Share

ตอนที่ 54

last update Last Updated: 2025-03-18 13:47:10

“ท่านหญิง คุณรามิลมาขอพบเจ้าค่ะ”

พวงแก้มนวลแดง ระเรื่อขึ้นทันทีที่ได้ยินชื่อ ที่กำลังคิดถึงอยู่ เธอกำลังทบทวนเหตุการณ์ในคืนนั้นที่ทำให้หัวใจเต้นแรงจนควบคุมไม่ได้

“บอกให้เขารอสักครู่”

“เจ้าค่ะ”

วันนั้นที่เธอหมดสติในโรงพยาบาล แต่กลับฟื้นขึ้นมาในลักษณะที่นอนหนุนเขาอยู่ครึ่งตัว ศีรษะวางอยู่บนต้นแขนแก้มแนบอยู่กับอก ปลายนิ้วเรียวของเขาลูบไล้พวงแก้มอย่างทะนุถนอม แม้หลับตาก็ยังสัมผัสได้ว่าดวงตารุ่มร้อนคู่นั้นจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา พอเธอลืมตาขึ้นจึงสบประสานสายตาลึกล้ำดำสนิทของเขาราวกับกำลังต้องมนต์ไปโดยไม่รู้ตัว 

เธอยังมองเห็นความปีติยินดีที่ไม่สามารถอธิบายได้ เปี่ยมล้นจนเผยออกมาให้เห็นทางดวงตาของเขา ความห่วงใยฉายชัดออกมาอย่างชัดเจน และบอกเล่าถึงความรักความคิดถึงที่ฝังลึกอยู่ในหัวใจและไม่เคยจะลบเลือน 

เธอมองสีหน้าที่กำลังเคลิบเคลิ้ม อยู่กับความทรงจำอันสวยงามในอดีตนานอยู่ชั่วครู่ ในที่สุดเขาก็เอ่ยขึ้นมาอย่างตื้นตันใจ  

“ผมอยากจูบคุณ อนุญาตไหม?” 

หญิงสาวหลับตาสัมผัสความรู้สึกจากอ้อมกอดอันทรงพลังที่กำลังถ่ายเทความอบอุ่นมาให้เธออย่างต่อเนื่อง กลิ่นอายของเขาแผ่อวลเข้ามาปะทะจมูกแล้วโอบล้อมเธอเอาไว้ ทำให้เธอสงบและคลายความกังวลได้อย่างประหลาด ในใจยังเกิดความรู้สึกหวานชื่นอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูกขึ้นมาอีกด้วย

“ถ้าบอกว่าไม่!”

“ผมก็จะจูบ” นัยน์ตาสวยปรือตาขึ้นมอง

“แล้วจะถามเพื่อ?”

เขาวางมือใหญ่ทาบทับหลังมือเรียวเล็ก ตรงตำแหน่งหัวใจของเขา ความรู้สึกอยากจะปกป้องคุ้มครองซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อนจู่โจมเข้ามาในหัวใจของเขาอย่างรุนแรง เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสุดแสนจะอ่อนโยน

“เพื่อให้รู้ตัวว่าต่อไปนี้ คุณไม่สามารถให้ใครจูบคุณได้อีกแล้วนอกจากผม!” 

เสียงนุ่มทุ้มประกาศออกมาราวกับเป็นคำมั่นสัญญา เพื่อบอกว่าจากนี้ไปเธอจะเป็นสิทธิ์ขาดของเขาแต่เพียงผู้เดียว

“ฉันไปอ่อยคุณตอนไหนหรือคะ? ถึงทำให้คุณเข้าใจว่าฉันจะให้คุณจูบได้ง่ายๆ!”

“ผมต่างหากที่กำลังอ่อย! จำผมได้แล้วใช่ไหม?” หญิงสาวเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ

“ทำไมถึงรู้คะ?”

“ผมรู้ตั้งแต่ที่คุณสบตาผม และวางมือไว้ตรงนี้อยู่ตลอดเวลา” 

ฝ่ามือใหญ่สอดประสานกับมือเรียวเล็ก แล้วกอบกุมเอาไว้  กดให้แนบชิดไปกับตัวมากยิ่งขึ้น รับรู้ได้ถึงหัวใจสองดวงที่เต้นผิดจังหวะขึ้นมาพร้อมกัน

“รู้สึกไหม? เหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านไปมาระหว่างเรา” 

หญิงสาวหลุบตามองที่มือ พยักหน้าเบาๆ เป็นความรู้สึกที่ยากเกินอธิบายเป็นคำพูด ราวกับสายฟ้าสายหนึ่งพุ่งมาชนหัวใจที่นิ่งสงบตลอดมาของเธออย่างรุนแรง

“คุณรอฉันนานไหมคะ?”

“นานมาก! รอมาเกือบครึ่งชีวิตแล้ว รอทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะมีปาฏิหารย์เกิดขึ้นจริงหรือเปล่า สงสารผมไหม?” 

แขนสองข้างที่กอดเธอไว้สั่นเล็กน้อย ทำให้ในใจของเธอท่วมท้นไปด้วยความเห็นอกเห็นใจในความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธออย่างลึกซึ้ง ทั้งยังสั่นสะท้านไปทั้งหัวใจเพราะความรักที่มาแบบไม่คิดฝันและไม่ทันได้ตั้งตัว ความซาบซึ้งใจที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อนกำลังแผ่ซ่านไปทั่ว 

“ยังอยากจูบฉันอยู่ไหมคะ?”

“แย่จริง! ถามอะไรอย่างนั้นล่ะ!” 

เขาหลุบเปลือกตาลง ซ่อนความปรารถนาในดวงตาเอาไว้ สอดมือเข้าหลังศีรษะ  ก้มหน้าลงแล้วจุมพิตลงบนกลีบปากอวบอิ่มของเธออย่างเร่าร้อน ปลายลิ้นร้อนผ่าวแทรกเข้ามาเกี่ยวกระหวัดลิ้นนุ่มอย่างอุกอาจ เวลานี้ในสมองของเขามีแต่เธอเท่านั้น ไม่มีที่ว่างให้สิ่งอื่นใดสอดแทรกลงไปได้อีก

จุมพิตของเขาเริ่มดูดดื่มหวานล้ำขึ้นเรื่อยๆ เธอรับรู้ได้ว่าอารมณ์สับสนบ้าคลั่งของเขาคงคลายลงบ้างแล้ว นัยน์ตาคมหวานปรือขึ้นมองเขาที่กำลังถอนริมฝีปากออกช้าๆ ใช้สายตาลึกล้ำกวาดไล้ไปทั่วใบหน้า ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดอยู่ข้างแก้มเบาๆ จนสั่นสะท้าน ไออุ่นไร้รูปร่างที่ไม่อาจบรรยายได้เอ่อล้นขึ้นมาเต็มหัวใจทีละน้อย

ชายหนุ่มหลุบตามองริมฝีปากแดงก่ำ ที่เผยอออกเล็กน้อย ราวกับกำลังเชิญชวนให้บุรุษเข้าไปลองจุมพิตอีกสักครั้ง เขาไม่อาจหักห้ามใจที่อยากจะแนบจุมพิตลงบนริมฝีปากแดงก่ำเย้ายวนนั้นได้ หญิงสาวหลับตาพริ้มรับรสจุมพิตอ่อนโยนเปี่ยมด้วยความรู้สึกลึกซึ้งของเขา และครั้งนี้ก็เป็นจุมพิตที่ยาวนานนับเป็นศตวรรษในความคิดของเธอเลยทีเดียว

รินรดาหน้าแดงก่ำ สลัดศีรษะไล่ความวาบหวามออกจากห้วงความคิด ลุกเดินมาหน้ากระจกยาวติดผนัง ร่างบางหมุนซ้ายหมุนขวาสำรวจเสื้อผ้าหน้าผม ว่าพอจะรับแขกในสภาพแบบนี้ได้ไหม เธอคิดว่าเสื้อกระโปรงตัวหลวมพอได้อยู่ แต่ทรงผมดังโงะที่มัดรวบเป็นจุกไว้บนหัวนั้นเริ่มหลุดลุ่ยลงมาบ้างแล้ว ที่ทำทรงนี้เพราะยังไม่ได้สระผมและคิดว่าไม่ได้ออกไปไหนเลยรวบๆ เอาไว้ก่อน แต่จะว่าไปก็ดูศิลป์ไปอีกแบบ เพราะปอยผมสลวยที่ปลิวสวอยนั้นกลับไปเน้นลำคอให้เรียวสวยมากขึ้นกว่าเดิม 

หญิงสาวเดินมาหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง หยิบลิปกลอสเนื้อโปร่งใสที่เจือสีชมพูอ่อนๆ ขึ้นมาปาดไล้ลงบนริมฝีปาก ซึ่งทำให้ดูอวบอิ่มฉ่ำวาวเป็นสาวเฮลท์ตี้ในลุคที่เป็นธรรมชาติขึ้นมาทันที 

รามิลชะงักมือที่กำลังยกแก้วน้ำชาขึ้นดื่ม วางแก้วลงบนจานรองดังเดิม ลุกเดินไปหาหญิงสาว ฝ่ามือใหญ่จับไว้ที่ต้นแขนแล้วเบี่ยงหน้าจุมพิตที่พวงแก้มนวลทีหนึ่ง ปลายจมูกขยับเข้าถูไถแก้มนวลของหญิงสาวอย่างสนิทสนม เคลื่อนเรียวปากอบอุ่นผ่านมาที่ริมฝีปากอิ่มชมพูระเรื่อ พร้อมกดรอยประทับอย่างแผ่วเบา เอ่ยคำออดอ้อนเสียงนุ่ม

“รดา~..คิดถึงจังเลย” หญิงสาวใบหน้าร้อนผ่าวจนตัวเองรู้สึกได้ คำเรียกขานอย่างสนิทสนมนั้นทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวจนเต้นเร็วผิดปกติ รู้สึกสะทกสะท้านไปกับความใกล้ชิดจนปรับสีหน้าไม่ทันและวางตัวไม่ถูก รีบโบกสองมือพัดไล่ความร้อนฉ่าที่เกิดขึ้นบนใบหน้าที่คิดว่าคงจะร้อนจัด จนแดงไปหมดด้วยความประหม่า เขาคลี่ยิ้มละมุนออกมาเล็กน้อย มองความเขินอายที่ฉายชัดออกมานั้นอย่างเอ็นดู เห็นเป็นเสน่ห์ที่ดูน่ารัก 

“ผมมาชวนคุณไปทานข้าวข้างนอก ไปไหม?”

“ไปค่ะ แต่ขอฉันไปเปลี่ยนชุดก่อน”

“ไม่ต้องเปลี่ยน! ผมจะพาไปเดินสตรีทฟู้ดหาของกินเล่นอย่างละนิดละหน่อย”

“วิเศษเลยค่ะ! เคยเห็นตามช่องของยูทูปเบอร์ต่างประเทศเขามารีวิวเอาไว้ เคยนึกอยากจะไปบ้างอยู่เหมือนกัน เราไปกันเดี๋ยวเลยนะคะ!” 

ดวงตาคู่งามเป็นประกายพราวระยับ ฉายแววกระตือรือล้นขึ้นมาทันทีที่พูดถึงเรื่องของกิน ลืมไปหมดแล้วอารมณ์ที่หวั่นไหวจนเขินอายเมื่อก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มมองรอยยิ้มสดใสนั้นแล้วพลอยอารมณ์ดีตามไปด้วย มุมปากผุดรอยยิ้มขึ้นมาจางๆ ด้วยความรักความเอ็นดู บอกกับตัวเองไว้ว่าเพื่อรอยยิ้มนี้ของเธอแล้ว จะให้ทำอะไรก็ได้เขายินดีทุกอย่าง

……………………

พริมโรสเดินมาถึงศาลาไม้สีขาวที่เป็นจุดนัดพบ เดิมด้านหน้าศาลาจะเป็นลานหญ้าโล่งกว้างกลางสวน แต่ขณะนี้มีการตกแต่งจนเต็มพื้นที่ ด้านหน้าเวทีมีการจัดวางเก้าอี้เป็นแบบเธียเตอร์แยกเป็นสองฝั่ง ตรงกลางเป็นทางเดิน ด้านข้างตกแต่งด้วยต้นคัตเตอร์ทั้งสองด้านจนดูคล้ายทุ่งดอกไม้สีขาว บนเวทีมีฉากวงกลมซ้อนกันสามวง ตกแต่งด้วยใบไม้สีเขียวและดอกไม้โทนขาวนู้ดและน้ำตาล มีโลโก้งานเป็นรูปดอกคามิเลียอยู่ตรงกลาง คาดว่าน่าจะเตรียมไว้สำหรับจัดพิธีงานแต่งงานกลางแจ้ง

หญิงสาวเดินเลี่ยงทะลุผ่านออกไปตรงสวนด้านหลัง ซึ่งมีพุ่มไม้ดัดรูปทรงกระต่ายตัวใหญ่กับตัวเล็ก ล้อมกรอบด้วยกำแพงต้นไม้เป็นพุ่มเตี้ยทรงเหลี่ยมมีความสูงเพียงแค่เอวอยู่ด้านหลัง 

เธอไม่ต้องการอยู่ในพื้นที่โล่งโดยรอบตรงจุดนั้น เปลี่ยนมุมมายืนหันหลังให้พุ่มไม้ใหญ่แบบนี้ทำให้อุ่นใจกว่า อย่างน้อยก็ไม่ต้องคอยระแวงทางด้านหลัง เพราะยังไม่รู้แน่ชัดว่าคนที่เดินตามเธอมาตั้งแต่ในลิฟต์ กับคนที่ส่งข้อความมานัดพบ เป็นคนคนเดียวกันหรือเปล่า

คงไม่ดวงซวยถูกสไนเปอร์ส่องในที่สาธารณะแบบนี้หรอกนะ!!

พริมโรสก้มมองที่เท้าตัวเอง รู้สึกค่อนข้างกังวลเล็กน้อย ถ้ามีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นมา การต่อสู้บนส้นสูงสี่นิ้วกับการเหยียบลงบนพื้นหญ้าที่นุ่มเกินไปคงลำบากอยู่ไม่น้อย มันทำให้เสียการทรงตัวได้ง่าย

มือเรียวที่กำกระดุมเม็ดหนึ่งไว้ในมือยกขึ้น แล้วสอดกระดุมเม็ดนั้นซุกไว้ในบรา จากนั้นพับกระดาษข้อความให้เล็กพอที่จะสอดไว้ใต้ฝ่าเท้าบนรองเท้าส้นสูง ในนี้มีทั้งลายนิ้วมือและลายมือของคนเขียนเธอต้องเก็บเอาไว้ให้ดี พอสอดเสร็จเรียบร้อยก็ยืดตัวขึ้นเตรียมพร้อมรับสถานการณ์

ภายใต้ชายคาของตัวอาคารทางซ้ายมือของหญิงสาว มีชายคนหนึ่งยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น ท่ามกลางแสงวอร์มไวท์จากโคมไฟภายในสวนที่ไม่ค่อยสว่างมากนัก ทำให้เขาเพ่งสายตามองใบหน้างดงามที่กำลังยืนนิ่งอยู่นั้นอย่างพิจารณา 

เขาเจอเธอที่หน้าลิฟต์โดยบังเอิญ หัวใจเต้นรัวแรงด้วยลางสังหรณ์ และตกใจจนตัวชาที่ได้เจอผู้หญิงที่มีใบหน้าเหมือนคนในใจเขาอย่างไม่คาดฝันเป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกนั้นเขาเห็นเธอคุยกับผู้ชายที่นั่งในรถวีลแชร์อย่างสนิทสนม ครั้งนี้จึงรีบตามมาเพื่อดูใกล้ๆ ว่าเป็นเพียงแค่คนหน้าเหมือน หรือเป็นคนคนเดียวกัน 

และจากที่เห็นในมุมนี้บอกได้เลยว่าใช่เธอจริงๆ ผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ในความคิดคำนึงของเขามาโดยตลอด ความทรงจำอันพร่าเลือนผุดวาบขึ้นมาในสมอง หัวใจขมขื่นอย่างไม่อาจบรรยายออกมาได้ เขาหลับตาลงสะบัดศีรษะแรงๆ พยายามสะกดกลั้นความรักความคิดถึงเอาไว้

กลับมาทีแลนด์ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วมาทำอะไรที่นี่?? กำลังรอพบใครอยู่นะ!

ในขณะที่เขากำลังเถียงกับตัวเองว่าจะแสดงตัวดีหรือไม่ดีนั้น สายตาพลันมองเห็นการเคลื่อนไหว ที่ไกลออกไปทางมุมสวนด้านตรงข้าม ชายร่างสูงโปร่งพร้อมบริวารสามคนซึ่งเขารู้จักเป็นอย่างดียืนอยู่ตรงนั้น และกำลังมองตรงไปยังหญิงสาวที่ยืนอยู่คนเดียวในสวน เขาถอยหลังเข้ามุมมืดเพื่ออำพรางตัวเองในทันที                                      

อย่าบอกนะว่า เธอคือเป้าหมายของเขา!! ยัยนี่ไปเหยียบตาปลาใครเข้าอีกแล้ว!!

ขนที่ขาของพริมโรสลุกซู่ขึ้นโดยสัญชาตญาณ เป็นการเตือนภัยของความไม่ชอบมาพากลที่อยู่โดยรอบ มือเรียววางตรงขาอ่อนเพื่อความอุ่นใจ เธอคาดปืนพกขนาดเล็กไว้ตรงนั้น นับว่าคิดถูกแล้วที่เตรียมตัวเอาไว้ตั้งแต่ก่อนออกมา

ขณะนั้นเองชายชุดดำทั้งชุดแต่ไม่ได้ปิดบังใบหน้าประมาณเจ็ดถึงแปดคนกำลังเดินย่างสามขุมเข้ามาใกล้ พริมโรสตวัดสายตามองที่มือของแต่ละคนและสำรวจไปตามตัว แอบโล่งใจเล็กน้อยที่ไม่เห็นพวกเขาพกอาวุธ

เอาไงดี?? จะเปิดเผยตัวตนไปเลยดีไหม? อย่างน้อยก็ไม่เจ็บตัว แต่คนที่อยู่ในเงามืดทั้งสองฝั่งนั้นก็ไม่น่าไว้ใจ! จุดประสงค์ไม่แน่ชัดเปิดเผยตัวอาจเป็นผลร้ายมากกว่าดี! หรือจะแอคติ้งปลอมๆ ไปก่อนเพื่อดูสถานการณ์ เอาวะลองเสี่ยงดู!

“พวกคุณเป็นใครคะ? ชะ..ใช่คนที่นัดฉันมาพบหรือเปล่า?”

ในขณะที่หญิงสาวกำลังแสดงท่าทีหวาดกลัวจนลนลาน ชายชุดดำที่เดินอยู่ด้านหลังก็ดึงแขนคนเดินหน้าให้หยุดแล้วกระซิบเสียงเบา

“เฮ้ย! มึงทำลงหรือวะ ผู้หญิงไม่มีทางสู้นะนั่น?”

“แล้วจะให้ทำยังไง คำสั่งเจ้านาย มึงกล้าขัดขืนหรือเปล่าล่ะ!!”

“แค่ขู่ให้กลัวก็พอมั้ง เผลอๆ จะตกใจจนฉี่ราดซะก่อนแล้ว ไม่ต้องลงไม้ลงมือให้เจ็บตัว!”

“เออ เอางั้นก็ได้!”

พอตกลงกันได้ดังนั้น ก็เดินอาดๆ กันเข้าไปใหม่ ยิ่งเห็นท่าทางกลัวจนตัวสั่นแบบนั้นต่างก็รู้สึกคึกนึกสนุกขึ้นมา งานง่ายๆ แบบนี้ทำให้ผ่อนคลายอารมณ์ไปได้บ้างเหมือนกัน

“ยะ..อย่าเข้ามานะคะ ฉะ..ฉันกลัวแล้ว!” เธอแสร้งตกใจสะดุ้งเฮือก แล้วรีบถอยกรูดไปสามก้าวติดๆ แต่ปลายแหลมของส้นเข็มดันไปเกี่ยวกับเส้นหญ้าที่เหนียวทำให้เสียสมดุล ร่างทรุดลงไปนั่งกับพื้นหญ้านุ่ม เธอเลยอาศัยจังหวะนี้แกะสายรัดข้อเท้าออกทีละข้างอย่างเนียนๆ กลุ่มคนชุดดำเข้ามารุมล้อม ชายคนหนึ่งค้อมตัวชะโงกหน้าเข้ามาใกล้

“น้องสาว! ได้ข่าวว่าความสวยไปสะดุดตาเชคฮ์อิสราร์ พวกพี่ก็เลยอยากมาเห็นใกล้ๆ ว่าเลิศเลอเพอร์เฟคขนาดไหนกันถึงทำให้เชคฮ์หวั่นไหวได้!” เขาพูดพร้อมยื่นมือมาจะแตะตัว พริมโรสคว้าส้นสูงขึ้นตอกส้นเข็มลงไปบนหลังมือจนมันร้องลั่น

“โอ๊ย!!”

“ว้าย!! อย่าเข้ามาใกล้! ฉันกลัว!” คนอื่นๆ หัวเราะเยาะคนที่กำลังสะบัดมือเร่าๆ ด้วยความเจ็บปวด หลังมือเป็นรอยเลือดซึมออกมาเป็นวงสีแดงคล้ำ

หญิงสาวลุกขึ้นยืน ถือรองเท้าไว้ข้างละมือตวัดปัดป่ายไปรอบตัว คนอื่นๆ เมื่อเห็นพิษสงของความแหลมคมจนเรียกเลือดได้ ต่างก็ไม่มีใครเข้ามาใกล้อีก 

“พวกเราไม่ได้มาทำร้ายไม่ต้องกลัว! แต่แค่จะมาเตือน! ถ้าพวกพี่ยังเห็นน้องอยู่ใกล้เชคฮ์อิสราร์อีก พวกเราจะไม่เตือนเป็นครั้งที่สอง!! แต่จะให้น้องเลือกเลยว่าอยากให้พวกเราเฉือนเนื้อตรงส่วนไหนออกก่อน เข้าใจไหม!!”

พริมโรสปั้นหน้ายิ้มอย่างใสซื่อไร้พิษสง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานใส

“อื้ม! เข้าใจแล้วค่ะ สรุปว่าพวกพี่ๆ มาดี?” 

“สำหรับตอนนี้น่ะใช่!”

“งั้นฉันขอถามคำถามสักข้อได้ไหม?”

“ถามอะไร?” 

“เดี๋ยวนะ หาก่อน!”

พริมโรสก้มตัวดูที่พื้นไปรอบตัว มองหากระดาษที่หลุดออกมาตอนถอดรองเท้า คนอื่นๆ พอเห็นอาการแบบนั้นก็ดันเกิดอุปาทานหมู่ ต่างก็ค้อมตัวลงช่วยกันมองหาของบางอย่างที่พื้นไปด้วยอย่างมีน้ำใจ ทั้งๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าหญิงสาวกำลังมองหาอะไรกันแน่

 ชายที่แอบในมุมมืดคิ้วกระตุก ยอมใจกับแอคติ้งร้อยเล่ห์ของเธอผู้นี้จริงๆ ตั้งแต่รู้จักกันมาจนถึงตอนนี้ นิสัยไม่ได้เปลี่ยนไปเลย

ชายร่างสูงโปร่งที่ยืนอยู่อีกทางหนึ่งขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าทางนั้นเกิดอะไรขึ้น เขาห่วงว่าหญิงสาวจะถูกทำร้ายจึงรีบมาซุ่มดู แต่ไม่นึกว่าจะเจอภาพชุลมุนวุ่นวายอย่างที่เห็น 

“ให้ลงมือเลยไหมครับนาย?”

“อืม จะใช้วิธีไหนก็ได้ เอาตัวไปด้วยกัน”

“ครับ!”

ชายร่างสูงโปร่งมองบริวารของเขาทั้งสามคน เดินออกไปตรงส่วนที่เป็นแสงสว่าง มุ่งหน้าไปที่พุ่มสวนไม้ดัดตรงนั้นตามคำสั่ง เขามองเพียงครู่เดียวก็หมุนตัวเดินจากไปก่อน

พริมโรสเห็นความเคลื่อนไหวจากหางตา ก็ยืดตัวขึ้นมองไปยังผู้มาใหม่ที่กำลังย่างสามขุมตรงเข้ามาหา พลางเอ่ยปากถามชายทั้งแปดด้วยความอยากรู้ที่แฝงแผนการชั่วร้าย

“พี่สามคนนั้นก็เป็นพวกเดียวกับพี่ๆ ด้วยหรือคะ?” ชายชุดดำทั้งแปดยืดตัวขึ้น หันไปมองผู้มาใหม่

“ไม่ใช่! แต่เอ๊ะ!” ชายคนหนึ่งในกลุ่มร้องขึ้นมาเหมือนจะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร พริมโรสได้จังหวะรีบเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส

“แต่ดูเหมือนเขาไม่ได้มาดี หน้าอย่างโหดเหมือนโกรธใครมา ต้องเป็นภัยต่อจุดซ่อนเร้นแน่ๆ! พี่ๆ ต้องช่วยน้องด้วยนะ! น้องตายแน่ๆ จะโดนฆ่าข่มขืนหรือเปล่าก็ไม่รู้!”

ชายทั้งแปดได้ยินการชี้นำแบบนั้นก็รู้สึกเห็นดีเห็นงามไปกับเธอด้วย มองออกเหมือนกันว่าคนทั้งสามต้องมีจุดประสงค์อะไรสักอย่าง และคงไม่ใช่เจตนาดี คนทั้งแปดไม่ใช่พวกใจเหี้ยมที่เกิดมาเป็นนักฆ่าโดยนิสัย จึงมีมุมอ่อนโยนที่ชอบช่วยเหลือคนที่อ่อนแอกว่าอยู่เป็นปกติ และด้วยความเป็นสุภาพบุรุษจึงต่างมายืนเรียงบังร่างของหญิงสาวไว้โดยอัตโนมัติ

“หยุด! พวกนายจะทำอะไร?” หนึ่งในแปดคนตะโกนถาม

“ฉันจะทำอะไร ก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของพวกนายละมัง? ถอยไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว!” ถึงจะเห็นว่ามีคนมากกว่าแต่เขาก็ไม่เคยกลัวเลยแม้แต่น้อย

“ดูเหมือนนายอยากมีเรื่อง! งั้นก็เคลียร์หนี้เก่าหนี้ใหม่ให้จบๆ ไปเลยเป็นไง ปิดบัญชีกันไปเลยวันนี้!” 

พริมโรสมองความครึกครื้นอย่างเงียบสงบ พยายามไม่ขยับตัวให้เป็นที่ดึงดูดความสนใจ คนสองกลุ่มที่ยืนประจัญหน้ากันอยู่ตอนนี้ เธอไม่รู้ว่าเป็นพวกเดียวกันหรือเปล่า ที่รู้แน่ๆ คือเป็นโจทก์เก่ากันอย่างแน่นอน 

สายตาคมหวานลอบสังเกตไปยังชายคนที่ยืนอยู่ตรงกลาง รู้สึกสะดุดตากับรอยแผลเป็นกลางคิ้วของเขา ซึ่งเห็นเป็นรอยใหญ่มาก และเหมือนเธอจะเคยเห็นแผลลักษณะนี้มาก่อน แต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน

“ยังไม่ใช่ตอนนี้! ฉันต้องการแค่ผู้หญิงคนนั้น!” 

“นายจะพาเธอไปได้ก็ต่อเมื่อเดินฝ่าดงตีนของพวกเราไปแล้วเท่านั้น!!” 

ชายชุดดำหนึ่งในแปดคน กล่าวออกมาอย่างแมนที่สุด หัวใจหล่อในร่างทองของซูเปอร์ไซย่าปรากฏขึ้นมาในมโนของหญิงสาว น้ำเสียงแข็งกระด้าง ยืนจังก้าสีหน้าหยิ่งผยอง ดูน่าเกรงขามเสียจนเธอเกือบจะเผลอยกมือขึ้นมาปรบให้เขาแบบรัวๆ

“อย่าหาเรื่องใส่ตัวดีกว่า ฝีมือคนของท่านอักมัลมันก็แค่ขี้เล็บ! ไอ้พวกขี้แพ้มันก็แพ้อยู่วันยังค่ำ! ถ้าไม่รักตัวกลัวตายก็ดาหน้ากันเข้ามา!”

คนของท่านอักมัล??? เขาส่งคนมาขู่ฉันฉันทำไมล่ะ!! มีอะไรเกี่ยวข้องกับกระดุมเม็ดนั้นไหม?

ชายแปดคนส่งเสียงฮึดฮัด กำมือแน่น กัดฟันกรอดๆ ทั่วทั้งร่าง อัดแน่นไปด้วยเพลิงโทสะ ที่โหมกระพือขึ้นมารุนแรง ยอมไม่ได้ที่โดนข่มขวัญหยามหยันกันซึ่งๆ หน้า 

“อย่าดีแต่ปาก!! พวกเราลุย!”

พริมโรสขยับตัวทันทีเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณยำบาทา เธอรอจังหวะนี้อยู่นานแล้ว รีบค้อมตัวก้มลงหลบเข้าหลังพุ่มไม้เตี้ยทรงเหลี่ยม หิ้วรองเท้าส้นสูงข้างละมือวิ่งเหยาะๆ ตรงเข้าไปในตัวอาคารอย่างรวดเร็ว 

พอถึงหลังเสาที่เป็นมุมมืด ก็ถูกมือฝ่ามือใหญ่ของชายที่ตามมาตั้งแต่ในลิฟต์คว้าข้อมือไว้แล้วพาออกวิ่ง หญิงสาวไม่ได้ขัดขืนเพราะต้องไปทางเดียวกันอยู่แล้ว มีคนมาช่วยออกแรงดึงก็ทำให้เหนื่อยน้อยลง ผ่อนแรงไปได้มากทีเดียว

รินรดาอ้าปากค้าง เมื่อเห็นว่าที่พี่สะใภ้ถูกชายคนหนึ่งลากให้วิ่งตาม และผ่านหน้าเธอไปอย่างเร็วราวกับพายุ เธอรู้สึกเอะใจจึงหันขวับไปมองยังทิศทางตรงกันข้ามทันที สิ่งที่เห็นคือกลุ่มคนที่กำลังตะลุมบอนกันอย่างนัวเนีย ข้าวของกลางลานหญ้าล้มระเนระนาดกระจัดกระจาย เก้าอี้ไม้ถูกใช้แทนอาวุธฟาดฟันกันจนแตกหักเสียหายไม่เหลือชิ้นดี 

เธอกำลังงงว่าพี่สะใภ้มาเกี่ยวข้องอะไรกับเหตุการณ์นี้ แล้วผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันแน่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 55

    วิ่งตามกันมาได้สักพัก เขาก็ชะลอความเร็ว แล้วผลักประตูบันไดหนีไฟให้เปิดออก ดึงมือหญิงสาวให้ตามเข้ามาแล้วผลักร่างบางให้ติดผนัง ล็อกข้อมือข้างหนึ่งกดไว้เหนือศีรษะ โน้มใบหน้าฉกวูบเข้ามาหมายจะประกบจุมพิตที่ริมฝีปากอิ่ม พริมโรสตกใจแต่ยังเบนหน้าออกข้างเบี่ยงหนีได้ทัน จุมพิตจึงพลาดเป้าไปกระแทกโดนที่แก้มนุ่ม ฝ่ามือใหญ่ข้างที่ยังว่างประคองใบหน้าด้านข้างของเธอไว้ แล้วบังคับให้หันเข้าหาริมฝีปากเขาอย่างมุ่งร้ายหญิงสาวผ่อนแรงต่อต้านลงนิดหนึ่ง แล้วสอดมือข้างที่ยังเป็นอิสระลอดเข้ามาตรงที่ว่างระหว่างช่องแขนด้านในอย่างว่องไว ชูมือขึ้นเหนือลำคอ แล้วกระแทกนิ้วชี้ กับนิ้วกลาง จิ้มตรงตำแหน่งกรามใต้หูอย่างรวดเร็วและหนักหน่วง “โอ๊ยย!!” ร่างสูงสะดุ้งสุดตัวร้องออกมาเสียงลั่นอย่างคิดไม่ถึง เขาพยายามเอียงตัวหนีความเจ็บปวด แต่นิ้วที่ร้ายพอๆ กับนิสัยของเจ้าของก็ยังตามกดย้ำอย่างหนักหน่วงไม่ลดละ จนร่างของอีกฝ่ายโค้งเอียงลงไปตามศีรษะลักษณะคล้ายน้ำในหูไม่เท่ากันจนเสียสมดุล พอกดได้ระยะที่ต้องการก็เหนี่ยวคอเป้าหมายเพื่อยกตัวเขาให้ลอยขึ้น พร้อมกับง้างเข่าโจมตีไปที่รังไข่อย่างเต็มเหนี่ยว“โอ๊กกก!!” ร่างสูงตัวงอลงคล้า

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 56

    “ชัยค์เคาะฮ์ไลลา เชคฮ์อักมัลฝากข้อความให้ทูลฝ่าบาทว่ามีเรื่องด่วนที่เปเรซต้องรีบไปจัดการ ขอเดินทางกลับไปก่อน อนุญาตให้ฝ่าบาทอยู่เที่ยวที่ทีแลนด์สักเดือนสองเดือนค่อยเดินทางกลับก็ได้เพคะ”“หือ? ด่วนขนาดต้องยอมเดินทางแออัดไปกับคนทั่วไปเลยเนี่ยนะ? แล้วเนญ่าล่ะออกมาจากห้องหรือยัง?” “ชัยค์เคาะฮ์เนญ่าออกไปก่อนฝ่าบาทอีกเพคะ และยังไม่กลับเข้ามา”“ไปไหน?”“มีนัดกับเชคฮ์อิสราร์เพคะ”“อะไรนะ?” ไลลาตกใจ เรื่องนี้เป็นไม่ได้อย่างแน่นอน เธอเพิ่งจะแยกกับเชคฮ์อิสรามาได้สักพัก คิดว่าต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลแน่ๆ จึงหยิบโทรศัพท์ส่งข้อความหาเจ้าชายอิดรีสทันที…“ฝ่าบาท! จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงแรม ช่วงเวลาที่เด็กรับใช้ของชัยค์เคาะฮ์เนญ่าแจ้งมา ปรากฏว่าไม่มีพ่ะย่ะค่ะ ช่วงเวลาดังกล่าวหายไปกลายเป็นจอดำ ตอนนี้ทางทีมรักษาความปลอดภัยของโรงแรมกำลังสืบสวนเรื่องนี้ และสอบถามทางเราว่าต้องการจะแจ้งความไว้ก่อนหรือไม่”“แล้วช่วงเวลาก่อนหน้าล่ะ? เช็กย้อนหลังไปยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย ดูว่าได้ออกจากห้องไปไหนมาก่อนที่จะไปตามนัดหรือเปล่า!”“ตรวจสอบเรียบร้อยพ่ะย่ะค่ะ ตามคลิปและผลรายงานที่สรุปส่งไปให้เมื่อสักครู่”เจ้าชา

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 57

    “ว่าไง? มีอะไรก็รีบๆ พูด กำลังจะขึ้นเครื่องแล้ว!” ท่านอักมัลเร่งปลายสาย เพราะได้ยินแอร์กราวนด์ประกาศเรียกผู้โดยสารในโซนที่นั่งของเขาให้ขึ้นเครื่อง ดังขึ้นมาพอดี“เหมืองบิทคอยน์ที่รัฐบีถูกพบแล้วพ่ะย่ะค่ะ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทรัพย์สินไปทั้งหมด!”“อะไรนะ!! เพิ่งจะโดนที่รัฐเอไปหยกๆ แล้วที่รัฐบีโดนทุกที่เลยหรือเปล่า?”“ทุกที่กระหม่อม! เหมือนกับมีคนชี้เป้าระบุตำแหน่งให้เจ้าหน้าที่ ตอนนี้เหลือเพียงที่รัฐดี แต่พวกเราได้เคลื่อนย้ายเครื่องมือออกจากพื้นที่ เคลียร์สถานที่และทำลายหลักฐานหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“แล้วก่อนหน้านั้นพวกนายมัวทำอะไรกันอยู่ ไม่มีใครแจ้งเตือนก่อนเจ้าหน้าที่จะบุกเข้ามาเลยหรือไง?”“พวกเขาตัดสัญญาการเชื่อมต่ออินเนอร์เนต จากนั้นก็ตัดสัญญาณไฟฉุกเฉิน ช่างและคนที่อยู่เวรในช่วงนั้นๆ จึงมัวแต่แก้ปัญหากันอยู่ พอเจ้าหน้าที่บุกเข้ามาจึงไม่มีใครรู้ตัวเลยกระหม่อม! และเข้ายึดพร้อมกันหมดเลยทุกที่!”“แล้วคนล่ะ ยังอยู่หรือเปล่า?”“พระชนนีถูกพาตัวไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“หึย!! ไอ้พวกบ้า! ไร้ประโยชน์จริงๆ!” ท่านอักมัลตัดสายอุทานออกมาด้วยความเดือดดาล โดนบุกทลายแหล่งทำเงินก็ช่างเถอะ แต่พาคนสำคัญไปด้วยนี่

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 58

    เจ้าชายอิสราร์ นั่งกึ่งเอนพิงพนักหัวเตียง อ่านรายงานขอเสนออนุมัติโครงการของบริษัทที่รินรดานำมาให้เขาเซ็น พออ่านจบก็ลงลายมือชื่อเพื่อให้ดำเนินการได้ จากนั้นก็ปิดแฟ้มนำไปวางที่หัวเตียง ถอดแว่นตาวางไว้ด้านบน แล้วหยิบโทรศัพท์มาอ่านข่าวทั่วไปเพื่อฆ่าเวลาเขารู้ว่าห้ามภรรยาไม่ให้กลับไปที่เกิดเหตุอีกไม่ได้ จึงทำเป็นนิ่งเฉยแล้วตรงเข้ามาห้องนอนเลย รอเวลาให้เธอได้ทำในสิ่งที่อยากทำให้เต็มที่ เสร็จแล้วก็คงกลับมาเอง…พริมโรสออกมาจากลิฟต์แล้วตรงไปที่ห้องเกิดเหตุ บอกตรงๆ ว่าเธอไม่ใว้ใจใครทั้งนั้น โดยเฉพาะเพื่อนที่เจ้าเล่ห์อย่างเจ้าชายอิดรีส ขนาดบางรายเป็นเพื่อนที่คบกันมาเกือบสิบปี ยังลงมือทำร้ายกันได้ภายในสิบวินาที เพียงแค่มีความเห็นที่แตกต่างและมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าเพื่อนยังกลายมาเป็นศัตรูได้แบบนี้เราก็ไม่ต้องกลัวใครอีกแล้ว เพราะศัตรูที่น่ากลัวที่สุดก็คือคนที่เราเชื่อได้อย่างสนิทใจกรณีนี้ก็เช่นกัน ใครจะรู้ว่าเขาอาจจะเป็นคนเดียวกันกับคนร้ายที่สร้างสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นมาเพื่อใส่ร้ายสามีเธอก็ได้ เพราะนี่มันเป็นพื้นที่ของเขา เพราะฉะนั้นหาหลักฐานเพื่อเป็นการป้องกันตัวเองไว้ก่อนจึงเป็นการดี

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 59

    เอ็นจิเนียและเมนเทนแนนซ์ กำลังทำการตรวจสอบรอบเครื่องบินอย่างละเอียดหรือที่เรียกว่าทรานซิทเช็ค ซึ่งใช้เวลาประมาณสามสิบนาที อีกทั้งยังเป็นหน้าที่ของนักบินที่ต้องตรวจความพร้อมอีกรอบ เพื่อให้มั่นใจว่าจะทำการบินได้อย่างปลอดภัยสูงสุดพริมโรสเดินตามกัปตัน สำรวจความเรียบร้อยทั่วไป อย่างเงียบๆ ไม่พยายามไปรบกวนสมาธิของเขา เครื่องบินส่วนตัวลำนี้จอดอยู่บริเวณอาคารผู้โดยสารส่วนบุคคล ซึ่งเป็นไพรเวทเทอร์มินอลแบบวีไอพี แยกส่วนออกจากท่าจอดอากาศยานทั่วไปของสนามบิน"ถ้าคุณสนใจ สามารถไปนั่งที่อ็อบเสิฟเฝอะสีท ได้นะครับ" กัปตันอนุญาตอย่างใจดี ซึ่งอ็อบเสิฟเฝอะสีทเป็นที่นั่งด้านหลังกัปตันเรียกว่าที่นั่งสังเกตการณ์ พริมโรสยิ้มให้อย่างสุภาพ "ขอบคุณค่ะ ฉันแค่ตรวจสอบทั่วๆ ไปในฐานะผู้ดูแลความปลอดภัยของเชคฮ์เท่านั้นค่ะ แค่กัปตันอนุญาตให้ฉันเดินไปด้วยกันอย่างนี้ ก็รู้สึกเกรงใจมากแล้ว" พริมโรสกล่าวอย่างนอบน้อม"อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ ผมเข้าใจดีว่าความปลอดภัยของเชคฮ์ย่อมมาก่อนเสมอ เพียงแต่ผมประหลาดใจนิดหน่อยที่คุณทุ่มเท และใส่ใจในการทำงานมากกว่าองครักษ์คนอื่นๆ เสียอีก" เขาได้ยินพวกลูกเรือคุยกันว่า เชคฮ์กับหัวหน้าอง

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 60

    ไลลายังไม่ได้หลับ กำลังนึกถึงคำขอร้องของน้องสาวอย่างลำบากใจ เนญ่าขอให้เธอรับเป็นขายารองของเจ้าชายอิดรีสอย่างถูกต้องตามธรรมเนียม ในฐานะลูกผู้หญิงเหมือนกันก็พอจะเข้าใจถึงความสูญเสียอันน่าขมขื่น และยิ่งรู้สึกแย่ที่สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในครอบครัวของเธอเอง แต่การที่จะไปยัดเยียดผู้หญิงให้เขาทั้งๆ ที่เห็นอยู่กับตาแล้วว่าเขาไม่ได้แยแสน้องสาวเธอเลยสักนิด ดูจะเป็นการหาเรื่องใส่ตัวเองเสียมากกว่า เธอจึงปฎิเสธไปตรงๆ และจะช่วยหาวิธีแก้ไขปัญหาทางอื่นให้ แต่ก็กลายเป็นคนที่โหดร้ายและแล้งน้ำใจในสายตาอีกฝ่ายขึ้นมาทันที"ถ้าพี่หญิงไม่ช่วย น้องจะฆ่าตัวตายหนีความอัปยศ! ถ้าไม่ใช่เชคฮ์อิสราร์เป็นคนทำก็ต้องเป็นเชคฮ์อิดรีส เหตุมันเกิดในพื้นที่ของเขาจะปัดความรับผิดชอบทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้ยังไง! เผลอๆ เขาอาจจะเป็นคนบงการก็ได้ โรงแรมมีระบบรักษาความปลอดภัยหลายชั้น ใครหน้าไหนจะกล้าเข้ามา!" “อย่าพูดจาเพ้อเจ้อ! เขาจะไปทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไงในเมื่อเขาอยู่กับพี่ตลอดเวลา!”“น้องไม่รับรู้ ถ้าพี่หญิงไม่ช่วย น้องจะทำร้ายตัวเองจนกว่าพี่หญิงจะยอม!” ไลลารู้ว่าน้องสาวกำลังกดดันให้เธอรู้สึกผิดทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ได้

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 61

    ฮัลดายืนอยู่ตรงช่องประตู มองหญิงสาวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าห้องทำงานของเจ้านาย ด้วยแววตาชิงชังราวกับมีความแค้นกันมานับร้อยนับพันปี“อ้าว! ฮัลดาเข้ามาสิ ยืนอยู่ทำไม!”ฮัลดาเดินเข้ามาใกล้อย่างอ้อยอิ่ง พริมโรสทำมือให้นั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะ พร้อมหยิบกระดาษจดหมาย ที่นัดให้เธอไปพบในสวนของโรงแรม และกระดุมเม็ดหนึ่งวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าหญิงสาว ในขณะที่สายตาก็มองอีกฝ่ายอย่างไม่วางตา จึงทันได้เห็นแววตาไหววูบแวบหนึ่งแล้วเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว“เธอรู้หรือเปล่าว่าชัยค์เคาะฮ์เนญ่า ถูกคนลวงไปทำมิดีมิร้าย”“อะไรนะ! เกิดขึ้นเมื่อไหร่เจ้าคะ?” พริมโรสอ่านปฏิกิริยาของหญิงสาวจากสีหน้าอาการที่แสดงออกมาว่าตกใจจริงๆ ไม่ได้เสแสร้ง“เวลาเดียวกับที่มีข้อความนัดพบนี้ส่งมาให้ฉัน เจตนาก็เพื่อล่อลวงให้ฉันถูกรุมทำร้าย แต่ที่ไม่เข้าใจคือกระดุมเม็ดนี้น่ะ เอามาให้ฉันทำไม ตั้งใจจะบอกอะไร? เธอพอจะให้คำตอบกับฉันได้ไหม?”“ฉันจะรู้ได้ไงล่ะเจ้าคะ! นายหญิงต้องไปถามคนส่งเองถึงจะรู้เหตุผลที่แท้จริงของเขา”“อ้าว! ก็กำลังถามอยู่นี่ไง อย่าทำตัวเป็นปลาทองลืมง่าย!” พริมโรสพูดพลางหยิบหลักฐานออกมาวางทีละอย่าง “นี่รอยนิ้วมือเจ้าของจดหมายแ

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 62

    "ฝ่าบาท! แย่แล้วเพคะ! กัปตันถูกทำร้ายขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทด่วนเลยเพคะ!" เจ้าชายอิสราร์ลุกพรวดขึ้น พริมโรสผวาลุกตามแล้วพยุงแขนเขาไว้ข้างหนึ่ง"เกิดอะไรขึ้น?" ชายหนุ่มถามขณะก้าวเท้าออกเดินได้ไม่เร็วนัก มือเรียวจึงจับแขนเขายกขึ้นแล้วก้มตัวลอดศีรษะเข้าไปใต้แขนแข็งแรง ก่อนจะวางแขนเขาให้เกาะไหล่เธอไว้เพื่อช่วยพยุง ทำให้ชายหนุ่มเดินได้เร็วขึ้นกว่าเดิม"นักบินผู้ช่วยลอบทำร้ายกัปตันเพคะ! โชคดีว่าอยู่ในความสูงที่กัปตันเปิดโหมดออโต้ไพลอทเอาไว้ ทันทีที่เกิดเรื่องเขากดอันล็อกประตูทำให้พวกเราได้ยินเสียงและเข้าไปช่วยเหลือเขาไว้ได้ทันเวลา ตอนนี้องครักษ์ลากตัวหมอนั่นออกไปแล้วเพคะ!""ทำไมไม่ตามนักบินเสริมให้ขึ้นมาแทน?""หม่อมฉันไปปลุกแล้วไม่ตื่นเลยทั้งสองคน ไฟล์ทเนิร์ซกำลังดูอาการพวกเขาอยู่ กัปตันเลยให้มาขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทเพคะ!"ลูกเรือต่างก็เห็นพ้องต้องกันทุกคนว่า นาทีนี้ไม่มีใครจะเหมาะสมเท่ากับเจ้านายพระองค์นี้อีกแล้ว เขามีชั่วโมงบินของการเป็นนักบินเอฟสามสิบห้า ของกองทัพรวมห้าพันแปดสิบห้าชั่วโมง ในจำนวนนี้ มีชั่วโมงของการทำหน้าที่นักบินผู้ช่วย อยู่แปดร้อยแปดสิบสี่ชั่วโมงกับเครื่องบินรุ่นนี้

    Last Updated : 2025-03-18

Latest chapter

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 70 

    “ฮ่าๆๆ ไง! ถึงกลับโกรธจนตัวเนื้อสั่นเลยเหรอ เป็นยังไงบ้างล่ะ รสชาติของการสูญเสีย ขมขื่นถึงอกถึงใจดีไหม?” คำพูดประโยคนี้ของเขาทำให้หญิงสาวแน่ใจได้ทันทีว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ“ฉันเกลียดแกจนอยากจะเป็นคนถ่อย จะได้ถ่มถุยใส่หน้าส้นตึกของแกให้สาสมกับความรู้สึกขยะแขยง!” ชารีฟหรือณัทธรสะอึก เมื่อเจอความโกรธเกลียดอย่างรุนแรงจากผู้หญิงที่เขารัก“เกลียดฉันงั้นรึ? ต้องเป็นฉันไหมที่จะพูดประโยคนั้น แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เธอจะลืมฉันได้อย่างง่ายดายและไปแต่งงานใหม่!"“ฉันไม่ได้แต่งงานใหม่! นี่เป็นการแต่งงานครั้งแรกและครั้งเดียวของฉัน และอะไรคือลืมได้อย่างง่ายดาย? นายหนีตายไปเป็นปีๆ แล้วฉันจะต้องไปบวชชี เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้นายด้วยอย่างนั้นรึ! เรารักกันดูดดื่มขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ก่อนที่นายจะฆ่าพ่อฉัน เขายังพูดไม่ให้ฉันยึดติดกับตัวเขาเลย! ตรรกะของนายมันบิดเบี้ยวเป็นเวย์เดียวกับพวกโรคจิต ที่นายกับฉันมาถึงจุดนี้เป็นเพราะการตัดสินใจเลือกของตัวเองทั้งนั้น อย่าเอาฉันมาเป็นข้ออ้างเพื่อปกปิดยีนขี้แพ้ในตัวหน่อยเลย!”“ไม่ต้องมาทำปากดียั่วอารมณ์ให้ฉันรู้สึกละอายใจหรอก คำพูดยั่วยุของ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 69 : ตามไล่ล่า (3)

    “ฮัลโหล? ว่าไง?”“ไอ้ชารีฟ! ไอ้ห่วย! สายของแกทำงานยังไงวะถึงได้รายงานผิดพลาด! เป้าหมายไปเส้นทางอื่นไม่ได้เฉียดมาทางนี้เลยด้วยซ้ำ!!”“จะเป็นไปได้ยังไง? ไม่ผิดแน่ๆ!! นายดักซุ่มอยู่ที่นั่นแหละเผื่อว่าจะเป็นแผนลวง!”ชารีฟหรือณัทธร กดปุ่มตัดสาย แล้วดึงหูฟังบลูทูธออกอย่างหงุดหงิด จะเกิดการผิดพลาดไปได้ยังไง ในเมื่อเขาเพิ่งจะได้รับการยืนยันเส้นทางมาจากสายที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาของเชคฮ์อิสราร์เมื่อไม่กี่นาทีมานี้เองหรือว่าเปลี่ยนเส้นทางกระทันหัน??เขาคิดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบฉุกเฉินมากกว่าการที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวว่ามีข่าวรั่วไหลชายหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้น เพื่อดูเวลาก่อนการตัดสินใจ ในเมื่อภารกิจลอบสังหารเชคฮ์อิสราร์ได้ผิดพลาดไปแล้ว เขาเลยคิดว่าไปปิดจ๊อบหนี้เก่าของตัวเองก่อนจะดีกว่า แล้วค่อยกลับไปรายงานภารกิจที่ล้มเหลว ซึ่งถ้ารีบไปตอนนี้ก็น่าจะไปทันเวลากับที่เป้าหมายขับมาถึงในจุดที่เขากำหนดเอาไว้ในแผนพอดี…ชารีฟหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดแอพพลิเคชันที่ใช้ตรวจสอบสัญญาณจีพีเอส เพื่อหาตำแหน่งปัจจุบันของรถเป้าหมาย ซึ่งก็เห็นในแผนที่ว่ารถยนต์คันดังกล่าว กำลังจะแล่นผ่านสี่แยกไฟแดง

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 68 : ตามไล่ล่า (2)

    ความร้ายกาจของบิดาที่เธอได้ยินจากปากของคนอื่น เป็นเหมือนหนามแหลมคม ที่คอยทิ่มแทงจิตใจอยู่ตลอด แต่กระบวนการให้อภัย พยายามดิ้นรนที่จะผลักความคิด และความรู้สึกด้านลบเหล่านี้ออกไป ด้วยการจดจ่อกับความรัก และความทรงจำดีๆ นึกถึงช่วงเวลาที่ยากลำบาก ที่เขามักจะแบกรับความเจ็บปวดเหล่านั้นไว้แทนอยู่เสมอ แล้วผลักดันให้เธอก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนั้นไปให้ได้ ฝึกฝนเธอให้เข้มแข็ง สอนให้ยอมรับทุกความผิดพลาด และความล้มเหลว แล้วเรียนรู้ที่จะเยียวยาตัวเองเพื่อปิดกั้นทุกความเจ็บปวดเธอรู้ดีว่าการยึดติดกับความรู้สึกในทางลบ รังแต่จะเพิ่มความทุกข์ให้กับชีวิตมากขึ้น และขัดขวางไม่ให้หัวใจได้พบกับความสงบสุข แต่การที่จะละวางด้วยการให้อภัยนั้น ก็ทำให้เกิดความรู้สึกผิด ต่อบุคคลที่ต้องเสียชีวิตไปอย่างไม่เป็นธรรมนั้นด้วยเช่นกันแต่เมื่อมองในมุมกลับกัน เขาก็เป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถทำผิดได้ เธอเองก็ไม่ได้รับการยกเว้น ความผิดหวังมักจะทำให้คนเราจมอยู่กับอดีต จนลืมมองความสุขที่กำลังได้รับอยู่ในปัจจุบัน และกำลังจะตามมาอีกมากมายในอนาคต จึงเป็นความคิดที่โง่เขลาอยู่ไม่ใช่น้อย ถ้าเรายังหยุดอยู่ที่ควา

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 67 : ตามไล่ล่า (1)

    “ตรวจสอบชายสองคนที่สิบสองนาฬิกา ประตูทางเข้าด้านนอก ในมือถือผ้าสีดำห่อหุ้มวัตถุลักษณะเป็นแท่งยาวทรงกระบอก เปลี่ยน!”“แลนด์โรเวอร์สีดำขับเข้ามาจอดหน้าประตูทางเข้าออกของพนักงานชั้นใต้ดินสองคัน คันหนึ่งประมาณห้าคนใส่ชุดพนักงานรักษาความปลอดภัยเดินเข้าไปด้านใน มีอาวุธปืนติดตัว เปลี่ยน!”“ประตูทางออกอาคารผู้โดยสารหนึ่งที่เก้านาฬิกา พนักงานรักษาความปลอดภัยกำลังลากโซ่ตะปูเรือใบมาขวางถนน คาดว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของสนามบิน เปลี่ยน!”“ประตูทางออกฉุกเฉินของอาคารผู้โดยสารสอง ทางสะดวก ชาลีทีมเตรียมพร้อม รอรับคำสั่ง เปลี่ยน!” เสียงรายงานผ่านวิทยุสื่อสารเข้ามาเป็นระยะๆ หลังจากที่กระจายกำลังไปประจำตามจุดสำคัญต่างๆ เพื่อสังเกตความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม“พวกมันเริ่มทยอยกันเข้ามาแล้ว แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เตรียมอพยพประชาชนหากมีเหตุฉุกเฉิน! แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกับดับเพลิงหรือยัง?”“เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“อืม ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันตอนนี้เลย!”“รับคำสั่ง!” องครักษ์รับคำสั่งแล้วแจ้งแต่ละทีมผ่านวิทยุสื่อสารทันที “อัลฟ่าทีมเคลียร์พื้นที่ บราโวเตรียมรถบรรทุกเปิดทางออกแล้วรอรับคำสั่ง ชาลีทีมวีไอพีเ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 66

    ไลลานอนตัวอ่อนระทวยอยู่ครู่หนึ่ง สักพักก็ขยับตัวยกศีรษะขึ้นมานอนหนุนแขนแข็งแรงข้างหนึ่งของสามี เบียดเรือนร่างบอบบางเข้าชิดเพื่อขอความอบอุ่นจากร่างกายของเขา ซึ่งชายหนุ่มเองก็เพิ่งผ่อนคลายจากอาการหัวใจเต้นแรง หายใจหอบเหนื่อย เขาพลิกตัวตะแคง รั้งต้นขาของหญิงสาว ให้ขึ้นมาก่ายเกยอยู่ครึ่งๆ บนร่างกายของเขา ขาของเธอเบียดชิดจนเขารู้สึกอบอุ่นและชุ่มชื้นในซอกลี้ลับ ไล้ฝ่ามือจากโค้งสะโพกเลยมาถึงต้นขา ลูบผิวเรียบเนียนไปมาเบาๆ เป็นจังหวะอย่างเพลิดเพลิน พร้อมๆ กับปลอบโยนให้เธอคลายความอ่อนเพลีย เพื่อเข้าสู่โหมดพักผ่อน “ฝ่าบาทเพคะ?” “หืม?” ชายหนุ่มผงกศีรษะขึ้นมองอย่างแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่าย ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเคลิ้มหลับไปแล้ว“คืนนี้เนญ่าเขาประกาศว่าจะเข้าหอกับฝ่าบาท แล้วทำไมพระองค์ถึงมาหาหม่อมฉันล่ะเพคะ?”“ก็ไม่อยากจะมา ตั้งใจจะสั่งสอนให้รู้สำนึกเสียหน่อยว่า การผลักดันให้ผัวไปมีผู้หญิงอื่น โดยไม่เต็มใจนั้นน่ะมันจะให้ผลยังไง แต่เผอิญว่าเห็นคนบางคน น้ำตาคลอเบ้าเลยมาดูเสียหน่อย ไม่รู้ว่าเสแสร้งแกล้งทำ หรือรู้จักที่จะหึงหวงผัวขึ้นมาบ้างแล้ว!”“หึงจริงๆ น่ะแหละเพคะ” ไลลายอมรับออกไปตรงๆ ถึงแม้ใ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 65 : นาทีระทึกขวัญ (2)

    กัปตันลุกขึ้นแล้วเดินออกประตูไปก่อน ผงกศีรษะให้นิดหนึ่งเมื่อเห็นพริมโรสยืนอยู่หน้าประตู เจ้าชายอิสราร์ยืนมองหญิงสาวผ่านช่องประตูห้องนักบินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือมาคว้าแขนเรียวเล็กดึงเข้ามาปะทะอกกว้าง รวบร่างบางเข้ามากอดรัดอย่างแนบแน่น ฝ่ามือข้างหนึ่งประคองไว้หลังศีรษะ แล้วบดขยี้ริมฝีปากร้อนระอุกับริมฝีปากนุ่มอย่างหิวกระหาย เร่าร้อนและดุเดือด เพราะอะดรีนาลีนที่หลั่งออกมาหลังจากเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์เฉียดตาย กระตุ้นให้อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่าน“อื้อ!..” ปลายลิ้นเงอะงะถูกดูดดุนและเกี่ยวกระหวัดไว้ด้วยลิ้นเร่าร้อนของอีกฝ่ายโดยไม่เปิดโอกาสให้ได้พักหายใจ ทำให้เกิดเสียงประท้วงแผ่วๆ ในลำคอ“ที่รัก~..ผมรักคุณ” เขาถอนริมฝีปากออก กระซิบเสียงแหบพร่าแนบชิดกับริมฝีปากนุ่มอุ่น เรียวลิ้นไล่ระไปบนริมฝีปากของอีกฝ่าย ก่อนประทับริมฝีปากลงมาอีกครั้ง หญิงสาวยกท่อนแขนขึ้นโอบรอบลำคอเขาไว้ ตอบรับจุมพิตด้วยจังหวะที่สอดรับกันเป็นอย่างดี เบียดร่างบอบบางเข้าแนบชิดร่างกำยำอย่างออดอ้อน ฝ่ามือหนาของเขาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังไล่ลงไปถึงโค้งสะโพกกลมมนแล้วกดเข้าหาลำตัวตามแรงอารมณ์ที่กำลังเพิ่มมากขึ้น“เอ่อ..ทูลฝ่าบาท พายุท

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 64 : นาทีระทึกขวัญ (1)

    รินรดานั่งเหม่อกำโทรศัพท์ไว้ในมือ หลังจากเพิ่งจะวางสายจากรามิล เขาสัญญาว่าจะรีบเคลียร์งานให้เรียบร้อย และจะตามไปหาที่เปเรซภายในสองวันเธอรู้สึกไม่สบายใจเมื่อนึกถึงความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมา แสงสว่างที่ลอยละล่องในความมืดส่องมาที่เธอ พร้อมกับเสียงกระซิบที่แผ่วเบาแต่ชัดเจน เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของใครในโลกนี้ มันเหมือนเสียงที่มาจากที่ไกลโพ้น ฟังดูทั้งใกล้และไกลในเวลาเดียวกัน ‘ถึงเวลาแล้ว…จงทำตามสัญญา’หญิงสาวไม่ได้บอกใครว่าหลังจากที่เธอ และพี่ชายฟื้นขึ้นมา เธอได้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหินพ่อมดลาบราดอไลต์ ด้วยความสงสัยและความหวัง เธอแอบพระมารดาเข้าไปในห้องลับ ท่องบทสวดที่เธอแอบจดเอาไว้ และอธิษฐานถึงสิ่งที่อยากรู้ที่สุดในชีวิตตอนนั้น นั่นก็คือการตามหาครอบครัวที่แท้จริงจากนั้นเธอก็ฝันซ้ำๆ เดิมๆ อยู่หลายครั้งจนมาถึงปัจจุบัน ไม่รู้ว่าบุคคลในฝันเป็นใคร เธอจำเรื่องราวได้ รู้ว่าคนในฝันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่จำหน้าไม่ได้เลยสักคน และครั้งที่ไปโรงพยาบาลจนเกิดอาการใจสั่น แล้วเจ็บแปลบอย่างรุนแรง จนหมดสติไปในครั้งนั้น ก็ทำให้เธอได้เห็นผู้หญิง ที่มีหน้าตาเหมือนเธอราวกับฝาแฝดชัดเจนเป็นครั้งแรก ในห้วงฝ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 63 : (っ˘з(˘⌣˘)18+

    “อะไรนะ!! แล้วได้ลงจอดฉุกเฉินไหม? งั้นถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนโยกย้ายคนจากรัฐดีไปรัฐอีก็ดำเนินการได้เลย! อืม..ฉันอยู่บนเครื่องบินแล้ว คงจะถึงไล่ๆ กัน!...ได้!…เอาตามนั้น!”เจ้าชายอิดรีสชะงักมือที่กำลังวางโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียง ขณะที่ปรายหางตาเห็นหุ่นอรชรอ้อนแอ้นกำลังเยื้องกรายเข้ามาในห้องด้วยกิริยาท่าทางที่ยั่วยวนหญิงสาวเข้ามายืนห่างจากเตียงไปประมาณหนึ่งช่วงแขน ค่อยๆ ปลดอาภรณ์ออกจากตัวทีละชิ้นอย่างเชื่องช้า พร้อมช้อนสายตาขึ้นมองชายหนุ่มอย่างเย้ายวนชวนเชิญเจ้าชายอิดรีสหยิบหมอนสองใบมาซ้อนหลัง นั่งกึ่งเอนพิงพนักหัวเตียงพาดแขนไว้บนเข่าข้างหนึ่งที่ตั้งชันขึ้น หรี่ตามองด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ดูเยือกเย็น กิริยาภายนอกยังคงสงบนิ่ง รอบกายยังเผยความเย่อหยิ่งจองหองออกมาด้วยเขาเหลือบตามองนาฬิกาที่โต๊ะหัวเตียง ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายเลือกเวลาได้เหมาะเจาะ ไลลาไปสั่งงานกับเด็กรับใช้ได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว และคงกำลังใกล้จะกลับมา เลยเปิดโอกาสให้น้องสาวสวมบทบาทน้องรักหักเหลี่ยมโหดเพื่อทำร้ายจิตใจผู้เป็นพี่ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา เขาปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจ โดยไม่ได้ปริปากเอ่ยทักท้วง เพื่อจะรอดูว่าเธอจะเปิดเผยเนื้อตั

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 62

    "ฝ่าบาท! แย่แล้วเพคะ! กัปตันถูกทำร้ายขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทด่วนเลยเพคะ!" เจ้าชายอิสราร์ลุกพรวดขึ้น พริมโรสผวาลุกตามแล้วพยุงแขนเขาไว้ข้างหนึ่ง"เกิดอะไรขึ้น?" ชายหนุ่มถามขณะก้าวเท้าออกเดินได้ไม่เร็วนัก มือเรียวจึงจับแขนเขายกขึ้นแล้วก้มตัวลอดศีรษะเข้าไปใต้แขนแข็งแรง ก่อนจะวางแขนเขาให้เกาะไหล่เธอไว้เพื่อช่วยพยุง ทำให้ชายหนุ่มเดินได้เร็วขึ้นกว่าเดิม"นักบินผู้ช่วยลอบทำร้ายกัปตันเพคะ! โชคดีว่าอยู่ในความสูงที่กัปตันเปิดโหมดออโต้ไพลอทเอาไว้ ทันทีที่เกิดเรื่องเขากดอันล็อกประตูทำให้พวกเราได้ยินเสียงและเข้าไปช่วยเหลือเขาไว้ได้ทันเวลา ตอนนี้องครักษ์ลากตัวหมอนั่นออกไปแล้วเพคะ!""ทำไมไม่ตามนักบินเสริมให้ขึ้นมาแทน?""หม่อมฉันไปปลุกแล้วไม่ตื่นเลยทั้งสองคน ไฟล์ทเนิร์ซกำลังดูอาการพวกเขาอยู่ กัปตันเลยให้มาขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทเพคะ!"ลูกเรือต่างก็เห็นพ้องต้องกันทุกคนว่า นาทีนี้ไม่มีใครจะเหมาะสมเท่ากับเจ้านายพระองค์นี้อีกแล้ว เขามีชั่วโมงบินของการเป็นนักบินเอฟสามสิบห้า ของกองทัพรวมห้าพันแปดสิบห้าชั่วโมง ในจำนวนนี้ มีชั่วโมงของการทำหน้าที่นักบินผู้ช่วย อยู่แปดร้อยแปดสิบสี่ชั่วโมงกับเครื่องบินรุ่นนี้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status