หัวใจมันหวั่นไหว
“เป็นอะไรทำไมตาแดงแบบนั้น คุณร้องไห้เหรอมายา”
เบนมองหน้าหญิงสาวที่ก่อนขึ้นไปยังยิ้มสดชื่นดีอยู่ แต่พอเขาลงมาเธอกลับตาบวมช้ำเพราะผ่านการร้องไห้มา
“เปล่าค่ะ นั่งหาวรอคุณจนน้ำตาไหล ขยี้ไปขยี้มาตาเลยแดง”
คนตัวเล็กโกหกเพราะไม่อยากทำให้คนตรงหน้า มองแฟนเธอไปในทางที่ไม่ดีมากกว่านี้
“ง่วงก็ไม่หลับไป เดี๋ยวผมลงมาก็ปลุกเอง”
เบนเองก็ไม่ได้เชื่อในคำโกหกของมายา แต่ก็ไหลตามน้ำไปเพราะไม่อยากขัดคอ
“หลับตรงนี้เหรอคะ มีหวังได้กรนหรือไม่ก็น้ำลายไหลยืด จนคนเดินผ่านไปผ่านมามองกันเป็นแถวแน่ๆ”
หญิงสาวทำท่านอนกรน กับท่าน้ำลายไหลยืดจนเบนเองเห็นแล้วอดขำในความน่ารักของเธอไม่ได้
“เดี๋ยวพาไปเที่ยว เลี้ยงข้าว จ่ายโอทีหนักๆ เป็นค่าตอบแทนแล้วกัน ไม่ต้องยิ้ม เงินท่านทั้งนั้น ไม่ใช่เงินผม”
เรื่องงานเสร็จแล้ว เหลือแต่เรื่องของเราเท่านั้น ภายในใจของเบนกำลังต้องการรู้จักผู้หญิงที่เขาพามาด้วยให้มากขึ้น
“ร้านอาหารร้านนี้ผมไม่เคยไปหรอกนะ แต่เห็นเขาแชร์กันเยอะ เลยอยากลอง”
เมื่อรถจอดสนิท คนขับก็รีบบอก เพราะกลัวว่าถ้าร้านไม่ดี อาหารไม่อร่อยจะโดน คนที่เขาพามาด้วยตำหนิเอา
“คนเยอะเลย มีแต่รถหรูๆทั้งนั้น ราคาคงแพงน่าดูนะคะ”
มายามองไปรอบๆร้าน รถยนต์ราคาเกินล้านจอดเรียงแถวกันเต็มลานจอดรถไปหมด
“ผมยังขับรถราคาหลายล้านเลยวันนี้ สุดท้ายผมก็เป็นแค่พนักงานคนหนึ่งเท่านั้น ภายนอกบอกไม่ได้หรอก ว่าข้างในนั้นจะเป็นแบบไหน”
“คุณเบนพูดแปลกๆ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
มายารู้สึกว่าชายหนุ่มกำลังพูดเหมือนตัวเขาเองกำลังเผชิญกับการมองคนจากภายนอกและผิดไปจากที่คิดเมื่อได้รู้จักจริงๆ
“เรื่องงานครับ ไม่มีอะไรหรอก เรารีบลงไปดูกันดีกว่า ว่าข้างในจะเป็นเหมือนที่คุณคิดไว้ไหม”
ร้านอาหารทะเลกับบรรยากาศที่อยู่ติดทะเลจริงๆ โต๊ะที่ชายหนุ่มจองไว้ เป็นโต๊ะที่อยู่ในมุมส่วนตัว อยู่ใสส่วนของร้าน ที่ยื่นออกไปในทะเล
“คุณโทรมาจองไว้ล่วงหน้าเลยเหรอคะ” มายาถามเมื่อได้ยินเบนแจ้งกับพนักงานของร้าน
“อ่านในรีวิว เขาบอกถ้าไม่จองล่วงหน้า อาจพลาด”
คนตอบยืนเอามือกอดอกทำท่าภูมิใจ ที่สามารถจองได้สำเร็จ
“เก่งค่ะเก่ง เก่งที่สุดเลยค่ะ” มายายื่นหน้าไปใกล้ ยิ้มอย่างสดใส
ไม่นานอาหารก็ถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะ เพราะชายหนุ่มสั่งอาหารไว้ล่วงหน้า เพราะกลัวมาถึงจะต้องรอนาน
“สั่งแบบนี้ กลัวไม่อิ่มเหรอคะคุณเบน ฉันไม่ช่วยนะ...”
มายามองอาหารต่างๆที่วางอยู่เต็มจนเกือบจะล้นโต๊ะ ด้วยความรู้สึกที่แค่มองก็จะอิ่มแล้ว
“ครับผม เดี๋ยวจะจัดการให้เรียบเลย”
คนสั่งอยากกินอาหารทะเลมานาน เลยมั่นใจว่าเขาสามารถจัดการอาหารบนโต๊ะได้หมดแน่นอน
“พี่นันทาใกล้จะหายแล้วนะคะ”
มายาลืมไปว่าพี่สาวของเธอ ฝากบอกเขาด้วย เพราะอีกไม่กี่วันพี่สาวของเธอน่าจะกลับมาทำงานได้แล้ว
“เดี๋ยวผมจะโทรบอกให้พี่สาวคุณ มาเริ่มงานเดือนหน้าเลย เพราะจะได้มาดูแลโครงการใหม่ด้วย ส่วนคุณถ้ายังไม่อยากเปลี่ยนงาน ก็ทำหน้าที่นี้ต่อไป”
“ขอบคุณมากนะคะ ฉันคงทำงานที่นี่ต่อไปค่ะ เพราะถึงจะเปิดร้าน แมนบอกว่าเขาจะให้แม่กับพี่สาวของเขามาทำ ส่วนฉันกับเขาแค่ดูแล”
แมนบอกกับเธอว่าภรรยาของเขาคือพี่สาวแน่ๆ เบนแน่ใจเมื่อได้ยินคำบอกเล่าจากมายา
“แล้วคุณเก็บเงินได้เยอะหรือยัง”
“ได้เกือบครบแล้วค่ะ”
“เก่งจังนะครับ เงินเป็นแสน เรียนจบกันแค่ไม่กี่เดือนก็เก็บเงินกันได้แล้ว ผมยังไม่มีเงินเก็บขนาดนั้นเลย”
ชายหนุ่มพูดแทงเข้าไปในหัวใจของหญิงสาว เพราะเงินที่เธอบอกว่าเก็บได้ มันคือเงินที่เธอฉ้อโกงจากบริษัทมา
“คุณเบนล่ะคะ ไม่เห็นเอาแฟนมาเปิดตัวบ้างเลย”
มายาเปลี่ยนเรื่องพูด เพราะเขาไม่อยากรู้สึกผิด ต่อหน้าชายหนุ่ม กลัวจะทำให้เขาสงสัย และเธอจะโดนข้อหาฉ้อโกงบริษัทได้
“อยากเอามาเปิดตัวแข่งกับเธอเหมือนกัน แต่ติดว่ายังไม่มีแฟน ถ้ามีเมื่อไหร่ จะรีบแต่งงานตัดหน้าเธอแน่นอน”
“ไม่เชื่อค่ะ ทั้งหล่อ การงานก็ดีแบบนี้ จะไม่มีผู้หญิงมาชอบเป็นไปไม่ได้แน่ๆ”
คนพูดส่ายหัวอย่างไม่เชื่อ เพราะผู้ชายอย่างเบน ไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆมีหรือผู้หญิงจะไม่วิ่งเข้าใส่
“ใครบอกว่าไม่มีผู้หญิงมาชอบ แค่บอกว่าไม่มีแฟน อย่าเหมารวมสิ หล่อๆแบบนี้ สาวมาจีบเยอะ”
คนพูดอมยิ้มแบบเจ้าชู้ใส่คนฟัง เพราะสิ่งที่เขาพูดคือความจริงที่สุดแสนจะภูมิใจ ในความหน้าตาดีของตัวเอง
“อุ๊ย! ใครโทรมา”
มายาตกใจที่โทรศัพท์สั่น เพราะเธอตั้งปิดเสียง และวางมันไว้บนตักของเธอ
“แมนโทรมา ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ก่อนนะคะ”
คนตัวเล็กลุกออกจากโต๊ะไป ก่อนที่เธอจะกดรับสาย เบนอยากจะบอกให้เธอคุยตรงนี้ก็ได้ แต่มันคงเป็นการเสียมารยาทน่าดู เขาจึงทำได้แค่คิดในใจ และหวังว่าเธอจะเล่าเมื่อกลับมา
มายาหายไปเกือบห้านาทีเธอก็เดินกลับมานั่งที่เดิม แต่ที่เปลี่ยนไปคือสีหน้าและแววตา
“มีอะไรหน้าตาถอดสีขนาดนั้น” เบนถามทันทีเมื่อเห็นสีหน้าของคนที่มาด้วย
“เอ่อ...แมนเขาขับรถไปชนคนค่ะ เขาเรียกค่ารักษาพยาบาล แมนเขาเลยขอให้ฉันโอนเงินที่จะไว้เปิดร้านให้ก่อน”
มายาตอบเสียงติดขัด เพราะกลัวชายหนุ่มจะท้วงติงที่เขายอมโอนเงินให้แมนง่ายๆ
“แล้วคุณโอนให้หรือยังล่ะ”
คนถามทำเป็นถามแบบไม่ใส่ใจ เพราะกลัวคนตอบจะสงสัย ทั้งที่จริงๆลุ้นกับคำตอบที่จะได้ยิน
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“เท่าไหร่” เบนถามด้วยเสียงที่ดุดัน จนคนตอบรีบหลบสายตา
“เอ่อ......” หญิงสาวไม่กล้าตอบ
“ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ทำอะไรคิดหน้าคิดหลังให้ดีๆ อย่าไว้ใจใครง่ายๆ”
เบนมองแล้วมายาไม่พร้อมจะบอกเขาจริงๆ และจำนวนเงินที่โอนไปก็ไม่ได้สำคัญอะไรกับเขา สิ่งที่เขาต้องการคือให้มายารู้จักมองคนให้ดีกว่านี้ แต่ตอนนี้เขาคงพูดอะไรไม่ได้มาก เพราะทุกอย่างยังเป็นแค่คำกล่าวหา ถ้าเขาหลักฐานมาไม่แน่นพอ
“แมนเขาเป็นคนดีค่ะ ถึงจะดุไปหน่อย แต่เขาไม่เคยโกหกฉันเลยนะ ตั้งแต่เราคบกันมา ”
หญิงสาวพูดอย่างใสซื่อแววตาชื่นชมคนรัก เบนได้ฟังยิ่งรู้สึกว่าอยากจะเปิดเผยธาตุแท้ ที่แท้จริงของแมนให้เธอรู้ให้เร็วที่สุด
“หนาวไหม ลมเริ่มพัดมาแล้ว”
ชายหนุ่มเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เพราะเขาตั้งใจที่จะมากระชับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอ และอยากรู้จักตัวเธอไม่ใช่ตัวแฟนหนุ่ม เขาจึงไม่อยากเสียเวลากับเรื่องของแมน
“ไม่ค่ะ ลมพัดชื่นใจดี อยู่แต่ในกรุงเทพ มีแต่ควัน นานๆได้มาทะเลแบบนี้ก็ดี ถ้าไม่มืดจะลงไปเล่นน้ำเลย”
“ถ้าอย่างนั้น ไว้วันหลังเรามากันใหม่นะ มาค้างคืนสักคืน ผมก็ไม่ได้เที่ยวทะเลที่ไทยมานาน เพื่อนก็ไม่ค่อยมี ไว้คุณมาเที่ยวเป็นเพื่อนผมนะ”
หญิงสาวมองหน้าคนพูดจนลืมตอบ เธอไม่คิดเลยว่าจะได้ยินเรื่องราวแบบนี้
“ว่าไงตกลงไหม” เบนทวงคำตอบ
“ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ ว่าผู้ชายที่ดูพร้อมไปหมดทุกอย่าง จะไม่มีกระทั่งเพื่อนเที่ยว”
“เพื่อนมี แต่คนที่เที่ยวด้วยแล้วมีความสุข สนุก ก็เพิ่งเคยมีวันนี้ ตกลงนะ”
ชายหนุ่มเอื้อมมือหนา มาวางทับลงบนมือเล็กของมายา จนเจ้าของมือสะดุ้งเบาๆด้วยความตกใจ แต่ก็ไม่ชักมือกลับ ได้แต่มองสบตาชายหนุ่มด้วยความรู้สึกที่มีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน
“ค่ะ”
มายาตอบเพียงสั้นๆ ก่อนที่จะดึงมือกลับ เพราะมีเด็กผู้ชายตัวน้อยๆกำลังเดินมาที่โต๊ะของเธอ
“ซื้อดอกกุหลาบไหมครับ ช่วยเป็นทุนการศึกษา” เด็กชายในชุดมอมแมมร้องถาม
“เหมาหมดเท่าไหร่ครับ”
เบนกวักมือเรียก ให้เด็กที่กำลังถือดอกุหลายเดินไปหาเขาใกล้ๆ ก่อนที่จะถามราคาทั้งหมด
“หมดนี่เลยเหรอครับ” คนถาม ถามให้แน่ใจ
“ใช่ถ้าเอาหมดนี่เท่าไหร่”
“300บาทครับ”
“500ไม่ต้องทอน อีก200 เอาไว้ไปซื้อเสื้อผ้าใหม่นะ ห้ามเอาไปเล่นเกม หรือซื้ออะไรที่ไม่มีประโยชน์เข้าใจไหม”
ชายหนุ่มยื่นธนบัตรใบสีม่วง ให้เด็กชาย ที่กำลังพนมมือไหว้เขา ด้วยแววตาที่ดีใจ จนแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ครับ ขอบคุณมากๆนะครับ”
เด็กน้อยได้เงินก็รีบวิ่งออกจากร้านไป ดอกกุหลาบสีแดงหลายดอกถูกวางไว้ที่โต๊ะ ชายหนุ่มหยิบทุกดอกมารวมกัน ก่อนจะหันไปสบตาคนนั่งตรงข้าม
“ขอบคุณที่มาเป็นเพื่อนกันนะครับ”
เขายื่นดอกกุหลาบในมือทั้งหมดให้กับหญิงสาว เพื่อเป็นการตอบแทนที่เธอมาเป็นเพื่อนเขาในวันนี้
“ขอบคุณนะคะ”
หญิงสาวรับดอกกุหลาบในมือเขา แต่สายตาของทั้งคู่ยังคงจ้องมองกัน เหมือนแค่เพียงมองตาต่างก็เข้าใจความรู้สึกทั้งหมด
ภาพในคืนนั้น จูบแรกของเธอ ยังอยู่ในความทรงจำของเบนตลอด ทั้งที่มันเป็นการจูบที่ไม่ได้เรื่องเลย แต่เขากับติดใจและลืมมันไม่ลง แต่เพราะเธอมีแฟนแล้ว และเขาตั้งใจที่จะมาหารักแท้ จึงทำให้เบนต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ผู้หญิงตรงหน้ามีสถานะโสดให้ได้
“อย่าอู้นะคะ อาหารยังเหลือเยอะอยู่เลย”
เมื่อเริ่มรู้สึกอายกับสายตาที่ถูกมอง มายาจึงเปลี่ยนเรื่องมาที่อาหารบนโต๊ะ ที่ยังเหลืออยู่
“กินปูไหม เดี๋ยวผมแกะให้”
เบนหยิบปูจากจานมานั่งแกะอย่างตั้งใจ มายามองภาพของคนข้างหน้า เธออดคิดไม่ได้ ทำไมที่ตรงนั้นไม่เป็นแมน ผู้ชายที่ทั้งรักทั้งบูชา
“ขอบคุณนะคะ”
เนื้อปูแน่นๆถูกแกะ เอามาวางบนจานของคนตัวเล็กที่จริงๆแล้ว อยากกินปูแต่ไม่กล้าแกะ เพราะกลัวจะทำเลอะเทอะจนคนมาด้วยต้องอายคนอื่น
กว่าอาหารบนโต๊ะจะหมด ก็เกือบสามทุ่ม ทั้งคู่พากันขับรถกลับ มายาพยายามที่จะไม่หลับ เพราะเธอกลัวคนขับจะเผลอหลับกับเธอไปด้วย
“ขอบคุณนะคะที่มาส่งถึงบ้าน อย่าลืมกลับไปจิบน้ำมะนาวนะคะ ร้องเพลงมาตลอดทางเดี๋ยวเสียงจะหายเอา”
หญิงสาวอดแซวคนมาส่งไม่ได้ เพราะตั้งแต่ชลบุรี จนถึงกรุงเทพ เบนร้องเพลงตลอดทาง บางเพลงก็เป็นภาจีน ที่หญิงสาวฟังไม่ออก แต่ก็ช่วยปรบมือตามจังหวะให้อย่างสนุกสนานกันทั้งคู่
“วันนี้ผมมีความสุขมากเลยครับ”
“ฉันก็เช่นเดียวกันค่ะ”
ประตูรถถูกปิดลง โดยที่ชายหนุ่มแอบผิดหวังเล็กๆ เพราะคิดว่าคนที่เขาพามาส่ง อาจจะชวนเขาเข้าไปนั่งในบ้านด้วย
เมื่อรู้ว่าหมดหวัง ตอนนี้ในหัวของเบนก็คิดถึงแต่สิ่งที่นักสืบส่งมาให้เขา หัวใจของเขาสั่งให้ร่างกายรีบพาตัวเองกลับไปบ้านให้เร็วที่สุด
หลักฐาน สิ่งแรกที่ทำเมื่อชายหนุ่มกลับถึงบ้านคือการเปิดโทรศัพท์ เพื่อฟังคลิปเสียงที่นักสืบส่งมาให้ ‘ทำไมมาทำงานแบบนี้’ (นักสืบ) ‘รายได้มันดีนี่ครับ แถมทำตอนกลางคืน กลางวันก็ยังมีเวลาไปทำงานได้’ (แมน) ‘เราชอบผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่ พี่ว่าเราดูไม่เป็นจริง’ (นักสืบ) ‘ผมได้หมด ได้หมดถ้าสดชื่น ผมไม่ได้สนใจอะไรกับคำว่าชอบหรือไม่ชอบ แต่ผมสนใจแค่ว่า ผมอยู่กับใคร แล้วใครให้ผมได้มากกว่ากัน’(แมน) จากการฟังคลิปเสียง ที่ยาวนานเกือบสิบห้านาที นอกจากบทสนทนาที่ส่อไปทางอนาจารแบบรักร่วมเพศระหว่างชายกับชายแล้ว ก็ยังเป็นการพูดถึงผู้หญิงต่างๆที่เข้ามาในชีวิตของแมนมายาเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่แมนพูดถึง แม้ว่าเขาจะไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่สิ่งที่เขาเล่าให้นักสืบที่ปลอมตัวไปซื้อบริการเขาฟัง เบนก็พอเดาได้ว่าหมายถึงผู้หญิงที่เขากำลังสนใจอยู่คืนนั้นที่มายาอยู่กับเบนที่ทะเล แมนก็ได้พูดถึงจนชายหนุ่มเข้าใจเรื่องได้ทันที ว่าเงินที่แมนโทรมาขอ และอ้างว่าขับรถชนคน แท้ที่จริง เขาเสียการพนันบอลและกำลังโดนเจ้าหนี้เล่นงานนอกจากคลิปเสียง สิ่งที่นักสืบส่งมาด้วย คือใบทะเบียนส
เราจะเริ่มต้นใหม่ ที่กลางทะเลกัน“มืดแบบนี้เราจะนั่งเรือไปเลยเหรอคะ”กว่าทั้งคู่จะมาถึงทะเลท้องฟ้าก็มืดลงสนิท คนไม่เคยนั่งเรือมาก่อนอย่างมายาเริ่มเป็นกังวล“คืนนี้เราจะนอนที่ฝั่งก่อน ช่วงมรสุมแบบนี้ ข้ามไปตอนนี้มีหวังตายกันกลางทาง”“เฮ้อ!..” หญิงสาวถอนหายใจ“ทำไมกลัวเหรอ ไม่ต้องกลัวหรอก พรุ่งนี้ถึงจะได้เมาเรือ ใจเย็นนะ”คนพูดกลั้นหัวเราะไว้ในคอ เพราะกลัวหญิงสาวตรงหน้าจะงอนเขาให้อีก ที่ไปล้อเลียนเธอเรื่องอ้วก“ไม่กลัว คุณคิดแต่ว่าฉันจะเมาเรือ จริง ๆ ฉันอาจจะนั่งชมวิวข้างทางแบบสบายใจก็ได้”มายาแกล้งทำเป็นเก่ง เพราะอยากให้อีกฝ่ายเลิกล้อเธอเรื่องนี้เสียที ทั้งที่ตัวเธอเองก็พยายามคิดหาวิธีที่จะทำให้ไม่เมาเรือ“เราจะพักกันที่นี่เหรอคะ”รีสอร์ตข้างทางที่ดูสวยงามแต่มายารู้สึกมันดูเงียบจนเธอเริ่มกลัวถ้าชายหนุ่มจะพักที่นี่“ผมไม่ได้จองที่พักไว้ล่วงหน้า ถ้าไปพักโรงแรมในเมือง พรุ่งนี้เราคงต้องตื่นเช้าเพื่อนเดินทางมาขึ้นเรือ แต่ถ้าเราพักแถวนี้ พรุ่งนี้เราก็ไม่ต้องรีบ คุณถามทำไมกลัวเหรอ”มายาพยักหน้าแทนคำตอบ เธอไม่เคยต้องมาพักที่แบบนี้ บรรยากาศดูเงียบ ห้องทุกห้องปิดสนิท ถ้าหากเธอต้องนอนคนเดียว มีหว
ผมเริ่มจีบคุณแล้วนะ “หน้าเปลี่ยนสีเลย ไหวไหม” เรือแล่นออกจากฝั่งได้เกือบครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงจุดจบสายแข็ง มายาเริ่มมีอาการพะอืดพะอม “ยังไหวอยู่ค่ะ แต่อีกนานไหมคะกว่าจะถึง” “พี่ครับใกล้ถึงหรือยัง” เบนเขาก็ไม่เคยมาที่เกาะแห่งนี้เหมือนกัน จึงตะโกนถามคนขับเรือต่อ เพราะคงเป็นคนเดียวที่รู้คำตอบ “เรามาได้ครึ่งทางแล้วครับ” คนขับหันมาตอบ แต่ก็ไม่ได้สนใจกับภาพที่เห็นเสียเท่าไหร่ เขาคงจะรู้สึกชินกับการที่เห็นคนเมาเรือ “ใกล้แล้ว คุณนอนพิงผมดีกว่า แล้วหลับไปเลย พยายามอย่าคิดว่านั่งเรืออยู่” คนพูดใช้มือค่อยๆโน้มศีรษะของหญิงสาวให้ลงมาแนบกับอกของเขา มือหนาโอบกอดร่างเล็กไว้ และพยายามขยับให้เธออยู่ในท่าที่นอนได้สบายที่สุด มายานอนขดตัวคุดคู้อยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม เธอพยายามจะหลับ แต่ร่างกายมันไม่ยอม ดื้อดึง “อ้วก! อั้ว !” เมื่อเรือจอด หญิงสาวก็รีบลุกออกจากอกหนา และอาเจียนอาหารเช้าออกมาหมด โชคดีที่เธอหันหน้าออกนอกเรือทัน “อ้วกออกมาให้หมด คุณจะได้รู้สึกดีขึ้น” เบนลูบหล
คืนแรกกับทะเลและชายแปลกหน้า “สวยมากเลยค่ะ ข้างนอกว่าดูดีแล้ว ข้างในยิ่งดูดีเข้าไปอีก” หญิงสาวตื่นตาตื่นใจ กับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ที่พักแบบนี้เธอไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้มาพัก เพราะดูจากการตกแต่งก็รู้เลยว่าราคาคงไม่ธรรมดาแน่นอน “ในนี้ไม่มีห้องนอนนะ มีแต่ห้องครัว ห้องน้ำและที่ในห้องน้ำจะมีห้องแต่งตัวให้ คุณไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีพื้นที่ส่วนตัว” เบนตั้งใจเลือกที่นี่ เพราะถูกใจตรงที่ไม่มีห้องนอน มีเพียงที่นอนที่มีลักษณะคล้ายกับโซฟาแต่มีขนาดใหญ่ สามารถนอนได้สองคนสบายๆ วางอยู่ใจกลางห้องโถง เขากลัวว่าถ้ามีห้องนอนเป็นสัดเป็นส่วน จะยิ่งทำให้เขาหาโอกาศใกล้ชิดกับคนที่พาด้วยยากขึ้น แบบนี้เธอกับเขาต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลายกเว้นก็แต่ตอนอาบน้ำและทำธุระส่วนตัวเท่านั้น “แบบนี้เราก็ต้องนอนด้วยกันสิคะ” “ถ้าคุณไม่ไว้ใจผม ผมนอนข้างนอกก็ได้” มายาแค่ถาม โดยที่เธอยังไม่ทันได้คิดอะไร แต่คนตอบทำท่าทางประชดประชันแกมน้อยใจ จนคนถามรู้สึกผิด“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ ฉันแค่ถาม ถ้าไม่ไว้ใจคุณแล้วจะมาด้วยถึงที่นี่ไหม หรือคุณคิดว่าที่ฉันยอมมาที่นี่เพราะเห็นแก่ที่คุณช่วยปกป
คืนนี้ที่เต็มใจ “ฉันไม่คู่ควรกับคุณ อย่าลดตัวลงมารักคนอย่างฉันดีกว่า” มายารู้สึกเหมือนที่เธอพูดจริงๆ “ผมก็แค่พนักงานบริษัทเหมือนคุณ ถึงเงินเดือนจะมากกว่า แต่เราก็เป็นคนเหมือนกัน” ชายหนุ่มบรรจงจูบปากบางอย่างนุ่มนวล เมื่อเห็นคนที่กำลังโดนจูบไม่ขัดขืนอะไร เขาจึงเริ่มเพิ่มความรุนแรง ลิ้นสากค่อยเลียริมฝีบากสีชมพูให้เปิดอ้าขึ้น ก่อนที่มันจะเข้าไปสาละวนดูดดื่มความหวานจากในนั้นอย่างสุขสำราญใจ “คุณเบนพอเถอะค่ะ” หญิงสาวรีบพูดเมื่อปากหนาละออกจากปากของเธอ “คุณไม่รักผมใช่ไหม” เบนถามด้วยแววตาที่ไม่เหมือนกัน อารมณ์แห่งรักมันกำหนัดจนแทบจะขาดใจ “ฉันกลัว กลัวคุณจะหลอกเหมือนที่แมนหลอกฉัน” หญิงสาวพูดความจริง “ถ้าอย่างนั้นผมไม่หยุดนะ เพราะผมรู้ว่าผมจริงใจกับคุณแค่ไหน ผมจะไม่แตะต้องตัวคุณเลย ถ้าคุณบอกว่าคุณไม่รักไม่ต้องการผม” “ฉันรักคุณค่ะ... คุณเบน” คำว่ารักหลุดออกจากปากไป มายาก็หลับตาลง ได้แต่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นตามเสียงของหัวใจเรียกร้อง เมื่อชายหนุ่มชิมรสความหวานจากปากเล็กของคนตรงหน้าจนอิ่มเอมใจ สองมือหนาซุกซนเข้าไปใต้เสื้อย
กลัวทุกอย่างไม่เหมือนเดิม “ตื่นแล้วเหรอครับ...” เบนกลับเข้ามาจากห้องครัว ในชุดที่ใส่ผ้ากันเปื้อนไว้ มือไม้ยังมีกลิ่นอาหารติดตัว “ค่ะ ทำไมคุณตื่นแล้วไม่ปลุกฉันล่ะคะ” หญิงสาวในชุดนอนยังงัวเงียอยู่ เพราะเมื่อคืนเธอเมาหนักไปหน่อย จึงตื่นสายกว่าทุกวัน “เห็นคุณนอนหลับสบายเลยไม่อยากกวน ผมทำข้าวต้มไว้ ลุกล้างหน้าล้างตาแล้วไปกินที่หน้าบ้านกัน” กลิ่นข้าวต้มหอมมาจากในครัว มายาได้กลิ่นแล้วพาคิดถึงนันพี่สาวของเธอ ซึ่งป่านนี้คงกลับมาทำงานแล้ว หญิงสาวลุกจากที่นอนไปล้างหน้าแปรงฟัน แล้วเดินออกมากินข้าวที่หน้าบ้าน มุมเดิมกับที่เธอนั่งดื่มไวน์เมื่อคืน “อร่อยไหม” คนทำถาม “อร่อยมากเลยค่ะ คุณเบนเก่งมากเลยนะคะ ทั้งทำงานเก่งแล้วยังทำกับข้าวเก่งอีก” คนกินออกปากชม “ไว้เราอยู่ด้วยกัน ผมจะทำให้คุณกินทุกวันเลยนะ”คนพูดยิ้มอย่างสดใส แต่คนฟังหัวใจกับหวาดกลัว กลัวว่ารักครั้งนี้จะอยู่กับเธอไม่นาน ยิ่งเขาดีกับเธอเท่าไหร่ มายายิ่งกลัวมากขึ้น“เราจะอยู่ที่นี่ถึงวันไหนคะ” หญิงสาวถามเพราะเธอยังไม่อยากกลับ“พรุ่งนี้เราจะเดินทางกลับกัน คุณอยากกลั
หายตัวไป “พี่นันทาคิดถึงจังเลยค่ะ” หญิงสาวโผกอดพี่สาวทันที ที่เห็นหน้ากัน เพราะตั้งแต่มายาต้องไปรักาตัวอยู่กับสามีทั้งคู่ก็ไม่ได้เจอกันเลย “ไปดูงานมาสนุกไหม” คำถามของพี่สาวทำเอาหญิงสาวหันไปมองหน้าคนมาส่ง ด้วยรอยยิ้มแบบรู้กัน แต่ไม่มีใครกล้าขำออกมา เพราะกลัวนันทาจะสงสัยเอาได้ “สนุกค่ะ พี่นันทาหายดีแล้วใช่ไหมคะ” “พี่หายดีได้สักพักแล้ว แต่คุณเบนบอกว่าท่านไม่อยากให้พี่รีบมาทำงาน เพราะกลัวจะหายไม่สนิทดี” นันทาหันไปมองสบตากับลูกน้องคนสนิมของเจ้าของบริษัทด้วยความซาบซึ้ง เพราะตลอดเวลาที่เธอพักรักษาตัว เธอได้เงินเดือนเท่าเดิมตามปกติ สำหรับนันทาแล้ว ท่านเป็นคนดีที่ชาตินี้คงหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” มายาเดินมาส่งชายหนุ่มที่รถ หญิงสาวรู้สึกใจหาย กลัวทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม กลัวเบนจะเปลี่ยนไป เธอไม่อยากต้องเจ็บซ้ำซากอีก หัวใจมันอ่อนแอเกินกว่าจะรับได้อีก “คุณเบนคะ เรื่องระหว่างเรา...”มายาไม่กล้าพูดต่อเพราะเธอไม่รู้จะเรียกความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นว่าอะไร“บนเกาะเป็นแบบไหน ที่นี่ก็ยังคงเป็นแ
ลูกสะใภ้“เบน คุณหายไปไหนมาคะตั้งหลายเดือน ลิซ่าโทรไปหาคุณก็ไม่ติด”นางเอกสาวที่กำลังมีชื่อเสียงของสิงคโปร์เดินมาทักทายชายหนุ่มที่กำลังดื่มคนเดียวอยู่ที่โต๊ะ“คุณน่ะเหรอที่โทรหาผม ปกติผมโทรไปคุณยังไม่ค่อยว่างจะคุยด้วยเลย”ก่อนที่จะตัดสินใจกลับไปอยู่เมืองไทย ชายหนุ่มเคยพยายามจีบลิซ่านางเอกสาว แต่เธอกลับไม่เล่นด้วย เพราะมีเป้าหมายที่ดีกว่าเบนรออยู่“คนเคยเจอกัน เคยทักทายกัน จะไม่ให้คิดถึงได้อย่างไรล่ะคะ”สาวสวยหุ่นเซ็กซี่เดินมาหย่อนสะโพกผายนั่งใกล้กับขาของชายหนุ่ม ชิดจนแทบเกือบจะนั่งบนตักกันอยู่แล้ว“มาคนเดียวหรือครับวันนี้ แล้วคนที่กำลังเป็นข่าวกับคุณล่ะไม่มาด้วยเหรอ”ชายหนุ่มกำลังหมายถึงนักธุรกิจชื่อดังอันดับต้นๆของสิงคโปร์ ที่กำลังมีข่าวว่าควงกันอยู่กับนางเอกดัง“เขาไปอเมริกาค่ะ แมววว...ไม่อยู่หนูก็เลยร่าเริง”มือเล็กค่อยๆลูบไล้ท่อนแขนของชายหนุ่ม ใบหน้าสวยซบลงบนอก เป็นการแสดงออกที่ทอดสะพานอย่างเห็นได้ชัดมือหนาโอบไหล่นางเอกสาว ก่อนที่จะเอาหน้าซุกไล้ไปตามซอกคอ แบบไม่อายสายตาของคนใกล้ๆที่มองดูอยู่อยู่ดีๆ ชายหนุ่มก็ผลักหญิงสาวที่เขากำลังปรนเปรอ รสสวาทให้ เมื่อภาพของมายาผลุดขึ
ตอนที่ 11เติมเต็ม ดาวิกาก้าวเข้ามาเป็นสะใภ้ในครอบครัวของทรงธรรมอย่างเต็มตัวและเต็มใจ เธอเป็นที่รักของยมโดยอย่างมาก เพราะหญิงสาวทำกับข้าวได้ถูกปากแม่สามี วันนี้เป็นวันที่ทรงธรรมจะได้กลับบ้านหลังจากที่ต้องไปนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเกือบสองเดือน ในส่วนของคดีก็ยังดำเนินต่อไป โดยที่ทรงธรรมปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทนาย เขาไม่อยากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เพราะมันทำให้เขาเจ็บปวด หลานสาวทั้งสองคนที่เป็นลูกของผจญ ทรงธรรมในฐานะลุงได้ยกที่ดินให้คนละสองไร่ ซึ่งราคาตอนนี้ก็ไร่ละเป็นล้าน พร้อมเงินในบัญชีที่ทั้งคู่จะเบิกไปใช้ได้ก็ต่อเมื่ออายุยี่สิบปีบริบูรณ์อีกคนละห้าแสนบาท “ที่พ่อทำแบบนี้ พ่อไม่ได้คิดจะให้ผจญมันสำนึกได้ แต่เพราะหลานทั้งสองคนไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ถ้าผจญต้องติดคุก จะได้มีที่ดินเอาไว้ขายเอาเงินมาใช้จ่ายกัน เราโตแล้ว ต้องแยกให้ออกว่าเรื่องบางเรื่องมันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทุกคน” ปองภพชื่นชมในการตัดสินใจของบิดา คนดี ๆ แบบนี้ไม่น่าจะมีใครมาคิดร้ายด้วยเลย เพราะท่านมีแต่ให้จริง ๆ ยมโดยเรียกลูกชายและลูกสะใภ้เข้ามาใกล้ๆ เธอมีบางอย่างอ
ตอนที่ 10ความจริงที่เจ็บปวด ยมโดยโอบกอดลูกชายด้วยความดีใจและเรียกดาวิกาเข้ามากอดด้วย เธอร้องไห้แต่เหมือนยังมีสติ “ฟังแม่นะพล พ่อถูกทำร้าย แม่คิดว่าเมื่อครั้งที่แล้วก็ใช่ แต่ครั้งนี้มันคงหวังให้พ่อพิการหรือไม่ก็ตายเองจากอาการสาหัส และแม่ก็พอเดาออกว่าใคร” ปองพลฟังด้วยความตื่นเต้น เพราะเขาไม่เคยรู้เลยว่าพ่อแม่บุญธรรมของเขามีศัตรู “ใครกันครับ” “น้องชายของพ่อ เพราะวันที่ลูกมาหาแม่และกลับไป เราสองคนได้พูดถึงเรื่องการทำพินัยกรรม พ่อกับแม่จะยกเงินและหุ้นในอู่ต่อเรือของครอบครัวพ่อคืนให้พี่น้องเขา ส่วนทรัพย์สินที่พ่อกับแม่สร้างกันขึ้นมาเอง เราจะยกให้ลูก และวันที่เราพูดเรื่องนี้ก็มีเพียงแม่บ้านที่อยู่ด้วย แต่อีกวันน้องชายคนเล็กของพ่อก็พาหลาน ๆ มาหา” ปองพลตกใจมาก เพราะในบรรดาพี่น้องของพ่อบุญธรรมเขา มีน้องชายคนเล็กเพียงคนเดียวที่ยังไปมาหาสู่กันตลอด “คุณผจญ ท่านดูเป็นคนอ่อนโยนและดูเป็นห่วงพ่อมาก มันจะเป็นเรื่องจริงเหรอครับ” “เขามาที่นี่พร้อมหลาน ๆ และถามพ่อกับแม่เรื่องอู่ที่พ่อกับแม่มีอยู่ เขาพยายามพูดให้เห็นว่าพลเป็นเพียงแค่ล
ตอนที่ 9อุบัติเหตุ ปองภพดีใจที่สุดที่วันนี้มาถึง วันที่เขาได้พูดความจริงและดาวิกาก็ยอมที่จะแต่งงานตามคำขอของเขา ข่าวเรื่องที่ปองภพไม่สบายทำให้ทรงธรรมร้อนใจมากจึงได้รีบเดินทางมาหา โชคดีที่จังหวัดที่เขาอยู่มีสนามบินอยู่ไม่ไกล จึงไม่ใช่เรื่องยากในการเดินทาง “ปองภพลูก” ดอมพาทรงธรรมมาหาปองภพที่ห้องเช่าของเขา ภาพห้องเช่า ข้าวของที่ใช้สำหรับทำกับข้าวขาย และดาวิกากับน้อง อดทำให้ทรงธรรมรู้สึกสงสารไม่ได้ “พ่อได้ข่าวว่าไม่สบาย แม่เขาก็ร้อนใจสั่งให้พ่อมาดูด้วยตาตัวเอง” ปองภพดีขึ้นแล้ว พยายามทรงตัวขึ้นมานั่งคุยกับบิดาที่เดินทางไกลมาด้วยความเป็นห่วง “ไข้ลดตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วครับพ่อ” คนป่วยพูดจบก็หันไปทางดาวิกา เพราะทั้งสองคนยังไม่ได้รู้จักกันเลย “ดา พ่อของพี่” หญิงสาวยกมือไหว้ หัวใจของเธอมันสั่นอย่างบอกไม่ถูก บุคลิกท่าทางของทรงธรรมมีความเป็นทั้งผู้ใหญ่และผู้ดี จนเธอรู้สึกต่ำต้อยเกินไปที่จะไปเป็นสะใภ้ของเขา “น่ารักกว่าที่ฉันคิดไว้นะ เห็นพลเล่าให้ฟังว่าทำกับข้าวเก่งมาก ไว้แต่งงานกันแล้ว ไปหาทำเลเปิดร้
ตอนที่ 8เจ้าของอู่..สู่..พ่อค้าขายแกง “พ่อกับแม่ชักอยากจะเห็นหน้าอนาคตลูกสะใภ้คนนี้จัง แก้เกมได้ทันคนจริง ๆ ” ทรงธรรมฟังเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากปากของลูกชาย เขารู้สึกเห็นด้วยกับดาวิกา การที่ปองภพยืนยันว่าเขาคือคนเดิม เขาก็ต้องกลับไปลำบากอีกครั้งให้ได้ แล้วเวลาหนึ่งเดือน ไม่ใช่เรื่องที่จะฝืนทนกันได้ถ้าไม่เต็มใจ “ปองภพแล้วลูกล่ะคิดว่าทำได้ไหม” ชายหนุ่มถามคำถามนี้กับตัวเองมาทั้งคืนแล้ว และเขาก็มีคำตอบเดียวในหัวใจ “บ้านไม่มีอยู่ นอนใต้ต้นไม้ ขอข้าววัดกิน ผมก็ผ่านมาแล้ว เพิ่งจะได้เป็นคุณปองภพแค่ไม่กี่ปี ผมว่าตัวเองยังคุ้นชินกับความจนมากกว่าความรวยเสียอีก” พ่อกับแม่ได้ยินลูกชายบุญธรรมพูดแบบนี้ก็ทั้งสบายใจและดีใจ เพราะทั้งสองคนตั้งใจจะยกสมบัติทั้งหมดที่เขาสองคนหามาได้ให้กับปองพล ส่วนสมบัติที่ได้จากบรรพบุรุษ ทั้งคู่จะคืนให้กับคนในตระกูล ยมโดยหันไปพูดกับสาวมี ด้วยน้ำตานองหน้า จนทรงธรรมตกใจรีบเดินมานั่งข้าง ๆ แล้วกอดภรรยา “เราเลือกคนไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ ภพไม่เคยลืมตัว ถึงเขาจะไม่ใช่สายเลือดแต่เขาคือผู้ให้ชี
ตอนที่ 7 เสียความรู้สึก “เป็นอะไรวันนี้ กลับบ้านทำหน้าตาเหมือนเบื่อโลก” ดาวิกาเห็นหน้าน้องชายแล้วอดถามไม่ได้ เพราะปกติกลับมาจากที่ทำงานจะร่าเริงและจะต้องมาอวดว่าวันนี้ทำงานได้เงินเท่าไหร่ แต่วันนี้กลับเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเศร้า ๆ เหมือนมีความกังวลอยู่ในใจ “พี่ดาวันเสาร์นี้ที่อู่จัดงานเลี้ยง เจ้านายผมบอกให้พี่ไปด้วย ตกลงนะ” ดอมถามเองตอบเอง และไม่ยอมมองหน้าพี่สาว ด้วยกลัวตัวเองจะเผลอแสดงพิรุธอะไรไป “พี่ไม่รู้จักใครแล้วจะให้พี่ไปทำไม” หญิงสาวเดินตามน้องชายเพื่อต้องการอยากรู้เหตุผล เพราะเธอไม่ใช่พนักงานที่นั่น “เขากินกับข้าวพี่กันทุกคน เขาก็รู้จักพี่กันทั้งนั้นและ เพื่อนผมก็ไอ้พวกที่มาช่วยยกของ ล้างของบ่อย ๆ ไปเถอะ หาซื้อชุดสวย ๆ ใส่ไปด้วยนะ งานเริ่มหนึ่งทุ่มเสาร์นี้” ดาวิกาไม่อยากขัดใจน้องชายและเห็นดอมดูอารมณ์ไม่ค่อยดีจึงไม่อยากถามต่อ ดอมปิดไฟได้เวลาเข้านอน ห้องเช่าสี่เหลี่ยมที่ไม่เล็กมาก พอให้สองพี่น้องมีมุมแยกกันส่วนตัว แต่ก็มองเห็นกันได้ ชายหนุ่มนอนมองพี่สาวที่เอาแต่เฝ้าจับโทรศัพท์ตลอด เ
ตอนที่ 6บอกผู้ใหญ่ ยมโดยแม่บุญธรรมของปองภพมีอาการไม่ค่อยดี เพราะเธอเดินไม่ได้แต่ยังพยายามที่จะลุก จนล้มหน้าคว่ำกับพื้น ทรงธรรมมีเรื่องยุ่ง ๆ เกี่ยวกับการสั่งเครื่องจักรเข้ามาในอู่ที่ใต้ ขาจึงต้องเดินทางไปจีน จึงให้ปองภพลงมาดูแลยมโดยแทนเขา “เมื่อคืนแม่ก็อยู่คนเดียวได้ ไม่เห็นต้องยุ่งยากให้ภพมาดูแม่เลย” ยมโดยเป็นผู้หญิงเก่ง เธอมาจากครอบครัวที่ยากจนเป็นชาวประมงและมาพบรักกับทรงธรรมที่เป็นลูกชายเจ้าของอู่ต่อเรือ แต่ทรงธรรมไม่ใช่ลูกชายคนโปรดเพราะดันไปรักกับผู้หญิงจน ๆ อย่างยมโดย จึงได้สมบัติมาแค่เพียงหยิบมือและมาเริ่มต้นสร้างฐานะกันใหม่ “อยู่ได้ผมเชื่อ แต่แม่ไม่อยากให้ผมมาอยู่ด้วยเหรอ” ปองภพก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขารู้จักกับครอบครัวนี้แค่ไม่กี่ปี แต่ทำไมเขารู้สึกผูกพันกับทั้งสองคนมากและเขาก็คิดว่าทั้งสองคนก็รักเขาเหมือนลูกจริง ๆ “แม่เหงาจังเลย เกิดมาก็ดันมีกรรมไม่มีลูกอย่างใครเขา เมื่อไหร่ภพจะมีเมียแม่อยากอุ้มหลาน” สายตาที่เว้าวอนของคนที่เดินไม่ได้ มันทำให้หัวใจของปองภพรู้สึกใจหาย “คุณแม่ครับ คือตอนนี้ผมมีแฟน
ตอนที่ 5การให้ที่ยิ่งใหญ่ วันนี้ปองพลนัดดาวิกามาเจอทั้งที่ไม่ใช่วันหยุด หญิงสาวจึงต้องทำกับข้าวมาขายให้น้อยกว่าเดิมเพื่อที่จะได้หมดไวขึ้น “มีอะไรด่วนเหรอคะ พี่พลถึงต้องนัดดามาเจอวันนี้” ปองพลยื่นซองสีน้ำตาลให้กับหญิงสาว พร้อมกับซอง สีขาวเล็กอีกซองหนึ่ง “มสธ. กำลังใกล้จะปิดรับสมัครและนี่เงินลงทะเบียน เรียนต่อนะ” “เพื่ออะไรคะ พี่พลจะให้ดาเรียนต่อด้วยเงินของพี่เพื่ออะไร” ชายหนุ่มจับไหล่ทั้งสองข้างของคนรัก ด้วยท่าทีที่จริงจังและแววตาที่มั่นคง “เพื่อเรา พี่อยากสร้างครอบครัวกับดา อย่างน้อยถ้าดาเรียนจบปริญญาตรี ลูกเราจะได้ไม่ลำบาก ทำเพื่อเรานะ” ปองพลไม่รอให้อีกฝ่ายได้คิดและปฎิเสธ เขาก็ขึ้นรถรับจ้างออกไปทันที ดาวิกามองซองทั้งสองซองด้วยความไม่เข้าใจ ตอนนี้เธออายุยี่สิบกว่าแล้ว อยู่ดี ๆ ทำไมปองพลเขาถึงอยากให้เธอเรียนต่อ แต่ในเมื่อคนรักต้องการ เธอก็จะทำให้ดีที่สุด “นั่งเขียนอะไรพี่ดา เห็นทำหน้าจริงจังเชียว” ดอมถามเพราะวันนี้เขาทำโอทีแค่สองทุ่มกลับมาก็เห็นพี่สาวนั่งเขียนอะไรบางอย่างถึงขั
ตอนที่ 4ความในใจ ดาวิกากลับมาถึงบ้าน ภาพที่เธอเห็นคือข้าวของทุกอย่างที่ดอมเอาไปถูกล้างอย่างเรียบร้อย ตอนแรกเธอคิดว่าต้องกลับมาล้างเอง เพิ่งจะเคยเห็นเหมาไปแล้วยังล้างมาให้อีก หญิงสาวคิดขึ้นมาได้ว่าลืมบอกปองภพว่า หัวหน้ายามที่นี่ก็บ่นหาอยู่ อยากให้แวะมาหาเขาบ้าง เธอจึงลองโทรศัพท์กลับไปที่เบอร์ที่ชายหนุ่มโทรมา แต่ปรากฏว่าปิดเครื่อง “อะไร แยกกันได้ไม่ถึงชั่วโมงปิดเครื่อง” คนโทรได้แต่บ่นกับตัวเอง มีด้วยเหรอคนเราจะออกจากบ้านเดินทางไปที่อื่นจะปล่อยให้แบตเตอรี่หมด ดอมกลับมาจากทำงานพอดี แต่นี่ไม่ใช่เวลาเลิกงาน ดาวิกาสงสัยว่าน้องชายทำไมกลับมาก่อน “กลับมาเอาอะไร ยังไม่ใช่เวลาเลิกงานนี่” “กลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เย็นนี้นายจะให้ทำโอทีคงกลับประมาณห้าทุ่มให้ชั่วโมงละ300เลยนะ ลองคิดสิตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงห้าทุ่ม 1500เลย เดือนนี้ได้เงินจ่ายค่าห้องไม่ต้องควักเงินเดือนแล้ว แต่ทำสองวันติดเลยนะพี่” หญิงสาวฟังน้องชายและคิดตาม แค่เงินเดือนตอนนี้ดอมก็ได้ถึงหมื่นสาม ยังจะมีโอให้อีกสามพัน มันดูมากไปสำหรับพนักงานใหม่
ตอนที่ 3ลองใจ นับจากวันนั้น วันที่ปองภพมาหาดาวิกา เธอก็ไม่ได้รับการติดต่อจากเขาอีกเลย ทุกวันเธอจะเหลือเมนูที่เขาชอบไว้ เพราะกลัวว่าถ้าเกิดวันใดที่ปองภพมาเขาจะไม่ได้กิน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นเบอร์แปลกที่หญิงสาวไม่ได้บันทึกเบอร์ไว้ เธอภาวนาขอให้ใช่คนที่เธอรอคอย “สวัสดีค่ะขอสายพี่นกค่ะ” “ไม่มีค่ะ คุณคงโทรผิดเบอร์” หญิงสาวถอนหายใจ ให้กับฝันสลายที่หายวับไปทันใด สุดท้ายเป็นแค่เพียงคนโทรผิด ดอมกลับมาที่ร้านทั้งที่เขาเพิ่งจะออกไปทำงานไม่ถึงสองชั่วโมง “พี่ดา นายให้มาเหมากับข้าวให้หมดเลย วันนี้นายจะเลี้ยงอาหารกลางวันลูกน้องและถ้าเหลือจะให้แบ่งกันกลับบ้าน” ดาวิกายืนงงด้วยความแปลกใจทำอะไรไม่ถูก ดอมและเพื่อนช่วยกันขนหม้อขึ้นรถ ปล่อยให้แม่ค้าคนสวยยืนงงอยู่คนเดียว “แล้วข้าวของพี่จะได้คืนเมื่อไหร่ พรุ่งนี้พี่ต้องทำกับข้าวแต่เช้ามืดนะ” “บ่ายนี้ผมจะเอาไปไว้ที่ห้องเอง ไม่ต้องเป็นห่วง” กับข้าวถูกขนไปหมดแล้ว ดาวิกาจึงเก็บร้าน เพราะจะได้กลับไปทำงานบ้านต่อ โชคดีของเธอที่มีคนมาเหมาจะได้มีเวลาทำงานบ้านบ้าง