Beranda / โรแมนติก / อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย / ตอนที่ 53 : มีความรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับสาร

Share

ตอนที่ 53 : มีความรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับสาร

last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-18 13:45:48

พอพ้นสายตาผู้คนฮัลดาก็กัดฟันกรอด มือสองข้างกำไว้แน่น ไม่เคยรู้สึกพ่ายแพ้เช่นนี้มาก่อน เมื่อนึกตอนที่เจ้าชายอิสราร์แนะนำผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าผู้นั้นในฐานะพระคู่หมั้นให้พวกเธอได้รู้จัก 

หัวใจของฮัลดารู้สึกเจ็บแปลบ หน้าอกหายใจสะท้อนรัวถี่ด้วยความโกรธ พูดตอกย้ำตัวเองราวกับสะกดจิตว่ายอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ เชคฮ์เป็นที่รักและเคารพของประชาชน สมควรจะสมรสกับคนในชาติและศาสนาเดียวกัน เธอไม่มีวันยอมให้คนนอกมาทำให้ศาสนาที่บริสุทธิ์ในนามของพระเจ้าต้องเสื่อมเสียเป็นอันขาด

ฮัลดาเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องส่วนตัว อย่างใช้ความคิด เค้นสมองหาหนทาง ที่จะปกป้องบุคคลที่ตัวเองรัก จากคนที่ไม่เหมาะสมอย่างเต็มที่ และสิ่งแรกที่เธอคิดได้ก็คือ ต้องหาวิธีบังคับข่มขู่หรือลักพาตัว เพื่อให้คนผู้นั้นเห็นว่าการอยู่ใกล้ชิด กับเชคฮ์อิสราร์ มันอันตรายต่อชีวิตมากแค่ไหน 

พอคิดได้ดังนั้น เธอก็ส่งข้อความหา คนที่จะสามารถช่วยให้แผนนี้ของเธอสัมฤทธิ์ผลในทันที

…………………….

วันนี้เจ้าชายอิสราร์จะอยู่ที่ทีแลนด์เป็นคืนสุดท้าย  จึงชวนพริมโรสไปดินเนอร์ แบบเชฟส์เทเบิ้ลที่ห้องอาหาร และบาร์สุดชิคบนดาดฟ้าของโรงแรม หญิงสาวตอบรับด้วยความยินดีเพราะจะได้เพลิดเพลินดื่มด่ำไปกับบรรยากาศยามค่ำคืนของวิวเมืองในมุมหนึ่งร้อยแปดสิบองศาไปด้วย 

แต่ขณะที่กำลังรอลิฟต์อยู่นั้น เหล่าบรรดาบอดี้การ์ดก็ออกมาจากห้องพักกันอย่างพร้อมเพรียง ยืนอยู่หน้าประตูจนเต็มโถงทางเดินไปหมด พริมโรสคิ้วกระตุก หันไปถามสามีทันที

“นี่เราจะไปทานข้าวหรือจะไปรบเพคะ จำเป็นต้องติดตามไปเยอะขนาดนี้เลย?” เจ้าชายอิสราร์หันไปมองตามสายตา จากนั้นก็สะบัดมือสองครั้ง องครักษ์โค้งตัวน้อมรับคำสั่งแล้วก็กลับเข้าห้องไป มีเพียงสองคนที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุดเท่านั้นเดินเข้าลิฟต์ตามมาด้วย พริมโรสกดชั้นบนสุด แล้ววางมือที่ต้นแขนของเขา

“หม่อมฉันมีเรื่องสงสัยมานาน เรื่องฝ่าบาทกับท่านอักมัล ทำไมหม่อมฉันรู้สึกว่าฝ่าบาท ไม่ชอบคนตระกูลนี้เกินกว่าปกติธรรมดา” เจ้าชายอิสราร์จับมือเรียวรั้งมาระดับหน้าอก แล้วใช้ท้องนิ้วโป้งคลึงฝ่ามือนุ่มเบาๆ มุมปากยกขึ้นเหยียดยิ้มเย็นชาแต่ไม่ได้ตอบอะไร จนกระทั่งลิฟต์เปิดจึงได้เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงปกติ

“เขาฆ่าพ่อผม!” พริมโรสชะงัก แม้แต่มือก็กระตุกไปด้วย รู้สึกตัวว่าพูดในเรื่องที่ไม่สมควรพูดออกไป

“เอ่อ หม่อมฉันขอประทานอภัยเพคะ หม่อมฉัน…”

“ไม่เป็นไร! เป็นเรื่องที่คุณสมควรจะรู้” พริมโรสกัดริมฝีปากล่าง คำถามมากมายผุดขึ้นในสมองราวกับดอกเห็ด เขาทำสีหน้าเคร่งขรึมจริงจังแบบนั้นเธอยิ่งอยากรู้เข้าไปใหญ่ ชายหนุ่มปรายตามองอย่างนึกขัน กับความอยากรู้อยากเห็น ที่เก็บอาการเอาไว้อย่างมีมารยาท “อยากรู้อะไรก็ถามมา ตอบได้ก็จะตอบ!”

“หม่อมฉันรู้สึกเกรงใจ แต่ไหนๆ ฝ่าบาทก็อนุญาตแล้ว เดี๋ยวจะเสียน้ำใจกันเปล่าๆ”

พนักงานต้อนรับโค้งคำนับ แล้วผายมือให้เดินตามเขาไป องครักษ์เข็นวีลแชร์มายังโต๊ะส่วนตัว ที่จองเอาไว้ ทั้งสองโค้งคำนับแล้วออกไปรอข้างนอก พริมโรสนั่งเก้าอี้ด้านในมองวิวเมืองที่เต็มไปด้วยแสงสีและตึกสูงระฟ้ายามค่ำคืน ซึ่งห้องอาหารและบาร์แห่งนี้ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีวิวสวยที่สุดแห่งหนึ่ง ติดอันดันท็อปไฟว์ของโลกเลยทีเดียว

“อย่ามาเวิ่นเว้อ! เปิดโอกาสให้ถามก็รีบถาม อัดอั้นเต็มที่แล้วล่ะมัง?” หญิงสาวหันมาตวัดสายตาค้อนที่เขารู้ทัน เขาอมยิ้มอยู่ในสีหน้า หยิบแนปกิ้นบนโต๊ะมาคลี่ออกแล้วพับเป็นสองท่อน หันชายผ้าเข้าหาตัวแล้ววางไว้บนตักของเธอ พริมโรสขยับมือออกให้เขาวางผ้าแล้วเอ่ยปากถามต่อ

“และถ้าเขาเป็นฆาตกร ทำไมยังใช้ชีวิตเป็นปกติได้อยู่ล่ะเพคะ?” เขาเอื้อมมือมาหยิบแนปกิ้นตรงหน้าเธอ พับแล้ววางไว้บนตักตัวเอง ขณะที่ตอบคำถาม

“ไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ ที่จะทำให้ศาลพิพากษาลงโทษได้ยังไงล่ะ การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ในสมัยนั้น มุ่งเน้นไปที่การเค้นหาความจริง มากกว่าการค้นหาความจริง ทำให้คนบริสุทธิ์ไม่ได้รับความเป็นธรรม และผู้กระทำผิดก็ยังลอยนวล!"

"การลอบสังหารที่ไม่มีพยานและหลักฐานหรือเพคะ?"

"จะมีได้ไง! พยานถูกกำจัด! กล้องวงจรปิดทุกตัวก็เสีย! ช่างบังเอิญเสียจริง ตอนนั้นผมเรียนอยู่ที่อังกฤษ ไม่มีพาวเวอร์พอที่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับท่านพ่อได้ อีกทั้งท่านแม่ยังสั่งห้ามให้ยุติเพียงเท่านั้น!”  

ผู้พูดเผลอใส่อารมณ์ในขณะที่พูดไปด้วย ทำให้คนฟังต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ความอยากรู้อยากเห็นจุกอยู่ที่คอหอยไม่กล้าที่จะถามต่ออีก พอดีกับที่เชฟเสิฟอาหารคอร์สแรก พร้อมบรรยายถึงแรงบันดาลใจในการรังสรรค์เมนูคอร์สนี้ และอธิบายขั้นตอนการปรุงวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เป็นเมนูคอร์สสุดพิเศษสำหรับเจ้าชายโดยเฉพาะ 

พริมโรสลอบมองสีหน้าของเขาที่ดูผ่อนคลายมากขึ้นจากการขัดจังหวะของเชฟ จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก นึกอยากตบปากตัวเองอยู่ในใจ ความอยากรู้ก็ส่วนอยากรู้ แต่ถ้ามันไปสะกิดต่อมความทรงจำของเขา จนทำให้รู้สึกแย่ขนาดนี้เธอก็จะไม่ทำอีก อารมณ์และความรู้สึกของเขามีผลต่อจิตใจของเธอมากเหลือเกินในตอนนี้

…………………….

“ฝ่าบาททางนี้เพคะ!” ฮัลดาส่งเสียงเรียกผู้มาใหม่เบาๆ เธอกับชัยเคาะฮ์เนญ่ารู้จักกันดี เพราะเนญ่ามักจะถามข่าวคราวความเป็นไปของเชคฮ์ผ่านทางเธอเสมอ อีกทั้งยังใช้ให้คอยเป็นหูเป็นตาหากเชคฮ์พบสหายผู้หญิงก็ให้รีบรายงานทันที โดยจ่ายค่าจ้างเป็นจำนวนเงินที่เธอปฏิเสธไม่ได้เลยทีเดียว

“ฮัลดา! ข้อความที่ส่งมาหมายความว่ายังไง?” เนญ่าเอ่ยปากถามพร้อมนั่งลงที่เก้าอี้โซฟาสไตล์นอร์ดิกทรงเปลือกหอย 

ฮัลดาไม่ตอบแต่หยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดแกลลอรี่รูปภาพแล้วส่งให้ ซึ่งเนญ่ารับมามองดูอยู่ครู่หนึ่ง ก็เงยหน้าขึ้นถามด้วยความฉงนสนเท่ห์

“ใคร?”

“พระคู่หมั้น! เพิ่งจะแนะนำให้พวกหม่อมฉันรู้จักอย่างเป็นทางการเมื่อเช้า!” ขณะที่พูดไฟโทสะก็พุ่งขึ้นกลางอกอีกครั้งอย่างสุดระงับ

“อะไรนะ!!” เนญ่าอุทานเสียงดัง ใบหน้าสวยพริ้งเปลี่ยนเป็นซีดสลับกับแดงอย่างน่าขัน “เป็นไปไม่ได้! เขาเพิ่งจะตัดขาดกับพี่หญิงเองนะ ทำไมถึงรวดเร็วอย่างนี้ล่ะ!!”

“ตามมาจากเปเรซเพคะ เชคฮ์พาขึ้นเครื่องบินมาด้วยกัน!” นัยน์ตาเล็กหรี่ลงสาดประกายกราดเกรี้ยว มุมปากเหยียดยิ้มอย่างชั่วร้าย

“จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้!! แต่จะทำยังไงดีล่ะ? ถึงฉันจะเอาข่าวนี้ไปบอกกับพี่หญิง แต่เขาก็ไม่สนใจเรื่องของเชคฮ์อีกแล้ว!” ในใจเนญ่าเต็มไปด้วยความอึดอัดกลับกลุ้มเหมือนมีอะไรมากดทับจนแทบหายใจไม่ออก

“หม่อมฉันมีแผนเพคะ”

“ยังไง?” เนญ่าเงยหน้าขึ้นมองด้วยความหวัง

ฮัลดาเล่าถึงแผนการ ที่จะขอให้เนญ่าส่งคนไปใช้กำลังข่มขู่ให้ทางนั้นกลัว ซึ่งเอาแค่พอบาดเจ็บไม่จำเป็นต้องสาหัสถึงตาย โดยเธอจะส่งข้อความไปล่อให้ผู้หญิงคนนั้นมารอที่จุดนัดพบ แล้วค่อยให้คนของเนญ่าลงมือ ซึ่งเนญ่าก็เห็นดีด้วยและตกลงนัดแนะช่วงเวลาที่แน่นอนในการลงมือ  

เมื่อทั้งคู่ลุกออกไปแล้วนั้น ด้านหลังฉากกั้นที่เป็นรั้วต้นไม้ติดเก้าอี้โซฟา ได้มีชายร่างสูงโปร่งลุกตามพวกเธอไปติดๆ รังสีโหดเหี้ยมอำมหิตแผ่ออกจากร่างสูงใหญ่ ในตัวมีกลิ่นอายของความกระหายเลือด และรังสีเข่นฆ่าอันน่าสะพรึงกลัว ก็ระเหยออกมาเป็นระยะ รอยยิ้มชั่วร้ายเผยขึ้นบนใบหน้า เขาได้ยินแผนการณ์ทั้งหมดนี้อย่างชัดเจน 

…………………….

ไลลากำลังจะไปดินเนอร์ ที่ห้องอาหารบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมกับเจ้าชายอิดรีส แต่วันนี้บิดาไม่อยู่และไม่รู้ว่าจะกลับเมื่อไหร่ เธอเลยจะชวนน้องสาวไปทานข้าวด้วยแต่หาตัวไม่พบ ถามเด็กก็ไม่มีใครรู้ว่าหายไปไหน

“เนญ่า! เธอหายไปไหนมา ฉันตามหาไปทั่วเลย!” เนญ่าเดินเข้ามาที่ห้องโถงกลาง พอเห็นพี่สาวก็เกิดอาการขุ่นมัวอย่างบอกไม่ถูก จึงทำเป็นไม่ได้ยินเดินหลีกเข้าห้องส่วนตัวอย่างไม่ใส่ใจ

ไลลากำลังจะเอ่ยปากเรียก แต่พอดีมีข้อความของอิดรีสเข้ามาเสียก่อนเธอจึงรีบเปิดอ่าน 

[ มีธุระด่วนมาก! อาจจะใช้เวลาชั่วโมงนึงเป็นอย่างน้อย .. อิดรีส ]

ไลลาถอนหายใจทิ้งตัวลงนั่งกึ่งเอนที่โซฟา หยิบมือถือมาไถเล่นโซเชียลอย่างหงุดหงิด 

เพิ่งจะออกเดทครั้งแรกก็เฟลเสียแล้ว อีกหน่อยคงจะยุ่งจนแทบไม่มีเวลาให้แน่ๆ!!

…………………….

“ชัยค์เคาะฮ์เนญ่า! เชคฮ์อิสราร์ให้องครักษ์ส่งจดหมายมาให้เพคะ!” เด็กรับใช้ส่วนตัวยื่นซองในมือให้เจ้านายสาวอย่างตื่นเต้น

เนญ่าที่กำลังนอนเล่นโซเชียลในโทรศัพท์ลุกพรวดขึ้นมาทันทีที่ได้ยินชื่อเจ้าของจดหมาย รีบคว้ามาเปิดอ่านมือไม้สั่น

“อุลยา! รีบแต่งตัวให้ฉันเร็ว! ฉันจะไปพบเชคฮ์อิสราร์!” เด็กรับใช้ลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินเจ้านายสั่งการ รู้สึกดีใจที่นายสาวมีโอกาสได้สมหวังกับสิ่งที่ตั้งใจไว้เสียที 

เนญ่าเดินตามองครักษ์มายังห้องหนึ่ง ซึ่งพอเปิดประตูออกก็ชะงักเล็กน้อยไม่ได้เข้าไปทันที ภายในห้องมืดสนิทมองไม่เห็นอะไรสักอย่างราวกับไม่มีคนอยู่ ลางสังหรณ์ผุดวาบขึ้นในใจทำให้เกิดความระแวงขึ้นมา

“แน่ใจนะว่าเชคฮ์ให้ฉันมาที่ห้องนี้?” เธอถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“พ่ะย่ะค่ะ! เชคฮ์รออยู่ด้านในแล้ว เชิญฝ่าบาทเสด็จ”

อยู่ข้างใน แล้วทำไมไม่เปิดไฟนะ หรือว่านอนหลับ?

เนญ่าก้าวเข้าไปอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก ทั้งยังบังเกิดความกระวนกระวายขึ้นมาโดยไร้สาเหตุ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงประตูปิดดังปังสนั่นก้องอยู่ภายในห้อง ยังไม่ทันที่จะได้หายใจทั่วท้อง ก็ถูกใครคนหนึ่งคว้าแขนเหวี่ยงไปที่เตียง

“ว้าย!”  หัวใจเนญ่ากระตุกวาบพร้อมกับความหวาดกลัวที่แล่นพรูเข้ามาอย่างรุนแรง แต่แล้วเขาก็ตามมานั่งคร่อมที่กลางลำตัวในทันที

“ช่วยด้วย! ช่วย..! อื๊อๆๆๆ!!” หญิงสาวส่งเสียงฟูมฟายร้องขอความช่วยเหลือด้วยความกลัวได้เพียงครู่เดียว ก็ถูกผูกปากไว้แน่น ทำได้แค่ตะโกนอยู่ในลำคอเท่านั้น

หญิงสาวพยายามดิ้นรนขัดขืน ส่งเสียงสะอื้นในลำคอไม่หยุด เมื่อชายในความมืดพยายามจะมัดข้อมือเธอแล้วผูกไว้กับหลักที่อยู่เหนือศีรษะ ช่วงที่เขาก้มตัวเข้ามาใกล้ ทำให้เห็นหน้าตาที่ไร้ความรู้สึกยิ่งกว่าคนตายภายในความมืด หญิงสาวตกใจกรีดร้องออกมาอย่างไร้สติ เห็นรูดวงตาที่กลวงโบ๋ชัดเจน ดูเหมือนผีมากกว่าเป็นคน 

แต่ก่อนที่จะเป็นลม ก็รู้สึกว่าเสื้อผ้าถูกฉีดขาด สองขาถูกจับให้กางอ้าออกแล้วของแข็งขนาดใหญ่ ก็ยัดเยียดเข้ามาระหว่างขาของเธออย่างรุนแรง คล้ายกับแท่งหินที่มีความร้อนสูงถูกอัดแน่นไปด้วยเพลิงแห่งโทสะที่กำลังลุกไหม้ ความเจ็บปวดระลอกแล้วระลอกเล่าผุดขึ้นมาเสียดความรู้สึกจนทนไม่ไหว พยายามจะดิ้นหนีเพื่อเอาตัวรอดให้ถึงที่สุด แต่สองมือแข็งแกร่งก็ล็อกขาเอาไว้อย่างแน่นหนา ร่างเล็กๆ ตัวสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุม เธอพยายามจนหมดแรงและสติก็ดับวับไปในที่สุด

…………………….

ขณะที่พริมโรสกำลังรอเมนูคอร์สที่หกของเชฟ สายตาพลันเหลือบไปเห็นเจ้าชายอิดรีสและเจ้าหญิงไลลาผ่านประตูเข้ามาด้วยสีหน้าแช่มชื่น มองตากันอย่างลึกซึ้งด้วยดวงตาเป็นประกาย เธอหันไปมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของสามี ก็เห็นเขาเลิกคิ้วขึ้นมองคู่มาใหม่นั้นอย่างฉงนอยู่เช่นกัน 

พริมโรสหันกลับไปมองทางเดิม ทันได้เห็นเจ้าชายอิดรีสขยิบตาอย่างชั่วร้ายแฝงความนัยแปลกๆ ตอบอาการเลิกคิ้วอย่างฉงนของเจ้าชายอิสราร์ ส่วนเจ้าหญิงไลลาก็เชิดหน้ามองเมินไปทางอื่นโดยไม่คิดจะรักษามารยาท ทำเหมือนอีกฝ่ายเป็นอากาศธาตุไปเสียอย่างนั้น

“ฉันว่าเราเปลี่ยนมานั่งตรงนี้ดีกว่านะที่รัก?” ไลลาชะงักเมื่อเจ้าชายอิดรีสหันมาถาม ใบหน้าสวยฉายอารมณ์ขุ่นมัวขึ้นวูบหนึ่ง

“แต่ว่าฝ่าบาท…”

“ไม่เอาน่า! อย่างไรก็ญาติกันทั้งนั้น! ถึงแม้ราชนิกูลที่ถูกผลักดันให้ต้องไปอยู่นอกสายตาอย่างฉัน จะไม่มีโอกาสได้พบเจอญาติมิตรสักเท่าไหร่ แต่เมื่อมาเจอกันแล้ว อย่างไรเสียก็ต้องรักษาธรรมเนียมประจบสอพลอ ผู้มีอำนาจในยุคนี้เอาไว้สักหน่อย ไม่ดื้อนะ” เขาตบฝ่ามือใหญ่ ลงบนหลังมือเรียวเล็ก ที่คล้องแขนอยู่นั้นไปด้วยเบาๆ พลางพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นอ่อนโยน แต่กลับปล่อยคำพูด ให้ลอยเสียดสีผู้คนอย่างอันธพาล 

ไลลาสะบัดหน้าพรืดอย่างเอาแต่ใจ นั่งลงด้วยท่าทีที่ไม่เต็มใจนัก เจ้าชายอิดรีสยิ้มอย่างเอ็นดู ที่เห็นหญิงสาวเชื่อฟัง และปฏิบัติตามคำสั่งของเขาอย่างน่ารัก เขาหย่อนตัวนั่งลงข้างกันอย่างแนบชิดราวกับเป็นคู่รักที่เพิ่งแต่งงานใหม่ เงยหน้ามองเจ้าของโต๊ะอย่างไม่รู้สึกรู้สา และไม่แคร์สายตาสองคู่ ที่กำลังจ้องเขม็งมองมาเลยแม้แต่น้อย

“จะไม่ถามกันสักคำหรือว่าฉันเต็มใจไหม?” เจ้าชายอิสราร์เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงประชด แต่สีหน้าของเจ้าชายอิดรีสกลับกระหยิ่มยิ้มย่องดั่งจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ คล้ายอยากจะยั่วให้อีกฝ่ายอารมณ์เสียเล่นๆ เสียมากกว่า

“พอดีฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย นั่งร่วมโต๊ะกันแบบนี้ก็สะดวกดี ประหยัดเวลาเจ้าหน้าที่เขาด้วย หวังว่านายคงจะไม่รังเกียจ” 

“แต่ฉันรังเกียจ!!” เจ้าชายอิสราร์พูดสวนทันควัน ตวัดสายตามองด้วยความเยียบเย็น “ฉันกำลังดินเนอร์กับเมีย และต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ไม่อยากเจออะไรที่ทำให้เสียบรรยากาศ!” 

พอไลลาได้ยินคู่กรณีพูดออกมาแบบนี้ ก็ถึงกับหันขวับมามอง แต่สีหน้าค่อนไปทางแปลกใจมากกว่าอยู่ในอารมณ์โกรธ 

“อ้อ! เพราะเหตุนี้เองสินะ ถึงได้ทำตัวไร้มารยาทกับหม่อมฉัน แล้วทำไมไม่พูดออกมาตั้งแต่แรก!?!” ดวงตาสีดำสนิทมองอีกฝ่ายนิ่ง อย่างไร้ซึ่งความละอายแก่ใจ

“เธอคิดว่าพ่อเธอจะยอม?” ไลลาเม้มปาก เพราะเถียงไม่ออก ถึงแม้เธอจะยอมเลิกรา แต่ถ้าชายาคนแรกไม่ใช่คนสกุลเดียวกัน บิดาของเธอ ที่เป็นหนึ่งในสภาอาวุโส ไม่มีทางรับรองการสมรสนี้อย่างเด็ดขาด 

“ที่รักอย่าไปสนใจ! เขาเป็นพวกที่มีตาแต่ไร้แวว! แต่นับว่าเป็นเรื่องดีที่สุดเท่าที่หมอนี่ทำมา! เพราะเพชรที่เลอค่าเม็ดนี้เหมาะที่จะประดับบนมงกุฏของฉัน มากกว่าจะเป็นแค่หัวแหวนที่ด้อยค่าของคนอื่น!” เจ้าชายอิดรีสพูดพร้อมกับสอดมือเข้าไปในกลุ่มผมสลวยด้านหลังศีรษะ แล้วดันใบหน้าสวยหวานให้หันมาหาอย่างทะนุถนอม ก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากอิ่ม อย่างไม่แคร์สายคนรอบข้างเบาๆ ทีหนึ่ง ท่าทางขวยเขินน่ามองของหญิงสาว เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากริมฝีปากเขา

ไลลาก้มหน้าลง พร้อมทั้งสองแก้มแดงซ่านอย่างเขินอาย เธอรู้สึกว่าจุมพิตที่แผ่วเบา แต่ว่าหนักแน่นของเขาเมื่อครู่ มีเสน่ห์ที่ชวนให้หลงใหลอย่างน่าประหลาด 

และการแสดงออกที่อ่อนโยน ทะนุถนอมเธอเป็นพิเศษอย่างเปิดเผยนั้น สามารถทำให้ความมั่นใจในตัวเอง ที่เคยสูญเสียไปเมื่อก่อนหน้านี้ ได้รับการกู้คืนกลับมาแล้วอย่างสมศักดิ์ศรี แววตาเจิดจ้าในความเชื่อมั่นส่องประกายขึ้นอีกครั้ง

ทำไมเขาถึงอ่านใจฉันได้ทะลุปรุโปร่งเช่นนี้นะ!!

“ฝ่าบาท! บังเอิญจริงๆ ที่ได้พบทั้งสองพระองค์ที่นี่!” เจ้าชายทั้งสองหันไปมอง เจ้าชายอิดรีสลุกขึ้นต้อนรับผู้มาใหม่อย่างให้เกียรติ ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเขาทั้งสอง

แต่ขณะนั้นเอง บริกรถือกระดาษมาส่งให้พริมโรสอย่างนอบน้อม หญิงสาวหยิบมาอ่านแล้วขมวดคิ้ว เธอหาโอกาสจับแขนเขาเบาๆ แล้วขออนุญาตออกไปข้างนอกสักครู่ พอเขาพยักหน้าเธอจึงเดินออกมายืนรอลิฟต์

ชายคนหนึ่งเดินออกมาจากประตูบันไดหนีไฟ เขายืนแข็งค้างอยู่กับที่ เมื่อสายตามองไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่ง ยืนรอลิฟต์อยู่ตรงปลายสุดของช่องทางเดิน เขาได้สติทันทีที่ลิฟต์เปิดออก รีบสาวเท้าตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว และกดชั้นล่างสุด ถอยไปยืนอย่างสงบอยู่มุมตรงข้าม ลอบมองหญิงสาวผ่านเงาสะท้อนของผนังโดยไม่ให้เธอรู้ตัว

……………………

Chef’s Table - เชฟส์ เทเบิล : รูปแบบการรับประทานอาหารที่เสิร์ฟเมนูตามใจเชฟนั่นเอง โดยส่วนใหญ่มักจะนั่งรับประทานกันที่โต๊ะยาวหน้าครัวเปิด จะเป็นร้านอาหาร บ้านเชฟ หรือที่ไหนก็ได้  คล้ายกับโอมากาเสะ (​Omakase)

Napkin - แนปกิ้น : ผ้าเช็ดปาก

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 54

    “ท่านหญิง คุณรามิลมาขอพบเจ้าค่ะ”พวงแก้มนวลแดง ระเรื่อขึ้นทันทีที่ได้ยินชื่อ ที่กำลังคิดถึงอยู่ เธอกำลังทบทวนเหตุการณ์ในคืนนั้นที่ทำให้หัวใจเต้นแรงจนควบคุมไม่ได้“บอกให้เขารอสักครู่”“เจ้าค่ะ”วันนั้นที่เธอหมดสติในโรงพยาบาล แต่กลับฟื้นขึ้นมาในลักษณะที่นอนหนุนเขาอยู่ครึ่งตัว ศีรษะวางอยู่บนต้นแขนแก้มแนบอยู่กับอก ปลายนิ้วเรียวของเขาลูบไล้พวงแก้มอย่างทะนุถนอม แม้หลับตาก็ยังสัมผัสได้ว่าดวงตารุ่มร้อนคู่นั้นจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา พอเธอลืมตาขึ้นจึงสบประสานสายตาลึกล้ำดำสนิทของเขาราวกับกำลังต้องมนต์ไปโดยไม่รู้ตัว เธอยังมองเห็นความปีติยินดีที่ไม่สามารถอธิบายได้ เปี่ยมล้นจนเผยออกมาให้เห็นทางดวงตาของเขา ความห่วงใยฉายชัดออกมาอย่างชัดเจน และบอกเล่าถึงความรักความคิดถึงที่ฝังลึกอยู่ในหัวใจและไม่เคยจะลบเลือน เธอมองสีหน้าที่กำลังเคลิบเคลิ้ม อยู่กับความทรงจำอันสวยงามในอดีตนานอยู่ชั่วครู่ ในที่สุดเขาก็เอ่ยขึ้นมาอย่างตื้นตันใจ “ผมอยากจูบคุณ อนุญาตไหม?” หญิงสาวหลับตาสัมผัสความรู้สึกจากอ้อมกอดอันทรงพลังที่กำลังถ่ายเทความอบอุ่นมาให้เธออย่างต่อเนื่อง กลิ่นอายของเขาแผ่อวลเข้ามาปะทะจมูกแล้วโอบล้อมเธอเอาไว้

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 55

    วิ่งตามกันมาได้สักพัก เขาก็ชะลอความเร็ว แล้วผลักประตูบันไดหนีไฟให้เปิดออก ดึงมือหญิงสาวให้ตามเข้ามาแล้วผลักร่างบางให้ติดผนัง ล็อกข้อมือข้างหนึ่งกดไว้เหนือศีรษะ โน้มใบหน้าฉกวูบเข้ามาหมายจะประกบจุมพิตที่ริมฝีปากอิ่ม พริมโรสตกใจแต่ยังเบนหน้าออกข้างเบี่ยงหนีได้ทัน จุมพิตจึงพลาดเป้าไปกระแทกโดนที่แก้มนุ่ม ฝ่ามือใหญ่ข้างที่ยังว่างประคองใบหน้าด้านข้างของเธอไว้ แล้วบังคับให้หันเข้าหาริมฝีปากเขาอย่างมุ่งร้ายหญิงสาวผ่อนแรงต่อต้านลงนิดหนึ่ง แล้วสอดมือข้างที่ยังเป็นอิสระลอดเข้ามาตรงที่ว่างระหว่างช่องแขนด้านในอย่างว่องไว ชูมือขึ้นเหนือลำคอ แล้วกระแทกนิ้วชี้ กับนิ้วกลาง จิ้มตรงตำแหน่งกรามใต้หูอย่างรวดเร็วและหนักหน่วง “โอ๊ยย!!” ร่างสูงสะดุ้งสุดตัวร้องออกมาเสียงลั่นอย่างคิดไม่ถึง เขาพยายามเอียงตัวหนีความเจ็บปวด แต่นิ้วที่ร้ายพอๆ กับนิสัยของเจ้าของก็ยังตามกดย้ำอย่างหนักหน่วงไม่ลดละ จนร่างของอีกฝ่ายโค้งเอียงลงไปตามศีรษะลักษณะคล้ายน้ำในหูไม่เท่ากันจนเสียสมดุล พอกดได้ระยะที่ต้องการก็เหนี่ยวคอเป้าหมายเพื่อยกตัวเขาให้ลอยขึ้น พร้อมกับง้างเข่าโจมตีไปที่รังไข่อย่างเต็มเหนี่ยว“โอ๊กกก!!” ร่างสูงตัวงอลงคล้า

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 56

    “ชัยค์เคาะฮ์ไลลา เชคฮ์อักมัลฝากข้อความให้ทูลฝ่าบาทว่ามีเรื่องด่วนที่เปเรซต้องรีบไปจัดการ ขอเดินทางกลับไปก่อน อนุญาตให้ฝ่าบาทอยู่เที่ยวที่ทีแลนด์สักเดือนสองเดือนค่อยเดินทางกลับก็ได้เพคะ”“หือ? ด่วนขนาดต้องยอมเดินทางแออัดไปกับคนทั่วไปเลยเนี่ยนะ? แล้วเนญ่าล่ะออกมาจากห้องหรือยัง?” “ชัยค์เคาะฮ์เนญ่าออกไปก่อนฝ่าบาทอีกเพคะ และยังไม่กลับเข้ามา”“ไปไหน?”“มีนัดกับเชคฮ์อิสราร์เพคะ”“อะไรนะ?” ไลลาตกใจ เรื่องนี้เป็นไม่ได้อย่างแน่นอน เธอเพิ่งจะแยกกับเชคฮ์อิสรามาได้สักพัก คิดว่าต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลแน่ๆ จึงหยิบโทรศัพท์ส่งข้อความหาเจ้าชายอิดรีสทันที…“ฝ่าบาท! จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงแรม ช่วงเวลาที่เด็กรับใช้ของชัยค์เคาะฮ์เนญ่าแจ้งมา ปรากฏว่าไม่มีพ่ะย่ะค่ะ ช่วงเวลาดังกล่าวหายไปกลายเป็นจอดำ ตอนนี้ทางทีมรักษาความปลอดภัยของโรงแรมกำลังสืบสวนเรื่องนี้ และสอบถามทางเราว่าต้องการจะแจ้งความไว้ก่อนหรือไม่”“แล้วช่วงเวลาก่อนหน้าล่ะ? เช็กย้อนหลังไปยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย ดูว่าได้ออกจากห้องไปไหนมาก่อนที่จะไปตามนัดหรือเปล่า!”“ตรวจสอบเรียบร้อยพ่ะย่ะค่ะ ตามคลิปและผลรายงานที่สรุปส่งไปให้เมื่อสักครู่”เจ้าชา

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 57

    “ว่าไง? มีอะไรก็รีบๆ พูด กำลังจะขึ้นเครื่องแล้ว!” ท่านอักมัลเร่งปลายสาย เพราะได้ยินแอร์กราวนด์ประกาศเรียกผู้โดยสารในโซนที่นั่งของเขาให้ขึ้นเครื่อง ดังขึ้นมาพอดี“เหมืองบิทคอยน์ที่รัฐบีถูกพบแล้วพ่ะย่ะค่ะ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทรัพย์สินไปทั้งหมด!”“อะไรนะ!! เพิ่งจะโดนที่รัฐเอไปหยกๆ แล้วที่รัฐบีโดนทุกที่เลยหรือเปล่า?”“ทุกที่กระหม่อม! เหมือนกับมีคนชี้เป้าระบุตำแหน่งให้เจ้าหน้าที่ ตอนนี้เหลือเพียงที่รัฐดี แต่พวกเราได้เคลื่อนย้ายเครื่องมือออกจากพื้นที่ เคลียร์สถานที่และทำลายหลักฐานหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“แล้วก่อนหน้านั้นพวกนายมัวทำอะไรกันอยู่ ไม่มีใครแจ้งเตือนก่อนเจ้าหน้าที่จะบุกเข้ามาเลยหรือไง?”“พวกเขาตัดสัญญาการเชื่อมต่ออินเนอร์เนต จากนั้นก็ตัดสัญญาณไฟฉุกเฉิน ช่างและคนที่อยู่เวรในช่วงนั้นๆ จึงมัวแต่แก้ปัญหากันอยู่ พอเจ้าหน้าที่บุกเข้ามาจึงไม่มีใครรู้ตัวเลยกระหม่อม! และเข้ายึดพร้อมกันหมดเลยทุกที่!”“แล้วคนล่ะ ยังอยู่หรือเปล่า?”“พระชนนีถูกพาตัวไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“หึย!! ไอ้พวกบ้า! ไร้ประโยชน์จริงๆ!” ท่านอักมัลตัดสายอุทานออกมาด้วยความเดือดดาล โดนบุกทลายแหล่งทำเงินก็ช่างเถอะ แต่พาคนสำคัญไปด้วยนี่

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 58

    เจ้าชายอิสราร์ นั่งกึ่งเอนพิงพนักหัวเตียง อ่านรายงานขอเสนออนุมัติโครงการของบริษัทที่รินรดานำมาให้เขาเซ็น พออ่านจบก็ลงลายมือชื่อเพื่อให้ดำเนินการได้ จากนั้นก็ปิดแฟ้มนำไปวางที่หัวเตียง ถอดแว่นตาวางไว้ด้านบน แล้วหยิบโทรศัพท์มาอ่านข่าวทั่วไปเพื่อฆ่าเวลาเขารู้ว่าห้ามภรรยาไม่ให้กลับไปที่เกิดเหตุอีกไม่ได้ จึงทำเป็นนิ่งเฉยแล้วตรงเข้ามาห้องนอนเลย รอเวลาให้เธอได้ทำในสิ่งที่อยากทำให้เต็มที่ เสร็จแล้วก็คงกลับมาเอง…พริมโรสออกมาจากลิฟต์แล้วตรงไปที่ห้องเกิดเหตุ บอกตรงๆ ว่าเธอไม่ใว้ใจใครทั้งนั้น โดยเฉพาะเพื่อนที่เจ้าเล่ห์อย่างเจ้าชายอิดรีส ขนาดบางรายเป็นเพื่อนที่คบกันมาเกือบสิบปี ยังลงมือทำร้ายกันได้ภายในสิบวินาที เพียงแค่มีความเห็นที่แตกต่างและมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าเพื่อนยังกลายมาเป็นศัตรูได้แบบนี้เราก็ไม่ต้องกลัวใครอีกแล้ว เพราะศัตรูที่น่ากลัวที่สุดก็คือคนที่เราเชื่อได้อย่างสนิทใจกรณีนี้ก็เช่นกัน ใครจะรู้ว่าเขาอาจจะเป็นคนเดียวกันกับคนร้ายที่สร้างสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นมาเพื่อใส่ร้ายสามีเธอก็ได้ เพราะนี่มันเป็นพื้นที่ของเขา เพราะฉะนั้นหาหลักฐานเพื่อเป็นการป้องกันตัวเองไว้ก่อนจึงเป็นการดี

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 59

    เอ็นจิเนียและเมนเทนแนนซ์ กำลังทำการตรวจสอบรอบเครื่องบินอย่างละเอียดหรือที่เรียกว่าทรานซิทเช็ค ซึ่งใช้เวลาประมาณสามสิบนาที อีกทั้งยังเป็นหน้าที่ของนักบินที่ต้องตรวจความพร้อมอีกรอบ เพื่อให้มั่นใจว่าจะทำการบินได้อย่างปลอดภัยสูงสุดพริมโรสเดินตามกัปตัน สำรวจความเรียบร้อยทั่วไป อย่างเงียบๆ ไม่พยายามไปรบกวนสมาธิของเขา เครื่องบินส่วนตัวลำนี้จอดอยู่บริเวณอาคารผู้โดยสารส่วนบุคคล ซึ่งเป็นไพรเวทเทอร์มินอลแบบวีไอพี แยกส่วนออกจากท่าจอดอากาศยานทั่วไปของสนามบิน"ถ้าคุณสนใจ สามารถไปนั่งที่อ็อบเสิฟเฝอะสีท ได้นะครับ" กัปตันอนุญาตอย่างใจดี ซึ่งอ็อบเสิฟเฝอะสีทเป็นที่นั่งด้านหลังกัปตันเรียกว่าที่นั่งสังเกตการณ์ พริมโรสยิ้มให้อย่างสุภาพ "ขอบคุณค่ะ ฉันแค่ตรวจสอบทั่วๆ ไปในฐานะผู้ดูแลความปลอดภัยของเชคฮ์เท่านั้นค่ะ แค่กัปตันอนุญาตให้ฉันเดินไปด้วยกันอย่างนี้ ก็รู้สึกเกรงใจมากแล้ว" พริมโรสกล่าวอย่างนอบน้อม"อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ ผมเข้าใจดีว่าความปลอดภัยของเชคฮ์ย่อมมาก่อนเสมอ เพียงแต่ผมประหลาดใจนิดหน่อยที่คุณทุ่มเท และใส่ใจในการทำงานมากกว่าองครักษ์คนอื่นๆ เสียอีก" เขาได้ยินพวกลูกเรือคุยกันว่า เชคฮ์กับหัวหน้าอง

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 60

    ไลลายังไม่ได้หลับ กำลังนึกถึงคำขอร้องของน้องสาวอย่างลำบากใจ เนญ่าขอให้เธอรับเป็นขายารองของเจ้าชายอิดรีสอย่างถูกต้องตามธรรมเนียม ในฐานะลูกผู้หญิงเหมือนกันก็พอจะเข้าใจถึงความสูญเสียอันน่าขมขื่น และยิ่งรู้สึกแย่ที่สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในครอบครัวของเธอเอง แต่การที่จะไปยัดเยียดผู้หญิงให้เขาทั้งๆ ที่เห็นอยู่กับตาแล้วว่าเขาไม่ได้แยแสน้องสาวเธอเลยสักนิด ดูจะเป็นการหาเรื่องใส่ตัวเองเสียมากกว่า เธอจึงปฎิเสธไปตรงๆ และจะช่วยหาวิธีแก้ไขปัญหาทางอื่นให้ แต่ก็กลายเป็นคนที่โหดร้ายและแล้งน้ำใจในสายตาอีกฝ่ายขึ้นมาทันที"ถ้าพี่หญิงไม่ช่วย น้องจะฆ่าตัวตายหนีความอัปยศ! ถ้าไม่ใช่เชคฮ์อิสราร์เป็นคนทำก็ต้องเป็นเชคฮ์อิดรีส เหตุมันเกิดในพื้นที่ของเขาจะปัดความรับผิดชอบทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้ยังไง! เผลอๆ เขาอาจจะเป็นคนบงการก็ได้ โรงแรมมีระบบรักษาความปลอดภัยหลายชั้น ใครหน้าไหนจะกล้าเข้ามา!" “อย่าพูดจาเพ้อเจ้อ! เขาจะไปทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไงในเมื่อเขาอยู่กับพี่ตลอดเวลา!”“น้องไม่รับรู้ ถ้าพี่หญิงไม่ช่วย น้องจะทำร้ายตัวเองจนกว่าพี่หญิงจะยอม!” ไลลารู้ว่าน้องสาวกำลังกดดันให้เธอรู้สึกผิดทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ได้

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 61

    ฮัลดายืนอยู่ตรงช่องประตู มองหญิงสาวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าห้องทำงานของเจ้านาย ด้วยแววตาชิงชังราวกับมีความแค้นกันมานับร้อยนับพันปี“อ้าว! ฮัลดาเข้ามาสิ ยืนอยู่ทำไม!”ฮัลดาเดินเข้ามาใกล้อย่างอ้อยอิ่ง พริมโรสทำมือให้นั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะ พร้อมหยิบกระดาษจดหมาย ที่นัดให้เธอไปพบในสวนของโรงแรม และกระดุมเม็ดหนึ่งวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าหญิงสาว ในขณะที่สายตาก็มองอีกฝ่ายอย่างไม่วางตา จึงทันได้เห็นแววตาไหววูบแวบหนึ่งแล้วเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว“เธอรู้หรือเปล่าว่าชัยค์เคาะฮ์เนญ่า ถูกคนลวงไปทำมิดีมิร้าย”“อะไรนะ! เกิดขึ้นเมื่อไหร่เจ้าคะ?” พริมโรสอ่านปฏิกิริยาของหญิงสาวจากสีหน้าอาการที่แสดงออกมาว่าตกใจจริงๆ ไม่ได้เสแสร้ง“เวลาเดียวกับที่มีข้อความนัดพบนี้ส่งมาให้ฉัน เจตนาก็เพื่อล่อลวงให้ฉันถูกรุมทำร้าย แต่ที่ไม่เข้าใจคือกระดุมเม็ดนี้น่ะ เอามาให้ฉันทำไม ตั้งใจจะบอกอะไร? เธอพอจะให้คำตอบกับฉันได้ไหม?”“ฉันจะรู้ได้ไงล่ะเจ้าคะ! นายหญิงต้องไปถามคนส่งเองถึงจะรู้เหตุผลที่แท้จริงของเขา”“อ้าว! ก็กำลังถามอยู่นี่ไง อย่าทำตัวเป็นปลาทองลืมง่าย!” พริมโรสพูดพลางหยิบหลักฐานออกมาวางทีละอย่าง “นี่รอยนิ้วมือเจ้าของจดหมายแ

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-18

Bab terbaru

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 70 

    “ฮ่าๆๆ ไง! ถึงกลับโกรธจนตัวเนื้อสั่นเลยเหรอ เป็นยังไงบ้างล่ะ รสชาติของการสูญเสีย ขมขื่นถึงอกถึงใจดีไหม?” คำพูดประโยคนี้ของเขาทำให้หญิงสาวแน่ใจได้ทันทีว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ“ฉันเกลียดแกจนอยากจะเป็นคนถ่อย จะได้ถ่มถุยใส่หน้าส้นตึกของแกให้สาสมกับความรู้สึกขยะแขยง!” ชารีฟหรือณัทธรสะอึก เมื่อเจอความโกรธเกลียดอย่างรุนแรงจากผู้หญิงที่เขารัก“เกลียดฉันงั้นรึ? ต้องเป็นฉันไหมที่จะพูดประโยคนั้น แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เธอจะลืมฉันได้อย่างง่ายดายและไปแต่งงานใหม่!"“ฉันไม่ได้แต่งงานใหม่! นี่เป็นการแต่งงานครั้งแรกและครั้งเดียวของฉัน และอะไรคือลืมได้อย่างง่ายดาย? นายหนีตายไปเป็นปีๆ แล้วฉันจะต้องไปบวชชี เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้นายด้วยอย่างนั้นรึ! เรารักกันดูดดื่มขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ก่อนที่นายจะฆ่าพ่อฉัน เขายังพูดไม่ให้ฉันยึดติดกับตัวเขาเลย! ตรรกะของนายมันบิดเบี้ยวเป็นเวย์เดียวกับพวกโรคจิต ที่นายกับฉันมาถึงจุดนี้เป็นเพราะการตัดสินใจเลือกของตัวเองทั้งนั้น อย่าเอาฉันมาเป็นข้ออ้างเพื่อปกปิดยีนขี้แพ้ในตัวหน่อยเลย!”“ไม่ต้องมาทำปากดียั่วอารมณ์ให้ฉันรู้สึกละอายใจหรอก คำพูดยั่วยุของ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 69 : ตามไล่ล่า (3)

    “ฮัลโหล? ว่าไง?”“ไอ้ชารีฟ! ไอ้ห่วย! สายของแกทำงานยังไงวะถึงได้รายงานผิดพลาด! เป้าหมายไปเส้นทางอื่นไม่ได้เฉียดมาทางนี้เลยด้วยซ้ำ!!”“จะเป็นไปได้ยังไง? ไม่ผิดแน่ๆ!! นายดักซุ่มอยู่ที่นั่นแหละเผื่อว่าจะเป็นแผนลวง!”ชารีฟหรือณัทธร กดปุ่มตัดสาย แล้วดึงหูฟังบลูทูธออกอย่างหงุดหงิด จะเกิดการผิดพลาดไปได้ยังไง ในเมื่อเขาเพิ่งจะได้รับการยืนยันเส้นทางมาจากสายที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาของเชคฮ์อิสราร์เมื่อไม่กี่นาทีมานี้เองหรือว่าเปลี่ยนเส้นทางกระทันหัน??เขาคิดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบฉุกเฉินมากกว่าการที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวว่ามีข่าวรั่วไหลชายหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้น เพื่อดูเวลาก่อนการตัดสินใจ ในเมื่อภารกิจลอบสังหารเชคฮ์อิสราร์ได้ผิดพลาดไปแล้ว เขาเลยคิดว่าไปปิดจ๊อบหนี้เก่าของตัวเองก่อนจะดีกว่า แล้วค่อยกลับไปรายงานภารกิจที่ล้มเหลว ซึ่งถ้ารีบไปตอนนี้ก็น่าจะไปทันเวลากับที่เป้าหมายขับมาถึงในจุดที่เขากำหนดเอาไว้ในแผนพอดี…ชารีฟหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดแอพพลิเคชันที่ใช้ตรวจสอบสัญญาณจีพีเอส เพื่อหาตำแหน่งปัจจุบันของรถเป้าหมาย ซึ่งก็เห็นในแผนที่ว่ารถยนต์คันดังกล่าว กำลังจะแล่นผ่านสี่แยกไฟแดง

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 68 : ตามไล่ล่า (2)

    ความร้ายกาจของบิดาที่เธอได้ยินจากปากของคนอื่น เป็นเหมือนหนามแหลมคม ที่คอยทิ่มแทงจิตใจอยู่ตลอด แต่กระบวนการให้อภัย พยายามดิ้นรนที่จะผลักความคิด และความรู้สึกด้านลบเหล่านี้ออกไป ด้วยการจดจ่อกับความรัก และความทรงจำดีๆ นึกถึงช่วงเวลาที่ยากลำบาก ที่เขามักจะแบกรับความเจ็บปวดเหล่านั้นไว้แทนอยู่เสมอ แล้วผลักดันให้เธอก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนั้นไปให้ได้ ฝึกฝนเธอให้เข้มแข็ง สอนให้ยอมรับทุกความผิดพลาด และความล้มเหลว แล้วเรียนรู้ที่จะเยียวยาตัวเองเพื่อปิดกั้นทุกความเจ็บปวดเธอรู้ดีว่าการยึดติดกับความรู้สึกในทางลบ รังแต่จะเพิ่มความทุกข์ให้กับชีวิตมากขึ้น และขัดขวางไม่ให้หัวใจได้พบกับความสงบสุข แต่การที่จะละวางด้วยการให้อภัยนั้น ก็ทำให้เกิดความรู้สึกผิด ต่อบุคคลที่ต้องเสียชีวิตไปอย่างไม่เป็นธรรมนั้นด้วยเช่นกันแต่เมื่อมองในมุมกลับกัน เขาก็เป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถทำผิดได้ เธอเองก็ไม่ได้รับการยกเว้น ความผิดหวังมักจะทำให้คนเราจมอยู่กับอดีต จนลืมมองความสุขที่กำลังได้รับอยู่ในปัจจุบัน และกำลังจะตามมาอีกมากมายในอนาคต จึงเป็นความคิดที่โง่เขลาอยู่ไม่ใช่น้อย ถ้าเรายังหยุดอยู่ที่ควา

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 67 : ตามไล่ล่า (1)

    “ตรวจสอบชายสองคนที่สิบสองนาฬิกา ประตูทางเข้าด้านนอก ในมือถือผ้าสีดำห่อหุ้มวัตถุลักษณะเป็นแท่งยาวทรงกระบอก เปลี่ยน!”“แลนด์โรเวอร์สีดำขับเข้ามาจอดหน้าประตูทางเข้าออกของพนักงานชั้นใต้ดินสองคัน คันหนึ่งประมาณห้าคนใส่ชุดพนักงานรักษาความปลอดภัยเดินเข้าไปด้านใน มีอาวุธปืนติดตัว เปลี่ยน!”“ประตูทางออกอาคารผู้โดยสารหนึ่งที่เก้านาฬิกา พนักงานรักษาความปลอดภัยกำลังลากโซ่ตะปูเรือใบมาขวางถนน คาดว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของสนามบิน เปลี่ยน!”“ประตูทางออกฉุกเฉินของอาคารผู้โดยสารสอง ทางสะดวก ชาลีทีมเตรียมพร้อม รอรับคำสั่ง เปลี่ยน!” เสียงรายงานผ่านวิทยุสื่อสารเข้ามาเป็นระยะๆ หลังจากที่กระจายกำลังไปประจำตามจุดสำคัญต่างๆ เพื่อสังเกตความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม“พวกมันเริ่มทยอยกันเข้ามาแล้ว แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เตรียมอพยพประชาชนหากมีเหตุฉุกเฉิน! แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกับดับเพลิงหรือยัง?”“เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“อืม ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันตอนนี้เลย!”“รับคำสั่ง!” องครักษ์รับคำสั่งแล้วแจ้งแต่ละทีมผ่านวิทยุสื่อสารทันที “อัลฟ่าทีมเคลียร์พื้นที่ บราโวเตรียมรถบรรทุกเปิดทางออกแล้วรอรับคำสั่ง ชาลีทีมวีไอพีเ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 66

    ไลลานอนตัวอ่อนระทวยอยู่ครู่หนึ่ง สักพักก็ขยับตัวยกศีรษะขึ้นมานอนหนุนแขนแข็งแรงข้างหนึ่งของสามี เบียดเรือนร่างบอบบางเข้าชิดเพื่อขอความอบอุ่นจากร่างกายของเขา ซึ่งชายหนุ่มเองก็เพิ่งผ่อนคลายจากอาการหัวใจเต้นแรง หายใจหอบเหนื่อย เขาพลิกตัวตะแคง รั้งต้นขาของหญิงสาว ให้ขึ้นมาก่ายเกยอยู่ครึ่งๆ บนร่างกายของเขา ขาของเธอเบียดชิดจนเขารู้สึกอบอุ่นและชุ่มชื้นในซอกลี้ลับ ไล้ฝ่ามือจากโค้งสะโพกเลยมาถึงต้นขา ลูบผิวเรียบเนียนไปมาเบาๆ เป็นจังหวะอย่างเพลิดเพลิน พร้อมๆ กับปลอบโยนให้เธอคลายความอ่อนเพลีย เพื่อเข้าสู่โหมดพักผ่อน “ฝ่าบาทเพคะ?” “หืม?” ชายหนุ่มผงกศีรษะขึ้นมองอย่างแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่าย ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเคลิ้มหลับไปแล้ว“คืนนี้เนญ่าเขาประกาศว่าจะเข้าหอกับฝ่าบาท แล้วทำไมพระองค์ถึงมาหาหม่อมฉันล่ะเพคะ?”“ก็ไม่อยากจะมา ตั้งใจจะสั่งสอนให้รู้สำนึกเสียหน่อยว่า การผลักดันให้ผัวไปมีผู้หญิงอื่น โดยไม่เต็มใจนั้นน่ะมันจะให้ผลยังไง แต่เผอิญว่าเห็นคนบางคน น้ำตาคลอเบ้าเลยมาดูเสียหน่อย ไม่รู้ว่าเสแสร้งแกล้งทำ หรือรู้จักที่จะหึงหวงผัวขึ้นมาบ้างแล้ว!”“หึงจริงๆ น่ะแหละเพคะ” ไลลายอมรับออกไปตรงๆ ถึงแม้ใ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 65 : นาทีระทึกขวัญ (2)

    กัปตันลุกขึ้นแล้วเดินออกประตูไปก่อน ผงกศีรษะให้นิดหนึ่งเมื่อเห็นพริมโรสยืนอยู่หน้าประตู เจ้าชายอิสราร์ยืนมองหญิงสาวผ่านช่องประตูห้องนักบินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือมาคว้าแขนเรียวเล็กดึงเข้ามาปะทะอกกว้าง รวบร่างบางเข้ามากอดรัดอย่างแนบแน่น ฝ่ามือข้างหนึ่งประคองไว้หลังศีรษะ แล้วบดขยี้ริมฝีปากร้อนระอุกับริมฝีปากนุ่มอย่างหิวกระหาย เร่าร้อนและดุเดือด เพราะอะดรีนาลีนที่หลั่งออกมาหลังจากเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์เฉียดตาย กระตุ้นให้อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่าน“อื้อ!..” ปลายลิ้นเงอะงะถูกดูดดุนและเกี่ยวกระหวัดไว้ด้วยลิ้นเร่าร้อนของอีกฝ่ายโดยไม่เปิดโอกาสให้ได้พักหายใจ ทำให้เกิดเสียงประท้วงแผ่วๆ ในลำคอ“ที่รัก~..ผมรักคุณ” เขาถอนริมฝีปากออก กระซิบเสียงแหบพร่าแนบชิดกับริมฝีปากนุ่มอุ่น เรียวลิ้นไล่ระไปบนริมฝีปากของอีกฝ่าย ก่อนประทับริมฝีปากลงมาอีกครั้ง หญิงสาวยกท่อนแขนขึ้นโอบรอบลำคอเขาไว้ ตอบรับจุมพิตด้วยจังหวะที่สอดรับกันเป็นอย่างดี เบียดร่างบอบบางเข้าแนบชิดร่างกำยำอย่างออดอ้อน ฝ่ามือหนาของเขาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังไล่ลงไปถึงโค้งสะโพกกลมมนแล้วกดเข้าหาลำตัวตามแรงอารมณ์ที่กำลังเพิ่มมากขึ้น“เอ่อ..ทูลฝ่าบาท พายุท

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 64 : นาทีระทึกขวัญ (1)

    รินรดานั่งเหม่อกำโทรศัพท์ไว้ในมือ หลังจากเพิ่งจะวางสายจากรามิล เขาสัญญาว่าจะรีบเคลียร์งานให้เรียบร้อย และจะตามไปหาที่เปเรซภายในสองวันเธอรู้สึกไม่สบายใจเมื่อนึกถึงความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมา แสงสว่างที่ลอยละล่องในความมืดส่องมาที่เธอ พร้อมกับเสียงกระซิบที่แผ่วเบาแต่ชัดเจน เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของใครในโลกนี้ มันเหมือนเสียงที่มาจากที่ไกลโพ้น ฟังดูทั้งใกล้และไกลในเวลาเดียวกัน ‘ถึงเวลาแล้ว…จงทำตามสัญญา’หญิงสาวไม่ได้บอกใครว่าหลังจากที่เธอ และพี่ชายฟื้นขึ้นมา เธอได้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหินพ่อมดลาบราดอไลต์ ด้วยความสงสัยและความหวัง เธอแอบพระมารดาเข้าไปในห้องลับ ท่องบทสวดที่เธอแอบจดเอาไว้ และอธิษฐานถึงสิ่งที่อยากรู้ที่สุดในชีวิตตอนนั้น นั่นก็คือการตามหาครอบครัวที่แท้จริงจากนั้นเธอก็ฝันซ้ำๆ เดิมๆ อยู่หลายครั้งจนมาถึงปัจจุบัน ไม่รู้ว่าบุคคลในฝันเป็นใคร เธอจำเรื่องราวได้ รู้ว่าคนในฝันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่จำหน้าไม่ได้เลยสักคน และครั้งที่ไปโรงพยาบาลจนเกิดอาการใจสั่น แล้วเจ็บแปลบอย่างรุนแรง จนหมดสติไปในครั้งนั้น ก็ทำให้เธอได้เห็นผู้หญิง ที่มีหน้าตาเหมือนเธอราวกับฝาแฝดชัดเจนเป็นครั้งแรก ในห้วงฝ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 63 : (っ˘з(˘⌣˘)18+

    “อะไรนะ!! แล้วได้ลงจอดฉุกเฉินไหม? งั้นถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนโยกย้ายคนจากรัฐดีไปรัฐอีก็ดำเนินการได้เลย! อืม..ฉันอยู่บนเครื่องบินแล้ว คงจะถึงไล่ๆ กัน!...ได้!…เอาตามนั้น!”เจ้าชายอิดรีสชะงักมือที่กำลังวางโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียง ขณะที่ปรายหางตาเห็นหุ่นอรชรอ้อนแอ้นกำลังเยื้องกรายเข้ามาในห้องด้วยกิริยาท่าทางที่ยั่วยวนหญิงสาวเข้ามายืนห่างจากเตียงไปประมาณหนึ่งช่วงแขน ค่อยๆ ปลดอาภรณ์ออกจากตัวทีละชิ้นอย่างเชื่องช้า พร้อมช้อนสายตาขึ้นมองชายหนุ่มอย่างเย้ายวนชวนเชิญเจ้าชายอิดรีสหยิบหมอนสองใบมาซ้อนหลัง นั่งกึ่งเอนพิงพนักหัวเตียงพาดแขนไว้บนเข่าข้างหนึ่งที่ตั้งชันขึ้น หรี่ตามองด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ดูเยือกเย็น กิริยาภายนอกยังคงสงบนิ่ง รอบกายยังเผยความเย่อหยิ่งจองหองออกมาด้วยเขาเหลือบตามองนาฬิกาที่โต๊ะหัวเตียง ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายเลือกเวลาได้เหมาะเจาะ ไลลาไปสั่งงานกับเด็กรับใช้ได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว และคงกำลังใกล้จะกลับมา เลยเปิดโอกาสให้น้องสาวสวมบทบาทน้องรักหักเหลี่ยมโหดเพื่อทำร้ายจิตใจผู้เป็นพี่ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา เขาปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจ โดยไม่ได้ปริปากเอ่ยทักท้วง เพื่อจะรอดูว่าเธอจะเปิดเผยเนื้อตั

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 62

    "ฝ่าบาท! แย่แล้วเพคะ! กัปตันถูกทำร้ายขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทด่วนเลยเพคะ!" เจ้าชายอิสราร์ลุกพรวดขึ้น พริมโรสผวาลุกตามแล้วพยุงแขนเขาไว้ข้างหนึ่ง"เกิดอะไรขึ้น?" ชายหนุ่มถามขณะก้าวเท้าออกเดินได้ไม่เร็วนัก มือเรียวจึงจับแขนเขายกขึ้นแล้วก้มตัวลอดศีรษะเข้าไปใต้แขนแข็งแรง ก่อนจะวางแขนเขาให้เกาะไหล่เธอไว้เพื่อช่วยพยุง ทำให้ชายหนุ่มเดินได้เร็วขึ้นกว่าเดิม"นักบินผู้ช่วยลอบทำร้ายกัปตันเพคะ! โชคดีว่าอยู่ในความสูงที่กัปตันเปิดโหมดออโต้ไพลอทเอาไว้ ทันทีที่เกิดเรื่องเขากดอันล็อกประตูทำให้พวกเราได้ยินเสียงและเข้าไปช่วยเหลือเขาไว้ได้ทันเวลา ตอนนี้องครักษ์ลากตัวหมอนั่นออกไปแล้วเพคะ!""ทำไมไม่ตามนักบินเสริมให้ขึ้นมาแทน?""หม่อมฉันไปปลุกแล้วไม่ตื่นเลยทั้งสองคน ไฟล์ทเนิร์ซกำลังดูอาการพวกเขาอยู่ กัปตันเลยให้มาขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทเพคะ!"ลูกเรือต่างก็เห็นพ้องต้องกันทุกคนว่า นาทีนี้ไม่มีใครจะเหมาะสมเท่ากับเจ้านายพระองค์นี้อีกแล้ว เขามีชั่วโมงบินของการเป็นนักบินเอฟสามสิบห้า ของกองทัพรวมห้าพันแปดสิบห้าชั่วโมง ในจำนวนนี้ มีชั่วโมงของการทำหน้าที่นักบินผู้ช่วย อยู่แปดร้อยแปดสิบสี่ชั่วโมงกับเครื่องบินรุ่นนี้

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status