บทที่2.นางบำเรอขัดดอก
“อีตอนมาเอาเงินนี่... กราบฉันเสียเป็นร้อยๆ ครั้ง แต่เวลามาคืนนี่... ต้องให้จิกซ้ำถึงจะยอมโผล่หน้ามาให้เห็นนะยะ”
ปลายเล็บเคลือบยาทาเล็บสีแดงสดกรีดไปตามธนบัตรใหม่เอี่ยม ปากสีแดงแจ๊ดพร่ำบ่นเสียงไม่ต่างอะไรกับแม่ค้าหาบเร่ เมื่อทั้งดังและแหลมปรี๊ด
“เงินมันหายากนี่คุณนาย...ดอกก็แพงด้วย” หางเสียงแผ่วๆ ก่อนจะเสหลบตา เพราะสายตาคมดุตวัดมามองพอดี
“ฉันบอกหล่อนแล้วนี่ยะ ก่อนที่หล่อนจะมาหยิบยืม ตอนนั้นทำไมไม่ท้วงล่ะ พอตอนจะคืนมาโวย”
หญิงสาวผู้นั้นก้มหน้าลง เพราะขัดสนจึงต้องใช้บริการคุณนายสายหยุดหน้าเลือด ดอกเบี้ยแพงและโตไว้ยิ่งกว่าเมล็ดข้าวโพดโดนความร้อนเสียอีก
“นั่นใครล่ะ อ๋อ! แม่ฉลวยเข้ามาเลย ฉันกำลังรออยู่”
ฉลวยเดินหน้าม่อยเข้ามา นางทิ้งตัวลงนั่ง กระแทกลมหายใจแรงๆ ตอนที่ล้วงธนบัตรในกระเป๋าออกมาทั้งหมด
“เหลือเท่าไหร่แล้วคะคุณนาย ฉันส่งมาหลายงวดแล้วนะเมื่อไหร่จะหมดสักที” ฉลวยบ่นอุบ หาเงินตัวเป็นเกลียวเพื่อจะมาใช้หนี้สายหยุด โดยไม่รู้ว่าจะหมดเมื่อไหร่
สมุดเล่มโตถูกเปิดออกด้วยนิ้วป้อมๆ ปลายเล็บเคลือบสีสันฉูดฉาดไล่เลียงหารายชื่อ ก่อนจะยิ้มมุมปากหยันๆ “หล่อนต้องหาอีกนานเลยล่ะแม่สายหยุด หล่อนผิดนัดฉัน3ครั้ง เลื่อนอีก1 ทบต้นทบดอกแล้วยุบลงไปไม่เท่าไรเลย” น้ำเสียงแบบคนเป็นต่อเปรยเบาๆ
“อะไรกัน!! ฉันเอาที่คุณนายมาแค่3แสน ฉันแน่ใจว่าที่ฉันหามาส่งคุณนายมันเกินแล้วนะ”
ฉลวยโวย! ตอนหน้ามืดไม่ทันคิด คว้าที่ไหนได้ก็เอาไว้ก่อน ตอนนี้เพิ่งมานึกเสียใจ ไม่น่าหยิบยืมจากคนใจอำมหิตแบบสายหยุดเลย
“ก็แค่เงินต้นเท่านั้นนะสามแสน ดอกเบี้ยของฉันอีกล่ะ แล้วที่หล่อนเลื่อนแล้วเลื่อนอีกล่ะยะ...ทำไมไม่คิด” สายหยุดแหวเสียงขุ่น
“ก็ไม่น่าแพงขนาดนี้นี่คะ” ฉลวยเถียงเสียงอ่อนลง
“ฉันมีสัญญาระบุไว้ชัดๆ หล่อนไม่ได้อ่านหรือไงล่ะยะ”
สายหยุดไหวไหล่ นางโยนเอกสารบางอย่างให้ฉลวยได้ดู
ฉลวยเหลือบมองโดยไม่คิดจะหยิบมาเปิดอ่าน นางกัดฟันกรอด รู้สึกเจ็บใจแทบกระอักเป็นเลือดที่ตนเองดันถลำมาเป็นหนี้คนหน้าเลือดอย่างสายหยุดเข้าให้
“ค่ะ ฉันจะรีบหาเงินมาคืนคุณนายไวไว” นางกัดฟันพูด อนาคตริบหรี่เสียจนไม่รู้ว่าวันเป็นไทจะมาถึงหรือเปล่า หากยังต้องผจญกับดอกเบี้ยมหาโหดเช่นเดิม
“ฉันมีข้อเสนอ หากแม่ฉลวยสนใจ”
แม่มดเจ้าเล่ห์เริ่มออกลวดลาย นางหรี่ตาลง มองประเมินคู่สนทนาอย่างพินิจพิเคราะห์
“อะไรคะ? หากปลดหนี้ได้ ฉันสนใจทั้งนั้นแหละ” ฉลวยรีบตอบ ยิ้มกระหยิ่มในใจ
“ก็ไม่มีอะไรมาก แม่หลวยก็รู้นี่ว่าอาชีพเสริมฉันทำอะไร” นางออกตัว คนวงในมักจะรู้ อาชีพทำเงินอีกอย่างของสายหยุด คือการเป็นนายหน้าหาเด็กเอาะๆ ให้เสี่ยกระเป๋าหนัก
ฉลวยเสก้มหน้า แอบเบ้ปาก นางสูดลมหายใจแรงๆ กำลังจะตอบปฏิเสธ
แต่... “เด็กในบ้านแม่หลวยคนนั้นน่ะ หน่วยก้านดี น่าจะยัง ‘สิง’ ส่งมาให้ฉันสิ ฉันจะจัดหาเสี่ยให้เอง รับรองเงินเป็นฟ่อนๆ ลอยเข้ากระเป๋าแม่หลวยแน่” นางแนะนำเหมือนหวังดี
ฉลวยนิ่งคิด คนที่สายหยุดสนใจไม่ใช่อลินดาบุตรสาว แม่เล้าอย่างสายหยุดไพร่ไปนึกถึงเด็กก้นครัว หน้าตามอมแมมอย่างอลิชา...ซึ่งนางเองก็ไม่ยี่หระ หากจะยกความสาวของอลิชาเพื่อแลกกับเงินก้อนโต
“หลานของฉันเหรอคุณนาย?” เสียงของนางคงแฝงด้วยความกังขาอย่างเห็นได้ชัด
“แหงสิ...ลูกสาวของแม่หลวยน่ะ อย่าหาว่าฉันว่าเลยนะ... ไม่เหลือแล้วมั้งป่านนี้ ก้นไวยังกับนกปลอด...” นางไม่ได้ดูถูกอลินดา แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมานั้น... บอกนางอย่างนั้น เด็กสาวคนนั้นไม่น่าจะเหลือความภาคภูมิใจของผู้หญิงดีๆ หน้าฉากหล่อนอาจจะดูเรียบร้อย อ่อนหวาน แต่แววตาของหล่อนนั้นจัดจ้าเสียจนสายหยุดเชื่อไม่ลง
ฉลวยตวัดตาค้อนขวับ แม้ไม่พอใจแต่ก็เถียงไม่ออก นางไม่รู้ว่า อลินดาเป็นอย่างที่สายหยุดพูดหรือเปล่า เพราะไม่ติดตามเป็นเงาตามตัวบุตรสาว นางหวังแค่ให้บุตรสาวเอาตัวรอดได้เป็นพอ...
“เด็กนั่นน่ะ ผิวพรรณดี จับขัดสีฉวีวรรณเสียหน่อย ขี้คร้านจะขายได้ราคาดี”
นางประเมินอลิชาให้ฉลวยฟัง หากเป็นคนอื่นคงได้ลุกเต้น เมื่อลูกหลานถูกดูแคลนซึ่งๆ หน้า แต่ที่นั่งอยู่นี่ มีแต่มารร้ายที่ผุดขึ้นมาจากขุมนรก...ฉลวยจึงนิ่งฟังโดยไม่ได้แย้งอะไร
“ถ้าโปะหนี้ของฉันได้หมด ฉันจะลองคิดดูอีกที”
ฉลวยแสร้งไว้ท่า...ในหัวสมองคำนวณตัวเลขแบบถี่ถ้วน
“ยิ่งกว่าโปะหนี้หมดเลยแม่หลวย...หล่อนจะมีเงินติดกระเป๋ากลับไปเสียด้วยสิ” สายหยุดเอ่ยเสียงกระหึ่ม
“ใครที่ไหนเหรอ...คนแถวนี้หรือเปล่า ฉันกลัวผัวฉันมีปัญหา” นางถอนใจ หากกระเป๋าหนักปานนั้น ต้องเป็นเศรษฐีมีสตางค์ และอาจจะเผลอพูดจนเข้าหูสมภพ ถึงสามีจะรักใคร่ไยดีอลิชาไม่เท่าไหร่...แต่หากทำความเสื่อมเสียมาสู่วงศ์สกุลของเขา...สมภพคงไม่ยอมอยู่เฉยๆ
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ลูกค้าของฉันไม่มีใครปากโป้ง” สายหยุดคุยโอ่ ลูกค้าแต่ละคนของนางล้วนแล้วแต่เป็นคนมีหน้ามีตา ไม่มีใครปูดเรื่องอย่างว่าให้ตนเองเสื่อมเสีย
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีค่ะ”
“แล้วฉันจะติดต่อกลับไป แม่หลวยน่ะมีหน้าที่แค่พาเด็กนั่นมาส่ง กับรับเงินกลับไปแค่นั้นเอง”
สายหยุดอธิบาย นางยิ้มเจ้าเล่ห์ เพราะหากเป็นอย่างที่หวัง กำไรเนาะๆ ลอยเข้ากระเป๋านางเห็นๆ
“ได้ค่ะ” ฉลวยลากลับ พร้อมกับความคิดชั่วร้ายในหัว
ฉลวยกลับมาทันก่อนที่อลินดาจะออกจากบ้าน หล่อนใส่ชุดนักศึกษาที่ค่อนข้างเล็กไปสักนิด หากเทียบกับรูปร่างที่อวบอัด รังดุมปริ ทำท่าเหมือนจะขาดผึ่งหากเจ้าตัวหายใจเข้าแรงๆ
“อลิน...แม่ว่าเสื้อมันคับไปมั้ย?” เมื่อมารดาท้วง นักศึกษาสาวแสร้งโวย
“มันเป็นเทรนค่ะคุณแม่...ไม่คับหรอก อลินว่ากำลังดี” หญิงสาวก้มมองเสื้อนักศึกษา หล่อนเงยหน้ายิ้มหวานให้มารดา
“ตามใจ เทรนก็เทรน” นางตัดบท โบกมือให้ เมื่อกำลังมีเรื่องให้คิด
“งั้นอลินไปเรียนก่อนนะคะ” อลินดารีบหาทางชิ่ง...วันนี้เธอไม่คิดจะไปคร่ำเคร่งในห้องเรียน เมื่อมีสตางค์เต็มกระเป๋า
“อืม...เดี๋ยว...แม่วานหน่อยสิอลิน...” ฉลวยเอ่ยปากอนุญาต เธอนึกขึ้นมาได้ ในบรรดาเพื่อนฝูงของบุตรสาว นางเห็นว่าแต่ละคนนั้น น่าจะช่วยหล่อนได้ เพราะภาพลักษณ์ที่เห็น เป็นเด็กเกเรเสียเป็นส่วนใหญ่
“อะไรคะแม่?”
อลินดาเอียงคอมอง
ฉลวยยิ้มเครียด “หายานอนหลับกับยาปลุกอารมณ์ให้แม่หน่อย” นางตอบบุตรสาวก่อนจะเสหลบตา
“คุณแม่จะเอาไปทำอะไรคะ!” เสียงแข็งๆ ย้อนถาม
“หามาเถอะน่า...แล้วแม่จะอธิบายให้ฟัง...” ฉลวยบอกปัด เริ่มละอายใจเล็กน้อย“อลินอยากรู้ค่ะ” อลินดากังขา เธออยากรู้วัตถุประสงค์ของคนเป็นแม่ฉลวยมองสบนัยน์ตาบุตรสาว นางถอนใจเฮือก ก่อนจะเปิดปากเล่าความคิดในใจให้อลินดาฟังสาวรุ่นยิ้มกริ่ม “ได้ค่ะ อลินจะหาให้...ให้อลินช่วยนะคะแม่...” หล่อนออกตัว อยากช่วยมารดาจนเนื้อเต้น เมื่อได้กำจัดศัตรูทางอ้อม อยากเห็นวันที่อลิชาถูกย่ำยี...วันนั้นอลินดาคงมีความสุข เมื่อถีบส่งคนที่ตนเองเกลียดลงไปในขุมนรกหญิงสาวผู้นั้นเป็นหนามแหลมๆ ตำใจตนเองมาตั้งแต่เด็ก อะไรก็ตามที่อลิชาทำ คนรอบตัวมักจะชื่นชม และนำมาเปรียบเทียบกับตนเองบ่อยครั้ง ผลการเรียนของอลิชานำโด่ง จนไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหนก็ไม่มีทางตามทัน ทั้งที่เจ้าหล่อนอัตคัดเหลือทน การเป็นอยู่อดๆ อยากๆ แต่มันสมองนั่นก้าวล้ำกว่าคนที่เพียบพร้อมอย่างเธอหลายขุมอะไรก็ตามที่ทำให้หนามตำใจของตนเองตกต่ำลงได้อลินดาไม่รอช้าที่จะทำ เธอไม่เคยคิดสักนิดว่าอลิชาเป็นพี่ น้อง...เธอเกลียดหญิงสาวผู้นั้น และพร้อมที่จะเหยียบซ้ำ หากอลิชาก้าวพลาด“อย่าให้คุณพ่อแกรู้เชียวนะอลิน...เพราะพ่อแก เขาไม่ชอบเรื่องพรรค์นี้”ฉลวยกำชับบุตรสาว“ค่ะ
บทที่3.ผู้หญิงไม่มีราคา“โอยไม่เอาหรอก พันธะ ภาระผูกพันนี่น่าเบื่อตายห่า! ผมซื้อกินดีกว่าสบายใจด้วย”คำตอบที่แมทธิว ไบเลย์ใช้ตอบคนรอบตัว หนุ่มโสดที่ทั้งหล่อและรวย ใช้ชีวิตคุ้มค่าตามประสาลูกหลานคนมีเงิน ชายหนุ่มไม่เคยอายที่จะใช้บริการผู้หญิงหากิน แต่เขาก็ไม่ได้มั่วกินไม่เลือก ชายหนุ่มมีสถานที่ประจำ ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เดินเข้ามาหาเขา ไม่ใช่ผู้หญิงช้ำๆ ผู้ชายที่เพียบพร้อมแบบเขา หาผู้หญิงมานอนด้วยไม่ยาก เมื่อชายหนุ่มเข้าขั้นรูปหล่อพอฟัดพอเหวี่ยงกับดาราดังๆ หลายคน ณเดชที่ว่าหล่ออารมณ์ดี หากมายืนเทียบกับแมทธิวตอนนี้ สง่าราศีของชายหนุ่มอาจนำโด่ง...ผู้หญิงเป็นร้อยพร้อมที่จะเดินขึ้นเตียงกับแมทธิวฟรีๆ แต่...ชายหนุ่มไม่นิยม เขาตัดความรำคาญโดยการไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงรอบตัว เขาจ่ายเงินเพื่อความสบายใจ...ง่ายกว่ามาปวดหัวกับเรื่องหยุมหยิม...ในวันที่น่าเบื่อวันหนึ่ง...แมทธิวนั่งจมกับกองขวดเหล้า เขาดื่มเพื่อให้ลืมความเจ็บปวดในใจ...ใช่...เพราะอดีตในเยาว์วัย ชายหนุ่มจึงแอนตี้ผู้หญิง...แมทธิวโตมากับความรักของบิดา...ส่วนมารดาของเขานั้น หล่อนทิ้งแมทธิวกับคุณแอนเดอสันไปตั้งแต่ชายหนุ่มจำความได้ กนกรดาหอบผ
ฉลวยเอ่ยแบบคนเห็นแก่ตัว ข้าวแดงแกงร้อนที่รินรดหัว ถึงจะสำคัญ แต่หล่อนก็ไม่มีสิทธิทำตามอำเภอใจเช่นนี้“คุกนะแม่...หากอีนี่มันโวยขึ้นมา”อลินดายังพยายามท้วง...ถึงอยากให้อลิชาตกต่ำ แต่ความกลัวมีมากกว่า“มันจะกล้าโวยเหรอลูก...มันน่าจะอายมากกว่า”ผู้หญิงที่ถูกย่ำยีโดยผู้ชายที่ตนเองไม่รู้จักแม้แต่ชื่อแซ่ สิ่งแรกหล่อนน่าจะอับอาย และอลิชาหน้าบาง หล่อนไม่น่าจะโวยวาย“เอาไงก็เอา...มาถึงขึ้นนี้แล้ว...เราคงถอยไม่ได้แล้วล่ะแม่”สาวรุ่นสูดลมหายใจลึกๆ วางแผนมาอย่างดิบดี และแผนการนี้ดำเนินมาเกินครึ่ง...หากถอยคงไม่ทัน“ใช่...เพราะหากเปลี่ยนใจตอนนี้ แม่นี่แหละที่จะตาย...ไม่ใช่แกหรืออีอลิสหรอก... อีคุณนายนั่น ถลกหนังหัวแม่แน่”สายหยุดคงไม่ปล่อยเธอแน่ ไหนจะหนี้ที่พอกพูนเหมือนดินพอกหางหมู...ที่แน่ๆ หากงานวันนี้จบลง เธอปลดหนี้ได้ แถมมีเงินติดกระเป๋ากลับบ้านด้วยอลินดาตัดใจเปลี่ยนเสื้อผ้าเก่าๆ ปอนๆ ของอลิชาออก เธอแต่งตัวให้อลิชาใหม่ ด้วยเสื้อผ้าเก่าๆ ของตนเองหญิงสาวโชคร้ายนอนหลับไม่รู้เรื่อง ผิวหน้าของอลิชาเริ่มเปลี่ยนสี มีเม็ดเหงื่อไหลซึมออกมา และผิวแก้มมีริ้วแดงๆ เพราะความคุคลั่งภายในร่างกาย“เร็วๆ เถอะแ
อลิชาปรือตาขึ้นมอง สายตาของเธอมองเห็นทุกอย่างรอบตัวไม่ชัดเท่าไหร่...เนื้อตัวคันยุบยับ เหมือนมีแมลงตัวเล็กๆ มาชอนไช เธอพยายามเกา พยายามช่วยเหลือตัวเอง แบบคนที่มีสติไม่เต็มร้อย ผ้าเนื้อหนาบนร่างกายเสียดสีกับผิวเนื้อทำให้ผิวของเธอแสบทรมาน หญิงสาวดึงทึ้งอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายออกไปจากร่างกายอ่อนบาง พร้อมกับประตูที่เปิดอ้าขึ้น...อลินดาเหลียวมองผู้ชายหนุ่มฉกรรจ์ที่เดินผ่านตนเองกับมาดาไป แพขนตากะพริบถี่ๆ เขาผู้นั้นหล่อวายร้าย ลุคเถื่อนๆ มองแค่แผ่นหลัง ยังเสียววาบไปถึงท้องน้อย...ไหล่กว้างทรงพลัง เรียวขาบึกบึนกำยำ ผู้ชายแบบนี้ถ้าได้นอนใต้ร่าง เธอคงได้ครางเสียงแหบทั้งคืน พลังเพศผู้ของเขาแผ่ซ่านมายังเธอ แม้จะอยู่ห่างไกลยังสัมผัสถึงได้ หญิงสาวแลบลิ้นเลียริมฝีปาก...กัดริมฝีปากร่างเพื่อกลั้นความกระหาย...เพี้ยะ!ฝ่ามือผอมบางของมารดาฟาดโผว๊ะมาที่ท้องแขนตนเอง อลินดาสะดุ้ง!“คุณแม่อะ ตีอลินทำไมคะ?” หญิงสาวโวยเสียงอ่อย ไม่วายชำเลืองมองแมทธิวที่เดินหายลับมุมตึกไป“ดูทำเข้า มองผู้ชายเหมือนอยากจะขย้ำ ทำตัวดีๆ หน่อยแม่ไม่อยากให้ใครว่าตามหลัง”ฉลวยเหลือบเห็นปฏิกิริยาของบุตรสาวเข้าพอดี เธอจึงอดไม่ได้ที่จะตำหนิ อล
จูบ!! เธอกำลังถูกจูบจากผู้ชายแปลกหน้า เป็นความฝันแน่ๆ อลิชาคิดในใจแบบนั้น ความฝันวาบหวิวที่สุดในรอบ10ปี นับตั้งแต่แตกเนื้อสาวแมทธิวครางงึมงำ จุมพิตแผ่วๆ แต่กลับซ่านทรวง รสหวานซ่านที่แผ่เต็มอุ้งปากเหมือนกำลังได้ดื่มหยดน้ำค้างแรกเช้า ชายหนุ่มบดริมฝีปากแรงขึ้นอีกนิด แทรกปลายลิ้นตวัดเร้าโรมเรียวลิ้นเล็กๆ ที่ถอยหนี เป็นเกมสนุกในอุ้งปากที่น่าสุนทรีเสียจนแมทธิวใช้เวลานานกว่าทุกครั้ง มือแข็งแรงเคลื่อนที่ลงไปลูบไล้ผิวกายเนียนละเอียด เขาเกลี่ยปลายนิ้วไปตามส่วนคอดเว้าของโค้งสะโพก ก่อนจะวกกลับมาด้านหน้า เพื่อค้นหาเป้าหมายที่น่าสนใจ เรียวขาเพรียวถูกดันให้แยกออกจากกันด้วยความชำนาญ ขาแข็งแรงสอดกั้นไว้ ครั้นเมื่ออลิชาบีบเรียวขาชิดกันเธอจึงทำไม่ได้ ปลายนิ้วร้อนผ่าว กรีดตามรอยแยกปริ่มน้ำ หญิงสาวใต้ร่างสะดุ้งเยือก ร่างกายเกร็งแข็งขึ้นมาแบบฉับพลัน เพียงแค่ของสงวนกลางร่างกายถูกแตะต้อง“ยะ อย่า...อย่าทำแบบนั้นกับอลิสเลยค่ะ” เสียงหวานปนหอบกระซิบวอนขอ“อลิส เธอชื่ออลิสอย่างนั้นเหรอ?” ชายหนุ่มถามกลับเสียงปร่า เขาดันตัวชะโงกอยู่เหนือร่างกายอวบอัด“ค่ะ...ปล่อยอลิสไปนะคะ” อลิชาพยายามร้องขอครั้งสุดท้าย สำนึกดีชั
บทที่4.กาลเวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นเองอลิชาตื่นตามเวลา เธอปรือเปลือกตาขึ้นมอง สิ่งที่สายตาจับภาพได้... เป็นภาพที่ไม่คุ้นชิน เพดานห้องเธอเป็นไม้อัดเก่าๆ ผุๆ แต่ที่เห็นนี่ คือโคมไฟห้อยระย้า แสงสะท้อนของมันสวยเหมือนเกล็ดเพชรยามล้อเล่นกับแสงไฟ...หญิงสาวผวา!! แล้วเธอก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติอีกครั้ง... ข้างกายของเธอมีผู้ชายรูปร่างกำยำนอนแนบชิด เท่าที่สำรวจคร่าวๆ เขา ‘เปลือย’ เมื่อชายผ้าที่พาดไว้หมิ่นๆ ช่วงเอว มันปิดไม่มิด แก้มก้นผู้ชายที่ชาตินี้อลิชาคงไม่มีวันได้เห็น เมื่อเธอตั้งใจจะอยู่คนเดียว ไม่อยากสร้างภาระให้กับใคร หญิงสาวยกมือขยี้ดวงตาแรงๆ ก่อนจะสูดปากคราง เมื่อร่างกายประท้วงการออกแรง เนื้อตัวของเธอร้าวระบม เหมือนทำงานหนักมาทั้งวัน เธอแน่ใจว่าตนเองหลับสนิท หลังดื่มนมอุ่นๆ ที่ฉลวยยกมาให้หน้าห้อง...เอะ!หญิงสาวรวบผ้าห่มแนบลำตัวมากขึ้น ใบหน้าซีดเผือดเมื่อพอจะเดาเหตุการณ์ออกอลิชาไม่กล้าแม้แต่จะก้มมองตัวเอง ร่างกายเธอร้าวระบม แถมว่างเปล่า เหมือนกับว่าใต้ผ้าห่มนี่ เธอไม่ได้สวมอะไรเลยน้ำตาหยดเล็กๆ ไหลพรู มันเจ็บแปลบเหมือนจะขาดใจ เมื่อคนที่ไว้ใจ หักหลัง ทำลายเธอจนยับเยิน...รอยยิ้มหยันๆ แต้
หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ กัดริมฝีปากล่างจนห้อเลือด กลั้นสะอื้นไว้สุดฤทธิ์ เมื่อไม่อยากให้คนนอกรู้เรื่องอดสูที่เกิดขึ้นกับตัวเอง“ไม่ต้องมาปิดติ๋มค่ะ...ติ๋มพอจะเดาออก อีคุณนายบนตึกนั่นเดินเข้า เดินออกบ้านเจ้สายหยุดทางเป็นมัน มันเอาหนูอลิสไปขายสิท่า” ติ๋มกล่าวเสียงเคียดแค้น...เจ็บใจที่ช่วยเหลือคนน่าสงสารอย่างอลิสชาไม่ได้ เรื่องมันสายเกินกว่าจะแก้ไขเสียแล้วอลิชาผงะ แม้แต่สาวใช้ก้นครัวอย่างติ๋มยังรู้“ไปเก็บของค่ะ หนูอริสอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วล่ะ มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อไป อีคุณนายใจดำนั่น คงไม่หยุดง่ายๆ”มือหยาบกร้านดันแผ่นหลังบอบบางของหญิงสาว เธอกระซิบเสียงแผ่วๆ เพราะกลัวบุคคลที่สามได้ยิน“อลิสไม่มีที่ไปนะติ๋ม” หญิงสาวท้วง นอกจากฉลวยแล้ว เธอไม่มีใครที่พอจะพึ่งพาได้จริงๆ“ไม่ต้องกลัวค่ะ หลบไปก่อน เดี๋ยวติ๋มหางานให้ทำเอง... ไปให้พ้นจากบ้านนี้ บุญคุณท่วมหัวที่อีคุณนายมันอ้างอย่าไปนึกถึง... ความระยำที่อีคุณนายมันทำลบล้างหมดแล้วค่ะ”ถึงไม่ใช่ญาติ แต่เห็นกันมาตั้งหลายปี สิ่งที่ฉลวยและครอบครัวทำกับอลิชา เกินกว่าที่ติ๋มจะรับไหว ถึงเธอจะจนกร็อบ ต้องอาศัยใบบุญบ้านฉัตรสุวรรณ แต่เรื่องระยำตำบอนอย่างน
ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาเดินเข้าไปด้านใน และลงมืออาบน้ำ เพื่อชำระคราบไคล่ต่างๆ บนร่างกาย “อูยยย!” แมทธิวเผลอตัวอุทานออกมาเสียงหลง เมื่อสายน้ำเย็นรินรดร่างกาย ผิวหนังที่แผ่นหลังก็ประท้วง มันเจ็บแปลบเนื่องจากแผลสด เขาเอี้ยวตัวตะแคงร่างกายมองผ่านกระจกเงา ริ้วรอยนูนเด่น ฝีมือแม่ม้าพยศเมื่อคืนนี้ หล่อนฝากรอยรักไว้บนแผ่นหลังเขา เสียงเป็นทางยาวมุมปากสีเข้มกระตุกยิ้ม บทรักสุดโลดโผนเมื่อค่ำคืน ทำให้แมทธิวคิดถึงหล่อนขึ้นมาติดหมัด ไอ้ที่เคยปฏิบัติมา คงถูกแหก เมื่อในสมองของแมทธิวตอนนี้ เขาติดใจจนอยากพบหล่อนอีกสักครั้ง...หลังแต่งตัวเรียบร้อย ชายหนุ่มซ่อนรอยแผลเล็กๆ บนร่างกายไว้ด้วยเสื้อผ้าชุดเดิม เขาเดินผิวปากออกจากห้องสวีทแบบคนอารมณ์ดี ความเครียดที่สะสมในร่างกาย ถูกระบายไปกับบทรักร้อนแรงจนหมดโทรศัพท์เครื่องบางเฉียบถูกล้วงออกมาจากซอกกระเป๋าเสื้อ แมทธิวกดโทร. ออก ต่อสายหาคนจัดหาผู้หญิงเพื่อเจรจา เขาต้องการเจอหล่อนอีกครั้ง...แต่คงไม่ใช่วันนี้“มีอะไรคะ? ทำไมแม่นั่งยิ้มอยู่คนเดียว”อลินดาที่เพิ่งจะตื่นนอน หล่อนย่างกรายลงมาชั้นล่างของบ้าน เอาเมื่อตะวันขึ้นตรงศีรษะพอดี“ไม่ดีใจได้ยังไงลูก อีคุณนายนั่นโทร