ระหว่างทางกวินขับรถอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับมีพิพลอยที่วิดีโอคอลกันอยู่ตลอด
หญิงสาวมองชายหนุ่มที่อยู่ในหน้าจออย่างตั้งใจและเป็นห่วงในเวลาเดียวกัน เธอมองเขาแทบไม่ละสายตาเลยก็ว่าได้
ส่วนเสือร้ายก็คิดและวางแผนในหัวเอาไว้ ถ้าไปถึงห้องเขาจะต้องเริ่มจากตรงไหนและทำอะไรก่อนดี ยังไงวันนี้เขาก็ไม่มีทางปล่อยเหยื่อให้หลุดมือไป และคงได้จัดหนักจัดเต็มอย่างสมใจแน่นอน
(พี่ถึงแล้วนะครับ กำลังจะขึ้นไป) ไม่ว่าจะถึงไหน หรือว่าทำอะไรกวินก็จะบอกหญิงสาวที่อยู่ในสายเสมอ
พิพลอยลุกขึ้นยืนและเดินมารอเปิดประตูให้ชายหนุ่ม หัวใจดวงน้อยเต้นรัวทุกวินาที ไม่รู้ว่าทำไมเธอใจอ่อนและยอมให้กวินมานอนที่ห้องได้
นี่เป็นครั้งแรกที่เธออนุญาตให้แฟนมานอนด้วย และเป็นครั้งแรกที่เธอจะได้อยู่ใกล้ผู้ชายแบบสองต่อสองนานๆ หลายชั่วโมงในห้องนอน ทำเอาร่างสวยเกิดอาการประหม่าทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที
ก๊อก!! ก๊อก!!
เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้นซึ่งเรียกสติพิพลอยได้เป็นอย่างดี
(ถึงหน้าห้องแล้วครับ) กวินเอ่ยบอกพร้อมรอยยิ้มก่อนจะวางสายไป
หญิงสาวยืนนิ่งสูดลมหายใจเข้าออกเพื่อเรียกสติตัวเองที่หลุดลอยไปให้กลับมา มือบางยกขึ้นมาแนบอกด้วยความตื่นเต้น
เมื่อประตูเปิดออกใบหน้าสวยก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ชายหนุ่มอยู่ในชุดเสื้อยืดพร้อมนอนที่มาพร้อมกระเป๋าเล็กๆ เพียงหนึ่งใบ
บรรยากาศภายในห้องถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ เจ้าของห้องก็ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะนั่งตรงไหน จะอยู่ตรงไหนดี
“หนูง่วงยังครับ” กวินวางกระเป๋าไว้ที่โซฟาแล้วเอ่ยถามเจ้าของห้อง
“ยังค่ะ” พิพลอยตอบพร้อมกับส่ายหน้าไปมา
“งั้นเราดูหนังกันไหม วันนั้นยังดูไม่จบเลย” เสือร้ายวางแผนมาเป็นอย่างดี ถ้าไม่รู้จะเริ่มยังไงก็แค่ชวนนอนดูหนังด้วยกัน เดี๋ยวทุกอย่างก็เป็นไปตามแผน
“ดูตรงไหนดีคะ” หญิงสาวที่ไร้เดียงสาถามออกมาด้วยความใสซื่อ
“บนเตียงก็ได้ครับ เผื่อหนูง่วงจะได้นอนเลย” ก็บอกแล้วว่าเสือร้ายวางแผนมาเป็นอย่างดี
ร่างบางขึ้นไปนอนบนเตียงอย่างว่าง่าย ตามด้วยกวินที่ตามไปนอนอยู่ข้างๆ ทำเอาหัวใจดวงน้อยสั่นไหวทุกวินาที
เครื่องปรับอากาศเย็นๆ ทำให้พิพลอยต้องสอดตัวเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ ห้องนอนที่อยู่สบายและคุ้นเคย ตอนนี้ทำเอาหญิงสาวไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวไปไหน
กวินเปิดหนังที่ดูค้างไว้ในโทรศัพท์ แต่พอนอนดูหนังด้วยกันสักพักแจ้งเตือนในไลน์ก็ดังขึ้นมาไม่หยุด
“พี่วินตอบแชทก่อนก็ได้ค่ะ” พิพลอยบอกชายหนุ่มตามมารยาท
“ครับ”
LINE
D-day : มึงอยู่ไหน
D-day : ออกมาที่ผับด่วน!!
D-day : กำลังสนุกเลย สาวๆ ก็เยอะ
กวินอ่านข้อความด้วยท่าทางสุดเซ็ง ก่อนจะหันไปมองพิพลอยที่นอนอยู่ในอ้อมแขน
“พี่วินอยากไปไหมคะ” พิพลอยถามเสียงเบา เมื่อรู้ตัวแล้วว่าชายหนุ่มกำลังใช้สายตาขอคำตอบจากเธอ
“แล้วหนูอยากให้พี่ไปไหม” กวินมองใบหน้าสวยก่อนจะเอ่ยถามออกมาราวกับเป็นการขออนุญาต
“ไม่ค่ะ” ร่างบางในอ้อมแขนตอบออกมาตามตรง ยิ่งเธอได้อยู่ใกล้เขาความอบอุ่นก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น และเธอก็อยากจะอยู่แบบนี้กับเขาไปนานๆ
GAVIN : กูไม่ว่าง
ชายหนุ่มรีบส่งข้อความปฏิเสธเพื่อน แต่เมื่อเพื่อนได้อ่านก็รีบโทรวิดีโอคอลหากวินทันที
“อะไรของมึง” กวินกดรับแล้วถามคนในสายด้วยท่าทางหงุดหงิด
(กูแค่จะชวนมึงมาเที่ยว) ดีเดย์ไม่พูดเปล่า หันกล้องให้กวินได้ดูบรรยากาศภายในผับที่มีสาวๆ สวยๆ เยอะแยะเต็มไปหมด
“กูไม่ไป” กวินปฏิเสธเสียงแข็ง
(มึงอยู่กับใครวะ ทำไมน่ารักจังเลย) เพื่อนถามขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่ามีผู้หญิงอยู่ข้างๆ กวิน
พิพลอยที่ได้ยินคำชมจากเพื่อนของแฟนหนุ่มก็ถึงกับทำตัวไม่ถูกรีบมุดหน้าเข้าผ้าห่มด้วยความเขินอายทันที
“กูอยู่กับแฟน แล้วก็ห้ามส่งอะไรมากวนตีนกูอีกนะ” กวินพูดเสียงแข็ง
(มึงมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่วะ) เพื่อนยังคงแกล้งถามต่อ และไม่ยอมวางสายง่ายๆ
“กูจะไล่มึงออกจากกลุ่ม ข้อหาทำให้แฟนกูเขิน” ชายหนุ่มคาดโทษเพื่อนเอาไว้ก่อนจะกดวางสายไปอย่างไร้เยื่อใย
เมื่อวางสายไปแล้วกวินก็สอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ มือหนาลูบไล้เรือนร่างขาวเนียน ความเนียนนุ่มทำให้กวินอดใจแทบไม่ไหว
“หนูอยากเล่นผีผ้าห่มเหรอ” น้ำเสียงแหบพล่านเอ่ยถามหญิงสาวที่อยู่ใต้ผ้าห่ม
“ไม่ใช่ค่ะ” คนตัวเล็กปฏิเสธแต่ก็ยังไม่ยอมออกจากใต้ผ้าห่ม
“แล้วหนูเป็นอะไร” กวินยังคงถามต่อมือหนาก็ยังคงลูบไล้และสัมผัสเรือนร่างเนียนนุ่ม
“หนูอายค่ะ” พิพลอยตอบเสียงเบาด้วยความเขินอาย
“อายที่เป็นแฟนกับพี่เหรอ” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ แล้วออกจากผ้าห่มมาเปิดดูหนังต่อ
ทว่าความจริงแล้วมันเป็นเพียงแค่แผนของเสือร้ายที่แกล้งงอน หวังจะให้พิพลอยเป็นฝ่ายง้อต่างหาก คิดจะเป็นเสือก็ต้องมีแผนเยอะๆ หน่อย เหยื่อจะได้ตายใจ
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปพิพลอยก็รีบดันตัวออกจากผ้าห่ม แล้วมองชายหนุ่มที่กำลังนอนหันหลังให้เธออยู่
‘งอนจริงเหรอเนี่ย’ คำถามนี้ยังคงดังก้องอยู่ในหัวของหญิงสาว ก่อนจะคิดหาวิธีง้อผู้ชายในเวลาต่อมา
“หนูขอโทษนะคะ หนูไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ” พิพลอยกอดกวินเอาไว้หลวมๆ ก่อนจะขอโทษที่เธอเป็นฝ่ายทำให้เขาเข้าใจผิดคิดไปแบบนั้น
“เรานอนกันเถอะ” กวินเปลี่ยนเรื่องด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปจนหญิงสาวรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
“ไม่ดูหนังต่อเหรอคะ” พิพลอยรีบพูดเรื่องหนังขึ้นมาอ้าง เผื่อว่าชายหนุ่มจะเปลี่ยนใจดูหนังกับเธอต่อ
“พี่ง่วงแล้ว”
ประโยคสุดท้ายก่อนที่กวินจะวางโทรศัพท์เอาไว้ข้างเตียงนอน มือหนากำลังจะเอื้อมไปปิดไฟที่หัวเตียง แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเขานึกขึ้นได้ว่าพิพลอยกลัวผีและเธอไม่ชอบปิดไฟนอน
ร่างหนาทิ้งตัวลงนอนที่เดิม พร้อมกับนอนหันหลังให้กับเจ้าของห้อง ไหนๆ ก็แกล้งงอนแล้ว ก็ต้องแกล้งให้สุด ยังไงเธอก็ต้องเป็นฝ่ายง้อเขาอยู่ดี
..
อิพี่กวินนี่ก็แผนเยอะเกิน
แบบนี้น้องจะรอดหรือเปล่าเนี่ย!!
ดวงตากลมโตมองร่างหนาที่กำลังนอนหันหลังให้เธอด้วยความสงสาร กวินมีความพยายามและอดทนทำตามสัญญาโดยที่เขาไม่เคยล่วงเกินเธอเลยสักครั้งหากเธอไม่เต็มใจพิพลอยรู้ว่าเมื่อก่อนกวินมีความอดทนต่ำในเรื่องผู้หญิง ใครๆ ต่างก็เตือนไม่ให้เธอคบกับเขา แต่ตอนนี้เขาพิสูจน์และทำให้เธอมั่นใจแล้วว่าเขาเป็นคนดีจริงๆ เวลาที่เธออยู่ใกล้เขาเธอก็ยิ่งมีความสุขกวินคอยดูแลและอยู่ข้างเธอมาตลอด เวลาเธอจะไปไหนก็มีเขาคอยรับคอยส่งอยู่ตลอด แถมยังพาเธอไปแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนสนิทอีก น่ารักแบบนี้จะไม่ให้เธอรักเธอหลงได้ยังไงกันร่างบางค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ๆ แล้วสวมกอดชายหนุ่มจากทางด้านหลัง“หนูไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ นะคะ”“….”มีเพียงความเงียบแทนคำตอบ เสือร้ายกระตุกยิ้มอย่างพอใจเมื่ออีกฝ่ายเริ่มง้อตามแผนที่วางเอาไว้“หนูรักพี่นะคะ”น้ำเสียงแผ่วเบากระซิบข้างหูของชายหนุ่มทำเอาร่างกำยำร้อนรุ่มไปทั้งตัว แต่เขาก็ต้องกัดฟันข่มอารมณ์เอาไว้ก่อน“พี่รู้ หนูรีบนอนเถอะ”“ทำไมต้องรีบนอนด้วยคะ”“ถ้าหนูไม่นอนตอนนี้ พี่จะไม่นอนอยู่เฉยๆ แล้วนะ”“แต่…”พรึบ!!ร่างหนาพลิกตัวกลับคืนมามองใบหน้าสวยที่กำลังตื่นกลัว แววตาเต็มไปด้วยความสับสน ร่างกาย
“อ๊ะ!!”ร่างบางร้องเสียงหลงออกมาด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับดันตัวถอยห่าง ความเจ็บทำให้เธอเริ่มกลัวขึ้นมากวินกอดรัดร่างบางเอาไว้แน่นไม่ให้เธอขยับตัวหนีไปได้ ริมฝีปากหนากดลงที่ริมฝีปากบางพร้อมกับจูบอันดูดดื่ม มือหนาบีบเค้นเต้าอวบอย่างสนุกมือ พลางลิ้นร้อนก็ควานหาความหวานจากโพรงปากเล็กอย่างช่ำชอง“อือ…”เสียงอู้อี้ในลำคอดังเล็ดลอดออกมาในตอนที่พิพลอยจะขาดใจ ชายหนุ่มผู้ช่ำชองในเรื่องบนเตียงจึงแปรเปลี่ยนไปซุกไซ้ที่ซอกคอขาวและดูดเม้มจนเกิดรอยแดง ก่อนจะลากลิ้นร้อนลงไปหาเต้าอวบอีกครั้งลิ้นร้อนตวัดเลียวนรอบจุกสีหวานไปมาจนร่างบางหายใจถี่รัว หน้าอกอวบอิ่มแอ่นสู้ลิ้นสร้างความพอใจให้กวินได้เป็นอย่างดี“เสียวไหม” กวินเอ่ยถามพร้อมกับมองใบหน้าสวยสายตาฉ่ำปรือราวกับคนไม่มีสติ“อื้อออ”เป็นคำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบ มีเพียงแค่เสียงครางหวานดังขึ้นกระตุ้นอารมณ์ดิบเถื่อนของชายหนุ่มกวินกอดรัดฟัดเหวี่ยงร่างบางจนเต็มไปด้วยรอยรักที่แดงเป็นจ้ำหลายจุด แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าเขาจะหยุดเล้าโลมเธอเลยสักนิดเพียงแค่สัมผัสและเล้าโลมด้านบนยังไม่พอ ใบหน้าหล่อเลื่อนต่ำลงไปหยุดอยู่ที่ตรงกลางหว่างขาของหญิงสาวดวงตากลมโตเบิกโพรงด้วยความ
สายของวันต่อมาเรือนร่างขาวเนียนไร้เสื้อผ้าปกปิดค่อยๆ พลิกตัวนอนหงาย เมื่อรู้สึกปวดเมื่อยจากการนอนตะแคงในท่าเดิมเป็นเวลานาน“อ๊ะ!”พอขยับตัวเพียงนิดเดียวก็รู้สึกถึงความเจ็บแสบและหน่วงตรงกลางหว่างขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนพิพลอยลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องนอนที่คุ้นเคย แต่สิ่งที่ไม่คุ้นเคยคือการมีแฟนหนุ่มนอนอยู่ข้างๆ กลิ่นหอมที่คุ้นเคยทำให้ใบหน้าสวยเผลอยิ้มออกมาอย่างมีความสุข‘พี่วิน!’มันจะดีแค่ไหนถ้าหากเธอได้ใช้ชีวิตอยู่กับแฟน ไม่ว่าจะเป็นตอนหลับหรือตอนตื่นก็มีแฟนอยู่ข้างๆ เสมอ เพียงแค่คิดหัวใจดวงน้อยก็พองโตไปด้วยความสุขพิพลอยมองชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างๆ อยู่นานหลายนาที เธออยากจะเก็บความสุขนี้เอาไว้นานๆ และอยากจะให้เป็นแบบนี้ทุกวันในระหว่างที่สมองกำลังจินตนาการวาดฝันไปไกลถึงความสุขในอนาคตที่มีชายหนุ่มอยู่ข้างๆ แต่เธอก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้มีเรียนเช้า“จะไปไหนครับ” กวินเอ่ยถามพร้อมกับคว้าร่างบางมากอดไม่ให้เธอได้ลุกจากเตียงนอน“วันนี้หนูมีเรียนเช้าค่ะ” พิพลอยเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้ม ตอนนี้เธอมีความสุขและยิ้มอย่างไม่มีเหตุผล หัวใจสีชมพูพองตัวเต็มไปด้วยความสุข“สายแล้ว ไม่ต้องไปหรอกครับ” ชายหนุ่มทั้ง
ใช้เวลาไม่นานรถยนต์คันหรูก็มาจอดที่หน้าบ้าน เอ๊ะ! แต่จะเรียกว่าบ้านก็คงไม่ใช่ คงจะต้องบอกว่าโกดังถึงจะถูก เพราะด้านในเต็มไปด้วยสต๊อกสินค้ามากมายทั้งที่รอขายและรอจัดส่งให้ลูกค้ากวินทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าแฟชั่นทุกชนิด และเป็นสินค้าแฟชั่นที่นำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด มีการวางขายทั้งหน้าร้านและออนไลน์ มีพนักงานหลายสิบคนที่ช่วยกันทำงานเบื้องหลังก่อนจะนำสินค้าทุกชิ้นไปวางขายถึงแม้จะอยู่ในวัยเรียนแต่กวินก็ยังสามารถทำธุรกิจควบคู่ไปด้วยได้ เพราะเขาเรียนรู้และซึมซับการทำธุรกิจจากครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก และตอนนี้เขาก็มีอีกหลายธุรกิจที่ทำร่วมกับเพื่อนๆ ทั้งในคณะและต่างคณะอีกด้วยใบหน้านิ่งเรียบเดินเข้าไปภายในโกดังเก็บสินค้าขนาดใหญ่ที่มีห้องออฟฟิศแยกเอาไว้สำหรับการบันทึกข้อมูลลงในระบบคอมพิวเตอร์“สินค้าใกล้มาถึงหรือยัง” ชายหนุ่มเอ่ยถามรุ่นน้องคนสนิทที่ทำหน้าที่เป็นถึงผู้จัดการ“อีกประมาณสิบนาทีน่าจะมาถึงครับ” ซันรุ่นน้องหน้าตาดูดีเอ่ยตอบรุ่นพี่พิพลอยมองดูแฟนหนุ่มที่อยู่ในโหมดจริงจังกับการทำงานด้วยสายตาที่ชื่นชม ซึ่งเธอไม่เคยเห็นเขาในมุมนี้มาก่อน“เฮียพาใครมาด้วยเหรอ” ซันหนุ่มหล่อหน้าตาทะเล้นกระซ
กวินจอดรถที่ด้านล่างของคอนโดหรูก่อนที่พิพลอยจะพาเขาเดินไปร้านสะดวกซื้อที่อยู่ติดกับคอนโด“เพื่อนหนูชอบอะไรบ้างครับ” ชายหนุ่มถามอย่างใส่ใจ“ขนมที่ดีต่อสุขภาพค่ะ”พิพลอยอธิบาย เพราะถ้าไม่เลือกขนมที่ดีต่อสุขภาพเพื่อนก็ไม่กินอย่างแน่นอน เดี๋ยวคงบ่นอ้วน บ่นไม่ดูแลหุ่นอีก“มันมีด้วยเหรอครับ” ใบหน้าหล่อขมวดคิ้วถาม เพราะเขาไม่เคยเลือกขนมมาก่อน สำหรับเขาแล้วอยากกินแบบไหนก็ซื้อ กินอร่อยแล้วก็จบ“แบบนี้ไงคะ ไม่หวาน ไม่มัน” มือบางหยิบขนมขึ้นให้ชายหนุ่มดู ก่อนจะเดินเลือกขนมอีกหลายห่อ“เดี๋ยวพี่จ่ายให้ครับ” กวินทำหน้าที่สุภาพบุรุษเป็นอย่างดีหลังจากที่ซื้อของเสร็จทั้งสองคนก็เดินจูงมือขึ้นคอนโดอย่างเปิดเผย โดยที่มีสายตาของนักศึกษาหลายคนต่างมองมาที่พวกเขา พิพลอยเดินยิ้มอย่างมีความสุข เธอดีใจที่เขาไม่ได้ปิดบังสถานะเธอกับใครและยังใช้ชีวิตตามปกติไม่ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ“หนูมาที่นี่บ่อยไหม” กวินเอ่ยถามระหว่างที่รอเพื่อนของพิพลอยมาเปิดประตูห้องให้“บ่อยค่ะ” ใบหน้าสวยพยักหน้าพร้อมคำตอบ“ต่อไปนี้ถ้าหนูจะไปไหนให้บอกพี่นะ พี่จะเป็นคนพาไปเอง” กวินบอกอย่างใส่ใจและอาสาที่จะพาพิพลอยไปทุกที่ที่เธออยากไป“ค่ะ”ยิ่งอยู
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาหลายวันผ่านไปกวินก็ยังคงทำตัวเหมือนเดิม ไม่มีอะไรที่ผิดปกติ แถมยังตัวติดกับพิพลอยยิ่งกว่าปาท่องโก๋ จากที่เคยเผื่อใจและฟังคำเตือนของเพื่อนๆ ตอนนี้คำเตือนพวกนั้นก็ค่อยๆ เริ่มหายไปพิพลอยมีความสุขมากที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายที่เธอรัก เธอมีความสุขจนอาจจะลืมเผื่อใจตัวเองเอาไว้ ถ้าหากวันหนึ่งข้างหน้ากวินเปลี่ยนไป คิดไม่ออกเลยว่าเธอจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง“หนูจะไปเรียนแล้วนะคะ” หญิงสาวที่นั่งแต่งตัวอยู่หน้ากระจกหันไปบอกชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียง“ไม่อยากให้ไปเรียนเลย” กวินลุกขึ้นมากอดมาอ้อนแฟนสาว“ทำไมล่ะคะ”พิพลอยถามกลับด้วยท่าทางใสซื่อ ตั้งแต่เธอคบกับกวินเธอก็มีความสุขมากขึ้น แต่ในเวลาเดียวกันเธอก็ไปเรียนสาย บางวันก็ไม่ได้ไปเรียน“พี่อยากอยู่กับหนูทั้งวันเลย” กวินยังคงอ้อนเสียงหวานราวกับแมวตัวน้อยกำลังอ้อนเจ้าของ“หนูไปเรียนแป๊บเดียวเองค่ะ” พิพลอยตอบไปพร้อมรอยยิ้มตอนนี้กวินมาอยู่ห้องของพิพลอยมากกว่าอยู่ห้องตัวเองเสียอีก และความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็ดีขึ้นทุกวันเรียกได้ว่าดีขึ้นจนพิพลอยไม่อยากไปเรียน ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเธอไม่เคยขาดเรียน หรือไปเรียนสายเธอก็ไม่เคยทำเลยสักครั้
หนึ่งชั่วโมงต่อมารถยนต์คันหรูมาจอดที่ลานจอดรถภายในมหาวิทยาลัย ก่อนที่กวินจะรีบเดินไปส่งหญิงสาวที่หน้าห้องเรียน“พี่ขอโทษนะที่อดใจไม่ไหว”เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องชายหนุ่มก็รีบขอโทษหญิงสาวด้วยความรู้สึกผิดทันที หลังจากที่จัดหนักจัดเต็มไปหนึ่งชั่วโมงจนทำให้เธอมาเรียนสาย“ไม่เป็นไรค่ะ หนูเข้าเรียนก่อนนะคะ” พิพลอยตอบด้วยท่าทางรีบร้อนพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ“ไม่โกรธพี่จริงๆ นะครับ” กวินถามย้ำอีกครั้งเพราะกลัวว่าพิพลอยจะโกรธที่เขาเป็นต้นเหตุทำให้เธอมาเรียนสาย“หนูไม่โกรธค่ะ” หญิงสาวยังคงยืนยันคำตอบเดิมเพราะเธอไม่ได้โกรธเขาจริงๆ“ครับ ตั้งใจเรียนนะ” กวินบอกพร้อมกับยกมือหนาขึ้นลูบศีรษะคนตัวเล็กอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน“ค่ะ”พิพลอยพยักหน้าตอบก่อนที่จะเดินไปที่ห้องเรียน ส่วนกวินก็เดินแยกออกไปอีกทาง“แฟนมาส่งเหรอ”ยังไม่ทันที่พิพลอยจะเดินเข้าห้อง น้ำเสียงที่คุ้นเคยก็ดังมาจากด้านหลังทำให้เธอต้องหยุดชะงักและหันกลับไปมองที่ต้นเสียง“เอ่อ…”ตากลมโตเบิกโพรงด้วยความตกใจ พิพลอยยืนนิ่งอ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบยังไงเมื่อคนที่ถามเป็นอาจารย์สอนพิเศษและยังเป็นเพื่อนสนิทของพี่ชายเธออีกด้วย“ไอ้เพชรมันรู้หรือยังว่าหนูมีแฟน”
ระหว่างเรียนพิพลอยก็เอาแต่เล่นโทรศัพท์โดยที่ไม่ได้สนใจอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่เลยสักนิด จากเด็กดีตั้งใจเรียน ตอนนี้กลับดูเปลี่ยนไปจนอาจารย์สังเกตได้อย่างชัดเจนเวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมงพิพลอยก็เรียนเสร็จ นักศึกษาต่างก็ทยอยเดินออกจากห้อง อาจารย์เซนต์ก็เดินตรงเข้าไปหาเธอทันที“พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” น้ำเสียงอบอุ่นเอ่ยบอกหญิงสาวเหมือนกับทุกครั้ง“ค่ะ” พิพลอยพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ ก่อนจะเก็บของใส่ในกระเป๋าให้เรียบร้อย“ให้พวกฉันรอไหม” ควีนกระซิบถามพิพลอยเสียงเบาด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นไร น่าจะคุยไม่นานหรอกฉันทักบอกพี่วินมารับแล้ว” พิพลอยตอบพร้อมรอยยิ้มที่สดใสไม่อยากให้เพื่อนๆ เป็นห่วง“งั้นพวกฉันกลับก่อนนะ” ลดาเข้าใจและรู้ดีว่าพิพลอยกับอาจารย์เซนต์สนิทกันไม่น่ามีเรื่องอะไรให้เป็นห่วง“โอเค” พิพลอยโบกมือให้เพื่อนๆ แล้วเดินไปหาเพื่อนสนิทของพี่ชายที่ยืนรอเธออยู่หน้าห้อง“พี่เซนต์มีเรื่องอะไรจะคุยกับหนูเหรอคะ” พิพลอยตัดสินใจถามออกไปตามตรง เธออยากจะคุยกับเขาให้รู้เรื่องก่อนที่กวินจะมาถึง เพราะเธอไม่อยากให้กวินเข้าใจผิดและคิดมากไปกว่านี้“วันนี้หนูดูไม่ตั้งใจเรียนเลยนะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” เซนต
หนึ่งเดือนต่อมากวินเริ่มอาการดีขึ้นทุกวัน แผลที่เคยเจ็บก็เริ่มหายเหลือเพียงรอยแผลเป็นที่ยังคงอยู่วันนี้เป็นวันที่พิพลอยจะเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศตอนแรกกวินตั้งใจที่จะไปพร้อมเธอ แต่เอกสารบางอย่างของเขายังไม่เรียบร้อย การเดินทางของเขาจึงต้องเลื่อนออกไปชายหนุ่มกับครอบครัวมายืนรอพิพลอยที่สนามบินเพื่อรอเวลาที่เธอและครอบครัวจะมาถึง ทุกคนตั้งใจที่จะมาส่งเธอในการเดินทางครั้งนี้“นั่นไง หนูพลอยมานู้นแล้ว” คุณแม่ของกวินทักขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวและครอบครัวกำลังเดินมากวินตั้งใจที่จะใช้โอกาสนี้ขอโทษและขอขมาครอบครัวของพิพลอยที่เขาเคยทำไม่ดีและคำเธอเสียใจมาก่อนทันทีที่ครอบครัวของพิพลอยเดินเข้ามา ร่างสูงก็นั่งคุกเข่าลงกลางสนามบินที่มีผู้คนมากมายต่างจ้องมองมาที่พวกเขามือหนาพนมมือขึ้นไหว้ก่อนจะก้มลงกราบขอโทษคุณพ่อกับคุณแม่ของหญิงสาวที่เขาเคยทำไม่ดีกับเธอจนทำให้ครอบครัวของเธอไม่ชอบเขา“ผมขอโทษสำหรับทุกอย่างนะครับ” กวินพูดเข้าเรื่องทันที“ผมขอโทษที่เคยทำให้พิพลอยต้องเสียใจและตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าผมรักพิพลอยมาก ผมอยากจะขอโอกาสดูแลพิพลอยครับ” มือหนายังคงไหว้เพื่อขอโอกาสจากครอบครัวของพิพลอย“มั่นใจ
สามวันต่อมาพิพลอยมาอยู่ดูแลกวินทุกวันถึงแม้ว่าจะมีพยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแลอยู่แล้วก็ตาม เธอก็ยังอยากจะดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาถึงสองวันแล้ว แต่กวินก็ยังคงนอนนิ่งและไม่มีท่าทีว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาเลยสักนิดพิพลอยทำได้เพียงไหว้พระขอพรและภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้กวินฟื้นขึ้นมา โชคดีที่คุณพ่อกับคุณแม่อนุญาตให้เธออยู่ดูแลชายหนุ่มจนกว่าเขาจะฟื้นและอาการดีขึ้น โดยมีข้อแม้ว่าถ้าหากเขาฟื้นขึ้นมาเธอจะต้องไปเรียนต่อต่างประเทศทันทีหญิงสาวจับมือชายหนุ่มมากุมเอาไว้อย่างอ่อนโยน ความรักและความเป็นห่วงที่เธอมีให้เขามันมากมายอย่างที่เธอไม่เคยมอบให้ใครมาก่อนแววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้ามองชายหนุ่มที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง แต่เธอก็ยังมีความหวังว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาอาการของกวินตอนนี้ยังคงทรงตัวไม่ได้มีอาการอะไรแทรกซ้อน ร่างกายไม่ได้แย่ลงแต่ก็ยังไม่ดีขึ้นทางคุณหมอก็ยังให้คำตอบไม่ได้เลยว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาตอนไหน บางอย่างอาจจะต้องใช้เวลาและปาฏิหาริย์เข้าช่วย“ขอบใจหนูพลอยมากนะที่มาดูแลตาวินทุกวันเลย” คุณแม่ของกวินรักและเอ็นดูพิพลอยตั้งแค่ครั้งแรกที่เจอเธอ“ไม่เป็นไรค่ะ หนูเต
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่พิพลอยนอนอยู่บนเตียงกว้าง เพราะก่อนที่เพชรจะออกไปเขาได้อุ้มน้องสาวไปส่งที่ห้องนอนของเธอก่อนแล้วคุณแม่คอยดูแลพิพลอยอยู่ไม่ห่างด้วยความเป็นห่วงที่อยู่ๆ ลูกสาวก็เป็นลมไปแบบนี้ ทั้งที่เธอก็แข็งแรงและไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนผ่านไปสักพักมือบางก็ค่อยๆ ขยับและลืมตาตื่นขึ้นมามองเห็นคุณแม่นั่งอยู่ไม่ไกลพร้อมรอยยิ้มที่กำลังมองมาที่เธอ“หนูฟื้นแล้วเหรอลูก” คุณแม่ถามด้วยความเป็นห่วงปนดีใจที่ลูกสาวฟื้นขึ้นมาสักทีพิพลอยนั่งนิ่งและตั้งสติอยู่สักพัก ในหัวกำลังประมวลภาพเหตุการณ์และเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าร่างบางไม่ตอบคุณแม่แต่อย่างใด ใบหน้าสวยแสดงออกถึงท่าทางตกใจ เธอรีบลุกขึ้นยืนและตั้งท่าจะเดินออกจากห้องไปทันที โชคดีที่คุณแม่คว้ามือลูกสาวเอาไว้ทัน“หนูจะไปไหน” คุณแม่ถามด้วยความสงสัยทันทีที่เห็นท่าทางของลูกสาว“หนูจะออกไปช่วยพี่วินค่ะ” พิพลอยตอบไปตามตรงและตอนนี้เธอก็เป็นห่วงเขามาก เธอไม่รู้เลยว่าเธอเป็นลมไปนานแค่ไหนและตอนนี้ชายหนุ่มจะเป็นยังไงบ้าง“คุณพ่อกับตาเพชรออกไปจัดการให้แล้ว หนูรอฟังข่าวอยู่ที่บ้านกับแม่นะ” คุณแม่จับมือลูกสาวเอาไว้แน่น“หนูขอออกไปได้ไหม
หลายวันต่อมาถึงกวินสัญญาว่าจะตามพิพลอยไป แต่เธอก็ยังคงเศร้าเพราะคุณพ่อกับคุณแม่ยืนยันว่าจะให้เธอเดินทางในเร็วๆ นี้เรื่องราวทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนเธอไม่ทันตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเอกสารต่างๆ ก็ดูเตรียมพร้อมไปหมดทุกอย่าง แต่มีอย่างเดียวที่ไม่พร้อมก็คือตัวเธอเองพิพลอยมักจะถือโทรศัพท์ติดตัวตลอดและมักจะค้างสายของกวินเอาไว้ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือพูดคุยกับใครกวินก็ได้ยินและรู้เรื่องไปกับเธอด้วย“ผมจัดการเรื่องที่เรียนให้เรียบร้อยแล้วนะครับ”หลังจากที่ทานอาหารเย็นด้วยกันเสร็จเพชรก็พูดเข้าประเด็นที่กำลังสำคัญที่สุดในตอนนี้กวินที่อยู่ในสายพอได้ยินก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันที ตอนนี้เขาอยากจะรู้จริงๆ ว่าครอบครัวของพิพลอยกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่อาจทนนิ่งเฉยได้อีกต่อไป เวลานี้เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วพิพลอยนั่งนิ่บมองหน้าพี่ชายด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยถูกบังคับหรือกดดันเท่านี้มาก่อนทั้งๆ ที่ทุกคนก็รู้ว่าเธอไม่อยากไป แต่ทำไมทุกคนถึงไม่ฟังความต้องการและความรู้สึกของเธอเลยสักนิด ทำไมทุกคนถึงอยากให้เธอไปอยู่ไกลขนาดนี้“หนูขอตัวก่อนนะคะ”พิพลอยไม่อยากรับรู้
หนึ่งเดือนต่อมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพิพลอยยังคงเรียนอยู่ที่บ้านเหมือนเดิมไม่ได้ออกไปไหน และโทรคุยกับกวินแทบจะตลอดเวลาความสัมพันธ์ของพิพลอยกับกวินก็เริ่มพัฒนาในทางที่ดีขึ้นอีกครั้ง ดีจนพิพลอยอยากจะกลับไปใช้ชีวิตที่คอนโดเหมือนเดิมแต่เธอก็ยังไม่กล้าพอที่จะขอคุณพ่อกับคุณแม่ตั้งแต่ที่เธอสัญญาว่าจะขอไปเป็นกำลังใจที่ศาลวันนั้น เธอก็ไม่กล้าที่จะขออะไรอีกเลย ส่วนทางด้านกวินก็เข้าใจพิพลอยมากขึ้น ไม่บังคับและไม่เอาแต่ใจตัวเองเหมือนเมื่อก่อนกวินเฝ้ารอและอดทนเจอพิพลอยแค่สัปดาห์ละครั้งในตอนที่เธอออกไปร้านนวดกับคุณแม่ และเธอก็แอบออกมาเจอเขาทุกครั้งทว่าอาทิตย์นี้คุณแม่ของพิพลอยติดธุระกับญาติๆ เธอก็เลยไม่ได้ออกจากบ้านและไม่ได้ไปหากวินเหมือนทุกครั้งแค่เจอกันอาทิตย์ละครั้งก็นานพอแล้ว แต่อาทิตย์กลับไม่ได้เจอ ทำเอากวินคิดถึงพิพลอยจนแทบบ้า ชีวิตเขาเปลี่ยนไปเป็นอย่างมากตั้งแต่รู้ใจตัวเองว่ารักพิพลอยจริงๆยิ่งตอนที่เขาสู้คดีก็ยิ่งทำให้เขารู้และมั่นใจว่าพิพลอยนั้นรักเขามากแค่ไหน“วันนี้มึงมีนัดกับพิพลอยไม่ใช่เหรอวะ” ไทเกอร์ถามขึ้นมาเพราะจำได้ว่าวันนี้กวินต้องไปหาพิพลอย“นั่นดิวะ แล้วมึงมานั่งเศร้าทำไม”
ช่วงค่ำของวันพิพลอยนั่งเขี่ยอาหารในจานของตัวเองไปมา ตอนนี้ในหัวของเธอมีคำถามมากมายเต็มไปหมด วันนี้ทั้งกวินก็ไม่โทรมาหาเธอและตอนนี้พี่ชายของเธอก็กำลังทานอาหารและคุยเรื่องงานกับคุณพ่อโดยไม่มีท่าทีว่าการสนทนาในครั้งนี้จะจบลงง่ายๆใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงกว่าพี่ชายของเธอจะเดินขึ้นห้องทำงาน พิพลอยใช้โอกาสนี้เดินตามพี่ชายไปทันที“พี่เพชร”“มีอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามน้ำเสียงนิ่งเรียบ สายตายังคงจ้องมองเอกสารที่อยู่ตรงหน้า“เรื่องคดีเป็นยังไงบ้างคะ” หญิงสาวไม่รีรอรีบถามเข้าเรื่องที่อยากรู้ทันที“พี่เข้าไปดูให้แล้ว”“แล้วพี่วินมีโอกาสรอดกี่เปอร์เซ็นต์คะ” คำถามเดียวที่พิพลอยอยากจะรู้ในตอนนี้“เก้าสิบเปอร์เซ็นต์”คำตอบของเพชรทำเอาหญิงสาวยิ้มกว้างพร้อมกับวิ่งเข้าไปกอดพี่ชายเอาไว้แน่นด้วยความดีใจ“ถ้าพยานไม่กลับคำให้การในชั้นศาลนะ”ทว่าประโยคต่อมาทำให้พิพลอยถึงกับหุบยิ้มทันที“หมายความว่ายังไงคะ” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถามพี่ชายด้วยความสงสัย“ถ้าไม่มีใครไปข่มขู่หรือทำอะไรพยายาน แล้วเล่าตามที่เล่าวันนี้ หมอนั่นรอดแน่นอน” เพชรอธิบายให้น้องสาวฟัง“พี่ช่วยให้คนของเราไปดูแลความปลอดภัยให้พยานได้ไหมคะ” พิพลอ
เช้าวันต่อมาร่างสูงหยุดยืนที่หน้าสถานีตำรวจเพื่อตั้งสติตัวเองสักพัก สองวันแล้วที่เขาแทบจะมาพักอาศัยอยู่ที่นี่เพื่อพูดคุย ไก่เกลี่ยและหาหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีและเพื่อยืนยันว่าเขาไม่ใช่คนผิดทว่าหลักฐานที่มีช่างดูห่างไกลจากความจริงเป็นอย่างมาก แต่กวินก็หวังว่าเขาจะรอดจากเรื่องนี้ไปได้ เพราะเขาไม่ได้เป็นคนทำผิดตามที่ถูกกล่าวหากวินเดินตรงเข้าไปในห้องที่คุ้นเคยพร้อมกับทนายและมีตำรวจที่กำลังรอเขาอยู่ภายในห้อง เขาเข้าออกที่นี่จนแทบจะรู้จักและสนิทกับตำรวจทุกคน“เป็นยังไงบ้างครับ” ตำรวจนายหนึ่งทักทายขึ้นมาตามมารยาทและเขาก็เชื่อว่ากวินไม่ใช่คนผิด เพียงแต่ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดมาช่วยยืนยัน“หลักฐานที่มียังไม่พออีกเหรอครับ” ชายหนุ่มถามกลับเพราะเขามีกราฟฟิกที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยทั้งหมดมาช่วยเป็นพยานให้“ยากครับ ถ้าพูดกันตามตรงก็คือไม่น่ารอดครับ” ตำรวจพูดไปตามหลักฐานที่มีทั้งหมด เพราะอีกฝ่ายมีทั้งเงินและอำนาจ“มันจะไม่มีสักทางเลยเหรอครับ” กวินแทบกุมขมับเมื่อได้ยินในสิ่งที่ตำรวจพูดออกมา ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ทำผิดอะไรด้วยซ้ำ แต่กลับต้องมาโดนคดีฆ่าคนตาย“หลักฐานของอีกฝ่ายแน่นมาก แถมยังมีพยานเป็
พิพลอยเดินหน้าเศร้าขึ้นมาบนห้อง ถ้าหากเธออยู่คอนโดเหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้เธอคงจะออกไปหากวินแล้ว ถึงแม้จะช่วยอะไรไม่ได้แต่เธอก็อยากจะอยู่ข้างๆ และคอยเป็นกำลังใจให้เขาในวันที่เขามีปัญหาครืด~ ครืด~เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาทำให้หญิงสาวหลุดจากภวังค์ของความคิด แล้วรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายทันที“เป็นยังไงบ้างคะพี่วิน” หญิงสาวถามด้วยท่าทางตื่นเต้นและรอฟังคำตอบจากชายหนุ่ม(ทนายคุยให้พี่ก็เลยได้ประกันตัวออกมาเพื่อหาหลักฐานเพิ่มครับ) กวินบอกด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า เพราะวันนี้เขาอยู่ที่โรงพักทั้งวันไม่ได้ออกไปไหนเลย“ให้หนูช่วยเป็นพยานให้พี่วินได้ไหมคะ” พิพลอยลองเสนอเพราะเธอคุยโทรศัพท์กับเขาและเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง และเธอสามารถยืนยันได้ว่ากวินไม่ใช่คนผิดอย่างแน่นอน(ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่มีอะไรที่หนูจะต้องกังวล อีกอย่างพี่ไม่อยากให้หนูมายุ่งเกี่ยวกับคดีแบบนี้) กวินตอบไปตามที่คิด เพราะเขาไม่อยากให้เธอเดือดร้อนไปด้วย“แล้วพี่วินจะทำยังไงต่อไปคะ ที่หนูฟังมาพวกนั้นมีหลักฐานมัดตัวพี่วินแน่นเลยนะคะ”ความเป็นห่วงครอบงำทำให้พิพลอยวิตกกังวลไปหมด หลังจากที่ได้อ่านข้อความที่ลดาส่งมาให้ ทำ
เช้าวันต่อมากวินงัวเงียตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ซึ่งเขาตั้งเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนเพราะวันนี้เขามีนัดไปทานข้าวกับพิพลอยร่างหนาลุกขึ้นนั่งและบิดตัวไล่ความขี้เกียจอยู่บนเตียง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและเดินตรงไปยังห้องน้ำใช้เวลาไม่นานชายหนุ่มก็มายืนแต่งตัวอยู่ที่หน้ากระจก วันนี้เขาเลือกที่จะแต่งตัวสบายๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความหรูหรา ถึงเสื้อผ้าที่ใส่จะเป็นสีพื้นดูสะอาดตา แต่ก็เป็นแบรนด์เนมราคาแพงทั้งนั้นมือหนาหยิบน้ำหอมขึ้นมาฉีดเพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนจะออกจากห้อง ใบหน้าหล่อที่เคยดูสะอาดตาวันนี้กลับมีผ้าก๊อซติดแผลอยู่ที่หางคิ้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อของเขาลดน้อยลงชายหนุ่มตรวจเช็คความเรียบร้อยอยู่สักพัก ก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถยนต์ที่วางอยู่โต๊ะข้างๆ เตียงนอนพรึบ!!ประตูหน้าห้องถูกเปิดออกจากคนที่อยู่ด้านนอก พร้อมกับมีตำรวจบุกเข้ามาภายในห้อง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนกวินไม่ทันตั้งตัวชายหนุ่มยืนนิ่งด้วยความตกใจและสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกอย่างดูงงๆ เหมือนความฝันไม่ใช่ความจริง“เกิดอะไรขึ้นครับ” เมื่อตั้งสติได้กวินก็ถามขึ้นมาทันที“คุณเป็นผู้ต้องสงสัยที่ฆ่าเด็กเ