“ถ้าหากเขากล้าไม่เคารพคุณอีก ผมจะหักขาของเขาด้วยตัวเอง”ทั้งสองคนพูดเกลี้ยกล่อมหลินเฟิงคนละประโยคเขาก็รู้ดีเป็นอย่างมาก วันนี้ทั้งสองคนนี้มาเพื่อขอความเมตตาแทนซ่งเฉียนเฉิงพิจารณาถึงเส้นสายของจางเต๋อหลินกับซ่งเฉียนคุนที่เมืองเจียงโจวหลินเฟิงจึงเลือกที่จะไว้หน้าพวกเขา“ในเมื่อคุณกับหมอเทวดาจางมาด้วยตัวเอง ผมจะไม่ให้เกียรติได้อย่างไรล่ะ?”ได้ยินคำพูดนี้ของหลินเฟิงทั้งสองคนก็ถอนหายใจยาว ๆดูท่าหลินเฟิงคิดให้อภัยซ่งเฉียนเฉิงแล้วจากนั้นเห็นหลินเฟิงล้วงเอายาเม็ดหนึ่งออกมาให้ซ่งเฉียนคุน“นี่คือยาอมตะเลือกราชันย์ พอกเอาไว้บนบาดแผลของน้องชายคุณ ไม่เกินครึ่งเดือนก็จะหายดี”“ซี้ด…”ซ่งเฉียนคุนสูดหายใจเข้าอย่างแรง คิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงจะนำยาอมตะเลือดราชันย์ออกมาคราวนี้ได้ผลประโยชน์มากจริง ๆ“ขอบคุณคุณหลินมาก ๆ ขอบคุณนะครับ”หมอเทวดาจางลูบเคราเบา ๆ จากนั้นพยักหน้าด้วยความพึงพอใจไม่เสียแรงที่เป็นวัยรุ่นที่ตัวเองชื่นชมในตอนที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันจู่ ๆ หลินเฟิงก็ได้รับสายจากเบอร์ที่ไม่รู้จักเขากดปุ่มรับสายทันทีอีกฝ่ายของโทรศัพท์ มีเสียงหัวเราะอิ่มอกอิ่มใจของเว่ยป้าวดังขึ้น: “
หลินเฟิงเดินลงมาจากรถ และมองดูกลุ่มลูกสมุนที่อยู่โดยรอบคนกลุ่มนี้ล้อมรอบหลินเฟิงเอาไว้แต่กลับไม่มีใครกล้าเข้าไปเลยในเมื่อฉากที่หลินเฟิงแสดงความเก่งกาจในครั้งที่แล้วพวกเขาได้เห็นอย่างชัดเจนแล้วเว่ยป้าวมองดูสายตาดุเดือดของหลินเฟิง ก็รู้สึกว่าแผ่นหลังมีความเย็นเยือกแพร่กระจายออกมา“หลี่ฮุ่ยหรานอยู่ที่ไหน?” หลินเฟิงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงโมโห“หลี่ฮุ่ยหรานอยู่ตรงนี้” ซ่งเฉียนเฉิงที่อยู่ชั้นสองใช้มือเพียงข้างเดียวที่มีอยู่จับคอของหลี่ฮุ่ยหรานแล้วเดินออกมาหลินเฟิงเงยหน้ามองไป คิดไม่ถึงว่าจะเห็นซ่งเฉียนเฉิงอีกแล้วหลี่ฮุ่ยหรานตะโกนอย่างสุดกำลัง: “หลินเฟิง คุณรีบไป พวกเขาตั้งใจหลอกคุณมา”เธอรู้ว่าหลินเฟิงสมรรถภาพทางร่างกายไม่เลว จัดการอันธพาลไม่กี่คนง่ายดายเป็นอย่างมากแต่ที่นี่คนเยอะแยะขนาดนี้ และในมือของพวกเขาก็ยังถือดาบเอาไว้อยู่ หลินเฟิงตัวคนเดียวจะแตกต่างอะไรกับการส่งมอบชีวิต?ในสายตาของหลินเฟิง คนกลุ่มนี้ก็แค่พวกไร้ประโยชน์ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ซ่งเฉียนเฉิงแล้วพูดขึ้น: “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ ปล่อยเธอไปซะ แล้วพวกเราค่อย ๆ คุยกัน”“ฮ่าฮ่าฮ่า...”ซ่งเฉียนเฉิงหัวเราะออก
หลินเฟิงหรี่ตาลงแล้วถีบไปที่ตัวของเว่ยป้าวเสียงดัง “ตู้ม” เว่ยป้าวกระเด็นออกไปโดยตรงครึ่งหนึ่งของร่างกายก็ฝังลงไปบนผนังคนทั้งคนกระอักเลือดออกมา เป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่สามารถรู้ได้พวกลูกน้องก็ตกตะลึงจนหน้าถอดสี อยากจะเข้าไปแต่ก็ไม่กล้าซ่งเฉียนเฉิงเห็นแบบนี้ ก็รีบชักมีดกริชออกมาและจ่อไปที่คอของหลี่ฮุ่ยหราน: “แกแม่งยังกล้าลงมือทำร้ายคนอีก?”“รีบเอาสารจำเป็นกับเลือดมาให้ฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าเธอเดี๋ยวนี้”หลินเฟิงเคยได้รับความเหยียดหยามแบบนี้ที่ไหนกัน แต่เพื่อช่วยหลี่ฮุ่ยหรานเขาก็เลือกที่จะประนีประนอมจากนั้นก็หยิบมีดกริชที่อยู่บนพื้นขึ้นมาหลี่ฮุ่ยหรานร้องไห้แล้วตะโกนขึ้น: “หลินเฟิง ฉันขอร้องคุณล่ะ อย่าทำแบบนี้ ไม่เอาแบบนี้”“ต่อให้คุณทำตามที่พวกเขาบอก พวกเขาก็ไม่มีทางปล่อยพวกเราไป…”หลินเฟิงถลึงตาใส่เธอแล้วพูดขึ้น: “ใครใช้ให้คุณโง่ขนาดนี้ แถมยังถูกหลอกอีก”“ขอโทษ ขอโทษ ฉันทำผิดต่อคุณ…”หลี่ฮุ่ยหรานถูกคำพูดทิ่มแทงจนเจ็บปวด จากนั้นก็พูดขอโทษหลินเฟิงติดต่อกันหลายครั้งถ้าหากตัวเองไม่ถูกจับ หลินเฟิงก็คงไม่ถูกบีบบังคับจนเป็นแบบนี้“ตอนนี้พูดขอโทษมีประโยชน์ไหม? ครั้งห
หลี่ฮุ่ยหรานหลบอยู่ที่ด้านหลังของหลินเฟิง ในตอนนี้เธอรู้สึกถึงความปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนนั่นเป็นสิ่งที่แม่ของตัวเอง และหวางเส้าหลงก็ไม่สามารถให้ได้ในตอนนี้ซ่งเฉียนเฉิงกระวนกระวายและชี้หน้าหลินเฟิง: “ตอนนี้เขามีแค่แขนข้างเดียว ทุกคนลุยเข้าไปพร้อมกัน จัดการมันให้ฉันซะ”“ใครฆ่ามัน ฉันจะให้ยี่สิบห้าล้านบาท”หลินเฟิงยิ้มเยาะ: “ฉันอยู่ในสายของนาย มีค่าแค่นี้เองเหรอ?”ความเป็นจริงค่าหัวของหลินเฟิงที่ต่างประเทศ มูลค่าเจ็ดหมื่นล้านบาทเต็ม ๆตามคำที่ว่าเงินรางวัลเยอะก็จะต้องมีผู้กล้า หลินเฟิงที่มือเปล่าพวกเขาก็ไม่สามารถเอาชนะได้ตอนนี้เหลือแค่มือข้างเดียวยังจะสู้ไม่ได้อีกเหรอ“ฆ่า…”ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมาเสียงดังหลังจากเสียงคำรามดังขึ้น คนเหล่านั้นก็พุ่งเข้าไปเหมือนกับคลุ้มคลั่งหลินเฟิงขยับหัวไหล่ ก็เห็นแขนข้างที่หักของเขาต่อกลับเข้าไปหลินเฟิงที่ฟื้นฟูกำลังในการสู้รบก็เหมือนกับเสือดุที่ลงมาจากภูเขา บุกมาอย่างแรงไม่อาจต้านทานไว้ได้การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วมาก คนธรรมดาพวกนี้มองดูยังยากที่จะจับโฟกัสได้หลินเฟิงพุ่งไปทางซ่งเฉียนเฉิงคนที่ขวางอยู่ข้างหน้าเขาทั้งหมด ถูกต่
ได้ยินคำพูดนี้ของหลินเฟิง วันนี้น้องชายของเขาจะต้องตายอย่างแน่นอนเขามองดูน้องชายของตัวเองแล้วพูดขึ้น: “นายลงมือเองเถอะ อย่าบีบบังคับให้ฉันต้องลงมือ”ซ่งเฉียนเฉิงตกตะลึงตาค้าง หัวใจของเขาก็จมไปสู่ก้นบึ้งเขารู้ว่าพี่ใหญ่ของตัวเองทอดทิ้งเขาไปแล้ว“ผม…”ซ่งเฉียนเฉิงร้องไห้อย่างไร้เสียง คิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะตกมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ในที่สุดตอนนี้เขาก็รู้แล้ว ไม่ว่าที่พึ่งพาของตัวเองยิ่งใหญ่แค่ไหน หากหาเรื่องคนที่ไม่ควรหาเรื่อง จุดจบก็มีแต่จะตายวันนี้ตัวเองไม่ตาย ทั้งสำนักเทียนเตาก็จะได้รับความเดือดร้อนไปด้วย“พี่ใหญ่ ขอโทษครับ”ซ่งเฉียนเฉิงใช้แขนที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียว ตบลงไปที่หน้าอกของตัวเองหัวใจแตกสลายในทันที และปากก็กระอักเลือดจนตายไปมองดูซ่งเฉียนเฉิงตายไปแล้ว หลินเฟิงเดินออกไปจากตรอกเงียบ ๆซ่งเฉียนคุนทอดถอนใจ จากนั้นก็เรียกคนมาเก็บศพให้น้องชายของตัวเองถึงแม้ทั้งสองคนไม่ใช่พี่น้องแท้ ๆ แต่ต่างก็เป็นคนตระกูลซ่ง หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดความเศร้าโศกเสียใจเมื่อเดินออกมาจากตรอก ซ่งเฉียนคุนอารมณ์หดหู่เล็กน้อย: “คุณหลิน เรื่องในวันนี้ต้องขอโทษจริง ๆ นะครับ”“ผมก็
หลี่ฮุ่ยหรานถามขึ้นด้วยความสงสัย: “หมอเทวดาจาง คุณกับหลินเฟิงรู้จักกันตั้งนานแล้วเหรอคะ?”“แน่นอนครับ วิชาแพทย์ของสหายน้อยหลินฝีมือเลิศล้ำที่สุด ผมก็เลื่อมใสเป็นอย่างมาก” จางเต๋อหลินพูดด้วยรอยยิ้มหลี่ฮุ่ยหรานได้ยินคำพูดนี้กลับมีสีหน้างุนงงดวงตาคู่หนึ่งมองไปทางหลินเฟิงด้วยความสงสัย…วิชาแพทย์ของเขาฝีมือเลิศล้ำที่สุด? ถึงกับทำให้จางเต๋หลินรู้สึกเลื่อมใส?เธออยู่ด้วยกันกับเขาสามปีทำไมถึงไม่รู้เรื่องนี้?“หมอเทวดาจางไม่ได้กำลังล้อเล่นใช่ไหมคะ?”จางเต๋อหลินลูบเคราเบา ๆ แล้วยิ้มพูด: “หึหึ ผมไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องนี้มาล้อเล่นหรอกครับ”“ครั้งที่แล้วคุณปู่ตระกูลหม่าป่วยหนัก ก็เป็นสหายน้อยหลินที่ช่วยออกหน้ารักษา”“อะไรนะคะ?” หลี่ฮุ่ยหรานตกตะลึงอย่างมากในหัวสมองนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทันทีตัวเองไปส่งยาให้คุณปู่ตระกูลหม่า เกือบจะทำให้เขาเสียชีวิต หม่าเยี่ยนยังจับเธอเอาไว้ด้วยแต่ไม่นานนักก็ปล่อยเธอกลับไปหรือว่าในนี้คนที่ช่วยเธอไว้ก็คือหลินเฟิงเหรอ?เห็นท่าทางจริงจังของจางเต๋อหลิน เหมือนกับว่าไม่ได้พูดล้อเล่นกับเธอมิน่าล่ะตอนนั้นจางเต๋อหลินถามเธอว่าทำไมถึงหย่
หลินเฟิงพูดด้วยความประหลาดใจ: “คุณไม่พักอีกสักหน่อยเหรอ?”“ไม่จำเป็นแล้ว ฉันไม่ได้บาดเจ็บอะไร” หลี่ฮุ่ยหรานส่ายหน้า และเดินออกไปจากห้องผู้ป่วยถังหว่านเหลือบตามองเธอแล้วพูดขึ้น: “ฉันไปส่งคุณหลี่หน่อย”หลินเฟิงได้ยิน ก็รีบจับข้อมือของถังหว่านเอาไว้ให้พวกเธอสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพัง อาจจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ได้ถังหว่านยิ้มอย่างอ่อนโยนให้หลินเฟิงและพูดขึ้น: “วางใจเถอะ ฉันแค่ไปส่งคุณหลี่จริง ๆ”หลี่ฮุ่ยหรานกับถังหว่านเดินขนาบกันอยู่ตรงทางเดินของสำนักไป๋เกาถังหว่านเอ่ยปากพูดขึ้นก่อน: “คุณหลี่ฉันได้ยินว่าวันนี้หลินเฟิงเป็นเพราะช่วยเหลือคุณ ถึงได้ทำให้เกิดเรื่องราววุ่นวายใหญ่โตแบบนี้”หลี่ฮุ่ยหรานก็พยักหน้าอย่างไม่หลีกเลี่ยง: “ใช่ค่ะ เป็นแบบนั้นนั่นแหละค่ะ“ถังหว่านพูดต่อ: “คุณหลี่ ทุกคนต่างเป็นผู้ใหญ่แล้ว ฉันหวังว่าคุณจะสามารถเข้าใจได้ว่า เรื่องบางเรื่องควรจะรับผิดชอบเอง ไม่ใช่มัวแต่ให้คนอื่นตามเก็บกวาดให้ตลอดไป”หลี่ฮุ่ยหรานได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าก็ไม่พอใจเล็กน้อยในเมื่อเรื่องในวันนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเธอจริง ๆ คนที่ซ่งเฉียนเฉิงต้องการจัดการก็คือหลินเฟิงหลี่ฮุ่ยหรานถือว่าเป็นผู้
ถังหว่านครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น: “รอไปก่อน แน่นอนว่าต้องวางตลาดพร้อมกับตระกูลเซี่ยง”“พร้อมกันกับตระกูลเซี่ยง?”หลินเฟิงแปลกใจเล็กน้อย“ถูกต้อง ฉันอยากจะให้ตระกูลเซี่ยงเสียหน้า เหยียบย่ำพวกเขาลงกับพื้น” ถังหว่านมีความมั่นใจอย่างมากพูดให้ถูกต้องยิ่งกว่าก็คือเธอมีความมั่นใจต่อยาประสานพลังอย่างเต็มที่ถังหว่านครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น: “แต่มีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องเตรียมตัวอย่างดี”“เรื่องอะไร?” หลินเฟิงถามขึ้นด้วยความสนใจ“เรื่องพรีเซ็นเตอร์”“คุณวางแผนจะเลือกใคร?”ในตอนนี้ถังหว่านนั่งลงข้างกายหลินเฟิงแล้วหัวเราะคิกคักขึ้นมา: “ครั้งที่แล้วคุณช่วยดาราที่ชื่ออิ่นนั่วเจียไว้ไม่ใช่เหรอ?”“ฉันวางแผนอยากจะเชิญเธอออกหน้า ในเมื่ออิ่นนั่วเจียก็ถือว่าเป็นดาราที่โด่งดังมาก”หลินเฟิงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย มีกระแสการโฆษณาของดาราพรีเซ็นเตอร์ ก็จะดีมากขึ้นจริง ๆ“งั้นทำไมคุณไม่ไปติดต่อเธอ?”ถังหว่านพูดขึ้น: “ฉันคิดจะให้คุณออกหน้า อย่างไรคุณก็ถือว่าเป็นผู้มีพระคุณต่อเธอไม่ใช่เหรอ? เรื่องเล็กแค่นี้เธอต้องช่วยเหลือแน่นอน”“อีกอย่างฉันยุ่งมาก เรื่องเล็กแค่นี้จะให้ฉันออกหน้าเองเหรอ