ระหว่างเรียนพิพลอยก็เอาแต่เล่นโทรศัพท์โดยที่ไม่ได้สนใจอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่เลยสักนิด จากเด็กดีตั้งใจเรียน ตอนนี้กลับดูเปลี่ยนไปจนอาจารย์สังเกตได้อย่างชัดเจนเวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมงพิพลอยก็เรียนเสร็จ นักศึกษาต่างก็ทยอยเดินออกจากห้อง อาจารย์เซนต์ก็เดินตรงเข้าไปหาเธอทันที“พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” น้ำเสียงอบอุ่นเอ่ยบอกหญิงสาวเหมือนกับทุกครั้ง“ค่ะ” พิพลอยพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ ก่อนจะเก็บของใส่ในกระเป๋าให้เรียบร้อย“ให้พวกฉันรอไหม” ควีนกระซิบถามพิพลอยเสียงเบาด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นไร น่าจะคุยไม่นานหรอกฉันทักบอกพี่วินมารับแล้ว” พิพลอยตอบพร้อมรอยยิ้มที่สดใสไม่อยากให้เพื่อนๆ เป็นห่วง“งั้นพวกฉันกลับก่อนนะ” ลดาเข้าใจและรู้ดีว่าพิพลอยกับอาจารย์เซนต์สนิทกันไม่น่ามีเรื่องอะไรให้เป็นห่วง“โอเค” พิพลอยโบกมือให้เพื่อนๆ แล้วเดินไปหาเพื่อนสนิทของพี่ชายที่ยืนรอเธออยู่หน้าห้อง“พี่เซนต์มีเรื่องอะไรจะคุยกับหนูเหรอคะ” พิพลอยตัดสินใจถามออกไปตามตรง เธออยากจะคุยกับเขาให้รู้เรื่องก่อนที่กวินจะมาถึง เพราะเธอไม่อยากให้กวินเข้าใจผิดและคิดมากไปกว่านี้“วันนี้หนูดูไม่ตั้งใจเรียนเลยนะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” เซนต
สองอาทิตย์ต่อมาตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมากวินรู้สึกเหมือนมีคนคอยตามอยู่ตลอด โดยเฉพาะเวลาที่เขาไปไหนมาไหนกับพิพลอยก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกได้และมั่นใจมากขึ้นชายหนุ่มจึงตัดสินใจไปหาเคย์สัน (แฟนของฮันน่า) ที่บริษัท เขาอยากจะถามเรื่องราวทั้งหมดให้แน่ใจ เพราะถ้าปล่อยไว้แบบนี้เขากลัวว่าจะทำให้เกิดอันตรายกับพิพลอยไปด้วยร่างสูงเดินเข้ามาภายในบริษัทใหญ่ที่คุ้นเคย เพราะก่อนหน้าเขามาส่งฮันน่าที่นี่บ่อยๆ จนทำให้เขาสามารถเข้าออกบริษัทนี้ได้อย่างสบายโอนิกซ์ลูกน้องมาเฟียเคาะประตูหน้าห้องทำงานใหญ่ตามมารยาทเพื่อขออนุญาตเจ้านาย“คุณกวินมาขอพบครับ” ลูกน้องรายงานเจ้านาย กวินก็เดินตามหลังเข้ามา“มีอะไร” น้ำเสียงนิ่งเรียบเอ่ยถามกวินที่เดินเข้ามาภายในห้องทำงานของมาเฟียหนุ่มด้วยท่าทางรีบร้อน“ไหนว่าจัดการไปหมดแล้วไง ทำไมถึงยังมีคนมาคอยตามผมอยู่อีกล่ะ” กวินถามไปตามตรงด้วยความสงสัย เพราะวันนั้นฮันน่าเป็นคนบอกเขาเองว่าเรื่องทุกอย่างได้จบลงแล้ว“คิดไปเองหรือเปล่า” เคย์สันถามกลับ เพราะเขาจัดการเรื่องนี้ไปแล้ว จะได้ไม่มีใครมาคอยทำร้ายฮันน่าได้อีก“ผมพูดจริงๆ” กวินใช้น้ำเสียงที่อ่อนลง และยืนยันในสิ่งที่ตัวเองรู้สึก“ไ
“อย่าคิดมากเลยนะคะ”“งั้นคิดอย่างอื่นดีกว่า” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์กระซิบข้างหูของหญิงสาวมือหนาจับใบหน้าเรียวสวยให้หันมาสบตากันเพียงแค่เสี้ยววินาที ริมฝีปากหนาก็กดจูบลงที่ริมฝีปากบางอย่างรวดเร็วพรึบ!ร่างบางถูกผลักให้นอนราบบนเตียงกว้าง ก่อนที่คนตัวสูงจะตามมานั่งคร่อมบนตัวพิพลอย แล้วมอบจูบอันเร่าร้อนให้เธออีกครั้ง ลิ้นร้อนควานหาความหวานจากโพรงปากเล็กอย่างช่ำชองความเร่าร้อนที่ชายหนุ่มมอบให้ ทำให้พิพลอยเคลิบเคลิ้มและโหยหาสัมผัสที่กวินมอบให้เมื่อตักตวงความหวานจนพอใจริมฝีปากร้อนก็ค่อยๆ เลื่อนไปที่ซอกคอขาวที่เอียงเล็กน้อยให้เขาได้เชยชม ความน่ารักของเธอทำให้กวินเผลอดูดเม้มแสดงความเป็นเจ้าของกลิ่นหอมที่คุ้นเคยทำให้ชายหนุ่มหลงใหลจนควบคุมอารมณ์ไว้ไม่ได้ มือหนาจัดการชุดนอนลายเจ้าหญิงออกให้พ้นทาง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเองที่โยนกระจัดกระจายลงพื้นอย่างไม่สนใจพิพลอยมองการกระทำของอีกฝ่ายด้วยใจที่เต้นระรัว ไม่ว่าจะร่วมรักกันมาหลายครั้งแล้วแต่เขาก็ยังทำให้เธอรู้สึกดีและตื่นเต้นทุกครั้งมือหนาสัมผัสเนินเนื้อโหนกนูนอย่างแผ่วเบาก่อนจะส่งนิ้วร้ายเข้าไปทักทายร่องรักที่คับแน่น“จะทำให้พี่หลงไปถึงไหน”กวินพูด
วันต่อมา@มหาวิทยาลัย“พี่ไปเรียนก่อนนะครับ”กวินเดินมาส่งพิพลอยที่หน้าห้องสมุด เนื่องจากอาจารย์ของเธอติดธุระมาสอนไม่ได้ จึงสั่งงานและให้นักศึกษาทำงานอยู่ในห้องสมุด“ค่ะ” ใบหน้าสวยตอบพร้อมรอยยิ้มก่อนจะโบกมือให้ชายหนุ่มร่างบางเดินเข้าไปภายในห้องสมุด สายตาเฉี่ยวคมกวาดมองไปรอบๆ เพื่อที่จะมองหาเพื่อนๆ ที่มาถึงก่อนแล้ว“พลอย ทางนี้!!” ควีนโบกมือให้พร้อมกับตะโกนขึ้นเสียงดังอย่างลืมตัว ทำเอาทุกคนที่อยู่ในห้องสมุดต่างหันไปจ้องมองเธอเป็นสายตาเดียวกัน“ขอโทษค่ะ” ควีนรู้สึกผิดที่เสียงดังรบกวนคนอื่น เธอจึงก้มหน้าพร้อมกับเอ่ยขอโทษทุกคน แล้วนั่งลงที่เดิมด้วยท่าทางที่สงบเสงี่ยมมากขึ้น“อายไหมละ” ลดาหันไปบ่นให้ เพราะควีนชอบใจร้อน ทำอะไรไม่คิดให้ดีก่อน“ก็กลัวว่าพลอยจะไม่เห็นไง” ควีนก้มหน้าก้มตาตอบเสียงเบา“แต่นี่มันห้องสมุดนะ แกจะเสียงดังไม่ได้” ตามด้วยเสียงบ่นของโซมิที่นั่งอยู่ข้างๆ“ลืมตัวไปหน่อย”ปกติแล้วทุกคนจะนั่งทำงานกันที่ม้าหินอ่อนหน้าตึกหรือไม่ก็โรงอาหาร ควีนก็เลยไม่ชินกับการนั่งเงียบๆ ทำงานในห้องสมุด“เริ่มทำงานกันหรือยัง” พิพลอยที่เดินมาถึงโต๊ะก็รีบเปลี่ยนเรื่องทันที เพราะเธอรู้ดีว่าเพื่อ
@ห้างสรรพสินค้าหลังจากเรียนเสร็จกวินก็พาพิพลอยมาที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อที่จะได้เลือกซื้อของขวัญวันเกิดให้เพื่อนในคืนนี้“เพื่อนพี่วินชอบหรือว่าสนใจอะไรเป็นพิเศษไหมคะ” พิพลอยเอ่ยถามทันทีที่เดินเข้ามาภายในห้างสรรพสินค้า เพราะเธอไม่มีข้อมูลและไม่รู้เลยว่าเพื่อนของกวินชอบหรือไม่ชอบอะไร“มันน่าจะชอบนาฬิกานะ” ชายหนุ่มทำท่าครุ่นคิดก่อนจะนึกขึ้นมาได้“งั้นเราไปดูนาฬิกากันก่อนไหมคะ” ร่างบางเสนอความคิดขึ้นมา“พี่กลัวจะซื้อไปซ้ำแบบที่มันมีแล้วสิ”เจ้าของวันเกิดในคืนนี้คือดีเดย์เพื่อนต่างคณะที่สนิทกับกวินพอสมควร และดีเดย์ก็ชอบซื้อและสะสมนาฬิกาข้อมือของแบรนด์ดัง เรียกได้ว่าที่บ้านมีนาฬิกามากกว่าที่ร้านขายเสียอีก“งั้นเราจะซื้ออะไรดีคะ” พิพลอยมองสำรวจไปทั่วห้างสรรพสินค้า ซึ่งต่างก็เต็มไปด้วยสินค้ามากมายจนเธอเลือกไม่ได้ว่าจะซื้ออะไรดี“ลองเดินดูก่อนก็ได้ครับ” กวินตอบด้วยท่าทางสบายๆ ไม่ได้รีบร้อนอะไร“ค่ะ” ใบหน้าสวยพยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนจะเดินควงแขนกับชายหนุ่มดูของไปเรื่อยๆหลังจากที่เดินกันไปสักพักตอนนี้ทั้งสองคนก็มาหยุดตรงหน้าร้านแบรนด์เนมชื่อดัง ซึ่งเป็นร้านประจำของพิพลอย“ลองดูร้านนี้ก่อนไหมคะ”พิ
หลังจากที่วางสายจากพิพลอยกวินก็เก็บโทรศัพท์เอาไว้ก่อนจะเดินเข้าไปภายในผับกับบรรยากาศที่คุ้นเคย“พี่วิน…”เสียงหวานเรียกชื่อชายหนุ่มจากทางด้านหลัง ทำให้กวินต้องหันกลับไปมองเจ้าของเสียงด้วยความสงสัยร่างหนาถึงกับหยุดชะงักเมื่อเห็นหญิงสาวที่เขาเคยมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งด้วยกันมาก่อนกำลังเดินเข้ามาหาเขาด้วยสายตาและท่าทางที่ยั่วยวน“ตั้งแต่เปิดตัวคบกับผู้หญิงคนนั้น พี่วินไม่มาหาดรีมเลยนะคะ” ดรีมสาวสวยหน้าตาน่ารักเอ่ยถามพร้อมกับจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างรอฟังคำตอบ“ช่วงนี้พี่ไม่ค่อยว่างน่ะ” กวินตอบไปตามปกติไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมา“ไม่คิดถึงดรีมเหรอคะ” หญิงสาวเดินเข้าไปหาชายหนุ่มใบหน้าสวยยื่นเข้าไปใกล้แล้วกระซิบถามข้างหูกวินด้วยท่าทางยั่วยวน“พี่ต้องรีบเข้าไปหาเพื่อน ขอตัวนะครับ” กวินเลือกที่จะไม่ตอบคำถาม ก่อนจะหันหลังแล้วเดินจากไป“เดี๋ยวก่อนสิคะ” หญิงสาวจับคว้ามือหนามาจับเอาไว้แน่น ไม่ให้เขาได้เดินจากเธอไปง่ายๆ เหมือนกับความสัมพันธ์ที่เขาทิ้งเธอไปง่ายๆ โดยที่ไม่สนใจความรู้สึกของเธอเลยสักนิด“มีอะไรเหรอครับ”ทุกคำพูดและท่าทางที่กวินแสดงออกมาดูไร้เยื่อใยและห่างเหินราวกับคนที่ไม่เคยรู้จักกั
ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมากวินทำให้เธอเชื่อใจและไว้ใจว่าเขาเป็นคนดีร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยที่เธอไม่ได้เผื่อใจอะไรเอาไว้เลยสักนิดร่างบางกำลังนั่งดูซีรีส์อย่างมีความสุข ในขณะที่แฟนหนุ่มออกไปปาร์ตี้วันเกิดกับเพื่อนๆ พิพลอยก็ตั้งใจหาอะไรดูระหว่างที่รอกวินกลับห้องติ้ง!! ติ้ง!!เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ที่วางอยู่ใกล้ๆ ดังขึ้นเรียกความสนใจจากพิพลอยได้เป็นอย่างดี เพราะตอนนี้ก็เป็นเวลาที่ดึกมากแล้วคงจะไม่มีใครส่งข้อความมาถ้าหากไม่ใช่กวินใบหน้าสวยมองหน้าจอด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่าเป็นลดาที่ส่งข้อความมาหาเธอ ซึ่งเป็นการส่งทั้งภาพและวิดีโอ“สงสัยจะออกไปเที่ยวแน่เลย” พิพลอยพูดกับตัวเองและคิดในใจว่าลดาคงจะส่งภาพให้ผับมาให้เธอดูเหมือนกับทุกครั้งที่ไปเที่ยวแน่ๆร่างบางกดเข้าไปดูเหมือนกับทุกครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้กลับไม่เหมือนกับภาพที่ลดาเคยส่งมา ดวงตากลมโตเบิกโพลงด้วยความตกใจเมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า หัวใจดวงน้อยจุกหน่วงขึ้นมาทั้งใจผู้ชายที่เธอรักกำลังนัวเนียกับผู้หญิงคนอื่นอย่างมีความสุข น้ำตาเม็ดเล็กค่อยๆ ไหลอาบสองแก้มด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดไปทั้งใจพิพลอยไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายที่เธอรักจะทำ
ระหว่างทางพิพลอยเอาแต่นั่งร้องไห้ไม่พูดอะไรสักคำ ความผิดหวัง ความเสียใจ ความรู้สึกแย่ๆ วิ่งเข้าหาเธอไม่หยุด ความรักความไว้ใจที่เธอมอบให้ แต่เขากลับทำทุกอย่างพังลงภายในเวลาไม่กี่นาทีหัวใจดวงน้อยแตกสลายราวกับแก้วที่ตกลงพื้นแล้วแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถทำให้มันกลับมาเหมือนเดิมได้อีกต่อไปภาพที่เธอเห็นมันยังคงวนเวียนและชัดเจนอยู่ในหัวของเธอตลอดเวลา ไม่ว่าเธอจะทำยังไงก็ไม่สามารถที่จะลบมันออกไปได้“ฉันเข้าใจแกนะ” เมื่อเห็นพิพลอยเอาแต่นั่งร้องไห้ ลดาจึงพูดให้กำลังใจ“อึก! ขอบใจแกมากนะ” พิพลอยตอบพร้อมเสียงสะอื้น เธอพยายามที่จะไม่ร้องไห้ แต่ยิ่งพยายามน้ำตาก็ยิ่งไหลออกมาไม่หยุด“เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนแกเอง”ลดาเป็นห่วงไม่อยากให้เพื่อนรักจ่มอยู่กับความเสียใจอยู่คนเดียว ถ้าหากเธออยู่เป็นเพื่อนคงจะทำให้พิพลอยรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง“ฉันไม่อยากกลับห้อง” พิพลอยบอกทั้งน้ำตาทว่าเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมาไม่หยุด และจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากกวินที่โทรมา เธอจึงไม่อยากกลับห้องตัวเองตอนนี้ เพราะกลัวว่าเขาจะกลับไปหาเธอที่ห้อง“งั้นไปนอนที่ห้องฉันก็ได้ ชุดนักศึกษาก็มี พรุ่งนี้ก็ออก
หนึ่งเดือนต่อมากวินเริ่มอาการดีขึ้นทุกวัน แผลที่เคยเจ็บก็เริ่มหายเหลือเพียงรอยแผลเป็นที่ยังคงอยู่วันนี้เป็นวันที่พิพลอยจะเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศตอนแรกกวินตั้งใจที่จะไปพร้อมเธอ แต่เอกสารบางอย่างของเขายังไม่เรียบร้อย การเดินทางของเขาจึงต้องเลื่อนออกไปชายหนุ่มกับครอบครัวมายืนรอพิพลอยที่สนามบินเพื่อรอเวลาที่เธอและครอบครัวจะมาถึง ทุกคนตั้งใจที่จะมาส่งเธอในการเดินทางครั้งนี้“นั่นไง หนูพลอยมานู้นแล้ว” คุณแม่ของกวินทักขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวและครอบครัวกำลังเดินมากวินตั้งใจที่จะใช้โอกาสนี้ขอโทษและขอขมาครอบครัวของพิพลอยที่เขาเคยทำไม่ดีและคำเธอเสียใจมาก่อนทันทีที่ครอบครัวของพิพลอยเดินเข้ามา ร่างสูงก็นั่งคุกเข่าลงกลางสนามบินที่มีผู้คนมากมายต่างจ้องมองมาที่พวกเขามือหนาพนมมือขึ้นไหว้ก่อนจะก้มลงกราบขอโทษคุณพ่อกับคุณแม่ของหญิงสาวที่เขาเคยทำไม่ดีกับเธอจนทำให้ครอบครัวของเธอไม่ชอบเขา“ผมขอโทษสำหรับทุกอย่างนะครับ” กวินพูดเข้าเรื่องทันที“ผมขอโทษที่เคยทำให้พิพลอยต้องเสียใจและตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าผมรักพิพลอยมาก ผมอยากจะขอโอกาสดูแลพิพลอยครับ” มือหนายังคงไหว้เพื่อขอโอกาสจากครอบครัวของพิพลอย“มั่นใจ
สามวันต่อมาพิพลอยมาอยู่ดูแลกวินทุกวันถึงแม้ว่าจะมีพยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแลอยู่แล้วก็ตาม เธอก็ยังอยากจะดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาถึงสองวันแล้ว แต่กวินก็ยังคงนอนนิ่งและไม่มีท่าทีว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาเลยสักนิดพิพลอยทำได้เพียงไหว้พระขอพรและภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้กวินฟื้นขึ้นมา โชคดีที่คุณพ่อกับคุณแม่อนุญาตให้เธออยู่ดูแลชายหนุ่มจนกว่าเขาจะฟื้นและอาการดีขึ้น โดยมีข้อแม้ว่าถ้าหากเขาฟื้นขึ้นมาเธอจะต้องไปเรียนต่อต่างประเทศทันทีหญิงสาวจับมือชายหนุ่มมากุมเอาไว้อย่างอ่อนโยน ความรักและความเป็นห่วงที่เธอมีให้เขามันมากมายอย่างที่เธอไม่เคยมอบให้ใครมาก่อนแววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้ามองชายหนุ่มที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง แต่เธอก็ยังมีความหวังว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาอาการของกวินตอนนี้ยังคงทรงตัวไม่ได้มีอาการอะไรแทรกซ้อน ร่างกายไม่ได้แย่ลงแต่ก็ยังไม่ดีขึ้นทางคุณหมอก็ยังให้คำตอบไม่ได้เลยว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาตอนไหน บางอย่างอาจจะต้องใช้เวลาและปาฏิหาริย์เข้าช่วย“ขอบใจหนูพลอยมากนะที่มาดูแลตาวินทุกวันเลย” คุณแม่ของกวินรักและเอ็นดูพิพลอยตั้งแค่ครั้งแรกที่เจอเธอ“ไม่เป็นไรค่ะ หนูเต
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่พิพลอยนอนอยู่บนเตียงกว้าง เพราะก่อนที่เพชรจะออกไปเขาได้อุ้มน้องสาวไปส่งที่ห้องนอนของเธอก่อนแล้วคุณแม่คอยดูแลพิพลอยอยู่ไม่ห่างด้วยความเป็นห่วงที่อยู่ๆ ลูกสาวก็เป็นลมไปแบบนี้ ทั้งที่เธอก็แข็งแรงและไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนผ่านไปสักพักมือบางก็ค่อยๆ ขยับและลืมตาตื่นขึ้นมามองเห็นคุณแม่นั่งอยู่ไม่ไกลพร้อมรอยยิ้มที่กำลังมองมาที่เธอ“หนูฟื้นแล้วเหรอลูก” คุณแม่ถามด้วยความเป็นห่วงปนดีใจที่ลูกสาวฟื้นขึ้นมาสักทีพิพลอยนั่งนิ่งและตั้งสติอยู่สักพัก ในหัวกำลังประมวลภาพเหตุการณ์และเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าร่างบางไม่ตอบคุณแม่แต่อย่างใด ใบหน้าสวยแสดงออกถึงท่าทางตกใจ เธอรีบลุกขึ้นยืนและตั้งท่าจะเดินออกจากห้องไปทันที โชคดีที่คุณแม่คว้ามือลูกสาวเอาไว้ทัน“หนูจะไปไหน” คุณแม่ถามด้วยความสงสัยทันทีที่เห็นท่าทางของลูกสาว“หนูจะออกไปช่วยพี่วินค่ะ” พิพลอยตอบไปตามตรงและตอนนี้เธอก็เป็นห่วงเขามาก เธอไม่รู้เลยว่าเธอเป็นลมไปนานแค่ไหนและตอนนี้ชายหนุ่มจะเป็นยังไงบ้าง“คุณพ่อกับตาเพชรออกไปจัดการให้แล้ว หนูรอฟังข่าวอยู่ที่บ้านกับแม่นะ” คุณแม่จับมือลูกสาวเอาไว้แน่น“หนูขอออกไปได้ไหม
หลายวันต่อมาถึงกวินสัญญาว่าจะตามพิพลอยไป แต่เธอก็ยังคงเศร้าเพราะคุณพ่อกับคุณแม่ยืนยันว่าจะให้เธอเดินทางในเร็วๆ นี้เรื่องราวทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนเธอไม่ทันตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเอกสารต่างๆ ก็ดูเตรียมพร้อมไปหมดทุกอย่าง แต่มีอย่างเดียวที่ไม่พร้อมก็คือตัวเธอเองพิพลอยมักจะถือโทรศัพท์ติดตัวตลอดและมักจะค้างสายของกวินเอาไว้ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือพูดคุยกับใครกวินก็ได้ยินและรู้เรื่องไปกับเธอด้วย“ผมจัดการเรื่องที่เรียนให้เรียบร้อยแล้วนะครับ”หลังจากที่ทานอาหารเย็นด้วยกันเสร็จเพชรก็พูดเข้าประเด็นที่กำลังสำคัญที่สุดในตอนนี้กวินที่อยู่ในสายพอได้ยินก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันที ตอนนี้เขาอยากจะรู้จริงๆ ว่าครอบครัวของพิพลอยกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่อาจทนนิ่งเฉยได้อีกต่อไป เวลานี้เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วพิพลอยนั่งนิ่บมองหน้าพี่ชายด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยถูกบังคับหรือกดดันเท่านี้มาก่อนทั้งๆ ที่ทุกคนก็รู้ว่าเธอไม่อยากไป แต่ทำไมทุกคนถึงไม่ฟังความต้องการและความรู้สึกของเธอเลยสักนิด ทำไมทุกคนถึงอยากให้เธอไปอยู่ไกลขนาดนี้“หนูขอตัวก่อนนะคะ”พิพลอยไม่อยากรับรู้
หนึ่งเดือนต่อมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพิพลอยยังคงเรียนอยู่ที่บ้านเหมือนเดิมไม่ได้ออกไปไหน และโทรคุยกับกวินแทบจะตลอดเวลาความสัมพันธ์ของพิพลอยกับกวินก็เริ่มพัฒนาในทางที่ดีขึ้นอีกครั้ง ดีจนพิพลอยอยากจะกลับไปใช้ชีวิตที่คอนโดเหมือนเดิมแต่เธอก็ยังไม่กล้าพอที่จะขอคุณพ่อกับคุณแม่ตั้งแต่ที่เธอสัญญาว่าจะขอไปเป็นกำลังใจที่ศาลวันนั้น เธอก็ไม่กล้าที่จะขออะไรอีกเลย ส่วนทางด้านกวินก็เข้าใจพิพลอยมากขึ้น ไม่บังคับและไม่เอาแต่ใจตัวเองเหมือนเมื่อก่อนกวินเฝ้ารอและอดทนเจอพิพลอยแค่สัปดาห์ละครั้งในตอนที่เธอออกไปร้านนวดกับคุณแม่ และเธอก็แอบออกมาเจอเขาทุกครั้งทว่าอาทิตย์นี้คุณแม่ของพิพลอยติดธุระกับญาติๆ เธอก็เลยไม่ได้ออกจากบ้านและไม่ได้ไปหากวินเหมือนทุกครั้งแค่เจอกันอาทิตย์ละครั้งก็นานพอแล้ว แต่อาทิตย์กลับไม่ได้เจอ ทำเอากวินคิดถึงพิพลอยจนแทบบ้า ชีวิตเขาเปลี่ยนไปเป็นอย่างมากตั้งแต่รู้ใจตัวเองว่ารักพิพลอยจริงๆยิ่งตอนที่เขาสู้คดีก็ยิ่งทำให้เขารู้และมั่นใจว่าพิพลอยนั้นรักเขามากแค่ไหน“วันนี้มึงมีนัดกับพิพลอยไม่ใช่เหรอวะ” ไทเกอร์ถามขึ้นมาเพราะจำได้ว่าวันนี้กวินต้องไปหาพิพลอย“นั่นดิวะ แล้วมึงมานั่งเศร้าทำไม”
ช่วงค่ำของวันพิพลอยนั่งเขี่ยอาหารในจานของตัวเองไปมา ตอนนี้ในหัวของเธอมีคำถามมากมายเต็มไปหมด วันนี้ทั้งกวินก็ไม่โทรมาหาเธอและตอนนี้พี่ชายของเธอก็กำลังทานอาหารและคุยเรื่องงานกับคุณพ่อโดยไม่มีท่าทีว่าการสนทนาในครั้งนี้จะจบลงง่ายๆใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงกว่าพี่ชายของเธอจะเดินขึ้นห้องทำงาน พิพลอยใช้โอกาสนี้เดินตามพี่ชายไปทันที“พี่เพชร”“มีอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามน้ำเสียงนิ่งเรียบ สายตายังคงจ้องมองเอกสารที่อยู่ตรงหน้า“เรื่องคดีเป็นยังไงบ้างคะ” หญิงสาวไม่รีรอรีบถามเข้าเรื่องที่อยากรู้ทันที“พี่เข้าไปดูให้แล้ว”“แล้วพี่วินมีโอกาสรอดกี่เปอร์เซ็นต์คะ” คำถามเดียวที่พิพลอยอยากจะรู้ในตอนนี้“เก้าสิบเปอร์เซ็นต์”คำตอบของเพชรทำเอาหญิงสาวยิ้มกว้างพร้อมกับวิ่งเข้าไปกอดพี่ชายเอาไว้แน่นด้วยความดีใจ“ถ้าพยานไม่กลับคำให้การในชั้นศาลนะ”ทว่าประโยคต่อมาทำให้พิพลอยถึงกับหุบยิ้มทันที“หมายความว่ายังไงคะ” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถามพี่ชายด้วยความสงสัย“ถ้าไม่มีใครไปข่มขู่หรือทำอะไรพยายาน แล้วเล่าตามที่เล่าวันนี้ หมอนั่นรอดแน่นอน” เพชรอธิบายให้น้องสาวฟัง“พี่ช่วยให้คนของเราไปดูแลความปลอดภัยให้พยานได้ไหมคะ” พิพลอ
เช้าวันต่อมาร่างสูงหยุดยืนที่หน้าสถานีตำรวจเพื่อตั้งสติตัวเองสักพัก สองวันแล้วที่เขาแทบจะมาพักอาศัยอยู่ที่นี่เพื่อพูดคุย ไก่เกลี่ยและหาหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีและเพื่อยืนยันว่าเขาไม่ใช่คนผิดทว่าหลักฐานที่มีช่างดูห่างไกลจากความจริงเป็นอย่างมาก แต่กวินก็หวังว่าเขาจะรอดจากเรื่องนี้ไปได้ เพราะเขาไม่ได้เป็นคนทำผิดตามที่ถูกกล่าวหากวินเดินตรงเข้าไปในห้องที่คุ้นเคยพร้อมกับทนายและมีตำรวจที่กำลังรอเขาอยู่ภายในห้อง เขาเข้าออกที่นี่จนแทบจะรู้จักและสนิทกับตำรวจทุกคน“เป็นยังไงบ้างครับ” ตำรวจนายหนึ่งทักทายขึ้นมาตามมารยาทและเขาก็เชื่อว่ากวินไม่ใช่คนผิด เพียงแต่ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดมาช่วยยืนยัน“หลักฐานที่มียังไม่พออีกเหรอครับ” ชายหนุ่มถามกลับเพราะเขามีกราฟฟิกที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยทั้งหมดมาช่วยเป็นพยานให้“ยากครับ ถ้าพูดกันตามตรงก็คือไม่น่ารอดครับ” ตำรวจพูดไปตามหลักฐานที่มีทั้งหมด เพราะอีกฝ่ายมีทั้งเงินและอำนาจ“มันจะไม่มีสักทางเลยเหรอครับ” กวินแทบกุมขมับเมื่อได้ยินในสิ่งที่ตำรวจพูดออกมา ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ทำผิดอะไรด้วยซ้ำ แต่กลับต้องมาโดนคดีฆ่าคนตาย“หลักฐานของอีกฝ่ายแน่นมาก แถมยังมีพยานเป็
พิพลอยเดินหน้าเศร้าขึ้นมาบนห้อง ถ้าหากเธออยู่คอนโดเหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้เธอคงจะออกไปหากวินแล้ว ถึงแม้จะช่วยอะไรไม่ได้แต่เธอก็อยากจะอยู่ข้างๆ และคอยเป็นกำลังใจให้เขาในวันที่เขามีปัญหาครืด~ ครืด~เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาทำให้หญิงสาวหลุดจากภวังค์ของความคิด แล้วรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายทันที“เป็นยังไงบ้างคะพี่วิน” หญิงสาวถามด้วยท่าทางตื่นเต้นและรอฟังคำตอบจากชายหนุ่ม(ทนายคุยให้พี่ก็เลยได้ประกันตัวออกมาเพื่อหาหลักฐานเพิ่มครับ) กวินบอกด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า เพราะวันนี้เขาอยู่ที่โรงพักทั้งวันไม่ได้ออกไปไหนเลย“ให้หนูช่วยเป็นพยานให้พี่วินได้ไหมคะ” พิพลอยลองเสนอเพราะเธอคุยโทรศัพท์กับเขาและเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง และเธอสามารถยืนยันได้ว่ากวินไม่ใช่คนผิดอย่างแน่นอน(ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่มีอะไรที่หนูจะต้องกังวล อีกอย่างพี่ไม่อยากให้หนูมายุ่งเกี่ยวกับคดีแบบนี้) กวินตอบไปตามที่คิด เพราะเขาไม่อยากให้เธอเดือดร้อนไปด้วย“แล้วพี่วินจะทำยังไงต่อไปคะ ที่หนูฟังมาพวกนั้นมีหลักฐานมัดตัวพี่วินแน่นเลยนะคะ”ความเป็นห่วงครอบงำทำให้พิพลอยวิตกกังวลไปหมด หลังจากที่ได้อ่านข้อความที่ลดาส่งมาให้ ทำ
เช้าวันต่อมากวินงัวเงียตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ซึ่งเขาตั้งเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนเพราะวันนี้เขามีนัดไปทานข้าวกับพิพลอยร่างหนาลุกขึ้นนั่งและบิดตัวไล่ความขี้เกียจอยู่บนเตียง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและเดินตรงไปยังห้องน้ำใช้เวลาไม่นานชายหนุ่มก็มายืนแต่งตัวอยู่ที่หน้ากระจก วันนี้เขาเลือกที่จะแต่งตัวสบายๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความหรูหรา ถึงเสื้อผ้าที่ใส่จะเป็นสีพื้นดูสะอาดตา แต่ก็เป็นแบรนด์เนมราคาแพงทั้งนั้นมือหนาหยิบน้ำหอมขึ้นมาฉีดเพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนจะออกจากห้อง ใบหน้าหล่อที่เคยดูสะอาดตาวันนี้กลับมีผ้าก๊อซติดแผลอยู่ที่หางคิ้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อของเขาลดน้อยลงชายหนุ่มตรวจเช็คความเรียบร้อยอยู่สักพัก ก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถยนต์ที่วางอยู่โต๊ะข้างๆ เตียงนอนพรึบ!!ประตูหน้าห้องถูกเปิดออกจากคนที่อยู่ด้านนอก พร้อมกับมีตำรวจบุกเข้ามาภายในห้อง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนกวินไม่ทันตั้งตัวชายหนุ่มยืนนิ่งด้วยความตกใจและสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกอย่างดูงงๆ เหมือนความฝันไม่ใช่ความจริง“เกิดอะไรขึ้นครับ” เมื่อตั้งสติได้กวินก็ถามขึ้นมาทันที“คุณเป็นผู้ต้องสงสัยที่ฆ่าเด็กเ