เขาคือผู้ชายอันตราย ที่คนหัวใจอ่อนแออย่างเธอไม่ควรเข้าใกล้ แม้เธอจะได้สถานะแฟนมาครอบครอง แต่กลับไม่เคยได้หัวใจของเขา
View Moreหนึ่งเดือนต่อมากวินเริ่มอาการดีขึ้นทุกวัน แผลที่เคยเจ็บก็เริ่มหายเหลือเพียงรอยแผลเป็นที่ยังคงอยู่วันนี้เป็นวันที่พิพลอยจะเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศตอนแรกกวินตั้งใจที่จะไปพร้อมเธอ แต่เอกสารบางอย่างของเขายังไม่เรียบร้อย การเดินทางของเขาจึงต้องเลื่อนออกไปชายหนุ่มกับครอบครัวมายืนรอพิพลอยที่สนามบินเพื่อรอเวลาที่เธอและครอบครัวจะมาถึง ทุกคนตั้งใจที่จะมาส่งเธอในการเดินทางครั้งนี้“นั่นไง หนูพลอยมานู้นแล้ว” คุณแม่ของกวินทักขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวและครอบครัวกำลังเดินมากวินตั้งใจที่จะใช้โอกาสนี้ขอโทษและขอขมาครอบครัวของพิพลอยที่เขาเคยทำไม่ดีและคำเธอเสียใจมาก่อนทันทีที่ครอบครัวของพิพลอยเดินเข้ามา ร่างสูงก็นั่งคุกเข่าลงกลางสนามบินที่มีผู้คนมากมายต่างจ้องมองมาที่พวกเขามือหนาพนมมือขึ้นไหว้ก่อนจะก้มลงกราบขอโทษคุณพ่อกับคุณแม่ของหญิงสาวที่เขาเคยทำไม่ดีกับเธอจนทำให้ครอบครัวของเธอไม่ชอบเขา“ผมขอโทษสำหรับทุกอย่างนะครับ” กวินพูดเข้าเรื่องทันที“ผมขอโทษที่เคยทำให้พิพลอยต้องเสียใจและตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าผมรักพิพลอยมาก ผมอยากจะขอโอกาสดูแลพิพลอยครับ” มือหนายังคงไหว้เพื่อขอโอกาสจากครอบครัวของพิพลอย“มั่นใจ
สามวันต่อมาพิพลอยมาอยู่ดูแลกวินทุกวันถึงแม้ว่าจะมีพยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแลอยู่แล้วก็ตาม เธอก็ยังอยากจะดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาถึงสองวันแล้ว แต่กวินก็ยังคงนอนนิ่งและไม่มีท่าทีว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาเลยสักนิดพิพลอยทำได้เพียงไหว้พระขอพรและภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้กวินฟื้นขึ้นมา โชคดีที่คุณพ่อกับคุณแม่อนุญาตให้เธออยู่ดูแลชายหนุ่มจนกว่าเขาจะฟื้นและอาการดีขึ้น โดยมีข้อแม้ว่าถ้าหากเขาฟื้นขึ้นมาเธอจะต้องไปเรียนต่อต่างประเทศทันทีหญิงสาวจับมือชายหนุ่มมากุมเอาไว้อย่างอ่อนโยน ความรักและความเป็นห่วงที่เธอมีให้เขามันมากมายอย่างที่เธอไม่เคยมอบให้ใครมาก่อนแววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้ามองชายหนุ่มที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง แต่เธอก็ยังมีความหวังว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาอาการของกวินตอนนี้ยังคงทรงตัวไม่ได้มีอาการอะไรแทรกซ้อน ร่างกายไม่ได้แย่ลงแต่ก็ยังไม่ดีขึ้นทางคุณหมอก็ยังให้คำตอบไม่ได้เลยว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาตอนไหน บางอย่างอาจจะต้องใช้เวลาและปาฏิหาริย์เข้าช่วย“ขอบใจหนูพลอยมากนะที่มาดูแลตาวินทุกวันเลย” คุณแม่ของกวินรักและเอ็นดูพิพลอยตั้งแค่ครั้งแรกที่เจอเธอ“ไม่เป็นไรค่ะ หนูเต
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่พิพลอยนอนอยู่บนเตียงกว้าง เพราะก่อนที่เพชรจะออกไปเขาได้อุ้มน้องสาวไปส่งที่ห้องนอนของเธอก่อนแล้วคุณแม่คอยดูแลพิพลอยอยู่ไม่ห่างด้วยความเป็นห่วงที่อยู่ๆ ลูกสาวก็เป็นลมไปแบบนี้ ทั้งที่เธอก็แข็งแรงและไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนผ่านไปสักพักมือบางก็ค่อยๆ ขยับและลืมตาตื่นขึ้นมามองเห็นคุณแม่นั่งอยู่ไม่ไกลพร้อมรอยยิ้มที่กำลังมองมาที่เธอ“หนูฟื้นแล้วเหรอลูก” คุณแม่ถามด้วยความเป็นห่วงปนดีใจที่ลูกสาวฟื้นขึ้นมาสักทีพิพลอยนั่งนิ่งและตั้งสติอยู่สักพัก ในหัวกำลังประมวลภาพเหตุการณ์และเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าร่างบางไม่ตอบคุณแม่แต่อย่างใด ใบหน้าสวยแสดงออกถึงท่าทางตกใจ เธอรีบลุกขึ้นยืนและตั้งท่าจะเดินออกจากห้องไปทันที โชคดีที่คุณแม่คว้ามือลูกสาวเอาไว้ทัน“หนูจะไปไหน” คุณแม่ถามด้วยความสงสัยทันทีที่เห็นท่าทางของลูกสาว“หนูจะออกไปช่วยพี่วินค่ะ” พิพลอยตอบไปตามตรงและตอนนี้เธอก็เป็นห่วงเขามาก เธอไม่รู้เลยว่าเธอเป็นลมไปนานแค่ไหนและตอนนี้ชายหนุ่มจะเป็นยังไงบ้าง“คุณพ่อกับตาเพชรออกไปจัดการให้แล้ว หนูรอฟังข่าวอยู่ที่บ้านกับแม่นะ” คุณแม่จับมือลูกสาวเอาไว้แน่น“หนูขอออกไปได้ไหม
หลายวันต่อมาถึงกวินสัญญาว่าจะตามพิพลอยไป แต่เธอก็ยังคงเศร้าเพราะคุณพ่อกับคุณแม่ยืนยันว่าจะให้เธอเดินทางในเร็วๆ นี้เรื่องราวทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนเธอไม่ทันตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเอกสารต่างๆ ก็ดูเตรียมพร้อมไปหมดทุกอย่าง แต่มีอย่างเดียวที่ไม่พร้อมก็คือตัวเธอเองพิพลอยมักจะถือโทรศัพท์ติดตัวตลอดและมักจะค้างสายของกวินเอาไว้ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือพูดคุยกับใครกวินก็ได้ยินและรู้เรื่องไปกับเธอด้วย“ผมจัดการเรื่องที่เรียนให้เรียบร้อยแล้วนะครับ”หลังจากที่ทานอาหารเย็นด้วยกันเสร็จเพชรก็พูดเข้าประเด็นที่กำลังสำคัญที่สุดในตอนนี้กวินที่อยู่ในสายพอได้ยินก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันที ตอนนี้เขาอยากจะรู้จริงๆ ว่าครอบครัวของพิพลอยกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่อาจทนนิ่งเฉยได้อีกต่อไป เวลานี้เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วพิพลอยนั่งนิ่บมองหน้าพี่ชายด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยถูกบังคับหรือกดดันเท่านี้มาก่อนทั้งๆ ที่ทุกคนก็รู้ว่าเธอไม่อยากไป แต่ทำไมทุกคนถึงไม่ฟังความต้องการและความรู้สึกของเธอเลยสักนิด ทำไมทุกคนถึงอยากให้เธอไปอยู่ไกลขนาดนี้“หนูขอตัวก่อนนะคะ”พิพลอยไม่อยากรับรู้
หนึ่งเดือนต่อมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพิพลอยยังคงเรียนอยู่ที่บ้านเหมือนเดิมไม่ได้ออกไปไหน และโทรคุยกับกวินแทบจะตลอดเวลาความสัมพันธ์ของพิพลอยกับกวินก็เริ่มพัฒนาในทางที่ดีขึ้นอีกครั้ง ดีจนพิพลอยอยากจะกลับไปใช้ชีวิตที่คอนโดเหมือนเดิมแต่เธอก็ยังไม่กล้าพอที่จะขอคุณพ่อกับคุณแม่ตั้งแต่ที่เธอสัญญาว่าจะขอไปเป็นกำลังใจที่ศาลวันนั้น เธอก็ไม่กล้าที่จะขออะไรอีกเลย ส่วนทางด้านกวินก็เข้าใจพิพลอยมากขึ้น ไม่บังคับและไม่เอาแต่ใจตัวเองเหมือนเมื่อก่อนกวินเฝ้ารอและอดทนเจอพิพลอยแค่สัปดาห์ละครั้งในตอนที่เธอออกไปร้านนวดกับคุณแม่ และเธอก็แอบออกมาเจอเขาทุกครั้งทว่าอาทิตย์นี้คุณแม่ของพิพลอยติดธุระกับญาติๆ เธอก็เลยไม่ได้ออกจากบ้านและไม่ได้ไปหากวินเหมือนทุกครั้งแค่เจอกันอาทิตย์ละครั้งก็นานพอแล้ว แต่อาทิตย์กลับไม่ได้เจอ ทำเอากวินคิดถึงพิพลอยจนแทบบ้า ชีวิตเขาเปลี่ยนไปเป็นอย่างมากตั้งแต่รู้ใจตัวเองว่ารักพิพลอยจริงๆยิ่งตอนที่เขาสู้คดีก็ยิ่งทำให้เขารู้และมั่นใจว่าพิพลอยนั้นรักเขามากแค่ไหน“วันนี้มึงมีนัดกับพิพลอยไม่ใช่เหรอวะ” ไทเกอร์ถามขึ้นมาเพราะจำได้ว่าวันนี้กวินต้องไปหาพิพลอย“นั่นดิวะ แล้วมึงมานั่งเศร้าทำไม”
ช่วงค่ำของวันพิพลอยนั่งเขี่ยอาหารในจานของตัวเองไปมา ตอนนี้ในหัวของเธอมีคำถามมากมายเต็มไปหมด วันนี้ทั้งกวินก็ไม่โทรมาหาเธอและตอนนี้พี่ชายของเธอก็กำลังทานอาหารและคุยเรื่องงานกับคุณพ่อโดยไม่มีท่าทีว่าการสนทนาในครั้งนี้จะจบลงง่ายๆใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงกว่าพี่ชายของเธอจะเดินขึ้นห้องทำงาน พิพลอยใช้โอกาสนี้เดินตามพี่ชายไปทันที“พี่เพชร”“มีอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามน้ำเสียงนิ่งเรียบ สายตายังคงจ้องมองเอกสารที่อยู่ตรงหน้า“เรื่องคดีเป็นยังไงบ้างคะ” หญิงสาวไม่รีรอรีบถามเข้าเรื่องที่อยากรู้ทันที“พี่เข้าไปดูให้แล้ว”“แล้วพี่วินมีโอกาสรอดกี่เปอร์เซ็นต์คะ” คำถามเดียวที่พิพลอยอยากจะรู้ในตอนนี้“เก้าสิบเปอร์เซ็นต์”คำตอบของเพชรทำเอาหญิงสาวยิ้มกว้างพร้อมกับวิ่งเข้าไปกอดพี่ชายเอาไว้แน่นด้วยความดีใจ“ถ้าพยานไม่กลับคำให้การในชั้นศาลนะ”ทว่าประโยคต่อมาทำให้พิพลอยถึงกับหุบยิ้มทันที“หมายความว่ายังไงคะ” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถามพี่ชายด้วยความสงสัย“ถ้าไม่มีใครไปข่มขู่หรือทำอะไรพยายาน แล้วเล่าตามที่เล่าวันนี้ หมอนั่นรอดแน่นอน” เพชรอธิบายให้น้องสาวฟัง“พี่ช่วยให้คนของเราไปดูแลความปลอดภัยให้พยานได้ไหมคะ” พิพลอ
เช้าวันต่อมาร่างสูงหยุดยืนที่หน้าสถานีตำรวจเพื่อตั้งสติตัวเองสักพัก สองวันแล้วที่เขาแทบจะมาพักอาศัยอยู่ที่นี่เพื่อพูดคุย ไก่เกลี่ยและหาหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีและเพื่อยืนยันว่าเขาไม่ใช่คนผิดทว่าหลักฐานที่มีช่างดูห่างไกลจากความจริงเป็นอย่างมาก แต่กวินก็หวังว่าเขาจะรอดจากเรื่องนี้ไปได้ เพราะเขาไม่ได้เป็นคนทำผิดตามที่ถูกกล่าวหากวินเดินตรงเข้าไปในห้องที่คุ้นเคยพร้อมกับทนายและมีตำรวจที่กำลังรอเขาอยู่ภายในห้อง เขาเข้าออกที่นี่จนแทบจะรู้จักและสนิทกับตำรวจทุกคน“เป็นยังไงบ้างครับ” ตำรวจนายหนึ่งทักทายขึ้นมาตามมารยาทและเขาก็เชื่อว่ากวินไม่ใช่คนผิด เพียงแต่ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดมาช่วยยืนยัน“หลักฐานที่มียังไม่พออีกเหรอครับ” ชายหนุ่มถามกลับเพราะเขามีกราฟฟิกที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยทั้งหมดมาช่วยเป็นพยานให้“ยากครับ ถ้าพูดกันตามตรงก็คือไม่น่ารอดครับ” ตำรวจพูดไปตามหลักฐานที่มีทั้งหมด เพราะอีกฝ่ายมีทั้งเงินและอำนาจ“มันจะไม่มีสักทางเลยเหรอครับ” กวินแทบกุมขมับเมื่อได้ยินในสิ่งที่ตำรวจพูดออกมา ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ทำผิดอะไรด้วยซ้ำ แต่กลับต้องมาโดนคดีฆ่าคนตาย“หลักฐานของอีกฝ่ายแน่นมาก แถมยังมีพยานเป็
พิพลอยเดินหน้าเศร้าขึ้นมาบนห้อง ถ้าหากเธออยู่คอนโดเหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้เธอคงจะออกไปหากวินแล้ว ถึงแม้จะช่วยอะไรไม่ได้แต่เธอก็อยากจะอยู่ข้างๆ และคอยเป็นกำลังใจให้เขาในวันที่เขามีปัญหาครืด~ ครืด~เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาทำให้หญิงสาวหลุดจากภวังค์ของความคิด แล้วรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายทันที“เป็นยังไงบ้างคะพี่วิน” หญิงสาวถามด้วยท่าทางตื่นเต้นและรอฟังคำตอบจากชายหนุ่ม(ทนายคุยให้พี่ก็เลยได้ประกันตัวออกมาเพื่อหาหลักฐานเพิ่มครับ) กวินบอกด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า เพราะวันนี้เขาอยู่ที่โรงพักทั้งวันไม่ได้ออกไปไหนเลย“ให้หนูช่วยเป็นพยานให้พี่วินได้ไหมคะ” พิพลอยลองเสนอเพราะเธอคุยโทรศัพท์กับเขาและเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง และเธอสามารถยืนยันได้ว่ากวินไม่ใช่คนผิดอย่างแน่นอน(ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่มีอะไรที่หนูจะต้องกังวล อีกอย่างพี่ไม่อยากให้หนูมายุ่งเกี่ยวกับคดีแบบนี้) กวินตอบไปตามที่คิด เพราะเขาไม่อยากให้เธอเดือดร้อนไปด้วย“แล้วพี่วินจะทำยังไงต่อไปคะ ที่หนูฟังมาพวกนั้นมีหลักฐานมัดตัวพี่วินแน่นเลยนะคะ”ความเป็นห่วงครอบงำทำให้พิพลอยวิตกกังวลไปหมด หลังจากที่ได้อ่านข้อความที่ลดาส่งมาให้ ทำ
เช้าวันต่อมากวินงัวเงียตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ซึ่งเขาตั้งเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนเพราะวันนี้เขามีนัดไปทานข้าวกับพิพลอยร่างหนาลุกขึ้นนั่งและบิดตัวไล่ความขี้เกียจอยู่บนเตียง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและเดินตรงไปยังห้องน้ำใช้เวลาไม่นานชายหนุ่มก็มายืนแต่งตัวอยู่ที่หน้ากระจก วันนี้เขาเลือกที่จะแต่งตัวสบายๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความหรูหรา ถึงเสื้อผ้าที่ใส่จะเป็นสีพื้นดูสะอาดตา แต่ก็เป็นแบรนด์เนมราคาแพงทั้งนั้นมือหนาหยิบน้ำหอมขึ้นมาฉีดเพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนจะออกจากห้อง ใบหน้าหล่อที่เคยดูสะอาดตาวันนี้กลับมีผ้าก๊อซติดแผลอยู่ที่หางคิ้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อของเขาลดน้อยลงชายหนุ่มตรวจเช็คความเรียบร้อยอยู่สักพัก ก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถยนต์ที่วางอยู่โต๊ะข้างๆ เตียงนอนพรึบ!!ประตูหน้าห้องถูกเปิดออกจากคนที่อยู่ด้านนอก พร้อมกับมีตำรวจบุกเข้ามาภายในห้อง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนกวินไม่ทันตั้งตัวชายหนุ่มยืนนิ่งด้วยความตกใจและสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกอย่างดูงงๆ เหมือนความฝันไม่ใช่ความจริง“เกิดอะไรขึ้นครับ” เมื่อตั้งสติได้กวินก็ถามขึ้นมาทันที“คุณเป็นผู้ต้องสงสัยที่ฆ่าเด็กเ
นิยายเรื่องนี้มีเรื่องเพศ และภาษาที่รุนแรง เหมาะสำหรับเยาวชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เวลา 20:30 น.Line! Line! เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมารัวๆ ขณะที่ฉันกำลังมองดูความเรียบร้อยของตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ด้วยความไม่มั่นใจ แม้ว่าตอนนี้เสื้อผ้าหน้าผมจะเป๊ะกว่าทุกวันก็ตาม แต่ฉันก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจอยู่ดี เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะว่าวันนี้เป็นวันพิเศษยังไงล่ะ วันนี้ฉันจะไปเดทกับรุ่นพี่ที่ฉันแอบชอบมานานงื้อออ… พูดแล้วก็เขิน ไม่คิดเลยว่ารุ่นพี่จะชวนไปเดท >เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ บอกตามตรงว่าอิพี่วินของแกมันไม่น่าไว้ใจเลย ฉันลืมไปเลยว่าตอนนี้มีข้อความเข้า มัวแต่คิดถึงเรื่องผู้ชาย อิอิ แต่พออ่านข้อความที่ลดาเพื่อนรักส่งมา ฉันก็ต้องส่ายหน้าเบาๆ แล้วพิมพ์ตอบกลับไปทันทีPIPLOY : ไม่เปลี่ยนใจหรอก ฉันไว้ใจพี่วินฉันตอบไปตามตรง แล้วก็ไม่ได้คิดมากอะไร เพราะฉันรู้อยู่แล้วว่าผู้ชายที่ฉันแอบชอบเขาเป็นคนยังไง เขาเจ้าชู้แค่ไหน และเคยออกเดทกับใครมาบ้างแต่นั่นมันก็แค่อดีตไง ตอนนี้พี่วินบอกว่าเขาคุยกับฉันแค่คนเดียว จะหาว่าฉันโลกสวยก็ได้นะ แต่ตลอดสองเดือนที่ได้คุยกัน พี่วินพิสูจน์ให้ฉันเห็นว่าเขาจริงจัง...
Comments