“หามาเถอะน่า...แล้วแม่จะอธิบายให้ฟัง...” ฉลวยบอกปัด เริ่มละอายใจเล็กน้อย
“อลินอยากรู้ค่ะ” อลินดากังขา เธออยากรู้วัตถุประสงค์ของคนเป็นแม่
ฉลวยมองสบนัยน์ตาบุตรสาว นางถอนใจเฮือก ก่อนจะเปิดปากเล่าความคิดในใจให้อลินดาฟัง
สาวรุ่นยิ้มกริ่ม “ได้ค่ะ อลินจะหาให้...ให้อลินช่วยนะคะแม่...” หล่อนออกตัว อยากช่วยมารดาจนเนื้อเต้น เมื่อได้กำจัดศัตรูทางอ้อม อยากเห็นวันที่อลิชาถูกย่ำยี...วันนั้นอลินดาคงมีความสุข เมื่อถีบส่งคนที่ตนเองเกลียดลงไปในขุมนรก
หญิงสาวผู้นั้นเป็นหนามแหลมๆ ตำใจตนเองมาตั้งแต่เด็ก อะไรก็ตามที่อลิชาทำ คนรอบตัวมักจะชื่นชม และนำมาเปรียบเทียบกับตนเองบ่อยครั้ง ผลการเรียนของอลิชานำโด่ง จนไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหนก็ไม่มีทางตามทัน ทั้งที่เจ้าหล่อนอัตคัดเหลือทน การเป็นอยู่อดๆ อยากๆ แต่มันสมองนั่นก้าวล้ำกว่าคนที่เพียบพร้อมอย่างเธอหลายขุม
อะไรก็ตามที่ทำให้หนามตำใจของตนเองตกต่ำลงได้
อลินดาไม่รอช้าที่จะทำ เธอไม่เคยคิดสักนิดว่าอลิชาเป็นพี่ น้อง...เธอเกลียดหญิงสาวผู้นั้น และพร้อมที่จะเหยียบซ้ำ หากอลิชาก้าวพลาด
“อย่าให้คุณพ่อแกรู้เชียวนะอลิน...เพราะพ่อแก เขาไม่ชอบเรื่องพรรค์นี้”
ฉลวยกำชับบุตรสาว
“ค่ะ อลินจะรูดสิป ปิดปากให้สนิทเลยค่ะ”
อลินดารับคำเสียงใส หล่อนออกจากบ้านไปพร้อมกับความปรีดิ์เปรม...เมื่อมีหนทางทำลายคนที่ตนเองเกลียดจับจิต
“วันนี้อารมณ์ดีจังคนสวย” เพื่อนหนุ่มขี้ยาร้องทัก เมื่ออลินดาโทร. นัดให้เขาออกมาหา
หล่อนนั่งละเลียดกาแฟแก้วโปรดในร้านกาแฟชื่อดังบนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ แทนที่จะหน้าดำคร่ำเคร่งอยู่ในห้องเรียน
“นั่งเลยๆ อลินมีเรื่องขอให้โจช่วยหน่อยน่ะจ้ะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงหวาน
“จะใช้ไหว้วานอะไรโจ เต็มใจทำให้อลินทุกอย่างเลยจ้า” ไอ้หนุ่มขี้ยาตอบกลับเสียงหวานไม่แพ้กัน ดวงตากลิ้งกลอก มองสำรวจร่างกลมกลึงตาเป็นมัน
“เรื่องนี้ไม่เกินความสามารถโจหรอก อลินรู้” หล่อนรีบยกยอปอปั้น เพื่อให้เพื่อนหนุ่มเกิดความลำพอง เขาจะได้จัดหาสิ่งที่ตนเองต้องการให้
“ให้บุกน้ำ ลุยไฟโจก็เต็มใจนะ หากอลินต้องการ” มือผอมบางเอื้อมมือกุมมือนุ่มนิ่มของอลินดาไว้ พลางส่งสายตามีความนัยให้หญิงสาว
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก เรื่องขี้ปะติ๋วเอง” เธอชักมือกลับแบบนุ่มนวล ก่อนจะใช้มือข้างเดียวกันแตะแก้มตอบของเพื่อนหนุ่ม “อลินอยากได้ ‘ยา’ หาให้หน่อยสิ”
“ยาอะไร เดี๋ยวนี้อลินใช้ยาเหรอ?” โจถามกลับเสียงแข็ง ถึงตนเองจะตกเป็นทาสยานรกนั่น เขาก็ไม่ต้องการให้เพื่อนคนไหน เห็นดีเห็นงามไปด้วย
“ไม่ใช่ยาแบบนั้น ยาเลิฟน่ะ” อลินดารีบแก้ความเข้าใจผิด หล่อนลดเสียงลงอีกนิดเมื่อเอ่ยปากบอกความต้องการ
“โธ่! แล้วไป...อลินจะเอาเมื่อไหร่ล่ะ โจมี ‘ของ’ ตลอดแหละ” ในเมื่อต้องใช้จ่ายจำนวนมาก เมื่อ ‘ยา’ ที่ชายหนุ่มจำเป็นต้องใช้มีราคาแพง โจเลยจำต้องมีอาชีพเสริม เขาเข็ดขยาดกับความทรมาน ตอนที่ขาดยานรกนั่น
“ตอนนี้มีมั้ย ขออลินสักเม็ด มียานอนหลับด้วยหรือเปล่า?”
หญิงสาวตอบเสียงกระตือรือร้น ดวงตาวาวโลด เมื่อสิ่งที่ปรารถนา จวนเจียนจะสมหวัง
“เอาไปทำอะไรหรืออลิน...”
หญิงสาวโบกมือ “โจอย่ารู้เลย ไม่ได้ทำร้ายใครหรอก เล่นอะไรสนุกๆ แค่นั้นเอง”
“ตามใจ...โจคิดราคากันเองเลย...เอานี่จ้ะ สีชมพูคือ ‘ยาเลิฟ’ ส่วนสีขาวนี่ยานอนหลับธรรมดา” ชายหนุ่มหยิบเม็ดยาในกล่องพับขนาดเล็กเขายัดยาเม็ดเล็กๆ ใส่ซองใส ก่อนจะอธิบายวิธีใช้ให้อลินดาเข้าใจอย่างละเอียด
หญิงสาวจดจำความแตกต่าง ล้วงกระเป๋าสตางค์ หยิบเงินสดส่งให้เพื่อนหนุ่ม ก่อนจะยิ้มหวานให้
อันตรายใกล้ตัว มีอยู่ทั่วหัวระแหง...ใครจะคิดว่าท่ามกลางปัญญาชน...ผู้คนพลุกพล่าน มีคนร้ายแอบซ่อนตัว และปะปนอยู่ด้วย ดังนั้นไม่ว่าคน คนนั้นจะสนิทชิดเชื้อเพียงใด ขอให้หวาดระแวงไว้ก่อน ไม่อย่างนั้น อนาคตที่ฝันหวานไว้ อาจจะพังทลายลงง่ายๆ
เหตุการณ์ปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ฉลวยเฝ้ารอ... รอให้แม่เล้าอย่างสายหยุดติดต่อมา เธอมี ‘ของ’ อยู่ในมือแล้ว ที่เหลือก็แค่เวลาลงมือ การแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่าที่สุด เมื่อเธอไม่ได้สูญเสียอะไรเลย มีแต่ได้กับได้
“ค่ำๆ นะแม่หลวย พา ‘เด็ก’ ของหล่อนมาที่...” เสียงกริ๊งกร๊างก่อนพระอาทิตย์ตก การส่งสัญญาณจากสายหยุดก็มาถึง
“จ้า ตามนั้น” ฉลวยรับคำ เดินไปชะโงกหน้ามองด้านหลังบ้าน ไฟฟ้าในห้องพักของหลานสาวยังมืดสนิท
“คุณแม่มองอะไรคะ?” อลินดาวางกระเป๋าสะพายไว้บนโต๊ะ หล่อนเดินไปรินน้ำเย็นใส่แก้วเพื่อดื่มแก้กระหาย
“มองห้องนังอลิส มันยังไม่กลับใช่มั้ย?” นางตอบเสียงแข็ง
“ยังหรอกค่ะ มืดๆ นู้น อลินเห็นแม่นั่นกลับเวลานี้ทุกวัน ว่าแต่... ทำไมบ้านเงียบจัง คุณพ่อไม่อยู่เหรอคะ?” หลังดื่มน้ำเย็นจนชื่นใจ อลินดาตอบมารดาเสียงใส ก่อนจะทิ้งตัวนั่ง มือควานหารีโหมตทีวี
“พ่อเรา เขาไปสัมมนาต่างจังหวัด”
“ค่ะ”
“คอยดูนั่งอลิสให้แม่ด้วยนะ มันมาเมื่อไหร่ บอกแม่ด้วย”
วันนี้มีภารกิจสำคัญ หากเรียบร้อย นางจะได้ปลดหนี้ที่แบกไว้จนหนักอึ้งลงสักที
“คุณนายนั่นติดต่อมาแล้วเหรอคะแม่” เสียงถามใสวิ้ง
“อืม” ฉลวยพยักหน้ารับ นางต้องรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ทะมัดทะแมงกว่านี้
“หึ! สาใจฉันจริงๆ ฉันจะรอดูว่าแกจะหยิ่งผยองได้อีกแค่ไหน! ” อลินดาพึมพำ รอยยิ้มชั่วร้ายพอๆ กับความคิด เมื่อสิ่งที่กำลังจะทำต่อไปนี้ คือการทำลายคน คนหนึ่ง โยนเขาผู้นั้นลงไปในขุมนรก...
วันนี้เพลินพิศปิดร้านเร็วกว่าปกติ เพราะนางต้องเดินทางเข้าไปทำธุระในเมือง อลิชาเลยได้กลับบ้านไวขึ้น หลังอาบน้ำเสร็จ จึงมานั่งอ่านนั่งสือทบทวนอยู่บนเตียง
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูห้องดังเบาๆ
“ป้าเองอลิส...เปิดประตูหน่อย” เสียงฉลวยนั่นเอง อลิชาวางหนังสือไปบนหมอน เธอเดินไปเปิดประตูให้ฉลวย
“ป้ามีอะไรจะใช้อลิสเหรอคะ?” หญิงสาวเอ่ยถาม ยามวิกาลเช่นนี้ ฉลวยต้องการไว้วานให้เธอทำอะไร
“เปล่า ฉันเอานมมาให้แก...หิวหรือเปล่าล่ะ” เสียงตอบราบเรียบ
อลิชามองแก้วที่บรรจุนมอุ่นๆ ในมือฉลวยแบบอึ้งๆ ร้อยวันพันปี คนที่มีศักดิ์เป็นป้าตนเองไม่เคยเมตตาขนาดนี้ อะไรดลใจทำให้คนใจจืดใจดำอย่างฉลวยเกิดใจดีขึ้นมา
“มองอะไร ก็แค่นม...ฉันเวทนาหล่อนหรอก ผอมบางแบบนี้ ได้กินอะไรดีๆ กับเขาบ้างหรือเปล่า” สาวใหญ่ใจยักษ์รีบหาข้ออ้าง นางยื่นแก้วนมให้หลานสาวอีกครั้ง
มือเรียวบางยื่นออกมารับแก้มนมแก้วนั้นแบบงงๆ
“กินเสียสิ ฉันจะได้สบายใจ...” ฉลวยคะยั้นคะยอซ้ำ
อลิชายกแก้วนมขึ้นจ่อปาก กระดกแก้มดื่มน้ำนมอุ่นๆ ด้วยความรู้สึกอุ่นวาบในหัวใจ กับความเมตตาเล็กๆ ของคนที่มีศักดิ์เป็นป้ามอบให้เป็นครั้งแรก
“ส่งแก้วมา ฉันเอาไปล้างเอง...ไปนอนเถอะดึกแล้ว” ฉลวยยิ้มอ่อน รับแก้วเปล่าจากหลานสาว โบกมือไล่อลิชาก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าบ้านไป
รอยยิ้มสาแก่ใจแต้มมุมปาก...
อลิชาปิดประตูห้องนอน เธอทิ้งตัวนั่งบนเตียงเก่าๆ รอยยิ้มอิ่มสุขนั่น ยังค้างอยู่บนมุมปาก โดยไม่รู้ว่า ความเลวร้ายกำลังคืบคลานเข้ามาในชีวิต
บทที่3.ผู้หญิงไม่มีราคา“โอยไม่เอาหรอก พันธะ ภาระผูกพันนี่น่าเบื่อตายห่า! ผมซื้อกินดีกว่าสบายใจด้วย”คำตอบที่แมทธิว ไบเลย์ใช้ตอบคนรอบตัว หนุ่มโสดที่ทั้งหล่อและรวย ใช้ชีวิตคุ้มค่าตามประสาลูกหลานคนมีเงิน ชายหนุ่มไม่เคยอายที่จะใช้บริการผู้หญิงหากิน แต่เขาก็ไม่ได้มั่วกินไม่เลือก ชายหนุ่มมีสถานที่ประจำ ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เดินเข้ามาหาเขา ไม่ใช่ผู้หญิงช้ำๆ ผู้ชายที่เพียบพร้อมแบบเขา หาผู้หญิงมานอนด้วยไม่ยาก เมื่อชายหนุ่มเข้าขั้นรูปหล่อพอฟัดพอเหวี่ยงกับดาราดังๆ หลายคน ณเดชที่ว่าหล่ออารมณ์ดี หากมายืนเทียบกับแมทธิวตอนนี้ สง่าราศีของชายหนุ่มอาจนำโด่ง...ผู้หญิงเป็นร้อยพร้อมที่จะเดินขึ้นเตียงกับแมทธิวฟรีๆ แต่...ชายหนุ่มไม่นิยม เขาตัดความรำคาญโดยการไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงรอบตัว เขาจ่ายเงินเพื่อความสบายใจ...ง่ายกว่ามาปวดหัวกับเรื่องหยุมหยิม...ในวันที่น่าเบื่อวันหนึ่ง...แมทธิวนั่งจมกับกองขวดเหล้า เขาดื่มเพื่อให้ลืมความเจ็บปวดในใจ...ใช่...เพราะอดีตในเยาว์วัย ชายหนุ่มจึงแอนตี้ผู้หญิง...แมทธิวโตมากับความรักของบิดา...ส่วนมารดาของเขานั้น หล่อนทิ้งแมทธิวกับคุณแอนเดอสันไปตั้งแต่ชายหนุ่มจำความได้ กนกรดาหอบผ
ฉลวยเอ่ยแบบคนเห็นแก่ตัว ข้าวแดงแกงร้อนที่รินรดหัว ถึงจะสำคัญ แต่หล่อนก็ไม่มีสิทธิทำตามอำเภอใจเช่นนี้“คุกนะแม่...หากอีนี่มันโวยขึ้นมา”อลินดายังพยายามท้วง...ถึงอยากให้อลิชาตกต่ำ แต่ความกลัวมีมากกว่า“มันจะกล้าโวยเหรอลูก...มันน่าจะอายมากกว่า”ผู้หญิงที่ถูกย่ำยีโดยผู้ชายที่ตนเองไม่รู้จักแม้แต่ชื่อแซ่ สิ่งแรกหล่อนน่าจะอับอาย และอลิชาหน้าบาง หล่อนไม่น่าจะโวยวาย“เอาไงก็เอา...มาถึงขึ้นนี้แล้ว...เราคงถอยไม่ได้แล้วล่ะแม่”สาวรุ่นสูดลมหายใจลึกๆ วางแผนมาอย่างดิบดี และแผนการนี้ดำเนินมาเกินครึ่ง...หากถอยคงไม่ทัน“ใช่...เพราะหากเปลี่ยนใจตอนนี้ แม่นี่แหละที่จะตาย...ไม่ใช่แกหรืออีอลิสหรอก... อีคุณนายนั่น ถลกหนังหัวแม่แน่”สายหยุดคงไม่ปล่อยเธอแน่ ไหนจะหนี้ที่พอกพูนเหมือนดินพอกหางหมู...ที่แน่ๆ หากงานวันนี้จบลง เธอปลดหนี้ได้ แถมมีเงินติดกระเป๋ากลับบ้านด้วยอลินดาตัดใจเปลี่ยนเสื้อผ้าเก่าๆ ปอนๆ ของอลิชาออก เธอแต่งตัวให้อลิชาใหม่ ด้วยเสื้อผ้าเก่าๆ ของตนเองหญิงสาวโชคร้ายนอนหลับไม่รู้เรื่อง ผิวหน้าของอลิชาเริ่มเปลี่ยนสี มีเม็ดเหงื่อไหลซึมออกมา และผิวแก้มมีริ้วแดงๆ เพราะความคุคลั่งภายในร่างกาย“เร็วๆ เถอะแ
อลิชาปรือตาขึ้นมอง สายตาของเธอมองเห็นทุกอย่างรอบตัวไม่ชัดเท่าไหร่...เนื้อตัวคันยุบยับ เหมือนมีแมลงตัวเล็กๆ มาชอนไช เธอพยายามเกา พยายามช่วยเหลือตัวเอง แบบคนที่มีสติไม่เต็มร้อย ผ้าเนื้อหนาบนร่างกายเสียดสีกับผิวเนื้อทำให้ผิวของเธอแสบทรมาน หญิงสาวดึงทึ้งอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายออกไปจากร่างกายอ่อนบาง พร้อมกับประตูที่เปิดอ้าขึ้น...อลินดาเหลียวมองผู้ชายหนุ่มฉกรรจ์ที่เดินผ่านตนเองกับมาดาไป แพขนตากะพริบถี่ๆ เขาผู้นั้นหล่อวายร้าย ลุคเถื่อนๆ มองแค่แผ่นหลัง ยังเสียววาบไปถึงท้องน้อย...ไหล่กว้างทรงพลัง เรียวขาบึกบึนกำยำ ผู้ชายแบบนี้ถ้าได้นอนใต้ร่าง เธอคงได้ครางเสียงแหบทั้งคืน พลังเพศผู้ของเขาแผ่ซ่านมายังเธอ แม้จะอยู่ห่างไกลยังสัมผัสถึงได้ หญิงสาวแลบลิ้นเลียริมฝีปาก...กัดริมฝีปากร่างเพื่อกลั้นความกระหาย...เพี้ยะ!ฝ่ามือผอมบางของมารดาฟาดโผว๊ะมาที่ท้องแขนตนเอง อลินดาสะดุ้ง!“คุณแม่อะ ตีอลินทำไมคะ?” หญิงสาวโวยเสียงอ่อย ไม่วายชำเลืองมองแมทธิวที่เดินหายลับมุมตึกไป“ดูทำเข้า มองผู้ชายเหมือนอยากจะขย้ำ ทำตัวดีๆ หน่อยแม่ไม่อยากให้ใครว่าตามหลัง”ฉลวยเหลือบเห็นปฏิกิริยาของบุตรสาวเข้าพอดี เธอจึงอดไม่ได้ที่จะตำหนิ อล
จูบ!! เธอกำลังถูกจูบจากผู้ชายแปลกหน้า เป็นความฝันแน่ๆ อลิชาคิดในใจแบบนั้น ความฝันวาบหวิวที่สุดในรอบ10ปี นับตั้งแต่แตกเนื้อสาวแมทธิวครางงึมงำ จุมพิตแผ่วๆ แต่กลับซ่านทรวง รสหวานซ่านที่แผ่เต็มอุ้งปากเหมือนกำลังได้ดื่มหยดน้ำค้างแรกเช้า ชายหนุ่มบดริมฝีปากแรงขึ้นอีกนิด แทรกปลายลิ้นตวัดเร้าโรมเรียวลิ้นเล็กๆ ที่ถอยหนี เป็นเกมสนุกในอุ้งปากที่น่าสุนทรีเสียจนแมทธิวใช้เวลานานกว่าทุกครั้ง มือแข็งแรงเคลื่อนที่ลงไปลูบไล้ผิวกายเนียนละเอียด เขาเกลี่ยปลายนิ้วไปตามส่วนคอดเว้าของโค้งสะโพก ก่อนจะวกกลับมาด้านหน้า เพื่อค้นหาเป้าหมายที่น่าสนใจ เรียวขาเพรียวถูกดันให้แยกออกจากกันด้วยความชำนาญ ขาแข็งแรงสอดกั้นไว้ ครั้นเมื่ออลิชาบีบเรียวขาชิดกันเธอจึงทำไม่ได้ ปลายนิ้วร้อนผ่าว กรีดตามรอยแยกปริ่มน้ำ หญิงสาวใต้ร่างสะดุ้งเยือก ร่างกายเกร็งแข็งขึ้นมาแบบฉับพลัน เพียงแค่ของสงวนกลางร่างกายถูกแตะต้อง“ยะ อย่า...อย่าทำแบบนั้นกับอลิสเลยค่ะ” เสียงหวานปนหอบกระซิบวอนขอ“อลิส เธอชื่ออลิสอย่างนั้นเหรอ?” ชายหนุ่มถามกลับเสียงปร่า เขาดันตัวชะโงกอยู่เหนือร่างกายอวบอัด“ค่ะ...ปล่อยอลิสไปนะคะ” อลิชาพยายามร้องขอครั้งสุดท้าย สำนึกดีชั
บทที่4.กาลเวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นเองอลิชาตื่นตามเวลา เธอปรือเปลือกตาขึ้นมอง สิ่งที่สายตาจับภาพได้... เป็นภาพที่ไม่คุ้นชิน เพดานห้องเธอเป็นไม้อัดเก่าๆ ผุๆ แต่ที่เห็นนี่ คือโคมไฟห้อยระย้า แสงสะท้อนของมันสวยเหมือนเกล็ดเพชรยามล้อเล่นกับแสงไฟ...หญิงสาวผวา!! แล้วเธอก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติอีกครั้ง... ข้างกายของเธอมีผู้ชายรูปร่างกำยำนอนแนบชิด เท่าที่สำรวจคร่าวๆ เขา ‘เปลือย’ เมื่อชายผ้าที่พาดไว้หมิ่นๆ ช่วงเอว มันปิดไม่มิด แก้มก้นผู้ชายที่ชาตินี้อลิชาคงไม่มีวันได้เห็น เมื่อเธอตั้งใจจะอยู่คนเดียว ไม่อยากสร้างภาระให้กับใคร หญิงสาวยกมือขยี้ดวงตาแรงๆ ก่อนจะสูดปากคราง เมื่อร่างกายประท้วงการออกแรง เนื้อตัวของเธอร้าวระบม เหมือนทำงานหนักมาทั้งวัน เธอแน่ใจว่าตนเองหลับสนิท หลังดื่มนมอุ่นๆ ที่ฉลวยยกมาให้หน้าห้อง...เอะ!หญิงสาวรวบผ้าห่มแนบลำตัวมากขึ้น ใบหน้าซีดเผือดเมื่อพอจะเดาเหตุการณ์ออกอลิชาไม่กล้าแม้แต่จะก้มมองตัวเอง ร่างกายเธอร้าวระบม แถมว่างเปล่า เหมือนกับว่าใต้ผ้าห่มนี่ เธอไม่ได้สวมอะไรเลยน้ำตาหยดเล็กๆ ไหลพรู มันเจ็บแปลบเหมือนจะขาดใจ เมื่อคนที่ไว้ใจ หักหลัง ทำลายเธอจนยับเยิน...รอยยิ้มหยันๆ แต้
หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ กัดริมฝีปากล่างจนห้อเลือด กลั้นสะอื้นไว้สุดฤทธิ์ เมื่อไม่อยากให้คนนอกรู้เรื่องอดสูที่เกิดขึ้นกับตัวเอง“ไม่ต้องมาปิดติ๋มค่ะ...ติ๋มพอจะเดาออก อีคุณนายบนตึกนั่นเดินเข้า เดินออกบ้านเจ้สายหยุดทางเป็นมัน มันเอาหนูอลิสไปขายสิท่า” ติ๋มกล่าวเสียงเคียดแค้น...เจ็บใจที่ช่วยเหลือคนน่าสงสารอย่างอลิสชาไม่ได้ เรื่องมันสายเกินกว่าจะแก้ไขเสียแล้วอลิชาผงะ แม้แต่สาวใช้ก้นครัวอย่างติ๋มยังรู้“ไปเก็บของค่ะ หนูอริสอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วล่ะ มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อไป อีคุณนายใจดำนั่น คงไม่หยุดง่ายๆ”มือหยาบกร้านดันแผ่นหลังบอบบางของหญิงสาว เธอกระซิบเสียงแผ่วๆ เพราะกลัวบุคคลที่สามได้ยิน“อลิสไม่มีที่ไปนะติ๋ม” หญิงสาวท้วง นอกจากฉลวยแล้ว เธอไม่มีใครที่พอจะพึ่งพาได้จริงๆ“ไม่ต้องกลัวค่ะ หลบไปก่อน เดี๋ยวติ๋มหางานให้ทำเอง... ไปให้พ้นจากบ้านนี้ บุญคุณท่วมหัวที่อีคุณนายมันอ้างอย่าไปนึกถึง... ความระยำที่อีคุณนายมันทำลบล้างหมดแล้วค่ะ”ถึงไม่ใช่ญาติ แต่เห็นกันมาตั้งหลายปี สิ่งที่ฉลวยและครอบครัวทำกับอลิชา เกินกว่าที่ติ๋มจะรับไหว ถึงเธอจะจนกร็อบ ต้องอาศัยใบบุญบ้านฉัตรสุวรรณ แต่เรื่องระยำตำบอนอย่างน
ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาเดินเข้าไปด้านใน และลงมืออาบน้ำ เพื่อชำระคราบไคล่ต่างๆ บนร่างกาย “อูยยย!” แมทธิวเผลอตัวอุทานออกมาเสียงหลง เมื่อสายน้ำเย็นรินรดร่างกาย ผิวหนังที่แผ่นหลังก็ประท้วง มันเจ็บแปลบเนื่องจากแผลสด เขาเอี้ยวตัวตะแคงร่างกายมองผ่านกระจกเงา ริ้วรอยนูนเด่น ฝีมือแม่ม้าพยศเมื่อคืนนี้ หล่อนฝากรอยรักไว้บนแผ่นหลังเขา เสียงเป็นทางยาวมุมปากสีเข้มกระตุกยิ้ม บทรักสุดโลดโผนเมื่อค่ำคืน ทำให้แมทธิวคิดถึงหล่อนขึ้นมาติดหมัด ไอ้ที่เคยปฏิบัติมา คงถูกแหก เมื่อในสมองของแมทธิวตอนนี้ เขาติดใจจนอยากพบหล่อนอีกสักครั้ง...หลังแต่งตัวเรียบร้อย ชายหนุ่มซ่อนรอยแผลเล็กๆ บนร่างกายไว้ด้วยเสื้อผ้าชุดเดิม เขาเดินผิวปากออกจากห้องสวีทแบบคนอารมณ์ดี ความเครียดที่สะสมในร่างกาย ถูกระบายไปกับบทรักร้อนแรงจนหมดโทรศัพท์เครื่องบางเฉียบถูกล้วงออกมาจากซอกกระเป๋าเสื้อ แมทธิวกดโทร. ออก ต่อสายหาคนจัดหาผู้หญิงเพื่อเจรจา เขาต้องการเจอหล่อนอีกครั้ง...แต่คงไม่ใช่วันนี้“มีอะไรคะ? ทำไมแม่นั่งยิ้มอยู่คนเดียว”อลินดาที่เพิ่งจะตื่นนอน หล่อนย่างกรายลงมาชั้นล่างของบ้าน เอาเมื่อตะวันขึ้นตรงศีรษะพอดี“ไม่ดีใจได้ยังไงลูก อีคุณนายนั่นโทร
“ดูๆ คนของคุณอิง มีงอนด้วย”“ฝีมือใช้ได้เลยค่ะ หน้าตายังเด็กๆ อยู่เลยด้วยไม่คิดว่ารสมือจะดีขนาดนี้” น้ำอิงชมซ้ำ เธอเปรยให้สามีฟัง“บอกบ้านใหญ่หรือยังล่ะ...เดี๋ยวจะมีปัญหาทีหลังนะ...” ไทธัชเตือน ความเคลื่อนไหวภายในบ้านเขา ถูกสอดส่องจากคนบ้านใหญ่ จนบางครั้งเขาก็เอือมระอา...“อิงว่าจะไปเรียนให้ท่านทราบวันนี้ค่ะ” น้ำอิงตอบเสียงแผ่ว เธอรับรู้กระแสความไม่พอใจผ่านทางน้ำเสียงที่สามีใช้“อืม...” ไทธัชไม่ได้พูดต่อ เขารับชามข้าวต้มจากฟักทอง ก่อนจะตักใส่ปาก... “อร่อยจริงๆ” ชายหนุ่มเปรยหลังจากลิ้มรส รสมือของอลิชาเข้าไปแล้ว“ฟักคงตกกระป๋อง...ขนาดคุณไทยังชม” ฟักทองบ่นกระปอดกระแปด เมื่อเจ้านายทั้งสองคน มีความเห็นตรงกัน“งานอื่นมีเยอะแยะ ส่วนหน้าที่ทำอาหาร ฟักเป็นแค่ลูกมือก็พอ...” ไทธัชกล่าวยิ้มๆ เขาเป็นกันเองกับคนในบ้าน ไม่ถือตัวว่าเป็นเจ้านาย“ฟักไปตามอลิสมาสิ จะได้รู้จักกันไว้ ใครเป็นใคร เดี๋ยวจะงง”น้ำอิงสั่งฟักทอง อลิชาจะได้ทำความรู้จักกับสามีของเธอด้วยหญิงสาวร่างเล็กบาง เดินตามหลังฟักทองเข้ามา“สวัสดีค่ะคุณ” อลิชายกมือขึ้นทำความเคารพโดยไม่ต้องให้ใครบอก เธอยิ้มเซียวๆ ให้เจ้านายหนุ่ม“อายุเท่าไหร