อลิชาปรือตาขึ้นมอง สายตาของเธอมองเห็นทุกอย่างรอบตัวไม่ชัดเท่าไหร่...เนื้อตัวคันยุบยับ เหมือนมีแมลงตัวเล็กๆ มาชอนไช เธอพยายามเกา พยายามช่วยเหลือตัวเอง แบบคนที่มีสติไม่เต็มร้อย ผ้าเนื้อหนาบนร่างกายเสียดสีกับผิวเนื้อทำให้ผิวของเธอแสบทรมาน หญิงสาวดึงทึ้งอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายออกไปจากร่างกายอ่อนบาง พร้อมกับประตูที่เปิดอ้าขึ้น...
อลินดาเหลียวมองผู้ชายหนุ่มฉกรรจ์ที่เดินผ่านตนเองกับมาดาไป แพขนตากะพริบถี่ๆ เขาผู้นั้นหล่อวายร้าย ลุคเถื่อนๆ มองแค่แผ่นหลัง ยังเสียววาบไปถึงท้องน้อย...ไหล่กว้างทรงพลัง เรียวขาบึกบึนกำยำ ผู้ชายแบบนี้ถ้าได้นอนใต้ร่าง เธอคงได้ครางเสียงแหบทั้งคืน พลังเพศผู้ของเขาแผ่ซ่านมายังเธอ แม้จะอยู่ห่างไกลยังสัมผัสถึงได้ หญิงสาวแลบลิ้นเลียริมฝีปาก...กัดริมฝีปากร่างเพื่อกลั้นความกระหาย...
เพี้ยะ!
ฝ่ามือผอมบางของมารดาฟาดโผว๊ะมาที่ท้องแขนตนเอง อลินดาสะดุ้ง!
“คุณแม่อะ ตีอลินทำไมคะ?” หญิงสาวโวยเสียงอ่อย ไม่วายชำเลืองมองแมทธิวที่เดินหายลับมุมตึกไป
“ดูทำเข้า มองผู้ชายเหมือนอยากจะขย้ำ ทำตัวดีๆ หน่อยแม่ไม่อยากให้ใครว่าตามหลัง”
ฉลวยเหลือบเห็นปฏิกิริยาของบุตรสาวเข้าพอดี เธอจึงอดไม่ได้ที่จะตำหนิ อลินดามองผู้ชายที่เดินผ่าน เหมือนขนมหวานที่หล่อนอยากหยิบใส่ปาก
“ก็เขาหล่อนี่คะคุณแม่ขา...ถ้าเป็นผู้ชายคนนั้น อลินยอมเป็นเหยื่อแทนนังอลิสเลยค่ะ”
หากผู้ชายที่เพิ่งเดินผ่าน เป็นลูกค้าของเจ้สายหยุด อลินดายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้หญิงอย่างว่า...
“เหลวไหล...ลูกของแม่ต้องได้ดีกว่านังอลิสสิ”
ฉลวยกระซิบดุ นางลากอลินดาเข้าไปในลิฟต์ กระแทกปุ่มกดแบบใส่อารมณ์นิดๆ เมื่อลูกสาวคิดต่ำช้า จนนางแทบรับไม่ได้
“โธ่!! คุณแม่ขา อลินแค่พูดขำๆ ...ผู้ชายคนนั้น ไม่ต้องซื้อบริการหรอกค่ะ แค่เขายิ้มให้ ผู้หญิงหลายคนก็พร้อมจะสลัดผ้าวิ่งเข้าใส่แล้วค่า”
หญิงสาวเอียงศีรษะซบบ่ามารดา อธิบายเสียงใส เพราะหากพบเจอ ‘คน คนนั้น’ เป็นการส่วนตัว อลินดาแน่ใจ เธอคือหนึ่งในบรรดาสาวๆ หลายคนที่กระโจนใส่เขาแบบไม่เสียดาย
“คิดอะไรเลอะเทอะ...ความสัมพันธ์ฉาบฉวยมันทำให้เราไร้ค่า...อย่าทำแบบนั้นนะอลิน แม่ไม่ชอบ”
ฉลวยสั่งสอน การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายไปทั่ว มันทำให้ตนเองเสื่อมค่า แต่ฉลวยสอนอลินดาช้าไป นางน่าจะสอนบุตรสาวตั้งแต่เมื่อ10ปีก่อน...
ลิฟต์เคลื่อนที่ลงมาหยุดที่ชั้นสุดท้าย สองแม่ลูกก้าวออกมาจากลิฟต์ ฉลวยกวาดตามองหาสายหยุด จนกระทั่งเห็นคุณนายหน้าเลือดนั่งเป็นสง่าที่เก้าอี้ตัวหนึ่งกลางโถงลอบบี้
“เรียบร้อยใช่มั้ย?” นางถามย้ำ เมื่อฉลวยเดินเข้าไปหา
“ค่ะ... คุณนาย ฉันพา ‘เด็กนั่น’ ไปส่งไว้ที่ห้องเรียบร้อยแล้วจ้ะ”
ฉลวยตอบเสียงหวาน ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่ง มีอลินดาทรุดนั่งด้านข้าง
“อืม...ดี...เอานี่ ค่าตอบแทนหล่อน” นางเสือกซองสีขาวขนาดหนาพอประมาณให้ฉลวย
สาวใหญ่รีบตะครุบ นางแย้มซองเพื่อมองดูสิ่งที่ซุกอยู่ภายใน ก่อนจะเบิกตาโต
ธนบัตรใหม่เอี่ยมอัดแน่นอยู่ในซองปึกใหญ่พอดู “เอาเป็นว่า หนี้ของหล่อนที่ค้างไว้ หมดพอดี ส่วนที่หล่อนเห็นนั้น เป็นกำไร...” สายหยุดกล่าวแบบไว้ท่า งานนี้เธอได้กำไรโข...ยิ่งแมทธิวติดใจ ครั้งหน้า เธอจะโขกราคามากกว่านี้ เมื่อคะเนแล้ว...ผู้ชายอย่างเขาน่าจะชอบ...ผู้หญิงสะอาด บริสุทธิ์อย่างหญิงสาวผู้นั้น...
“ไม่น้อยไปหน่อยเหรอคุณนาย” ถึงไม่ได้อยู่ในแวดวงน้ำกาม แต่ฉลวยก็พอจะทราบราคา...สำหรับการเปิดบริสุทธิ์ครั้งแรกของผู้หญิง
“หมายความว่าไงยะ!” สายหยุดกล่าวน้ำเสียงกดต่ำ มีความไม่พอใจแฝงอยู่ด้วย
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ไปกันเถอะคุณแม่...” อลินดารีบพูดแทรก เธอกระตุกแขนเตือนสติมารดา
ฉลวยกัดฟัน...นางฉวยกระเป๋าสะพายยัดซองเงินใส่ลงไปแบบกระแทกกระทั้น เมื่อเหลือบมองตามสายตาบุตรสาว ผู้ชายหน้าเหี้ยมยืนอยู่ไม่ไกล หากกระโตกกระตาก สายหยุดคงไม่ปล่อยให้นางโวยวายฝ่ายเดียว
“ฉันลาล่ะ คงไม่ได้พบกันอีกนะ” นางกล่าวลา...สาปส่งสายหยุดในใจ ไม่วันยอมเป็นหนี้ผู้หญิงร้ายกาจคนนี้อีกเป็นครั้งที่สอง...
“ฉันก็หวังอย่างนั้นนะ แม่ฉลวย”
เสียงเปรยตามหลังเฉยสนิท มุมปากหล่อนมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำให้ฉลวยเดือดปุดๆ
“อย่าไปสนใจเลยค่ะคุณแม่ รีบไปกันเถอะ อลินว่ายัยคุณนายนั่นน่ากลัวกว่าที่แม่รู้”
อลินดาเปรยเตือนสติ คุณนายสายหยุดคงเชี่ยวพอตัว ไม่อย่างนั้นนางคงทำธุรกิจมืดแบบนี้ไม่ได้ ทั้งปล่อยเงินกู้ และค้าผู้หญิง...
แมทธิวปลดนาฬิกาออกจากข้อแขน...ตามด้วยเสียงรูดเข็มขัด...สูทผ้าเนื้อดีถูกแขวนไว้ที่พนักเก้าอี้ก่อนหน้านี้...กระเป๋าสตางค์ถูกวางไว้ที่โต๊ะ ชายหนุ่มปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ด ขณะที่สายตาทอดมองผู้หญิงร่างเล็กกลางเตียง หล่อนกำลังบิดกายยั่วเย้าเขาอยู่ กริยาเชิญชวนนั่นทำให้ร่างกายของเขาร้อนผ่าว!
“เสน่ห์ของผมทำให้เธอร้อนได้ขนาดนี้เชียวหรือ” ชายหนุ่มกล่าวกระเซ้า เขาทิ้งตัวลงบนที่นอน จนพื้นนุ่มนิ่มสะเทือน
สติอันน้อยนิดของอลิชา...ตะโกนเตือนลั่นสมอง...เสียงกรีดร้องนั่นสั่งให้เธอรีบหนี...แต่ร่างกายของเธอ ไม่ฟังคำสั่งของสมองเสียแล้ว เมื่อร่างกายขยับเข้าใกล้สิ่งที่สมองร้องสั่งว่าเป็นตัวอันตรายเสียฉิบ...
มือเรียวเล็ก ยื่นแตะใบหน้าคมคายที่โน้มเข้าใกล้...ดวงตาปรือฉ่ำจับจ้องดวงตาคมกริบไม่วางตา
“คุณเป็นใครคะ?” เสียงหวานแหบๆ ร้องถาม ร่างกายขยับเขาใกล้ชายหนุ่มแบบอัตโนมัติ
แมทธิวหัวเราะหึๆ เขายกมือขึ้นแตะผิวแก้มนุ่ม สายตาลดต่ำลง มองเนินอกอิ่มที่ชูช่อยั่วสายตาด้วยสายตามันวาว...
“ผมเป็นผู้ชายในฝันที่เธอจะลืมไม่ลงไปตลอดชีวิต” เสียงทุ้มนุ่มกังวานกล่าวตอบ มือข้างที่ว่างยกขึ้นประคองเต่งเต้า พลางไล้ยอดอกด้วยปลายนิ้วหัวแม่มือ
อลิชาสะดุ้ง! เนื้อตัวชาวาบ...กระแสความร้อนหลั่งไหลเหมือนทำนบพัง มันแผ่ซ่านกระจายไปทั่วทุกตารางนิ้วของร่างกาย เธอดันฝ่ามือกับแผ่นอกแน่นตึง โก่งตัวหนีเท่าที่จะทำได้...แต่ เพราะสติอันน้อยนิดที่เธอทำได้ แต่ไม่ได้เท่าที่ใจต้องการ การผละออกห่างแมทธิว เท่ากับช่วยเปิดทางให้ชายหนุ่ม เพราะทันทีที่ถอยหลังหนี ร่างบอบบางของเธอก็หงายผึ่ง นอนแผ่กลางที่นอนนั่นเอง แมทธิวตวัดตัว ขึ้นคร่อมทับ เขาตรึงมือนุ่มนิ่มด้วยฝ่ามือร้อนผ่าว ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก ตอนที่โน้มใบหน้าลง กดจูบมุมปากอิ่มที่เผยอรอท่าเหมือนกำลังท้าทาย...
จูบ!! เธอกำลังถูกจูบจากผู้ชายแปลกหน้า เป็นความฝันแน่ๆ อลิชาคิดในใจแบบนั้น ความฝันวาบหวิวที่สุดในรอบ10ปี นับตั้งแต่แตกเนื้อสาวแมทธิวครางงึมงำ จุมพิตแผ่วๆ แต่กลับซ่านทรวง รสหวานซ่านที่แผ่เต็มอุ้งปากเหมือนกำลังได้ดื่มหยดน้ำค้างแรกเช้า ชายหนุ่มบดริมฝีปากแรงขึ้นอีกนิด แทรกปลายลิ้นตวัดเร้าโรมเรียวลิ้นเล็กๆ ที่ถอยหนี เป็นเกมสนุกในอุ้งปากที่น่าสุนทรีเสียจนแมทธิวใช้เวลานานกว่าทุกครั้ง มือแข็งแรงเคลื่อนที่ลงไปลูบไล้ผิวกายเนียนละเอียด เขาเกลี่ยปลายนิ้วไปตามส่วนคอดเว้าของโค้งสะโพก ก่อนจะวกกลับมาด้านหน้า เพื่อค้นหาเป้าหมายที่น่าสนใจ เรียวขาเพรียวถูกดันให้แยกออกจากกันด้วยความชำนาญ ขาแข็งแรงสอดกั้นไว้ ครั้นเมื่ออลิชาบีบเรียวขาชิดกันเธอจึงทำไม่ได้ ปลายนิ้วร้อนผ่าว กรีดตามรอยแยกปริ่มน้ำ หญิงสาวใต้ร่างสะดุ้งเยือก ร่างกายเกร็งแข็งขึ้นมาแบบฉับพลัน เพียงแค่ของสงวนกลางร่างกายถูกแตะต้อง“ยะ อย่า...อย่าทำแบบนั้นกับอลิสเลยค่ะ” เสียงหวานปนหอบกระซิบวอนขอ“อลิส เธอชื่ออลิสอย่างนั้นเหรอ?” ชายหนุ่มถามกลับเสียงปร่า เขาดันตัวชะโงกอยู่เหนือร่างกายอวบอัด“ค่ะ...ปล่อยอลิสไปนะคะ” อลิชาพยายามร้องขอครั้งสุดท้าย สำนึกดีชั
บทที่4.กาลเวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นเองอลิชาตื่นตามเวลา เธอปรือเปลือกตาขึ้นมอง สิ่งที่สายตาจับภาพได้... เป็นภาพที่ไม่คุ้นชิน เพดานห้องเธอเป็นไม้อัดเก่าๆ ผุๆ แต่ที่เห็นนี่ คือโคมไฟห้อยระย้า แสงสะท้อนของมันสวยเหมือนเกล็ดเพชรยามล้อเล่นกับแสงไฟ...หญิงสาวผวา!! แล้วเธอก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติอีกครั้ง... ข้างกายของเธอมีผู้ชายรูปร่างกำยำนอนแนบชิด เท่าที่สำรวจคร่าวๆ เขา ‘เปลือย’ เมื่อชายผ้าที่พาดไว้หมิ่นๆ ช่วงเอว มันปิดไม่มิด แก้มก้นผู้ชายที่ชาตินี้อลิชาคงไม่มีวันได้เห็น เมื่อเธอตั้งใจจะอยู่คนเดียว ไม่อยากสร้างภาระให้กับใคร หญิงสาวยกมือขยี้ดวงตาแรงๆ ก่อนจะสูดปากคราง เมื่อร่างกายประท้วงการออกแรง เนื้อตัวของเธอร้าวระบม เหมือนทำงานหนักมาทั้งวัน เธอแน่ใจว่าตนเองหลับสนิท หลังดื่มนมอุ่นๆ ที่ฉลวยยกมาให้หน้าห้อง...เอะ!หญิงสาวรวบผ้าห่มแนบลำตัวมากขึ้น ใบหน้าซีดเผือดเมื่อพอจะเดาเหตุการณ์ออกอลิชาไม่กล้าแม้แต่จะก้มมองตัวเอง ร่างกายเธอร้าวระบม แถมว่างเปล่า เหมือนกับว่าใต้ผ้าห่มนี่ เธอไม่ได้สวมอะไรเลยน้ำตาหยดเล็กๆ ไหลพรู มันเจ็บแปลบเหมือนจะขาดใจ เมื่อคนที่ไว้ใจ หักหลัง ทำลายเธอจนยับเยิน...รอยยิ้มหยันๆ แต้
หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ กัดริมฝีปากล่างจนห้อเลือด กลั้นสะอื้นไว้สุดฤทธิ์ เมื่อไม่อยากให้คนนอกรู้เรื่องอดสูที่เกิดขึ้นกับตัวเอง“ไม่ต้องมาปิดติ๋มค่ะ...ติ๋มพอจะเดาออก อีคุณนายบนตึกนั่นเดินเข้า เดินออกบ้านเจ้สายหยุดทางเป็นมัน มันเอาหนูอลิสไปขายสิท่า” ติ๋มกล่าวเสียงเคียดแค้น...เจ็บใจที่ช่วยเหลือคนน่าสงสารอย่างอลิสชาไม่ได้ เรื่องมันสายเกินกว่าจะแก้ไขเสียแล้วอลิชาผงะ แม้แต่สาวใช้ก้นครัวอย่างติ๋มยังรู้“ไปเก็บของค่ะ หนูอริสอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วล่ะ มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อไป อีคุณนายใจดำนั่น คงไม่หยุดง่ายๆ”มือหยาบกร้านดันแผ่นหลังบอบบางของหญิงสาว เธอกระซิบเสียงแผ่วๆ เพราะกลัวบุคคลที่สามได้ยิน“อลิสไม่มีที่ไปนะติ๋ม” หญิงสาวท้วง นอกจากฉลวยแล้ว เธอไม่มีใครที่พอจะพึ่งพาได้จริงๆ“ไม่ต้องกลัวค่ะ หลบไปก่อน เดี๋ยวติ๋มหางานให้ทำเอง... ไปให้พ้นจากบ้านนี้ บุญคุณท่วมหัวที่อีคุณนายมันอ้างอย่าไปนึกถึง... ความระยำที่อีคุณนายมันทำลบล้างหมดแล้วค่ะ”ถึงไม่ใช่ญาติ แต่เห็นกันมาตั้งหลายปี สิ่งที่ฉลวยและครอบครัวทำกับอลิชา เกินกว่าที่ติ๋มจะรับไหว ถึงเธอจะจนกร็อบ ต้องอาศัยใบบุญบ้านฉัตรสุวรรณ แต่เรื่องระยำตำบอนอย่างน
ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาเดินเข้าไปด้านใน และลงมืออาบน้ำ เพื่อชำระคราบไคล่ต่างๆ บนร่างกาย “อูยยย!” แมทธิวเผลอตัวอุทานออกมาเสียงหลง เมื่อสายน้ำเย็นรินรดร่างกาย ผิวหนังที่แผ่นหลังก็ประท้วง มันเจ็บแปลบเนื่องจากแผลสด เขาเอี้ยวตัวตะแคงร่างกายมองผ่านกระจกเงา ริ้วรอยนูนเด่น ฝีมือแม่ม้าพยศเมื่อคืนนี้ หล่อนฝากรอยรักไว้บนแผ่นหลังเขา เสียงเป็นทางยาวมุมปากสีเข้มกระตุกยิ้ม บทรักสุดโลดโผนเมื่อค่ำคืน ทำให้แมทธิวคิดถึงหล่อนขึ้นมาติดหมัด ไอ้ที่เคยปฏิบัติมา คงถูกแหก เมื่อในสมองของแมทธิวตอนนี้ เขาติดใจจนอยากพบหล่อนอีกสักครั้ง...หลังแต่งตัวเรียบร้อย ชายหนุ่มซ่อนรอยแผลเล็กๆ บนร่างกายไว้ด้วยเสื้อผ้าชุดเดิม เขาเดินผิวปากออกจากห้องสวีทแบบคนอารมณ์ดี ความเครียดที่สะสมในร่างกาย ถูกระบายไปกับบทรักร้อนแรงจนหมดโทรศัพท์เครื่องบางเฉียบถูกล้วงออกมาจากซอกกระเป๋าเสื้อ แมทธิวกดโทร. ออก ต่อสายหาคนจัดหาผู้หญิงเพื่อเจรจา เขาต้องการเจอหล่อนอีกครั้ง...แต่คงไม่ใช่วันนี้“มีอะไรคะ? ทำไมแม่นั่งยิ้มอยู่คนเดียว”อลินดาที่เพิ่งจะตื่นนอน หล่อนย่างกรายลงมาชั้นล่างของบ้าน เอาเมื่อตะวันขึ้นตรงศีรษะพอดี“ไม่ดีใจได้ยังไงลูก อีคุณนายนั่นโทร
“ดูๆ คนของคุณอิง มีงอนด้วย”“ฝีมือใช้ได้เลยค่ะ หน้าตายังเด็กๆ อยู่เลยด้วยไม่คิดว่ารสมือจะดีขนาดนี้” น้ำอิงชมซ้ำ เธอเปรยให้สามีฟัง“บอกบ้านใหญ่หรือยังล่ะ...เดี๋ยวจะมีปัญหาทีหลังนะ...” ไทธัชเตือน ความเคลื่อนไหวภายในบ้านเขา ถูกสอดส่องจากคนบ้านใหญ่ จนบางครั้งเขาก็เอือมระอา...“อิงว่าจะไปเรียนให้ท่านทราบวันนี้ค่ะ” น้ำอิงตอบเสียงแผ่ว เธอรับรู้กระแสความไม่พอใจผ่านทางน้ำเสียงที่สามีใช้“อืม...” ไทธัชไม่ได้พูดต่อ เขารับชามข้าวต้มจากฟักทอง ก่อนจะตักใส่ปาก... “อร่อยจริงๆ” ชายหนุ่มเปรยหลังจากลิ้มรส รสมือของอลิชาเข้าไปแล้ว“ฟักคงตกกระป๋อง...ขนาดคุณไทยังชม” ฟักทองบ่นกระปอดกระแปด เมื่อเจ้านายทั้งสองคน มีความเห็นตรงกัน“งานอื่นมีเยอะแยะ ส่วนหน้าที่ทำอาหาร ฟักเป็นแค่ลูกมือก็พอ...” ไทธัชกล่าวยิ้มๆ เขาเป็นกันเองกับคนในบ้าน ไม่ถือตัวว่าเป็นเจ้านาย“ฟักไปตามอลิสมาสิ จะได้รู้จักกันไว้ ใครเป็นใคร เดี๋ยวจะงง”น้ำอิงสั่งฟักทอง อลิชาจะได้ทำความรู้จักกับสามีของเธอด้วยหญิงสาวร่างเล็กบาง เดินตามหลังฟักทองเข้ามา“สวัสดีค่ะคุณ” อลิชายกมือขึ้นทำความเคารพโดยไม่ต้องให้ใครบอก เธอยิ้มเซียวๆ ให้เจ้านายหนุ่ม“อายุเท่าไหร
ใบหน้าเล็กๆ ส่ายไปมา...น้ำตาทะลักรินโดยไม่รู้สาเหตุ เป็นความหวาดกลัวจับจิต หากสิ่งที่กำลังกลัวเกิดขึ้นจริงๆ“อลิสมีแฟน หรือมีผู้ชายที่คบหามั้ย?”น้ำอิงถามเสียงแผ่ว เธอกำลังหาทางช่วย หากอลิชาก้าวพลาดหญิงสาวส่ายใบหน้าแรงๆ ใช้หลังมือปาดน้ำตา ก่อนจะย่อตัวลงนั่งบนพื้นเจ้านายสาวหันมาเผชิญหน้า เธอสูดลมหายใจแรงๆ “อาการที่เป็นอยู่ อิงไม่อยากฟันธงนะอลิส...ที่อิงถามแบบนั้นเพราะอิงจะได้วิเคราะห์ถูก ถ้าอลิสไม่เคยมีแฟน ไม่เคยคบผู้ชาย ปัญหาที่อิงกลัวก็ไม่น่าใช่” เสียงอธิบายเนิบนาบ หัวใจของอลิชาหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เธอไม่เคยคบค้าสมาคมกับเพศตรงข้าม ไม่เคยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับผู้ชายคนไหน แต่...เธอมีความสัมพัธ์กับผู้ชายที่ไม่รู้จักชื่อ...ครั้งเดียวก่อนจะหนีเตลิดมาที่นี่“คุณอิงคะ อลิส...” หญิงสาวเรียบเรียงคำพูด “ก่อนมาที่นี่ อลิสมีอะไรกับผู้ชายคนหนึ่ง อลิสไม่รู้จักเขาเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาชื่ออะไร มันเป็นคราวซวยของอลิส แบบนี้อลิสคงจะท้องใช่มั้ยคะ?”เสียงติดๆ ขัดๆ เพราะกลั้นสะอื้นไปพร้อมๆ กับการพูด น้ำตาไหลอาบหน้า เสียใจกับโชคชะตาตนเอง เคราะห์ซ้ำกรรมซัดใส่ตนเองไม่หยุดน้ำอิงกะพริบเปลือกตาถี่ๆ เธอเ
บทที่5.เมื่อคนในอดีตย้อนมาเจอกันผ่านไปสามปี อะไรๆ ในชีวิตของอลิชาเปลี่ยนไปเกือบหมด...วันนี้ วันที่เธอประสบความสำเร็จ...เรียนจบอย่างที่หวัง ได้ทำมาหากินอย่างเต็มที่ หญิงสาวมองไปรอบๆ ตัว แววตาสลดลง...ในขณะที่เพื่อนๆ มีญาติสนิทมาร่วมแสดงความยินดีกันหนาตา...ข้างกายเธอกลับว่างเปล่า...“เอาน่าไอ้อลิส แกภูมิใจในตัวเองเถอะ พ่อกับแม่บนสวรรค์จะได้พลอยดีใจไปด้วย...แกเก่งจริงว่ะ”หญิงสาวปลุกปลอบใจตนเอง บ่ายหน้าเดินออกจากรั้ววิทยาลัย’ หลังรับพระราชทานปริญญาบัติเสร็จเรียบร้อยสองมือกอดความสำเร็จแนบอก ยิ้มเซียวๆ ให้คนรู้จักเมื่อเขาเหล่านั้นเดินผ่าน เสียงเฮฮาดังแว่วๆ อยู่ด้านหลัง...สองเท้าของเธอก้าวเดินอย่างมั่นคง เมื่อมีใครบางคนรออยู่ที่บ้านพัก คน คนนั้นคือคนสำคัญที่สุดของตัวเองรถประจำทางวิ่งมาจอดเทียบฟุตบาทพอดีกับที่อลิชาเดินมาถึง เธอกระโจนขึ้นรถทัน ก่อนที่สารถีคนขับจะเหยียบคันเร่ง พาพาหนะสาธารณะขึ้นไปผจญความแออัดบนท้องถนน กลิ่นควันจากท่อไอเสียไม่ได้ทำให้อลิชาหงุดหงิดเหมือนทุกวัน วันนี้เธออารมณ์ดีเสียใจหุบยิ้มไม่ได้ สีหน้าเรียบเฉยเป็นนิจ วันนี้กลับมีรอยยิ้มละไมแต้มอยู่บนเรียวปาก เป็นความภาคภูมิอย
คุณท่านบ้านใหญ่ออกตัวแรง...แต่ท่านก็กลับลำทำหน้าตาเฉยเมย ตอนที่มาเป็นผู้ใหญ่โกนผมไฟให้บุตรชายเธอ อลิชาถูกดูแลจากทุกคนในบ้านหลังคลอดบุตร ประหนึ่งเป็นญาติคนหนึ่งของครอบครัวของเจ้านายสาวเลยทีเดียวเป็นเพราะเด็กชาย ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทธัชกับบรรดาญาติฝ่ายเมียแน่นแฟ้นขึ้น...เขาไม่ใช่หลานเขย บุตรเขยที่ฝ่ายครอบครัวภรรยาไม่ปลื้มอีกต่อไปความดี ความซื่อสัตย์ของไทธัชพิสูจน์ให้คนในครอบครัวของน้ำอิงเห็นกับตา...ไร้เสียงบ่น ก่นว่า นับตั้งแต่เด็กชายกลายเป็นขวัญใจ หากไม่ติดว่าอลิชารักบุตรชายดั่งแก้วตาดวงใจ ทั้งน้ำอิงและไทธัช คงเอ่ยปากขอเด็กน้อยมาเป็นลูกบุญธรรมของตนเองเป็นแน่แท้...“ค่ะ...”“หากรูปนี้เขาตา เผลอตัวแสบจะได้เป็นดาราแต่เด็กนะ”อลิชาไม่เคยคัดค้านความคิดของนายสาว เพราะทุกสิ่งที่น้ำอิงมอบให้มีแต่สิ่งดีๆ ...เธอกับลูกไม่ต้องออกไประเหเร่ร่อนก็เพราะความเมตตาของเจ้านาย ครั้งแรกที่เรื่องแดงขึ้นมา ญาติทางฝ่ายน้ำอิง...ยืนกรานให้อลิชาลาออก...เพราะไม่อยากให้มีเรื่องเสื่อมเสียเกิดขึ้นในบ้าน น้ำอิงยืนยันเช่นกัน เธอปล่อยอลิชาไปตกระกำลำบากข้างนอกนั่นไม่ได้ เป็นครั้งที่สองที่น้ำอิงกล้าขัดคำสั่งของสมา