียวท
แม็กนัส ทำท่าทีเป็นรีบทำเป็นดำน้ำนอนอยู่ใต้อ่างจากุชชี่เพื่อแกล้งแหย่เดมี่หลังจากที่เธอบรรจงถอดเสื้อผ้าที่ทั้งเปียกทั้งหนักออกอย่างทุลักทุเล เหลือเพียงแต่ปราการสองชิ้นน้อย ๆ ที่ปกปิดเรือนร่างบางเย้ายวนเอาไว้หญิงสาวค่อย ๆ หันกลับมาเผชิญกับชายหนุ่มในอ่างเก้ ๆกัง ๆ ทว่าพ่อคนเมายากลับไม่ได้นั่งหัวโด่อยู่ตรงนั้นแต่เขากลับนอนอยู่ใต้ผิวน้ำใสของอ่างน้ำร้อนนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง "แกล้งฉันอีกแล้วใช่ไหมคะ เชิญนอนใต้น้ำนั่นไปเลย ฉันไม่สนใจคุณหรอก" เธอยืนจ้องดูเขาเท้าสะเอวรอคอยว่าเขาจะหมดลมหายใจใต้น้ำเมื่อไหร่ แต่เวลาก็ผ่านไปพักใหญ่แล้วน่าจะเกือบสองนาทีทำไมเขายังไม่ขยับเขยื้อนตัวอีก หรือว่าเขาจะเป็นลมใจใต้น้ำจริง ๆด้วยความตื่นตระหนกตกใจหญิงสาวจึงพุ่งพรวดลงไปในอ่าง งัดล่างของเขาขึ้นมา พอดึงร่างของเขาขึ้นมาพิงกับขอบอ่างได้ ฝ่ามือก็รีบตบ ๆ เรียกสติของเขาให้ตื่นขึ้น "นี่คุณอย่ามาล้อเล่นนะ....เย่ซี! คุณตื่นสิ ไม่งั้นฉันจะโกรธคุณจริง ๆ แล้วนะคะ" ประชดประชันใส่และเตรียมลุกออกจากอ่างสวบ!ทันใดนั้นร่างบางถูกรวบเข้าไปกอดอย่างรวดเร็วทำให้เซถลาล้มลงบนหน้าขาแกร่ง"อย่าโกรธผมนะ....ขอร้อง"คนคนเจ้าเล่ห์พูด
ร่างกายของซุนย่าฉงที่กอดก่ายชายหนุ่มในสระว่ายน้ำอยู่นั้นพยายามจะยั่วยวนให้แม็กนัสตบะแตกสายลับแสนเจ้าเล่ห์จึงได้แต่เล่นไปตามบทบาทเพื่อรอจังหวะเหยื่อตายใจ"เวลาคุณเปียกแล้วเซ็กซี่น่าฟัดไปหมด คุณรู้ไหม..เย่ซี" นางนกต่อพร่ำบอกพลางยกฝ่ามือลูบไล้กล้ามหน้าท้องขาวจั๊วะมือหนาจึงรีบเอื้อมมือคว้าแก้วที่มียาหลอนติดลบ 18+ ยาสูตรพิเศษของสมาคมใช้เพื่อทำให้เหยื่อคิดว่าตนกำลังทำกิจกรรมบนเตียงกับคนที่ตนปรารถนา "ดื่มนี่ก่อนสิ"เขายื่นขอบแก้วแตะลงบนริมฝีปากสีเลือดนกของซุนย่าฉง หญิงสาวเหลือบมองอย่างลังเลแต่ก็ยอมรับแก้วดังกล่าวมาดื่มโดยไม่ปฏิเสธ"ก็ได้ค่ะ"ริมฝีปากบางจิบแต่พองาม พลางส่งกลับไปให้แม็กนัสดื่มสายลับหนุ่มจึงต้องจำใจดื่มพราะซุนย่าถิงกำลังคลางแคลงใจในพฤติกรรมของเขาอยู่เช่นเดียวกัน"ครับดื่มก็ได้ คุณว่าไงผมว่าตาม"เหล้าสีใสถูกกรอกผ่านลำคอลงไป ภายในเสี้ยววินาทีความหนาวสะท้านก็แผ่ซ่านเข้ามาปกคลุมผิวกายอย่างเฉียบพลันแม้ยานี้จะแตกต่างกับยาจำพวกเสียสาวตรงที่ให้ความรู้สึกหนาวสั่น แต่สองสามนาทีถัดมายาหลอนติดลบจะสำแดงฤทธิ์ให้เห็นภาพที่เปี่ยมด้วยกิเลสตัณหาภายในจิตใจและตอนนี้มันก็เกิดขึ้นกับเขาจนไม่อา
รถติดฟิลม์อำพรางไม่ให้คนข้างนอกเห็นมาจอดยังชายหาดแซนดี้ใจกลางเมืองเคปทาวน์ตามนัดของซีอีโอผู้ก่อตั้งนิตยสารโมนาลิซ่าชายหาดแห่งนี้ห่างไกลผู้คนเต็มด้วยคลื่นสีครามน้ำใสอันสุขสงบ และโอบล้อมด้วยทิวเขาเขียวขจีเหมาะแก่การใช้เป็นสถานที่ถ่ายแบบมากที่สุด"สวัดสีค่ะพี่โมนา""มาแล้วเหรอจ๊ะ งั้นมาแต่งหน้าทำผมกันเลย เอ้....ปกติเราแต่งตัวแบบนี้เหรอมันดูจะสุภาพไปหน่อยนะพี่ว่า"เจ้าของนิตยสารสาวเอ่ยถามพลางดึงแขนของดารินธิราให้นั่งลงบนเก้าอี้แต่งตัว"คนโน้นค่ะที่อุตริจัดแจงเสื้อผ้าพวกนี้ให้หนูใส่"โมนาเอี้ยวตัวหันไปมองชายหนุ่มด้านหลังที่พกพาบอดี้การ์ดมาคุมกองถ่ายแบบจำนวนหนึ่งคล้ายกับกำลังคุมนักโทษ"โหว.....นี่เป็นขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย""ค่ะ......เป็นเอามาก""โถ ๆ เดมี่ หนูอิศของพี่ก็พอกัน หมอนั่นนะถึงกับประสาทเสียเลยแหละ คิดแล้วก็ขำ เฮ้อ....แล้วถ้าพ่อแฟนอัจฉริยะของเราเห็นชุดถ่ายแบบแต่ละชุดแล้ว จะไม่องค์ลงแย่เลยเหรอ""ช่างเขาเถอะค่ะ จะได้รู้จักมีขันติซะบ้าง แบ่งแยกว่าอะไรคืองานอะไรคือเรื่องส่วนตัว"ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดารินธิราก็ก้าวออกมาจากห้องแต่งตัวเคลื่อนที่ในชุดบีชแวร์สวยสง่าดั่งนางฟ้าที่เดินกรุยกรายอย
ขายาวในเสื้อเชิ้ตสีดำตัวโคร่งนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้วาดรูป หลังจากตื่นนอนภาพเมื่อคืนก็ผุดพรายขึ้นราวกับสตอรี่ที่แสนร้อนรุ่ม ทำให้ต้องควานหากิจกรรมอย่างอื่นทำเพื่อกลบภาพอันซาบซ่านดารินธิรารีบไปบอกฮัลค์ให้จัดหาอุปกรณ์วาดรูปให้เธอ ไม่น่าเชื่อว่าภายในกี่นาทีเขาก็กลับมาพร้อมกับสิ่งที่เธอต้องการ ศิลปินสาวจดจ้องใบหน้าสว่างที่คว่ำแนบอยู่กับหมอนอิงใบใหญ่ "น่ารักน่าหยิกเหลือเกิน"กรอบหน้านวลสว่างงดงามกว่าผู้หญิงดึงดูดใจให้เธออยากตวัดปลายดินสอเพื่อสเก็ตรูปของเขายามหลับใหลอีกครั้งรูปเมื่อห้าปีก่อนของเธอถูกเขาทำลาย เป็นรูปที่เธอแอบวาดเขาตอนกำลังป่วยอยู่ในคฤหาสน์อาเวนชี่ จำได้ว่าตอนนั้นแม็กนัสมีไข้สูง หน้าขาว ๆ ของเขาก็กลายเป็นสีแดงจัด วันนั้นน้าสาวของเธอไปงานเลี้ยงกับพ่อของเขา ทำให้น้ากำชับว่าให้เธออยู่คฤหาสน์อาเวนชี่คอยช่วยแม่บ้านใหญ่คอยดูแลคุณหนูแถมคุณหนูที่ว่าก็คือเด็กหนุ่มอายุ 18 ที่ป่วยนอนซมอยู่ ตอนนั้นเธอที่อายุ 21 ปีก็เป็นเหมือนพี่เลี้ยงเด็กไปอีกคนโดยปริยาย ช่วงนั้นเธอกำลังส่งรูปภาพเข้าประกวดเพื่อชิงรางวัลศิลปินแห่งซิลิคอนวัลเล่ย์ รวมทั้งต้องเฝ้าเด็กหนุ่มที่ย้อมผมสีเทาเงินประชดชีวิต
ยามที่เรียวปากกระจับลากไล้ต่ำลงมายังชายโครง ระดมจูบที่กล้ามเนื้อแน่นตึงแข็งแรง และดูเร่าร้อนช่วงเวลาที่ใบหน้าอิ่มสุขร่ายมนต์อยู่บนเวทีที่ลินคอร์นเซ็นเตอร์เมื่อห้าปีก่อนก็ผุดพรายขึ้นมาในความทรงจำของแม็กนัส"ผมเป็นสาเหตุทำให้คุณเลิกเต้นหรือเปล่า" คำถามถูกพ่นออกมารดลงมายังหน้าท้องแบนราบ ดวงตาเรียวคมเหลือบมองใบหน้าที่แหงนหงายมองเพดานห้อง นัยน์ตากลมโตหลุบมองสบตาพลางผลักตัวของชายหนุ่มออกเบา ๆ ค่อย ๆ หยัดตัวลุกขึ้น ประคองเต้าเปลือยเปล่าอย่างกระดากอาย เรียวขายาวพับเพียบเบียดเข้าหากันเพราะสายตาร้อนที่สำรวจมองอยู่นั้น มันชวนให้กระอักกระอ่วนและเย็นยะเยือก"ไม่ใช่เพราะคุณ แต่....เพราะฉันในเวลานั้นแค่ไม่อยากเป็นเงาของน้า และไม่อยากให้คุณรังเกียจกันไปมากกว่านี้" "โธ่!...เดมี่"ร่างบางสั่นเทาขณะบอกเล่าเรื่องราวเก็บกดมาทั้งชีวิตถูกรวบเข้าไปโอบกอด ฝ่ามือที่ประคองทรวงอกอยู่นั้นเคลื่อนขยับมาโอบกอดแผ่นหลังกว้างนั้นกลับ "คนที่ผมรังเกียจไม่ใช่คุณ แต่เป็นพ่อผมกับน้าของคุณ"พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดันตัวคนที่กำลังสั่นเทาออก ปลายจมูกโด่งฝังลงบนหัวไหล่มนสูดดมความหอมจากเรือนร่าง เคลื่อนมายังไหปลาร้าคู่สวยพ
ใบหน้าซีดนั่งเงียบมาตลอดทางที่นั่งรถกลับมากับเขา ตอนนี้เธอไม่อาจให้เขาแตะเนื้อต้องตัวเพราะกลัวว่าจะดูเป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจและไร้ยางอายในสายตาของเขากระทั่งเสื้อที่เขาถอดคลุมผิวกายที่สั่นระริกของเธอก็ยังไม่สมควรจะอยู่บนเรือนร่างนี้ด้วยซ้ำ ถ้าเกิดว่าเขามาไม่ทัน หรือตัดใจทิ้งเธอไป วินาทีนั้นเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงของเขาอีกต่อไปแล้ว "ทำไมคุณต้องนั่งห่างผมขนาดนั้นเดมี่""มี่รู้สึกตัวเอง.....สกปรก"ช่างเป็นคำพูดที่ทำให้คนฟังอย่างเขาหดหู่ใจขึ้นมา ทำไมเธอต้องพูดดูแคลนตัวเองขนาดนี้ เขาไม่เคยมองว่าเธอสกปรกเลยสักนิดหรือเธอเห็นว่าเขาเป็นคนที่รักความสมบูรณ์แบบจึงกลัวว่าตนจะไม่สมบูรณ์แบบสำหรับเขาแม็กนัสพาดารินธิรามาที่พักแห่งใหม่ซึ่งอยู่บนยอดเขาห่างไกลจากอันตราย ซึ่งบนนี้มีกำแพงเขื่อนสูงใหญ่และประตูเหล็กนิรภัยอีกสองชั้นสถานที่แห่งนี้จะใช้เป็นเซฟเฮาส์ทุกครั้งเมื่อมาปฏิบัติภารกิจที่แอฟริกาใต้แต่ด้วยสถานการณ์คับขัน เพราะผู้หญิงของเขาตกเป็นเป้าหมายของพวกกลุ่มเฮริฟ์อย่างไม่ทันตั้งตัว เขาจำเป็นต้องพาเธอมาซ่อนตัวสักพักร่างบางที่กอดก่ายเสื้อสูทตัวนอกที่เขาใช้คลุมปกปิดความล่อแหลมบนเรือนร่าง ค่อย ๆ ปลดอ
ปลายหมึกปากกาสีดำที่ลากเส้นบนพื้นผิวกระดาษอยู่นั้นผงะเล็กน้อย เมื่อมีบางอย่างถูกโยนลงมาบนโต๊ะที่เธอบรรจงวาดรูปอยู่ดารินธิรามองชุดตรงหน้าเอื้อมหยิบมากางดูอย่างข้องใจ "คุณลูคัสสั่งให้คุณใส่ชุดนี้แล้วลงไปร่วมงานเลี้ยงของโรงแรมกับเขา" "แต่ชุดนี้มันค่อนข้างจะเซ็กซี่เกินไปหน่อยมั้ยคะ""คุณมีหน้าที่ใส่ก็ใส่ไป" ชายชุดดำกำชับแล้วเดินจากไป "เฮ้อ" ดารินธิราถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่นึกถึงคำพูดที่เคยให้สัญญากับเขาไว้ว่าเธอจะใส่ชุดโชว์เนื้อหนังมังสาแบบนี้ให้เขาดูแค่คนเดียวแต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป ถ้าเธอเกิดหยิ่งยโสอยู่ ไม่รู้ว่าจะโดนกระสุนปืนเจาะหัวเมื่อไรถ้าต้องผิดคำสัญญาที่ให้ไว้ก็คงต้องปล่อยไป เพราะเธอทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากยอมรับชะตากรรมงานเลี้ยงหรูที่ทุกคนมาในธีม 'Midnight' แถมบางคนก็ใส่หน้ากากปิดซะเหลือแต่คอบางคนก็แต่งชุดดำตั้งแต่หัวจรดเท้า สรุปแล้วนี่มันงานอะไรกันแน่ดู ๆ ไปก็คล้ายกับงานรวมตัวของเหล่าวายร้ายยังไงยังงั้น"คุณสวยมาก" "ขอบคุณ" หญิงสาวตอบอย่างกล้ำกลืนทว่ายิ่งเธอทำจองหองใส่เขา มือใหญ่ก็รั้งเอวคอดเข้ามาแนบชิดใบหน้าจิ้มลิ้มจึงสะบัดมองมือที่ทาบกดอยู่บนเอวเปลือยเปล่าของเธออ