ฉลวยเอ่ยแบบคนเห็นแก่ตัว ข้าวแดงแกงร้อนที่รินรดหัว ถึงจะสำคัญ แต่หล่อนก็ไม่มีสิทธิทำตามอำเภอใจเช่นนี้
“คุกนะแม่...หากอีนี่มันโวยขึ้นมา”
อลินดายังพยายามท้วง...ถึงอยากให้อลิชาตกต่ำ แต่ความกลัวมีมากกว่า
“มันจะกล้าโวยเหรอลูก...มันน่าจะอายมากกว่า”
ผู้หญิงที่ถูกย่ำยีโดยผู้ชายที่ตนเองไม่รู้จักแม้แต่ชื่อแซ่ สิ่งแรกหล่อนน่าจะอับอาย และอลิชาหน้าบาง หล่อนไม่น่าจะโวยวาย
“เอาไงก็เอา...มาถึงขึ้นนี้แล้ว...เราคงถอยไม่ได้แล้วล่ะแม่”
สาวรุ่นสูดลมหายใจลึกๆ วางแผนมาอย่างดิบดี และแผนการนี้ดำเนินมาเกินครึ่ง...หากถอยคงไม่ทัน
“ใช่...เพราะหากเปลี่ยนใจตอนนี้ แม่นี่แหละที่จะตาย...ไม่ใช่แกหรืออีอลิสหรอก... อีคุณนายนั่น ถลกหนังหัวแม่แน่”
สายหยุดคงไม่ปล่อยเธอแน่ ไหนจะหนี้ที่พอกพูนเหมือนดินพอกหางหมู...ที่แน่ๆ หากงานวันนี้จบลง เธอปลดหนี้ได้ แถมมีเงินติดกระเป๋ากลับบ้านด้วย
อลินดาตัดใจเปลี่ยนเสื้อผ้าเก่าๆ ปอนๆ ของอลิชาออก เธอแต่งตัวให้อลิชาใหม่ ด้วยเสื้อผ้าเก่าๆ ของตนเอง
หญิงสาวโชคร้ายนอนหลับไม่รู้เรื่อง ผิวหน้าของอลิชาเริ่มเปลี่ยนสี มีเม็ดเหงื่อไหลซึมออกมา และผิวแก้มมีริ้วแดงๆ เพราะความคุคลั่งภายในร่างกาย
“เร็วๆ เถอะแม่...ยาเริ่มออกฤทธิ์แล้วค่ะ...”
อลินดาเอ่ยเร่ง เมื่อเห็นปฎิกิริยาบางอย่างบนร่างกายผู้หญิงวัยเดียวกัน
“ไปๆ ป่านนี้อีคุณนายมันรอแล้วล่ะ”
สองสาวต่างวัยช่วยกันประคองคนหลับไม่มีสติไปยังรถยนต์คันเก่าของสมภพ มันเป็นคราวซวยของอลิชาก็เป็นได้ เมื่อคน คนเดียวในบ้านที่น่าจะไม่เห็นดีเห็นงามด้วย เขาไม่อยู่... สมภพมีสัมมนาที่ต่างจังหวัด...มันจึงเป็นโอกาสของฉลวยที่จะจัดการหลานสาว
โรงแรมหรูสถานที่นัดหมาย มันหรูหราเสียจนอลินดาแอบอิจฉา...เมื่อครั้งแรกที่ตนเองเสียตัว เป็นแค่หอพักราคาถูก กลิ่นเหม็นอับ กับผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ความทรงจำนั่นรางเลือนแทบจะจำไม่ได้...เมื่อหญิงสาวก้าวผ่านวัยเด็ก ตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อสาว...
“อีอลิสนี่โชคดีแม้แต่วันเสียตัวเลยนะแม่”
มันอดไม่ได้ที่จะกระทบกระเทียบ...
“อย่าพูดมากน่ะ แม่โทร. หาอีคุณนายก่อน...”
ฉลวยตวาด นางจัดการโทรศัพท์หาสายหยุด เพราะต้องการไปจากสถานที่แห่งนี้เร็วๆ นางเองก็กลัวเช่นกัน...
เสียงเรียกเข้าดังไม่ถึงสามครั้ง คนปลายสายที่ดูเหมือนว่ากำลังตั้งตารอก็กดรับ
“ฉันฝากการ์ดเปิดประตูไว้ที่เคาท์เตอร์...เอาเด็กนั่นไปส่งที่ห้อง แล้วแม่หลวยก็ลงมารับเงินที่ฉันได้เลย ฉันจะรอที่ลอบบี้”
สายหยุดกรอกเสียงพูดผ่านสายโทรศัพท์ โดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายซัก นางกดวางก่อนจะฉวยแก้วกาแฟควันกรุ่นขึ้นมาจิบ
“แหมๆ มันจะบอกรายละเอียดสักนิดก็ไม่ได้...ไม่รู้จะรีบร้อนอะไรนัก...”
ฉลวยบ่นอุบ นางยัดโทรศัพท์ส่วนตัวเก็บไว้ที่เดิม
“อะไรเหรอคุณแม่ อีคุณนายนั่นมันว่าไง”
“จะว่าอะไรมันพูดๆ แล้วก็วางไม่บอกห่าอะไรเลย”
ฉลวยบ่นเสียงขุ่น... “แล้วเราจะเอาไงต่อล่ะคะคุณแม่”
“ไปเอาการ์ดเปิดประตูที่ลอบบี้ มันบอกไว้แค่นั้น”
ฉลวยถอนใจ มือที่โอบอลิชาไว้เริ่มชื้นเหงื่อ....
“อลินจัดการเอง คุณแม่รออยู่นี่แหละ ลากกันไป ลากกันมาตกเป็นเป้าสายตาคนอื่นเสียเปล่าๆ”
อลิชานั่งหลับคอพับ ร่างกายอุ่นขึ้นเล็กน้อย หากทอดเวลายาวออกไป อลินดาเกรงว่ายาจะออกฤทธิ์เสียก่อน มันจะเป็นที่จับตามองจากคนรอบตัว แล้วความซวยจะมาเยือนตนเองกับมารดา...
หญิงสาวผลักอลิชาให้พิงมารดาเต็มตัว เจ้าหล่อนเดินหน้าตั้งเข้าไปสอบถามประชาสัมพันธ์ที่นั่งหน้าเคาท์เตอร์ ก่อนจะเดินกลับมาพร้อมกับสิ่งที่ตนเองต้องการ
“ห้องสวีทเลยนะคุณแม่...อีนี่โชคดีชะมัด” เป็นอีกครั้งที่อลินดากระทบกระเทียบคนไม่ได้สติ
“แพงตายห่า แสดงว่าเสี่ยคนนี้กระเป๋าหนักน่าดู”
ฉลวยเปรย ค่อยๆ ประคองหลานสาวมีอลินดาคอยช่วย จนมาถึงลิฟต์ที่จะพาทั้งสามชีวิตเคลื่อนที่ไปด้านบน
การเดินทางสิ้นสุดลง เมื่อประตูลิฟต์เปิด เพราะถึงชั้นที่อลินดากดเลือกไว้ ทางเดินปูด้วยพรมสีน้ำตาลไหม้ เนื้อพรมหนาขนาดเดินย้ำต้วยน้ำหนักตัว ขนฟูๆ ของพรมยังไม่ยุบตามน้ำหนักเลย
“หรูหราน่าดูเลยนะคุณแม่” ความโอ่อ่ารอบตัว ทำให้คนไม่คุ้นตื่นตะลึ่ง
“รีบๆ เข้าเถอะอลิน จวนถึงเวลาแล้วลูก”
เม็ดเหงื่อซึมเต็มหน้าผาก แม้อากาศรอบตัวจะเย็นเฉียบ มันเป็นความกลัวที่ผลักดันเม็ดเหงื่อจำนวนมากออกมา...ในที่สุดภารกิจของหล่อนกับบุตรสาวก็สำเร็จ ร่างบอบบางของอลิชาถูกโยนไว้บนเตียงขนาดใหญ่กลางห้องนอน สาววัยรุ่นจัดท่าทางให้ผู้หญิงวัยเดียวกัน ชุดเดรสถูกร่นออกจากหัวไหล่เล็กน้อย...ชั้นในเก่าๆ ถูกกำจัดออกไป กางเกงชั้นในผ้ายืดราคาถูกถูกรูดออกไปจากสะโพกกลมกลึง...เป็นการจัดฉากเพื่อล่อให้เสี่ยกระเป๋าหนักเข้ามาเชือดอลิชาโดยเฉพาะ
“เห็นผอมๆ อย่างนี้ นมต้มมันไม่เล็กเลยนะคะคุณแม่”
เป็นอีกครั้งในรอบหนึ่งวันที่อลิชาทำให้อลินดาอิจฉา...หลังลอกคราบหลานสาวแม่ เพื่อนวัยเยาว์ของตนเอง รูปกายที่ถูกซ่อนหลังเสื้อผ้าเก่าๆ จนชินตา...รูปร่างผอมบางที่มองจากภายนอก ลวงตาคนมองแทบทั้งสิ้น อลิชามีสิ่งที่ผู้หญิงคนหนึ่งควรมี เอวคอดกิ่ว สะโพกผายกลมกลึง เนินเนื้อที่หน้าอกอวบอิ่มสมกับวัยสาว
“ไปเถอะ...เดี๋ยวจะสวนกับลูกค้าอีคุณนายนั่น แม่ไม่อยากให้ลูกของแม่ถูกมองเป็นผู้หญิงอย่างว่า”
ความเห็นแก่ตัวที่ไม่ได้เผื่อแผ่ไปยังผู้หญิงอีกคนที่นอนไม่ได้สติอยู่กลางเตียง อลิชาคงไร้ค่าสำหรับฉลวย ถึงจะเป็นญาติที่มีสายเลือดเดียวกัน แต่สำหรับบุตรสาวของนางแล้ว...อลินดามีค่ามากว่าเศษผ้าอย่างอลิชา...
“โชคดีนะอลิส”
หญิงสาวเปรย หล่อนกระตุกยิ้มเย้ยให้กับคนไม่มีสติ
อนิจจา เพราะเกิดมาอาภัพ ชีวิตที่ควรรุ่งโรจน์ของอลิชา...จึงมีจุดจบเช่นนี้ ถูกคนที่นับถือลวงล่อ กลายเป็นเหยื่อให้ผู้ชายมักมากในกาม...สิ่งสำคัญถูกพร่าผลาญแบบไร้ค่า...
อลิชาปรือตาขึ้นมอง สายตาของเธอมองเห็นทุกอย่างรอบตัวไม่ชัดเท่าไหร่...เนื้อตัวคันยุบยับ เหมือนมีแมลงตัวเล็กๆ มาชอนไช เธอพยายามเกา พยายามช่วยเหลือตัวเอง แบบคนที่มีสติไม่เต็มร้อย ผ้าเนื้อหนาบนร่างกายเสียดสีกับผิวเนื้อทำให้ผิวของเธอแสบทรมาน หญิงสาวดึงทึ้งอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายออกไปจากร่างกายอ่อนบาง พร้อมกับประตูที่เปิดอ้าขึ้น...อลินดาเหลียวมองผู้ชายหนุ่มฉกรรจ์ที่เดินผ่านตนเองกับมาดาไป แพขนตากะพริบถี่ๆ เขาผู้นั้นหล่อวายร้าย ลุคเถื่อนๆ มองแค่แผ่นหลัง ยังเสียววาบไปถึงท้องน้อย...ไหล่กว้างทรงพลัง เรียวขาบึกบึนกำยำ ผู้ชายแบบนี้ถ้าได้นอนใต้ร่าง เธอคงได้ครางเสียงแหบทั้งคืน พลังเพศผู้ของเขาแผ่ซ่านมายังเธอ แม้จะอยู่ห่างไกลยังสัมผัสถึงได้ หญิงสาวแลบลิ้นเลียริมฝีปาก...กัดริมฝีปากร่างเพื่อกลั้นความกระหาย...เพี้ยะ!ฝ่ามือผอมบางของมารดาฟาดโผว๊ะมาที่ท้องแขนตนเอง อลินดาสะดุ้ง!“คุณแม่อะ ตีอลินทำไมคะ?” หญิงสาวโวยเสียงอ่อย ไม่วายชำเลืองมองแมทธิวที่เดินหายลับมุมตึกไป“ดูทำเข้า มองผู้ชายเหมือนอยากจะขย้ำ ทำตัวดีๆ หน่อยแม่ไม่อยากให้ใครว่าตามหลัง”ฉลวยเหลือบเห็นปฏิกิริยาของบุตรสาวเข้าพอดี เธอจึงอดไม่ได้ที่จะตำหนิ อล
จูบ!! เธอกำลังถูกจูบจากผู้ชายแปลกหน้า เป็นความฝันแน่ๆ อลิชาคิดในใจแบบนั้น ความฝันวาบหวิวที่สุดในรอบ10ปี นับตั้งแต่แตกเนื้อสาวแมทธิวครางงึมงำ จุมพิตแผ่วๆ แต่กลับซ่านทรวง รสหวานซ่านที่แผ่เต็มอุ้งปากเหมือนกำลังได้ดื่มหยดน้ำค้างแรกเช้า ชายหนุ่มบดริมฝีปากแรงขึ้นอีกนิด แทรกปลายลิ้นตวัดเร้าโรมเรียวลิ้นเล็กๆ ที่ถอยหนี เป็นเกมสนุกในอุ้งปากที่น่าสุนทรีเสียจนแมทธิวใช้เวลานานกว่าทุกครั้ง มือแข็งแรงเคลื่อนที่ลงไปลูบไล้ผิวกายเนียนละเอียด เขาเกลี่ยปลายนิ้วไปตามส่วนคอดเว้าของโค้งสะโพก ก่อนจะวกกลับมาด้านหน้า เพื่อค้นหาเป้าหมายที่น่าสนใจ เรียวขาเพรียวถูกดันให้แยกออกจากกันด้วยความชำนาญ ขาแข็งแรงสอดกั้นไว้ ครั้นเมื่ออลิชาบีบเรียวขาชิดกันเธอจึงทำไม่ได้ ปลายนิ้วร้อนผ่าว กรีดตามรอยแยกปริ่มน้ำ หญิงสาวใต้ร่างสะดุ้งเยือก ร่างกายเกร็งแข็งขึ้นมาแบบฉับพลัน เพียงแค่ของสงวนกลางร่างกายถูกแตะต้อง“ยะ อย่า...อย่าทำแบบนั้นกับอลิสเลยค่ะ” เสียงหวานปนหอบกระซิบวอนขอ“อลิส เธอชื่ออลิสอย่างนั้นเหรอ?” ชายหนุ่มถามกลับเสียงปร่า เขาดันตัวชะโงกอยู่เหนือร่างกายอวบอัด“ค่ะ...ปล่อยอลิสไปนะคะ” อลิชาพยายามร้องขอครั้งสุดท้าย สำนึกดีชั
บทที่4.กาลเวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นเองอลิชาตื่นตามเวลา เธอปรือเปลือกตาขึ้นมอง สิ่งที่สายตาจับภาพได้... เป็นภาพที่ไม่คุ้นชิน เพดานห้องเธอเป็นไม้อัดเก่าๆ ผุๆ แต่ที่เห็นนี่ คือโคมไฟห้อยระย้า แสงสะท้อนของมันสวยเหมือนเกล็ดเพชรยามล้อเล่นกับแสงไฟ...หญิงสาวผวา!! แล้วเธอก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติอีกครั้ง... ข้างกายของเธอมีผู้ชายรูปร่างกำยำนอนแนบชิด เท่าที่สำรวจคร่าวๆ เขา ‘เปลือย’ เมื่อชายผ้าที่พาดไว้หมิ่นๆ ช่วงเอว มันปิดไม่มิด แก้มก้นผู้ชายที่ชาตินี้อลิชาคงไม่มีวันได้เห็น เมื่อเธอตั้งใจจะอยู่คนเดียว ไม่อยากสร้างภาระให้กับใคร หญิงสาวยกมือขยี้ดวงตาแรงๆ ก่อนจะสูดปากคราง เมื่อร่างกายประท้วงการออกแรง เนื้อตัวของเธอร้าวระบม เหมือนทำงานหนักมาทั้งวัน เธอแน่ใจว่าตนเองหลับสนิท หลังดื่มนมอุ่นๆ ที่ฉลวยยกมาให้หน้าห้อง...เอะ!หญิงสาวรวบผ้าห่มแนบลำตัวมากขึ้น ใบหน้าซีดเผือดเมื่อพอจะเดาเหตุการณ์ออกอลิชาไม่กล้าแม้แต่จะก้มมองตัวเอง ร่างกายเธอร้าวระบม แถมว่างเปล่า เหมือนกับว่าใต้ผ้าห่มนี่ เธอไม่ได้สวมอะไรเลยน้ำตาหยดเล็กๆ ไหลพรู มันเจ็บแปลบเหมือนจะขาดใจ เมื่อคนที่ไว้ใจ หักหลัง ทำลายเธอจนยับเยิน...รอยยิ้มหยันๆ แต้
หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ กัดริมฝีปากล่างจนห้อเลือด กลั้นสะอื้นไว้สุดฤทธิ์ เมื่อไม่อยากให้คนนอกรู้เรื่องอดสูที่เกิดขึ้นกับตัวเอง“ไม่ต้องมาปิดติ๋มค่ะ...ติ๋มพอจะเดาออก อีคุณนายบนตึกนั่นเดินเข้า เดินออกบ้านเจ้สายหยุดทางเป็นมัน มันเอาหนูอลิสไปขายสิท่า” ติ๋มกล่าวเสียงเคียดแค้น...เจ็บใจที่ช่วยเหลือคนน่าสงสารอย่างอลิสชาไม่ได้ เรื่องมันสายเกินกว่าจะแก้ไขเสียแล้วอลิชาผงะ แม้แต่สาวใช้ก้นครัวอย่างติ๋มยังรู้“ไปเก็บของค่ะ หนูอริสอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วล่ะ มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อไป อีคุณนายใจดำนั่น คงไม่หยุดง่ายๆ”มือหยาบกร้านดันแผ่นหลังบอบบางของหญิงสาว เธอกระซิบเสียงแผ่วๆ เพราะกลัวบุคคลที่สามได้ยิน“อลิสไม่มีที่ไปนะติ๋ม” หญิงสาวท้วง นอกจากฉลวยแล้ว เธอไม่มีใครที่พอจะพึ่งพาได้จริงๆ“ไม่ต้องกลัวค่ะ หลบไปก่อน เดี๋ยวติ๋มหางานให้ทำเอง... ไปให้พ้นจากบ้านนี้ บุญคุณท่วมหัวที่อีคุณนายมันอ้างอย่าไปนึกถึง... ความระยำที่อีคุณนายมันทำลบล้างหมดแล้วค่ะ”ถึงไม่ใช่ญาติ แต่เห็นกันมาตั้งหลายปี สิ่งที่ฉลวยและครอบครัวทำกับอลิชา เกินกว่าที่ติ๋มจะรับไหว ถึงเธอจะจนกร็อบ ต้องอาศัยใบบุญบ้านฉัตรสุวรรณ แต่เรื่องระยำตำบอนอย่างน
ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาเดินเข้าไปด้านใน และลงมืออาบน้ำ เพื่อชำระคราบไคล่ต่างๆ บนร่างกาย “อูยยย!” แมทธิวเผลอตัวอุทานออกมาเสียงหลง เมื่อสายน้ำเย็นรินรดร่างกาย ผิวหนังที่แผ่นหลังก็ประท้วง มันเจ็บแปลบเนื่องจากแผลสด เขาเอี้ยวตัวตะแคงร่างกายมองผ่านกระจกเงา ริ้วรอยนูนเด่น ฝีมือแม่ม้าพยศเมื่อคืนนี้ หล่อนฝากรอยรักไว้บนแผ่นหลังเขา เสียงเป็นทางยาวมุมปากสีเข้มกระตุกยิ้ม บทรักสุดโลดโผนเมื่อค่ำคืน ทำให้แมทธิวคิดถึงหล่อนขึ้นมาติดหมัด ไอ้ที่เคยปฏิบัติมา คงถูกแหก เมื่อในสมองของแมทธิวตอนนี้ เขาติดใจจนอยากพบหล่อนอีกสักครั้ง...หลังแต่งตัวเรียบร้อย ชายหนุ่มซ่อนรอยแผลเล็กๆ บนร่างกายไว้ด้วยเสื้อผ้าชุดเดิม เขาเดินผิวปากออกจากห้องสวีทแบบคนอารมณ์ดี ความเครียดที่สะสมในร่างกาย ถูกระบายไปกับบทรักร้อนแรงจนหมดโทรศัพท์เครื่องบางเฉียบถูกล้วงออกมาจากซอกกระเป๋าเสื้อ แมทธิวกดโทร. ออก ต่อสายหาคนจัดหาผู้หญิงเพื่อเจรจา เขาต้องการเจอหล่อนอีกครั้ง...แต่คงไม่ใช่วันนี้“มีอะไรคะ? ทำไมแม่นั่งยิ้มอยู่คนเดียว”อลินดาที่เพิ่งจะตื่นนอน หล่อนย่างกรายลงมาชั้นล่างของบ้าน เอาเมื่อตะวันขึ้นตรงศีรษะพอดี“ไม่ดีใจได้ยังไงลูก อีคุณนายนั่นโทร
“ดูๆ คนของคุณอิง มีงอนด้วย”“ฝีมือใช้ได้เลยค่ะ หน้าตายังเด็กๆ อยู่เลยด้วยไม่คิดว่ารสมือจะดีขนาดนี้” น้ำอิงชมซ้ำ เธอเปรยให้สามีฟัง“บอกบ้านใหญ่หรือยังล่ะ...เดี๋ยวจะมีปัญหาทีหลังนะ...” ไทธัชเตือน ความเคลื่อนไหวภายในบ้านเขา ถูกสอดส่องจากคนบ้านใหญ่ จนบางครั้งเขาก็เอือมระอา...“อิงว่าจะไปเรียนให้ท่านทราบวันนี้ค่ะ” น้ำอิงตอบเสียงแผ่ว เธอรับรู้กระแสความไม่พอใจผ่านทางน้ำเสียงที่สามีใช้“อืม...” ไทธัชไม่ได้พูดต่อ เขารับชามข้าวต้มจากฟักทอง ก่อนจะตักใส่ปาก... “อร่อยจริงๆ” ชายหนุ่มเปรยหลังจากลิ้มรส รสมือของอลิชาเข้าไปแล้ว“ฟักคงตกกระป๋อง...ขนาดคุณไทยังชม” ฟักทองบ่นกระปอดกระแปด เมื่อเจ้านายทั้งสองคน มีความเห็นตรงกัน“งานอื่นมีเยอะแยะ ส่วนหน้าที่ทำอาหาร ฟักเป็นแค่ลูกมือก็พอ...” ไทธัชกล่าวยิ้มๆ เขาเป็นกันเองกับคนในบ้าน ไม่ถือตัวว่าเป็นเจ้านาย“ฟักไปตามอลิสมาสิ จะได้รู้จักกันไว้ ใครเป็นใคร เดี๋ยวจะงง”น้ำอิงสั่งฟักทอง อลิชาจะได้ทำความรู้จักกับสามีของเธอด้วยหญิงสาวร่างเล็กบาง เดินตามหลังฟักทองเข้ามา“สวัสดีค่ะคุณ” อลิชายกมือขึ้นทำความเคารพโดยไม่ต้องให้ใครบอก เธอยิ้มเซียวๆ ให้เจ้านายหนุ่ม“อายุเท่าไหร
ใบหน้าเล็กๆ ส่ายไปมา...น้ำตาทะลักรินโดยไม่รู้สาเหตุ เป็นความหวาดกลัวจับจิต หากสิ่งที่กำลังกลัวเกิดขึ้นจริงๆ“อลิสมีแฟน หรือมีผู้ชายที่คบหามั้ย?”น้ำอิงถามเสียงแผ่ว เธอกำลังหาทางช่วย หากอลิชาก้าวพลาดหญิงสาวส่ายใบหน้าแรงๆ ใช้หลังมือปาดน้ำตา ก่อนจะย่อตัวลงนั่งบนพื้นเจ้านายสาวหันมาเผชิญหน้า เธอสูดลมหายใจแรงๆ “อาการที่เป็นอยู่ อิงไม่อยากฟันธงนะอลิส...ที่อิงถามแบบนั้นเพราะอิงจะได้วิเคราะห์ถูก ถ้าอลิสไม่เคยมีแฟน ไม่เคยคบผู้ชาย ปัญหาที่อิงกลัวก็ไม่น่าใช่” เสียงอธิบายเนิบนาบ หัวใจของอลิชาหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เธอไม่เคยคบค้าสมาคมกับเพศตรงข้าม ไม่เคยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับผู้ชายคนไหน แต่...เธอมีความสัมพัธ์กับผู้ชายที่ไม่รู้จักชื่อ...ครั้งเดียวก่อนจะหนีเตลิดมาที่นี่“คุณอิงคะ อลิส...” หญิงสาวเรียบเรียงคำพูด “ก่อนมาที่นี่ อลิสมีอะไรกับผู้ชายคนหนึ่ง อลิสไม่รู้จักเขาเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาชื่ออะไร มันเป็นคราวซวยของอลิส แบบนี้อลิสคงจะท้องใช่มั้ยคะ?”เสียงติดๆ ขัดๆ เพราะกลั้นสะอื้นไปพร้อมๆ กับการพูด น้ำตาไหลอาบหน้า เสียใจกับโชคชะตาตนเอง เคราะห์ซ้ำกรรมซัดใส่ตนเองไม่หยุดน้ำอิงกะพริบเปลือกตาถี่ๆ เธอเ
บทที่5.เมื่อคนในอดีตย้อนมาเจอกันผ่านไปสามปี อะไรๆ ในชีวิตของอลิชาเปลี่ยนไปเกือบหมด...วันนี้ วันที่เธอประสบความสำเร็จ...เรียนจบอย่างที่หวัง ได้ทำมาหากินอย่างเต็มที่ หญิงสาวมองไปรอบๆ ตัว แววตาสลดลง...ในขณะที่เพื่อนๆ มีญาติสนิทมาร่วมแสดงความยินดีกันหนาตา...ข้างกายเธอกลับว่างเปล่า...“เอาน่าไอ้อลิส แกภูมิใจในตัวเองเถอะ พ่อกับแม่บนสวรรค์จะได้พลอยดีใจไปด้วย...แกเก่งจริงว่ะ”หญิงสาวปลุกปลอบใจตนเอง บ่ายหน้าเดินออกจากรั้ววิทยาลัย’ หลังรับพระราชทานปริญญาบัติเสร็จเรียบร้อยสองมือกอดความสำเร็จแนบอก ยิ้มเซียวๆ ให้คนรู้จักเมื่อเขาเหล่านั้นเดินผ่าน เสียงเฮฮาดังแว่วๆ อยู่ด้านหลัง...สองเท้าของเธอก้าวเดินอย่างมั่นคง เมื่อมีใครบางคนรออยู่ที่บ้านพัก คน คนนั้นคือคนสำคัญที่สุดของตัวเองรถประจำทางวิ่งมาจอดเทียบฟุตบาทพอดีกับที่อลิชาเดินมาถึง เธอกระโจนขึ้นรถทัน ก่อนที่สารถีคนขับจะเหยียบคันเร่ง พาพาหนะสาธารณะขึ้นไปผจญความแออัดบนท้องถนน กลิ่นควันจากท่อไอเสียไม่ได้ทำให้อลิชาหงุดหงิดเหมือนทุกวัน วันนี้เธออารมณ์ดีเสียใจหุบยิ้มไม่ได้ สีหน้าเรียบเฉยเป็นนิจ วันนี้กลับมีรอยยิ้มละไมแต้มอยู่บนเรียวปาก เป็นความภาคภูมิอย