คำพูดของน้ำอิงทำให้แมทธิวสะดุด มันฟังแปลกๆ พิกล หล่อนมี ‘ลูก’ แสดงว่าผ่านการมีสามีมาแล้ว แต่ทำไมที่น้ำอิงพูดมานั้น เหมือนกับว่าแม่สาวนาม ‘อลิส’ คนนั้น ยังไร้คนข้างกาย ไม่หรอกน่า หล่อนมีลูกแล้ว!! เป็นความกังขาที่เกิดขึ้นในสมองสั่งการของแมทธิว
“อลิสไม่มีทางไปจากที่นี่หรอกน่าคุณอิง...เธอไม่เคยสนใจเพศตรงข้าม...คุณก็เห็น”
คำพูดของเพื่อนรักยิ่งย้ำให้แมทธิวสับสน
“แม่ครัวบ้านคุณไม่มีสามี แต่มีลูกงั้นเหรอ?” ชายหนุ่มยอมเสียมารยาท เขาโพล่งออกมาเสียงดัง
สองสามี-ภรรยาชะงัก คงเพราะลืมตัว จนเผลอพูดความลับของอลิชาออกมาให้คนนอกร่วมรับรู้
“อย่าไปสนใจเลยว่ะแมท...เรื่องของคนงาน...ผมแค่ชี้แจงให้คุณอิงสบายใจ...หากเราดูแลดี ไม่มีใครอยากไปไหนหรอก”
“ใช่ค่ะๆ อย่าสนใจเรื่องกวนใจของคนทำงานบ้านเลยค่ะ ว่าแต่คุณแมทเถอะ หมู่นี่เงียบฉี่ เบื่อสาวๆ แล้วเหรอคะ?”
แมทธิวมีคู่ควงมากหน้าหลายตา เขาใช้ชีวิตหนุ่มโสดคุ้มค่าที่สุด แม้จะต้องจ่ายหนักไปสักหน่อย เมื่อนิยามของเขา ไม่มีการสานต่อ หากเต็มใจที่จะคบกับแมทธิว ก็ต้องเตรียมใจไว้ในวันที่ลาจาก เมื่อชายหนุ่มพร้อมจะถอยหนี หากคู่ควงคนไหนคิดจะจริงจังกับเขา เขายินดีจ่ายแบบไม่เกี่ยงราคา...แต่ไม่คิดจะเดินหน้าต่อ ขอจบลงแค่คนเคยรู้จักกันก็พอ
หนุ่มสุดฮอตไหวไหล่ “เบื่อ!” เขาตอบภรรยาเพื่อน คว้าแก้วบรั่นดีขึ้นมากระดกดื่ม
“เบื่อ?” น้ำอิงขมวดคิ้ว เธอไม่เข้าใจ
“มันเยอะเกินเลยเบื่อ...เหรอ!” ไทธัชหัวเราะร่วน สาวล้อมหน้าล้อมหลัง จนเพื่อนหนุ่มเกิดความเซ็ง
“แบบนั้นแหละ...น่ารำคาญ มีแต่จ้องจะจับ” หลายคนเสนอตัวให้ฟรี! แต่หวังผลมากกว่านั้น เพียงแต่แมทธิวรู้ทัน...เขาไม่เคยพลาด...
“แหม! พ่อหนุ่มเนื้อหอม...อยากหล่อ รวยทำไมล่ะวะ!”
ในนาทีนี้ผู้ชายโสด และภาษีดีที่สุด คงไม่มีใครเกินหน้าแมทธิว ไบเล่ย์
“ช่วยไม่ได้ อยู่เฉยก็รวยเอง บอกตรงๆ นะ ผมดีเกินไป จนไม่มีผู้หญิงคนไหนคู่ควร” หนุ่มสุดฮอตไหวไหล่ เขาชะงักไปนิด เมื่อใครบางคนเดินเข้ามาในสายตา
เปลือกตากะพริบถี่ๆ ความทรงจำในอดีตพุ่งชนหัวใจจังเบอร์! เงาร่างผู้หญิงสุดร้อนแรง ผู้หญิงที่ทำให้เขาแทบคลั่งในค่ำคืนสุดหฤหรรษ์ บทรักร้อนฉ่าทะลุปรอทแตก! เป็นเกมรักครั้งเดียวที่ดุเดือดกับผู้หญิงที่ ‘จ่าย’ สตางค์ซื้อมา...
อลิชาก้มหน้าต่ำ เธอไม่ได้สนใจแขกของเจ้านาย เพียงแค่ทำหน้าที่ตนเองให้จบๆ จะได้ไปดูแลลูกน้อยที่นอนหลับรออยู่ในห้อง
“อะไรเหรออลิส?”
น้ำอิงเบี่ยงตัวหลบทางให้ เธอมองชามแก้วใบใหญ่ที่หญิงสาวใต้บังคับบัญชาประคองเข้ามา
“ยำวุ้นเส้นค่ะคุณอิง...” หญิงสาวเงยหน้าตอบ เธอรีบหลุบเปลือกตาลง...หางตามองเห็นใครบางคนที่เค้าหน้าคุ้นตาจนใจหายแวบ!
แมทธิวจ้องหญิงสาวแบบจริงจัง...จน... “คุณรู้จักอลิสเหรอวะแมท...มองเหมือนจะให้เห็นถึงไส้ ถึงพุง”
ไทธัชพูดดักคอ น้ำอิงจึงหันมาให้ความสนใจเพื่อนของสามี
อลิชากัดอุ้งปากจนชา เธอเม้มปากแน่น พยายามก้มหน้าหลบสายตาคนมาใหม่
“เหมือนเคยเห็น” ชายหนุ่มเปรย แต่คนร้อนตัวถึงกับสะดุ้ง! เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะจำเธอได้ ในครั้งแรกที่เจอกันจังๆ
“เป็นไปได้ อาจจะเคยผ่านตา” ย้ำวุ้นเส้นรสเด็ด ไทธัชตักใส่ปากก่อนจะเปรยเมื่อคิดออก
“ใช่ค่ะ อิงว่านะ... คุณแมทอาจจะเดินสวนกับอลิสก็ได้ อลิสทำงานที่ไบเล่ย์นี่”
น้ำอิงรีบกล่าวเสริม สองสามี-ภรรยาไม่รู้ความนัยระหว่างแมทธิวกับอลิชา
“คงงั้น!” ชายหนุ่มรีบรับสมอ้าง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมุมปาก
เขาลืมหล่อนไปเสียสนิท เพราะช่วงเริ่มต้นขยายกิจการงานล้นมือ จนลืมไปเลยว่าผู้หญิงที่ติดอยู่ในความทรงจำ เดินผ่านกลับมาอีกครั้งในชีวิต หล่อนหายไปเหมือนไม่มีตัวตน ไม่ว่าจะเสนอค่าตอบแทนมากเท่าไหร่ สิ่งที่ได้รับคือคำปฏิเสธ จู่ๆ หล่อนก็โผล่มาให้เห็นหน้าตาเฉย แถมท้าย...หล่อนอยู่ใกล้เขาแค่เส้นผมบังตา...
“อลิสขอตัวนะคะคุณอิง” หญิงสาวรีบหาทางเลี่ยง
แมทธิวไม่ได้รั้งไว้ เขาชำเลืองมองหล่อนทางหางตา แสร้งทำเป็นหัวเราะต่อกระสิกกับมุกฝืดๆ ของเพื่อน เมื่อความคิดในสมองของเขาส่วนใหญ่ อยู่ที่ผู้หญิงคนนั้น...อลิสเหรอ อลิสในแดนมหัศจรรย์ เขาครางชื่อหล่อนในลำคอแผ่วๆ หลุบเปลือกตาลง ฝันถึงค่ำคืนร้อนแรง...อีกครั้ง...
มือเรียวยกทาบแผ่นอก พ่นลมหายใจแรงๆ เพราะรีบสาวเท้าเดินเร็วๆ จนเกือบสะดุดล้ม
“เวรกรรมอะไรน่ะอลิสเอ๋ย...ตานั่นโผล่มาได้ยังไงนะ”
ที่ไบเล่ย์ เธอหลบแมทธิวแทบเป็น แทบตาย เขากลับโผล่หน้ามาให้เธอเห็น แบบเลี่ยงไม่ได้
ใบหน้าเล็กๆ สะบัดไปมา เธอสลัดความกังวลทิ้ง ไม่มีอะไรน่ากลัว หากเธอไม่กระโตกกระตาก...ผู้ชายที่หลงตัวเองอย่างเขา ไม่สนใจคนระดับล่างแบบเธอหรอก ต่อให้เขาจำเธอได้... เขาก็ไม่ยี่หระและไม่คิดจะแล เมื่อมีสาวสวยล้อมหน้าล้อมหลัง...ไม่จำเป็นต้องมาสนใจ ‘ทางผ่าน’ ที่เคยเหยียบย่ำมาแล้ว
หลังจากทำใจจนรู้สึกดีขึ้น อลิชาเดินเลาะกลับไปที่ห้องพักตัวเอง
“ตื่นหรือยังคนเก่ง” หญิงสาวร้องทัก ฟักทองเลยเอ่ยขอตัว
“พี่ฟักไปอาบน้ำอาบท่าดีกว่า เดี๋ยวมาหาใหม่นะครับ” เด็กชายที่ตื่นขึ้นมาแล้ว กำลังนอนเล่นของเล่นสีสดใสในมือ รณฤทธิ์ยิ้มแผล่ “แหมะ แหมะ...หม่ำๆ” น่าจะเป็นคำพูดติดปากของเด็กที่กำลังอยู่ในช่วงวัยนี้ ร่างอ้วนกลมดันตัวยักแย่ยักยันลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับชูมือป้อมๆ ส่งให้มารดา
“หิวเหรอคะ...ป่ะ แม่หาอะไรให้ทาน” มัวแต่ยุ่งกับภารกิจของเจ้านาย อลิชาลืมเรื่องอาหารของลูกน้อยเสียสนิท
มือเรียวรวบกอดร่างอ้วนกลมที่น่าจะเกินพิกัดไปสักนิด สำหรับเด็กวัยเดียวกัน ปลายจมูกกดลงข้างแก้มยุ้ย จนเจ้าตัวดิ้นขลุกขลัก
ลูกคือของขวัญที่ทำให้เธออยากมีชีวิตอยู่ เขาคือแรงใจทั้งหมดที่อลิชามี รณฤทธิ์เป็นดังหัวใจทั้งดวงของเธอ
เก้าอี้สำหรับเด็กนั่ง หญิงสาวลากมาไว้ใกล้ๆ โต๊ะ จับเด็กชายนั่งบนนั้น พร้อมกับยัดของเล่นใส่มือ เธอชำเลืองมองบุตรชายบ่อยๆ ขณะที่สาละวนอยู่หน้าเตาไฟ เพื่อปรุงอาหารมื้อเย็นให้ลูกน้อย
กลิ่นหอมกรุ่นลอยฟ่อง จนคนที่เดินผ่านยังต้องชะงัก ปีกจมูกไหวเพยิบพะยาบ เมื่อเผลอตัวสูดกลิ่นหอมๆ นั่นเข้าไปเต็มปอด
ปลายเท้าใต้รองเท้าหนังมันวับ ขยับเดินตามกลิ่นไปแบบอัตโนมัติ...ครัวเล็กๆ ด้านหลังบ้าน บรรยากาศร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า...แมทธิวเอียงหูฟัง เขาได้ยินเสียงหัวเราะ มีสองเสียงผสมกัน เป็นเสียง ‘เด็ก’ กับ ‘ผู้หญิง’ ช่องประตูที่เปิดกว้าง แมทธิวชะเง้อมอง เขายิ้มกริ่ม เมื่อคนที่อยู่ภายใน คือคนคุ้นเคย...หล่อนนั่นเอง...
อาหารอ่อนๆ ที่ปรุงให้บุตรชายได้รับประทาน อลิชาใช้ช้อนตัก เป่าจนเย็นขึ้นก่อนจะส่งช้อนนั่นให้บุตรชายตัวน้อย เธอคอยเป็นพี่เลี้ยงให้ และพยายามสอนให้เขาช่วยเหลือตัวเอง คำแรกที่จัดการให้คือการทำเป็นต้นแบบ หลังจากนั้นรณฤทธิ์จะทำตาม เสียงเป่าดังๆ ให้ความร้อนของอาหารที่ถูกส่งเข้าปากลดอุณหภูมิลง กับเศษอาหารที่กระจายเกลื่อน อลิชาอมยิ้ม ยกนิ้วให้บุตรชาย เป็นกำลังใจให้เขาพยายามมากขึ้น ผ้าเช็ดปากที่เปียกนิดๆ เธอคอยเช็ดคราบอาหารที่เลอะเทอะตามตัว และสอนให้เขารู้จักระมัดระวังไม่ทำอาหารหกซ้ำ มันอาจจะเป็นงานที่น่าเบื่อ แต่คนเป็นแม่มีหรือจะท้อ เมื่อชีวิตทั้งชีวิตของเธอ อุทิศให้บุตรชายได้เสมอ...แม่เป็นครูคนแรก เป็นอะไรหลายๆ อย่างให้กับบุตร...ไม่เคยมีเสียงบ่นและไม่เคยท้อถอย“ร่อยๆ แหมะฮาร์ทเก่งๆ”คำพูดยังไม่ชัดเจน เพราะกำลังอยู่ในช่วงฝึกฝน...แต่เด็กวัยนี้ทุกคนเรียนรู้และมีพัฒนาการไวมาก...หญิงสาวยิ้ม เช็ดผ้าเปียกที่ข้างแก้ม “ทานเยอะๆ ค่ะ ฮาร์ทจะได้ตัวโตไวไว” เธอกล่าวสนับสนุน ซึ่งเด็กชายก็พร้อมปฏิบัติ เขาใช้ช้อนพลาสติกตักอาหารในถ้วยยกใส่ปาก ยิ้มให้มารดาจนตาหยี เมื่อมารดากล่าวชมไม่ขาดปาก“อะแห้ม!” เสียงกระแอ
บทนำ‘นางบำเรอ’ คำนี้คือตราบาปในชีวิตของเธอเพราะความโชคร้าย อลิชาเลยกลายเป็น...สาวขายบริการความสัมพันธ์ครั้งนั้นมี ‘ของฝาก’ ติดท้องมาด้วยญาติกลุ่มสุดท้ายที่เลี้ยงดูเธอแทนบุพการีที่เสียชีวิต ป้ายรอยราคีนั้นด้วยการ ‘ขาย’ เธออลิชาหนีหัวซุกหัวซุนจากขุมนรกที่เคยคิดว่าคือสถานที่ปลอดภัยเธอโผบินออกจากรัง ไม่ต่างอะไรกับนกปีกหักความเสียใจทำร้ายจนแทบหมดหวัง แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็กลับมีกำลังใจขึ้น ‘ของฝาก’ มีชีวิตกระตุ้นให้เธอลุกขึ้นสู้ความเป็นแม่ทำให้อลิชากัดฟันสู้ ความสำเร็จคืบคลานเข้ามาในชีวิต พร้อมเค้าลางหายนะ!!ผู้ชายคนเดิม คนที่ใช้ ‘เงิน’ ซื้อตัวเธอ เขากลับมาและเขาจำเธอได้ อลิชาจะทำยังไงดีกับความลับที่เก็บไว้ เธอคิดจะหนี แต่ดูเหมือนสถานการณ์ไม่เป็นใจบางครั้งพระเจ้าก็โหดร้ายกับมนุษย์ตัวเล็กๆ เสียเหลือเกิน ทั้งที่มนุษย์บนพื้นโลกก็ไร้ซึ่งกำลังที่จะต่อต้านอำนาจที่เหล่าพระเป็นเจ้ามี หรือบางทีมันอาจเป็นบาปที่คนอย่างเราต้องแบกรับไว้ก็เป็นได้... เป็นบทลงโทษที่มนุษย์ทุกผู้ทุกคนต้องชดใช้อลิชาคงเป็นอีกคนที่มีกรรมหนัก ชีวิตของเธอแทบจะหาความสบายไม่ได้เลยสักครั้งในชีวิต...เกิดมาพร้อมกับความทุกข์ร
บทที่1.ทาสในเรือนเบี้ย“อลิส! อีอลิส” เสียงตะโกนเรียกชื่อเธอดังโหวกเหวกอยู่หน้าห้อง หญิงสาวร่างเล็กบอบบางงัวเงียตื่นจากห้วงฝัน มือเรียวหยาบกร้านยกขึ้นเสยผมสีน้ำตาลอ่อนยับยุ่งให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะโผเผเดินไปเปิดประตูและขานรับ “ขาป้า...จะใช้อะไรอลิสเหรอคะ?”ฉลวยเบ้ปากมองสภาพแสนโทรมของหลานสาวด้วยสายตาดูถูก ร่างเล็กบางผอมแห้ง เหมือนมีแต่กระดูกมากกว่ามีเนื้อมีหนัง“สายโด่งป่านนี้ไม่คิดจะลุกมาทำอะไรให้ฉันกินหรือไงยะ!!?”เสียงแหลมปรี๊ดเพราะกำลังหิวจัด กรรโชกข่ม“ขอโทษค่ะ เดี๋ยวอลิสออกไปเตรียมไว้ให้”หญิงสาวก้มหน้ารับคำสั่ง เธอปิดงับประตูพร้อมกับที่คนสั่งเดินสะบัดก้นไปอีกทาง...ลมหายใจถูกพ่นออกมาแรงๆ มือเรียวผอมบางคว้าผ้าเช็ดตัวผืนเก่าพาดไว้บนบ่า แล้วจึงเดินเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเล็กๆ ภายในห้องนอน“คุณนายไปลากมาจากที่นอนอีกล่ะสิ” ติ๋มร้องทัก นางกำลังสาละวนกับงานในครัวอย่างขะมักเขม้นอลิชายิ้มกร่อยๆ ส่งให้ เธอคว้าหม้อใบขนาดพอเหมาะมือจัดแจงตักข้าวสารใส่ลงไป ทำตามด้วยกระบวนวิธีปรุงอาหาร เพื่อทำอาหารมื้อเช้าให้คนบนตึกได้รับประทาน...“คุณนายนี่ก็แปลกคน ติ๋มจะทำให้เอง...ก็ไม่ยอม ต้องไปลากหน
สายหยุดกล่าวเสียงเย็น ฉากหน้าของหล่อนคือเศรษฐีใจบุญ ทำทานไม่เคยขาด แต่เบื้องหลังแล้ว สายหยุดทำธุรกิจบนหลังคน ปล่อยกู้ดอกแพงมหาโหด แต่ก็ยังมีคนหน้ามืดแวะเวียนไปมาหาสู่ไม่ขาดสาย รวมทั้งฉลวยด้วย“อีคุณนายหน้าเลือด ตามจิกยิกๆ เชียวมึง!” หลังกดวางสาย ฉลวยก่นด่าสายหยุดไม่หยุดปาก นางฉวยกระเป๋าสตางค์ล้วงธนบัตรออกมานับเงินมือเป็นระวิง “ขาดไปห้าพัน เอาไงดีล่ะ” เพิ่งควักกระเป๋าจ่ายให้อลินดาไป เงินที่ต้องจ่ายดอกสายหยุดจึงไม่พอ ฉลวยขมวดคิ้วจนหน้าย่น คิดหาทางเอาตัวรอด ไม่อย่างนั้นคงได้ขายขี้หน้าเพราะปากสายหยุด นางถนัดนักล่ะการประจานคน...ชื่อเสียงของครอบครัวนางคงได้ป่นปี้ครานี้ปฏิทินข้างผนังบ้าน วันที่ตรงกับวันเงินเดือนออกของอลิชาพอดี มุมปากสีซีดเหยียดยิ้ม คงต้อง ‘ขูด’ มาจากหลานสาวอีกครั้งนางลุกขึ้นยืน...เดินฉับๆ ไปด้านหลังบ้าน ห้องพักที่สร้างให้อลิชาพักอาศัย สถานที่ที่เธอจะได้สิ่งที่หวังก๊อกๆ นางบรรจงเคาะประตูไม้เนื้อแข็งแรงๆ“คะ ใครคะ?” เสียงหวานๆ ร้องถาม“ฉันเองยะ!” นางตอบพร้อมกับถอยหลังมายืนห่างประตูเล็กน้อย“คุณป้ามีอะไรใช้อลิสอีกเหรอคะ?” หญิงสาวรีบดันประตูเปิด เธออยู่ในสภาพพร้อมที่จะไปทำงา
บทที่2.นางบำเรอขัดดอก“อีตอนมาเอาเงินนี่... กราบฉันเสียเป็นร้อยๆ ครั้ง แต่เวลามาคืนนี่... ต้องให้จิกซ้ำถึงจะยอมโผล่หน้ามาให้เห็นนะยะ”ปลายเล็บเคลือบยาทาเล็บสีแดงสดกรีดไปตามธนบัตรใหม่เอี่ยม ปากสีแดงแจ๊ดพร่ำบ่นเสียงไม่ต่างอะไรกับแม่ค้าหาบเร่ เมื่อทั้งดังและแหลมปรี๊ด“เงินมันหายากนี่คุณนาย...ดอกก็แพงด้วย” หางเสียงแผ่วๆ ก่อนจะเสหลบตา เพราะสายตาคมดุตวัดมามองพอดี“ฉันบอกหล่อนแล้วนี่ยะ ก่อนที่หล่อนจะมาหยิบยืม ตอนนั้นทำไมไม่ท้วงล่ะ พอตอนจะคืนมาโวย”หญิงสาวผู้นั้นก้มหน้าลง เพราะขัดสนจึงต้องใช้บริการคุณนายสายหยุดหน้าเลือด ดอกเบี้ยแพงและโตไว้ยิ่งกว่าเมล็ดข้าวโพดโดนความร้อนเสียอีก“นั่นใครล่ะ อ๋อ! แม่ฉลวยเข้ามาเลย ฉันกำลังรออยู่”ฉลวยเดินหน้าม่อยเข้ามา นางทิ้งตัวลงนั่ง กระแทกลมหายใจแรงๆ ตอนที่ล้วงธนบัตรในกระเป๋าออกมาทั้งหมด“เหลือเท่าไหร่แล้วคะคุณนาย ฉันส่งมาหลายงวดแล้วนะเมื่อไหร่จะหมดสักที” ฉลวยบ่นอุบ หาเงินตัวเป็นเกลียวเพื่อจะมาใช้หนี้สายหยุด โดยไม่รู้ว่าจะหมดเมื่อไหร่สมุดเล่มโตถูกเปิดออกด้วยนิ้วป้อมๆ ปลายเล็บเคลือบสีสันฉูดฉาดไล่เลียงหารายชื่อ ก่อนจะยิ้มมุมปากหยันๆ “หล่อนต้องหาอีกนานเลยล่ะแม่ส
“หามาเถอะน่า...แล้วแม่จะอธิบายให้ฟัง...” ฉลวยบอกปัด เริ่มละอายใจเล็กน้อย“อลินอยากรู้ค่ะ” อลินดากังขา เธออยากรู้วัตถุประสงค์ของคนเป็นแม่ฉลวยมองสบนัยน์ตาบุตรสาว นางถอนใจเฮือก ก่อนจะเปิดปากเล่าความคิดในใจให้อลินดาฟังสาวรุ่นยิ้มกริ่ม “ได้ค่ะ อลินจะหาให้...ให้อลินช่วยนะคะแม่...” หล่อนออกตัว อยากช่วยมารดาจนเนื้อเต้น เมื่อได้กำจัดศัตรูทางอ้อม อยากเห็นวันที่อลิชาถูกย่ำยี...วันนั้นอลินดาคงมีความสุข เมื่อถีบส่งคนที่ตนเองเกลียดลงไปในขุมนรกหญิงสาวผู้นั้นเป็นหนามแหลมๆ ตำใจตนเองมาตั้งแต่เด็ก อะไรก็ตามที่อลิชาทำ คนรอบตัวมักจะชื่นชม และนำมาเปรียบเทียบกับตนเองบ่อยครั้ง ผลการเรียนของอลิชานำโด่ง จนไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหนก็ไม่มีทางตามทัน ทั้งที่เจ้าหล่อนอัตคัดเหลือทน การเป็นอยู่อดๆ อยากๆ แต่มันสมองนั่นก้าวล้ำกว่าคนที่เพียบพร้อมอย่างเธอหลายขุมอะไรก็ตามที่ทำให้หนามตำใจของตนเองตกต่ำลงได้อลินดาไม่รอช้าที่จะทำ เธอไม่เคยคิดสักนิดว่าอลิชาเป็นพี่ น้อง...เธอเกลียดหญิงสาวผู้นั้น และพร้อมที่จะเหยียบซ้ำ หากอลิชาก้าวพลาด“อย่าให้คุณพ่อแกรู้เชียวนะอลิน...เพราะพ่อแก เขาไม่ชอบเรื่องพรรค์นี้”ฉลวยกำชับบุตรสาว“ค่ะ
บทที่3.ผู้หญิงไม่มีราคา“โอยไม่เอาหรอก พันธะ ภาระผูกพันนี่น่าเบื่อตายห่า! ผมซื้อกินดีกว่าสบายใจด้วย”คำตอบที่แมทธิว ไบเลย์ใช้ตอบคนรอบตัว หนุ่มโสดที่ทั้งหล่อและรวย ใช้ชีวิตคุ้มค่าตามประสาลูกหลานคนมีเงิน ชายหนุ่มไม่เคยอายที่จะใช้บริการผู้หญิงหากิน แต่เขาก็ไม่ได้มั่วกินไม่เลือก ชายหนุ่มมีสถานที่ประจำ ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เดินเข้ามาหาเขา ไม่ใช่ผู้หญิงช้ำๆ ผู้ชายที่เพียบพร้อมแบบเขา หาผู้หญิงมานอนด้วยไม่ยาก เมื่อชายหนุ่มเข้าขั้นรูปหล่อพอฟัดพอเหวี่ยงกับดาราดังๆ หลายคน ณเดชที่ว่าหล่ออารมณ์ดี หากมายืนเทียบกับแมทธิวตอนนี้ สง่าราศีของชายหนุ่มอาจนำโด่ง...ผู้หญิงเป็นร้อยพร้อมที่จะเดินขึ้นเตียงกับแมทธิวฟรีๆ แต่...ชายหนุ่มไม่นิยม เขาตัดความรำคาญโดยการไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงรอบตัว เขาจ่ายเงินเพื่อความสบายใจ...ง่ายกว่ามาปวดหัวกับเรื่องหยุมหยิม...ในวันที่น่าเบื่อวันหนึ่ง...แมทธิวนั่งจมกับกองขวดเหล้า เขาดื่มเพื่อให้ลืมความเจ็บปวดในใจ...ใช่...เพราะอดีตในเยาว์วัย ชายหนุ่มจึงแอนตี้ผู้หญิง...แมทธิวโตมากับความรักของบิดา...ส่วนมารดาของเขานั้น หล่อนทิ้งแมทธิวกับคุณแอนเดอสันไปตั้งแต่ชายหนุ่มจำความได้ กนกรดาหอบผ
ฉลวยเอ่ยแบบคนเห็นแก่ตัว ข้าวแดงแกงร้อนที่รินรดหัว ถึงจะสำคัญ แต่หล่อนก็ไม่มีสิทธิทำตามอำเภอใจเช่นนี้“คุกนะแม่...หากอีนี่มันโวยขึ้นมา”อลินดายังพยายามท้วง...ถึงอยากให้อลิชาตกต่ำ แต่ความกลัวมีมากกว่า“มันจะกล้าโวยเหรอลูก...มันน่าจะอายมากกว่า”ผู้หญิงที่ถูกย่ำยีโดยผู้ชายที่ตนเองไม่รู้จักแม้แต่ชื่อแซ่ สิ่งแรกหล่อนน่าจะอับอาย และอลิชาหน้าบาง หล่อนไม่น่าจะโวยวาย“เอาไงก็เอา...มาถึงขึ้นนี้แล้ว...เราคงถอยไม่ได้แล้วล่ะแม่”สาวรุ่นสูดลมหายใจลึกๆ วางแผนมาอย่างดิบดี และแผนการนี้ดำเนินมาเกินครึ่ง...หากถอยคงไม่ทัน“ใช่...เพราะหากเปลี่ยนใจตอนนี้ แม่นี่แหละที่จะตาย...ไม่ใช่แกหรืออีอลิสหรอก... อีคุณนายนั่น ถลกหนังหัวแม่แน่”สายหยุดคงไม่ปล่อยเธอแน่ ไหนจะหนี้ที่พอกพูนเหมือนดินพอกหางหมู...ที่แน่ๆ หากงานวันนี้จบลง เธอปลดหนี้ได้ แถมมีเงินติดกระเป๋ากลับบ้านด้วยอลินดาตัดใจเปลี่ยนเสื้อผ้าเก่าๆ ปอนๆ ของอลิชาออก เธอแต่งตัวให้อลิชาใหม่ ด้วยเสื้อผ้าเก่าๆ ของตนเองหญิงสาวโชคร้ายนอนหลับไม่รู้เรื่อง ผิวหน้าของอลิชาเริ่มเปลี่ยนสี มีเม็ดเหงื่อไหลซึมออกมา และผิวแก้มมีริ้วแดงๆ เพราะความคุคลั่งภายในร่างกาย“เร็วๆ เถอะแ