ยามที่ดวงตาเรียวจ้องมองสัดส่วนที่เยื้องกรายอย่างไร้เดียงสานั้น วิญญาณของเขาคล้ายกับจะหลุดออกมาอยู่มะลอมมะล่อพระเจ้า เรือนร่างของเธอนี้ช่างสร้างความระทึกต่อใจของเขาเหลือเกินวันนี้เขาเข้าใจหัวอกพี่รองอย่างอิศณะอย่างกระจ่างแจ้งถึงแก่นแท้แล้วว่า ความหึงหวงคืออะไร ความไม่อยากให้ใครหน้าไหนได้มีโอกาสใช้สายตากวาดมองเรือนร่างคนรักเป็นอย่างไรวินาทีนี้เขากำลังตกอยู่ภวังค์นั้น เขากำลังตกหลุมความเร่าร้อนและเย้ายวนของเดมี่"คุณแน่ใจนะว่าจะใส่ชุดนี้""แน่ใจสิคะ" น้ำเสียงสดใสหันหน้ามาตอบต้นเสียงที่ยืนประชิดอยู่ด้านหลัง แต่ใบหน้ากลับชนกับแผ่นหลังสูงเข้าเต็ม ๆ "คุณไม่ชอบเลยอยากให้มี่เปลี่ยนกลับใช่ไหม" ย่นคิ้วถามอย่างรู้ทัน ใช้น้ำเสียงหวานจนหัวใจแม็กนัสแทบละลายทว่าเขากลับยืนนิ่ง ก้มหน้าล้วงกระเป๋ากางเกงไม่ยอมพูดยอมจา ดารินธิราจึงลองยื่นนิ้วไปจิ้มแก้มของพ่อคนหน้าขรึมเล่น "ดูทำหน้าบูดเชียว เดี๋ยวมี่เปลี่ยนใส่ชุดอื่นก็ได้ค่ะ" หมับ!นิ้วชี้ของเธอถูกเขาจับไว้ มือใหญ่อีกข้างรวบเอวสวยเข้ามากดหนัก ๆ ให้แนบชิดกับบริเวณหน้าท้องแกร่ง สองมือน้อย ๆ ถูกรวบยกขึ้นให้วางลงบนหัวไหล่หนา"ผมเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าผมม
ขณะที่ฮัลค์เตรียมเครื่องดื่มสูตรเฉพาะมาวางไว้ให้ที่โต๊ะระหว่างเจ้านายเล่นน้ำกับผู้หญิงของเขาฝ่ามือเล็กวักน้ำทะเลใส่ชายหนุ่มจนเปียกชุ่ม เขาก็ไม่ยอมแพ้ตะกุยน้ำกลับใส่เธอบ้าง ทั้งสองต่างหยอกล้อไล่กันอย่างกับหนุ่มสาวรุ่นราวคราวสิบแปดก็ไม่ปานกระทั่งชายหนุ่มวิ่งจับเอวคอดกิ่วนั่นทันแล้วยกทีเดียวลอยคว้าง"จับเด็กดื้อได้ละ""คุณนั่นแหละเด็กดื้อ ฮ่าฮ่าปล่อยนะคะมันจั๊กจี้""ได้"แม็กนัสยิ้มแล้วแบกร่างบางไปที่โขดหินใหญ่ เพื่อหลบสายตาบอดี้การ์ดของเขาที่เฝ้ามองอยู่ เขาปล่อยให้สองขาของเธอยืนอยู่ใต้น้ำ คลื่นที่ซัดสาดกระทบกับตัวของหญิงสาวทำให้เธอต้องโผเข้าจับท่อนแขนขาวจั๊วะเพื่อพยุงตัว"ผมมีอะไรจะสารภาพ""อะไรคะ""เมื่อครั้งที่ผมโดนคนของพ่อบังคับให้ไปเจรจากับฟีโอน่า แล้วผมก็ถูกวางยา หลังจากนั้นฟีโอน่าก็เข้ามายั่วยวนผม วินาทีนั้นผมไม่ได้เห็นฟีโอน่า แต่ผมเห็นคุณ ผมก็เลย....เกือบทำอะไรเกินเลยกับเธอไป ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่น่าเป็นคนฉลาดได้เลย น่าจะเป็นคนงี่เง่ามากกว่า""ที่แท้สิ่งที่อยู่ในใจคุณก็คือความรู้สึกผิดนี่เอง""ผมทำผิดต่อคุณจริง ๆ คุณโกรธผมหรือเปล่าเดมี่""ไม่เลยค่ะ เพราะมันไม่ใช่ความผิดของคุณ ดั
ตอนนั้นเขาจำได้ว่ามีรูป ๆ หนึ่งถูกม้วนเก็บแยกไว้บนชั้นวางของ ซึ่งเขาคิดว่ารูปนี้ต้องเป็นรูปที่สำคัญมากแต่เขาก็ไม่เคยเปิดม้วนกระดาษนั่นออกมา และตัดสินใจเผาทิ้งจนเป็นขี้เถ้าภายในพริบตาเดียว แสดงว่ารูปนั้นอาจจะเป็นรูปภาพของเขาจากฝีมือการวาดของเธอ"คุณรักผมใช่ไหมเดมี่" เสียงทุ้มกระซิบถามอย่างนุ่มนวลแล้วใช้นิ้วเรียวสวยเกลี่ยลงบนแก้มอมชมพูจากพิษแอลกฮอลล์ดวงตากลมโตปรือมองอีกครั้งทาบมือลงแผงอกของเขา "รัก" พูดเสียงแผ่วเบาแล้วขยับตัวลุก คร่อมลงมาบนตัวเขาอย่างไม่นัดแนะ เรียวขาเล็กขนาบอยู่ระหว่างเอว"คุณจะทำอะไรเดมี่""มี่จะแก้แค้นคุณป๋าแม็ก" สิ้นเสียงแม่แมวน้อยก็ก้มลงมาบดจูบซะดื้อ ๆ แถมยึดข้อมือของเขาจนแน่น หรือนี่แม่คุณกำลังคิดจะเอาคืนกับสิ่งที่ฟีโอน่า พาร์สันเคยทำกับเขา จะยังไงตอนนี้เขาก็ไม่อยากคิดให้ปวดหัวแล้ว เพราะตอนนี้เขาอยากจูบตอบเธอให้ขาดใจไปเลย ถ้าอยากแก้แค้น เขาก็จะพลีกายให้เธอเดี๋ยวนี้แม้จะปฏิญาณกับตนเองว่าขอเธอแต่งงานเมื่อไร เขาถึงจะยอมหลับนอนให้เป็นไปตามธรรมนองคลองธรรมแต่ตอนนี้ บนเตียงนี้ ช่างยากเหลือเกินที่จะระงับความปรารถนากับเรือนร่างเร่าร้อนและอาการโต้ตอบอันรุนแรงของแม่แมวเ
ร้านอาหารบรรยากาศเย็นสบายติดเแหลมกู๊ดโฮป ชวนให้ร่างกายที่เพิ่งสร่างเมารู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย แต่ก็ยังอายอยู่ดีเพราะเมื่อเช้าตอนส่องกระจกและเห็นว่าที่ต้นคอของตัวเองก็มีรอยจ้ำแดง ๆ สองสามจุดเหมือนกับของอีกคน แสดงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเขาก็ตอบสนองต่อเธออยู่ไม่น้อย ทำให้เสื้อผ้าของเขาและเธอที่ใส่มารับประทานอาหารเช้านี้เป็นเสื้อคู่คอเต่าเหมือนกันโดยบังเอิญ "อ่ะ..กินเยอะ ๆ"เสียงเข้มบอกและส่งเนื้อกุ้งลอบสเตอร์ที่แกะแล้ววางลงในจานของหญิงสาว"ขอบคุณค่ะ.....คุณเองก็กินเยอะ ๆ แล้วยังเจ็บแผลที่โดนปาตาโกตบอยู่ไหมคะ""เบาแล้วล่ะ ผมว่ามันต้องหวงคุณแน่ ๆ เลย นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมโดนแมวตัวเองตบ""แมวคุณก็นิสัยเหมือนคุณนั่นแหละ ขี้หวง ขี้โมโห ขี้หงุดหงิด ขี้หึง""เดี๋ยวตอนเราแต่งงานกัน คุณจะพบว่าผมมีอีกขี้นึงด้วย""ขี้อะไรเหรอคะ""ขี้เอา"ดารินธิราถึงกับหน้าร้อนผ่าว คิดไม่ออกว่าจะต่อบทสนทนายังไงดีพลันใดนั้นเสียงเอะอะโวยวายก็ดังแล่บเข้ามาขัดจังหวะอาหารเช้าของทั้งสอง"ถอยไปฮัลค์!""ผมบอกว่าคุณแม็กไม่ว่างไงครับคุณซุน!""ที่แท้ก็เดทอยู่กับแฟน ความรับผิดชอบไม่เคยมี อย่านึกว่ารวยอัจฉริยะแล้ว
จังหวะเดียวกับที่ฮัลค์เดินตามหลังมาแฟนสาวของเจ้านายมา ชายหนุ่มเห็นร่างของดารินธิราถูกหอบหิ้วขึ้นรถตู้คันหนึ่งดวงตาของเขาเบิกกว้างตกใจ เพราะชายฉกรรจ์หนึ่งในนั้นเป็นคนของกลุ่มเฮิรฟ์ เขาจึงเร่งรีบโทรออกหาผู้บังคับบัญชาของตนด้วยความร้อนรน"คุณแม็ก.....พวกเฮิรฟ์จับตัวคุณเดมี่ไปแล้วครับ!"ทันทีที่ได้ยินแบบนัันร่างกายก็คล้ายกับถูกกระแสไฟหลายแสนโวลต์ช็อตลงมาที่กลางใจนี่เขาตกหล่นตรงไหน ถึงได้พลาดพลั้งทำคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตหลุดไปอยู่ในมือของอาชญากรตัวเป้งคู่อริของสมาคมได้โถ่เว้ย!....ทำไมเขาสัพเพร่าแบบนี้ ทั้งที่ผ่านมาฉลาดเป็นกรดมาตลอดแท้ ๆ เป็นอย่างที่พี่อิศกับพี่เซทปรามาสกับเขาไว้ว่า 'ต่อให้เก่งกาจขนาดไหน เมื่อตกอยู่ในห้วงรัก ทุกคนก็มักจะมืดบอดกันทั้งสิ้น'ชายหนุ่มผมเงินประคองสตินึกถึงสิ่งที่จะทำให้เขาตาสว่าง และนึกเรื่องหนึ่งได้ว่า เขามอบแหวนหัวน็อตให้ดารินธิราเอาไว้ เผื่อว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นกับเธอ...โชคดีที่แหวนหัวน็อตของเขาฝัง GPS เพื่อใช้สำหรับค้นหาพิกัดเวลาสถานการณ์คับขันแม็กนัสจึงรีบเปิดหาสัญญาณติดตามและเปิดดูพิกัดผ่านโปรแกรมที่เขาเขียนขึ้น ซึ่งสามารถดูผ่านโทรศัพท์ได้อย่างสะดวกรวด
ปลายหมึกปากกาสีดำที่ลากเส้นบนพื้นผิวกระดาษอยู่นั้นผงะเล็กน้อย เมื่อมีบางอย่างถูกโยนลงมาบนโต๊ะที่เธอบรรจงวาดรูปอยู่ดารินธิรามองชุดตรงหน้าเอื้อมหยิบมากางดูอย่างข้องใจ "คุณลูคัสสั่งให้คุณใส่ชุดนี้แล้วลงไปร่วมงานเลี้ยงของโรงแรมกับเขา" "แต่ชุดนี้มันค่อนข้างจะเซ็กซี่เกินไปหน่อยมั้ยคะ""คุณมีหน้าที่ใส่ก็ใส่ไป" ชายชุดดำกำชับแล้วเดินจากไป "เฮ้อ" ดารินธิราถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่นึกถึงคำพูดที่เคยให้สัญญากับเขาไว้ว่าเธอจะใส่ชุดโชว์เนื้อหนังมังสาแบบนี้ให้เขาดูแค่คนเดียวแต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป ถ้าเธอเกิดหยิ่งยโสอยู่ ไม่รู้ว่าจะโดนกระสุนปืนเจาะหัวเมื่อไรถ้าต้องผิดคำสัญญาที่ให้ไว้ก็คงต้องปล่อยไป เพราะเธอทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากยอมรับชะตากรรมงานเลี้ยงหรูที่ทุกคนมาในธีม 'Midnight' แถมบางคนก็ใส่หน้ากากปิดซะเหลือแต่คอบางคนก็แต่งชุดดำตั้งแต่หัวจรดเท้า สรุปแล้วนี่มันงานอะไรกันแน่ดู ๆ ไปก็คล้ายกับงานรวมตัวของเหล่าวายร้ายยังไงยังงั้น"คุณสวยมาก" "ขอบคุณ" หญิงสาวตอบอย่างกล้ำกลืนทว่ายิ่งเธอทำจองหองใส่เขา มือใหญ่ก็รั้งเอวคอดเข้ามาแนบชิดใบหน้าจิ้มลิ้มจึงสะบัดมองมือที่ทาบกดอยู่บนเอวเปลือยเปล่าของเธออ
ใบหน้าซีดนั่งเงียบมาตลอดทางที่นั่งรถกลับมากับเขา ตอนนี้เธอไม่อาจให้เขาแตะเนื้อต้องตัวเพราะกลัวว่าจะดูเป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจและไร้ยางอายในสายตาของเขากระทั่งเสื้อที่เขาถอดคลุมผิวกายที่สั่นระริกของเธอก็ยังไม่สมควรจะอยู่บนเรือนร่างนี้ด้วยซ้ำ ถ้าเกิดว่าเขามาไม่ทัน หรือตัดใจทิ้งเธอไป วินาทีนั้นเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงของเขาอีกต่อไปแล้ว "ทำไมคุณต้องนั่งห่างผมขนาดนั้นเดมี่""มี่รู้สึกตัวเอง.....สกปรก"ช่างเป็นคำพูดที่ทำให้คนฟังอย่างเขาหดหู่ใจขึ้นมา ทำไมเธอต้องพูดดูแคลนตัวเองขนาดนี้ เขาไม่เคยมองว่าเธอสกปรกเลยสักนิดหรือเธอเห็นว่าเขาเป็นคนที่รักความสมบูรณ์แบบจึงกลัวว่าตนจะไม่สมบูรณ์แบบสำหรับเขาแม็กนัสพาดารินธิรามาที่พักแห่งใหม่ซึ่งอยู่บนยอดเขาห่างไกลจากอันตราย ซึ่งบนนี้มีกำแพงเขื่อนสูงใหญ่และประตูเหล็กนิรภัยอีกสองชั้นสถานที่แห่งนี้จะใช้เป็นเซฟเฮาส์ทุกครั้งเมื่อมาปฏิบัติภารกิจที่แอฟริกาใต้แต่ด้วยสถานการณ์คับขัน เพราะผู้หญิงของเขาตกเป็นเป้าหมายของพวกกลุ่มเฮริฟ์อย่างไม่ทันตั้งตัว เขาจำเป็นต้องพาเธอมาซ่อนตัวสักพักร่างบางที่กอดก่ายเสื้อสูทตัวนอกที่เขาใช้คลุมปกปิดความล่อแหลมบนเรือนร่าง ค่อย ๆ ปลดอ
ยามที่เรียวปากกระจับลากไล้ต่ำลงมายังชายโครง ระดมจูบที่กล้ามเนื้อแน่นตึงแข็งแรง และดูเร่าร้อนช่วงเวลาที่ใบหน้าอิ่มสุขร่ายมนต์อยู่บนเวทีที่ลินคอร์นเซ็นเตอร์เมื่อห้าปีก่อนก็ผุดพรายขึ้นมาในความทรงจำของแม็กนัส"ผมเป็นสาเหตุทำให้คุณเลิกเต้นหรือเปล่า" คำถามถูกพ่นออกมารดลงมายังหน้าท้องแบนราบ ดวงตาเรียวคมเหลือบมองใบหน้าที่แหงนหงายมองเพดานห้อง นัยน์ตากลมโตหลุบมองสบตาพลางผลักตัวของชายหนุ่มออกเบา ๆ ค่อย ๆ หยัดตัวลุกขึ้น ประคองเต้าเปลือยเปล่าอย่างกระดากอาย เรียวขายาวพับเพียบเบียดเข้าหากันเพราะสายตาร้อนที่สำรวจมองอยู่นั้น มันชวนให้กระอักกระอ่วนและเย็นยะเยือก"ไม่ใช่เพราะคุณ แต่....เพราะฉันในเวลานั้นแค่ไม่อยากเป็นเงาของน้า และไม่อยากให้คุณรังเกียจกันไปมากกว่านี้" "โธ่!...เดมี่"ร่างบางสั่นเทาขณะบอกเล่าเรื่องราวเก็บกดมาทั้งชีวิตถูกรวบเข้าไปโอบกอด ฝ่ามือที่ประคองทรวงอกอยู่นั้นเคลื่อนขยับมาโอบกอดแผ่นหลังกว้างนั้นกลับ "คนที่ผมรังเกียจไม่ใช่คุณ แต่เป็นพ่อผมกับน้าของคุณ"พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดันตัวคนที่กำลังสั่นเทาออก ปลายจมูกโด่งฝังลงบนหัวไหล่มนสูดดมความหอมจากเรือนร่าง เคลื่อนมายังไหปลาร้าคู่สวยพ
เดมี่ได้ยินพวกคิสท์ โอซัลลิแวนคุยกันเรื่องแผนที่ และแผนฆ่าสามีของเธอ ซึ่งความจริงเรื่องแผนที่นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไปพราะทุกๆ เส้นทางแทบจะปรากฏเด่นชัดอยู่ในรอยหยักสมองเรียบร้อยแล้ว เรื่องสำคัญกว่าที่เธอต้องกังวลคือจะปกป้องสามียังไงดีในสถานการณ์ที่คับขันเช่นนี้ผู้หญิงอย่างเธออาจจะไม่ได้ดีพร้อมและเก่งไปหมดทุกเรื่อง แต่บางเรื่องก็จำเป็นแม้จะไม่เก่งและพร้อมก็ตาม ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะขอเป็นเบี้ยตัวหนึ่งที่จะดึงความสนใจของศัตรูสามีมาเป็นเธอแทน เธอไม่ลังเลเลย แต่เลือกด้วยความเด็ดขาด ในชีวิตนี้เธอเคยสูญเสียพ่อไป และก็เคยเสียศูนย์จากการไร้พ่อมานานหลายปี รวมทั้งเสียเวลากับการไม่เข้าใจความเจ็บปวดของคนที่เธอรัก และกว่าจะเข้าใจความรู้สึกของกันและกัน ก็ต้องผ่านร้อนผ่านหนาวมานับไม่ถ้วน วินาทีที่เธอก้าวมายังจุดที่อันตรายสุดขีดแล้ว จะถอยหลังกลับไปยังจุดเริ่มต้นก็คงจะป่วยการเสียแล้ว ถ้าแม็กนัสจะโกรธเธอเพราะความบุ่มบ่ามใจร้อนและเข้ามายุ่งกับงานของเขา เธอก็จะยอมรับ เพียงแต่ว่าขอให้เธอมีโอกาสช่วยเขาบ้างก็พอ ในห้องพักหรูวีไอพีชั้นสุดของโรงแรมซึ่งห้องของเดมี่อยู่ห่างกับห้องที่แม็กนัสอยู่เพียงสองห้อ
ฮัลค์ผู้ที่กุมความลับทุกอย่างไว้รีบวิ่งตามภรรยาของเจ้านายไปด้วยความเป็นกังวล เพราะเขากลัวว่ามันจะกลายเป็นเรื่องราวบานปลายใหญ่โต ทางที่ดีเปิดเผยความจริงกับเธอก่อนดีกว่า แล้วอย่างอื่นค่อยว่ากันอีกที“พาฉันไปร้านอาหารของแม่หน่อยได้ไหมคะ?”“คือว่า....ก่อนที่คุณเดมี่จะไป ผมขอให้คุณเดมี่ไปที่ๆ หนึ่งด้วยกันก่อนได้ไหมครับ”หญิงสาวรีบเช็ดน้ำหูน้ำตาที่เลอะเปื้อนเต็มดวงหน้า แล้วพยักหน้ารับเกือบสี่สิบนาทีบอดี้การ์ดหนุ่มจึงได้พาดารินธิรามาส่งที่บ้านทรงเอเฟรมของเธอ ดารินธิราหันไปมองหน้าเขาอย่างสับสนงุนงง“รีบเข้าบ้านก่อนเถอะครับ เพราะผมไม่รู้ว่ามีหูตาสัปปะรดที่ไหนคอยมองดูพวกเราอยู่หรือเปล่า”“ทำไมล่ะคะ?”เอ่ยถามพลางรีบร้อนลงจากรถก่อนจะยืนมองบ้านของตัวเองที่ไม่ได้กลับมาพักใหญ่ หญิงสาวหากุญแจบ้านที่ซ่อนไว้ใต้กระถางต้นไม้แล้วไขกุญแจ ทว่าไขเท่าไหร่ก็ไขไม่เข้า“เอ้…..หรือมันจะเสียแล้ว”“มันไม่ได้เสียหรอกครับ”ชายหนุ่มตัวโตยิ้มแล้วหยิบเอากุญแจอีกดอกที่อยู่ใต้กระถางต้นดอกคาเมเลียหน้าบ้านของดารินธิราออกมา แล้วหันซ้ายหันขวาดูท่าทีก่อนจะรีบไขเข้าไปในตัวบ้าน เขาก็ปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างออกมาหลังจากที่สับคัทเอ
มือที่จับปากกาสไตลัสอยู่นั้นค้างนิ่งกลางอากาศ ใบหน้าเงยขึ้นมองมายังต้นเสียงที่ขัดจังหวะศิลป์ของเธอ ดวงตากลมโตเหล่มองใบหน้าของฮัลค์อย่างคนมีคำถาม"คุณ?""พ่อสิ คุณอะไรเล่า?""อ่อ..ค่ะคุณพ่อ แล้วลมอะไรหอบคุณพ่อมาถึงที่นี่""ก็เธอเป็นลูกสะใภ้ตระกูลอาเวนชี่แล้วไม่ใช่รึไง""ค่ะ....แล้วมีธุระอะไรกับฉัน หรือว่ามาหาคุณแม็กคะ""ไอ้ลูกบ้านั่นฉันไปหามันเรียบร้อยแล้วล่ะ เพราะแบบนี้ไงถึงได้มาหาเธอ""เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ?"เบลค อาเวนชี่ ย่อตัวนั่งลงบนโซฟาตัวยาวอย่างเหนื่อยหน่ายใจต่างกับคนเดิมที่เคยเกรี้ยวกราดใส่เธอ"แม็กนัสได้รู้ความจริงเรื่องแม่ของเขา ความจริงที่ฉันปิดบังมาตลอดหลายสิบกว่าปีมานี้ ที่ว่า.....แม่ของเขาเป็นอาชญากรที่ถูกทางการจีนหมายหัว และฉันเองเป็นคนที่ถูกส่งมาให้จัดการเธอ แต่แล้วฉันก็ไม่อาจทำเรื่องแบบนั้นได้ เพราะ.....""คุณรักเธอ" ดารินธิราต่อประโยคที่ขาดช่วงไปอย่างนุ่มนวล "ใช่....ฉันรักแม่ของเขามาก จนยอมเป็นคนเลว แต่ฉันไม่อยากให้เจ้าแม็กคิดว่าฉันกับแม่ของเขาให้กำเนิดเขาเพราะเหตุผลอื่น ที่ฉันแต่งงานกับแม่ของเขาเพราะความรักจากใจจริง ไม่ใช่เพราะภารกิจลับจากองค์กรไหนทั้งนั้น ฉันแ
เสียงของเธอถูกคงส่งไปไม่ถึงเขา เพราะโทรศัพท์ถูกตัดสายทิ้งซะก่อน และเขาก็ยังคงไม่รู้ว่าเธอโทรมา แล้วผู้หญิงที่อยู่ปลายสายนี้ล่ะ เธอเป็นใครกันแน่ ทำไมสามีของเธอถึงยอมให้หล่อนมาอยู่ด้วยจนมืดค่ำขนาดนี้ ใช่ว่าเธอจะเป็นคนขี้หึงหรอกนะ แต่นี่มันมากเกินไป อยู่ดีๆ นึกจะไปก็ไปไม่บอกไม่กล่าวเมียอย่างเธอเลยสักนิด ต้องให้คนอื่นมาบอก แถมโทรมาหาสักหน่อยก็ไม่มี เอาสิ! นังจิ้งจอกคนนั้นเป็นใครเธอไม่สนหรอก แต่หากคิดจะใช้โอกาสนี้รวบหัวรวบหางสามีของเธอ คงไม่ง่ายนักหรอก ดารินธิราเดินทางมาถึงสถาบันบีเดอะไลท์ตั้งแต่ยามเพิ่งจะเดินทามาถึง แม้สถาบันของเธอจะกลับมาอยู่ในสภาพใหม่ที่ดีและสวยงามกว่าเดิมหลายเท่าเพราะฝีมือของแม็กนัส แต่นั่นกลับไม่ไช่เหตุผลที่ทำให้เธอรีบร้อนมาทำงานเพื่อมาชื่นชมตึกใหม่ แต่เป็นเพราะบทสนทนาเมื่อคืนต่างหากที่ทำให้เธอใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว"อโลฮ่า! พี่เดมี่ วันนี้เราได้งานนออกาไนซ์จัดศิลปะการแสดงประจำปี, จัดนิทรรศการ ได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน อ้อแถมมีงานเทียบเชิญขอให้พี่เดมี่ไปโชว์เต้นเปิดตัวให้กับองค์กรการกุศลด้วยนะคะ กุ๊กไก่ดีใจมากค่ะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าคุณโมนาจะมีอิทธิพลขนาดนี้""ที่ไหน เมื
Count your age by friends, not years. Count your life by smiles, not tears.นับอายุของคุณด้วยจำนวนเพื่อน และนับชีวิตของคุณด้วยรอยยิ้มไม่ใช่หยดน้ำตา-John Lennon-ดวงตากลมโตฉายแววซุกซนไล่มองใบหน้าขาวเนียนดุจผิวทารกเพศชาย แม้ตอนนี้นาฬิกาบนผนังห้องจะบอกเวลาแค่ตีสามครึ่งเท่านั้น แต่แสงกระทบของพระจันทร์ที่ส่องสว่างเข้ามาในห้องนี้ กลับทำให้รู้สึกว่าเช้าวันใหม่ได้เดินทางมาถึงแล้วและเป็นวันแห่งการเริ่มต้นใหม่ของเธอกับเขา หลินเย่ซี สามีดีกรีมหาเศรษฐีที่จับผลัดจับพลูไปเป็นสายลับ ทำให้เธอต้องมาพัวพันกับเรื่องล่าอารยธรรมสุดขอบโลกกับเขาไปด้วยโดยไม่คาดคิด "เดมี่..........."เขาปรือตาขึ้นแล้วพลิกตัวตะแคงข้างสบตามาที่เจ้าของรอยยิ้มละมุนที่นั่งพับเพียบเรียบร้อยมองดูเขาอยู่อย่างเงียบๆ "ฉันปลุกคุณตื่นหรือเปล่าคะ?""เปล่าครับ แต่ตอนนี้.....ก็คล้ายว่าจะตาสว่างมากกกกก" เขาพูดจบก็เอาสองมือปิดตาตัวเอง หญิงสาวหลุบต่ำมองดูสภาพตัวเองที่อยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวตัวบางของเขาในสภาพไร้บรา คงไม่ต้องเดาแล้วล่ะว่า เขาปิดตาทำไม โมนายัยเบ๊อะเอ้ย! เดี๋ยวเขาก็หาว่าเธอจงใจอ่อยตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางความอายแทบพลิกแผ่นดินทำให
เขาคิดว่าจะดึงแม่แมวน้อยเดมี่จอมยั่วเข้ามาบดจูบ แต่ทว่ากลับโดนอุ้งมือน้อยๆ ตะปปโน้มลำคอลงไปซะดื้อๆยามที่ริมฝีปากอวบอิ่มเคลือบลิปกลอสกลิ่นพีชอ่อนๆจรดกลีบปากของเขาเรียวปากหยักก็ตอบสนองอย่างรุนแรง บดคลึงเรียวปากนุ่มประดุจสูบพลังงานชีวิตทั้งหมดจากเรือนร่างงามนี้ มือหนาป่ายแปะลงบนสะโพกออกแรงยกขึ้นวางร่างบางลงบนโต๊ะที่วางตะกร้าผลไม้ปลอมที่ใช้ประดับตกแต่งห้อง จนแอปเปิ้ลผลปลอมกลิ้งตกลงพื้นระเกะระกะไปทั่วปลุกเรียกสติของดารินธิราที่อยู่ในวังวนแห่งความหวาบหวามนี้ให้ตื่นขึ้น ผลักเขาออกไปแรงๆ หายใจเข้าออกอย่างคนที่ขาดอากาศบริสุทธิ์"แอปเปิ้ล.....""ช่างแอปเปิ้ลเถอะครับ...."เขาบอกแล้วปล้นแกะกระดุมเสื้อตัวเองจนหมดเกลี้ยง แต่ได้นิ้วมือนุ่มของหญิงสาวช่วยแหวกสาบเสื้อสีขาวออกไม่นานชุดนอนซาตินสีดำตัวกะจ้อยร่อยก็ค่อย ๆ ถูกนิ้วเรียวยาวที่สักคำว่า 'เสี่ยว' เป็นภาษาจีนและมีความหมายชื่อเดียวกับเธอ นิ้วเรียวบรรจงเกี่ยวออกไปช้าๆ จนไม่เหลือสิ่งใดห้อหุ้มร่างแมวน้อยเดมี่ของเขาไว้อีกต่อไปฝ่ามือของหญิงสาวรีบตะปปกอดก่ายตนเองไว้เพร
โรงพยาบาล"ฮัดชิ้ว!"เสียงจามของหญิงสาวทำให้ใบหน้าคมขาวตวัดมองด้วยความตกใจและดีใจในเวลาเดียวกัน"เดมี่.....นี่คุณฟื้นแล้ว"ชายหนุ่มพรวดพราดเข้ามาประคองดวงหน้าสดใสด้วยความดีใจ แล้วประทับริมฝีปากสีแดงฉ่ำลงบนหน้าผากมนด้วยความคิดถึงขนาดหนัก"สบายดีหรือเปล่าคะ"เสียงแหบแห้งเอ่ยถามขึ้น แล้วฉีกยิ้มสดใสให้เขาเหมือนอย่างทุกครั้ง"ผมจะสบายดีได้ยังไง หืม ก็คุณเอาแต่หลับ ผมเหงานะรู้ไหม""ฉันเป็นของเล่นของคุณหรือไงคะ""คุณเป็นทุกอย่างของผมเดมี่"เขาบอกแล้วดึงเธอขึ้นมากอดบรรจงหอมแก้มซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่รู้จักเบื่อณ รีสอร์ทหรูอันเงียบสงบในบิ๊กเซอร์ แคลิฟอร์เนีย บ้านพักที่ชายหนุ่มเลือกให้เธอมาพักฟื้นนั้นสวยราวกับภาพวาด เพราะตัวบ้านสไตล์โมเดริน์ที่ยื่นออกไปเห็นทิวทัศน์ของมหาสมุทรของแปซิฟิกแต่ตอนที่เธอเดินยืนอยู่บนลานชมวิวของรีสอร์ทสวยแห่งนี้ ก็สังเกตุเห็นผู้หญิงใส่หมวกสีเหลืองใบใหญ่กับคุณป้าคนหนึ่งที่ดูคล้ายกับยัยกุ๊กไก่และแม่ของเธอผลุบหายเข้าไปในบ้านพักอีกหลัง
"อยู่เฉยๆในนี้ จะได้ไม่ต้องตายอย่างทรมาน"หัวหน้าแม่บ้านตวาดเสียงดัง แล้วผลักตัวของเจ้าของสถาบันเข้าข้างในห้องอัดเสียง โดโรธีเดินไปเอาวัตถุไวไฟทั้งหลายในห้องทำความสะอาดออกมา รีบร้อนเปิดแกลลอนแล้วราดเทจนทั่วพื้น"กลิ่นน้ำมัน......ไม่นะคะ คุณอย่าทำแบบนี้เลยขอร้อง สถาบันแห่งนี้ฉันสร้างมากับมือ คุณอย่าทำลายมันทิ้งเลยนะคะ ฉันขอร้องล่ะ ได้โปรด"ดารินธิราตะโกนด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน และมองลอดออกมาจากช่องกระจกของห้องสตูดิโอด้วยใบขอความเมตตาป้าง! ป้าง!กระสุนสองนัดถูกยิงลงที่พื้นหน้าห้องสตูดิโอด้วยความรำคาญ หญิงสาวแน่นิ่งและเงียบไปอัตโนมัติกระทั่งไม้ขีดไฟถูกโยนลงบนคราบน้ำมันไหลเยิ้ม ไฟสีส้มก็ลุกโชนขึ้นในพริบตาเดียว หยาดน้ำตาของเธอมันก็พรั่งพรูออกมาราวกับเขื่อนแตกเรื่องแรกที่ทำให้เธอเสียใจคือเรื่องของแม็กนัส อาเวนชี่ ส่วนเรื่องที่สองก็คงเป็นสถาบันแห่งนี้ สถาบันที่ของเธอกำลังพังพินาศลงในค่ำคืนเดียวและวันนี้เธอคงจะตายอยู่ในกองเพลิงอย่างเดียวดาย แต่อย่างน้อยก็จะได้ตายไปพร้อมกับสิ่งที่เธอสร้างมากับมือคิดดูแล้วทำไมเธอต้องยอมแล
ดารินธิราอยู่เป็นเพื่อนคนรักที่คฤหาสน์อาเวนชี่จนฟ้าเริ่มมืด ชายหนุ่มยังคงนั่งจิ้มโน้ตบุ็ตอยู่หลายชั่วโมงราวกับว่ากำลังแฮคหาข้อมูลลับบางอย่างครู่หนึ่งเธอเห็นเขาทำหน้าช็อคราวกับได้ข้อมูลที่ว่า แล้วลุกพรวดเดินไปเปิดขวดวิสกี้รินใส่แก้ว กระดกใส่คอพรวด ๆ อย่างเอาเป็นเอาตายแต่พอเห็นเขาเตรียมรินวิสกี้แก้วที่สามก็รู้สึกว่าคงต้องลุกไปห้าม ก่อนจะน็อคไม่ได้สติไปอีก"พอแล้วค่ะ"ดวงตาขุ่นเขียวแย่งแก้วมาจากมือของอีกฝ่าย"ผมจะกินอีก""ถ้าคุณจะกิน กินฉันแทนได้ไหมล่ะ"เขาตวัดสายตามองอย่างไม่อยากเชื่อที่แม่แมวน้อยจะเสนอด้วยประโยคซาบซ่านใจทว่าตอนนี้เขามึนจนแทบจะยืนไม่อยู่ จะให้ทำอะไร ๆ ที่ร้อนรุ่มเวลานี้กับเธอก็เกรงว่าจะไม่ถึงพริกถึงขิงนัก"ผมปวดหัวไปหมด""มา...ฉันจะพยุงคุณไปนอน"เรียวแขนบางพยุงร่างสูงโปร่งที่เดินตุปั๊ดตุเป๊ พอขายาวแตะขอบตียงได้ไม่ทันไร ใบหน้าแดงจัดก็ปักคว่ำกับหมอนใบโตทันที แล้วก็หลับไม่รู้เรื่อง"โถป๋าของมี่....คออ่อนซะจริงเชียว"รุ่งเช้าเจ้าของ