“มานั่งทำอะไรตรงนี้จ้ะอลิส คนอื่นๆ หายไปไหนหมด?”
น้ำอิงกล่าวเสียงนุ่ม ทอดสายตาอบอุ่นมองสบนัยน์ตากลมใสของอลิชา
แววตาของหญิงสาวมีแววกังวลจนเห็นเด่นชัด...
“มีเรื่องให้คิดเหรออลิส?” เจ้านายสาวทรุดนั่งด้านข้าง เธอเอ่ยถามเพราะอยากช่วยแก้ปัญหานั้น เมื่อรู้สึกรักใคร่อลิชาประหนึ่งน้องสาวก็ไม่ปาน
“คุณอิงคะ?” อลิชามองสบนัยน์ตานายสาว เธอกำลังชั่งใจ เรื่องที่เก็บไว้สมควรเปิดเผยหรือยัง “อลิสกลัว!” หางเสียงของเธอสั่น จนคนฟังยังรู้สึก
“ไม่มีอะไรให้กลัวหรอกนะอลิส เรื่องเลวร้ายกว่านี้ อลิสยังผ่านมาได้เลย จะกลัวทำไม” น้ำอิงเตือนสติ ช่วงเวลาเลวร้ายกว่านี้อลิชายังก้าวผ่านมาได้โดยไม่หวาดหวั่น
“มันไม่ใช่แบบนั้นค่ะ” หญิงสาวสูดลมหายใจแรงๆ เอื้อมมือสั่นเทาจับปลายนิ้วมือของนายสาว เมื่อตัดสินใจถี่ถ้วน “อลิสกลัว กลัวว่าจะมีใครบางคนพรากลูกไปจากอก...อลิสควรทำยังไงดีคะ?” หญิงสาวกลั้นใจตอนที่กล่าวออกไป ความลับคับอกนี่เธอเก็บมานานปี จนคิดว่าจะไม่เปิดเผยให้ใครอื่นรู้ ความลับนั่นจะถูกฝังไปพร้อม
บทที่10.เด็กตาดำๆ“หะ! คุณอิงว่าไงนะครับ” ทันทีที่ไทธัชตื่น น้ำอิงที่อดทนรอก็เปิดปากเล่าเรื่องอลิชาให้สามีฟัง ชายหนุ่มถึงกับอุทาน เขายกมือขยี้ใบหู ทำหน้าตาพิกลตอนที่ย้อนถามซ้ำ“ก็อย่างที่ได้ยินแหละค่ะ เรื่องที่คุณไทเคยกระเซ้าคุณแมทเล่นๆ มันเกิดขึ้นแล้วค่ะ! คอนดอมพวกนั้นคงหมดอายุ ตอนที่คุณแมทมีอะไรกับอลิส ตาฮาร์ทเลยได้ออกมาร้องอุแว้ๆ นี่ไงคะ”“เป็นไปได้ยังไง อลิสกับไอ้แมทอะนะ” เสียงครางผสมความสับสน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าโลกมันกลม คนสองคนที่เคยมี ‘ซัมติง’ กัน ถึงเวียนมาเจอกันอีก“ให้ตายเถอะ...ตอนนั้นอลิสอายุเท่าไรกัน? ต๊ายตาย...คุณแมทหลอกเด็ก”น้ำอิงอุทาน เธอยกมือทาบอก เวลานี้รณฤทธิ์ อายุ2ปีพอดี บวกไปบวกมา ช่วงเวลาที่แมทธิวกับอลิชา ‘ยุ่ง’ กัน ช่วงนั้นหญิงสาวเพิ่งโตเป็นสาวเต็มตัวได้ไม่นาน“แปลก” ไทธัชยกมือแตะข้างขมับ เขาไม่เคยเห็นแมทธิวควงอลิชามาก่อน หล่อนเป็นผู้หญ
“ไม่!” เสียงปฏิเสธหวานฉ่ำ จนอลิชาสะท้านชายหนุ่มเม้มปาก กดจูบผิวเนื้อสีระเรื่อแรงๆ จนเกิดริ้วรอยเล็กๆ ที่ลำคอระหง“บอสอยากขายขี้หน้าพนักงานเหรอคะ นี่ใกล้เวลาที่พวกเขาจะมากันแล้วนะคะ”เสียงสั่นๆ เอ่ยปราม เธอพยายามโก่งตัวหนี มือเรียวยกขึ้นดันแผ่นอกกว้างให้ระยะห่างระหว่างกันมีมากขึ้นอีกหน่อยกึกๆ เสียงส้นรองเท้ากระทบพื้นดังอยู่ไม่ไกลแมทธิวยืดตัว... ปล่อยมือจากข้อมือเรียว รีบหันหลังขวับ!เพราะกึ่งกลางร่างกายตนเอง กำลังประจานความต้องการล้นอก แมทธิวทนไม่ได้หากอลิชาจะรู้ หล่อนมีความสำคัญกับเขามากเพียงใด เพราะแค่เพียงแตะนิด แตะหน่อย เขาก็หมดความควบคุม ทำตัวเหมือนหนุ่มน้อยวัยละอ่อนที่ริลองรัก...คลุ้มคลั่งไม่สามารถควบคุมตนเองได้...“เธอนี่นะ!” ชายหนุ่มตวาด โมโหตัวเอง ไม่ได้โมโหใครเลยผู้หญิงคนนี้ทำให้การควบคุมตนเองของเขาต่ำลง ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะทำมิดีมิร้ายกับพนักงานในบริษัท เมื่อเขามีกำลังในการ ‘จ่าย’ และไม่ได้อดอยากอะไรเลย แค่กระดิกนิ้ว ผู้หญิงหลายคนก็พร้อมที่จะสลัดผ้าก
“เอาไงดีวะ?” ปัญหาที่ขบไม่แตก เพราะตัวปัญหาต่อต้าน หล่อนไม่สนใจข้อเสนอ ไม่สนใจสิ่งบรรณาการ แล้วเขาควรทำยังไงดี เมื่อสิ่งที่ต้องการสวนทางกับความคิดแมทธิวคิดหาทางรวบรัดอลิชาไม่ได้เลยมันอิหลักอิเหลื่อ เมื่อหล่อนอยู่ใต้การดูแลของเพื่อน...ไม่ได้มาเสนอตัวให้เขาถึงเตียงเหมือนครั้งก่อน...แถมแม่นั่น...ยังมีลูกติดตาดำๆ อายุอานามไม่เท่าไร เขาจะถูกประณามจากคนรอบตัว หากทำอะไรบุ่มบ่ามลูก นั่นสิ...ผู้หญิงคนนั้นมีบุตร แต่เท่าที่รู้ ข้างตัวหล่อนไม่มีใคร? แล้วเด็กนั่นมาจากไหน?มือเร็วเท่าความคิด แมทธิวล้วงโทรศัพท์ส่วนตัวออกมาจากซอกกางเกง เขากดเบอร์ไทธัชด้วยความคุ้นเคย“ไงครับพ่อ CEO ว่างหรือไงถึงได้โทร. หาผมได้” ไทธัชกดรับ เขาอมยิ้มเพราะกำลังคิดจะลองเชิงเพื่อนอยู่พอดี“ไม่ได้ว่างหรอก งานยุ่งฉิบหาย! ...เลยอยากหาเพื่อนแดกเหล้า” แมทธิวกรอกเสียงกลับ เขาเดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟา วาดแขนวาดขาเพื่อผ่อนคลาย และวางแผนในใจเงียบๆ“อืม...ได้สิ เจอกันที่ร้านประจำนะ” ไทธัชตอบกลับ เขารีบ
“อ้อ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับ “อยากได้น้ำเย็นๆ ซักแก้ว คอแห้งชะมัด” เขาบอกความต้องการ ทิ้งตัวนั่งบนโซฟาตัวใหญ่“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ” แป๋มรีบอาสา หล่อนเดินแก้มวิ่งออกไปจัดหาสิ่งที่ชายหนุ่มต้องการมาให้“ไปไหนก็ไปเถอะ ผมอยู่ได้” แมทธิวรีบกำจัดคนที่เหลือ ฟักทองก้มหน้าน้อยๆ เธอเดินหายลับไปทางห้องที่ตนเองพักอาศัย เมื่อมันหมดเวลาทำงานร่างสูงใหญ่กระเด้งตัวยืนขึ้น เขาสาวเท้าออกจากห้องโถง เดินตามฟักทองไปติดๆ ฝีเท้าเบากริบ จนแม้แต่คนหูไวยังไม่ได้ยิน ชายหนุ่มแอบข้างมุมตึก...ซุ่มรอจนแน่ใจว่าสาวใช้ร่างใหญ่เข้าไปในห้องพักของหล่อนแล้ว ประตูห้องใกล้เคียง ห้องที่แม่ลูกอ่อนสาวผู้นั้นพักอาศัยอยู่ ดวงตาคมดุมองจ้องตาเป็นมัน...“ไปไหนแล้วนะ” แป๋มบ่น เมื่อแขกของเจ้านายอันตทานหายไปจากห้องโถงหล่อนเดินไปชะเง้อมองที่จอดรถยนต์ รถหรูคันเดิมยังจอดอยู่กับที่ แต่คนขับกลับไม่เห็นแม้แต่เงา“คงไปห้องน้ำ” แมทธิวเข้าออกสุริยะธนินเป็นว่าเล่น เขาคุ้นเคยกับโครงสร้างของบ้านหลังนี้ดี แป๋มกลอกตา เดินคอตกกลับห้องพัก
ใบหน้าเล็กๆ นั่นแดงจัด ผิวแก้มขึ้นสีระเรื่อ เรียวปากช่างเจรจานั่นกลับแห้งจนแตกระแหง แมทธิวรู้สึกโหวงๆ ในอก เขาเกิดความเป็นห่วงเด็กนั่น...ตามคนเป็นแม่เสียอย่างนั้นเอง ชายหนุ่มเผลอเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วขึ้น สัญญาณไฟเหนือตึกสูง สถานที่ที่คนป่วยเข้าไปรักษาตัวอยู่ไม่ไกล แมทธิวหักพวงมาลัย เสยพรวดขึ้นไปเกือบจะเกยฟุตบาท เขาดันประตูด้านข้างออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับตะโกนเรียกเหล่าบุรุษพยาบาล“เด็กไม่สบายครับ เร็วๆ หน่อย!”เสียงรถเข็น เสียงฝีเท้า กรูเข้ามา...รณฤทธิ์ถูกรับช่วงต่อ เตียงคนไข้ถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉินกลางดึกนั่นเอง“ใครเป็นพ่อ-แม่เด็กค่ะ เชิญทางนี้หน่อย”พยาบาลสาวป้องปากเรียก หลังเข็นเตียงเด็กชายเข้าห้องฉุกเฉิน อลิชายืนหน้าซีด เธอพยายามมองฝ่าความมึดทึบของกระจกหน้าห้องฉุกเฉินเข้าไป...“พยาบาลเรียกเธอแหนะ” แมทธิวสะกิดสีข้างหญิงสาว เมื่อเจ้าหล่อนไม่สนใจอะไรเลยนอกจากการชะเง้อคอมองเข้าไปด้านในห้องที่ประตูปิดสนิท“คะ?” หญิงสาวเอี้ยวตัวกลับมามอง แมทธิวจึงได้เห็น ดวงตากลมโตของอลิชาแดงก่ำ น้ำตาเปรอะเ
บทที่11.จะนอนกับใครมันก็ตัวฉัน!อลิชารีบสาวเท้าเดินให้เร็วขึ้น เมื่อมีใครบางคน ยืนโงนเงนอยู่หน้าลิฟต์ ลักษณะของเขาเหมือนกำลังจะสิ้นสติ เป็นผู้ชายสูงวัยแต่งกายดูดี แต่ใบหน้าของเขา ซีดเผือด!“ไหวมั้ยคะคุณ? มาค่ะ... อลิสช่วยพยุง” หญิงสาวอาสา เธอวางเอกสารในมือไว้ที่พื้น ก่อนจะรีบเข้าไปพยุงชายแปลกหน้าผู้นั้นแอนเดอสันสูดลมหายใจลึกๆ เขาหลุบเปลือกตาลงเมื่อพื้นใต้ฝ่าเท้าโคลงเคลงเหมือนคลื่นใต้น้ำ“ขอบใจนะ” เสียงแหบปร่ากระซิบตอบ ก้าวเดินตามการชักนำของแม่สาวใจดี ร่างสูงโปร่งทรุดนั่งบนเก้าอี้ริมระเบียง สายลมเย็นๆ ที่พัดปะทะใบหน้า ช่วยให้อาการหน้ามืดของเขาทุเลาลง“รอนี่นะคะ อลิสจะไปรินน้ำเย็นมาให้คุณลุงดื่ม” อลิชากล่าวเสียงแผ่ว เธอเดินแกมวิ่งไปยังตู้กดน้ำ รินน้ำเย็นใส่แก้วกระดาษ แล้วจึงเดินย้อนกลับมาส่งให้ชายแปลกหน้า พร้อมกับถ้ำยาดมที่ควานหาเจอในกระเป๋ากระโปรงสีหน้าของแอนเดอสันดีขึ้น หลังดื่มน้ำเย็นจนหมดแก้ว ชายสูงวัยฝืนยิ้มให้แม่สาวคราวลูก ที่นั่งมองท่า
หากแมทธิวเป็นมิสเตอร์เพอร์เฟค แอนเดอสันคือบิดาของบุรุษผู้นั้น ตัวท่านเองก็โดดเด่นไม่แพ้บุตรชาย ขนาดวัยร่วงโรยปานนี้ โครงหน้าของแอนเดอสันยังหล่อเหลาพอๆ กันกับบุตรชาย“จริงอ่ะ”“ข่าวกรองจ้า เห็นเขาว่ากัน พ่อ-ลูก คู่นี้ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่หรอก”“อ้าว! ทำไมล่ะ”อลิชาเงี่ยหูฟัง เธออยากรู้จุดอ่อนของแมทธิวเช่นกัน เธอจะเก็บไว้ใช่ต่อรองกับเขา“ครอบครัวแตกแยก แม่ไปทาง พ่อไปทาง...บอสคงอ้างว้างจนต้องหาสาวๆ มาคลอเคลียตลอดไง” คนเล่า เล่าแบบออกรส หล่อนจีบปากพูด ผสมกับเสียงหัวเราะเบาๆแม่ลูกหนึ่งก้มหน้าลง เธอเม้มปาก พอจะรู้สาเหตุที่ทำให้แมทธิวกระด้างเช่นนั้น เพราะปูมหลังของเขา ทำให้ชายผู้นั้น ไม่รู้จักความอ่อนโยน เขาเป็นผู้ชายเอาแต่ใจที่อยากได้อะไรต้องได้ มันเป็นเพราะชายหนุ่มเติบโตมาพร้อมกับความเย็นชา เขาแอนตี้สถาบันครอบครัวเพราะแบบนี้เอง“ทำงานจ้าๆ นินทาเจ้านายลับหลัง ระวังเด้งนะจ๊ะ”เสียงแหลมปรี๊ด ตะโกนดังๆ ใบหน้าใต้กรอบแว่นสีดำเย็นชา หล่อนคือหัวหน้าแผนกนั่นเอง ผู้ที่มาขัดความบัน
อลิชารวบรวมความกล้า เธอเงยหน้ามองสบนัยน์ตาคมดุ ก่อนจะพูดเสียงสั่นๆ“กลับบ้านแล้วค่ะ คือ...เรื่องค่าใช้จ่าย อลิสขอคืนได้มั้ยคะ?”“ทำไมล่ะ!”“อลิสเกรงใจค่ะ รบกวนบอสมากเกินไป...”“ไม่ต้องหรอก แค่นั้น... ขนหน้าแข้งผมไม่ร่วงซักเส้น” ชายหนุ่มโบกมือ เขายืนขึ้น เดินมาหยุดใกล้หล่อน“แต่...” อลิชาพยายามท้วง“ถ้าเธออยากตอบแทน...ผมขออย่างอื่นได้มั้ยล่ะ?” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นมุมปากสีเข้ม จนคนมองเห็นคนลุกวาบ!“เอ่อ...”“ในเมื่อเธออยากตอบแทน...ผมขอ...” ชายหนุ่มลากเสียงยานคาง เอื้อมมือรั้งเอวคอดให้เข้ามาประชิดเรือนกายทรงพลังมากขึ้น“ปะ ปล่อยอลิสเถอะค่ะ” หญิงสาวขืนตัวไว้ เธอยกมือดันแผ่นอกหนา ผ่านเสื้อสูทผ้าเรียบกริบแมทธิวไม่ได้ตอบ เขาโน้มตัว กดจูบแผ่วๆ ที่มุมปากอิ่ม ไถลใบหน้าใช้ไรฟันขบเบาๆ ที่ผิวเนื้อใต้คางจนขนอ่อนบนเรียวแขนอลิชาลุกชัน เธอออกแรงดันแมทธิวมากขึ้น แต่กำลังมนุษย์เพศผู้ที่กำลังหน้ามืดกลับไม่สะดุ้งสะเทือน หญ
เกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม แมทธิวเดินตรงมายังรถยนต์ประจำตำแหน่ง เขาปรายตามองสภาพรถยนต์คันเก่งด้วยความรู้สึกคันยิบๆ ในใจ ผีบ้าตนไหนเข้าสิงเขา ถึงได้บ้าดีเดือด ขับรถกลับบ้านในสภาพที่ไม่พร้อม แต่ก็ไม่ยักเป็นอันตราย“เอาไปให้ไกลๆ ตากูเลยนะ เห็นแล้วจี๊ด!”ชายหนุ่มเปรยเสียงเคร่งกับการ์ดคู่ใจเขามุดเข้าไปนั่งตอนหลังรถยนต์ พยายามตีหน้านิ่งๆรถยนต์กำลังจะออก แต่ใครบางคนเดินตรงมาหาเสียก่อน“เดี๋ยว!” ชายหนุ่มตบเบาะให้สัญญาณ เขาเปิดประตูด้านข้าง ก้าวลงไปยืนรอคนที่พยายามเดินเข้ามาหา“ป้อๆ”รณฤทธิ์นั่นเอง เด็กชายส่งเสียงเรียก มือป้อมๆ โบกไปมา และยิ้มแฉ่ง จนคนรอบๆ พลอยยิ้มตามไปด้วย“ห้ามทำน้ำลายหกเลอะเสื้อฉันนะเว้ย!” แมทธิวออกตัว แต่ก็ยังช้อนอุ้มเด็กชายขึ้นมาจากพื้นอยู่ดี“ฮาร์ทไปล่วยๆ”สิ่งที่เด็กชายร้องขอ แมทธิวทำหน้ายุ่ง เขามองเลยไปทางด้านหลัง อลิชาเดินตามมาหางๆ ผิวแก้มหล่อนแดงก่ำ จนมองเห็นแต่ไกล แมทธิวอารมณ์ดีขึ้นเป็นกอง เขากดปลายจมูกกับแก้มยุ้ยๆ ของเด็กชายในอ้อมแขน แสร้
บทที่16.ยอมหรือไม่ยอมก็มีค่าเท่ากันแหละ...“ถามหน่อยเถอะ?” แมทธิวกล่าวเสียงหงุดหงิด เมื่อจบภารกิจฟิชเชอร์ริ่ง! อลิชามีทีท่าเศร้าสร้อย ประหนึ่งเธอโดนเขาข่มเหง ทั้งที่ช่วงเวลานั้นก็เข้าขากันดี “เธอจะยอมผมดีๆ ไม่ได้เหรอ ชอบซาดิสต์ไง? ถึงได้ต้องให้ออกแรงทุกที!”หญิงสาวตวัดตาใส่ เรียวปากเม้มแน่น ไม่ได้เอ่ยออกมาเป็นคำพูด แต่แววตัดพ้อที่ฉายผ่านดวงตาออกมา แมทธิวพอมองออก“บอกเลยนะ จำไว้ด้วยล่ะ เธอจะยอมหรือไม่ยอม มันก็มีค่าเท่ากัน อย่าลืมสิ เธอมาที่นี่เพราะอะไร?”ชายหนุ่มเปรยเสียงเฉยชา...สาเหตุที่อลิชาต้องมาพำนักที่นี่ ก็เพราะอุบัติเหตุบนเตียงที่เกิดขึ้นท่ามกลางสายตาของคนทั้งบ้าน ในเมื่อไอ้เพื่อนยากอยากให้เขารับผิดชอบผู้หญิงคนนี้ แมทธิวเต็มใจรับ แต่ก็ขอใช้หล่อนให้คุ้มค่า เมื่ออิสระถูกพรากจากตัว ก็ต้องได้สิ่งที่สมน้ำสมเนื้อกลับคืนมาด้วย“อลิสยอมมาที่นี่ เพราะไม่อยากให้คุณไท กับคุณอิงลำบากใจ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมาข่มเหงอลิสได้นี่คะ”
อลิชาแอบอมยิ้ม เธอแสร้งหลับนิ่งไม่ไหวติง“นอนก็นอนวะ!” เสียงพึมพำดังเบาๆ ร่างใหญ่หนา เอนตัวลงนอน ไม่วายรั้งเธอเขาไปสวมกอดไว้หลวมๆ“เธอมันยัยแม่มดชัดๆ” เสียงบ่นงึมงำ แล้วก็ค่อยๆ เงียบลงหญิงสาวระบายลมหายใจแผ่วๆ รอจนแน่ใจว่าแมทธิวหลับสนิท นอนฟังเสียงลมหายใจของเขา จนเป็นจังหวะสม่ำเสมอ จึงค่อยๆ ดึงมือที่พาดผ่านช่วงเอวออก กระถดตัวลงจากเตียงนอนช้าๆ รีบไปควานหาเสื้อผ้ามาสวมบนร่างกาย เธอทนนอนทั้งที่ร่างกายเปลือยเปล่าไม่ไหวจริงๆ แม่ลูกหนึ่งเดินกลับมาอีกครั้ง หลังใส่ชุดนอนชุดใหม่บนร่างกายเรียบร้อย เธอเอนตัวลงนอนอีกฝั่ง รั้งบุตรชายมากอดไว้แนบอก เพื่อใช้เขาเป็นหลักประกัน แมทธิวจะได้ไม่ถือโอกาสลวนลามตอนเธอหลับ จนเผลอหลับไปในเวลาต่อมา...เสียงนกร้องจุ๊บจิ๊บอยู่ที่หน้าต่างหัวเตียง...อลิชาหยีตา แสงแดดส่องต้องใบหน้า เธอตื่นสายโด่งเป็นครั้งแรก...ร่างบางทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่ง รีบมองหาบุตรชาย แต่บนเตียงว่างเปล่า ไร้บุตรชายที่เป็นยอดดวงใจ“ฮาร์ทๆ ฮาร์ทอยู่ไหนลูก?”เธอป้องปากร้องเรียกหา...ก
แมทธิวกลั้นความต้องการอันมากล้นของตนเองไว้ในอก เขาแช่ตัวนิ่งๆ ขยับร่างกายทีละน้อยๆ ทั้งๆ ที่อยากถาโถมเข้าใส่แบบสุดแรงเกิดอลิชาสูดลมหายใจลึกๆ เธอผ่อนคลายความตึงเครียด พยายามไม่ใส่ใจสิ่งแปลกปลอมที่คืบคลานเข้ามาในร่างกาย เปลือกตาพลิ้มหลับลง กัดริมฝีปากล่างกลั้นเสียงสะอื้น ปล่อยใจไปกับกระแสธารที่เชี่ยวกราก ไม่พยายามฝืน เพราะนั่นจะทำให้เธอเจ็บมากกว่าเดิมริมฝีปากหนาอ้าครอบเม็ดทับทิมสีระเรื่อ เขาดูดดื่มทรวงงามแรงๆ จนหญิงสาวครางลั่น กลไกธรรมชาติปรับตัวแบบอัตโนมัติ น้ำหวานฉ่ำเยิ้มถูกกลั่นออกมาจากซอกลึกลับ หล่อชโลมแก่นกายขึงขังจนชุ่มโชก แมทธิวทดลองเคลื่อนกายช้าๆ ความคับแน่นไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป เมื่อส่วนนั้นชุ่มโชกไปด้วยละอองปรารถนาชายหนุ่มเริ่มโถมเข้าใส่ มือแข็งแรงรั้งเอวคอดกิ่ว กระแทกอัดกับตัวตนแรงๆพรึ่บ! พรึ่บ!เสียงผิวกายเปียกเหงื่อกระแทกใส่กันดังก้องห้องนอนกว้าง เสียงครางคร่ำแผ่วพร่า ที่ระดับความดังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แมทธิวสูดปาก ครางเสียงแหบห้าว เขาเร่งความเร็วมากขึ้น พอๆ กับเพิ่มแรงโยกจนเรือนกายอวบอิ่มกระเพื่อมไหวทั้งลำตัว ชายหนุ่มโ
โหนกแก้มแดงก่ำ ดวงตาฉ่ำเยิ้ม ยืนยังยืนไม่อยู่ แต่ก็ยังมีแรงบีบบังคับเธอจนได้“อลิสไม่เลือก...ขออยู่ห่างๆ คุณสะดวกใจกว่า”หญิงสาวเชิดหน้าตอบ“เสียใจอลิชา...เธอเลือกไม่ได้ ไม่ว่าจะเมีย หรือนางบำเรอ หน้าที่ของเธอ คือการนอนกับผม!”ชายหนุ่มตะคอกกลับ เขาเดินเอียงไปเอียงมา ก่อนจะกระโจนเข้าใส่หญิงสาว จนล้มกลิ้งไปด้วยกันทั้งคู่ บนที่นอนหนาและกระเพื่อมเหมือนระลอกคลื่น“อืม...” เสียงทุ้มต่ำครางในลำคอ ปลายจมูกซุกอยู่ตรงแอ่งชีพจร กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ระเหยออกมาจากผิวกายนวลเนียน ทำให้แมทธิว หมดความยับยั้งชั่งใจปลายลิ้นสากและร้อน แลบออกมาเลาะเล็มผิวเนื้อชื้นเหงื่อ เขาตวัดปลายลิ้นเบาๆ จนคนใต้ร่างสะดุ้ง! มือของเธอพยายามดันลำตัวหนาหนักที่มีแต่กลิ่นแอลกอฮออล์ออกไปให้พ้น แต่แมทธิวเกร็งตัวไว้ เขาจูบดะไปทั่ว เร่งปลุกกระแสความกระสัน ก่อนที่ตนเองจะหมดแรงความเสียวซ่านก่อตัวทีละน้อย เป็นเหมือนคลื่นลมเบาๆ ที่พัดเข้าหาฝั่ง ก่อนจะทวีอานุภาพความแรงขึ้น จนแม้แต่หาดทรายเรียบกริบ ยังแทบจะล่มสลาย
พอเอาเข้าจริงๆ อุตส่าห์ยกเลิกการประชุม ยกเลิกนัดกับลูกค้า ยกเลิกนัดกับสาวโสภาที่กำลังคั่ว! แมทธิวกลับไม่กล้ากลับไปที่คฤหาสน์ไบเล่ย์ เขาหาข้ออ้างให้ตัวเองไม่ได้ และกลัวว่าอลิชาจะวางตัวไม่ถูกชายหนุ่มมาหมกตัวอยู่ที่ผับชั้นสูงแห่งหนึ่ง เขาดื่มบรั่นดีย้อมใจ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่กล้า...สามชั่วโมงที่ทนกระวนกระวาย จนแอลกอฮอลล์ เข้าไปแทนที่เลือดเกือบทุกพื้นที่ มันคงเต็มที่จนความกลัวหายไปจนหมด“เช็กบิลด้วยไอ้น้อง!” เสียงอ้อแอ้ร้องสั่งบริกรที่เดินผ่านไปมา บัตรเครดิตสีดำถูกยื่นส่งให้ ก่อนจะกระดกบรั่นดีแก้วสุดท้าย สาดหายไปในลำคอ ชายหนุ่มเดินโงนเงน คลำทางไปจนถึงรถยนต์คันหรู พาหนะยี่ห้อหรู และมีได้เฉพาะคนกระเป๋าหนักเท่านั้นชายหนุ่มถอยรถยนต์ ขับเคลื่อนออกจากที่ ด้วยสติที่ไม่เต็มร้อย ความมึนเมาทำให้เกิดอุบัติเหตุเล็กๆ ชายหนุ่มเสยกระจังหน้ากับเสาไฟฟ้าข้างทาง แต่ก็ยังพาพาหนะสุดหรู กลับมาถึงคฤหาสน์หลังงาม โดยที่คนขับไม่ถูกรถบรรทุกเสยเอาไปกินเสียก่อนแต่...กระถางต้นไม้ราคาแพง ที่ตั้งอยู่ตามสองข้างทางถูกเสยเรียบ...คนงานส่ายศีรษะ
บทที่15.อยากเป็นอะไรล่ะ เมีย หรือ นางบำเรอ?ในขณะที่อลิชากำลังปรับตัวเข้ากับที่อยู่ใหม่ เจ้าของบ้านหลังมหึมากลับกำลังคร่ำเคร่งกับงานมากมายที่กองท่วมหัว เขาหงุดหงิดเป็นครั้งแรก! นับตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่แทนบิดา ชายหนุ่มเริ่มเบื่อที่งานมีมากมายก่ายกองจนทำแทบไม่ทัน แฟ้มเอกสารกองจนเกือบล้นโต๊ะ เอกสารด่วนที่เมื่อก่อนแมทธิวชอบตรวจทาน เวลานี้ชายหนุ่มนึกอยากจะโยนงานเหล่านี้ ให้คนอื่นๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเองบ้าง เขาอยากมีเวลาส่วนตัวกับใครบางคน“อันนี้ผมต้องดูด้วยเหรอ? หัวหน้าแผนกนั้นไม่มีหรือไง?”เสียงเข้มๆ ตวาดลั่น แฟ้มงานสีดำหนาเตอะถูกเหวี่ยงจนกระเด็น ตามด้วยแฟ้มงานอีกหลายแฟ้มที่ CEO หนุ่มโยนตามมาติดๆ“เออ...” สุเมธการ์ดหนุ่มกึ่งเลขานุการ ทำหน้าพิกล...เขามองเจ้านายหนุ่ม สลับกับแฟ้มเอกสารในมือ...ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะโครงการเล็ก หรือใหญ่ แมทธิวขอมีเอี่ยวด้วยตลอด เขาอยากเห็นความคืบหน้า แต่เวลานี้เจ้านายกลับรำคาญ“ต่อไปนี้ อะไรที่ไม่สำคัญ ให้เขาตัดสินใจกัน
อลิชาไม่ได้ตอบในทันใด เธอเดินไปหย่อนบุตรชายไว้กลางเตียงนอน รณฤทธิ์ผวาเข้าหาตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ขนนุ่มฟู เขาหมดความสนใจมารดา เมื่อมีของเล่นถูกใจ“เรื่องมันยาวค่ะป้า ว่าแต่ป้าไม่ได้อยู่บ้านฉัตรสุวรรณแล้วเหรอคะ?”หญิงสาวจูงมืออดีตคนในบ้านฉัตรสุวรรณ เดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟาปลายเตียง“ออกนานแล้วล่ะค่ะ...อีคุณนายมันไม่ยอมจ่ายค่าแรง...ค้างหลายเดือนจนทนไม่ไหว! ติ๋มต้องกินต้องใช้น่ะค่ะ เลยกระเสือกกระสนมาหางานทำ ได้มาทำงานที่นี่ก็เหมือนอยู่บนสวรรค์ คุณแมทเธอไม่จุกจิก...ทำงานตามหน้าที่ รับเงินเดือนเต็มร้อย...”“ลุงสบายดีมั้ยคะ?” อลิชาเลี่ยงที่จะถามถึงสมาชิกในบ้านฉัตรสุวรรณคนอื่น เมื่อความเจ็บปวดยังไม่จางหายไป“คุณภพเธอก็อยู่ตามอัตภาพ เธอไม่รู้หรอกว่าเมียกับลูก ทำระยำตำบอนยังไงบ้าง...พูดแล้วยังแค้นไม่หาย...ติ๋ม ลาออกมานี่ เงินซักแดงยังไม่ได้เลยค่ะ”อลิชานิ่วหน้า...ฐานะของฉลวยไม่ได้อัตคัดถึงขนาดเงินขาดมือ จนต้องค้างค่าแรงลูกจ้าง...เกิดอะไรกับสภาพคล่องทางการเงินของคนบ้านนั้น“เกิดอะไรขึ้นคะ?”
ไทธัชแอบอมยิ้ม ไอ้ที่แมทธิวยอมง่ายๆ เพราะกลัวเสียชื่อนั่นเอง เสือผู้หญิงนอนเป็นหุ่นปูนปั้น จับพลิกซ้ายพลิกขวายังไม่รู้สึก กับผู้หญิงที่อวบอัดไปทั้งตัว เขาทำได้แค่...นอนมอง...ใครรู้เขา ชื่อเสียงคงป่นปี้ แต่อะไรก็ตามที่ทำให้แมทธิวสมยอม ไทธัชภาวนา... พระเจ้าคงไม่ใจร้ายเกินไป เพราะอลิชาทนทุกข์มานาน ผู้หญิงน่าสงสารคนนั้น ควรมีความสุขสักที ในเมื่อแมทธิวเป็นคนป้ายรอยราคีไว้บนร่างกายอลิชา เขาควรต้องรับผิดชอบผลพวงในเหตุการณ์ครั้งนั้น รณฤทธิ์จะได้มีพร้อมทั้งพ่อและแม่“แต่...”“เอาไงก็ว่ามาเลยไอ้ไท อย่ามาโยก?”แมทธิวหันไปหาเพื่อนหนุ่มไม่ได้สนใจผู้หญิงข้างตัว เสียงพึมพำไม่ได้ทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไป แมทธิวอยากรู้เหมือนกัน ไอ้ตัวเจ้าแผนการ มันจะทำยังไงต่อ...“ไม่อะไรหรอกไอ้คุณเพื่อน...แค่ขอให้คุณรับผิดชอบสิ่งที่ทำ...ตามประสาลูกผู้ชาย ผมเชื่อว่าคุณไม่ใช่คนใจร้ายนะแมท ผู้ชายทั้งแท่ง กล้าทำก็ต้องกล้ารับ... ยังไงละก็เมตตาอลิสด้วยล่ะ...อย่าใจร้ายนักเลยว่ะ”มองตากันตามประสาผู้ชาย แมทธิวไม่ได้เป็นคนโหดร้าย เพียงแ