ตอนที่ 8 ระแวง
จากนั้นทั้งเจ้านายและลูกน้องก็ ออกจากห้องเพื่อลงไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารด้านล่าง และก่อนที่คนทั้ง 3 จะเดินผ่านห้องตรงข้ามไป 2 คนสนิทก็อดไม่ได้ที่จะปลายตาไปมองยังประตูห้องตรงข้าม ก่อนจะเดินเลยไป ในห้องตรงข้าม หญิงสาวตื่นขึ้นมาในตอนเช้าก็ไม่เห็นคนที่นอนข้างกายของ ตลอดทั้งคืนนอนอยู่ในห้องแล้วเธอจึงลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะออกไปเช่นเดียวกัน ด้านของปองภพที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะเจอกับปัญหา ก็หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาหวังจะโทรหาคนรัก..แต่ข้อความที่ดังขึ้นระรัวเหมือนเม็ดฝนกลับทำให้เขาแปลกใจแทน "เมสเสจอะไรวะ? เยอะแยะไปหมด?" เมื่อเปิดเข้าไปอ่านก็มีแต่เบอร์โทรของคนรักเกือบจะร้อยสายทำให้ปองภพถึงกับตกใจจนโทรศัพท์แทบจะร่วงออกจากมือ แถมในข้อความ LINE ก็ยังมีข้อความจากคนรัก ถามเข้ามาว่าเขาอยู่ไหนทำอะไรถึงบ้านหรือยังอีก มันยิ่งทำให้เขารู้สึกแปลกใจที่อยู่ๆคนรักก็โทรกระนำซัมเมอร์เซลหาเขาเป็นร้อยๆสายแบบนี้ เขารีบกดเบอร์โทรกลับหาคนรักทันทีด้วยใจที่ร้อนรุ่ม โทรศัพท์ดังอยู่ไม่กี่ครั้งปลายสายก็อดรับทันทีเหมือนกับว่าฝ่ายนั้นกำลังรอโทรศัพท์จากเขาอยู่เช่นนั้น โดยไม่รู้เลยว่าต้นเหตุเกิดจากตัวเอง "น้ำๆเป็นอะไร หรือเปล่าครับ?" เขารีบถามกลับไปด้วยน้ำเสียงร้อนรนใจ.. แต่ก็ได้แต่ความเงียบตอบกลับมาเขาจึงถามกลับไปอีก "น้ำ!..น้ำเป็นอะไรหรือเปล่าครับ? บอกพี่หน่อยอย่าทำให้พี่เป็นห่วงแบบนี้..?"เขารีบถามออกไปด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเช่นเดิม.. ผ่านไปหลายนาทีกว่าปลายสายจะตอบกลับมา " น้ำสบายดีค่ะแล้วพี่ภพล่ะคะไปไหนมาเมื่อคืนน้ำโทรหาเป็นร้อยๆสายแต่พี่ก็ไม่รับสาย?"เธอถามกลับไปน้ำเสียงเรียบนิ่งเหมือนที่เธอไถ่ถามออกไปเฉกเช่นทุกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้น้ำเสียงเย็นชาไม่เหมือนปกติที่ผ่านมา แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้สังเกต เพราะกำลังคิดหาคำโกหกมาโกหกคนรักอยู่ คำถามของคนรักทำเอาปองภพถึงกับกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ ก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ปกติเฉกเช่นทุกครั้ง "คือว่า พี่ปิดเสียงโทรศัพท์นะครับแล้วก็หลับไปเลย พี่ก็เลยไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ พี่ขอโทษด้วยที่ไม่ได้รับสายน้ำ ว่าแต่น้ำมีอะไรกับพี่หรือเปล่าครับถึงโทรมาหาพี่ดึกดื่นขนาดนั้น?"เขาตอบและถามกลับด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงเป็นใย คำตอบของคนรักทำให้เธอกำโทรศัพท์ในมือเอาไว้แน่น และอยากจะถามเขาออกไปว่าเมื่อคืนเขาไปค้างที่ไหนที่คอนโดหรือที่บ้านแต่เธอก็ไม่กล้าที่จะถามออกไปเพราะกลัวคำตอบมันจะตรงกับความคิดของตัวเอง เธอจึงเลือกที่จะไม่ถามและจะตามสืบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง "ไม่มีอะไรค่ะน้ำก็แค่เป็นห่วงและก็อยากได้ยินเสียงของพี่ภพก่อนนอนแค่นั้นค่ะ?" เธอตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติ ทำเอาปลายสายถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก "พี่ขอโทษนะครับที่ ไม่ได้โทรหาเมื่อคืน พอดีว่าพี่เหนื่อยมากไปหน่อยหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตายเลยน้ำคงไม่โกรธพี่นะครับ!"เขารีบขอโทษคนรักตามสายมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน "ไม่เป็นไรค่ะ น้ำเองก็กลับมาแล้วทำงานต่อเหมือนกัน มารู้ตัวอีกทีก็ตอนโทรหาพี่ภพนั่นแหละค่ะ"เธอตอบกลับไป "อย่าทำงานหักโหมมากนะครับพี่เป็นห่วง นี่ก็เหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือนก็จะถึงงานแต่งของเราแล้วรักษาสุขภาพด้วยนะครับ" เขาแสดงความเป็นห่วงออกมาทันที "น้ำจะพยายาม แล้วตอนนี้พี่พบออกมาทำงานหรือยังคะ?" เธอถาม "พี่กำลังขับรถอยู่ครับ"เขาตอบกลับ " ถ้าอย่างนั้นน้ำไม่กวนดีกว่าค่ะพี่ภพขับรถดีๆนะคะ" "ครับขอบคุณครับ" เมื่อเขาพูดจบสายก็ถูกตัดไปทันทีปองภพถึงกับขมวดคิ้วด้วยความมึนงงเพราะปกติแล้วคนรักจะไม่เคยตัดสายของเขาไปดื้อๆแบบนี้มาก่อน แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้นเพราะคิดว่าคนรักคงจะเป็นห่วงกลัวว่าเขาจะเกิดอุบัติเหตุเขาจึงปล่อยผ่านไม่ได้คิดอะไรอีก ส่วนคนที่ ถูกคนรักเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นห่วงเลยไม่อยากจะรบกวนนานก็กำลังนั่งมองรูปที่มีคนปริศนาส่งมาให้เธอเมื่อคืนด้วยความรู้สึกสับสนและวุ่นวายใจ "พี่ภพน้ำหวังว่าพี่ภพคงจะไม่ทำให้น้ำสียใจหรอกนะคะ!น้ำรักพี่ภพนะคะ"เธอพึมพำกับโทรศัทพ์ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ อีกด้าน เจ้านายจะกลับไล่เลยหรือเปล่าครับหรือจะเคลียร์งานที่นี่ก่อนมาวินถามผู้เป็นนายเมื่อทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว เคลียร์งานที่นี่ให้เสร็จก่อนเดี๋ยวค่อยกลับ ภาคินตอบ ครับ มาวินรับคำแล้วรีบรุดไปเตรียมเอกสารที่ห้องทำงานรอผู้เป็นนายทันที ส่วนวินัย ไม่ได้ตามไปเพราะต้องคอยดูแลความปลอดภัยให้กับผู้เป็นนาย หลังจากที่คนทั้ง 3 เคลียร์งานที่โรงแรมเสร็จก็รีบกลับไร่ทันที ในเวลาเกือบจะเที่ยงวัน ณบ้านธารธารา เพลงพิณเดินเข้ามาในบ้านด้วยใบหน้าบูดบึ้ง จนคนในบ้าน แทบจะไม่กล้ามองหน้าของเจ้านายสาวจนต้องหดหัวหลบกันเป็นแถว จนนางศิรินาทที่นั่งอยู่ห้องรับแขกเห็นบุตรสาวคนเล็กเดินเข้ามาด้วย ใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์นางจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย "เมื่อคืนแกไปไหนมาไม่กลับบ้านทั้งคืน?"นางสิรินาถถามบุตรสาวด้วยน้ำเสียงเข้มดุ เพลงพิมพ์ปลายตามองมารดาก่อนจะตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่ขอไปที "เมื่อคืนเพลงไปค้างที่คอนโดมาค่ะ"เธอตอบคำถามมารดา ด้วยใบหน้าราบเรียบ "แล้วทำไมไม่โทรมาบอกปล่อยให้ฉันเป็นห่วงทั้งคืนส่งข้อความไปก็ไม่อ่านโทรไปก็ไม่รับ?"นางศิรินาถเอยตำหนิบุตรสาวเสียงเข้ม ถึงบุตรสาวคนเล็กของนางปกติแล้วจะดูเป็นคนเรียบร้อยพูดน้อยแต่ใครจะรู้ว่าจริงๆแล้วบุตรสาวของนางเป็นคนที่เอาแต่ใจแล้วก็เป็นคนที่ค่อนข้างจะดื้อเงียบ มีนางเท่านั้นที่รู้เพราะนางเป็นคนเลี้ยงมากับมือ "ขอโทษค่ะ พอดีว่าเพลงเคลียร์งานเพลินไปหน่อย" เธอตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ดูแกจะอารมณ์ไม่ค่อยดีนะ?" นางศิริมาศถามบุตรสาวที่อารมณ์ค่อนข้างจะไม่ปกติ "เหนื่อยกับงานนิดหน่อยน่ะค่ะคุณแม่ พอดีที่โรงงานออเดอร์ผ้าไม่ตรงกับที่เพลงต้องการเพลงก็เลยหงุดหงิดไปหน่อย"เธอตอบอย่างขอไปที "แล้วนี่พี่น้ำออกไปทำงานแล้วหรือคะ?"เธอถามทางมองไปรอบๆบ้านเพื่อมองหาพี่สาว "ออกไปแล้ว"นางตอบ "อ้อค่ะ! คุณแม่มีอะไรอีกหรือเปล่าคะถ้าไม่มีเพลงจะขอขึ้นไปพักผ่อน เหนื่อยมากเลยค่ะ"เธอกระบอกกับมารดา อืม..นางศิรินาทพยักหน้า แล้วมองตามหลังบุตรสาวที่เดินขึ้นห้องไปพลางถอนหายใจ "เป็นอะไรไปคุณนาท? ทำไมถึงทำหน้าอย่างนั้น?" พอดีกับที่นายสันติเดินออกจากห้องทำงานมาเห็นภรรยาทำหน้ามุ่ยจึงเอ่ยถาม "ไม่มีอะไรค่ะ" นางตอบสามีด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม "คุณหิวหรือยังคะ อยากจะทานอะไรรองท้องก่อนหรือเปล่าคะ?"นางเปลี่ยนเรื่องหันไปถามสามี "ผมยังไม่หิวครับรอยัยน้ำมาทานพร้อมกันเลยดีกว่า" นายสันติ ต่อปฏิเสธพร้อมกับถามหาบุตรสาวคนเล็ก "ว่าแต่ยัยเพลงกลับมาหรือยัง?" เขาถามภรรยา "กลับมาแล้วค่ะเพิ่งกลับมาเมื่อครู่"นางตอบ "ได้ถามไหมว่าเมื่อคืนลูกไปนอนที่ไหนมา?" เขาถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม "ลูกบอกว่านอนค้างที่คอนโดค่ะเคลียร์งานที่ค้างให้เสร็จ" นางตอบตามที่บุตรสาวคนเล็กบอกกับนางเอาไว้ "อืม.." นายสันติพยักหน้ารับ ครางเอยกับภรรยาเสียงเรียบ "คุณก็เตือนลูกด้วยก็แล้วกันว่าไปไหนมาไหนให้โทรบอกที่บ้านด้วยไม่ใช่ว่าให้คนที่บ้านเป็นห่วงอยู่อย่างนี้" นายสันติหันไปพูดกับภรรยาด้วยน้ำเสียงตำหนิ "ค่ะ..คราวหน้านาทจะบอกยัยเพลงให้"นางรับปากสามีเพราะนางรู้ว่าสามีรักบุตรสาวคนเล็กมากเพราะบุตรสาวคนเล็กมาเกิดตอนนายสันติอายุเกือบจะห้าสิบแล้ว สามีของนางจึงรักและประคบประหงมบุตรสาวคนเล็กคนนี้มาก ส่วนคนที่พึ่งจะขึ้นห้องมา พอเปิดประตูห้องได้เธอก็ปากระเป๋าถือลงพื้นทันทีด้วยความโมโห พร้อมกับควานหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋า ขึ้นมาเปิดดูว่าข้อความที่เธอส่งไปหาชายคนรักได้ถูกเปิดอ่านแล้วหรือยังและได้ตอบข้อความของเธอกลับมาแล้วหรือยัง แล้วเธอก็ยิ้มออกมาได้เมื่อข้อความของเธอได้ถูกชายคนรักเปิดอ่านแล้วแล้วก็ยังตอบข้อความของเธอกลับมาเรียบร้อยแล้ว เพียงเธอได้เห็นข้อความที่ตอบกลับมาว่า เขาคิดถึงเธอ และขอโทษเธอกลับมาที่ไม่ได้รับโทรศัพท์และอ่านข้อความของเธอเพราะเขาปิดเสียงโทรศัพท์แล้วก็เผลอหลับไป แค่นั้นเธอก็ยิ้มออกมาได้และหายโกรธเป็นปริดทิ้งแล้ว แต่แล้วเธอก็ต้องหุบยิ้มลงเมื่อนึกถึงพี่สาวที่กำลังจะแต่งงานภายในปรายเดือนนี้ หลายวันผ่านไป บนโต๊ะอาหารตอนเช้า 4 คนพ่อแม่ลูกนั่งทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันในรอบ 2 อาทิตย์นาย สันติจึงอดที่จะถามบุตรสาวคนเล็กไม่ได้ ที่บุตรสาวคนเล็กไม่ค่อยอยู่บ้าน จนเขาแทบจะไม่เจอหน้า ด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง "ยัยเพลงงานของลูกมีปัญหาอะไรหรือเปล่าทำไมช่วงนี้พ่อไม่ค่อยเห็นลูกมานอนที่บ้านและไม่อยู่บ้านบ้างเลย?" นายสันติถามบุตรสาวทันทีที่ได้มีโอกาสได้นั่งทานข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา เพลงพิณเงยหน้าขึ้นมายิ้มประจบบิดาพรางตอบออกไปด้วยน้ำเสียงประจบเฉกเช่นทุกครั้ง "พอดีว่าช่วงนี้ใกล้ปีใหม่แล้วลูกค้าที่ร้านเยอะเพลงก็เลยต้องทำงานเยอะตามไปด้วยค่ะ?" เธอตอบ "งานที่เดินทางไกลลูกก็ให้ผู้ช่วยของลูกไปแทนสิทำไมลูกต้องไปด้วยตัวเองด้วยรู้ไหมว่าพ่อเป็นห่วง"นายสันติบอกกับบุตรสาวคนเล็ก เสียงอ่อน "ก็เพลงไปเองมันสะดวกกว่านี่คะ การคุยงานให้คนอื่นคุยแทนยังไงมันก็ไม่เหมือนเราคุยเองจริงไหมคะพี่น้ำ?"เธอหันไปถามพี่สาวด้วยน้ำเสียงสดใส "จริงจ้ะ" ธารธาราตอบน้องสาวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเพราะเธอเองก็มีความคิดเหมือนกับที่น้องสาวพูดเวลาคุยงานเธอชอบไปคุยด้วยตัวเอง เธอไม่ชอบส่งตัวแทนไปคุยแทนเพราะยังไงเสียสุดท้ายแล้วคนที่ตัดสินใจก็เป็นเธออยู่ดี "ว่าแต่พี่น้ำเถอะค่ะเตรียมงานแต่งไปถึงไหนแล้วอีกอาทิตย์หน้าก็จะถึงงานแต่งพี่น้ำแล้วนะคะ?" เพลงพิณหันมาถามพี่สาว "เรียบร้อยทุกอย่างแล้วค่ะแจกการ์ดแล้ว จัดสถานที่ก็ใกล้จะเสร็จแล้วคาดว่าถึงวันก็คงจะเสร็จพอดี" เธอตอบน้องสาวด้วยใบหน้า เปื้อนยิ้ม เพราะหลังจากที่มีคนส่งรูปของคนรักที่นอนอยู่ในห้องห้องหนึ่งมาให้เธอดูในวันนั้น เธอก็คอยสะกดรอยตามคนรักอยู่เกือบจะเป็นอาทิตย์แต่เธอก็ไม่เคยเห็นคนรักของเธอออกไปไหนเลยนอกจากไปพบลูกค้าแล้วกลับมาทำงานอยู่ที่โรงแรมของตัวเอง จะเจอก็แต่น้องสาวของเธอที่เดินทางไปพบลูกค้าเพื่อคุยงานที่โรงแรมของปองภพอยู่บ่อยๆ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเธอเองก็ไปคุยงานอยู่ที่นั่นอยู่บ่อยๆเช่นกัน เพราะส่วนมากลูกค้าที่บินมาจากที่อื่นจะมาพักที่โรงแรมเชียงใหม่หรือไม่ก็โรงแรมอุ่นไอมอซะเป็นส่วนมาก เพราะฉะนั้น 2 โรงแรมนี้เธอจึงเดินเข้าออกเหมือนกับเป็นบ้านหลังที่ 2 ของตัวเองเลยก็ว่าได้ ถึงโรงแรมแห่งนี้จะเป็นโรงแรมของคนรัก แต่น้อยครั้งที่เธอจะขึ้นไปหาคนรักบนห้องทำงาน เพราะเธอคิดว่าเธอมาทำงานและคนรักของเธอก็คงจะทำงานเลยไม่อยากจะรบกวนเวลาทำงานของกันและกัน..เธอจึงไม่ได้ระแวงคู่หมั้นหนุ่มอีก รูปที่มีคนส่งมาในวันนั้นอาจจะเป็นการการแจ้งจากเพื่อนของเขาก็เป็นไปได้ เธอจึงไม่เก็บเอามาใส่ใจอีก ในขณะที่ธารธารากำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้นเสียงหวานใส่ของน้องสาวก็ถามขึ้นขัดความคิดของเธอ ใกล้จะถึงวันงานแล้วพี่น้ำจะหยุดงานไปทำสปาเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวหรือเปล่าคะ เพลงพิณถามพี่สาวด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม ไว้ใกล้ๆวันจะดีกว่าจ้ะเพราะช่วงนี้พี่ยังยุ่งกับงานอยู่วันนี้พี่ก็จะต้องเดินทางเข้าไปในเมืองเพื่อจะไปพบลูกค้าจะกลับอีกทีก็คงจะมืดๆบอกตามตรงว่าพี่ไม่มีเวลาเลย เธอบอกกับน้องสาว "ก็พ่อบอกแล้วไงว่าพ่อจะทำงานแทนให้ลูกไปทำธุระของลูก" นายสันติแซ่ขึ้นด้วยน้ำเสียงเอ็นดูบุตรสาวคนโตที่เอาการเอางานช่วยแบ่งเบาภาระของเขา ตั้งแต่เธอเรียนจบแถมก็ยังทำได้ดีกว่าเขาเสียอีก ธารธาราหันมาส่งยิ้มให้กับบิดาพลางเอ่ย "มันก็ยังไม่จำเป็นนี่คะคุณพ่อ กว่าจะถึงวันงานก็อีกตั้งหลายวัน..ถึงไม่ต้องไปสปาขัดผิวพวกนั้นน้ำเองก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ถึงขนาดนั้นไม่ใช่หรือคะ? หรือคุณพ่อคิดว่าน้ำดูไม่ได้ถึงขนาดต้องไปนั่งให้เขาทำสวยให้เป็นอาทิตย์ๆ?"เธอเอ่ยพร้อมกับหันมาส่งยิ้มกริ่มให้กับบิดา หึ! นายสันติส่ายหัวให้กับข้ออ้างของบุตรสาว แต่มันก็จริงอย่างที่บุตรสาวของเขากล่าวออกมานั่นแหละบุตรสาวคนโตของเขาเป็นผู้หญิงที่สวย ผิวพรรณก็ละเอียดลออ มีออร่ายิ่งกว่าพวกที่เข้าสถาน ความงามวันเว้นวันเสียอีก บุตรสาวคนโตของเขางามแบบที่ไม่ต้องพึ่ง สถานความงามพวกนั้นเลยก็ว่าได้ เพลงพิณมองพี่สาวที่งดงามแบบฉบับสาวเหนือแท้ๆ ด้วยความรู้สึกอิจฉาอยู่ไม่น้อย พี่สาวของเธอสวย ถึงขนาดที่ผู้กำกับชาวจีนมาเจอยังต้องทาบทามให้พี่สาวของเธอไปเป็นดาราของประเทศเขาเลยก็ยังเคยมี เพราะพี่สาวของเธอสวยไม่ต่างจากดาราดังของประเทศจีน เลยทีเดียว เสียแต่ว่าพี่สาวของเธอไม่ชอบแต่งเนื้อแต่งตัวชอบใส่กางเกงยีนส์เสื้อเชิ้ตแบบชาวไร่ชาวสวนจะแต่งตัวสวยทีก็ตอนไปออกงานสังคมซึ่งปีนึงก็มีไม่ถึง 3 ครั้ง เพราะพี่สาวของเธอชอบขลุกอยู่กับไร่กับสวนและคนงานเนื้อตัวสกปรกพวกนั้นเสียมากกว่า ต่างจากเธอที่ชอบแต่งเนื้อแต่งตัวและอยู่สังคมชั้นสูงตอนที่ 9 ความเจ็บช้ำในอดีต นั่นมันจึงเป็นเหตุผลที่ว่าเธอกับพี่สาวไม่ค่อยจะสนิทกันสักเท่าไรเพราะต่างคนต่างไปทำหน้าที่ของตัวเองเสียมากกว่า ถึงเธอจะไม่ชอบคลุกคลีอยู่ในไร่ในสวนกับคนงานสกปรกพวกนั้น แต่ไม่ใช่ว่าเธอไม่ได้สนใจในธุรกิจของครอบครัว ที่มีทั้งไร่ชา และไร่ดอกไม้ที่มีเอาไว้ส่งตามตลาดร้านค้าโรงแรมหรู และเอาไว้เป็นแลนด์มาร์คให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเช็คอิน และยังมีโฮมสเตย์และรีสอร์ทติดเขาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เป็นที่ชื่นชอบ สำหรับชาวต่างชาติและผู้ที่เบื่อนายกับความวุ่นวายในเมืองหลวงมาพักผ่อนคลายเครียด จะว่าไปแต่ก่อนมันก็ไม่ได้เจริญรุ่งเรืองถึงขนาดนี้จนตอนที่พี่สาวของเธอได้มาบริหาร ธุรกิจของครอบครัวของเธอจึงได้มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาติดอันดับต้นๆของภาคเหนือสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ แล้วอย่างนี้มีหรือที่เธอจะไม่สนใจในธุรกิจของครอบครัว "พี่น้ำไปพบลูกค้าในเมืองพี่น้ำจะแวะไปหาพี่ภพที่โรงแรมหรือเปล่าคะ?" เพลงพิณถามที่สาวที่กำลังตักข้าวปาก "พี่ไม่แน่ใจที่ต้องดูก่อนว่างานของที่เสร็จเร็วหรือเสร็จช้า" เธอตอบ "คนกำลังจะแต่งงานกันแต่ไม่ไปเจอหน้ากันเลยนี่มันยังไงคะ?"เพลงพิมพ์เอียงคอถามพี่สาวยิ้มๆ
ตอนที่ 10 พบเจอกันอีกครั้ง 1/2 หลังจากที่สั่งให้ผู้จัดการโรงแรมดูแล บิดาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภาคินกับคนสนิทก็ออกเดินทางกลับไร่ทันที โดยมี มาวินเป็นสาระถีให้กับผู้เป็นนาย "เจ้านายครับพรุ่งนี้เจ้านายจะมารับคุณท่านเองหรือจะให้ผมมารับครับ?"มาวินหันไปถามผู้เป็นนายทันทีที่รถมุ่งออกสู่ถนนนอกเมืองที่แสงไฟริมทางสลัว "เดี๋ยวฉันมารับคุณพ่อเอง" ภาคินกล่าวพลางมองออกไปนอกรถ ท่ามกลางความมืดสนิท อีกด้าน ณถนนเส้นเดียวกัน.. ธารธาราขับรถฝ่าความมืดบนถนนเส้นทางนอกเมืองมุ่งตรงไปอย่างไร่ธารธารา ที่เธอใช้เดินทางมาตั้งแต่เล็กจนโตโดยไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อยนิด เพราะปกติแล้วเส้นทางเส้นนี้เธอก็ใช้เดินทางระหว่างไร่กับในตัวเมืองอยู่แทบจะวันเว้นวัน.. เธอจึงขับรถฟังเพลงไปด้วยด้วยอารมณ์ที่ค่อนข้างจะผ่อนคลาย อีกอย่างช่วงเวลาทุ่มกว่าๆนี้มันก็ยังไม่ได้ดึกอะไรมากเธอจึงไม่ได้เร่งรีบถึงมันจะมืดและเงียบไปหน่อยก็เถอะแต่เพราะความเคยชินเธอจึงไม่มีความระวังและระแวง.. และในขณะที่เธอกำลังขับรถและฟังเพลงไปด้วยอยู่นั้นก็มีเสียงแตรถดังไล่หลังเธอมาด้วยความเร็วที่ค่อนข้างสูง แถมยังตบไฟสูงใส่เธอจนเธอต้องขมวดคิ้วด้วยความมึนงง? ปี
ตอนที่ 11 พบเจอกันอีกครั้ง 2/2 ภาคินขับรถมุ่งกลับเข้าตัวเมืองทันที เพื่อที่จะพาหญิงสาวไปส่งโรงพยาบาล ส่วนคนเจ็บ ก็เอาแต่กอดผ้าขนหนูเอาไว้แน่นด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา ภาคินมองด้วยความรู้สึกสงสาร ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้นี่ถ้าเขา กับคนสนิทไม่มาเจอเข้าเสียก่อนเขาก็ไม่อยากจะคิดเลยว่า ผู้หญิงตรงหน้าของเขานี้จะมีสภาพเป็นเช่นไร พวกมันอาจจะ ทำปู้ยี่ปู้ยำกับผู้หญิงแล้วฆ่าปิดปาก.. อย่างที่เป็นข่าวร้ายๆข่าว พอคิดมาถึงตรงนี้ก็พรานให้เขาอยากจะกลับไปกระทืบไอ้พวกเด่นสังคมพวกนั้นให้จมธรณีไม่ต้องได้ผุดไม่ต้องได้เกิดมาอีก.. ด้วยความ เร็วที่เขาขับไม่นานก็มาถึงโรงพยาบาล เขาลงจากรถแล้วเรียกให้ บุรุษพยาบาลเข้ามานำตัวหญิงสาวไปส่งห้องฉุกเฉินทันที "คุณบุรุษพยาบาลครับทางนี้มีคนเจ็บครับ!.."เขาเปิดประตูเรียกบุรุษพยาบาล ที่อยู่ตรงนั้นทันที บุรุษพยาบาลรีบเข็นรถเข็นไปรับตัวของธารธาราทันทีที่สิ้นเสียงของภาคินไม่กี่วินาทีธารธาราก็ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน โดยมีภาคินยืนรออยู่ด้านนอก เพื่อรอฟังข่าว.. จากนั้นก็มีพยาบาลเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน เขารีบเอ่ยถามทันที "คนเจ็บเป็นยังไงบ้างครับคุณพยาบาล?"เขาถามออกไป
ตอนที่ 12 ใครกันที่อยู่เบื้องหลัง เมื่อ 3 พ่อแม่ลูกเข้ามาภายในห้องก็เห็นบุตรสาวคนโตนอนอยู่บนเตียงคนไข้โดยมีกระปุกน้ำเกลือและผ้าพันแผล พันตามแขนตามขาเต็มไปหมด ทำเอานายสันติถึงกับตกใจที่เห็นบุตรสาว อยู่ในสภาพ แบบนี้ "น้ำหนูไปโดนอะไรมาลูก"นายสันติรีบถลาเข้าไปหาบุตรสาว คนโตที่เตียงคนไข้ทันที พลางถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก นางศิรินาถเองก็ไม่ต่างจากผู้เป็นสามี นางเองก็ตกใจจนหน้าซีดเมื่อเห็นสภาพของลูกเลี้ยง ต่างจากเพลงพิณที่มองพี่สาวที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยสายตาว่างเปล่าไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากของเธอ..โดยมีภาคินกับมาวินยืนดูคนทั้ง 3 ที่เข้ามาใหม่อยู่อย่างเงียบๆ อยู่ที่มุมห้อง "ไม่เป็นอะไรมากค่ะพ่อ แค่หัวแตกแล้วก็พกช้ำดำเขียวนิดหน่อย" เธอบอกกับบิดาเสียงสั่น "แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมลูกถึงอยู่ในสภาพแบบนี้?" สันติยังคงถามต่อด้วยความอยากรู้ ธารธารามองหน้าบิดานิ่งๆก่อนจะตอบคำถามของบิดาออกไป "มีคนคิดจะทำร้ายน้ำค่ะพ่อ พวกมันขับรถปาดหน้ารถของน้ำแล้วก็จะฉุดน้ำค่ะ.. ดีที่มีคนมาช่วยน้ำเอาไว้ได้ทัน"เธอตอบคำถามของบิดาเสียงสั่น เพราะเธอยังมีความรู้สึกตื่นกลัวกับเหตุการณ์ที่พึ่งจะผ่านมายังไม่หาย "
ตอนที่ 13 พ่อเลี้ยงแห่งไร่ภาคิน เพราะเธอรู้ว่าถึงเธอจะพูดไปก็ไม่มีใครเห็นด้วยกับเธอที่เธอจะไปขอบคุณผู้มีพระคุณทั้งสองคนนั้นด้วยตัวเองเธอจึงปล่อยผ่านไปก่อน ค่อยไปหาโอกาสไปขอบคุณคนทั้งสองคนนั้นด้วยตัวเองทีหลัง ด้านภาคินและมาวินที่กำลังเดินออกมาขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าโรงพยาบาลของตัวเอง เมื่อทั้งสองขึ้นมานั่งอยู่บนรถแล้วมาวินจึงหันไปทางผู้เป็นนาย "เจ้านายไม่คิดที่จะบอกผู้หญิงคนนั้นหน่อยหรือครับ ?"เขาถาม "ไม่จำเป็น"ภาคินตอบ "ครับ"มาวินขานรับ จากนั้นคนทั้งสองก็ขับรถออกจากโรงพยาบาลตรงกับไปที่ไร่ของตัวเองทันที อีกด้านภายในห้องพักผู้ป่วย สันติ เมื่อเหลือบไปมองนาฬิกาติดผนัง ที่บอกเวลา เที่ยงคืนกว่าแล้ว เขาจึงหันไปเอ่ยกับภรรยาและบุตรสาวคนเล็ก ที่นั่งสัปหงกอยู่ที่โซฟา "คุณนาท! คุณกับลูกกลับไร่ไปพักผ่อนเถอะผมจะเฝ้ายัยน้ำอยู่ที่นี่เอง"นายสันติบอกกับภรรยา ปองภพที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามรีบเอ่ยเสนอตัว "คุณพ่อครับ คุณพ่อพาคุณแม่กับน้องเพลงกับไปพักผ่อนที่ไร่เถอะครับผมจะอยู่เฝ้าน้ำที่นี่เอง"เขารีบเสนอตัว เพลงพิณเบิกตากว้างทันทีเมื่อได้ยินว่าว่าที่พี่เคยจะอยู่เฝ้าพี่สาวเขาเธออยู่ที่นี่ด้วยตัวเองเธอจึง
ตอนที่ 14 คนในมุมมืด ตราบใดที่ยังหาสาเหตุและคนที่คิดจะทำร้ายเธอยังไม่เจอ เธอก็คงจะอยู่กับความระแวงต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะรู้ตัวคนที่ต้องการจะทำร้ายเธอ ภาคินมองใบหน้าที่ซีดเซียวของหญิงสาวก็นึกสงสาร ก็อดที่จะ แนะนำออกไปไม่ได้ "ช่วงที่ตำรวจยังหาคนบงการยังไม่เจอคุณก็ควรจะหาบอดี้การ์ดหรือผู้คุ้มกันมาคอยตามดูแล เวลาไปไหนมาไหนก็คงจะดี"เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ธารธาราพยักหน้ารับด้วยสีหน้าที่คิดหนัก เพราะเธอไม่รู้ว่าจะไปหาบอดี้การ์ดมือดีมาจากไหนเพราะตอนนี้เธอไม่ไว้ใจใครเลยสักคน คำพูดของนายตำรวจทำให้เธอระแวงคนรอบกายไปเสียหมดจนเธอนอนไม่หลับตลอดทั้งคืนแล้วยังมาวันนี้อีก "ฉันไม่รู้ว่าจะไปหาบอดี้การ์ดมือดีที่ไหน"เธอบอกด้วยน้ำเสียงหนักใจ ภาคินขมวดคิ้วถาม "คุณก็ลองคุยกับคู่หมั้นของคุณดูสิเผื่อเขาจะหามาให้คุณได้" ภาคินบอกกับหญิงสาว ธารธารานิ่งคิดไม่พูดอะไร ทำให้ภาคินอดที่จะสงสัยไม่ได้เมื่อเขาเสนอให้เธอไปบอกคู่หมั้นของเธอหาผู้คุ้มกันมาให้ เขาจึงเอ่ยถามออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ "คุณมีอะไรปิดบังผมกับตำรวจเอาไว้หรือเปล่า" ภาคินถามหญิงสาวที่เอาแต่นั่งก้มหน้าหลบตาเขาไม่พูดไม่จาเหมือนคนที่กำลังคิดหนั
ตอนที่ 15 คาหนังคาเขา เธอใช้มือดันประตูเปิดกว้างออกแล้วแทรกตัวเข้าไปข้างในห้อง ก่อนที่เธอจะยืนตัวแข็งอยู่กับที่ มองภาพตรงหน้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง แกร่ง!! เสียงกุลแจรถที่อยู่ในมือหล่นลงพื่นเสียงดังจนทำให้ชายหญิงที่ กำลังนัวเนียกันอยู่บนโต๊ะทำงานสะดุ้งแล้วหันกลับมามองยังต้นเสียงทันที.. "น้ำ!!"เสียงคนทั้งสองอุทานขึ้นพร้อมกัน "น้ำ!.." โดยเฉพาะปองภพที่อุทานออกมาจนสุดเสียงพร้อมกับลุกออกมาจากตัวของผู้หญิงที่มีสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ยืดตัวตรงแล้วลนลานรีบรูดซิบกางเกงด้วยความเร่งรีบ ด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด ธารธารายืนมองคนทั้งสอง ด้วยความตื่นตระหนกยิ่งเมื่อเธอได้เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังนัวเนียอยู่กับคู่หมั้นของเธอ เธอก็ยิ่งตกใจจนหน้าซีดตัวสั่นเมื่อผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นไกลแต่เป็นเพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียวของเธอ...รุ้งระดา "น้ำ!!น้ำครับฟังพี่ก่อน.. มันไม่ได้เป็นอย่างที่น้ำเห็นนะครับ"ปองภพรีบลนลานเข้าไปหาคนรัก .....? ธารธาราถอยหลังออกไปหลายก้าวด้วยความรังเกียจ พรางมองคนทั้งสองด้วยแววตาเจ็บปวด จนเธอพูดอะไรไม่ออกเพราะ ความเสียใจมันจุกแน่นในอกจนเธอไม่อาจจะเอ่ยเป็นเสียงออกมาได้ น้ำตาเม็ด
ตอนที่ 16 ความจริงที่แสนเจ็บปวด ยิ่งเห็นสภาพของผู้หญิงทั้งสองที่ตบตีกันแย่งคู่หมั้นของตัวเองเธอก็ยิ่งรับมันไม่ได้จนอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ ด้านปองภพเองก็หงุดหงิดจนแทบคลั่ง แทนที่เขาจะได้ตามง้อคนรัก แต่กลับต้องมาแยกผู้หญิงลับๆของตัวเองออกจากกัน แทนที่เขาจะได้ตามง้อและอธิบายเรื่องที่มันเกิดขึ้นให้กับคนรักและปรับความเข้าใจกัน แต่กลับต้องมาห้ามรุ้งรดากับเพลงพิณทะเลาะกันแทน เขาร้อนใจขึ้นมาทันที่ เมื่อเห็นว่าคนรักกำลังค่อยๆถอยหลังออกจากห้องไปทีละก้าวด้วยท่าทีเจ็บปวด ปองภพเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน ถึงเขาจะมีผู้หญิงอยู่รอบกาย แต่ผู้หญิงที่เขาให้ใจก็มีเพียงแค่ธารธาราคู่หมั้นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "หยุดๆ" เขาใช้กำลังที่เหนือกว่าผู้หญิงทั้งสอง จับทั้งสองแยกออกจากกันแล้วผลักไปคนละทางด้วยความโกรธ จนหญิงสาวทั้งสองกระเด็นกันไปคนละทิศคนละทางด้วยความตกใจ ว้าย!!! โอ้ย!!! ทั้งสองอุทานออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ ส่วนปองภพเองก็ไม่ได้ใส่ใจหญิงสาวทั้งสองอีก เขาก้าวขาไวๆเข้าไปหาคู่หมั้นทันทีด้วยความร้อนใจ "น้ำ!.น้ำฟังพี่ก่อน!.."เขาทะล่ำทะลักเรียกคนรักที่กำลังจะออกจากห้องไปด้วยน้ำเสียงร้อนรนใจ ธารธารา
ตอนที่ 18 ช่วยเหลือ เมื่อภาคินพาคนที่พึงจะเจอเรื่องหนักๆ เข้ามาในบ้านเขาก็จับให้เธอนั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก พลางหันไปสั่งความกับแม่บ้านที่เดินมาต้อนรับผู้เป็นนาย "พ่อเลี้ยงจะดื่มน้ำอะไรดีคะ?"ละอองเดินเข้ามาถามผู้เป็นนาย ฟางมองไปยังหญิงสาวที่นั่งซบน่าอยู่กับฝ่ามือของตัวเองด้วยความอยากรู้ "น้ำเปล่า 2 แก้วน้ำส้มแก้วนึง" เขาสั่ง "ค่ะ" แม่บ้านสาวรับคำเสียงหวานก่อนจะกลับเข้าห้องครัวไป นำน้ำเขามาเสริฟเจ้านายกับแขกสาว เมื่อแม่บ้านสาววางแก้วน้ำลงบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เขาจึงหันไปออกคำสั่งกับแม่บ้านสาวอีกที "ละอองไปทำความสะอาดห้องที่ติดกับห้องฉันที"เขาสั่งแม่บ้านพลางหยิบแก้วน้ำมายื่นให้กับหญิงสาว แม่บ้านสาวพยักหน้ารับและมองคนที่เจ้านายพามาด้วยแววตาอยากรู้ แต่พอได้สบกับดวงตาคมของผู้เป็นนายแม่บ้านสาวก็รีบถอยกรูดออกไปจากตรงนั้นทันที ด้วยความคาใจ ภาคินหันกลับมามองหญิงสาวที่ทำตัวเหมือนผีดิบพลางยื่นแก้วน้ำในมือให้ "ดื่มน้ำก่อนคุณ" ธารธารายื่นมือไปรับแก้วน้ำในมือของภาคินเอามาดื่ม พลางเอ่ยขอบคุณเสียงแผ่ว "ขอบคุณค่ะ" ด้านแม่บ้านสาวที่กลับเข้ามาในห้องครัวก็วางถาดในมือลงด้วยความไม่พอใจ "แม่รู้ไ
ตอนที่ 17 แย่งชิงมือเรียวยาวลูบแผ่นหลังบอบบางของคนที่ซบหน้าร้องไห้อยู่กับอกของเขาด้วยความสงสาร เห็นแล้วก็พรานให้นึกถึงตัวเองในวันนั้นวันที่เขาสูญเสียคนรักให้กับผู้ชายคนอื่นไป เขาคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้ดีว่ามันเจ็บปวดและทรมานมากแค่ไหน สภาพของเขาในวันนั้นคงจะไม่ต่างกันกับผู้หญิงคนนี้ในวันนี้มาวินเองก็แอบมองผู้เป็นนายผ่านกระหจกมองหลังเป็นระยะๆ เป็นบางครั้ง ภาคินเองก็รู้ว่าคนสนิทกำลังแอบมองเขาอยู่เขาจึงจงใจมองกลับด้วยแววตาคำถาม ทำเอามาวินรีบหลบสายตาของผู้เป็นนาย พัลวันจนไม่กล้าที่จะแอบมองอีกอีกทางด้านของปองภพและผู้หญิงของเขาอีกสองคนก็กำลังตกอยู่ในความวุ่นวายปองภพเมื่อตามคนรักไม่ทันก็กลับขึ้นมาณห้องทำงานของตัวเอง ก็เห็นว่ามีพนักงานหลายคนกำลังมองไปที่ห้องทำงานของเขาเป็นตาเดียวกัน และทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามาในห้องภาพที่เห็นก็คือผู้หญิง 2 คนกำลัง ฉุดกระชากลากถูกันอยู่บนพื้นด้วยสภาพที่ผมเผ้ารุงรัง เขามองผู้หญิงทั้งสองของเขาด้วยความรู้สึกหงุดหงิดก่อนจะสั่งให้คนที่ตามเขามาจับผู้หญิงของเขาแยกออกจากกัน"ไปจับแยกออกจากกันสิ"เขาหันไปสั่งเสียงกร่าว"ครับ"ชายใส่สูทที่ตามหลังเขามารีบเข้าไปจับผู้
ตอนที่ 16 ความจริงที่แสนเจ็บปวด ยิ่งเห็นสภาพของผู้หญิงทั้งสองที่ตบตีกันแย่งคู่หมั้นของตัวเองเธอก็ยิ่งรับมันไม่ได้จนอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ ด้านปองภพเองก็หงุดหงิดจนแทบคลั่ง แทนที่เขาจะได้ตามง้อคนรัก แต่กลับต้องมาแยกผู้หญิงลับๆของตัวเองออกจากกัน แทนที่เขาจะได้ตามง้อและอธิบายเรื่องที่มันเกิดขึ้นให้กับคนรักและปรับความเข้าใจกัน แต่กลับต้องมาห้ามรุ้งรดากับเพลงพิณทะเลาะกันแทน เขาร้อนใจขึ้นมาทันที่ เมื่อเห็นว่าคนรักกำลังค่อยๆถอยหลังออกจากห้องไปทีละก้าวด้วยท่าทีเจ็บปวด ปองภพเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน ถึงเขาจะมีผู้หญิงอยู่รอบกาย แต่ผู้หญิงที่เขาให้ใจก็มีเพียงแค่ธารธาราคู่หมั้นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "หยุดๆ" เขาใช้กำลังที่เหนือกว่าผู้หญิงทั้งสอง จับทั้งสองแยกออกจากกันแล้วผลักไปคนละทางด้วยความโกรธ จนหญิงสาวทั้งสองกระเด็นกันไปคนละทิศคนละทางด้วยความตกใจ ว้าย!!! โอ้ย!!! ทั้งสองอุทานออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ ส่วนปองภพเองก็ไม่ได้ใส่ใจหญิงสาวทั้งสองอีก เขาก้าวขาไวๆเข้าไปหาคู่หมั้นทันทีด้วยความร้อนใจ "น้ำ!.น้ำฟังพี่ก่อน!.."เขาทะล่ำทะลักเรียกคนรักที่กำลังจะออกจากห้องไปด้วยน้ำเสียงร้อนรนใจ ธารธารา
ตอนที่ 15 คาหนังคาเขา เธอใช้มือดันประตูเปิดกว้างออกแล้วแทรกตัวเข้าไปข้างในห้อง ก่อนที่เธอจะยืนตัวแข็งอยู่กับที่ มองภาพตรงหน้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง แกร่ง!! เสียงกุลแจรถที่อยู่ในมือหล่นลงพื่นเสียงดังจนทำให้ชายหญิงที่ กำลังนัวเนียกันอยู่บนโต๊ะทำงานสะดุ้งแล้วหันกลับมามองยังต้นเสียงทันที.. "น้ำ!!"เสียงคนทั้งสองอุทานขึ้นพร้อมกัน "น้ำ!.." โดยเฉพาะปองภพที่อุทานออกมาจนสุดเสียงพร้อมกับลุกออกมาจากตัวของผู้หญิงที่มีสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ยืดตัวตรงแล้วลนลานรีบรูดซิบกางเกงด้วยความเร่งรีบ ด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด ธารธารายืนมองคนทั้งสอง ด้วยความตื่นตระหนกยิ่งเมื่อเธอได้เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังนัวเนียอยู่กับคู่หมั้นของเธอ เธอก็ยิ่งตกใจจนหน้าซีดตัวสั่นเมื่อผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นไกลแต่เป็นเพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียวของเธอ...รุ้งระดา "น้ำ!!น้ำครับฟังพี่ก่อน.. มันไม่ได้เป็นอย่างที่น้ำเห็นนะครับ"ปองภพรีบลนลานเข้าไปหาคนรัก .....? ธารธาราถอยหลังออกไปหลายก้าวด้วยความรังเกียจ พรางมองคนทั้งสองด้วยแววตาเจ็บปวด จนเธอพูดอะไรไม่ออกเพราะ ความเสียใจมันจุกแน่นในอกจนเธอไม่อาจจะเอ่ยเป็นเสียงออกมาได้ น้ำตาเม็ด
ตอนที่ 14 คนในมุมมืด ตราบใดที่ยังหาสาเหตุและคนที่คิดจะทำร้ายเธอยังไม่เจอ เธอก็คงจะอยู่กับความระแวงต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะรู้ตัวคนที่ต้องการจะทำร้ายเธอ ภาคินมองใบหน้าที่ซีดเซียวของหญิงสาวก็นึกสงสาร ก็อดที่จะ แนะนำออกไปไม่ได้ "ช่วงที่ตำรวจยังหาคนบงการยังไม่เจอคุณก็ควรจะหาบอดี้การ์ดหรือผู้คุ้มกันมาคอยตามดูแล เวลาไปไหนมาไหนก็คงจะดี"เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ธารธาราพยักหน้ารับด้วยสีหน้าที่คิดหนัก เพราะเธอไม่รู้ว่าจะไปหาบอดี้การ์ดมือดีมาจากไหนเพราะตอนนี้เธอไม่ไว้ใจใครเลยสักคน คำพูดของนายตำรวจทำให้เธอระแวงคนรอบกายไปเสียหมดจนเธอนอนไม่หลับตลอดทั้งคืนแล้วยังมาวันนี้อีก "ฉันไม่รู้ว่าจะไปหาบอดี้การ์ดมือดีที่ไหน"เธอบอกด้วยน้ำเสียงหนักใจ ภาคินขมวดคิ้วถาม "คุณก็ลองคุยกับคู่หมั้นของคุณดูสิเผื่อเขาจะหามาให้คุณได้" ภาคินบอกกับหญิงสาว ธารธารานิ่งคิดไม่พูดอะไร ทำให้ภาคินอดที่จะสงสัยไม่ได้เมื่อเขาเสนอให้เธอไปบอกคู่หมั้นของเธอหาผู้คุ้มกันมาให้ เขาจึงเอ่ยถามออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ "คุณมีอะไรปิดบังผมกับตำรวจเอาไว้หรือเปล่า" ภาคินถามหญิงสาวที่เอาแต่นั่งก้มหน้าหลบตาเขาไม่พูดไม่จาเหมือนคนที่กำลังคิดหนั
ตอนที่ 13 พ่อเลี้ยงแห่งไร่ภาคิน เพราะเธอรู้ว่าถึงเธอจะพูดไปก็ไม่มีใครเห็นด้วยกับเธอที่เธอจะไปขอบคุณผู้มีพระคุณทั้งสองคนนั้นด้วยตัวเองเธอจึงปล่อยผ่านไปก่อน ค่อยไปหาโอกาสไปขอบคุณคนทั้งสองคนนั้นด้วยตัวเองทีหลัง ด้านภาคินและมาวินที่กำลังเดินออกมาขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าโรงพยาบาลของตัวเอง เมื่อทั้งสองขึ้นมานั่งอยู่บนรถแล้วมาวินจึงหันไปทางผู้เป็นนาย "เจ้านายไม่คิดที่จะบอกผู้หญิงคนนั้นหน่อยหรือครับ ?"เขาถาม "ไม่จำเป็น"ภาคินตอบ "ครับ"มาวินขานรับ จากนั้นคนทั้งสองก็ขับรถออกจากโรงพยาบาลตรงกับไปที่ไร่ของตัวเองทันที อีกด้านภายในห้องพักผู้ป่วย สันติ เมื่อเหลือบไปมองนาฬิกาติดผนัง ที่บอกเวลา เที่ยงคืนกว่าแล้ว เขาจึงหันไปเอ่ยกับภรรยาและบุตรสาวคนเล็ก ที่นั่งสัปหงกอยู่ที่โซฟา "คุณนาท! คุณกับลูกกลับไร่ไปพักผ่อนเถอะผมจะเฝ้ายัยน้ำอยู่ที่นี่เอง"นายสันติบอกกับภรรยา ปองภพที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามรีบเอ่ยเสนอตัว "คุณพ่อครับ คุณพ่อพาคุณแม่กับน้องเพลงกับไปพักผ่อนที่ไร่เถอะครับผมจะอยู่เฝ้าน้ำที่นี่เอง"เขารีบเสนอตัว เพลงพิณเบิกตากว้างทันทีเมื่อได้ยินว่าว่าที่พี่เคยจะอยู่เฝ้าพี่สาวเขาเธออยู่ที่นี่ด้วยตัวเองเธอจึง
ตอนที่ 12 ใครกันที่อยู่เบื้องหลัง เมื่อ 3 พ่อแม่ลูกเข้ามาภายในห้องก็เห็นบุตรสาวคนโตนอนอยู่บนเตียงคนไข้โดยมีกระปุกน้ำเกลือและผ้าพันแผล พันตามแขนตามขาเต็มไปหมด ทำเอานายสันติถึงกับตกใจที่เห็นบุตรสาว อยู่ในสภาพ แบบนี้ "น้ำหนูไปโดนอะไรมาลูก"นายสันติรีบถลาเข้าไปหาบุตรสาว คนโตที่เตียงคนไข้ทันที พลางถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก นางศิรินาถเองก็ไม่ต่างจากผู้เป็นสามี นางเองก็ตกใจจนหน้าซีดเมื่อเห็นสภาพของลูกเลี้ยง ต่างจากเพลงพิณที่มองพี่สาวที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยสายตาว่างเปล่าไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากของเธอ..โดยมีภาคินกับมาวินยืนดูคนทั้ง 3 ที่เข้ามาใหม่อยู่อย่างเงียบๆ อยู่ที่มุมห้อง "ไม่เป็นอะไรมากค่ะพ่อ แค่หัวแตกแล้วก็พกช้ำดำเขียวนิดหน่อย" เธอบอกกับบิดาเสียงสั่น "แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมลูกถึงอยู่ในสภาพแบบนี้?" สันติยังคงถามต่อด้วยความอยากรู้ ธารธารามองหน้าบิดานิ่งๆก่อนจะตอบคำถามของบิดาออกไป "มีคนคิดจะทำร้ายน้ำค่ะพ่อ พวกมันขับรถปาดหน้ารถของน้ำแล้วก็จะฉุดน้ำค่ะ.. ดีที่มีคนมาช่วยน้ำเอาไว้ได้ทัน"เธอตอบคำถามของบิดาเสียงสั่น เพราะเธอยังมีความรู้สึกตื่นกลัวกับเหตุการณ์ที่พึ่งจะผ่านมายังไม่หาย "
ตอนที่ 11 พบเจอกันอีกครั้ง 2/2 ภาคินขับรถมุ่งกลับเข้าตัวเมืองทันที เพื่อที่จะพาหญิงสาวไปส่งโรงพยาบาล ส่วนคนเจ็บ ก็เอาแต่กอดผ้าขนหนูเอาไว้แน่นด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา ภาคินมองด้วยความรู้สึกสงสาร ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้นี่ถ้าเขา กับคนสนิทไม่มาเจอเข้าเสียก่อนเขาก็ไม่อยากจะคิดเลยว่า ผู้หญิงตรงหน้าของเขานี้จะมีสภาพเป็นเช่นไร พวกมันอาจจะ ทำปู้ยี่ปู้ยำกับผู้หญิงแล้วฆ่าปิดปาก.. อย่างที่เป็นข่าวร้ายๆข่าว พอคิดมาถึงตรงนี้ก็พรานให้เขาอยากจะกลับไปกระทืบไอ้พวกเด่นสังคมพวกนั้นให้จมธรณีไม่ต้องได้ผุดไม่ต้องได้เกิดมาอีก.. ด้วยความ เร็วที่เขาขับไม่นานก็มาถึงโรงพยาบาล เขาลงจากรถแล้วเรียกให้ บุรุษพยาบาลเข้ามานำตัวหญิงสาวไปส่งห้องฉุกเฉินทันที "คุณบุรุษพยาบาลครับทางนี้มีคนเจ็บครับ!.."เขาเปิดประตูเรียกบุรุษพยาบาล ที่อยู่ตรงนั้นทันที บุรุษพยาบาลรีบเข็นรถเข็นไปรับตัวของธารธาราทันทีที่สิ้นเสียงของภาคินไม่กี่วินาทีธารธาราก็ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน โดยมีภาคินยืนรออยู่ด้านนอก เพื่อรอฟังข่าว.. จากนั้นก็มีพยาบาลเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน เขารีบเอ่ยถามทันที "คนเจ็บเป็นยังไงบ้างครับคุณพยาบาล?"เขาถามออกไป
ตอนที่ 10 พบเจอกันอีกครั้ง 1/2 หลังจากที่สั่งให้ผู้จัดการโรงแรมดูแล บิดาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภาคินกับคนสนิทก็ออกเดินทางกลับไร่ทันที โดยมี มาวินเป็นสาระถีให้กับผู้เป็นนาย "เจ้านายครับพรุ่งนี้เจ้านายจะมารับคุณท่านเองหรือจะให้ผมมารับครับ?"มาวินหันไปถามผู้เป็นนายทันทีที่รถมุ่งออกสู่ถนนนอกเมืองที่แสงไฟริมทางสลัว "เดี๋ยวฉันมารับคุณพ่อเอง" ภาคินกล่าวพลางมองออกไปนอกรถ ท่ามกลางความมืดสนิท อีกด้าน ณถนนเส้นเดียวกัน.. ธารธาราขับรถฝ่าความมืดบนถนนเส้นทางนอกเมืองมุ่งตรงไปอย่างไร่ธารธารา ที่เธอใช้เดินทางมาตั้งแต่เล็กจนโตโดยไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อยนิด เพราะปกติแล้วเส้นทางเส้นนี้เธอก็ใช้เดินทางระหว่างไร่กับในตัวเมืองอยู่แทบจะวันเว้นวัน.. เธอจึงขับรถฟังเพลงไปด้วยด้วยอารมณ์ที่ค่อนข้างจะผ่อนคลาย อีกอย่างช่วงเวลาทุ่มกว่าๆนี้มันก็ยังไม่ได้ดึกอะไรมากเธอจึงไม่ได้เร่งรีบถึงมันจะมืดและเงียบไปหน่อยก็เถอะแต่เพราะความเคยชินเธอจึงไม่มีความระวังและระแวง.. และในขณะที่เธอกำลังขับรถและฟังเพลงไปด้วยอยู่นั้นก็มีเสียงแตรถดังไล่หลังเธอมาด้วยความเร็วที่ค่อนข้างสูง แถมยังตบไฟสูงใส่เธอจนเธอต้องขมวดคิ้วด้วยความมึนงง? ปี