ตอนที่ 13 พ่อเลี้ยงแห่งไร่ภาคิน
เพราะเธอรู้ว่าถึงเธอจะพูดไปก็ไม่มีใครเห็นด้วยกับเธอที่เธอจะไปขอบคุณผู้มีพระคุณทั้งสองคนนั้นด้วยตัวเองเธอจึงปล่อยผ่านไปก่อน ค่อยไปหาโอกาสไปขอบคุณคนทั้งสองคนนั้นด้วยตัวเองทีหลัง ด้านภาคินและมาวินที่กำลังเดินออกมาขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าโรงพยาบาลของตัวเอง เมื่อทั้งสองขึ้นมานั่งอยู่บนรถแล้วมาวินจึงหันไปทางผู้เป็นนาย "เจ้านายไม่คิดที่จะบอกผู้หญิงคนนั้นหน่อยหรือครับ ?"เขาถาม "ไม่จำเป็น"ภาคินตอบ "ครับ"มาวินขานรับ จากนั้นคนทั้งสองก็ขับรถออกจากโรงพยาบาลตรงกับไปที่ไร่ของตัวเองทันที อีกด้านภายในห้องพักผู้ป่วย สันติ เมื่อเหลือบไปมองนาฬิกาติดผนัง ที่บอกเวลา เที่ยงคืนกว่าแล้ว เขาจึงหันไปเอ่ยกับภรรยาและบุตรสาวคนเล็ก ที่นั่งสัปหงกอยู่ที่โซฟา "คุณนาท! คุณกับลูกกลับไร่ไปพักผ่อนเถอะผมจะเฝ้ายัยน้ำอยู่ที่นี่เอง"นายสันติบอกกับภรรยา ปองภพที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามรีบเอ่ยเสนอตัว "คุณพ่อครับ คุณพ่อพาคุณแม่กับน้องเพลงกับไปพักผ่อนที่ไร่เถอะครับผมจะอยู่เฝ้าน้ำที่นี่เอง"เขารีบเสนอตัว เพลงพิณเบิกตากว้างทันทีเมื่อได้ยินว่าว่าที่พี่เคยจะอยู่เฝ้าพี่สาวเขาเธออยู่ที่นี่ด้วยตัวเองเธอจึงรีบเสนอตัวกับบิดาและมารดาทันที "พ่อเพลง จะอยู่เฝ้าพี่น้ำเป็นเพื่อนพี่ภพอยู่ที่นี่เองค่ะ เพลงเป็นห่วงพี่น้ำพี่ภพก็เป็นผู้ชาย เรื่องบางเรื่องพี่ภพอาจจะไม่เข้าใจเท่าผู้หญิงด้วยกันเอง"เธอรีบเสนอตัวแสดงออกมาว่าเป็นห่วงพี่สาว นายสันติชั่งคิดอยู่ชั่วครูก่อนจะพยักหน้าอนุญาติ "ก็ได้ลูกก็อยู่เป็นเพื่อน พี่เขาอยู่ที่นี่แหละ" สันติเออกับบุตรสาวคนเล็ก จากนั้นก็หันไปบอกบุตรสาวและว่าที่บุตรเขยก่อนที่จะพาภรรยากลับไร่ไปในทันที สุดท้ายก็เหลือเพียงธารธาราปองภพและก็เพลงพิณที่อยู่ในห้องพักคนไข้ เพลงพิณเดินมาหาพี่สาวที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้พลางเอ่ยถาม "พี่น้ำจะเข้าห้องน้ำหรือเปล่าคะ เพลงจะพาไป?"เธอถามด้วย น้ำเสียงอ่อนหวาน "ก็ดีเหมือนกัน" ธารธาราเอ่ยกับน้องสาว จากนั้นเพลงพิณก็เข้ามาพยุงพี่สาวโดยมีปองภพคอยพยุงคนรักอยู่อีกข้าง เมื่อส่งธารธาราเข้าห้องน้ำไปแล้ว เพลงพิณกับปองภพจึงหันมาสบตากัน ก่อนที่เพลงพิมพ์จะอดใจไม่ไหวเป็นผ่ายที่เอ่ยออกมาก่อน "ดูพี่ภพจะเป็นหัวพี่น้ำมากเลยนะคะ? "เธอถามชายหนุ่มเสียงตึง ปองภพปลายตามองหญิงสาวพลางกอดอกมองหลบตาไปทางอื่น โดยไม่ตอบคำถามของหญิงสาว เพลงพิณกำลังจะอ้าปากพูดอะไรต่อเสียงธารธารา ที่เปิดประตูออกมาก็ทำให้คนทั้งสองหันไปมองที่ประตูห้องน้ำพร้อมกัน ปองภพเป็นคนที่เดินเข้าไปหาคนรักเป็นคนแรก "ทำธุระ เสร็จแล้วหรือครับ?" เขาถามทางพยุงคนรักกลับไปยังเตียงนอนคนไข้โดยมีเพลงพิณยืนมองคนทั้งสองที่เดินห่างออกไป ด้วยแววตาลุ่มลึก ก่อนจะเดินตามคนทั้งสองไปยังโซฟากลางห้อง ธารธาราเมื่อเห็นน้องสาว ที่นั่งอยู่บนโซฟา เธอจึงหันไปเอ่ยกับน้องสาวด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง เพลงนอนเถอะไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอกพี่เองก็จะนอนเหมือนกันเธอบอก พลางหันมาหาคนรักที่กำลังห่มผ้าให้เธออยู่ด้วยเช่นเดียวกัน "พี่ภพก็ไปนอนเถอะค่ะ น้ำเองก็จะนอนเหมือนกันนี่ก็ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้พี่พบต้องไปทำงานอีก"เธอเอ่ยกับคนรักด้วยน้ำเสียงห่วงใย "ครับเดี๋ยวพี่จะไปลากโซฟาตัวยาวมานอนข้างๆเตียงของน้ำนะครับ"เขาพูดพลางเดินไปลากโซฟาอีกตัวที่ยาวเท่ากับความยาวของตัวเขามาวางเอาไว้ข้างเตียงของคนรักทันที โดยมีสายตาของเพลงพิณมองดูด้วยความรู้สึกขัดลูกหูลูกตา เธอพยายามมองไปยังว่าที่พี่เขย แต่ปองภพไม่ยอมหันกลับมามองเธอเลยแม้แต่นิดเดียวจนเธอต้องยอมแพ้ ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัว แล้วหลับตาลงด้วยความรู้สึกหงุดหงิด เช้าวันต่อมา ธารธาราลืมตาขึ้นมาพร้อมกับความปวดระบมตามร่างกาย แผลที่หน้าผากก็ทั้งตึงทั้งปวด จนเธอต้องเผลอทางออกมาเวลาพลิกตัว ทำเอาตองภพที่พึ่งจะลืมตาขึ้นมาถึงกลับรีบถามคนรักด้วยความเป็นห่วง "น้ำ..เป็นยังไงบ้างเจ็บตรงไหนปวดตรงไหนหรือเปล่า?"เขาถาม พลางจับไปตามแขน ตามขาที่มีบาดแผลฟกช้ำดำเขียวของคนรัก ด้วยน้ำเสียงห่วงใย "ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ น้ำแค่เผลอขยับตัวแรงไปหน่อยก็เลยเจ็บที่แผลนิดหน่อย" เธอต่อพรานส่งยิ้มให้กับคนรัก "พี่ภพไปทำงานเถอะค่ะ น้ำมีคุณพยาบาลอยู่เป็นเพื่อนแล้ว พี่ภพไม่ต้องเป็นห่วงน้ำหรอกค่ะ" เธอบอกเมื่อมองเวลาใกล้จะ 6 โมงเช้าแล้ว กว่าเขาจะขับรถกลับคอนโดไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกก็ต้องใช้เวลาอีกเป็นชั่วโมง "ครับถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่กลับก่อนนะครับเลิกงานแล้วพี่จะรีบมาหา"เขาบอกพลางจับมือคนรักเอาไว้ เพลงพิณเมื่อได้ยินเสียงของพี่สาวกับว่าที่พี่เขยคุยกันเธอก็รีบลืมตาขึ้นมาทันที เมื่อรู้ว่าปองภพกำลังจะกลับไปอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน เธอเองก็รีบบอกกับพี่สาว ว่าเธอเองก็จะต้องกลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานเช่นเดียวกัน "พี่น้ำคะ น้ำเองก็จะต้องกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไปทำงานเหมือนกันพี่น้ำอยู่กับคุณพยาบาลได้ไหมคะ?"เธอถาม "ได้สิ..เพลงไปทำงานเถอะพี่อยู่กับคุณพยาบาลได้"เธอบอกกับน้องสาวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เพราะเธอไม่อยากให้ใครมาเสียการเสียงานเพราะเธอเธออยู่ของเธอได้ "งั้นพี่ไปนะครับ"ปองภพพูดพลางก้มลงไปจูบที่หน้าผากเกลี้ยงเกลาของคนรัก ด้วยความรักใคร่ก่อนจะกล่าวลาแล้วออกจากห้องไป เพลงเองก็ต้องไปแล้วค่ะพี่น้ำเพลงพินนี่บอกลาพี่สาวแล้วเดินตามหลังของปองภพออกไปติดๆด้วยความเร่งรีบ ธารธาราขมวดคิ้วพึมพำตามหลังน้องสาวออกไป "ไม่เห็นจะต้องรีบขนาดนั้นเลยนี่" เธอพึมพำตามหลังคนเป็นน้องสาวออกไปพลางส่ายหัวด้วยความเอ็นดู ณไร่ชาภาคิน "นายครับทางตำรวจโทรมาขอสอบปากคำเจ้านายกับผมเพิ่มครับ"มาวินรีบรายงานผู้เป็นนายทันทีที่เจ้านายลงมาจากห้อง "ทำไม?"เขาถาม "พวกมันบอกว่าคนที่ยิงมันเป็นเจ้านาย" "หึ! ฉันไม่เป่าหัวกระบาลมันก็เป็นบุญของมันแล้ว"เขาเอ่ยพลางเดินไปนั่งที่ห้องรับแขกแล้วสั่งกาแฟกับแม่บ้านดื่มอย่างใจเย็น "ผมก็ว่าอย่างนั้นล่ะครับเรื่องมันจะได้จบ จะว่าไปเราไม่น่าปล่อยให้พวกมันมีชีวิตอยู่ต่อเลยนะครับ"มาวินเองก็เห็นด้วย "ช่างเถอะบอกตำรวจไปว่าเดี๋ยวฉันเข้าไป" เขาบอก "แต่คุณตำรวจนัดให้เราไปโรงพยาบาลสอบปากคำพร้อมกัน กับผู้บาดเจ็บนะครับ"มาวินเอ่ย เขานิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะขานรับ "อืม.." เมื่อ เจ้านายตกลงแล้วเขาจึงออกไปสั่งให้คนรถเตรียมรถออกมารอ เขากับเจ้านายทันทีโดยมีภาคินมองตามคนสนิทที่ เดินออกจากบ้านไปด้วยสายตาที่ว่างเปล่า เขาไม่ได้รู้สึกหนักใจกับเรื่องนี้เพราะคนพวกนั้น มันสมควรที่จะโดนเขายิงทิ้งไปตั้งแต่แรกแล้ว อีกอย่าง ตำรวจทั้งโรงพักก็รู้จักเขาดี เพราะเขาเป็นผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ของโรงพักและหน่วยงานต่างๆ ของเมืองเชียงใหม่ทั่วทั้งจังหวัด เพียงแต่ว่าเมื่อวานเขาไม่ได้ไปปรากฏตัวเท่านั้นเอง เรื่องมันก็เลยยืดยาวแบบนี้ เมื่อคิดแบบนั้น ก็พลันให้เขานึกไปถึงผู้หญิงที่เขาช่วยเหลือเอาไว้ พรางพึมพำออกมาอย่างไม่รู้ตัว "ถูกคนโดนปองร้ายแบบนี้ว่าสาหัสมากแล้ว ถ้าเธอได้รู้ว่า ผู้ชายที่เธอกำลังจะแต่งงานด้วยมีลูกมีเมียอยู่แล้วเธอจะยังรับมันได้อยู่ไหมนะสาวน้อย" เขาพึมพำพรางมองออกไปยังไร่ชาที่กว้างใหญ่ของตัวเองด้วยแววตาที่ว่างเปล่า หลังจากที่เขาดื่มกาแฟเสร็จแล้ว เขาก็ออกจากบ้านไปดูงานที่ไร่ก่อนจะออกไปให้ปากคำกับทางตำรวจที่ โรงพยาบาล ณโรงพยาบาล ธารธารากำลังนั่งมองพยาบาลทำความสะอาดบาดแผลให้อยู่บนเตียงคนไข้ ประตูก็ถูกเปิดเข้ามาตามมาด้วยภาคินกับมาวินที่เดินเข้ามา ธารธารามองคนทั้งสอง พรางยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เธอคิดว่าเธอจะไม่ได้เจอหน้าของผู้มีพระคุณทั้งสองคนของเธอมาที่นี่อีกแล้ว เธอยังไม่ได้ขอบคุณเขาทั้งสองคนอย่างเป็นกิจจะลักษณะเลย เธอจึงหันไปส่งยิ้มให้คนทั้งสองด้วยความดีใจพลางเอ่ยถาม "ฉันนึกว่าพวกคุณสองคุณจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว?" มาวินยิ้มน้อยๆให้กับคนถามก่อนจะตอบคำถามของเธอออกไป "พอดีว่าตำรวจนัดให้ พวกผมมาให้ปากคำที่นี่ครับ" มาวินตอบคำถามของหญิงสาว "อ๋อ..เหรอคะ?"เธอพยักหน้าน้อยๆ รับรู้ พลางมองไปยังอีกคนที่นั่งลงบนโซฟาอย่างไม่ใส่ใจผู้ใด ในใจเธอคิดว่าผู้ชายคนนี้ช่างเย็นชา ซะเหลือเกิน แต่ก็เพราะเขาที่ทำให้เธอรอดมาจากไอ้พวกเดนนรกพวกนั้นมาได้เธอจึงขอบคุณเขาจากใจจริง "น้ำขอขอบคุณพวกคุณทั้งสองคนนะคะ ที่ช่วยเหลือน้ำเอาไว้ชีวิตนี้ถ้าไม่ได้พวกคุณ น้ำคงไม่มีหน้าอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป" เธอหันไปกล่าวกับชายทั้งสองด้วยน้ำเสียงที่ซาบซึ้ง "ไม่เป็นไรครับ ไม่ว่าใครที่ได้เจอกับสถานการณ์อย่างที่พวกผมเจอผมเชื่อว่าไม่มีใครที่จะนั่งดูอยู่เฉยๆแน่ครับ"มาวินกล่าว "ยังไงน้ำก็ขอขอบคุณคุณทั้งสองอยู่ดีค่ะ น้ำยังไม่รู้จักชื่อคุณทั้งสองเลย?"เธอถามมาวิน แต่สายตากลับมองไปยังชายอีกคนที่นั่งหน้านิ่งอยู่บนโซฟา "ผมมาวินครับนั่นเจ้านายผมภาคินครับ"มาวินตอบคำถามของหญิงสาวเพียงชื่อ ของตัวเองกับเจ้านายแต่ไม่ได้บอกว่าเป็นใครมาจากไหน "ค่ะคุณมาวินคุณภาคิน" เธอเรียกชื่อคนทั้งสองด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม ส่วนคนที่ถูกแนะนำชื่อกลับนั่งนิ่งไม่พูดจาใดๆ ออกมาแม้แต่คำเดียว จนหญิงสาวแอบคิดในใจไม่ได้ว่าเขาเป็นพวกต่อต้านสังคมหรือเปล่า ไม่นาน ต่อจากนั้นนายตำรวจคนเดิมที่เข้ามาสอบปากคำเธอครั้งที่แล้วก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับ นายตำรวจอีก 2 คนเดินตามหลังเข้ามา เมื่อทุกคนทักทายกันจบแล้วนายตำรวจจึงได้ขอสอบปากคำคนทั้ง 3 เพิ่มอีกครั้ง อย่างละเอียด จนได้ข้อมูลที่น่าพอใจนายตำรวจจึงได้ขอตัวกลับ เมื่อนายตำรวจกลับไปแล้วมาวิน ก็ขอตัวไปทำธุระ โดยที่เขาขอให้เจ้านายรออยู่ที่นี่ไปก่อนเดี๋ยวเขาจะรีบกลับมารับ "เจ้านายครับผมไปทำธุระให้เจ้านายข้างๆโรงพยาบาลนี้แป๊บนึงนะครับเจ้านายรอผมอยู่ตรงนี้นะครับอย่าเพิ่งไปไหน" เมื่อตำรวจออกไปแล้วมาวินจึงหันมาพูดกับผู้เป็นนาย "รีบไปรีบกลับ" "ครับนาย" เมื่อได้รับอนุญาตมาวินก็รีบออกจากห้องไปทันทีปล่อยให้เจ้านายของเขาอยู่กับหญิงสาวที่พวกเขาได้ช่วยเหลือเอาไว้ ในห้องกันเพียง 2 คน เมื่อทุกคนออกจากห้องไปหมดแล้วภาคินจึงหันมามองหญิงสาวที่กำลังมองเขาอยู่เช่นเดียวกันพลางขมวดคิ้วถาม "คุณมองหน้าผมทำไมอยากจะรู้อะไรก็ถามออกมา?" เขาหันไปพูดกับหญิงสาวที่นั่งมองเขาอยู่แต่ไม่กระพริบอยู่บนเตียงคนไข้ ธารธาราสะดุ้งเล็กน้อยไม่คิดว่าเขาจะรู้ทันความคิดของเธอ "คุณคือเจ้าของไร่ภาคินหรือคะ?" เธอถาม อย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะเธอคิดมาตลอดว่าเจ้าของไร่ภาคินคงจะเป็นชายวัยกลางคนหรือไม่ก็วัยเกษียณ เพราะไม่เคยได้ยินใครพูดถึงเจ้าของไร่ภาคินให้เธอฟังเลยสักครั้ง เพราะทุกคนต่างก็ไม่เคยเห็นหน้าของพ่อเลี้ยงภาคินเลยสักครั้ง ส่วนมากจะเห็นแต่ลูกน้องคนสนิทหรือไม่ก็เลขาส่วนตัวของเขา ทั้งๆที่ชื่อเสียงออกจะโด่งดังเป็นผู้มีอิทธิพลของภาคเหนือเลยก็ว่าได้แต่น้อยคนนักที่จะได้เห็นหน้าค่าตาพ่อเลี้ยงคนดังคนนี้ "ใช่"เขาตอบ คำตอบของผู้ชายดิบเถื่อนมาดเซอร์ตรงหน้าทำเอาเธอถึงกับ ตาเบิกกว้าง อย่างไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่เธอเดินชน 2 ครั้ง 2 คราวแถมยังเป็นคนที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้จะเป็นพ่อเลี้ยงคนดังของภาคเหนือ ไม่แปลกใจเลยที่นายตำรวจทั้ง 3 มีท่าทีเกรงใจเขาเอามากๆ ก็เพราะว่าเขาคือผู้ส่งอิทธิพลของภาคเหนือนี่เอง "คุณมีอะไรกับผมอีกหรือเปล่า?" ภาคินถามหญิงสาวพี่เอาแต่ มองหน้าเขาด้วยท่าทีตกใจจึงเอ่ยถาม "เปล่าๆไม่มีค่ะเธอรีบปฏิเสธ" " ว่าแต่คุณเถอะไม่รู้จริงๆหรือว่าไปมีเรื่องกับใครเอาไว้ ถึงได้ถูกสั่งเก็บแบบนี้?" เขาถามออกไปตรงๆโดยไม่รักษาน้ำใจของหญิงสาวเลยแม้แต่นิดเดียว ทำเอาคนถูกถามถึงกับหน้าเสีย เพราะคำถามที่ตรงไปตรงมาของเขา เธอส่ายหน้าน้อยๆพรางปฏิเสธเสียงอ่อน "น้ำไม่รู้จริงๆค่ะ" เธอไม่รู้จริงๆว่า เธอไปทำอะไรกับใครเอาไว้ถึงได้ถูกตามเก็บแบบนี้ "แล้วคู่หมั้นของคุณล่ะ?" เขาถาม ธารธารามองหน้าคนถามด้วยความไม่เข้าใจ "คุณหมายความว่ายังไงคะ?" เธอถาม "คุณอาจจะไม่เคยมีปัญหากับใครแต่คู่หมั้นของคุณล่ะเคยมีปัญหากับใครหรือเปล่า?"เขาถามออกไปตรงๆ "ฉันถามพี่ภพแล้ว พี่ภพบอกว่าเขาเองก็ไม่ได้มีปัญหากับใครจะมีก็แค่ปัญหาเล็กๆน้อยๆ "เธอตอบอย่างไม่เต็มเสียงเพราะเธอเองก็ไม่ได้มั่นใจเท่าไหร่นัก ถึงคนรักของเธอจะเป็นคนสุภาพ พูดจาไพเราะแต่นักธุรกิจยังไงเสียก็ต้องมีเรื่องขัดแข้งขัดขากันบ้างไม่มากก็น้อยเธอคิด ภาคินเมื่อได้ฟังคำตอบของหญิงสาว เขาเพียงแต่พยักหน้าแล้วยกยิ้มที่มุมปาก ถ้าให้เขาเดาเรื่องที่ผู้หญิงคนนี้ถูกตามอุ้มแบบนี้ นายปองภพมีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน ถ้าไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เพียงแต่เขาไม่อยากจะเข้าไปยุ่งให้มากความ ธารธาราเมื่อตอบคำถามของคนตรงหน้าไปแล้วเธอเองก็ตกอยู่ในความคิดของตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่าทำไมเธอถึงถูกคนตาม ทำไมอย่างนี้ เธอไปทำอะไรให้ใครไม่พอใจตอนไหน เธอนอนคิดทั้งวันทั้งคืนก็คิดไม่ออก จนเธอประสาทจะกินหัวอยู่แล้ว ภาคินเองก็อดที่จะสงสารหญิงสาวไม่ได้ เพราะคำสารภาพของไอ้เดนนรกทั้งสามคนนั้น ถ้ามันทำสำเร็จผู้หญิงคนนี้คงจะตกนรกทั้งเป็นหรือไม่ก็อาจจะกลายเป็นศพอยู่ในพงหญ้าใดพงหญ้าหนึ่ง เพราะคนพวกนั้น เป็นชนกลุ่มน้อยที่ลักลอบมาทำธุรกิจผิดกฎหมายในไทยพวกมันจึงไม่มีความแตกต่างจากคนไทย ถ้ายังตามหาผู้จ้างวานไม่พบ ผู้หญิงคนนี้ก็ยังคงตกอยู่ในอันตราย "แล้วคุณจะทำยังไงต่อ เพราะพวกนั้นเองก็ไม่เคยเห็นหน้าผู้ว่าจ้าง ส่วนคนที่ประสานงานกับพวกมันก็หนีกลับประเทศของมันไปแล้ว?" ภาคินถามทางมองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้หน้าซีดแทบจะไม่มีสีเลือดด้วยความสงสาร เพราะกว่าตำรวจจะจับได้ผู้หญิงคนนี้คงจะอยู่กับความระแวงจนไม่มีความสุขเป็นแน่ "ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน"เธอตอบ ด้วยน้ำเสียงที่หดหู่ ที่อยู่ดีๆก็ มีคนคิดที่จะฆ่าเธอเสียอย่างนั้น ต่อจากนี้ไปเธอคงะอยู่กับความกลัวและความระแวงเป็นแน่ ตราบใดที่ยังหาสาเหตุและคนที่คิดจะทำร้ายเธอยังไม่เจอตอนที่ 14 คนในมุมมืด ตราบใดที่ยังหาสาเหตุและคนที่คิดจะทำร้ายเธอยังไม่เจอ เธอก็คงจะอยู่กับความระแวงต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะรู้ตัวคนที่ต้องการจะทำร้ายเธอ ภาคินมองใบหน้าที่ซีดเซียวของหญิงสาวก็นึกสงสาร ก็อดที่จะ แนะนำออกไปไม่ได้ "ช่วงที่ตำรวจยังหาคนบงการยังไม่เจอคุณก็ควรจะหาบอดี้การ์ดหรือผู้คุ้มกันมาคอยตามดูแล เวลาไปไหนมาไหนก็คงจะดี"เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ธารธาราพยักหน้ารับด้วยสีหน้าที่คิดหนัก เพราะเธอไม่รู้ว่าจะไปหาบอดี้การ์ดมือดีมาจากไหนเพราะตอนนี้เธอไม่ไว้ใจใครเลยสักคน คำพูดของนายตำรวจทำให้เธอระแวงคนรอบกายไปเสียหมดจนเธอนอนไม่หลับตลอดทั้งคืนแล้วยังมาวันนี้อีก "ฉันไม่รู้ว่าจะไปหาบอดี้การ์ดมือดีที่ไหน"เธอบอกด้วยน้ำเสียงหนักใจ ภาคินขมวดคิ้วถาม "คุณก็ลองคุยกับคู่หมั้นของคุณดูสิเผื่อเขาจะหามาให้คุณได้" ภาคินบอกกับหญิงสาว ธารธารานิ่งคิดไม่พูดอะไร ทำให้ภาคินอดที่จะสงสัยไม่ได้เมื่อเขาเสนอให้เธอไปบอกคู่หมั้นของเธอหาผู้คุ้มกันมาให้ เขาจึงเอ่ยถามออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ "คุณมีอะไรปิดบังผมกับตำรวจเอาไว้หรือเปล่า" ภาคินถามหญิงสาวที่เอาแต่นั่งก้มหน้าหลบตาเขาไม่พูดไม่จาเหมือนคนที่กำลังคิดหนั
ตอนที่ 15 คาหนังคาเขา เธอใช้มือดันประตูเปิดกว้างออกแล้วแทรกตัวเข้าไปข้างในห้อง ก่อนที่เธอจะยืนตัวแข็งอยู่กับที่ มองภาพตรงหน้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง แกร่ง!! เสียงกุลแจรถที่อยู่ในมือหล่นลงพื่นเสียงดังจนทำให้ชายหญิงที่ กำลังนัวเนียกันอยู่บนโต๊ะทำงานสะดุ้งแล้วหันกลับมามองยังต้นเสียงทันที.. "น้ำ!!"เสียงคนทั้งสองอุทานขึ้นพร้อมกัน "น้ำ!.." โดยเฉพาะปองภพที่อุทานออกมาจนสุดเสียงพร้อมกับลุกออกมาจากตัวของผู้หญิงที่มีสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ยืดตัวตรงแล้วลนลานรีบรูดซิบกางเกงด้วยความเร่งรีบ ด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด ธารธารายืนมองคนทั้งสอง ด้วยความตื่นตระหนกยิ่งเมื่อเธอได้เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังนัวเนียอยู่กับคู่หมั้นของเธอ เธอก็ยิ่งตกใจจนหน้าซีดตัวสั่นเมื่อผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นไกลแต่เป็นเพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียวของเธอ...รุ้งระดา "น้ำ!!น้ำครับฟังพี่ก่อน.. มันไม่ได้เป็นอย่างที่น้ำเห็นนะครับ"ปองภพรีบลนลานเข้าไปหาคนรัก .....? ธารธาราถอยหลังออกไปหลายก้าวด้วยความรังเกียจ พรางมองคนทั้งสองด้วยแววตาเจ็บปวด จนเธอพูดอะไรไม่ออกเพราะ ความเสียใจมันจุกแน่นในอกจนเธอไม่อาจจะเอ่ยเป็นเสียงออกมาได้ น้ำตาเม็ด
ตอนที่ 16 ความจริงที่แสนเจ็บปวด ยิ่งเห็นสภาพของผู้หญิงทั้งสองที่ตบตีกันแย่งคู่หมั้นของตัวเองเธอก็ยิ่งรับมันไม่ได้จนอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ ด้านปองภพเองก็หงุดหงิดจนแทบคลั่ง แทนที่เขาจะได้ตามง้อคนรัก แต่กลับต้องมาแยกผู้หญิงลับๆของตัวเองออกจากกัน แทนที่เขาจะได้ตามง้อและอธิบายเรื่องที่มันเกิดขึ้นให้กับคนรักและปรับความเข้าใจกัน แต่กลับต้องมาห้ามรุ้งรดากับเพลงพิณทะเลาะกันแทน เขาร้อนใจขึ้นมาทันที่ เมื่อเห็นว่าคนรักกำลังค่อยๆถอยหลังออกจากห้องไปทีละก้าวด้วยท่าทีเจ็บปวด ปองภพเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน ถึงเขาจะมีผู้หญิงอยู่รอบกาย แต่ผู้หญิงที่เขาให้ใจก็มีเพียงแค่ธารธาราคู่หมั้นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "หยุดๆ" เขาใช้กำลังที่เหนือกว่าผู้หญิงทั้งสอง จับทั้งสองแยกออกจากกันแล้วผลักไปคนละทางด้วยความโกรธ จนหญิงสาวทั้งสองกระเด็นกันไปคนละทิศคนละทางด้วยความตกใจ ว้าย!!! โอ้ย!!! ทั้งสองอุทานออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ ส่วนปองภพเองก็ไม่ได้ใส่ใจหญิงสาวทั้งสองอีก เขาก้าวขาไวๆเข้าไปหาคู่หมั้นทันทีด้วยความร้อนใจ "น้ำ!.น้ำฟังพี่ก่อน!.."เขาทะล่ำทะลักเรียกคนรักที่กำลังจะออกจากห้องไปด้วยน้ำเสียงร้อนรนใจ ธารธารา
ตอนที่ 17 แย่งชิงมือเรียวยาวลูบแผ่นหลังบอบบางของคนที่ซบหน้าร้องไห้อยู่กับอกของเขาด้วยความสงสาร เห็นแล้วก็พรานให้นึกถึงตัวเองในวันนั้นวันที่เขาสูญเสียคนรักให้กับผู้ชายคนอื่นไป เขาคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้ดีว่ามันเจ็บปวดและทรมานมากแค่ไหน สภาพของเขาในวันนั้นคงจะไม่ต่างกันกับผู้หญิงคนนี้ในวันนี้มาวินเองก็แอบมองผู้เป็นนายผ่านกระหจกมองหลังเป็นระยะๆ เป็นบางครั้ง ภาคินเองก็รู้ว่าคนสนิทกำลังแอบมองเขาอยู่เขาจึงจงใจมองกลับด้วยแววตาคำถาม ทำเอามาวินรีบหลบสายตาของผู้เป็นนาย พัลวันจนไม่กล้าที่จะแอบมองอีกอีกทางด้านของปองภพและผู้หญิงของเขาอีกสองคนก็กำลังตกอยู่ในความวุ่นวายปองภพเมื่อตามคนรักไม่ทันก็กลับขึ้นมาณห้องทำงานของตัวเอง ก็เห็นว่ามีพนักงานหลายคนกำลังมองไปที่ห้องทำงานของเขาเป็นตาเดียวกัน และทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามาในห้องภาพที่เห็นก็คือผู้หญิง 2 คนกำลัง ฉุดกระชากลากถูกันอยู่บนพื้นด้วยสภาพที่ผมเผ้ารุงรัง เขามองผู้หญิงทั้งสองของเขาด้วยความรู้สึกหงุดหงิดก่อนจะสั่งให้คนที่ตามเขามาจับผู้หญิงของเขาแยกออกจากกัน"ไปจับแยกออกจากกันสิ"เขาหันไปสั่งเสียงกร่าว"ครับ"ชายใส่สูทที่ตามหลังเขามารีบเข้าไปจับผู้
ตอนที่ 18 ช่วยเหลือ เมื่อภาคินพาคนที่พึงจะเจอเรื่องหนักๆ เข้ามาในบ้านเขาก็จับให้เธอนั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก พลางหันไปสั่งความกับแม่บ้านที่เดินมาต้อนรับผู้เป็นนาย "พ่อเลี้ยงจะดื่มน้ำอะไรดีคะ?"ละอองเดินเข้ามาถามผู้เป็นนาย ฟางมองไปยังหญิงสาวที่นั่งซบน่าอยู่กับฝ่ามือของตัวเองด้วยความอยากรู้ "น้ำเปล่า 2 แก้วน้ำส้มแก้วนึง" เขาสั่ง "ค่ะ" แม่บ้านสาวรับคำเสียงหวานก่อนจะกลับเข้าห้องครัวไป นำน้ำเขามาเสริฟเจ้านายกับแขกสาว เมื่อแม่บ้านสาววางแก้วน้ำลงบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เขาจึงหันไปออกคำสั่งกับแม่บ้านสาวอีกที "ละอองไปทำความสะอาดห้องที่ติดกับห้องฉันที"เขาสั่งแม่บ้านพลางหยิบแก้วน้ำมายื่นให้กับหญิงสาว แม่บ้านสาวพยักหน้ารับและมองคนที่เจ้านายพามาด้วยแววตาอยากรู้ แต่พอได้สบกับดวงตาคมของผู้เป็นนายแม่บ้านสาวก็รีบถอยกรูดออกไปจากตรงนั้นทันที ด้วยความคาใจ ภาคินหันกลับมามองหญิงสาวที่ทำตัวเหมือนผีดิบพลางยื่นแก้วน้ำในมือให้ "ดื่มน้ำก่อนคุณ" ธารธารายื่นมือไปรับแก้วน้ำในมือของภาคินเอามาดื่ม พลางเอ่ยขอบคุณเสียงแผ่ว "ขอบคุณค่ะ" ด้านแม่บ้านสาวที่กลับเข้ามาในห้องครัวก็วางถาดในมือลงด้วยความไม่พอใจ "แม่รู้ไ
ตอนที่ 1พ่อเลี้ยงภาคิน .....เรื่องนี่เป็นเรื่องของภาคินนัหธุรกิจหนุ่มชื่อดัง อดีตคู่หมั้นของไอรดา ที่ถูกน้องสาววางยาให้ไปนอนกับมาเฟียอิตาลี แล้วแย่งคู่หมั้นของพี่สาวมาครอง นั่นก็คือพ่อเลี้ยงภาคิน จากเรื่อง โซ่เกี่ยวใจมาเฟียร้าย ...... ในห้องที่เงียบสงบท่ามกลางสายลมที่พัดผ่านหน้าต่างที่เบิดค้างเอาไว้เข้ามาอย่างแผ่วเบา!เจ้าของร่างส่วนสูง 185 กำลังนั่งเอนหลังพิงพนักเก้าอี้มองออกไปยังนอกหน้าต่าง มองดูไร่ชากว่าพันไร่ที่เขียวชะอุ่มจนสุดลูกหูลูกตาท่ามกลางขุนเขาที่ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก! กว่า 5 ปีแล้วที่ภาคินหนีมาอยู่ที่นี่!มาเป็นพ่อเลี้ยงภาคินของไร่ภาคิน!ที่ใครๆต่างก็กร่าวถึง! ใบหน้าหล่อเหลาปกคลุมไปด้วยไรหนวดเขียวครึ้มจนดูดุดันและน่าเกรงขาม!.แต่กระนั้นความดุดันก็มิอาจปิดบังความหล่อเหลาอันทรงเสน่ห์ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่งของพ่อเลี้ยงภาคินได้เลยแม้แต่นิดเดียว ภาคิน..จากนักธุรกิจระดับแนวหน้าของประเทศผู้มีจิตใจอ่อนโยนมองโลกในแง่ดี!.เปลี่ยนไปในทันทีเมื่อถูกคนที่รักหักหลังจนต้องกลายมาเป็นคนเย็นชาและไร้หัวใจ!..ณในที่ไร่แห่งนี้! ไร่ชาภาคิน ภาคินหลับตาลงช้าๆมือขวาถือถ้วยกาแฟที่ยังมีควันลอยกรุนขึ้นจ
ตอนที่ 2 หมายตาพอเลี้ยงภาคิน เขาเรียกให้เลขาให้เข้ามาพบ ไม่ถึงอึดใจประตูห้องทำงานของภาคินก็ถูกเลขาส่วนตัวเปิดเข้ามาพร้อมกับคำถามตามมาติดๆ "เจ้านายมีอะไรจะสั่งผมหรือครับ?" "นายไปพบท่านผู้ว่ากับบุตรสาวแทนฉันทีบอกว่าฉันไม่อยู่!"เพราะก่อนหน้านี้เขาได้ถามพนักงานชายคนนั้นแล้วว่าได้บอกสองพ่อลูกนั้นไปหรือเปล่าว่าเขาอยู่ที่นี่!พนักงานชายคนนั้นตอบกลับมาว่าไม่ได้บอกเขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องออกไปพบท่านผู้ว่ากับบุตรสาว "ครับนาย" มาวินรับคำของผู้เป็นนายก่อนจะหันหลังให้แล้วเดินออกไปพบแขกผู้ที่มาขอพบผู้เป็นนายของพวกตน ท่านผู้ว่าทรงกลดที่วันนี้ไปธุระมาแล้วนึกขึ้นได้ว่าตัวเองอยากจะสานสัมพันธ์กับพ่อเลี้ยงภาคินแห่งไร่ภาคินจึงได้พาบุตรสาวแวะเข้ามาทำความรู้จักและหวังในใจเอาไว้ลึกๆด้วยว่าบุตรสาวของตนจะไปต้องตาต้องใจพ่อเลี้ยงคู่เคร่งขรึมคนนี้ได้บ้าง เกศินีเองก็พึงพอใจกับอาณาจักรของไร่ภาคินอยู่ไม่น้อย!เพราะที่นี่ทั้งใหญ่และอู้ฟู่สมกับเป็นไร่ชาระดับต้นๆของภาคเหนือ!ของประเทศ ที่นี่มีทั้งโฮมสเตย์แบบผสมผสานอยู่กว่าร้อยหลังแถมแต่ละหลังก็ดูงดงามเหมือนกับสรวงสวรรค์ก็ไม่ปาน ไหนจะร้านอาหารและ coffee shop แบบครบ
ตอนที่ 3 ผู้ชายน้ำแข็ง หลายวันผ่านไป!เกศินีก็อันเชิญตัวเองมาเป็นแขกของไร่ภาคิน อีกครั้ง!หวังว่าจะมีสักครั้งที่จะได้เจอหน้าเจ้าของไร่ภาคินแห่งนี้ ภาคินที่กำลังกลับจากไร่เพื่อเข้าออฟฟิศก็เจอกับหญิงสาวแปลกหน้าที่กำลังมองมาที่เขาด้วยแววตาหยาดเยิ้มมุมปากแย้มยิ้มเล็กน้อยๆมองมายังเขาด้วยตาไม่กระพริบจนเขานึกไม่ชอบใจ เกศินีที่กำลังสั่งกาแฟกับพนักงาน ก็บังเอิญเหลือบไปเห็นชายหนุ่มตัวสูง ใบหน้าหล่อเหลากำลังเดินผ่านไปก็ถึงกับตะลึง ถึงจะหล่อแบบดิบๆ แต่ก็ยังหล่ออยู่ดีในสายตาของเธอ ชายผู้นั้นเดินนำพนักงานชายที่หอบเอกสารเต็มไม้เต็มมือ เดินไปทางสำนักงานใหญ่ เกศินีเกิดความสงสัยในตัวของชายผู้นั้น จึงได้เอ่ยถามกับพนักงานชายที่ยืนรอรับออเดอร์ของเธออยู่ด้วยความอยากรู้จนตัวสั่น "น้อง..ผู้ชายที่เดินผ่านไปเมื่อกี้ใครหรอ?" พนักงานชายมองตามหลังของคนทั้ง 3 ที่พึ่งเดินผ่านไป แล้วหันมายิ้มให้กับลูกค้าสาวสวยแล้วเอ่ยตอบ "อ้อ..คนที่เดินนำหน้าเหรอครับ?" "ใช่.คนนั้นแหละ" "นั่นคือนายใหญ่ของพวกเราเองครับ"พนักงานขายตอบยิ้มๆ ???... คำตอบของพนักงานชายทำเอาเกศินีถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ด้วยความตื่นเต้น! "เจ้าของไรภ
ตอนที่ 18 ช่วยเหลือ เมื่อภาคินพาคนที่พึงจะเจอเรื่องหนักๆ เข้ามาในบ้านเขาก็จับให้เธอนั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก พลางหันไปสั่งความกับแม่บ้านที่เดินมาต้อนรับผู้เป็นนาย "พ่อเลี้ยงจะดื่มน้ำอะไรดีคะ?"ละอองเดินเข้ามาถามผู้เป็นนาย ฟางมองไปยังหญิงสาวที่นั่งซบน่าอยู่กับฝ่ามือของตัวเองด้วยความอยากรู้ "น้ำเปล่า 2 แก้วน้ำส้มแก้วนึง" เขาสั่ง "ค่ะ" แม่บ้านสาวรับคำเสียงหวานก่อนจะกลับเข้าห้องครัวไป นำน้ำเขามาเสริฟเจ้านายกับแขกสาว เมื่อแม่บ้านสาววางแก้วน้ำลงบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เขาจึงหันไปออกคำสั่งกับแม่บ้านสาวอีกที "ละอองไปทำความสะอาดห้องที่ติดกับห้องฉันที"เขาสั่งแม่บ้านพลางหยิบแก้วน้ำมายื่นให้กับหญิงสาว แม่บ้านสาวพยักหน้ารับและมองคนที่เจ้านายพามาด้วยแววตาอยากรู้ แต่พอได้สบกับดวงตาคมของผู้เป็นนายแม่บ้านสาวก็รีบถอยกรูดออกไปจากตรงนั้นทันที ด้วยความคาใจ ภาคินหันกลับมามองหญิงสาวที่ทำตัวเหมือนผีดิบพลางยื่นแก้วน้ำในมือให้ "ดื่มน้ำก่อนคุณ" ธารธารายื่นมือไปรับแก้วน้ำในมือของภาคินเอามาดื่ม พลางเอ่ยขอบคุณเสียงแผ่ว "ขอบคุณค่ะ" ด้านแม่บ้านสาวที่กลับเข้ามาในห้องครัวก็วางถาดในมือลงด้วยความไม่พอใจ "แม่รู้ไ
ตอนที่ 17 แย่งชิงมือเรียวยาวลูบแผ่นหลังบอบบางของคนที่ซบหน้าร้องไห้อยู่กับอกของเขาด้วยความสงสาร เห็นแล้วก็พรานให้นึกถึงตัวเองในวันนั้นวันที่เขาสูญเสียคนรักให้กับผู้ชายคนอื่นไป เขาคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้ดีว่ามันเจ็บปวดและทรมานมากแค่ไหน สภาพของเขาในวันนั้นคงจะไม่ต่างกันกับผู้หญิงคนนี้ในวันนี้มาวินเองก็แอบมองผู้เป็นนายผ่านกระหจกมองหลังเป็นระยะๆ เป็นบางครั้ง ภาคินเองก็รู้ว่าคนสนิทกำลังแอบมองเขาอยู่เขาจึงจงใจมองกลับด้วยแววตาคำถาม ทำเอามาวินรีบหลบสายตาของผู้เป็นนาย พัลวันจนไม่กล้าที่จะแอบมองอีกอีกทางด้านของปองภพและผู้หญิงของเขาอีกสองคนก็กำลังตกอยู่ในความวุ่นวายปองภพเมื่อตามคนรักไม่ทันก็กลับขึ้นมาณห้องทำงานของตัวเอง ก็เห็นว่ามีพนักงานหลายคนกำลังมองไปที่ห้องทำงานของเขาเป็นตาเดียวกัน และทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามาในห้องภาพที่เห็นก็คือผู้หญิง 2 คนกำลัง ฉุดกระชากลากถูกันอยู่บนพื้นด้วยสภาพที่ผมเผ้ารุงรัง เขามองผู้หญิงทั้งสองของเขาด้วยความรู้สึกหงุดหงิดก่อนจะสั่งให้คนที่ตามเขามาจับผู้หญิงของเขาแยกออกจากกัน"ไปจับแยกออกจากกันสิ"เขาหันไปสั่งเสียงกร่าว"ครับ"ชายใส่สูทที่ตามหลังเขามารีบเข้าไปจับผู้
ตอนที่ 16 ความจริงที่แสนเจ็บปวด ยิ่งเห็นสภาพของผู้หญิงทั้งสองที่ตบตีกันแย่งคู่หมั้นของตัวเองเธอก็ยิ่งรับมันไม่ได้จนอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ ด้านปองภพเองก็หงุดหงิดจนแทบคลั่ง แทนที่เขาจะได้ตามง้อคนรัก แต่กลับต้องมาแยกผู้หญิงลับๆของตัวเองออกจากกัน แทนที่เขาจะได้ตามง้อและอธิบายเรื่องที่มันเกิดขึ้นให้กับคนรักและปรับความเข้าใจกัน แต่กลับต้องมาห้ามรุ้งรดากับเพลงพิณทะเลาะกันแทน เขาร้อนใจขึ้นมาทันที่ เมื่อเห็นว่าคนรักกำลังค่อยๆถอยหลังออกจากห้องไปทีละก้าวด้วยท่าทีเจ็บปวด ปองภพเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน ถึงเขาจะมีผู้หญิงอยู่รอบกาย แต่ผู้หญิงที่เขาให้ใจก็มีเพียงแค่ธารธาราคู่หมั้นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "หยุดๆ" เขาใช้กำลังที่เหนือกว่าผู้หญิงทั้งสอง จับทั้งสองแยกออกจากกันแล้วผลักไปคนละทางด้วยความโกรธ จนหญิงสาวทั้งสองกระเด็นกันไปคนละทิศคนละทางด้วยความตกใจ ว้าย!!! โอ้ย!!! ทั้งสองอุทานออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ ส่วนปองภพเองก็ไม่ได้ใส่ใจหญิงสาวทั้งสองอีก เขาก้าวขาไวๆเข้าไปหาคู่หมั้นทันทีด้วยความร้อนใจ "น้ำ!.น้ำฟังพี่ก่อน!.."เขาทะล่ำทะลักเรียกคนรักที่กำลังจะออกจากห้องไปด้วยน้ำเสียงร้อนรนใจ ธารธารา
ตอนที่ 15 คาหนังคาเขา เธอใช้มือดันประตูเปิดกว้างออกแล้วแทรกตัวเข้าไปข้างในห้อง ก่อนที่เธอจะยืนตัวแข็งอยู่กับที่ มองภาพตรงหน้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง แกร่ง!! เสียงกุลแจรถที่อยู่ในมือหล่นลงพื่นเสียงดังจนทำให้ชายหญิงที่ กำลังนัวเนียกันอยู่บนโต๊ะทำงานสะดุ้งแล้วหันกลับมามองยังต้นเสียงทันที.. "น้ำ!!"เสียงคนทั้งสองอุทานขึ้นพร้อมกัน "น้ำ!.." โดยเฉพาะปองภพที่อุทานออกมาจนสุดเสียงพร้อมกับลุกออกมาจากตัวของผู้หญิงที่มีสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ยืดตัวตรงแล้วลนลานรีบรูดซิบกางเกงด้วยความเร่งรีบ ด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด ธารธารายืนมองคนทั้งสอง ด้วยความตื่นตระหนกยิ่งเมื่อเธอได้เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังนัวเนียอยู่กับคู่หมั้นของเธอ เธอก็ยิ่งตกใจจนหน้าซีดตัวสั่นเมื่อผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นไกลแต่เป็นเพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียวของเธอ...รุ้งระดา "น้ำ!!น้ำครับฟังพี่ก่อน.. มันไม่ได้เป็นอย่างที่น้ำเห็นนะครับ"ปองภพรีบลนลานเข้าไปหาคนรัก .....? ธารธาราถอยหลังออกไปหลายก้าวด้วยความรังเกียจ พรางมองคนทั้งสองด้วยแววตาเจ็บปวด จนเธอพูดอะไรไม่ออกเพราะ ความเสียใจมันจุกแน่นในอกจนเธอไม่อาจจะเอ่ยเป็นเสียงออกมาได้ น้ำตาเม็ด
ตอนที่ 14 คนในมุมมืด ตราบใดที่ยังหาสาเหตุและคนที่คิดจะทำร้ายเธอยังไม่เจอ เธอก็คงจะอยู่กับความระแวงต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะรู้ตัวคนที่ต้องการจะทำร้ายเธอ ภาคินมองใบหน้าที่ซีดเซียวของหญิงสาวก็นึกสงสาร ก็อดที่จะ แนะนำออกไปไม่ได้ "ช่วงที่ตำรวจยังหาคนบงการยังไม่เจอคุณก็ควรจะหาบอดี้การ์ดหรือผู้คุ้มกันมาคอยตามดูแล เวลาไปไหนมาไหนก็คงจะดี"เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ธารธาราพยักหน้ารับด้วยสีหน้าที่คิดหนัก เพราะเธอไม่รู้ว่าจะไปหาบอดี้การ์ดมือดีมาจากไหนเพราะตอนนี้เธอไม่ไว้ใจใครเลยสักคน คำพูดของนายตำรวจทำให้เธอระแวงคนรอบกายไปเสียหมดจนเธอนอนไม่หลับตลอดทั้งคืนแล้วยังมาวันนี้อีก "ฉันไม่รู้ว่าจะไปหาบอดี้การ์ดมือดีที่ไหน"เธอบอกด้วยน้ำเสียงหนักใจ ภาคินขมวดคิ้วถาม "คุณก็ลองคุยกับคู่หมั้นของคุณดูสิเผื่อเขาจะหามาให้คุณได้" ภาคินบอกกับหญิงสาว ธารธารานิ่งคิดไม่พูดอะไร ทำให้ภาคินอดที่จะสงสัยไม่ได้เมื่อเขาเสนอให้เธอไปบอกคู่หมั้นของเธอหาผู้คุ้มกันมาให้ เขาจึงเอ่ยถามออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ "คุณมีอะไรปิดบังผมกับตำรวจเอาไว้หรือเปล่า" ภาคินถามหญิงสาวที่เอาแต่นั่งก้มหน้าหลบตาเขาไม่พูดไม่จาเหมือนคนที่กำลังคิดหนั
ตอนที่ 13 พ่อเลี้ยงแห่งไร่ภาคิน เพราะเธอรู้ว่าถึงเธอจะพูดไปก็ไม่มีใครเห็นด้วยกับเธอที่เธอจะไปขอบคุณผู้มีพระคุณทั้งสองคนนั้นด้วยตัวเองเธอจึงปล่อยผ่านไปก่อน ค่อยไปหาโอกาสไปขอบคุณคนทั้งสองคนนั้นด้วยตัวเองทีหลัง ด้านภาคินและมาวินที่กำลังเดินออกมาขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าโรงพยาบาลของตัวเอง เมื่อทั้งสองขึ้นมานั่งอยู่บนรถแล้วมาวินจึงหันไปทางผู้เป็นนาย "เจ้านายไม่คิดที่จะบอกผู้หญิงคนนั้นหน่อยหรือครับ ?"เขาถาม "ไม่จำเป็น"ภาคินตอบ "ครับ"มาวินขานรับ จากนั้นคนทั้งสองก็ขับรถออกจากโรงพยาบาลตรงกับไปที่ไร่ของตัวเองทันที อีกด้านภายในห้องพักผู้ป่วย สันติ เมื่อเหลือบไปมองนาฬิกาติดผนัง ที่บอกเวลา เที่ยงคืนกว่าแล้ว เขาจึงหันไปเอ่ยกับภรรยาและบุตรสาวคนเล็ก ที่นั่งสัปหงกอยู่ที่โซฟา "คุณนาท! คุณกับลูกกลับไร่ไปพักผ่อนเถอะผมจะเฝ้ายัยน้ำอยู่ที่นี่เอง"นายสันติบอกกับภรรยา ปองภพที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามรีบเอ่ยเสนอตัว "คุณพ่อครับ คุณพ่อพาคุณแม่กับน้องเพลงกับไปพักผ่อนที่ไร่เถอะครับผมจะอยู่เฝ้าน้ำที่นี่เอง"เขารีบเสนอตัว เพลงพิณเบิกตากว้างทันทีเมื่อได้ยินว่าว่าที่พี่เคยจะอยู่เฝ้าพี่สาวเขาเธออยู่ที่นี่ด้วยตัวเองเธอจึง
ตอนที่ 12 ใครกันที่อยู่เบื้องหลัง เมื่อ 3 พ่อแม่ลูกเข้ามาภายในห้องก็เห็นบุตรสาวคนโตนอนอยู่บนเตียงคนไข้โดยมีกระปุกน้ำเกลือและผ้าพันแผล พันตามแขนตามขาเต็มไปหมด ทำเอานายสันติถึงกับตกใจที่เห็นบุตรสาว อยู่ในสภาพ แบบนี้ "น้ำหนูไปโดนอะไรมาลูก"นายสันติรีบถลาเข้าไปหาบุตรสาว คนโตที่เตียงคนไข้ทันที พลางถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก นางศิรินาถเองก็ไม่ต่างจากผู้เป็นสามี นางเองก็ตกใจจนหน้าซีดเมื่อเห็นสภาพของลูกเลี้ยง ต่างจากเพลงพิณที่มองพี่สาวที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยสายตาว่างเปล่าไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากของเธอ..โดยมีภาคินกับมาวินยืนดูคนทั้ง 3 ที่เข้ามาใหม่อยู่อย่างเงียบๆ อยู่ที่มุมห้อง "ไม่เป็นอะไรมากค่ะพ่อ แค่หัวแตกแล้วก็พกช้ำดำเขียวนิดหน่อย" เธอบอกกับบิดาเสียงสั่น "แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมลูกถึงอยู่ในสภาพแบบนี้?" สันติยังคงถามต่อด้วยความอยากรู้ ธารธารามองหน้าบิดานิ่งๆก่อนจะตอบคำถามของบิดาออกไป "มีคนคิดจะทำร้ายน้ำค่ะพ่อ พวกมันขับรถปาดหน้ารถของน้ำแล้วก็จะฉุดน้ำค่ะ.. ดีที่มีคนมาช่วยน้ำเอาไว้ได้ทัน"เธอตอบคำถามของบิดาเสียงสั่น เพราะเธอยังมีความรู้สึกตื่นกลัวกับเหตุการณ์ที่พึ่งจะผ่านมายังไม่หาย "
ตอนที่ 11 พบเจอกันอีกครั้ง 2/2 ภาคินขับรถมุ่งกลับเข้าตัวเมืองทันที เพื่อที่จะพาหญิงสาวไปส่งโรงพยาบาล ส่วนคนเจ็บ ก็เอาแต่กอดผ้าขนหนูเอาไว้แน่นด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา ภาคินมองด้วยความรู้สึกสงสาร ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้นี่ถ้าเขา กับคนสนิทไม่มาเจอเข้าเสียก่อนเขาก็ไม่อยากจะคิดเลยว่า ผู้หญิงตรงหน้าของเขานี้จะมีสภาพเป็นเช่นไร พวกมันอาจจะ ทำปู้ยี่ปู้ยำกับผู้หญิงแล้วฆ่าปิดปาก.. อย่างที่เป็นข่าวร้ายๆข่าว พอคิดมาถึงตรงนี้ก็พรานให้เขาอยากจะกลับไปกระทืบไอ้พวกเด่นสังคมพวกนั้นให้จมธรณีไม่ต้องได้ผุดไม่ต้องได้เกิดมาอีก.. ด้วยความ เร็วที่เขาขับไม่นานก็มาถึงโรงพยาบาล เขาลงจากรถแล้วเรียกให้ บุรุษพยาบาลเข้ามานำตัวหญิงสาวไปส่งห้องฉุกเฉินทันที "คุณบุรุษพยาบาลครับทางนี้มีคนเจ็บครับ!.."เขาเปิดประตูเรียกบุรุษพยาบาล ที่อยู่ตรงนั้นทันที บุรุษพยาบาลรีบเข็นรถเข็นไปรับตัวของธารธาราทันทีที่สิ้นเสียงของภาคินไม่กี่วินาทีธารธาราก็ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน โดยมีภาคินยืนรออยู่ด้านนอก เพื่อรอฟังข่าว.. จากนั้นก็มีพยาบาลเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน เขารีบเอ่ยถามทันที "คนเจ็บเป็นยังไงบ้างครับคุณพยาบาล?"เขาถามออกไป
ตอนที่ 10 พบเจอกันอีกครั้ง 1/2 หลังจากที่สั่งให้ผู้จัดการโรงแรมดูแล บิดาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภาคินกับคนสนิทก็ออกเดินทางกลับไร่ทันที โดยมี มาวินเป็นสาระถีให้กับผู้เป็นนาย "เจ้านายครับพรุ่งนี้เจ้านายจะมารับคุณท่านเองหรือจะให้ผมมารับครับ?"มาวินหันไปถามผู้เป็นนายทันทีที่รถมุ่งออกสู่ถนนนอกเมืองที่แสงไฟริมทางสลัว "เดี๋ยวฉันมารับคุณพ่อเอง" ภาคินกล่าวพลางมองออกไปนอกรถ ท่ามกลางความมืดสนิท อีกด้าน ณถนนเส้นเดียวกัน.. ธารธาราขับรถฝ่าความมืดบนถนนเส้นทางนอกเมืองมุ่งตรงไปอย่างไร่ธารธารา ที่เธอใช้เดินทางมาตั้งแต่เล็กจนโตโดยไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อยนิด เพราะปกติแล้วเส้นทางเส้นนี้เธอก็ใช้เดินทางระหว่างไร่กับในตัวเมืองอยู่แทบจะวันเว้นวัน.. เธอจึงขับรถฟังเพลงไปด้วยด้วยอารมณ์ที่ค่อนข้างจะผ่อนคลาย อีกอย่างช่วงเวลาทุ่มกว่าๆนี้มันก็ยังไม่ได้ดึกอะไรมากเธอจึงไม่ได้เร่งรีบถึงมันจะมืดและเงียบไปหน่อยก็เถอะแต่เพราะความเคยชินเธอจึงไม่มีความระวังและระแวง.. และในขณะที่เธอกำลังขับรถและฟังเพลงไปด้วยอยู่นั้นก็มีเสียงแตรถดังไล่หลังเธอมาด้วยความเร็วที่ค่อนข้างสูง แถมยังตบไฟสูงใส่เธอจนเธอต้องขมวดคิ้วด้วยความมึนงง? ปี