Share

บทที่ 5

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ฉินอู๋ต้าวเหลือบมองฉินซู และถามอย่างใจเย็น “องค์รัชทายาท เจ้ามีแผนการดี ๆ จริงรึ?”

ฉินซูพูดอย่างใจเย็น “ทูลเสด็จพ่อ กระหม่อมไม่มีความคิดดีๆ เลยพ่ะย่ะค่ะ"

ทันทีที่เขาพูดจบ ฉินเหยี่ยนก็พูดด้วยความเย้ยหยัน “เมื่อเสด็จพี่องค์รัชทายาท ตอนท่านวิจารณ์ทูตของเป่ยเยี่ยน ดูดุดันมากเพียงนั้น ตอนนี้กลับบอกว่าไม่มีความคิดดี ๆ อะไรเลย นี่มิไร้สาระไปหน่อยหรือ?"

“เช่นนั้น หากไม่มีแผนดี ๆ แล้วท่านยังจะเสนอให้ทำสงครามอีกหรือท่านอยากเห็นต้าเหยียนของเราตกที่นั่งลำบาก หรือท่านอยากอวดตัวต่อหน้าเหล่าขุนนางในท้องพระโรงกันแน่?”

ฉินหงก็สนับสนุนทันที เขามิอยากพลาดโอกาสที่จะได้เหยียบย่ำองค์รัชทายาทต่อหน้าขุนนางทั้งหลายเช่นนี้

หลินซียังถามอีกว่า “ในเมื่อองค์รัชทายาทไม่มีแผนการในใจ เหตุใดท่านถึงมิเห็นด้วยกับการคืนเมืองชิ่งโจวให้กับเป่ยเยี่ยนเล่า?”

ฉินซูวางมือไพล่หลังและส่งเสียงฮึมฮัม “หึ เมืองชิ่งโจวเดิมทีเป็นดินแดนของต้าเหยียน เหล่าทหารพยายามอย่างยากลำบากกว่าจะยึดกลับคืนมาได้ แต่พวกเจ้ากลับต้องการคืนชิ่งโจวให้เป่ยเยี่ยน การกระทำเช่นนี้มิเพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของเราเท่านั้น แต่ยังบ่อนทำลายขวัญกำลังใจของทหารชายแดนอีกด้วย ถามหน่อยเถิดว่า หากภายภาคหน้าเกิดสงครามขึ้น ทหารจะยังมีขวัญกำลังใจในการสู้รบอีกหรือ?”

“องค์รัชทายาท กระหม่อมยอมรับว่าสิ่งที่ท่านตรัสนั้นสมเหตุสมผลอยู่บ้าง แต่หากมิคืนเมืองกลับไป ถึงเวลานั้นเป่ยเยี่ยนยกทัพมาโจมตีแล้วเราจะรับมืออย่างไร?”

“ถูกต้อง เราจะมิทราบเรื่องนี้ได้อย่างไร หากเรามิส่งชิ่งโจวกลับไปให้เป่ยเยี่ยน ถึงเวลานั้นหากกองทัพใหญ่ยกมาจริง ๆ คนที่ต้องทนทุกข์ทรมานก็ยังคงเป็นราษฎรและทหารชายแดน”

“กระหม่อมก็มิเห็นด้วยกับการทำสงครามเช่นกัน ดินแดนต้าเหยียนของเรา ทางใต้ถูกน้ำท่วม ทางเหนือถูกภัยแล้ง ผู้คนจำนวนนับมิถ้วนได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ หากเราทำสงครามกับเป่ยเยี่ยนในยามนี้ และมิสามารถจัดหาเสบียงอาหารได้แล้วจะให้ทหารต่อสู้กับเป่ยเยี่ยนได้อย่างไร?”

เหล่าขุนนางต่างแสดงความคิดเห็น คนอื่น ๆ ต่างสนับสนุนการระงับเหตุการณ์มิให้บานปลาย เว้นแต่ฉินซู

ฉินอู๋ต้าวหรี่ตาลงเล็กน้อย ดูเหมือนมิพอใจ

แต่แล้วฉินซูก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง

เขาโค้งคำนับฉินอู๋ต้าว และพูดอย่างจริงจัง “เสด็จพ่อ ลูกมีแผนการหนึ่ง ซึ่งมิเพียงแต่มิต้องคืนเมืองชิ่งโจวให้กับเป่ยเยี่ยนได้เท่านั้นแต่ยังหลีกเลี่ยงสงครามได้อีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ทุกคนก็ตกตะลึง

ฉินอู๋ต้าวขมวดคิ้วและถามว่า “เมื่อครู่เจ้ายังบอกว่าไม่มีแผนการมิใช่รึ แล้วตอนนี้มีแผนการแล้วรึ?”

“เสด็จพ่อ แผนการนี้ของลูกมิใช่แผนการที่ดีนัก ทว่าถ้านำไปใช้จริงก็สามารถถ่วงเวลาไปจนกว่าภัยพิบัติจะคลี่คลาย ถึงเวลานั้นแม้เป่ยเยี่ยนจะต้องการทำสงคราม เราก็มิกลัวพวกเขาแล้ว!”

“หืม? ลองว่ามาสิ!”

ฉินซูกล่าวด้วยถ้อยคำที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจว่า “อันที่จริงก็ง่ายมาก มู่หรงฟู่เป็นองค์ชายห้าของเป่ยเยี่ยนมิใช่หรือ เราเพียงกักตัวเขาไว้ชั่วคราวแล้วเป่ยเยี่ยนก็จะมิกล้าทำอะไรบุ่มบ่าม!”

ทันทีที่คำกล่าวนี้ออกมา จู่ ๆ ขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๊ในศาลก็มองหน้ากันด้วยความสับสน

ฉินเหยี่ยนยิ้มอย่างเย็นชา เอ่ยเย้ยหยัน “เสด็จพี่องค์รัชทายาท ความคิดของท่านนี่ช่างไร้ประโยชน์เสียจริง มู่หรงฟู่และคนอื่น ๆ เป็นทูตของเป่ยเยี่ยนที่มาที่นี่เพื่อเจรจา ตอนนี้ท่านคิดจะกักตัวเขา เรื่องนี้หากแพร่กระจายออกไป แคว้นอื่น ๆ จะมองต้าเหยียนของเราอย่างไรเล่า?

“ถูกต้อง ถึงเวลานั้นต้าเหยียนจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด?”

“ข้าเกรงว่า องค์รัชทายาทจะลืมไปว่าสองแคว้นที่ทำสงครามกัน เราจะมิสังหารทูตระหว่างทั้งสองแคว้น นี่เป็นกฎเหล็ก หากละเมิดกฎนี้จะทำให้ราษฎรโกรธเคืองอย่างมาก”

เมื่อเผชิญกับการเยาะเย้ยและความถามของทุกคน ฉินซูก็ยังคงสงบ

เขาพูดอย่างมิสะทกสะท้านว่า “มีเพียงผู้อ่อนแอเท่านั้นที่จะปฏิบัติตามสิ่งที่เรียกว่ากฎ ผู้แข็งแกร่งจะสร้างกฎของตนเอง และเราต้าเหยียนต้องเป็นคนสร้างกฎนั้น”

คำพูดที่ทรงพลังของเขา ทำให้หลายคนมองเขาด้วยความสงสัย

ขุนนางบางคนถึงกับเริ่มกระซิบกระซาบกันเบา ๆ

“ว่ากระไรนะ สร้างกฎงั้นหรือ เหตุใดวันนี้องค์รัชทายาทจึงดูเหมือนเป็นคนละคนเลยเล่า?”

“แท้จริงแล้ว วันนี้องค์รัชทายาทพูดจาแข็งขันมาก โดยเฉพาะคำพูดมิกี่คำเมื่อครู่ หนักแน่นมากจริง ๆ”

“สิ่งที่องค์รัชทายาทตรัสนั้นค่อนข้างน่าตื่นเต้นจริง ๆ แต่การจะเป็นคนสร้างกฎนั้นมันมิง่ายกระมัง”

ฉินหงเยาะเย้ยและพูดว่า “มิใช่ว่าเสด็จพี่องค์รัชทายาทกินกระเทียมมากเกินไปหรือไร ถึงได้ปากเก่งเช่นนี้? มองดูทั่วทั้งแผ่นดินเฉินโจว ต้าเหยียนของเราถือเป็นแคว้นอันดับสองเท่านั้น ระดับเป่ยเยี่ยนเรายังพอรับมือได้ แต่หากเผชิญหน้ากับแคว้นที่ยิ่งใหญ่มากกว่านี้พวกเราคงโดนบดขยี้อย่างเดียว”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินอู๋ต้าวบนบัลลังก์มังกรก็มีใบหน้าเคร่งเครียด ดวงตามืดมนดูน่ากลัว

เมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้หลินซีจึงรีบอธิบาย “ฝ่าบาท แม้ว่าคำพูดของอ๋องฉีจะตรงไปตรงมาเกินไป แต่เราทุกคนก็รู้ว่าสิ่งที่อ๋องฉีตรัสนั้นเป็นความจริง หากกฎเกณฑ์ถูกทำลาย และแคว้นโดยรอบร่วมมือกันโจมตีต้าเหยียน ผลลัพธ์ที่รอเราอยู่คงจะมีแต่หายนะ”

“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท เมื่อถึงเวลานั้นจะมีแต่เสียมากกว่าได้”

“ฝ่าบาทโปรดทรงไตร่ตรองดูอีกทีเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินอู๋ต้าวยกมือขึ้น และมองฉินซูด้วยความผิดหวัง

แต่ในขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ฉินซูก็พูดขึ้นก่อน

“เสด็จพ่อ สิ่งที่ลูกหมายถึงจริง ๆ ก็คือ เราสามารถหาข้ออ้างอื่นเพื่อบีบให้มู่หรงฟู่อยู่ในหลงเฉิงได้ มิใช่ว่าปลายเดือนหน้าเป็นวันเกิดของไทฮองไทเฮาหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของฉินอู๋ต้าวก็สว่างขึ้นเล็กน้อย และมองไปที่เหลยเจิ้น

เหลยเจิ้นพยักหน้าเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “ฝ่าบาท แผนการของรัชทายาทใช้การได้พ่ะย่ะค่ะ!”

“กระหม่อมก็คิดว่าแผนการนี้ใช้การได้เช่นกัน เพียงแค่บอกว่าไทฮองไทเฮาทรงชื่นชมมู่หรงฟู่ อยากฟังเรื่องเล่าแปลก ๆ จากเป่ยเยี่ยน ทุกอย่างก็จะทุกอย่างลงตัว”

ขุนนางอาวุโสก็แสดงจุดยืนของเขา และเสนาบดีคนอื่น ๆ ก็เห็นด้วยเช่นกัน

“การวิเคราะห์ของหัวหน้าโหรหลวงและผู้อาวุโสเว่ยเจิงนั้นสมเหตุสมผล กระหม่อมสนับสนุนความคิดนี้เช่นกันพ่ะย่ะค่ะ!”

“กระหม่อมก็เห็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”

……

ฉินอู๋ต้าวมีรอยยิ้มที่หายากเกิดขึ้น และกล่าวว่า “ดีมาก เป็นเรื่องยากองค์รัชทายาทจะคิดแผนการอันแยบยลเช่นนี้ขึ้นมาได้ ในที่สุดก็เป็นไปตามความคาดหวังของข้า”

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ฉินหง ฉินเหยี่ยนและองค์ชายคนอื่น ๆ ก็รู้สึกมิพอใจในทันที

ฉินเหยี่ยนกลอกตาและถามอย่างมุ่งร้าย “เสด็จพี่องค์รัชทายาท ด้วยแผนของท่าน ท่านจะสามารถรั้งมู่หรงฟู่ไว้ได้หนึ่งเดือน แต่แล้วหลังจากวันเกิดของเสด็จย่าทวดเล่า?”

ฉินหงยังกล่าวอีกว่า “ใช่แล้ว ถึงเวลานั้นเขาก็จะกลับไปยังเป่ยเยี่ยน เรายังมีวิธีอื่นที่จะรั้งให้เขาอยู่ต่อหรือไม่ หากท่านไม่มีวิธีรับมืออื่นทุกอย่างก็จะสูญเปล่า ภัยพิบัติภายในแคว้นจะกินเวลาอย่างน้อยห้าถึงหกเดือนกว่าจะคลี่คลาย ในช่วงเวลานั้นเรามิอาจทำสงครามกับเป่ยเยี่ยนได้มิว่าอย่างไรก็ตาม”

ฉินอู๋ต้าวเลิกคิ้วแล้วถามว่า “องค์รัชทายาท เจ้ามีแผนการอะไรต่อไปหรือไม่?”

“เสด็จพ่อ ดูเหมือนว่า มู่หรงฟู่จะยังมิแต่งงานใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? ถึงเวลานั้นเสด็จพ่ออาจหาข้ออ้าง จัดการเรื่องการแต่งงานให้เขาสักครา”

“เจ้าหมายถึงการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์รึ?”

“พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ เสด็จพ่อสามารถเลือกหนึ่งในองค์หญิงหลาย ๆ องค์ได้ องค์หญิงหนึ่งองค์แลกเมืองหนึ่งเมือง มิว่าจะมองอย่างไรก็คุ้มค่า หากได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมก็อาจช่วยต้าเหยียนของเรายับยั้งความโลภของเป่ยเยี่ยนได้ นี่มิใช่ได้ประโยชน์สองต่อหรอกหรือพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินอู๋ต้าวยิ้มและส่ายหน้า “เจ้าไร้เดียงสาเกินไป การแต่งงานเพียงอย่างเดียวจะขจัดความทะเยอทะยานอันโหดร้ายของเป่ยเยี่ยนได้อย่างไร ถึงอย่างนั้น ความคิดของเจ้าก็ยังใช้การได้ ดึงเวลาไปได้อีกหน่อย แล้วต้าเหยียนของเราก็จะผ่านพ้นจากหายนะไปได้”

เมื่อเห็นฉินซูได้รับคำชม ฉินหงรู้สึกมิสบายใจมากยิ่งขึ้น

เขากลอกตาแล้วถามว่า "เสด็จพี่องค์รัชทายาท จะเกิดอะไรขึ้นหากมู่หรงฟู่มิชอบองค์หญิงที่เสด็จพ่อทรงเลือกไว้ให้เล่า?”

ฉินซูยิ้มอย่างมีเลศนัยและมองฉินหงแวบหนึ่ง

เมื่อเห็นสายตาแปลก ๆ ของเขา หัวใจของฉินหงก็เต้นรัว ลางสังหรณ์มิดีผุดขึ้นในใจ!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 6

    ฉินหงขมวดคิ้วและถามว่า “ไฉนท่านมองข้าเช่นนั้นเล่า?”ฉินซูยิ้มอย่างสงบและพูดว่า “ไม่มีอะไร ข้าแค่อยากจะบอกว่า หากมู่หรงฟู่มิชอบก็ยังมีหลินชิงเหยามิใช่รึ?”บุตรีสุดที่รักของใต้เท้าหลินเป็นหนึ่งในห้าของสาวงามแห่งหลงเฉิงของเรา ด้วยความงามเช่นนี้ ตราบใดที่มู่หรงฟู่มิใช่ขันที ก็คงไม่มีทางที่เขาจะมิถูกนางล่อลวงหรอกใช่หรือไม่?”ครั้นได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของฉินหงก็แสดงถึงความมิพอใจทันใด!ขุนนางคนอื่น ๆ ก็มีการแสดงออกที่แตกต่างกันออกไปมีผู้ใดมิรู้บ้างเล่าว่า หลินชิงเหยาเป็นคนรักของอ๋องฉี ฉินหง เมื่อฉินซูพูดเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาอยากมีปัญหากับอ๋องฉีใช่หรือไม่?สีหน้าหลินซีดูมิพอใจ เขาประสานมือและโค้งคำรับไปทางฉินอู๋ต้าว “ฝ่าบาท บุตรีของข้าน้อยมีคนที่นางรักอยู่แล้ว ข้าน้อยมั่นใจว่าฝ่าบาทจะมิ…”ยังมิทันที่เขาจะพูดจบฉินอู๋ต้าวก็โบกมือและขัดจังหวะเขา“เสนาบดีหลิน เรื่องยังมิไปถึงขั้นนั้น ไฉนเจ้าต้องตื่นตระหนกนัก?”“ข้าน้อย… ข้าน้อยเพียงกังวล…”“มีสิ่งใดให้กังวลนัก? แม้ว่านางจะแต่งงานกับมู่หรงฟู่โดยมีข้าสนับสนุน เช่นนั้นเจ้าก็กลัวว่ามู่หรงฟู่จะกล้ารังแกนางรึ? อีกอย่างข้าเพิ่งบอกว่าเรื่องยั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 7

    เหลยเจิ้นมิตอบทันที แต่ชี้ไปที่หัวของตนฉินอู๋ต้าวขมวดคิ้วเล็กน้อย “เจ้าหมายถึงอะไร?”“ทูลฝ่าบาท ปีนี้ดาวแห่งจักรพรรดิจะเข้าสู่วังชีวิต ทำลายอิทธิพลชั่วร้าย ดาวดวงอื่น ๆ หลับใหล นี่เป็นตัวบ่งบอกถึงจำนวนภัยพิบัติ อย่างไรก็ตาม เมื่อดาวไท่เวยอยู่ข้าง ๆ วังชีวิต เคราะห์ร้ายก็คลายกังวล หลังจากวันชุนเฟินในปีหน้า ครั้นดาวทุกดวงกลับคืนสู่ตำแหน่ง ไทเว่ยก็จะถูกขับออกจากตำแหน่ง"“เจ้ากำลังบอกว่า องค์รัชทายาทคือกุญแจสำคัญที่ช่วยป้องกันข้าจากเคราะห์ร้ายรึ?”เหลยเจิ้นพยักหน้าเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “พ่ะย่ะค่ะ ก่อนที่ดวงดาวจะกลับสู่ตำแหน่ง ต้องมิรบกวนไท่เวย มิเช่นนั้นโชคร้ายร่วงหล่นจากสวรรค์ ทั่วหล้าโกลาหลวุ่นวาย แคว้นจะตกอยู่ในอันตรายพ่ะย่ะค่ะ!”การแสดงออกของฉินอู๋ต้าวเริ่มจริงจังหากมีใครพูดเช่นนี้เขาคงจะสั่งให้ลากคนผู้นั้นออกไปตัดศีรษะแล้วทว่ายามนี้คำพูดที่มาจากปากของหัวหน้าโหรหลวงแห่งสำนักหอดูดาวหลวง เขาก็มิกล้าที่จะนิ่งนอนใจท้ายที่สุดแล้ว ความสามารถของเขาในการขึ้นสู่บัลลังก์นั้นขึ้นอยู่กับวิธีการทำนายที่ลึกลับยากจะคาดเดาของเหลยเจิ้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คำทำนายทั้งหมดของเหลยเจิ้นนั้นเป็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 8

    ฉินหงตะลึงตัวแข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่งและรีบอธิบายว่า “มิใช่เป็นแน่ ตอนนั้นข้าเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว ข้าจะมิยอมให้อะไรเกิดขึ้นกับเจ้าเด็ดขาด”หลินชิงเหยาเยาะเย้ยในใจ คร้านจะพูดอะไรกับเขามากกว่านี้ฉินหงพูดกับตัวเองว่า “วันนี้ตัวข้าอารมณ์ดี ไปล่องเรือในทะเลสาบกันเถอะ”หลินชิงเหยาส่ายหัวด้วยสีหน้าเย็นชา "หม่อมฉันขออภัยเพคะ วันนี้หม่อมฉันรู้สึกมิสบายนิดหน่อย หม่อมฉันคงไปกับท่านอ๋องมิได้ โปรดประทานอภัยให้หม่อมฉันด้วยเพคะ"ฉินหงถามด้วยความเป็นห่วง “เจ้าเป็นอะไรไป? ให้ข้าเรียกหมอมาดีหรือไม่?"“มิเป็นไรเพคะ หม่อมฉันแค่เวียนหัวนิดหน่อย เพียงต้องพักผ่อนเพคะ”“ก็ได้ เช่นนั้นเจ้าพักผ่อนก่อน หลังจากโค่นฉินซูองค์รัชทายาทไร้ประโยชน์ลงได้แล้ว ข้าจะพาเจ้าไปเที่ยวชมสถานที่ดี ๆ”หลังจากพูดเพิ่มเติมเล็กน้อย เขาก็หันหลังกลับเดินออกไปอย่างมิเต็มใจเมื่อมองดูร่างที่จากไปของเขา ดวงตาของหลินชิงเหยาก็สั่นไหว หัวใจของนางดิ้นรนกับอารมณ์ที่ขัดแย้งกันหลินชิงเหยา สวมเสื้อคลุมสีดำ เดินออกจากประตูหลังจวนอย่างเงียบ ๆ และมุ่งตรงไปยังตำหนักบูรพา……ตำหนักบูรพาขันทีน้อยหลายคนยืนเฝ้าอยู่ด้านนอกห้องทรงพระอักษรด้วย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 9

    หลังจากที่หลินชิงเหยาได้สติ นางก็หัวเราะกับตัวเอง “ดูเหมือนว่าหม่อมฉันจะเข้าไปยุ่งโดยมิจำเป็น วางพระทัยเถิดเพคะ องค์รัชทายาท หม่อมฉันจะมิเข้ามารบกวนท่านอีก"นางดูหดหู่ใจ ความโศกเศร้าจาง ๆ ยังคงอยู่บนใบหน้าอันบอบบางของนาง หลังจากพูดเช่นนั้นแล้วนางก็หันหลังเดินจากไปสตรีผู้นี้มีความรู้สึกต่อเขาอย่างเห็นได้ชัด!ฉินซูยิ้มอย่างมีเสน่ห์ พลันคว้าแขนขาวดั่งหยกอันละเอียดอ่อนของหลินชิงเหยาแล้วดึงนางเข้าไปในอ้อมอกร่างกายที่บอบบางของหลินชิงเหยาสั่นสะท้าน และตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้เมื่อตระหนักรู้ตัวได้เช่นนั้นนางก็พยายามจะแยกตัวออกนางเริ่มตะโกน“องค์รัชทายาท ท่านจะทำอะไร ปล่อยหม่อมฉันเดี๋ยวนี้!”ฉินซูยื่นมือออกมาเชยคางของนางแล้วจ้องมองเมื่อสบกับสายตาเจ้าเสน่ห์ของฉินซู หลินชิงเหยาก็อดมิได้ที่จะตะลึงเล็กน้อยตอนนั้นเองที่นางสังเกตเห็นรูปลักษณ์อันหล่อเหลาขององค์รัชทายาทไร้ค่า คิ้วคมโดดเด่น และดวงตาที่น่าดึงดูดและนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนมองนางด้วยสายตาอันลึกซึ้งเช่นนี้ก่อนหน้านี้ แม้ว่าอ๋องฉีฉินหงจะบอกว่าเขารักนางก็ตามแต่เขามักจะมองนางด้วยท่าทางวางตัวราวกับว่าคว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 10

    เฉิงจืออี้กล่าวอย่างมีความหมาย “หลังจากมาถึงหลงเฉิงแล้ว กระหม่อมได้ยินมาหลายครั้งว่า เหล่าองค์ชายและองค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียนมิลงรอยกัน ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร องค์ชาย หากท่านประสงค์ทวงคืนศักดิ์ศรี ท่านสามารถร่วมมือกับเหล่าองค์ชายแห่งต้าเหยียนได้พ่ะย่ะค่ะ”“เป็นความคิดที่ดี!”มู่หรงฟู่ตบต้นขาของตนในทันใด และลุกพรวดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นแต่หลังจากสงบลงแล้วเขาก็ถอนหายใจด้วยความหดหู่ “วันนี้เราก่อความวุ่นวายในราชสำนักต้าเหยียน องค์ชายแห่งต้าเหยียนเหล่านี้คงเกลียดเราแล้วจะมีใครร่วมมือกับเราอีกหรือ?”“องค์ชาย หาอย่าได้ประมาทความยั่วยุของตำหนักบูรพา องค์ชายเหล่านั้นต่างรอมิไหวที่จะได้เหยียบย่ำฉินซูพ่ะย่ะค่ะ”“แล้วตามที่ขุนนางอาวุโสเฉิงบอก เราควรร่วมมือกับองค์ชายคนใดดีเล่า?”เฉิงจืออี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “องค์ชายสามฉินหงหรือองค์ชายหกฉินเหยี่ยนแห่งต้าเหยียน ทั้งสองเผชิญหน้ากับฉินซูในราชสำนักในวันนี้ พวกเขาจะตกลงร่วมมือกับเราอย่างแน่นอน”มู่หรงฟู่พยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “เรื่องนี้มิควรล่าช้า เราไปคุยกับพวกเขาตอนนี้เถิดพ่ะย่ะค่ะ”“องค์ชาย หากออกไปเช่นนี้จะถูกดึงดูดความสนใจ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 11

    เมื่อเห็นการจ้องมองที่แทบจะกินเลือดกินเนื้อคนของฉินหง ฉินเหยี่ยนก็แอบหัวเราะในใจและรอชมละครฉากเดือดฉินหงจ้องมองไปที่ฉินซูและถามอีกครั้ง “บอกมา เจ้าทำอะไรกับชิงเหยา?”ฉินซูวางเอามือไพล่หลังแล้วตอบอย่างมิใส่ใจ "ในเมื่อเจ้าต้องการรู้ เหตุใดมิลองเดาดูเล่า!”“เจ้า… ข้า...”ฉินหงกำหมัดแน่นพร้อมจะลงมือฉินอี้ที่อยู่ด้านข้างรีบหยุดเขาไว้และแนะนำ “เสด็จพี่สาม เสด็จพี่องค์รัชทายาทจะทำอะไรที่มิเหมาะสมกับคนรักของท่านได้อย่างไร เห็นได้ชัดว่ามู่หรงฟู่ต้องการหว่านความขัดแย้งท่าน อย่าตกหลุมพรางแผนการเขาสิ!"“หากมู่หรงฟู่กำลังหว่านความขัดแย้งจริง ๆ เหตุใดฉิน… องค์รัชทายาทฉินมิให้คำอธิบายเล่า?”เดิมทีฉินหงต้องการเรียกเขาด้วยชื่อจริง แต่หลังจากที่เห็นหลินซีขยิบตาให้เขา เขาก็เปลี่ยนใจในพระตำหนักจินหลวน ต่อหน้าขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๊ของราชสำนัก การเรียกองค์ชายด้วยพระนามนั้นถือเป็นอาชญากรรมอย่างยิ่งหากฉินซูเข้าใจจุดนี้ ตนคงมิสามารถรับผลที่ตามมาได้ คงต้องจบเห่เป็นแน่ฉินอี้อธิบายว่า "เสด็จพี่องค์รัชทายาทคงคร้านเกินจะอธิบาย ยามนี้เป่ยเยี่ยนล้มเหลวในการขอเมืองชิ่งโจวคืน จึงใช้กลยุทธ์สร้างความแตกแ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 12

    หลินชิงเหยายิ้มอย่างขมขื่นพลางหลับตารอความตายดาบเคลื่อนลงมาอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าหลินชิงเหยากำลังจะพบกับจุดจบอันน่าเศร้าในช่วงเวลาวิกฤตินี้ มีร่างหนึ่งกระโดดลงจากหลังม้า!ในขณะที่คนผู้นั้นนี้ยื่นมือออกเพื่อดึงหลินชิงเหยาออกมา มืออีกข้างของเขาก็คว้าดาบอย่างรวดเร็วและช่ำชองในชั่วพริบตา ดาบในมือของฉินหงก็ถูกคนผู้นั้นคว้าไป ในเวลาเดียวกัน ดาบเย็นก็กดลงบนคอของเขาในทันใด!หลังจากที่ฉินหงตระหนักได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเขาก็ตกตะลึงจนอ้าปากค้าง!“ฉินซู เหตุใดจึงเป็นเจ้า!”เขาตกใจมาก!ฉินซูผู้ไร้ประโยชน์มีทักษะถึงเพียงนี้ได้อย่างไร? เขาสามารถปลดอาวุธได้ด้วยมือเปล่าจริง ๆ หรือ?องครักษ์ที่อยู่รอบ ๆ ฉินหงต่างก็ทำหน้าเคร่งขรึม พลันชักมีดออกมาพร้อมกัน!ดวงตาของฉินซูเย็นชา ดาบในมือของเขากลายเป็นแสงสีขาว ฟันไปที่หัวหน้าองครักษ์ที่อยู่ด้านหน้าม่านตาของหัวหน้าองครักษ์หดตัวลงทันที และพยายามหลบเลี่ยงโดยสัญชาตญาณทว่าก่อนที่เขาจะขยับเท้าได้ ดาบก็ฟาดลงมาแล้ว“ฉึก!”โลหิตพลันพุ่งออกมา ศีรษะของหัวหน้าองครักษ์ลอยขึ้นไปในอากาศ จากนั้นก็ร่วงหล่นลงมาและกลิ้งไปบนพื้นสองสามครั้งก่อนที่มันหยุดลงร่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 13

    หลินซีตบหน้าอกด้วยความมั่นใจ “มิเป็นเช่นนั้นแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง ท่านอาจมิทราบว่า จริง ๆ แล้วเซี่ยหลานถูกองค์รัชทายาทคุกคามเมื่อมินานมานี้ นางต้องการแก้แค้นองค์รัชทายาทมาโดยตลอด แต่นางไม่มีความสามารถที่จะทำเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ”“เยี่ยมมาก คราวนี้เราต้องวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าจะโค่นฉินซูลงให้ตกต่ำที่สุดจนลุกขึ้นมิได้อีก!”การแสดงออกของฉินหงดูชั่วร้ายมาก ดูอันตรายอย่างยิ่งในเวลาเดียวกันภายในโรงเตี๊ยมที่คณะทูตเป่ยเยี่ยนพักอยู่มู่หรงฟู่พูดด้วยความโกรธ “ให้ตายเถอะ ข้าอยากให้ฉินซูอับอายต่อหน้าธารกำนัล มิคิดเลยว่าเขาจะหนีไปง่าย ๆ เช่นนี้”เฉิงจืออี้ขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความงุนงงเล็กน้อย “เป็นเรื่องแปลกนักที่คนกล่าวขานกันว่า องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียนหลงสุราเคล้านารีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน และองค์จักรพรรดิต้าเหยียนก็ตัดสินใจปลดเขาออกหลังจากวันชุนเฟินในปีหน้า ทว่าหลังจากการเผชิญหน้าทั้งสองครั้งนี้ ไฉนกระหม่อมจึงรู้สึกว่า องค์รัชทายาทจะใกล้จะถูกปลดผู้นี้พูดจาเฉียบคมนัก มีสิ่งใดที่เขาดูเหมือนคนที่หลงสุราเคล้านารีหรือ?”“หึ หาได้ต้องถามไม่ เขาต้องรู้ว่าตนกำลังจะถูกปลด ดังนั้นเขาจึ

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 670

    “องค์รัชทายาท ทางนั้นมีกระไรผิดปกติหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ชิวก่วนเห็นฉินซูขมวดคิ้วมองไปยังฝูงชนฝั่งซ้ายก็เอ่ยถามขึ้นฉินซูยิ้มบาง ๆ “ไม่มีกระไร ออกเดินทางเถิด”เขาควบม้าเดินนำหน้าไปช้า ๆเมื่อครู่เขารับรู้ถึงกลิ่นอายสังหารเฉียบคมมาจากฝูงชน ทว่ามิได้ใส่ใจกระไรมากนักด้วยวรยุทธ์ในปัจจุบันของเขา ตราบใดที่มิใช่ยอดฝีมือระดับเดียวกับเจ้าสำนักหอดารารักษ์ เขาก็มั่นใจว่าจะรับมือได้เมื่อนึกถึงเจ้าสำนักหอดารารักษ์ ฉินซูก็รู้สึกเหนื่อยใจเล็กน้อย เพราะอีกมินานเขาก็ต้องเดินทางไปเป่ยเยี่ยนตามสัญญาแล้วเขาอดมิได้ที่จะพึมพำในใจ “มิรู้ว่าไปถึงหอดารารักษ์แล้ว นางปีศาจซ่างกวนอวิ๋นซีจะถลกหนังข้าหรือไม่ เฮ้อ หวังว่าก่อนเดินทางหัวหน้าโหรหลวงจะให้ของกำนัลที่มิคาดฝันแก่ข้าบ้าง”ฉินซูแทบจะมั่นใจได้ว่า วรยุทธ์ของเหลยเจิ้นนั้นมิได้ด้อยกว่าซ่างกวนอวิ๋นซีเป็นแน่ ดังนั้นเขาจึงฝากความหวังไว้กับหัวหน้าโหรหลวงเป็นส่วนใหญ่ หวังว่าอีกฝ่ายจะให้ของวิเศษไว้ป้องกันตัวบ้างจากนั้นเขาก็นึกถึงกู้เสวี่ยเจี้ยน และหวนถึงช่วงเวลาที่ทั้งคู่ใช้ชีวิตด้วยกันในถ้ำอย่างสงบและไร้กังวลในเวลาเดียวกันท่ามกลางฝูงชน จ้าวอวี้เสวียนเอ่ยลอ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 669

    ฉินซูเรียกแม่ทัพนายกองทัพหลักมา สั่งการเรื่องต่าง ๆ ที่จะตามมาให้พวกเขาเรียบร้อยแล้ว จึงหันไปสั่งชิวก่วนว่า “จงไปจัดสรรเงินจากคลังหลวงมาหนึ่งล้านตำลึง และเสบียงอาหารหนึ่งหมื่นต้าน เพื่อเป็นรางวัลแก่ทหารทั้งสามทัพ ส่วนที่เหลือทั้งหมดให้บรรจุหีบขนกลับหลงเฉิง!”“ข้าน้อยรับพระบัญชา!”แม่ทัพนายกองที่เหลือต่างก็ดีใจจนเนื้อเต้น คุกเข่าลงข้างหนึ่งแล้วกล่าวพร้อมกันว่า “ข้าน้อยขอขอบพระทัยองค์รัชทายาท!”เที่ยงวันนั้น ฉินซูก็พาชิวก่วนและทหารชั้นยอดห้าพันนายขนเงินและสิ่งของอื่น ๆ จากคลังหลวงแคว้นหนานเยวี่ยออกจากพระราชสถาน และเตรียมตัวเดินทางกลับต้าเหยียนทว่าเพิ่งออกมาจากพระราชสถาน ฉินซูก็พบว่าข้างนอกเต็มไปด้วยราษฎรแคว้นหนานเยวี่ยเมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินซูก็อดมิได้ที่จะขมวดคิ้ว นึกว่าราษฎรเหล่านั้นจะมาขว้างปาไข่เน่าใส่ตนแต่กลับพบว่า ทันทีที่เขาก้าวออกมา ราษฎรเหล่านั้นก็พากันคุกเข่าลงฉินซูชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถามหลิวผู่ว่า “เกิดกระไรขึ้นกับพวกเขา?”หลิวผู่ตอบด้วยความเคารพ “องค์รัชทายาท พระองค์ทรงมีพระบัญชาให้ยกเว้นภาษีและการเกณฑ์แรงงานในแคว้นหนานเยวี่ยเป็นเวลาสามปี ราษฎรเหล่านี้จึงตั้งใ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 668

    เพียงใช้กลอุบายเล็กน้อยก็ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยได้สำเร็จ เพียงยกมือขึ้นก็สามารถตบยอดฝีมือระดับปฐพีให้กลายเป็นหมอกเลือดได้หากองค์รัชทายาทเช่นนี้มิได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์ต่อไป สวรรค์ก็ไร้แววอย่างแท้จริงในเวลานี้ ชิวก่วนมีแต่ความคิดที่จะติดตามรับใช้ฉินซูเท่านั้น นอกจากนั้นแล้วเขาก็ไม่มีความต้องการอื่นใดอีกฉินซูกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้ามิได้ออกรบอยู่บ่อย ๆ มิจำเป็นต้องให้เจ้ามาคอยรับใช้ใกล้ชิด ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดี ราชสำนักต้าเหยียนของข้าจะมิทำให้เจ้าผิดหวังแน่นอน”เมื่อชิวก่วนเห็นฉินซูปฏิเสธ ในใจก็อดมิได้ที่จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแต่เมื่อคิดอีกที ในภายภาคหน้าราชสำนักต้าเหยียนก็คงต้องฟังคำสั่งของฉินซูอยู่ดีมิใช่หรือ?นั่นหมายความว่า ตราบใดที่ตนตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ จักรพรรดิองค์ต่อไปนี้ก็จะมิทำให้ตนต้องลำบากเมื่อคิดได้ดังนั้น ชิวก่วนก็เผยสีหน้ายินดีปรีดาในทันทีพร้อมพยักหน้ารัว “องค์รัชทายาทโปรดวางพระทัย ข้าน้อยจะทุ่มเทสุดกำลังจนกว่าชีวิตจะหาไม่พ่ะย่ะค่ะ!”ฉินซูมองชิวก่วนด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็มิได้พูดสิ่งใดอีกเขามองไปรอบ ๆ แล้วสั่งการ “ทำความสะอาดเสียหน่อยเถิด ข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 667

    ตบฝ่ามือทีเดียวก็ทำให้คนกลายเป็นหมอกเลือด แม้แต่ยอดฝีมือระดับสวรรค์ก็ทำมิได้ แต่ฉินซูกลับทำได้อย่างง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ หากมิใช่ผีแล้วจะเป็นกระไรไปได้เล่า?จอมยุทธ์หลายคนใช้วิชาตัวเบา พยายามเหาะข้ามหลังคาเพื่อหนีเอาตัวรอดทว่าร่างของพวกเขาเพิ่งจะทะยานขึ้นไปในอากาศ กระแสพลังฝ่ามืออันน่าสะพรึงกลัวจนขนลุกก็พุ่งเข้ามาพวกเขายังมิทันได้ร้องขอชีวิต ก็ถูกตบจนกลายเป็นหมอกเลือดไปเสียแล้วดังนั้นการต่อสู้ที่ดูเหมือนจะเป็นการล้อมโจมตี กลับกลายเป็นการสังหารหมู่แต่เพียงฝ่ายเดียว!ในเวลานี้ ผู้ที่ตายด้วยน้ำมือของฉินซูมีจำนวนมากถึงยี่สิบสามสิบคนซึ่งในจำนวนนั้นยังมียอดฝีมือระดับปฐพีอยู่มิน้อย“องค์รัชทายาท ข้าน้อยผิดไปแล้ว ขอร้อง ได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วย!”ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งเห็นฝ่ามือของฉินซูกำลังพุ่งตรงมา ก็ตกใจจนรีบคุกเข่าลงร้องขอชีวิตฉินซูเก็บมือกลับจริง แล้วหันไปตบอีกคนที่หมายจะหนีจนตายตกไปหลายคนสังเกตเห็นภาพนั้น เมื่อเห็นว่าหนีไปก็ไร้หวัง พวกเขาจึงพากันเลียนแบบชายวัยกลางคน คุกเข่าลงร้องขอชีวิต“องค์รัชทายาท พวกข้าน้อยยอมแล้ว พวกข้าน้อยยอมแพ้แต่โดยดีแล้ว ขอพระองค์โปรดไว้ชีวิตพ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 666

    เมื่อเห็นการโจมตีที่ทรงพลัง เหล่าชาวยุทธภพหนานเยวี่ยก็อุทานด้วยความทึ่ง“สมแล้วที่เป็นเจ้าสำนักดาบพิฆาต วิชาดาบช่างทรงพลังยิ่งนัก!”“นึกมิถึงเลยว่า เพียงขั้นกลางระดับปฐพี กลับสามารถระเบิดพลังการต่อสู้ที่น่าสะพรึงเช่นนี้ออกมาได้ วิชาดาบพิฆาตสมชื่อจริง ๆ”“กระบวนท่าของเขา แม้แต่ยอดฝีมือระดับสวรรค์ก็คงมิกล้ารับดาบโดยตรงกระมัง?”“รัชทายาทผู้รอวันปลดนี่ต้องตายแน่ พวกเราคงมาเสียเที่ยวแล้ว”“...”ท่ามกลางเสียงอุทานของฝูงชน ฉินซูกลับเดินทอดน่องสบายอารมณ์ และตบฝ่ามือออกไปช้า ๆเมื่อเห็นภาพนั้น บางคนก็หัวเราะเยาะขึ้นมาทันที“รัชทายาทผู้รอวันปลดนี่คิดจะรับดาบด้วยมือเปล่ารึ? ช่างมิรู้ประสีประสาจริง ๆ!”“รนหาที่ตายก็ดีแล้ว อย่างน้อยความแค้นของแคว้นหนานเยวี่ยของพวกเราจะได้ถูกชำระล้าง”คนอื่น ๆ กำลังจะเอ่ยปากถมถุยตาม ทว่าบัดนั้นเอง...'ปุ้ง!'หลังจากสิ้นเสียงแผ่วเบา ร่างกำยำของเจ้าสำนักดาบพิฆาตก็ระเบิดออกเป็นหมอกเลือด!ทุกคนตกตะลึงกับภาพอันน่าเหลือเชื่อนี้ ต่างยืนงงงันอยู่กับที่ราวกับถูกสาปให้กลายเป็นหินรวมถึงชิวก่วนและพรรคพวกด้วยเช่นกัน!ตบฝ่ามือเดียวทำให้จอมยุทธ์ระดับปฐพีขั้นกลางกลา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 665

    แต่ในวินาทีต่อมา รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็แข็งค้างในทันที ร่างกายสั่นสะท้านก่อนจะหงายหลังล้มตึง!แม้แต่ถานซินหลานที่อยู่ข้าง ๆ ก็มิรอด พลันล้มลงจมกองเลือดด้วยสีหน้าคับแค้นใจร่างของศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสองเต็มไปด้วยรอยเข็มเล็ก ๆ นับมิถ้วนเลือดสีดำสนิทราวกับหมึกค่อย ๆ ไหลซึมออกมาจากบาดแผลเล็กจิ๋วเหล่านั้นทั้งสองสงสัยจนถึงลมหายใจเฮือกสุดท้ายว่า ฉินซูมิได้ขยับนิ้วแม้แต่น้อย เหตุใดเข็มพิษเหล่านั้นถึงพุ่งกลับมาเองโดยไร้สาเหตุเมื่อเดินออกจากตรอก เสียงฝีเท้าอึกทึกก็ดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ พร้อมกับเสียงกีบม้าบาดหู“ใครมาทะเลาะวิวาทกันแถวนี่?”กลุ่มทหารก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าฉินซูพร้อมกับเสียงตวาดดังลั่นคนที่อยู่บนหลังม้าสวมชุดเกราะพร้อมถือหอกยาว ชิวก่วนนั่นเอง!เมื่อเขาเห็นฉินซูก็ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็รีบลงจากม้าเพื่อทำความเคารพ“คารวะองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินซูโบกมือ กล่าว “พวกเจ้ามาได้อย่างไร?”“ข้าน้อยลาดตระเวนยามวิกาลอยู่ทางฝั่งใต้ของเมือง และได้ยินเสียงเคลื่อนไหวทางนี้จึงนำคนมาพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท ข้างนอกอันตราย พระองค์เสด็จกลับเถิดพ่ะย่ะค่ะ”“คนอื่น ๆ อุตส่าห์เดินทางมา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 664

    ฉินซูสะบัดแขน ภาพเหตุการณ์พลันหยุดนิ่ง!เห็นเพียงปลายกระบี่ของมือกระบี่ชุดดำถูกสกัดไว้ด้วยนิ้วชี้ของฉินซู!ปราณแห่งกระบี่รุนแรงที่แผ่ซ่านไปทั่วเมื่อครู่นั้นได้พลันอันตรธานหายไปในบัดดลมือกระบี่ชุดดำเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดผวาในฐานะมือกระบี่ระดับปฐพีขั้นต้น เขาไร้คู่ต่อสู้ในหนานเยวี่ย ทว่าการโจมตีเต็มกำลังในครั้งนี้ กลับถูกอีกฝ่ายปัดป้องได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังใช้นิ้วเพียงนิ้วเดียวสกัดกระบี่ที่ทำจากเหล็กกล้าได้หากมิได้เห็นกับตา ใครเล่าจะเชื่อว่าภาพเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นเรื่องจริง?“เจ้า อ่อนแอเกินไป!”น้ำเสียงเหยียดหยามของฉินซูดังขึ้น จากนั้นก็มีเสียง 'กร๊อบ กร๊อบ' ดังขึ้นสองครา กระบี่ยาวในมือมือกระบี่ชุดดำพลันหักเป็นท่อน ๆมือกระบี่ชุดดำได้สติกลับมาในทันทีพร้อมหมายจะถอยหนี ทว่าบัดนี้กลับรู้สึกถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ทะลวงออกมาจากกระบี่ที่หักนั้น“แย่แล้ว!”รูม่านตาของเขาหดเล็กลงในทันใด ในใจร้องเตือนลางร้ายแต่เขายังมิทันได้ตอบสนองอะไร ร่างทั้งร่างก็ถูกพละกำลังมหาศาลอัดกระแทกจนกระเด็นออกไปส่วนแขนข้างที่เขากำกระบี่ไว้ก็กลายเป็นหมอกโลหิตไปแล้ว'โค

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 663

    ในเวลานี้ ฉินซูกำลังยืนไพล่หลังอยู่บนกำแพงเมืองพระราชวัง มองไปยังแสงไฟนับหมื่นดวงภายในเมืองถัวเฉิง!บัดนี้เขายึดครองแคว้นหนานเยวี่ยได้สำเร็จอย่างราบรื่น ทำให้เขารู้สึกราวกับเป็นราชันแห่งใต้หล้าในขณะนั้นเอง เขาสังเกตเห็นที่ประตูเมืองเบื้องล่าง กลุ่มทหารกำลังคุมตัวชายหลายคนเดินกลับมาเขาถามด้วยความสงสัย “ชิวก่วน พวกนั้นเป็นใคร?”ชิวก่วนตอบด้วยความหนักใจเล็กน้อย “ทูลองค์รัชทายาท ว่ากันว่าพวกนั้นเป็นชาวยุทธภพหนานเยวี่ย พวกเขาได้ยินว่าจ้าวควงตายด้วยน้ำมือของพระองค์ จึงมาที่ยังถัวเฉิงเพื่อลอบปลงพระชนม์แก้แค้นให้แก่ราชวงศ์จ้าวพ่ะย่ะค่ะยามนี้มิทราบแน่ชัดว่าในถัวเฉิงมีผู้ที่มีเจตนาร้ายซุ่มซ่อนตัวรอโอกาสลงมือมากน้อยเพียงใดฉะนั้นขอองค์รัชทายาทโปรดอย่าได้เสด็จออกไปข้างนอกในยามวิกาลเป็นอันขาดพ่ะย่ะค่ะ พระราชวังมีกำแพงสูงคูเมืองลึก อีกทั้งยังมีทหารรักษาการณ์แน่นหนา พวกชาวยุทธภพเหล่านั้นไม่มีทางบุกเข้ามาได้แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินซูก็หัวเราะอย่างสนใจ “ในเมื่อชาวยุทธภพหนานเยวี่ยอยากจะสังหารข้า เช่นนั้นข้าก็จะให้โอกาสพวกเขาสักครา!”ชิวก่วนชะงักไป แล้วรีบห้ามปราม “เช่นนั้นมิคว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 662

    “ท่านอาจารย์ องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน ฉินซู นำทัพบุกยึดถัวเฉิง เสด็จและเชื้อพระวงศ์ทั้งหมดถูกสังหารด้วยน้ำมือของเขา ทหารรักษาการณ์ในแคว้นก็ยอมจำนนหมดแล้ว บัดนี้ศิษย์เหลือตัวคนเดียว ไร้ซึ่งกำลังและพวกพ้อง ขอท่านอาจารย์โปรดออกหน้าช่วยศิษย์ล้างแค้นให้วงศ์ตระกูลด้วยเถิดเจ้าค่ะ!”จ้าวอวี้เสวียนคุกเข่าลงกับพื้น กล่าวจบก็ร่ำไห้สะอึกสะอื้นด้วยความเศร้าโศกเมื่อได้ยินเช่นนั้น ซู่เสวียนก็ขมวดคิ้วพลางมองจ้าวอวี้เสวียนด้วยความมิพอใจเล็กน้อย“อวี้เสวียน ในเมื่อเจ้าได้เข้าสู่วิถีแห่งสำนักแล้วก็ควรตัดขาดจากตัณหา มุ่งมั่นบำเพ็ญเพียรเพียงอย่างเดียว เจ้าลืมคำสั่งสอนของอาจารย์ก่อนหน้านี้สิ้นแล้วหรือ?”จ้าวอวี้เสวียนกล่าวทั้งน้ำตา “ท่านอาจารย์ คำพูดของท่าน ศิษย์จดจำไว้ในใจเสมอ เพียงแต่ญาติสนิททั้งตระกูลถูกสังหารอย่างอนาถ ความแค้นใหญ่หลวงเช่นนี้หากมิได้ชำระ เกรงว่าภายหน้าต่อไปจะกินมิได้นอนมิหลับ ไหนเลยจะมีจิตตั้งมั่นบำเพ็ญเพียรบรรลุเซียนได้”“เจ้า… เฮ้อ!”ซู่เสวียนถอนหายใจยาว และหันหลังกลับไปด้วยความผิดหวังเล็กน้อยเมื่อเห็นเช่นนั้น จ้าวอวี้เสวียนก็อ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ท่านอาจารย์ โปรดช่วยศิษย์ด้ว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status