แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: กิตติรวิชญ์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-12 19:24:21
ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นฉู่เหมียน!

ลู่เจียวถูกผลักจนล้มลงไปกับพื้น กู้ว่างเชินรีบเข้าไปประคองเธอไว้

ฉู่เหมียนคุกเข่าลง มือเรียวสวยของเธอปลดเนคไทของคุณหานออกแล้วโยนทิ้งไป

ลู่เจียวส่ายหน้าให้กู้ว่างเชิน หันไปมองฉู่เหมียนแล้วขมวดคิ้วถามว่า "เหมียนเหมียน ทำอะไรน่ะ เธอทำได้ด้วยเหรอ?"

คนข้าง ๆ ก็ตกใจจนนิ่งงันอยู่กับที่

"แม้แต่คุณหนูลู่ยังทำไม่ได้เลย แล้วคนไร้ความสามารถอย่างเธอจะทำได้เหรอ?"

"คุณหานเป็นคนมีหน้ามีตาขนาดไหน เธอยังกล้าปลดเสื้อผ้าของคุณหานกลางงานเลี้ยงแบบนี้ ฉู่เหมียนเธอคิดอะไรอยู่?"

เมื่อได้ยินคนทั้งหลายต่อว่าฉู่เหมียน ลู่เจียวก็เม้มริมฝีปากแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "เธออย่าดื้อรั้นเพียงเพราะคำพูดของคนอื่นแค่ไม่กี่คำสิ"

"เหมียนเหมียน ปกติคนในตระกูลฉู่อาจตามใจเธอ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเล่นอะไรแบบนี้ ถ้าเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นมาละก็…" ลู่เจียวยิ่งพูดก็ยิ่งร้อนใจ ถึงกับยกมือขึ้นมาลูบแขนฉู่เหมียน ทำทีเหมือนเป็นห่วงฉู่เหมียน

ฉู่เหมียนสะบัดแขนลู่เจียวออกแล้วหรี่ตามอง "หุบปากซะ”

ลู่เจียวเงียบไปทันที แววตาของฉู่เหมียนดุร้ายเกินไป ทำให้เธอรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก

ฉู่เหมียนมองกู้ว่างเชินที่กำลังกอดเธออยู่แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ประธานกู้คะ จัดการผู้หญิงของคุณให้ดีหน่อยสิ"

สีหน้ากู้ว่างเชินตึงเครียด เขาไม่คุ้นเคยกับฉู่เหมียนที่เป็นแบบนี้เลย "ฉู่เหมียน เจียวเจียวพูดก็เพราะเป็นห่วงเธอหรอก อย่าปฏิเสธความหวังดีอย่างไร้มารยาทสิ!"

ฉู่เหมียนหัวเราะเยาะ

เป็นห่วงเธอ หรือเป็นห่วงว่าเธอจะช่วยคุณหานได้แล้วแย่งความโดดเด่นไปจากลู่เจียว?

เธอเป็นเพื่อนกับลู่เจียวมาหลายปี จะไม่รู้จักนิสัยลู่เจียวได้อย่างไร?

ลู่เจียวแค่ทำตัวอ่อนแอแล้วร้องไห้ เธอก็ยอมสละทุกอย่างเพื่อลู่เจียวได้ แต่เรื่องแบบนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก!

"ฉู่เหมียน เห็นแก่ที่เราเป็นสามีภรรยากันมาหลายปี ฉันขอเตือนเธอว่าอย่ามายุ่งเรื่องไม่เป็นเรื่อง" กู้ว่างเชิน

ขมวดคิ้ว

ฉู่เหมียนเงยหน้าขึ้นมองกู้ว่างเชินแล้วหัวเราะอย่างขมขื่น "คุณเองก็คิดว่าฉันเป็นขยะที่ไร้ความรู้ความสามารถสินะ?"

เขาไม่พูดอะไร ถือเป็นการยอมรับกลาย ๆ

ฉู่เหมียนสูดจมูกแล้วพูดอย่างสิ้นหวัง "น่าเสียดายที่เราเป็นสามีภรรยากันมาหลายปี แต่คุณกลับไม่รู้จักฉันเลยสักนิด"

…น่าเสียดายที่เราเป็นสามีภรรยากันมาหลายปี แต่คุณกลับไม่รู้จักฉันเลยสักนิด

กู้ว่างเชินกลืนน้ำลายแล้วมองฉู่เหมียนด้วยสายตาซับซ้อน ความรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ถูกทำให้เขาหงุดหงิดใจ

ฉู่เหมียนหยิบปากกาขึ้นมา

ตอนนี้ทุกคนต่างก็ตกใจ

ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ เธอหยิบปากกามาทำไม?

"เธอจะทำอะไรน่ะ?"

"ขยะตระกูลฉู่คนนี้ อย่าสาระแนทำให้เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นเชียวนะ ไม่งั้น…"

ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ฉู่เหมียนก็ทำอะไรที่ทำให้พวกเขาตกใจยิ่งกว่าเดิม

เธอถอดหัวปากกาออกแล้วแทงเข้าไปที่คอของคุณหานอย่างรวดเร็วและแม่นยำ

ฝูงชนต่างก็โกรธเกรี้ยวและด่าทอ "ฉู่เหมียน เป็นบ้าไปแล้วหรือไง?"

"ถ้าคุณหานเป็นอะไรไป เธอเตรียมตัวรับผิดชอบได้เลย!"

ลู่เจียวอดไม่ได้ที่จะกำแขนกู้ว่างเชินไว้แล้วเบิกตากว้าง

นี่คือ...?

การเปิดทางเดินหายใจฉุกเฉิน?

โห ฉู่เหมียนช่างกล้าหาญเหลือเกิน

ฉู่เหมียนก้มลงแล้วเป่าลมเข้าไปผ่านปลายปากกาที่โผล่ออกมา แล้วกดหน้าอกของคุณหานอย่างต่อเนื่อง สีหน้าของเธอจริงจังมาก

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน นิ้วของคุณหานก็เริ่มขยับอีกครั้ง

เสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัยในห้องโถงเงียบลงทันที

คนถามด้วยเสียงกระซิบว่า "ช่วยได้แล้วเหรอ?"

"เป็นไปได้ยังไง ในเมื่อแม้แต่คุณหนูลู่ยังทำไม่ได้ เธอทำอะไรมั่ว ๆ แบบนี้แล้วจะช่วยได้จริงเหรอ?"

ทันใดนั้นมีคนรีบวิ่งเข้ามาจากด้านนอก "รถพยาบาลมาแล้ว!"

เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์รีบวิ่งเข้ามา

ฉู่เหมียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ช่วยพาคุณหานขึ้นเปล แล้วก็ไม่ลืมที่จะพูดคุยกับแพทย์

"คนไข้มีโรคหัวใจแต่กำเนิด ตอนที่คนไข้หมดสติครั้งแรก เราได้ให้ยารักษาโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันไปแล้ว หลังจากที่กินยาเข้าไป คนไข้รู้สึกตัวชั่วครู่ แต่หลังจากนั้นไม่นานคนไข้ก็หมดสติไปอีกครั้ง"

"คาดว่าคนไข้ป่วยเป็นโรคหอบหืดรุนแรง สาเหตุการกำเริบอาจเกิดจากการอุดตันของทางเดินหายใจ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉันจึงทำการเปิดทางเดินหายใจฉุกเฉินค่ะ"

ฝูงชนที่เฝ้าดูต่างก็พึมพำออกมา ได้ยินช่วงแรกยังรู้สึกว่าน่าเชื่อถือ

แต่พอได้ยินช่วงหลังก็โต้แย้งขึ้นมาทันที "คุณหานไม่ได้เป็นโรคหอบหืดซะหน่อย! พูดเหมือนรู้ดีจังเลยคิดว่าตัวเองเป็นหมอหรือไง?"

"ฉันเป็นเพื่อนกับคุณหานมาหลายปี เขาไม่ได้เป็นโรคหอบหืดซะหน่อย" ชายอีกคนหนึ่งที่มีอายุไล่เลี่ยกับคุณหานพูด

"เหอะ ถ้าเธอเก่งจริง ฉันจะคุกเข่ากราบเธอสามครั้งแล้วเรียกเธอว่าพระโพธิสัตว์เลย!"

ทันใดนั้นสายตาที่ร้อนแรงนับไม่ถ้วนก็พุ่งเป้ามาที่ฉู่เหมียน

พวกเขาดูเหมือนจะพูดว่า "ดูสิ ขยะก็เป็นขยะอยู่วันยังค่ำ!"

ฉู่เหมียนยิ้มมุมปาก แต่แววตาของเธอกลับมีความคาดหวังแฝงอยู่

จะคุกเข่ากราบเหรอ? ดูเหมือนจะน่าสนใจดีนะ

ตอนนั้นเองเสียงของชายหนุ่มอีกคนก็ดังขึ้น "พ่อผมเป็นโรคหอบหืดรุนแรงจริง ๆ ครับ!"

ทุกคนเงยหน้าขึ้นมอง ตอนนี้ชายหนุ่มที่เพิ่งวิ่งเข้ามาคือลูกชายของคุณหาน หานซือหลี่

ชายหนุ่มสวมสูท ผูกเนคไท และสวมแว่นตา ดูสุภาพเรียบร้อย

เขาพยักหน้าให้ฉู่เหมียนเล็กน้อย ถือเป็นการทักทาย

จู่ ๆ ฉู่เหมียนก็รู้สึกเจ็บที่ฝ่ามือ เธอจึงก้มลงแล้วแบมือออก คิ้วของเธอขมวดเล็กน้อย

ปลายปากกาแหลมเกินไป เมื่อกี้เธอน่าจะรีบร้อนทำหัตถการเกินไป ปล่ายปากกาเลยเผลอข่วนมือตัวเอง

"ลุงฉินครับ พ่อผมป่วยเป็นโรคหอบหืดจริง ๆ เขาแค่ไม่ได้บอกคนอื่น เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องดีอะไร"

หานซือหลี่อธิบายให้ชายคนนั้นฟัง

ชายคนนั้นถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะ…

ตอนนี้ห้องโถงเงียบสงัดจนได้ยินเสียงเข็มตก ทุกคนต่างก็มีสีหน้ากระอักกระอ่วน

"เป็นไปได้ยังไง?! ฉู่เหมียนช่วยชีวิตคุณหานไว้จริง ๆ เหรอ?"

"คงเป็นแมวที่ไปเจอหนูตาย[footnoteRef:0]มั้ง จับพลัดจับผลูทำมั่วซั่วแล้วก็ดันถูกวิธี!" [0: แมวตาบอดไปเจอหนูตาย 瞎猫撞上死耗子 เป็นการเปรียบเปรยว่า ทำอะไรโดยบังเอิญ โดยไม่ได้ตั้งใจ แต่กลับประสบความสำเร็จ เหมือนกับแมวตาบอดที่ไปเจอหนูตายพอดี]

หลังจากที่แพทย์ตรวจสอบอย่างคร่าว ๆ แล้ว ก็ทำให้คนเหล่านั้นพูดไม่ออก "คุณวิเคราะห์ได้ถูกต้องและลงมือปฐมพยาบาลได้อย่างกล้าหาญและสมบูรณ์แบบ! ขอบคุณที่คุณช่วยเราซื้อเวลาอันมีค่า ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คนไข้คง..."

ทันใดนั้นห้องโถงก็เงียบสงัด

ทุกคนต่างทำท่าเหมือนกลืนอะไรที่ติดค้างในลำคอลงไป พูดอะไรไม่ออก

ขยะตระกูลฉู่คนนี้ที่แท้ก็มีความสามารถจริง ๆ เหรอ?

กู้ว่างเชินไม่ได้รู้สึกประหลาดใจขนาดนั้น ฉู่เหมียนชอบวิชาการแพทย์มาโดยตลอด ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เธออ่านตำราทางการแพทย์นับไม่ถ้วน และยังเคยเขียนบทความ SCI[footnoteRef:1] อีกหลายบทความ [1: SCI งานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติ]

ฝีมือทางการแพทย์ของเธอไม่ควรถูกตั้งคำถาม

แต่ในฐานะสามีของเธอ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาก็คิดว่าเธอเป็นขยะที่ไร้ประโยชน์เหมือนคนอื่น ๆ

เมื่อนึกถึงคำพูดของฉู่เหมียนเมื่อกี้ เขาก็รู้สึกอับอายอย่างบอกไม่ถูก

ฉู่เหมียนหันหลังกลับ ร่างกายของเธอสั่นเทาเล็กน้อย ขาอ่อนแรงจนควบคุมไม่ได้ ทำให้ถอยหลังไปหนึ่งก้าว

เธอเป็นโรคระดับน้ำตาลในเลือดต่ำอยู่แล้ว ช่วงสองสามวันนี้ไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ แถมยังก้มหน้าทำอะไรนานเกินไปท่ามกลางภาวะเครียด ทำให้เธอรู้สึกมึนหัว

กู้ว่างเชินขมวดคิ้ว เมื่อรู้สึกว่าฉู่เหมียนจวนจะหมดสติ เขาก็เดินเข้าไปหาโดยไม่รู้ตัว

จู่ ๆ เอวของเธอก็ถูกพยุงไว้

ฉู่เหมียนเงยหน้ามอง ก็เห็นหานซือหลี่กำลังประคองเธออยู่ ชายหนุ่มทั้งอ่อนโยนและสง่างามน้ำเสียงของเขาก็อ่อนโยน "คุณฉู่ คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?"

ฉู่เหมียนเหลือบมองกู้ว่างเชินด้วยหางตา ไม่รู้ว่าลู่เจียวพูดอะไร กู้ว่างเชินถึงได้รีบอุ้มลู่เจียวออกไปทันที

ฉู่เหมียนละสายตาไปอย่างผิดหวัง หัวใจของเธอเต้นแรงจนรู้สึกเจ็บเหมือนถูกเข็มทิ่ม

"ไม่เป็นไรค่ะ" ฉู่เหมียนยิ้มหวานแล้วตอบกลับไป

หานซือหลี่หยิบนามบัตรสีทองใบหนึ่งออกมาแล้วส่งให้ฉู่เหมียน พร้อมกับพูดด้วยความขอบคุณอย่างสุดซึ้ง

"ขอบคุณมากนะครับที่คุณช่วยชีวิตคุณพ่อผม นี่นามบัตรของผมเองครับ สักวันตระกูลหานจะไปเยี่ยมคุณที่บ้านเพื่อขอบคุณอย่างเป็นทางการ!"

"คุณหานเกรงใจเกินไปแล้ว รีบไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ" ฉู่เหมียนพูดอย่างใจเย็น

หานซือหลี่พยักหน้าแล้วจากไป

ฉู่เหมียนหันไปมองคนรอบข้าง

สีหน้าของทุกคนดูไม่ค่อยดี

พวกเขาตราหน้าเธอว่าขยะ แต่เธอกลับช่วยคุณหานไว้ได้หน้าตาเฉย นี่ไม่ใช่การตบหน้าพวกเขาเหรอ?

เมื่อมองไปรอบ ๆ เห็นว่าลู่เจียวที่พวกเขาเคยสรรเสริญเหมือนเป็นของขวัญจากสวรรค์หายตัวไปนานแล้ว

ฉู่เหมียนหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดแผลที่มือ เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "เมื่อกี้นี้ใครบอกว่าจะคุกเข่ากราบฉันแล้วเรียกฉันว่าพระโพธิสัตว์นะคะ?"

คนที่กำลังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินจากไปพลันหยุดชะงัก

ฉู่เหมียนนั่งลงบนเก้าอี้ตัวสูงหน้าบาร์ เอนตัวไปด้านหลังด้วยท่วงท่าเซ็กซี่ปนเกียจคร้าน ขาเรียวยาวขาวผ่องโผล่ออกมาจากใต้เดรสยาว

ห้องโถงเงียบสงัด ความเจ็บปวดและความกดดันที่มองไม่เห็นทำให้พวกเขาเหมือนไม่มีที่ยืน ความรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ถูกทำให้ชายวัยสามสิบกว่าคนหนึ่งจำต้องเดินออกมา

ฉู่เหมียนมองชายคนนั้น หางตาตวัดมองเพียงเล็กน้อย ใบหน้าสวยงามมีอำนาจกดขี่ราวกับปีศาจ

เธอค่อย ๆ ยกมุมปากขึ้น แล้วพูดคำหนึ่งอย่างหนักแน่นกับชายคนนั้น "คุกเข่าสิ!"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 8

    ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจ รีบพูดว่า "ผมแค่พูดเล่น คุณเก็บไปคิดจริงจังด้วยเหรอ?""จริงจังสิ ทำไมจะไม่จริงจัง ฉันเป็นคนจริงจังมาตั้งแต่เด็กแล้ว" ฉู่เหมียนหยิบแก้วเหล้าข้าง ๆ ขึ้นมาดื่มนึกถึงตอนที่กู้ว่างเชินปกป้องลู่เจียว กอดลู่เจียวและทำอะไรต่าง ๆ ให้ลู่เจียว เธอก็รู้สึกโกรธและไม่พอใจเธอแย่กว่าลู่เจียวตรงไหน แย่ยังไง?ทำไมกู้ว่างเชินถึงมองเธอเป็นแค่เสี้ยนหนามในสายตาตลอดเวลา"ฉู่เหมียน คุณใจแคบมากเลยนะ ไม่แปลกใจเลยที่กู้ว่างเชินไม่ชอบคุณ" ชายหนุ่มตะโกนด่าอย่างรุนแรงฉู่เหมียนเงยหน้า เมื่ออีกฝ่ายพูดถึงกู้ว่างเชิน ราวกับเธอถูกสะกิดบาดแผลพวกเขามีสิทธิ์อะไรมาว่าเธอใจแคบถ้าเมื่อกี้เธอไม่สามารถช่วยชีวิตคุณหานได้ พวกเขาก็คงจะแสดงสีหน้าแบบเดิมถ้าเธอขอให้พวกเขาปล่อยเธอไป พวกเขาจะปล่อยเธอไปโดยดีไหมพวกเขากัดไม่ปล่อยแน่ แถมยังจะเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธออย่างบ้าคลั่ง ผลักเธอลงสู่เหวลึกในเมื่อเป็นอย่างนั้น ทำไมถึงกล่าวหาว่าเธอใจแคบกันล่ะฉู่เหมียนโยนแก้วในมือลงที่เท้าของเขา สายตาเย็นชาและเฉียบคม "ในเมื่อคุณไม่ยอมคุกเข่าดี ๆ งั้นฉันจะช่วยทำให้คุณคุกเข่าเอง"พูดจบ เธอก็หยิบปากกาอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 9

    หัวใจของฉู่เหมียนเต้นรัวอย่างไม่ทันตั้งตัว รูม่านตาของเธอหดเล็กลงด้วยไม่เชื่อว่าประโยคนี้จะหลุดออกมาจากปากของกู้ว่างเชินเขาไม่เคยยอมรับการแต่งงานของพวกเรามาโดยตลอดไม่ใช่หรือกู้ว่างเชินรับรู้ถึงความตกใจในดวงตาของฉู่เหมียนได้อย่างชัดเจน ทำให้หัวใจของเขาหงุดหงิดเขาแค่บอกว่าตัวเองเป็นสามีของเธอ แล้วทำไมเธอถึงได้ประหลาดใจนักจอห์นชี้ไปที่พวกเขาทั้งสองด้วยสีหน้าสงสัย “พวกคุณเป็นสามีภรรยากันเหรอ?”ฉู่เหมียนรีบมองไปที่จอห์น รู้สึกเสียใจมากที่ตัวเองเล่นละครต่อหน้าจอห์นเมื่อครู่จอห์นมองไปที่ทั้งสองคน ดวงตาโตของเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อและผิดหวัง รู้สึกราวกับว่าถูกคนสองคนนี้หลอกให้เข้าใจผิดและไม่ให้เกียรติตามที่ควรแต่สำหรับฉู่เหมียน ก่อนหน้านี้เขาคิดเข้าข้างตัวเองด้วยความเห็นแก่ตัว"ฉู่เหมียน ผมยังชื่นชมคุณเสมอ และจะไม่ซักถามเรื่องส่วนตัวของคุณ แต่ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมยินดี"เขาจริงใจมากความจริงใจนี้ทำให้ฉู่เหมียนรู้สึกเสียใจมากยิ่งขึ้นนอกจากครอบครัวก็ดูเหมือนเธอจะไม่ได้รับความห่วงใยจากใครแบบนี้มานานแล้วฉู่เหมียนกำลังจะกล่าวขอบคุณ แต่ข้อมือของเธอก็ถูกคว้าเอาไว้ท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 10

    กู้ว่างเชินรู้สึกประหลาดใจมากกับคำตอบของฉู่เหมียนเธอเป็นหลานสะใภ้ที่ย่าของเขารักและเอ็นดูมาก ตามใจเธอเหมือนเป็นหลานสาวแท้ ๆทุกครั้งที่เขาทำผิด คุณย่าจะคอยปกป้องเธอทันที หลายครั้งที่คุณย่าบุกไปที่บริษัทแล้วด่าเขาจนหัวหด!เธอพูดว่าจะไม่ไปงานวันเกิดคุณย่างั้นเหรอ? เขาไม่เชื่อหรอก"ฉู่เหมียน เรื่องที่เธอผลักลู่เจียวตกน้ำจบไปแล้ว" เขาย่นคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงยังคงความประนีประนอม"จบยังไงล่ะ จบก็เท่ากับฉันยอมรับว่าเป็นคนผลักสิ" ฉู่เหมียนโต้แย้งอย่างรวดเร็วกู้ว่างเชินไม่อยากยึดติดกับเรื่องนี้อีกแล้ว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ "เลิกงี่เง่าสักทีได้ไหม"ฉู่เหมียนมองเขา สายตาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นผิดหวังจนถึงตอนนี้เขาก็ยังคิดว่าเธอเป็นเด็กงี่เง่าฉู่เหมียนก้มหน้าลง ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน "แต่งงานกันมาตั้งหลายปี นอกจากช่วงแรก ๆ ที่ฉันไม่รู้เรื่องรู้ราวแล้ว คุณเคยเห็นฉันทำตัวงี่เง่ากี่ครั้ง?""คุณบอกเองนี่ว่าจะไม่ตามง้อฉัน ฉันรู้ตัวดีอยู่แล้ว""ฉันจะงี่เง่าไปเพื่ออะไร งี่เง่าให้ใครมาสงสารล่ะ?"ฉู่เหมียนพูดคำเหล่านี้ไปพลางใส่รองเท้าไปพลาง น้ำเสียงนิ่งมากเหม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 11

    ที่วิลล่าฉู่เหมียนมาเอาแหวนคืน เธอใส่รหัสและรอให้ประตูเปิดแต่กลับได้ยินเสียงตอบกลับผ่านกลไก… รหัสไม่ถูกต้องฉู่เหมียนเงยหน้ามองประตูห้องให้แน่ใจว่านี่คือวิลล่าของกู้ว่างเชินไม่ผิดแน่ จากนั้นก็ใส่รหัสอีกครั้งแต่มันก็ยังแจ้งว่ารหัสผิดเปลี่ยนรหัสแล้วเหรอจนกระทั่งใส่รหัสผิดเป็นครั้งที่สาม แม้กระทั่งสแกนลายนิ้วมือก็ไม่ผ่าน เสียงล็อกอิเล็กทรอนิกส์ส่งเสียงเตือน ฉู่เหมียนถึงแน่ใจในสิ่งที่เธอคาดเดา… ใช่แล้ว รหัสถูกเปลี่ยนกู้ว่างเชินก็ยังคงเป็นกู้ว่างเชิน ทำอะไรก็รวดเร็วเสมอเขาคงรังเกียจเธอมากถึงขั้นไม่ต้องการให้เธอโผล่มาที่นี่อีกเธอเพิ่งจากไปแค่สองวัน เขาก็เปลี่ยนรหัสซะแล้วฉู่เหมียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหากู้ว่างเชิน แต่ประตูกลับเปิดออกเสียก่อน เสียงคุ้นเคยดังมาจากด้านใน “เหมียนเหมียน"ฉู่เหมียนหันกลับไปทันที เห็นลู่เจียวสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวของผู้ชายอยู่ เมื่อเหลือบตามองลงไปที่ขาของลู่เจียว เห็นว่าขาขาวเรียวของเธอเปลือยเปล่าตอนนี้แก้มของลู่เจียวแดงก่ำ คอของเธอมีรอยจ้ำแดงจาง ๆ ผมสีดำปล่อยสยายอยู่ด้านหลัง มีเสน่ห์เย้ายวนอย่างบอกไม่ถูก"เจียวเจียว ใครมาเหรอ" เสียงเย็นชาของผู้ช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 12

    เมื่อฉู่เหมียนเห็นว่ากู้ว่างเชินจับข้อมือของลู่เจียวแล้วทิ้งเธอ ความรู้สึกตอนที่ร่วงหล่นและไร้แรงโน้มถ่วงชัดเจนยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ความสิ้นหวังแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจในทันทีกู้ว่างเชินไม่เคยเลือกเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้ว่าเธอจะจมลึกอยู่ในหล่มโคลนก็ตาม"เหมียนเหมียน!" ลู่เจียวร้องเรียกอย่างเสแสร้งฉู่เหมียนชนเข้ากับมุมบันไดที่คดเคี้ยว ร่างกายและหัวใจที่เจ็บปวดทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ออกเธอค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น เห็นกู้ว่างเชินและลู่เจียวมองลงมาที่เธอความอับอาย ความสิ้นหวัง และความเจ็บปวด ล้วนไม่เพียงพอที่จะบรรยายความรู้สึกของเธอในตอนนี้บันไดไม่สูงมาก ตกลงมาก็ไม่ถึงตาย แต่กลับทำลายความแข็งแกร่งทั้งหมดของเธอไปสิ้นกู้ว่างเชินจ้องมาที่ฉู่เหมียน แววตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ อดไม่ได้ที่จะด่าว่า "ลู่เจียวเพิ่งโดนเธอผลักตกน้ำไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ร่างกายยังไม่ฟื้นตัวดีก็มาทำร้ายซ้ำอีกในวันนี้ ยังจะผลักเธอให้กลิ้งลงบันไดอีกเหรอ? ฉู่เหมียน เธอนี่มันใจร้ายซะจริง ๆ!"เปลือกตาของฉู่เหมียนสั่นไหว เมื่อได้ยินเสียงด่าทอของเขาก็อดไม่ได้ที่จะแค่นหัวเราะหัวเราะไปหัวเราะมา น้ำตาก็ไหลรินดูสิ เขามีความ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 13

    อาคารบริษัทตระกูลกู้กู้ว่างเชินเพิ่งมาถึงห้องทำงาน อี้เซินก็รีบเข้ามาต้อนรับ "ท่านประธานครับ คุณหนูลู่ไม่ค่อยสบาย ผมเป็นธุระส่งเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลแล้วครับ""วิดีโอจากกล้องวงจรปิดในวิลล่าที่คุณต้องการ ก็ส่งไปที่อีเมลของคุณแล้วเช่นกันครับ"กู้ว่างเชินพยักหน้า เขาเลื่อนเก้าอี้แล้วนั่งลง กดเปิดอีเมลในคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็วเมื่อเห็นไฟล์วิดีโอ ไม่รู้ทำไมมือของเขาก็ชะงักค้างทันทีเสียงสั่นเครือของฉู่เหมียนดังขึ้นข้างหู"กู้ว่างเชิน หลายครั้งแล้วที่เกิดเรื่องแบบนี้แต่คุณไม่ตรวจสอบเลย กลับตัดสินฉันทันที กลัวรู้ความจริงว่าคนรักของคุณจะไม่เป็นอย่างที่เห็น หรือกลัวว่าจะหาเรื่องเอาผิดฉันไม่ได้?"มือที่จับเมาส์ของกู้ว่างเชินเกร็งขึ้น เขามองไฟล์วิดีโอนั้น หัวใจพลันรู้สึกผิดขึ้นมาชั่วขณะเข้าใจฉู่เหมียนผิดเหรอ?เธอออกจะใจร้ายปานนั้น ทำเรื่องชั่วร้ายแค่ไหนก็ได้ นั่นก็แค่แกล้งทำตัวให้น่าสงสารเท่านั้นแหละ!คิดได้ดังนั้น กู้ว่างเชินก็คลิกเข้าไปในวิดีโอสำหรับลู่เจียว เขาเลือกที่จะเชื่อใจเธอโดยไม่มีเงื่อนไขแต่เมื่อเห็นวิดีโอแล้ว สีหน้าของเขากลับค่อย ๆ เย็นชาลง...โรงพยาบาลกู้ว่างเชิน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 14

    กลางคืน ณ สวนฉินเซียงร้านอาหารสไตล์โบราณที่เงียบสงบและหรูหราฉู่เหมียนถือพัด วันนี้เธอมาในชุดกี่เพ้าสีเขียวตกแต่งกระดุมสีเขียวเช่นเดียวกัน เธอเปิดประตูห้องอาหารส่วนตัวเข้าไป ทันใดนั้นคนที่กำลังจิบชาและพูดคุยกันอยู่ข้างในก็ลุกขึ้นยืนทันทีแสงไฟสาดส่องไปที่ตัวเธอ ผิวของเธอขาวผ่องน่าหลงใหล ชายกี่เพ้าผ่าสูง เผยให้เห็นท่อนขาเรียวยาวขาวนวลเส้นผมถูกรวบไว้ด้วยปิ่นปัก เธอไว้ผมหน้าม้าปิดบังรอยแผลบนหน้าผากทุกคนต่างตกตะลึงในความสวยของเธอ“โอ้ นี่คุณหนูฉู่ไม่ใช่เหรอ?” ชายอายุห้าสิบกว่าคนหนึ่งพูดขึ้นก่อนเขาคือหลินเหิงเอินเพื่อนสนิทของฉู่เทียนเหอ งานเลี้ยงอาหารแบบส่วนตัวในวันนี้จัดขึ้นโดยหลินเหิงเอิน ผู้ที่มาร่วมนั้นล้วนเป็นบุคคลสำคัญในแวดวงธุรกิจ“แค่คุณหนูฉู่ที่ไหนกัน? นี่แก้วตาดวงใจของฉู่เทียนเหอเลยนะ! ไม่ธรรมดาเลย!” ชายอีกคนหนึ่งแก้ไขคำพูดของเขาฉู่เหมียนมองไปที่ผู้คนในห้องแล้วก็คลี่ยิ้มตามมารยาทเธอเดินเข้าไปอย่างคล่องแคล่ว ทักทายทุกคนทีละคน ปากก็พูดว่า “คุณลุงทั้งหลายอย่าล้อฉันเลยค่ะ ฉันมาสาย ต้องขอโทษจริง ๆ นะคะ!”“ไม่เป็นไร อาหารดีรอได้”“คุณหนู ไม่เจอกันหลายปี ยิ่งโตยิ่งสวยวั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 15

    ชายหนุ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ดึงฉู่เหมียนเข้ามากอดไว้ "แค่ร้อยล้านเอง สำหรับฉันแค่ขยับปากพูดก็ได้แล้ว!"ฉู่เหมียนหรี่ตาลง เหรอ? อวดรวยซะจริงพ่อคุณ"งั้นขอถามหน่อยสิคะว่าคุณเป็นใครกัน ทำไมถึงไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อนเลย" ฉู่เหมียนมองชายหนุ่มตรงหน้าพร้อมเผยยิ้มชายหนุ่มเชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ "ประธานบริษัทตระกูลเฉิน ชื่อเฉินซื่อวั่ง!"ฉู่เหมียนหัวเราะออกมาทันทีเฉินซื่อวั่ง?ก็แค่ลูกชายคนรองของตระกูลเฉินที่ทำตัวไร้ประโยชน์ผลาญเงินไปวัน ๆ ไม่ใช่หรือไง เหตุการณ์ที่โด่งดังที่สุดของเขาคือการถูกหลอกเอาเงินไปแปดแสนโดยสาวสวยที่ชีวิตจริงเป็นชายแท้ในโลกออนไลน์!พวกรวยแต่โง่!"หัวเราะอะไร? ดูถูกฉันเหรอ" เขาจ้องฉู่เหมียนด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ "ถ้าเธอมาเป็นของฉัน ไม่ต้องพูดถึงแค่ร้อยล้าน ฉันจะขนภูเขาเงินภูเขาทองมากองไว้ตรงหน้าเธอเลย!"ฉู่เหมียนแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ฟังดูน่าสนใจอยู่เหมือนกัน"คุณเฉิน แต่ฉันไม่สนใจคุณค่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ แล้วเราจะแสร้งทำเป็นว่าไม่เคยเจอกันในคืนนี้" ฉู่เหมียนยิ้มหวานก่อนเจรจาดี ๆอย่างไรก็ตามวันนี้เธอมาเข้าร่วมงานเลี้ยงในนามของพ่อ ถ้าเกิดเรื่องขึ้นอาจกลายเป็นขี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12

บทล่าสุด

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 295

    ฉู่เหมียนไปที่ฐาน M ในทันที เธอต้องการรู้ให้ได้เดี๋ยวนี้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวเรื่องลู่เจียวเธอทนไม่ได้กับความอับอาย แม้แต่นิดเดียวก็ทนไม่ได้!โม่อี้กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล เขาตรวจสอบทุกมุมแล้ว แต่ก็หาคนที่เข้าไปในห้องทำงานของผู้อำนวยการไม่พบ“ดูกล้องวงจรปิดตรงหน้าต่างซิ” ฉู่เหมียนสั่งโม่อี้เสียงเย็นโม่อี้หันไป ก็เห็นฉู่เหมียนยืนอยู่ข้างหลังเขา “หัวหน้า มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?”“เมื่อกี้” ฉู่เหมียนพูดเสียงแข็ง ชัดเจนว่ากำลังโกรธ คำสองคำนั้นเหมือนเค้นผ่านไรฟันออกมาโม่อี้กำลังตรวจสอบอย่างตั้งใจมาก จนไม่ได้สังเกตเห็นว่าเธอมาโม่อี้ร้อง “อืม” เสียงหนึ่ง รีบเปลี่ยนภาพกล้องวงจรปิดไม่ลืมเหลือบมองฉู่เหมียนอย่างระมัดระวังดูตรงหน้าต่าง… เดี๋ยวนะ“หน้าต่างโรงพยาบาลเหรอ?” โม่อี้เหยียดยิ้ม ดูเหมือนจะไม่เชื่อ “หัวหน้า นั่นมันชั้นที่สามสิบกว่านะ คนคนนั้นจะเข้ามาทางหน้าต่างเพื่อแจ้งเบาะแสเรื่องลู่เจียวเหรอ? บ้าไปแล้ว!”แล้วก็ไม่มีที่ให้เข้าไปด้วยนี่นา?“นอกหน้าต่างห้องทำงานของหลินเฉิงชุยมีระเบียง พอจะเข้าไปได้” ฉู่เหมียนคลายความสงสัยของเขาโม่อี้รีบตรวจสอบกล้องวงจรปิดในห

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 294

    “ฉันไม่ได้แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับน้องสาวคุณ เราไม่มีอะไรต้องคุยกัน” ฉู่เหมียนไม่อยากติดต่อกับคนตระกูลลู่“คุณฉู่ ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดี” ลู่อี้อธิบายฉู่เหมียนเงียบไปสามวินาที ก่อนจะเดินไปที่รถ “คุยกันตรงนี้แหละ”ลู่อี้คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้“ฉู่เหมียน ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แต่บัตรใบนี้มีมูลค่าสองล้าน” ลู่อี้ยื่นบัตรเครดิตมาให้ฉู่เหมียนตกใจเมื่อเห็นบัตรเครดิตใบนี้เขาหมายความว่ายังไง?“ขอให้คุณใจดีกับน้องสาวผมด้วย” เขาจ้องฉู่เหมียน นัยยะคือ เรื่องนี้เป็นฝีมือคุณ รับเงินสองล้านนี้ไป แล้วจบเรื่องไปซะฉู่เหมียนหัวเราะเขาคิดจะใช้เงินฟาดหัวเธอ นี่ไม่ใช่การดูถูกเธอหรอกเหรอ?“คิดว่าเงินแค่สองล้านจะเปลี่ยนทัศนคติของฉันที่มีต่อน้องสาวคุณได้เหรอ?” ฉู่เหมียนหยิบบัตรเครดิตขึ้น พลางจ้องมองลู่อี้อย่างเยาะเย้ย “ฉันจ่ายให้คุณสองล้าน หวังว่าคุณจะไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก เป็นคุณจะรู้สึกยังไง?”“ฉู่เหมียน คุณไม่ยุติธรรมเลย! กล้าทำก็ต้องกล้ารับสิ!” ลู่อี้ขมวดคิ้ว คิดว่าฉู่เหมียนไม่เข้าใจเหตุผล“ฝ่ายที่ไม่ยุติธรรมคือตระกูลลู่ของคุณต่างหาก!” ฉู่เหมียนโยนบัตรเครดิตใส่ลู่อี้พวกเขาทั้งคร

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 293

    ชูหลานคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหัว เธอพูดว่า “ไม่มีเลย ตอนนั้นเลิกงานพอดี ฉันเลยเอาเอกสารมาให้ผู้อำนวยการ”ฉู่เหมียนเงียบไปสองสามนาที เธอมองวิดีโอในโทรศัพท์ สักพักก็คิดอะไรไม่ออก “ค่ะ”ถ้าไม่ใช่ชูหลานที่เอาเข้ามา งั้นจดหมายร้องเรียนที่ไม่ระบุชื่อนี่บินเข้ามาเองงั้นเหรอ?ไม่ไกลนัก หม่าจือหยางเดินเข้ามา เขามีสมุดประวัติการรักษาสองเล่มในมือ พูดพลางเดินเข้ามา “คุณหมอชู พรุ่งนี้ผมขอลาพักร้อนนะครับ”ชูหลานเหลือบมองหม่าจือหยาง หม่าจือหยางยื่นใบลาพักร้อนให้ชูหลาน“ค่ะ” ชูหลานตอบรับหม่าจือหยางมองฉู่เหมียน แล้วเลิกคิ้ว ก่อนจะหันหลังเดินจากไปฉู่เหมียนสังเกตเห็นใบลาพักร้อนในมือของชูหลาน นั่นเป็นลายมือของหม่าจือหยางแน่นอน“ลายมือรองผู้อำนวยการหม่า สวยดีนะคะ” ฉู่เหมียนพูด“ค่ะ ลายมือรองผู้อำนวยการหม่าอ่านง่ายดี หนักแน่นด้วย” ชูหลานเก็บใบลาพักร้อนไว้ฉู่เหมียนเหลือบมองอีกสองสามครั้ง แล้วก็ไปทำงานต่อแผนกฉุกเฉิน ฉู่เหมียนไปส่งเอกสาร กำลังจะจากไปก็ได้ยินเสียงคนเรียก “คุณหมอฉู่ มารับคนไข้เหรอคะ?”ฉู่เหมียนงง อะไรนะ?“มีคนไข้ของแผนกคุณอยู่ที่นี่พอดี อย่าลืมไปรับนะคะ” พยาบาลสาวเตือนฉู่เหมี

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 292

    ฉู่เหมียน “…” ก็เธอไม่ใช่เหรอ?“ตำแหน่งของใครมีความขัดแย้งกับลู่เจียวมากที่สุด?”ฉู่เหมียน “…”แผนกศัลยกรรมหัวใจมีหมอสองคน ถ้าตำแหน่งเดียวกัน ก็คงเป็นฉันสินะฉู่เหมียน “คุณหมอหลิน อย่าเอาแต่วิเคราะห์เลยค่ะ” ขืนยังวิเคราะห์ต่อไป เดี๋ยวจะถูกตัดสินว่ามีความผิดเอาเสียเองทุกอย่างชี้ไปที่เธอ ยากจะแก้ตัวจริง ๆฉู่เหมียนเท้ามือลงบนโต๊ะ ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง “ขนาดวันหยุดสุดสัปดาห์ฉันยังนอนไม่หลับเลย”“งั้น… คุณพักร้อนสักสองสามวันไหมครับ?” หลินเฮิงชุยถามความเห็นของฉู่เหมียนอย่างระมัดระวังฉู่เหมียนตกใจ ทำไมล่ะ? ทำอย่างนั้นก็เหมือนกับตัวเองมีความผิดน่ะสิ!เธอไม่ทำอย่างนั้นหรอก ไม่เพียงแต่จะไม่พักร้อน แต่ยังจะปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนอย่างองอาจทุกวันอีกด้วยจดหมายแจ้งเบาะแสฉบับนี้ “จริง ๆ แล้ว คุณไม่ได้เป็นคนเขียนใช่ไหม?”หลินเฮิงชุยเองก็เริ่มสงสัยแล้วฉู่เหมียน “…” ฉู่เหมียนเริ่มปวดหัว“ฉันไปดูที่ห้องควบคุมกล้องวงจรปิดดีกว่า” ฉู่เหมียนยิ้มขณะที่กำลังพูด ประตูห้องทำงานก็ถูกเคาะ เป็นพนักงานผู้รับผิดชอบเรื่องนี้“ผลการตรวจสอบกล้องวงจรปิดออกแล้วเหรอครับ?” หลินเฮิงชุยสวมแว่น รู้สึกว่ามีหว

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 291

    ขณะที่ฉู่เหมียนกำลังคิดไม่ตกว่าจะพูดอย่างไร เสียงแตกของแจกันที่ตกพื้นในห้องผู้ป่วยก็ดังขึ้น“กรี๊ดดด!”เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังแว่วแทรกเข้ามาในหูกู้ว่างเชินรีบเปิดประตูห้องผู้ป่วยเข้าไปทันที พบว่าผลไม้ถูกโยนมาตกอยู่ที่เท้าของเขากู้ว่างเชินเดินเข้าไปข้างใน ลู่เจียวกำลังนั่งอยู่บนเตียง ผมยุ่งเหยิง ดวงตาแดงก่ำ ดูเหมือนจะใกล้ถึงขีดสุดของความอดทนเมื่อลู่เจียวเห็นกู้ว่างเชิน เธอก็ร้องไห้จนพูดไม่ออก จบแล้ว จบสิ้นแล้วจริง ๆกู้ว่างเชินไม่ยอมรับตัวตนของเธอ ตอนนี้อาชีพที่เธอภาคภูมิใจที่สุดก็หายวับไปแล้ว!เธอจะทำอย่างไรดี?กู้ว่างเชินขมวดคิ้ว ลู่เจียวดูโทรมลงทุกวัน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอต้องมีปัญหาแน่ กู้ว่างเชินเก็บของที่ตกอยู่บนพื้น ลู่เจียวก็โยนลงไปอีกกู้ว่างเชินไม่พูดอะไร แค่คอย ๆ เก็บขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งลู่เจียวเหนื่อยที่จะโยน เธอหยุดโยนแล้วเอาแต่ร้องไห้กู้ว่างเชินรู้สึกอึดอัดใจ เดินเข้าไปลูบหัวลู่เจียวเพื่อปลอบโยน เมื่อเห็นเช่นนั้น ลู่เจียวก็ร้องไห้หนักกว่าเดิมเธอลุกขึ้นคุกเข่าแล้วโอบกอดกู้ว่างเชินไว้ ดูเหมือนว่ามีเพียงกู้ว่างเชินเท่

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 290

    ฉู่เหมียนตกใจ ร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ? ถึงกับต้องฉีดยา!“ใช่ค่ะ ตอนนี้คุณกู้กำลังรออยู่หน้าห้อง เป็นห่วงเจียวเจียวมาก” ซางหานถอนหายใจพอพูดถึงเรื่องนี้ ทุกคนต่างก็คิดว่าฉู่เหมียนแพ้แบบไม่ยุติธรรม!ทุกอย่างของฉู่เหมียนดีกว่าลู่เจียว แต่กลับแพ้ในเรื่องของกู้ว่างเชินฉู่เหมียนกัดริมฝีปาก ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วลุกขึ้น “ฉันจะไปดูหน่อย”“อย่าไปเลยค่ะ ถ้าเจียวเจียวตื่นขึ้นมา ไม่รู้ว่าเธอจะด่าคุณยังไงบ้าง พยาบาลบอกว่าตอนที่เธอกำลังใจเสีย เธอพูดว่า...” พูดมาถึงตรงนี้ ซางหานก็เงียบไปฉู่เหมียนไม่เข้าใจ พูดว่าอะไรล่ะ?ซางหานเกาหัว ดูเหมือนไม่อยากจะเล่าต่อฉู่เหมียนยิ้ม “พูดมาเถอะ ไม่เป็นไรหรอก”คำพูดที่ออกมาจากปากของลู่เจียวเจียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวกับเธอ…ฉู่เหมียน คงไม่ใช่เรื่องดีแน่“ลู่เจียวบอกว่า เธอจะฆ่าคุณซะ...” ซางหานพูดฉู่เหมียนเม้มปาก เป็นอย่างที่คิดไว้จริงด้วย“เพราะงั้นคุณหมอฉู่ ตอนนี้คุณต้องระวังตัวตอนอยู่ในโรงพยาบาลนะคะ เพราะทุกคนต่างก็คิดว่าคุณเป็นคนแอบเขียนจดหมายร้องเรียน” ซางหานเตือนฉู่เหมียนฉู่เหมียนพยักหน้า ลูบหัวซางหาน “ได้ พี่รู้แล้ว ไปทำงานเถอะ!”“

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 289

    ร่างกายของฉู่เหมียนเบี่ยงหลบทัน ทำให้มือของหลิ่วอิงพลาดเป้าหลิ่วอิงขมวดคิ้ว “แกยังกล้าหลบอีกเหรอ?”“พ่อแม่ฉันยังไม่เคยกล้าตีฉันเลยสักครั้ง คุณเป็นใครกันถึงมาทำแบบนี้?” ฉู่เหมียนถามหลิ่วอิงอย่างท้าทายหลิ่วอิงอึ้งไปชั่วขณะ เธอจ้องฉู่เหมียนด้วยความโกรธจนแทบจะระเบิดออกมา“ถ้าฉันมีลูกสาวอย่างแก ฉันจะ...” หลิ่วอิงชี้ไปที่ฉู่เหมียน ร่างกายสั่นเทาด้วยความโกรธฉู่เหมียนยิ้ม “โชคดีที่ฉันไม่ใช่ลูกสาวของคุณ และคุณก็ไม่มีลูกอย่างฉัน”พูดตามตรง ถ้าเธอมีแม่แบบหลิ่วอิง เธอก็อยากจะกระโดดตึกตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด!“นี่แก! นังตัวแสบ!” หลิ่วอิงโมโหจนสติแตกลู่อี้ที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่เงียบ ๆ อดรู้สึกไม่ได้ว่าฉู่เหมียนกับแม่ของเขาไม่เพียงแต่หน้าตาคล้ายกันแต่กระทั่งนิสัยที่ดื้อรั้นก้าวร้าวก็เหมือนกันอย่างน่าประหลาดลู่อี้กลืนน้ำลายลงคอ แล้วก็เห็นฉู่เหมียนเดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมาหลิ่วอิงที่โกรธจนหน้ามืดก็หันหลังกลับมุ่งหน้าสู่ห้องประชุมทันที เห็นว่าทั้งสองคนดูเหมือนจะเจรจาเข้าใจกันเป็นอย่างดีลู่อี้อดไม่ได้ที่จะดึงแขนหลิ่วอิงไว้ แล้วถามขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว “แม่ครับ แม่ไม่คิดว่า เ

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 288

    ปัญหาอยู่ที่ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวนี้ นี่มันทำลายอนาคตของลู่เจียวชัด ๆ“งั้นบอกมาสิ ถ้าไม่ใช่เธอ แล้วจะเป็นใคร?” หลิ่วอิงหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ สำหรับแม่คนหนึ่ง อนาคตของลูกสาวถูกทำลาย มันเจ็บปวดกว่าการตายเสียอีก เธอรู้สึกผิดที่ปกป้องลู่เจียวไม่ได้ รู้สึกว่าในเมื่อลู่เจียวทุกข์ เธอก็ทุกข์เหมือนกัน…“ใครจะไปรู้ว่าลูกสาวคุณเมาแล้วพูดอะไรออกมาบ้าง สรุปแล้ว…” ฉู่เหมียนเดินไปหาหลินเฮิงชุย เธอยกจดหมายไม่เปิดเผยตัวตนขึ้นมาดู “คุณหมอคะ ฉันมาเพื่อชี้แจงว่าจดหมายฉบับนี้ไม่ใช่ฉันที่เป็นคนเขียน”“ถ้าคุณหมอจะสอบสวน ฉันจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่” ฉู่เหมียนไม่กลัว เธอไม่ได้เขียน ก็คือไม่ใช่เธอเขียน เธอเกลียดลู่เจียวมาก แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอไม่เคยคิดจะทำร้ายลู่เจียว ใช่ว่าเธอไม่สู้คน เพราะเธอสู้ได้มากกว่าใคร แต่เพราะลู่เจียวเป็นคนที่กู้ว่างเชินรัก เธอจึงอดทนมาตลอด แต่ถ้าตระกูลลู่มาใส่ร้ายเธอ ฉู่เหมียนจะไม่ยอมอดทนอีกต่อไป“ได้ครับ ฉู่เหมียน ผมเข้าใจแล้ว” หลินเฮิงชุยตอบกลับอย่างจริงจังหลิ่วอิงยังคงไม่พอใจ “คุณหมอคะ ลูกสาวฉันถูกพักงานใช่ไหม? ฉันต้องการให้เธอโดนพักงานด้วย!”เมื่อได้ยินคำพูดนั้

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 287

    ห้องประชุมโรงพยาบาล ตรงข้ามคุณหมอหลินเฮิงชุ่ยนั่งกันอยู่สามคน คือพ่อและหลิ่วอิง และลู่อี้ที่มาร่วมประชุมสายเห็นได้ชัดว่าเรื่องของลู่เจียวเป็นเรื่องใหญ่สำหรับตระกูลลู่ ถึงกับทำให้ทั้งสามคนต้องมาโรงพยาบาลกันพร้อมหน้าหลินเฮิงชุยพลิกดูประวัติการศึกษาของลู่เจียวแล้วมองทั้งสามคนอย่างมีนัยยะสำคัญ“คุณลู่… ประวัติการศึกษาของลูกสาวคุณ…” หลินเฮิงชุยพูดขึ้นมาหลิ่วอิงรีบพูดแทรกขึ้นมาทันที “ประวัติการศึกษาของลูกสาวฉันถูกต้อง ไม่มีการปลอมแปลงแม้แต่น้อย!”“ใช่ครับ แต่ตอนนี้มีคนแจ้งว่าคุณลู่เจียวได้เข้าเรียนคณะแพทย์โดยการแย่งโควตาของคนอื่น” หลินเฮิงชุยพูดด้วยสีหน้าซับซ้อน การแย่งโควตาเรียนถือเป็นเรื่องใหญ่ เทียบได้กับคดีอาชญากรรม“ใครเป็นคนแจ้ง?” ลู่อวี้เหิงหน้าตาเปลี่ยนไปทันที “นี่มันใส่ร้ายลูกสาวผมชัด ๆ!”หลินเฮิงชุยรีบพูดขึ้นมา “คุณลู่ครับ อย่าเพิ่งใจร้อนนะครับ ตอนนี้เรากำลังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมหลักฐานอยู่”“บอกมาสิว่าใครแจ้ง!” หลิ่วอิงโมโห เธอตบโต๊ะดังปัง “ลูกสาวฉันยังนอนอยู่โรงพยาบาลอยู่เลย ใครมันมาใส่ร้ายลูกสาวฉันแบบนี้!”หลินเฮิงชุยตอบ “เป็นการแจ้งเบาะแสแบบไม่เปิดเผยตัวตนครับ”“แ

DMCA.com Protection Status