เธอโค้งตัวให้กับหลินเฟิงและจางเจียหนิง: “ทั้งสองท่าน ฉันชื่อหวังลี่ลี่ เป็นพนักงานขายของที่นี่ค่ะ ไม่ทราบว่าทั้งสองท่านอยากดูรถรุ่นไหนคะ?”เธอมาทำงานที่นี่หนึ่งเดือนแล้วจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้เปิดบิลเลย ถ้าหากเป็นแบบนี้ต่อไป สิ้นเดือนตัวเองก็จะถูกไล่ออกแล้วคิดไม่ถึงว่าพนักงานขายดีเด่นจะเป็นฝ่ายยกลูกค้าให้เธอถึงแม้ทั้งสองคนจะดูอายุน้อยไปหน่อย แต่มีลูกค้าก็ดีกว่าไม่มีประตูโชว์รูมถูกคนผลักออก ในตอนนี้เองก็มีชายวัยกลางคนผมบางคนหนึ่งเดินเข้ามาหวงเสี่ยวมั่นเข้าไปต้อนรับทันที: “พี่หลิว พี่มาสักที ครั้งที่แล้วรถสองสามรุ่นที่ฉันแนะนำให้ พี่พิจารณาเป็นอย่างไรบ้าง?”ชายวัยกลางคนโอบเอวบางของหวงเสี่ยวมั่นเอาไว้แถมยังตบไปที่บั้นท้ายของเธอ จากนั้นก็ยิ้มพูดขึ้น: “วันนี้ฉันมาก็มาซื้อรถไม่ใช่เหรอ แต่เธอต้องแนะนำให้ฉันดี ๆ หน่อยล่ะ”“แน่นอนอยู่แล้ว อีกเดี๋ยวพี่หลิวสามารถลองขับก่อนได้ รู้สึกว่าดีแล้วค่อยซื้อ” หวงเสี่ยวมั่นปิดปากเล็ก ๆ แล้วหัวเราะทั้งสองคนพูดคุยกันสนุกสนานหลินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย วุ่นวายอยู่นานไม่ใช่ว่าเธอไม่เป็นมิตร เพียงแค่ขี้เกียจจะสนใจพวกเขาสองคนก็เท่านั้น“ตาต่ำซะจริง
ผ่านไปครู่หนึ่ง หวังลี่ลี่ก็ถือสัญญาสองชุดเดินเข้ามาหลินเฟิงเซ็นสัญญาสองชุดทันที และรูดบัตรจ่ายเงินเมื่อทำเอกสารเสร็จ หวังลี่ลี่ก็มอบกุญแจให้และพูดขึ้น: “คุณหลิน รถคันนี้คุณจะขับไปเอง หรือว่าให้ทางเราเอาไปส่งที่บ้านคะ?”“ผมขับไปเอง”“ได้ค่ะ คุณหลิน งั้นเราไปถอยรถกันเถอะค่ะ” หวังลี่ลี่พูดขึ้นหลินเฟิงพยักหน้าและพาจางเจียหนิงกับหวังลี่ลี่ไปที่ลานจอดรถด้วยกันเพิ่งไปถึงลานจอดรถ ก็มีรถเบนซ์คลาส E จอดอยู่ที่ด้านข้างพวกเขาชายวัยกลางคนคนนั้นกับหวงเสี่ยวม่านลงมาจากรถหลินเฟิงเหลือบมองพวกเขาทั้งสองคนเห็นเสื้อเชิ้ตของหวงเสี่ยวม่านไม่เรียบร้อย มีความยุ่งเหยินเล็กน้อยหวงเสี่ยวม่านกอดแขนของชายวัยกลางคนแล้วพูดขึ้น: “พี่หลิว รถคนนี้ไม่เลวใช่ไหม เราไปเซ็นสัญญากันเถอะค่ะ”ชายวัยกลางคนกลับลังเลอยู่นาน และพูดขึ้นอย่างสองจิตสองใจ: “อืม รถคันนี้ไม่เลว แต่ไม่ค่อยเหมาะสมกับที่ฉันคาดหมายไว้ในใจสักเท่าไหร่”“ฉันดูรถคันอื่นอีกหน่อย...”หวงเสี่ยวม่านได้ยินแบบนี้ก็พูดขึ้น: “พี่หลิวพี่ยังจะดูอะไรอีก? ถ้าไม่ชอบรถเบนซ์ พวกเรายังมีรถมายบัค...”ชายวัยกลางคนกลอกตา รถมายบัคก็มองข้ามไปได้เลย“วันนี้ฉ
“อ๋อ...ที่แท้ก็คุณหลินเองเหรอคะ”อิ่นนั่วเจียที่อยู่อีกฝ่ายของโทรศัพท์นึกได้ทันทีจึงพูดขึ้น: “คุณหลินวันนี้ทำไมจู่ ๆ ถึงโทรหาฉันคะ? มีเรื่องอะไรไหมคะ?”หลินเฟิงเกาหัวแล้วพูดขึ้น: “คือแบบนี้ครับ ผมอยากเชิญให้คุณอิ่นเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ผลิตภัณฑ์ยาตัวหนึ่งของบริษัทของผม ราคาคุยกันง่ายครับ”“ผลิตภัณฑ์ยา?” อิ่นนั่วเจียชะงักงันถ้าหากเป็นสินค้าอื่น อิ่นนั่วเจียอาจจะรับปากทันทีแต่สิ่งนี้ทำไม่ได้ ของสิ่งนี้ถ้าหากเกิดปัญหาขึ้น ตัวเองก็อาจจะเดือดร้อนไปด้วย“เอาแบบนี้นะคะ คืนนี้ฉันมีคอนเสิร์ต รอเสร็จสิ้นแล้วพวกเราคุยกันต่อหน้า”อิ่นนั่วเจียครุ่นคิดซ้ำ ๆ จึงตัดสินใจดูก่อนว่ายาที่อยู่ในมือหลินเฟิงคืออะไรถ้าหากไม่มีปัญหา เป็นของดีเธอก็สามารถเป็นพรีเซ็นเตอร์ได้อยู่แล้ว“ได้ครับ” หลินเฟิงสอบถามที่อยู่ แล้ววางสายไปเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียยินยอมพบตัวเองก็พอแล้วมูลค่าของยาปรับประสานพลังนั้นไม่ต้องเอ่ยถึงเลยสำหรับงานคอนเสิร์ต หลินเฟิงก็ไม่เคยได้ดูสักเท่าไหร่ อย่างไรก็ว่างอยู่เฉย ๆและกว่าจะได้พบกับอิ่นนั่วเจียก็ต้องรอให้คอนเสิร์ตของเธอเสร็จสิ้นเสียก่อนตัวเองไม่สู้เข้าไปรอในงานหลินเฟิง
หลินเสวี่ยฮุ่ยยิ้มอย่างเก้กัง: “พอใช้ได้มั้ง”แม้แต่เธอก็ไม่รู้รายละเอียดว่าหลินเฟิงทำอะไรแต่เธอมั่นใจได้ว่า หลินเฟิงน่าจะเป็นบุคคลใหญ่โตคนหนึ่งผู้หญิงที่ไว้ผมลอน ที่นั่งอยู่ด้านข้างผู้หญิงหมวกแก๊ปพูดเยาะหยัน: “เปิดบริษัทสุดยอดตรงไหนกัน คุณชายหลี่ว์ตระกูลก็เปิดบริษัท”“ใช่ไหมคะคุณชายหลี่ว์?”หลี่ว์เจิ้งหยางที่นั่งอยู่ด้านข้างหลินเฟิงก็พูดด้วยใบหน้าถ่อมตัว: “เห้อ นั่นเป็นความดีความชอบของคุณพ่อคุณแม่ ไม่นับเป็นส่วนของผม”สาวผมลอนกลับพูดด้วยใบหน้าประจบประแจง: “คุณชายหลี่ว์เป็นลูกคนเดียว ของพ่อแม่ก็คือของคุณไม่ใช่เหรอ”หลี่ว์เจิ้งหยางก็สะกิดหลินเฟิงอีกครั้งแล้วพูดขึ้น: “สหาย เราสองคนแลกที่นั่งกัน”หลินเฟิงถึงนึกขึ้นได้ว่า ตัวเองจะเปลี่ยนที่นั่งกับเขา อย่างไรซะพวกเขาสามสี่คนก็เป็นเพื่อนนักเรียนกัน เขานั่งตรงไหนก็ไม่มีปัญหายังไม่รอให้เขาลุกขึ้น หลินเสวี่ยฮุ่ยกลับจับแขนของเขาเอาไว้“หลินเฟิง คุณนั่งตรงนี้แหละ”เธอหันหน้ามองไปทางหลี่ว์เจิ้งหยางแล้วพูดขึ้น: “คุณชายหลี่ว์ ฉันกับหลินเฟิงไม่ได้เจอกันนานแล้ว อยากจะพูดคุยถึงความหลังกันหน่อยพอดี คุณนั่งตรงนั้นเถอะค่ะ”“เอ่อ...นี่ ก็ได้
หลินเฟิงพยักหน้า “แน่นอน ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอ? ว่าผมมาเพื่อพูดคุยธุรกิจกับอิ่นนั่วเจีย”“การขอลายเซ็นจากเธอสักสองสามแผ่น น่าจะไม่ใช่ปัญหา”“แบบนั้นก็ดีเลยค่ะ” ผู้หญิงที่สวมหมวกแก๊ปพูดด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้นขณะพูดหลินเฟิงก็พาคนสองสามคนไปที่ด้านหลังเวทีคอนเสิร์ตและได้บอกชื่อจริงของตัวเองออกไปโดยตรงการเดินทางที่ราบรื่นไม่มีติดขัด ไม่นานนักก็มาถึงด้านหลังเวทีและได้เห็นอิ่นนั่วเจียกำลังเช็ดเครื่องสำอางออกอยู่“โอ้แม่เจ้า ไม่คิดเลยว่าอิ่นนั่วเจียหน้าสดจะสวยขนาดนี้””จุ๊ จุ๊…สมกับที่เป็นดาราดังจริง ๆ! แม้แต่หน้าสดก็ไม่อาจต้านทานได้ขนาดนี้”นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเธอสองสามคนได้ใกล้ชิดดารา“คุณหลิน คุณมาแล้ว” เมื่ออิ่นนั่วเจียมองเห็นหลินเฟิง ก็ยกกระโปรงยาวแล้วเดินมาหาช้า ๆและเป็นฝ่ายที่เข้ามาจับมือของหลินเฟิงก่อนเมื่อเห็นคนสองสามคนที่ยืนข้าง ๆ หลินเฟิงก็ถามด้วยความสงสัยว่า “คนพวกนี้คือ?”“อ่อ”หลินเฟิงมองหลินเสวี่ยฮุ่ยแล้วพูดขึ้น ”นี่คือน้องสาวของผมกับเพื่อนร่วมชั้นของเธอ พวกเขาชอบคุณอิ่นมาก อยากได้ลายเซ็นจากคุณ”“ผมก็เลยพาพวกเขาเข้ามาที่นี่”คุณอิ่นยิ้มอย่างมีเสน่ห์เล็กน้อย:
ทันใดนั้นก็เหมือนมีกระแสน้ำอุ่นหลอมละลายอยู่ ภายในกระเพราะของเธอ เธอที่เพิ่งจะแสดงคอนเสิร์ตจบรู้สึกเหนื่อยล้าไปหมดทั้งตัวไม่คาดคิดเลยจริง ๆ ว่า หลังจากที่ทานยาปรับประสานพลังตัวนี้เข้าไปแล้ว ความเหนื่อยล้าของร่างกายก็หายไปทันทีเพียงแต่ผิวหนังมีสารสกปรกสีดำซึมออกมาอิ่นนั่วเจียตกตะลึง: “นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ?”หลินเฟิงพูดอธิบาย “นี่เป็นเพียงแค่สารสกปรกในร่างกายของคุณอิ่น ทำการชะล้างก็เพียงพอ”จริง ๆ แล้ว ยาปรับประสานพลังนี้ ก็เป็นยาที่คนทั่วไปใช้ในการก้าวเข้าสู่การเป็นนักบู๊ ยาเม็ดที่ใช้ในการชะล้างร่างกายแน่นอนว่าจึงขับสิ่งสกปรกในร่างกายของคนทั่วไปออกมา“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ” อิ่นนั่วเจียรีบเดินไปเข้าห้องน้ำเมื่อล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกายแล้ว เธอมองดูตัวเองในกระจกผิวขาวกระจ่างใส ดูเนียนนุ่ม เหมือนเด็กเกิดใหม่คนที่ไม่รู้ อาจจะคิดว่าเธอทาแป้งบนตัว“แม่เจ้า” อิ่นนั่วเจียลูบแก้มของเธอเองนี่มันยามหัศจรรย์ชัด ๆอิ่นนั่วเจียสวมใส่เสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย ก็รีบเดินออกมาแล้วพูดขึ้นทันที “คุณหลิน พรีเซ็นเตอร์ยาปรับประสานพลังไม่มีปัญหาสักนิดค่ะ”หล
อิ่นนั่วเจียไม่พอใจกับท่าทางของพวกเขาอย่างมาก เธอจึงตะโกนเสียงดังบอกให้พวกเขารีบออกไปทันทีชายร่างกำยำดูเหมือนจะไม่ยอมออกไป แต่กลับไปนั่งลงที่บนโซฟาแทนลูกน้องสองคนยืนนิ่งอยู่ที่ด้านหลังชายร่างกำยำคนนั้นล้วงผลิตภัณฑ์ยาออกมาจากหน้าอก แล้วพูดว่า “คุณอิ่นอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ”“พวกเราเซียงซื่อเมดดิซีนพอใจในตัวคุณอิ่น นั่นก็คือวาสนาของคุณเลย”“นี่คือยาบำรุงสตรีที่พัฒนาโดยเซี่ยงซื่อเมดดิซีน เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกมาเพื่อการดูแลผิวและความงามของผู้หญิงโดยเฉพาะ”“คุณอิ่นสามารถลองดูก่อนได้ ถ้าไม่ได้ผล พวกเราจะไม่ตามตื๊อคุณอิ่นอย่างแน่นอน”อิ่นนั่วเจียตกตะลึง และมองไปที่ยาขวดเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะ ทำไมถึงได้เป็นผลิตภัณฑ์ความงามทั้งหมดนะ?”“ขอโทษด้วย ฉันรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ตัวอื่นแล้ว และช่วงนี้ก็ยังไม่มีเวลาว่างแล้ว”“ปึง”ชายร่างกำยำได้ยินแบบนี้ก็ทุบโต๊ะกาแฟทำเอาอิ่นนั่วเจียอุทานออกมาเสียงดังเสียงของชายร่างกำยำเริ่มเย็งลง “คุณอิ่น ผมคิดว่ากำลังของเซี่ยงซื่อเมดดิซีนของพวกเรา คุณคงไม่รู้จักมากเท่าไหร่”“ถ้าหากพวกเราต้องการแบนคุณอิ่น ก็จะใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที”“พวกคุณ….”อิ่นนั่วเจียกัดฟ
หลินเฟิงโบกมือขึ้นมากะทันหัน ทำให้ชายทั้งสามหนีไปอย่างบ้าคลั่งอิ่นนั่วเจียก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดขึ้น “คุณหลินรบกวนคุณมากจริง ๆ ”หลินเฟิงส่ายหัว “เป็นสิ่งที่ผมควรทำอยู่แล้ว”ขณะพูด เขาก็ได้ทิ้งหมายเลยโทรศัพท์ไว้ “ถ้าหากคนพวกนี้ยังกล้ามารบกวนคุณอีก คุณโทรหาผมได้ทันทีเลย”อิ่นนั่วเจียเก็บเบอร์โทรศัพท์ของหลินเฟิงเอาไว้อย่างระมัดระวัง และพยักหน้าซ้ำ ๆ เมื่อจัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว หลินเฟิงก็กล่าวลาอิ่นนั่วเจีย......ด้านนอกคอนเสิร์ต คนจำนวนไม่น้อยกำลังทยอยกันกลับกันไปเดิมทีคอนเสิร์ตที่คึกคัก รื่นเริง ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นเงียบเชียบ เปล่าเปลี่ยวหลินเสวี่ยฮุ่ยกับคนอื่นๆกำลังรอรถอยู่ที่ริมถนนเด็กผู้หญิงที่สวมหมวกกันแดด มองดูรูปถ่ายพร้อมลายเซ็นในมือแล้วพูดอย่างตื่นเต้น “โอ้พระเจ้า เสวี่ยฮุ่ย ฉันคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าเธอจะมีพี่ชายที่เจ๋งขนาดนี้”“ทำไมก่อนหน้านี้ไม่บอกพวกเราเลย”หลินเสวี่ยฮุ่ยเกาหัวตัวเองเบา ๆ ด้วยความเก้กัง เพราะจริง ๆ แล้วเธอก็ไม่รู้จักหลินเฟิงมาก่อนเด็กสาวที่สวมหมวกแก็ปเอ่ยขึ้น “ครั้งหน้ามีคอนเสิร์ตอีก ค่อยเรียกพี่ชายของเธอมาด้วย…”ในตอนนี้เองหลี่ว์เ