หลังจากที่อยู่พูดคุยกันจนหายคิดถึง ปลาทูก็ขอตัวพร้อมได้ขนมตาลติดมือกลับมาด้วย เด็กน้อยชอบกินขนมไทย ปราณีจึงไม่ลืมที่จะซื้อกลับบ้านมาทุกครั้ง
นั่งทำการบ้านอยู่ตรงโต๊ะทานข้าว จนช่วงเย็นก็ได้ยินเสียงบิ๊กไบก์ขับเข้าบ้านข้างๆ ร่างเล็กจึงลุกไปหยิบเอาถุงกระดาษที่สาวสวยฝากไว้ตรงเคาน์เตอร์ครัวแล้วกลับมานั่งทำการบ้านตามเดิม ไม่ถึงห้านาที...
“พอรู้ว่าแม่ฉันกลับมาก็ไปเสนอหน้าเลยนะ” ประโยคทักทายที่ได้ยินแล้วเป็นต้องถอดหายใจแรงๆ
ไม่เคยจะทักกันเหมือนพี่น้องคู่อื่นเลยจริงๆ
“อ่ะ” มือเล็กดันถุงที่ว่าไปตรงหน้าให้คนที่กำลังหย่อนก้นนั่ง อคิณนึกแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็เปิดดู เห็นเป็นคุกกี้ก็เปิดฝากเอาเข้าปากในทันที ถือเป็นครั้งแรกที่ยัยตัวแสบซื้อขนมให้
“นึกไงให้ขนมฉัน?”
“พี่เค้กส้ม นิเทศปีสี่ฝากมาให้ค่ะ”
“ห๊ะ!” คนตกใจวางทุกอย่างแล้วตรงเข้าห้องครัว คายสิ่งที่อยู่ในปากลงถังขยะ
“ถึงกับต้องคายทิ้งเลยเหรอพี่คิณ” ปลาทูเดินตามไปเกาะประตูดู เป็นต้องตาโตเมื่อคนพี่หันไปเปิดตู้เย็น หยิบขวดน้ำมาเปิด นึกว่าจะกินแต่ไม่ เขาล้างปาก! แล้วบ้วนทิ้งลงซิงค์ล้างจาน “ตะ ต้องขนาดนั้นเลยเหรอพี่คิณ”
“คิดว่าตัวเองเป็นแม่สื่อหรือไง” จัดการตัวเองเรียบร้อยก็หันมาจัดการคนจุ้นจ้าน คิ้วเข้มขยับชนกัน บ่งบอกว่าเขากำลังไม่พอใจและกำลังจะโกรธในเวลาต่อมา “หรือว่าเป็นขี้ข้าผู้หญิงพวกนั้น ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไปเป็นควายซะ จะไปเรียนให้เสียเงินเสียทองทำไมวะ”
“...” ปลาทูได้แต่ยืนอ้าปากค้าง อยู่ๆดวงใจก็ตกวูบ มองดูคนโมโหเดินออกไปพร้อมกับถุงคุกกี้ ไม่ใช่ว่าจะเก็บไว้กินที่หลัง แต่เอาไปทิ้งลงถังขยะใหญ่หน้าบ้าน
ตั้งแต่เกิดมานี้คือครั้งแรกที่ถูกเขาด่าตรงๆและแรงขนาดนี้ เล่นเอางงอยู่เหมือนกันว่าตัวเองทำอะไรผิดพลาดตรงไหน ไม่เข้าใจเลยสักครั้ง
ปกติในช่วงค่ำอคิณมักจะมานั่งกินข้าวด้วยหรือไม่ ก็มานั่งเล่นเกมส์ที่บ้าน ทว่าวันนี้ปราณีกลับเป็นคนที่เดินเข้ามาพร้อมกับถ้วยแกงที่มักจะทำอาหารเผื่อเด็กน้อยเป็นประจำ นั้นยิ่งทำให้ปลาทูรู้สึกไม่สบายใจ
แม้แต่เปิดดูซีรี่ย์เรื่องโปรดยังไม่สามารถช่วยให้สงบได้
มีบ้างที่ใจคิดจะเดินไปขอโทษกับเรื่องที่ทำลงไป แต่อีกใจกลับร้องบอกว่านี้ไม่ใช่ครั้งแรก เดี๋ยวเขาก็คงกลับมาคุยด้วยเอง มั้ง
ความหล่อเหลาหน้าตาดีของอคิณเป็นที่สนใจของสาวๆหลายคนมาตั้งแต่เด็กๆ หลายครั้งที่มีผู้หญิงฝากพวกขนม ดอกไม้และตุ๊กตามาให้ ซึ่งพี่อคิณก็ไม่เคยรับสักครั้ง แล้วก็ไม่เคยโมโหใส่กันหนักเท่าครั้งนี้ด้วย ทำเอาเครียดไปกันใหญ่
“พี่เป็นอะไรกันแน่ พี่คิณ?” ปากบางพร่ำถามอากาศ
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายดันมีอิทธิพลกับตัวเธอ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่กระวนกระวายใจไม่หยุด
พรึ่บ!
แสงไฟจากหน้าต่างห้องนอนของบ้านข้างๆดับลง แต่ดวงตาคมกริบยังคงจ้องมองไม่วางตา ใบหน้าที่เรียบนิ่งใครจะรู้ว่าข้างในร้อนรน เป็นกังวนมากแค่ไหน เขาไม่ได้ตั้งใจจะใช้คำพูดแรงๆพวกนั้นกับเธอ...ในตอนนั้นเขาแค่โคตรจะโมโห
โมโหที่ยัยเด็กนั้นเอาขนมของคนอื่นมาให้เขา
โมโหที่ยัยเด็กนั้นจุ้นจ้าน ทำในสิ่งที่เขาไม่ต้องการ
โมโหที่ยัยเด็กนั้นทำเหมือนต้องการอยากจะผลักเขาไปให้คนอื่น...
แต่ที่หน้าโมโหมากกว่านั้นคือตัวเขาเอง...ที่กำลังรู้สึกแย่ แต่ยัยเด็กปลาทูนั้นกลับนอนหลับได้อย่างสบายใจ
“ให้ตาย! กลายเป็นกูได้ไงวะที่เป็นคนนอนไม่หลับ”
เช้านี้ที่ตื่นมาโคตรจะไม่อยากตื่น แต่เพราะมีเรียนเช้าอคิณจึงหอบสังขารไปอาบน้ำ จัดการตัวเองจนเสร็จก็ลงมาด้านล่าง เห็นจานข้าวที่แม่ชอบตักแยกไว้ให้เด็กข้างบ้าน มือหนาจึงคว้ามา ตรงไปยังประตูเชื่อมระหว่างสองบ้าน
ทว่า...
สายตาพลันเห็นท้ายรถของคนตัวเล็กที่ได้ขับออกไปแล้ว
“แม่ง! โกรธก็โกรธสิวะ เรื่องนี้กูผิดที่ไหน ยัยนั้นต่างหากที่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง” บ่นเสร็จก็เดินกลับเข้าบ้าน วางจานข้าวเสียงดังจนผู้เป็นแม่ตกใจ
“เป็นอะไรลูก แล้วข้าวนั้นไหนว่าเอาไปให้น้อง”
“...” ไม่มีคำตอบนอกจากใบหน้าที่ตึงจัดราวกับคนที่พึ่งไปฉีดโบท็อกมา ปราณีรู้โดยธรรมชาติว่าลูกชายกำลังมีปัญหากับคนตัวเล็ก จึงส่ายหัวเบาๆขณะถอดหายใจ แต่ไม่เป็นกังวนเพราะรู้ว่าอีกเดี๋ยวทั้งคู่ก็ดีกันเอง
@ST UNIVERCITY
ใช้เวลาไม่นานอคิณก็ขับมอเตอร์ไซค์มาถึงมหาลัย ทั้งที่ไม่ตั้งใจแต่สายตาไม่รักดีก็เอาแต่คอยสอดส่องหาร่างบางที่คุ้นเคย จนเห็นว่าเด็กนั้นนั่งอยู่ใต้ตึก โต๊ะประจำที่เธอกับเพื่อนชอบนั่ง ขายาวจึงเดินไปหาเพื่อนที่ยกมือเรียก
“ไงมึง? หน้าอย่างกับไปกินรังแตนมา” คนหน้าหวานที่สุดในกลุ่มทักทายด้วยการเหน็บแนม
“หรือว่าน้องข้างบ้านไม่หาข้าวให้แดกวะ” ตามด้วยพ่อหนุ่มลูกครึ่ง
“หุบปากเหี้ยๆของพวกมึงไปเลย” สายตามองเพื่อนๆอย่างอาฆาตแค้น คนยิ่งอารมณ์ไม่ดี ยังจะแกว่งเท้าหาเสี้ยน
“โมโหเด็กแล้วมาลงที่พวกกูได้ไงวะ” คนหน้าดุที่สุดอย่างการินพูดขึ้นบ้าง อาการนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากใคร หากไม่ใช่เด็กน้อยใบหน้าจิ้มลิ้มที่กำลังนั่งโต๊ะที่ห่างจากพวกเขาไปอีกห้าโต๊ะ
เด็กน้อยนั่งก้มหน้าก้มตาเขียนหนังสือกับเพื่อน เมื่อคืนเธอไม่มีกระจิตกระใจที่จะทำการบ้านเลยต้องออกบ้านแต่เช้าเพื่อมาขอลอกยิ้ม เออ...ไม่ได้ลอก แค่ดูไว้เป็นแนวทาง
“ดูของฉันด้วยไหม เผื่อข้อถัดไปจะได้ไม่เหมือนของยิ้ม” โบนัสถามเล่นๆ แต่ปลาทูเอาจริง
“แต้งกิ้วน้า~” นาทีนี้เธอรับหมดเพราะกลัวส่งไม่ทัน
ชายหนุ่มยิ้มหน่อยๆขณะกลอกตาไปมา ก่อนจะเอาสมุดตัวเองให้คนตัวเล็กดู ใบหน้าหวานละมุนจึงช้อนขึ้นระบายยิ้มอ่อนๆ โดยไม่รู้ว่าการที่เธอส่งยิ้มให้ชายอื่นมันโคตรจะส่งผลให้ดวงใจของใครอีกคนปวดหน่วงๆ
“คิดว่ายิ้มแล้วน่ารักหรือไงวะ”
“กูว่าก็น่ารักดีนะ” รู้ว่าเพื่อนกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน แต่อยากเห็นคนหัวร้อน เลยขอสักหน่อย
“กูก็ว่างั้น น่ารักจนผู้ชายคณะเรานี่มองกันเป็นแถบ”
“พวกมึงหุบปากดิ กูรำคาญ” ยิ่งเพื่อนตอกย้ำก็ยิ่งอยากจะปารองเท้าใส่ไอ้กลุ่มผู้ชายที่มองเด็กนั้นแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
ให้ตายเถอะ! นี่เขากำลังจะเป็นบ้าเพราะยัยเด็กขี้โกงจริงๆเหรอวะ
ขี้โกงที่ทำเขาปั่นป่วน
ขี้โกงที่ทำเขาหงุดหงิด
ขี้โกงที่ไม่มาง้อเขาเหมือนเช่นทุกครั้งที่ความสัมพันธ์ระหว่างเราเป็นแบบนี้
สายตาคู่นั้นใช่ว่าปลาทูจะไม่เห็น แต่เพราะคิดว่าตัวเองก็ไม่ได้ผิดอะไร จึงเลือกที่จะมองไม่เห็น แต่ก่อนขึ้นเรียนขอลองทำเป็นเดินเข้าไปเฉียดใกล้เขาหน่อย ทว่าไอ้พี่คนซืนก็ไม่รั้งไม่เรียกแม้แต่คำเดียวชิ! เมินให้ตลอดละกันไอ้พี่บ้า “จะงอนให้หนักเลย” บ่นอุบอิบ “งอนใครเหรอ?” ยิ้มที่เดินมาด้วยกันได้ยินพอดีจึงเอ่ยถาม ขณะที่โบนัสก็เดินตามมาติดๆก็หยุดฟัง“ปะ เปล่า ไม่มีอะไรหรอก” ฉีกยิ้มกว้างเพื่อยืนยันในคำตอบ ทว่าสายตาดันไปเห็นกลุ่มของพี่สาวคนสวยเมื่อวาน รอยยิ้มจึงค่อยๆเลื่อยหุบลงเหลือเพียงบางๆ“น้องปลาทู”“พี่เค้กส้ม สวัสดีค่ะ” มือน้อยยกไหว้ตามมารยาทรุ่นพี่รุ่นน้อง อึดอัดนิดหน่อยเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายมาหาด้วยเรื่องอะไร “เป็นไงบ้างจ๊ะ วันนี้พี่มีขนมของอคิณแล้วก็เค้กของน้องปลาทูด้วยนะ ถือว่าเป็นคำขอบคุณที่เมื่อวานน้องช่วยเอาขนมไปให้อคิณ” ที่จริงขนมเค้กในส่วนของเด็กนั้นเค้กส้มไม่ได้ซื้อ เธอกินไม่หมด จะทิ้งก็เสียดายของเหลือๆมันเหมาะกับยัยเด็กนี้ที่สุดแล้ว“ไม่เป็นไรค่ะ พี่เค้กเอากลับไปเถอะ ทั้งของพี่คิณแล้วก็เค้กที่จะให้ปลาทูด้วย” คำขอบคุณอะไรเธอไม่เอาทั้งนั้นแหละตอนนี้“ทำไมล่ะ อคิณเขาไม่รับเหรอ?” สีห
“พวกพี่จะชวนไปปาร์ตี้ร้านไอ้ทายน่ะ ถือเป็นการเชื้อมสัมพันธ์น้องรหัส”“น่าสนุกวะพี่ ผมขอไปด้วยสิ” โบนัสรีบเสนอตัว พร้อมว่างแขนพาดบนไหล่ของปลาทูอย่างลองเชิง ทำอคิณแทบขยับตัวพุ่งใส่แต่มาวินกับการินที่ประกบข้างก็จับไว้แน่น พลางกระซิบเตือนสติ“ท่องไว้ว่านั้นน้อง ไม่ใช่เมีย อย่าออกอาการเยอะ”“น้องเว้ย น้อง” สิ่งที่ทำได้คือกัดปาก ถอดหายใจหนักๆอย่างคนข่มอารมณ์ตัวเองแล้วทดเอาไว้ในใจ หมายหัวไอ้เด็กเวรนี้ลงบัญชีดำก่อนใครเพื่อน ขณะที่ปลาทูก็ปัดมือปลาหมึกออกแต่โบนัสก็พาดลงมาใหม่ เป็นแบบนี้อยู่หลายรอบจนเริ่มรำคาญเลยปล่อยไป ก่อนจะหันกลับมาสนใจรุ่นพี่ตรงหน้า“งั้นปลาทูขอถาม...ผู้ปกครองก่อนนะคะ” ผู้ปกครองที่ว่านั้นก็ไม่ใช่ใคร คือพี่ข้างบ้านนั้นแหละ ดูสิว่าพูดขนาดนี้แล้วพี่คนขี้งอนจะว่าไง“อ่า...งั้นถือว่าไป เพราะผู้ปกครองของเราก็ไป” อาเธอร์ตบบ่าเพื่อนเบาๆ“ใช่ป่ะมึง?” การินก็ส่งสายตาถามเจ้าตัว“อึม” ตอบเรียบๆ ทว่าในใจกลับลุ้นหนักว่าน้องจะว่าไงต่อ“งั้น...” สีหน้าครุ่นคิด “ไปก็ได้ค่ะ”แค่นั้นใบหน้าของรุ่นพี่ทุกคนก็ประดับด้วยรอยยิ้ม ปลาทูจึงหันไปชวนยิ้มให้ไปด้วยกันซึ่งยิ้มก็ตอบตกลง ส่วนโบนัสที่ขอไปด้
“ปลาทู ยิ้ม นี้ปันปัน น้องรหัสพี่” มาวินแนะนำสาวน้อยหน้าตาน่ารักภายใต้แว่นกรอบหนาให้สองสาวรู้จัก ปลุกให้คนที่กำลังอยู่กับความคิดตัวเองได้สติ“เราเรียนสาขาและห้องเดียวกันค่ะ” ยิ้มอธิบาย ขณะที่ปลาทูก็มีสีหน้าคล้ายคนที่พึ่งจะนึกออก “ใช่ๆ จำได้ล่ะ” ปลาทูนั้นพอจะเคยเห็นปันปันอยู่บ้าง เพียงแต่อีกฝ่ายนั้นค่อยข้างเป็นคนที่เงียบขรึม เราเลยไม่ค่อยได้คุยกัน “งั้นยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะปันปัน”“อึม” เจ้าของชื่อขานรับในรลำคอ พลางระบายยิ้มบางๆ ไม่ใช่ว่าหยิ่ง แต่เธอแค่เป็นประเภทที่ไม่ชอบเข้าสังคม ติดสันโดษ จะเรียกว่า Introvert ก็คงไม่ผิด นี่ถ้าพี่รหัสไม่ชวนมาเธอคงจะนั่งเขียนนิยายอยยู่ในห้องการินกับเพทายก็แนะนำหญิงสาวน้องรหัสของตัวเองให้ทั้งสามรู้จักบ้าง ทำให้ปลาทูเริ่มจะพูดมากขึ้นเพราะเป็นคนพูดไม่หยุดอยู่แล้ว“งั้นวันนี้พวกเราอยากดื่มอะไรก็สั่งเลยนะ พวกพี่เลี้ยงเอง” “เย้!” สาวๆรุ่นน้องชอบใจก่อนที่เพทายจะยกมือเรียกพนักงาน ทุกคนสั่งกันเรียบร้อยปลาทูก็เตรียมจะอ้าปาก“คอสโม” อคิณสั่งแทน คอสโมโพลิแทนเป็นเครื่องดื่มที่มีเหล้าน้อย ดื่มง่าย น่าจะเหมาะที่สุดสำหรับคนที่ไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์อย่างเธ
“พี่คิณ หนูขอโทษ” ปลาทูพึมพำทั้งที่เปลือกตายังปิดสนิท ทำนิ้วเรียวของพี่ชะงัก “หนูไม่รู้ว่าพี่จะโกรธหนูขนาดนี้ ถ้ารู้หนูคงไม่ทำ พี่เค้กส้มเขาชอบพี่มาก”“...”นิ่งฟัง ขณะที่หัวใจกระตุกเต้นไร้จังหวะ เหตุเพราะคำว่า ‘หนู’ ที่คนตัวเล็กใช้แทนตัวเองเป็นครั้งแรก “อย่าโกรธหนูเลยนะ หนูไม่ชอบตัวเองเลยตอนเราทะเลาะกัน”อคิณขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ สัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่ายที่เจือกลิ่นแอลกอฮอล์ทำเอาอยากจะเข้าไปอีก “ทำไม?” เอ่ยถามคนละเมอด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แอบกลืนน้ำลายลงคอพร้อมกับมองสำรวจดวงหน้าสีหวาน “ไม่มีความสุข ใจหนูมันโหวงๆตลอดเวลา ไม่ชอบสักนิด”“แล้วชอบแบบไหน?” ไม่รู้อะไรดลใจให้ถามอะไรที่มันส่งผลกับใจตัวเองแบบนั้น ทว่าเหนือสิ่งอื่นใด เปลือกตาคู่น้อยค่อยๆปรือขึ้น ฟ้องว่าทั้งหมดที่พูดมา เด็กน้อยไม่ได้ละเมอ“ชอบแบบที่เป็นพี่คิณ...ของหนู” เป็นอีกครั้งที่ลำคอหนาแห้งเผือด กลืนน้ำลงคออย่างยากลำบาก “อย่าโกรธหนูเลยนะคะ”“อย่าทำหน้าแบบนี้?” จังหวะนี้โดนน็อกแทบไม่เหลือความเคร่งขรึม ปลายนิ้วลูบไล้เบาๆบนผิวแก้มน้อง ที่ตอนนี้สีชัดกว่าปกติ“พี่คิณ หายโกรธหนูนะ” ยังคงอ้อนพร้อมทำตาแป๋ว ชนิดที่นอกจากหัวใจจะสั่
ความเสียดเสียวเล่นงานจนเผลอกัดปากล่างตัวเอง มือบางขย้ำลงกับผ้าปูจนยับยู่ระบายความวาบหวามที่ก่อเกิด หายใจหอบหนักยิ่งกว่าการแข่งวิ่ง อีกฝ่ายก็เล่นกับความรู้สึกและจิตใจโดยการ เกี่ยวแพนตี้ไปด้านข้างแล้วสอดนิ้วกลางเข้ามารุกรานภายในร่องเปียกชื้นที่คับแน่น เล่นเอาใบหน้างามเหยเก จนพี่หวั่นใจ“เจ็บเหรอ?”“...” ปลาทูส่ายหน้า ไม่เข้าใจความรู้สึกตอนนี้ จะเจ็บก็ไม่เจ็บจะเสียวก็ไม่เสียว มันแน่นไปจนน่าอึดอัด “ใจเย็นๆแล้วมองหน้าฉัน” เวลานี้ไม่รู้หรอกว่าควรจะปลอบยังไง เพราะไม่เคยต้องเล้าโลมหรือใจเย็นกับผู้หญิงคนไหนมากเท่านี้มาก่อน เด็กน้อยลืมตา ช้อนขึ้นมองดวงตาคมกริบที่ตอนนี้หยาดเยิ้มไม่ต่างกัน “อย่าเกร็ง ไม่งั้นเธอจะเจ็บ”“ตะ แต่ปลาทู...” “ใจเย็นๆ” แววตากังวนฉายชัด อคิณจึงตัดบท เขารู้ว่าเธอกำลังกลัว “มองตาฉันแล้วอย่าว่อกแวก” หลอกล่อด้วยคำพูดเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เริ่มขยับช่วงล่างจากเชิงช้าแล้วค่อยเพิ่มจังหวะ พลางลอบมองดวงหน้าหวานไปด้วย เมื่อไหร่ที่เธอเกร็ง นิ้วเรียวก็จะหยุด “ใจเย็นๆ ฉันอยู่นี้ ฉันจะไม่ทำเธอเจ็บ” และเมื่อไหร่ที่ร่องสาวเริ่มผ่อนแรงอคิณก็เร่งเร้า แต่หลังๆมาอดใจไม่ได้ เพิ่มจำนวนนิ้วจา
“พะ พี่คิณก็ขยับอยู่” “ฉันหมายถึง...เย_เธอแรงๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาเป็นสิ่งที่ไวต่อความรู้สึกของคนใต้ร่าง นอกจากโพรงสาวจะตอดรัดแล้วยังผลิตน้ำออกมา ช่วยให้ลำกายที่ผลุบเข้าผลุบออก ทำหน้าที่ได้ดียิ่งขึ้น“ดะ เดี๋ยวพี่คิณ อร๊าย อะ” ปลาทูร้องเสียงหลงเมื่อคนร้อนแรงไม่คิดจะรอคำตอบ ออกแรงกระแทกความแข็งขื่อเข้ามาอย่างเอาแต่ใจ พร้อมกับเลื่อนปลายนิ้วผ่านผิวกายขึ้นมาสะกิดเขี่ยยอดอกที่ตั้งชัน ทำเอาคนเสียวกระสันแอ่นกายบิดเร่า อคิณมองว่าคนตัวเล็กโคตรเซ็กซี่ อดใจไม่อยู่ก้มลงดูดดึงเต้าอวบนุ่ม ยิ่งกว่าโหยหา สูดกลิ่นหอมเข้าปอดหนักๆ หลงใหลเรือนร่างยิ่งกว่าสิ่งใดพลับ พลับ พลับทุกการเคลื่อนไหวขับเคลื่อนเต็มไปด้วยความหนักหน่วง เสียงเนื้อกระทบบวกกับเสียงครวญคราง ส่งผลให้เราทั้งคู่จมอยู่ในห้วงของอารมณ์ความต้องการ ใบหน้าหล่อเหล่าผุดเหงื่อเม็ดเล็กเต็มกรอบหน้าและคิดว่าน้องก็คงเป็นเหมือนกัน“รีโมทแอร์อยู่ไหน” เอ่ยถาม กลัวว่าน้องจะผืนขึ้นจนเอาต่อไม่ได้“ยะ อยู่ตรงประตู อ่ะ” ฝ่ามือใหญ่จับแขนเล็กให้โอบลอบลำคอ ก่อนจะสอดท่อนแขนเข้าใต้แผ่นหลังเนียนที่ตอนนี้ชื้นไปด้วยเหงื่อ กระชับจับร่างเล็กพลิกมานั่งคร่อมบนตัก เอ็น
หลังจากที่สงบสติตัวเองได้ ร่างเล็กก็หยัดตัวลงจากเตียง ทุลักทุเลเล็กน้อยเพราะเหมือนขาจะไม่มีแรง เดินเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเอง ใช้เวลาไม่ถึงสิบห้านาทีก็ออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดกางเกงขาสั้นธรรมดามือน้อยเลิ่กผ้าห่มขึ้นหวังจะเก็บเตียง จัดให้ดีๆเหมือนทุกวัน ทว่า...OMG! ปลาทูแทบกลั้นเสียงกรี๊ดไม่อยู่ บนผ้าปูที่นอนมีคราบสีแดงเปื้อนตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย ทำเอาแข่งขาอ่อน ไม่ต้องถามให้มากความว่ามันคือคราบอะไร“นี่เสียตัวไม่พอ ยังต้องเป็นคนรื้อผ้าปูที่นอนไปซักเองอีกเหรอเนี่ย”โอ้ย ปลาทูจะบ้าเสียงคนเดินลงบันได เรียกความสนใจจากใครอีกคนที่กำลังนั่งเล่นเกมส์อยู่หน้าทีวี ไม่ใช่ว่าอารมณ์ดีอะไรหรอก แค่อยากหาอะไรทำ ฆ่าเวลาและความรู้สึกนึกคิดที่วนอยู่ในหัวไม่หยุดอคิณรีบรุดตัวเดินเข้าไปหา เมื่อคนตัวเล็กเหยียบเท้าถึงบันไดขั้นสุดท้ายพร้อมกับตระกร้าผ้าในมือ ร่างบางแอบสะดุ้งตัวตกใจที่เห็นว่าเขายังอยู่ในบ้าน ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันอย่างคนทำตัวไม่ถูก ทุกอย่างดูแปลกใหม่ไปหมดทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาได้เตรียมตัวพูดหน้ากระจกไปแล้วตั้งหลายรอบ แต่พอเอาเข้าจริงกลับพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นยังไง ให้ตายเถอ
“ฉัน...” เขาพูดไม่ออก เริ่มไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าต้องการอะไรกันแน่ เขาไม่ชอบการผูกมัด เธอก็ไม่คิดจะพูดถึงเขาไม่ชอบการมีสถานะติดตัว เธอก็ไม่คิดจะเรียกร้องเขาชอบที่จะมีอิสระ ดูท่าเธอก็คงจะให้เขาเต็มที่อีกเหมือนกัน“ถ้าพี่คิณรู้สึกผิดก็แค่ขอโทษ แค่นั้นก็พอแล้วค่ะ” เห็นเขาเงียบ ปลาทูจึงเน้นย้ำอีกรอบ“คือ...ฉัน...ขอโทษ” อคิณหายใจหนักหน่วง ยอมปล่อยคนตรงหน้าให้เป็นอิสระ “โอเคค่ะ” ยอมกันง่าย เธอก็ไม่ติดใจ “งั้นต่อไปพี่คิณไม่ต้องรู้สึกผิด ไม่ต้องคิดมากแล้วนะ ปลาทูโตพอที่จะเข้าใจว่าเรื่องเมื่อคืนมันคือธรรมชาติของมนุษย์ ไม่วันใดก็วันหนึ่งปลาทูก็ต้องเสียมันไปอยู่ดี อีกอย่าง...ปลาทูไม่อยากรู้สึกแย่ที่ความเป็นพี่น้องของเรามันหายไป ช่วงที่ผ่านมาที่เราไม่คุยกัน ปลาทูไม่มีความสุขเลย ปลาทู...อยากได้พี่คิณคนเดิมของปลาทูกลับมา”“...” อคิณนิ่งฟังเหตุผลของน้องอย่างเข้าใจ คนตรงหน้าไม่โกรธและไม่คิดอยากจะให้เขารับผิดชอบ มันคือเรื่องดีที่สุดที่เขาอยากจะได้จากทุกๆความสัมพันธ์ แต่ตอนนี้...เขากลับ...มึงอยากมีโซ่ห้อยคอเหรอวะ ไอ้คิณ?ช่างแม่งเถอะ! แบบนี้ก็ดีแล้วนิ“อะ ยาคุมฉุกเฉิน” คิดได้แบบนั้น มือหนาก็ล
“ฉัน...” เขาพูดไม่ออก เริ่มไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าต้องการอะไรกันแน่ เขาไม่ชอบการผูกมัด เธอก็ไม่คิดจะพูดถึงเขาไม่ชอบการมีสถานะติดตัว เธอก็ไม่คิดจะเรียกร้องเขาชอบที่จะมีอิสระ ดูท่าเธอก็คงจะให้เขาเต็มที่อีกเหมือนกัน“ถ้าพี่คิณรู้สึกผิดก็แค่ขอโทษ แค่นั้นก็พอแล้วค่ะ” เห็นเขาเงียบ ปลาทูจึงเน้นย้ำอีกรอบ“คือ...ฉัน...ขอโทษ” อคิณหายใจหนักหน่วง ยอมปล่อยคนตรงหน้าให้เป็นอิสระ “โอเคค่ะ” ยอมกันง่าย เธอก็ไม่ติดใจ “งั้นต่อไปพี่คิณไม่ต้องรู้สึกผิด ไม่ต้องคิดมากแล้วนะ ปลาทูโตพอที่จะเข้าใจว่าเรื่องเมื่อคืนมันคือธรรมชาติของมนุษย์ ไม่วันใดก็วันหนึ่งปลาทูก็ต้องเสียมันไปอยู่ดี อีกอย่าง...ปลาทูไม่อยากรู้สึกแย่ที่ความเป็นพี่น้องของเรามันหายไป ช่วงที่ผ่านมาที่เราไม่คุยกัน ปลาทูไม่มีความสุขเลย ปลาทู...อยากได้พี่คิณคนเดิมของปลาทูกลับมา”“...” อคิณนิ่งฟังเหตุผลของน้องอย่างเข้าใจ คนตรงหน้าไม่โกรธและไม่คิดอยากจะให้เขารับผิดชอบ มันคือเรื่องดีที่สุดที่เขาอยากจะได้จากทุกๆความสัมพันธ์ แต่ตอนนี้...เขากลับ...มึงอยากมีโซ่ห้อยคอเหรอวะ ไอ้คิณ?ช่างแม่งเถอะ! แบบนี้ก็ดีแล้วนิ“อะ ยาคุมฉุกเฉิน” คิดได้แบบนั้น มือหนาก็ล
หลังจากที่สงบสติตัวเองได้ ร่างเล็กก็หยัดตัวลงจากเตียง ทุลักทุเลเล็กน้อยเพราะเหมือนขาจะไม่มีแรง เดินเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเอง ใช้เวลาไม่ถึงสิบห้านาทีก็ออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดกางเกงขาสั้นธรรมดามือน้อยเลิ่กผ้าห่มขึ้นหวังจะเก็บเตียง จัดให้ดีๆเหมือนทุกวัน ทว่า...OMG! ปลาทูแทบกลั้นเสียงกรี๊ดไม่อยู่ บนผ้าปูที่นอนมีคราบสีแดงเปื้อนตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย ทำเอาแข่งขาอ่อน ไม่ต้องถามให้มากความว่ามันคือคราบอะไร“นี่เสียตัวไม่พอ ยังต้องเป็นคนรื้อผ้าปูที่นอนไปซักเองอีกเหรอเนี่ย”โอ้ย ปลาทูจะบ้าเสียงคนเดินลงบันได เรียกความสนใจจากใครอีกคนที่กำลังนั่งเล่นเกมส์อยู่หน้าทีวี ไม่ใช่ว่าอารมณ์ดีอะไรหรอก แค่อยากหาอะไรทำ ฆ่าเวลาและความรู้สึกนึกคิดที่วนอยู่ในหัวไม่หยุดอคิณรีบรุดตัวเดินเข้าไปหา เมื่อคนตัวเล็กเหยียบเท้าถึงบันไดขั้นสุดท้ายพร้อมกับตระกร้าผ้าในมือ ร่างบางแอบสะดุ้งตัวตกใจที่เห็นว่าเขายังอยู่ในบ้าน ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันอย่างคนทำตัวไม่ถูก ทุกอย่างดูแปลกใหม่ไปหมดทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาได้เตรียมตัวพูดหน้ากระจกไปแล้วตั้งหลายรอบ แต่พอเอาเข้าจริงกลับพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นยังไง ให้ตายเถอ
“พะ พี่คิณก็ขยับอยู่” “ฉันหมายถึง...เย_เธอแรงๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาเป็นสิ่งที่ไวต่อความรู้สึกของคนใต้ร่าง นอกจากโพรงสาวจะตอดรัดแล้วยังผลิตน้ำออกมา ช่วยให้ลำกายที่ผลุบเข้าผลุบออก ทำหน้าที่ได้ดียิ่งขึ้น“ดะ เดี๋ยวพี่คิณ อร๊าย อะ” ปลาทูร้องเสียงหลงเมื่อคนร้อนแรงไม่คิดจะรอคำตอบ ออกแรงกระแทกความแข็งขื่อเข้ามาอย่างเอาแต่ใจ พร้อมกับเลื่อนปลายนิ้วผ่านผิวกายขึ้นมาสะกิดเขี่ยยอดอกที่ตั้งชัน ทำเอาคนเสียวกระสันแอ่นกายบิดเร่า อคิณมองว่าคนตัวเล็กโคตรเซ็กซี่ อดใจไม่อยู่ก้มลงดูดดึงเต้าอวบนุ่ม ยิ่งกว่าโหยหา สูดกลิ่นหอมเข้าปอดหนักๆ หลงใหลเรือนร่างยิ่งกว่าสิ่งใดพลับ พลับ พลับทุกการเคลื่อนไหวขับเคลื่อนเต็มไปด้วยความหนักหน่วง เสียงเนื้อกระทบบวกกับเสียงครวญคราง ส่งผลให้เราทั้งคู่จมอยู่ในห้วงของอารมณ์ความต้องการ ใบหน้าหล่อเหล่าผุดเหงื่อเม็ดเล็กเต็มกรอบหน้าและคิดว่าน้องก็คงเป็นเหมือนกัน“รีโมทแอร์อยู่ไหน” เอ่ยถาม กลัวว่าน้องจะผืนขึ้นจนเอาต่อไม่ได้“ยะ อยู่ตรงประตู อ่ะ” ฝ่ามือใหญ่จับแขนเล็กให้โอบลอบลำคอ ก่อนจะสอดท่อนแขนเข้าใต้แผ่นหลังเนียนที่ตอนนี้ชื้นไปด้วยเหงื่อ กระชับจับร่างเล็กพลิกมานั่งคร่อมบนตัก เอ็น
ความเสียดเสียวเล่นงานจนเผลอกัดปากล่างตัวเอง มือบางขย้ำลงกับผ้าปูจนยับยู่ระบายความวาบหวามที่ก่อเกิด หายใจหอบหนักยิ่งกว่าการแข่งวิ่ง อีกฝ่ายก็เล่นกับความรู้สึกและจิตใจโดยการ เกี่ยวแพนตี้ไปด้านข้างแล้วสอดนิ้วกลางเข้ามารุกรานภายในร่องเปียกชื้นที่คับแน่น เล่นเอาใบหน้างามเหยเก จนพี่หวั่นใจ“เจ็บเหรอ?”“...” ปลาทูส่ายหน้า ไม่เข้าใจความรู้สึกตอนนี้ จะเจ็บก็ไม่เจ็บจะเสียวก็ไม่เสียว มันแน่นไปจนน่าอึดอัด “ใจเย็นๆแล้วมองหน้าฉัน” เวลานี้ไม่รู้หรอกว่าควรจะปลอบยังไง เพราะไม่เคยต้องเล้าโลมหรือใจเย็นกับผู้หญิงคนไหนมากเท่านี้มาก่อน เด็กน้อยลืมตา ช้อนขึ้นมองดวงตาคมกริบที่ตอนนี้หยาดเยิ้มไม่ต่างกัน “อย่าเกร็ง ไม่งั้นเธอจะเจ็บ”“ตะ แต่ปลาทู...” “ใจเย็นๆ” แววตากังวนฉายชัด อคิณจึงตัดบท เขารู้ว่าเธอกำลังกลัว “มองตาฉันแล้วอย่าว่อกแวก” หลอกล่อด้วยคำพูดเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เริ่มขยับช่วงล่างจากเชิงช้าแล้วค่อยเพิ่มจังหวะ พลางลอบมองดวงหน้าหวานไปด้วย เมื่อไหร่ที่เธอเกร็ง นิ้วเรียวก็จะหยุด “ใจเย็นๆ ฉันอยู่นี้ ฉันจะไม่ทำเธอเจ็บ” และเมื่อไหร่ที่ร่องสาวเริ่มผ่อนแรงอคิณก็เร่งเร้า แต่หลังๆมาอดใจไม่ได้ เพิ่มจำนวนนิ้วจา
“พี่คิณ หนูขอโทษ” ปลาทูพึมพำทั้งที่เปลือกตายังปิดสนิท ทำนิ้วเรียวของพี่ชะงัก “หนูไม่รู้ว่าพี่จะโกรธหนูขนาดนี้ ถ้ารู้หนูคงไม่ทำ พี่เค้กส้มเขาชอบพี่มาก”“...”นิ่งฟัง ขณะที่หัวใจกระตุกเต้นไร้จังหวะ เหตุเพราะคำว่า ‘หนู’ ที่คนตัวเล็กใช้แทนตัวเองเป็นครั้งแรก “อย่าโกรธหนูเลยนะ หนูไม่ชอบตัวเองเลยตอนเราทะเลาะกัน”อคิณขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ สัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่ายที่เจือกลิ่นแอลกอฮอล์ทำเอาอยากจะเข้าไปอีก “ทำไม?” เอ่ยถามคนละเมอด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แอบกลืนน้ำลายลงคอพร้อมกับมองสำรวจดวงหน้าสีหวาน “ไม่มีความสุข ใจหนูมันโหวงๆตลอดเวลา ไม่ชอบสักนิด”“แล้วชอบแบบไหน?” ไม่รู้อะไรดลใจให้ถามอะไรที่มันส่งผลกับใจตัวเองแบบนั้น ทว่าเหนือสิ่งอื่นใด เปลือกตาคู่น้อยค่อยๆปรือขึ้น ฟ้องว่าทั้งหมดที่พูดมา เด็กน้อยไม่ได้ละเมอ“ชอบแบบที่เป็นพี่คิณ...ของหนู” เป็นอีกครั้งที่ลำคอหนาแห้งเผือด กลืนน้ำลงคออย่างยากลำบาก “อย่าโกรธหนูเลยนะคะ”“อย่าทำหน้าแบบนี้?” จังหวะนี้โดนน็อกแทบไม่เหลือความเคร่งขรึม ปลายนิ้วลูบไล้เบาๆบนผิวแก้มน้อง ที่ตอนนี้สีชัดกว่าปกติ“พี่คิณ หายโกรธหนูนะ” ยังคงอ้อนพร้อมทำตาแป๋ว ชนิดที่นอกจากหัวใจจะสั่
“ปลาทู ยิ้ม นี้ปันปัน น้องรหัสพี่” มาวินแนะนำสาวน้อยหน้าตาน่ารักภายใต้แว่นกรอบหนาให้สองสาวรู้จัก ปลุกให้คนที่กำลังอยู่กับความคิดตัวเองได้สติ“เราเรียนสาขาและห้องเดียวกันค่ะ” ยิ้มอธิบาย ขณะที่ปลาทูก็มีสีหน้าคล้ายคนที่พึ่งจะนึกออก “ใช่ๆ จำได้ล่ะ” ปลาทูนั้นพอจะเคยเห็นปันปันอยู่บ้าง เพียงแต่อีกฝ่ายนั้นค่อยข้างเป็นคนที่เงียบขรึม เราเลยไม่ค่อยได้คุยกัน “งั้นยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะปันปัน”“อึม” เจ้าของชื่อขานรับในรลำคอ พลางระบายยิ้มบางๆ ไม่ใช่ว่าหยิ่ง แต่เธอแค่เป็นประเภทที่ไม่ชอบเข้าสังคม ติดสันโดษ จะเรียกว่า Introvert ก็คงไม่ผิด นี่ถ้าพี่รหัสไม่ชวนมาเธอคงจะนั่งเขียนนิยายอยยู่ในห้องการินกับเพทายก็แนะนำหญิงสาวน้องรหัสของตัวเองให้ทั้งสามรู้จักบ้าง ทำให้ปลาทูเริ่มจะพูดมากขึ้นเพราะเป็นคนพูดไม่หยุดอยู่แล้ว“งั้นวันนี้พวกเราอยากดื่มอะไรก็สั่งเลยนะ พวกพี่เลี้ยงเอง” “เย้!” สาวๆรุ่นน้องชอบใจก่อนที่เพทายจะยกมือเรียกพนักงาน ทุกคนสั่งกันเรียบร้อยปลาทูก็เตรียมจะอ้าปาก“คอสโม” อคิณสั่งแทน คอสโมโพลิแทนเป็นเครื่องดื่มที่มีเหล้าน้อย ดื่มง่าย น่าจะเหมาะที่สุดสำหรับคนที่ไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์อย่างเธ
“พวกพี่จะชวนไปปาร์ตี้ร้านไอ้ทายน่ะ ถือเป็นการเชื้อมสัมพันธ์น้องรหัส”“น่าสนุกวะพี่ ผมขอไปด้วยสิ” โบนัสรีบเสนอตัว พร้อมว่างแขนพาดบนไหล่ของปลาทูอย่างลองเชิง ทำอคิณแทบขยับตัวพุ่งใส่แต่มาวินกับการินที่ประกบข้างก็จับไว้แน่น พลางกระซิบเตือนสติ“ท่องไว้ว่านั้นน้อง ไม่ใช่เมีย อย่าออกอาการเยอะ”“น้องเว้ย น้อง” สิ่งที่ทำได้คือกัดปาก ถอดหายใจหนักๆอย่างคนข่มอารมณ์ตัวเองแล้วทดเอาไว้ในใจ หมายหัวไอ้เด็กเวรนี้ลงบัญชีดำก่อนใครเพื่อน ขณะที่ปลาทูก็ปัดมือปลาหมึกออกแต่โบนัสก็พาดลงมาใหม่ เป็นแบบนี้อยู่หลายรอบจนเริ่มรำคาญเลยปล่อยไป ก่อนจะหันกลับมาสนใจรุ่นพี่ตรงหน้า“งั้นปลาทูขอถาม...ผู้ปกครองก่อนนะคะ” ผู้ปกครองที่ว่านั้นก็ไม่ใช่ใคร คือพี่ข้างบ้านนั้นแหละ ดูสิว่าพูดขนาดนี้แล้วพี่คนขี้งอนจะว่าไง“อ่า...งั้นถือว่าไป เพราะผู้ปกครองของเราก็ไป” อาเธอร์ตบบ่าเพื่อนเบาๆ“ใช่ป่ะมึง?” การินก็ส่งสายตาถามเจ้าตัว“อึม” ตอบเรียบๆ ทว่าในใจกลับลุ้นหนักว่าน้องจะว่าไงต่อ“งั้น...” สีหน้าครุ่นคิด “ไปก็ได้ค่ะ”แค่นั้นใบหน้าของรุ่นพี่ทุกคนก็ประดับด้วยรอยยิ้ม ปลาทูจึงหันไปชวนยิ้มให้ไปด้วยกันซึ่งยิ้มก็ตอบตกลง ส่วนโบนัสที่ขอไปด้
สายตาคู่นั้นใช่ว่าปลาทูจะไม่เห็น แต่เพราะคิดว่าตัวเองก็ไม่ได้ผิดอะไร จึงเลือกที่จะมองไม่เห็น แต่ก่อนขึ้นเรียนขอลองทำเป็นเดินเข้าไปเฉียดใกล้เขาหน่อย ทว่าไอ้พี่คนซืนก็ไม่รั้งไม่เรียกแม้แต่คำเดียวชิ! เมินให้ตลอดละกันไอ้พี่บ้า “จะงอนให้หนักเลย” บ่นอุบอิบ “งอนใครเหรอ?” ยิ้มที่เดินมาด้วยกันได้ยินพอดีจึงเอ่ยถาม ขณะที่โบนัสก็เดินตามมาติดๆก็หยุดฟัง“ปะ เปล่า ไม่มีอะไรหรอก” ฉีกยิ้มกว้างเพื่อยืนยันในคำตอบ ทว่าสายตาดันไปเห็นกลุ่มของพี่สาวคนสวยเมื่อวาน รอยยิ้มจึงค่อยๆเลื่อยหุบลงเหลือเพียงบางๆ“น้องปลาทู”“พี่เค้กส้ม สวัสดีค่ะ” มือน้อยยกไหว้ตามมารยาทรุ่นพี่รุ่นน้อง อึดอัดนิดหน่อยเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายมาหาด้วยเรื่องอะไร “เป็นไงบ้างจ๊ะ วันนี้พี่มีขนมของอคิณแล้วก็เค้กของน้องปลาทูด้วยนะ ถือว่าเป็นคำขอบคุณที่เมื่อวานน้องช่วยเอาขนมไปให้อคิณ” ที่จริงขนมเค้กในส่วนของเด็กนั้นเค้กส้มไม่ได้ซื้อ เธอกินไม่หมด จะทิ้งก็เสียดายของเหลือๆมันเหมาะกับยัยเด็กนี้ที่สุดแล้ว“ไม่เป็นไรค่ะ พี่เค้กเอากลับไปเถอะ ทั้งของพี่คิณแล้วก็เค้กที่จะให้ปลาทูด้วย” คำขอบคุณอะไรเธอไม่เอาทั้งนั้นแหละตอนนี้“ทำไมล่ะ อคิณเขาไม่รับเหรอ?” สีห
หลังจากที่อยู่พูดคุยกันจนหายคิดถึง ปลาทูก็ขอตัวพร้อมได้ขนมตาลติดมือกลับมาด้วย เด็กน้อยชอบกินขนมไทย ปราณีจึงไม่ลืมที่จะซื้อกลับบ้านมาทุกครั้งนั่งทำการบ้านอยู่ตรงโต๊ะทานข้าว จนช่วงเย็นก็ได้ยินเสียงบิ๊กไบก์ขับเข้าบ้านข้างๆ ร่างเล็กจึงลุกไปหยิบเอาถุงกระดาษที่สาวสวยฝากไว้ตรงเคาน์เตอร์ครัวแล้วกลับมานั่งทำการบ้านตามเดิม ไม่ถึงห้านาที...“พอรู้ว่าแม่ฉันกลับมาก็ไปเสนอหน้าเลยนะ” ประโยคทักทายที่ได้ยินแล้วเป็นต้องถอดหายใจแรงๆไม่เคยจะทักกันเหมือนพี่น้องคู่อื่นเลยจริงๆ“อ่ะ” มือเล็กดันถุงที่ว่าไปตรงหน้าให้คนที่กำลังหย่อนก้นนั่ง อคิณนึกแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็เปิดดู เห็นเป็นคุกกี้ก็เปิดฝากเอาเข้าปากในทันที ถือเป็นครั้งแรกที่ยัยตัวแสบซื้อขนมให้“นึกไงให้ขนมฉัน?” “พี่เค้กส้ม นิเทศปีสี่ฝากมาให้ค่ะ”“ห๊ะ!” คนตกใจวางทุกอย่างแล้วตรงเข้าห้องครัว คายสิ่งที่อยู่ในปากลงถังขยะ “ถึงกับต้องคายทิ้งเลยเหรอพี่คิณ” ปลาทูเดินตามไปเกาะประตูดู เป็นต้องตาโตเมื่อคนพี่หันไปเปิดตู้เย็น หยิบขวดน้ำมาเปิด นึกว่าจะกินแต่ไม่ เขาล้างปาก! แล้วบ้วนทิ้งลงซิงค์ล้างจาน “ตะ ต้องขนาดนั้นเลยเหรอพี่คิณ”“คิดว่าตัวเองเป็นแม่สื่อหรือไง” จัด