Share

สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ
สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ
ผู้แต่ง: กิตติรวิชญ์

บทที่ 1

“ฉู่เหมียน อย่าได้คิดฝันว่าฉันจะรักเธอ!”

ชายหนุ่มบีบคอและกดเธอลงบนโซฟาพร้อมด่าทอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ “ความอดทนของฉันที่มีต่อเธอมันถึงขีดสุดแล้ว ฉันขอแนะนำให้เธอทำตัวดี ๆ เอาไว้ ครึ่งปีหลังจากนี้เราจะหย่ากัน!”

“ฉันไม่ได้ผลักลู่เจียวลงไปจริง ๆ นะ เธอตกลงไปในสระว่ายน้ำเองต่างหาก!”

เสียงของฉู่เหมียนอ่อนระโหย เธอเปียกโชกไปทั้งตัว ร่างกายผอมบางสั่นเทาไม่หยุดและยังไม่หายจากความกลัวจากการตกลงไปในน้ำเมื่อครู่

“อย่ามัวมาเถียงข้าง ๆ คู ๆ อยู่เลย เธอเป็นเพื่อนกับเจียวเจียวมาหลายปี เธอควรรู้ดีที่สุดว่าเจียวเจียวว่ายน้ำไม่เป็น!” ชายหนุ่มออกแรงที่มือหนักขึ้นอีกหน่อย เขามีท่าทางราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “ถ้าลู่เจียวเป็นอะไรไป เธอต้องชดใช้ด้วยชีวิต”

เขาใช้คำว่าเป็นเพื่อนกันมาหลายปี ตัดสินเด็ดขาดแล้วว่าให้เธอเป็นคนผิด

ดวงตาของฉู่เหมียนเต็มไปด้วยหมอกบาง ๆ น้ำตาหยดหนึ่งไหลรินลงจากหางตา เสียงหัวใจที่แตกสลายดังก้องชัดเจน

คงยากที่จะจินตนาการได้ว่าคนที่กำลังต่อว่าเธอเพื่อปกป้องผู้หญิงคนอื่นตรงหน้านี้เป็นสามีของเธอเอง!

เธอหลงรักกู้ว่างเชินมาสี่ปี และแต่งงานกับกู้ว่างเชินมาสามปี

เมื่อสามปีก่อนพอเธอรู้ว่าจะได้แต่งงานกับกู้ว่างเชิน เธอดีใจมาก

แต่หลังจากแต่งงานกับกู้ว่างเชินแล้ว เธอถึงได้รู้ว่าแม่ของกู้ว่างเชินแค่ไม่อยากให้ลู่เจียว ผู้หญิงที่เขารักแต่งงานเข้ามาเป็นสะใภ้บ้านนี้ ดังนั้นตัวเธอ ฉู่เหมียนจึงเป็นเพียงไม้กันหมาที่ช่วยให้ลู่เจียวยังคบหากับเขาต่อไปได้!

ลู่เจียวพลัดตกลงไปในสระว่ายน้ำ ทุกคนต่างไปช่วยหล่อน ล้อมรอบตัวหล่อน

ส่วนฉู่เหมียนที่ตกลงไปในสระว่ายน้ำเหมือนกัน แต่กลับไม่มีใครสนใจจนเกือบตายในสระน้ำที่เย็นเฉียบแห่งนั้นแล้ว

เขาจำได้ว่าลู่เจียวว่ายน้ำไม่เป็น แต่จำไม่ได้ว่า... เธอเองก็ว่ายน้ำไม่เป็นเหมือนกัน

เมื่อคิดว่าชีวิตแต่งงานที่เธอพยายามรักษาไว้เป็นเพียงเปลือกกลวง ๆ ฉู่เหมียนก็อดหัวเราะเยาะไม่ได้

กู้ว่างเชินเห็นเธอแสยะยิ้มบนโซฟา สีหน้ายิ่งเย็นชาและดูถูก “เป็นบ้าไปแล้วรึไง!”

ใช่ เธอเป็นบ้า

เพื่อที่จะแต่งงานกับกู้ว่างเชิน เธอยอมทะเลาะกับพ่อของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ตระกูลฉู่วุ่นวายไปหมด ทำแม้กระทั่งตัดขาดกับตระกูลฉู่ ทำให้พ่อของเธอตรอมใจจนล้มป่วยเข้าโรงพยาบาล

พ่อบอกเธอว่าการแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รัก แม้แต่งงานไปแล้วก็ไม่พ้นต้องทนทุกข์ เธอไม่มีทางชนะใจเขา

แต่ตอนนั้นเธอหลงคิดไปเองว่าการที่กู้ว่างเชินยอมแต่งงานกับเธอนั่นคือการยอมรับขั้นสูงสุดแล้ว เชื่อมั่นว่าความรักของเธอจะทำให้หัวใจของกู้ว่างเชินอ่อนลงในที่สุด

เธอสาบานกับผู้เป็นพ่อว่าการแต่งงานครั้งนี้เธอมีความมั่นใจมาก เธอไม่มีวันแพ้

ใครจะรู้ว่าเธอคิดผิดถนัด...

คนที่ไม่ได้รักเธอนั้นมีหัวใจแข็งกระด้างราวกับหิน แม้แต่เธอหายใจยังผิด

แพ้หรือไม่แพ้ ไม่ใช่เธอที่เป็นคนตัดสิน แต่เป็นกู้ว่างเชิน

กริ๊ง…

โทรศัพท์ของกู้ว่างเชินดังขึ้นทันใด เมื่อเห็นชื่อผู้โทรบนหน้าจอ สีหน้าโกรธเกรี้ยวของเขาก็หายไป

ในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบ ฉู่เหมียนได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดจาออดอ้อนมาจากปลายสาย

เขาหลุบตาลงพลางหยิบเสื้อสูทที่วางอยู่ข้าง ๆ ไม่มีอารมณ์โกรธหลงเหลืออยู่ มีเพียงความอ่อนโยนและอ่อนหวาน “เด็กดี ไม่ต้องกลัวนะ ผมจะไปหาเดี๋ยวนี้”

ฉู่เหมียนหายใจไม่ออก

เขาตัดสายโทรศัพท์ มองฉู่เหมียนด้วยสายตาโหดเหี้ยม จากนั้นก็ไม่หันกลับมามองอีกเลยแล้วเดินออกไป

“กู้ว่างเชิน” ฉู่เหมียนเรียกเสียงแหบพร่า พยายามจะให้เขาหยุดสักครู่ “ฉันก็กลัวน้ำเหมือนกันนะ”

กู้ว่างเชินไม่หยุดเดิน เขารู้สึกว่าฉู่เหมียนพูดจาไร้สาระ

ลู่เจียวกลัวน้ำเพราะปีนั้นตอนเขาถูกลักพาตัว ลู่เจียวโดดไปในทะเลเพื่อที่จะช่วยชีวิตเขา ทำให้เกิดเป็นปมฝังลึกในใจ

ฉู่เหมียนคนนี้มีแม้กระทั่งใบรับรองการดำน้ำ เธอจะกลัวน้ำได้อย่างไร

ฉู่เหมียนคิดว่าทำแบบนี้แล้วเขาจะสนใจเธองั้นเหรอ

เพ้อฝันสิ้นดี!

ฉู่เหมียนมองดูเขาผลักประตูออกไป น้ำตาไหลพรากลงมา เมื่อนึกถึงว่าตลอดหลายปีมานี้เธอไม่เคยได้รับการถูกเลือกจากกู้ว่างเชิน หัวใจของเธอก็เจ็บปวดจนแทบฉีกขาด

เธอใช้แรงทั้งหมดที่มีถามด้วยดวงตาแดงก่ำ “เจ็ดปีที่ผ่านมา คุณไม่เคยรักฉันเลยเหรอ?”

ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความน่าสงสาร แม้แต่ในขณะนี้เธอยังคงจินตนาการว่ากู้ว่างเชินจะมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับเธออยู่บ้าง

ในที่สุดเขาก็หันกลับมามองเธอก่อนหัวเราะเยาะ แล้วสิ่งที่ตามมาก็คือการดูถูกเหยียหยามอย่างที่สุด

“เธอกล้าถามหาคำว่ารักจากฉันเหรอฉู่เหมียน เก็บความน่าสมเพชไร้ราคาของเธอไว้ซะ ฉันรังเกียจ!” ดวงตาของกู้ว่างเชินเต็มไปด้วยความโกรธ คำพูดทุกคำราวกับมีดกรีดหัวใจฉู่เหมียนอย่างรุนแรง

ทั้งที่รู้แก่ใจว่าเขามีคนที่อยากแต่งงานด้วย แต่เธอก็ยังดื้อด้านจะแต่งงานกับเขา นี่คือผลตอบแทนความรักของฉู่เหมียนงั้นเหรอ

ฉู่เหมียนกำชายเสื้อแน่นจนปลายนิ้วซีดขาว อดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำถามของเพื่อนสนิท เสิ่นเหรา ที่เคยถามเธอว่า ‘ฉู่เหมียน เธอเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลฉู่ที่ใคร ๆ ต่างก็ยกย่อง ทำไมต้องไปยึดติดกับกู้ว่างเชินคนนี้ด้วย?’

เธอเองก็ไม่รู้

อาจเป็นเพราะตอนที่เธออายุสิบเจ็ดปีและถูกกลั่นแกล้ง เขาปกป้องเธอไว้สุดชีวิตและพูดว่า “เหมียนเหมียน อย่ากลัวนะ”

กระทั่งตอนนี้ฉู่เหมียนถึงได้รู้ว่า ‘อย่ากลัว’ เป็นเพียงคำปลอบใจที่เขาสามารถพูดได้กับทุกคน

ฉู่เหมียนหลับตา น้ำตาไหลลงอาบแก้ม หัวใจค่อย ๆ ชินชาเสียจนไม่รู้แล้วว่าความเจ็บปวดเป็นอย่างไร

ช่วงสามปีที่ผ่านมาเธอต้องเผชิญกับความเจ็บปวดมากมาย ความเจ็บปวดเหล่านี้ล้วนมีสาเหตุมาจากคนที่เธอรักที่สุด นั่นก็คือกู้ว่างเชิน!

ในสายตาของกู้ว่างเชิน เธอเป็นผู้หญิงใจร้าย ไร้หัวใจ คิดจะกำจัดคนที่เขารัก!

เวลาเจ็ดปี แม้แต่สุนัขยังกระดิกหางให้เธอ

แต่เธอกลับไม่ได้รับความไว้ใจจากกู้ว่างเชินเลยแม้แต่น้อย

แทนที่จะทนทรมานต่อไป สู้ทำให้เรื่องมันจบลงโดยเร็วดีกว่า

ชีวิตการแต่งงานที่ถูกสามีเกลียดชังแบบนี้ เธอไม่อยากทนอยู่ต่ออีกแล้ว แม้แต่วินาทีเดียวเธอก็ไม่อยากอยู่ต่อ

ฉู่เหมียนเช็ดน้ำตา ดวงตาสีอัลมอนด์มองตามร่างของเขา แล้วพูดอย่างเย็นชา “กู้ว่างเชิน เราหย่ากันเถอะ”

…กู้ว่างเชิน เราหย่ากันเถอะ

กู้ว่างเชินหยุดเดิน เขาหันกลับมา สายตาของเขามองมาที่ฉู่เหมียน ความประหลาดใจปรากฏขึ้นแวบหนึ่งในดวงตาของเขา

จู่ ๆ หัวใจของเขาก็เหมือนถูกอะไรบางอย่างดึงรั้งอยู่ชั่วครู่ เขาไม่เชื่อเลยว่าประโยคนี้จะหลุดออกมาจากปากของฉู่เหมียน

ตลอดสามปีที่ผ่านมา เธอมักจะแสดงบทบาทเป็นภรรยาที่ดี คอยดูแลรักษาความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างระมัดระวัง

ไม่ว่าเขาจะพูดถ้อยคำที่รุนแรงกับเธอแค่ไหน เธอก็ไม่เคยปริปากว่าจะขอหย่า

คิดจะใช้อุบายอะไรกันอีก?

ลำคอของกู้ว่างเชินรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ขมวดคิ้วแล้วเตือนด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉู่เหมียน เก็บเล่ห์เหลี่ยมไม่เข้าท่าพวกนี้ไว้ซะ แล้วรีบไปโรงพยาบาลเพื่อขอโทษเจียวเจียวเดี๋ยวนี้!”

ฉู่เหมียนกัดริมฝีปาก หัวใจตายด้านไปแล้ว

เธอเก็บความอ่อนแอไว้ พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นเป็นครั้งแรก น้ำเสียงนั้นไร้ความรู้สึกอย่างที่สุด

“ฉันบอกว่าขอหย่า คุณไม่เข้าใจหรือไง?”

กู้ว่างเชินถูกตะคอกใส่ก็ตกใจ สายตาของเขาค่อย ๆ มืดลง

เธอแค่ยืนอยู่ข้างโซฟา ทั้งที่อยู่ใกล้กันมาก แต่กลับเหมือนมีระยะห่างเป็นร้อยโยชน์

กู้ว่างเชินไม่เคยมองฉู่เหมียนอย่างจริงจังแบบนี้มานานแล้ว

เธอผ่ายผอมลงไปมาก ไม่เหมือนกับตอนที่แต่งงานกับเขาแรก ๆ ที่ทั้งสดใสและสวยสะพรั่ง ตอนนี้ทั้งร่างของเธอมีแต่ความหม่นหมอง

ตอนนี้เป็นเดือนพฤษภาคมของเมืองอวิ๋นและยังไม่เข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ เธอตกลงไปในสระว่ายน้ำ แช่อยู่ในน้ำเย็นเป็นเวลานาน ตอนนี้ทั้งตัวของเธอกำลังสั่นเทา ดูอิดโรยอย่างมาก

จู่ ๆ ความคิดของกู้ว่างเชินก็ย้อนกลับไปสมัยยังเป็นวัยรุ่น

ฉู่เหมียนเป็นลูกคุณหนูที่ได้รับการตามใจอย่างมากของตระกูลฉู่ เธอเล่นเปียโนเก่ง คนทั่วเมืองต่างก็หมายปองเธอ

แต่ฉู่เหมียนรักเขาเพียงคนเดียว ออกปากพูดว่าโตไปจะต้องแต่งงานกับเขาให้ได้

ตอนนั้นแม่ของเขาล้มป่วย ฉู่เหมียนเป็นคุณหนูที่ไม่เคยแตะงานบ้านเลย แต่กลับเรียนรู้ที่จะต้มซุป บีบนวด คอยใส่ใจดูแลแม่ของเขาอย่างดีเยี่ยม

พูดตามตรงตอนนั้นเขาไม่ได้เกลียดฉู่เหมียน แม้กระทั่งยอมให้ฉู่เหมียนแต่งงานกับเขา

แล้วอะไรกันที่เปลี่ยนไป?

เขาอยากแต่งงานกับลู่เจียว แต่ฉู่เหมียนกลับพยายามทุกวิถีทางที่จะแต่งงานกับเขาแทนลู่เจียว

กู้ว่างเชินเม้มริมฝีปากบาง แล้วลดน้ำเสียงลง “ฉู่เหมียน ฉันไม่ตามง้อเธอหรอกนะ”

ตามหลักแล้วฉู่เหมียนเอ่ยปากว่าอยากหย่า เขาควรจะดีใจ

แต่ไม่รู้ทำไมเมื่อมองไปที่ใบหน้าของฉู่เหมียน หัวใจของเขากลับรู้สึกอึดอัด

“คิดดีแล้วใช่ไหม แน่ใจเหรอว่าจะหย่า?” กู้ว่างเชินมองฉู่เหมียน รู้สึกเป็นครั้งแรกว่าฉู่เหมียนเหมือนเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเขา

เธอใช้ความพยายามอย่างมากมายเพื่อให้ได้มาซึ่งการแต่งงานครั้งนี้ เธอจะยอมหย่าง่าย ๆ จริงเหรอ

ชายหนุ่มสวมสูท ร่างสูงโปร่ง หน้าตาดีมาก โดยเฉพาะดวงตาหงส์ที่ลึกซึ้งและมืดมิดภายใต้เปลือกตาบางนั้นไร้ความรู้สึก แต่กลับเย้ายวนใจอย่างมาก

ใบหน้าแบบนี้ทำให้ฉู่เหมียนหลงรักจนไม่สามารถถอนตัวได้

เพื่อที่จะรักษาการแต่งงานครั้งนี้ไว้ เธออดทนต่อสายตาที่เย็นชาของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า อดทนต่อการมี

ตัวตนของลู่เจียว เธอยอมทำทุกอย่างให้ดีที่สุดได้เพื่อการแต่งงานครั้งนี้มา

แต่การแต่งงานเป็นเรื่องของคนสองคน เธอคนเดียวคงรักษาไว้ไม่ได้

เธอไม่ต้องการเป็นหุ่นเชิดอยู่ในชีวิตการแต่งงานและไม่ต้องการเป็นคนที่คอยขัดขวางความรักของคนอื่นอีกต่อไป

“ฉันคิดดีแล้ว” ฉู่เหมียนยิ้ม รอยยิ้มอบอุ่นปรากฏบนใบหน้าของเธอ

คิ้วของกู้ว่างเชินกระตุก มือที่กำเสื้อสูทไว้ค่อย ๆ ออกแรงมากขึ้น ความรู้สึกแปลกประหลาดและหงุดหงิดโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง

“ฉันรักคุณมาเจ็ดปี กู้ว่างเชิน ตอนนี้ฉันยอมแพ้แล้ว” ฉู่เหมียนกล้ำกลืนน้ำตาลงไป ฝืนกลั้นความเจ็บปวดในใจเอาไว้ แล้วยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยนที่สุด

เธอยอมแพ้แล้ว พยายามเท่าไรเธอก็ไม่ได้หัวใจของกู้ว่างเชิน และไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาอ่อนลงได้

เมื่อก่อนเธอไม่เคยยอมรับว่าตัวเองจะมีวันแพ้ แต่ตอนนี้เธอคงต้องยอมรับ

กู้ว่างเชินฟังคำพูดของเธอแล้วอารมณ์ย่ำแย่ลงมาก

“ตามใจ”

ยังไงฉู่เหมียนก็มักจะแง่งอนเป็นปกติอยู่แล้วไม่กี่วันก็หาย แล้วเธอจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ปัง…

ประตูถูกกระแทกอย่างแรง

ฉู่เหมียนทรุดตัวลงบนโซฟา หัวเราะปนสะอื้นอย่างขมขื่น

ความฝันลม ๆ แล้ง ๆ เจ็ดปีเกี่ยวกับกู้ว่างเชิน ถึงเวลาที่เธอควรตื่นได้แล้ว

ฉู่เหมียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดโทรออก...

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status