Share

ตอนที่ 56

last update Last Updated: 2025-03-18 13:48:28

“ชัยค์เคาะฮ์ไลลา เชคฮ์อักมัลฝากข้อความให้ทูลฝ่าบาทว่ามีเรื่องด่วนที่เปเรซต้องรีบไปจัดการ ขอเดินทางกลับไปก่อน อนุญาตให้ฝ่าบาทอยู่เที่ยวที่ทีแลนด์สักเดือนสองเดือนค่อยเดินทางกลับก็ได้เพคะ”

“หือ? ด่วนขนาดต้องยอมเดินทางแออัดไปกับคนทั่วไปเลยเนี่ยนะ? แล้วเนญ่าล่ะออกมาจากห้องหรือยัง?” 

“ชัยค์เคาะฮ์เนญ่าออกไปก่อนฝ่าบาทอีกเพคะ และยังไม่กลับเข้ามา”

“ไปไหน?”

“มีนัดกับเชคฮ์อิสราร์เพคะ”

“อะไรนะ?” ไลลาตกใจ เรื่องนี้เป็นไม่ได้อย่างแน่นอน เธอเพิ่งจะแยกกับเชคฮ์อิสรามาได้สักพัก คิดว่าต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลแน่ๆ จึงหยิบโทรศัพท์ส่งข้อความหาเจ้าชายอิดรีสทันที

“ฝ่าบาท! จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงแรม ช่วงเวลาที่เด็กรับใช้ของชัยค์เคาะฮ์เนญ่าแจ้งมา ปรากฏว่าไม่มีพ่ะย่ะค่ะ ช่วงเวลาดังกล่าวหายไปกลายเป็นจอดำ ตอนนี้ทางทีมรักษาความปลอดภัยของโรงแรมกำลังสืบสวนเรื่องนี้ และสอบถามทางเราว่าต้องการจะแจ้งความไว้ก่อนหรือไม่”

“แล้วช่วงเวลาก่อนหน้าล่ะ? เช็กย้อนหลังไปยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย ดูว่าได้ออกจากห้องไปไหนมาก่อนที่จะไปตามนัดหรือเปล่า!”

“ตรวจสอบเรียบร้อยพ่ะย่ะค่ะ ตามคลิปและผลรายงานที่สรุปส่งไปให้เมื่อสักครู่”

เจ้าชายอิดรีสอ่านผลรายงานที่ระบุช่วงเวลา สถานที่และบุคคลที่อยู่กับเนญ่าในคลิปไว้เรียบร้อย เขาส่งต่อให้ไลลาทันที

ตึ๊ง!!

ไลลาหยิบโทรศัพท์มือถือ มาเปิดอ่านข้อความด้วยความซาบซึ้งใจว่าที่คู่หมั้น เขามีงานเต็มมือ แต่ก็ยังสละเวลามาทำในสิ่งที่เธอร้องขอ และไม่ใช่เพียงการรับคำส่งเดช แต่ลงมือจัดการให้ในทันที หญิงสาวอ่านข้อความที่ส่งมาอย่างตั้งใจ

เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ จึงให้คนไปตามองครักษ์ ที่เห็นใบหน้าอยู่ในคลิปทั้งหมด อีกคนที่เธอจะต้องไปสอบถามคือคนของเชคฮ์อิสราร์

“ฝ่าบาท มากันครบแล้วเพคะ”

ไลลามองหน้าแต่ละคนที่มีรอยแผลเขียวคล้ำเป็นจ้ำๆ ตามหน้าตาและผิวที่พ้นขอบเสื้อผ้า บางคนก็พันผ้าก๊อซ บางคนก็ปิดแผลไว้

“มีนักฆ่าบุกเข้ามา หรือไปฟัดกับฝูงหมาที่ไหน ทำไมแต่ละคนถึงอยู่ในสภาพไม่พร้อมใช้งานแบบนี้?!?” 

ไลลาพูดจบก็เปิดคลิป ที่พวกเขาพูดคุยอยู่กับเนญ่า และฮัลดาที่หน้าลิฟต์ จากนั้นพวกเขาก็เดินผ่านพนักงานต้อนรับออกไปทางด้านข้างของโรงแรม

หญิงสาวหันโทรศัพท์กลับมาแล้วเปิดอีกคลิปหนึ่ง ที่บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ในสวนแล้วหันไปให้พวกเขาดูอีกครั้ง 

“ฉันจะส่งพวกนายเข้าคุกทีแลนด์ให้หมด!! เนญ่าหายตัวไปเพราะพวกนายละทิ้งหน้าที่ แล้วถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับน้องสาวฉัน พวกนายก็จะไม่รอดเหมือนกัน! อีกอย่างคนที่จะเล่นงานพวกนายหนักที่สุดก็คือเชคฮ์อิสราร์ โทษฐานที่คิดร้ายกับพระคู่หมั้น! กี่ชีวิตของครอบครัวคงไม่พอให้เขาชำระแค้นได้หมด! พวกนายเตรียมตัวไว้ได้เลย!”

แต่ละคนหน้าซีดขึ้นมาทันที เพราะกิตติศัพท์ในเรื่องความเด็ดขาดเลือดเย็น โหดเหี้ยม อำมหิตของเจ้านายผู้นี้เลื่องลือในหมู่ทหารมานาน เล่าลือกันปากต่อปาก จนเกือบจะกลายเป็นตำนานไปแล้ว

“ฝ่าบาท! ช่วยพวกเราด้วยพ่ะย่ะค่ะ!! พวกเราไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นพระคู่หมั้น พวกเราทำตามคำสั่งของชัยค์เคาะฮ์เนญ่า ถ้าพวกเรารู้ความจริงแต่แรก ต่อให้ต้องถูกลงโทษทางวินัยก็ยังเต็มใจเสียยิ่งกว่า!”

“ฉันช่วยพวกนายไม่ได้หรอก! ช้าเร็วเขาต้องรู้ ไม่ว่าคู่หมั้นของเขาจะพูดหรือไม่พูดก็ตาม มีทางเดียวคือไปสารภาพความผิดกับเขาเอง สุดแต่เขาจะลงโทษ ดีกว่าให้เขามารู้เองทีหลัง!”

…………………….

ประชาชนชาวเปเรซนับล้าน ออกมาประท้วงตามท้องถนน เพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพของผู้หญิง หลังการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของหญิงสาวที่ถูกตำรวจศีลธรรมจับกุม โทษฐานไม่สวมฮิญาบในที่สาธารณะเมื่อเดือนที่แล้ว 

มกุฎราชกุมารอิสราร์ ซาเลห์ อัล ฟูลัน ได้พยายามผลักดันร่างกฎหมายยกเลิกการจำกัดสิทธิเสรีภาพ และการศึกษาของสตรีชาวเปเรซ เพื่อให้มีบทบาทมากขึ้นในสังคม และยังส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ แต่ก็น่าเสียดายที่ได้ถูกยกเลิกไป หลังจากที่พระองค์ทรงลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นโอกาสให้รัฐบาลชาตินิยม นำกฎหมายความไม่เท่าเทียมดังกล่าว กลับมาบังคับใช้ใหม่อีกครั้ง 

การประท้วงยกระดับความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และแพร่กระจายเป็นวงกว้างไปตามเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ ขณะเดียวกันในโลกออนไลน์ ผู้ประท้วงก็ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ร่วมบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้คนทั่วโลกรับรู้ การประท้วงในหลายเมืองเริ่มลุกลามไปไกลกว่าประเด็นสิทธิสตรี แต่ว่าเป็นการขับไล่รัฐบาลเผด็จการ และผู้นำประเทศที่ทำให้ชาวเปเรซต้องถูกลิดรอนเสรีภาพขั้นพื้นฐาน อีกทั้งยังพาประเทศประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำครั้งแล้วครั้งเล่า จากการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพ 

การลุกฮือครั้งนี้ จึงนับเป็นความท้ายทายใหญ่ที่สุด ในรอบหลายทศวรรษ ของผู้นำประเทศอย่างสุลต่านโอมาร์ ซาเลห์ อัล ฟูลัน ซึ่งนับตั้งแต่มกุฏราชกุมารอิสราร์ วางมือจากทุกตำแหน่งที่รับผิดชอบอยู่ รัฐบาลก็ไม่สามารถใช้ไม้เดิมในการดับไฟที่กำลังลุกโหมเหมือนในอดีตได้อีก เพราะว่าประชาชนกำลังแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่เกรงกลัวอำนาจรัฐอีกต่อไป”

พริมโรสนั่งมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของสามีมาพักใหญ่แล้ว ดูเหมือนเขาจะตั้งใจฟัง การรายงานข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศเป็นอย่างมากโดยไม่สนใจสิ่งใดรอบข้าง สีหน้าของเขาอึมครึมจนยากจะคาดเดา เขาไม่ดุด่าเธอสักคำ เพียงแต่เหลือบมองมาด้วยสายตาเย็นชา

หญิงสาวลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอไม่ชอบใจเลยที่เขาเอาแต่เงียบเฉยไม่ยินดียินร้ายแบบนี้ ระเบิดอารมณ์ออกมาเลยเสียยังดีกว่า อย่างน้อยก็ได้พูดได้เคลียร์ให้รู้เรื่องกันไปเลยทีเดียวให้จบๆ  ไม่ต้องมารู้สึกอึดอัดพูดไม่ได้ อธิบายอะไรไม่ถูกอยู่อย่างนี้ 

“ฝ่าบาท ยังไม่หายโมโหอีกหรือเพคะ?” เขาปรายตามองมาอย่างเฉยชา แล้วหยิบน้ำชาขึ้นมาดื่ม 

“โกรธหม่อมฉันตรงที่ไม่เคยเล่าให้ฟังหรือเปล่าเพคะ?” เธอพยายามอย่างไม่ลดละ แต่เขาก็ยังเงียบอยู่เหมือนเดิม 

สงสัยต้องเปลี่ยนแนว! ลองบทดราม่าดีไหมนะ?

“หม่อมฉันแคร์ความรู้สึกของฝ่าบาท กังวลไปหมดว่าถ้าเล่าออกไปแล้ว ฝ่าบาทจะคิดยังไง และแสดงท่าทีออกมาแบบไหน? พอเห็นแบบนี้ ก็รู้สึกว่าหม่อมฉันคิดถูกแล้ว ที่ไม่พูดออกมาในตอนนั้น ถ้าฝ่าบาทเห็นว่าอดีตสำคัญกว่าปัจจุบันและอนาคต ก็คงไม่มีอะไรที่เราจะต้องพูดกันอีก!” 

น้ำเสียงหวาน เอ่ยคำตัดพ้ออย่างกระเง้ากระงอด ปลายเสียงสั่นเครือนิดๆ เสียเส้นอยู่อย่างเดียว ที่บีบน้ำตาเท่าไหร่ก็ไม่ยอมไหล จึงคิดว่าใช้วิธีเดินหนีไปเลยน่าจะดีกว่า จึงลุกขึ้นยืนเตรียมจะผละไป แต่ก็ถูกคว้าข้อมือเอาไว้ แล้วดึงจนร่างบางเซถลาเข้าไปหา จวนเจียนจะนั่งลงไปทาบทับเขาไว้ทั้งตัว

“ว้าย!” ที่เธอร้องเพราะตกใจจริงๆ กลัวว่าจะล้มไปโดนแผลที่ขาของเขา จึงวางมือยันตัวไว้บนอกแข็งแรง ไม่ยอมหย่อนสะโพกลงนั่ง ใบหน้าจึงอยู่ใกล้กันแค่คืบ

“ดราม่า!! มาเป็นสายลับทำไม ตีบทแตกกระจุยแบบนี้ไปเป็นนักแสดงดีกว่า!”

“ฮึ!! คนเขาอุตส่าห์ง้อแล้วยังทำเป็นเล่นตัว ต่อไปนี้ตีให้ตายก็ไม่ง้อ! มนุษย์เมนส์ชัดๆ!”

“นั่นมันใช้กับผู้หญิง ถ้าผู้ชายจะเรียกว่าอะไร?” หญิงสาวลืมไปว่ากำลังหงุดหงิด ยังอุตส่าห์นึกหาคำให้เขา 

“ดิมานดิง เคน!” ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากอย่างนึกขันที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นมนุษย์ลุงที่ชอบเรียกร้องความสนใจ

“ปากดี! เขาเรียกว่าเซนซิทีฟแมนต่างหาก!” สายตาของเขาปะปนด้วยรอยยิ้มขบขัน ขณะจ้องมองดูสีหน้าที่เต็มเปี่ยมด้วยโทสะจางๆ ของหญิงสาว ช่างดูมีชีวิตชีวาน่ารัก

“เซนซิทีฟตรงไหนกัน? นิสัยเสีย! เอาแต่ใจ! ขี้งอน! อุ้ปส์!!” มือใหญ่จับหลังท้ายทอยแล้วแนบหน้าเข้าชิด ประกบปิดริมฝีปากนุ่มนิ่มทันทีที่คนปากร้าย ตีแผ่นิสัยของเขาอย่างอยุติธรรม

จูบที่ดื่มด่ำเพิ่มรสที่หวานล้ำคละเคล้าอยู่ในโพรงปาก ลิ้นอ่อนนุ่มน่าเอ็นดูถูกไล่ต้อนด้วยลิ้นร้ายกาจของเขา เกี่ยวกระหวัดพันกับลิ้นเล็กที่เริ่มมีประสบการณ์มากขึ้นกว่าแต่ก่อน ไล้เลียไปทั่วกระพุ้งแก้ม เรื่อยไปจนถึงเพดานปากด้านบนอย่างหยุดอารมณ์ไม่อยู่

เนิ่นนานจนคนตัวเล็กต้องผลักอกเขาออก เพื่อขออากาศหายใจ แต่เขากลับไม่ยอมง่ายๆ เพียงจับศีระษะเธอเอียงเล็กน้อย ถอนลิ้นออกมาเพียงนิดหน่อย แต่ก็ยังไม่ละทิ้งที่จะครอบครองริมฝีปากของหญิงสาว

แขนแข็งแรงโอบเอวไว้ข้างหนึ่ง แขนอีกข้างรวบขาเรียวทั้งสองยกร่างขึ้นมาวางบนตัก จับขาพาดยาวไปบนโซฟา หญิงสาวรีบถอนริมฝีปากออก ขยับตัวลุกขึ้น นัยน์ตาคมหลุบมองริมฝีปากนุ่มอย่างแสนเสียดาย

“ฝ่าบาท! เดี๋ยวเจ็บแผล!” 

เขาโอบไปรอบเอวดึงเข้ามาในอ้อมแขนอย่างหวงแหน และรั้งร่างบอบบางให้นั่งลงบนตักของตัวเอง ก่อนเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้

“ไม่เอา! โรสจ๋า~ผมคิดถึง~”

น้ำเสียงนุ่มนวลดังขึ้นที่ข้างหูของเธอด้วยความอ่อนโยน มือข้างหนึ่งลูบไล้เรือนผมดำสลวยอย่างนุ่มนวลแผ่วเบา แววตาหิวโหยของเขาทำให้เธอไม่ขัดขืนอีก โอบแขนเรียวไปรอบคอ ค่อยๆ ผ่อนร่างที่เต็มไปด้วยส่วนเว้าส่วนโค้งลงนั่งบนตัก ดันทรวงอวบอิ่ม ให้แนบชิดกับกล้ามเนื้อหน้าอกแข็งแรงของเขา อย่างโหยหา 

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเคราที่ยาวกว่าปกติ แนบอยู่ที่ซอกคอหอมกรุ่น ลมหายใจจึงเป่ารดลงบนต้นคอที่อ่อนไหว เธอรอคอยให้เขาฟื้นตัวด้วยความรู้สึกอึดอัดขัดเขินอย่างยิ่ง รู้สึกยินดีว่าการรอคอยอันยาวนานได้สิ้นสุดลงแล้ว

“อาา~ ที่รัก~” ความช่ำชองในทุกสัมผัสของเขาทำให้เธอเผลอไผล ส่งเสียงเบาๆ ในลำคออย่างวาบหวาม

“อุ๊ย! ฝ่าบาท!” ฮัลดายกสองมือปิดปากอย่างตะลึงพรึงเพริด แววตาเบิกกว้างอย่างไร้เดียงสา แสดงออกทางสีหน้าคล้ายมาเห็นสิ่งที่ไม่สมควรจะเห็น

คู่สามีภรรยาชะงักเมื่อได้ยินเสียงอุทาน เจ้าชายอิสราร์ถอนริมฝีปากออกอย่างไม่รีบร้อน ขมวดคิ้วมุ่นเบี่ยงหน้ามองคนที่พยายามแสดงความไร้มารยาทที่ยืนอยู่ด้านหลัง 

ฮัลดามองชายหนุ่มผู้งามสง่าเหนือคนธรรมดา ด้วยแววตาเคลิบเคลิ้มหลงใหล ก่อนเบนสายตากระจ่างใส สบประสานสายตาผู้หญิงของเจ้านายอย่างเป็นต่อในอะไรสักอย่าง ก่อนจะหลุบตาลงเพื่อปิดบังความริษยาที่พุ่งขึ้นมาจนเกินระงับ

พริมโรสเลื่อนตัวลงนั่งบนโซฟา มองผู้มาใหม่อย่างเย็นชาและเหยียดวรรณะด้วยสายตา และท่าทางอย่างไม่เกรงใจ ยิ่งไม่ให้เกียรติเธอที่อยู่ในฐานะเจ้านายมากเท่าไหร่ เธอจะยิ่งกดให้ต่ำลงไปมากเท่านั้น 

เอาซี้!! ทรามมา..ฉันทรามกลับ ไม่โกง!! 

ในกรณีนี้ถ้าเป็นคนอื่น เขาจะถอยออกไปก่อนอย่างเงียบเชียบ แล้วทำเสียงขออนุญาตก่อนเข้ามาใหม่ ไม่ใช่แสดงตัวออกมา เพื่อผลักสถานการณ์ให้คนอื่น เห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควร

เมื่ออยู่ในสายตาของเจ้าชาย ฮัลดาแสดงกิริยาสงบเสงี่ยมนอบน้อมถ่อมตัวอย่างไร้ที่ติ ท่าทีแช่มช้อยอ่อนหวาน ก้มศีรษะหลุบสายตามองต่ำ เช่นกุลสตรีผู้ได้กับการอบรมมาเป็นอย่างดี 

พริมโรสอยากรู้เสียจริงว่า หญิงผู้นี้กำความลับอะไรไว้ในมือ แล้วทำไมบางครั้ง เจ้าชายถึงดูคล้ายผ่อนปรน ไม่ได้เด็ดขาดอะไรกับคนผู้นี้มากนัก คล้ายกำลังชดเชยบางสิ่งบางอย่างให้เท่าที่ทำได้ พริมโรสปรายตามองท่าทีคนตรงหน้าอย่างประเมิน ประมาณว่าไก่เห็นตีนงู และงูก็เห็นนมไก่

ช่างเป็นการแสดงที่เสแสร้งได้น่าปาดคอ ฉีกปาก แล้วกระชากหัวมาเหยียบให้แหลกเละคาฝ่าเท้าเหลือเกินนัก!!

แต่สิ่งที่พริมโรสไม่รู้คือ สำหรับชายหนุ่มแล้ว ถึงแม้หญิงอื่นจะมีรูปร่างหน้าตาที่งดงามดูดีมีเสน่ห์ ไม่เป็นรองใครมากแค่ไหน แต่กลับไม่มีใครสามารถดึงดูดความสนใจจากเขาได้เลย ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังที่ได้พบกับภรรยา เธอเป็นคนแรก และคนเดียวในหัวใจของเขา

เจ้าชายอิสราร์มองคนตรงหน้าอย่างเหนื่อยหน่าย แค่นเสียงเยียบเย็นออกมาอย่างไม่แยแส

“มีอะไรฮัลดา? ไม่เห็นหรือว่าไม่ควรรบกวน!” 

“เอ่อ..ขะ..ขอประทานอภัยเพคะ หม่อมฉันจะเข้ามาทูลว่ามีแขกมาขอพบ”

“นี่มันเป็นเวลาอะไรแล้ว! สมองเลอะเลือนหรือยังไง อะไรควรทำไม่ควรทำ จู่ๆ ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ขึ้นมาอย่างนั้นรึ? แล้วดึกป่านนี้ทำไมไม่บอกองครักษ์ให้มารายงาน ฉันอนุญาตให้เข้ามาถึงข้างในตั้งแต่เมื่อไหร่!” 

ฮัลดาเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง แต่ก่อนเธอก็เข้านอกออกในดูแลเขามาโดยตลอด ไม่เคยเห็นเขาจะบอกว่าไม่อนุญาต แต่พอมีผู้หญิงคนนี้เข้ามาในชีวิต คำพูดของเขากลับกดฐานะของเธอให้ต่ำลง โดยไม่คิดที่จะถนอมน้ำใจอย่างไม่เคยทำมาก่อน ในใจรู้สึกเจ็บปวดและไร้ค่าเหลือจะกล่าว คล้ายกับว่าเขาจงใจให้เธอรู้สึกอับอายต่อหน้าผู้หญิงคนนี้ 

ฮัลดาเม้มปากแน่น ก้มหน้าลงปิดบังน้ำตา ที่จวนจะหยดอยู่รอมร่อ ภายในกายคุกรุ่นเร่าร้อน เหมือนมีไฟสุมอยู่กลางอก เส้นเลือดตรงขมับเต้นตุบๆ รู้สึกอึดอัดคับแค้นใจ จนแทบกระอักออกมาเป็นเลือด

“บางทีคนที่มาขอพบฝ่าบาทอาจจะมีธุระร้อนจริงๆ ก็ได้เพคะ ไปเชิญเขาเข้ามา!” ประโยคหลังพริมโรสหันไปสั่งคนที่ยืนตัวสั่นอยู่กลางห้อง

“จะ..เจ้าค่ะ!”

ฮัลดาออกไปได้สักครู่ ชายฉกรรจ์แปดคนก็เดินเข้ามาในห้อง โค้งคำนับทำความเคารพกันอย่างนอบน้อม

“อ้าว! พวกพี่ๆ มีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่าคะ? หรือว่า…”

พอได้ยินการทักทายที่สุดแสนจะเป็นกันเองอย่างนั้น ทำให้แต่ละคนเข่าอ่อนทรุดตัวลงคุกเข่าอย่างหมดแรง บางคนถึงกับหมอบจนศีรษะติดพื้น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นทำหน้าโศกสรด

“ชัยค์เคาะฮ์ขอรับ! พวกเราผิดไปแล้ว! พวกเราไม่รู้จริงๆ ว่าชัยค์เคาะฮ์เป็นพระคู่หมั้น! ขอได้โปรดยกโทษให้พวกเราด้วยขอรับ!”

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” เจ้าชายอิสราร์ถามเพราะยังไม่รู้เรื่องเหตุการณ์เมื่อก่อนหน้านี้

“ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดเพคะ” เหล่าองครักษ์ได้ยินดังนั้นต่างก็พยักหน้าหงึกๆ กันอย่างพร้อมเพรียง รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของหญิงสาว   จนน้ำตาแทบจะรินไหลเป็นสายน้ำ    ราวกับชีวิตน้อยๆ ที่พาดอยู่กับคมมีดบนเขียง ได้รับการปลดปล่อย แต่ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น ต่างก็ต้องเปลี่ยนสีหน้าเป็นซีดเผือด แทบไม่มีสีเลือด เมื่อได้ยินหญิงสาวกล่าวต่อ

“พวกพี่เขาสั่งห้ามไม่ให้หม่อมฉันเข้าใกล้ฝ่าบาทอีก ถ้าหม่อมฉันไม่เชื่อฟัง ก็จะเฉือนเนื้อออกเป็นชิ้นๆ หม่อมฉันตกใจกลัวจนตัวเนื้อสั่นเลยเพคะ ตอนนี้หัวใจก็ยังเต้นตึกๆ อยู่เลย!” 

ไม่พูดเปล่า ยังกระแซะร่างระทวยเข้าแนบชิดกายสามี เพื่อซุกหน้านวลลงบนไหล่แข็งแรงอย่างเสียขวัญ เรียกร้องขออ้อมกอดของความเห็นใจจากเขา ชายหนุ่มโอบเอวไว้อัตโนมัติ ใจเต้นผิดจังหวะไปนิดหนึ่ง เมื่อได้กลิ่นหอมกรุ่นลอยเข้าปะทะจมูก 

“มีข่มขู่กันด้วยรึ? ทำร้ายร่างกายด้วยหรือเปล่า?” เขาเอ่ยปากถามกลุ่มองครักษ์เสียงเรียบ ใบหน้าเฉยเมย แต่แววตาเข้มข้นจนดูน่ากลัว คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแน่น

“ทูลฝ่าบาท! เป็นเพียงคำพูดขู่ขวัญเท่านั้น พวกกระหม่อมไม่ได้ล่วงเกินแม้แต่ปลายเล็บเลยพ่ะย่ะค่ะ!”

“แล้วเป็นคำสั่งของใคร?” เสียงทุ้มต่ำถามอย่างไม่สบอารมณ์

“เอ่อ…” เหล่าองครักษ์ต่างก็มองหน้ากันเลิกลั่ก เพราะซ้ายก็เจ็บขวาก็ปวด สรุปแล้วพวกเขาที่อยู่ตรงกลางต้องสะบักสะบอมจากการลงทัณฑ์ของทั้งสองฝ่ายแน่ๆ 

แต่แล้วก็แทบตาเหลือกอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงคนขี้อ้อนกำลังสาดคำพูดร้อนๆ ลงบนกองเพลิงซ้ำเข้าไปอีก

“ตอนที่พวกพี่ๆ เขาเข้ามารุมล้อม ได้มีชายหน้าตาน่ากลัวเข้ามาจะทำร้าย หม่อมฉันตกใจวิ่งหนีด้วยความกลัว แล้วก็สะดุดล้มจนรองเท้าหลุด แต่ก็จำต้องวิ่งต่อทั้งเท้าเปล่าแบบนั้น ทำให้เหยียบโดนก้อนกรวดก้อนหินตามรายทาง จนปวดระบมไปหมดเลยเพคะ ตอนนี้แค่ขยับเท้านิดหน่อยก็เจ็บแล้ว ฮึกๆ” 

แขนแข็งแรงโอบภรรยาตัวน้อย เข้าหาตัวอย่างทะนุถนอม ทันทีที่ร่างบอบบางซุกหน้ากับอกอบอุ่น เพื่อปิดบังอาการสะอึกสะอื้น  นัยน์ตาคมกริบกวาดมองไปยังกลุ่มองครักษ์ทั้งแปดที่กำลังประสบภัย ตกเป็นเครื่องมือให้ภรรยาของเขาด้วยความเห็นใจ แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เขารู้ว่านี่คือตอนพีคที่หญิงสาวกำลังรออยู่ จำใจต้องเล่นตามน้ำไปกับเธอด้วย

เหล่าองครักษ์ผู้ใจอ่อนกับเด็กสตรีและคนชรา กำลังมองความอ้อนแอ้นอ่อนแอ ที่ต้านทานไม่ได้แม้แต่แรงลมของหญิงสาวด้วยความสงสาร และเริ่มรู้สึกสำนึกในความผิดของตัวเองอยู่ในใจ จนอยากจะได้รับการลงโทษ เพื่อชดเชยการกระทำที่ไม่สมควรนั้น

“กระหม่อมได้รับคำสั่งจากชัยค์เคาะฮ์เนญ่าพ่ะย่ะค่ะ! และที่พวกกระหม่อมเชื่อคำสั่งนั้น เพราะคนของเชคฮ์ที่ชื่อฮัลดาเป็นคนบอกเองว่าพระคู่หมั้นเป็นเพียง.. เอ่อ..คะ..คนชั้นต่ำที่หวังสูงต้องการเอ่อ.. ตะกายขึ้นเตียง เพื่อเป็นผู้หญิงของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ!” สุภาพบุรุษร่างทองในมโนของหญิงสาวพูดขึ้นมาอย่างแสดงความรับผิดชอบ ความใจหล่อของเขาไม่ทำให้เธอผิดหวังจริงๆ

สตรีร่างน้อยบอบบางน่าทะนุถนอมในนาทีก่อน คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ ก็ดีดตัวเด้งผึงออกมาจากอกอุ่นราวกับมีสปริง เมื่อได้ยินในสิ่งที่กำลังรอคอยอยู่ พร้อมปรายตามองกลุ่มชายหน้าเหวอทั้งแปด ที่ระแวงจนออกอาการอุปทานหมู่ ดีดตัวผวาถอยหลังไปกองรวมกันทันทีที่เห็นหญิงสาวทะลึ่งพรวดพราดขึ้นมาแบบนั้น ทำเอาทุกคนตื่นตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ

ดวงตาคมหวานสาดประกายแวววาว ริมฝีปากอิ่มโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มร้าย ตีหน้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้อย่างแนบเนียน หันมามองสบตาสามีนิดหนึ่ง แล้วลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องอย่างบรรลุวัตถุประสงค์

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 57

    “ว่าไง? มีอะไรก็รีบๆ พูด กำลังจะขึ้นเครื่องแล้ว!” ท่านอักมัลเร่งปลายสาย เพราะได้ยินแอร์กราวนด์ประกาศเรียกผู้โดยสารในโซนที่นั่งของเขาให้ขึ้นเครื่อง ดังขึ้นมาพอดี“เหมืองบิทคอยน์ที่รัฐบีถูกพบแล้วพ่ะย่ะค่ะ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทรัพย์สินไปทั้งหมด!”“อะไรนะ!! เพิ่งจะโดนที่รัฐเอไปหยกๆ แล้วที่รัฐบีโดนทุกที่เลยหรือเปล่า?”“ทุกที่กระหม่อม! เหมือนกับมีคนชี้เป้าระบุตำแหน่งให้เจ้าหน้าที่ ตอนนี้เหลือเพียงที่รัฐดี แต่พวกเราได้เคลื่อนย้ายเครื่องมือออกจากพื้นที่ เคลียร์สถานที่และทำลายหลักฐานหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“แล้วก่อนหน้านั้นพวกนายมัวทำอะไรกันอยู่ ไม่มีใครแจ้งเตือนก่อนเจ้าหน้าที่จะบุกเข้ามาเลยหรือไง?”“พวกเขาตัดสัญญาการเชื่อมต่ออินเนอร์เนต จากนั้นก็ตัดสัญญาณไฟฉุกเฉิน ช่างและคนที่อยู่เวรในช่วงนั้นๆ จึงมัวแต่แก้ปัญหากันอยู่ พอเจ้าหน้าที่บุกเข้ามาจึงไม่มีใครรู้ตัวเลยกระหม่อม! และเข้ายึดพร้อมกันหมดเลยทุกที่!”“แล้วคนล่ะ ยังอยู่หรือเปล่า?”“พระชนนีถูกพาตัวไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“หึย!! ไอ้พวกบ้า! ไร้ประโยชน์จริงๆ!” ท่านอักมัลตัดสายอุทานออกมาด้วยความเดือดดาล โดนบุกทลายแหล่งทำเงินก็ช่างเถอะ แต่พาคนสำคัญไปด้วยนี่

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 58

    เจ้าชายอิสราร์ นั่งกึ่งเอนพิงพนักหัวเตียง อ่านรายงานขอเสนออนุมัติโครงการของบริษัทที่รินรดานำมาให้เขาเซ็น พออ่านจบก็ลงลายมือชื่อเพื่อให้ดำเนินการได้ จากนั้นก็ปิดแฟ้มนำไปวางที่หัวเตียง ถอดแว่นตาวางไว้ด้านบน แล้วหยิบโทรศัพท์มาอ่านข่าวทั่วไปเพื่อฆ่าเวลาเขารู้ว่าห้ามภรรยาไม่ให้กลับไปที่เกิดเหตุอีกไม่ได้ จึงทำเป็นนิ่งเฉยแล้วตรงเข้ามาห้องนอนเลย รอเวลาให้เธอได้ทำในสิ่งที่อยากทำให้เต็มที่ เสร็จแล้วก็คงกลับมาเอง…พริมโรสออกมาจากลิฟต์แล้วตรงไปที่ห้องเกิดเหตุ บอกตรงๆ ว่าเธอไม่ใว้ใจใครทั้งนั้น โดยเฉพาะเพื่อนที่เจ้าเล่ห์อย่างเจ้าชายอิดรีส ขนาดบางรายเป็นเพื่อนที่คบกันมาเกือบสิบปี ยังลงมือทำร้ายกันได้ภายในสิบวินาที เพียงแค่มีความเห็นที่แตกต่างและมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าเพื่อนยังกลายมาเป็นศัตรูได้แบบนี้เราก็ไม่ต้องกลัวใครอีกแล้ว เพราะศัตรูที่น่ากลัวที่สุดก็คือคนที่เราเชื่อได้อย่างสนิทใจกรณีนี้ก็เช่นกัน ใครจะรู้ว่าเขาอาจจะเป็นคนเดียวกันกับคนร้ายที่สร้างสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นมาเพื่อใส่ร้ายสามีเธอก็ได้ เพราะนี่มันเป็นพื้นที่ของเขา เพราะฉะนั้นหาหลักฐานเพื่อเป็นการป้องกันตัวเองไว้ก่อนจึงเป็นการดี

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 59

    เอ็นจิเนียและเมนเทนแนนซ์ กำลังทำการตรวจสอบรอบเครื่องบินอย่างละเอียดหรือที่เรียกว่าทรานซิทเช็ค ซึ่งใช้เวลาประมาณสามสิบนาที อีกทั้งยังเป็นหน้าที่ของนักบินที่ต้องตรวจความพร้อมอีกรอบ เพื่อให้มั่นใจว่าจะทำการบินได้อย่างปลอดภัยสูงสุดพริมโรสเดินตามกัปตัน สำรวจความเรียบร้อยทั่วไป อย่างเงียบๆ ไม่พยายามไปรบกวนสมาธิของเขา เครื่องบินส่วนตัวลำนี้จอดอยู่บริเวณอาคารผู้โดยสารส่วนบุคคล ซึ่งเป็นไพรเวทเทอร์มินอลแบบวีไอพี แยกส่วนออกจากท่าจอดอากาศยานทั่วไปของสนามบิน"ถ้าคุณสนใจ สามารถไปนั่งที่อ็อบเสิฟเฝอะสีท ได้นะครับ" กัปตันอนุญาตอย่างใจดี ซึ่งอ็อบเสิฟเฝอะสีทเป็นที่นั่งด้านหลังกัปตันเรียกว่าที่นั่งสังเกตการณ์ พริมโรสยิ้มให้อย่างสุภาพ "ขอบคุณค่ะ ฉันแค่ตรวจสอบทั่วๆ ไปในฐานะผู้ดูแลความปลอดภัยของเชคฮ์เท่านั้นค่ะ แค่กัปตันอนุญาตให้ฉันเดินไปด้วยกันอย่างนี้ ก็รู้สึกเกรงใจมากแล้ว" พริมโรสกล่าวอย่างนอบน้อม"อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ ผมเข้าใจดีว่าความปลอดภัยของเชคฮ์ย่อมมาก่อนเสมอ เพียงแต่ผมประหลาดใจนิดหน่อยที่คุณทุ่มเท และใส่ใจในการทำงานมากกว่าองครักษ์คนอื่นๆ เสียอีก" เขาได้ยินพวกลูกเรือคุยกันว่า เชคฮ์กับหัวหน้าอง

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 60

    ไลลายังไม่ได้หลับ กำลังนึกถึงคำขอร้องของน้องสาวอย่างลำบากใจ เนญ่าขอให้เธอรับเป็นขายารองของเจ้าชายอิดรีสอย่างถูกต้องตามธรรมเนียม ในฐานะลูกผู้หญิงเหมือนกันก็พอจะเข้าใจถึงความสูญเสียอันน่าขมขื่น และยิ่งรู้สึกแย่ที่สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในครอบครัวของเธอเอง แต่การที่จะไปยัดเยียดผู้หญิงให้เขาทั้งๆ ที่เห็นอยู่กับตาแล้วว่าเขาไม่ได้แยแสน้องสาวเธอเลยสักนิด ดูจะเป็นการหาเรื่องใส่ตัวเองเสียมากกว่า เธอจึงปฎิเสธไปตรงๆ และจะช่วยหาวิธีแก้ไขปัญหาทางอื่นให้ แต่ก็กลายเป็นคนที่โหดร้ายและแล้งน้ำใจในสายตาอีกฝ่ายขึ้นมาทันที"ถ้าพี่หญิงไม่ช่วย น้องจะฆ่าตัวตายหนีความอัปยศ! ถ้าไม่ใช่เชคฮ์อิสราร์เป็นคนทำก็ต้องเป็นเชคฮ์อิดรีส เหตุมันเกิดในพื้นที่ของเขาจะปัดความรับผิดชอบทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้ยังไง! เผลอๆ เขาอาจจะเป็นคนบงการก็ได้ โรงแรมมีระบบรักษาความปลอดภัยหลายชั้น ใครหน้าไหนจะกล้าเข้ามา!" “อย่าพูดจาเพ้อเจ้อ! เขาจะไปทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไงในเมื่อเขาอยู่กับพี่ตลอดเวลา!”“น้องไม่รับรู้ ถ้าพี่หญิงไม่ช่วย น้องจะทำร้ายตัวเองจนกว่าพี่หญิงจะยอม!” ไลลารู้ว่าน้องสาวกำลังกดดันให้เธอรู้สึกผิดทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ได้

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 61

    ฮัลดายืนอยู่ตรงช่องประตู มองหญิงสาวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าห้องทำงานของเจ้านาย ด้วยแววตาชิงชังราวกับมีความแค้นกันมานับร้อยนับพันปี“อ้าว! ฮัลดาเข้ามาสิ ยืนอยู่ทำไม!”ฮัลดาเดินเข้ามาใกล้อย่างอ้อยอิ่ง พริมโรสทำมือให้นั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะ พร้อมหยิบกระดาษจดหมาย ที่นัดให้เธอไปพบในสวนของโรงแรม และกระดุมเม็ดหนึ่งวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าหญิงสาว ในขณะที่สายตาก็มองอีกฝ่ายอย่างไม่วางตา จึงทันได้เห็นแววตาไหววูบแวบหนึ่งแล้วเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว“เธอรู้หรือเปล่าว่าชัยค์เคาะฮ์เนญ่า ถูกคนลวงไปทำมิดีมิร้าย”“อะไรนะ! เกิดขึ้นเมื่อไหร่เจ้าคะ?” พริมโรสอ่านปฏิกิริยาของหญิงสาวจากสีหน้าอาการที่แสดงออกมาว่าตกใจจริงๆ ไม่ได้เสแสร้ง“เวลาเดียวกับที่มีข้อความนัดพบนี้ส่งมาให้ฉัน เจตนาก็เพื่อล่อลวงให้ฉันถูกรุมทำร้าย แต่ที่ไม่เข้าใจคือกระดุมเม็ดนี้น่ะ เอามาให้ฉันทำไม ตั้งใจจะบอกอะไร? เธอพอจะให้คำตอบกับฉันได้ไหม?”“ฉันจะรู้ได้ไงล่ะเจ้าคะ! นายหญิงต้องไปถามคนส่งเองถึงจะรู้เหตุผลที่แท้จริงของเขา”“อ้าว! ก็กำลังถามอยู่นี่ไง อย่าทำตัวเป็นปลาทองลืมง่าย!” พริมโรสพูดพลางหยิบหลักฐานออกมาวางทีละอย่าง “นี่รอยนิ้วมือเจ้าของจดหมายแ

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 62

    "ฝ่าบาท! แย่แล้วเพคะ! กัปตันถูกทำร้ายขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทด่วนเลยเพคะ!" เจ้าชายอิสราร์ลุกพรวดขึ้น พริมโรสผวาลุกตามแล้วพยุงแขนเขาไว้ข้างหนึ่ง"เกิดอะไรขึ้น?" ชายหนุ่มถามขณะก้าวเท้าออกเดินได้ไม่เร็วนัก มือเรียวจึงจับแขนเขายกขึ้นแล้วก้มตัวลอดศีรษะเข้าไปใต้แขนแข็งแรง ก่อนจะวางแขนเขาให้เกาะไหล่เธอไว้เพื่อช่วยพยุง ทำให้ชายหนุ่มเดินได้เร็วขึ้นกว่าเดิม"นักบินผู้ช่วยลอบทำร้ายกัปตันเพคะ! โชคดีว่าอยู่ในความสูงที่กัปตันเปิดโหมดออโต้ไพลอทเอาไว้ ทันทีที่เกิดเรื่องเขากดอันล็อกประตูทำให้พวกเราได้ยินเสียงและเข้าไปช่วยเหลือเขาไว้ได้ทันเวลา ตอนนี้องครักษ์ลากตัวหมอนั่นออกไปแล้วเพคะ!""ทำไมไม่ตามนักบินเสริมให้ขึ้นมาแทน?""หม่อมฉันไปปลุกแล้วไม่ตื่นเลยทั้งสองคน ไฟล์ทเนิร์ซกำลังดูอาการพวกเขาอยู่ กัปตันเลยให้มาขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทเพคะ!"ลูกเรือต่างก็เห็นพ้องต้องกันทุกคนว่า นาทีนี้ไม่มีใครจะเหมาะสมเท่ากับเจ้านายพระองค์นี้อีกแล้ว เขามีชั่วโมงบินของการเป็นนักบินเอฟสามสิบห้า ของกองทัพรวมห้าพันแปดสิบห้าชั่วโมง ในจำนวนนี้ มีชั่วโมงของการทำหน้าที่นักบินผู้ช่วย อยู่แปดร้อยแปดสิบสี่ชั่วโมงกับเครื่องบินรุ่นนี้

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 63 : (っ˘з(˘⌣˘)18+

    “อะไรนะ!! แล้วได้ลงจอดฉุกเฉินไหม? งั้นถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนโยกย้ายคนจากรัฐดีไปรัฐอีก็ดำเนินการได้เลย! อืม..ฉันอยู่บนเครื่องบินแล้ว คงจะถึงไล่ๆ กัน!...ได้!…เอาตามนั้น!”เจ้าชายอิดรีสชะงักมือที่กำลังวางโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียง ขณะที่ปรายหางตาเห็นหุ่นอรชรอ้อนแอ้นกำลังเยื้องกรายเข้ามาในห้องด้วยกิริยาท่าทางที่ยั่วยวนหญิงสาวเข้ามายืนห่างจากเตียงไปประมาณหนึ่งช่วงแขน ค่อยๆ ปลดอาภรณ์ออกจากตัวทีละชิ้นอย่างเชื่องช้า พร้อมช้อนสายตาขึ้นมองชายหนุ่มอย่างเย้ายวนชวนเชิญเจ้าชายอิดรีสหยิบหมอนสองใบมาซ้อนหลัง นั่งกึ่งเอนพิงพนักหัวเตียงพาดแขนไว้บนเข่าข้างหนึ่งที่ตั้งชันขึ้น หรี่ตามองด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ดูเยือกเย็น กิริยาภายนอกยังคงสงบนิ่ง รอบกายยังเผยความเย่อหยิ่งจองหองออกมาด้วยเขาเหลือบตามองนาฬิกาที่โต๊ะหัวเตียง ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายเลือกเวลาได้เหมาะเจาะ ไลลาไปสั่งงานกับเด็กรับใช้ได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว และคงกำลังใกล้จะกลับมา เลยเปิดโอกาสให้น้องสาวสวมบทบาทน้องรักหักเหลี่ยมโหดเพื่อทำร้ายจิตใจผู้เป็นพี่ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา เขาปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจ โดยไม่ได้ปริปากเอ่ยทักท้วง เพื่อจะรอดูว่าเธอจะเปิดเผยเนื้อตั

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 64 : นาทีระทึกขวัญ (1)

    รินรดานั่งเหม่อกำโทรศัพท์ไว้ในมือ หลังจากเพิ่งจะวางสายจากรามิล เขาสัญญาว่าจะรีบเคลียร์งานให้เรียบร้อย และจะตามไปหาที่เปเรซภายในสองวันเธอรู้สึกไม่สบายใจเมื่อนึกถึงความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมา แสงสว่างที่ลอยละล่องในความมืดส่องมาที่เธอ พร้อมกับเสียงกระซิบที่แผ่วเบาแต่ชัดเจน เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของใครในโลกนี้ มันเหมือนเสียงที่มาจากที่ไกลโพ้น ฟังดูทั้งใกล้และไกลในเวลาเดียวกัน ‘ถึงเวลาแล้ว…จงทำตามสัญญา’หญิงสาวไม่ได้บอกใครว่าหลังจากที่เธอ และพี่ชายฟื้นขึ้นมา เธอได้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหินพ่อมดลาบราดอไลต์ ด้วยความสงสัยและความหวัง เธอแอบพระมารดาเข้าไปในห้องลับ ท่องบทสวดที่เธอแอบจดเอาไว้ และอธิษฐานถึงสิ่งที่อยากรู้ที่สุดในชีวิตตอนนั้น นั่นก็คือการตามหาครอบครัวที่แท้จริงจากนั้นเธอก็ฝันซ้ำๆ เดิมๆ อยู่หลายครั้งจนมาถึงปัจจุบัน ไม่รู้ว่าบุคคลในฝันเป็นใคร เธอจำเรื่องราวได้ รู้ว่าคนในฝันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่จำหน้าไม่ได้เลยสักคน และครั้งที่ไปโรงพยาบาลจนเกิดอาการใจสั่น แล้วเจ็บแปลบอย่างรุนแรง จนหมดสติไปในครั้งนั้น ก็ทำให้เธอได้เห็นผู้หญิง ที่มีหน้าตาเหมือนเธอราวกับฝาแฝดชัดเจนเป็นครั้งแรก ในห้วงฝ

    Last Updated : 2025-03-18

Latest chapter

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 70 

    “ฮ่าๆๆ ไง! ถึงกลับโกรธจนตัวเนื้อสั่นเลยเหรอ เป็นยังไงบ้างล่ะ รสชาติของการสูญเสีย ขมขื่นถึงอกถึงใจดีไหม?” คำพูดประโยคนี้ของเขาทำให้หญิงสาวแน่ใจได้ทันทีว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ“ฉันเกลียดแกจนอยากจะเป็นคนถ่อย จะได้ถ่มถุยใส่หน้าส้นตึกของแกให้สาสมกับความรู้สึกขยะแขยง!” ชารีฟหรือณัทธรสะอึก เมื่อเจอความโกรธเกลียดอย่างรุนแรงจากผู้หญิงที่เขารัก“เกลียดฉันงั้นรึ? ต้องเป็นฉันไหมที่จะพูดประโยคนั้น แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เธอจะลืมฉันได้อย่างง่ายดายและไปแต่งงานใหม่!"“ฉันไม่ได้แต่งงานใหม่! นี่เป็นการแต่งงานครั้งแรกและครั้งเดียวของฉัน และอะไรคือลืมได้อย่างง่ายดาย? นายหนีตายไปเป็นปีๆ แล้วฉันจะต้องไปบวชชี เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้นายด้วยอย่างนั้นรึ! เรารักกันดูดดื่มขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ก่อนที่นายจะฆ่าพ่อฉัน เขายังพูดไม่ให้ฉันยึดติดกับตัวเขาเลย! ตรรกะของนายมันบิดเบี้ยวเป็นเวย์เดียวกับพวกโรคจิต ที่นายกับฉันมาถึงจุดนี้เป็นเพราะการตัดสินใจเลือกของตัวเองทั้งนั้น อย่าเอาฉันมาเป็นข้ออ้างเพื่อปกปิดยีนขี้แพ้ในตัวหน่อยเลย!”“ไม่ต้องมาทำปากดียั่วอารมณ์ให้ฉันรู้สึกละอายใจหรอก คำพูดยั่วยุของ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 69 : ตามไล่ล่า (3)

    “ฮัลโหล? ว่าไง?”“ไอ้ชารีฟ! ไอ้ห่วย! สายของแกทำงานยังไงวะถึงได้รายงานผิดพลาด! เป้าหมายไปเส้นทางอื่นไม่ได้เฉียดมาทางนี้เลยด้วยซ้ำ!!”“จะเป็นไปได้ยังไง? ไม่ผิดแน่ๆ!! นายดักซุ่มอยู่ที่นั่นแหละเผื่อว่าจะเป็นแผนลวง!”ชารีฟหรือณัทธร กดปุ่มตัดสาย แล้วดึงหูฟังบลูทูธออกอย่างหงุดหงิด จะเกิดการผิดพลาดไปได้ยังไง ในเมื่อเขาเพิ่งจะได้รับการยืนยันเส้นทางมาจากสายที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาของเชคฮ์อิสราร์เมื่อไม่กี่นาทีมานี้เองหรือว่าเปลี่ยนเส้นทางกระทันหัน??เขาคิดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบฉุกเฉินมากกว่าการที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวว่ามีข่าวรั่วไหลชายหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้น เพื่อดูเวลาก่อนการตัดสินใจ ในเมื่อภารกิจลอบสังหารเชคฮ์อิสราร์ได้ผิดพลาดไปแล้ว เขาเลยคิดว่าไปปิดจ๊อบหนี้เก่าของตัวเองก่อนจะดีกว่า แล้วค่อยกลับไปรายงานภารกิจที่ล้มเหลว ซึ่งถ้ารีบไปตอนนี้ก็น่าจะไปทันเวลากับที่เป้าหมายขับมาถึงในจุดที่เขากำหนดเอาไว้ในแผนพอดี…ชารีฟหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดแอพพลิเคชันที่ใช้ตรวจสอบสัญญาณจีพีเอส เพื่อหาตำแหน่งปัจจุบันของรถเป้าหมาย ซึ่งก็เห็นในแผนที่ว่ารถยนต์คันดังกล่าว กำลังจะแล่นผ่านสี่แยกไฟแดง

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 68 : ตามไล่ล่า (2)

    ความร้ายกาจของบิดาที่เธอได้ยินจากปากของคนอื่น เป็นเหมือนหนามแหลมคม ที่คอยทิ่มแทงจิตใจอยู่ตลอด แต่กระบวนการให้อภัย พยายามดิ้นรนที่จะผลักความคิด และความรู้สึกด้านลบเหล่านี้ออกไป ด้วยการจดจ่อกับความรัก และความทรงจำดีๆ นึกถึงช่วงเวลาที่ยากลำบาก ที่เขามักจะแบกรับความเจ็บปวดเหล่านั้นไว้แทนอยู่เสมอ แล้วผลักดันให้เธอก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนั้นไปให้ได้ ฝึกฝนเธอให้เข้มแข็ง สอนให้ยอมรับทุกความผิดพลาด และความล้มเหลว แล้วเรียนรู้ที่จะเยียวยาตัวเองเพื่อปิดกั้นทุกความเจ็บปวดเธอรู้ดีว่าการยึดติดกับความรู้สึกในทางลบ รังแต่จะเพิ่มความทุกข์ให้กับชีวิตมากขึ้น และขัดขวางไม่ให้หัวใจได้พบกับความสงบสุข แต่การที่จะละวางด้วยการให้อภัยนั้น ก็ทำให้เกิดความรู้สึกผิด ต่อบุคคลที่ต้องเสียชีวิตไปอย่างไม่เป็นธรรมนั้นด้วยเช่นกันแต่เมื่อมองในมุมกลับกัน เขาก็เป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถทำผิดได้ เธอเองก็ไม่ได้รับการยกเว้น ความผิดหวังมักจะทำให้คนเราจมอยู่กับอดีต จนลืมมองความสุขที่กำลังได้รับอยู่ในปัจจุบัน และกำลังจะตามมาอีกมากมายในอนาคต จึงเป็นความคิดที่โง่เขลาอยู่ไม่ใช่น้อย ถ้าเรายังหยุดอยู่ที่ควา

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 67 : ตามไล่ล่า (1)

    “ตรวจสอบชายสองคนที่สิบสองนาฬิกา ประตูทางเข้าด้านนอก ในมือถือผ้าสีดำห่อหุ้มวัตถุลักษณะเป็นแท่งยาวทรงกระบอก เปลี่ยน!”“แลนด์โรเวอร์สีดำขับเข้ามาจอดหน้าประตูทางเข้าออกของพนักงานชั้นใต้ดินสองคัน คันหนึ่งประมาณห้าคนใส่ชุดพนักงานรักษาความปลอดภัยเดินเข้าไปด้านใน มีอาวุธปืนติดตัว เปลี่ยน!”“ประตูทางออกอาคารผู้โดยสารหนึ่งที่เก้านาฬิกา พนักงานรักษาความปลอดภัยกำลังลากโซ่ตะปูเรือใบมาขวางถนน คาดว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของสนามบิน เปลี่ยน!”“ประตูทางออกฉุกเฉินของอาคารผู้โดยสารสอง ทางสะดวก ชาลีทีมเตรียมพร้อม รอรับคำสั่ง เปลี่ยน!” เสียงรายงานผ่านวิทยุสื่อสารเข้ามาเป็นระยะๆ หลังจากที่กระจายกำลังไปประจำตามจุดสำคัญต่างๆ เพื่อสังเกตความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม“พวกมันเริ่มทยอยกันเข้ามาแล้ว แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เตรียมอพยพประชาชนหากมีเหตุฉุกเฉิน! แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกับดับเพลิงหรือยัง?”“เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“อืม ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันตอนนี้เลย!”“รับคำสั่ง!” องครักษ์รับคำสั่งแล้วแจ้งแต่ละทีมผ่านวิทยุสื่อสารทันที “อัลฟ่าทีมเคลียร์พื้นที่ บราโวเตรียมรถบรรทุกเปิดทางออกแล้วรอรับคำสั่ง ชาลีทีมวีไอพีเ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 66

    ไลลานอนตัวอ่อนระทวยอยู่ครู่หนึ่ง สักพักก็ขยับตัวยกศีรษะขึ้นมานอนหนุนแขนแข็งแรงข้างหนึ่งของสามี เบียดเรือนร่างบอบบางเข้าชิดเพื่อขอความอบอุ่นจากร่างกายของเขา ซึ่งชายหนุ่มเองก็เพิ่งผ่อนคลายจากอาการหัวใจเต้นแรง หายใจหอบเหนื่อย เขาพลิกตัวตะแคง รั้งต้นขาของหญิงสาว ให้ขึ้นมาก่ายเกยอยู่ครึ่งๆ บนร่างกายของเขา ขาของเธอเบียดชิดจนเขารู้สึกอบอุ่นและชุ่มชื้นในซอกลี้ลับ ไล้ฝ่ามือจากโค้งสะโพกเลยมาถึงต้นขา ลูบผิวเรียบเนียนไปมาเบาๆ เป็นจังหวะอย่างเพลิดเพลิน พร้อมๆ กับปลอบโยนให้เธอคลายความอ่อนเพลีย เพื่อเข้าสู่โหมดพักผ่อน “ฝ่าบาทเพคะ?” “หืม?” ชายหนุ่มผงกศีรษะขึ้นมองอย่างแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่าย ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเคลิ้มหลับไปแล้ว“คืนนี้เนญ่าเขาประกาศว่าจะเข้าหอกับฝ่าบาท แล้วทำไมพระองค์ถึงมาหาหม่อมฉันล่ะเพคะ?”“ก็ไม่อยากจะมา ตั้งใจจะสั่งสอนให้รู้สำนึกเสียหน่อยว่า การผลักดันให้ผัวไปมีผู้หญิงอื่น โดยไม่เต็มใจนั้นน่ะมันจะให้ผลยังไง แต่เผอิญว่าเห็นคนบางคน น้ำตาคลอเบ้าเลยมาดูเสียหน่อย ไม่รู้ว่าเสแสร้งแกล้งทำ หรือรู้จักที่จะหึงหวงผัวขึ้นมาบ้างแล้ว!”“หึงจริงๆ น่ะแหละเพคะ” ไลลายอมรับออกไปตรงๆ ถึงแม้ใ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 65 : นาทีระทึกขวัญ (2)

    กัปตันลุกขึ้นแล้วเดินออกประตูไปก่อน ผงกศีรษะให้นิดหนึ่งเมื่อเห็นพริมโรสยืนอยู่หน้าประตู เจ้าชายอิสราร์ยืนมองหญิงสาวผ่านช่องประตูห้องนักบินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือมาคว้าแขนเรียวเล็กดึงเข้ามาปะทะอกกว้าง รวบร่างบางเข้ามากอดรัดอย่างแนบแน่น ฝ่ามือข้างหนึ่งประคองไว้หลังศีรษะ แล้วบดขยี้ริมฝีปากร้อนระอุกับริมฝีปากนุ่มอย่างหิวกระหาย เร่าร้อนและดุเดือด เพราะอะดรีนาลีนที่หลั่งออกมาหลังจากเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์เฉียดตาย กระตุ้นให้อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่าน“อื้อ!..” ปลายลิ้นเงอะงะถูกดูดดุนและเกี่ยวกระหวัดไว้ด้วยลิ้นเร่าร้อนของอีกฝ่ายโดยไม่เปิดโอกาสให้ได้พักหายใจ ทำให้เกิดเสียงประท้วงแผ่วๆ ในลำคอ“ที่รัก~..ผมรักคุณ” เขาถอนริมฝีปากออก กระซิบเสียงแหบพร่าแนบชิดกับริมฝีปากนุ่มอุ่น เรียวลิ้นไล่ระไปบนริมฝีปากของอีกฝ่าย ก่อนประทับริมฝีปากลงมาอีกครั้ง หญิงสาวยกท่อนแขนขึ้นโอบรอบลำคอเขาไว้ ตอบรับจุมพิตด้วยจังหวะที่สอดรับกันเป็นอย่างดี เบียดร่างบอบบางเข้าแนบชิดร่างกำยำอย่างออดอ้อน ฝ่ามือหนาของเขาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังไล่ลงไปถึงโค้งสะโพกกลมมนแล้วกดเข้าหาลำตัวตามแรงอารมณ์ที่กำลังเพิ่มมากขึ้น“เอ่อ..ทูลฝ่าบาท พายุท

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 64 : นาทีระทึกขวัญ (1)

    รินรดานั่งเหม่อกำโทรศัพท์ไว้ในมือ หลังจากเพิ่งจะวางสายจากรามิล เขาสัญญาว่าจะรีบเคลียร์งานให้เรียบร้อย และจะตามไปหาที่เปเรซภายในสองวันเธอรู้สึกไม่สบายใจเมื่อนึกถึงความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมา แสงสว่างที่ลอยละล่องในความมืดส่องมาที่เธอ พร้อมกับเสียงกระซิบที่แผ่วเบาแต่ชัดเจน เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของใครในโลกนี้ มันเหมือนเสียงที่มาจากที่ไกลโพ้น ฟังดูทั้งใกล้และไกลในเวลาเดียวกัน ‘ถึงเวลาแล้ว…จงทำตามสัญญา’หญิงสาวไม่ได้บอกใครว่าหลังจากที่เธอ และพี่ชายฟื้นขึ้นมา เธอได้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหินพ่อมดลาบราดอไลต์ ด้วยความสงสัยและความหวัง เธอแอบพระมารดาเข้าไปในห้องลับ ท่องบทสวดที่เธอแอบจดเอาไว้ และอธิษฐานถึงสิ่งที่อยากรู้ที่สุดในชีวิตตอนนั้น นั่นก็คือการตามหาครอบครัวที่แท้จริงจากนั้นเธอก็ฝันซ้ำๆ เดิมๆ อยู่หลายครั้งจนมาถึงปัจจุบัน ไม่รู้ว่าบุคคลในฝันเป็นใคร เธอจำเรื่องราวได้ รู้ว่าคนในฝันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่จำหน้าไม่ได้เลยสักคน และครั้งที่ไปโรงพยาบาลจนเกิดอาการใจสั่น แล้วเจ็บแปลบอย่างรุนแรง จนหมดสติไปในครั้งนั้น ก็ทำให้เธอได้เห็นผู้หญิง ที่มีหน้าตาเหมือนเธอราวกับฝาแฝดชัดเจนเป็นครั้งแรก ในห้วงฝ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 63 : (っ˘з(˘⌣˘)18+

    “อะไรนะ!! แล้วได้ลงจอดฉุกเฉินไหม? งั้นถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนโยกย้ายคนจากรัฐดีไปรัฐอีก็ดำเนินการได้เลย! อืม..ฉันอยู่บนเครื่องบินแล้ว คงจะถึงไล่ๆ กัน!...ได้!…เอาตามนั้น!”เจ้าชายอิดรีสชะงักมือที่กำลังวางโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียง ขณะที่ปรายหางตาเห็นหุ่นอรชรอ้อนแอ้นกำลังเยื้องกรายเข้ามาในห้องด้วยกิริยาท่าทางที่ยั่วยวนหญิงสาวเข้ามายืนห่างจากเตียงไปประมาณหนึ่งช่วงแขน ค่อยๆ ปลดอาภรณ์ออกจากตัวทีละชิ้นอย่างเชื่องช้า พร้อมช้อนสายตาขึ้นมองชายหนุ่มอย่างเย้ายวนชวนเชิญเจ้าชายอิดรีสหยิบหมอนสองใบมาซ้อนหลัง นั่งกึ่งเอนพิงพนักหัวเตียงพาดแขนไว้บนเข่าข้างหนึ่งที่ตั้งชันขึ้น หรี่ตามองด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ดูเยือกเย็น กิริยาภายนอกยังคงสงบนิ่ง รอบกายยังเผยความเย่อหยิ่งจองหองออกมาด้วยเขาเหลือบตามองนาฬิกาที่โต๊ะหัวเตียง ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายเลือกเวลาได้เหมาะเจาะ ไลลาไปสั่งงานกับเด็กรับใช้ได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว และคงกำลังใกล้จะกลับมา เลยเปิดโอกาสให้น้องสาวสวมบทบาทน้องรักหักเหลี่ยมโหดเพื่อทำร้ายจิตใจผู้เป็นพี่ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา เขาปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจ โดยไม่ได้ปริปากเอ่ยทักท้วง เพื่อจะรอดูว่าเธอจะเปิดเผยเนื้อตั

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 62

    "ฝ่าบาท! แย่แล้วเพคะ! กัปตันถูกทำร้ายขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทด่วนเลยเพคะ!" เจ้าชายอิสราร์ลุกพรวดขึ้น พริมโรสผวาลุกตามแล้วพยุงแขนเขาไว้ข้างหนึ่ง"เกิดอะไรขึ้น?" ชายหนุ่มถามขณะก้าวเท้าออกเดินได้ไม่เร็วนัก มือเรียวจึงจับแขนเขายกขึ้นแล้วก้มตัวลอดศีรษะเข้าไปใต้แขนแข็งแรง ก่อนจะวางแขนเขาให้เกาะไหล่เธอไว้เพื่อช่วยพยุง ทำให้ชายหนุ่มเดินได้เร็วขึ้นกว่าเดิม"นักบินผู้ช่วยลอบทำร้ายกัปตันเพคะ! โชคดีว่าอยู่ในความสูงที่กัปตันเปิดโหมดออโต้ไพลอทเอาไว้ ทันทีที่เกิดเรื่องเขากดอันล็อกประตูทำให้พวกเราได้ยินเสียงและเข้าไปช่วยเหลือเขาไว้ได้ทันเวลา ตอนนี้องครักษ์ลากตัวหมอนั่นออกไปแล้วเพคะ!""ทำไมไม่ตามนักบินเสริมให้ขึ้นมาแทน?""หม่อมฉันไปปลุกแล้วไม่ตื่นเลยทั้งสองคน ไฟล์ทเนิร์ซกำลังดูอาการพวกเขาอยู่ กัปตันเลยให้มาขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทเพคะ!"ลูกเรือต่างก็เห็นพ้องต้องกันทุกคนว่า นาทีนี้ไม่มีใครจะเหมาะสมเท่ากับเจ้านายพระองค์นี้อีกแล้ว เขามีชั่วโมงบินของการเป็นนักบินเอฟสามสิบห้า ของกองทัพรวมห้าพันแปดสิบห้าชั่วโมง ในจำนวนนี้ มีชั่วโมงของการทำหน้าที่นักบินผู้ช่วย อยู่แปดร้อยแปดสิบสี่ชั่วโมงกับเครื่องบินรุ่นนี้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status