EP.32
พี่เวลล์พาฉันเข้าไปยังโต๊ะที่จองไว้ เป็นโต๊ะหลบในมุมมีความเป็นส่วนตัว ติดแม่น้ำสายหลักของตัวเมือง สามารถทอดสายตามองตัวเมืองฝั่งตรงข้ามแม่น้ำได้ร้อยแปดสิบองศา บรรยากาศดี ลมโชยเย็นพอเหมาะ อากาศก็บริสุทธิ์ แสงสว่างนวลตา ทำให้รู้สึกได้ถึงความโรแมนติกหน่อย ๆ เลยแหะ
พี่เวลล์ที่เดินนำมาก่อน เลื่อนเก้าอี้ พลางใช้สายตาบ่งบอกว่าให้ฉันนั่งตรงนั้น ฉันที่เห็นแบบนั้นก็รู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก เพราะการได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นคนพิเศษแบบนี้ มันไม่ผิดไปใช่ไหมถ้าจะคิดเข้าข้างตัวเองไปทั้งแบบนั้น
ฉันนั่งลงเก้าอี้ที่พี่เวลล์เลื่อนให้ ก่อนที่เขาจะนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับฉัน พอได้เห็นเขาอยู่ตรงหน้า ก็อดไม่ได้ที่จะเท้าคางจ้องมองเขาอย่างตั้งใจ เขาที่เห็นฉันจ้องจนตาเยิ้ม ก็เท้าคางมองฉันกลับ ใบหน้าที่ห่างกันไม่ถึงฟุตประสานกันอย่างช่วยไม่ได้
“พี่จะมองฉันอีกนานไหมคะ” ฉันเอ่ย
“ใครกันที่มองพี่ก่อน” เขาเอ่ยตอบฉัน
“ฮึ.....เอาเถอะ ยอมแล้วค่ะ เป็นแจนเองที่มองพี่ก่อน ก็มันอดมองไม่ได้” ฉันยืดตัว เบือนหน้าทอดสายตามองไปยังแม่น้ำสายหลักที่ผืนน้ำระยิบระยับท่ามกลางแสงไฟสลัว ส่วนเขาก็หันไปสนใจพนักงานร้านที่เดินนำเมนูมาวางตรงหน้า เสียงของพี่เวลล์ทำให้ฉันต้องหันหน้ากลับไปหาเขา
“แจน อยากทานอะไรบ้างครับ” เขาเอ่ย
“ตามใจพี่เลยค่ะ” ฉันเอ่ยเสร็จ เขาทำสายตาเรียบนิ่ง เอนหลังพิงพนักพิงเก้าอี้กอดอกมองฉันด้วยท่าทีเป็นนัยยะ จนฉันต้องหลุบยิ้ม ‘พี่เวลล์นี่มีแววขี้งอนแน่เลย’
“โอเค แจนขอดูเมนูแป๊บนะคะ” ฉันหยิบเมนูขึ้นมา แต่เพราะไม่รู้ว่าคนตรงหน้าทานอาหารแบบไหนรสไหนบ้าง การไถ่ถามจึงเป็นสิ่งที่สมควรทำ เพราะเมนูที่สั่งจะได้ทานทั้งฉันและเขาได้ “พี่ทานเผ็ดได้ไหมคะ”
“พี่เหรอ กินเผ็ดได้นะ ค่อนข้างชอบรสจัดเลยแหละ”
“ดีค่ะ แจนก็ชอบอาหารรสจัดเหมือนกัน งั้นเอาเป็นต้นยำกุ้งน้ำใส ปลานิลนึ่งมะนาว ปลาหมึกทอดกระเทียม” ฉันหันไปเอ่ยกับพนักงานจดบิล ก่อนจะหันไปหาพี่เวลล์ “พี่ จะสั่งอะไรเพิ่มอีกไหมคะ”
“ไม่มีแล้ว เอาเท่านี้แหละ” เขาหยักคิ้ว
“เอาเท่านี้ก่อนแล้วกันค่ะ” ฉันเอ่ยกับพนักงานจดบิลเพื่อยืนยันออเดอร์
ในขณะที่เราทั้งสองนั่งรออาหาร ฉันก็นั่งกินลม ชมวิว เคล้าเสียงเพลง ทอดสายตามองบรรยากาศรอบ ๆ มีแอบมองพี่เวลล์บ้าง ซึ่งตอนนี้เขากำลังไถ่มือถือไม่หยุด ถ้าไม่เล่นโซเชียล ก็คงเกี่ยวกับการเรียน ก็พี่เขาเรียนหมอนินา ทั้งเรียนโหด งานโรงพยาบาลก็ยุ่งสุด ๆ ยังเจียดเวลาชวนมานั่งทานข้าวแบบนี้ จะไม่ให้หลงผู้ชายคนนี้ได้ไง จริงไหม
ฉันลอบมองพี่เขาอีกครั้ง คราวนี้ใบหน้าพี่เขายกยิ้ม แถมยังเป็นยิ้มที่กว้างมาก ๆ มีเรื่องดี ๆ อะไรเกิดขึ้นกับเขารึเปล่า ทำไมถึงเอาแต่จ้องมือถือแล้วยิ้มอ่อนโยนแบบนั้น เหมือนเขากำลังอยู่ในภวังค์ของตัวเองจนลืมไปว่าฉันนั่งอยู่ตรงนี้
“พี่เวลล์” ฉันเรียกเขา
“.....” ไม่มีคำตอบกลับใด ๆ แต่เขายังเอาแต่ยิ้มมองจอแบบนั้น หรือว่ากำลังดูรูปสาว
“พี่เวลล์คะ” คราวนี้ฉันไม่เรียกเฉยๆ แต่กลับยื่นมือไปแตะมือเขาเบาๆ จนเขารู้ตัว
“หืม ว่าไง” เขาเงยหน้าตอบฉันได้เรียบเฉยมาก แล้วหน้ายิ้มเมื่อกี้หายไปไหนแล้วนะ
“พี่ดูอะไร ทำไมเอาแต่ยิ้ม แบ่งกันดูมั้งสิคะ” ฉันพูดพลางแบมือต่อหน้าเขา
“ไม่มีอะไรหรอก” ใบหน้าเขาที่ยิ้มจนปากฉีกตอนนี้กลับกลายเป็นยิ้มกรุ่นมีเลศนัย นอกจากเขาไม่ส่งมือถือแบ่งให้ฉันดูแล้ว ยังเก็บมือถือไปเลย
“ไม่มีอะไรแล้วพี่รีบเก็บมือถือทำไมละคะ แอบยิ้มอยู่คนเดียวแบบนี้ ดูรูปสาวที่ไหนมารึเปล่า”
“....” เขาไม่ปฏิเสธอะไร เอาแต่ยิ้มอ่อนๆ ทำแบบนี้หมายความว่าไง
“พี่..เวลล์” ฉันยังไม่ได้ง้างปากเค้นถามเขา พนักงานเสิร์ฟอาหารก็เดินมาซะก่อน เมนูอาหารที่สั่งถูกทยอยวางบนโต๊ะอย่างประณีต จนครบทุกเมนูที่สั่ง ฉันนั่งมองจานอาหารเงียบๆ จนคนตรงหน้าเอ่ย
“ทานกันเถอะเดี๋ยวอาหารจะไม่อร่อยเอานะ” เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แบบนี้อีกแล้ว ไม่รู้รึไงว่าทำให้ฉันคาใจ แล้วทำไมเป็นฉันที่ต้องมาหงุดหงิดอะไรแบบนี้ ให้ตายเถอะ ขืนฉันเป็นแบบนี้มีหวังทำให้บรรยากาศเสียแน่ ต้องหลบไปจัดการความรู้สึกซะก่อน ฉันลุกขึ้นยืนพรวด จนพี่เขามองฉันไม่วางตาเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจในท่าทีของฉัน
“เป็นอะไรไปครับ” เขาเอ่ยถาม
“แจน...ขอ...ตัว...ไป...ห้อง...น้ำ...เดี๋ยว...มา” ฉันเอ่ยเน้นย้ำเป็นคำอย่างชัดเจน ไม่ได้ประชดหรอก แค่อยากแสดงออกว่า หงุดหงิดให้รู้ไปงั้น
ฉันเดินเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อนั่งสงบสติบนชักโครก หยิบมือถือขึ้นมาไลน์หายัยมีนว่าจัดการเรื่องที่ฝากรึยัง เมื่อได้รับคำตอบว่าตอนนี้ยัยมีนนั่งทานข้าวกับพลอยอยู่ในคอนโดแล้ว ฉันก็เก็บมือถือทันที อย่างน้อยก็ทิ้งความกังวลไปได้หนึ่งอย่างที่ทิ้งพลอยไว้ในห้องแล้วออกมาดื้อๆ แบบนี้
อารมณ์ตอนนี้ แม้จะยังเคืองหน่อย ๆ แต่มันคงไม่ดีที่จะมาทำท่าทีแบบนี้ชวนให้เขาอึดอัด ทั้งที่ยังไม่ได้คบกันจริงๆ ด้วยซ้ำจะมาแสดงท่าทีเป็นเจ้าของคงจะไม่ถูก
ฉันที่กำลัง กำลูกบิดจะเปิดประตู จู่ ๆ ได้ยินการสนทนาของผู้หญิงสองคนที่พูดคุยกันเสียงดังเหมือนกำลังนินทาอะไรบางอย่าง
“แก เมื่อกี้ฉันออกไปเดินแถวโซนติดแม่น้ำ ไปเจอโต๊ะมุมหนึ่งโซน VIP สุดหรู มีผู้ชายหล่อมากอยู่ด้วย”
“หล่อขนาดนั้นเชียว อยากเห็นจัง”
“สุด ๆ แต่คนนี้ฉันจองแกอย่าริมาอ่อยแย่งล่ะ”
“ใครจะสู้แม่เสือสาวพราวเสน่ห์อย่างแกได้ล่ะ ว่าแต่เขามาคนเดียวเหรอ เขามากับเพื่อนอีกสักคนไหม”
“ไม่ เหมือนมากับผู้หญิง”
“ผู้หญิง? แล้วแกจะไปอ่อยเขายังไง แฟนเขารึเปล่า ไม่ดีมั้ง”
“เหอะ สารรูปอย่างยัยนั่นเหรอจะเป็นแฟน แค่เห็นด้านหลังใส่ชุดอย่างกับพึ่งเลิกเรียน ผมก็ยุ่งเหยิงขนาดนั้น สงสัยแค่เก็บเด็กขอทานมาเลี้ยงข้าวล่ะมั้ง”
“แบบนี้ก็ทางสะดวกสินะ แกสวยขนาดนี้”
“มันแน่อยู่แล้ว ระดับฉันอ่อยใครไม่เคยพลาด”
ฉันที่นั่งฟังการสนทนาของยัยสองสาวบนชักโครกในห้องน้ำ ตอนแรกก็ไม่อะไรหรอก เพราะพี่เวลล์หล่อจริง หล่อแบบใครเห็นก็คงเก็บมานินทาคุยกับ แต่ที่ฉันอารมณ์เสียคือการที่ยัยคนหนึ่งบอกว่าฉันเป็นเด็กขอทานนะสิ ทำเอาหงุดหงิด อดดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้มด้วยความโมโหไม่ได้ ขืนปล่อยไว้คงนินทากันไม่หยุดหย่อน จากคนที่อารมณ์เคืองอยู่แล้ว มาเจอสถานการณ์นินทาระยะเผาขนแบบนี้ แน่นอนว่าตอนนี้ร่างมาเฟียประทับร่างเรียบร้อย
‘ปัง’ ฉันดันประตูห้องน้ำอย่างแรงเดินออกไปล้างมือ ชำเลืองมองยัยสองคนนั่นอย่างตั้งใจ ดูเหมือนยัยผู้หญิงที่ตั้งใจจะอ่อยพี่เวลล์จะดูออกว่าฉันคือคนนั้นคนที่มันว่าเป็นเด็กขอทาน
“มองฉันทำไม” ยัยผู้หญิงชุดดำ มองฉันตาเบิกโพรง
“มองคนที่อ่อยผู้ชายไปทั่วไง” ฉันตอบจากนั้นก็สะบัดมือที่ล้างอย่างแรง แน่นอนว่าตั้งใจให้กระเซ็นไปโดนยัยนั่น
“ยี้ สถุน” ยัยชุดดำเอ่ยพลางดึงทิชชู่เช็ดน้ำที่กระเซ็น ส่วนยัยชุดน้ำเงินเอาแต่เงียบคงมองออกว่าฉันคือคนที่ถูกกล่าวไปเมื่อครู่
“ฉัน สถุนงั้นเหรอ ไม่ดูตัวเองเลยนะ” ฉันจ้องมองยัยนั่นด้วยสายตาเย็น เรียบนิ่ง
“ยัยโสโครก ฉันจะตบแก” ยัยชุดเดรสดำจู่ ๆ ก็ปรี่ตัวจะตบฉัน ในขณะที่ยัยชุดน้ำเงินที่พยายามจะห้ามเพื่อนกลับคว้าไม่ทัน ฉันที่ยืนนิ่ง ๆ ตรงหน้า คงจะอยู่เฉย ๆ ให้ตบหรอกนะ ยกมือคว้าข้อมือยัยนั่นก่อนจะบีบข้อมือเรียวเล็กนั้นอย่างแรง
“โอ๊ย ฉันเจ็บนะ” ยัยชุดดำสีหน้าโอดครวญ จนเพื่อนนางต้องเข้ามาทำสีหน้าอ้อนวอนขอร้อง
“อย่าทำร้ายกันเลยนะ ฉันขอโทษแทนเพื่อนฉัน” ยัยชุดเดรสน้ำเงินเอ่ยออกมา ฉันจึงคลายมือออกปล่อยมันไป
“แกจะไปขอโทษมันทำไม มันทำฉันนะ ฉันจะเอาคืน” ยัยชุดเดรสดำไม่หยุดจะปรี่เข้ามาหาฉันอีก แต่คราวนี้ยัยชุดเดรสน้ำเงินคว้าเพื่อนนางไว้ทัน แต่ใช้แรงที่มีกอดนางไว้ ฉันที่เห็น จึงกอดอกมองอย่างเยือกเย็น
“ร้านอาหารเขาก็หรู แต่กลับมาทำตัวต่ำทรามราวกับขยะเปียกที่นี่มันเหมาะสมรึไง อีกอย่างนะ ถึงฉันจะแต่งตัวโสโครก เหมือนขอทานอย่างที่เธอบอก แต่ฉันก็สำรวม มีโอกาสได้ควงผู้ชายหล่อ หล่อจนที่บางคนอดอิจฉาจนอยากได้ล่ะนะ”
“อีเวร มึงด่ากู” ยัยชุดเดรสดำโมโหหนักจนสติแตก แต่ ยัยชุดเดรสน้ำเงินก็ยังรั้งเพื่อนนางไว้สุดชีวิตอยู่
“แล้วก็เธอ” ฉันหันหน้ามองไปยังยัยชุดน้ำเงิน “เธอก็ดูเป็นคนดีนะ ไม่น่าลดตัวไปคบเพื่อนแย่ ๆ แบบนั้นเลย เอาเถอะ ฉันไปล่ะ บ๊ายยยย” ฉันมองยกยิ้มมุมเปล่าไปหนึ่งยก ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำทันที ฉันได้ยินนะ เสียงกรี๊ดลั่นดังตามหลังในห้องน้ำ แต่เชื่อว่านางคงไม่กล้ามาอาละวาดด้านนอกหรอก เพราะไม่งั้นตัวนางเองที่จะโดนลากออกจากร้านอาหารไป
EP.33ฉันเดินกลับมาที่โต๊ะ ยืนมอง พี่เวลล์ที่นั่งทำท่ากอดอก มองฉันด้วยสายตาดุราวกับผู้ปกครอง เหอะ ปล่อยให้รู้สึกหงุดหงิดบ้างแบบนี้แหละแฟร์ดีจะตายฉันหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ สะบัดความรู้สึกทุกอย่างทิ้งไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น“ทำไมพี่ยังไม่ทานข้าวละคะ หิวไม่ใช่เหรอ”“รอคน” เขาทำหน้าบึ้งตึง กอดอกมาทางฉันอย่างเห็นได้ชัด ฉันจึงได้แต่ทำหน้ายิ้มเจื่อน“ปวดหนักเข้าห้องน้ำไงคะ ขอโทษทีค่ะ นี่ก็มาแล้วไง ทานกันเถอะ” ฉันรีบนั่ง ตัดบทสนทนา แต่ดูเหมือนพี่เวลล์จะไม่ยอมจบ“โกรธอะไรพี่อีกรึเปล่า หรือเพราะเมื่อกี้” เขามองฉันด้วยสายตาเค้นหาคำตอบบ้าง“จะโกรธพี่ได้ไงละคะ แจนจะมีสิทธิ์อะไรมางอนแบบนั้น ถึงพี่จะดูรูปสาว แจนจะห้ามอะไรได้”“ดูรูปสาว?”“ทานข้าวกันดีกว่าค่ะพี่ อ่ะนี่ น่าอร่อยเนาะ” ฉันตักปลาหมึกทอดกระเทียมให้เขา จากนั้นฉันก็ทำเป็นสนใจอาหารตรงหน้าเอาแต่กินไม่พูดไม่จา เขาตักอะไรให้ฉัน ฉันก็ทานมันทุกคำ ก็เป็นซะแบบนี้โกรธง่ายหายเร็วเพียงเพราะเขาดีต่อฉัน“ร้านนี้อร่อยอย่างที่พี่บอกเลย” ฉันยิ้มพลางตบพุงท่าทางอิ่มแปล้ไร้ซึ่งภาพลักษณ์กุลสตรีใดๆ ส่วนพี่เวลล์ก็ทานไปเยอะเหมือนกัน คงหิวอย่างที่เจ้าตัวพูดจร
EP.34“พี่เวลล์ นี่มันก็ดึกมากแล้ว กลับกันเถอะค่ะ” ฉันเอ่ยบอกเขาเมื่อเห็นหน้าจอมือถือบอกว่าเป็นเวลาเที่ยงคืนเกือบตีหนึ่งแล้ว “พรุ่งนี้แจนมีเรียนเช้านะคะ”พี่เวลล์ เหลือบมองนาฬิกาข้อมือของเขาก่อนที่จะพยักหน้ารับ แล้วเรียกพนักงานเช็คบิลทันที เขาเดินนำออกไปก่อน ส่วนฉันก็เดินตามหลังเขา เป็นครั้งแรกในชีวิตถ้าไม่นับพ่อของตัวเอง ที่ฉันเดินตามคน ๆ หนึ่ง มองแผ่นหลังของเขา ราวกับตอนนี้ฉันเองได้เป็นฝ่ายที่ถูกปกป้องบ้าง จากที่ปกติ ฉันมักจะยืนอยู่ข้างหน้าคนอื่นเสมออาจเป็นเพราะฉันเหม่ออยู่ในภวังค์จิตใจล่องลอยพอพี่เวลล์หยุดเดิน ฉันก็เป็นฝ่ายเดินชนหลังเขาอย่างจัง ใบหน้ากระแทกหลังเขา ทำเอาเจ็บไม่น้อย“ขอโทษค่ะ แจนไม่ทันระวัง” ฉันยกมือจับจมูกตัวเองบีบมันเบาๆ ให้หายหน่วง“ระวังด้วยสิ จับมือพี่ไว้” เขาเหลียวมองดูฉัน สายตาเขาไม่ดุสักนิด พร้อมยื่นมือหนาของเขาออกมาตรงหน้าฉัน แน่นอนว่าฉันไม่รอช้ายื่นมือเรียวบางของตัวเองจับมือเขาทันที ฉันรู้สึกได้นะความอบอุ่นที่แผ่ซ่านในมือข้างนั้นของเขา เขากระชับมือฉันแน่นจากนั้นจึงเดินเคียงข้างกันออกจากร้านอาหารไปยังรถที่จอดอยู่เขาเปิดประตูรถให้ฉันเข้าไปนั่ง ก่อนที่เข
EP.35เสียงหายใจของฉันและเขาแรงรดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นพาดผ่านแพนตี้ตัวน้อยของฉัน เขาก็หยุดการลูบไล้ขาอ่อนฉันทันทีเขาเลื่อนมือข้างขวาขึ้นมาจับคางฉันให้หันไปหาเขาที่กำลังเชยคางวางพาดบนไหล่ขวา ฉันจึงขยับตัวเล็กน้อยเพื่อเอียงตัวมองเขาให้ถนัด เขาเลื่อนมือกุมท้ายทอยฉันก่อนจะดันเข้าหาใบหน้าเขา ริมฝีปากสองเราปะทะกัน และคราวนี้เป็นฉันบ้างที่เผยอเรียวปากสัมผัส สำรวจกลีบปากเจ้าเสน่ห์ของเขาเขาปล่อยให้ฉันใช้ลิ้นรุกล้ำเข้าไปสำรวจโพรงปากของเขาอย่างเต็มใจแถมสองลิ้นของเราก็เกี่ยวพันกันไปมาจนเกิดเป็นเสียงสัมผัสก่อให้เกิดอารมณ์ปะทุขีดสุด แน่นอนว่าหว่างขาของฉันตอนนี้ชื้นแฉะขนาดที่มองเห็นได้จากภายนอก แพนตี้ตัวน้อย มีรอยเปียกเป็นดวงออกมาให้เห็นชัดแจ่มแจ้ง ฉันไม่อายแล้วล่ะก็มันทั้งเสียว ทั้งซ่านไปทั้งตัวแบบนี้ตอนนี้เอาช้างทั้งตัวมาฉุดให้ฉันออกห่างจากเขา ก็เอาไม่อยู่แล้วพอฉันถอนลิ้นที่สำรวจจนหนำใจของฉันออกมา ฉันก็จ้องหน้าเขาด้วยความลุ่มหลงมือของฉันลูบไล้เขาไปที่ใบหน้าพรมจูบไปทั่ว ไม่ว่าจะหน้าผาก แก้ม จมูก ปลายคาง ทุกส่วนบนใบหน้าทองคำนี้ ฉันจับจองเป็นเจ้าของหมดแล้ว“อ่ะ
(Well Part)ตัวผมกระตุกเกร็งแรงเสร็จสุขสม อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หากจะบอกว่าความสุขที่สุดในชีวิตของผมตอนนี้คืออะไร ก็คงจะตอบได้เต็มปากว่า ผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ไง คือความสุขของผมผมที่ตอนนี้เหนื่อยจากการทำกิจกรรมอันเร่าร้อนอย่างหนัก นอนราบบนที่นั่งคนขับปรับเบาะเอนสุด หอบหายใจแรง ปรือตามองผู้หญิงที่ผมชอบมาก ซึ่งกำลังนอนซบอกผมอยู่ ในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง กระโปรงที่ถกมากองเหนือสะโพก เสื้อที่ถูกปลดกระดุมปลดออกไป และบราที่ถูกลดมากองตรงเอวส่วนผมนะเหรอ แม้เสื้อผมจะถูกถกขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่กางเกงผมก็ถูกละไปกองอยู่ตรงข้อเท้าเช่นกัน อีกอย่างน้องชายผมที่ทำงานอย่างหนักยังคงคาอยู่ตรงนั้นของเธอ เพราะเธอฟุบลงอกผมอย่างหมดแรง ผมก็ไม่กล้าขยับตัว กะจะรอให้เธอพักหายใจ คลายความล้าก่อนเดี๋ยวเธอก็คงขยับสะโพกออกไปเองใบหน้าที่หลับตาพริ้มบนอกนั้น ทอดถอนหายใจเป็นจังหวะรดอกผม ลมหายใจอุ่น ๆ กลับมาเป็นจังหวะ ดวงตาที่ปิดมิดของเธอค่อย ๆ คลี่ออก เงยหน้าขึ้นมองผมช้า ๆ สายตาอ่อนแรงนั้นฉายแววออดอ้อน“แจนเหนื่อย ลุกไม่ขึ้น พี่เวลล์ใจร้ายทำรุนแรง รับผิดชอบด้วยค่ะ” ใบหน้าของเธอค้อนผมหน่อย ๆ แต่มันน่ารักชะมัด“พี่ขอโทษ พี่จะร
ตอนนี้ฉันถูกอุ้มมายังห้องพี่เวลล์แบบไม่คาดคิดมาก่อน แต่พอเขาอธิบายฉันก็คล้อยตามเขาไปหมด แต่ก็แอบเห็นด้วยจริงๆ นั่นแหละนี่เป็นเวลาตีสี่แล้ว ฉันทั้งปวดทั้งง่วงมาก อีกอย่างพลอยเองก็เจอเรื่องแย่ๆ มา ให้นางได้นอนพักผ่อนเต็มอิ่มสักหน่อยก็คงดีฉันถูกพี่เวลล์อุ้มมานั่งตรงโซฟา เขาค่อยๆ วางฉันลงอย่างเบามือ ก่อนจะหายไปในห้องเพื่อค้นหาของบางอย่าง ฉันเหลือบมองไปรอบๆ ห้องโถงของเขา ภายในเป็นโทนขาว ดำ เทา ดูสะอาดสะอ้านมาก ข้าวของภายในห้องไม่เยอะเท่าไหร่ อาจเพราะพวกเขาเพิ่งมาพักที่นี่ได้ไม่นาน อีกอย่างคงนอนสลับกับที่โรงพยาบาลแหละ นี่ก็ยังแปลกใจอยู่ทำไมพวกเขาพักคอนโดไกลจากโรงพยาบาลจังฉันวางมือไว้ตรงพนักพิงโซฟา แหงนมองเพดานอย่างเคย พลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ไม่นานนักพี่เวลล์ก็เดินออกมาพร้อมกับกล่องยา เขาวางมันไว้ตรงโต๊ะเล็กหน้าฉัน ก่อนจะเลี่ยงเดินไปห้องครัวรินน้ำมาให้“ทานยาก่อน” เขายื่นยาให้ และฉันก็รับมันมาทาน พร้อมกับน้ำที่เขาตระเตรียมไว้ จากนั้นเขาก็จับขาของฉันพาดมันไว้บนหน้าขาของเขาอย่างเบามือ“คะ?”“พี่จะทายาให้ เห็นไหมฟกช้ำหมดแล้ว” เขาหันมายิ้มให้ฉันก่อนจะหยิบยาหลอดหนึ่งขึ้นมา บีบใส่มือก่อนจะบรร
EP.38ฉันที่ตอนนี้สวมชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้นของพี่เวลล์อยู่ ส่วนชุดของตัวเองถูกยัดไว้ที่กระเป๋าใบใหญ่ของตัวเอง ซึ่งกำลังค่อยๆ ย่องเข้าห้องช้า ๆ ฉันเชื่อว่ายัยมีนยังไม่ตื่นแน่ ๆ ส่วนพลอยอาจจะยังไม่ตื่น(มั้ง)ก็ได้‘เอี๊ยด......’ฉันค่อย ๆ แง้มประตูให้เบาที่สุด และค่อย ๆ ปิดลงอย่างช้า ๆ ก้าวขาไปทีละก้าว ทีละก้าว ชะโงกมองห้องโถงว่ามีใครอยู่รึเปล่า เมื่อเห็นว่าปลอดคนฉันจึงย่องไปยังประตูห้องของตัวเองและเปิดให้เบาที่สุดพอชำเลืองมองภายในห้องนอน ยังมืดสนิท ผ้าม่านยังไม่เปิดฉันก็ถอนหายใจ พลอยยังไม่ตื่นแน่นอน จึงค่อย ๆ หันหลังเพื่อปิดประตู“เหี้ย!!!!!!!!!!!”เมื่อฉันหันหลังกลับ ใบหน้าของคนสองคนที่ยืนอยู่ด้วยกันหน้าประตูห้อง ก็ยิ้มแฉ่งราวกับตัวร้ายใจซีรีส์สยองขวัญสุดแสนระทึก“ไป...ไหน...มา...คะ” เสียงสูงอันสุดแสนน่าขนลุกของยัยมีนเน้นคำอย่างสยดสยอง ส่วนพลอยที่อยู่ข้างๆ ก็เหมือนจะได้รับเชื้อแย่ๆ จากยัยมีนที่ทำใบหน้ายิ้มอยากรู้อยากเห็นกว่าทุกทีที่เคยคบนางมาฉันจะหันปิดประตู แต่ก็โดน
EP.3912.00 น. (ณ. มหาวิทยาลัย)“แปลกๆ....” ที่พออาจารย์ออกจากห้องไป ไอ้นัทก็เดินดุ่มๆ วนรอบโต๊ะของฉัน ใบหน้ามองฉันด้วยความสงสัย“เป็นอะไรของแกไอ้นัท ทำไมเอาแต่จ้องฉันแบบนั้น” ฉันเหลือบมองด้วยสายตาดุไปที่มัน“แจน แกเปลี่ยนไปนะ”“เหอะ....ไอ้นัทแกทำให้ฉันงง” ฉันส่ายหัวไปมาก่อนจะหันไปสนใจเก็บสมุดลงกระเป๋า“แปลกยังไงเหรอนัท พลอยไม่เห็นเข้าใจที่นัทพูด” พลอยที่นั่งข้างกันเอ่ย“พลอย แกไม่เห็นเหรอวันนี้แจนมันใส่กระโปรงพลีทยาว” ไอ้นัทเอ่ย พลางดึงเก้าอี้มานั่งหันหน้าเข้าหาฉัน“ใส่กระโปรงพลีทยาว ละ..แล้วมันแปลกตรงไหนเหรอ ฉันยังใส่เลย” พลอยทำหน้าสงสัย ฉันเองก็สงสัยทำไมการที่ฉันใส่กระโปรงพลีทยาว มันถึงเป็นเรื่องแปลกไปได้ใครๆ ก็ใส่กันไม่ใช่เหรอ“ไอ้นัท..กระโปรงพลีทยาวคนในม.เขาใส่กันให้เบือ”“คนอื่นใส่อ่ะไม่แปลก แต่แกใส่แล้วแปลก”“ฉันไม่เข้าใจความคิดแกว่ะ ทำไมวะ”
EP.40พี่เวลล์นั่งลงตรงข้ามฉัน ส่วนฉันก็เอาแต่ก้มหน้าก้มทางก๋วยเตี๋ยวแทบไม่มองคนข้างหน้า พอลองเหลือบมองก็พบว่าเขาเอาแต่จ้องฉันอีก แถมคนอื่น ๆ ในโรงอาหารก็ดันสามัคคีรวมพลังกันเงียบเฉียบ ทำอย่างกับรอเสือกข่าวชามโตซะอย่างนั้น ใครจะไปทนความอึดอัดแบบนี้ได้กัน“อะแฮ่ม...พี่มาที่นี่ได้ยังไงคะ” ฉันพยายามพูดออกมาให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ไหนเราตกลงกันแล้วไงว่า อย่าเจอกันในมหาลัย”“ก็ใช่ พี่ก็บอกว่าแล้วแต่แจน” เขาโน้มตัวขยับใบหน้าเข้าใกล้ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเบาบาง“แล้วที่พี่ทำอยู่นี่มันยังไงคะ”“ก็พี่บอกว่าแล้วแต่แจนครับ แต่พี่ไม่ได้บอกว่าพี่จะทำตามด้วยซะหน่อย”“พี่เวลล์!!!” ฉันลืมตัว เผลอลุกขึ้นอุทานเรียกชื่อเขาดังลั่น จนตอนนี้ทุกคนยิ่งสนใจพวกเรามากขึ้นไปอีก“โกรธพี่เหรอ” เหอะ... ดูเอาเถอะเอาคำนี้มายอกย้อนฉัน หายใจเข้า หายใจออก ยัยแจนแกต้องตั้งสติ“พี่รอฉันอยู่ตรงนี้เดี๋ยวฉันมา” ใบหน้าฉันไม่สามารถเก็บสีหน้าบูดบึ้ง และอารมณ์ห
EP.43ณ.คอนโดตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล ฉันก็ปิดมือถือเครื่องนั้นไปเลย ฉันรู้ว่าถ้าเดินออกมาพี่แม็กต้องรีบไปบอกพี่เวลล์แน่ ๆ ฉันยังไม่พร้อมที่จะคุยอะไรกับเขา เพราะตอนนี้แค่พูดเสียงสะอึกอันน่าอายนี่เขาต้องได้ยินแน่ ๆรู้นะว่าภาพที่เห็นนั่นมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ แต่ฉันคิดมากไง มากเสียจนไม่อยากจะควานหาคำตอบ ทั้งที่เดินเข้าไปตรงนั้นถามให้รู้เรื่องก็คงจบแล้ว แต่ที่ไม่กล้า เพราะกลัว กลัวจะได้คำตอบที่ไม่อยากได้ยินขึ้นมานะสิฉันผิดเอง ที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นคนงี่เง่า เอาไว้อารมณ์อ่อนไหวต่อความรักนี่ลดลง ฉันจะเป็นฝ่ายไปหาเขาเองเพราะยังไงฉันก็เชื่อใจพี่เวลล์อยู่แล้วล่ะ“อ่าวมาแล้วเหรอ” ยัยมีนที่กำลังนั่งกินขนมดูซีรีส์อยู่กลางห้องหันมาทักทายฉัน“พลอยยังไม่มาเหรอ” ฉันที่มองซ้ายมองขวาไม่เห็นเพื่อนอีกคน“ยังไม่เห็นนะ แกไม่โทรถามล่ะ”“ฉันปิดมือถือ” ฉันพูดก่อนจะโยนกระเป๋าลงโซฟาแล้วนั่งข้าง ๆ ยัยมีนที่มันกำลังวางถุงขนมละสายตาจากซีรีส์และหันมาสนใจฉัน“เ
EP.42(Well Part)ช่วงนี้ผมไม่ได้เจอแจนเลย เพราะผมยุ่งอยู่กับวอร์ดค่อนข้างมาก แถมต้องสะสางงานที่ต้องส่งมหาลัยด้วย จึงได้แค่แชตส่งข้อความ ไม่ก็โทรหากันไม่กี่นาที เหมือนแจนเองก็ยุ่งวุ่นกับการเรียนของเธอเหมือนกัน แต่การไม่ได้เห็นหน้ากันเป็นเวลานานแบบนี้ก็ทำเอาผมรู้สึกแย่เหมือนกันนะ ผมเองก็อยากเจอหน้าเธอสักนิดก็ยังดี อยากได้กำลังใจจากเด็กดื้อคนนั้นตอนนี้ผมอยู่ที่โรงอาหารของโรงพยาบาล กว่าจะว่างมานั่งทานข้าวได้อย่างสบายใจในรอบหลายวันแบบนี้ไม่ได้มีกันง่าย ๆ อีกอยาก เพราะความดื้อดึง ของน้าสาวของผมที่ ตอนนี้กลับมาเป็นแพทย์ประจำการที่โรงพยาบาลของตระกูลหลังจากใช้ชีวิตหลายปีในต่างประเทศน้าใช้อำนาจความเป็นใหญ่คะยั้นคะยอให้ผมมาทานข้าวเป็นเพื่อน มีเหรอที่ผมจะปฏิเสธได้“นี่หลานรัก ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง” น้าผมเอ่ยถามผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ก็เรียนหนักครับ” ผมก้มหน้าทานข้าวเงียบ ๆ ขรึม ๆ ตามสไตล์ของผมนั่นแหละ“น้ากลับจากต่างประเทศเอาของฝากมาให้หลานเยอะเลยนะ อ่อ ฝากเผื่อพี่ส
EP.41หลายวันผ่านมาฉันกับพี่เวลล์ไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่วันนั้น เราได้แต่โทรคุยกันครั้งล่ะไม่เกินสองนาที แชตไลน์ที่กว่าจะตอบกันก็ทิ้งช่วงหลายชั่วโมง ไม่ใช่แค่พี่เวลล์ที่ไม่มีเวลาให้ ฉันเองก็ไม่มีเวลาเหมือนกัน สภาพเพื่อนๆ ทั้งสาขาแทบเหมือนศพเดินได้ ไฟลนตูด ฉันไม่ต่างอะไรกับยัยเพิ้งหัวยุ่ง ยังดีที่พลอยยังเป็นสมาชิกกลุ่มโปรเจคของฉัน ทำให้พอกลับมาห้องก็ยังช่วยกันปั่นงานต่อ ไม่งั้นงานยิ่งไม่เดินแน่ ยัยมีนที่มองสภาพฉันกับพลอยด้วยความสงสาร ก็คอยซื้อข้าวซื้อน้ำมาประเคน คอยจิกให้ทานข้าว เพื่อไม่ให้ตายกันซะก่อนฉันกับยัยพลอยจ้องหน้ากัน พลางหัวเราะ ใส่กันราวกับคนบ้า บางครั้งก็ร้องไห้ฮือออกมากันซะดื้อ ๆ ที่แท้การเรียนหนักจนแทบบ้ามันเป็นแบบนี้นี่เองและแล้วขุมนรกของพวกเราก็ใกล้จะผ่านพ้นไป กลุ่มสมาชิกทั้งห้าคนของพวกเราวางเอกสารปึกใหญ่เกี่ยวกับโปรเจคที่ทำกันแทบขายวิญญาณต่อหน้าคณะอาจารย์สาขา ที่ตอนนี้กำลังเพ่งมองพวกเราด้วยความคาดหวัง สมาชิกกลุ่มทุกคนหันหน้าให้กำลังใจ ปลอบใจกันไปมา พวกเราทำกันเต็มที่แล้วจริง ๆ จนเมื่ออาจารย์
EP.40พี่เวลล์นั่งลงตรงข้ามฉัน ส่วนฉันก็เอาแต่ก้มหน้าก้มทางก๋วยเตี๋ยวแทบไม่มองคนข้างหน้า พอลองเหลือบมองก็พบว่าเขาเอาแต่จ้องฉันอีก แถมคนอื่น ๆ ในโรงอาหารก็ดันสามัคคีรวมพลังกันเงียบเฉียบ ทำอย่างกับรอเสือกข่าวชามโตซะอย่างนั้น ใครจะไปทนความอึดอัดแบบนี้ได้กัน“อะแฮ่ม...พี่มาที่นี่ได้ยังไงคะ” ฉันพยายามพูดออกมาให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ไหนเราตกลงกันแล้วไงว่า อย่าเจอกันในมหาลัย”“ก็ใช่ พี่ก็บอกว่าแล้วแต่แจน” เขาโน้มตัวขยับใบหน้าเข้าใกล้ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเบาบาง“แล้วที่พี่ทำอยู่นี่มันยังไงคะ”“ก็พี่บอกว่าแล้วแต่แจนครับ แต่พี่ไม่ได้บอกว่าพี่จะทำตามด้วยซะหน่อย”“พี่เวลล์!!!” ฉันลืมตัว เผลอลุกขึ้นอุทานเรียกชื่อเขาดังลั่น จนตอนนี้ทุกคนยิ่งสนใจพวกเรามากขึ้นไปอีก“โกรธพี่เหรอ” เหอะ... ดูเอาเถอะเอาคำนี้มายอกย้อนฉัน หายใจเข้า หายใจออก ยัยแจนแกต้องตั้งสติ“พี่รอฉันอยู่ตรงนี้เดี๋ยวฉันมา” ใบหน้าฉันไม่สามารถเก็บสีหน้าบูดบึ้ง และอารมณ์ห
EP.3912.00 น. (ณ. มหาวิทยาลัย)“แปลกๆ....” ที่พออาจารย์ออกจากห้องไป ไอ้นัทก็เดินดุ่มๆ วนรอบโต๊ะของฉัน ใบหน้ามองฉันด้วยความสงสัย“เป็นอะไรของแกไอ้นัท ทำไมเอาแต่จ้องฉันแบบนั้น” ฉันเหลือบมองด้วยสายตาดุไปที่มัน“แจน แกเปลี่ยนไปนะ”“เหอะ....ไอ้นัทแกทำให้ฉันงง” ฉันส่ายหัวไปมาก่อนจะหันไปสนใจเก็บสมุดลงกระเป๋า“แปลกยังไงเหรอนัท พลอยไม่เห็นเข้าใจที่นัทพูด” พลอยที่นั่งข้างกันเอ่ย“พลอย แกไม่เห็นเหรอวันนี้แจนมันใส่กระโปรงพลีทยาว” ไอ้นัทเอ่ย พลางดึงเก้าอี้มานั่งหันหน้าเข้าหาฉัน“ใส่กระโปรงพลีทยาว ละ..แล้วมันแปลกตรงไหนเหรอ ฉันยังใส่เลย” พลอยทำหน้าสงสัย ฉันเองก็สงสัยทำไมการที่ฉันใส่กระโปรงพลีทยาว มันถึงเป็นเรื่องแปลกไปได้ใครๆ ก็ใส่กันไม่ใช่เหรอ“ไอ้นัท..กระโปรงพลีทยาวคนในม.เขาใส่กันให้เบือ”“คนอื่นใส่อ่ะไม่แปลก แต่แกใส่แล้วแปลก”“ฉันไม่เข้าใจความคิดแกว่ะ ทำไมวะ”
EP.38ฉันที่ตอนนี้สวมชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้นของพี่เวลล์อยู่ ส่วนชุดของตัวเองถูกยัดไว้ที่กระเป๋าใบใหญ่ของตัวเอง ซึ่งกำลังค่อยๆ ย่องเข้าห้องช้า ๆ ฉันเชื่อว่ายัยมีนยังไม่ตื่นแน่ ๆ ส่วนพลอยอาจจะยังไม่ตื่น(มั้ง)ก็ได้‘เอี๊ยด......’ฉันค่อย ๆ แง้มประตูให้เบาที่สุด และค่อย ๆ ปิดลงอย่างช้า ๆ ก้าวขาไปทีละก้าว ทีละก้าว ชะโงกมองห้องโถงว่ามีใครอยู่รึเปล่า เมื่อเห็นว่าปลอดคนฉันจึงย่องไปยังประตูห้องของตัวเองและเปิดให้เบาที่สุดพอชำเลืองมองภายในห้องนอน ยังมืดสนิท ผ้าม่านยังไม่เปิดฉันก็ถอนหายใจ พลอยยังไม่ตื่นแน่นอน จึงค่อย ๆ หันหลังเพื่อปิดประตู“เหี้ย!!!!!!!!!!!”เมื่อฉันหันหลังกลับ ใบหน้าของคนสองคนที่ยืนอยู่ด้วยกันหน้าประตูห้อง ก็ยิ้มแฉ่งราวกับตัวร้ายใจซีรีส์สยองขวัญสุดแสนระทึก“ไป...ไหน...มา...คะ” เสียงสูงอันสุดแสนน่าขนลุกของยัยมีนเน้นคำอย่างสยดสยอง ส่วนพลอยที่อยู่ข้างๆ ก็เหมือนจะได้รับเชื้อแย่ๆ จากยัยมีนที่ทำใบหน้ายิ้มอยากรู้อยากเห็นกว่าทุกทีที่เคยคบนางมาฉันจะหันปิดประตู แต่ก็โดน
ตอนนี้ฉันถูกอุ้มมายังห้องพี่เวลล์แบบไม่คาดคิดมาก่อน แต่พอเขาอธิบายฉันก็คล้อยตามเขาไปหมด แต่ก็แอบเห็นด้วยจริงๆ นั่นแหละนี่เป็นเวลาตีสี่แล้ว ฉันทั้งปวดทั้งง่วงมาก อีกอย่างพลอยเองก็เจอเรื่องแย่ๆ มา ให้นางได้นอนพักผ่อนเต็มอิ่มสักหน่อยก็คงดีฉันถูกพี่เวลล์อุ้มมานั่งตรงโซฟา เขาค่อยๆ วางฉันลงอย่างเบามือ ก่อนจะหายไปในห้องเพื่อค้นหาของบางอย่าง ฉันเหลือบมองไปรอบๆ ห้องโถงของเขา ภายในเป็นโทนขาว ดำ เทา ดูสะอาดสะอ้านมาก ข้าวของภายในห้องไม่เยอะเท่าไหร่ อาจเพราะพวกเขาเพิ่งมาพักที่นี่ได้ไม่นาน อีกอย่างคงนอนสลับกับที่โรงพยาบาลแหละ นี่ก็ยังแปลกใจอยู่ทำไมพวกเขาพักคอนโดไกลจากโรงพยาบาลจังฉันวางมือไว้ตรงพนักพิงโซฟา แหงนมองเพดานอย่างเคย พลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ไม่นานนักพี่เวลล์ก็เดินออกมาพร้อมกับกล่องยา เขาวางมันไว้ตรงโต๊ะเล็กหน้าฉัน ก่อนจะเลี่ยงเดินไปห้องครัวรินน้ำมาให้“ทานยาก่อน” เขายื่นยาให้ และฉันก็รับมันมาทาน พร้อมกับน้ำที่เขาตระเตรียมไว้ จากนั้นเขาก็จับขาของฉันพาดมันไว้บนหน้าขาของเขาอย่างเบามือ“คะ?”“พี่จะทายาให้ เห็นไหมฟกช้ำหมดแล้ว” เขาหันมายิ้มให้ฉันก่อนจะหยิบยาหลอดหนึ่งขึ้นมา บีบใส่มือก่อนจะบรร
(Well Part)ตัวผมกระตุกเกร็งแรงเสร็จสุขสม อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หากจะบอกว่าความสุขที่สุดในชีวิตของผมตอนนี้คืออะไร ก็คงจะตอบได้เต็มปากว่า ผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ไง คือความสุขของผมผมที่ตอนนี้เหนื่อยจากการทำกิจกรรมอันเร่าร้อนอย่างหนัก นอนราบบนที่นั่งคนขับปรับเบาะเอนสุด หอบหายใจแรง ปรือตามองผู้หญิงที่ผมชอบมาก ซึ่งกำลังนอนซบอกผมอยู่ ในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง กระโปรงที่ถกมากองเหนือสะโพก เสื้อที่ถูกปลดกระดุมปลดออกไป และบราที่ถูกลดมากองตรงเอวส่วนผมนะเหรอ แม้เสื้อผมจะถูกถกขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่กางเกงผมก็ถูกละไปกองอยู่ตรงข้อเท้าเช่นกัน อีกอย่างน้องชายผมที่ทำงานอย่างหนักยังคงคาอยู่ตรงนั้นของเธอ เพราะเธอฟุบลงอกผมอย่างหมดแรง ผมก็ไม่กล้าขยับตัว กะจะรอให้เธอพักหายใจ คลายความล้าก่อนเดี๋ยวเธอก็คงขยับสะโพกออกไปเองใบหน้าที่หลับตาพริ้มบนอกนั้น ทอดถอนหายใจเป็นจังหวะรดอกผม ลมหายใจอุ่น ๆ กลับมาเป็นจังหวะ ดวงตาที่ปิดมิดของเธอค่อย ๆ คลี่ออก เงยหน้าขึ้นมองผมช้า ๆ สายตาอ่อนแรงนั้นฉายแววออดอ้อน“แจนเหนื่อย ลุกไม่ขึ้น พี่เวลล์ใจร้ายทำรุนแรง รับผิดชอบด้วยค่ะ” ใบหน้าของเธอค้อนผมหน่อย ๆ แต่มันน่ารักชะมัด“พี่ขอโทษ พี่จะร
EP.35เสียงหายใจของฉันและเขาแรงรดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นพาดผ่านแพนตี้ตัวน้อยของฉัน เขาก็หยุดการลูบไล้ขาอ่อนฉันทันทีเขาเลื่อนมือข้างขวาขึ้นมาจับคางฉันให้หันไปหาเขาที่กำลังเชยคางวางพาดบนไหล่ขวา ฉันจึงขยับตัวเล็กน้อยเพื่อเอียงตัวมองเขาให้ถนัด เขาเลื่อนมือกุมท้ายทอยฉันก่อนจะดันเข้าหาใบหน้าเขา ริมฝีปากสองเราปะทะกัน และคราวนี้เป็นฉันบ้างที่เผยอเรียวปากสัมผัส สำรวจกลีบปากเจ้าเสน่ห์ของเขาเขาปล่อยให้ฉันใช้ลิ้นรุกล้ำเข้าไปสำรวจโพรงปากของเขาอย่างเต็มใจแถมสองลิ้นของเราก็เกี่ยวพันกันไปมาจนเกิดเป็นเสียงสัมผัสก่อให้เกิดอารมณ์ปะทุขีดสุด แน่นอนว่าหว่างขาของฉันตอนนี้ชื้นแฉะขนาดที่มองเห็นได้จากภายนอก แพนตี้ตัวน้อย มีรอยเปียกเป็นดวงออกมาให้เห็นชัดแจ่มแจ้ง ฉันไม่อายแล้วล่ะก็มันทั้งเสียว ทั้งซ่านไปทั้งตัวแบบนี้ตอนนี้เอาช้างทั้งตัวมาฉุดให้ฉันออกห่างจากเขา ก็เอาไม่อยู่แล้วพอฉันถอนลิ้นที่สำรวจจนหนำใจของฉันออกมา ฉันก็จ้องหน้าเขาด้วยความลุ่มหลงมือของฉันลูบไล้เขาไปที่ใบหน้าพรมจูบไปทั่ว ไม่ว่าจะหน้าผาก แก้ม จมูก ปลายคาง ทุกส่วนบนใบหน้าทองคำนี้ ฉันจับจองเป็นเจ้าของหมดแล้ว“อ่ะ