เธอโค้งตัวให้กับหลินเฟิงและจางเจียหนิง: “ทั้งสองท่าน ฉันชื่อหวังลี่ลี่ เป็นพนักงานขายของที่นี่ค่ะ ไม่ทราบว่าทั้งสองท่านอยากดูรถรุ่นไหนคะ?”เธอมาทำงานที่นี่หนึ่งเดือนแล้วจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้เปิดบิลเลย ถ้าหากเป็นแบบนี้ต่อไป สิ้นเดือนตัวเองก็จะถูกไล่ออกแล้วคิดไม่ถึงว่าพนักงานขายดีเด่นจะเป็นฝ่ายยกลูกค้าให้เธอถึงแม้ทั้งสองคนจะดูอายุน้อยไปหน่อย แต่มีลูกค้าก็ดีกว่าไม่มีประตูโชว์รูมถูกคนผลักออก ในตอนนี้เองก็มีชายวัยกลางคนผมบางคนหนึ่งเดินเข้ามาหวงเสี่ยวมั่นเข้าไปต้อนรับทันที: “พี่หลิว พี่มาสักที ครั้งที่แล้วรถสองสามรุ่นที่ฉันแนะนำให้ พี่พิจารณาเป็นอย่างไรบ้าง?”ชายวัยกลางคนโอบเอวบางของหวงเสี่ยวมั่นเอาไว้แถมยังตบไปที่บั้นท้ายของเธอ จากนั้นก็ยิ้มพูดขึ้น: “วันนี้ฉันมาก็มาซื้อรถไม่ใช่เหรอ แต่เธอต้องแนะนำให้ฉันดี ๆ หน่อยล่ะ”“แน่นอนอยู่แล้ว อีกเดี๋ยวพี่หลิวสามารถลองขับก่อนได้ รู้สึกว่าดีแล้วค่อยซื้อ” หวงเสี่ยวมั่นปิดปากเล็ก ๆ แล้วหัวเราะทั้งสองคนพูดคุยกันสนุกสนานหลินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย วุ่นวายอยู่นานไม่ใช่ว่าเธอไม่เป็นมิตร เพียงแค่ขี้เกียจจะสนใจพวกเขาสองคนก็เท่านั้น“ตาต่ำซะจริง
ผ่านไปครู่หนึ่ง หวังลี่ลี่ก็ถือสัญญาสองชุดเดินเข้ามาหลินเฟิงเซ็นสัญญาสองชุดทันที และรูดบัตรจ่ายเงินเมื่อทำเอกสารเสร็จ หวังลี่ลี่ก็มอบกุญแจให้และพูดขึ้น: “คุณหลิน รถคันนี้คุณจะขับไปเอง หรือว่าให้ทางเราเอาไปส่งที่บ้านคะ?”“ผมขับไปเอง”“ได้ค่ะ คุณหลิน งั้นเราไปถอยรถกันเถอะค่ะ” หวังลี่ลี่พูดขึ้นหลินเฟิงพยักหน้าและพาจางเจียหนิงกับหวังลี่ลี่ไปที่ลานจอดรถด้วยกันเพิ่งไปถึงลานจอดรถ ก็มีรถเบนซ์คลาส E จอดอยู่ที่ด้านข้างพวกเขาชายวัยกลางคนคนนั้นกับหวงเสี่ยวม่านลงมาจากรถหลินเฟิงเหลือบมองพวกเขาทั้งสองคนเห็นเสื้อเชิ้ตของหวงเสี่ยวม่านไม่เรียบร้อย มีความยุ่งเหยินเล็กน้อยหวงเสี่ยวม่านกอดแขนของชายวัยกลางคนแล้วพูดขึ้น: “พี่หลิว รถคนนี้ไม่เลวใช่ไหม เราไปเซ็นสัญญากันเถอะค่ะ”ชายวัยกลางคนกลับลังเลอยู่นาน และพูดขึ้นอย่างสองจิตสองใจ: “อืม รถคันนี้ไม่เลว แต่ไม่ค่อยเหมาะสมกับที่ฉันคาดหมายไว้ในใจสักเท่าไหร่”“ฉันดูรถคันอื่นอีกหน่อย...”หวงเสี่ยวม่านได้ยินแบบนี้ก็พูดขึ้น: “พี่หลิวพี่ยังจะดูอะไรอีก? ถ้าไม่ชอบรถเบนซ์ พวกเรายังมีรถมายบัค...”ชายวัยกลางคนกลอกตา รถมายบัคก็มองข้ามไปได้เลย“วันนี้ฉ
“อ๋อ...ที่แท้ก็คุณหลินเองเหรอคะ”อิ่นนั่วเจียที่อยู่อีกฝ่ายของโทรศัพท์นึกได้ทันทีจึงพูดขึ้น: “คุณหลินวันนี้ทำไมจู่ ๆ ถึงโทรหาฉันคะ? มีเรื่องอะไรไหมคะ?”หลินเฟิงเกาหัวแล้วพูดขึ้น: “คือแบบนี้ครับ ผมอยากเชิญให้คุณอิ่นเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ผลิตภัณฑ์ยาตัวหนึ่งของบริษัทของผม ราคาคุยกันง่ายครับ”“ผลิตภัณฑ์ยา?” อิ่นนั่วเจียชะงักงันถ้าหากเป็นสินค้าอื่น อิ่นนั่วเจียอาจจะรับปากทันทีแต่สิ่งนี้ทำไม่ได้ ของสิ่งนี้ถ้าหากเกิดปัญหาขึ้น ตัวเองก็อาจจะเดือดร้อนไปด้วย“เอาแบบนี้นะคะ คืนนี้ฉันมีคอนเสิร์ต รอเสร็จสิ้นแล้วพวกเราคุยกันต่อหน้า”อิ่นนั่วเจียครุ่นคิดซ้ำ ๆ จึงตัดสินใจดูก่อนว่ายาที่อยู่ในมือหลินเฟิงคืออะไรถ้าหากไม่มีปัญหา เป็นของดีเธอก็สามารถเป็นพรีเซ็นเตอร์ได้อยู่แล้ว“ได้ครับ” หลินเฟิงสอบถามที่อยู่ แล้ววางสายไปเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียยินยอมพบตัวเองก็พอแล้วมูลค่าของยาปรับประสานพลังนั้นไม่ต้องเอ่ยถึงเลยสำหรับงานคอนเสิร์ต หลินเฟิงก็ไม่เคยได้ดูสักเท่าไหร่ อย่างไรก็ว่างอยู่เฉย ๆและกว่าจะได้พบกับอิ่นนั่วเจียก็ต้องรอให้คอนเสิร์ตของเธอเสร็จสิ้นเสียก่อนตัวเองไม่สู้เข้าไปรอในงานหลินเฟิง
หลินเสวี่ยฮุ่ยยิ้มอย่างเก้กัง: “พอใช้ได้มั้ง”แม้แต่เธอก็ไม่รู้รายละเอียดว่าหลินเฟิงทำอะไรแต่เธอมั่นใจได้ว่า หลินเฟิงน่าจะเป็นบุคคลใหญ่โตคนหนึ่งผู้หญิงที่ไว้ผมลอน ที่นั่งอยู่ด้านข้างผู้หญิงหมวกแก๊ปพูดเยาะหยัน: “เปิดบริษัทสุดยอดตรงไหนกัน คุณชายหลี่ว์ตระกูลก็เปิดบริษัท”“ใช่ไหมคะคุณชายหลี่ว์?”หลี่ว์เจิ้งหยางที่นั่งอยู่ด้านข้างหลินเฟิงก็พูดด้วยใบหน้าถ่อมตัว: “เห้อ นั่นเป็นความดีความชอบของคุณพ่อคุณแม่ ไม่นับเป็นส่วนของผม”สาวผมลอนกลับพูดด้วยใบหน้าประจบประแจง: “คุณชายหลี่ว์เป็นลูกคนเดียว ของพ่อแม่ก็คือของคุณไม่ใช่เหรอ”หลี่ว์เจิ้งหยางก็สะกิดหลินเฟิงอีกครั้งแล้วพูดขึ้น: “สหาย เราสองคนแลกที่นั่งกัน”หลินเฟิงถึงนึกขึ้นได้ว่า ตัวเองจะเปลี่ยนที่นั่งกับเขา อย่างไรซะพวกเขาสามสี่คนก็เป็นเพื่อนนักเรียนกัน เขานั่งตรงไหนก็ไม่มีปัญหายังไม่รอให้เขาลุกขึ้น หลินเสวี่ยฮุ่ยกลับจับแขนของเขาเอาไว้“หลินเฟิง คุณนั่งตรงนี้แหละ”เธอหันหน้ามองไปทางหลี่ว์เจิ้งหยางแล้วพูดขึ้น: “คุณชายหลี่ว์ ฉันกับหลินเฟิงไม่ได้เจอกันนานแล้ว อยากจะพูดคุยถึงความหลังกันหน่อยพอดี คุณนั่งตรงนั้นเถอะค่ะ”“เอ่อ...นี่ ก็ได้
หลินเฟิงพยักหน้า “แน่นอน ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอ? ว่าผมมาเพื่อพูดคุยธุรกิจกับอิ่นนั่วเจีย”“การขอลายเซ็นจากเธอสักสองสามแผ่น น่าจะไม่ใช่ปัญหา”“แบบนั้นก็ดีเลยค่ะ” ผู้หญิงที่สวมหมวกแก๊ปพูดด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้นขณะพูดหลินเฟิงก็พาคนสองสามคนไปที่ด้านหลังเวทีคอนเสิร์ตและได้บอกชื่อจริงของตัวเองออกไปโดยตรงการเดินทางที่ราบรื่นไม่มีติดขัด ไม่นานนักก็มาถึงด้านหลังเวทีและได้เห็นอิ่นนั่วเจียกำลังเช็ดเครื่องสำอางออกอยู่“โอ้แม่เจ้า ไม่คิดเลยว่าอิ่นนั่วเจียหน้าสดจะสวยขนาดนี้””จุ๊ จุ๊…สมกับที่เป็นดาราดังจริง ๆ! แม้แต่หน้าสดก็ไม่อาจต้านทานได้ขนาดนี้”นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเธอสองสามคนได้ใกล้ชิดดารา“คุณหลิน คุณมาแล้ว” เมื่ออิ่นนั่วเจียมองเห็นหลินเฟิง ก็ยกกระโปรงยาวแล้วเดินมาหาช้า ๆและเป็นฝ่ายที่เข้ามาจับมือของหลินเฟิงก่อนเมื่อเห็นคนสองสามคนที่ยืนข้าง ๆ หลินเฟิงก็ถามด้วยความสงสัยว่า “คนพวกนี้คือ?”“อ่อ”หลินเฟิงมองหลินเสวี่ยฮุ่ยแล้วพูดขึ้น ”นี่คือน้องสาวของผมกับเพื่อนร่วมชั้นของเธอ พวกเขาชอบคุณอิ่นมาก อยากได้ลายเซ็นจากคุณ”“ผมก็เลยพาพวกเขาเข้ามาที่นี่”คุณอิ่นยิ้มอย่างมีเสน่ห์เล็กน้อย:
ทันใดนั้นก็เหมือนมีกระแสน้ำอุ่นหลอมละลายอยู่ ภายในกระเพราะของเธอ เธอที่เพิ่งจะแสดงคอนเสิร์ตจบรู้สึกเหนื่อยล้าไปหมดทั้งตัวไม่คาดคิดเลยจริง ๆ ว่า หลังจากที่ทานยาปรับประสานพลังตัวนี้เข้าไปแล้ว ความเหนื่อยล้าของร่างกายก็หายไปทันทีเพียงแต่ผิวหนังมีสารสกปรกสีดำซึมออกมาอิ่นนั่วเจียตกตะลึง: “นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ?”หลินเฟิงพูดอธิบาย “นี่เป็นเพียงแค่สารสกปรกในร่างกายของคุณอิ่น ทำการชะล้างก็เพียงพอ”จริง ๆ แล้ว ยาปรับประสานพลังนี้ ก็เป็นยาที่คนทั่วไปใช้ในการก้าวเข้าสู่การเป็นนักบู๊ ยาเม็ดที่ใช้ในการชะล้างร่างกายแน่นอนว่าจึงขับสิ่งสกปรกในร่างกายของคนทั่วไปออกมา“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ” อิ่นนั่วเจียรีบเดินไปเข้าห้องน้ำเมื่อล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกายแล้ว เธอมองดูตัวเองในกระจกผิวขาวกระจ่างใส ดูเนียนนุ่ม เหมือนเด็กเกิดใหม่คนที่ไม่รู้ อาจจะคิดว่าเธอทาแป้งบนตัว“แม่เจ้า” อิ่นนั่วเจียลูบแก้มของเธอเองนี่มันยามหัศจรรย์ชัด ๆอิ่นนั่วเจียสวมใส่เสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย ก็รีบเดินออกมาแล้วพูดขึ้นทันที “คุณหลิน พรีเซ็นเตอร์ยาปรับประสานพลังไม่มีปัญหาสักนิดค่ะ”หล
อิ่นนั่วเจียไม่พอใจกับท่าทางของพวกเขาอย่างมาก เธอจึงตะโกนเสียงดังบอกให้พวกเขารีบออกไปทันทีชายร่างกำยำดูเหมือนจะไม่ยอมออกไป แต่กลับไปนั่งลงที่บนโซฟาแทนลูกน้องสองคนยืนนิ่งอยู่ที่ด้านหลังชายร่างกำยำคนนั้นล้วงผลิตภัณฑ์ยาออกมาจากหน้าอก แล้วพูดว่า “คุณอิ่นอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ”“พวกเราเซียงซื่อเมดดิซีนพอใจในตัวคุณอิ่น นั่นก็คือวาสนาของคุณเลย”“นี่คือยาบำรุงสตรีที่พัฒนาโดยเซี่ยงซื่อเมดดิซีน เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกมาเพื่อการดูแลผิวและความงามของผู้หญิงโดยเฉพาะ”“คุณอิ่นสามารถลองดูก่อนได้ ถ้าไม่ได้ผล พวกเราจะไม่ตามตื๊อคุณอิ่นอย่างแน่นอน”อิ่นนั่วเจียตกตะลึง และมองไปที่ยาขวดเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะ ทำไมถึงได้เป็นผลิตภัณฑ์ความงามทั้งหมดนะ?”“ขอโทษด้วย ฉันรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ตัวอื่นแล้ว และช่วงนี้ก็ยังไม่มีเวลาว่างแล้ว”“ปึง”ชายร่างกำยำได้ยินแบบนี้ก็ทุบโต๊ะกาแฟทำเอาอิ่นนั่วเจียอุทานออกมาเสียงดังเสียงของชายร่างกำยำเริ่มเย็งลง “คุณอิ่น ผมคิดว่ากำลังของเซี่ยงซื่อเมดดิซีนของพวกเรา คุณคงไม่รู้จักมากเท่าไหร่”“ถ้าหากพวกเราต้องการแบนคุณอิ่น ก็จะใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที”“พวกคุณ….”อิ่นนั่วเจียกัดฟ
หลินเฟิงโบกมือขึ้นมากะทันหัน ทำให้ชายทั้งสามหนีไปอย่างบ้าคลั่งอิ่นนั่วเจียก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดขึ้น “คุณหลินรบกวนคุณมากจริง ๆ ”หลินเฟิงส่ายหัว “เป็นสิ่งที่ผมควรทำอยู่แล้ว”ขณะพูด เขาก็ได้ทิ้งหมายเลยโทรศัพท์ไว้ “ถ้าหากคนพวกนี้ยังกล้ามารบกวนคุณอีก คุณโทรหาผมได้ทันทีเลย”อิ่นนั่วเจียเก็บเบอร์โทรศัพท์ของหลินเฟิงเอาไว้อย่างระมัดระวัง และพยักหน้าซ้ำ ๆ เมื่อจัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว หลินเฟิงก็กล่าวลาอิ่นนั่วเจีย......ด้านนอกคอนเสิร์ต คนจำนวนไม่น้อยกำลังทยอยกันกลับกันไปเดิมทีคอนเสิร์ตที่คึกคัก รื่นเริง ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นเงียบเชียบ เปล่าเปลี่ยวหลินเสวี่ยฮุ่ยกับคนอื่นๆกำลังรอรถอยู่ที่ริมถนนเด็กผู้หญิงที่สวมหมวกกันแดด มองดูรูปถ่ายพร้อมลายเซ็นในมือแล้วพูดอย่างตื่นเต้น “โอ้พระเจ้า เสวี่ยฮุ่ย ฉันคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าเธอจะมีพี่ชายที่เจ๋งขนาดนี้”“ทำไมก่อนหน้านี้ไม่บอกพวกเราเลย”หลินเสวี่ยฮุ่ยเกาหัวตัวเองเบา ๆ ด้วยความเก้กัง เพราะจริง ๆ แล้วเธอก็ไม่รู้จักหลินเฟิงมาก่อนเด็กสาวที่สวมหมวกแก็ปเอ่ยขึ้น “ครั้งหน้ามีคอนเสิร์ตอีก ค่อยเรียกพี่ชายของเธอมาด้วย…”ในตอนนี้เองหลี่ว์เ
หลินเฟิงออกแรงเงยหน้าขึ้นรอให้เขามองเห็นสถานการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจน นัยน์ตากลับหดลงทันทีเป็นเพราะหลงต้างที่ข่มเขาเอาไว้โดยสิ้นเชิงเมื่อครู่นี้ ภายใต้กระบวนท่าที่เขาปล่อยออกมาอย่างน่าหวาดกลัวขนาดนี้ ก็ยังถูกราชาหลินแห่งตอนใต้บีบคอเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวห้อยอยู่กลางอากาศอย่างง่ายดายขนาดนี้เหมือนกับราชาหลินแห่งตอนใต้ไม่ได้ใช้พลังชี่แท้ออกมาด้วยซ้ำ“นี่มัน...”“ดูให้ดีนะไอ้หนุ่ม มือข้างเดียวแบบนี้เรียกว่ามือระเบิดมังกร(หลง ภาษาจีนแปลว่ามังกร คำพ้องเสียง) ปู่ของนายสอนฉันมา เอาไว้ใช้ฆ่าคนของตระกูลหลง”น้ำเสียงของราชาหลินแห่งตอนใต้เรียบเฉยอย่างมากแต่หลงต้างกลับกลอกตาไปมา ขาสองข้างดิ้นรนไม่หยุด ทั้งร่างกายชักกระตุกเหมือนถูกไฟช็อต“ฉันรู้ว่านายอยากจะถามอะไร ทำไมถึงเรียกวิชานี้ว่ามือระเบิดมังกรใช่ไหม? นั่นก็เพราะว่า...”“ราชาหลินแห่งตอนใต้ คุณกล้า...”“พรวด!”ร่างกายของหลงต้างขยายออกเหมือนกับลูกโป่งทันที จากนั้นก็ระเบิดออก หมอกเลือดกระจายออก เลือดตกลงเหมือนฝนตก“ดู ระเบิดแล้วใช่ไหม?”ราชาหลินแห่งตอนใต้ยิ้มและหันหน้ามองไปทางหลินเฟิง“นี่...นี่จะเป็นไปได้ยังไง...”หลินเฟิงสีห
“หึหึหึ...”ควบคู่กับเสียงหัวเราะแหบแห้งตาแก่ที่สวมชุดเครื่องแบบทหารของประเทศมังกร อกผายไหล่ผึ่งเดินออกมาจากมุมมืดช้าๆ“คุณ...”หลินเฟิงดิ้นรน อดกลั้นความเจ็บปวดรุนแรงจากกระดูกซี่โครงที่แตกหักตรงหน้าอก แวบเดียวก็ดูสถานะของตาแก่คนนี้ออกคนผู้นี้ก็คือพ่อของหลินเฟิง ชายชราที่ทำให้คนจำนวนมากทั่วทั้งประเทศมังกรเทิดทูน เลื่อมใส ทำให้คนเวน่ามองว่าเป็นฝันร้ายราชาหลินแห่งตอนใต้!“ราชาหลินแห่งตอนใต้ คุณมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ยังไง?!”มองดูตราเหรียญทหารจำนวนมากที่ส่องแสงระยิบระยับบนหน้าอกของราชาหลินแห่งตอนใต้ หลงต้างกลับเผยความหวาดกลัวออกมาชั่วขณะ ถึงขั้นที่มีสีหน้าหวาดกลัวในฐานะนักบู๊แดนแปรภาพขั้นสูงสุด สีหน้าแบบนี้ปรากฏบนใบหน้าของหลงต้าง มันช่างโดดเด่นมากจริงๆเพราะตั้งแต่แรกเริ่ม ก็รักษาสีหน้าท่าทางที่ไม่แยแสสิ่งใดเอาไว้อยู่ตลอดเวลาความสามารถของหลงต้างนั้นไม่ต้องสงสัยเลย“หึ แค่อยากออกมาเดินดูรอบๆ ก่อนตายก็เท่านั้นเอง”น้ำเสียงของราชาหลินแห่งตอนใต้เรียบเฉย ถึงขั้นที่ยังหัวเราะเบาๆเมื่อเผชิญหน้ากับหลงต้าง กลับรักษาน้ำเสียงที่เหมือนกับได้เจอเพื่อนเก่า“ราชาหลินแห่งตอนใต้ คุณค
“หึหึ ชื่อนี้เป็นเพียงแค่รหัสเท่านั้น จะชื่ออะไรก็เหมือนกัน....มันก็คือคุณนั้นแหละ ขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่านก็ส่งไปถึงหน้าประตูบ้าน ดูเหมือนว่าความสามารถในการมีสมาธิของคุณจะไม่พอนะ!”“จะพอหรือไม่พอก็ไม่ใช่ว่าคุณจะเป็นคนตัดสินได้”หลินเฟิงเยาะเย้ย พร้อมกับตาทั้งสองข้างที่แดงเล็กน้อยเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูในขอบเขตยิ่งใหญ่ เขาก็ไม่สามารถออมแรงได้อีกต่อไป ไม่อย่างนั้นคนที่ตายก็จะเป็นหลินเฟิงเอง“ดีมาก ดูเหมือนว่าคุณจะพร้อมที่จะสู้กับฉันอย่างสุดความสามารถแล้ว...วันนี้ ฉันจะได้กำจัดหายนะครั้งใหญ่ที่สุดของตระกูลหลงของฉันแล้ว!”“เจ้าหนู จำไว้ ฉันชื่อหลงต้าง หลังจากที่ลงไปแล้ว ก็อย่าลืมบอกเทพปีศาจว่าใครส่งคุณลงไปด้วยล่ะ!”ชายชราไว้หนวดเงยหน้าขึ้นและยิ้ม ทันใดนั้นก็มีลมแรงพัดขึ้นรอบตัวเขา ก่อนที่พลังชี่แท้จะพัดหลินเฟิงลอยออกไป“นี่คือ...ความแข็งแกร่งของแดนแปรภาพขั้นสูงสุดงั้นเหรอ?”ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้หลินเฟิงจะเคยต่อสู้กับจีว่านจ่างของตระกูลจี แต่สถานการณ์ตอนนั้นพิเศษ และจีว่านจ่างก็ไม่สามารถใช้กำลังได้อย่างเต็มที่แต่ตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับแดนแปรภาพขั้นสูงสุดคนหนึ่งอยู่สิ่งนี้สร
“ได้”เมื่อหลินเฟิงเห็นถังหว่านอยู่ในมือของฝ่ายตรงข้าม จึงตกลงตามคำขอของฝ่ายตรงข้ามโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยหลินเฟิงตรงไปตรงมาขนาดนี้ กลับทำให้ชายชราไว้หนวดถึงกับตกตะลึงไปครู่หนึ่ง“เจ้าหนู เมื่อครู่ที่ฉันได้พูดถึงเงื่อนไข นายได้ฟังอย่างชัดเจนไปแล้วใช่ไหม? นายแน่ใจแล้วงั้นเหรอ?”แม้ว่าชายชราจะยังคงไม่สนใจเรื่องเวลา แต่สายตาก็มองตรงไปทางหลินเฟิงแล้วราวกับว่ากำลังคาดเดาความคิดที่แท้จริงของหลินเฟิงผ่านการแลกเปลี่ยนทางสายตา“ผมแน่ใจ เพียงแต่ผมมีเงื่อนไขหนึ่งอย่าง”หลินเฟิงชี้ไปทางถังหว่านแล้วพูดว่า :“ผมไม่ได้สนใจว่าตระกูลถังจะเป็นอย่างไร แต่ตระกูลหลงของพวกคุณต่อจากนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้สร้างปัญหาในการแยกตระกูลถังในเมืองเจียงโจวอีก”“ได้”ชายชราก็รับปากเช่นกัน“เหอะ...”ทั้งสองต่างก็หรี่ตาลง ทันใดนั้นก็เข้าใจถึงความคิดของฝ่ายตรงข้ามเห็นได้ชัดว่าชายชราใช้ถังหว่านเพื่อดึงดูดความสนใจของหลินเฟิง และใช้สิ่งนี้เพื่อค้นหาข้อบกพร่องของหลินเฟิงแต่หลินเฟิงก้ใช้คำพูดมาเอาชนะชายราคนนี้จนได้ พร้อมกับคิดหาทางช่วยถังหว่านให้กลับมา“เบื้องหลังของชายชราคนนี้ไม่ธรรมดา คิดไม่ถึงว่าจะสามารถตอบ
“หึ...”เผชิญหน้ากับคำขู่ของหลงยวน หลินเฟิงไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย เขากลับยื่นมือออกไป จับขาอ่อนของหลงเซียวเอาไว้“นาย...นายจะทำอะไร...อ๊ะ!”หลงเซียวยังไม่เข้าใจความคิดของหลินเฟิง เธอยังคิดว่าหลินเฟิงจะย่ำยีเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าวินาทีตต่อมา สิ่งที่รอเธออยู่คือความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงหัวใจกระดูกขาทั้งสองข้างของเธอ ถูกหลินเฟิงสะเทือนจนแตกละเอียดอย่างง่ายดาย“นี่ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เธอหนี”หลินเฟิงเผยฟันขาวออกมา ยิ้มเยือกเย็นให้กับหลงเซียวเมื่อยิ้มแบบนี้ ทำให้หลงเซียวหวาดกลัวในที่สุด เธอหมอบลงกับพื้น มองหลินเฟิงเดินไปทางถังหว่าน อยากจะเอ่ยปากสาปแช่ง แต่กลับเจ็บจนเธอพูดไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว“ไม่...ไม่ได้ หลินเฟิง...แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่คิดไว้ ถึงขั้น...ถึงขั้นที่ตระกูลหลงของฉันมีแค่ไม่กี่คนที่สามารถฆ่าเขาได้...ไม่ ฉันจะตายไม่ได้...”ในหัวของหลงเซียวเหลือเพียงเสียงแบบนี้เธอกัดฟัน ออกแรงทั้งหมดที่มี คลานไปทางบันไดของชั้นใต้ดิน“เพียงแค่...เพียงแค่สามารถหนีออกไปได้...เพียงแค่ฉันสามารถหนีออกไปได้...”ในใจของหลงเซียวในตอนนี้เหลือเพียงความศรัทธาที่ประคับประคองเอาไว้และในตอนนี้ หลิน
“พวกนายล้วนก็หาเรื่องตายสินะ!”ทันใดนั้นหลินเฟิงก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับตะโกนเวลานี้หลงเซียวเพิ่งจะค้นพบว่าไม่รู้ตอนไหนที่ดวงตาทั้งสองของหลินเฟิงได้เปลี่ยนเป็นสีแดงไปแล้ววิญญาณชั่วร้ายที่แข็งแกร่งที่เกือบจะเป็นรูปเป็นร่าง พร้อมกับพายุที่ก่อตัวขึ้นรอบ ๆตัวของหลินเฟิง“ตายไปซะ!”เมื่อหลินเฟิงเผชิญหน้ากับการล้อมของผู้คุ้มกันตระกูลหลงจำนวนมาก ไม่เพียงไม่ถอยเท่านั้น แต่ยังรีบพุ่งเข้ามาพร้อมกับเสียงคำรามดังลั่น และคิดไม่ถึงว่าจะทำลายกระบี่ที่ผู้คุ้มกันตระกูลหลงโดจมตีมาจนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ด้วยท่าทางที่กำลังตกตะลึงนั้น หลินเฟิงก็ชกไปที่หัวของเขาราวกับเป็นแตงโมที่แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ“อะไรนะ?!”ดูเหมือนว่าจะไม่มีอาวุธ ไหนที่จะสามารถฟันเนื้อของหลินเฟิงได้เลยทันใดนั้นคนคุ้มกันตระกูลหลงเหล่านี้ก็รู้สึกถึงความหวาดกลัวขึ้นมาในใจถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะเป็นยอดฝีมือระดับเซียนเทียน แต่ทักษะการใช้ดาบและการใช้กระบี่ ต่างก็ต้องการพรของอาวุธเพื่อที่จะสามารถแสดงความแข็งแกร่งออกมาได้แต่ชายที่มีดวงตาสีแดงทั้งสองข้างตรงหน้าคนนี้ คาดไม่ถึงว่าจะไม่กลัวอาวุธเลย เขาเป็นยอดฝีมือระดับไหนกันแน่?แดนแปร
“แล้วยังมีผู้ชายที่รอมีอะไรกับเธอมากขนาดนี้ ตอนนี้ในใจของนายรู้สึกเป็นยังไงบ้างล่ะ? ให้ฉันเดา....ก็น่าจะโกรธมากเลยใช่ไหม?”หลงเซียวหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแล้วพูดว่า :“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ฉันอยากจะเห็นท่าทางของนายในตอนนี้ที่สุดแลย แล้วไม่ต้องห่วง ไม่นาน นายก็จะแสดงท่าทางที่น่าสนใจมากยิ่งกว่านี้อีก”“มองผู้หญิงของตัวเองที่กำลังถูกชายคนอื่นเล่นสนุกอยู่จากที่ไกล ๆ จุ๊จุ๊จุ๊.... น่าสนใจ น่าสนใจจริง ๆเลย!”หลังจากที่หลงเซียวหัวเราะเสร็จแล้ว ก็หันกลับไปมองชายสวมหน้ากากหัวสุนัขคนนั้นที่กำลังงุนงงอยู่บนเวที แล้วตะโกนว่า :“ฉันให้นายหยุดงั้นเหรอ? ห้ามหยุด!”“ลงมือต่อไป สนุกต่อไป! ตอนนี้ตระกูลหลงยืนอยู่ข้างคุณ พวกเราที่ขวางอยู่ตรงนี้ ก็เพื่อไม่ให้หลินเฟิงสามารถไปคุกคามนายได้!”“ต่อหน้าผู้ชายของเธอ ปรนนิบัติเธอให้ดี ๆแล้วกัน!”หลงเซียวเชิดหน้าขึ้นอย่างภูมิใจมาก“หึหึ มันน่าตื่นเต้นกว่าอีก ฉันชอบมันจริง ๆเลย!”ชายสวมหน้ากากหัวสุนัขคนนั้นที่อยู่บนเวทีเพียงแค่ตกตะลึงไปชั่วครู่ ก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่อีกครั้งมีตระกูลหลงสนับสนุนเขา เขากลับกับผีอะไรล่ะ!เด็กคนนั้นอาจจะต้องดูเขาสนุกใ
ทั่วทั้งชั้นใต้ดินตกอยู่ในความบ้าบิ่นกับความสกปรกโสมมถังหว่านเห็นตัวเองข่มขู่ไม่สำเร็จ จึงพยายามดิ้นรน แต่มือทั้งสองข้างถูกมัดเอาไว้ เมื่อเธอดิ้นรนแบบนี้ กลับเผยไหล่สวยที่ขาวผ่องของตัวเองออกมาจึงดึงดูดความต้องการทางเพศของผู้ชายขึ้นมา“คุณถังหว่าน วางใจเถอะ ครั้งแรกของคุณ ผมจะอ่อนโยนอย่างมาก ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”ผู้ชายที่สวมหน้ากากทำท่าทางอัปลักษณ์ โผมาทางถังหว่านโดยตรง“หลินเฟิง…”เรื่องราวมาถึงตอนนี้แล้ว ถังหว่านทำได้แค่หลับตาลงทั้งๆ ที่เธอไม่อยากดึงหลินเฟิงเข้ามาเกี่ยวข้อง คิดว่าตัวเองสามารถจัดการได้แต่คิดไม่ถึงว่าจนถึงช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ในใจของเธอยังคงหวังอยากให้ร่างนั้นมาช่วยเธอ“หึหึ ฉันรู้ว่าเธออยากให้ผู้ชายคนนั้นมาช่วยเธอ แต่ว่า…เธอตายใจซะเถอะ!”ได้ยินเสียงพึมพำไร้ที่พึ่งของถังหว่าน หลงเซียวฉีกยิ้มออกมา“ทางด้านหลินเฟิงฉันให้คนจับตาดูไว้ตั้งนานแล้ว เมื่อเขาเข้าใกล้ถนนเสรี ก็จะเจอกับกับดัก!”“เธอไม่มีทางได้เจอเขาหรอก! ถังหว่าน เธอตายใจซะเถอะ! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”ได้ยินเสียงหัวเราะของหลงเซียว ถังหว่านหลับตาลงด้วยความสิ้นหวังแต่วินาทีต่อมา“ไสหัวไป!”ประตูลิฟต์ที่เชื่อม
“เธอโชคดีจริงๆ เลยนะ!”ก่อนหน้านี้ถังหว่านอดกลั้นความเจ็บปวดไม่ได้ร้องไห้ออกมาในตอนที่เธอเห็นผู้ชายเหล่านี้เสนอราคาแก่งแย่งร่างกายของเธอกันอย่างเต็มที่ เธอก็รู้สึกอับอายขายหน้าเป็นอย่างมาก และน้ำตาไหลออกมาโดยไร้เสียงแต่ทว่าน้ำตาของถัวหว่านอยู่ท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครม ไม่มีคนสนใจด้วยซ้ำ“ฉันเสนอห้าล้านบาท! ได้ยินแล้วยัง? ห้าล้านบาท!”ผู้ชายอ้วนท้วมที่สวมหน้ากากหัวหมูตะโกนเสียงดัง“เชี่ย นายปัญญาอ่อนเหรอ? เงินแค่ห้าล้านบาทก็อยากจะซื้อพรหมจรรย์ของสาวสวยถังหว่าน? ฉันเสนอยี่สิบห้าล้านบาท!”ผู้ชายที่สวมหน้ากากหัวสุนัขดันราคาขึ้นสูง“ยี่สิบห้าล้านบาทเยอะเกินไปแล้ว หน้าถูกกรีดจนสภาพเป็นแบบนั้น ไม่ได้ไม่ได้ ฉันเสนอนี่สิบล้านบาท ฉันเป็นคนที่สองก็ได้”ผู้ชายที่สวมหน้ากากลิงยิ้มพูด“จริงด้วยจริงด้วย แบบนี้เรียกว่าผิดกฏการตลาด ตอนนี้ถังหว่านเรียกว่าคนสวยไม่ได้แล้วนะ เธอเสียโฉมไปแล้ว”“คุณเสียเงินเยอะขนาดนี้ ไม่นับว่าเสียเงินเปล่าเหรอ?”“เชี่ย เงินยี่สิบห้าล้านบาทสามารถให้อิ่นนั่วเจียมาปรนนิบัติฉันได้แล้ว!”“พูดจาไร้สาระ อิ่นนั่วเจียเธอไม่เหลียวมองคนอ้วนอย่างนายหรอก!”ทันใดนั้น ทั