ตอนที่ 11
ให้โอกาสแต่ยังไม่ให้อภัย
สายป่านย้อนกลับไปอยู่ที่คฤหาสน์หลังใหญ่โดยที่ตัวเองยังไม่ได้ให้อภัยในตัวสามีแต่เธอให้โอกาสเขาได้พิสูจน์ถึงแม้ว่าลึกๆแล้วเธอก็อดสงสารศิลาไม่ได้ที่ต้องเป็นคนสูญเสียจากการกระทำของพ่อนอกสายเลือดของเธอ
“ผมขอนอนกับคุณกับลูกได้ไหมครับคืนนี้”
ศิลาเปิดประตูห้องนอนเขาเดินไปหาภรรยาเข้าไปอ้อนเธอขอนอนกอดสักคืนเพราะตั้งแต่หญิงสาวกลับมาอยู่ที่นี่ได้เกือบสามเดือนแล้วทั้งคู่ยังไม่มีโอกาสได้นอนด้วยกันเลยสักครั้งตามข้อตกลงที่สายป่านบอกไว้
“ไม่ได้ค่ะ สายป่านให้โอกาสคุณแต่ยังไม่ได้ให้อภัยขอเวลาให้ทุกอย่างมันได้เยียวยาตัวเองก่อนนะคะ ชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกสามีนอกใจถึงแม้ว่าคุณจะยืนยันว่ามันเป็นเพียงแค่การจัดฉากเท่านั้นแต่มันก็แสดงให้เห็นว่าแท้ที่จริงแล้วคุณไม่เคยสนใจว่าฉันจะเจ็บช้ำแค่ไหน ดังนั้นสิ่งที่คุณเจอวันนี้มันยังไม่ถึงครึ่งของความเจ็บช้ำที่ฉันต้องเผชิญมาตลอดเวลาสองเดือนที่อยู่ที่นี่กับคุณ”
ศิลาได้แต่พยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่ภรรยาพูดเพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่าการถูกอีกฝ่ายปฏิเสธมันเสียใจแค่ไหนที่ผ่านมาถึงแม้ว่าเขาจะสงสารในตัวของสายป่านแต่เขาก็ปล่อยให้ความแค้นมันนำพาจิตใจจนลืมไปว่าลึกๆแล้วเขากำลังทำลายหัวใจตัวเอง
“ไม่เจอกันไม่กี่เดือนกำลังจะได้เป็นคุณพ่อคุณแม่กันแล้วนะคะ”
วีณาควงคู่กับสามีชาวต่างชาติมาเยี่ยมคุณแม่คนใหม่ที่กำลังตั้งครรภ์ท้องใหญ่ใกล้เวลาคลอดเข้ามาทุกที
“นี่เจมส์สามีของวีณาเราทั้งคู่แต่งงานกันมาได้หลายปีแล้วแต่ยังไม่มีลูกสักที”
ศิลาทำหน้าที่แนะนำให้ภรรยาของเขารู้จักกับสามีของเพื่อนสนิทเพราะสีหน้าแววตาของสายป่านแสดงให้เห็นชัดว่าเธอกำลังตกใจกับสิ่งที่ได้เห็นเพราะถึงแม้ศิลาจะยืนยันว่าวีณาเป็นเพียงเพื่อนสนิทที่เขาจ้างวานให้เธอมาช่วยเล่นละครให้แต่ลึกๆแล้วสายป่านก็ไม่เชื่อ เธอมั่นใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างวีณากับศิลามันคือเรื่องจริง
“วีณาต้องขอโทษคุณด้วยนะคะที่มีส่วนทำร้ายจิตใจทั้งหมดที่ทำไป วีณาก็ทำไปเพราะสงสารศิลาพอมาคิดได้ตอนนี้ก็สายเกินไปเสียแล้วไม่น่าไปช่วยเพื่อนทำเรื่องไม่ดีแบบนี้เลย”
สายป่านส่งยิ้มแบบเข้าใจ เธอไม่อยากให้วีณาพูดอะไรมากไปกว่านี้เพราะเธอเกรงใจสามีชาวต่างชาติที่กำลังมองทั้งคู่คุยกันด้วยความสงสัย เธอคิดว่าถ้าเรื่องนี้เจมส์ได้รู้ก็คงรับไม่ได้ถ้าภรรยามีส่วนทำให้ครอบครัวของใครต้องแตกร้าว เธอจึงเลือกที่จะให้อภัยมากกว่าเพราะไม่อยากให้เรื่องราวใหญ่โตบานปลายไม่อยากให้มีใครต้องครอบครัวแตกสาแหรกขาดเหมือนเธออีก
“เราสองคนตัดสินใจที่จะไปให้คุณหมอช่วยแล้วเพราะอยู่กันมาตั้งหลายปีก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีทายาทเองยังแอบอิจฉาคุณสายป่านเลยนะคะที่แต่งงานแค่เพียงไม่เท่าไหร่ก็ได้มีตัวน้อยออกมาเป็นพยานรักแล้ว”
สาวสวยที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นหนามทิ่มแทงใจของสายป่านจับมือของคนท้องขึ้นมากุมไว้แน่นส่งกำลังใจให้เพราะตัวเธอเองก็ต้องการมีลูกเหมือนอย่างที่สายป่านมีเพียงแต่ตอนนี้คงยังไม่ใช่เวลาของเธอและเธอก็เลือกที่จะไม่รอเวลาอีกแล้วเพราะทั้งคู่ต่างก็อายุมากขึ้นทุกวัน
“ศิลาอย่าทำอะไรด้วยอารมณ์อีกนะเพราะวีณาเชื่อว่าคนเรามีโอกาสให้แก้ตัวในชีวิตไม่บ่อยนักหรอกถ้าขืนเธอยังใช้ความเป็นมาเฟียใหญ่ทำอะไรตามใจตัวเองโดยไม่คิดถึงหัวใจของคนรอบข้างรับรองว่าครั้งต่อไปสายป่านคงไม่ให้โอกาสได้มาแก้ตัวแบบนี้แน่นอน”
วีนาเป็นเพื่อนสนิทกับศิลากันมาหลายปีทั้งคู่ต่างเข้าใจกันเพียงแค่มองตา วีณาอดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้เพราะตั้งแต่ศิลาโตขึ้นเขาก็มักจะทำอะไรด้วยอารมณ์ด้วยความที่ถูกตามใจจากพ่อ บุญธรรมที่เลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอมและวางรากฐานความเป็นนักเลงใหญ่ไว้จนศิลาเองไม่รู้ตัวว่าเขากลายเป็นคนก้าวร้าวเอาแต่ใจตัวเอง
วันที่คุณพ่อคุณแม่คนใหม่รอคอยก็มาถึงสายป่านปวดท้องคลอดลูก เธอพยายามโทรศัพท์หาสามีแต่กลับติดต่อไม่ได้คนขับรถจึงตัดสินใจพาเธอส่งโรงพยาบาลจนในที่สุดเธอก็คลอดลูกสาวออกมาอย่างปลอดภัยทันทีที่เธอออกจากห่องคลอดเธอหวังว่าจะได้เห็นใบหน้าของสามีแต่กลับพบว่ามีเพียงคนรถและแม่บ้านที่ยืนขอบตาแดงก่ำร้องไห้รอเธออยู่ที่ หญิงสาวถึงกับใจตกทันทีเพราะเธอเป็นห่วงว่าอาจจะกำลังเกิดเรื่องที่ไม่ดีกับสามีของเธอแน่ ๆเพราะตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ตรงนี้
“เกิดอะไรขึ้นคะทำไมทุกคนทำหน้าแบบนั้นคุณศิลาเป็นอะไร”
ป้าช่วยได้แต่ปาดน้ำตาและเล่าความจริงให้นายหญิงของเธอฟังว่าตอนนี้ศิลาประสบอุบัติเหตุก่อนถึงโรงพยาบาลเพียงไม่กี่กิโลเมตรและตอนนี้อาการของเขาสาหัสกำลังรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU โรงพยาบาลเดียวกับที่หญิงสาวมาคลอดลูก
“เพราะป่านใช่ไหมคุณศิลาถึงต้องเกิดอุบัติเหตุแบบนี้”
หญิงสาวร้องไห้ฟูมฟายแบบไร้สติทันทีเมื่อรู้ว่าสามีของเธอรีบขับรถมาจากที่ทำงานหลังจากที่ทางแม่บ้านติดต่อได้ว่าเธอกำลังเข้าห้องคลอดแต่เขาก็มาไม่ทันเพราะมาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน
“ไม่เกี่ยวค่ะคุณอย่าคิดมากคุณหมอบอกว่าถึงแม้อาการของคุณศิราจะหนักแต่ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงทำใจให้สบายนะคะป้ากับลุงชุมจะช่วยกันดูแลคุณศิลาเองส่วนคุณสายป่านดูแลคุณหนูให้ดีนะคะ”
ป้าช่วยเป็นคนเก่าแก่ของบ้านเธอรู้เรื่องราวระหว่างสามีภรรยาคู่นี้ดีและเธอก็เป็นคนที่คอยสอดส่องดูแลสายป่านให้เมื่อยามที่ศิลาออกไปข้างนอกเวลานี้เธอรู้แล้วว่าหัวใจของสายป่านมอบให้เจ้านายของเธอทั้งดวงถึงแม้หญิงสาวจะทำปากแข็งว่าไม่ให้อภัยในตัวสามีแต่การร้องไห้เสียใจเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังนอนเจ็บอยู่ในห้องผู้ป่วยหนักแสดงให้เห็นว่าาสายป่านให้อภัยสามีโดยไม่มีติดค้างอะไรอยู่ในหัวใจ
ถึงแม้ว่าจะยังเจ็บแผลที่คลอดลูกอยู่สายป่านก็ร้องขอให้ทางพยาบาลพาเธอเข้าไปเยี่ยมสามีที่ตอนนี้นอนใส่สายระโยงระยางอยู่ที่ห้องผู้ป่วยหนักถึงแม้ว่าทางโรงพยาบาลจะให้เธอเยี่ยมแค่เพียงผ่านทางกระจกเท่านั้นเพราะกลัวว่าจะมีการติดเชื้อในระหว่างที่เยี่ยมได้
“คุณเป็นพ่อคนแล้วนะ คุณขอให้ฉันกลับมาเพื่อที่เราจะได้อยู่ด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูก คุณก็ต้องกลับมาเหมือนเดิมนะ”
เสียงสั่นเครือของคนที่ประหนึ่งใจจะขาดหากเธอย้อนเวลาไปได้สายป่านจะไม่ยอมปล่อยให้เวลาที่ผ่านมาล่วงเลยมาขนาดนี้เธอจะให้อภัยสามีตั้งแต่วันแรกที่เขาไปง้อให้เธอกลับมาเพราะวันนี้เธอกลัวเหลือเกินกลัวว่าเธอจะต้องสูญเสียเขาไปแล้วไม่มีโอกาสที่เธอจะได้บอกว่าเธอรักเขาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้แม้ว่าเขาจะทำร้ายหัวใจของเธอแค่ไหนเธอก็ไม่เคยหมดรักเขาเลยสักวัน
ลูกพลับอายุได้สองสัปดาห์ศิลาก็มีอาการดีขึ้นจนได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาพักฟื้นอยู่ที่ห้องพิเศษโดยที่คุณแม่คนใหม่ทำหน้าที่เฝ้าไข้ปรนนิบัติสามีอย่างดีที่สุดโดยป้าช่วยทำหน้าที่ช่วยเลี้ยงลูกพลับอยู่ที่บ้านเพื่อให้สามีภรรยาได้มีเวลาดูแลและมีโอกาสได้ปรับความเข้าใจกัน
“ไม่รังเกียจผมใช่ไหมที่มีแผลเต็มตัวแบบนี้”
ศิลาอดที่จะคิดน้อยใจตัวเองไม่ได้จากชายหนุ่มรูปร่างดีผิวพรรณไม่เป็นรองใครแถมหน้าตาหล่อเหลาเข้าขั้นนายแบบแต่ตอนนี้เขากับมีแผลเย็บทั้งบนใบหน้าและตามร่างกายบางครั้งชายหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่าสายป่านอาจจะรังเกียจที่จะต้องดูแลคนเป็นแผลทั้งตัวอย่างเขา
“ต่อให้คุณเป็นมากกว่านี้ป่านก็ไม่รังเกียจหรอกค่ะไม่ว่าคุณจะเป็นอย่างไร คุณก็เป็นคุณศิลาเป็นสามีของป่านเป็นพ่อของลูกพลับเหมือนเดิม”
คำพูดที่ฟังดูอบอุ่นออกมาจากหัวใจทำให้น้ำตามาเฟียหนุ่มอย่างศิลาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัวเขาไม่คิดเลยว่าแท้ที่จริงแล้วคนที่อ่อนแอที่สุดคือเขา เขาโหยหาความรักมาตลอดทั้งที่เขามีความรักอยู่รอบตัวแต่เขากลับมองไม่เห็น รอจนกว่าทุกอย่างค่อย ๆ จากเขาไปจนถึงนาทีนี้เขารู้แล้วว่าความแค้นไม่ใช่สิ่งที่เขาควรจะเก็บยึดถือไว้ ความสุขต่างหากที่เขาควรจะเลือกและเก็บมันไว้ให้อยู่ในหัวใจตลอดกาล
“ถ้าผมกลับมาเดินไม่ได้คุณยังจะรักผมไหม”
ชายหนุ่มไม่กล้าพูดออกมาตรง ๆ แต่ความจริงแล้วเขาไม่ได้หมายความถึงเดินไม่ได้แต่เขาเป็นห่วงความเป็นชายของเขาที่ตอนนี้มันมีแผลอยู่จึงกลัวว่าภรรยาจะหนีเขาไปถ้าเขาไม่สามารถทำหน้าที่สามีได้อย่างเต็มที
“คุณแค่เป็นแผลค่ะไม่ได้เป็นอะไรขนาดนั้น...หรือเอาเข้าจริงถ้าคุณจะเสื่อมสมรรถภาพไปเลยป่านก็ว่าดีเหมือนกันนะคะจะได้ไม่ต้องมีสาวที่ไหนมาคอยรุมล้อมส่วนป่านเองไม่ได้สนใจเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว”
หญิงสาวอดขำออกมาไม่ได้เมื่อเห็นสามีของเธอกังวลกับสิ่งที่ไม่ควรกังวลแต่ความเป็นผู้หญิงผู้ชายมันต่างกันสำหรับคนอย่างศิลาซึ่งเป็นชายหนุ่มผู้มีความรักร้อนแรงถ้าต้องสูญเสียความเป็นชายไปชีวิตของเขาคงอยู่อย่างทุกข์ทนแน่นอนในเมื่อได้ยินภรรยาพูดแบบนี้เขาเองก็อดที่จะขำออกมาไม่ได้เหมือนกันที่ตัวเองกำลังนอนเจ็บอยู่แบบนี้แทนที่จะห่วงชีวิตแต่กับห่วงน้องชายว่าจะกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมมั้ย
“รีบหายนะคะลูกพลับอยากมีน้องอีกสักคนนึงหรือว่า คุณพ่อจะทำไม่ไหวแล้วนะ”
สายป่านเอาใจสามีกระซิบข้างหูบรรจงจูบข้างแก้มอย่างเอาใจ เธออยากให้เขารู้เหลือเกินว่าเวลานี้การได้เขากลับมามันคือสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับเธอแล้วไม่ว่าเขาจะกลับมาสภาพไหนหรือเขาจะกลายเป็นคนอื่นกลายเป็นคนยากจนหรือเป็นคนที่ไม่เหลืออะไรสำหรับเธอคำว่าครอบครัวมันยิ่งใหญ่กว่าสิ่งภายนอกพวกนั้น เธอพร้อมจะเป็นกำลังใจและอยู่เคียงข้างสามีผ่านทุกช่วงเวลาของชีวิต
“ที่ผ่านมาผมเป็นฝ่ายทำร้ายคุณมาโดยตลอดวันนี้คุณมีสิทธิ์เลือกที่จะไม่มายืนข้างผมก็ได้แต่คุณกลับไม่เคยทิ้งผมไปไหนขอบคุณ คุณกับลูกมากนะที่พร้อมจะให้อภัยผู้ชายโง่ ๆ ที่ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่ตัวเองมีอย่างผม”
สองเดือนผ่านไป
ศิลาได้ออกจากโรงพยาบาลหลังจากที่เขาต้องนอนอยู่ในห้องพิเศษตลอดเวลาสองเดือน เขากลับมาใช้เวลานับจากนี้ไปทำหน้าที่สามีและคุณพ่อเพื่อชดเชยให้กับแม่และลูก ไม่นานสายป่านก็ตั้งท้องลูกคนที่สองจนบรรดาเพื่อน ๆ ต่างพากันแซวว่าทันทีที่ศิลากลับมาอยู่บ้านก็รีบทำคะแนนทันทีไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉย ๆ แทบจะเรียกได้ว่าจดเช้าจดคืนชายหนุ่มแทบจะไม่ยอมปล่อยภรรยาออกมาจากห้อง นอกจากเวลาที่ต้องมาให้นมลูกเท่านั้น
“ถึงผมจะอายุมากแล้วและเกิดอุบัติเหตุแต่รับรองได้ว่าทั้งน้ำยาและแรงของผมอย่างดีเหมือนเดิม”
สามคนพ่อแม่ลูกกอดกันด้วยความรัก หัวใจสายป่านในตอนนี้ก็ยอมที่จะให้อภัยอุดมและผกาเพราะถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าทั้งคู่เป็นคนฆ่าบุพการีแท้ ๆ ของเธอแต่ในเมื่ออดีตมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้และความผิดนี้ก็คงเป็นกรรมที่สักวันอุดมก็ต้องได้รับผลส่วนตัวเธอเองก็ได้แต่สำนึกบุญคุณว่าถ้าไม่มีทั้งคู่ป่านนี้เธออาจจะมีชีวิตที่ไม่ดีเหมือนทุกวันนี้และอย่างไรเสียอุดมก็มีพระคุณกับเธอที่ทำให้เธอได้มีโอกาสได้มีสามีที่ดีอย่างศิลา
มาเฟียหนุ่มถอดเขี้ยวเล็บจนหมดสิ้นจนตอนนี้กลายเป็นคุณพ่อลูกสองที่ไปไหนมาไหนต้องพกครอบครัวไปด้วยทุกที่ ธุรกิจที่เขาเคยให้ผลประโยชน์อันน้อยนิดกับอุดมก็เปลี่ยนเป็นการให้ผลประโยชน์แบบมิตรภาพที่ดี อุดมเองเมื่อแก่ตัวลงก็สำนึกกับสิ่งที่เขาเคยกระทำมาเพราะตอนนี้เขากำลังป่วยด้วยโรคหลายโรค ผกาเองก็หันไปเข้าวัดละจากรักโลภโกรธหลงที่เคยเป็นไฟเผาตัวเธอ
บทเรียนของชีวิตที่แต่ละคนได้ผ่านพบมามันก็สร้างบาดแผลและบทเรียนให้ทุกคนได้เรียนรู้แต่สุดท้ายแล้วชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไปตามกรรมของแต่ละคนที่สร้างกันมา
จบบริบูรณ์
1รสจัด“เยี่ยมเลย” เบนกดหัวของนางแบบสาวให้ปากของเธอจัดการกับน้องชายของเขาได้ถนัด “อ่าสสส....” ปากเล็กชักน้องชายของชายหนุ่มเข้าออกอย่างช้าๆ จนเบนถึงกับคราง อ้าปากด้วยความเสียวซ่าน จากลีลาออรัลเซ็กซ์ของหญิงสาวหน้าตาสวย หุ่นอวบอิ่ม เธอคือผู้หญิงคนล่าสุดของเขา “เร็วๆ ผมชอบ” เมื่อความเป็นชายของชายหนุ่มแข็งตัวอย่างเต็มที่ ฟารีย์นางแบบสาว ก็ทำหน้าที่เป็นผู้นำขึ้นคร่อมร่างของเบนไว้ ก่อนจะจัดการใช้กลีบอูมอันอวบอิ่มครอบลงบน ท่อนแข็งของชายหนุ่ม อย่างช่ำชอง “อ่าสส. อือออ” หญิงสาวร้องตามแรงกระแทกชักเข้าชักออก ที่เธอเป็นผู้ควบคุมจังหวะทั้งหมดเอง “เสียวไหมคะ” ฟารีย์ถามเพราะเธอเห็นชายหนุ่มเอาแต่กัดปากแน่น สีหน้าแดงกร่ำชายหนุ่มไม่อยากเสียเวลาแห่งความสุข ไปกับการตอบคำถาม เขาใช้มือทั้งสองข้างยกสะโพกกลม ของหญิงสาว ให้ขึ้นลงถี่ขึ้น เพราะน้ำแห่งความใคร่ของเบน มันเดินทางมาใกล้ทางออกเต็มที่แล้วความช่ำชองในบทรักของคนทั้งคู่ ที่เข้าขากันเป็นอย่างดี ทั้งคู่ต่างผลัดกันรับ ผลัดกันรุก จนในที่สุดทั้งคู่ก็พากันไปถึงทางสวรรค์ ชายหนุ่มรีบจัดการถอดเครื่
เริ่มต้นใหม่ เบนได้เริ่มธุรกิจคอนโดมิเนียมโดยการรับช่วงต่อจากเพื่อนของบิดาที่ขายบริษัทต่อให้กับพ่อของเขา เพื่อแลกกับหุ้นบางส่วนในธุรกิจของกิตติที่สิงคโปร์ “คุณนันทาครับ คอนโดของเราจะเปิดให้เช่าต้นเดือนหน้า ผมจะยกให้คุณดูแลทุกอย่างแทนผม โดยที่ผมจะทำหน้าที่ดูแลเรื่องของกฎหมายเท่านั้นครับ” นันทาเป็นคนเก่าแก่ของบิดาของเบน เธอเคยอยู่สิงคโปร์อยู่พักหนึ่ง กิตติส่งเธอมาดูแลบ้านและทรัพย์สมบัติในเมืองไทยให้กับครอบครัวเขา “ทำไมล่ะคะ ” นันทาถามด้วยความแปลกใจ “ผมเป็นแค่ลูกจ้างของคุณกิตติอีกที หุ้นส่วนใหญ่ยังเป็นเพื่อนของคุณท่านครับ ดังนั้นการดูแลเรื่องการเงินผมจึงขอยกให้เป็นหน้าที่ของคุณนันทา ส่วนผมจะช่วยเรื่องอื่น โดยเฉพาะเรื่องกฎหมายและการตลาดครับ” เบนพูดปดเพราะเขาอยากมาเริ่มต้นใหม่ในฐานะของคนธรรมดา ไม่ใช่ลูกชายเจ้าของธุรกิจพันล้าน เพราะถ้าเขายังคงเป็นเบนลูกชายของกิตติเศรษฐีไทยในสิงคโปร์ ชีวิตเขาก็คงไม่พ้นมีผู้หญิงที่หิวเงินมารุมล้อม และคงไม่มีผู้หญิงดีที่ไหนอยากมายุ่งเกี่ยวกับเขา ถ้าได้รู้ชื่อเสียงอันไม่น่าน่าจดจำของเขา “คุณเบนคะ ตอนนี้คอน
ขโมย “จูบเป็นแล้วใช่ไหม” เบนดึงตัวหญิงสาวให้แยกออกจากเขา ทั้งที่มายากำลังหลับตาพริ้มและเผลอปล่อยตัวเอง ไปตามอารมณ์ที่ถูกชายหนุ่มผู้มากประสบการณ์อย่างเบนหยิบยื่นให้ “ผมจูบคุณได้ทั้งที่ผมไม่ได้เป็นแฟนคุณ และผมก็สามารถทำได้มากกว่านี้ ถ้าผมต้องการ มายาเข้าใจหรือยัง ว่าความรัก กับการมีสัมพันธ์ทางกายมันคือเรื่องเดียวกันไหม ผมให้คำตอบคุณแล้วนะ” ชายหนุ่มก็มีอารมณ์ไม่ต่างจากมายาตอนนี้ แถมมีมากกว่าด้วยซ้ำ แต่เขาตั้งใจแล้วว่า มาอยู่เมืองไทยครั้งนี้ เขาจะเป็นคนใหม่ และหญิงสาวตรงหน้า ก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาจะมองเธอไร้ค่าเหมือนคนอื่นที่เคยผ่านมา “ไปอาบน้ำแล้วเข้านอน อย่าคิดเรื่องนี้อีก ตอนนี้คุณต้องเรียนให้จบ ดูแลพี่สาวและที่สำคัญต้องไปช่วยผมทำงานแทนพี่สาวคุณ” เบนมั่นใจว่าผู้หญิงตรงหน้า ยังคงบริสุทธิ์อยู่และเขาก็ไม่ต้องการทำลายเธอเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เขาจึงขอตัวกลับบ้าน เพราะถ้าขืนอยู่นานเขาก็ไม่ไว้ใจตัวเองเหมือนกัน ตั้งแต่นันทาประสบอุบัติเหตุ สามีของเธอก็พาเธอไปอยู่ด้วยที่ต่างจังหวัด เพราะเขาต้องทำงานและจะได้ดูแลภรรยาได้อย่างใกล้ชิด เ
สืบ หลังจากที่รู้เรื่องที่แฟนของมายามีภรรยาอยู่แล้ว และเธอกำลังตั้งครรภ์ เบนก็ตัดสินใจที่จะยังไม่บอกเรื่องนี้กับหญิงสาว เพราะเขายังต้องการรู้ว่า แมนอยู่เบื้องหลังการยักยอกเงินของบริษัทหรือไม่ นักสืบกลับมารับงานอีกครั้ง หลังจากทำงานที่เร่งด่วนสำเร็จแล้ว เมื่อได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากเบน นักสืบก็ไปดำเนินการหาข้อมูลต่อทันที “เย็นแล้วกลับบ้านยังงละวันนี้” เบนเดินเข้าไปหามายาในห้องทำงาน เห็นเธอกำลังเตรียมตัวเก็บของเพื่อกลับบ้าน จึงลองถามเธอเพราะใจจริงเขาก็อยากไปส่งเธอที่บ้าน “เดี๋ยวแมนมารับค่ะ” คนตอบสีหน้าดูมีความสุข “แฟนของเธอ เขาทำงานที่ไหน ถึงได้มีเวลามาหาเธอช่วงกลางวันบ่อยๆ” ชายหนุ่มแกล้งทำเสียงจริงจังถาม “ฉันไม่ได้ออกไปไหนในเวลางานเลยนะคะ” หญิงสาวทำท่าตกใจ “ผมยังไม่ได้ว่าอะไรเลย แค่สงสัยว่าแฟนของคุณทำงานแถวนี้เหรอถึงได้มาหาได้บ่อยๆ” “เปล่าค่ะ เขาทำงานรับส่งเอกสาร เวลาผ่านมาทางนี้ก็ถึงจะแวะมาหา” คนตอบสีหน้าดีขึ้น “แล้วเวลากลับเขามารับทุกวันใช่ไหม ที่ถามก็เป็นห่วง บ้านอยู่ไกลจากบริษัท แถมต้องกลับค่ำมืดทุกวัน”
ทะเล “พร้อมบินหรือยัง” เบนหันมาทำท่าเหมือนเขากำลังจะเหยียบคันเร่ง เพื่องเร่งความเร็วรถ เมื่อทั้งคู่ออกมาพ้นตัวเมืองหลวง เข้าสู่เขตต่างจังหวัด จนคนนั่งข้างๆทำท่าตกใจ “ไม่ขับเร็วนะคะ ฉันกลัว กลัวอย่างวันนั้น” เบนหันไปมองหน้าหญิงสาวที่ตอนแรกเขาตั้งใจจะแกล้ง แต่คนขับลืมคิดไปว่า มายาเพิ่งผ่านอุบัติเหตุครั้งใหญ่มา จนเธอกับพี่สาวเกือบเอาชีวิตไม่รอด “ผมล้อเล่นนะ ไม่เอาไม่ทำหน้าแบบนี้ เรื่องบางเรื่องเราก็อย่าไปคิดถึงมัน อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้กับทุกคนและคุณโชคดี คิดแบบนี้สิ ไหนหันมายิ้มสิ ” มายาหันหน้ามาทำหน้าฝืนยิ้ม ให้กับเจ้านาย จนตัวเธอเห็นหน้าตัวเองในกระจกยังอดขำหน้าฝืนยิ้มของตัวเองไม่ได้ “หัวเราะแบบนี้ น่ารักกว่าหน้าเมื่อกี้เยอะเลย” สองคนมองหน้ากันแล้วพากันหัวเราะ ต่างคนต่างเป็นตัวของตัวเองอย่างไม่ต้องกลัวใครเห็นหรือได้ยิน เพราะภายในรถมีแค่เขาสองคนเท่านั้น “นานแล้วนะคะ ที่ฉันไม่ได้หัวเราะแบบนี้” มายาเปลี่ยนเสียง แต่ใบหน้ายังคงยิ้มอยู่ “ทำไมล่ะ” เบนสงสัย “ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่รู้สึกชีวิตตัวเองไม่ได้ขำ
หัวใจมันหวั่นไหว“เป็นอะไรทำไมตาแดงแบบนั้น คุณร้องไห้เหรอมายา”เบนมองหน้าหญิงสาวที่ก่อนขึ้นไปยังยิ้มสดชื่นดีอยู่ แต่พอเขาลงมาเธอกลับตาบวมช้ำเพราะผ่านการร้องไห้มา“เปล่าค่ะ นั่งหาวรอคุณจนน้ำตาไหล ขยี้ไปขยี้มาตาเลยแดง”คนตัวเล็กโกหกเพราะไม่อยากทำให้คนตรงหน้า มองแฟนเธอไปในทางที่ไม่ดีมากกว่านี้“ง่วงก็ไม่หลับไป เดี๋ยวผมลงมาก็ปลุกเอง”เบนเองก็ไม่ได้เชื่อในคำโกหกของมายา แต่ก็ไหลตามน้ำไปเพราะไม่อยากขัดคอ“หลับตรงนี้เหรอคะ มีหวังได้กรนหรือไม่ก็น้ำลายไหลยืด จนคนเดินผ่านไปผ่านมามองกันเป็นแถวแน่ๆ”หญิงสาวทำท่านอนกรน กับท่าน้ำลายไหลยืดจนเบนเองเห็นแล้วอดขำในความน่ารักของเธอไม่ได้“เดี๋ยวพาไปเที่ยว เลี้ยงข้าว จ่ายโอทีหนักๆ เป็นค่าตอบแทนแล้วกัน ไม่ต้องยิ้ม เงินท่านทั้งนั้น ไม่ใช่เงินผม”เรื่องงานเสร็จแล้ว เหลือแต่เรื่องของเราเท่านั้น ภายในใจของเบนกำลังต้องการรู้จักผู้หญิงที่เขาพามาด้วยให้มากขึ้น“ร้านอาหารร้านนี้ผมไม่เคยไปหรอกนะ แต่เห็นเขาแชร์กันเยอะ เลยอยากลอง”เมื่อรถจอดสนิท คนขับก็รีบบอก เพราะกลัวว่าถ้าร้านไม่ดี อาหารไม่อร่อยจะโดน คนที่เขาพามาด้วยตำหนิเอา“คนเยอะเลย มีแต่รถหรูๆทั้งนั้น ราคาคงแพงน
หลักฐาน สิ่งแรกที่ทำเมื่อชายหนุ่มกลับถึงบ้านคือการเปิดโทรศัพท์ เพื่อฟังคลิปเสียงที่นักสืบส่งมาให้ ‘ทำไมมาทำงานแบบนี้’ (นักสืบ) ‘รายได้มันดีนี่ครับ แถมทำตอนกลางคืน กลางวันก็ยังมีเวลาไปทำงานได้’ (แมน) ‘เราชอบผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่ พี่ว่าเราดูไม่เป็นจริง’ (นักสืบ) ‘ผมได้หมด ได้หมดถ้าสดชื่น ผมไม่ได้สนใจอะไรกับคำว่าชอบหรือไม่ชอบ แต่ผมสนใจแค่ว่า ผมอยู่กับใคร แล้วใครให้ผมได้มากกว่ากัน’(แมน) จากการฟังคลิปเสียง ที่ยาวนานเกือบสิบห้านาที นอกจากบทสนทนาที่ส่อไปทางอนาจารแบบรักร่วมเพศระหว่างชายกับชายแล้ว ก็ยังเป็นการพูดถึงผู้หญิงต่างๆที่เข้ามาในชีวิตของแมนมายาเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่แมนพูดถึง แม้ว่าเขาจะไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่สิ่งที่เขาเล่าให้นักสืบที่ปลอมตัวไปซื้อบริการเขาฟัง เบนก็พอเดาได้ว่าหมายถึงผู้หญิงที่เขากำลังสนใจอยู่คืนนั้นที่มายาอยู่กับเบนที่ทะเล แมนก็ได้พูดถึงจนชายหนุ่มเข้าใจเรื่องได้ทันที ว่าเงินที่แมนโทรมาขอ และอ้างว่าขับรถชนคน แท้ที่จริง เขาเสียการพนันบอลและกำลังโดนเจ้าหนี้เล่นงานนอกจากคลิปเสียง สิ่งที่นักสืบส่งมาด้วย คือใบทะเบียนส
เราจะเริ่มต้นใหม่ ที่กลางทะเลกัน“มืดแบบนี้เราจะนั่งเรือไปเลยเหรอคะ”กว่าทั้งคู่จะมาถึงทะเลท้องฟ้าก็มืดลงสนิท คนไม่เคยนั่งเรือมาก่อนอย่างมายาเริ่มเป็นกังวล“คืนนี้เราจะนอนที่ฝั่งก่อน ช่วงมรสุมแบบนี้ ข้ามไปตอนนี้มีหวังตายกันกลางทาง”“เฮ้อ!..” หญิงสาวถอนหายใจ“ทำไมกลัวเหรอ ไม่ต้องกลัวหรอก พรุ่งนี้ถึงจะได้เมาเรือ ใจเย็นนะ”คนพูดกลั้นหัวเราะไว้ในคอ เพราะกลัวหญิงสาวตรงหน้าจะงอนเขาให้อีก ที่ไปล้อเลียนเธอเรื่องอ้วก“ไม่กลัว คุณคิดแต่ว่าฉันจะเมาเรือ จริง ๆ ฉันอาจจะนั่งชมวิวข้างทางแบบสบายใจก็ได้”มายาแกล้งทำเป็นเก่ง เพราะอยากให้อีกฝ่ายเลิกล้อเธอเรื่องนี้เสียที ทั้งที่ตัวเธอเองก็พยายามคิดหาวิธีที่จะทำให้ไม่เมาเรือ“เราจะพักกันที่นี่เหรอคะ”รีสอร์ตข้างทางที่ดูสวยงามแต่มายารู้สึกมันดูเงียบจนเธอเริ่มกลัวถ้าชายหนุ่มจะพักที่นี่“ผมไม่ได้จองที่พักไว้ล่วงหน้า ถ้าไปพักโรงแรมในเมือง พรุ่งนี้เราคงต้องตื่นเช้าเพื่อนเดินทางมาขึ้นเรือ แต่ถ้าเราพักแถวนี้ พรุ่งนี้เราก็ไม่ต้องรีบ คุณถามทำไมกลัวเหรอ”มายาพยักหน้าแทนคำตอบ เธอไม่เคยต้องมาพักที่แบบนี้ บรรยากาศดูเงียบ ห้องทุกห้องปิดสนิท ถ้าหากเธอต้องนอนคนเดียว มีหว
ตอนที่ 11เติมเต็ม ดาวิกาก้าวเข้ามาเป็นสะใภ้ในครอบครัวของทรงธรรมอย่างเต็มตัวและเต็มใจ เธอเป็นที่รักของยมโดยอย่างมาก เพราะหญิงสาวทำกับข้าวได้ถูกปากแม่สามี วันนี้เป็นวันที่ทรงธรรมจะได้กลับบ้านหลังจากที่ต้องไปนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเกือบสองเดือน ในส่วนของคดีก็ยังดำเนินต่อไป โดยที่ทรงธรรมปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทนาย เขาไม่อยากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เพราะมันทำให้เขาเจ็บปวด หลานสาวทั้งสองคนที่เป็นลูกของผจญ ทรงธรรมในฐานะลุงได้ยกที่ดินให้คนละสองไร่ ซึ่งราคาตอนนี้ก็ไร่ละเป็นล้าน พร้อมเงินในบัญชีที่ทั้งคู่จะเบิกไปใช้ได้ก็ต่อเมื่ออายุยี่สิบปีบริบูรณ์อีกคนละห้าแสนบาท “ที่พ่อทำแบบนี้ พ่อไม่ได้คิดจะให้ผจญมันสำนึกได้ แต่เพราะหลานทั้งสองคนไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ถ้าผจญต้องติดคุก จะได้มีที่ดินเอาไว้ขายเอาเงินมาใช้จ่ายกัน เราโตแล้ว ต้องแยกให้ออกว่าเรื่องบางเรื่องมันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทุกคน” ปองภพชื่นชมในการตัดสินใจของบิดา คนดี ๆ แบบนี้ไม่น่าจะมีใครมาคิดร้ายด้วยเลย เพราะท่านมีแต่ให้จริง ๆ ยมโดยเรียกลูกชายและลูกสะใภ้เข้ามาใกล้ๆ เธอมีบางอย่างอ
ตอนที่ 10ความจริงที่เจ็บปวด ยมโดยโอบกอดลูกชายด้วยความดีใจและเรียกดาวิกาเข้ามากอดด้วย เธอร้องไห้แต่เหมือนยังมีสติ “ฟังแม่นะพล พ่อถูกทำร้าย แม่คิดว่าเมื่อครั้งที่แล้วก็ใช่ แต่ครั้งนี้มันคงหวังให้พ่อพิการหรือไม่ก็ตายเองจากอาการสาหัส และแม่ก็พอเดาออกว่าใคร” ปองพลฟังด้วยความตื่นเต้น เพราะเขาไม่เคยรู้เลยว่าพ่อแม่บุญธรรมของเขามีศัตรู “ใครกันครับ” “น้องชายของพ่อ เพราะวันที่ลูกมาหาแม่และกลับไป เราสองคนได้พูดถึงเรื่องการทำพินัยกรรม พ่อกับแม่จะยกเงินและหุ้นในอู่ต่อเรือของครอบครัวพ่อคืนให้พี่น้องเขา ส่วนทรัพย์สินที่พ่อกับแม่สร้างกันขึ้นมาเอง เราจะยกให้ลูก และวันที่เราพูดเรื่องนี้ก็มีเพียงแม่บ้านที่อยู่ด้วย แต่อีกวันน้องชายคนเล็กของพ่อก็พาหลาน ๆ มาหา” ปองพลตกใจมาก เพราะในบรรดาพี่น้องของพ่อบุญธรรมเขา มีน้องชายคนเล็กเพียงคนเดียวที่ยังไปมาหาสู่กันตลอด “คุณผจญ ท่านดูเป็นคนอ่อนโยนและดูเป็นห่วงพ่อมาก มันจะเป็นเรื่องจริงเหรอครับ” “เขามาที่นี่พร้อมหลาน ๆ และถามพ่อกับแม่เรื่องอู่ที่พ่อกับแม่มีอยู่ เขาพยายามพูดให้เห็นว่าพลเป็นเพียงแค่ล
ตอนที่ 9อุบัติเหตุ ปองภพดีใจที่สุดที่วันนี้มาถึง วันที่เขาได้พูดความจริงและดาวิกาก็ยอมที่จะแต่งงานตามคำขอของเขา ข่าวเรื่องที่ปองภพไม่สบายทำให้ทรงธรรมร้อนใจมากจึงได้รีบเดินทางมาหา โชคดีที่จังหวัดที่เขาอยู่มีสนามบินอยู่ไม่ไกล จึงไม่ใช่เรื่องยากในการเดินทาง “ปองภพลูก” ดอมพาทรงธรรมมาหาปองภพที่ห้องเช่าของเขา ภาพห้องเช่า ข้าวของที่ใช้สำหรับทำกับข้าวขาย และดาวิกากับน้อง อดทำให้ทรงธรรมรู้สึกสงสารไม่ได้ “พ่อได้ข่าวว่าไม่สบาย แม่เขาก็ร้อนใจสั่งให้พ่อมาดูด้วยตาตัวเอง” ปองภพดีขึ้นแล้ว พยายามทรงตัวขึ้นมานั่งคุยกับบิดาที่เดินทางไกลมาด้วยความเป็นห่วง “ไข้ลดตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วครับพ่อ” คนป่วยพูดจบก็หันไปทางดาวิกา เพราะทั้งสองคนยังไม่ได้รู้จักกันเลย “ดา พ่อของพี่” หญิงสาวยกมือไหว้ หัวใจของเธอมันสั่นอย่างบอกไม่ถูก บุคลิกท่าทางของทรงธรรมมีความเป็นทั้งผู้ใหญ่และผู้ดี จนเธอรู้สึกต่ำต้อยเกินไปที่จะไปเป็นสะใภ้ของเขา “น่ารักกว่าที่ฉันคิดไว้นะ เห็นพลเล่าให้ฟังว่าทำกับข้าวเก่งมาก ไว้แต่งงานกันแล้ว ไปหาทำเลเปิดร้
ตอนที่ 8เจ้าของอู่..สู่..พ่อค้าขายแกง “พ่อกับแม่ชักอยากจะเห็นหน้าอนาคตลูกสะใภ้คนนี้จัง แก้เกมได้ทันคนจริง ๆ ” ทรงธรรมฟังเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากปากของลูกชาย เขารู้สึกเห็นด้วยกับดาวิกา การที่ปองภพยืนยันว่าเขาคือคนเดิม เขาก็ต้องกลับไปลำบากอีกครั้งให้ได้ แล้วเวลาหนึ่งเดือน ไม่ใช่เรื่องที่จะฝืนทนกันได้ถ้าไม่เต็มใจ “ปองภพแล้วลูกล่ะคิดว่าทำได้ไหม” ชายหนุ่มถามคำถามนี้กับตัวเองมาทั้งคืนแล้ว และเขาก็มีคำตอบเดียวในหัวใจ “บ้านไม่มีอยู่ นอนใต้ต้นไม้ ขอข้าววัดกิน ผมก็ผ่านมาแล้ว เพิ่งจะได้เป็นคุณปองภพแค่ไม่กี่ปี ผมว่าตัวเองยังคุ้นชินกับความจนมากกว่าความรวยเสียอีก” พ่อกับแม่ได้ยินลูกชายบุญธรรมพูดแบบนี้ก็ทั้งสบายใจและดีใจ เพราะทั้งสองคนตั้งใจจะยกสมบัติทั้งหมดที่เขาสองคนหามาได้ให้กับปองพล ส่วนสมบัติที่ได้จากบรรพบุรุษ ทั้งคู่จะคืนให้กับคนในตระกูล ยมโดยหันไปพูดกับสาวมี ด้วยน้ำตานองหน้า จนทรงธรรมตกใจรีบเดินมานั่งข้าง ๆ แล้วกอดภรรยา “เราเลือกคนไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ ภพไม่เคยลืมตัว ถึงเขาจะไม่ใช่สายเลือดแต่เขาคือผู้ให้ชี
ตอนที่ 7 เสียความรู้สึก “เป็นอะไรวันนี้ กลับบ้านทำหน้าตาเหมือนเบื่อโลก” ดาวิกาเห็นหน้าน้องชายแล้วอดถามไม่ได้ เพราะปกติกลับมาจากที่ทำงานจะร่าเริงและจะต้องมาอวดว่าวันนี้ทำงานได้เงินเท่าไหร่ แต่วันนี้กลับเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเศร้า ๆ เหมือนมีความกังวลอยู่ในใจ “พี่ดาวันเสาร์นี้ที่อู่จัดงานเลี้ยง เจ้านายผมบอกให้พี่ไปด้วย ตกลงนะ” ดอมถามเองตอบเอง และไม่ยอมมองหน้าพี่สาว ด้วยกลัวตัวเองจะเผลอแสดงพิรุธอะไรไป “พี่ไม่รู้จักใครแล้วจะให้พี่ไปทำไม” หญิงสาวเดินตามน้องชายเพื่อต้องการอยากรู้เหตุผล เพราะเธอไม่ใช่พนักงานที่นั่น “เขากินกับข้าวพี่กันทุกคน เขาก็รู้จักพี่กันทั้งนั้นและ เพื่อนผมก็ไอ้พวกที่มาช่วยยกของ ล้างของบ่อย ๆ ไปเถอะ หาซื้อชุดสวย ๆ ใส่ไปด้วยนะ งานเริ่มหนึ่งทุ่มเสาร์นี้” ดาวิกาไม่อยากขัดใจน้องชายและเห็นดอมดูอารมณ์ไม่ค่อยดีจึงไม่อยากถามต่อ ดอมปิดไฟได้เวลาเข้านอน ห้องเช่าสี่เหลี่ยมที่ไม่เล็กมาก พอให้สองพี่น้องมีมุมแยกกันส่วนตัว แต่ก็มองเห็นกันได้ ชายหนุ่มนอนมองพี่สาวที่เอาแต่เฝ้าจับโทรศัพท์ตลอด เ
ตอนที่ 6บอกผู้ใหญ่ ยมโดยแม่บุญธรรมของปองภพมีอาการไม่ค่อยดี เพราะเธอเดินไม่ได้แต่ยังพยายามที่จะลุก จนล้มหน้าคว่ำกับพื้น ทรงธรรมมีเรื่องยุ่ง ๆ เกี่ยวกับการสั่งเครื่องจักรเข้ามาในอู่ที่ใต้ ขาจึงต้องเดินทางไปจีน จึงให้ปองภพลงมาดูแลยมโดยแทนเขา “เมื่อคืนแม่ก็อยู่คนเดียวได้ ไม่เห็นต้องยุ่งยากให้ภพมาดูแม่เลย” ยมโดยเป็นผู้หญิงเก่ง เธอมาจากครอบครัวที่ยากจนเป็นชาวประมงและมาพบรักกับทรงธรรมที่เป็นลูกชายเจ้าของอู่ต่อเรือ แต่ทรงธรรมไม่ใช่ลูกชายคนโปรดเพราะดันไปรักกับผู้หญิงจน ๆ อย่างยมโดย จึงได้สมบัติมาแค่เพียงหยิบมือและมาเริ่มต้นสร้างฐานะกันใหม่ “อยู่ได้ผมเชื่อ แต่แม่ไม่อยากให้ผมมาอยู่ด้วยเหรอ” ปองภพก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขารู้จักกับครอบครัวนี้แค่ไม่กี่ปี แต่ทำไมเขารู้สึกผูกพันกับทั้งสองคนมากและเขาก็คิดว่าทั้งสองคนก็รักเขาเหมือนลูกจริง ๆ “แม่เหงาจังเลย เกิดมาก็ดันมีกรรมไม่มีลูกอย่างใครเขา เมื่อไหร่ภพจะมีเมียแม่อยากอุ้มหลาน” สายตาที่เว้าวอนของคนที่เดินไม่ได้ มันทำให้หัวใจของปองภพรู้สึกใจหาย “คุณแม่ครับ คือตอนนี้ผมมีแฟน
ตอนที่ 5การให้ที่ยิ่งใหญ่ วันนี้ปองพลนัดดาวิกามาเจอทั้งที่ไม่ใช่วันหยุด หญิงสาวจึงต้องทำกับข้าวมาขายให้น้อยกว่าเดิมเพื่อที่จะได้หมดไวขึ้น “มีอะไรด่วนเหรอคะ พี่พลถึงต้องนัดดามาเจอวันนี้” ปองพลยื่นซองสีน้ำตาลให้กับหญิงสาว พร้อมกับซอง สีขาวเล็กอีกซองหนึ่ง “มสธ. กำลังใกล้จะปิดรับสมัครและนี่เงินลงทะเบียน เรียนต่อนะ” “เพื่ออะไรคะ พี่พลจะให้ดาเรียนต่อด้วยเงินของพี่เพื่ออะไร” ชายหนุ่มจับไหล่ทั้งสองข้างของคนรัก ด้วยท่าทีที่จริงจังและแววตาที่มั่นคง “เพื่อเรา พี่อยากสร้างครอบครัวกับดา อย่างน้อยถ้าดาเรียนจบปริญญาตรี ลูกเราจะได้ไม่ลำบาก ทำเพื่อเรานะ” ปองพลไม่รอให้อีกฝ่ายได้คิดและปฎิเสธ เขาก็ขึ้นรถรับจ้างออกไปทันที ดาวิกามองซองทั้งสองซองด้วยความไม่เข้าใจ ตอนนี้เธออายุยี่สิบกว่าแล้ว อยู่ดี ๆ ทำไมปองพลเขาถึงอยากให้เธอเรียนต่อ แต่ในเมื่อคนรักต้องการ เธอก็จะทำให้ดีที่สุด “นั่งเขียนอะไรพี่ดา เห็นทำหน้าจริงจังเชียว” ดอมถามเพราะวันนี้เขาทำโอทีแค่สองทุ่มกลับมาก็เห็นพี่สาวนั่งเขียนอะไรบางอย่างถึงขั
ตอนที่ 4ความในใจ ดาวิกากลับมาถึงบ้าน ภาพที่เธอเห็นคือข้าวของทุกอย่างที่ดอมเอาไปถูกล้างอย่างเรียบร้อย ตอนแรกเธอคิดว่าต้องกลับมาล้างเอง เพิ่งจะเคยเห็นเหมาไปแล้วยังล้างมาให้อีก หญิงสาวคิดขึ้นมาได้ว่าลืมบอกปองภพว่า หัวหน้ายามที่นี่ก็บ่นหาอยู่ อยากให้แวะมาหาเขาบ้าง เธอจึงลองโทรศัพท์กลับไปที่เบอร์ที่ชายหนุ่มโทรมา แต่ปรากฏว่าปิดเครื่อง “อะไร แยกกันได้ไม่ถึงชั่วโมงปิดเครื่อง” คนโทรได้แต่บ่นกับตัวเอง มีด้วยเหรอคนเราจะออกจากบ้านเดินทางไปที่อื่นจะปล่อยให้แบตเตอรี่หมด ดอมกลับมาจากทำงานพอดี แต่นี่ไม่ใช่เวลาเลิกงาน ดาวิกาสงสัยว่าน้องชายทำไมกลับมาก่อน “กลับมาเอาอะไร ยังไม่ใช่เวลาเลิกงานนี่” “กลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เย็นนี้นายจะให้ทำโอทีคงกลับประมาณห้าทุ่มให้ชั่วโมงละ300เลยนะ ลองคิดสิตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงห้าทุ่ม 1500เลย เดือนนี้ได้เงินจ่ายค่าห้องไม่ต้องควักเงินเดือนแล้ว แต่ทำสองวันติดเลยนะพี่” หญิงสาวฟังน้องชายและคิดตาม แค่เงินเดือนตอนนี้ดอมก็ได้ถึงหมื่นสาม ยังจะมีโอให้อีกสามพัน มันดูมากไปสำหรับพนักงานใหม่
ตอนที่ 3ลองใจ นับจากวันนั้น วันที่ปองภพมาหาดาวิกา เธอก็ไม่ได้รับการติดต่อจากเขาอีกเลย ทุกวันเธอจะเหลือเมนูที่เขาชอบไว้ เพราะกลัวว่าถ้าเกิดวันใดที่ปองภพมาเขาจะไม่ได้กิน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นเบอร์แปลกที่หญิงสาวไม่ได้บันทึกเบอร์ไว้ เธอภาวนาขอให้ใช่คนที่เธอรอคอย “สวัสดีค่ะขอสายพี่นกค่ะ” “ไม่มีค่ะ คุณคงโทรผิดเบอร์” หญิงสาวถอนหายใจ ให้กับฝันสลายที่หายวับไปทันใด สุดท้ายเป็นแค่เพียงคนโทรผิด ดอมกลับมาที่ร้านทั้งที่เขาเพิ่งจะออกไปทำงานไม่ถึงสองชั่วโมง “พี่ดา นายให้มาเหมากับข้าวให้หมดเลย วันนี้นายจะเลี้ยงอาหารกลางวันลูกน้องและถ้าเหลือจะให้แบ่งกันกลับบ้าน” ดาวิกายืนงงด้วยความแปลกใจทำอะไรไม่ถูก ดอมและเพื่อนช่วยกันขนหม้อขึ้นรถ ปล่อยให้แม่ค้าคนสวยยืนงงอยู่คนเดียว “แล้วข้าวของพี่จะได้คืนเมื่อไหร่ พรุ่งนี้พี่ต้องทำกับข้าวแต่เช้ามืดนะ” “บ่ายนี้ผมจะเอาไปไว้ที่ห้องเอง ไม่ต้องเป็นห่วง” กับข้าวถูกขนไปหมดแล้ว ดาวิกาจึงเก็บร้าน เพราะจะได้กลับไปทำงานบ้านต่อ โชคดีของเธอที่มีคนมาเหมาจะได้มีเวลาทำงานบ้านบ้าง