“ฉัน...” เขาพูดไม่ออก เริ่มไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าต้องการอะไรกันแน่ เขาไม่ชอบการผูกมัด เธอก็ไม่คิดจะพูดถึงเขาไม่ชอบการมีสถานะติดตัว เธอก็ไม่คิดจะเรียกร้องเขาชอบที่จะมีอิสระ ดูท่าเธอก็คงจะให้เขาเต็มที่อีกเหมือนกัน“ถ้าพี่คิณรู้สึกผิดก็แค่ขอโทษ แค่นั้นก็พอแล้วค่ะ” เห็นเขาเงียบ ปลาทูจึงเน้นย้ำอีกรอบ“คือ...ฉัน...ขอโทษ” อคิณหายใจหนักหน่วง ยอมปล่อยคนตรงหน้าให้เป็นอิสระ “โอเคค่ะ” ยอมกันง่าย เธอก็ไม่ติดใจ “งั้นต่อไปพี่คิณไม่ต้องรู้สึกผิด ไม่ต้องคิดมากแล้วนะ ปลาทูโตพอที่จะเข้าใจว่าเรื่องเมื่อคืนมันคือธรรมชาติของมนุษย์ ไม่วันใดก็วันหนึ่งปลาทูก็ต้องเสียมันไปอยู่ดี อีกอย่าง...ปลาทูไม่อยากรู้สึกแย่ที่ความเป็นพี่น้องของเรามันหายไป ช่วงที่ผ่านมาที่เราไม่คุยกัน ปลาทูไม่มีความสุขเลย ปลาทู...อยากได้พี่คิณคนเดิมของปลาทูกลับมา”“...” อคิณนิ่งฟังเหตุผลของน้องอย่างเข้าใจ คนตรงหน้าไม่โกรธและไม่คิดอยากจะให้เขารับผิดชอบ มันคือเรื่องดีที่สุดที่เขาอยากจะได้จากทุกๆความสัมพันธ์ แต่ตอนนี้...เขากลับ...มึงอยากมีโซ่ห้อยคอเหรอวะ ไอ้คิณ?ช่างแม่งเถอะ! แบบนี้ก็ดีแล้วนิ“อะ ยาคุมฉุกเฉิน” คิดได้แบบนั้น มือหนาก็ล
“ปลาทู” เข้าประตูมายิ้มก็โบกมือเรียกด้วยรอยยิ้มบางๆ เจ้าของชื่อจึงไม่รอช้าที่จะเดินไปหา หย่อนก้นนั่งลงกับเก้าอี้ตัวข้างๆ“มาเช้าจังยิ้ม” เอ่ยทัก ขณะยกมือขึ้นเท้าคางมองสำรวจใบหน้าเพื่อนที่ดูร่าเริงกว่าทุกวัน ยิ้มง่ายกว่าปกติ ทำเอาอีกคนน้ำเสียงติดขัด“ทะ ทำไมมองเราแบบนั้น” “เธอมี...ความรักเหรอ?” คนมีความรักมักจะดูเด็กลงไปนิดนึง ไม่ต้องมองใครอื่น คนข้างๆเธอนี้เลย “คะ ความรักอะไร ไม่มีหรอก” ปฏิเสธทั้งที่พวงแก้มแดงระเรื่อ“โกหกตกนรกนะจ๊ะ บอกเลย” ยกมือขึ้นชี้หน้าพร้อมยู่จมูกใส่อย่างหยอกเย้า เห็นเพื่อนมีความรักก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ขณะเดียวกันสายตาก็พลันเห็นร่างเล็กเดินเข้าประตูมา จึงมือโบกเรียก “ปันปัน”“...” สาวน้อยน่ารักภายใต้แว่นสายตาหนาส่งยิ้มอ่อนๆ ลังเลว่าควรจะเดินไปหาดีไหม แต่อีกฝ่ายก็เรียกซ้ำ พร้อมเอ่ยชวนให้มานั่งด้วยกัน เธอจึงเดินไปหาแล้วนั่งลงอีกข้างหนึ่งของปลาทูแอบเกร็งเล็กน้อยเพราะทั้งชีวิต ยังไม่เคยมีเพื่อนเลยสักคน“นั่งด้วยกัน ฉันจะได้ไม่ลืมหน้าเธอ” ไม่ใช่ไร เห็นปันปันไปนั่งอยู่คนเดียวเงียบๆหลังห้องก็กลัวจะเหงา อาจเพราะอยู่กับพี่ข้างบ้านมากไปหน่อยทั้งภาษาปากและภาษากายเลยออ
“...” คิวหันไปมองยังเจ้าของชื่อ ที่ก็มองเขาอยู่ก่อนแล้ว แววตาอันทรงพลังเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต อยู่ๆก็รู้สึกเสียวสันหลังยืนต่อไม่ไหวจะเดินออกไป “เดี๋ยวค่ะ” ปลาทูรีบเรียกไว้ ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง ทำพี่ชายคนนั้นยืดตัว นั่งหลังตรง หัวใจกระตุกผิดจังหวะ “ปลาทูเป็นแค่น้องข้างบ้านพี่คิณน่ะค่ะ ไม่ใช่น้องสาวจริงๆ พี่คิณไม่ได้มีสิทธิ์อะไรในตัวปลาทูอยู่แล้ว” พลางเหลือบตามอง เห็นพี่คิณมองมาแทบจะกินหัวก็นึกสนุก “พี่...คิว ใช่ไหมคะ?”“อ่อ ครับ พี่ชื่อคิว” ชายหนุ่มมีสีหน้าดีขึ้น ต่างจากใครอีกคนที่ตอนนี้ใบหน้าดำมืดยิ่งกว่าพายุเข้ายัยทิงเจอร์กำลังท้าทายระบบเขา!“เอาโทรศัพท์มาสิค่ะ ปลาทูกดเบอร์ให้” แบบมือขอ ก่อนจะกดเบอร์ตัวเองใส่มือถือเขา “นี่เบอร์ปลาทูค่ะ”“แล้วพี่จะโทรหานะครับ” “ค่ะ” ปลาทูฉีกยิ้มหวานส่งให้ พอเห็นว่าเขาเดินออกไป คนยิ้มร่าก็ชวนสองสาวไปซื้อข้าวด้วยกัน ขณะที่โบนัสมองออกว่ายัยตัวแสบกำลังทำประชดใครรุ่นพี่คนนั้นพรวด! เด็กน้อยเดินออกไปซื้อข้าว คนโมโหไม่อยู่เฉย ลุกขึ้นตามร่างหนาเมื่อครู่ออกไปในทันที ขณะที่เพื่อนๆก็ลุกขึ้นตามไปด้วยทุกคนวันนี้คงมีคนได้หยอดน้ำข้าวต้ม!ระหว่างนั่งเรียน อยู
“ว่าไง หื้ม?” ใจจริงไม่ได้ต้องการคำตอบหรอก เพียงแค่อยากเห็นคนเสียอาการก็เท่านั้น ถามว่าทำไมตอนนี้เขาดูไม่โกรธเธอเหมือนเมื่อตอนเที่ยง ก็เพราะ...ย้อนกลับไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนหลังจากที่เดินตามไอ้เวรนั้นไปถึงคณะ ก็เห็นมันยืนคุยโม้กับพวกของมันอยู่ข้างตึก‘กูได้มาแล้วเว้ย เบอร์น้องปลาทู ตัวเล็กสเปคกูสัสๆ’‘มึงนี้มันเอาเรื่องจริงๆ’ เพื่อนเอ่ยชม ขณะที่บางคนก็ยกยิ้มชั่วร้าย‘เอาเรื่องหรือว่าหาเรื่อง เอาดีๆ’ อคิณถาม น้ำเสียงเยือกเย็นพอๆกับหน้าตาที่ตึงจัด โดยมีสี่หนุ่มยืนอยู่ด้านหลังเป็นกองสนับสนุน คิวหวั่นใจเล็กน้อยแต่ก็ยังปากดีเพราะถือว่าที่นี้เป็นถิ่นของตัวเอง‘แล้วมึงล่ะ มาถึงที่นี้ มาหากูหรือมาหาตีน’‘หึ!’ อคิณเค้นหัวเราะในลำคอ ก่อนจะตอบชัดถ่อยชัดคำ ‘มาหาตีน’ อัก!ไม่พูดพร่ำก็จัดการถีบเข้าที่หน้าอกอีกฝ่ายเต็มแรง จนซวนเซแทบล้ม มันหันมาจะต่อยคืนแต่อคิณก็หลบทันแล้วอัดหมัดหนักๆเข้าที่หน้าไปอีกหลายหมัด จนมันเลือดกลบปาก นอนหมอบกับพื้น คนมันมือก็ไม่คิดจะหยุด ดึงคอเสื้อแล้วใส่หมัดไปตามลำตัวมันต่อ‘ปากดีมากใช่ไหมไอ้สัส มึงมันปากดีมากใช่ไหมไอ้เหี้ย!’ที่เคยตั้งปฏิญาณว่าถ้ายัยตัวแสบนั้นกล้ามีแฟน เ
สามวันต่อมาช่วงเย็นหลังเลิกเรียนปลาทูรีบกลับบ้านมานั่งทำการบ้านอยู่หน้าบ้าน ใบหน้าละมุนตึงเครียดกว่าทุกวัน“ทำไร?” คนตัวโตเดินถือจานขนมเห็นผมน้องยุ่งเหยิงก็สงสัย วางจานลงบนโต๊ะแล้วหย่อนก้นนั่งลงข้างๆ วันนี้เด็กสาวกลับจากมหาลัยแล้วไม่ได้แวะไปบ้านเขา มารดาจึงใช้ให้เขาเอาขนมมาให้“การบ้านคณิตค่ะ” ตอบโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง “ไหนดูดิ” มือหนาหยิบขนมชิ้นหนึ่งเข้าปากก่อนจะโน้มหน้าดูใกล้“โคตรยากเลยงะ” ปากบางบ่น ยกมือขึ้นเกาหัว“เธอโง่ไง มันเลยยาก” ละดูใช้คำกับน้อง คนโดนด่าแทบอยากจะถีบคนปากดีตกเก้าอี้ ทว่าพอเห็นเขาเอาดินสอมาเขียนแก้โจทย์ให้ พร้อมอธิบาย ก็ได้แต่ตั้งใจฟังไม่รู้ว่าเป็นเพราะอาจารย์สอนไม่ดีหรือคนข้างๆดุเกินไปจนไม่กล้าว่อกแว่ก ทำให้คนที่ยีหัวตัวเองจนฟูก่อนหน้าเข้าใจมากขึ้น ก่อนที่เขาจะปล่อยให้เธอได้ลองทำเองบ้าง มือน้อยทั้งสองข้างจัดการรวบผมตัวเองเป็นหางม้า แล้วใช้หนังยางมัดผมสีฟ้าที่รัดตรงข้อมือมารัดผมตัวเอง โชว์ลำคอขาวเนียนอย่างไม่ได้ตั้งใจ ทำเอาอคิณที่กำลังเท้าคางมอง ตาไม่กระพริบ กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ตีเนียนขยับตัวเข้าหาคล้ายจะดูโจทย์ที่น้องแก้ แล้วลอบหายใจเบาๆสูดกลิ่นกา
อคิณเตรียมจะกดโทรออกหาคนเดิมอีกครั้งหลังจากที่เธอไม่พูดอะไรแล้วกดวางสายไป ทว่าประตูบานใหญ่เปิดออก เผยร่างบางในชุดนอนสายเดี่ยวกางเกงขาสั้นที่เธอชอบใส่ปกติ แต่กลับเป็นเขาเองที่ไม่ปกติ เกิดลำคอแห้ง กลืนน้ำลายลงคอจนลูกกระเดือกขยับขึ้นลง “ทำไมพี่คิณไม่กลับไปนอนบ้านตัวเอง ทั้งที่ก็อยู่ข้างกันแค่นี้เอง” คิ้วบางขมวดเป็นปม เรียกสติของคนนิ่งงันให้ก้าวขาเข้ามา คนตัวเล็กจึงยอมหลีกทางให้ “แล้วนี้มันเที่ยงคืนแล้ว ทำไมไม่เข้าประตูหลังบ้าน พี่ไม่ได้ลืมที่ซ้อนกุญแจถูกปะ”“อึม ไม่ได้ลืม” บ้านหลังนี้เขากินนอนอยู่ที่นี้มากกว่าบ้านของตัวเองด้วยซ้ำ ทำไมเขาจะจำไม่ได้ อคิณจัดการถอดรองเท้าขึ้นชั้น ปิดประตูบ้าน สอดสายตามองหารีโมทแอร์ เห็นว่ามันวางอยู่บนโต๊ะหน้าทีวีจึงไปหยิบมาเปิด เร่งอุณหภูมิให้สูงขึ้น ก่อนแล้วหันกลับมามองคนเท้าสะเอว “ไม่ลืม? แล้วพี่คิณจะโทรปลุกปลาทูให้ลงมาเปิดประตูให้เพื่อ?”“เพื่อว่าฉัน...ไม่อยากลักหลับเธอไง” ถึงกับร้องห๊ะในใจดังๆกับประโยคที่ได้ยิน ขณะที่คนพูดเองก็งุนงงกับตัวเองว่าเผลอพูดอะไรออกไป ทว่านาทีนี้ความรู้สึกที่มันกำลังก่อ เขาห้ามมันไม่อยู่ สาวเท้าเข้าหาคนตื่นกลัว“ปะ ปลาทูจะไป
กลิ่นหอมสะอาดส่งผลให้อคิณอดใจไม่ไหว ก้มหน้าปาดลิ้นเลียไปตามรอยแยกบริเวณกลางกายสาว ดูดซับน้ำหวานที่รินไหลกลืนลงคออย่างไม่นึกรังเกียจ ร่างเล็กเผลอสะดุ้งตัวเล็กน้อยอคิณไม่รู้เลยว่ายิ่งเขาอยู่ใกล้ร่างบาง ยิ่งสัมผัสเธอมากเท่าไหร่ หัวใจดวงโตที่อกข้างซ้ายก็แทบจะไม่ใช่ของเขา มันสั่นระรัวทุกครั้งที่ใกล้เธอ อะไรที่ไม่เคยทำก็เกิดขึ้นกับเธอเป็นคนแรกและคนเดียว“อ๊ะ พะ พี่คิณ” จะเถิบหนีก็ทำไม่ได้ ร่างกายเจอสัมผัสพิเศษที่แปลกใหม่จนไม่อาจหยุดยั้งไฟในตัว จิกเล็กลงกับไหล่กว้างเป็นการระบายความรู้สึก“ครับ” เอ่ยตอบรับโดยที่ปากยังแนบชิด ละเลงลิ้นเลียกับร่องสีสด ทำหัวใจดวงน้อยเตลิดโลดเต้นลอยอยู่กลางอากาศ ขณะถอดกางเกงของตัวเองอย่างลวกๆกลีบแคมถูกดูดดึงเบาๆสลับปาดเลีย เกิดเสียงเฉาะแฉะ ปลายลิ้นลากวนตรงปากทางรักก่อนจะเกร็งแล้วแยงเข้าไปสำรวจด้านใน เรียกเสียงครวญครางน่าอายอย่างห้ามไม่อยู่ สะโพกกลมยกลอยฟ้องกำลังจะถึงขีดสุดแพ้อย่างราบคาบแบบไม่มีอะไรปิดกั้น“พะ พี่คิณขา~ อ่า อื้อ สะ เสียว”“ขา~” อคิณหงายมือ สอดนิ้วกลางเข้าไปทักทายเป็นการช่วยเสริมเพิ่มความรู้สึกให้ด่ำดิ่งมากยิ่งขึ้น ขยับเข้าออกพร้อมกับตวัดลิ้นใส่เ
เอกภพและปราณีที่พึ่งกลับมาจากต่างจังหวัดในช่วงเช้า พอเห็นว่าบ้านล็อคก็ไม่นึกแปลกใจอะไร เดาว่าหากลูกชายไม่นอนอยู่บ้านข้างๆก็คงไปนอนบ้านเพื่อน“เดี๋ยวแม่เอาขนมไปให้หลานก่อนนะพ่อ” ปราณีเอ่ยกับสามี เห็นว่าพ่อแม่เด็กน้อยไม่อยู่อีกแล้วก็อดห่วงไม่ได้ ยิ่งเป็นไม้เบื่อกับลูกชายเธอแล้วด้วย ยิ่งเกรงว่าพ่อตัวดีจะแกล้งน้องเอา“ได้ งั้นเดี๋ยวพ่อไปอาบน้ำแล้วจะขอนอนสักหน่อย” การขับรถนานๆหลายชั่วโมงก็ทำเขาเหนื่อยล้าเอาเรื่องปราณีถือถุงขนมตะโก้กับกล่องข้าวขาหมูที่ตั้งใจซื้อมาให้เด็กสาว เดินไปยังบ้านข้างๆ ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อประตูไม้ที่ควรปิดสนิท กลับถูกงับไว้เพียงเท่านั้น“เด็กหนอเด็ก ประตูบ้านก็ไม่รู้จักปิด...ดี...ดี” น้ำเสียงค่อยๆเลือนหาย เมื่อดันประตูเข้าไปแล้วเจอกับเสื้อผ้าเกลื่อนพื้น ทำเอาหัวใจคนมากอายุตกลงตาตุ่ม หวั่นกลัวว่าลูกสาวบ้านนี้จะถูกทำมิดีมิร้าย ทว่าเสื้อแจ๊คเกตและเสื้อยืด รวมทั้งกางเกงยีนส์ผู้ชาย มันดูคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูกคนใจไม่ดีกวาดสายตาไปทั่วทั้งห้องน่าเล่น ห้องครัวและห้องน้ำ แต่ก็ไม่มีใคร จึงมองขึ้นไปชั้นสอง พร้อมกับสาวเท้าขึ้นบันไดไปยังห้องนอนที่แง้มประตูอยู่เพียงเล็กน้อยปราณีค่อ
“พี่ไม่ได้จะทำอะไร แล้วเราล่ะเป็นอะไร? ทำไมต้องหนีพี่?” ปากบอกไม่ทำแต่สายตานี้แทบจะกลืนกิน “มะ ไม่ได้หนีค่ะ” “พูดติดขัด ลมหายใจผิดปกติ แบบนี้...มันมีพิรุธนะคะ” น้ำเสียงกระเซ่าเย้าแหย่ ทำเด็กน้อยอ้าปากพะงาบ ทำตัวไม่ถูก รู้สึกใบหน้าเห่อร้อนอย่างช่วยไม่ได้ คนมันเขี้ยวจึงโน้มลงไปจุ๊บปากจุ๊บปลาทูรีบยกมือขึ้นปิดปาก กระพริบตาปริบๆ เกิดอาการขวยเขินจนอยากกดหน้าลงหมอนแล้วกรี๊ดออกมาดังๆ อะไรกันครับเนี่ย พี่คิณ...เปลี่ยนไป“เป็นอะไรครับ เขินพี่เหรอ?” ละดูน้ำเสียง แถมคนพูดยังเกลี่ยผิวแก้มกันเบาๆอีก อร๊าย...ตายๆ ใจบางแล้วค่ะคุณพี่“งะ ง่วงค่ะ” คิดอะไรไม่ออกก็บอกง่วงไปก่อน พร้อมดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้า ทว่าเป็นต้องหวั่นใจเมื่อเขาแทรกตัวเองเข้ามาอยู่ในผ้าห่มเหมือนกัน “จะ จะทำอะไรคะ?”“อยากนอนด้วยค่ะ” แล้วกระพริบตาปริบๆ“...” ใจเย็นไว้ปลาทู ใจเย็นไว้ หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกช้าๆ“ขอพี่นอนด้วยนะครับ”กรี๊ด!!! ไม่ไหว ไม่ไหวถึงกับต้องนอนหันหลังให้ ดาเมจพี่คิณจะแรงอะไรเบอร์นั้น นี่หน้าตาดีไม่พอ คารมก็ดีด้วยใบหน้าหล่อเหลาอมยิ้มจนแก้มปริ แทบไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างเขาก็พูดจาเลียนๆ ออดอ้อน เสียงเล็กเสียงน้
“ที่รัก ลูก...” ในขณะที่คนเป็นภรรยาทำตัวไม่ถูก ทินกรก็เดินขึ้นบันไดมาเห็นชายหนุ่มยืนอยู่หน้าห้องลูกสาวขณะเปลือยท่อนบนก็เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร จึงปรับน้ำเสียง “ลุงขอคุยด้วยหน่อยสิคิณ” ว่าจบก็เดินไปนั่งรอที่โซนนั่งเล่นอคิณถึงกับนิ่งไปที่อยู่ๆทินกรก็กลับไปใช้คำเรียกแทนตัวเองเช่นเดิม ทั้งที่ก่อนหน้ายังให้เขาเรียกว่าพ่ออยู่เลย“เกี่ยวกับน้องหรือเปล่าครับ?” หันไปถามดารีด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ข้างในเหมือนคนกำลังตกลงเหวไปแล้วดารีไม่ได้ตอบนอกจากการระบายยิ้มบางๆ ไม่ว่ายังไงเธอยังคงเห็นอคิณป็นเหมือนลูกชายคนหนึ่ง “น้าของเข้าไปปลุก...”“อย่าเอาน้องไปจากคิณ” อคิณบอกก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้อง เอาเสื้อยืดตัวเมื่อคืนที่ตกพื้นมาใส่ ก่อนออกจากห้องลงไปคุยกับทินกรก็ปิดประตูล็อกห้องเสร็จสรรพ ทำเอาดารีที่ยืนอยู่นึกแปลกใจ ตกลงว่าเด็กหนุ่มจะเอายังไงกับลูกสาวเธอกันแน่ไม่ต้องถามว่าทำไมถึงรู้ว่าเมื่อวานที่ปลาทูร้องไห้เป็นเพราะอคิณ ก็ทั้งตลอดชีวิตที่ผ่านมาของลูกสาว อคิณไม่เคยให้หนุ่มๆที่ไหนเข้าใกล้ลูกสาวเธอเลย และไม่ว่าจะไปไหนทำอะไรอคิณไม่เคยปล่อยให้ลูกสาวเธอได้ฉายเดี่ยว ไปด้วยตลอดเหมือนเงาตามตัว เพราะงั้นมันจึงไ
ปลาทูไม่อาจห้ามความรู้สึกที่กำลังก่อตัวขึ้นมาทีละนิดภายในจิตใจ ไม่สามารถมองหน้าคนกลัดมันให้เป็นดั่งพี่ชายได้เหมือนเดิม ปล่อยให้ความรู้สึกและหัวใจนำพา“จะ จูบได้ไหมคะ?” อคิณช้อนตาขึ้นสบกับดวงตาหยาดเยิ้ม มุมปากหยัดผุดขึ้นชวนหลงใหล ตอบน้ำเสียงน่าฟังไม่ต่างกัน “ได้สิคะ” หากไม่ใช่เพราะเด็กน้อยใต้ร่าง คาดว่าชีวิตนี้เขาคงไม่คิดว่าตัวเองจะปากหวานได้ถึงขนาดนี้......ก็ช่วยไม่ได้อ่ะนะ ในเมื่อเด็กมันยั่ว น่ารัก น่าฟัด น่าขย้ำไปหมดริมฝีปากหนาบรรจงจูบกับเรียวปากนุ่มด้วยความดูดดื่มสลับกับเร่าร้อน คล้ายกำลังส่งผ่านความรู้สึกที่อัดแน่นทั้งหมดให้เธอได้รับรู้ พลางใช้ฝ่ามือขย้ำความอวบอิ่มอย่างหนักมือ จนเนื้อสาวปริตามง่ามนิ้ว ทุกแรงขับเคลื่อนที่ดุดันและหนักหน่วง ส่วนลึกถูกจู่โจมโดยไม่เว้นระยะทำให้สมองน้อยขาวโพลน เนื้อตัวชาวาบ ลมหายใจขาดห้วงก่อนจะโอบกอดคนตัวโตแล้วกระตุกเกร็งนำไปก่อน“พี่ขอบ้างนะ” หยัดตัวขึ้น จับเรียวขาคนหมดแรงขึ้นพาดบ่า แยกขาอีกข้างให้อ้าออกแล้วกดจมลงกับเตียง ก้มมองจุดเชื่อมระหว่างเรา ที่จ้วงลึกสุดออกสุด ไม่วางตา “ซี๊ด น้ำเยอะแต่โคตรแน่น”เด็กน้อยเหนื่อยหอบแต่คนร้อนแรงยังคงควบเอวใส่กั
หลังจากที่อุณหภูมิกลับมาเป็นปกติ คนพึ่งเสร็จสมปรับสภาพได้ อคิณก็ถอดนิ้วออกมาเช็ดกับหน้าอกอวบ ก่อนจะผละจูบแล้วก้มหน้าปาดชิมน้ำรักพร้อมกับดูดงับกับส่วนยอด สายตาช้อนขึ้นสบกับคนอ่อนประสบการณ์“พี่ทรมานมาก หนูรู้ใช่ไหม?” ทรมานจนปวด จนไม่อาจรอได้แล้วอึก! คนถูกถามกลืนน้ำลายลงคอ พยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด ขณะที่อคิณขยับขึ้นมา สอดแขนโอบกอดแล้วจับร่างเปลือยเปล่าให้พลิกขึ้นมาทับบนร่างตัวเอง มือเล็กทั้งสองข้างวางเกยบนอกแกร่ง สัมผัสได้ถึงการเต้นแรงของหัวใจดวงโต ส่งผลให้หัวใจเธอเต้นตามเป็นจังหวะเดียวกัน ก่อเกิดความรู้สึกวูบไหว...คล้ายมีผีเสื้อนับล้านตัวกำลังบินว่อนอยู่ในท้อง“งั้น...เด็กดีช่วยพี่หน่อยได้ไหมคะ”“ตะ แต่หนูทำไม่เป็น”“เดี๋ยวพี่สอน” ประคองใบหน้าเนียนขึ้นสีระเรื่อมาจ้องตากัน ขณะที่ฝ่ามืออีกข้างก็ลูบไล้ ไปทั่วแผนหลังชุ่มเหงื่อ “เริ่มจาก...เอานมหนูมาป้อนใส่ปากพี่ก่อน”ปลาทูลอบกลืนน้ำลาย ถ้อยคำการสอนที่ตรงไปตรงมาทำเอาคนฟังเขินหนัก ช่วยไม่ได้ที่ใบหน้าจะเห่อร้อนจนต้องเม้มริมฝีปากเข้าหากัน แอบสะดุ้งตัวเล็กน้อยเมื่อปลายนิ้วซุกซนเลื่อนลงมาวนลูบไล้แถวบั้นท้าย “นะครับ ป้อนพี่หน่อย” น้ำเสียง
“หื้ม?”“ปล่อยนะ ไอ้คนบ้า อื้ม” เสียงใสถูกกลืนกินด้วยริมฝีปากหนาที่ทาบลงมาจูบกับเรียวปากนุ่มสีหวาน บดคลึงเบาๆไม่รุนแรงก่อนจะสอดลิ้นร้อนเข้าไปช่วงชิมความหอมหวานละมุนจากปลายลิ้นน้อยของน้อง ปลุกเร้าอารมณ์สาวที่กำลังหลับใหลให้ก่อตัวลำกายขยายใหญ่ภายใต้กางเกงยีนส์ที่สัมผัสบริเวณท้อง น้อย ทำเอาคนใต้ร่างตาตื่นหัวใจสั่นไหว ความโกรธเมื่อตอนเย็นพลันหายไปอย่างน่ากลัว กลัวใจตัวเองนี่แหละ ที่มันชอบไปเป็นของเขาอุณหภูมิภายในของปลาทูพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆตามระดับของกลีบปากหยักที่บดเคล้าลงมาอย่างดูดดื่ม จากขัดขืนเรี่ยวแรงและร่างกายก็ค่อยๆโอนอ่อน คล้อยตามคนช่ำชองและมากไปด้วยประสบการณ์ เผลอจูบตอบเลียนแบบ แม้จะเงอะงะแต่มันกลับกระชากอารมณ์หนุ่มอคิณสำรวจดวงหน้าละมุนด้วยสายตาหยาดเยิ้มหลังจากที่ผละจูบออก กลืนน้ำลายลงคอครั้งแล้วครั้งเล่า ยิ่งมองก็ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ตัวเองเข้าไปใหญ่ ใช้มือข้างหนึ่งประคองใบหน้าเธอเอาไว้ด้วยลมหายใจที่ติดขัด ก่อนจะก้มลงประกบจูบลงมาอีกครั้งอย่างห้ามใจไม่อยู่ร่างกายหนาร้อนยิ่งกว่าไฟ ขยับบดเบียดกับจุดกึ่งกลางสาว ปลาทูถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งตัว เผลอไผลกับรสจูบอันร้อนแรง ยากที่จะดึงสติตัว
“กู...” ที่ผ่านมาก็ไม่เคยถามตัวเองแบบนี้เหมือนกัน ทว่าพอคิดว่าเจ้าของใบหน้าหวานละมุนจะหายไป ร่างกายและหัวใจมันก็พลันจะอ่อนแรงลงขึ้นมาเสียดื้อๆ และยิ่งต้องนึกว่าจะมีคนอื่นที่ได้รับความรู้สึกทั้งหมดจากเธอ ก็รู้สึกเจ็บร้าวในอกคล้ายมีคนเอาแท่งเหล็กมาเสียบเข้ากลางอกย้ำๆซ้ำๆตรงจุดเดิมความรู้สึกทั้งหมดนี้เขาไม่ชอบ“มึงไม่ต้องเครียดเพื่อน ค่อยๆคิด ยังไงเด็กนั้นก็ไม่ไปไหนหรอก” ตบบ่าให้กำลังใจ แต่ก็กลัวอีกคนจะคิดไม่ได้ “แต่แมวตัวอื่นที่รอมึงเผลอ อันนี้กูว่าไม่แน่”“ไอ้เหี้ยทาย!” อคิณลุกขึ้นตะโกนด่าไล่หลังเพื่อน ทว่าพอกลับมานั่งใบหน้าก็ผุดรอยยิ้มกว้างอย่างไม่ปิดบัง พลันนึกถึงดวงหน้าหวานพร้อมกับรอยยิ้มออดอ้อนที่เธอชอบใช้เวลาอยากได้ของ แค่นั้นก็ชื่นใจ โอเค ยอมรับแล้วว่าชอบยัยเด็กทิงเจอร์...แล้วทีนี้กูต้องเริ่มจีบน้องมันยังไงวะเนี่ย@บ้านอคิณดวงตาคมกริบมองไปยังบ้านข้างๆที่ตอนนี้ได้ถูกความมืดมิดปกคลุม เขายืนลังเลอยู่ตรงประตูเชื่อมระหว่างบ้านเขากับบ้านเธอมาเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะย้ายไปไหนถ้าเคาะประตูแล้วตะโกนเรียก พ่อกับแม่เธอจะตื่นด้วยไหมวะ“หรือว่ากูต้องปีนขึ้นห้องเมียตัวเอ
“ฉัน...” คำถามนี้เขาก็ไม่รู้จะตอบยังไง จะบอกว่าโกรธที่เธอคุยกับคนอื่น ส่งยิ้มให้คนอื่นแบบนี้เหรอ มันดูไม่ใช่เขาเลยสักนิด“ก่อนหน้านี้พี่คิณบอกเองว่าไม่อยากได้ปลาทูเป็นเมีย แล้วตอนนี้พี่คิณเป็นอะไร จูบปลาทูทำไม?” อยู่ๆดวงตามันก็ร้อนผ่าวขึ้นมา รู้สึกเหมือนมีอะไรมาแทงที่อก“...”“ถ้าพี่คิณไม่ชอบปลาทู ไม่ได้รู้สึกแบบนั้น พี่คิณก็ควรจะอยู่ให้ห่างสิ ไม่ใช่มาทำอะไรแบบนี้งะ” ยิ่งเขาทำแบบนี้คนที่จะเป็นบ้าก็คือตัวเธอเอง“...”“ตะ ต่อไปพี่คิณอย่าทำแบบนี้กับปลาทูอีก” ว่าจบก็เปิดประตูลงจากรถแล้ววิ่งเข้าบ้านตัวเอง การที่เขาปิดปากเงียบไม่พูด ก็เท่ากับว่าต้องการที่จะรักษาคำว่าพี่น้องระหว่างเราเอาไว้ มันเลยทำเธอรู้สึกแย่และเจ็บไม่น้อยไม่รู้ว่าเผลอพาพี่คนนั้นเข้ามาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เขาคิดอยากจะทำอะไรกับตัวเธอเขาก็ทำ แล้วเธอก็ประเคนให้เขาหมด หมดแล้ว หมดเลยจริงๆ“ปลาทูเป็นอะไรลูก?” ดารีออกมาจากในครัวเห็นลูกสาวตัวน้อยยืนน้ำตาไหลจับหน้าอกตัวเองอยู่ตรงประตูก็ตกใจ เข้ามาดู “แม่คะ ฮึก” น้ำเสียงสิ้นหวังสั่นเครือ ขณะโผเข้ากอดผู้เป็นแม่ “ปลาทูเจ็บค่ะ เจ็บตรงนี้งะ” ชี้ที่อกข้างซ้ายต
20นาทีต่อมาหมดเวลาพักทุกคนก็กลับลงสนาม ไปประจำตำแหน่งของตัวเอง ปลาทูจึงได้กลับเข้าไปอยู่ในโลกของตัวเองเช่นกัน เธอเอาหูฟังมาใส่เปิดเพลงกลอกหูแล้ววาดรูปต่อ เก็บรายละเอียดเพียงเล็กน้อยก็เอามือถือขึ้นมาถ่าย เข้าโปรแกรมระบายสีที่โหลดไว้ติดเครื่องนิ้วเรียวกดหน้าจอที่แสดงภาพจานสีก่อนจะบรรจงระบายอย่างตั้งใจ อาจจะดูเละเทะไปหน่อยเพราะใช้นิ้วแทนปากกา แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ดูแย่จนเหมือนเด็กอนุบาลระบายสี ก่อนจะชะงักเมื่อเหลือบเห็นขาของใครบางคนอยู่ตรงหน้า “สวัสดีครับ” คนแปลกหน้ากล่าวทักทายพร้อมโบกมือด้วยรอยยิ้ม ปลาทูจึงถอดหูฟังออกแล้วตอบกลับอย่างมีมารยาท“สวัสดีค่ะ” เดาจากสายตาความสูงน่าจะพอๆกับพี่คิณ เรื่องหน้าตาถือว่าหล่อจัด“พี่ชื่อคิมนะครับ อยู่สถาปัตย์ปีสาม เห็นเราวาดรูปน่ารักดีพี่เลยมาทัก” “อ่อ ขอบคุณค่ะ” พอเข้าใจ ใบหน้าหวานละมุมก็ฉีกยิ้มให้อย่างเป็นมิตร “พอดีปลาทูมารอพี่ชายเล่นบอลน่ะค่ะเลยหาอะไรฆ่าเวลา”“พี่ชายที่จ้องจะงับเองละสิไม่ว่า” เสียงเอ่ยเบาๆของเค้กส้ม ทำให้ทั้งปลาทูและคิมหันไปมอง เจ้าตัวจึงแกล้งตีหน้าใสซื่อ “อุ้ย พี่พูดเสียงดังไปเหรอ ขอโทษนะ”“ไม่เป็นไร ปลาทูไม่ได้ยินที่พี่เค้กส้ม
ดวงตาคมกริบที่นอกจากจะต้องมองตามลูกบอลกลมๆที่ถูกคนนู้นคนนี้เตะส่งกันไปมาแล้ว ยังคอยสอดส่องไปยังร่างเล็กที่นั่งก้มหน้าก้มตาทำอะไรสักอย่าง แต่ถ้าให้เดาปลาทูคงจะนั่งเขียนการบ้านหรือไม่ก็นั่งวาดรูปอะไรไปเรื่อยเปื่อยเขาจำได้ว่าตอนเด็กๆน้องชอบวาดรูปมาก แต่พอโตขึ้น เวลาที่เคยมีก็ถูกถ่ายเทไปให้กับการเรียนบ้าง กับซีรีย์บ้าง หรือไม่ก็กับพี่ชายอย่างเขาเอง ไม่รู้ทำไมมันอยู่ไม่สุข ถ้าไม่ได้เล่นเกมส์ด้วยกัน“หึ” มันช่วยไม่ได้ที่พอนึกถึงแล้วจะไม่หัวเราะ“บอลอยู่ในสนาม ไม่ใช่อยู่ข้างสนามโว้ย!” การินวิ่งหอบเข้ามาตบหัวเพื่อนหนึ่งที โทษฐานที่วอกแวก คาดว่ามันคงสนใจสิ่งนั้นมากกว่าลูกบอลแล้วตอนนี้“กูขอเถอะนะไอ้คิณ สนใจเพื่อนก่อน จบเกมส์มึงอยากจะทำอะไรมึงก็ไป” ประธานรุ่นถึงกับออกปากเพราะนี่ไม่ใช่การซ้อมเล่นๆเหมือนทุกๆวัน แต่เป็นการซ้อมใหญ่เพื่อไปแข่งจริงในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จะเรียกว่าศึกของศักดิ์ศรีเลยก็ได้“พ่อมึงเรียกละ” การินว่าทิ้งท้ายก่อนจะแยกออกไป อคิณหันไปมองใบหน้าหวานอีกครั้งก่อนจะกลับมาโฟกัสในสนาม“แก...พี่คิณหันมามองฉันด้วย” น้ำเสียงตื่นเต้นของผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่ไม่ไกลเรียกความสนใจขอ