“แปลกนะ? ธรรมดาแล้ว หากทำอาชีพเก่าๆ เธอน่าจะมีอันจะกินมากกว่านี้ เพราะเท่าที่ผมจำได้ ลีลาเธอ ไม่เบาเลย น่าจะมีลูกค้าติดใจหลายคน” ชายหนุ่มทำเสียงจิจ๊ะ เขาหรี่ตามองประเมินอดีตคู่นอน หล่อนทำให้เขาติดใจ แต่ไม่สามารถครอบครองหล่อนได้ซ้ำ เมื่อจู่ๆ หล่อนก็หายไปดื้อๆอลิชาก้มหน้า เม้มปากแน่น ไม่คิดจะตอบโต้ให้เข้าเนื้อตนเอง เจ็บใจที่ตนเองเสียเปรียบแบบไม่มีทางต่อสู้บิ้กบอสหนุ่ม เดินอ้อมโต๊ะทำงานของพนักงานสาวป้ายแดง เขาเดินเตร่ไป เตร่มา ทำท่าเหมือนจะพูดอะไร...แต่เมื่อมีบุคคลที่สามเดินเข้ามาสมทบ...แมทธิวจึงตัดใจเดินออกไป“เห้! นั่นบิ้กบอสของเราไม่ใช่เหรอ ท่านเข้ามาทำอะไรที่นี่ เวลานี้?”เพื่อนร่วมงานร้องถามเสียงหลง หลังแมทธิวเดินพ้นประตูไปอลิชาแสร้งยิ้มแหยๆ “เหรอคะ? อลิสไม่รู้จักค่ะ เขามาถามทาง”คำตอบของเธอฟังไม่ขึ้นเท่าไหร่ แต่ใครจะรู้ล่ะ เมื่อมีเธอกับแมทธิวเท่านั้นที่รู้“หลงทางเหรอ...ไม่น่าเชื่อ” เพื่อนร่วมงานคนนั้นทำหน้างงๆ พลางโครงศีรษะไปมา ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ เขาเดินไปคว้ากระเป๋าเป้พาดไว้บนบ่า เดินผ่านหน้าอลิชาไปหญิงสาวถอนใจดังเฮือก ฉวยกระเป๋าสะพายคล้องที่หัวไหล่ รีบรุดออกจากที่ทำงาน
บทที่8.ผู้ชายใจร้าย“คุณบีบบังคับอลิสเพราะ ‘อยากนอน’ กับอลิสเหรอคะ?” อลิชาถามกลับปากสั่น เป็นความเศร้าผสมความแค้นเคืองแมทธิวหมุนตัวกลับมาจ้องหน้าหญิงสาว สายตาเขาลุกโพลง ประหนึ่งมีกองไฟกองใหญ่สุมอยู่ในดวงตา“อย่าลำพองคิดว่าผมพิศวาสเธอนะ... ผมแค่ไม่อยากให้ใครก็ตาม...มาขัดใจ!” ชายหนุ่มเค้นเสียงพูด เขาปิดบังความคิดในใจ ใช่! เขาอยากนอนกับหล่อนจนเนื้อตัวเต้น...แต่หล่อนกำแหงใส่ กล้าปฏิเสธความต้องการของเขา...มันจึงเป็นที่มาของการข่มขู่ ซึ่งไม่เคยสักครั้งที่ต้องใช้วิธีนี้ใบหน้าเล็กๆ ขยับขึ้นลง เธอเงยหน้าขึ้น เปรยตอบชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงเย็นชา“อ่อค่ะ อลิสเข้าใจแล้ว...คุณแค่อยาก ตามสันดานผู้ชาย...หาใครไม่ได้แล้วเหรอคะ?”สันกรามแมทธิวปูดโปน เพราะชายหนุ่มโกรธจัด เขากัดฟันกรอด ถลึงตามองแม่สาวหน้าใสตรงหน้า ด้วยแววตาขุ่นจัด“ก็บอกแล้วไง...เวลานี้ผมอยาก
มือสั่นๆ ยกขึ้นแตะแก้มแมทธิวเบาๆ เธอยิ้มหวาน โดยไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำลงไป ทำให้แมทธิวหมดความยับยั้ง เวลานี้ในหัวของแมทธิวคิดออกแค่สิ่งเดียว นับจากนี้ไป... ไม่ว่าจะใช่วิธีไหน? แม่สาวตัวเล็กมีลูกติดคนนี้ ต้องมานอนใต้ร่างและครางแค่ชื่อของเขาเท่านั้น“อย่าทำแบบนี้เลย ไม่ดีกับบอสแล้วก็อลิสด้วย ชื่อเสียงของบอสจะมาเสียเพราะผู้หญิงมีปมอย่าอลิส คุ้มแล้วเหรอคะ?”เสียงแผ่วหวานชะอ้อนพูด ฟังดูมีเหตุผล แต่ไม่ใช่สิ่งที่แมทธิวต้องการปลายนิ้วแข็งแรงไล้กรอบหน้าเล็กๆ เขามึนงง สับสน รู้แค่เพียงไม่สามารถปล่อยมือจากเจ้าหล่อนได้ ไม่รู้ว่าหล่อนทำเสน่ห์เล่ห์กลที่ไหน เวลานี้ในหัวของเขา มีแต่ภาพความทรงจำเก่าๆ ภาพที่แสนระทึกขวัญ สั่นสะเทือนต่อมความภาคภูมิใจของชายนักรัก ผู้หญิงร้อนแรงตรงหน้าเกือบทำให้เขาเสียชื่อ และแมทธิวอยากแก้มือ เขาจะสอนให้หล่อนรู้ ผู้ชายนักรักเช่นเขา ไม่เคยตกม้าตาย“คุ้มสิ...ผมแน่ใจว่าคุ้มแน่” แมทธิวดันทุรัง เขาแนบเรียวปาก บดจูบปากช่างจำนรรจานั่น ขี้เกียจฟังคำคัดค้านของหล่อนเหมือนพื้นโลกสั่นสะเทือน แผ่นดินใต้ฝ่าเท้ายุบวาบ!ควา
บทที่9.คำลวงที่เชื่อไม่ได้จู่ๆ ก็มีใครไม่รู้วิ่งผ่านหน้าไป สองสาวที่กำลังเดินไปขึ้นลิฟต์ ต่างชะเง้อมองตามไปด้วยความอยากรู้“ใครน่ะเธอ?” หล่อนหันมาถามเพื่อนข้างตัว“หน้าคุ้นๆ ใช่แม่หม้ายสาวที่เป็นที่หมายปองของพวกพ่อหนุ่มกลัดมันมั้ยอ่ะ!” อีกคนตอบเสียงกระตือรือร้น มันกะทันหันเสียจนจับมาปะติดปะต่อไม่ถูก“น่าจะใช่ ว่าแต่หล่อนเข้าไปทำอะไรในนั้น?” หล่อนชักสายตากลับมามองไปยังสถานที่ที่อลิชาเพิ่งจะวิ่งผ่านไปแมทธิวดันประตู เขาเดินไม่รู้ไม่ชี้ตามออกมา ชายหนุ่มเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง เมื่อเปิดประตูออกมาเจอสองสาวที่ยืนตกตะลึงอ้าปากตาค้างอยู่ตรงหน้า!ชายหนุ่มไหวไหล่...สอดมือล้วงกระเป๋ากางเกง เดินผ่านหน้าสองสาวใต้บังคับบัญชาไปด้วยกริยาเฉยเมย“เธอเห็น...อย่างที่ฉันเห็นใช่มั้ย?”แม่สาวคนนั้นเปรยลอยๆ หล่อนไม่ได้ต้องการคำตอบ แค่ย้ำให้ตนเองแน่ใจ เธอไม่ได้ตาฝาดไปเอง“อืม...” ใบหน้าเล็กๆ ขยับขึ้นลงรัวๆ มองตามเจ้านายสูงสุดข
เจ้าของบ้านเลยรีบตอบ “มีการประกวดเด็กน่ะ คุณอิงเขาเลยต้องหารูปเด็ดๆ ของเจ้าฮาร์ทส่งให้ช่อง หากเข้าตา จะได้เป็นดาราตั้งแต่2ขวบเลยนะ” เป็นการสนับสนุนอลิชาแบบอ้อมๆ เพื่อให้เธอมีทุนรอนไว้ให้บุตรชายในอนาคต“ดีเหรอวะ ไหนจะแสง ไหนจะคน ทรมานเด็กไปหรือเปล่า!” แมทธิวติง เด็กตัวกะเปี๊ยกหากต้องไปอยู่ท่ามกลางผู้คน จะอึดอัดเปล่าๆ“ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เห็นเป็นไร ลองเฉยๆ ผมไม่อยากขัดใจคุณอิง”ไทธัชเองก็ไม่เห็นด้วย แต่ความคิดนี้เริ่มต้นที่น้ำอิง คนรักเมียหรือจะกล้าขัด“แป๊บนะ ปวดฉี่ว่ะ” แมทธิวกระเด้งตัวยืน เขาเดินฉับๆ ออกไปด้านนอกไทธัชยกมือค้างในอากาศ ชายหนุ่มกำลังจะอ้าปากบอกเพื่อน แมทธิวก็เดินลิ่วๆ ออกไปเสียแล้ว“ห้องน้ำข้างในก็มี จะเดินออกไปข้างนอกทำไมวะ?”เมื่อแมทธิวหายลับไปจากสายตา...สุดปัญญาที่จะรั้งไว้ ไทธัชเลยหันไปสนใจหน้าจอทีวีแทน“ไง...” เสียงห้าวๆ ทักดังจากด้านหลังจนอลิชาสะดุ้ง!หญิงสาวหมุนตัวมามอง เธออ้าปากค้าง...เมื
แป๋มสะบัดค้อนให้ฟักทอง เดินกระแทกเท้านิดๆ เมื่อจำใจต้องถอยห่างผู้ชายหน้าตาดี ที่นานๆ จะหลงเข้ามาให้ตนเองได้ชื่นชมเด็กชายในอ้อมแขนดันตัวขยุกขยิก ฟักทองจึงปล่อยเขาไว้บนพื้น รณฤทธิ์ที่เพิ่งหัดเดินได้ไม่เท่าไร จึงก้าวเดินสะเปะสะปะ ฟักทองเลยถอยห่างแมทธิวมาแบบไม่รู้ตัว ดังนั้น... เมื่ออลิชาย้อนกลับมา จึงเหลือแค่เธอกับเขาเพียงแค่นั้น ชายหนุ่มนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ชิดกำแพง เขาไขว้ขาแบบสบายใจ ทอดสายตามองตนเองทุกย่างก้าวแมทธิวอมยิ้มน้อยๆ มองปลายจมูกโด่งๆ ของอลิชา ขณะที่หล่อนสาละวนกับการจัดการรอยถลอกบนฝ่ามือของเขา“เรียบร้อยแล้วค่ะ” หลังทำความสะอาด และทาผิวถลอกๆ นั่นด้วยยาฆ่าเชื้อ หญิงสาวกล่าวเสียงเรียบ รีบถอยห่างจากเรือนกายทรงพลังที่ทำให้เธอประหม่าได้ทุกนาที“ยังเจ็บอยู่เลย” ชายหนุ่มแสร้งโอดครวญ“เมื่อสักครู่ คุณยังบอกว่าไม่เป็นอะไรไงคะ!” หญิงสาวท้วง เก็บยาและอุปกรณ์ใส่กล่องเหมือนเดิม“มันคงชาอยู่ แต่ตอนนี้เจ็บแทบทนไม่ไหว” แมทธิวตอบเสียงแหบ เขาแทบทนไม่ไหวจริงๆ แต่ไม่ใช่เพราะเจ็บ เป็นเพราะอยากกระโจนใส่หล่
“มานั่งทำอะไรตรงนี้จ้ะอลิส คนอื่นๆ หายไปไหนหมด?”น้ำอิงกล่าวเสียงนุ่ม ทอดสายตาอบอุ่นมองสบนัยน์ตากลมใสของอลิชาแววตาของหญิงสาวมีแววกังวลจนเห็นเด่นชัด...“มีเรื่องให้คิดเหรออลิส?” เจ้านายสาวทรุดนั่งด้านข้าง เธอเอ่ยถามเพราะอยากช่วยแก้ปัญหานั้น เมื่อรู้สึกรักใคร่อลิชาประหนึ่งน้องสาวก็ไม่ปาน“คุณอิงคะ?” อลิชามองสบนัยน์ตานายสาว เธอกำลังชั่งใจ เรื่องที่เก็บไว้สมควรเปิดเผยหรือยัง “อลิสกลัว!” หางเสียงของเธอสั่น จนคนฟังยังรู้สึก“ไม่มีอะไรให้กลัวหรอกนะอลิส เรื่องเลวร้ายกว่านี้ อลิสยังผ่านมาได้เลย จะกลัวทำไม” น้ำอิงเตือนสติ ช่วงเวลาเลวร้ายกว่านี้อลิชายังก้าวผ่านมาได้โดยไม่หวาดหวั่น“มันไม่ใช่แบบนั้นค่ะ” หญิงสาวสูดลมหายใจแรงๆ เอื้อมมือสั่นเทาจับปลายนิ้วมือของนายสาว เมื่อตัดสินใจถี่ถ้วน “อลิสกลัว กลัวว่าจะมีใครบางคนพรากลูกไปจากอก...อลิสควรทำยังไงดีคะ?” หญิงสาวกลั้นใจตอนที่กล่าวออกไป ความลับคับอกนี่เธอเก็บมานานปี จนคิดว่าจะไม่เปิดเผยให้ใครอื่นรู้ ความลับนั่นจะถูกฝังไปพร้อม
บทที่10.เด็กตาดำๆ“หะ! คุณอิงว่าไงนะครับ” ทันทีที่ไทธัชตื่น น้ำอิงที่อดทนรอก็เปิดปากเล่าเรื่องอลิชาให้สามีฟัง ชายหนุ่มถึงกับอุทาน เขายกมือขยี้ใบหู ทำหน้าตาพิกลตอนที่ย้อนถามซ้ำ“ก็อย่างที่ได้ยินแหละค่ะ เรื่องที่คุณไทเคยกระเซ้าคุณแมทเล่นๆ มันเกิดขึ้นแล้วค่ะ! คอนดอมพวกนั้นคงหมดอายุ ตอนที่คุณแมทมีอะไรกับอลิส ตาฮาร์ทเลยได้ออกมาร้องอุแว้ๆ นี่ไงคะ”“เป็นไปได้ยังไง อลิสกับไอ้แมทอะนะ” เสียงครางผสมความสับสน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าโลกมันกลม คนสองคนที่เคยมี ‘ซัมติง’ กัน ถึงเวียนมาเจอกันอีก“ให้ตายเถอะ...ตอนนั้นอลิสอายุเท่าไรกัน? ต๊ายตาย...คุณแมทหลอกเด็ก”น้ำอิงอุทาน เธอยกมือทาบอก เวลานี้รณฤทธิ์ อายุ2ปีพอดี บวกไปบวกมา ช่วงเวลาที่แมทธิวกับอลิชา ‘ยุ่ง’ กัน ช่วงนั้นหญิงสาวเพิ่งโตเป็นสาวเต็มตัวได้ไม่นาน“แปลก” ไทธัชยกมือแตะข้างขมับ เขาไม่เคยเห็นแมทธิวควงอลิชามาก่อน หล่อนเป็นผู้หญ
เกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม แมทธิวเดินตรงมายังรถยนต์ประจำตำแหน่ง เขาปรายตามองสภาพรถยนต์คันเก่งด้วยความรู้สึกคันยิบๆ ในใจ ผีบ้าตนไหนเข้าสิงเขา ถึงได้บ้าดีเดือด ขับรถกลับบ้านในสภาพที่ไม่พร้อม แต่ก็ไม่ยักเป็นอันตราย“เอาไปให้ไกลๆ ตากูเลยนะ เห็นแล้วจี๊ด!”ชายหนุ่มเปรยเสียงเคร่งกับการ์ดคู่ใจเขามุดเข้าไปนั่งตอนหลังรถยนต์ พยายามตีหน้านิ่งๆรถยนต์กำลังจะออก แต่ใครบางคนเดินตรงมาหาเสียก่อน“เดี๋ยว!” ชายหนุ่มตบเบาะให้สัญญาณ เขาเปิดประตูด้านข้าง ก้าวลงไปยืนรอคนที่พยายามเดินเข้ามาหา“ป้อๆ”รณฤทธิ์นั่นเอง เด็กชายส่งเสียงเรียก มือป้อมๆ โบกไปมา และยิ้มแฉ่ง จนคนรอบๆ พลอยยิ้มตามไปด้วย“ห้ามทำน้ำลายหกเลอะเสื้อฉันนะเว้ย!” แมทธิวออกตัว แต่ก็ยังช้อนอุ้มเด็กชายขึ้นมาจากพื้นอยู่ดี“ฮาร์ทไปล่วยๆ”สิ่งที่เด็กชายร้องขอ แมทธิวทำหน้ายุ่ง เขามองเลยไปทางด้านหลัง อลิชาเดินตามมาหางๆ ผิวแก้มหล่อนแดงก่ำ จนมองเห็นแต่ไกล แมทธิวอารมณ์ดีขึ้นเป็นกอง เขากดปลายจมูกกับแก้มยุ้ยๆ ของเด็กชายในอ้อมแขน แสร้
บทที่16.ยอมหรือไม่ยอมก็มีค่าเท่ากันแหละ...“ถามหน่อยเถอะ?” แมทธิวกล่าวเสียงหงุดหงิด เมื่อจบภารกิจฟิชเชอร์ริ่ง! อลิชามีทีท่าเศร้าสร้อย ประหนึ่งเธอโดนเขาข่มเหง ทั้งที่ช่วงเวลานั้นก็เข้าขากันดี “เธอจะยอมผมดีๆ ไม่ได้เหรอ ชอบซาดิสต์ไง? ถึงได้ต้องให้ออกแรงทุกที!”หญิงสาวตวัดตาใส่ เรียวปากเม้มแน่น ไม่ได้เอ่ยออกมาเป็นคำพูด แต่แววตัดพ้อที่ฉายผ่านดวงตาออกมา แมทธิวพอมองออก“บอกเลยนะ จำไว้ด้วยล่ะ เธอจะยอมหรือไม่ยอม มันก็มีค่าเท่ากัน อย่าลืมสิ เธอมาที่นี่เพราะอะไร?”ชายหนุ่มเปรยเสียงเฉยชา...สาเหตุที่อลิชาต้องมาพำนักที่นี่ ก็เพราะอุบัติเหตุบนเตียงที่เกิดขึ้นท่ามกลางสายตาของคนทั้งบ้าน ในเมื่อไอ้เพื่อนยากอยากให้เขารับผิดชอบผู้หญิงคนนี้ แมทธิวเต็มใจรับ แต่ก็ขอใช้หล่อนให้คุ้มค่า เมื่ออิสระถูกพรากจากตัว ก็ต้องได้สิ่งที่สมน้ำสมเนื้อกลับคืนมาด้วย“อลิสยอมมาที่นี่ เพราะไม่อยากให้คุณไท กับคุณอิงลำบากใจ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมาข่มเหงอลิสได้นี่คะ”
อลิชาแอบอมยิ้ม เธอแสร้งหลับนิ่งไม่ไหวติง“นอนก็นอนวะ!” เสียงพึมพำดังเบาๆ ร่างใหญ่หนา เอนตัวลงนอน ไม่วายรั้งเธอเขาไปสวมกอดไว้หลวมๆ“เธอมันยัยแม่มดชัดๆ” เสียงบ่นงึมงำ แล้วก็ค่อยๆ เงียบลงหญิงสาวระบายลมหายใจแผ่วๆ รอจนแน่ใจว่าแมทธิวหลับสนิท นอนฟังเสียงลมหายใจของเขา จนเป็นจังหวะสม่ำเสมอ จึงค่อยๆ ดึงมือที่พาดผ่านช่วงเอวออก กระถดตัวลงจากเตียงนอนช้าๆ รีบไปควานหาเสื้อผ้ามาสวมบนร่างกาย เธอทนนอนทั้งที่ร่างกายเปลือยเปล่าไม่ไหวจริงๆ แม่ลูกหนึ่งเดินกลับมาอีกครั้ง หลังใส่ชุดนอนชุดใหม่บนร่างกายเรียบร้อย เธอเอนตัวลงนอนอีกฝั่ง รั้งบุตรชายมากอดไว้แนบอก เพื่อใช้เขาเป็นหลักประกัน แมทธิวจะได้ไม่ถือโอกาสลวนลามตอนเธอหลับ จนเผลอหลับไปในเวลาต่อมา...เสียงนกร้องจุ๊บจิ๊บอยู่ที่หน้าต่างหัวเตียง...อลิชาหยีตา แสงแดดส่องต้องใบหน้า เธอตื่นสายโด่งเป็นครั้งแรก...ร่างบางทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่ง รีบมองหาบุตรชาย แต่บนเตียงว่างเปล่า ไร้บุตรชายที่เป็นยอดดวงใจ“ฮาร์ทๆ ฮาร์ทอยู่ไหนลูก?”เธอป้องปากร้องเรียกหา...ก
แมทธิวกลั้นความต้องการอันมากล้นของตนเองไว้ในอก เขาแช่ตัวนิ่งๆ ขยับร่างกายทีละน้อยๆ ทั้งๆ ที่อยากถาโถมเข้าใส่แบบสุดแรงเกิดอลิชาสูดลมหายใจลึกๆ เธอผ่อนคลายความตึงเครียด พยายามไม่ใส่ใจสิ่งแปลกปลอมที่คืบคลานเข้ามาในร่างกาย เปลือกตาพลิ้มหลับลง กัดริมฝีปากล่างกลั้นเสียงสะอื้น ปล่อยใจไปกับกระแสธารที่เชี่ยวกราก ไม่พยายามฝืน เพราะนั่นจะทำให้เธอเจ็บมากกว่าเดิมริมฝีปากหนาอ้าครอบเม็ดทับทิมสีระเรื่อ เขาดูดดื่มทรวงงามแรงๆ จนหญิงสาวครางลั่น กลไกธรรมชาติปรับตัวแบบอัตโนมัติ น้ำหวานฉ่ำเยิ้มถูกกลั่นออกมาจากซอกลึกลับ หล่อชโลมแก่นกายขึงขังจนชุ่มโชก แมทธิวทดลองเคลื่อนกายช้าๆ ความคับแน่นไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป เมื่อส่วนนั้นชุ่มโชกไปด้วยละอองปรารถนาชายหนุ่มเริ่มโถมเข้าใส่ มือแข็งแรงรั้งเอวคอดกิ่ว กระแทกอัดกับตัวตนแรงๆพรึ่บ! พรึ่บ!เสียงผิวกายเปียกเหงื่อกระแทกใส่กันดังก้องห้องนอนกว้าง เสียงครางคร่ำแผ่วพร่า ที่ระดับความดังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แมทธิวสูดปาก ครางเสียงแหบห้าว เขาเร่งความเร็วมากขึ้น พอๆ กับเพิ่มแรงโยกจนเรือนกายอวบอิ่มกระเพื่อมไหวทั้งลำตัว ชายหนุ่มโ
โหนกแก้มแดงก่ำ ดวงตาฉ่ำเยิ้ม ยืนยังยืนไม่อยู่ แต่ก็ยังมีแรงบีบบังคับเธอจนได้“อลิสไม่เลือก...ขออยู่ห่างๆ คุณสะดวกใจกว่า”หญิงสาวเชิดหน้าตอบ“เสียใจอลิชา...เธอเลือกไม่ได้ ไม่ว่าจะเมีย หรือนางบำเรอ หน้าที่ของเธอ คือการนอนกับผม!”ชายหนุ่มตะคอกกลับ เขาเดินเอียงไปเอียงมา ก่อนจะกระโจนเข้าใส่หญิงสาว จนล้มกลิ้งไปด้วยกันทั้งคู่ บนที่นอนหนาและกระเพื่อมเหมือนระลอกคลื่น“อืม...” เสียงทุ้มต่ำครางในลำคอ ปลายจมูกซุกอยู่ตรงแอ่งชีพจร กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ระเหยออกมาจากผิวกายนวลเนียน ทำให้แมทธิว หมดความยับยั้งชั่งใจปลายลิ้นสากและร้อน แลบออกมาเลาะเล็มผิวเนื้อชื้นเหงื่อ เขาตวัดปลายลิ้นเบาๆ จนคนใต้ร่างสะดุ้ง! มือของเธอพยายามดันลำตัวหนาหนักที่มีแต่กลิ่นแอลกอฮออล์ออกไปให้พ้น แต่แมทธิวเกร็งตัวไว้ เขาจูบดะไปทั่ว เร่งปลุกกระแสความกระสัน ก่อนที่ตนเองจะหมดแรงความเสียวซ่านก่อตัวทีละน้อย เป็นเหมือนคลื่นลมเบาๆ ที่พัดเข้าหาฝั่ง ก่อนจะทวีอานุภาพความแรงขึ้น จนแม้แต่หาดทรายเรียบกริบ ยังแทบจะล่มสลาย
พอเอาเข้าจริงๆ อุตส่าห์ยกเลิกการประชุม ยกเลิกนัดกับลูกค้า ยกเลิกนัดกับสาวโสภาที่กำลังคั่ว! แมทธิวกลับไม่กล้ากลับไปที่คฤหาสน์ไบเล่ย์ เขาหาข้ออ้างให้ตัวเองไม่ได้ และกลัวว่าอลิชาจะวางตัวไม่ถูกชายหนุ่มมาหมกตัวอยู่ที่ผับชั้นสูงแห่งหนึ่ง เขาดื่มบรั่นดีย้อมใจ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่กล้า...สามชั่วโมงที่ทนกระวนกระวาย จนแอลกอฮอลล์ เข้าไปแทนที่เลือดเกือบทุกพื้นที่ มันคงเต็มที่จนความกลัวหายไปจนหมด“เช็กบิลด้วยไอ้น้อง!” เสียงอ้อแอ้ร้องสั่งบริกรที่เดินผ่านไปมา บัตรเครดิตสีดำถูกยื่นส่งให้ ก่อนจะกระดกบรั่นดีแก้วสุดท้าย สาดหายไปในลำคอ ชายหนุ่มเดินโงนเงน คลำทางไปจนถึงรถยนต์คันหรู พาหนะยี่ห้อหรู และมีได้เฉพาะคนกระเป๋าหนักเท่านั้นชายหนุ่มถอยรถยนต์ ขับเคลื่อนออกจากที่ ด้วยสติที่ไม่เต็มร้อย ความมึนเมาทำให้เกิดอุบัติเหตุเล็กๆ ชายหนุ่มเสยกระจังหน้ากับเสาไฟฟ้าข้างทาง แต่ก็ยังพาพาหนะสุดหรู กลับมาถึงคฤหาสน์หลังงาม โดยที่คนขับไม่ถูกรถบรรทุกเสยเอาไปกินเสียก่อนแต่...กระถางต้นไม้ราคาแพง ที่ตั้งอยู่ตามสองข้างทางถูกเสยเรียบ...คนงานส่ายศีรษะ
บทที่15.อยากเป็นอะไรล่ะ เมีย หรือ นางบำเรอ?ในขณะที่อลิชากำลังปรับตัวเข้ากับที่อยู่ใหม่ เจ้าของบ้านหลังมหึมากลับกำลังคร่ำเคร่งกับงานมากมายที่กองท่วมหัว เขาหงุดหงิดเป็นครั้งแรก! นับตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่แทนบิดา ชายหนุ่มเริ่มเบื่อที่งานมีมากมายก่ายกองจนทำแทบไม่ทัน แฟ้มเอกสารกองจนเกือบล้นโต๊ะ เอกสารด่วนที่เมื่อก่อนแมทธิวชอบตรวจทาน เวลานี้ชายหนุ่มนึกอยากจะโยนงานเหล่านี้ ให้คนอื่นๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเองบ้าง เขาอยากมีเวลาส่วนตัวกับใครบางคน“อันนี้ผมต้องดูด้วยเหรอ? หัวหน้าแผนกนั้นไม่มีหรือไง?”เสียงเข้มๆ ตวาดลั่น แฟ้มงานสีดำหนาเตอะถูกเหวี่ยงจนกระเด็น ตามด้วยแฟ้มงานอีกหลายแฟ้มที่ CEO หนุ่มโยนตามมาติดๆ“เออ...” สุเมธการ์ดหนุ่มกึ่งเลขานุการ ทำหน้าพิกล...เขามองเจ้านายหนุ่ม สลับกับแฟ้มเอกสารในมือ...ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะโครงการเล็ก หรือใหญ่ แมทธิวขอมีเอี่ยวด้วยตลอด เขาอยากเห็นความคืบหน้า แต่เวลานี้เจ้านายกลับรำคาญ“ต่อไปนี้ อะไรที่ไม่สำคัญ ให้เขาตัดสินใจกัน
อลิชาไม่ได้ตอบในทันใด เธอเดินไปหย่อนบุตรชายไว้กลางเตียงนอน รณฤทธิ์ผวาเข้าหาตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ขนนุ่มฟู เขาหมดความสนใจมารดา เมื่อมีของเล่นถูกใจ“เรื่องมันยาวค่ะป้า ว่าแต่ป้าไม่ได้อยู่บ้านฉัตรสุวรรณแล้วเหรอคะ?”หญิงสาวจูงมืออดีตคนในบ้านฉัตรสุวรรณ เดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟาปลายเตียง“ออกนานแล้วล่ะค่ะ...อีคุณนายมันไม่ยอมจ่ายค่าแรง...ค้างหลายเดือนจนทนไม่ไหว! ติ๋มต้องกินต้องใช้น่ะค่ะ เลยกระเสือกกระสนมาหางานทำ ได้มาทำงานที่นี่ก็เหมือนอยู่บนสวรรค์ คุณแมทเธอไม่จุกจิก...ทำงานตามหน้าที่ รับเงินเดือนเต็มร้อย...”“ลุงสบายดีมั้ยคะ?” อลิชาเลี่ยงที่จะถามถึงสมาชิกในบ้านฉัตรสุวรรณคนอื่น เมื่อความเจ็บปวดยังไม่จางหายไป“คุณภพเธอก็อยู่ตามอัตภาพ เธอไม่รู้หรอกว่าเมียกับลูก ทำระยำตำบอนยังไงบ้าง...พูดแล้วยังแค้นไม่หาย...ติ๋ม ลาออกมานี่ เงินซักแดงยังไม่ได้เลยค่ะ”อลิชานิ่วหน้า...ฐานะของฉลวยไม่ได้อัตคัดถึงขนาดเงินขาดมือ จนต้องค้างค่าแรงลูกจ้าง...เกิดอะไรกับสภาพคล่องทางการเงินของคนบ้านนั้น“เกิดอะไรขึ้นคะ?”
ไทธัชแอบอมยิ้ม ไอ้ที่แมทธิวยอมง่ายๆ เพราะกลัวเสียชื่อนั่นเอง เสือผู้หญิงนอนเป็นหุ่นปูนปั้น จับพลิกซ้ายพลิกขวายังไม่รู้สึก กับผู้หญิงที่อวบอัดไปทั้งตัว เขาทำได้แค่...นอนมอง...ใครรู้เขา ชื่อเสียงคงป่นปี้ แต่อะไรก็ตามที่ทำให้แมทธิวสมยอม ไทธัชภาวนา... พระเจ้าคงไม่ใจร้ายเกินไป เพราะอลิชาทนทุกข์มานาน ผู้หญิงน่าสงสารคนนั้น ควรมีความสุขสักที ในเมื่อแมทธิวเป็นคนป้ายรอยราคีไว้บนร่างกายอลิชา เขาควรต้องรับผิดชอบผลพวงในเหตุการณ์ครั้งนั้น รณฤทธิ์จะได้มีพร้อมทั้งพ่อและแม่“แต่...”“เอาไงก็ว่ามาเลยไอ้ไท อย่ามาโยก?”แมทธิวหันไปหาเพื่อนหนุ่มไม่ได้สนใจผู้หญิงข้างตัว เสียงพึมพำไม่ได้ทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไป แมทธิวอยากรู้เหมือนกัน ไอ้ตัวเจ้าแผนการ มันจะทำยังไงต่อ...“ไม่อะไรหรอกไอ้คุณเพื่อน...แค่ขอให้คุณรับผิดชอบสิ่งที่ทำ...ตามประสาลูกผู้ชาย ผมเชื่อว่าคุณไม่ใช่คนใจร้ายนะแมท ผู้ชายทั้งแท่ง กล้าทำก็ต้องกล้ารับ... ยังไงละก็เมตตาอลิสด้วยล่ะ...อย่าใจร้ายนักเลยว่ะ”มองตากันตามประสาผู้ชาย แมทธิวไม่ได้เป็นคนโหดร้าย เพียงแ