จูบ!! เธอกำลังถูกจูบจากผู้ชายแปลกหน้า เป็นความฝันแน่ๆ อลิชาคิดในใจแบบนั้น ความฝันวาบหวิวที่สุดในรอบ10ปี นับตั้งแต่แตกเนื้อสาว
แมทธิวครางงึมงำ จุมพิตแผ่วๆ แต่กลับซ่านทรวง รสหวานซ่านที่แผ่เต็มอุ้งปากเหมือนกำลังได้ดื่มหยดน้ำค้างแรกเช้า ชายหนุ่มบดริมฝีปากแรงขึ้นอีกนิด แทรกปลายลิ้นตวัดเร้าโรมเรียวลิ้นเล็กๆ ที่ถอยหนี เป็นเกมสนุกในอุ้งปากที่น่าสุนทรีเสียจนแมทธิวใช้เวลานานกว่าทุกครั้ง มือแข็งแรงเคลื่อนที่ลงไปลูบไล้ผิวกายเนียนละเอียด เขาเกลี่ยปลายนิ้วไปตามส่วนคอดเว้าของโค้งสะโพก ก่อนจะวกกลับมาด้านหน้า เพื่อค้นหาเป้าหมายที่น่าสนใจ เรียวขาเพรียวถูกดันให้แยกออกจากกันด้วยความชำนาญ ขาแข็งแรงสอดกั้นไว้ ครั้นเมื่ออลิชาบีบเรียวขาชิดกันเธอจึงทำไม่ได้ ปลายนิ้วร้อนผ่าว กรีดตามรอยแยกปริ่มน้ำ หญิงสาวใต้ร่างสะดุ้งเยือก ร่างกายเกร็งแข็งขึ้นมาแบบฉับพลัน เพียงแค่ของสงวนกลางร่างกายถูกแตะต้อง
“ยะ อย่า...อย่าทำแบบนั้นกับอลิสเลยค่ะ” เสียงหวานปนหอบกระซิบวอนขอ
“อลิส เธอชื่ออลิสอย่างนั้นเหรอ?” ชายหนุ่มถามกลับเสียงปร่า เขาดันตัวชะโงกอยู่เหนือร่างกายอวบอัด
“ค่ะ...ปล่อยอลิสไปนะคะ” อลิชาพยายามร้องขอครั้งสุดท้าย สำนึกดีชั่ว สั่งให้ตนเองทำแบบนั้น แม้ร่างกายจะไม่ทำตาม
“อลิส...ผมกำลังจะพาเธอไปท่องดินแดนมหัศจรรย์ ไม่อยากไปด้วยกันเหรอไง?” แมทธิวโน้มน้าว เขาเกลี่ยปลายนิ้วกับปรอยผมข้างขมับ มันชื้นเหงื่อจนเปียกชุ่ม
“...” ไม่มีคำตอบจากปากอิ่มย้อย มีเพียงใบหน้าที่ส่ายไปมา เมื่อสติของอลิชาใกล้จะขาดผึ่งเต็มทน ร่างกายของเธอเกร็งกระตุก มันปวดร้าวไปตามข้อต่อ...ปวดตุ๊บๆ โดยเฉพาะหย่อมหญ้ากึ่งกลางร่างกาย เธอต้องการอะไรบางอย่างที่สามารถทำให้ตนเองหายจากความทรมาน และผู้ชายตรงหน้านี้ น่าจะช่วยตนเองได้
มือเรียวรั้งร่างกายหนาหนักเข้ามาใกล้ เธอแอ่นตัว เสียดสีเนินถันกับแผงอกแน่นตรึง พลางส่งเสียงครางแผ่วๆ
แมทธิวอมยิ้ม เขาสอดมือรั้งเอวกิ่วแนบชิดหน้าขาแข็งแรง บดสะโพกผายเป็นวงกลม ก่อนจะสลัดชั้นในยี่ห้อดังที่เกาะสะโพกไว้ทิ้งแบบไม่ไยดี
ชายหนุ่มแน่ใจว่าหญิงสาวใต้ร่างสะอาดบริสุทธิ์ กิริยาเงอะงะ ของหล่อนบ่งบอกเช่นนั้น แม้บางครั้งหล่อนจะดูเร่งร้อนแปลกๆ เหมือนสติของหล่อนมีไม่เต็มร้อย แววตาฉ่ำหวานคู่นั้นมีพลังดึงดูดบางอย่าง...มันทำให้เขาหลงลืมกฎเหล็กของตนเองไป...
ใช่...เพราะทันทีที่สอดแทรกความเป็นชายลึกลงไปกลางกลีบดอกไม้แรกแย้ม
“เจ็บ...อะ อ่าว์” เสียงครางกับปฏิกิริยาแข็งขืน ปลุกสำนึกของแมทธิวกลับคืนมา
ลืม...แมทธิวลืมใช้อุปกรณ์ป้องกันตัว เขารีบร้อนเพราะถูกเร่งเร้าจากอลิชาจนลืมความตั้งมั่นที่ปฏิบัติตัวมาเนิ่นนาน ชายหนุ่มพ่นลมหายใจแรงๆ เขารีบดึงสะโพก ถอดถอนตัวตนแข็งตึง มันยังไม่สายที่จะทำอะไรๆ ให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันความผิดพลาดภายภาคหน้า...
แต่...มันสายไป เพราะทันทีที่เขาขยับ อลิชาที่กำลังถึงขีดสุดเพราะฤทธิ์ยาบังคับ หล่อนแอ่นตัวตามติด ผวาเกาะบ่าชายหนุ่ม พร้อมกับการเบียดสะโพกใส่ เท่านั้นเอง...แมทธิวก็หมดความยั้งคิด เขาโถมเข้าใส่หญิงสาวสุดแรง แหกปากคราง เมื่อความเสียวซ่านแผ่ซ่านไปทั้งร่างกาย
ไฟสวาทจากคนทั้งสองโหมกระหน่ำเหมือนพายุจากทะเลกว้างที่กระแทกซัดชายหาด...เสียงร่างกายชื้นเหงื่อที่เสียดสีใส่กัน ฟังเหมือนเสียงคลื่นที่กระทบฝั่งแบบไม่มีวันสิ้นสุด
พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!
เรี่ยวแรงที่มีทั้งหมด แมทธิวสาดซัดไม่ยั้ง แผ่นหลังเปลือยเปล่าของเขาชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อมันปลาบ เป็นหยดน้ำที่ไหลย้อยก่อนจะหยดลงบนผิวผ้าปูที่นอนเป็นดวงโต...มือแข็งแรงรั้งเอวคอดเข้าหาตัวตนแบบแรงๆ เป็นเกมรักดุเดือดที่สุด ตั้งแต่ที่แมทธิวลิ้มลองเพศตรงข้าม ผู้หญิงตัวเล็กคนนี้ มีความสามารถปลุกปีศาจกระหายรักในร่างกายของเขาให้ตื่น เพลิดขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย อะไรหลายๆ อย่างในตัวหล่อนเหมาะสม ลงตัวกับเขาเป็นที่สุด
เรียวปากร้อนชื้นพรมจูบไปทั่วใบหน้าชื้นเหงื่อ เขากระแทกตัวตนแรงๆ อีกครั้ง ก่อนจะสาดใส่สายธารขุ่นร้อนซัดใส่ซอกหลืบส่วนที่ลึกที่สุดของอลิชา พร้อมกับเสียงคำรามแหบห้าว...
“อ๊าคคคคค!”
ร่างใหญ่โตทรุดฮวบ...ใบหน้าคมคายแนบเนินทรวงอวบอิ่ม เขาถอนใจเฮือกใหญ่ ปรือเปลือกตามองสบนัยน์ตาฉ่ำวาวของอลิชา ก่อนจะตาเหลือกเมื่อหญิงสาวใต้ร่างมองสบนัยน์ตาเขา ด้วยสายตาฉ่ำเยิ้ม
เวรล่ะสิ!!
แมทธิวกัดฟัน...เขากระโจนขึ้นสวรรค์ โดยที่คู่นอนยังไปไม่ถึงไหน
เป็นครั้งแรกที่ตนเองทำเรื่องขายขี้หน้า...ชายหนุ่มกะพริบเปลือกตาปริบๆ ผงกศีรษะขึ้นมองหน้าอลิชาจังๆ ใบหน้าของหล่อนแดงก่ำ เหมือนกำลังใจจะขาด ร่างกายของหล่อนก็เช่นกันมันร้อนเกินกว่าอุณหภูมิร่างกายของคนทั่วไป เขาเอะใจ! แต่ก็ไม่ได้คิดต่อ เพราะอลิชาโถมใส่ หล่อนผลักเขาจนหงายหลัง ก่อนจะคืบคลานขึ้นมาบนร่างกายกำยำของเขาเสียเอง หล่อนเสียดสีผิวนุ่มอุ่นกับแผ่นอกแน่นตึงของเขา เท่านั้นเอง... แมทธิวก็คิดอะไรไม่ออก
อลิชาไม่รู้ตัว ไฟพิศวาสครอบงำหล่อนจนหูอื้อตาพร่า เธอไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไปบ้าง รู้แค่ว่าต้องไขว่คว้าควานหาในสิ่งที่ตนเองต้องการ และผู้ชายตรงหน้า คือผู้มอบสิ่งนั้นให้เธอ
ปลายลิ้นเล็กๆ เปียกชื้น เลาะเล็มไปตามแผ่นอกเปลือย หล่อนเน้นจุดอันตรายของแมทธิว จนเขาครางอู้ เมื่อหญิงสาวเจาะจง ตวัดปลายลิ้นนุ่มอุ่นนั่น กับหัวนมแข็งเป็นไตของเขา มือของอลิชาลูบไล้แบบสะเปะสะปะ...แต่กลับปลุกไฟพิศวาสของเขาให้ลุกโหมขึ้นมาใหม่อีกครั้งจนได้
ชายหนุ่มสูดปากครางงึมงำ ร่างกายใหญ่กำยำเกร็งแข็ง มือแข็งแรงรวบจับมืออ่อนนุ่มที่ดูเหมือนจะซุกซนเกินกว่าจะรับไหว แมทธิวยิ้มหวาน เขาดันเรือนกายนุ่มอุ่น พลิกลำตัวคร่อมทับอลิชาไว้ พร้อมกับเสือกเสยความแข็งขึง ทะยานใส่เส้นทางที่แสนคุ้นเคย พร้อมกับเสียงครางแผ่วหวานที่เล็ดลอดออกมาจากปากอิ่มรูปกระจับ
“อ่าว์...อือ...”
ความเจ็บปางตายในครั้งแรกที่ถูกสิ่งแปลกปลอมรุกล้ำ ครั้งที่สองนี้ มันยังเจ็บแปลบๆ อยู่เช่นเดิม แต่ไม่ได้ทำให้ความคุคั่งในอารมณ์ของอลิชาชะงัก หล่อนเดินตามการชักจูงของแมทธิว บนเส้นทางสีรุ้งที่มีแต่สีสันสวยงาม กระเสือกกระสน ว่ายวนอยู่ในเกมสวาท แม้จะเหนื่อยหอบแต่กลับหยุดพักไม่ได้ ร่างกายกลับร้อนระอุขึ้นนับเท่าทวี...เหมือนมีเปลวไฟร้อนๆ แลบเลียผิวกายอยู่ตลอดเวลา มันปวดร้าว ซาบซ่านจนแยกไม่ออก รู้แค่ว่าสะพานสีรุ้งทอดยาวอยู่เบื้องหน้า และเธอต้องไปให้ถึง...
“อ้ายยย...” มันเหมือนถึงจุดสิ้นสุด มวลความร้อนในร่างกายแตกปะทุ เสียงกรีดร้องของอลิชาคงดังก้อง เมื่อเธอหวีดเสียงร้องโดยไม่คิดออมเสียงสักนิด
แมทธิวยิ้มเซียวๆ เขาเกือบจะล่มปากอ่าวอีกครั้ง แต่สู้อุตส่าห์กัดฟันทน ส่งหญิงสาวถึงฝั่งฝันได้สำเร็จ ชายหนุ่มกระทั้นตัวถี่ๆ เขากดความแข็งขึงลึกสุดทาง สาดใส่สายธารขุ่นข้น รินรดกลีบดอกไม้แสนหวานแบบไม่ทันยั้ง
ร่างสูงใหญ่ทรุดฮวบลงไปนอนทับเนินอก ตำแหน่งเดิมแบบไม่ผิดเพี้ยน แมทธิว สูดลมหายใจช้าๆ เขาเหนื่อย และเพลียเพราะถูกรีดพิษเป็นครั้งที่สอง กับเรี่ยวแรงหยดสุดท้าย หนุ่มร้อนรัก ทำท่าจะยอมแพ้...เขาขอพักยกก่อน ที่จะเริ่มต้นใหม่ให้คุ้มกับราคาที่ต้องจ่าย...
แต่...
ปลายนิ้วเรียวเล็ก ไต่ดะอยู่ข้างสะโพก กับเรือนกายอวบอุ่นที่ดิ้นส่ายไปมา
ชายหนุ่มยกมือตบหน้าผาก...แม่ม้าพยศของเขาแรงยังไม่ตก...หล่อนยังไม่อิ่มกับเกมสวาทครั้งนี้ และเขายอมแพ้ไม่ได้ มันเสียหน้าผู้ชายไฟแรงสูง
แมทธิวกัดฟันกรอด เขาโถมเข้าใส่อลิชาแบบไม่ยั้งคิด รู้แค่ว่าศึกครั้งนี้ เขายอมพ่ายให้แม่สาวไร้เดียงสาคนนี้ไม่ได้ ศักดิ์ศรีความเป็นชายมันค้ำคอ...และหากยอมลดราวาศอกให้หล่อน ชื่อเสียงของตนเองคงป่นปี้
กว่าที่แมทธิวจะปราบพยศอลิชาได้ ก็เกือบรุ่งสาง...เกมรักนับครั้งไม่ถ้วน จนกระทั่งหมดฤทธิ์ยา อลิชาจึงผล็อยหลับ น็อกคาอกกว้างของชายหนุ่มไป
หนุ่มพลังสูงเป่าปากพรวด! เขารวบเอวบาง รั้งเขามาแนบชิด ก่อนจะหลับสนิทตามอลิชาไปในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที
บทที่4.กาลเวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นเองอลิชาตื่นตามเวลา เธอปรือเปลือกตาขึ้นมอง สิ่งที่สายตาจับภาพได้... เป็นภาพที่ไม่คุ้นชิน เพดานห้องเธอเป็นไม้อัดเก่าๆ ผุๆ แต่ที่เห็นนี่ คือโคมไฟห้อยระย้า แสงสะท้อนของมันสวยเหมือนเกล็ดเพชรยามล้อเล่นกับแสงไฟ...หญิงสาวผวา!! แล้วเธอก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติอีกครั้ง... ข้างกายของเธอมีผู้ชายรูปร่างกำยำนอนแนบชิด เท่าที่สำรวจคร่าวๆ เขา ‘เปลือย’ เมื่อชายผ้าที่พาดไว้หมิ่นๆ ช่วงเอว มันปิดไม่มิด แก้มก้นผู้ชายที่ชาตินี้อลิชาคงไม่มีวันได้เห็น เมื่อเธอตั้งใจจะอยู่คนเดียว ไม่อยากสร้างภาระให้กับใคร หญิงสาวยกมือขยี้ดวงตาแรงๆ ก่อนจะสูดปากคราง เมื่อร่างกายประท้วงการออกแรง เนื้อตัวของเธอร้าวระบม เหมือนทำงานหนักมาทั้งวัน เธอแน่ใจว่าตนเองหลับสนิท หลังดื่มนมอุ่นๆ ที่ฉลวยยกมาให้หน้าห้อง...เอะ!หญิงสาวรวบผ้าห่มแนบลำตัวมากขึ้น ใบหน้าซีดเผือดเมื่อพอจะเดาเหตุการณ์ออกอลิชาไม่กล้าแม้แต่จะก้มมองตัวเอง ร่างกายเธอร้าวระบม แถมว่างเปล่า เหมือนกับว่าใต้ผ้าห่มนี่ เธอไม่ได้สวมอะไรเลยน้ำตาหยดเล็กๆ ไหลพรู มันเจ็บแปลบเหมือนจะขาดใจ เมื่อคนที่ไว้ใจ หักหลัง ทำลายเธอจนยับเยิน...รอยยิ้มหยันๆ แต้
หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ กัดริมฝีปากล่างจนห้อเลือด กลั้นสะอื้นไว้สุดฤทธิ์ เมื่อไม่อยากให้คนนอกรู้เรื่องอดสูที่เกิดขึ้นกับตัวเอง“ไม่ต้องมาปิดติ๋มค่ะ...ติ๋มพอจะเดาออก อีคุณนายบนตึกนั่นเดินเข้า เดินออกบ้านเจ้สายหยุดทางเป็นมัน มันเอาหนูอลิสไปขายสิท่า” ติ๋มกล่าวเสียงเคียดแค้น...เจ็บใจที่ช่วยเหลือคนน่าสงสารอย่างอลิสชาไม่ได้ เรื่องมันสายเกินกว่าจะแก้ไขเสียแล้วอลิชาผงะ แม้แต่สาวใช้ก้นครัวอย่างติ๋มยังรู้“ไปเก็บของค่ะ หนูอริสอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วล่ะ มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อไป อีคุณนายใจดำนั่น คงไม่หยุดง่ายๆ”มือหยาบกร้านดันแผ่นหลังบอบบางของหญิงสาว เธอกระซิบเสียงแผ่วๆ เพราะกลัวบุคคลที่สามได้ยิน“อลิสไม่มีที่ไปนะติ๋ม” หญิงสาวท้วง นอกจากฉลวยแล้ว เธอไม่มีใครที่พอจะพึ่งพาได้จริงๆ“ไม่ต้องกลัวค่ะ หลบไปก่อน เดี๋ยวติ๋มหางานให้ทำเอง... ไปให้พ้นจากบ้านนี้ บุญคุณท่วมหัวที่อีคุณนายมันอ้างอย่าไปนึกถึง... ความระยำที่อีคุณนายมันทำลบล้างหมดแล้วค่ะ”ถึงไม่ใช่ญาติ แต่เห็นกันมาตั้งหลายปี สิ่งที่ฉลวยและครอบครัวทำกับอลิชา เกินกว่าที่ติ๋มจะรับไหว ถึงเธอจะจนกร็อบ ต้องอาศัยใบบุญบ้านฉัตรสุวรรณ แต่เรื่องระยำตำบอนอย่างน
ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาเดินเข้าไปด้านใน และลงมืออาบน้ำ เพื่อชำระคราบไคล่ต่างๆ บนร่างกาย “อูยยย!” แมทธิวเผลอตัวอุทานออกมาเสียงหลง เมื่อสายน้ำเย็นรินรดร่างกาย ผิวหนังที่แผ่นหลังก็ประท้วง มันเจ็บแปลบเนื่องจากแผลสด เขาเอี้ยวตัวตะแคงร่างกายมองผ่านกระจกเงา ริ้วรอยนูนเด่น ฝีมือแม่ม้าพยศเมื่อคืนนี้ หล่อนฝากรอยรักไว้บนแผ่นหลังเขา เสียงเป็นทางยาวมุมปากสีเข้มกระตุกยิ้ม บทรักสุดโลดโผนเมื่อค่ำคืน ทำให้แมทธิวคิดถึงหล่อนขึ้นมาติดหมัด ไอ้ที่เคยปฏิบัติมา คงถูกแหก เมื่อในสมองของแมทธิวตอนนี้ เขาติดใจจนอยากพบหล่อนอีกสักครั้ง...หลังแต่งตัวเรียบร้อย ชายหนุ่มซ่อนรอยแผลเล็กๆ บนร่างกายไว้ด้วยเสื้อผ้าชุดเดิม เขาเดินผิวปากออกจากห้องสวีทแบบคนอารมณ์ดี ความเครียดที่สะสมในร่างกาย ถูกระบายไปกับบทรักร้อนแรงจนหมดโทรศัพท์เครื่องบางเฉียบถูกล้วงออกมาจากซอกกระเป๋าเสื้อ แมทธิวกดโทร. ออก ต่อสายหาคนจัดหาผู้หญิงเพื่อเจรจา เขาต้องการเจอหล่อนอีกครั้ง...แต่คงไม่ใช่วันนี้“มีอะไรคะ? ทำไมแม่นั่งยิ้มอยู่คนเดียว”อลินดาที่เพิ่งจะตื่นนอน หล่อนย่างกรายลงมาชั้นล่างของบ้าน เอาเมื่อตะวันขึ้นตรงศีรษะพอดี“ไม่ดีใจได้ยังไงลูก อีคุณนายนั่นโทร
“ดูๆ คนของคุณอิง มีงอนด้วย”“ฝีมือใช้ได้เลยค่ะ หน้าตายังเด็กๆ อยู่เลยด้วยไม่คิดว่ารสมือจะดีขนาดนี้” น้ำอิงชมซ้ำ เธอเปรยให้สามีฟัง“บอกบ้านใหญ่หรือยังล่ะ...เดี๋ยวจะมีปัญหาทีหลังนะ...” ไทธัชเตือน ความเคลื่อนไหวภายในบ้านเขา ถูกสอดส่องจากคนบ้านใหญ่ จนบางครั้งเขาก็เอือมระอา...“อิงว่าจะไปเรียนให้ท่านทราบวันนี้ค่ะ” น้ำอิงตอบเสียงแผ่ว เธอรับรู้กระแสความไม่พอใจผ่านทางน้ำเสียงที่สามีใช้“อืม...” ไทธัชไม่ได้พูดต่อ เขารับชามข้าวต้มจากฟักทอง ก่อนจะตักใส่ปาก... “อร่อยจริงๆ” ชายหนุ่มเปรยหลังจากลิ้มรส รสมือของอลิชาเข้าไปแล้ว“ฟักคงตกกระป๋อง...ขนาดคุณไทยังชม” ฟักทองบ่นกระปอดกระแปด เมื่อเจ้านายทั้งสองคน มีความเห็นตรงกัน“งานอื่นมีเยอะแยะ ส่วนหน้าที่ทำอาหาร ฟักเป็นแค่ลูกมือก็พอ...” ไทธัชกล่าวยิ้มๆ เขาเป็นกันเองกับคนในบ้าน ไม่ถือตัวว่าเป็นเจ้านาย“ฟักไปตามอลิสมาสิ จะได้รู้จักกันไว้ ใครเป็นใคร เดี๋ยวจะงง”น้ำอิงสั่งฟักทอง อลิชาจะได้ทำความรู้จักกับสามีของเธอด้วยหญิงสาวร่างเล็กบาง เดินตามหลังฟักทองเข้ามา“สวัสดีค่ะคุณ” อลิชายกมือขึ้นทำความเคารพโดยไม่ต้องให้ใครบอก เธอยิ้มเซียวๆ ให้เจ้านายหนุ่ม“อายุเท่าไหร
ใบหน้าเล็กๆ ส่ายไปมา...น้ำตาทะลักรินโดยไม่รู้สาเหตุ เป็นความหวาดกลัวจับจิต หากสิ่งที่กำลังกลัวเกิดขึ้นจริงๆ“อลิสมีแฟน หรือมีผู้ชายที่คบหามั้ย?”น้ำอิงถามเสียงแผ่ว เธอกำลังหาทางช่วย หากอลิชาก้าวพลาดหญิงสาวส่ายใบหน้าแรงๆ ใช้หลังมือปาดน้ำตา ก่อนจะย่อตัวลงนั่งบนพื้นเจ้านายสาวหันมาเผชิญหน้า เธอสูดลมหายใจแรงๆ “อาการที่เป็นอยู่ อิงไม่อยากฟันธงนะอลิส...ที่อิงถามแบบนั้นเพราะอิงจะได้วิเคราะห์ถูก ถ้าอลิสไม่เคยมีแฟน ไม่เคยคบผู้ชาย ปัญหาที่อิงกลัวก็ไม่น่าใช่” เสียงอธิบายเนิบนาบ หัวใจของอลิชาหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เธอไม่เคยคบค้าสมาคมกับเพศตรงข้าม ไม่เคยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับผู้ชายคนไหน แต่...เธอมีความสัมพัธ์กับผู้ชายที่ไม่รู้จักชื่อ...ครั้งเดียวก่อนจะหนีเตลิดมาที่นี่“คุณอิงคะ อลิส...” หญิงสาวเรียบเรียงคำพูด “ก่อนมาที่นี่ อลิสมีอะไรกับผู้ชายคนหนึ่ง อลิสไม่รู้จักเขาเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาชื่ออะไร มันเป็นคราวซวยของอลิส แบบนี้อลิสคงจะท้องใช่มั้ยคะ?”เสียงติดๆ ขัดๆ เพราะกลั้นสะอื้นไปพร้อมๆ กับการพูด น้ำตาไหลอาบหน้า เสียใจกับโชคชะตาตนเอง เคราะห์ซ้ำกรรมซัดใส่ตนเองไม่หยุดน้ำอิงกะพริบเปลือกตาถี่ๆ เธอเ
บทที่5.เมื่อคนในอดีตย้อนมาเจอกันผ่านไปสามปี อะไรๆ ในชีวิตของอลิชาเปลี่ยนไปเกือบหมด...วันนี้ วันที่เธอประสบความสำเร็จ...เรียนจบอย่างที่หวัง ได้ทำมาหากินอย่างเต็มที่ หญิงสาวมองไปรอบๆ ตัว แววตาสลดลง...ในขณะที่เพื่อนๆ มีญาติสนิทมาร่วมแสดงความยินดีกันหนาตา...ข้างกายเธอกลับว่างเปล่า...“เอาน่าไอ้อลิส แกภูมิใจในตัวเองเถอะ พ่อกับแม่บนสวรรค์จะได้พลอยดีใจไปด้วย...แกเก่งจริงว่ะ”หญิงสาวปลุกปลอบใจตนเอง บ่ายหน้าเดินออกจากรั้ววิทยาลัย’ หลังรับพระราชทานปริญญาบัติเสร็จเรียบร้อยสองมือกอดความสำเร็จแนบอก ยิ้มเซียวๆ ให้คนรู้จักเมื่อเขาเหล่านั้นเดินผ่าน เสียงเฮฮาดังแว่วๆ อยู่ด้านหลัง...สองเท้าของเธอก้าวเดินอย่างมั่นคง เมื่อมีใครบางคนรออยู่ที่บ้านพัก คน คนนั้นคือคนสำคัญที่สุดของตัวเองรถประจำทางวิ่งมาจอดเทียบฟุตบาทพอดีกับที่อลิชาเดินมาถึง เธอกระโจนขึ้นรถทัน ก่อนที่สารถีคนขับจะเหยียบคันเร่ง พาพาหนะสาธารณะขึ้นไปผจญความแออัดบนท้องถนน กลิ่นควันจากท่อไอเสียไม่ได้ทำให้อลิชาหงุดหงิดเหมือนทุกวัน วันนี้เธออารมณ์ดีเสียใจหุบยิ้มไม่ได้ สีหน้าเรียบเฉยเป็นนิจ วันนี้กลับมีรอยยิ้มละไมแต้มอยู่บนเรียวปาก เป็นความภาคภูมิอย
คุณท่านบ้านใหญ่ออกตัวแรง...แต่ท่านก็กลับลำทำหน้าตาเฉยเมย ตอนที่มาเป็นผู้ใหญ่โกนผมไฟให้บุตรชายเธอ อลิชาถูกดูแลจากทุกคนในบ้านหลังคลอดบุตร ประหนึ่งเป็นญาติคนหนึ่งของครอบครัวของเจ้านายสาวเลยทีเดียวเป็นเพราะเด็กชาย ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทธัชกับบรรดาญาติฝ่ายเมียแน่นแฟ้นขึ้น...เขาไม่ใช่หลานเขย บุตรเขยที่ฝ่ายครอบครัวภรรยาไม่ปลื้มอีกต่อไปความดี ความซื่อสัตย์ของไทธัชพิสูจน์ให้คนในครอบครัวของน้ำอิงเห็นกับตา...ไร้เสียงบ่น ก่นว่า นับตั้งแต่เด็กชายกลายเป็นขวัญใจ หากไม่ติดว่าอลิชารักบุตรชายดั่งแก้วตาดวงใจ ทั้งน้ำอิงและไทธัช คงเอ่ยปากขอเด็กน้อยมาเป็นลูกบุญธรรมของตนเองเป็นแน่แท้...“ค่ะ...”“หากรูปนี้เขาตา เผลอตัวแสบจะได้เป็นดาราแต่เด็กนะ”อลิชาไม่เคยคัดค้านความคิดของนายสาว เพราะทุกสิ่งที่น้ำอิงมอบให้มีแต่สิ่งดีๆ ...เธอกับลูกไม่ต้องออกไประเหเร่ร่อนก็เพราะความเมตตาของเจ้านาย ครั้งแรกที่เรื่องแดงขึ้นมา ญาติทางฝ่ายน้ำอิง...ยืนกรานให้อลิชาลาออก...เพราะไม่อยากให้มีเรื่องเสื่อมเสียเกิดขึ้นในบ้าน น้ำอิงยืนยันเช่นกัน เธอปล่อยอลิชาไปตกระกำลำบากข้างนอกนั่นไม่ได้ เป็นครั้งที่สองที่น้ำอิงกล้าขัดคำสั่งของสมา
บทที่6.ความลับที่ปิดบังไว้ปลายเล็บกดลงบนผิวเนื้อหลังมือ “อุ้ย!” หญิงสาวสะดุ้ง มันไม่ใช่แค่เพียงความฝัน ที่เกิดอยู่ตรงหน้านี่ ของจริง เหตุการณ์จริงๆ ที่เธอกำลังเผชิญหน้าในความมลังเมลือง...ความทรงจำที่ไม่ใคร่ปะติดปะต่อเท่าไหร่ เนื่องจากสติสัมปชัญญะของตนเองไม่เต็มร้อย...โครงหน้าผู้ชายในความทรงจำ ผู้ชายที่เป็น ‘ครั้งแรก’ ของตนเอง เขาเป็นผู้ชายคนเดียวที่ใกล้ชิดเธอมากที่สุด มากขนาดทิ้งเด็กชายหน้าตาน่ารักคนหนึ่งไว้ในท้องของเธอแพขนตากะพริบถี่ๆ พยายามเพ่งมองเพื่อจับเค้าหน้าชัดๆอลิชาภาวนาในใจ เธอวิงวอนพระผู้เป็นเจ้า อย่าให้เธอต้องมาเจอะเจอ ‘คน คนนั้น’ อีกเลยแต่...คำภาวนาของเธอไร้ผล...เพราะยิ่งเห็นยิ่งย้ำเตือน โครงหน้านี้ที่เธอไม่มีวันลืม...ไม่มีทางลืมชั่วชีวิต…เสียงถอนลมหายใจแรงๆ อลิชากำลังชั่งใจ เธอจะถอยเสียงตั้งแต่ตอนนี้ หรือจะสู้ต่อ โดยไม่แคร์คน คนนั้น“ลูกกระจอกอย่างเรา มีโอกาสได้เจอบิ้กบอสก็แค่วันนี้แหละเธอ”เสียงเพื่อนร่วมงานกระซิบกระซาบกันใกล้ๆ“ใช่! เจ้าชายบนหอคอย...อัศวินผู้คุ้มครองปวงประชา เข้าถึงตัวง่ายๆ ได้เหรอ”อลิชาคิดตาม...จริงสินะ...ผู้บริหารระดับสูงอย่างเขา โอกาสที่จะได้พ