ตอนที่ 3 ผู้ชายน้ำแข็ง
หลายวันผ่านไป!เกศินีก็อันเชิญตัวเองมาเป็นแขกของไร่ภาคิน อีกครั้ง!หวังว่าจะมีสักครั้งที่จะได้เจอหน้าเจ้าของไร่ภาคินแห่งนี้ ภาคินที่กำลังกลับจากไร่เพื่อเข้าออฟฟิศก็เจอกับหญิงสาวแปลกหน้าที่กำลังมองมาที่เขาด้วยแววตาหยาดเยิ้มมุมปากแย้มยิ้มเล็กน้อยๆมองมายังเขาด้วยตาไม่กระพริบจนเขานึกไม่ชอบใจ เกศินีที่กำลังสั่งกาแฟกับพนักงาน ก็บังเอิญเหลือบไปเห็นชายหนุ่มตัวสูง ใบหน้าหล่อเหลากำลังเดินผ่านไปก็ถึงกับตะลึง ถึงจะหล่อแบบดิบๆ แต่ก็ยังหล่ออยู่ดีในสายตาของเธอ ชายผู้นั้นเดินนำพนักงานชายที่หอบเอกสารเต็มไม้เต็มมือ เดินไปทางสำนักงานใหญ่ เกศินีเกิดความสงสัยในตัวของชายผู้นั้น จึงได้เอ่ยถามกับพนักงานชายที่ยืนรอรับออเดอร์ของเธออยู่ด้วยความอยากรู้จนตัวสั่น "น้อง..ผู้ชายที่เดินผ่านไปเมื่อกี้ใครหรอ?" พนักงานชายมองตามหลังของคนทั้ง 3 ที่พึ่งเดินผ่านไป แล้วหันมายิ้มให้กับลูกค้าสาวสวยแล้วเอ่ยตอบ "อ้อ..คนที่เดินนำหน้าเหรอครับ?" "ใช่.คนนั้นแหละ" "นั่นคือนายใหญ่ของพวกเราเองครับ"พนักงานขายตอบยิ้มๆ ???... คำตอบของพนักงานชายทำเอาเกศินีถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ด้วยความตื่นเต้น! "เจ้าของไรภาคินนะเหรอ?" "ครับ" คำตอบของพนักงานหนุ่มทำเอาเกศินีถึงกับกลืนน้ำลายลงคอเอือกใหญ่ด้วยความตื่นเต้น พลางพึมพำออกมาเสียงแผ่ว "ในที่สุด ฉันก็ได้เจอตัวเป็นๆของคุณสักทีคุณภาคิน ใครบอกว่าคุณไม่หล่อ สงสัยมันคงจะตาบอด"เกศินีพึมพำกับตัวเอง มุมปากสวยแย้มยิ้มขึ้นเล็กน้อยด้วยความพึงพอใจ "นายใหญ่ของพวกนายก็คือพ่อเลี้ยงภาคินใช่ไหม?"เกศิณีถามซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ "ครับ..นายใหญ่ของเราก็คือพ่อเลี้ยงภาคิน "พนักงานชายยังคงพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม "อืม..ขอบใจมาก"เธอเอ่ยขอบใจพนักงานชายพรางยื่นแบงค์ธนบัตรสีแดง 2 ใบให้กับพนักงานชาย! "เอาฉันให้" พนักงานชายรับมาด้วยความดีใจก่อนจะขอตัวจากไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม "ขอบคุณครับคุณผู้หญิง"แต่ไม่ลืมกล่าวขอบคุณลูกค้าคนสวยก่อนจะจากไป เกศินีมองตามหลังของภาคินไปจนสุดสายตาพรางแย้มยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจอีกครั้ง "ใครบอกว่าพ่อเลี้ยงภาคินหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่วะ! ตรงข้ามกัน เขากลับเป็นผู้ชายที่น่าดึงดูดใจ หน้ามอบกายมอบกายถวายชีวิตให้หละไม่ว่า"เกศินีพึมพำกับตัวเอง พลางหัวเราะออกมาเบาๆ "คุณภาคิน!.ฉันจะทำให้คุณมาซบอกของฉันให้จงได้" เกศินีบอกกับชายหนุ่มผ่านกับสายลมไปด้วยแววตาวาววับ ต่อจากนั้นเจ้าหล่อนก็คิดหาวิธีที่จะเข้าใกล้ชายหนุ่มที่เธอพึ่งจะเคยเห็นหน้าเป็นครั้วแรก และหมายมั่นเอาไว้ที่จะได้มาขึ้นเตียงด้วยสักครั้ง ด้วยความรู้สึกพอใจ กับตัวตนของพ่อเลี้ยงภาคิน ด้ายของภาคินที่ไม่รู้ตัวเลยว่าความยุ่งยากกำลังจะวิ่งเข้ามาหาก็กำลังเดินหน้านิ่งเขาไปในออฟฟิศ โดยมีผู้ช่วยคนสนิทหอบเอกสารเดินตามด้วยใบหน้าที่ไม่ต่างจากผู้เป็นนาย สร้างความอึดอัดให้กับผู้ที่ได้พบเห็น หรือแม้แต่พนักงานที่ได้พบเจอเจ้านายอยู่ทุกวี่ทุกวัน ก็ยังไม่คุ้นชินกับอุปนิสัยของผู้เป็นนายสักครั้ง "นายครับอาทิตย์หน้ามีงานสัมนาผู้ประกอบการรายใหญ่นายต้องไปนะครับ"ต้นกล้าวางเอกสารเอาไว้ตรงหน้าของผู้เป็นนายแล้วเอ่ยรายงาน อืม? ภาคินตอบรับในลำคอก่อนจะสนใจงานตรงหน้าต่อ ความเย็นชาของผู้เป็นนายทำให้ต้นกล้าเศร้าใจกับผู้เป็นนายไปด้วย ต้นกล้ามองผู้เป็นนายด้วยความเห็นใจ ห้าปีที่เขาติดตามผู้เป็นนายมา เขาเคยเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของผู้เป็นนายแทบจะนับครั้งได้ แถมยังเป็นรอยยิ้มที่ส่งไปไม่ถึงดวงตาอีกต่างหาก เขาไม่รู้ว่าก่อนหน้าที่เจ้านายมาอยู่ที่นี่เจ้านายของเขาเจอกับอะไรมาบ้างถึงได้กลายเป็นคนที่เย็นชาและเก็บตัวแบบนี้ ส่วนเรื่องของผู้หญิงนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่ว่าจะเป็นคู่ค้า ลูกสาวคนดังของภาคเหนือต่างก็อยากจะมาเป็นนายหญิงของไร่ภาคิน ขนาดคนงานหญิงในไร่ยังอยากจะถวายตัวให้กับเจ้านายของเขาแทบจะทุกคน แต่เจ้านายของเขานั้นหรือไม่เคยชายตาแลมองใครเลยแม้แต่หางตา ต้นกล้าหันมามองหน้ากันกับมาวินแล้วถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ที่เจ้านายยอมไปร่วมงานสัมมนาด้วยตัวเองในครั้งนี้ แทบจะนับครั้งได้ ที่ผู้เป็นนายยอมออกงานด้วยตัวเองโดยไม่ส่งให้พวกเขาทั้งสองคนไปเป็นตัวแทน ก่อนจะกลับไปโต๊ะประจำที่ของตัวเองด้วยความโล่งอก ด้านของเกศินีเองก็ยังรอพ่อเลี้ยงภาคินอยู่ที่ร้านกาแฟที่เดิมเธอมั่นใจว่า ไม่นานเขาก็คงจะลงมาหาอะไรทานเธอต้องได้เจอ แต่เธอก็รอมาจะ 3 ชั่วโมงกว่า แล้วแต่เธอก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของคนสนิทของเขาเลยแม้แต่คนเดียว จนเธอต้องถอยร่นกลับไปเองด้วยความผิดหวัง อีกด้านหนึ่งณไร่ธานธารา "น้ำใสนั่นลูกจะออกไปไหน?" พ่อเลี้ยงสันทัดถามบุตรสาวที่เห็นบุตรสาวเดินถือกระเป๋ากำลังจะออกไปขึ้นรถ "จะออกไปหายัยรุ้งนะคะคุณพ่อ"เธอตอบคำถามของคนเป็นพ่อ "พ่อนึกว่าลูกจะออกไปหาปองภพเสียอีก?" "ไปค่ะออกไปหายายรุ้งแล้วมีนัดทานข้าวกับพี่ภพตอนเย็นค่ะ"เธอบอกกับคนเป็นพ่อ "อืมไปเถอะ" "ค่ะ! งั้นน้ำไปนะคะ" "อืม"คนเป็นพ่อพยักหน้าให้กับบุตรสาวคนโตด้วยแววตาอ่อนแสง พลางมองตามหลังของบุตรสาวขึ้นรถไปก่อนที่ตัวเองจะเดินเข้าบ้านไปเช่นเดียวกัน ณร้านอาหารชื่อดังของเมืองเชียงใหม่ "ยัยน้ำทางนี้" รุ้งรดากวักมือเรียกเพื่อนสาวทันทีที่เห็นเพื่อนสาวเดินผ่านประตูร้านเข้ามา ธารธารายิ้มกว้างทันทีที่เห็นเพื่อนรักยืนโบกมือหยอยๆอยู่โต๊ะริมหน้าต่างที่ประจำของพวกเธอทั้งสอง "แกรอฉันนานไหม?" ธารธาราถามเพื่อนรักทันทีที่มาถึง "ไม่เลยฉันเองก็เพิ่งมาเมื่อ 10 นาทีก่อนหน้าแกนี่เอง" รุ้งรดาตอบคำถามของคนเป็นเพื่อนพลางขยับเก้าอี้ให้คนเป็นเพื่อนนั่ง "ฉันนึกว่าแกจะไม่ว่างมาทานข้าวกับฉันเสียอีก?" รุ่งระวีรีบตัดพ้อคนเป็นเพื่อนทันทีด้วยความน้อยใจ "งานที่ไร่ฉันยุ่งน่ะ ฉันก็เลยไม่ได้ออกไปไหนเลย" ธารธารา ตอบคนเป็นเพื่อน ด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด "ฉันนึกว่าแกกำลังจะแต่งงานแล้ว แกจะลืมฉันเสียแล้ว"รุ้งรดาแกล้งตัดพ้อคนเป็นเพื่อน "บ้า..ใครจะไปลืมแกได้ล่ะ" ธารธาราพูดพรางตบที่หลังมือของเพื่อนเบาๆเพื่อเป็นการขอโทษ จนคนเป็นเพื่อนยิ้มกว้างออกมาด้วยความพอใจ "แล้ววันนี้ทำไมแกว่าง ไม่ได้มีนัดกับพี่ภพหรือยังไง?" รุ้งรดาถามคนเป็นเพื่อน "ว่างช่วงบ่าย..แต่ช่วงเย็นมีนัดทานข้าวกับพี่ภพ?" เธอตอบคนเป็นเพื่อนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม "จะว่าไปฉันก็ไม่ได้เจอพี่ภพมานานแล้ว ฉันเองก็อยากจะเจอพี่ภพบ้างเหมือนกัน"รุ้งรดาเอ่ยขึ้นลอยๆ กับคนเป็นเพื่อน "งั้นตอนเย็นแกไปทานข้าวกับฉันกับพี่ภพไหมละ ?"ธานธาราถามคนเป็นเพื่อนเสียงอ่อน "ฉันไปได้หรอ? พี่ภพจะไม่ว่าเอาเหรอ?" รุ้งรดาถามด้วยความเกรงใจ "ได้สิ ก็แค่ทานข้าวเย็นเพิ่มแกมาอีกสักคนพี่ภพก็คงจะไม่ว่าอะไรหรอก" รุ่งรดายิ้มกว้างทันทีที่ได้ยินคำพูดของคนเป็นเพื่อน "ดีเลยงั้นตอนเย็นฉันไปพร้อมกันกับแกเลยก็แล้วกันนะเพราะฉันไม่ได้เอารถมา"รุ้งรดารีบบอก "ได้สิ!"ธานธารายิ้มรับคำพูดของคนเป็นเพื่อน จากนั้นสองสาวก็สั่งอาหารมาทาน พอทานอาหารเสร็จ 2 สาวก็ไปช้อปปิ้งกันต่อที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อรอเวลานัดตอนเย็น อีกด้านหนึ่ง "เจ้านายครับเดี๋ยวหาอะไรทานที่ห้างสรรพสินค้าก่อนดีไหมครับกว่าจะถึงไร่เราก็อีกไกลอยู่นะครับ?" มาวินถามผู้เป็นนายหลังจากที่ผู้เป็นนายออกมาจากคุยงานกับลูกค้า เพราะตั้งแต่ออกมาจากไร่ เจ้านายเขาก็ยังไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องเลยแม้แต่อย่างเดียว อืม! ภาคินรับคำเสียงต่ำ ก่อนจะเดินนำคนสนิททั้ง 2 ไปยังร้านอาหารที่คุ้นเคย ด้านของธารธาราก็ที่กำลังเดินเลือกร้านเสื้อผ้า ก็มีเสียงโทรศัพท์ ดังขึ้น เธอจึงก้มหน้าก้มตารื้อหาโทรศัพท์ในกระเป๋าถือของตัวเองที่เธอเผลอหย่อนทิ้งไว้ตั้งแต่ที่ร้านอาหารด้วยความรีบเร่งโดยไม่ได้มองทางจนชนกับใครบางคนเข้าจนเธอเซถอยหลังเกือบจะล้มก้นจ้ำบ้ำ ปึก! ว้ายยย!!! เธอหลับตาปี๋รอรับแรงกระแทกด้วยความตกใจจนต้องอุทานออกมา แต่แล้วก็มีท่อนแขนแข็งแรงเกี่ยวกอดเอวของเธอเอาไว้ ไม่ให้ล้มลงก้นจ้ำเบ้ากับพื้น ไม่เจ็บ! เธอไม่รู้สึกเจ็บนั่นคือความรู้สึกรู้สึกแรกที่ได้สติ เธอค่อยๆลืมตาขึ้นมาก็เจอกับใบหน้าของผู้ชายสวมแว่นดำห่างกับใบหน้าของเธอแค่คืบ เธอพึมพำขอบคุณเสียงแผ่ว "ขอบคุณค่ะ" เธอรีบกล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงตกใจพลางแหงนขึ้นมอง เจ้าของแขนแข็งแรงที่กอดเกี่ยวเอวของเธอเอาไว้ให้ชัดๆ ชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มสวมแว่นตาสีดำกำลังก้มมองเธออยู่ด้วยเช่นกัน ด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง "เดินก็ระวังหน่อยสิ"เสียงทุ้มต่ำของเจ้าของอ้อมแขนแกร่ง ดั่งขึ้นข้างหู ทำให้น้ำใสที่พึ่งจะได้สติกลับคืนมาถึงกับขมวดคิ้วมุ้นด้วยความไม่พอใจ เธอจึงถอยออกจากอ้อมแขนของคนตัวสูงด้วยความร้อนรนและไม่พอใจ ภาคินที่กำลังเดินจะพาคนสนิทเข้าร้านอาหารก็มีผู้หญิงที่ไม่รู้ว่ากำลังรื้อหาอะไรในกระเป๋าโดยไม่มองทางจนมาชนเขาเข้าจนเขาต้องคว้าตัวเจ้าหล่อนเอาไว้ไม่ให้ล้มหงายท้องไปกลางห้างจนต้องอับอายผู้คน เขาจึงเอ่ยตำหนิออกไปด้วยความหวังดี แต่กลับได้รับค้อนวงใหญ่กลับมาแทน พร้อมกับเสียงใสๆหันมาเอ่ยกับเขาด้วยใบหน้าบูดบึ้ง "คุณเองก็เดินไม่ระวังเหมือนกันเลยค่ะจนต้องมาชนกับฉันเนี่ย!" เธอตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจที่ถูกตำหนิ และทันทีที่เธอจะได้พูดจบคนตัวสูงก็เดินจากไปโดยไม่ได้ใส่ใจในคำพูดของเธอเลยสักนิด เธอมองตามแผ่นหลังกว้างด้วยความไม่ชอบใจ "อีตาบ้า ผู้ชายอะไรนิ่งยังก้บผีดิบ ไร้ปฏิสัมพันธ์ชะมัด ถือว่าตัวเองหล่อมากเลยหรือยังไง ถึงไม่เห็นใครอยู่ในสายตาแบบนี้ อย่าให้ฉันได้เจออีกนะ..หึ้ย!" เธอโกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่ถูกผู้ใช้นิสัยไม่ดีมาตำหนิทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อน จนเสียงของเพื่อนรักดังมาจากทางด้านหลังด้วยความร้อนรนใจ "ยัยน้ำแกเป็นอะไรหรือเปล่า" รุ้งรดารีบวิ่งเข้ามาหาคนเป็นเพื่อนทันทีที่เห็นคนเป็นเพื่อนเดินชนกับผู้ชายตัวโต ธารทารามองตามหลังของผู้ชายตัวโตสูงราวๆ185 ที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนส์สีซีด สวมแว่นตาดำ เดินนำผู้ชายที่มีความสูงไล่เลี่ยกันเดินเข้าร้านอาหารชื่อดังไป ก่อนจะหันมามองคนเป็นเพื่อนที่เข้ามาถึงตัวเธอก็พอดี "ไม่เป็นไร" เธอตอบ รุ้งรดา มองตามหลังของผู้ชายตัวโตไปด้วยความสนใจ "ผู้ชายอะไรโคตรเท่เลย หล่อด้วย"รุ้งรดาพึมพำ "รู้ได้ยังไงว่าหล่อสวมแว่นดำขนาดนั้น?"ธานธาราหันมาถามคนเป็นเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ ที่คนเป็นเพื่อนไปเอ่ยชมผู้ชาย กระด้างที่พึ่งจะตำหนิเธอไป "ก็หล่อจริงๆนี่ แกเห็นเขาใกล้ๆเมื่อกี้เขาไม่หล่อหรือยังไงขนาดฉันเห็นตั้งไกลหล่อทะลุ 100 เมตรเลยนะแก หล่อทะลุแว่นเธอไม่เคยได้ยินเหรอ"รุ้งรดาเอ่ยออกมาพลางทำหน้าเคลิบเคลิ้มตามหลังของภาคินไปตอนที่ 4 ร้อนใจแทน"ฉันไม่คุยกับแกแล้ว เราไปหาซื้อของกันให้เสร็จเร็วๆดีกว่าเดี๋ยวจะถึงเวลาที่นัดกันกับพี่ภพเอาไว้แล้ว"เธอบอกกับคนเป็นเพื่อนพลางเดินนำหน้าไป"จ้า..ใครจะหล่อเท่าพี่ภพของเธอละยะที่ภพของเธอหล่อที่สุดแล้ว" รุ้งรดาเอ่ยแซวตามหลัง"มันแน่อยู้แล้ว"ธารธาราตอบคนเป็นเพื่อนอย่างไม่มีเขินอาย รุ่งรดาที่เดินตามหลังมองคนเป็นเพื่อนพลางยิ้มเบาออกมาณร้านอาหารบนสุดของโรงแรมเชียงใหม่ธานธาราเดินเข้ามาในโรงแรมของคู่หมั้นพร้อมกับเพื่อนสนิท มีพนักงานวิ่งเข้ามาต้อนรับ เพราะพวกเขารู้จักคู่หมั้นของเจ้านายคนนี้ดี ส่วนอีกคนพวกเขาก็เคยเห็นหน้ามาบ้างเหมือนกัน จึงพอเข้าใจแล้วว่าเพราะเป็นเพื่อนกับคู่หมั้นของเจ้านายนี่เอง"เชิญที่ห้องสายลมค่ะคุณน้ำใส"ผู้จัดการแผนกต้อนรับรีบ ออกมาต้อนรับคู่หมั้นของเจ้านายด้วยตัวเองทันทีที่มีคนมาบอกว่าคู่หมั้นของเจ้านายมาแล้ว"ขอบคุณค่ะผู้จัดการ"น้ำใสรู้จักผู้จัดการสาววัยกลางคนคนนี้ดีเธอจึงกล่าวขอบคุณต่อไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม"ไม่เป็นไรค่ะคุณน้ำใส เจ้านายบอกว่าถ้าคุณน้ำใส่มาแล้วให้พาคุณน้ำใสขึ้นไปรอที่ห้องอาหารสายลมด้านบนเลยค่ะ "ผู้จัดการสาวบอกพลางเดินนำหญิงสาวไปน้ำใสพย
ตอนที่ 5 ผู้ชายที่เห็นแก่ตัว"เอาน่าอย่าคิดมากเลยมันไม่มีอะไรหรอก ยัยรุ้งเองก็มีคนรักอยู่แล้ว"เธอเอ่ยกับน้องสาวยิ้มๆ"จริงเหรอคะพี่รุ้งมีคนรักแล้วจริงๆเหรอคะ"เพลงพิณรีบถามน้ำเสียงตื่นเต้น"ใช่""แล้วพี่น้ำเคยเห็นคนรักของพี่รุ้งหรือเปล่าคะ?"เพลงพิณถามด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น"ไม่เคยเห็นนะแต่ยัยรุ้งพูดให้พี่ฟังว่ามีคนรักแล้ว"ธานธาราตอบ"ดีจริง" เพลงพิณพึมพำเบาๆด้วยสีหน้าผ่อนคลายอืม!..น้ำใสคางเสียงในลำคอด้วยความขำขัน"ว่าแต่เราเถอะมีคนมาจีบบ้างหรือเปล่า ปีนี้ก็อายุ 25 แล้วนะ" เธอแซวน้องสาว ที่เอาแต่ถามเรื่องของเธอไม่เว้นแต่ละวันเพลงพิณเมื่อถูกพี่สาวถามเช่นนั่นก็มีสีหน้าตื่นตระหนก ก่อนจะยิ้มเจื่อนตอบคำถามของพี่สาว"ก็กำลังคุยคุยอยู่ค่ะ"เธอตอบไม่เต็มเสียงพลางก้มหน้าหลบสายตาของพี่สาวน้ำใสเลิกคิ้วขึ้นสูงมองน้องสาวแล้วอมยิ้ม เพราะเธอคิดว่าน้องสาวคงจะเขินที่เธอถามถึงเรื่องส่วนตัว จากนั้นทั้งสองก็ไม่ได้คุยกันอีกจนกลับมาถึงบ้านน้ำใสเมื่อกลับขึ้นมาบนห้องของตัวเองเธอก็รีบส่งข้อความถึงคนรักทันที"น้ำถึงบ้านแล้วนะคะพี่ภพ แล้วพี่ภพถึงบ้านหรือยังคะ?"เธอถามไปในข้อความ Line"ถึงแล้วครับ"เขาตอบกลับม
ตอนที่ 6 หญิงสาวปริศนาปองภพเปิดประตูออกจากห้องแล้วตรงไปที่ลิฟต์ จุดมุ่งหมายก็คือห้องจัดเลี้ยงที่มีคู่หมั้นสาวรออยู่ธารธารายิ้มออกมาทันทีที่เห็นคนรักหนุ่มเดินตรงเข้ามาหาด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม"รอพี่นานไหมครับ?"ปองภพถามคนรักทันทีที่เขาเดินเข้ามาถึงตัวคนรักธารธารายิ้มบางเบาก่อนจะส่ายหวยน้อยๆพลางตอบออกไปด้วยน้ำเสียงหวานใส"ไม่นานค่ะ"เธอตอบด้วยรอยยิ้ม จากนั้นชายหนุ่มก็เดินมานั่งลงร่างกายของเธอทันที"ทานอะไรหรือยีงครับพี่ไปหาอะไรมาให้ทานไหม"เขาถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย ทำเอาคนถูกถามยิ้มจนแก้มปริที่คนรักเอาใจใส่และเป็นห่วงเธออย่างสม่ำเสมอ"ยังไงค่ะ"เธอตอบคำถามอีกด้านหนึ่งภายในห้องพัก"เจ้านายจะลงไปข้างล่างเลยไหมครับ?"มาวินถามผู้เป็นนายทันทีที่นาฬิกาบอกถึงเวลาที่งานเลี้ยงจะเริ่ม"อือ"เขาขานรับในลำคอก่อนจะลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าของตัวเองแล้วเดินออกจากห้องไปทันทีโดยมี 2 คนสนิทเดินตามหลังออกไปติดๆก่อนที่ คนทั้ง 3 จะเดินผ่านห้องห้องนึงไป ก็มีเสียงประตูเปิดออกมาพร้อมกับหญิงสาวใบหน้าหมดจดโผล่ออกมามองซ้ายมองขวาแล้วถอยกลับเข้าไปในห้องท่ามกลางความสงสัยของคนทั้งสาม ก่อนที่คนทั้งสามจะเดินผ่านไปอย่างไม่ใ
ตอนที่ 7 ผู้หญิงที่น่าสงสารเมื่อนายสันติเห็นบุตรสาวขึ้นมานั่งบนรถก็เลยถาม ถึงว่าที่ลูกเขยทันที"ตาภพล่ะ"สันติถามบุตรสาว"กลับไปแล้วค่ะ"เธอตอบ"อ้อ" สันติรับคำสั้นๆก่อนจะหลับตาลงพักผ่อนสายตาต่อด้านของปองภพที่กลับขึ้นมาหาหญิงสาวที่รอเขาอยู่ในห้องทันทีเสียงกริ่งห้องตรงข้ามทำให้มาวินที่ยืนพิงประตูห้องอยู่ค่อยๆ แง่มประตูออกไปมอง ก็เห็นปองภพกำลังยืนกดกริ่งประตูอยู่ มาวินหันกลับมายิ้มให้กับเพื่อนทีนทีวินัยยิ้มเยาะที่มุมปากพลางพึมพำออกมา"สงสารผู้หญิงที่เป็นคู่หมั้นคนนั้นเนอะ? เธอจะรู้หรือเปล่าว่าคู่หมั้นของตัวเองทำผู้หญิงคนอื่นท้อง"วินัยพึมพำออกมาด้วยความรู้สึกสงสาร ไม่ใช่ว่าเขาชอบเสือกเรื่องของคนอื่นแต่เพราะผู้หญิงคนนั้นน่าสงสารจริงๆ ผู้หญิงทั้งสวยและเก่งขนาดนั้นจะต้องมาแต่งงานกับผู้ชายเฮงซวยแบบนี้พวกเขาไม่เห็นด้วยจริงๆ"นายว่าผู้หญิงคนนั้นจะรู้ไหมว่าคู่หมั้นของตัวเองเจ้าชู้มากๆแบบนี้?"มาวินหันมาถามคนเป็นเพื่อน"คงไม่รู้หรอก เพราะถ้ารู้ผู้หญิงคนไหนบ้างจะรับได้"วินัยตอบ"ถ้าเป็นอย่างนั้นก็น่าสงสารผู้หญิงคนนั้นนะ ได้สามีทั้งทีก็ดันมีของแถมตามมาด้วย" วินัยเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสุดจะสงสารเห
ตอนที่ 8 ระแวง จากนั้นทั้งเจ้านายและลูกน้องก็ ออกจากห้องเพื่อลงไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารด้านล่าง และก่อนที่คนทั้ง 3 จะเดินผ่านห้องตรงข้ามไป 2 คนสนิทก็อดไม่ได้ที่จะปลายตาไปมองยังประตูห้องตรงข้าม ก่อนจะเดินเลยไป ในห้องตรงข้าม หญิงสาวตื่นขึ้นมาในตอนเช้าก็ไม่เห็นคนที่นอนข้างกายของ ตลอดทั้งคืนนอนอยู่ในห้องแล้วเธอจึงลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะออกไปเช่นเดียวกัน ด้านของปองภพที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะเจอกับปัญหา ก็หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาหวังจะโทรหาคนรัก..แต่ข้อความที่ดังขึ้นระรัวเหมือนเม็ดฝนกลับทำให้เขาแปลกใจแทน "เมสเสจอะไรวะ? เยอะแยะไปหมด?" เมื่อเปิดเข้าไปอ่านก็มีแต่เบอร์โทรของคนรักเกือบจะร้อยสายทำให้ปองภพถึงกับตกใจจนโทรศัพท์แทบจะร่วงออกจากมือ แถมในข้อความ LINE ก็ยังมีข้อความจากคนรัก ถามเข้ามาว่าเขาอยู่ไหนทำอะไรถึงบ้านหรือยังอีก มันยิ่งทำให้เขารู้สึกแปลกใจที่อยู่ๆคนรักก็โทรกระนำซัมเมอร์เซลหาเขาเป็นร้อยๆสายแบบนี้ เขารีบกดเบอร์โทรกลับหาคนรักทันทีด้วยใจที่ร้อนรุ่ม โทรศัพท์ดังอยู่ไม่กี่ครั้งปลายสายก็อดรับทันทีเหมือนกับว่าฝ่ายนั้นกำลังรอโทรศัพท์จากเขาอยู่เช่นนั้น โดยไม่รู้เลยว่
ตอนที่ 9 ความเจ็บช้ำในอดีต นั่นมันจึงเป็นเหตุผลที่ว่าเธอกับพี่สาวไม่ค่อยจะสนิทกันสักเท่าไรเพราะต่างคนต่างไปทำหน้าที่ของตัวเองเสียมากกว่า ถึงเธอจะไม่ชอบคลุกคลีอยู่ในไร่ในสวนกับคนงานสกปรกพวกนั้น แต่ไม่ใช่ว่าเธอไม่ได้สนใจในธุรกิจของครอบครัว ที่มีทั้งไร่ชา และไร่ดอกไม้ที่มีเอาไว้ส่งตามตลาดร้านค้าโรงแรมหรู และเอาไว้เป็นแลนด์มาร์คให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเช็คอิน และยังมีโฮมสเตย์และรีสอร์ทติดเขาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เป็นที่ชื่นชอบ สำหรับชาวต่างชาติและผู้ที่เบื่อนายกับความวุ่นวายในเมืองหลวงมาพักผ่อนคลายเครียด จะว่าไปแต่ก่อนมันก็ไม่ได้เจริญรุ่งเรืองถึงขนาดนี้จนตอนที่พี่สาวของเธอได้มาบริหาร ธุรกิจของครอบครัวของเธอจึงได้มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาติดอันดับต้นๆของภาคเหนือสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ แล้วอย่างนี้มีหรือที่เธอจะไม่สนใจในธุรกิจของครอบครัว "พี่น้ำไปพบลูกค้าในเมืองพี่น้ำจะแวะไปหาพี่ภพที่โรงแรมหรือเปล่าคะ?" เพลงพิณถามที่สาวที่กำลังตักข้าวปาก "พี่ไม่แน่ใจที่ต้องดูก่อนว่างานของที่เสร็จเร็วหรือเสร็จช้า" เธอตอบ "คนกำลังจะแต่งงานกันแต่ไม่ไปเจอหน้ากันเลยนี่มันยังไงคะ?"เพลงพิมพ์เอียงคอถามพี่สาวยิ้มๆ
ตอนที่ 10 พบเจอกันอีกครั้ง 1/2 หลังจากที่สั่งให้ผู้จัดการโรงแรมดูแล บิดาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภาคินกับคนสนิทก็ออกเดินทางกลับไร่ทันที โดยมี มาวินเป็นสาระถีให้กับผู้เป็นนาย "เจ้านายครับพรุ่งนี้เจ้านายจะมารับคุณท่านเองหรือจะให้ผมมารับครับ?"มาวินหันไปถามผู้เป็นนายทันทีที่รถมุ่งออกสู่ถนนนอกเมืองที่แสงไฟริมทางสลัว "เดี๋ยวฉันมารับคุณพ่อเอง" ภาคินกล่าวพลางมองออกไปนอกรถ ท่ามกลางความมืดสนิท อีกด้าน ณถนนเส้นเดียวกัน.. ธารธาราขับรถฝ่าความมืดบนถนนเส้นทางนอกเมืองมุ่งตรงไปอย่างไร่ธารธารา ที่เธอใช้เดินทางมาตั้งแต่เล็กจนโตโดยไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อยนิด เพราะปกติแล้วเส้นทางเส้นนี้เธอก็ใช้เดินทางระหว่างไร่กับในตัวเมืองอยู่แทบจะวันเว้นวัน.. เธอจึงขับรถฟังเพลงไปด้วยด้วยอารมณ์ที่ค่อนข้างจะผ่อนคลาย อีกอย่างช่วงเวลาทุ่มกว่าๆนี้มันก็ยังไม่ได้ดึกอะไรมากเธอจึงไม่ได้เร่งรีบถึงมันจะมืดและเงียบไปหน่อยก็เถอะแต่เพราะความเคยชินเธอจึงไม่มีความระวังและระแวง.. และในขณะที่เธอกำลังขับรถและฟังเพลงไปด้วยอยู่นั้นก็มีเสียงแตรถดังไล่หลังเธอมาด้วยความเร็วที่ค่อนข้างสูง แถมยังตบไฟสูงใส่เธอจนเธอต้องขมวดคิ้วด้วยความมึนงง? ปี
ตอนที่ 11 พบเจอกันอีกครั้ง 2/2 ภาคินขับรถมุ่งกลับเข้าตัวเมืองทันที เพื่อที่จะพาหญิงสาวไปส่งโรงพยาบาล ส่วนคนเจ็บ ก็เอาแต่กอดผ้าขนหนูเอาไว้แน่นด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา ภาคินมองด้วยความรู้สึกสงสาร ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้นี่ถ้าเขา กับคนสนิทไม่มาเจอเข้าเสียก่อนเขาก็ไม่อยากจะคิดเลยว่า ผู้หญิงตรงหน้าของเขานี้จะมีสภาพเป็นเช่นไร พวกมันอาจจะ ทำปู้ยี่ปู้ยำกับผู้หญิงแล้วฆ่าปิดปาก.. อย่างที่เป็นข่าวร้ายๆข่าว พอคิดมาถึงตรงนี้ก็พรานให้เขาอยากจะกลับไปกระทืบไอ้พวกเด่นสังคมพวกนั้นให้จมธรณีไม่ต้องได้ผุดไม่ต้องได้เกิดมาอีก.. ด้วยความ เร็วที่เขาขับไม่นานก็มาถึงโรงพยาบาล เขาลงจากรถแล้วเรียกให้ บุรุษพยาบาลเข้ามานำตัวหญิงสาวไปส่งห้องฉุกเฉินทันที "คุณบุรุษพยาบาลครับทางนี้มีคนเจ็บครับ!.."เขาเปิดประตูเรียกบุรุษพยาบาล ที่อยู่ตรงนั้นทันที บุรุษพยาบาลรีบเข็นรถเข็นไปรับตัวของธารธาราทันทีที่สิ้นเสียงของภาคินไม่กี่วินาทีธารธาราก็ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน โดยมีภาคินยืนรออยู่ด้านนอก เพื่อรอฟังข่าว.. จากนั้นก็มีพยาบาลเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน เขารีบเอ่ยถามทันที "คนเจ็บเป็นยังไงบ้างครับคุณพยาบาล?"เขาถามออกไป
ตอนที่ 18 ช่วยเหลือ เมื่อภาคินพาคนที่พึงจะเจอเรื่องหนักๆ เข้ามาในบ้านเขาก็จับให้เธอนั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก พลางหันไปสั่งความกับแม่บ้านที่เดินมาต้อนรับผู้เป็นนาย "พ่อเลี้ยงจะดื่มน้ำอะไรดีคะ?"ละอองเดินเข้ามาถามผู้เป็นนาย ฟางมองไปยังหญิงสาวที่นั่งซบน่าอยู่กับฝ่ามือของตัวเองด้วยความอยากรู้ "น้ำเปล่า 2 แก้วน้ำส้มแก้วนึง" เขาสั่ง "ค่ะ" แม่บ้านสาวรับคำเสียงหวานก่อนจะกลับเข้าห้องครัวไป นำน้ำเขามาเสริฟเจ้านายกับแขกสาว เมื่อแม่บ้านสาววางแก้วน้ำลงบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เขาจึงหันไปออกคำสั่งกับแม่บ้านสาวอีกที "ละอองไปทำความสะอาดห้องที่ติดกับห้องฉันที"เขาสั่งแม่บ้านพลางหยิบแก้วน้ำมายื่นให้กับหญิงสาว แม่บ้านสาวพยักหน้ารับและมองคนที่เจ้านายพามาด้วยแววตาอยากรู้ แต่พอได้สบกับดวงตาคมของผู้เป็นนายแม่บ้านสาวก็รีบถอยกรูดออกไปจากตรงนั้นทันที ด้วยความคาใจ ภาคินหันกลับมามองหญิงสาวที่ทำตัวเหมือนผีดิบพลางยื่นแก้วน้ำในมือให้ "ดื่มน้ำก่อนคุณ" ธารธารายื่นมือไปรับแก้วน้ำในมือของภาคินเอามาดื่ม พลางเอ่ยขอบคุณเสียงแผ่ว "ขอบคุณค่ะ" ด้านแม่บ้านสาวที่กลับเข้ามาในห้องครัวก็วางถาดในมือลงด้วยความไม่พอใจ "แม่รู้ไ
ตอนที่ 17 แย่งชิงมือเรียวยาวลูบแผ่นหลังบอบบางของคนที่ซบหน้าร้องไห้อยู่กับอกของเขาด้วยความสงสาร เห็นแล้วก็พรานให้นึกถึงตัวเองในวันนั้นวันที่เขาสูญเสียคนรักให้กับผู้ชายคนอื่นไป เขาคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้ดีว่ามันเจ็บปวดและทรมานมากแค่ไหน สภาพของเขาในวันนั้นคงจะไม่ต่างกันกับผู้หญิงคนนี้ในวันนี้มาวินเองก็แอบมองผู้เป็นนายผ่านกระหจกมองหลังเป็นระยะๆ เป็นบางครั้ง ภาคินเองก็รู้ว่าคนสนิทกำลังแอบมองเขาอยู่เขาจึงจงใจมองกลับด้วยแววตาคำถาม ทำเอามาวินรีบหลบสายตาของผู้เป็นนาย พัลวันจนไม่กล้าที่จะแอบมองอีกอีกทางด้านของปองภพและผู้หญิงของเขาอีกสองคนก็กำลังตกอยู่ในความวุ่นวายปองภพเมื่อตามคนรักไม่ทันก็กลับขึ้นมาณห้องทำงานของตัวเอง ก็เห็นว่ามีพนักงานหลายคนกำลังมองไปที่ห้องทำงานของเขาเป็นตาเดียวกัน และทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามาในห้องภาพที่เห็นก็คือผู้หญิง 2 คนกำลัง ฉุดกระชากลากถูกันอยู่บนพื้นด้วยสภาพที่ผมเผ้ารุงรัง เขามองผู้หญิงทั้งสองของเขาด้วยความรู้สึกหงุดหงิดก่อนจะสั่งให้คนที่ตามเขามาจับผู้หญิงของเขาแยกออกจากกัน"ไปจับแยกออกจากกันสิ"เขาหันไปสั่งเสียงกร่าว"ครับ"ชายใส่สูทที่ตามหลังเขามารีบเข้าไปจับผู้
ตอนที่ 16 ความจริงที่แสนเจ็บปวด ยิ่งเห็นสภาพของผู้หญิงทั้งสองที่ตบตีกันแย่งคู่หมั้นของตัวเองเธอก็ยิ่งรับมันไม่ได้จนอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ ด้านปองภพเองก็หงุดหงิดจนแทบคลั่ง แทนที่เขาจะได้ตามง้อคนรัก แต่กลับต้องมาแยกผู้หญิงลับๆของตัวเองออกจากกัน แทนที่เขาจะได้ตามง้อและอธิบายเรื่องที่มันเกิดขึ้นให้กับคนรักและปรับความเข้าใจกัน แต่กลับต้องมาห้ามรุ้งรดากับเพลงพิณทะเลาะกันแทน เขาร้อนใจขึ้นมาทันที่ เมื่อเห็นว่าคนรักกำลังค่อยๆถอยหลังออกจากห้องไปทีละก้าวด้วยท่าทีเจ็บปวด ปองภพเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน ถึงเขาจะมีผู้หญิงอยู่รอบกาย แต่ผู้หญิงที่เขาให้ใจก็มีเพียงแค่ธารธาราคู่หมั้นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "หยุดๆ" เขาใช้กำลังที่เหนือกว่าผู้หญิงทั้งสอง จับทั้งสองแยกออกจากกันแล้วผลักไปคนละทางด้วยความโกรธ จนหญิงสาวทั้งสองกระเด็นกันไปคนละทิศคนละทางด้วยความตกใจ ว้าย!!! โอ้ย!!! ทั้งสองอุทานออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ ส่วนปองภพเองก็ไม่ได้ใส่ใจหญิงสาวทั้งสองอีก เขาก้าวขาไวๆเข้าไปหาคู่หมั้นทันทีด้วยความร้อนใจ "น้ำ!.น้ำฟังพี่ก่อน!.."เขาทะล่ำทะลักเรียกคนรักที่กำลังจะออกจากห้องไปด้วยน้ำเสียงร้อนรนใจ ธารธารา
ตอนที่ 15 คาหนังคาเขา เธอใช้มือดันประตูเปิดกว้างออกแล้วแทรกตัวเข้าไปข้างในห้อง ก่อนที่เธอจะยืนตัวแข็งอยู่กับที่ มองภาพตรงหน้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง แกร่ง!! เสียงกุลแจรถที่อยู่ในมือหล่นลงพื่นเสียงดังจนทำให้ชายหญิงที่ กำลังนัวเนียกันอยู่บนโต๊ะทำงานสะดุ้งแล้วหันกลับมามองยังต้นเสียงทันที.. "น้ำ!!"เสียงคนทั้งสองอุทานขึ้นพร้อมกัน "น้ำ!.." โดยเฉพาะปองภพที่อุทานออกมาจนสุดเสียงพร้อมกับลุกออกมาจากตัวของผู้หญิงที่มีสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ยืดตัวตรงแล้วลนลานรีบรูดซิบกางเกงด้วยความเร่งรีบ ด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด ธารธารายืนมองคนทั้งสอง ด้วยความตื่นตระหนกยิ่งเมื่อเธอได้เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังนัวเนียอยู่กับคู่หมั้นของเธอ เธอก็ยิ่งตกใจจนหน้าซีดตัวสั่นเมื่อผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นไกลแต่เป็นเพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียวของเธอ...รุ้งระดา "น้ำ!!น้ำครับฟังพี่ก่อน.. มันไม่ได้เป็นอย่างที่น้ำเห็นนะครับ"ปองภพรีบลนลานเข้าไปหาคนรัก .....? ธารธาราถอยหลังออกไปหลายก้าวด้วยความรังเกียจ พรางมองคนทั้งสองด้วยแววตาเจ็บปวด จนเธอพูดอะไรไม่ออกเพราะ ความเสียใจมันจุกแน่นในอกจนเธอไม่อาจจะเอ่ยเป็นเสียงออกมาได้ น้ำตาเม็ด
ตอนที่ 14 คนในมุมมืด ตราบใดที่ยังหาสาเหตุและคนที่คิดจะทำร้ายเธอยังไม่เจอ เธอก็คงจะอยู่กับความระแวงต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะรู้ตัวคนที่ต้องการจะทำร้ายเธอ ภาคินมองใบหน้าที่ซีดเซียวของหญิงสาวก็นึกสงสาร ก็อดที่จะ แนะนำออกไปไม่ได้ "ช่วงที่ตำรวจยังหาคนบงการยังไม่เจอคุณก็ควรจะหาบอดี้การ์ดหรือผู้คุ้มกันมาคอยตามดูแล เวลาไปไหนมาไหนก็คงจะดี"เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ธารธาราพยักหน้ารับด้วยสีหน้าที่คิดหนัก เพราะเธอไม่รู้ว่าจะไปหาบอดี้การ์ดมือดีมาจากไหนเพราะตอนนี้เธอไม่ไว้ใจใครเลยสักคน คำพูดของนายตำรวจทำให้เธอระแวงคนรอบกายไปเสียหมดจนเธอนอนไม่หลับตลอดทั้งคืนแล้วยังมาวันนี้อีก "ฉันไม่รู้ว่าจะไปหาบอดี้การ์ดมือดีที่ไหน"เธอบอกด้วยน้ำเสียงหนักใจ ภาคินขมวดคิ้วถาม "คุณก็ลองคุยกับคู่หมั้นของคุณดูสิเผื่อเขาจะหามาให้คุณได้" ภาคินบอกกับหญิงสาว ธารธารานิ่งคิดไม่พูดอะไร ทำให้ภาคินอดที่จะสงสัยไม่ได้เมื่อเขาเสนอให้เธอไปบอกคู่หมั้นของเธอหาผู้คุ้มกันมาให้ เขาจึงเอ่ยถามออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ "คุณมีอะไรปิดบังผมกับตำรวจเอาไว้หรือเปล่า" ภาคินถามหญิงสาวที่เอาแต่นั่งก้มหน้าหลบตาเขาไม่พูดไม่จาเหมือนคนที่กำลังคิดหนั
ตอนที่ 13 พ่อเลี้ยงแห่งไร่ภาคิน เพราะเธอรู้ว่าถึงเธอจะพูดไปก็ไม่มีใครเห็นด้วยกับเธอที่เธอจะไปขอบคุณผู้มีพระคุณทั้งสองคนนั้นด้วยตัวเองเธอจึงปล่อยผ่านไปก่อน ค่อยไปหาโอกาสไปขอบคุณคนทั้งสองคนนั้นด้วยตัวเองทีหลัง ด้านภาคินและมาวินที่กำลังเดินออกมาขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าโรงพยาบาลของตัวเอง เมื่อทั้งสองขึ้นมานั่งอยู่บนรถแล้วมาวินจึงหันไปทางผู้เป็นนาย "เจ้านายไม่คิดที่จะบอกผู้หญิงคนนั้นหน่อยหรือครับ ?"เขาถาม "ไม่จำเป็น"ภาคินตอบ "ครับ"มาวินขานรับ จากนั้นคนทั้งสองก็ขับรถออกจากโรงพยาบาลตรงกับไปที่ไร่ของตัวเองทันที อีกด้านภายในห้องพักผู้ป่วย สันติ เมื่อเหลือบไปมองนาฬิกาติดผนัง ที่บอกเวลา เที่ยงคืนกว่าแล้ว เขาจึงหันไปเอ่ยกับภรรยาและบุตรสาวคนเล็ก ที่นั่งสัปหงกอยู่ที่โซฟา "คุณนาท! คุณกับลูกกลับไร่ไปพักผ่อนเถอะผมจะเฝ้ายัยน้ำอยู่ที่นี่เอง"นายสันติบอกกับภรรยา ปองภพที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามรีบเอ่ยเสนอตัว "คุณพ่อครับ คุณพ่อพาคุณแม่กับน้องเพลงกับไปพักผ่อนที่ไร่เถอะครับผมจะอยู่เฝ้าน้ำที่นี่เอง"เขารีบเสนอตัว เพลงพิณเบิกตากว้างทันทีเมื่อได้ยินว่าว่าที่พี่เคยจะอยู่เฝ้าพี่สาวเขาเธออยู่ที่นี่ด้วยตัวเองเธอจึง
ตอนที่ 12 ใครกันที่อยู่เบื้องหลัง เมื่อ 3 พ่อแม่ลูกเข้ามาภายในห้องก็เห็นบุตรสาวคนโตนอนอยู่บนเตียงคนไข้โดยมีกระปุกน้ำเกลือและผ้าพันแผล พันตามแขนตามขาเต็มไปหมด ทำเอานายสันติถึงกับตกใจที่เห็นบุตรสาว อยู่ในสภาพ แบบนี้ "น้ำหนูไปโดนอะไรมาลูก"นายสันติรีบถลาเข้าไปหาบุตรสาว คนโตที่เตียงคนไข้ทันที พลางถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก นางศิรินาถเองก็ไม่ต่างจากผู้เป็นสามี นางเองก็ตกใจจนหน้าซีดเมื่อเห็นสภาพของลูกเลี้ยง ต่างจากเพลงพิณที่มองพี่สาวที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยสายตาว่างเปล่าไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากของเธอ..โดยมีภาคินกับมาวินยืนดูคนทั้ง 3 ที่เข้ามาใหม่อยู่อย่างเงียบๆ อยู่ที่มุมห้อง "ไม่เป็นอะไรมากค่ะพ่อ แค่หัวแตกแล้วก็พกช้ำดำเขียวนิดหน่อย" เธอบอกกับบิดาเสียงสั่น "แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมลูกถึงอยู่ในสภาพแบบนี้?" สันติยังคงถามต่อด้วยความอยากรู้ ธารธารามองหน้าบิดานิ่งๆก่อนจะตอบคำถามของบิดาออกไป "มีคนคิดจะทำร้ายน้ำค่ะพ่อ พวกมันขับรถปาดหน้ารถของน้ำแล้วก็จะฉุดน้ำค่ะ.. ดีที่มีคนมาช่วยน้ำเอาไว้ได้ทัน"เธอตอบคำถามของบิดาเสียงสั่น เพราะเธอยังมีความรู้สึกตื่นกลัวกับเหตุการณ์ที่พึ่งจะผ่านมายังไม่หาย "
ตอนที่ 11 พบเจอกันอีกครั้ง 2/2 ภาคินขับรถมุ่งกลับเข้าตัวเมืองทันที เพื่อที่จะพาหญิงสาวไปส่งโรงพยาบาล ส่วนคนเจ็บ ก็เอาแต่กอดผ้าขนหนูเอาไว้แน่นด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา ภาคินมองด้วยความรู้สึกสงสาร ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้นี่ถ้าเขา กับคนสนิทไม่มาเจอเข้าเสียก่อนเขาก็ไม่อยากจะคิดเลยว่า ผู้หญิงตรงหน้าของเขานี้จะมีสภาพเป็นเช่นไร พวกมันอาจจะ ทำปู้ยี่ปู้ยำกับผู้หญิงแล้วฆ่าปิดปาก.. อย่างที่เป็นข่าวร้ายๆข่าว พอคิดมาถึงตรงนี้ก็พรานให้เขาอยากจะกลับไปกระทืบไอ้พวกเด่นสังคมพวกนั้นให้จมธรณีไม่ต้องได้ผุดไม่ต้องได้เกิดมาอีก.. ด้วยความ เร็วที่เขาขับไม่นานก็มาถึงโรงพยาบาล เขาลงจากรถแล้วเรียกให้ บุรุษพยาบาลเข้ามานำตัวหญิงสาวไปส่งห้องฉุกเฉินทันที "คุณบุรุษพยาบาลครับทางนี้มีคนเจ็บครับ!.."เขาเปิดประตูเรียกบุรุษพยาบาล ที่อยู่ตรงนั้นทันที บุรุษพยาบาลรีบเข็นรถเข็นไปรับตัวของธารธาราทันทีที่สิ้นเสียงของภาคินไม่กี่วินาทีธารธาราก็ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน โดยมีภาคินยืนรออยู่ด้านนอก เพื่อรอฟังข่าว.. จากนั้นก็มีพยาบาลเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน เขารีบเอ่ยถามทันที "คนเจ็บเป็นยังไงบ้างครับคุณพยาบาล?"เขาถามออกไป
ตอนที่ 10 พบเจอกันอีกครั้ง 1/2 หลังจากที่สั่งให้ผู้จัดการโรงแรมดูแล บิดาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภาคินกับคนสนิทก็ออกเดินทางกลับไร่ทันที โดยมี มาวินเป็นสาระถีให้กับผู้เป็นนาย "เจ้านายครับพรุ่งนี้เจ้านายจะมารับคุณท่านเองหรือจะให้ผมมารับครับ?"มาวินหันไปถามผู้เป็นนายทันทีที่รถมุ่งออกสู่ถนนนอกเมืองที่แสงไฟริมทางสลัว "เดี๋ยวฉันมารับคุณพ่อเอง" ภาคินกล่าวพลางมองออกไปนอกรถ ท่ามกลางความมืดสนิท อีกด้าน ณถนนเส้นเดียวกัน.. ธารธาราขับรถฝ่าความมืดบนถนนเส้นทางนอกเมืองมุ่งตรงไปอย่างไร่ธารธารา ที่เธอใช้เดินทางมาตั้งแต่เล็กจนโตโดยไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อยนิด เพราะปกติแล้วเส้นทางเส้นนี้เธอก็ใช้เดินทางระหว่างไร่กับในตัวเมืองอยู่แทบจะวันเว้นวัน.. เธอจึงขับรถฟังเพลงไปด้วยด้วยอารมณ์ที่ค่อนข้างจะผ่อนคลาย อีกอย่างช่วงเวลาทุ่มกว่าๆนี้มันก็ยังไม่ได้ดึกอะไรมากเธอจึงไม่ได้เร่งรีบถึงมันจะมืดและเงียบไปหน่อยก็เถอะแต่เพราะความเคยชินเธอจึงไม่มีความระวังและระแวง.. และในขณะที่เธอกำลังขับรถและฟังเพลงไปด้วยอยู่นั้นก็มีเสียงแตรถดังไล่หลังเธอมาด้วยความเร็วที่ค่อนข้างสูง แถมยังตบไฟสูงใส่เธอจนเธอต้องขมวดคิ้วด้วยความมึนงง? ปี