“ดูๆ คนของคุณอิง มีงอนด้วย”“ฝีมือใช้ได้เลยค่ะ หน้าตายังเด็กๆ อยู่เลยด้วยไม่คิดว่ารสมือจะดีขนาดนี้” น้ำอิงชมซ้ำ เธอเปรยให้สามีฟัง“บอกบ้านใหญ่หรือยังล่ะ...เดี๋ยวจะมีปัญหาทีหลังนะ...” ไทธัชเตือน ความเคลื่อนไหวภายในบ้านเขา ถูกสอดส่องจากคนบ้านใหญ่ จนบางครั้งเขาก็เอือมระอา...“อิงว่าจะไปเรียนให้ท่านทราบวันนี้ค่ะ” น้ำอิงตอบเสียงแผ่ว เธอรับรู้กระแสความไม่พอใจผ่านทางน้ำเสียงที่สามีใช้“อืม...” ไทธัชไม่ได้พูดต่อ เขารับชามข้าวต้มจากฟักทอง ก่อนจะตักใส่ปาก... “อร่อยจริงๆ” ชายหนุ่มเปรยหลังจากลิ้มรส รสมือของอลิชาเข้าไปแล้ว“ฟักคงตกกระป๋อง...ขนาดคุณไทยังชม” ฟักทองบ่นกระปอดกระแปด เมื่อเจ้านายทั้งสองคน มีความเห็นตรงกัน“งานอื่นมีเยอะแยะ ส่วนหน้าที่ทำอาหาร ฟักเป็นแค่ลูกมือก็พอ...” ไทธัชกล่าวยิ้มๆ เขาเป็นกันเองกับคนในบ้าน ไม่ถือตัวว่าเป็นเจ้านาย“ฟักไปตามอลิสมาสิ จะได้รู้จักกันไว้ ใครเป็นใคร เดี๋ยวจะงง”น้ำอิงสั่งฟักทอง อลิชาจะได้ทำความรู้จักกับสามีของเธอด้วยหญิงสาวร่างเล็กบาง เดินตามหลังฟักทองเข้ามา“สวัสดีค่ะคุณ” อลิชายกมือขึ้นทำความเคารพโดยไม่ต้องให้ใครบอก เธอยิ้มเซียวๆ ให้เจ้านายหนุ่ม“อายุเท่าไหร
ใบหน้าเล็กๆ ส่ายไปมา...น้ำตาทะลักรินโดยไม่รู้สาเหตุ เป็นความหวาดกลัวจับจิต หากสิ่งที่กำลังกลัวเกิดขึ้นจริงๆ“อลิสมีแฟน หรือมีผู้ชายที่คบหามั้ย?”น้ำอิงถามเสียงแผ่ว เธอกำลังหาทางช่วย หากอลิชาก้าวพลาดหญิงสาวส่ายใบหน้าแรงๆ ใช้หลังมือปาดน้ำตา ก่อนจะย่อตัวลงนั่งบนพื้นเจ้านายสาวหันมาเผชิญหน้า เธอสูดลมหายใจแรงๆ “อาการที่เป็นอยู่ อิงไม่อยากฟันธงนะอลิส...ที่อิงถามแบบนั้นเพราะอิงจะได้วิเคราะห์ถูก ถ้าอลิสไม่เคยมีแฟน ไม่เคยคบผู้ชาย ปัญหาที่อิงกลัวก็ไม่น่าใช่” เสียงอธิบายเนิบนาบ หัวใจของอลิชาหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เธอไม่เคยคบค้าสมาคมกับเพศตรงข้าม ไม่เคยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับผู้ชายคนไหน แต่...เธอมีความสัมพัธ์กับผู้ชายที่ไม่รู้จักชื่อ...ครั้งเดียวก่อนจะหนีเตลิดมาที่นี่“คุณอิงคะ อลิส...” หญิงสาวเรียบเรียงคำพูด “ก่อนมาที่นี่ อลิสมีอะไรกับผู้ชายคนหนึ่ง อลิสไม่รู้จักเขาเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาชื่ออะไร มันเป็นคราวซวยของอลิส แบบนี้อลิสคงจะท้องใช่มั้ยคะ?”เสียงติดๆ ขัดๆ เพราะกลั้นสะอื้นไปพร้อมๆ กับการพูด น้ำตาไหลอาบหน้า เสียใจกับโชคชะตาตนเอง เคราะห์ซ้ำกรรมซัดใส่ตนเองไม่หยุดน้ำอิงกะพริบเปลือกตาถี่ๆ เธอเ
บทที่5.เมื่อคนในอดีตย้อนมาเจอกันผ่านไปสามปี อะไรๆ ในชีวิตของอลิชาเปลี่ยนไปเกือบหมด...วันนี้ วันที่เธอประสบความสำเร็จ...เรียนจบอย่างที่หวัง ได้ทำมาหากินอย่างเต็มที่ หญิงสาวมองไปรอบๆ ตัว แววตาสลดลง...ในขณะที่เพื่อนๆ มีญาติสนิทมาร่วมแสดงความยินดีกันหนาตา...ข้างกายเธอกลับว่างเปล่า...“เอาน่าไอ้อลิส แกภูมิใจในตัวเองเถอะ พ่อกับแม่บนสวรรค์จะได้พลอยดีใจไปด้วย...แกเก่งจริงว่ะ”หญิงสาวปลุกปลอบใจตนเอง บ่ายหน้าเดินออกจากรั้ววิทยาลัย’ หลังรับพระราชทานปริญญาบัติเสร็จเรียบร้อยสองมือกอดความสำเร็จแนบอก ยิ้มเซียวๆ ให้คนรู้จักเมื่อเขาเหล่านั้นเดินผ่าน เสียงเฮฮาดังแว่วๆ อยู่ด้านหลัง...สองเท้าของเธอก้าวเดินอย่างมั่นคง เมื่อมีใครบางคนรออยู่ที่บ้านพัก คน คนนั้นคือคนสำคัญที่สุดของตัวเองรถประจำทางวิ่งมาจอดเทียบฟุตบาทพอดีกับที่อลิชาเดินมาถึง เธอกระโจนขึ้นรถทัน ก่อนที่สารถีคนขับจะเหยียบคันเร่ง พาพาหนะสาธารณะขึ้นไปผจญความแออัดบนท้องถนน กลิ่นควันจากท่อไอเสียไม่ได้ทำให้อลิชาหงุดหงิดเหมือนทุกวัน วันนี้เธออารมณ์ดีเสียใจหุบยิ้มไม่ได้ สีหน้าเรียบเฉยเป็นนิจ วันนี้กลับมีรอยยิ้มละไมแต้มอยู่บนเรียวปาก เป็นความภาคภูมิอย
คุณท่านบ้านใหญ่ออกตัวแรง...แต่ท่านก็กลับลำทำหน้าตาเฉยเมย ตอนที่มาเป็นผู้ใหญ่โกนผมไฟให้บุตรชายเธอ อลิชาถูกดูแลจากทุกคนในบ้านหลังคลอดบุตร ประหนึ่งเป็นญาติคนหนึ่งของครอบครัวของเจ้านายสาวเลยทีเดียวเป็นเพราะเด็กชาย ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทธัชกับบรรดาญาติฝ่ายเมียแน่นแฟ้นขึ้น...เขาไม่ใช่หลานเขย บุตรเขยที่ฝ่ายครอบครัวภรรยาไม่ปลื้มอีกต่อไปความดี ความซื่อสัตย์ของไทธัชพิสูจน์ให้คนในครอบครัวของน้ำอิงเห็นกับตา...ไร้เสียงบ่น ก่นว่า นับตั้งแต่เด็กชายกลายเป็นขวัญใจ หากไม่ติดว่าอลิชารักบุตรชายดั่งแก้วตาดวงใจ ทั้งน้ำอิงและไทธัช คงเอ่ยปากขอเด็กน้อยมาเป็นลูกบุญธรรมของตนเองเป็นแน่แท้...“ค่ะ...”“หากรูปนี้เขาตา เผลอตัวแสบจะได้เป็นดาราแต่เด็กนะ”อลิชาไม่เคยคัดค้านความคิดของนายสาว เพราะทุกสิ่งที่น้ำอิงมอบให้มีแต่สิ่งดีๆ ...เธอกับลูกไม่ต้องออกไประเหเร่ร่อนก็เพราะความเมตตาของเจ้านาย ครั้งแรกที่เรื่องแดงขึ้นมา ญาติทางฝ่ายน้ำอิง...ยืนกรานให้อลิชาลาออก...เพราะไม่อยากให้มีเรื่องเสื่อมเสียเกิดขึ้นในบ้าน น้ำอิงยืนยันเช่นกัน เธอปล่อยอลิชาไปตกระกำลำบากข้างนอกนั่นไม่ได้ เป็นครั้งที่สองที่น้ำอิงกล้าขัดคำสั่งของสมา
บทที่6.ความลับที่ปิดบังไว้ปลายเล็บกดลงบนผิวเนื้อหลังมือ “อุ้ย!” หญิงสาวสะดุ้ง มันไม่ใช่แค่เพียงความฝัน ที่เกิดอยู่ตรงหน้านี่ ของจริง เหตุการณ์จริงๆ ที่เธอกำลังเผชิญหน้าในความมลังเมลือง...ความทรงจำที่ไม่ใคร่ปะติดปะต่อเท่าไหร่ เนื่องจากสติสัมปชัญญะของตนเองไม่เต็มร้อย...โครงหน้าผู้ชายในความทรงจำ ผู้ชายที่เป็น ‘ครั้งแรก’ ของตนเอง เขาเป็นผู้ชายคนเดียวที่ใกล้ชิดเธอมากที่สุด มากขนาดทิ้งเด็กชายหน้าตาน่ารักคนหนึ่งไว้ในท้องของเธอแพขนตากะพริบถี่ๆ พยายามเพ่งมองเพื่อจับเค้าหน้าชัดๆอลิชาภาวนาในใจ เธอวิงวอนพระผู้เป็นเจ้า อย่าให้เธอต้องมาเจอะเจอ ‘คน คนนั้น’ อีกเลยแต่...คำภาวนาของเธอไร้ผล...เพราะยิ่งเห็นยิ่งย้ำเตือน โครงหน้านี้ที่เธอไม่มีวันลืม...ไม่มีทางลืมชั่วชีวิต…เสียงถอนลมหายใจแรงๆ อลิชากำลังชั่งใจ เธอจะถอยเสียงตั้งแต่ตอนนี้ หรือจะสู้ต่อ โดยไม่แคร์คน คนนั้น“ลูกกระจอกอย่างเรา มีโอกาสได้เจอบิ้กบอสก็แค่วันนี้แหละเธอ”เสียงเพื่อนร่วมงานกระซิบกระซาบกันใกล้ๆ“ใช่! เจ้าชายบนหอคอย...อัศวินผู้คุ้มครองปวงประชา เข้าถึงตัวง่ายๆ ได้เหรอ”อลิชาคิดตาม...จริงสินะ...ผู้บริหารระดับสูงอย่างเขา โอกาสที่จะได้พ
“พยายามแล้ว...แต่ไม่ประสบความสำเร็จ คุณอิงเลยซ้อมเลี้ยงลูกอลิสไปพลางๆ ก่อน พอถึงเวลาจะได้คล่อง”แมทธิวขมวดคิ้ว...ชื่อที่ผ่านปากเพื่อนมาคุ้นหูอีกแล้ว‘อลิสในแดนมหัศจรรย์’ แม่สาวสุดร้อนแรงที่เขาลืมไม่ลง“เหรอ...นึกว่าไร้น้ำยา แต่งงานมา3ปีแล้วนี่หว่า” ชายหนุ่มกระเซ้า พร้อมกับหัวเราะลงลูกคอ“อิงไม่แข็งแรงค่ะ ไม่เกี่ยวกับคุณไท ช่วงนี้ก็เลยต้องบำรุงตัวเองไปก่อน...ไม่นานก็คงสมหวัง”น้ำอิงแก้ตัวให้สามี ไทธัชไม่ได้ผิดปกติ เธอต่างหากที่ยังไม่สมบูรณ์“ว่าแต่ผม...คุณเถอะ ไมได้ไปไข่ทิ้งไว้นะ...เห็นควงสาวไปทั่ว” ไทธัชเหน็บเพื่อนแรงๆ เมื่อแมทธิวมีความสัมพันธ์ทางกายกับผู้หญิงเป็นร้อย แต่กลับไม่มีข่าวฉาวให้เห็นสักครั้ง“เจาะหมวกเหล็กผมออกมาได้ ก็ต้องยอมรับล่ะ”ชายหนุ่มหัวเราะก๊าก! เขาพกคอนดอมคราวละไม่ต่ำกว่าสามกล่อง...มีอุปกรณ์สกัดดาวรุ่งขนาดนั้น...ไม่มีทางที่เมล็ดพันธุ์ของเขาจะงอกเงย...ไทธัชหัวเราะหึๆ เขาส่ายใบหน้า ระอากับความโผงผางของเพื่อน...แมทธิวนิ่งเงียบ เขาเผลอตัวคิดอะไรเพลินๆ จนกระทั่ง...กำแพงรั้วสีขาวตระหง่านเบื้องหน้า ประตูรั้วเหล็กถูกดันให้เปิดออกด้วยมือคนงานเก่าแก่ ชายสูงวัยค้อมตัวให้เมื
คำพูดของน้ำอิงทำให้แมทธิวสะดุด มันฟังแปลกๆ พิกล หล่อนมี ‘ลูก’ แสดงว่าผ่านการมีสามีมาแล้ว แต่ทำไมที่น้ำอิงพูดมานั้น เหมือนกับว่าแม่สาวนาม ‘อลิส’ คนนั้น ยังไร้คนข้างกาย ไม่หรอกน่า หล่อนมีลูกแล้ว!! เป็นความกังขาที่เกิดขึ้นในสมองสั่งการของแมทธิว“อลิสไม่มีทางไปจากที่นี่หรอกน่าคุณอิง...เธอไม่เคยสนใจเพศตรงข้าม...คุณก็เห็น”คำพูดของเพื่อนรักยิ่งย้ำให้แมทธิวสับสน“แม่ครัวบ้านคุณไม่มีสามี แต่มีลูกงั้นเหรอ?” ชายหนุ่มยอมเสียมารยาท เขาโพล่งออกมาเสียงดังสองสามี-ภรรยาชะงัก คงเพราะลืมตัว จนเผลอพูดความลับของอลิชาออกมาให้คนนอกร่วมรับรู้“อย่าไปสนใจเลยว่ะแมท...เรื่องของคนงาน...ผมแค่ชี้แจงให้คุณอิงสบายใจ...หากเราดูแลดี ไม่มีใครอยากไปไหนหรอก”“ใช่ค่ะๆ อย่าสนใจเรื่องกวนใจของคนทำงานบ้านเลยค่ะ ว่าแต่คุณแมทเถอะ หมู่นี่เงียบฉี่ เบื่อสาวๆ แล้วเหรอคะ?”แมทธิวมีคู่ควงมากหน้าหลายตา เขาใช้ชีวิตหนุ่มโสดคุ้มค่าที่สุด แม้จะต้องจ่ายหนักไปสักหน่อย เมื่อนิยามของเขา ไม่มีการสานต่อ หากเต็มใจที่จะคบกับแมทธิว ก็ต้องเตรียมใจไว้ในวันที่ลาจาก เมื่อชายหนุ่มพร้อมจะถอยหนี หากคู่ควงคนไหนคิดจะจริงจังกับเขา เขายินดีจ่ายแบบไม่เกี่ยง
อาหารอ่อนๆ ที่ปรุงให้บุตรชายได้รับประทาน อลิชาใช้ช้อนตัก เป่าจนเย็นขึ้นก่อนจะส่งช้อนนั่นให้บุตรชายตัวน้อย เธอคอยเป็นพี่เลี้ยงให้ และพยายามสอนให้เขาช่วยเหลือตัวเอง คำแรกที่จัดการให้คือการทำเป็นต้นแบบ หลังจากนั้นรณฤทธิ์จะทำตาม เสียงเป่าดังๆ ให้ความร้อนของอาหารที่ถูกส่งเข้าปากลดอุณหภูมิลง กับเศษอาหารที่กระจายเกลื่อน อลิชาอมยิ้ม ยกนิ้วให้บุตรชาย เป็นกำลังใจให้เขาพยายามมากขึ้น ผ้าเช็ดปากที่เปียกนิดๆ เธอคอยเช็ดคราบอาหารที่เลอะเทอะตามตัว และสอนให้เขารู้จักระมัดระวังไม่ทำอาหารหกซ้ำ มันอาจจะเป็นงานที่น่าเบื่อ แต่คนเป็นแม่มีหรือจะท้อ เมื่อชีวิตทั้งชีวิตของเธอ อุทิศให้บุตรชายได้เสมอ...แม่เป็นครูคนแรก เป็นอะไรหลายๆ อย่างให้กับบุตร...ไม่เคยมีเสียงบ่นและไม่เคยท้อถอย“ร่อยๆ แหมะฮาร์ทเก่งๆ”คำพูดยังไม่ชัดเจน เพราะกำลังอยู่ในช่วงฝึกฝน...แต่เด็กวัยนี้ทุกคนเรียนรู้และมีพัฒนาการไวมาก...หญิงสาวยิ้ม เช็ดผ้าเปียกที่ข้างแก้ม “ทานเยอะๆ ค่ะ ฮาร์ทจะได้ตัวโตไวไว” เธอกล่าวสนับสนุน ซึ่งเด็กชายก็พร้อมปฏิบัติ เขาใช้ช้อนพลาสติกตักอาหารในถ้วยยกใส่ปาก ยิ้มให้มารดาจนตาหยี เมื่อมารดากล่าวชมไม่ขาดปาก“อะแห้ม!” เสียงกระแอ
เกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม แมทธิวเดินตรงมายังรถยนต์ประจำตำแหน่ง เขาปรายตามองสภาพรถยนต์คันเก่งด้วยความรู้สึกคันยิบๆ ในใจ ผีบ้าตนไหนเข้าสิงเขา ถึงได้บ้าดีเดือด ขับรถกลับบ้านในสภาพที่ไม่พร้อม แต่ก็ไม่ยักเป็นอันตราย“เอาไปให้ไกลๆ ตากูเลยนะ เห็นแล้วจี๊ด!”ชายหนุ่มเปรยเสียงเคร่งกับการ์ดคู่ใจเขามุดเข้าไปนั่งตอนหลังรถยนต์ พยายามตีหน้านิ่งๆรถยนต์กำลังจะออก แต่ใครบางคนเดินตรงมาหาเสียก่อน“เดี๋ยว!” ชายหนุ่มตบเบาะให้สัญญาณ เขาเปิดประตูด้านข้าง ก้าวลงไปยืนรอคนที่พยายามเดินเข้ามาหา“ป้อๆ”รณฤทธิ์นั่นเอง เด็กชายส่งเสียงเรียก มือป้อมๆ โบกไปมา และยิ้มแฉ่ง จนคนรอบๆ พลอยยิ้มตามไปด้วย“ห้ามทำน้ำลายหกเลอะเสื้อฉันนะเว้ย!” แมทธิวออกตัว แต่ก็ยังช้อนอุ้มเด็กชายขึ้นมาจากพื้นอยู่ดี“ฮาร์ทไปล่วยๆ”สิ่งที่เด็กชายร้องขอ แมทธิวทำหน้ายุ่ง เขามองเลยไปทางด้านหลัง อลิชาเดินตามมาหางๆ ผิวแก้มหล่อนแดงก่ำ จนมองเห็นแต่ไกล แมทธิวอารมณ์ดีขึ้นเป็นกอง เขากดปลายจมูกกับแก้มยุ้ยๆ ของเด็กชายในอ้อมแขน แสร้
บทที่16.ยอมหรือไม่ยอมก็มีค่าเท่ากันแหละ...“ถามหน่อยเถอะ?” แมทธิวกล่าวเสียงหงุดหงิด เมื่อจบภารกิจฟิชเชอร์ริ่ง! อลิชามีทีท่าเศร้าสร้อย ประหนึ่งเธอโดนเขาข่มเหง ทั้งที่ช่วงเวลานั้นก็เข้าขากันดี “เธอจะยอมผมดีๆ ไม่ได้เหรอ ชอบซาดิสต์ไง? ถึงได้ต้องให้ออกแรงทุกที!”หญิงสาวตวัดตาใส่ เรียวปากเม้มแน่น ไม่ได้เอ่ยออกมาเป็นคำพูด แต่แววตัดพ้อที่ฉายผ่านดวงตาออกมา แมทธิวพอมองออก“บอกเลยนะ จำไว้ด้วยล่ะ เธอจะยอมหรือไม่ยอม มันก็มีค่าเท่ากัน อย่าลืมสิ เธอมาที่นี่เพราะอะไร?”ชายหนุ่มเปรยเสียงเฉยชา...สาเหตุที่อลิชาต้องมาพำนักที่นี่ ก็เพราะอุบัติเหตุบนเตียงที่เกิดขึ้นท่ามกลางสายตาของคนทั้งบ้าน ในเมื่อไอ้เพื่อนยากอยากให้เขารับผิดชอบผู้หญิงคนนี้ แมทธิวเต็มใจรับ แต่ก็ขอใช้หล่อนให้คุ้มค่า เมื่ออิสระถูกพรากจากตัว ก็ต้องได้สิ่งที่สมน้ำสมเนื้อกลับคืนมาด้วย“อลิสยอมมาที่นี่ เพราะไม่อยากให้คุณไท กับคุณอิงลำบากใจ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมาข่มเหงอลิสได้นี่คะ”
อลิชาแอบอมยิ้ม เธอแสร้งหลับนิ่งไม่ไหวติง“นอนก็นอนวะ!” เสียงพึมพำดังเบาๆ ร่างใหญ่หนา เอนตัวลงนอน ไม่วายรั้งเธอเขาไปสวมกอดไว้หลวมๆ“เธอมันยัยแม่มดชัดๆ” เสียงบ่นงึมงำ แล้วก็ค่อยๆ เงียบลงหญิงสาวระบายลมหายใจแผ่วๆ รอจนแน่ใจว่าแมทธิวหลับสนิท นอนฟังเสียงลมหายใจของเขา จนเป็นจังหวะสม่ำเสมอ จึงค่อยๆ ดึงมือที่พาดผ่านช่วงเอวออก กระถดตัวลงจากเตียงนอนช้าๆ รีบไปควานหาเสื้อผ้ามาสวมบนร่างกาย เธอทนนอนทั้งที่ร่างกายเปลือยเปล่าไม่ไหวจริงๆ แม่ลูกหนึ่งเดินกลับมาอีกครั้ง หลังใส่ชุดนอนชุดใหม่บนร่างกายเรียบร้อย เธอเอนตัวลงนอนอีกฝั่ง รั้งบุตรชายมากอดไว้แนบอก เพื่อใช้เขาเป็นหลักประกัน แมทธิวจะได้ไม่ถือโอกาสลวนลามตอนเธอหลับ จนเผลอหลับไปในเวลาต่อมา...เสียงนกร้องจุ๊บจิ๊บอยู่ที่หน้าต่างหัวเตียง...อลิชาหยีตา แสงแดดส่องต้องใบหน้า เธอตื่นสายโด่งเป็นครั้งแรก...ร่างบางทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่ง รีบมองหาบุตรชาย แต่บนเตียงว่างเปล่า ไร้บุตรชายที่เป็นยอดดวงใจ“ฮาร์ทๆ ฮาร์ทอยู่ไหนลูก?”เธอป้องปากร้องเรียกหา...ก
แมทธิวกลั้นความต้องการอันมากล้นของตนเองไว้ในอก เขาแช่ตัวนิ่งๆ ขยับร่างกายทีละน้อยๆ ทั้งๆ ที่อยากถาโถมเข้าใส่แบบสุดแรงเกิดอลิชาสูดลมหายใจลึกๆ เธอผ่อนคลายความตึงเครียด พยายามไม่ใส่ใจสิ่งแปลกปลอมที่คืบคลานเข้ามาในร่างกาย เปลือกตาพลิ้มหลับลง กัดริมฝีปากล่างกลั้นเสียงสะอื้น ปล่อยใจไปกับกระแสธารที่เชี่ยวกราก ไม่พยายามฝืน เพราะนั่นจะทำให้เธอเจ็บมากกว่าเดิมริมฝีปากหนาอ้าครอบเม็ดทับทิมสีระเรื่อ เขาดูดดื่มทรวงงามแรงๆ จนหญิงสาวครางลั่น กลไกธรรมชาติปรับตัวแบบอัตโนมัติ น้ำหวานฉ่ำเยิ้มถูกกลั่นออกมาจากซอกลึกลับ หล่อชโลมแก่นกายขึงขังจนชุ่มโชก แมทธิวทดลองเคลื่อนกายช้าๆ ความคับแน่นไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป เมื่อส่วนนั้นชุ่มโชกไปด้วยละอองปรารถนาชายหนุ่มเริ่มโถมเข้าใส่ มือแข็งแรงรั้งเอวคอดกิ่ว กระแทกอัดกับตัวตนแรงๆพรึ่บ! พรึ่บ!เสียงผิวกายเปียกเหงื่อกระแทกใส่กันดังก้องห้องนอนกว้าง เสียงครางคร่ำแผ่วพร่า ที่ระดับความดังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แมทธิวสูดปาก ครางเสียงแหบห้าว เขาเร่งความเร็วมากขึ้น พอๆ กับเพิ่มแรงโยกจนเรือนกายอวบอิ่มกระเพื่อมไหวทั้งลำตัว ชายหนุ่มโ
โหนกแก้มแดงก่ำ ดวงตาฉ่ำเยิ้ม ยืนยังยืนไม่อยู่ แต่ก็ยังมีแรงบีบบังคับเธอจนได้“อลิสไม่เลือก...ขออยู่ห่างๆ คุณสะดวกใจกว่า”หญิงสาวเชิดหน้าตอบ“เสียใจอลิชา...เธอเลือกไม่ได้ ไม่ว่าจะเมีย หรือนางบำเรอ หน้าที่ของเธอ คือการนอนกับผม!”ชายหนุ่มตะคอกกลับ เขาเดินเอียงไปเอียงมา ก่อนจะกระโจนเข้าใส่หญิงสาว จนล้มกลิ้งไปด้วยกันทั้งคู่ บนที่นอนหนาและกระเพื่อมเหมือนระลอกคลื่น“อืม...” เสียงทุ้มต่ำครางในลำคอ ปลายจมูกซุกอยู่ตรงแอ่งชีพจร กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ระเหยออกมาจากผิวกายนวลเนียน ทำให้แมทธิว หมดความยับยั้งชั่งใจปลายลิ้นสากและร้อน แลบออกมาเลาะเล็มผิวเนื้อชื้นเหงื่อ เขาตวัดปลายลิ้นเบาๆ จนคนใต้ร่างสะดุ้ง! มือของเธอพยายามดันลำตัวหนาหนักที่มีแต่กลิ่นแอลกอฮออล์ออกไปให้พ้น แต่แมทธิวเกร็งตัวไว้ เขาจูบดะไปทั่ว เร่งปลุกกระแสความกระสัน ก่อนที่ตนเองจะหมดแรงความเสียวซ่านก่อตัวทีละน้อย เป็นเหมือนคลื่นลมเบาๆ ที่พัดเข้าหาฝั่ง ก่อนจะทวีอานุภาพความแรงขึ้น จนแม้แต่หาดทรายเรียบกริบ ยังแทบจะล่มสลาย
พอเอาเข้าจริงๆ อุตส่าห์ยกเลิกการประชุม ยกเลิกนัดกับลูกค้า ยกเลิกนัดกับสาวโสภาที่กำลังคั่ว! แมทธิวกลับไม่กล้ากลับไปที่คฤหาสน์ไบเล่ย์ เขาหาข้ออ้างให้ตัวเองไม่ได้ และกลัวว่าอลิชาจะวางตัวไม่ถูกชายหนุ่มมาหมกตัวอยู่ที่ผับชั้นสูงแห่งหนึ่ง เขาดื่มบรั่นดีย้อมใจ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่กล้า...สามชั่วโมงที่ทนกระวนกระวาย จนแอลกอฮอลล์ เข้าไปแทนที่เลือดเกือบทุกพื้นที่ มันคงเต็มที่จนความกลัวหายไปจนหมด“เช็กบิลด้วยไอ้น้อง!” เสียงอ้อแอ้ร้องสั่งบริกรที่เดินผ่านไปมา บัตรเครดิตสีดำถูกยื่นส่งให้ ก่อนจะกระดกบรั่นดีแก้วสุดท้าย สาดหายไปในลำคอ ชายหนุ่มเดินโงนเงน คลำทางไปจนถึงรถยนต์คันหรู พาหนะยี่ห้อหรู และมีได้เฉพาะคนกระเป๋าหนักเท่านั้นชายหนุ่มถอยรถยนต์ ขับเคลื่อนออกจากที่ ด้วยสติที่ไม่เต็มร้อย ความมึนเมาทำให้เกิดอุบัติเหตุเล็กๆ ชายหนุ่มเสยกระจังหน้ากับเสาไฟฟ้าข้างทาง แต่ก็ยังพาพาหนะสุดหรู กลับมาถึงคฤหาสน์หลังงาม โดยที่คนขับไม่ถูกรถบรรทุกเสยเอาไปกินเสียก่อนแต่...กระถางต้นไม้ราคาแพง ที่ตั้งอยู่ตามสองข้างทางถูกเสยเรียบ...คนงานส่ายศีรษะ
บทที่15.อยากเป็นอะไรล่ะ เมีย หรือ นางบำเรอ?ในขณะที่อลิชากำลังปรับตัวเข้ากับที่อยู่ใหม่ เจ้าของบ้านหลังมหึมากลับกำลังคร่ำเคร่งกับงานมากมายที่กองท่วมหัว เขาหงุดหงิดเป็นครั้งแรก! นับตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่แทนบิดา ชายหนุ่มเริ่มเบื่อที่งานมีมากมายก่ายกองจนทำแทบไม่ทัน แฟ้มเอกสารกองจนเกือบล้นโต๊ะ เอกสารด่วนที่เมื่อก่อนแมทธิวชอบตรวจทาน เวลานี้ชายหนุ่มนึกอยากจะโยนงานเหล่านี้ ให้คนอื่นๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเองบ้าง เขาอยากมีเวลาส่วนตัวกับใครบางคน“อันนี้ผมต้องดูด้วยเหรอ? หัวหน้าแผนกนั้นไม่มีหรือไง?”เสียงเข้มๆ ตวาดลั่น แฟ้มงานสีดำหนาเตอะถูกเหวี่ยงจนกระเด็น ตามด้วยแฟ้มงานอีกหลายแฟ้มที่ CEO หนุ่มโยนตามมาติดๆ“เออ...” สุเมธการ์ดหนุ่มกึ่งเลขานุการ ทำหน้าพิกล...เขามองเจ้านายหนุ่ม สลับกับแฟ้มเอกสารในมือ...ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะโครงการเล็ก หรือใหญ่ แมทธิวขอมีเอี่ยวด้วยตลอด เขาอยากเห็นความคืบหน้า แต่เวลานี้เจ้านายกลับรำคาญ“ต่อไปนี้ อะไรที่ไม่สำคัญ ให้เขาตัดสินใจกัน
อลิชาไม่ได้ตอบในทันใด เธอเดินไปหย่อนบุตรชายไว้กลางเตียงนอน รณฤทธิ์ผวาเข้าหาตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ขนนุ่มฟู เขาหมดความสนใจมารดา เมื่อมีของเล่นถูกใจ“เรื่องมันยาวค่ะป้า ว่าแต่ป้าไม่ได้อยู่บ้านฉัตรสุวรรณแล้วเหรอคะ?”หญิงสาวจูงมืออดีตคนในบ้านฉัตรสุวรรณ เดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟาปลายเตียง“ออกนานแล้วล่ะค่ะ...อีคุณนายมันไม่ยอมจ่ายค่าแรง...ค้างหลายเดือนจนทนไม่ไหว! ติ๋มต้องกินต้องใช้น่ะค่ะ เลยกระเสือกกระสนมาหางานทำ ได้มาทำงานที่นี่ก็เหมือนอยู่บนสวรรค์ คุณแมทเธอไม่จุกจิก...ทำงานตามหน้าที่ รับเงินเดือนเต็มร้อย...”“ลุงสบายดีมั้ยคะ?” อลิชาเลี่ยงที่จะถามถึงสมาชิกในบ้านฉัตรสุวรรณคนอื่น เมื่อความเจ็บปวดยังไม่จางหายไป“คุณภพเธอก็อยู่ตามอัตภาพ เธอไม่รู้หรอกว่าเมียกับลูก ทำระยำตำบอนยังไงบ้าง...พูดแล้วยังแค้นไม่หาย...ติ๋ม ลาออกมานี่ เงินซักแดงยังไม่ได้เลยค่ะ”อลิชานิ่วหน้า...ฐานะของฉลวยไม่ได้อัตคัดถึงขนาดเงินขาดมือ จนต้องค้างค่าแรงลูกจ้าง...เกิดอะไรกับสภาพคล่องทางการเงินของคนบ้านนั้น“เกิดอะไรขึ้นคะ?”
ไทธัชแอบอมยิ้ม ไอ้ที่แมทธิวยอมง่ายๆ เพราะกลัวเสียชื่อนั่นเอง เสือผู้หญิงนอนเป็นหุ่นปูนปั้น จับพลิกซ้ายพลิกขวายังไม่รู้สึก กับผู้หญิงที่อวบอัดไปทั้งตัว เขาทำได้แค่...นอนมอง...ใครรู้เขา ชื่อเสียงคงป่นปี้ แต่อะไรก็ตามที่ทำให้แมทธิวสมยอม ไทธัชภาวนา... พระเจ้าคงไม่ใจร้ายเกินไป เพราะอลิชาทนทุกข์มานาน ผู้หญิงน่าสงสารคนนั้น ควรมีความสุขสักที ในเมื่อแมทธิวเป็นคนป้ายรอยราคีไว้บนร่างกายอลิชา เขาควรต้องรับผิดชอบผลพวงในเหตุการณ์ครั้งนั้น รณฤทธิ์จะได้มีพร้อมทั้งพ่อและแม่“แต่...”“เอาไงก็ว่ามาเลยไอ้ไท อย่ามาโยก?”แมทธิวหันไปหาเพื่อนหนุ่มไม่ได้สนใจผู้หญิงข้างตัว เสียงพึมพำไม่ได้ทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไป แมทธิวอยากรู้เหมือนกัน ไอ้ตัวเจ้าแผนการ มันจะทำยังไงต่อ...“ไม่อะไรหรอกไอ้คุณเพื่อน...แค่ขอให้คุณรับผิดชอบสิ่งที่ทำ...ตามประสาลูกผู้ชาย ผมเชื่อว่าคุณไม่ใช่คนใจร้ายนะแมท ผู้ชายทั้งแท่ง กล้าทำก็ต้องกล้ารับ... ยังไงละก็เมตตาอลิสด้วยล่ะ...อย่าใจร้ายนักเลยว่ะ”มองตากันตามประสาผู้ชาย แมทธิวไม่ได้เป็นคนโหดร้าย เพียงแ