เจ้าของบ้านเลยรีบตอบ “มีการประกวดเด็กน่ะ คุณอิงเขาเลยต้องหารูปเด็ดๆ ของเจ้าฮาร์ทส่งให้ช่อง หากเข้าตา จะได้เป็นดาราตั้งแต่2ขวบเลยนะ” เป็นการสนับสนุนอลิชาแบบอ้อมๆ เพื่อให้เธอมีทุนรอนไว้ให้บุตรชายในอนาคต
“ดีเหรอวะ ไหนจะแสง ไหนจะคน ทรมานเด็กไปหรือเปล่า!” แมทธิวติง เด็กตัวกะเปี๊ยกหากต้องไปอยู่ท่ามกลางผู้คน จะอึดอัดเปล่าๆ
“ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เห็นเป็นไร ลองเฉยๆ ผมไม่อยากขัดใจคุณอิง”
ไทธัชเองก็ไม่เห็นด้วย แต่ความคิดนี้เริ่มต้นที่น้ำอิง คนรักเมียหรือจะกล้าขัด
“แป๊บนะ ปวดฉี่ว่ะ” แมทธิวกระเด้งตัวยืน เขาเดินฉับๆ ออกไปด้านนอก
ไทธัชยกมือค้างในอากาศ ชายหนุ่มกำลังจะอ้าปากบอกเพื่อน แมทธิวก็เดินลิ่วๆ ออกไปเสียแล้ว
“ห้องน้ำข้างในก็มี จะเดินออกไปข้างนอกทำไมวะ?”
เมื่อแมทธิวหายลับไปจากสายตา...สุดปัญญาที่จะรั้งไว้ ไทธัชเลยหันไปสนใจหน้าจอทีวีแทน
“ไง...” เสียงห้าวๆ ทักดังจากด้านหลังจนอลิชาสะดุ้ง!
หญิงสาวหมุนตัวมามอง เธออ้าปากค้าง...เมื
แป๋มสะบัดค้อนให้ฟักทอง เดินกระแทกเท้านิดๆ เมื่อจำใจต้องถอยห่างผู้ชายหน้าตาดี ที่นานๆ จะหลงเข้ามาให้ตนเองได้ชื่นชมเด็กชายในอ้อมแขนดันตัวขยุกขยิก ฟักทองจึงปล่อยเขาไว้บนพื้น รณฤทธิ์ที่เพิ่งหัดเดินได้ไม่เท่าไร จึงก้าวเดินสะเปะสะปะ ฟักทองเลยถอยห่างแมทธิวมาแบบไม่รู้ตัว ดังนั้น... เมื่ออลิชาย้อนกลับมา จึงเหลือแค่เธอกับเขาเพียงแค่นั้น ชายหนุ่มนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ชิดกำแพง เขาไขว้ขาแบบสบายใจ ทอดสายตามองตนเองทุกย่างก้าวแมทธิวอมยิ้มน้อยๆ มองปลายจมูกโด่งๆ ของอลิชา ขณะที่หล่อนสาละวนกับการจัดการรอยถลอกบนฝ่ามือของเขา“เรียบร้อยแล้วค่ะ” หลังทำความสะอาด และทาผิวถลอกๆ นั่นด้วยยาฆ่าเชื้อ หญิงสาวกล่าวเสียงเรียบ รีบถอยห่างจากเรือนกายทรงพลังที่ทำให้เธอประหม่าได้ทุกนาที“ยังเจ็บอยู่เลย” ชายหนุ่มแสร้งโอดครวญ“เมื่อสักครู่ คุณยังบอกว่าไม่เป็นอะไรไงคะ!” หญิงสาวท้วง เก็บยาและอุปกรณ์ใส่กล่องเหมือนเดิม“มันคงชาอยู่ แต่ตอนนี้เจ็บแทบทนไม่ไหว” แมทธิวตอบเสียงแหบ เขาแทบทนไม่ไหวจริงๆ แต่ไม่ใช่เพราะเจ็บ เป็นเพราะอยากกระโจนใส่หล่
“มานั่งทำอะไรตรงนี้จ้ะอลิส คนอื่นๆ หายไปไหนหมด?”น้ำอิงกล่าวเสียงนุ่ม ทอดสายตาอบอุ่นมองสบนัยน์ตากลมใสของอลิชาแววตาของหญิงสาวมีแววกังวลจนเห็นเด่นชัด...“มีเรื่องให้คิดเหรออลิส?” เจ้านายสาวทรุดนั่งด้านข้าง เธอเอ่ยถามเพราะอยากช่วยแก้ปัญหานั้น เมื่อรู้สึกรักใคร่อลิชาประหนึ่งน้องสาวก็ไม่ปาน“คุณอิงคะ?” อลิชามองสบนัยน์ตานายสาว เธอกำลังชั่งใจ เรื่องที่เก็บไว้สมควรเปิดเผยหรือยัง “อลิสกลัว!” หางเสียงของเธอสั่น จนคนฟังยังรู้สึก“ไม่มีอะไรให้กลัวหรอกนะอลิส เรื่องเลวร้ายกว่านี้ อลิสยังผ่านมาได้เลย จะกลัวทำไม” น้ำอิงเตือนสติ ช่วงเวลาเลวร้ายกว่านี้อลิชายังก้าวผ่านมาได้โดยไม่หวาดหวั่น“มันไม่ใช่แบบนั้นค่ะ” หญิงสาวสูดลมหายใจแรงๆ เอื้อมมือสั่นเทาจับปลายนิ้วมือของนายสาว เมื่อตัดสินใจถี่ถ้วน “อลิสกลัว กลัวว่าจะมีใครบางคนพรากลูกไปจากอก...อลิสควรทำยังไงดีคะ?” หญิงสาวกลั้นใจตอนที่กล่าวออกไป ความลับคับอกนี่เธอเก็บมานานปี จนคิดว่าจะไม่เปิดเผยให้ใครอื่นรู้ ความลับนั่นจะถูกฝังไปพร้อม
บทที่10.เด็กตาดำๆ“หะ! คุณอิงว่าไงนะครับ” ทันทีที่ไทธัชตื่น น้ำอิงที่อดทนรอก็เปิดปากเล่าเรื่องอลิชาให้สามีฟัง ชายหนุ่มถึงกับอุทาน เขายกมือขยี้ใบหู ทำหน้าตาพิกลตอนที่ย้อนถามซ้ำ“ก็อย่างที่ได้ยินแหละค่ะ เรื่องที่คุณไทเคยกระเซ้าคุณแมทเล่นๆ มันเกิดขึ้นแล้วค่ะ! คอนดอมพวกนั้นคงหมดอายุ ตอนที่คุณแมทมีอะไรกับอลิส ตาฮาร์ทเลยได้ออกมาร้องอุแว้ๆ นี่ไงคะ”“เป็นไปได้ยังไง อลิสกับไอ้แมทอะนะ” เสียงครางผสมความสับสน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าโลกมันกลม คนสองคนที่เคยมี ‘ซัมติง’ กัน ถึงเวียนมาเจอกันอีก“ให้ตายเถอะ...ตอนนั้นอลิสอายุเท่าไรกัน? ต๊ายตาย...คุณแมทหลอกเด็ก”น้ำอิงอุทาน เธอยกมือทาบอก เวลานี้รณฤทธิ์ อายุ2ปีพอดี บวกไปบวกมา ช่วงเวลาที่แมทธิวกับอลิชา ‘ยุ่ง’ กัน ช่วงนั้นหญิงสาวเพิ่งโตเป็นสาวเต็มตัวได้ไม่นาน“แปลก” ไทธัชยกมือแตะข้างขมับ เขาไม่เคยเห็นแมทธิวควงอลิชามาก่อน หล่อนเป็นผู้หญ
“ไม่!” เสียงปฏิเสธหวานฉ่ำ จนอลิชาสะท้านชายหนุ่มเม้มปาก กดจูบผิวเนื้อสีระเรื่อแรงๆ จนเกิดริ้วรอยเล็กๆ ที่ลำคอระหง“บอสอยากขายขี้หน้าพนักงานเหรอคะ นี่ใกล้เวลาที่พวกเขาจะมากันแล้วนะคะ”เสียงสั่นๆ เอ่ยปราม เธอพยายามโก่งตัวหนี มือเรียวยกขึ้นดันแผ่นอกกว้างให้ระยะห่างระหว่างกันมีมากขึ้นอีกหน่อยกึกๆ เสียงส้นรองเท้ากระทบพื้นดังอยู่ไม่ไกลแมทธิวยืดตัว... ปล่อยมือจากข้อมือเรียว รีบหันหลังขวับ!เพราะกึ่งกลางร่างกายตนเอง กำลังประจานความต้องการล้นอก แมทธิวทนไม่ได้หากอลิชาจะรู้ หล่อนมีความสำคัญกับเขามากเพียงใด เพราะแค่เพียงแตะนิด แตะหน่อย เขาก็หมดความควบคุม ทำตัวเหมือนหนุ่มน้อยวัยละอ่อนที่ริลองรัก...คลุ้มคลั่งไม่สามารถควบคุมตนเองได้...“เธอนี่นะ!” ชายหนุ่มตวาด โมโหตัวเอง ไม่ได้โมโหใครเลยผู้หญิงคนนี้ทำให้การควบคุมตนเองของเขาต่ำลง ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะทำมิดีมิร้ายกับพนักงานในบริษัท เมื่อเขามีกำลังในการ ‘จ่าย’ และไม่ได้อดอยากอะไรเลย แค่กระดิกนิ้ว ผู้หญิงหลายคนก็พร้อมที่จะสลัดผ้าก
“เอาไงดีวะ?” ปัญหาที่ขบไม่แตก เพราะตัวปัญหาต่อต้าน หล่อนไม่สนใจข้อเสนอ ไม่สนใจสิ่งบรรณาการ แล้วเขาควรทำยังไงดี เมื่อสิ่งที่ต้องการสวนทางกับความคิดแมทธิวคิดหาทางรวบรัดอลิชาไม่ได้เลยมันอิหลักอิเหลื่อ เมื่อหล่อนอยู่ใต้การดูแลของเพื่อน...ไม่ได้มาเสนอตัวให้เขาถึงเตียงเหมือนครั้งก่อน...แถมแม่นั่น...ยังมีลูกติดตาดำๆ อายุอานามไม่เท่าไร เขาจะถูกประณามจากคนรอบตัว หากทำอะไรบุ่มบ่ามลูก นั่นสิ...ผู้หญิงคนนั้นมีบุตร แต่เท่าที่รู้ ข้างตัวหล่อนไม่มีใคร? แล้วเด็กนั่นมาจากไหน?มือเร็วเท่าความคิด แมทธิวล้วงโทรศัพท์ส่วนตัวออกมาจากซอกกางเกง เขากดเบอร์ไทธัชด้วยความคุ้นเคย“ไงครับพ่อ CEO ว่างหรือไงถึงได้โทร. หาผมได้” ไทธัชกดรับ เขาอมยิ้มเพราะกำลังคิดจะลองเชิงเพื่อนอยู่พอดี“ไม่ได้ว่างหรอก งานยุ่งฉิบหาย! ...เลยอยากหาเพื่อนแดกเหล้า” แมทธิวกรอกเสียงกลับ เขาเดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟา วาดแขนวาดขาเพื่อผ่อนคลาย และวางแผนในใจเงียบๆ“อืม...ได้สิ เจอกันที่ร้านประจำนะ” ไทธัชตอบกลับ เขารีบ
“อ้อ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับ “อยากได้น้ำเย็นๆ ซักแก้ว คอแห้งชะมัด” เขาบอกความต้องการ ทิ้งตัวนั่งบนโซฟาตัวใหญ่“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ” แป๋มรีบอาสา หล่อนเดินแก้มวิ่งออกไปจัดหาสิ่งที่ชายหนุ่มต้องการมาให้“ไปไหนก็ไปเถอะ ผมอยู่ได้” แมทธิวรีบกำจัดคนที่เหลือ ฟักทองก้มหน้าน้อยๆ เธอเดินหายลับไปทางห้องที่ตนเองพักอาศัย เมื่อมันหมดเวลาทำงานร่างสูงใหญ่กระเด้งตัวยืนขึ้น เขาสาวเท้าออกจากห้องโถง เดินตามฟักทองไปติดๆ ฝีเท้าเบากริบ จนแม้แต่คนหูไวยังไม่ได้ยิน ชายหนุ่มแอบข้างมุมตึก...ซุ่มรอจนแน่ใจว่าสาวใช้ร่างใหญ่เข้าไปในห้องพักของหล่อนแล้ว ประตูห้องใกล้เคียง ห้องที่แม่ลูกอ่อนสาวผู้นั้นพักอาศัยอยู่ ดวงตาคมดุมองจ้องตาเป็นมัน...“ไปไหนแล้วนะ” แป๋มบ่น เมื่อแขกของเจ้านายอันตทานหายไปจากห้องโถงหล่อนเดินไปชะเง้อมองที่จอดรถยนต์ รถหรูคันเดิมยังจอดอยู่กับที่ แต่คนขับกลับไม่เห็นแม้แต่เงา“คงไปห้องน้ำ” แมทธิวเข้าออกสุริยะธนินเป็นว่าเล่น เขาคุ้นเคยกับโครงสร้างของบ้านหลังนี้ดี แป๋มกลอกตา เดินคอตกกลับห้องพัก
ใบหน้าเล็กๆ นั่นแดงจัด ผิวแก้มขึ้นสีระเรื่อ เรียวปากช่างเจรจานั่นกลับแห้งจนแตกระแหง แมทธิวรู้สึกโหวงๆ ในอก เขาเกิดความเป็นห่วงเด็กนั่น...ตามคนเป็นแม่เสียอย่างนั้นเอง ชายหนุ่มเผลอเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วขึ้น สัญญาณไฟเหนือตึกสูง สถานที่ที่คนป่วยเข้าไปรักษาตัวอยู่ไม่ไกล แมทธิวหักพวงมาลัย เสยพรวดขึ้นไปเกือบจะเกยฟุตบาท เขาดันประตูด้านข้างออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับตะโกนเรียกเหล่าบุรุษพยาบาล“เด็กไม่สบายครับ เร็วๆ หน่อย!”เสียงรถเข็น เสียงฝีเท้า กรูเข้ามา...รณฤทธิ์ถูกรับช่วงต่อ เตียงคนไข้ถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉินกลางดึกนั่นเอง“ใครเป็นพ่อ-แม่เด็กค่ะ เชิญทางนี้หน่อย”พยาบาลสาวป้องปากเรียก หลังเข็นเตียงเด็กชายเข้าห้องฉุกเฉิน อลิชายืนหน้าซีด เธอพยายามมองฝ่าความมึดทึบของกระจกหน้าห้องฉุกเฉินเข้าไป...“พยาบาลเรียกเธอแหนะ” แมทธิวสะกิดสีข้างหญิงสาว เมื่อเจ้าหล่อนไม่สนใจอะไรเลยนอกจากการชะเง้อคอมองเข้าไปด้านในห้องที่ประตูปิดสนิท“คะ?” หญิงสาวเอี้ยวตัวกลับมามอง แมทธิวจึงได้เห็น ดวงตากลมโตของอลิชาแดงก่ำ น้ำตาเปรอะเ
บทที่11.จะนอนกับใครมันก็ตัวฉัน!อลิชารีบสาวเท้าเดินให้เร็วขึ้น เมื่อมีใครบางคน ยืนโงนเงนอยู่หน้าลิฟต์ ลักษณะของเขาเหมือนกำลังจะสิ้นสติ เป็นผู้ชายสูงวัยแต่งกายดูดี แต่ใบหน้าของเขา ซีดเผือด!“ไหวมั้ยคะคุณ? มาค่ะ... อลิสช่วยพยุง” หญิงสาวอาสา เธอวางเอกสารในมือไว้ที่พื้น ก่อนจะรีบเข้าไปพยุงชายแปลกหน้าผู้นั้นแอนเดอสันสูดลมหายใจลึกๆ เขาหลุบเปลือกตาลงเมื่อพื้นใต้ฝ่าเท้าโคลงเคลงเหมือนคลื่นใต้น้ำ“ขอบใจนะ” เสียงแหบปร่ากระซิบตอบ ก้าวเดินตามการชักนำของแม่สาวใจดี ร่างสูงโปร่งทรุดนั่งบนเก้าอี้ริมระเบียง สายลมเย็นๆ ที่พัดปะทะใบหน้า ช่วยให้อาการหน้ามืดของเขาทุเลาลง“รอนี่นะคะ อลิสจะไปรินน้ำเย็นมาให้คุณลุงดื่ม” อลิชากล่าวเสียงแผ่ว เธอเดินแกมวิ่งไปยังตู้กดน้ำ รินน้ำเย็นใส่แก้วกระดาษ แล้วจึงเดินย้อนกลับมาส่งให้ชายแปลกหน้า พร้อมกับถ้ำยาดมที่ควานหาเจอในกระเป๋ากระโปรงสีหน้าของแอนเดอสันดีขึ้น หลังดื่มน้ำเย็นจนหมดแก้ว ชายสูงวัยฝืนยิ้มให้แม่สาวคราวลูก ที่นั่งมองท่า
“ค่ะ” อลิชายิ้มรับ เธอเงยหน้าขึ้น รับจูบหวานๆ จากแมทธิวโดยไม่ขัดขืนเป็นการยินยอมพร้อมใจ หลังจากไตร่ตรองจนแน่ใจ ไม่มีอะไรดีขึ้น หากตนเองยังหลบอยู่หลังเกราะที่สร้างไว้ป้องกันตัวเอง...ในเมื่อแมทธิวยอมถอยให้หนึ่งก้าว เธอก็ควรเปิดใจกว้างๆ ยอมรับสิ่งที่เขามอบให้ เพราะมัวแต่วิ่งหนี ชั่วชีวิตนี้ เธอคงต้องหนีไปตลอด ไม่มีใครไม่เคยทำผิด มนุษย์ทุกคนบนโลกล้วนแล้วแต่เคยผ่านความผิดพลาดมาแล้วทั้งนั้นมันขึ้นอยู่ว่าคนเหล่านั้น จะแก้ปัญหา หรือฝังกลบไว้ แสร้งทำเป็นลืม แต่...ความลับไม่มีในโลก สักวันสิ่งที่ขุดหลุมกลบเอาไว้ก็จะโผล่ขึ้นมาเตือนความจำอยู่ดี ปัญหามีไว้ให้แก้ ใช้สติตรึกตรอง และก้าวผ่านมันไปให้ได้ ใช้อดีตเป็นบทเรียน เพื่ออนาคตจะไม่เดินซ้ำรอยเดิม...ถนนชีวิต ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ต่อให้คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด หนทางเดินก็มักจะมีขวางหนาม เป็นอุปสรรค เพื่อวัดความอดทนของคนเมื่อก้าวผ่านสิ่งเหล่านั้นไปได้ ไม่ว่าปัญหาจะเล็กหรือใหญ่ ทุกปัญหาที่ผ่านเข้ามาคือบทเรียนเช้าวันใหม่...แอนเดอสันยิ้มตาม เมื่อสายตาของท่านมอง
อลิชาเสก้มหน้าหลบสายตาวาววามคู่นั้น หัวใจเธอเต้นถี่ยิบ และหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ หัวใจดวงน้อยของตนเองอาจจะหยุดเต้น เพราะความตื่นเต้นก็เป็นได้“จะถือกระดาษนั่นอีกนานแค่ไหน...เซ็นๆ มาเถอะ”ชายหนุ่มปรายตามองกระดาษสีขาวแผ่นเดียวที่อลิชาถือไว้ในมือ“คุณจะเอาไปทำอะไรคะ?” หญิงสาวถามแบบไม่ใคร่เข้าใจ กระดาษเปล่าไร้ข้อความ หากชายหนุ่มคิดร้าย คนที่ซวยคงเป็นเธอ“เอาไปยื่นคำร้องเป็นพ่อให้หนูนั่นไง ลูกผม ก็ต้องใช้นามสกุลผมสิ ใช้นามสกุลบ้านนั้นทำไม...”แมทธิวเฉลย...มันคันยิบๆ ในใจ ทุกครั้งที่เห็นชื่อ นามสกุลของบุตรชายที่ตนเองไม่มีส่วนร่วมอลิชาหัวเราะคิก เมฆสีดำทะมึน เคลื่อนผ่านไปจากชีวิตตนเอง นับจากนี้ไป อนาคตของเธอและบุตรชายคงมั่นคงขึ้น เธอจรดปลายปากกาเซ็นชื่อตนเองโดยไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะยื่นส่งให้แมทธิว พร้อมกับยิ้มน้อยๆแมทธิวเดินไปเก็บที่โต๊ะตัวใหญ่ เขาเดินโทงๆ จนอลิชาอายจนแก้มแดง เมื่อมองเห็นสรีระชายหนุ่มหมดทุกซอกทุกมุมดังนั้น...เมื่อแมทธิวเดินกลับมา เขาจึงได้เห็นสายตาเป็นประกายของหญิงสาว ชายหน
ชายหนุ่มกระเด้งตัวลุกขึ้น เขาเดินอาดๆ ไปที่โต๊ะตัวใหญ่กลางห้อง ชายหนุ่มฉวยกระดาษขนาด A4 เดินกลับมายื่นส่งให้อลิชา หญิงสาวผุดลุกขึ้นนั่ง มองกระดาษแผ่นนั้นงงๆ“เซ็นชื่อซะ...” ปากกาสีทอง แมทธิวยื่นใส่หน้าอลิชา เกือบจะทิ่มตาหญิงสาวผวา เธอส่ายหน้าแรงๆ เก็บมือไว้ ไม่ยอมยื่นออกไปรับกระดาษเปล่าแผ่นนั้นเด็ดขาด...“อย่าคิดมากน่า ผมไม่ได้ทำเรื่องร้ายหรอก ...แค่อยากให้สิทธิพิเศษบางอย่างกับเธอ...อย่ากลัวล่วงหน้าสิ...ยิ่งกว่านี้เธอก็เคยผ่านมาแล้ว จะกลัวอะไรอีก” ชายหนุ่มติง เขาขยายความเข้าใจของอลิชาเสียใหม่ ถึงเขาจะเป็นคนเอาแต่ใจ แต่ก็ไม่ชั่วช้า จนต้องทำอะไรเลวทราม“เธอต้องการอะไรล่ะ บอกมาได้เลย...” ชายหนุ่มเอ่ยปาก เขามองสบนัยน์ตากลมโตแบบคนอารมณ์ดี หลังขจัดความหวาดระแวงในใจจนหมดสิ้น“อลิสไม่เคยอยากได้อะไรจากคุณเลยค่ะ” อลิชาตอบตามตรง รับกระดาษแผ่นนั้น กับปากกามาถือไว้ โดยยังไม่ได้ขยับทำอะไรอย่างที่แมทธิวต้องการ เธอไม่เคยอยากได้อะไรจากแมทธิว เธอปรารถนาอยากมีชีวิตสุขสงบ อยู่กันตามประสาแม่ลูก มีบ้านคุ้มหัว มีที่นอนอุ่น
บทที่19.สุดสวาทนางบำเรอที่รัก!น้ำตาไหลรินเป็นสาย เรียวปากอิ่มเม้มแน่น อลิชากำลังชั่งใจ หากเธอพูดความจริง...อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป หลังจากนี้!!“บอกมา!” น้ำเสียงทุ้มต่ำ แมทธิวพยายามข่มความโกรธ“มันผ่านไปนานแล้ว... คุณลืมไปเถอะค่ะ” หญิงสาวกลั้นใจตอบ เธอกลัว...กลัวที่จะถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง“อลิชา! ที่เธอพยายามเลี่ยงนี่ เพราะไอ้หนูนั่นเกี่ยวพันกับผมใช่มั้ย?”แมทธิวตะคอก มือจับบ่าบอบบาง เขย่าหล่อนจนตัวสั่น“มะ ไม่ค่ะ ไม่ใช่!” หญิงสาวตอบเสียงสั่น น้ำตากลบดวงตากลมโต“ผมไม่ได้โง่นะอลิส...ผมรู้ แค่ผมไม่แน่ใจ...” น้ำเสียงที่ใช้อ่อนลง แมทธิวรู้สึกเวทนาผู้หญิงตรงหน้า หล่อนถูกคนชั่วหลอกลวง แถมยังต้องแบกรับความทุกข์ไว้คนเดียว เวลาเกือบสามปี อลิชาต้องผ่านความลำบากมามากขนาดไหน? หล่อนแกร่งมาก ถึงผ่านความทุกข์ระทมนั่นมาได้ ผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่หัวใจหล่อนประเสริฐยิ่งนักดวงตากลมโตเบิกกว้าง มือเรียวยกปาดคราบน้ำต
“อ้ายยยย” หญิงสาวผวาเฮือก เรือนกายเกร็งกระตุก ร่างกายอ่อนยวบหลังตะเกียงตะกายคว้าดวงดาวมาไว้ในอุ้งมือสำเร็จแมทธิวทิ้งตัวนอนแผ่ สูดลมหายใจแรงๆ จนซี่โครงยุบวาบ ชายหนุ่มควานมือด้านข้าง ก่อนจะรั้งเรือนกายชื้นเหงื่อของอลิชามาแนบอกอุ่น พึมพำเบาๆ พอให้ได้ยินกันสองคน “เธอยอมแพ้ผมมั่งก็ได้นะอลิส...ถ้าเธอไม่พูด ผมคงได้ขาดใจตายก่อนแน่”รอยยิ้มอ่อนแต้มมุมปาก มือไล้ผิวกายเรียบลื่นเล่นอลิชาแอบมอง เธอไม่เข้าใจความคิดของแมทธิวสักนิด ชายหนุ่มต้องการอะไรกันแน่ เขาดูยาก อ่านไม่ออก ภายในหัวเขา กำลังคิดอะไรอยู่?“ผมต้องการเธอ ทั้งตัว แล้วก็หัวใจ ไม่ต้องเก็บไว้หรอก ผมจะดูแลให้เอง”เสียงชายหนุ่มเปรยเบาๆ หญิงสาวเม้มปากแน่น สิ่งที่เขาต้องการนั้น หากไม่มอบให้ก่อน มีหรือจะได้อย่างที่เขาต้องการ“ไม่เอาเปรียบไปหน่อยหรือคะ คุณเอาแต่ได้...แล้วอลิสได้อะไรตอบแทนล่ะคะ”ความอยากรู้ทำให้อลิชาลืมตัว เธอโพล่งถาม ก่อนจะรีบกัดปากตัวเอง...แมทธิวพลิกตัวกลับอย่างรวดเร็ว เขากางแขนคร่อมเรื
“เห็นจะไม่ได้” เสียงเย็นชาตอบกลับมา จนอลิชาต้องลืมตามอง แววตาตัดพ้อของเธอทำให้แมทธิวสะดุด เขาหรี่เปลือกตาลง ก่อนจะพูดเสียงเนิบนาบ “เธอคงไม่ได้ ‘ท้อง’ ใช่มั้ย?” คำถามของชายหนุ่ม เล่นเอาอลิชาใจโหวงวูบ! เหตุการณ์เดิมๆ ย้อนกลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้คงเป็นหายนะสำหรับตัวเธอเอง ทำไมเธอถึงได้ลืมเรื่องสำคัญ การป้องกันที่เคยทำมาแล้วครั้งหนึ่ง เหตุใดเล่า ครั้งนี้เธอจึงลืมเสียสนิทหญิงสาวกลั้นใจตอบ ดันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างโผเผ “อลิสคงไม่โชคร้ายหรอกมั้งคะ”“นั่นสินะ ผมลืมได้ยังไง เธอเคยมีประสบการณ์เรื่องแบบนี้มาก่อน คงไม่พลาดแบบโง่ๆ” น้ำเสียงที่ฟังไม่ออกกล่าวขึ้นอีกครั้ง มันฟังแปลกๆ เหมือนชายหนุ่มกำลังแดกดันเธอ แต่...เพื่ออะไรล่ะ เมื่อเขาเองก็ไม่ได้ต้องการให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นเช่นกันนี่“คุณอย่าห่วงไปเลยค่ะ...” น้ำตาเกือบทะลัก แต่ก็ยังสู้อุตส่าห์กลั้นไว้ จนเผลอตัวกัดกระพุ้งตนเอง มันเจ็บน้อยกว่าหัวใจที่กำลังร่ำไห้ขณะนี้เสียอีกแมทธิวเดินเข้ามาหา แววตาของเขาอ่านไม่ออก จนกระทั่งชายหนุ่ม
บทที่18.ยกให้ทั้งตัว...และใจอลิชาไม่ได้รู้สึกไปเอง...หลังแมทธิว กลับมาจากการไปทำงาน เขาดูเงียบผิดปกติ สายตาคมดุคู่นั่น หยุดมองที่หน้าท้องเธอบ่อยๆ“วันนี้ลาบรสจัดนิดนะคะ...” ติ๋มกระซิบบอกนายสาวเมื่ออลิชาไม่ได้ลงครัวเอง เธอรู้สึกเวียนศีรษะ หลังน้ำอิงกลับไปแล้ว จึงพักผ่อนอยู่บนห้อง ติ๋มเลยอาสาลงไปช่วยในครัวจัดการอาหารมื้อนี้ด้วย“ไม่นี่ อร่อยดี” แมทธิวท้วง เขากำลังอร่อยกับรสชาติจัดจ้านจนตักอาหารจานนั้นถี่ๆแอนเดอสันแหล่มองบุตรชาย แมทธิวไม่ใช่คนรับประทานอาหารรสจัด ชายหนุ่มนิยมนม เนยมากกว่า อาหารที่รสจัดจ้าน แต่วันนี้มาแปลก สีสันบ่งบอกว่ารสชาติไม่ธรรมดา ท่านเองยังขยาด แต่คนไม่คุ้นกลับชื่นชมติ๋มยิ้มแป้น นางเอ่ยแนะนำเจ้านายหนุ่ม เมื่ออาหารมื้อนี้ นางเป็นคนออกความคิด“ต้ำยำนี่ก็แซ่บเจ้าค่ะ คล่องคอดีค่ะ”ต้มยำกระดูกอ่อนรสจัดจ้านพอกัน...อลิชาเหลือบมอง อาหารมื้อนี้ออกไปทางรสจัด เธอรับประทานได้ แต่ไม่แน่ใจว่าแมทธิวกับแอนเดอสันจะชอบ
“เขาคงไม่ต้องการหรอกค่ะ”อลิชาตอบเสียงเศร้า รณฤทธิ์คนเดียว เขายังไม่รู้เลยว่าเป็นลูก คนอย่างแมทธิว ไม่ได้ต้องการบุตร เขาต้องการแค่เสพสมกับเธอแค่นั้น ถึงวันที่เบื่อ คงเขี่ยเธอทิ้งเหมือนผู้หญิงคนก่อนๆแอนเดอสันสะกิดใจ ความนัยในคำพูดของน้ำอิง มันบอกอะไรบางอย่าง และสิ่งนั้น เขาก็ตงิดๆ ในใจอยู่แล้ว คนเราจะคล้ายคลึงกันโดยไม่มีสายเลือดเกี่ยวพันกันได้ยังไง? มันต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกันสิ ไม่อย่างนั้น อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น เมื่อเด็กชายผู้นั้น ถอดเค้าหน้ามาจากแมทธิวเกือบทุกส่วนชายสูงวัยจึงนิ่งฟังสองสาวสนทนากัน เขาทำเป็นสนใจทิวทัศน์ด้านนอก ปล่อยให้สองหญิงกระซิบ กระซาบคุยกันตามสบายเท่าที่จับใจความได้ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แมทธิวบุตรชายของท่าน เคยพบเจอกับหญิงผู้นี้มาก่อน และอาจจะถึงขั้นมีความสัมพันธ์ทางกายต่อกัน จนเกิดบางอย่างขึ้นมา ก่อนที่อลิชาจะหายไปจากชีวิตแมทธิวมือเหี่ยวๆ ยกขึ้นเกาคาง ลองคิดเล่นๆ ในใจ หาก เด็กชายผู้นั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่ลูกติดอลิชามา เขาอาจจะเป็นสายเลือดของแมทธิวก็ได้ เปอร์เซ็นต์ความเป็นไปได้มีเกินครึ่ง การป้
“ป้าจ๋า...ไปตักข้าวต้มในครัวมาให้ท่านสิจ๊ะ” หญิงสาวหันไปสั่งติ๋มเสียงหวาน เมื่อประมุขเฒ่าของบ้านไบเล่ย์ ไม่ถือตัวกับบุตรชายของตนเอง เหมือนกับเขาจะรู้ลึกถึงความสัมพันธ์ทางสายเลือดมื้อเช้ามื้อแรกที่รังรักที่จากไปนาน ความสุขที่เหือดหายไป เริ่มไหลเข้ามาในใจทีละน้อย มีเสียงหัวเราะ ผสมกับเสียงพูด ดังขึ้นหลายรอบ เมื่อคนแก่คนหนึ่ง กับเด็กชายดูเหมือนจะเข้าขากันดีแอนเดอสันมีความสุขมาก เขารู้สึกเหมือนกับว่าความอบอุ่นครั้งเก่าย้อนกลับมา เพียงแค่มีเด็กชายช่างพูดคนนี้อยู่ใกล้ๆ ชายสูงวัยนึกละอายใจ...ในอดีตเพราะความผิดหวัง เขาทิ้งขว้างปล่อยให้บุตรชายโดดเดี่ยว แม้จะห้อมล้อมไปด้วยบริวาร แต่จะเหมือนมีพ่อ-แม่เคียงข้างได้อย่างไร ถึงกนกลดาจะสลัดท่านและบุตรชายทิ้ง ตัวท่านเองก็ไม่น่าปล่อยปละละเลยบุตรชายไปด้วย แอนเดอสันนึกอยากจะขอโทษแมทธิวขึ้นมาทันใด เมื่อมองเห็นความเหงาในหน่วยตาของรณฤทธิ์ ถึงจะอายุเพียงน้อยนิด แต่ความอ้างว้างที่ท่านพอจะมองออก ก็เพราะเด็กชายคนนี้ ไร้บิดานำพาเช่นเดียวกัน รณฤทธิ์ โชคดีที่มารดาคอยอยู่ข้างๆ แม้จะขาดผู้ให้กำเนิด แต่ก็ไม่เลวร้ายเหมือนที่แมทธิวผจญ