ห้องโถงวุ่นวาย ผู้คนต่างวางแก้วเหล้าลงแล้วเดินเข้าไปดูกันให้เห็นกับตา“โทรเรียก 1669 หรือยัง?”“1669 จะมาเมื่อไหร่? ถ้าเกิดคุณหานเป็นอะไรไปที่นี่ ครอบครัวคุณหานคงไม่ปล่อยเราไปแน่!”ฉู่เหมียนเงยหน้ามอง ชายคนนั้นอายุราวห้าสิบกว่าปี ตอนนี้เขานอนอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าซีดเผือดฉู่เหมียนดูเวลา ที่นี่ห่างจากโรงพยาบาลเมืองสิบห้านาทีถ้าเดินทางโดยรถยนต์ แถมยังเป็นช่วงเวลาที่รถติดมากพอดีถ้ารอรถพยาบาลมากลัวว่าจะไม่ทันแล้วไม่มีใครในโรงแรมมาจัดการสักที เห็นได้ชัดว่าอาการของชายคนนั้นแย่ลงเรื่อย ๆ ฉู่เหมียนที่เรียนวิชาแพทย์มาตั้งแต่เด็กเริ่มใจร้อนฉู่เหมียนขมวดคิ้ว เดินเข้าไป “ให้ฉันดูหน่อย”สายตาของผู้คนต่างจ้องมาที่ฉู่เหมียนในทันที ฉู่เหมียนเหรอ?“เธอทำได้เหรอ? ใคร ๆ ก็รู้ว่าตระกูลฉู่ของเธอเป็นตระกูลนักวิชาการแพทย์ แต่มีเธอคนเดียวที่เป็นแจกันประดับ ไม่มีวิชาแพทย์ติดตัวเลย!”ไม่รู้ว่าใครพูดขึ้น จากนั้นก็มีคนจำนวนหนึ่งตะโกนโวยวายตามมา“นั่นสิ! ชีวิตคนนะ ยกคุณหานให้เธอรักษาเหรอ นั่นไม่ต่างอะไรกับการผลักคุณหานลงเหว!”“ถ้าคุณหานเป็นอะไรไป เธอรับผิดชอบไหวเหรอ? นี่ไม่ใช่ของเด็กเล่นนะ!”“ห้ามเธ
ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นฉู่เหมียน!ลู่เจียวถูกผลักจนล้มลงไปกับพื้น กู้ว่างเชินรีบเข้าไปประคองเธอไว้ฉู่เหมียนคุกเข่าลง มือเรียวสวยของเธอปลดเนคไทของคุณหานออกแล้วโยนทิ้งไปลู่เจียวส่ายหน้าให้กู้ว่างเชิน หันไปมองฉู่เหมียนแล้วขมวดคิ้วถามว่า "เหมียนเหมียน ทำอะไรน่ะ เธอทำได้ด้วยเหรอ?"คนข้าง ๆ ก็ตกใจจนนิ่งงันอยู่กับที่"แม้แต่คุณหนูลู่ยังทำไม่ได้เลย แล้วคนไร้ความสามารถอย่างเธอจะทำได้เหรอ?""คุณหานเป็นคนมีหน้ามีตาขนาดไหน เธอยังกล้าปลดเสื้อผ้าของคุณหานกลางงานเลี้ยงแบบนี้ ฉู่เหมียนเธอคิดอะไรอยู่?"เมื่อได้ยินคนทั้งหลายต่อว่าฉู่เหมียน ลู่เจียวก็เม้มริมฝีปากแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "เธออย่าดื้อรั้นเพียงเพราะคำพูดของคนอื่นแค่ไม่กี่คำสิ""เหมียนเหมียน ปกติคนในตระกูลฉู่อาจตามใจเธอ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเล่นอะไรแบบนี้ ถ้าเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นมาละก็…" ลู่เจียวยิ่งพูดก็ยิ่งร้อนใจ ถึงกับยกมือขึ้นมาลูบแขนฉู่เหมียน ทำทีเหมือนเป็นห่วงฉู่เหมียนฉู่เหมียนสะบัดแขนลู่เจียวออกแล้วหรี่ตามอง "หุบปากซะ”ลู่เจียวเงียบไปทันที แววตาของฉู่เหมียนดุร้ายเกินไป ทำให้เธอรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูกฉู่เหมียนมอง
ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจ รีบพูดว่า "ผมแค่พูดเล่น คุณเก็บไปคิดจริงจังด้วยเหรอ?""จริงจังสิ ทำไมจะไม่จริงจัง ฉันเป็นคนจริงจังมาตั้งแต่เด็กแล้ว" ฉู่เหมียนหยิบแก้วเหล้าข้าง ๆ ขึ้นมาดื่มนึกถึงตอนที่กู้ว่างเชินปกป้องลู่เจียว กอดลู่เจียวและทำอะไรต่าง ๆ ให้ลู่เจียว เธอก็รู้สึกโกรธและไม่พอใจเธอแย่กว่าลู่เจียวตรงไหน แย่ยังไง?ทำไมกู้ว่างเชินถึงมองเธอเป็นแค่เสี้ยนหนามในสายตาตลอดเวลา"ฉู่เหมียน คุณใจแคบมากเลยนะ ไม่แปลกใจเลยที่กู้ว่างเชินไม่ชอบคุณ" ชายหนุ่มตะโกนด่าอย่างรุนแรงฉู่เหมียนเงยหน้า เมื่ออีกฝ่ายพูดถึงกู้ว่างเชิน ราวกับเธอถูกสะกิดบาดแผลพวกเขามีสิทธิ์อะไรมาว่าเธอใจแคบถ้าเมื่อกี้เธอไม่สามารถช่วยชีวิตคุณหานได้ พวกเขาก็คงจะแสดงสีหน้าแบบเดิมถ้าเธอขอให้พวกเขาปล่อยเธอไป พวกเขาจะปล่อยเธอไปโดยดีไหมพวกเขากัดไม่ปล่อยแน่ แถมยังจะเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธออย่างบ้าคลั่ง ผลักเธอลงสู่เหวลึกในเมื่อเป็นอย่างนั้น ทำไมถึงกล่าวหาว่าเธอใจแคบกันล่ะฉู่เหมียนโยนแก้วในมือลงที่เท้าของเขา สายตาเย็นชาและเฉียบคม "ในเมื่อคุณไม่ยอมคุกเข่าดี ๆ งั้นฉันจะช่วยทำให้คุณคุกเข่าเอง"พูดจบ เธอก็หยิบปากกาอ
หัวใจของฉู่เหมียนเต้นรัวอย่างไม่ทันตั้งตัว รูม่านตาของเธอหดเล็กลงด้วยไม่เชื่อว่าประโยคนี้จะหลุดออกมาจากปากของกู้ว่างเชินเขาไม่เคยยอมรับการแต่งงานของพวกเรามาโดยตลอดไม่ใช่หรือกู้ว่างเชินรับรู้ถึงความตกใจในดวงตาของฉู่เหมียนได้อย่างชัดเจน ทำให้หัวใจของเขาหงุดหงิดเขาแค่บอกว่าตัวเองเป็นสามีของเธอ แล้วทำไมเธอถึงได้ประหลาดใจนักจอห์นชี้ไปที่พวกเขาทั้งสองด้วยสีหน้าสงสัย “พวกคุณเป็นสามีภรรยากันเหรอ?”ฉู่เหมียนรีบมองไปที่จอห์น รู้สึกเสียใจมากที่ตัวเองเล่นละครต่อหน้าจอห์นเมื่อครู่จอห์นมองไปที่ทั้งสองคน ดวงตาโตของเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อและผิดหวัง รู้สึกราวกับว่าถูกคนสองคนนี้หลอกให้เข้าใจผิดและไม่ให้เกียรติตามที่ควรแต่สำหรับฉู่เหมียน ก่อนหน้านี้เขาคิดเข้าข้างตัวเองด้วยความเห็นแก่ตัว"ฉู่เหมียน ผมยังชื่นชมคุณเสมอ และจะไม่ซักถามเรื่องส่วนตัวของคุณ แต่ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมยินดี"เขาจริงใจมากความจริงใจนี้ทำให้ฉู่เหมียนรู้สึกเสียใจมากยิ่งขึ้นนอกจากครอบครัวก็ดูเหมือนเธอจะไม่ได้รับความห่วงใยจากใครแบบนี้มานานแล้วฉู่เหมียนกำลังจะกล่าวขอบคุณ แต่ข้อมือของเธอก็ถูกคว้าเอาไว้ท
กู้ว่างเชินรู้สึกประหลาดใจมากกับคำตอบของฉู่เหมียนเธอเป็นหลานสะใภ้ที่ย่าของเขารักและเอ็นดูมาก ตามใจเธอเหมือนเป็นหลานสาวแท้ ๆทุกครั้งที่เขาทำผิด คุณย่าจะคอยปกป้องเธอทันที หลายครั้งที่คุณย่าบุกไปที่บริษัทแล้วด่าเขาจนหัวหด!เธอพูดว่าจะไม่ไปงานวันเกิดคุณย่างั้นเหรอ? เขาไม่เชื่อหรอก"ฉู่เหมียน เรื่องที่เธอผลักลู่เจียวตกน้ำจบไปแล้ว" เขาย่นคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงยังคงความประนีประนอม"จบยังไงล่ะ จบก็เท่ากับฉันยอมรับว่าเป็นคนผลักสิ" ฉู่เหมียนโต้แย้งอย่างรวดเร็วกู้ว่างเชินไม่อยากยึดติดกับเรื่องนี้อีกแล้ว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ "เลิกงี่เง่าสักทีได้ไหม"ฉู่เหมียนมองเขา สายตาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นผิดหวังจนถึงตอนนี้เขาก็ยังคิดว่าเธอเป็นเด็กงี่เง่าฉู่เหมียนก้มหน้าลง ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน "แต่งงานกันมาตั้งหลายปี นอกจากช่วงแรก ๆ ที่ฉันไม่รู้เรื่องรู้ราวแล้ว คุณเคยเห็นฉันทำตัวงี่เง่ากี่ครั้ง?""คุณบอกเองนี่ว่าจะไม่ตามง้อฉัน ฉันรู้ตัวดีอยู่แล้ว""ฉันจะงี่เง่าไปเพื่ออะไร งี่เง่าให้ใครมาสงสารล่ะ?"ฉู่เหมียนพูดคำเหล่านี้ไปพลางใส่รองเท้าไปพลาง น้ำเสียงนิ่งมากเหม
ที่วิลล่าฉู่เหมียนมาเอาแหวนคืน เธอใส่รหัสและรอให้ประตูเปิดแต่กลับได้ยินเสียงตอบกลับผ่านกลไก… รหัสไม่ถูกต้องฉู่เหมียนเงยหน้ามองประตูห้องให้แน่ใจว่านี่คือวิลล่าของกู้ว่างเชินไม่ผิดแน่ จากนั้นก็ใส่รหัสอีกครั้งแต่มันก็ยังแจ้งว่ารหัสผิดเปลี่ยนรหัสแล้วเหรอจนกระทั่งใส่รหัสผิดเป็นครั้งที่สาม แม้กระทั่งสแกนลายนิ้วมือก็ไม่ผ่าน เสียงล็อกอิเล็กทรอนิกส์ส่งเสียงเตือน ฉู่เหมียนถึงแน่ใจในสิ่งที่เธอคาดเดา… ใช่แล้ว รหัสถูกเปลี่ยนกู้ว่างเชินก็ยังคงเป็นกู้ว่างเชิน ทำอะไรก็รวดเร็วเสมอเขาคงรังเกียจเธอมากถึงขั้นไม่ต้องการให้เธอโผล่มาที่นี่อีกเธอเพิ่งจากไปแค่สองวัน เขาก็เปลี่ยนรหัสซะแล้วฉู่เหมียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหากู้ว่างเชิน แต่ประตูกลับเปิดออกเสียก่อน เสียงคุ้นเคยดังมาจากด้านใน “เหมียนเหมียน"ฉู่เหมียนหันกลับไปทันที เห็นลู่เจียวสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวของผู้ชายอยู่ เมื่อเหลือบตามองลงไปที่ขาของลู่เจียว เห็นว่าขาขาวเรียวของเธอเปลือยเปล่าตอนนี้แก้มของลู่เจียวแดงก่ำ คอของเธอมีรอยจ้ำแดงจาง ๆ ผมสีดำปล่อยสยายอยู่ด้านหลัง มีเสน่ห์เย้ายวนอย่างบอกไม่ถูก"เจียวเจียว ใครมาเหรอ" เสียงเย็นชาของผู้ช
เมื่อฉู่เหมียนเห็นว่ากู้ว่างเชินจับข้อมือของลู่เจียวแล้วทิ้งเธอ ความรู้สึกตอนที่ร่วงหล่นและไร้แรงโน้มถ่วงชัดเจนยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ความสิ้นหวังแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจในทันทีกู้ว่างเชินไม่เคยเลือกเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้ว่าเธอจะจมลึกอยู่ในหล่มโคลนก็ตาม"เหมียนเหมียน!" ลู่เจียวร้องเรียกอย่างเสแสร้งฉู่เหมียนชนเข้ากับมุมบันไดที่คดเคี้ยว ร่างกายและหัวใจที่เจ็บปวดทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ออกเธอค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น เห็นกู้ว่างเชินและลู่เจียวมองลงมาที่เธอความอับอาย ความสิ้นหวัง และความเจ็บปวด ล้วนไม่เพียงพอที่จะบรรยายความรู้สึกของเธอในตอนนี้บันไดไม่สูงมาก ตกลงมาก็ไม่ถึงตาย แต่กลับทำลายความแข็งแกร่งทั้งหมดของเธอไปสิ้นกู้ว่างเชินจ้องมาที่ฉู่เหมียน แววตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ อดไม่ได้ที่จะด่าว่า "ลู่เจียวเพิ่งโดนเธอผลักตกน้ำไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ร่างกายยังไม่ฟื้นตัวดีก็มาทำร้ายซ้ำอีกในวันนี้ ยังจะผลักเธอให้กลิ้งลงบันไดอีกเหรอ? ฉู่เหมียน เธอนี่มันใจร้ายซะจริง ๆ!"เปลือกตาของฉู่เหมียนสั่นไหว เมื่อได้ยินเสียงด่าทอของเขาก็อดไม่ได้ที่จะแค่นหัวเราะหัวเราะไปหัวเราะมา น้ำตาก็ไหลรินดูสิ เขามีความ
อาคารบริษัทตระกูลกู้กู้ว่างเชินเพิ่งมาถึงห้องทำงาน อี้เซินก็รีบเข้ามาต้อนรับ "ท่านประธานครับ คุณหนูลู่ไม่ค่อยสบาย ผมเป็นธุระส่งเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลแล้วครับ""วิดีโอจากกล้องวงจรปิดในวิลล่าที่คุณต้องการ ก็ส่งไปที่อีเมลของคุณแล้วเช่นกันครับ"กู้ว่างเชินพยักหน้า เขาเลื่อนเก้าอี้แล้วนั่งลง กดเปิดอีเมลในคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็วเมื่อเห็นไฟล์วิดีโอ ไม่รู้ทำไมมือของเขาก็ชะงักค้างทันทีเสียงสั่นเครือของฉู่เหมียนดังขึ้นข้างหู"กู้ว่างเชิน หลายครั้งแล้วที่เกิดเรื่องแบบนี้แต่คุณไม่ตรวจสอบเลย กลับตัดสินฉันทันที กลัวรู้ความจริงว่าคนรักของคุณจะไม่เป็นอย่างที่เห็น หรือกลัวว่าจะหาเรื่องเอาผิดฉันไม่ได้?"มือที่จับเมาส์ของกู้ว่างเชินเกร็งขึ้น เขามองไฟล์วิดีโอนั้น หัวใจพลันรู้สึกผิดขึ้นมาชั่วขณะเข้าใจฉู่เหมียนผิดเหรอ?เธอออกจะใจร้ายปานนั้น ทำเรื่องชั่วร้ายแค่ไหนก็ได้ นั่นก็แค่แกล้งทำตัวให้น่าสงสารเท่านั้นแหละ!คิดได้ดังนั้น กู้ว่างเชินก็คลิกเข้าไปในวิดีโอสำหรับลู่เจียว เขาเลือกที่จะเชื่อใจเธอโดยไม่มีเงื่อนไขแต่เมื่อเห็นวิดีโอแล้ว สีหน้าของเขากลับค่อย ๆ เย็นชาลง...โรงพยาบาลกู้ว่างเชิน