ลูกสะใภ้
“เบน คุณหายไปไหนมาคะตั้งหลายเดือน ลิซ่าโทรไปหาคุณก็ไม่ติด”
นางเอกสาวที่กำลังมีชื่อเสียงของสิงคโปร์เดินมาทักทายชายหนุ่มที่กำลังดื่มคนเดียวอยู่ที่โต๊ะ
“คุณน่ะเหรอที่โทรหาผม ปกติผมโทรไปคุณยังไม่ค่อยว่างจะคุยด้วยเลย”
ก่อนที่จะตัดสินใจกลับไปอยู่เมืองไทย ชายหนุ่มเคยพยายามจีบลิซ่านางเอกสาว แต่เธอกลับไม่เล่นด้วย เพราะมีเป้าหมายที่ดีกว่าเบนรออยู่
“คนเคยเจอกัน เคยทักทายกัน จะไม่ให้คิดถึงได้อย่างไรล่ะคะ”
สาวสวยหุ่นเซ็กซี่เดินมาหย่อนสะโพกผายนั่งใกล้กับขาของชายหนุ่ม ชิดจนแทบเกือบจะนั่งบนตักกันอยู่แล้ว
“มาคนเดียวหรือครับวันนี้ แล้วคนที่กำลังเป็นข่าวกับคุณล่ะไม่มาด้วยเหรอ”
ชายหนุ่มกำลังหมายถึงนักธุรกิจชื่อดังอันดับต้นๆของสิงคโปร์ ที่กำลังมีข่าวว่าควงกันอยู่กับนางเอกดัง
“เขาไปอเมริกาค่ะ แมววว...ไม่อยู่หนูก็เลยร่าเริง”
มือเล็กค่อยๆลูบไล้ท่อนแขนของชายหนุ่ม ใบหน้าสวยซบลงบนอก เป็นการแสดงออกที่ทอดสะพานอย่างเห็นได้ชัด
มือหนาโอบไหล่นางเอกสาว ก่อนที่จะเอาหน้าซุกไล้ไปตามซอกคอ แบบไม่อายสายตาของคนใกล้ๆที่มองดูอยู่
อยู่ดีๆ ชายหนุ่มก็ผลักหญิงสาวที่เขากำลังปรนเปรอ รสสวาทให้ เมื่อภาพของมายาผลุดขึ้นมาในความคิดของเขา ทันใดนั้นหัวใจก็สั่งร่างกายให้หยุดทุกอย่างไว้เพียงเท่านี้
“ผมกลับก่อนนะ พอดีคิดขึ้นได้ว่ามีธุระ”
ชายหนุ่มผุนผันออกจากร้าน ปล่อยให้หญิงสาวในชุดสีแดงสุดเซ็กซี่นั่งงงอยู่บนโซฟาตัวนั้นอย่างเสียอารมณ์
สิ่งที่เกิดขึ้นกับเบน ทำให้ชายหนุ่มตอบหัวใจตัวเองได้ทันที ว่าเขารักมายา รักจนไม่สามารถที่จะกลับมาทำตัวเหมือนเมื่อก่อนได้
“คุณพ่อครับผมมั่นใจแล้ว ว่าผมรักเธอจริงๆ”
เบนตัดสินใจพูดกับบิดาเรื่องนี้อีกรอบ เมื่อเขามั่นใจในหัวใจของตัวเอง
“แล้วลูกอยากให้พ่อกับแม่ทำอะไร”
กิตติถาม เพราะตั้งแต่คุยกันครั้งแรก ลูกชายยังไม่ได้บอกเลยว่า ที่กลับมาบอกว่าเจอผู้หญิงที่เขารักแล้ว แท้ที่จริงเขาต้องการให้พ่อกับแม่ทำอะไร
“ผมอยากแต่งงานกับเธอครับ” เบนพูดความต้องการ
“พ่อไม่มีปัญหา แต่พอขอเวลาสักสองสามวันนะ แล้วพ่อจะกลับไปเมืองไทยจัดการทุกอย่างให้ลูก แต่การแต่งงานครั้งนี้ ต้องไม่มีการจดทะเบียนสมรส จนกว่าพอจะไว้ใจในตัวลูกสะใภ้คนนี้ก่อน”
กิตติไม่ขัดใจลูกชาย เพราะลึกๆมันก็คือสิ่งที่เขาต้องการ แต่แค่อยากต้องการแน่ใจให้มากกว่านี้ เพราะตัวกิตติเองรู้จักแต่นันทาแต่ไม่เคยได้ยินเรื่องของมายาเลย
เวลาสองวันที่คนเป็นพ่อขอ ก็คือเวลาที่กิตติส่งคนของเขาที่ประเทศไทย ให้ไปสืบข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับว่าที่ลูกสะใภ้มาให้ครบทุกแง่ทุกมุม
“มายาอีกสองวันท่านจะเดินทางมานะ เราคงต้องกลับดึกหน่อย เพื่อเตรียมสรุปข้อมูลทุกอย่างให้ท่าน”
นันทาหันไปบอกน้องสาวเมื่อได้รับโทรศัพท์สายไกลจากสิงคโปร์
“ท่านจะมาจริงๆเหรอคะ” มายาทำท่าตกใจ
“ก็ใช่น่ะสิ เวลาท่านมา ท่านจะให้ส่งบัญชีทุกเล่มให้ท่านเซ็น พี่คงต้องตรวจทุกเดือนอีกสักครั้ง”
“พี่คะ มายามีอะไรอยากจะบอก”
หญิงสาวทนเก็บทุกอย่างไว้ไม่ไว้แล้ว และเขาคนที่บอกจะช่วยเธอก็คงหนีไปไหนแล้ว เธอคงต้องผ่านปัญหานี้ไปคนเดียว
“ยังไม่ทันเล่าเลย ร้องไห้เสียแล้ว มีอะไรก็บอกพี่ เราเป็นพี่น้องกัน พี่พร้อมจะช่วยน้องได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว”
นันทากอดนอกสาวลูบผมด้วยความเอ็นดู เธอไม่ค่อยได้เห็นมายาร้องไห้ จึงคิดว่าเรื่องที่น้องสาวจะบอก คงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ
หญิงสาวบอกเล่าเรื่องที่เธอตกแต่งบัญชี เพื่อโกงเงินบริษัทเพราะต้องการเอาไปให้แมน และสุดท้ายเธอก็โนแมนหลอก แต่มายาไม่ยอมพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเบนและคำสัญญาของเขา เพราะเธอคิดว่าแค่เรื่องนี้พี่สาวก็คงเจ็บในหัวใจมากพอแล้ว
“โถ! น้องพี่ ทำไมเนาะ ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดกับเด็กดีอย่างน้องพี่ด้วย”
นันทาปลอบน้องสาวให้หยุดร้องไห้และตั้งสติ เพราะเงินจำนวนไม่น้อยกับเวลาอีกแค่สองวัน ทั้งคู่ไม่มีทางหามาคืนได้แน่นอน
“เราจะพูดความจริงกับท่าน พี่ว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด”
นันทาเธอเป็นผู้หญิงที่เด็ดเดี่ยวและพร้อมสู้กับทุกปัญหา เธอมองว่าในเมื่อทำผิดก็ต้องยอมรับผิด หาทางออกไป สักวันความจริงก็คือความจริง
“แล้วเขาจะไม่ไล่พี่ออกด้วยเหรอคะ” มายาเป็นห่วงพี่สาว
“ออกก็ออก แต่พี่คิดว่าท่านมีเหตุผลพอ”
นันทาคิดอย่างที่พูดจริงๆ เพราะเธอทำงานให้กับกิตติมาหลายปี เขาไว้ใจเธอถึงยอมให้เธอมาอคอยดูและการเงินที่นี่แทนเขา ดังนั้นความดีของเธอคงทำให้ท่านยอมให้อภัย
“นันทาเป็นอย่างไรบ้างสบายดีไหม”
กิตติมาถึงเมืองไทยก็ตรงมาบริษัททันที เพราะอยากเห็นหน้าว่าที่ลูกสะใภ้
“สบายดีค่ะ แล้วท่านล่ะคะเป็นอย่างไรบ้าง”
“ฉันก็สบายดี ที่มาวันนี้เพราะลูกชายเขาจะให้มาขอผู้หญิงให้” กิตติพูดกับนั้นทาแต่กลับจับตาสังเกตแต่มายาที่นั่งอยู่ข้างๆพี่สาว
“ลูกชายคุณท่านกลับมาไทยเมื่อไหร่คะ นันทาไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“เขากลับมาเที่ยวเล่น ฉันเลยไม่ได้บอกใคร แล้วนี่พนักงานเรามาครบหรือยัง”
กิตติถามเพราะรู้สึกว่าพนักงานที่นี่ดูน้อยลงกว่าครั้งก่อนที่เขามา
“มีส่วนหนึ่งไปดูแลที่โครงการใหม่ค่ะ ตอนนี้จะขาดก็แต่คุณเบน ติดต่อไม่ได้หลายวันแล้ว ไม่รู้ว่าไปหนค่ะ”
นันทารายงานเพราะคิดว่าท่านคงต้องการถามหา คนที่ทำหน้าที่ดูแลที่นี่ให้ นันทาเองก็แปลกใจที่เจ้านายมาทั้งที่แต่คนสนิทอย่างเบนกลับไม่มาต้อนรับ
“นันทาและน้องสาวของเธออยู่คุยกับฉันก่อน ส่วนคนอื่นแยกย้ายกันไปทำงานได้แล้ว”
กิตติกับธิดามองหน้ากันอย่าง รู้สึกถูกชะตาในตัวว่าที่ลูกสะใภ้ เพราะความเรียบร้อยหน้าตาน่ารัก ธิดาเห็นแล้วยิ่งเอ็นดูเพราะเธอไม่มีลูกสาว
“เธอชื่ออะไรนะ”
“ฉันชื่อมายาค่ะ” คนตอบเสีนงสั่นด้วยความกลัว
“ตอนนันทาไปพักรักษาตัว เธอใช่ไหมที่เข้ามาดูแลเรื่องการเงินแทน”
กิตติถามด้วยเสียงดูไม่มีอะไรแฝงอยู่ในนั้น ทั้งที่ความจริงเขากำลังใส่บทพิสูจน์ลงไป
“แล้วเป็นไงบ้างจ๊ะ จบใหม่ๆต้องมาทำงานแทนพี่เสียแล้ว”
ธิดาพูดบ้าง เพราะอยากให้คนตัวเล็กรู้สึกผ่อนคลายขึ้น
“ท่านทั้งสองคะ หนูโกงเงินบริษัทค่ะ หนูขอโทษแต่หนูจะหามาชดใช้คืนให้ แต่อย่าไล่พี่นันทาออกเลยนะคะ หนูทำทุกอย่างคนเดียว พี่ไม่เกี่ยวข้องด้วยเลย”
คนพูดพนมมือไหว้ตัวสั่น น้ำตาไหลพรากเต็มทั้งสองแก้ม
กิตติกับธิดาเองก็ตกใจเพราะไม่คิดว่า ผู้หญิงตัวเล็กๆท่าทางขี้กลัวแบบนี้จะกล้ายอมรับผิดทั้งที่ทั้งสองยังไม่ได้รู้อะไรเลย
“รู้ใช่ไหมว่าผิด” กิตติถามเสียงเบาแต่หนักแน่น
“หนูรู้ค่ะ” มายายังคงมองหน้าคนถามด้วยดวงตาที่มีน้ำคลออยู่ทั้งสองข้าง
“ถ้าผิดแล้วต้องทำยังไง”
“หนูขอโทษแต่ท่านไม่จำเป็นต้องยกโทษให้ก็ได้นะคะ และหนูพร้อมที่จะรับผิดชอบทุกการกระทำของหนู และสัญญาว่าหนูจะไม่ทำแบบนี้อีกไม่ว่ากับที่นี่หรือที่ไหน”
นักธุรกิจสูงอายุคาดเดาว่า หญิงสาวตรงหน้าคงจะพูดว่า ขอโทษและอ้อนวอนให้เขาให้อภัย แต่สิ่งที่ได้ยินกับตรงข้าม
“ฉันให้อภัยเธอ แต่ฉันจะยังไม่วางใจ เงินที่เธอเอาไป เธอก็ทำงานชดใช้เอาแล้วกัน”
“ขอบคุณท่านมากเลยค่ะ” สองคนพี่น้องก้มกราบด้วยความซาบซึ้งใจ
“ลุกขึ้นๆ นันทาวันนี้ฉันตั้งใจมีเรื่องสำคัญมาคุยกับเธอ”
สีหน้าจากเคร่งเครียดก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม กิตติมองหน้าภรรยาเพื่อให้รู้ว่า เขากำลังจะพูดเรื่องสำคัญแล้ว
“ลูกชายฉันเขาต้องการให้ฉันมาขอน้องสาวของเธอ เธอจะยินดีไหม”
นันทามองหน้าน้องสาวด้วยความตกใจ จนพูดไม่ออก เธอกับน้องยังไม่เคยเจอกับลูกชายของท่านเลย แล้วอยู่ดีๆจะมาขอมายาได้อย่างไรกัน
“ท่านเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ ลูกชายของท่านกับน้องสาวของดิฉัน ทั้งคู่ยังไม่เคยเจอกันเลยนะคะ”
นันทาถามเพื่อให้คนฟังทบทวน เผื่อจะมีการเข้าใจอะไรผิด
“ฉันก็ไม่รู้ว่าลูกชายฉันเคยไปเจอน้องสาวเธอตอนไหน แต่ฉันมีเวลาไม่มาก ช่วยให้คำตอบฉันตอนนี้นะ”
นี่ก็เป็นอีกบทพิสูจน์ที่กิตติกำลังทดลองหัวใจลูกสะใภ้ เพราะตอนนี้มายายังไม่รู้ว่าเบนคือลูกชายของเขา ถ้าเธอยอมแต่งงานแปลว่าเธอไม่ได้รักลูกชายของเขาจริง
“เรื่องนี้ดิฉันคงต้องให้มายาเป็นคนให้คำตอบ”
“ว่าไงหนูมายา จะแต่งงานกับลูกชายฉันไหม”
น้ำเสียงที่อ่อนนุ่ม ดูใจดีของธิดา ช่วยให้คนตอบค่อยใจชื้นขึ้นมาบ้าง
ความจริง “คือหนู.....” มายาพยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมด แต่ก็ไม่พอที่จะกล้าตอบไป “ตอบมาตามที่คิดเลย ฉันกับภรรยาเป็นคนมีเหตุผลพอ” กิตติช่วยพูดให้หญิงสาว กล้าพูดในสิ่งที่คิดมากขึ้น “หนูมีคนรักอยู่แล้วค่ะ แล้วหนูคิดว่าหนูกับลูกชายคุณท่าน เราน่าจะไม่เคยรู้จักกัน คนเราถ้าไม่ได้รักกัน อยู่ด้วยกันไปก็ไม่มีความสุข” มายารวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อพูดสิ่งที่เธอคิด ถึงแม้ลึกๆเธออยากจะประชดเบน ที่เขาหายหน้าไปเลย เหมือนได้เธอแล้วก็คิดจะทิ้ง แต่หัวใจของเธอมันรักเขาเกินกว่าจะทำอย่างที่คิดได้ “คนรักของเธอใช่คนนี้ไหม” “คุณเบน” เสียงสองพี่น้องเรียกชื่อชายหนุ่มพร้อมกันอย่างตกใจ “นี่เบน ลูกชายคนเดียวของฉัน ทั้งสองคนคงรู้จักดีแล้ว” มายารู้สึกทั้งโกรธ ทั้งน้อยใจ ที่ในที่สุดเธอก็ถูกเขาหลอกเหมือนที่ถูกแมนหลอก “หนูยังไม่ตอบฉันเลย ว่าผู้ชายคนนี้ใช่คนรักของหนูไหม” กิตติทวงคำตอบ “ไม่ใช่ค่ะ คนรักของหนูชื่อเบน เขาเป็นแค่เพียงพนักงานคนหนึ่งที่ท่านไว้ใจมาก ไม่ใช่ลูกชายเจ้าของบริษัท” คนทั้งห้องต่างพากันอมยิ้ม ที่เห็นมายาฝีปากเก่งขึ้น
ตอนที่1คิดถึงความหลัง ดาวิกาเพิ่งเสร็จสิ้นจากงานศพแม่ที่ต่างจังหวัด พอเดินทางมาถึงกรุงเทพ เธอก็ต้องมารีบมาเปิดร้านขายข้าวราดแกงทันที เพราะหยุดไปนานเดี๋ยวลูกค้าประจำจะหายหมด ความเหนื่อยล้าปกติหัวถึงหมอน หญิงสาวก็แทบจะหลับทันที แต่วันนี้เธอกลับคิดถึงความหลังที่ผ่านมาเกือบห้าปีแล้ว แต่เธอยังไม่เคยลืมมัน5ปีที่แล้ว เด็กสาวในวัยเพียงสิบสี่ปี เธอต้องมานั่งรอมารดาขายข้าวราดแกงที่หน้าห้างสรรพสินค้าทุกวัน เธอใช้เวลานั้นเข้ามานั่งอ่านหนังสือโดยการซื้อไอศกรีมหนึ่งแท่งและนั่งจนกว่าแม่ของเธอจะเก็บร้านเสร็จ “ใกล้สอบแล้วเหรอ ช่วงนี้เห็นอ่านหนังสือทุกวันเลย” ปองภพยามของห้างมักจะเดินมาทักทายกับดาวิกาแบบนี้บ่อย ๆ บางครั้งก็มีขนมมาฝาก หญิงสาวเงยหน้าจากหนังสือด้วยความดีใจ เพราะวันนี้เธอนั่งจนห้างใกล้ปิดแล้ว แต่ยังไม่เห็นวี่แววของปองภพเลย “พรุ่งนี้ก็สอบแล้วค่ะ เหนื่อยไหมคะพี่ภพวันนี้ เห็นแม่บอกว่ามีคนเข้ามาทะเลาะกันในห้างด้วย” ชายหนุ่มถอนหายใจแต่ยังคงยิ้มอยู่ เขามองหน้าคนถามเหมือนมีคำพูดมากมายแต่ก็พูดออกมาเพียงสั้น ๆ
ตอนที่ 2ห่วงอยู่ห่าง ๆ “รีบไปซื้อของเลย เจ้านายเราสั่งหลายอย่าง จะได้รีบกลับมาช่วยกันทำ” ดาวิกาดีใจที่วันนี้เธอจะมีรายได้หลายทาง เพราะกำไรจากอาหารที่เจ้านายของน้องชายสั่ง พอค่าน้ำค่าไฟเดือนนี้เลย “ทำให้สุดฝีมือเลยนะพี่ดา วันหลังเขาจะได้สั่งอีก พนักงานก็จะได้ประหยัดกันด้วย” ดอมดูตื่นเต้นกว่าพี่สาวเสียอีก อาจเป็นเพราะเขาดีใจที่สามารถทำให้ครอบครัวมีรายได้เพิ่มขึ้น หลังจากวันนั้นมาปองภพก็สั่งกับข้าวมาเลี้ยงลูกน้องอยู่บ่อย ๆ จนทุกคนพากันแปลกใจ ที่นายของพวกเขาช่วงนี้ใจดีเป็นพิเศษ “ดอมต่อไปนี้ทุกเช้า เอาผัดกระเพราใส่หน่อไม้และหมูทอด มาให้ผมทุกวันเลยนะ เออแล้วอย่าลืมข้าวด้วยล่ะ” ปองภพส่งปิ่นโตของเขาให้กลับลูกน้อง ปิ่นโตอันนี้เป็นแบบเดียวสีเดียวกับที่ดาวิกาเคยซื้อให้เขาในวันเกิด แต่อันที่หญิงสาวซื้อให้ เขาไม่ได้เอามาจากวัดจึงซื้อใหม่ให้เหมือน ทุกอย่าง ชายหนุ่มหวังว่า เมนูอาหารที่เขาสั่ง กับปิ่นโตจะทำให้ ดาวิกา นึกถึงเขาขึ้นมาบ้าง เพื่อน ๆ ในอู่ต่างแปลกใจที่เจ้านายพวกเขา ติดใจฝีมือพี่สาวของดอ
ตอนที่ 3ลองใจ นับจากวันนั้น วันที่ปองภพมาหาดาวิกา เธอก็ไม่ได้รับการติดต่อจากเขาอีกเลย ทุกวันเธอจะเหลือเมนูที่เขาชอบไว้ เพราะกลัวว่าถ้าเกิดวันใดที่ปองภพมาเขาจะไม่ได้กิน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นเบอร์แปลกที่หญิงสาวไม่ได้บันทึกเบอร์ไว้ เธอภาวนาขอให้ใช่คนที่เธอรอคอย “สวัสดีค่ะขอสายพี่นกค่ะ” “ไม่มีค่ะ คุณคงโทรผิดเบอร์” หญิงสาวถอนหายใจ ให้กับฝันสลายที่หายวับไปทันใด สุดท้ายเป็นแค่เพียงคนโทรผิด ดอมกลับมาที่ร้านทั้งที่เขาเพิ่งจะออกไปทำงานไม่ถึงสองชั่วโมง “พี่ดา นายให้มาเหมากับข้าวให้หมดเลย วันนี้นายจะเลี้ยงอาหารกลางวันลูกน้องและถ้าเหลือจะให้แบ่งกันกลับบ้าน” ดาวิกายืนงงด้วยความแปลกใจทำอะไรไม่ถูก ดอมและเพื่อนช่วยกันขนหม้อขึ้นรถ ปล่อยให้แม่ค้าคนสวยยืนงงอยู่คนเดียว “แล้วข้าวของพี่จะได้คืนเมื่อไหร่ พรุ่งนี้พี่ต้องทำกับข้าวแต่เช้ามืดนะ” “บ่ายนี้ผมจะเอาไปไว้ที่ห้องเอง ไม่ต้องเป็นห่วง” กับข้าวถูกขนไปหมดแล้ว ดาวิกาจึงเก็บร้าน เพราะจะได้กลับไปทำงานบ้านต่อ โชคดีของเธอที่มีคนมาเหมาจะได้มีเวลาทำงานบ้านบ้าง
ตอนที่ 4ความในใจ ดาวิกากลับมาถึงบ้าน ภาพที่เธอเห็นคือข้าวของทุกอย่างที่ดอมเอาไปถูกล้างอย่างเรียบร้อย ตอนแรกเธอคิดว่าต้องกลับมาล้างเอง เพิ่งจะเคยเห็นเหมาไปแล้วยังล้างมาให้อีก หญิงสาวคิดขึ้นมาได้ว่าลืมบอกปองภพว่า หัวหน้ายามที่นี่ก็บ่นหาอยู่ อยากให้แวะมาหาเขาบ้าง เธอจึงลองโทรศัพท์กลับไปที่เบอร์ที่ชายหนุ่มโทรมา แต่ปรากฏว่าปิดเครื่อง “อะไร แยกกันได้ไม่ถึงชั่วโมงปิดเครื่อง” คนโทรได้แต่บ่นกับตัวเอง มีด้วยเหรอคนเราจะออกจากบ้านเดินทางไปที่อื่นจะปล่อยให้แบตเตอรี่หมด ดอมกลับมาจากทำงานพอดี แต่นี่ไม่ใช่เวลาเลิกงาน ดาวิกาสงสัยว่าน้องชายทำไมกลับมาก่อน “กลับมาเอาอะไร ยังไม่ใช่เวลาเลิกงานนี่” “กลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เย็นนี้นายจะให้ทำโอทีคงกลับประมาณห้าทุ่มให้ชั่วโมงละ300เลยนะ ลองคิดสิตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงห้าทุ่ม 1500เลย เดือนนี้ได้เงินจ่ายค่าห้องไม่ต้องควักเงินเดือนแล้ว แต่ทำสองวันติดเลยนะพี่” หญิงสาวฟังน้องชายและคิดตาม แค่เงินเดือนตอนนี้ดอมก็ได้ถึงหมื่นสาม ยังจะมีโอให้อีกสามพัน มันดูมากไปสำหรับพนักงานใหม่
ตอนที่ 5การให้ที่ยิ่งใหญ่ วันนี้ปองพลนัดดาวิกามาเจอทั้งที่ไม่ใช่วันหยุด หญิงสาวจึงต้องทำกับข้าวมาขายให้น้อยกว่าเดิมเพื่อที่จะได้หมดไวขึ้น “มีอะไรด่วนเหรอคะ พี่พลถึงต้องนัดดามาเจอวันนี้” ปองพลยื่นซองสีน้ำตาลให้กับหญิงสาว พร้อมกับซอง สีขาวเล็กอีกซองหนึ่ง “มสธ. กำลังใกล้จะปิดรับสมัครและนี่เงินลงทะเบียน เรียนต่อนะ” “เพื่ออะไรคะ พี่พลจะให้ดาเรียนต่อด้วยเงินของพี่เพื่ออะไร” ชายหนุ่มจับไหล่ทั้งสองข้างของคนรัก ด้วยท่าทีที่จริงจังและแววตาที่มั่นคง “เพื่อเรา พี่อยากสร้างครอบครัวกับดา อย่างน้อยถ้าดาเรียนจบปริญญาตรี ลูกเราจะได้ไม่ลำบาก ทำเพื่อเรานะ” ปองพลไม่รอให้อีกฝ่ายได้คิดและปฎิเสธ เขาก็ขึ้นรถรับจ้างออกไปทันที ดาวิกามองซองทั้งสองซองด้วยความไม่เข้าใจ ตอนนี้เธออายุยี่สิบกว่าแล้ว อยู่ดี ๆ ทำไมปองพลเขาถึงอยากให้เธอเรียนต่อ แต่ในเมื่อคนรักต้องการ เธอก็จะทำให้ดีที่สุด “นั่งเขียนอะไรพี่ดา เห็นทำหน้าจริงจังเชียว” ดอมถามเพราะวันนี้เขาทำโอทีแค่สองทุ่มกลับมาก็เห็นพี่สาวนั่งเขียนอะไรบางอย่างถึงขั
ตอนที่ 6บอกผู้ใหญ่ ยมโดยแม่บุญธรรมของปองภพมีอาการไม่ค่อยดี เพราะเธอเดินไม่ได้แต่ยังพยายามที่จะลุก จนล้มหน้าคว่ำกับพื้น ทรงธรรมมีเรื่องยุ่ง ๆ เกี่ยวกับการสั่งเครื่องจักรเข้ามาในอู่ที่ใต้ ขาจึงต้องเดินทางไปจีน จึงให้ปองภพลงมาดูแลยมโดยแทนเขา “เมื่อคืนแม่ก็อยู่คนเดียวได้ ไม่เห็นต้องยุ่งยากให้ภพมาดูแม่เลย” ยมโดยเป็นผู้หญิงเก่ง เธอมาจากครอบครัวที่ยากจนเป็นชาวประมงและมาพบรักกับทรงธรรมที่เป็นลูกชายเจ้าของอู่ต่อเรือ แต่ทรงธรรมไม่ใช่ลูกชายคนโปรดเพราะดันไปรักกับผู้หญิงจน ๆ อย่างยมโดย จึงได้สมบัติมาแค่เพียงหยิบมือและมาเริ่มต้นสร้างฐานะกันใหม่ “อยู่ได้ผมเชื่อ แต่แม่ไม่อยากให้ผมมาอยู่ด้วยเหรอ” ปองภพก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขารู้จักกับครอบครัวนี้แค่ไม่กี่ปี แต่ทำไมเขารู้สึกผูกพันกับทั้งสองคนมากและเขาก็คิดว่าทั้งสองคนก็รักเขาเหมือนลูกจริง ๆ “แม่เหงาจังเลย เกิดมาก็ดันมีกรรมไม่มีลูกอย่างใครเขา เมื่อไหร่ภพจะมีเมียแม่อยากอุ้มหลาน” สายตาที่เว้าวอนของคนที่เดินไม่ได้ มันทำให้หัวใจของปองภพรู้สึกใจหาย “คุณแม่ครับ คือตอนนี้ผมมีแฟน
ตอนที่ 7 เสียความรู้สึก “เป็นอะไรวันนี้ กลับบ้านทำหน้าตาเหมือนเบื่อโลก” ดาวิกาเห็นหน้าน้องชายแล้วอดถามไม่ได้ เพราะปกติกลับมาจากที่ทำงานจะร่าเริงและจะต้องมาอวดว่าวันนี้ทำงานได้เงินเท่าไหร่ แต่วันนี้กลับเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเศร้า ๆ เหมือนมีความกังวลอยู่ในใจ “พี่ดาวันเสาร์นี้ที่อู่จัดงานเลี้ยง เจ้านายผมบอกให้พี่ไปด้วย ตกลงนะ” ดอมถามเองตอบเอง และไม่ยอมมองหน้าพี่สาว ด้วยกลัวตัวเองจะเผลอแสดงพิรุธอะไรไป “พี่ไม่รู้จักใครแล้วจะให้พี่ไปทำไม” หญิงสาวเดินตามน้องชายเพื่อต้องการอยากรู้เหตุผล เพราะเธอไม่ใช่พนักงานที่นั่น “เขากินกับข้าวพี่กันทุกคน เขาก็รู้จักพี่กันทั้งนั้นและ เพื่อนผมก็ไอ้พวกที่มาช่วยยกของ ล้างของบ่อย ๆ ไปเถอะ หาซื้อชุดสวย ๆ ใส่ไปด้วยนะ งานเริ่มหนึ่งทุ่มเสาร์นี้” ดาวิกาไม่อยากขัดใจน้องชายและเห็นดอมดูอารมณ์ไม่ค่อยดีจึงไม่อยากถามต่อ ดอมปิดไฟได้เวลาเข้านอน ห้องเช่าสี่เหลี่ยมที่ไม่เล็กมาก พอให้สองพี่น้องมีมุมแยกกันส่วนตัว แต่ก็มองเห็นกันได้ ชายหนุ่มนอนมองพี่สาวที่เอาแต่เฝ้าจับโทรศัพท์ตลอด เ
ตอนที่ 11เติมเต็ม ดาวิกาก้าวเข้ามาเป็นสะใภ้ในครอบครัวของทรงธรรมอย่างเต็มตัวและเต็มใจ เธอเป็นที่รักของยมโดยอย่างมาก เพราะหญิงสาวทำกับข้าวได้ถูกปากแม่สามี วันนี้เป็นวันที่ทรงธรรมจะได้กลับบ้านหลังจากที่ต้องไปนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเกือบสองเดือน ในส่วนของคดีก็ยังดำเนินต่อไป โดยที่ทรงธรรมปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทนาย เขาไม่อยากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เพราะมันทำให้เขาเจ็บปวด หลานสาวทั้งสองคนที่เป็นลูกของผจญ ทรงธรรมในฐานะลุงได้ยกที่ดินให้คนละสองไร่ ซึ่งราคาตอนนี้ก็ไร่ละเป็นล้าน พร้อมเงินในบัญชีที่ทั้งคู่จะเบิกไปใช้ได้ก็ต่อเมื่ออายุยี่สิบปีบริบูรณ์อีกคนละห้าแสนบาท “ที่พ่อทำแบบนี้ พ่อไม่ได้คิดจะให้ผจญมันสำนึกได้ แต่เพราะหลานทั้งสองคนไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ถ้าผจญต้องติดคุก จะได้มีที่ดินเอาไว้ขายเอาเงินมาใช้จ่ายกัน เราโตแล้ว ต้องแยกให้ออกว่าเรื่องบางเรื่องมันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทุกคน” ปองภพชื่นชมในการตัดสินใจของบิดา คนดี ๆ แบบนี้ไม่น่าจะมีใครมาคิดร้ายด้วยเลย เพราะท่านมีแต่ให้จริง ๆ ยมโดยเรียกลูกชายและลูกสะใภ้เข้ามาใกล้ๆ เธอมีบางอย่างอ
ตอนที่ 10ความจริงที่เจ็บปวด ยมโดยโอบกอดลูกชายด้วยความดีใจและเรียกดาวิกาเข้ามากอดด้วย เธอร้องไห้แต่เหมือนยังมีสติ “ฟังแม่นะพล พ่อถูกทำร้าย แม่คิดว่าเมื่อครั้งที่แล้วก็ใช่ แต่ครั้งนี้มันคงหวังให้พ่อพิการหรือไม่ก็ตายเองจากอาการสาหัส และแม่ก็พอเดาออกว่าใคร” ปองพลฟังด้วยความตื่นเต้น เพราะเขาไม่เคยรู้เลยว่าพ่อแม่บุญธรรมของเขามีศัตรู “ใครกันครับ” “น้องชายของพ่อ เพราะวันที่ลูกมาหาแม่และกลับไป เราสองคนได้พูดถึงเรื่องการทำพินัยกรรม พ่อกับแม่จะยกเงินและหุ้นในอู่ต่อเรือของครอบครัวพ่อคืนให้พี่น้องเขา ส่วนทรัพย์สินที่พ่อกับแม่สร้างกันขึ้นมาเอง เราจะยกให้ลูก และวันที่เราพูดเรื่องนี้ก็มีเพียงแม่บ้านที่อยู่ด้วย แต่อีกวันน้องชายคนเล็กของพ่อก็พาหลาน ๆ มาหา” ปองพลตกใจมาก เพราะในบรรดาพี่น้องของพ่อบุญธรรมเขา มีน้องชายคนเล็กเพียงคนเดียวที่ยังไปมาหาสู่กันตลอด “คุณผจญ ท่านดูเป็นคนอ่อนโยนและดูเป็นห่วงพ่อมาก มันจะเป็นเรื่องจริงเหรอครับ” “เขามาที่นี่พร้อมหลาน ๆ และถามพ่อกับแม่เรื่องอู่ที่พ่อกับแม่มีอยู่ เขาพยายามพูดให้เห็นว่าพลเป็นเพียงแค่ล
ตอนที่ 9อุบัติเหตุ ปองภพดีใจที่สุดที่วันนี้มาถึง วันที่เขาได้พูดความจริงและดาวิกาก็ยอมที่จะแต่งงานตามคำขอของเขา ข่าวเรื่องที่ปองภพไม่สบายทำให้ทรงธรรมร้อนใจมากจึงได้รีบเดินทางมาหา โชคดีที่จังหวัดที่เขาอยู่มีสนามบินอยู่ไม่ไกล จึงไม่ใช่เรื่องยากในการเดินทาง “ปองภพลูก” ดอมพาทรงธรรมมาหาปองภพที่ห้องเช่าของเขา ภาพห้องเช่า ข้าวของที่ใช้สำหรับทำกับข้าวขาย และดาวิกากับน้อง อดทำให้ทรงธรรมรู้สึกสงสารไม่ได้ “พ่อได้ข่าวว่าไม่สบาย แม่เขาก็ร้อนใจสั่งให้พ่อมาดูด้วยตาตัวเอง” ปองภพดีขึ้นแล้ว พยายามทรงตัวขึ้นมานั่งคุยกับบิดาที่เดินทางไกลมาด้วยความเป็นห่วง “ไข้ลดตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วครับพ่อ” คนป่วยพูดจบก็หันไปทางดาวิกา เพราะทั้งสองคนยังไม่ได้รู้จักกันเลย “ดา พ่อของพี่” หญิงสาวยกมือไหว้ หัวใจของเธอมันสั่นอย่างบอกไม่ถูก บุคลิกท่าทางของทรงธรรมมีความเป็นทั้งผู้ใหญ่และผู้ดี จนเธอรู้สึกต่ำต้อยเกินไปที่จะไปเป็นสะใภ้ของเขา “น่ารักกว่าที่ฉันคิดไว้นะ เห็นพลเล่าให้ฟังว่าทำกับข้าวเก่งมาก ไว้แต่งงานกันแล้ว ไปหาทำเลเปิดร้
ตอนที่ 8เจ้าของอู่..สู่..พ่อค้าขายแกง “พ่อกับแม่ชักอยากจะเห็นหน้าอนาคตลูกสะใภ้คนนี้จัง แก้เกมได้ทันคนจริง ๆ ” ทรงธรรมฟังเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากปากของลูกชาย เขารู้สึกเห็นด้วยกับดาวิกา การที่ปองภพยืนยันว่าเขาคือคนเดิม เขาก็ต้องกลับไปลำบากอีกครั้งให้ได้ แล้วเวลาหนึ่งเดือน ไม่ใช่เรื่องที่จะฝืนทนกันได้ถ้าไม่เต็มใจ “ปองภพแล้วลูกล่ะคิดว่าทำได้ไหม” ชายหนุ่มถามคำถามนี้กับตัวเองมาทั้งคืนแล้ว และเขาก็มีคำตอบเดียวในหัวใจ “บ้านไม่มีอยู่ นอนใต้ต้นไม้ ขอข้าววัดกิน ผมก็ผ่านมาแล้ว เพิ่งจะได้เป็นคุณปองภพแค่ไม่กี่ปี ผมว่าตัวเองยังคุ้นชินกับความจนมากกว่าความรวยเสียอีก” พ่อกับแม่ได้ยินลูกชายบุญธรรมพูดแบบนี้ก็ทั้งสบายใจและดีใจ เพราะทั้งสองคนตั้งใจจะยกสมบัติทั้งหมดที่เขาสองคนหามาได้ให้กับปองพล ส่วนสมบัติที่ได้จากบรรพบุรุษ ทั้งคู่จะคืนให้กับคนในตระกูล ยมโดยหันไปพูดกับสาวมี ด้วยน้ำตานองหน้า จนทรงธรรมตกใจรีบเดินมานั่งข้าง ๆ แล้วกอดภรรยา “เราเลือกคนไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ ภพไม่เคยลืมตัว ถึงเขาจะไม่ใช่สายเลือดแต่เขาคือผู้ให้ชี
ตอนที่ 7 เสียความรู้สึก “เป็นอะไรวันนี้ กลับบ้านทำหน้าตาเหมือนเบื่อโลก” ดาวิกาเห็นหน้าน้องชายแล้วอดถามไม่ได้ เพราะปกติกลับมาจากที่ทำงานจะร่าเริงและจะต้องมาอวดว่าวันนี้ทำงานได้เงินเท่าไหร่ แต่วันนี้กลับเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเศร้า ๆ เหมือนมีความกังวลอยู่ในใจ “พี่ดาวันเสาร์นี้ที่อู่จัดงานเลี้ยง เจ้านายผมบอกให้พี่ไปด้วย ตกลงนะ” ดอมถามเองตอบเอง และไม่ยอมมองหน้าพี่สาว ด้วยกลัวตัวเองจะเผลอแสดงพิรุธอะไรไป “พี่ไม่รู้จักใครแล้วจะให้พี่ไปทำไม” หญิงสาวเดินตามน้องชายเพื่อต้องการอยากรู้เหตุผล เพราะเธอไม่ใช่พนักงานที่นั่น “เขากินกับข้าวพี่กันทุกคน เขาก็รู้จักพี่กันทั้งนั้นและ เพื่อนผมก็ไอ้พวกที่มาช่วยยกของ ล้างของบ่อย ๆ ไปเถอะ หาซื้อชุดสวย ๆ ใส่ไปด้วยนะ งานเริ่มหนึ่งทุ่มเสาร์นี้” ดาวิกาไม่อยากขัดใจน้องชายและเห็นดอมดูอารมณ์ไม่ค่อยดีจึงไม่อยากถามต่อ ดอมปิดไฟได้เวลาเข้านอน ห้องเช่าสี่เหลี่ยมที่ไม่เล็กมาก พอให้สองพี่น้องมีมุมแยกกันส่วนตัว แต่ก็มองเห็นกันได้ ชายหนุ่มนอนมองพี่สาวที่เอาแต่เฝ้าจับโทรศัพท์ตลอด เ
ตอนที่ 6บอกผู้ใหญ่ ยมโดยแม่บุญธรรมของปองภพมีอาการไม่ค่อยดี เพราะเธอเดินไม่ได้แต่ยังพยายามที่จะลุก จนล้มหน้าคว่ำกับพื้น ทรงธรรมมีเรื่องยุ่ง ๆ เกี่ยวกับการสั่งเครื่องจักรเข้ามาในอู่ที่ใต้ ขาจึงต้องเดินทางไปจีน จึงให้ปองภพลงมาดูแลยมโดยแทนเขา “เมื่อคืนแม่ก็อยู่คนเดียวได้ ไม่เห็นต้องยุ่งยากให้ภพมาดูแม่เลย” ยมโดยเป็นผู้หญิงเก่ง เธอมาจากครอบครัวที่ยากจนเป็นชาวประมงและมาพบรักกับทรงธรรมที่เป็นลูกชายเจ้าของอู่ต่อเรือ แต่ทรงธรรมไม่ใช่ลูกชายคนโปรดเพราะดันไปรักกับผู้หญิงจน ๆ อย่างยมโดย จึงได้สมบัติมาแค่เพียงหยิบมือและมาเริ่มต้นสร้างฐานะกันใหม่ “อยู่ได้ผมเชื่อ แต่แม่ไม่อยากให้ผมมาอยู่ด้วยเหรอ” ปองภพก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขารู้จักกับครอบครัวนี้แค่ไม่กี่ปี แต่ทำไมเขารู้สึกผูกพันกับทั้งสองคนมากและเขาก็คิดว่าทั้งสองคนก็รักเขาเหมือนลูกจริง ๆ “แม่เหงาจังเลย เกิดมาก็ดันมีกรรมไม่มีลูกอย่างใครเขา เมื่อไหร่ภพจะมีเมียแม่อยากอุ้มหลาน” สายตาที่เว้าวอนของคนที่เดินไม่ได้ มันทำให้หัวใจของปองภพรู้สึกใจหาย “คุณแม่ครับ คือตอนนี้ผมมีแฟน
ตอนที่ 5การให้ที่ยิ่งใหญ่ วันนี้ปองพลนัดดาวิกามาเจอทั้งที่ไม่ใช่วันหยุด หญิงสาวจึงต้องทำกับข้าวมาขายให้น้อยกว่าเดิมเพื่อที่จะได้หมดไวขึ้น “มีอะไรด่วนเหรอคะ พี่พลถึงต้องนัดดามาเจอวันนี้” ปองพลยื่นซองสีน้ำตาลให้กับหญิงสาว พร้อมกับซอง สีขาวเล็กอีกซองหนึ่ง “มสธ. กำลังใกล้จะปิดรับสมัครและนี่เงินลงทะเบียน เรียนต่อนะ” “เพื่ออะไรคะ พี่พลจะให้ดาเรียนต่อด้วยเงินของพี่เพื่ออะไร” ชายหนุ่มจับไหล่ทั้งสองข้างของคนรัก ด้วยท่าทีที่จริงจังและแววตาที่มั่นคง “เพื่อเรา พี่อยากสร้างครอบครัวกับดา อย่างน้อยถ้าดาเรียนจบปริญญาตรี ลูกเราจะได้ไม่ลำบาก ทำเพื่อเรานะ” ปองพลไม่รอให้อีกฝ่ายได้คิดและปฎิเสธ เขาก็ขึ้นรถรับจ้างออกไปทันที ดาวิกามองซองทั้งสองซองด้วยความไม่เข้าใจ ตอนนี้เธออายุยี่สิบกว่าแล้ว อยู่ดี ๆ ทำไมปองพลเขาถึงอยากให้เธอเรียนต่อ แต่ในเมื่อคนรักต้องการ เธอก็จะทำให้ดีที่สุด “นั่งเขียนอะไรพี่ดา เห็นทำหน้าจริงจังเชียว” ดอมถามเพราะวันนี้เขาทำโอทีแค่สองทุ่มกลับมาก็เห็นพี่สาวนั่งเขียนอะไรบางอย่างถึงขั
ตอนที่ 4ความในใจ ดาวิกากลับมาถึงบ้าน ภาพที่เธอเห็นคือข้าวของทุกอย่างที่ดอมเอาไปถูกล้างอย่างเรียบร้อย ตอนแรกเธอคิดว่าต้องกลับมาล้างเอง เพิ่งจะเคยเห็นเหมาไปแล้วยังล้างมาให้อีก หญิงสาวคิดขึ้นมาได้ว่าลืมบอกปองภพว่า หัวหน้ายามที่นี่ก็บ่นหาอยู่ อยากให้แวะมาหาเขาบ้าง เธอจึงลองโทรศัพท์กลับไปที่เบอร์ที่ชายหนุ่มโทรมา แต่ปรากฏว่าปิดเครื่อง “อะไร แยกกันได้ไม่ถึงชั่วโมงปิดเครื่อง” คนโทรได้แต่บ่นกับตัวเอง มีด้วยเหรอคนเราจะออกจากบ้านเดินทางไปที่อื่นจะปล่อยให้แบตเตอรี่หมด ดอมกลับมาจากทำงานพอดี แต่นี่ไม่ใช่เวลาเลิกงาน ดาวิกาสงสัยว่าน้องชายทำไมกลับมาก่อน “กลับมาเอาอะไร ยังไม่ใช่เวลาเลิกงานนี่” “กลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เย็นนี้นายจะให้ทำโอทีคงกลับประมาณห้าทุ่มให้ชั่วโมงละ300เลยนะ ลองคิดสิตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงห้าทุ่ม 1500เลย เดือนนี้ได้เงินจ่ายค่าห้องไม่ต้องควักเงินเดือนแล้ว แต่ทำสองวันติดเลยนะพี่” หญิงสาวฟังน้องชายและคิดตาม แค่เงินเดือนตอนนี้ดอมก็ได้ถึงหมื่นสาม ยังจะมีโอให้อีกสามพัน มันดูมากไปสำหรับพนักงานใหม่
ตอนที่ 3ลองใจ นับจากวันนั้น วันที่ปองภพมาหาดาวิกา เธอก็ไม่ได้รับการติดต่อจากเขาอีกเลย ทุกวันเธอจะเหลือเมนูที่เขาชอบไว้ เพราะกลัวว่าถ้าเกิดวันใดที่ปองภพมาเขาจะไม่ได้กิน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นเบอร์แปลกที่หญิงสาวไม่ได้บันทึกเบอร์ไว้ เธอภาวนาขอให้ใช่คนที่เธอรอคอย “สวัสดีค่ะขอสายพี่นกค่ะ” “ไม่มีค่ะ คุณคงโทรผิดเบอร์” หญิงสาวถอนหายใจ ให้กับฝันสลายที่หายวับไปทันใด สุดท้ายเป็นแค่เพียงคนโทรผิด ดอมกลับมาที่ร้านทั้งที่เขาเพิ่งจะออกไปทำงานไม่ถึงสองชั่วโมง “พี่ดา นายให้มาเหมากับข้าวให้หมดเลย วันนี้นายจะเลี้ยงอาหารกลางวันลูกน้องและถ้าเหลือจะให้แบ่งกันกลับบ้าน” ดาวิกายืนงงด้วยความแปลกใจทำอะไรไม่ถูก ดอมและเพื่อนช่วยกันขนหม้อขึ้นรถ ปล่อยให้แม่ค้าคนสวยยืนงงอยู่คนเดียว “แล้วข้าวของพี่จะได้คืนเมื่อไหร่ พรุ่งนี้พี่ต้องทำกับข้าวแต่เช้ามืดนะ” “บ่ายนี้ผมจะเอาไปไว้ที่ห้องเอง ไม่ต้องเป็นห่วง” กับข้าวถูกขนไปหมดแล้ว ดาวิกาจึงเก็บร้าน เพราะจะได้กลับไปทำงานบ้านต่อ โชคดีของเธอที่มีคนมาเหมาจะได้มีเวลาทำงานบ้านบ้าง