อลิชาปรือตาขึ้นมอง สายตาของเธอมองเห็นทุกอย่างรอบตัวไม่ชัดเท่าไหร่...เนื้อตัวคันยุบยับ เหมือนมีแมลงตัวเล็กๆ มาชอนไช เธอพยายามเกา พยายามช่วยเหลือตัวเอง แบบคนที่มีสติไม่เต็มร้อย ผ้าเนื้อหนาบนร่างกายเสียดสีกับผิวเนื้อทำให้ผิวของเธอแสบทรมาน หญิงสาวดึงทึ้งอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายออกไปจากร่างกายอ่อนบาง พร้อมกับประตูที่เปิดอ้าขึ้น...อลินดาเหลียวมองผู้ชายหนุ่มฉกรรจ์ที่เดินผ่านตนเองกับมาดาไป แพขนตากะพริบถี่ๆ เขาผู้นั้นหล่อวายร้าย ลุคเถื่อนๆ มองแค่แผ่นหลัง ยังเสียววาบไปถึงท้องน้อย...ไหล่กว้างทรงพลัง เรียวขาบึกบึนกำยำ ผู้ชายแบบนี้ถ้าได้นอนใต้ร่าง เธอคงได้ครางเสียงแหบทั้งคืน พลังเพศผู้ของเขาแผ่ซ่านมายังเธอ แม้จะอยู่ห่างไกลยังสัมผัสถึงได้ หญิงสาวแลบลิ้นเลียริมฝีปาก...กัดริมฝีปากร่างเพื่อกลั้นความกระหาย...เพี้ยะ!ฝ่ามือผอมบางของมารดาฟาดโผว๊ะมาที่ท้องแขนตนเอง อลินดาสะดุ้ง!“คุณแม่อะ ตีอลินทำไมคะ?” หญิงสาวโวยเสียงอ่อย ไม่วายชำเลืองมองแมทธิวที่เดินหายลับมุมตึกไป“ดูทำเข้า มองผู้ชายเหมือนอยากจะขย้ำ ทำตัวดีๆ หน่อยแม่ไม่อยากให้ใครว่าตามหลัง”ฉลวยเหลือบเห็นปฏิกิริยาของบุตรสาวเข้าพอดี เธอจึงอดไม่ได้ที่จะตำหนิ อล
จูบ!! เธอกำลังถูกจูบจากผู้ชายแปลกหน้า เป็นความฝันแน่ๆ อลิชาคิดในใจแบบนั้น ความฝันวาบหวิวที่สุดในรอบ10ปี นับตั้งแต่แตกเนื้อสาวแมทธิวครางงึมงำ จุมพิตแผ่วๆ แต่กลับซ่านทรวง รสหวานซ่านที่แผ่เต็มอุ้งปากเหมือนกำลังได้ดื่มหยดน้ำค้างแรกเช้า ชายหนุ่มบดริมฝีปากแรงขึ้นอีกนิด แทรกปลายลิ้นตวัดเร้าโรมเรียวลิ้นเล็กๆ ที่ถอยหนี เป็นเกมสนุกในอุ้งปากที่น่าสุนทรีเสียจนแมทธิวใช้เวลานานกว่าทุกครั้ง มือแข็งแรงเคลื่อนที่ลงไปลูบไล้ผิวกายเนียนละเอียด เขาเกลี่ยปลายนิ้วไปตามส่วนคอดเว้าของโค้งสะโพก ก่อนจะวกกลับมาด้านหน้า เพื่อค้นหาเป้าหมายที่น่าสนใจ เรียวขาเพรียวถูกดันให้แยกออกจากกันด้วยความชำนาญ ขาแข็งแรงสอดกั้นไว้ ครั้นเมื่ออลิชาบีบเรียวขาชิดกันเธอจึงทำไม่ได้ ปลายนิ้วร้อนผ่าว กรีดตามรอยแยกปริ่มน้ำ หญิงสาวใต้ร่างสะดุ้งเยือก ร่างกายเกร็งแข็งขึ้นมาแบบฉับพลัน เพียงแค่ของสงวนกลางร่างกายถูกแตะต้อง“ยะ อย่า...อย่าทำแบบนั้นกับอลิสเลยค่ะ” เสียงหวานปนหอบกระซิบวอนขอ“อลิส เธอชื่ออลิสอย่างนั้นเหรอ?” ชายหนุ่มถามกลับเสียงปร่า เขาดันตัวชะโงกอยู่เหนือร่างกายอวบอัด“ค่ะ...ปล่อยอลิสไปนะคะ” อลิชาพยายามร้องขอครั้งสุดท้าย สำนึกดีชั
บทที่4.กาลเวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นเองอลิชาตื่นตามเวลา เธอปรือเปลือกตาขึ้นมอง สิ่งที่สายตาจับภาพได้... เป็นภาพที่ไม่คุ้นชิน เพดานห้องเธอเป็นไม้อัดเก่าๆ ผุๆ แต่ที่เห็นนี่ คือโคมไฟห้อยระย้า แสงสะท้อนของมันสวยเหมือนเกล็ดเพชรยามล้อเล่นกับแสงไฟ...หญิงสาวผวา!! แล้วเธอก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติอีกครั้ง... ข้างกายของเธอมีผู้ชายรูปร่างกำยำนอนแนบชิด เท่าที่สำรวจคร่าวๆ เขา ‘เปลือย’ เมื่อชายผ้าที่พาดไว้หมิ่นๆ ช่วงเอว มันปิดไม่มิด แก้มก้นผู้ชายที่ชาตินี้อลิชาคงไม่มีวันได้เห็น เมื่อเธอตั้งใจจะอยู่คนเดียว ไม่อยากสร้างภาระให้กับใคร หญิงสาวยกมือขยี้ดวงตาแรงๆ ก่อนจะสูดปากคราง เมื่อร่างกายประท้วงการออกแรง เนื้อตัวของเธอร้าวระบม เหมือนทำงานหนักมาทั้งวัน เธอแน่ใจว่าตนเองหลับสนิท หลังดื่มนมอุ่นๆ ที่ฉลวยยกมาให้หน้าห้อง...เอะ!หญิงสาวรวบผ้าห่มแนบลำตัวมากขึ้น ใบหน้าซีดเผือดเมื่อพอจะเดาเหตุการณ์ออกอลิชาไม่กล้าแม้แต่จะก้มมองตัวเอง ร่างกายเธอร้าวระบม แถมว่างเปล่า เหมือนกับว่าใต้ผ้าห่มนี่ เธอไม่ได้สวมอะไรเลยน้ำตาหยดเล็กๆ ไหลพรู มันเจ็บแปลบเหมือนจะขาดใจ เมื่อคนที่ไว้ใจ หักหลัง ทำลายเธอจนยับเยิน...รอยยิ้มหยันๆ แต้
หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ กัดริมฝีปากล่างจนห้อเลือด กลั้นสะอื้นไว้สุดฤทธิ์ เมื่อไม่อยากให้คนนอกรู้เรื่องอดสูที่เกิดขึ้นกับตัวเอง“ไม่ต้องมาปิดติ๋มค่ะ...ติ๋มพอจะเดาออก อีคุณนายบนตึกนั่นเดินเข้า เดินออกบ้านเจ้สายหยุดทางเป็นมัน มันเอาหนูอลิสไปขายสิท่า” ติ๋มกล่าวเสียงเคียดแค้น...เจ็บใจที่ช่วยเหลือคนน่าสงสารอย่างอลิสชาไม่ได้ เรื่องมันสายเกินกว่าจะแก้ไขเสียแล้วอลิชาผงะ แม้แต่สาวใช้ก้นครัวอย่างติ๋มยังรู้“ไปเก็บของค่ะ หนูอริสอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วล่ะ มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อไป อีคุณนายใจดำนั่น คงไม่หยุดง่ายๆ”มือหยาบกร้านดันแผ่นหลังบอบบางของหญิงสาว เธอกระซิบเสียงแผ่วๆ เพราะกลัวบุคคลที่สามได้ยิน“อลิสไม่มีที่ไปนะติ๋ม” หญิงสาวท้วง นอกจากฉลวยแล้ว เธอไม่มีใครที่พอจะพึ่งพาได้จริงๆ“ไม่ต้องกลัวค่ะ หลบไปก่อน เดี๋ยวติ๋มหางานให้ทำเอง... ไปให้พ้นจากบ้านนี้ บุญคุณท่วมหัวที่อีคุณนายมันอ้างอย่าไปนึกถึง... ความระยำที่อีคุณนายมันทำลบล้างหมดแล้วค่ะ”ถึงไม่ใช่ญาติ แต่เห็นกันมาตั้งหลายปี สิ่งที่ฉลวยและครอบครัวทำกับอลิชา เกินกว่าที่ติ๋มจะรับไหว ถึงเธอจะจนกร็อบ ต้องอาศัยใบบุญบ้านฉัตรสุวรรณ แต่เรื่องระยำตำบอนอย่างน
ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาเดินเข้าไปด้านใน และลงมืออาบน้ำ เพื่อชำระคราบไคล่ต่างๆ บนร่างกาย “อูยยย!” แมทธิวเผลอตัวอุทานออกมาเสียงหลง เมื่อสายน้ำเย็นรินรดร่างกาย ผิวหนังที่แผ่นหลังก็ประท้วง มันเจ็บแปลบเนื่องจากแผลสด เขาเอี้ยวตัวตะแคงร่างกายมองผ่านกระจกเงา ริ้วรอยนูนเด่น ฝีมือแม่ม้าพยศเมื่อคืนนี้ หล่อนฝากรอยรักไว้บนแผ่นหลังเขา เสียงเป็นทางยาวมุมปากสีเข้มกระตุกยิ้ม บทรักสุดโลดโผนเมื่อค่ำคืน ทำให้แมทธิวคิดถึงหล่อนขึ้นมาติดหมัด ไอ้ที่เคยปฏิบัติมา คงถูกแหก เมื่อในสมองของแมทธิวตอนนี้ เขาติดใจจนอยากพบหล่อนอีกสักครั้ง...หลังแต่งตัวเรียบร้อย ชายหนุ่มซ่อนรอยแผลเล็กๆ บนร่างกายไว้ด้วยเสื้อผ้าชุดเดิม เขาเดินผิวปากออกจากห้องสวีทแบบคนอารมณ์ดี ความเครียดที่สะสมในร่างกาย ถูกระบายไปกับบทรักร้อนแรงจนหมดโทรศัพท์เครื่องบางเฉียบถูกล้วงออกมาจากซอกกระเป๋าเสื้อ แมทธิวกดโทร. ออก ต่อสายหาคนจัดหาผู้หญิงเพื่อเจรจา เขาต้องการเจอหล่อนอีกครั้ง...แต่คงไม่ใช่วันนี้“มีอะไรคะ? ทำไมแม่นั่งยิ้มอยู่คนเดียว”อลินดาที่เพิ่งจะตื่นนอน หล่อนย่างกรายลงมาชั้นล่างของบ้าน เอาเมื่อตะวันขึ้นตรงศีรษะพอดี“ไม่ดีใจได้ยังไงลูก อีคุณนายนั่นโทร
“ดูๆ คนของคุณอิง มีงอนด้วย”“ฝีมือใช้ได้เลยค่ะ หน้าตายังเด็กๆ อยู่เลยด้วยไม่คิดว่ารสมือจะดีขนาดนี้” น้ำอิงชมซ้ำ เธอเปรยให้สามีฟัง“บอกบ้านใหญ่หรือยังล่ะ...เดี๋ยวจะมีปัญหาทีหลังนะ...” ไทธัชเตือน ความเคลื่อนไหวภายในบ้านเขา ถูกสอดส่องจากคนบ้านใหญ่ จนบางครั้งเขาก็เอือมระอา...“อิงว่าจะไปเรียนให้ท่านทราบวันนี้ค่ะ” น้ำอิงตอบเสียงแผ่ว เธอรับรู้กระแสความไม่พอใจผ่านทางน้ำเสียงที่สามีใช้“อืม...” ไทธัชไม่ได้พูดต่อ เขารับชามข้าวต้มจากฟักทอง ก่อนจะตักใส่ปาก... “อร่อยจริงๆ” ชายหนุ่มเปรยหลังจากลิ้มรส รสมือของอลิชาเข้าไปแล้ว“ฟักคงตกกระป๋อง...ขนาดคุณไทยังชม” ฟักทองบ่นกระปอดกระแปด เมื่อเจ้านายทั้งสองคน มีความเห็นตรงกัน“งานอื่นมีเยอะแยะ ส่วนหน้าที่ทำอาหาร ฟักเป็นแค่ลูกมือก็พอ...” ไทธัชกล่าวยิ้มๆ เขาเป็นกันเองกับคนในบ้าน ไม่ถือตัวว่าเป็นเจ้านาย“ฟักไปตามอลิสมาสิ จะได้รู้จักกันไว้ ใครเป็นใคร เดี๋ยวจะงง”น้ำอิงสั่งฟักทอง อลิชาจะได้ทำความรู้จักกับสามีของเธอด้วยหญิงสาวร่างเล็กบาง เดินตามหลังฟักทองเข้ามา“สวัสดีค่ะคุณ” อลิชายกมือขึ้นทำความเคารพโดยไม่ต้องให้ใครบอก เธอยิ้มเซียวๆ ให้เจ้านายหนุ่ม“อายุเท่าไหร
ใบหน้าเล็กๆ ส่ายไปมา...น้ำตาทะลักรินโดยไม่รู้สาเหตุ เป็นความหวาดกลัวจับจิต หากสิ่งที่กำลังกลัวเกิดขึ้นจริงๆ“อลิสมีแฟน หรือมีผู้ชายที่คบหามั้ย?”น้ำอิงถามเสียงแผ่ว เธอกำลังหาทางช่วย หากอลิชาก้าวพลาดหญิงสาวส่ายใบหน้าแรงๆ ใช้หลังมือปาดน้ำตา ก่อนจะย่อตัวลงนั่งบนพื้นเจ้านายสาวหันมาเผชิญหน้า เธอสูดลมหายใจแรงๆ “อาการที่เป็นอยู่ อิงไม่อยากฟันธงนะอลิส...ที่อิงถามแบบนั้นเพราะอิงจะได้วิเคราะห์ถูก ถ้าอลิสไม่เคยมีแฟน ไม่เคยคบผู้ชาย ปัญหาที่อิงกลัวก็ไม่น่าใช่” เสียงอธิบายเนิบนาบ หัวใจของอลิชาหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เธอไม่เคยคบค้าสมาคมกับเพศตรงข้าม ไม่เคยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับผู้ชายคนไหน แต่...เธอมีความสัมพัธ์กับผู้ชายที่ไม่รู้จักชื่อ...ครั้งเดียวก่อนจะหนีเตลิดมาที่นี่“คุณอิงคะ อลิส...” หญิงสาวเรียบเรียงคำพูด “ก่อนมาที่นี่ อลิสมีอะไรกับผู้ชายคนหนึ่ง อลิสไม่รู้จักเขาเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาชื่ออะไร มันเป็นคราวซวยของอลิส แบบนี้อลิสคงจะท้องใช่มั้ยคะ?”เสียงติดๆ ขัดๆ เพราะกลั้นสะอื้นไปพร้อมๆ กับการพูด น้ำตาไหลอาบหน้า เสียใจกับโชคชะตาตนเอง เคราะห์ซ้ำกรรมซัดใส่ตนเองไม่หยุดน้ำอิงกะพริบเปลือกตาถี่ๆ เธอเ
บทที่5.เมื่อคนในอดีตย้อนมาเจอกันผ่านไปสามปี อะไรๆ ในชีวิตของอลิชาเปลี่ยนไปเกือบหมด...วันนี้ วันที่เธอประสบความสำเร็จ...เรียนจบอย่างที่หวัง ได้ทำมาหากินอย่างเต็มที่ หญิงสาวมองไปรอบๆ ตัว แววตาสลดลง...ในขณะที่เพื่อนๆ มีญาติสนิทมาร่วมแสดงความยินดีกันหนาตา...ข้างกายเธอกลับว่างเปล่า...“เอาน่าไอ้อลิส แกภูมิใจในตัวเองเถอะ พ่อกับแม่บนสวรรค์จะได้พลอยดีใจไปด้วย...แกเก่งจริงว่ะ”หญิงสาวปลุกปลอบใจตนเอง บ่ายหน้าเดินออกจากรั้ววิทยาลัย’ หลังรับพระราชทานปริญญาบัติเสร็จเรียบร้อยสองมือกอดความสำเร็จแนบอก ยิ้มเซียวๆ ให้คนรู้จักเมื่อเขาเหล่านั้นเดินผ่าน เสียงเฮฮาดังแว่วๆ อยู่ด้านหลัง...สองเท้าของเธอก้าวเดินอย่างมั่นคง เมื่อมีใครบางคนรออยู่ที่บ้านพัก คน คนนั้นคือคนสำคัญที่สุดของตัวเองรถประจำทางวิ่งมาจอดเทียบฟุตบาทพอดีกับที่อลิชาเดินมาถึง เธอกระโจนขึ้นรถทัน ก่อนที่สารถีคนขับจะเหยียบคันเร่ง พาพาหนะสาธารณะขึ้นไปผจญความแออัดบนท้องถนน กลิ่นควันจากท่อไอเสียไม่ได้ทำให้อลิชาหงุดหงิดเหมือนทุกวัน วันนี้เธออารมณ์ดีเสียใจหุบยิ้มไม่ได้ สีหน้าเรียบเฉยเป็นนิจ วันนี้กลับมีรอยยิ้มละไมแต้มอยู่บนเรียวปาก เป็นความภาคภูมิอย
อลิชาแอบอมยิ้ม เธอแสร้งหลับนิ่งไม่ไหวติง“นอนก็นอนวะ!” เสียงพึมพำดังเบาๆ ร่างใหญ่หนา เอนตัวลงนอน ไม่วายรั้งเธอเขาไปสวมกอดไว้หลวมๆ“เธอมันยัยแม่มดชัดๆ” เสียงบ่นงึมงำ แล้วก็ค่อยๆ เงียบลงหญิงสาวระบายลมหายใจแผ่วๆ รอจนแน่ใจว่าแมทธิวหลับสนิท นอนฟังเสียงลมหายใจของเขา จนเป็นจังหวะสม่ำเสมอ จึงค่อยๆ ดึงมือที่พาดผ่านช่วงเอวออก กระถดตัวลงจากเตียงนอนช้าๆ รีบไปควานหาเสื้อผ้ามาสวมบนร่างกาย เธอทนนอนทั้งที่ร่างกายเปลือยเปล่าไม่ไหวจริงๆ แม่ลูกหนึ่งเดินกลับมาอีกครั้ง หลังใส่ชุดนอนชุดใหม่บนร่างกายเรียบร้อย เธอเอนตัวลงนอนอีกฝั่ง รั้งบุตรชายมากอดไว้แนบอก เพื่อใช้เขาเป็นหลักประกัน แมทธิวจะได้ไม่ถือโอกาสลวนลามตอนเธอหลับ จนเผลอหลับไปในเวลาต่อมา...เสียงนกร้องจุ๊บจิ๊บอยู่ที่หน้าต่างหัวเตียง...อลิชาหยีตา แสงแดดส่องต้องใบหน้า เธอตื่นสายโด่งเป็นครั้งแรก...ร่างบางทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่ง รีบมองหาบุตรชาย แต่บนเตียงว่างเปล่า ไร้บุตรชายที่เป็นยอดดวงใจ“ฮาร์ทๆ ฮาร์ทอยู่ไหนลูก?”เธอป้องปากร้องเรียกหา...ก
แมทธิวกลั้นความต้องการอันมากล้นของตนเองไว้ในอก เขาแช่ตัวนิ่งๆ ขยับร่างกายทีละน้อยๆ ทั้งๆ ที่อยากถาโถมเข้าใส่แบบสุดแรงเกิดอลิชาสูดลมหายใจลึกๆ เธอผ่อนคลายความตึงเครียด พยายามไม่ใส่ใจสิ่งแปลกปลอมที่คืบคลานเข้ามาในร่างกาย เปลือกตาพลิ้มหลับลง กัดริมฝีปากล่างกลั้นเสียงสะอื้น ปล่อยใจไปกับกระแสธารที่เชี่ยวกราก ไม่พยายามฝืน เพราะนั่นจะทำให้เธอเจ็บมากกว่าเดิมริมฝีปากหนาอ้าครอบเม็ดทับทิมสีระเรื่อ เขาดูดดื่มทรวงงามแรงๆ จนหญิงสาวครางลั่น กลไกธรรมชาติปรับตัวแบบอัตโนมัติ น้ำหวานฉ่ำเยิ้มถูกกลั่นออกมาจากซอกลึกลับ หล่อชโลมแก่นกายขึงขังจนชุ่มโชก แมทธิวทดลองเคลื่อนกายช้าๆ ความคับแน่นไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป เมื่อส่วนนั้นชุ่มโชกไปด้วยละอองปรารถนาชายหนุ่มเริ่มโถมเข้าใส่ มือแข็งแรงรั้งเอวคอดกิ่ว กระแทกอัดกับตัวตนแรงๆพรึ่บ! พรึ่บ!เสียงผิวกายเปียกเหงื่อกระแทกใส่กันดังก้องห้องนอนกว้าง เสียงครางคร่ำแผ่วพร่า ที่ระดับความดังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แมทธิวสูดปาก ครางเสียงแหบห้าว เขาเร่งความเร็วมากขึ้น พอๆ กับเพิ่มแรงโยกจนเรือนกายอวบอิ่มกระเพื่อมไหวทั้งลำตัว ชายหนุ่มโ
โหนกแก้มแดงก่ำ ดวงตาฉ่ำเยิ้ม ยืนยังยืนไม่อยู่ แต่ก็ยังมีแรงบีบบังคับเธอจนได้“อลิสไม่เลือก...ขออยู่ห่างๆ คุณสะดวกใจกว่า”หญิงสาวเชิดหน้าตอบ“เสียใจอลิชา...เธอเลือกไม่ได้ ไม่ว่าจะเมีย หรือนางบำเรอ หน้าที่ของเธอ คือการนอนกับผม!”ชายหนุ่มตะคอกกลับ เขาเดินเอียงไปเอียงมา ก่อนจะกระโจนเข้าใส่หญิงสาว จนล้มกลิ้งไปด้วยกันทั้งคู่ บนที่นอนหนาและกระเพื่อมเหมือนระลอกคลื่น“อืม...” เสียงทุ้มต่ำครางในลำคอ ปลายจมูกซุกอยู่ตรงแอ่งชีพจร กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ระเหยออกมาจากผิวกายนวลเนียน ทำให้แมทธิว หมดความยับยั้งชั่งใจปลายลิ้นสากและร้อน แลบออกมาเลาะเล็มผิวเนื้อชื้นเหงื่อ เขาตวัดปลายลิ้นเบาๆ จนคนใต้ร่างสะดุ้ง! มือของเธอพยายามดันลำตัวหนาหนักที่มีแต่กลิ่นแอลกอฮออล์ออกไปให้พ้น แต่แมทธิวเกร็งตัวไว้ เขาจูบดะไปทั่ว เร่งปลุกกระแสความกระสัน ก่อนที่ตนเองจะหมดแรงความเสียวซ่านก่อตัวทีละน้อย เป็นเหมือนคลื่นลมเบาๆ ที่พัดเข้าหาฝั่ง ก่อนจะทวีอานุภาพความแรงขึ้น จนแม้แต่หาดทรายเรียบกริบ ยังแทบจะล่มสลาย
พอเอาเข้าจริงๆ อุตส่าห์ยกเลิกการประชุม ยกเลิกนัดกับลูกค้า ยกเลิกนัดกับสาวโสภาที่กำลังคั่ว! แมทธิวกลับไม่กล้ากลับไปที่คฤหาสน์ไบเล่ย์ เขาหาข้ออ้างให้ตัวเองไม่ได้ และกลัวว่าอลิชาจะวางตัวไม่ถูกชายหนุ่มมาหมกตัวอยู่ที่ผับชั้นสูงแห่งหนึ่ง เขาดื่มบรั่นดีย้อมใจ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่กล้า...สามชั่วโมงที่ทนกระวนกระวาย จนแอลกอฮอลล์ เข้าไปแทนที่เลือดเกือบทุกพื้นที่ มันคงเต็มที่จนความกลัวหายไปจนหมด“เช็กบิลด้วยไอ้น้อง!” เสียงอ้อแอ้ร้องสั่งบริกรที่เดินผ่านไปมา บัตรเครดิตสีดำถูกยื่นส่งให้ ก่อนจะกระดกบรั่นดีแก้วสุดท้าย สาดหายไปในลำคอ ชายหนุ่มเดินโงนเงน คลำทางไปจนถึงรถยนต์คันหรู พาหนะยี่ห้อหรู และมีได้เฉพาะคนกระเป๋าหนักเท่านั้นชายหนุ่มถอยรถยนต์ ขับเคลื่อนออกจากที่ ด้วยสติที่ไม่เต็มร้อย ความมึนเมาทำให้เกิดอุบัติเหตุเล็กๆ ชายหนุ่มเสยกระจังหน้ากับเสาไฟฟ้าข้างทาง แต่ก็ยังพาพาหนะสุดหรู กลับมาถึงคฤหาสน์หลังงาม โดยที่คนขับไม่ถูกรถบรรทุกเสยเอาไปกินเสียก่อนแต่...กระถางต้นไม้ราคาแพง ที่ตั้งอยู่ตามสองข้างทางถูกเสยเรียบ...คนงานส่ายศีรษะ
บทที่15.อยากเป็นอะไรล่ะ เมีย หรือ นางบำเรอ?ในขณะที่อลิชากำลังปรับตัวเข้ากับที่อยู่ใหม่ เจ้าของบ้านหลังมหึมากลับกำลังคร่ำเคร่งกับงานมากมายที่กองท่วมหัว เขาหงุดหงิดเป็นครั้งแรก! นับตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่แทนบิดา ชายหนุ่มเริ่มเบื่อที่งานมีมากมายก่ายกองจนทำแทบไม่ทัน แฟ้มเอกสารกองจนเกือบล้นโต๊ะ เอกสารด่วนที่เมื่อก่อนแมทธิวชอบตรวจทาน เวลานี้ชายหนุ่มนึกอยากจะโยนงานเหล่านี้ ให้คนอื่นๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเองบ้าง เขาอยากมีเวลาส่วนตัวกับใครบางคน“อันนี้ผมต้องดูด้วยเหรอ? หัวหน้าแผนกนั้นไม่มีหรือไง?”เสียงเข้มๆ ตวาดลั่น แฟ้มงานสีดำหนาเตอะถูกเหวี่ยงจนกระเด็น ตามด้วยแฟ้มงานอีกหลายแฟ้มที่ CEO หนุ่มโยนตามมาติดๆ“เออ...” สุเมธการ์ดหนุ่มกึ่งเลขานุการ ทำหน้าพิกล...เขามองเจ้านายหนุ่ม สลับกับแฟ้มเอกสารในมือ...ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะโครงการเล็ก หรือใหญ่ แมทธิวขอมีเอี่ยวด้วยตลอด เขาอยากเห็นความคืบหน้า แต่เวลานี้เจ้านายกลับรำคาญ“ต่อไปนี้ อะไรที่ไม่สำคัญ ให้เขาตัดสินใจกัน
อลิชาไม่ได้ตอบในทันใด เธอเดินไปหย่อนบุตรชายไว้กลางเตียงนอน รณฤทธิ์ผวาเข้าหาตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ขนนุ่มฟู เขาหมดความสนใจมารดา เมื่อมีของเล่นถูกใจ“เรื่องมันยาวค่ะป้า ว่าแต่ป้าไม่ได้อยู่บ้านฉัตรสุวรรณแล้วเหรอคะ?”หญิงสาวจูงมืออดีตคนในบ้านฉัตรสุวรรณ เดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟาปลายเตียง“ออกนานแล้วล่ะค่ะ...อีคุณนายมันไม่ยอมจ่ายค่าแรง...ค้างหลายเดือนจนทนไม่ไหว! ติ๋มต้องกินต้องใช้น่ะค่ะ เลยกระเสือกกระสนมาหางานทำ ได้มาทำงานที่นี่ก็เหมือนอยู่บนสวรรค์ คุณแมทเธอไม่จุกจิก...ทำงานตามหน้าที่ รับเงินเดือนเต็มร้อย...”“ลุงสบายดีมั้ยคะ?” อลิชาเลี่ยงที่จะถามถึงสมาชิกในบ้านฉัตรสุวรรณคนอื่น เมื่อความเจ็บปวดยังไม่จางหายไป“คุณภพเธอก็อยู่ตามอัตภาพ เธอไม่รู้หรอกว่าเมียกับลูก ทำระยำตำบอนยังไงบ้าง...พูดแล้วยังแค้นไม่หาย...ติ๋ม ลาออกมานี่ เงินซักแดงยังไม่ได้เลยค่ะ”อลิชานิ่วหน้า...ฐานะของฉลวยไม่ได้อัตคัดถึงขนาดเงินขาดมือ จนต้องค้างค่าแรงลูกจ้าง...เกิดอะไรกับสภาพคล่องทางการเงินของคนบ้านนั้น“เกิดอะไรขึ้นคะ?”
ไทธัชแอบอมยิ้ม ไอ้ที่แมทธิวยอมง่ายๆ เพราะกลัวเสียชื่อนั่นเอง เสือผู้หญิงนอนเป็นหุ่นปูนปั้น จับพลิกซ้ายพลิกขวายังไม่รู้สึก กับผู้หญิงที่อวบอัดไปทั้งตัว เขาทำได้แค่...นอนมอง...ใครรู้เขา ชื่อเสียงคงป่นปี้ แต่อะไรก็ตามที่ทำให้แมทธิวสมยอม ไทธัชภาวนา... พระเจ้าคงไม่ใจร้ายเกินไป เพราะอลิชาทนทุกข์มานาน ผู้หญิงน่าสงสารคนนั้น ควรมีความสุขสักที ในเมื่อแมทธิวเป็นคนป้ายรอยราคีไว้บนร่างกายอลิชา เขาควรต้องรับผิดชอบผลพวงในเหตุการณ์ครั้งนั้น รณฤทธิ์จะได้มีพร้อมทั้งพ่อและแม่“แต่...”“เอาไงก็ว่ามาเลยไอ้ไท อย่ามาโยก?”แมทธิวหันไปหาเพื่อนหนุ่มไม่ได้สนใจผู้หญิงข้างตัว เสียงพึมพำไม่ได้ทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไป แมทธิวอยากรู้เหมือนกัน ไอ้ตัวเจ้าแผนการ มันจะทำยังไงต่อ...“ไม่อะไรหรอกไอ้คุณเพื่อน...แค่ขอให้คุณรับผิดชอบสิ่งที่ทำ...ตามประสาลูกผู้ชาย ผมเชื่อว่าคุณไม่ใช่คนใจร้ายนะแมท ผู้ชายทั้งแท่ง กล้าทำก็ต้องกล้ารับ... ยังไงละก็เมตตาอลิสด้วยล่ะ...อย่าใจร้ายนักเลยว่ะ”มองตากันตามประสาผู้ชาย แมทธิวไม่ได้เป็นคนโหดร้าย เพียงแ
บทที่14.ตกบันได เสร็จโจร!!แมทธิวสะดุ้งตื่นขึ้นมาเกือบเที่ยง ชายหนุ่มเหลียวมองด้านข้าง ที่ตรงนั้นมีใครบางคนนอนหลับสนิทอยู่ ใบหน้าหล่อนจมหายลงไปในหมอนนุ่มเกือบครึ่ง แต่โครงหน้านั้น ทำยังไงก็ไม่มีวันลืม มุมปากสีเข้มมีรอยยิ้ม เขาลดสายตาลงต่ำมองสำรวจตัวเอง ก่อนจะกระตุกยิ้ม!!ด้านบนของลำตัวของเขาไร้อาภรณ์ติดกาย โชคดีอยู่หน่อย ต่ำกว่าสะดือยังมีบ็อกเซอร์ลายสก็อตติดสะโพกอยู่ชายหนุ่มวาดปลายเท้า ก้าวลงจากเตียงนอนหนา เขากึ่งเดิน กึ่งย่อง ตรงไปยังประตูหน้าห้อง ลองขยับลูกบิดประตูดูล็อก!แมทธิวถอยหลังกลับมานอนเหยียดยาวที่เดิม เขาพลิ้มเปลือกตาหลุบลง พร้อมกับประตูที่ถูกล็อก ถูกดันให้เปิดออกพอดี...“ว้าย! อะไรกันนี่ คุณไทคะ มาดูอะไรนี่เร็ว!”เสียงน้ำอิงร้องตะโกนลั่น!! หล่อนส่งเสียงวี๊ดว้ายเรียกหาสามี ชายหนุ่มปรือตามอง เขารีบตวัดอลิชาเข้ามาอยู่ในวงแขน ซุกใบหน้าแนบทรวงอกอิ่ม พร้อมกับอมยิ้มน้อยๆ เมื่อเสียงฝีเท้าวิ่งกรูตรงมาทางทิศนี้“อะไร! เกิดอะไ
ฉลวยแก้ตัวแบบขอไปที หล่อนเองก็จนปัญญา ไม่รู้จะบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากใครอื่นอีก เมื่อแต่ละคนที่ยืมมา นางก็ยังไม่เคยได้ชดใช้คืน ยืมมาโป๊ะดอกสายหยุดที่ไม่มีทีท่าจะลดลงเลย“เห็นจะไม่ได้ ยิ่งนานก็ยิ่งเป็นดินพอกหางหมู วันนี้ถ้าได้ไม่ครบ... แม่หลวยจะมาว่าฉันใจร้ายไม่ได้นะ” สายหยุดกล่าวเสียงกร้าว ดวงตายาวรีตวัดผ่านหน้าฉลวยไป จนเจ้าหล่อนสะดุ้ง!“ฉันวิ่งหาจนทั่ว ได้มาเท่านี้แหละ...เห็นใจฉันเถอะคุณนาย”ฉลวยคอตก แววตาอำมหิตนั่น ไม่ใช่สิ่งลวงตา สายหยุดเหี้ยมโหดจนลูกหนี้ขยาด นางพูดจริง ทำจริง...“ฉันเห็นใจแม่หลวยไง...แต่ว่า...มันก็ต้องเป็นไปตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ แม่หลวยรับปากฉันแล้วทำไม่ได้อย่างที่พูด ฉันก็ต้องทำตามวิธีของฉัน”เจ้าหนี้ใจโหดกล่าวเสียงนิ่มๆ แต่ความหมายนั้น โหดเหี้ยมเกินพรรณนา“ฉันไม่มีอะไรให้คุณนายหรอก ที่เห็นนี่ก็ของปลอมทั้งนั้น”สร้อย แหวนที่สวมติดร่างกาย ไม่มีสักชิ้นที่เป็นของจริง เธอซื้อหามาเพื่อหน้าตาตนเอง จะให้คนนอกรู้ไม่ได้ว่าภายในกลวงโบ๋!“ฉันดูออกจ้ะ... ฉันไม่