Share

บทที่1.ทาสในเรือนเบี้ย 2

สายหยุดกล่าวเสียงเย็น ฉากหน้าของหล่อนคือเศรษฐีใจบุญ ทำทานไม่เคยขาด แต่เบื้องหลังแล้ว สายหยุดทำธุรกิจบนหลังคน ปล่อยกู้ดอกแพงมหาโหด แต่ก็ยังมีคนหน้ามืดแวะเวียนไปมาหาสู่ไม่ขาดสาย รวมทั้งฉลวยด้วย

“อีคุณนายหน้าเลือด ตามจิกยิกๆ เชียวมึง!” หลังกดวางสาย ฉลวยก่นด่าสายหยุดไม่หยุดปาก นางฉวยกระเป๋าสตางค์ล้วงธนบัตรออกมานับเงินมือเป็นระวิง “ขาดไปห้าพัน เอาไงดีล่ะ” เพิ่งควักกระเป๋าจ่ายให้อลินดาไป เงินที่ต้องจ่ายดอกสายหยุดจึงไม่พอ ฉลวยขมวดคิ้วจนหน้าย่น คิดหาทางเอาตัวรอด ไม่อย่างนั้นคงได้ขายขี้หน้าเพราะปากสายหยุด นางถนัดนักล่ะการประจานคน...ชื่อเสียงของครอบครัวนางคงได้ป่นปี้ครานี้

ปฏิทินข้างผนังบ้าน วันที่ตรงกับวันเงินเดือนออกของอลิชาพอดี มุมปากสีซีดเหยียดยิ้ม คงต้อง ‘ขูด’ มาจากหลานสาวอีกครั้ง

นางลุกขึ้นยืน...เดินฉับๆ ไปด้านหลังบ้าน ห้องพักที่สร้างให้อลิชาพักอาศัย สถานที่ที่เธอจะได้สิ่งที่หวัง

ก๊อกๆ

นางบรรจงเคาะประตูไม้เนื้อแข็งแรงๆ

“คะ ใครคะ?” เสียงหวานๆ ร้องถาม

“ฉันเองยะ!” นางตอบพร้อมกับถอยหลังมายืนห่างประตูเล็กน้อย

“คุณป้ามีอะไรใช้อลิสอีกเหรอคะ?” หญิงสาวรีบดันประตูเปิด เธออยู่ในสภาพพร้อมที่จะไปทำงาน

“เปล่า ฉันไม่ได้ใช้อะไรแก แต่เงินเดือนแกออกแล้วนี่” นางเปรยเสียงเย็น

“ค่ะ อลิสว่าจะเอาไปให้คุณป้าพอดี” ซองสีขาวยับเล็กน้อย ถูกล้วงออกมาจากซอกกางเกง หล่อนยื่นส่งให้กับผู้เป็นป้า

“ถ้าฉันไม่มาทวง หล่อนก็คงนิ่งสินะ...อย่าลืมล่ะ ข้าวแดงแกงร้อนที่รดหัวแกทุกวันนี้น่ะเป็นของฉัน”

นางเปรยขณะล้วงธนบัตรใหม่เอี่ยมในซองออกมานับ

“เอะ!” เสียงแหวะดังไม่ใช่เล่น เมื่อมูลค่าสตางค์ในมือตนเองน้อยลงกว่าเดิม “ขาดไปพันนึงนะ แกคิดจะอมเหรอนังอลิส”

ฉลวยกระโชกเสียงขุ่น ยื่นธนบัตรในมือเกือบกระแทกหน้าอลิชา

“เดือนนี้อลิสต้องจ่ายค่าเรียนน่ะค่ะ เลยให้คุณป้าได้ไม่เท่าเดิม”

อลิชาเรียนมหาวิทยาลัยเปิด เธอลงเรียนเพื่ออนาคตตัวเอง หากวันหน้าเรียนจบ หน้าที่การงานเธอคงดีกว่านี้

“หล่อนจะเอาเงินไปทำอะไรฉันไม่สนหรอกนะแม่อลิส แต่ส่วนที่ต้องจ่ายให้ฉัน...ต้องเท่าเดิม ไม่อย่างนั้นก็ไสหัวออกไป...ไม่มีที่ไหนสบายเท่าบ้านฉันหรอกนะยะ”

เสียงแหวดังลั่น จนติ๋มที่กำลังซักผ้ายังต้องชะโงกหน้ามอง สาวใช้สูงวัยเบ้ปาก หล่อนอยากยุส่งให้อลิชาหอบผ้าไปอยู่ที่อื่นเสียเหลือเกิน กับแค่ที่หลับที่นอน อาหารเหลือๆ ที่ฉลวยหยิบยื่นให้ แลกกับหยาดเหงื่อของหญิงสาวเกือบทั้งหมด มันไม่เห็นจะคุ้ม

ธนบัตรยับๆ มูลค่าตามจำนวนที่ฉลวยเรียกร้อง อลิชากัดฟันยื่นให้ ก่อนจะก้มหน้าลง หลบสายตาดุดันของญาติคนสุดท้าย

“ต้องให้ฉันลำเลิก หล่อนถึงจะยอมดีๆ ...อย่าให้บ่อยนักล่ะ หากฉันเบื่อขึ้นมา ฉันคงอับเปหิหล่อนออกไปอยู่ข้างนอกนั่น ถ้าไม่ติดว่าเป็นลูกสาวน้องชายฉัน ฉันไม่เก็บหล่อนมาเลี้ยงให้เปลืองข้าวเปลืองน้ำหรอกนะ”

ฉลวยบ่นๆ นางเดินจากไปเมื่อได้สิ่งที่ต้องการ

มือผอมบางยกขึ้นกรีดหยดน้ำตาทิ้ง เก็บกดความเจ็บช้ำไว้ในใจ เมื่อตนเอง...เป็นแค่คนอาศัย ไร้ญาติมิตรเหมือนคนอื่นๆ

“อดข้าวเอาแล้วกันอลิส ไม่ตายหรอก”

เงินก้อนสุดท้ายที่เธอเจียดไว้สำหรับอาหารมื้อกลางวัน...เมื่อหยิบยื่นให้ฉลวย เธอคงต้องอดไปก่อน...

หญิงสาวจัดแจงล็อกประตูห้อง เดินลากขาไปทำงานด้วยความรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งใจ

สายลมเย็นๆ พัดความสดชื่นปะทะใบหน้า เสียงนกตัวเล็กๆ ร้องกล่อมช่วยให้ความตึงเครียดผ่อนคลายลง รอยยิ้มอ่อนแต้มมุมปาก เมื่อสายตาทอดมองไปรอบๆ ตัว สิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ ต่างไม่เคยหยุดนิ่ง แต่สิ่งต่อสู้เพื่อตัวเองแล้วเธอจะท้อไปทำไม...วันหนึ่งเมื่อสิ่งที่หวังสามารถคว้ามาอยู่ในกำมือได้ ความทุกข์ยาก เหนื่อยล้าก็คงจะหมดสิ้นไป...

“หนูอลิสๆ” แม่ค้าขนมครกหน้าปากซอยบ้านโบกมือเรียกอลิชาไหวๆ

“จ้าป้า...มีอะไรเหรอจ๊ะ อลิสสายแล้วเดี๋ยวคุณเพลินบ่น”

หญิงสาวขานรับ เดินไปหยุดหน้าร้านขายขนมครก ก่อนจะฉีกยิ้มแป้น

“เอาขนมนี่ไปกินลูก ผอมจนลมจะหอบขึ้นฟ้าไปอยู่แล้วเนี้ย...ไม่ต้องจ่ายป้า...ตอบแทนที่ช่วยสอนหนังสือไอ้แดงมัน”

แม่ค้าขนมครกยัดถุงพลาสติกใส่มืออลิชา นางตอบเสียงใส ยิ้มให้ทั้งที่กำลังยุ่ง เมื่อลูกค้ามายืนออเต็มหน้าเตาขนม

“ขอบคุณจ้ะป้า...กำลังอยากกินพอดี”

หญิงสาวรีบขอบคุณ เธอฉวยขนมครกร้อนๆ ใส่ปาก “ขนมครกป้าอร่อยที่สุดในโลก” ก่อนจะกล่าวชมเสียงร่าเริง

“กินเข้าไปเยอะๆ จะได้มีเนื้อมีหนังกับเขาบ้าง สตางค์น่ะ ไม่ต้องไปให้อีคุณนายนั่นนักหรอก แค่ที่ซุกหัวนอนเก็บเสียแพงเชียว”

ติ๋มชอบมาเม้าท์ให้คนนอกฟัง แต่ละคนที่รับรู้ล้วนเห็นใจอลิชา แต่ก็พูดไม่ได้มากเมื่อฉลวยเป็นคนอุ้มชูอลิชามาตั้งแต่ยังเด็ก คนอื่นๆ เป็นแค่คนนอก ได้แต่วิจารณ์แค่นั้นเอง

หญิงสาวยิ้มแหยๆ ให้ เธอรีบเอ่ยปากขอตัว “อลิสต้องไปแล้วป้า...สายโด่งแล้ว” หล่อนวิ่งฉิวไปทันทีที่พูดจบ

“เห้อ...คนดีมักโดนเอาเปรียบแบบนี้ล่ะ น่าสงสารจริงๆ”

แม่ค้าขนมครกยังบ่นตามหลัง

“หลานสาวบ้านหลังใหญ่สุดซอยใช่มั้ยป้า?” ลูกค้าหนึ่งในสองคนที่ยืนอยู่ร้องถาม

“อืม...ใช่ บ้านอีคุณนายฉลวยนั่นล่ะ”

“โตไวดีน่ะ ไม่ได้เรียนต่อหรือไง แต่งตัวเหมือนไปทำงานมากกว่าไปเรียน” หล่อนยังคงพูดต่อ

“ได้เรียนที่ไหนล่ะ อีคุณนายมันบอกไม่มีเงิน แต่...ส่งให้คนโง่เรียนแทน อย่างว่าแหละ ขี้จะดีกว่าไส้ได้ยังไงวะ” ป้าขายขนมบ่นพึม มือก็สาละวนแคะขนมครกร้อนๆ ในเตาไปด้วย

“น่าสงสารเนอะ...เสียดายมันสมอง”

ผู้คนในชุมชนรับรู้ความเก่งกาจของอลิชาแทบทั้งนั้น หล่อนหัวไว ฉลาดใฝ่รู้ และเป็นเด็กเรียนดีเสียดายที่ทางชีวิตของหล่อนไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

“เห็นว่าเรียนมหาลัย’ เปิด เจ้เพลินเขาสนับสนุน...คนดีก็งี้แหละ ไปไหนมีแต่คนรัก”

ป้าขายขนมพูดไปยิ้มไป แม้จะไม่ใช่ญาติสนิท นางก็พลอยดีใจไปกับหญิงสาวด้วย

“ขอให้รุ่งเรืองเถอะ จะได้ออกมาจากขุมนรกนั่นเสียที” มือหยาบกร้านยกขึ้นบนบานเหนือหัว อยากจะยื่นมือเข้าไปช่วย แต่ตนเองก็อัตคัดสุดพรรณนา ได้แต่ปลอบใจกันไปตามประสาเพื่อนร่วมโลก

“อืมๆ เห็นด้วยเลยป้า...”

ชื่อเสียของฉลวยคนในย่านนี้รู้เกือบทั้งหมด...แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อเป็นแค่เพื่อนร่วมโลก...

อลิชาเลยต้องแบกรับความทุกข์ต่อไป...

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status