EP.33
ฉันเดินกลับมาที่โต๊ะ ยืนมอง พี่เวลล์ที่นั่งทำท่ากอดอก มองฉันด้วยสายตาดุราวกับผู้ปกครอง เหอะ ปล่อยให้รู้สึกหงุดหงิดบ้างแบบนี้แหละแฟร์ดีจะตาย
ฉันหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ สะบัดความรู้สึกทุกอย่างทิ้งไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ทำไมพี่ยังไม่ทานข้าวละคะ หิวไม่ใช่เหรอ”
“รอคน” เขาทำหน้าบึ้งตึง กอดอกมาทางฉันอย่างเห็นได้ชัด ฉันจึงได้แต่ทำหน้ายิ้มเจื่อน
“ปวดหนักเข้าห้องน้ำไงคะ ขอโทษทีค่ะ นี่ก็มาแล้วไง ทานกันเถอะ” ฉันรีบนั่ง ตัดบทสนทนา แต่ดูเหมือนพี่เวลล์จะไม่ยอมจบ
“โกรธอะไรพี่อีกรึเปล่า หรือเพราะเมื่อกี้” เขามองฉันด้วยสายตาเค้นหาคำตอบบ้าง
“จะโกรธพี่ได้ไงละคะ แจนจะมีสิทธิ์อะไรมางอนแบบนั้น ถึงพี่จะดูรูปสาว แจนจะห้ามอะไรได้”
“ดูรูปสาว?”
“ทานข้าวกันดีกว่าค่ะพี่ อ่ะนี่ น่าอร่อยเนาะ” ฉันตักปลาหมึกทอดกระเทียมให้เขา จากนั้นฉันก็ทำเป็นสนใจอาหารตรงหน้าเอาแต่กินไม่พูดไม่จา เขาตักอะไรให้ฉัน ฉันก็ทานมันทุกคำ ก็เป็นซะแบบนี้โกรธง่ายหายเร็วเพียงเพราะเขาดีต่อฉัน
“ร้านนี้อร่อยอย่างที่พี่บอกเลย” ฉันยิ้มพลางตบพุงท่าทางอิ่มแปล้ไร้ซึ่งภาพลักษณ์กุลสตรีใดๆ ส่วนพี่เวลล์ก็ทานไปเยอะเหมือนกัน คงหิวอย่างที่เจ้าตัวพูดจริง ๆ
“แจนชอบ พี่ก็ดีใจแล้ว” เขายิ้มพลางเอื้อมมือมาแตะริมฝีปากฉัน นี่ฉันกินมูมมามจนข้าวติดปากเหรอเนี้ยอายชะมัด
“พี่เวลล์” ฉันเอ่ยด้วยเสียงอันแผ่วเบา
“ว่าไงครับ” น้ำเสียงตอบกลับของเขาก็นุ่มนวลตามมา
“แจนดื่มแอลได้ไหม ขอสักแก้ว”
“ได้สิ แต่คราวนี้พี่ไม่ให้ดื่มเยอะอีกแล้วนะ”
“ขอบคุณค่ะ” ฉันยิ้มขอบคุณพี่เวลล์ ก่อนที่พี่เขาจะเรียกบริกรเพื่อสั่งเครื่องดื่มแอล เพิ่มเติม
ไม่นานนัก เครื่องดื่มก็วางอยู่ตรงหน้า ฉันหยิบแก้วขึ้นมาดื่มพลางทอดสายตามองออกไปยังแม่น้ำตรงหน้าอย่างไร้จุดหมาย คิดอะไรเรื่อยเปื่อยโลกของฉันมันหลากหลายอารมณ์ อยู่กับตระกูลก็โลกแห่งความจริงที่ต้องเผชิญ อยู่กับเพื่อนก็โลกแห่งความสงบสุข อยู่กับพี่เขาก็เหมือนโลกแห่งความฝันที่ใฝ่หา
แบบนี้มันก็ดีแค่ไหนแล้ว ตัวฉันเองจะต้องการอะไรได้มากกว่านี้ ฉันก็ไม่ได้คาดหวังจะครอบครองเขาตั้งแต่ต้น ความสัมพันธ์ที่คลุมเคลือของพวกเราที่เป็นอยู่มันก็เกินความคาดหมายไปมากแล้ว แต่ถ้ามันชัดเจนกว่านี้คงดี
สายตาที่ทอดยาวออกไป เหม่อไปนานแค่ไหนไม่รู้ แต่จู่ ๆ ตรงหน้าฉันก็ปรากฏรูปหนึ่งบนมือถือที่เขายื่นมา จากสายตาของฉันที่กำลังโฟกัสแม่น้ำที่ไหลเอื่อยตอนนี้มันกำลังพุ่งความสนใจไปที่รูปในมือถือตรงหน้าแทน
มันเป็นรูป ชายหญิงคู่หนึ่ง กำลังนั่งรับประทานอาหาร ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ฉันค่อนข้างคุ้นตา แต่ไม่รู้ว่าอะไรนึกไม่ออก ดูแล้วรูปคงเก่าพอดู ผู้หญิงอยู่ในชุดเรียบง่ายใบหน้าสวย ส่วนผู้ชายก็แต่งสูทหล่อดูมีภูมิฐานสุด ๆ แต่ฉันก็ไม่เข้าใจว่าเขาเอามาให้ฉันดูทำไม
“พี่ให้ฉันดูรูปนี้...ทำไมคะ” ฉันละสายตาจากจอมือถือ หันไปหาคนที่ยื่นรูปแทน ใบหน้าเขายกยิ้มละมุนมากแม่ใจฉันเหลวเป็นน้ำ
“ก็อยากรู้ไม่ใช่เหรอ ว่าเมื่อกี้พี่เอาแต่จ้องมองมือถือแล้วยิ้มทำไม นี่ไง” เขาตอบพลางพิงพนักพิงเก้าอี้
“รูปนี้ เหรอคะที่ทำให้พี่ยิ้มขนาดนั้น” ฉันเอ่ยถามอีกครั้ง เอาจริงฉันไม่ค่อยเชื่อว่ารูปนี้มันมีอะไรจนทำให้เขายิ้ม ก็แค่รูปเก่าชายหญิงรูปหนึ่ง ที่นั่งบนโต๊ะอาหาร
“ใช่แล้ว” เขาตอบพลางพยักหน้า
“....” ฉันไม่มีคำพูดใดๆ เพราะยังไม่เข้าใจ เขาคงดูออก
“ดูในรูปดี ๆ สิ ว่าสองคนนั้นทานอาหารที่ไหน” คราวนี้ฉันคว้ามือถือของเขา เพื่อดูรูปด้วยตัวเอง จ้องมองอย่างพินิจเหลือบมองไปรอบๆ ก่อนจะมองไปที่รูปอีกครั้ง เดี๋ยวนะที่ฉันบอกว่ามันคุ้นๆ หรือว่า
“ในรูป คือที่นี่เหรอคะ” ฉันหันไปมองเขา ยักคิ้วเชิงถาม
“ใช่แล้วล่ะ สองท่านนั้นทานอาหารที่นี่ โต๊ะนี้” พี่เวลล์เอ่ยพลางยกดื่ม
“แล้ว เขาเป็นใครคะ?”
“พ่อแม่ของพี่น่ะ”
“เอ๊ะ...พะ พ่อ กับ แม่ พี่งั้นเหรอ” สิ้นคำของเขา ฉันก็มองหน้าเขาสลับกับมองบุคคลในรูป เชี้ยเอ้ย ทำไมเพิ่งสังเกต นี่มันเหมือนกันอย่างกับแกะ
แต่ก็นะ มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันนินา งั้นที่เขามองรูปแล้วยิ้มก็คงเป็นความสุขเล็ก ๆ ของเขาที่เขาได้มาทานร้านอาหารที่เดียวกับที่พ่อแม่เขาเคยมาทานล่ะมั้ง แต่แค่นี้ก็ทำให้ฉันยิ้มออกอย่างน้อยที่เขายิ้มก็ไม่ใช่เพราะดูรูปสาวล่ะนะ
“ดีค่ะ พ่อแม่พี่รสนิยมดี ร้านอาหารอร่อยจริง ๆ ค่ะ” ฉันฉีกยิ้มให้เขา ยกแก้วเหล้าดื่มด้วยความสบายใจ
“แล้วก็...” พี่เวลล์ที่กำลังจะเอ่ยต่อ ฉันที่เห็นแบบนั้นก็วางแก้วลง โน้มตัวเข้าหาโต๊ะเท้าคางจ้องมองเขาอย่างลุ่มหลง
“แล้วอะไรคะ” ฉันเอ่ยด้วยเสียงอ้อน
“ในรูปนี้ พ่อของพี่ขอแม่พี่เป็นแฟน ที่ร้านอาหารนี้ แล้วก็โต๊ะนี้” เขาค่อย ๆ โน้มตัวเท้าคางจ้องมองฉันเช่นกัน ดวงตาฉันจ้องประสานกับ นัยน์ตาทอแสงประกายระยิบระยับของเขา หัวใจฉันเต้นรัวอย่างควบคุมไม่ได้ จากใบหน้าที่กำลังยิ้ม ต้องหลุบลงกลืนน้ำลายไปหลายอึกอย่างช่วยไม่ได้ มือชา เท้าชา ราวกับว่าตอนนี้ร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ฉันควบคุมการเต้นของหัวใจไม่ได้จริง ๆ เหมือนมันกำลังจะระเบิด ไม่ได้ยัยแจน แกอย่าคิดเข้าข้างตัวเองแบบนั้น เขาแค่เล่าให้แกฟังเฉยๆ ไม่ใช่แบบที่แกคิดหรอก
“อะ ฮ่ะ...ฮ่ะ พ่อแม่พี่โรแมนติกจังเลยนะคะ ฮ่ะ ฮ่ะ” ฉันแค่นยิ้มพูดเอ่ยออกไป ตอนนี้หน้าฉันแข็ง ตาฉันค้างไปหมดเลยพวกแกเอ้ย
“ใช่ไหมล่ะ โรแมนติกดีเนาะ”
“....” ฉันที่ตอนนี้แข็งเป็นก้อนหินโดยสมบูรณ์ ในขณะที่เขาโน้มตัวยื่นหน้าเข้าใกล้ฉันมากกว่าเดิม พลางกระซิบข้างหูแผ่วเบาให้ได้ยินเพียงเราสอง
“และพี่ก็กำลังจะทำแบบนั้นกับคนตรงหน้า”
“คะ?”
“ขอแจนเป็นแฟนครับ”
“ห๊า.....”
ด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกของเขา ทำให้หัวใจฉันพองโตราวกับหญิงสาวแรกแย้มที่รอให้ใครสักคนมารัก ฉันเคยตั้งกฎกับตัวเองไว้ว่าจะไม่เปิดประตูหัวใจให้ใครอีก แต่สำหรับเขาเพียงแค่เห็นหน้าครั้งแรก หัวใจก็อ้าแขนรับเขาตั้งแต่ต้นโดยไม่รู้ตัว
เขาโน้มตัวกลับพนักพิงเก้าอี้ ยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าฉัน พร้อมด้วยดวงตาที่มองฉันด้วยความอ่อนโยนนุ่มลึกอย่างที่เคยเป็น
“เป็นแฟนกันนะ”
ฉันฉีกยิ้มกว้าง ส่งสายตาจากก้นบึ้งหัวใจ ยื่นนิ้วก้อยขึ้นไปเกี่ยวนิ้วก้อยของเขา และเป็นฝ่ายโน้มตัวยื่นเข้าไปใกล้ กระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบาบ้าง
“ฉันก็อยากเป็นแฟนพี่ค่ะ”
EP.34“พี่เวลล์ นี่มันก็ดึกมากแล้ว กลับกันเถอะค่ะ” ฉันเอ่ยบอกเขาเมื่อเห็นหน้าจอมือถือบอกว่าเป็นเวลาเที่ยงคืนเกือบตีหนึ่งแล้ว “พรุ่งนี้แจนมีเรียนเช้านะคะ”พี่เวลล์ เหลือบมองนาฬิกาข้อมือของเขาก่อนที่จะพยักหน้ารับ แล้วเรียกพนักงานเช็คบิลทันที เขาเดินนำออกไปก่อน ส่วนฉันก็เดินตามหลังเขา เป็นครั้งแรกในชีวิตถ้าไม่นับพ่อของตัวเอง ที่ฉันเดินตามคน ๆ หนึ่ง มองแผ่นหลังของเขา ราวกับตอนนี้ฉันเองได้เป็นฝ่ายที่ถูกปกป้องบ้าง จากที่ปกติ ฉันมักจะยืนอยู่ข้างหน้าคนอื่นเสมออาจเป็นเพราะฉันเหม่ออยู่ในภวังค์จิตใจล่องลอยพอพี่เวลล์หยุดเดิน ฉันก็เป็นฝ่ายเดินชนหลังเขาอย่างจัง ใบหน้ากระแทกหลังเขา ทำเอาเจ็บไม่น้อย“ขอโทษค่ะ แจนไม่ทันระวัง” ฉันยกมือจับจมูกตัวเองบีบมันเบาๆ ให้หายหน่วง“ระวังด้วยสิ จับมือพี่ไว้” เขาเหลียวมองดูฉัน สายตาเขาไม่ดุสักนิด พร้อมยื่นมือหนาของเขาออกมาตรงหน้าฉัน แน่นอนว่าฉันไม่รอช้ายื่นมือเรียวบางของตัวเองจับมือเขาทันที ฉันรู้สึกได้นะความอบอุ่นที่แผ่ซ่านในมือข้างนั้นของเขา เขากระชับมือฉันแน่นจากนั้นจึงเดินเคียงข้างกันออกจากร้านอาหารไปยังรถที่จอดอยู่เขาเปิดประตูรถให้ฉันเข้าไปนั่ง ก่อนที่เข
EP.35เสียงหายใจของฉันและเขาแรงรดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นพาดผ่านแพนตี้ตัวน้อยของฉัน เขาก็หยุดการลูบไล้ขาอ่อนฉันทันทีเขาเลื่อนมือข้างขวาขึ้นมาจับคางฉันให้หันไปหาเขาที่กำลังเชยคางวางพาดบนไหล่ขวา ฉันจึงขยับตัวเล็กน้อยเพื่อเอียงตัวมองเขาให้ถนัด เขาเลื่อนมือกุมท้ายทอยฉันก่อนจะดันเข้าหาใบหน้าเขา ริมฝีปากสองเราปะทะกัน และคราวนี้เป็นฉันบ้างที่เผยอเรียวปากสัมผัส สำรวจกลีบปากเจ้าเสน่ห์ของเขาเขาปล่อยให้ฉันใช้ลิ้นรุกล้ำเข้าไปสำรวจโพรงปากของเขาอย่างเต็มใจแถมสองลิ้นของเราก็เกี่ยวพันกันไปมาจนเกิดเป็นเสียงสัมผัสก่อให้เกิดอารมณ์ปะทุขีดสุด แน่นอนว่าหว่างขาของฉันตอนนี้ชื้นแฉะขนาดที่มองเห็นได้จากภายนอก แพนตี้ตัวน้อย มีรอยเปียกเป็นดวงออกมาให้เห็นชัดแจ่มแจ้ง ฉันไม่อายแล้วล่ะก็มันทั้งเสียว ทั้งซ่านไปทั้งตัวแบบนี้ตอนนี้เอาช้างทั้งตัวมาฉุดให้ฉันออกห่างจากเขา ก็เอาไม่อยู่แล้วพอฉันถอนลิ้นที่สำรวจจนหนำใจของฉันออกมา ฉันก็จ้องหน้าเขาด้วยความลุ่มหลงมือของฉันลูบไล้เขาไปที่ใบหน้าพรมจูบไปทั่ว ไม่ว่าจะหน้าผาก แก้ม จมูก ปลายคาง ทุกส่วนบนใบหน้าทองคำนี้ ฉันจับจองเป็นเจ้าของหมดแล้ว“อ่ะ
(Well Part)ตัวผมกระตุกเกร็งแรงเสร็จสุขสม อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หากจะบอกว่าความสุขที่สุดในชีวิตของผมตอนนี้คืออะไร ก็คงจะตอบได้เต็มปากว่า ผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ไง คือความสุขของผมผมที่ตอนนี้เหนื่อยจากการทำกิจกรรมอันเร่าร้อนอย่างหนัก นอนราบบนที่นั่งคนขับปรับเบาะเอนสุด หอบหายใจแรง ปรือตามองผู้หญิงที่ผมชอบมาก ซึ่งกำลังนอนซบอกผมอยู่ ในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง กระโปรงที่ถกมากองเหนือสะโพก เสื้อที่ถูกปลดกระดุมปลดออกไป และบราที่ถูกลดมากองตรงเอวส่วนผมนะเหรอ แม้เสื้อผมจะถูกถกขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่กางเกงผมก็ถูกละไปกองอยู่ตรงข้อเท้าเช่นกัน อีกอย่างน้องชายผมที่ทำงานอย่างหนักยังคงคาอยู่ตรงนั้นของเธอ เพราะเธอฟุบลงอกผมอย่างหมดแรง ผมก็ไม่กล้าขยับตัว กะจะรอให้เธอพักหายใจ คลายความล้าก่อนเดี๋ยวเธอก็คงขยับสะโพกออกไปเองใบหน้าที่หลับตาพริ้มบนอกนั้น ทอดถอนหายใจเป็นจังหวะรดอกผม ลมหายใจอุ่น ๆ กลับมาเป็นจังหวะ ดวงตาที่ปิดมิดของเธอค่อย ๆ คลี่ออก เงยหน้าขึ้นมองผมช้า ๆ สายตาอ่อนแรงนั้นฉายแววออดอ้อน“แจนเหนื่อย ลุกไม่ขึ้น พี่เวลล์ใจร้ายทำรุนแรง รับผิดชอบด้วยค่ะ” ใบหน้าของเธอค้อนผมหน่อย ๆ แต่มันน่ารักชะมัด“พี่ขอโทษ พี่จะร
ตอนนี้ฉันถูกอุ้มมายังห้องพี่เวลล์แบบไม่คาดคิดมาก่อน แต่พอเขาอธิบายฉันก็คล้อยตามเขาไปหมด แต่ก็แอบเห็นด้วยจริงๆ นั่นแหละนี่เป็นเวลาตีสี่แล้ว ฉันทั้งปวดทั้งง่วงมาก อีกอย่างพลอยเองก็เจอเรื่องแย่ๆ มา ให้นางได้นอนพักผ่อนเต็มอิ่มสักหน่อยก็คงดีฉันถูกพี่เวลล์อุ้มมานั่งตรงโซฟา เขาค่อยๆ วางฉันลงอย่างเบามือ ก่อนจะหายไปในห้องเพื่อค้นหาของบางอย่าง ฉันเหลือบมองไปรอบๆ ห้องโถงของเขา ภายในเป็นโทนขาว ดำ เทา ดูสะอาดสะอ้านมาก ข้าวของภายในห้องไม่เยอะเท่าไหร่ อาจเพราะพวกเขาเพิ่งมาพักที่นี่ได้ไม่นาน อีกอย่างคงนอนสลับกับที่โรงพยาบาลแหละ นี่ก็ยังแปลกใจอยู่ทำไมพวกเขาพักคอนโดไกลจากโรงพยาบาลจังฉันวางมือไว้ตรงพนักพิงโซฟา แหงนมองเพดานอย่างเคย พลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ไม่นานนักพี่เวลล์ก็เดินออกมาพร้อมกับกล่องยา เขาวางมันไว้ตรงโต๊ะเล็กหน้าฉัน ก่อนจะเลี่ยงเดินไปห้องครัวรินน้ำมาให้“ทานยาก่อน” เขายื่นยาให้ และฉันก็รับมันมาทาน พร้อมกับน้ำที่เขาตระเตรียมไว้ จากนั้นเขาก็จับขาของฉันพาดมันไว้บนหน้าขาของเขาอย่างเบามือ“คะ?”“พี่จะทายาให้ เห็นไหมฟกช้ำหมดแล้ว” เขาหันมายิ้มให้ฉันก่อนจะหยิบยาหลอดหนึ่งขึ้นมา บีบใส่มือก่อนจะบรร
EP.38ฉันที่ตอนนี้สวมชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้นของพี่เวลล์อยู่ ส่วนชุดของตัวเองถูกยัดไว้ที่กระเป๋าใบใหญ่ของตัวเอง ซึ่งกำลังค่อยๆ ย่องเข้าห้องช้า ๆ ฉันเชื่อว่ายัยมีนยังไม่ตื่นแน่ ๆ ส่วนพลอยอาจจะยังไม่ตื่น(มั้ง)ก็ได้‘เอี๊ยด......’ฉันค่อย ๆ แง้มประตูให้เบาที่สุด และค่อย ๆ ปิดลงอย่างช้า ๆ ก้าวขาไปทีละก้าว ทีละก้าว ชะโงกมองห้องโถงว่ามีใครอยู่รึเปล่า เมื่อเห็นว่าปลอดคนฉันจึงย่องไปยังประตูห้องของตัวเองและเปิดให้เบาที่สุดพอชำเลืองมองภายในห้องนอน ยังมืดสนิท ผ้าม่านยังไม่เปิดฉันก็ถอนหายใจ พลอยยังไม่ตื่นแน่นอน จึงค่อย ๆ หันหลังเพื่อปิดประตู“เหี้ย!!!!!!!!!!!”เมื่อฉันหันหลังกลับ ใบหน้าของคนสองคนที่ยืนอยู่ด้วยกันหน้าประตูห้อง ก็ยิ้มแฉ่งราวกับตัวร้ายใจซีรีส์สยองขวัญสุดแสนระทึก“ไป...ไหน...มา...คะ” เสียงสูงอันสุดแสนน่าขนลุกของยัยมีนเน้นคำอย่างสยดสยอง ส่วนพลอยที่อยู่ข้างๆ ก็เหมือนจะได้รับเชื้อแย่ๆ จากยัยมีนที่ทำใบหน้ายิ้มอยากรู้อยากเห็นกว่าทุกทีที่เคยคบนางมาฉันจะหันปิดประตู แต่ก็โดน
EP.3912.00 น. (ณ. มหาวิทยาลัย)“แปลกๆ....” ที่พออาจารย์ออกจากห้องไป ไอ้นัทก็เดินดุ่มๆ วนรอบโต๊ะของฉัน ใบหน้ามองฉันด้วยความสงสัย“เป็นอะไรของแกไอ้นัท ทำไมเอาแต่จ้องฉันแบบนั้น” ฉันเหลือบมองด้วยสายตาดุไปที่มัน“แจน แกเปลี่ยนไปนะ”“เหอะ....ไอ้นัทแกทำให้ฉันงง” ฉันส่ายหัวไปมาก่อนจะหันไปสนใจเก็บสมุดลงกระเป๋า“แปลกยังไงเหรอนัท พลอยไม่เห็นเข้าใจที่นัทพูด” พลอยที่นั่งข้างกันเอ่ย“พลอย แกไม่เห็นเหรอวันนี้แจนมันใส่กระโปรงพลีทยาว” ไอ้นัทเอ่ย พลางดึงเก้าอี้มานั่งหันหน้าเข้าหาฉัน“ใส่กระโปรงพลีทยาว ละ..แล้วมันแปลกตรงไหนเหรอ ฉันยังใส่เลย” พลอยทำหน้าสงสัย ฉันเองก็สงสัยทำไมการที่ฉันใส่กระโปรงพลีทยาว มันถึงเป็นเรื่องแปลกไปได้ใครๆ ก็ใส่กันไม่ใช่เหรอ“ไอ้นัท..กระโปรงพลีทยาวคนในม.เขาใส่กันให้เบือ”“คนอื่นใส่อ่ะไม่แปลก แต่แกใส่แล้วแปลก”“ฉันไม่เข้าใจความคิดแกว่ะ ทำไมวะ”
EP.40พี่เวลล์นั่งลงตรงข้ามฉัน ส่วนฉันก็เอาแต่ก้มหน้าก้มทางก๋วยเตี๋ยวแทบไม่มองคนข้างหน้า พอลองเหลือบมองก็พบว่าเขาเอาแต่จ้องฉันอีก แถมคนอื่น ๆ ในโรงอาหารก็ดันสามัคคีรวมพลังกันเงียบเฉียบ ทำอย่างกับรอเสือกข่าวชามโตซะอย่างนั้น ใครจะไปทนความอึดอัดแบบนี้ได้กัน“อะแฮ่ม...พี่มาที่นี่ได้ยังไงคะ” ฉันพยายามพูดออกมาให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ไหนเราตกลงกันแล้วไงว่า อย่าเจอกันในมหาลัย”“ก็ใช่ พี่ก็บอกว่าแล้วแต่แจน” เขาโน้มตัวขยับใบหน้าเข้าใกล้ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเบาบาง“แล้วที่พี่ทำอยู่นี่มันยังไงคะ”“ก็พี่บอกว่าแล้วแต่แจนครับ แต่พี่ไม่ได้บอกว่าพี่จะทำตามด้วยซะหน่อย”“พี่เวลล์!!!” ฉันลืมตัว เผลอลุกขึ้นอุทานเรียกชื่อเขาดังลั่น จนตอนนี้ทุกคนยิ่งสนใจพวกเรามากขึ้นไปอีก“โกรธพี่เหรอ” เหอะ... ดูเอาเถอะเอาคำนี้มายอกย้อนฉัน หายใจเข้า หายใจออก ยัยแจนแกต้องตั้งสติ“พี่รอฉันอยู่ตรงนี้เดี๋ยวฉันมา” ใบหน้าฉันไม่สามารถเก็บสีหน้าบูดบึ้ง และอารมณ์ห
EP.41หลายวันผ่านมาฉันกับพี่เวลล์ไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่วันนั้น เราได้แต่โทรคุยกันครั้งล่ะไม่เกินสองนาที แชตไลน์ที่กว่าจะตอบกันก็ทิ้งช่วงหลายชั่วโมง ไม่ใช่แค่พี่เวลล์ที่ไม่มีเวลาให้ ฉันเองก็ไม่มีเวลาเหมือนกัน สภาพเพื่อนๆ ทั้งสาขาแทบเหมือนศพเดินได้ ไฟลนตูด ฉันไม่ต่างอะไรกับยัยเพิ้งหัวยุ่ง ยังดีที่พลอยยังเป็นสมาชิกกลุ่มโปรเจคของฉัน ทำให้พอกลับมาห้องก็ยังช่วยกันปั่นงานต่อ ไม่งั้นงานยิ่งไม่เดินแน่ ยัยมีนที่มองสภาพฉันกับพลอยด้วยความสงสาร ก็คอยซื้อข้าวซื้อน้ำมาประเคน คอยจิกให้ทานข้าว เพื่อไม่ให้ตายกันซะก่อนฉันกับยัยพลอยจ้องหน้ากัน พลางหัวเราะ ใส่กันราวกับคนบ้า บางครั้งก็ร้องไห้ฮือออกมากันซะดื้อ ๆ ที่แท้การเรียนหนักจนแทบบ้ามันเป็นแบบนี้นี่เองและแล้วขุมนรกของพวกเราก็ใกล้จะผ่านพ้นไป กลุ่มสมาชิกทั้งห้าคนของพวกเราวางเอกสารปึกใหญ่เกี่ยวกับโปรเจคที่ทำกันแทบขายวิญญาณต่อหน้าคณะอาจารย์สาขา ที่ตอนนี้กำลังเพ่งมองพวกเราด้วยความคาดหวัง สมาชิกกลุ่มทุกคนหันหน้าให้กำลังใจ ปลอบใจกันไปมา พวกเราทำกันเต็มที่แล้วจริง ๆ จนเมื่ออาจารย์
EP.43ณ.คอนโดตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล ฉันก็ปิดมือถือเครื่องนั้นไปเลย ฉันรู้ว่าถ้าเดินออกมาพี่แม็กต้องรีบไปบอกพี่เวลล์แน่ ๆ ฉันยังไม่พร้อมที่จะคุยอะไรกับเขา เพราะตอนนี้แค่พูดเสียงสะอึกอันน่าอายนี่เขาต้องได้ยินแน่ ๆรู้นะว่าภาพที่เห็นนั่นมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ แต่ฉันคิดมากไง มากเสียจนไม่อยากจะควานหาคำตอบ ทั้งที่เดินเข้าไปตรงนั้นถามให้รู้เรื่องก็คงจบแล้ว แต่ที่ไม่กล้า เพราะกลัว กลัวจะได้คำตอบที่ไม่อยากได้ยินขึ้นมานะสิฉันผิดเอง ที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นคนงี่เง่า เอาไว้อารมณ์อ่อนไหวต่อความรักนี่ลดลง ฉันจะเป็นฝ่ายไปหาเขาเองเพราะยังไงฉันก็เชื่อใจพี่เวลล์อยู่แล้วล่ะ“อ่าวมาแล้วเหรอ” ยัยมีนที่กำลังนั่งกินขนมดูซีรีส์อยู่กลางห้องหันมาทักทายฉัน“พลอยยังไม่มาเหรอ” ฉันที่มองซ้ายมองขวาไม่เห็นเพื่อนอีกคน“ยังไม่เห็นนะ แกไม่โทรถามล่ะ”“ฉันปิดมือถือ” ฉันพูดก่อนจะโยนกระเป๋าลงโซฟาแล้วนั่งข้าง ๆ ยัยมีนที่มันกำลังวางถุงขนมละสายตาจากซีรีส์และหันมาสนใจฉัน“เ
EP.42(Well Part)ช่วงนี้ผมไม่ได้เจอแจนเลย เพราะผมยุ่งอยู่กับวอร์ดค่อนข้างมาก แถมต้องสะสางงานที่ต้องส่งมหาลัยด้วย จึงได้แค่แชตส่งข้อความ ไม่ก็โทรหากันไม่กี่นาที เหมือนแจนเองก็ยุ่งวุ่นกับการเรียนของเธอเหมือนกัน แต่การไม่ได้เห็นหน้ากันเป็นเวลานานแบบนี้ก็ทำเอาผมรู้สึกแย่เหมือนกันนะ ผมเองก็อยากเจอหน้าเธอสักนิดก็ยังดี อยากได้กำลังใจจากเด็กดื้อคนนั้นตอนนี้ผมอยู่ที่โรงอาหารของโรงพยาบาล กว่าจะว่างมานั่งทานข้าวได้อย่างสบายใจในรอบหลายวันแบบนี้ไม่ได้มีกันง่าย ๆ อีกอยาก เพราะความดื้อดึง ของน้าสาวของผมที่ ตอนนี้กลับมาเป็นแพทย์ประจำการที่โรงพยาบาลของตระกูลหลังจากใช้ชีวิตหลายปีในต่างประเทศน้าใช้อำนาจความเป็นใหญ่คะยั้นคะยอให้ผมมาทานข้าวเป็นเพื่อน มีเหรอที่ผมจะปฏิเสธได้“นี่หลานรัก ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง” น้าผมเอ่ยถามผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ก็เรียนหนักครับ” ผมก้มหน้าทานข้าวเงียบ ๆ ขรึม ๆ ตามสไตล์ของผมนั่นแหละ“น้ากลับจากต่างประเทศเอาของฝากมาให้หลานเยอะเลยนะ อ่อ ฝากเผื่อพี่ส
EP.41หลายวันผ่านมาฉันกับพี่เวลล์ไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่วันนั้น เราได้แต่โทรคุยกันครั้งล่ะไม่เกินสองนาที แชตไลน์ที่กว่าจะตอบกันก็ทิ้งช่วงหลายชั่วโมง ไม่ใช่แค่พี่เวลล์ที่ไม่มีเวลาให้ ฉันเองก็ไม่มีเวลาเหมือนกัน สภาพเพื่อนๆ ทั้งสาขาแทบเหมือนศพเดินได้ ไฟลนตูด ฉันไม่ต่างอะไรกับยัยเพิ้งหัวยุ่ง ยังดีที่พลอยยังเป็นสมาชิกกลุ่มโปรเจคของฉัน ทำให้พอกลับมาห้องก็ยังช่วยกันปั่นงานต่อ ไม่งั้นงานยิ่งไม่เดินแน่ ยัยมีนที่มองสภาพฉันกับพลอยด้วยความสงสาร ก็คอยซื้อข้าวซื้อน้ำมาประเคน คอยจิกให้ทานข้าว เพื่อไม่ให้ตายกันซะก่อนฉันกับยัยพลอยจ้องหน้ากัน พลางหัวเราะ ใส่กันราวกับคนบ้า บางครั้งก็ร้องไห้ฮือออกมากันซะดื้อ ๆ ที่แท้การเรียนหนักจนแทบบ้ามันเป็นแบบนี้นี่เองและแล้วขุมนรกของพวกเราก็ใกล้จะผ่านพ้นไป กลุ่มสมาชิกทั้งห้าคนของพวกเราวางเอกสารปึกใหญ่เกี่ยวกับโปรเจคที่ทำกันแทบขายวิญญาณต่อหน้าคณะอาจารย์สาขา ที่ตอนนี้กำลังเพ่งมองพวกเราด้วยความคาดหวัง สมาชิกกลุ่มทุกคนหันหน้าให้กำลังใจ ปลอบใจกันไปมา พวกเราทำกันเต็มที่แล้วจริง ๆ จนเมื่ออาจารย์
EP.40พี่เวลล์นั่งลงตรงข้ามฉัน ส่วนฉันก็เอาแต่ก้มหน้าก้มทางก๋วยเตี๋ยวแทบไม่มองคนข้างหน้า พอลองเหลือบมองก็พบว่าเขาเอาแต่จ้องฉันอีก แถมคนอื่น ๆ ในโรงอาหารก็ดันสามัคคีรวมพลังกันเงียบเฉียบ ทำอย่างกับรอเสือกข่าวชามโตซะอย่างนั้น ใครจะไปทนความอึดอัดแบบนี้ได้กัน“อะแฮ่ม...พี่มาที่นี่ได้ยังไงคะ” ฉันพยายามพูดออกมาให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ไหนเราตกลงกันแล้วไงว่า อย่าเจอกันในมหาลัย”“ก็ใช่ พี่ก็บอกว่าแล้วแต่แจน” เขาโน้มตัวขยับใบหน้าเข้าใกล้ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเบาบาง“แล้วที่พี่ทำอยู่นี่มันยังไงคะ”“ก็พี่บอกว่าแล้วแต่แจนครับ แต่พี่ไม่ได้บอกว่าพี่จะทำตามด้วยซะหน่อย”“พี่เวลล์!!!” ฉันลืมตัว เผลอลุกขึ้นอุทานเรียกชื่อเขาดังลั่น จนตอนนี้ทุกคนยิ่งสนใจพวกเรามากขึ้นไปอีก“โกรธพี่เหรอ” เหอะ... ดูเอาเถอะเอาคำนี้มายอกย้อนฉัน หายใจเข้า หายใจออก ยัยแจนแกต้องตั้งสติ“พี่รอฉันอยู่ตรงนี้เดี๋ยวฉันมา” ใบหน้าฉันไม่สามารถเก็บสีหน้าบูดบึ้ง และอารมณ์ห
EP.3912.00 น. (ณ. มหาวิทยาลัย)“แปลกๆ....” ที่พออาจารย์ออกจากห้องไป ไอ้นัทก็เดินดุ่มๆ วนรอบโต๊ะของฉัน ใบหน้ามองฉันด้วยความสงสัย“เป็นอะไรของแกไอ้นัท ทำไมเอาแต่จ้องฉันแบบนั้น” ฉันเหลือบมองด้วยสายตาดุไปที่มัน“แจน แกเปลี่ยนไปนะ”“เหอะ....ไอ้นัทแกทำให้ฉันงง” ฉันส่ายหัวไปมาก่อนจะหันไปสนใจเก็บสมุดลงกระเป๋า“แปลกยังไงเหรอนัท พลอยไม่เห็นเข้าใจที่นัทพูด” พลอยที่นั่งข้างกันเอ่ย“พลอย แกไม่เห็นเหรอวันนี้แจนมันใส่กระโปรงพลีทยาว” ไอ้นัทเอ่ย พลางดึงเก้าอี้มานั่งหันหน้าเข้าหาฉัน“ใส่กระโปรงพลีทยาว ละ..แล้วมันแปลกตรงไหนเหรอ ฉันยังใส่เลย” พลอยทำหน้าสงสัย ฉันเองก็สงสัยทำไมการที่ฉันใส่กระโปรงพลีทยาว มันถึงเป็นเรื่องแปลกไปได้ใครๆ ก็ใส่กันไม่ใช่เหรอ“ไอ้นัท..กระโปรงพลีทยาวคนในม.เขาใส่กันให้เบือ”“คนอื่นใส่อ่ะไม่แปลก แต่แกใส่แล้วแปลก”“ฉันไม่เข้าใจความคิดแกว่ะ ทำไมวะ”
EP.38ฉันที่ตอนนี้สวมชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้นของพี่เวลล์อยู่ ส่วนชุดของตัวเองถูกยัดไว้ที่กระเป๋าใบใหญ่ของตัวเอง ซึ่งกำลังค่อยๆ ย่องเข้าห้องช้า ๆ ฉันเชื่อว่ายัยมีนยังไม่ตื่นแน่ ๆ ส่วนพลอยอาจจะยังไม่ตื่น(มั้ง)ก็ได้‘เอี๊ยด......’ฉันค่อย ๆ แง้มประตูให้เบาที่สุด และค่อย ๆ ปิดลงอย่างช้า ๆ ก้าวขาไปทีละก้าว ทีละก้าว ชะโงกมองห้องโถงว่ามีใครอยู่รึเปล่า เมื่อเห็นว่าปลอดคนฉันจึงย่องไปยังประตูห้องของตัวเองและเปิดให้เบาที่สุดพอชำเลืองมองภายในห้องนอน ยังมืดสนิท ผ้าม่านยังไม่เปิดฉันก็ถอนหายใจ พลอยยังไม่ตื่นแน่นอน จึงค่อย ๆ หันหลังเพื่อปิดประตู“เหี้ย!!!!!!!!!!!”เมื่อฉันหันหลังกลับ ใบหน้าของคนสองคนที่ยืนอยู่ด้วยกันหน้าประตูห้อง ก็ยิ้มแฉ่งราวกับตัวร้ายใจซีรีส์สยองขวัญสุดแสนระทึก“ไป...ไหน...มา...คะ” เสียงสูงอันสุดแสนน่าขนลุกของยัยมีนเน้นคำอย่างสยดสยอง ส่วนพลอยที่อยู่ข้างๆ ก็เหมือนจะได้รับเชื้อแย่ๆ จากยัยมีนที่ทำใบหน้ายิ้มอยากรู้อยากเห็นกว่าทุกทีที่เคยคบนางมาฉันจะหันปิดประตู แต่ก็โดน
ตอนนี้ฉันถูกอุ้มมายังห้องพี่เวลล์แบบไม่คาดคิดมาก่อน แต่พอเขาอธิบายฉันก็คล้อยตามเขาไปหมด แต่ก็แอบเห็นด้วยจริงๆ นั่นแหละนี่เป็นเวลาตีสี่แล้ว ฉันทั้งปวดทั้งง่วงมาก อีกอย่างพลอยเองก็เจอเรื่องแย่ๆ มา ให้นางได้นอนพักผ่อนเต็มอิ่มสักหน่อยก็คงดีฉันถูกพี่เวลล์อุ้มมานั่งตรงโซฟา เขาค่อยๆ วางฉันลงอย่างเบามือ ก่อนจะหายไปในห้องเพื่อค้นหาของบางอย่าง ฉันเหลือบมองไปรอบๆ ห้องโถงของเขา ภายในเป็นโทนขาว ดำ เทา ดูสะอาดสะอ้านมาก ข้าวของภายในห้องไม่เยอะเท่าไหร่ อาจเพราะพวกเขาเพิ่งมาพักที่นี่ได้ไม่นาน อีกอย่างคงนอนสลับกับที่โรงพยาบาลแหละ นี่ก็ยังแปลกใจอยู่ทำไมพวกเขาพักคอนโดไกลจากโรงพยาบาลจังฉันวางมือไว้ตรงพนักพิงโซฟา แหงนมองเพดานอย่างเคย พลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ไม่นานนักพี่เวลล์ก็เดินออกมาพร้อมกับกล่องยา เขาวางมันไว้ตรงโต๊ะเล็กหน้าฉัน ก่อนจะเลี่ยงเดินไปห้องครัวรินน้ำมาให้“ทานยาก่อน” เขายื่นยาให้ และฉันก็รับมันมาทาน พร้อมกับน้ำที่เขาตระเตรียมไว้ จากนั้นเขาก็จับขาของฉันพาดมันไว้บนหน้าขาของเขาอย่างเบามือ“คะ?”“พี่จะทายาให้ เห็นไหมฟกช้ำหมดแล้ว” เขาหันมายิ้มให้ฉันก่อนจะหยิบยาหลอดหนึ่งขึ้นมา บีบใส่มือก่อนจะบรร
(Well Part)ตัวผมกระตุกเกร็งแรงเสร็จสุขสม อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หากจะบอกว่าความสุขที่สุดในชีวิตของผมตอนนี้คืออะไร ก็คงจะตอบได้เต็มปากว่า ผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ไง คือความสุขของผมผมที่ตอนนี้เหนื่อยจากการทำกิจกรรมอันเร่าร้อนอย่างหนัก นอนราบบนที่นั่งคนขับปรับเบาะเอนสุด หอบหายใจแรง ปรือตามองผู้หญิงที่ผมชอบมาก ซึ่งกำลังนอนซบอกผมอยู่ ในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง กระโปรงที่ถกมากองเหนือสะโพก เสื้อที่ถูกปลดกระดุมปลดออกไป และบราที่ถูกลดมากองตรงเอวส่วนผมนะเหรอ แม้เสื้อผมจะถูกถกขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่กางเกงผมก็ถูกละไปกองอยู่ตรงข้อเท้าเช่นกัน อีกอย่างน้องชายผมที่ทำงานอย่างหนักยังคงคาอยู่ตรงนั้นของเธอ เพราะเธอฟุบลงอกผมอย่างหมดแรง ผมก็ไม่กล้าขยับตัว กะจะรอให้เธอพักหายใจ คลายความล้าก่อนเดี๋ยวเธอก็คงขยับสะโพกออกไปเองใบหน้าที่หลับตาพริ้มบนอกนั้น ทอดถอนหายใจเป็นจังหวะรดอกผม ลมหายใจอุ่น ๆ กลับมาเป็นจังหวะ ดวงตาที่ปิดมิดของเธอค่อย ๆ คลี่ออก เงยหน้าขึ้นมองผมช้า ๆ สายตาอ่อนแรงนั้นฉายแววออดอ้อน“แจนเหนื่อย ลุกไม่ขึ้น พี่เวลล์ใจร้ายทำรุนแรง รับผิดชอบด้วยค่ะ” ใบหน้าของเธอค้อนผมหน่อย ๆ แต่มันน่ารักชะมัด“พี่ขอโทษ พี่จะร
EP.35เสียงหายใจของฉันและเขาแรงรดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นพาดผ่านแพนตี้ตัวน้อยของฉัน เขาก็หยุดการลูบไล้ขาอ่อนฉันทันทีเขาเลื่อนมือข้างขวาขึ้นมาจับคางฉันให้หันไปหาเขาที่กำลังเชยคางวางพาดบนไหล่ขวา ฉันจึงขยับตัวเล็กน้อยเพื่อเอียงตัวมองเขาให้ถนัด เขาเลื่อนมือกุมท้ายทอยฉันก่อนจะดันเข้าหาใบหน้าเขา ริมฝีปากสองเราปะทะกัน และคราวนี้เป็นฉันบ้างที่เผยอเรียวปากสัมผัส สำรวจกลีบปากเจ้าเสน่ห์ของเขาเขาปล่อยให้ฉันใช้ลิ้นรุกล้ำเข้าไปสำรวจโพรงปากของเขาอย่างเต็มใจแถมสองลิ้นของเราก็เกี่ยวพันกันไปมาจนเกิดเป็นเสียงสัมผัสก่อให้เกิดอารมณ์ปะทุขีดสุด แน่นอนว่าหว่างขาของฉันตอนนี้ชื้นแฉะขนาดที่มองเห็นได้จากภายนอก แพนตี้ตัวน้อย มีรอยเปียกเป็นดวงออกมาให้เห็นชัดแจ่มแจ้ง ฉันไม่อายแล้วล่ะก็มันทั้งเสียว ทั้งซ่านไปทั้งตัวแบบนี้ตอนนี้เอาช้างทั้งตัวมาฉุดให้ฉันออกห่างจากเขา ก็เอาไม่อยู่แล้วพอฉันถอนลิ้นที่สำรวจจนหนำใจของฉันออกมา ฉันก็จ้องหน้าเขาด้วยความลุ่มหลงมือของฉันลูบไล้เขาไปที่ใบหน้าพรมจูบไปทั่ว ไม่ว่าจะหน้าผาก แก้ม จมูก ปลายคาง ทุกส่วนบนใบหน้าทองคำนี้ ฉันจับจองเป็นเจ้าของหมดแล้ว“อ่ะ