แชร์

บทที่ 6

ผู้เขียน: กิตติรวิชญ์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-12 19:24:21
ห้องโถงวุ่นวาย ผู้คนต่างวางแก้วเหล้าลงแล้วเดินเข้าไปดูกันให้เห็นกับตา

“โทรเรียก 1669 หรือยัง?”

“1669 จะมาเมื่อไหร่? ถ้าเกิดคุณหานเป็นอะไรไปที่นี่ ครอบครัวคุณหานคงไม่ปล่อยเราไปแน่!”

ฉู่เหมียนเงยหน้ามอง ชายคนนั้นอายุราวห้าสิบกว่าปี ตอนนี้เขานอนอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าซีดเผือด

ฉู่เหมียนดูเวลา ที่นี่ห่างจากโรงพยาบาลเมืองสิบห้านาทีถ้าเดินทางโดยรถยนต์ แถมยังเป็นช่วงเวลาที่รถติดมากพอดี

ถ้ารอรถพยาบาลมากลัวว่าจะไม่ทันแล้ว

ไม่มีใครในโรงแรมมาจัดการสักที เห็นได้ชัดว่าอาการของชายคนนั้นแย่ลงเรื่อย ๆ ฉู่เหมียนที่เรียนวิชาแพทย์มาตั้งแต่เด็กเริ่มใจร้อน

ฉู่เหมียนขมวดคิ้ว เดินเข้าไป “ให้ฉันดูหน่อย”

สายตาของผู้คนต่างจ้องมาที่ฉู่เหมียนในทันที ฉู่เหมียนเหรอ?

“เธอทำได้เหรอ? ใคร ๆ ก็รู้ว่าตระกูลฉู่ของเธอเป็นตระกูลนักวิชาการแพทย์ แต่มีเธอคนเดียวที่เป็นแจกันประดับ ไม่มีวิชาแพทย์ติดตัวเลย!”

ไม่รู้ว่าใครพูดขึ้น จากนั้นก็มีคนจำนวนหนึ่งตะโกนโวยวายตามมา

“นั่นสิ! ชีวิตคนนะ ยกคุณหานให้เธอรักษาเหรอ นั่นไม่ต่างอะไรกับการผลักคุณหานลงเหว!”

“ถ้าคุณหานเป็นอะไรไป เธอรับผิดชอบไหวเหรอ? นี่ไม่ใช่ของเด็กเล่นนะ!”

“ห้ามเธอรักษาคุณหานเด็ดขา่ด ไล่เธอออกไป!”

ฝูงชนโห่ร้องครึกโครมราวกับเป็นการกลั่นแกล้งที่วางแผนไว้ เสียงซักถามเต็มไปด้วยความสงสัย

ฉู่เหมียนยังไม่ทันได้แตะตัวใครเลยก็ถูกผลักออกไปแล้ว

“แต่เรารอช้าไม่ได้แล้วนะคะ!” ฉู่เหมียนขมวดคิ้วแน่น

“ถึงจะตาย เราก็ไม่ขอให้แจกันประดับไร้ค่าอย่างเธอมาช่วย!”

เสียงของผู้หญิงคนนั้นแหลมสูง ไหล่ของฉู่เหมียนถูกผลัก

ถึงจะตาย ก็ไม่ยอมให้เธอช่วย

ประโยคนี้เหมือนมีดกรีดหัวใจของฉู่เหมียนอย่างรุนแรง ทำให้เธอสงบลงในทันที

ฉู่เหมียนเซถอยหลังไปสองก้าว ฝูงชนที่อัดแน่นขวางทางเธออยู่

เธอเงยหน้ามองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของทุกคน หัวใจชาไปหมด

ไร้ค่า?

แจกันประดับ?

ตั้งแต่เด็กจนโต เมื่อไหร่กันที่เธอเคยถูกตั้งคำถามเรื่องทักษะทางการแพทย์?

แค่สามปีที่ไม่ได้ออกงานสังคม ทำไมชื่อเสียงของเธอถึงได้แย่ขนาดนี้?

“ฉันเป็นหมอ ฉันเองค่ะ!”

เสียงนี้เด็ดเดี่ยวเป็นพิเศษ พริบตาเดียวก็ดึงดูดความสนใจจากทุกคนได้สำเร็จ ทุกคนหันมองด้วยความประหลาดใจ

ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นลู่เจียว

ผู้คนรอบข้างต่างตื่นเต้น “คุณหนูลู่อยู่ที่นี่ทั้งคน คุณหานรอดแน่ เธอเป็นหมอศัลยกรรมหัวใจ!”

“คุณหนูลู่กล้าหาญมากที่ยืนหยัดในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้! สมกับในข่าวจริง ๆ คนสวยใจบุญ!”

ลู่เจียวราวกับเทพธิดาที่ลงมาโปรดสัตว์โลก ร่างกายเต็มไปด้วยออร่า ผู้คนจำนวนมากต่างยกย่องเธอตาม ๆ กันทันที

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว การที่ฉู่เหมียนพุ่งเข้ามาก่อนหน้านี้กลายเป็นเรื่องไร้ค่า กลับกลายเป็นหนูในท่อระบายน้ำที่ผู้คนต่างตะโกนด่าทอ

ลู่เจียวคุกเข่าลงข้าง ๆ คุณหาน หยิบยารักษาโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันที่อยู่ในกระเป๋าออกมา สั่งว่า

“รบกวนทุกคนขยับออกห่างหน่อยค่ะ อย่าเข้ามาใกล้เกินไป”

“ญาติของคนไข้อยู่ไหมคะ? คนไข้มีประวัติโรคอะไรบ้างนอกจากโรคหัวใจ?” ลู่เจียวถามไปทั่ว แต่ไม่มีใครตอบ

“ผู้ช่วยของคุณหานมีธุระ เพิ่งจะออกไปก่อนหน้านี้ไม่นาน โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ค่ะ!” คนที่อยู่ด้วยกันตอบ

ลู่เจียวไม่สนใจเรื่องอื่นอีกต่อไป หลังจากป้อนยารักษาโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันแก่คุณหานก็ทำการปั๊มหัวใจ

งานเลี้ยงวันนี้มีคนดังมาร่วมมากมาย โอกาสเช่นนี้สำหรับลู่เจียวแล้วเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการแสดงตัว

เธอต้องพิสูจน์ให้คนในตระกูลกู้เห็น ว่าเธอ ลู่เจียวไม่ได้ด้อยไปกว่าฉู่เหมียน เธอต้องแต่งเข้าประตูบ้านตระกูลกู้ให้ได้

เวลาผ่านไปหลายนาที ทุกคนต่างก็ร้อนรน

กู้ว่างเชินยิ่งขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าเป็นห่วงคุณหานหรือเป็นห่วงลู่เจียว

ในตอนที่ทุกคนกลั้นหายใจอยู่ ก็มีคนร้องขึ้นว่า “ขยับแล้ว! ขยับแล้ว!”

นิ้วของชายคนนั้นขยับสองสามครั้ง แล้วค่อย ๆ ลืมตาขึ้น สีหน้ายังซีดเซียวอยู่

ลู่เจียวถามเสียงเบา “คุณหานเป็นยังไงบ้างคะ? ดีขึ้นหรือยัง?”

ชายคนนั้นขมวดคิ้ว มือข้างหนึ่งกุมหน้าอก

ลู่เจียวพูดขึ้นทันที “รถพยาบาลน่าจะใกล้มาถึงแล้ว คุณปลอดภัยแล้วนะคะ!”

เมื่อพูดจบ ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นในงาน จากนั้นก็มีเสียงสรรเสริญตามมา

“รถพยาบาลยังมาไม่ถึง ถ้าไม่มีคุณหนูลู่ ไม่อยากจะนึกภาพเลย!”

“คุณหนูลู่เก่งมากจริง ๆ ไม่เหมือนบางคน...”

“เกิดในตระกูลหมอแต่ใช้เส้นสายสมัครเข้าเรียน ยังกล้าทำตัวไม่รู้จักกาลเทศะอยากจะรักษาคุณหานที่นี่ ไม่ดูสารรูปตัวเองเลย!”

คุณหานหลับตาลงอย่างอ่อนแรง ปากขยับ แต่พูดไม่ออก

ลู่เจียวคิดว่าเขาอาจยังไม่ฟื้นตัวดี จึงไม่ได้สนใจ

เธอลุกขึ้น มองไปยังสายตาชื่นชมของทุกคน แล้วมองไปที่กู้ว่างเชิน

ดวงตาของกู้ว่างเชินอ่อนโยน สำหรับเธอแล้ว นี่คือการยอมรับที่ยิ่งใหญ่

ฉู่เหมียนยังคงนิ่งเงียบ ไม่สนใจที่คนเหล่านี้ชื่นชมคนหนึ่งแต่เหยียบย่ำอีกคน

มีคนอยู่ที่ไหน ก็มียุทธภพอยู่ที่นั่น[footnoteRef:0] ตระกูลลู่ก็เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ ยังไงก็ต้องมีคนคอยประจบ [0: มีคนอยู่ที่ไหน ก็มียุทธภพอยู่ที่นั่น (有人的地方就有江湖) เป็นการเปรียบเปรยว่า ทุกที่ที่มีผู้คนอยู่ ย่อมมีเรื่องราว ความขัดแย้ง การต่อสู้ เปรียบเสมือนยุทธภพในนิยายกำลังภายใน]

ยิ่งกว่านั้นสิ่งที่พวกเขาพูดว่าใช้เส้นสมัครเข้าเรียนแพทย์นั้นเป็นความจริง

แต่ว่า…

ฉู่เหมียนมองไปที่ลู่เจียว สายตาเย็นชาลง

คนที่ใช้เส้นสมัครเข้าเรียน จริง ๆ แล้วคือเธอ ฉู่เหมียนงั้นเหรอ?

สายตาของลู่เจียวเหลือบมองฉู่เหมียนอย่างรวดเร็ว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเล็กน้อย “ขอบคุณทุกคนสำหรับการยอมรับนะคะ จริง ๆ แล้วเหมียนเหมียนเองก็เก่งมาก”

“เธอเหรอ? ถ้าฉันเป็นคนไข้ คงไม่กล้าฝากชีวิตของฉันไว้กับเธอแน่!”

“ดูสิ คุณหนูลู่ใจกว้างจริง ๆ เลยนะ แต่ฉันยังชอบคุณหนูลู่มากกว่าอยู่ดี!”

“คุณหนูลู่ ขอเบอร์ติดต่อหน่อยได้ไหม?”

กู้ว่างเชินที่เงียบมานานพูดแทรกขึ้นทันทีด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อย่าล้ำเส้นกับผู้หญิงของผม”

ผู้คนรอบข้างมองหน้ากัน แล้วต่างก็หัวเราะ “ดูสิ คุณชายกู้หวงแฟนจริง ๆ เลยนะ”

ลู่เจียวหน้าแดงขึ้นมาทันใด เรียกเขาด้วยความเขินอาย “อาเชิน...”

กู้ว่างเชินลูบผมเธอ สายตาอ่อนโยน

สายตาของฉู่เหมียนค่อย ๆ มืดลง จากนั้นก็ก้มหน้าลง หัวใจเจ็บปวด

ถูกพวกเขาตั้งข้อกังขาและโจมตีเธอ เธอไม่เสียใจ

แต่กู้ว่างเชินยอมรับต่อหน้าเธอครั้งแล้วครั้งเล่าว่าลู่เจียวเป็นผู้หญิงของเขา นี่เจ็บปวดยิ่งกว่าการฆ่าเธอเสียอีก

แทบไม่กล้าคิดเลยว่าในเวลาปกติแล้วทั้งสองคนรักกันมากขนาดไหน

ลู่เจียวอมยิ้ม ถึงแม้ช่วงเวลาปกติเธอก็ได้รับความสนใจในฐานะที่เป็นคุณหนูลู่ก็ตาม

แต่ความรู้สึกที่ได้โดดเด่นด้วยตัวเธอเองในวันนี้แตกต่างออกไป

เมื่อก่อนตอนที่อยู่กับฉู่เหมียน อีกฝ่ายมักจะโดดเด่นกว่าเสมอ เธอเป็นเพียงไม้ประดับข้างกายฉู่เหมียนเท่านั้น

แต่ตอนนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว

โลกกำลังจะต้อนรับยุคทองของเธอ ลู่เจียว!

ลู่เจียวมองไปที่ฉู่เหมียน สายตาแวบหนึ่งที่คนอื่นไม่ทันสังเกตฉายชัดเจน

เธอจะแย่งทุกอย่างที่เคยเป็นของฉู่เหมียนไป!

ท่ามกลางเสียงสรรเสริญ คุณหานที่อาการดีขึ้นแล้วกลับเกิดอาการชักขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“ตายแล้ว! คุณหานดูอาการไม่ค่อยดีเลย คุณหนูลู่ รีบดูหน่อยสิคะ!”

สายตาของทุกคนต่างหันกลับมาที่คุณหานอีกครั้ง นอกจากเขาจะไม่ดีขึ้นแล้ว สีหน้ายังย่ำแย่กว่าตอนที่หมดสติไปเสียอีก!

ลู่เจียวรีบวิ่งไปข้างหน้า ทันใดนั้นคุณหานก็มีอาการหายใจลำบาก

นี่…

ลู่เจียวรู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมาเล็กน้อย หัวใจเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นมาเหรอ? หรือเขามีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ?

“ก่อนหน้านี้คุณทานอะไรเข้าไปคะ?” ลู่เจียวถามคุณหาน

ชายคนนั้นกุมคอด้วยมือข้างหนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ลู่เจียวไม่เข้าใจ พยายามตรวจสอบอย่างไม่หยุดหย่อน มือสั่นเทาไปหมด

ผู้จัดการที่อยู่ห้องโถงด้านนอกตะโกนว่า “เกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน รถพยาบาลติดแหง็ก! เราขับรถส่งคุณหานไปโรงพยาบาลกันเถอะ!”

ฉู่เหมียนเงยหน้าขึ้น สังเกตอาการของคุณหาน แล้วเหลือบมองเวลาเกรงว่าคงไม่ทันแล้ว

เธอจับแขนพนักงานเสิร์ฟที่เดินผ่านมาคนหนึ่ง แล้วขอยืมปากกาที่อีกฝ่ายเสียบไว้ตรงอกเสื้อ

“คุณหนูลู่ ไหวหรือเปล่า?” มีคนถามลู่เจียว

ลู่เจียวเงยหน้าขึ้น พบว่าฝูงชนรอบข้างยังคงมองมาที่เธอด้วยสายตาชื่นชมเหมือนเดิม

ในตอนนี้ แม้ว่าจะไม่ไหวเธอก็ต้องฝืนทำ

“ฉัน ขอตรวจดูก่อนนะคะ” เธอตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่เสียงพูดยังสั่นเครือ

แม้ว่าเธอจะเป็นหมอศัลยกรรมหัวใจ แต่ต้องยอมรับว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เธอเอาแต่ตามติดกู้ว่างเชินไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมเลย

ลู่เจียวคาดเดาว่าคุณหานอาจจะทานอะไรเข้าไปแล้วติดคอกระมัง?

แต่เธอไม่กล้าลงมือ ถ้าคุณหานเกิดเป็นอะไรไปด้วยน้ำมือเธอ คราวนี้เธอได้จบเห่แน่

เธอไม่สามารถเดิมพันชีวิตคนอื่นกับชื่อเสียงของตัวเองได้

ในขณะที่บรรยากาศตึงเครียด ลู่เจียวก็ถูกใครบางคนผลักออกไป

เสียงผู้หญิงเย็นชาลอยมาเข้าหู “หลบไป!”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 7

    ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นฉู่เหมียน!ลู่เจียวถูกผลักจนล้มลงไปกับพื้น กู้ว่างเชินรีบเข้าไปประคองเธอไว้ฉู่เหมียนคุกเข่าลง มือเรียวสวยของเธอปลดเนคไทของคุณหานออกแล้วโยนทิ้งไปลู่เจียวส่ายหน้าให้กู้ว่างเชิน หันไปมองฉู่เหมียนแล้วขมวดคิ้วถามว่า "เหมียนเหมียน ทำอะไรน่ะ เธอทำได้ด้วยเหรอ?"คนข้าง ๆ ก็ตกใจจนนิ่งงันอยู่กับที่"แม้แต่คุณหนูลู่ยังทำไม่ได้เลย แล้วคนไร้ความสามารถอย่างเธอจะทำได้เหรอ?""คุณหานเป็นคนมีหน้ามีตาขนาดไหน เธอยังกล้าปลดเสื้อผ้าของคุณหานกลางงานเลี้ยงแบบนี้ ฉู่เหมียนเธอคิดอะไรอยู่?"เมื่อได้ยินคนทั้งหลายต่อว่าฉู่เหมียน ลู่เจียวก็เม้มริมฝีปากแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "เธออย่าดื้อรั้นเพียงเพราะคำพูดของคนอื่นแค่ไม่กี่คำสิ""เหมียนเหมียน ปกติคนในตระกูลฉู่อาจตามใจเธอ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเล่นอะไรแบบนี้ ถ้าเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นมาละก็…" ลู่เจียวยิ่งพูดก็ยิ่งร้อนใจ ถึงกับยกมือขึ้นมาลูบแขนฉู่เหมียน ทำทีเหมือนเป็นห่วงฉู่เหมียนฉู่เหมียนสะบัดแขนลู่เจียวออกแล้วหรี่ตามอง "หุบปากซะ”ลู่เจียวเงียบไปทันที แววตาของฉู่เหมียนดุร้ายเกินไป ทำให้เธอรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูกฉู่เหมียนมอง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 8

    ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจ รีบพูดว่า "ผมแค่พูดเล่น คุณเก็บไปคิดจริงจังด้วยเหรอ?""จริงจังสิ ทำไมจะไม่จริงจัง ฉันเป็นคนจริงจังมาตั้งแต่เด็กแล้ว" ฉู่เหมียนหยิบแก้วเหล้าข้าง ๆ ขึ้นมาดื่มนึกถึงตอนที่กู้ว่างเชินปกป้องลู่เจียว กอดลู่เจียวและทำอะไรต่าง ๆ ให้ลู่เจียว เธอก็รู้สึกโกรธและไม่พอใจเธอแย่กว่าลู่เจียวตรงไหน แย่ยังไง?ทำไมกู้ว่างเชินถึงมองเธอเป็นแค่เสี้ยนหนามในสายตาตลอดเวลา"ฉู่เหมียน คุณใจแคบมากเลยนะ ไม่แปลกใจเลยที่กู้ว่างเชินไม่ชอบคุณ" ชายหนุ่มตะโกนด่าอย่างรุนแรงฉู่เหมียนเงยหน้า เมื่ออีกฝ่ายพูดถึงกู้ว่างเชิน ราวกับเธอถูกสะกิดบาดแผลพวกเขามีสิทธิ์อะไรมาว่าเธอใจแคบถ้าเมื่อกี้เธอไม่สามารถช่วยชีวิตคุณหานได้ พวกเขาก็คงจะแสดงสีหน้าแบบเดิมถ้าเธอขอให้พวกเขาปล่อยเธอไป พวกเขาจะปล่อยเธอไปโดยดีไหมพวกเขากัดไม่ปล่อยแน่ แถมยังจะเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธออย่างบ้าคลั่ง ผลักเธอลงสู่เหวลึกในเมื่อเป็นอย่างนั้น ทำไมถึงกล่าวหาว่าเธอใจแคบกันล่ะฉู่เหมียนโยนแก้วในมือลงที่เท้าของเขา สายตาเย็นชาและเฉียบคม "ในเมื่อคุณไม่ยอมคุกเข่าดี ๆ งั้นฉันจะช่วยทำให้คุณคุกเข่าเอง"พูดจบ เธอก็หยิบปากกาอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 9

    หัวใจของฉู่เหมียนเต้นรัวอย่างไม่ทันตั้งตัว รูม่านตาของเธอหดเล็กลงด้วยไม่เชื่อว่าประโยคนี้จะหลุดออกมาจากปากของกู้ว่างเชินเขาไม่เคยยอมรับการแต่งงานของพวกเรามาโดยตลอดไม่ใช่หรือกู้ว่างเชินรับรู้ถึงความตกใจในดวงตาของฉู่เหมียนได้อย่างชัดเจน ทำให้หัวใจของเขาหงุดหงิดเขาแค่บอกว่าตัวเองเป็นสามีของเธอ แล้วทำไมเธอถึงได้ประหลาดใจนักจอห์นชี้ไปที่พวกเขาทั้งสองด้วยสีหน้าสงสัย “พวกคุณเป็นสามีภรรยากันเหรอ?”ฉู่เหมียนรีบมองไปที่จอห์น รู้สึกเสียใจมากที่ตัวเองเล่นละครต่อหน้าจอห์นเมื่อครู่จอห์นมองไปที่ทั้งสองคน ดวงตาโตของเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อและผิดหวัง รู้สึกราวกับว่าถูกคนสองคนนี้หลอกให้เข้าใจผิดและไม่ให้เกียรติตามที่ควรแต่สำหรับฉู่เหมียน ก่อนหน้านี้เขาคิดเข้าข้างตัวเองด้วยความเห็นแก่ตัว"ฉู่เหมียน ผมยังชื่นชมคุณเสมอ และจะไม่ซักถามเรื่องส่วนตัวของคุณ แต่ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมยินดี"เขาจริงใจมากความจริงใจนี้ทำให้ฉู่เหมียนรู้สึกเสียใจมากยิ่งขึ้นนอกจากครอบครัวก็ดูเหมือนเธอจะไม่ได้รับความห่วงใยจากใครแบบนี้มานานแล้วฉู่เหมียนกำลังจะกล่าวขอบคุณ แต่ข้อมือของเธอก็ถูกคว้าเอาไว้ท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 10

    กู้ว่างเชินรู้สึกประหลาดใจมากกับคำตอบของฉู่เหมียนเธอเป็นหลานสะใภ้ที่ย่าของเขารักและเอ็นดูมาก ตามใจเธอเหมือนเป็นหลานสาวแท้ ๆทุกครั้งที่เขาทำผิด คุณย่าจะคอยปกป้องเธอทันที หลายครั้งที่คุณย่าบุกไปที่บริษัทแล้วด่าเขาจนหัวหด!เธอพูดว่าจะไม่ไปงานวันเกิดคุณย่างั้นเหรอ? เขาไม่เชื่อหรอก"ฉู่เหมียน เรื่องที่เธอผลักลู่เจียวตกน้ำจบไปแล้ว" เขาย่นคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงยังคงความประนีประนอม"จบยังไงล่ะ จบก็เท่ากับฉันยอมรับว่าเป็นคนผลักสิ" ฉู่เหมียนโต้แย้งอย่างรวดเร็วกู้ว่างเชินไม่อยากยึดติดกับเรื่องนี้อีกแล้ว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ "เลิกงี่เง่าสักทีได้ไหม"ฉู่เหมียนมองเขา สายตาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นผิดหวังจนถึงตอนนี้เขาก็ยังคิดว่าเธอเป็นเด็กงี่เง่าฉู่เหมียนก้มหน้าลง ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน "แต่งงานกันมาตั้งหลายปี นอกจากช่วงแรก ๆ ที่ฉันไม่รู้เรื่องรู้ราวแล้ว คุณเคยเห็นฉันทำตัวงี่เง่ากี่ครั้ง?""คุณบอกเองนี่ว่าจะไม่ตามง้อฉัน ฉันรู้ตัวดีอยู่แล้ว""ฉันจะงี่เง่าไปเพื่ออะไร งี่เง่าให้ใครมาสงสารล่ะ?"ฉู่เหมียนพูดคำเหล่านี้ไปพลางใส่รองเท้าไปพลาง น้ำเสียงนิ่งมากเหม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 11

    ที่วิลล่าฉู่เหมียนมาเอาแหวนคืน เธอใส่รหัสและรอให้ประตูเปิดแต่กลับได้ยินเสียงตอบกลับผ่านกลไก… รหัสไม่ถูกต้องฉู่เหมียนเงยหน้ามองประตูห้องให้แน่ใจว่านี่คือวิลล่าของกู้ว่างเชินไม่ผิดแน่ จากนั้นก็ใส่รหัสอีกครั้งแต่มันก็ยังแจ้งว่ารหัสผิดเปลี่ยนรหัสแล้วเหรอจนกระทั่งใส่รหัสผิดเป็นครั้งที่สาม แม้กระทั่งสแกนลายนิ้วมือก็ไม่ผ่าน เสียงล็อกอิเล็กทรอนิกส์ส่งเสียงเตือน ฉู่เหมียนถึงแน่ใจในสิ่งที่เธอคาดเดา… ใช่แล้ว รหัสถูกเปลี่ยนกู้ว่างเชินก็ยังคงเป็นกู้ว่างเชิน ทำอะไรก็รวดเร็วเสมอเขาคงรังเกียจเธอมากถึงขั้นไม่ต้องการให้เธอโผล่มาที่นี่อีกเธอเพิ่งจากไปแค่สองวัน เขาก็เปลี่ยนรหัสซะแล้วฉู่เหมียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหากู้ว่างเชิน แต่ประตูกลับเปิดออกเสียก่อน เสียงคุ้นเคยดังมาจากด้านใน “เหมียนเหมียน"ฉู่เหมียนหันกลับไปทันที เห็นลู่เจียวสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวของผู้ชายอยู่ เมื่อเหลือบตามองลงไปที่ขาของลู่เจียว เห็นว่าขาขาวเรียวของเธอเปลือยเปล่าตอนนี้แก้มของลู่เจียวแดงก่ำ คอของเธอมีรอยจ้ำแดงจาง ๆ ผมสีดำปล่อยสยายอยู่ด้านหลัง มีเสน่ห์เย้ายวนอย่างบอกไม่ถูก"เจียวเจียว ใครมาเหรอ" เสียงเย็นชาของผู้ช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 12

    เมื่อฉู่เหมียนเห็นว่ากู้ว่างเชินจับข้อมือของลู่เจียวแล้วทิ้งเธอ ความรู้สึกตอนที่ร่วงหล่นและไร้แรงโน้มถ่วงชัดเจนยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ความสิ้นหวังแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจในทันทีกู้ว่างเชินไม่เคยเลือกเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้ว่าเธอจะจมลึกอยู่ในหล่มโคลนก็ตาม"เหมียนเหมียน!" ลู่เจียวร้องเรียกอย่างเสแสร้งฉู่เหมียนชนเข้ากับมุมบันไดที่คดเคี้ยว ร่างกายและหัวใจที่เจ็บปวดทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ออกเธอค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น เห็นกู้ว่างเชินและลู่เจียวมองลงมาที่เธอความอับอาย ความสิ้นหวัง และความเจ็บปวด ล้วนไม่เพียงพอที่จะบรรยายความรู้สึกของเธอในตอนนี้บันไดไม่สูงมาก ตกลงมาก็ไม่ถึงตาย แต่กลับทำลายความแข็งแกร่งทั้งหมดของเธอไปสิ้นกู้ว่างเชินจ้องมาที่ฉู่เหมียน แววตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ อดไม่ได้ที่จะด่าว่า "ลู่เจียวเพิ่งโดนเธอผลักตกน้ำไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ร่างกายยังไม่ฟื้นตัวดีก็มาทำร้ายซ้ำอีกในวันนี้ ยังจะผลักเธอให้กลิ้งลงบันไดอีกเหรอ? ฉู่เหมียน เธอนี่มันใจร้ายซะจริง ๆ!"เปลือกตาของฉู่เหมียนสั่นไหว เมื่อได้ยินเสียงด่าทอของเขาก็อดไม่ได้ที่จะแค่นหัวเราะหัวเราะไปหัวเราะมา น้ำตาก็ไหลรินดูสิ เขามีความ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 13

    อาคารบริษัทตระกูลกู้กู้ว่างเชินเพิ่งมาถึงห้องทำงาน อี้เซินก็รีบเข้ามาต้อนรับ "ท่านประธานครับ คุณหนูลู่ไม่ค่อยสบาย ผมเป็นธุระส่งเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลแล้วครับ""วิดีโอจากกล้องวงจรปิดในวิลล่าที่คุณต้องการ ก็ส่งไปที่อีเมลของคุณแล้วเช่นกันครับ"กู้ว่างเชินพยักหน้า เขาเลื่อนเก้าอี้แล้วนั่งลง กดเปิดอีเมลในคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็วเมื่อเห็นไฟล์วิดีโอ ไม่รู้ทำไมมือของเขาก็ชะงักค้างทันทีเสียงสั่นเครือของฉู่เหมียนดังขึ้นข้างหู"กู้ว่างเชิน หลายครั้งแล้วที่เกิดเรื่องแบบนี้แต่คุณไม่ตรวจสอบเลย กลับตัดสินฉันทันที กลัวรู้ความจริงว่าคนรักของคุณจะไม่เป็นอย่างที่เห็น หรือกลัวว่าจะหาเรื่องเอาผิดฉันไม่ได้?"มือที่จับเมาส์ของกู้ว่างเชินเกร็งขึ้น เขามองไฟล์วิดีโอนั้น หัวใจพลันรู้สึกผิดขึ้นมาชั่วขณะเข้าใจฉู่เหมียนผิดเหรอ?เธอออกจะใจร้ายปานนั้น ทำเรื่องชั่วร้ายแค่ไหนก็ได้ นั่นก็แค่แกล้งทำตัวให้น่าสงสารเท่านั้นแหละ!คิดได้ดังนั้น กู้ว่างเชินก็คลิกเข้าไปในวิดีโอสำหรับลู่เจียว เขาเลือกที่จะเชื่อใจเธอโดยไม่มีเงื่อนไขแต่เมื่อเห็นวิดีโอแล้ว สีหน้าของเขากลับค่อย ๆ เย็นชาลง...โรงพยาบาลกู้ว่างเชิน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12
  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 14

    กลางคืน ณ สวนฉินเซียงร้านอาหารสไตล์โบราณที่เงียบสงบและหรูหราฉู่เหมียนถือพัด วันนี้เธอมาในชุดกี่เพ้าสีเขียวตกแต่งกระดุมสีเขียวเช่นเดียวกัน เธอเปิดประตูห้องอาหารส่วนตัวเข้าไป ทันใดนั้นคนที่กำลังจิบชาและพูดคุยกันอยู่ข้างในก็ลุกขึ้นยืนทันทีแสงไฟสาดส่องไปที่ตัวเธอ ผิวของเธอขาวผ่องน่าหลงใหล ชายกี่เพ้าผ่าสูง เผยให้เห็นท่อนขาเรียวยาวขาวนวลเส้นผมถูกรวบไว้ด้วยปิ่นปัก เธอไว้ผมหน้าม้าปิดบังรอยแผลบนหน้าผากทุกคนต่างตกตะลึงในความสวยของเธอ“โอ้ นี่คุณหนูฉู่ไม่ใช่เหรอ?” ชายอายุห้าสิบกว่าคนหนึ่งพูดขึ้นก่อนเขาคือหลินเหิงเอินเพื่อนสนิทของฉู่เทียนเหอ งานเลี้ยงอาหารแบบส่วนตัวในวันนี้จัดขึ้นโดยหลินเหิงเอิน ผู้ที่มาร่วมนั้นล้วนเป็นบุคคลสำคัญในแวดวงธุรกิจ“แค่คุณหนูฉู่ที่ไหนกัน? นี่แก้วตาดวงใจของฉู่เทียนเหอเลยนะ! ไม่ธรรมดาเลย!” ชายอีกคนหนึ่งแก้ไขคำพูดของเขาฉู่เหมียนมองไปที่ผู้คนในห้องแล้วก็คลี่ยิ้มตามมารยาทเธอเดินเข้าไปอย่างคล่องแคล่ว ทักทายทุกคนทีละคน ปากก็พูดว่า “คุณลุงทั้งหลายอย่าล้อฉันเลยค่ะ ฉันมาสาย ต้องขอโทษจริง ๆ นะคะ!”“ไม่เป็นไร อาหารดีรอได้”“คุณหนู ไม่เจอกันหลายปี ยิ่งโตยิ่งสวยวั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-12

บทล่าสุด

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 295

    ฉู่เหมียนไปที่ฐาน M ในทันที เธอต้องการรู้ให้ได้เดี๋ยวนี้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวเรื่องลู่เจียวเธอทนไม่ได้กับความอับอาย แม้แต่นิดเดียวก็ทนไม่ได้!โม่อี้กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล เขาตรวจสอบทุกมุมแล้ว แต่ก็หาคนที่เข้าไปในห้องทำงานของผู้อำนวยการไม่พบ“ดูกล้องวงจรปิดตรงหน้าต่างซิ” ฉู่เหมียนสั่งโม่อี้เสียงเย็นโม่อี้หันไป ก็เห็นฉู่เหมียนยืนอยู่ข้างหลังเขา “หัวหน้า มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?”“เมื่อกี้” ฉู่เหมียนพูดเสียงแข็ง ชัดเจนว่ากำลังโกรธ คำสองคำนั้นเหมือนเค้นผ่านไรฟันออกมาโม่อี้กำลังตรวจสอบอย่างตั้งใจมาก จนไม่ได้สังเกตเห็นว่าเธอมาโม่อี้ร้อง “อืม” เสียงหนึ่ง รีบเปลี่ยนภาพกล้องวงจรปิดไม่ลืมเหลือบมองฉู่เหมียนอย่างระมัดระวังดูตรงหน้าต่าง… เดี๋ยวนะ“หน้าต่างโรงพยาบาลเหรอ?” โม่อี้เหยียดยิ้ม ดูเหมือนจะไม่เชื่อ “หัวหน้า นั่นมันชั้นที่สามสิบกว่านะ คนคนนั้นจะเข้ามาทางหน้าต่างเพื่อแจ้งเบาะแสเรื่องลู่เจียวเหรอ? บ้าไปแล้ว!”แล้วก็ไม่มีที่ให้เข้าไปด้วยนี่นา?“นอกหน้าต่างห้องทำงานของหลินเฉิงชุยมีระเบียง พอจะเข้าไปได้” ฉู่เหมียนคลายความสงสัยของเขาโม่อี้รีบตรวจสอบกล้องวงจรปิดในห

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 294

    “ฉันไม่ได้แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับน้องสาวคุณ เราไม่มีอะไรต้องคุยกัน” ฉู่เหมียนไม่อยากติดต่อกับคนตระกูลลู่“คุณฉู่ ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดี” ลู่อี้อธิบายฉู่เหมียนเงียบไปสามวินาที ก่อนจะเดินไปที่รถ “คุยกันตรงนี้แหละ”ลู่อี้คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้“ฉู่เหมียน ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แต่บัตรใบนี้มีมูลค่าสองล้าน” ลู่อี้ยื่นบัตรเครดิตมาให้ฉู่เหมียนตกใจเมื่อเห็นบัตรเครดิตใบนี้เขาหมายความว่ายังไง?“ขอให้คุณใจดีกับน้องสาวผมด้วย” เขาจ้องฉู่เหมียน นัยยะคือ เรื่องนี้เป็นฝีมือคุณ รับเงินสองล้านนี้ไป แล้วจบเรื่องไปซะฉู่เหมียนหัวเราะเขาคิดจะใช้เงินฟาดหัวเธอ นี่ไม่ใช่การดูถูกเธอหรอกเหรอ?“คิดว่าเงินแค่สองล้านจะเปลี่ยนทัศนคติของฉันที่มีต่อน้องสาวคุณได้เหรอ?” ฉู่เหมียนหยิบบัตรเครดิตขึ้น พลางจ้องมองลู่อี้อย่างเยาะเย้ย “ฉันจ่ายให้คุณสองล้าน หวังว่าคุณจะไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก เป็นคุณจะรู้สึกยังไง?”“ฉู่เหมียน คุณไม่ยุติธรรมเลย! กล้าทำก็ต้องกล้ารับสิ!” ลู่อี้ขมวดคิ้ว คิดว่าฉู่เหมียนไม่เข้าใจเหตุผล“ฝ่ายที่ไม่ยุติธรรมคือตระกูลลู่ของคุณต่างหาก!” ฉู่เหมียนโยนบัตรเครดิตใส่ลู่อี้พวกเขาทั้งคร

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 293

    ชูหลานคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหัว เธอพูดว่า “ไม่มีเลย ตอนนั้นเลิกงานพอดี ฉันเลยเอาเอกสารมาให้ผู้อำนวยการ”ฉู่เหมียนเงียบไปสองสามนาที เธอมองวิดีโอในโทรศัพท์ สักพักก็คิดอะไรไม่ออก “ค่ะ”ถ้าไม่ใช่ชูหลานที่เอาเข้ามา งั้นจดหมายร้องเรียนที่ไม่ระบุชื่อนี่บินเข้ามาเองงั้นเหรอ?ไม่ไกลนัก หม่าจือหยางเดินเข้ามา เขามีสมุดประวัติการรักษาสองเล่มในมือ พูดพลางเดินเข้ามา “คุณหมอชู พรุ่งนี้ผมขอลาพักร้อนนะครับ”ชูหลานเหลือบมองหม่าจือหยาง หม่าจือหยางยื่นใบลาพักร้อนให้ชูหลาน“ค่ะ” ชูหลานตอบรับหม่าจือหยางมองฉู่เหมียน แล้วเลิกคิ้ว ก่อนจะหันหลังเดินจากไปฉู่เหมียนสังเกตเห็นใบลาพักร้อนในมือของชูหลาน นั่นเป็นลายมือของหม่าจือหยางแน่นอน“ลายมือรองผู้อำนวยการหม่า สวยดีนะคะ” ฉู่เหมียนพูด“ค่ะ ลายมือรองผู้อำนวยการหม่าอ่านง่ายดี หนักแน่นด้วย” ชูหลานเก็บใบลาพักร้อนไว้ฉู่เหมียนเหลือบมองอีกสองสามครั้ง แล้วก็ไปทำงานต่อแผนกฉุกเฉิน ฉู่เหมียนไปส่งเอกสาร กำลังจะจากไปก็ได้ยินเสียงคนเรียก “คุณหมอฉู่ มารับคนไข้เหรอคะ?”ฉู่เหมียนงง อะไรนะ?“มีคนไข้ของแผนกคุณอยู่ที่นี่พอดี อย่าลืมไปรับนะคะ” พยาบาลสาวเตือนฉู่เหมี

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 292

    ฉู่เหมียน “…” ก็เธอไม่ใช่เหรอ?“ตำแหน่งของใครมีความขัดแย้งกับลู่เจียวมากที่สุด?”ฉู่เหมียน “…”แผนกศัลยกรรมหัวใจมีหมอสองคน ถ้าตำแหน่งเดียวกัน ก็คงเป็นฉันสินะฉู่เหมียน “คุณหมอหลิน อย่าเอาแต่วิเคราะห์เลยค่ะ” ขืนยังวิเคราะห์ต่อไป เดี๋ยวจะถูกตัดสินว่ามีความผิดเอาเสียเองทุกอย่างชี้ไปที่เธอ ยากจะแก้ตัวจริง ๆฉู่เหมียนเท้ามือลงบนโต๊ะ ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง “ขนาดวันหยุดสุดสัปดาห์ฉันยังนอนไม่หลับเลย”“งั้น… คุณพักร้อนสักสองสามวันไหมครับ?” หลินเฮิงชุยถามความเห็นของฉู่เหมียนอย่างระมัดระวังฉู่เหมียนตกใจ ทำไมล่ะ? ทำอย่างนั้นก็เหมือนกับตัวเองมีความผิดน่ะสิ!เธอไม่ทำอย่างนั้นหรอก ไม่เพียงแต่จะไม่พักร้อน แต่ยังจะปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนอย่างองอาจทุกวันอีกด้วยจดหมายแจ้งเบาะแสฉบับนี้ “จริง ๆ แล้ว คุณไม่ได้เป็นคนเขียนใช่ไหม?”หลินเฮิงชุยเองก็เริ่มสงสัยแล้วฉู่เหมียน “…” ฉู่เหมียนเริ่มปวดหัว“ฉันไปดูที่ห้องควบคุมกล้องวงจรปิดดีกว่า” ฉู่เหมียนยิ้มขณะที่กำลังพูด ประตูห้องทำงานก็ถูกเคาะ เป็นพนักงานผู้รับผิดชอบเรื่องนี้“ผลการตรวจสอบกล้องวงจรปิดออกแล้วเหรอครับ?” หลินเฮิงชุยสวมแว่น รู้สึกว่ามีหว

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 291

    ขณะที่ฉู่เหมียนกำลังคิดไม่ตกว่าจะพูดอย่างไร เสียงแตกของแจกันที่ตกพื้นในห้องผู้ป่วยก็ดังขึ้น“กรี๊ดดด!”เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังแว่วแทรกเข้ามาในหูกู้ว่างเชินรีบเปิดประตูห้องผู้ป่วยเข้าไปทันที พบว่าผลไม้ถูกโยนมาตกอยู่ที่เท้าของเขากู้ว่างเชินเดินเข้าไปข้างใน ลู่เจียวกำลังนั่งอยู่บนเตียง ผมยุ่งเหยิง ดวงตาแดงก่ำ ดูเหมือนจะใกล้ถึงขีดสุดของความอดทนเมื่อลู่เจียวเห็นกู้ว่างเชิน เธอก็ร้องไห้จนพูดไม่ออก จบแล้ว จบสิ้นแล้วจริง ๆกู้ว่างเชินไม่ยอมรับตัวตนของเธอ ตอนนี้อาชีพที่เธอภาคภูมิใจที่สุดก็หายวับไปแล้ว!เธอจะทำอย่างไรดี?กู้ว่างเชินขมวดคิ้ว ลู่เจียวดูโทรมลงทุกวัน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอต้องมีปัญหาแน่ กู้ว่างเชินเก็บของที่ตกอยู่บนพื้น ลู่เจียวก็โยนลงไปอีกกู้ว่างเชินไม่พูดอะไร แค่คอย ๆ เก็บขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งลู่เจียวเหนื่อยที่จะโยน เธอหยุดโยนแล้วเอาแต่ร้องไห้กู้ว่างเชินรู้สึกอึดอัดใจ เดินเข้าไปลูบหัวลู่เจียวเพื่อปลอบโยน เมื่อเห็นเช่นนั้น ลู่เจียวก็ร้องไห้หนักกว่าเดิมเธอลุกขึ้นคุกเข่าแล้วโอบกอดกู้ว่างเชินไว้ ดูเหมือนว่ามีเพียงกู้ว่างเชินเท่

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 290

    ฉู่เหมียนตกใจ ร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ? ถึงกับต้องฉีดยา!“ใช่ค่ะ ตอนนี้คุณกู้กำลังรออยู่หน้าห้อง เป็นห่วงเจียวเจียวมาก” ซางหานถอนหายใจพอพูดถึงเรื่องนี้ ทุกคนต่างก็คิดว่าฉู่เหมียนแพ้แบบไม่ยุติธรรม!ทุกอย่างของฉู่เหมียนดีกว่าลู่เจียว แต่กลับแพ้ในเรื่องของกู้ว่างเชินฉู่เหมียนกัดริมฝีปาก ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วลุกขึ้น “ฉันจะไปดูหน่อย”“อย่าไปเลยค่ะ ถ้าเจียวเจียวตื่นขึ้นมา ไม่รู้ว่าเธอจะด่าคุณยังไงบ้าง พยาบาลบอกว่าตอนที่เธอกำลังใจเสีย เธอพูดว่า...” พูดมาถึงตรงนี้ ซางหานก็เงียบไปฉู่เหมียนไม่เข้าใจ พูดว่าอะไรล่ะ?ซางหานเกาหัว ดูเหมือนไม่อยากจะเล่าต่อฉู่เหมียนยิ้ม “พูดมาเถอะ ไม่เป็นไรหรอก”คำพูดที่ออกมาจากปากของลู่เจียวเจียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวกับเธอ…ฉู่เหมียน คงไม่ใช่เรื่องดีแน่“ลู่เจียวบอกว่า เธอจะฆ่าคุณซะ...” ซางหานพูดฉู่เหมียนเม้มปาก เป็นอย่างที่คิดไว้จริงด้วย“เพราะงั้นคุณหมอฉู่ ตอนนี้คุณต้องระวังตัวตอนอยู่ในโรงพยาบาลนะคะ เพราะทุกคนต่างก็คิดว่าคุณเป็นคนแอบเขียนจดหมายร้องเรียน” ซางหานเตือนฉู่เหมียนฉู่เหมียนพยักหน้า ลูบหัวซางหาน “ได้ พี่รู้แล้ว ไปทำงานเถอะ!”“

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 289

    ร่างกายของฉู่เหมียนเบี่ยงหลบทัน ทำให้มือของหลิ่วอิงพลาดเป้าหลิ่วอิงขมวดคิ้ว “แกยังกล้าหลบอีกเหรอ?”“พ่อแม่ฉันยังไม่เคยกล้าตีฉันเลยสักครั้ง คุณเป็นใครกันถึงมาทำแบบนี้?” ฉู่เหมียนถามหลิ่วอิงอย่างท้าทายหลิ่วอิงอึ้งไปชั่วขณะ เธอจ้องฉู่เหมียนด้วยความโกรธจนแทบจะระเบิดออกมา“ถ้าฉันมีลูกสาวอย่างแก ฉันจะ...” หลิ่วอิงชี้ไปที่ฉู่เหมียน ร่างกายสั่นเทาด้วยความโกรธฉู่เหมียนยิ้ม “โชคดีที่ฉันไม่ใช่ลูกสาวของคุณ และคุณก็ไม่มีลูกอย่างฉัน”พูดตามตรง ถ้าเธอมีแม่แบบหลิ่วอิง เธอก็อยากจะกระโดดตึกตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด!“นี่แก! นังตัวแสบ!” หลิ่วอิงโมโหจนสติแตกลู่อี้ที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่เงียบ ๆ อดรู้สึกไม่ได้ว่าฉู่เหมียนกับแม่ของเขาไม่เพียงแต่หน้าตาคล้ายกันแต่กระทั่งนิสัยที่ดื้อรั้นก้าวร้าวก็เหมือนกันอย่างน่าประหลาดลู่อี้กลืนน้ำลายลงคอ แล้วก็เห็นฉู่เหมียนเดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมาหลิ่วอิงที่โกรธจนหน้ามืดก็หันหลังกลับมุ่งหน้าสู่ห้องประชุมทันที เห็นว่าทั้งสองคนดูเหมือนจะเจรจาเข้าใจกันเป็นอย่างดีลู่อี้อดไม่ได้ที่จะดึงแขนหลิ่วอิงไว้ แล้วถามขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว “แม่ครับ แม่ไม่คิดว่า เ

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 288

    ปัญหาอยู่ที่ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวนี้ นี่มันทำลายอนาคตของลู่เจียวชัด ๆ“งั้นบอกมาสิ ถ้าไม่ใช่เธอ แล้วจะเป็นใคร?” หลิ่วอิงหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ สำหรับแม่คนหนึ่ง อนาคตของลูกสาวถูกทำลาย มันเจ็บปวดกว่าการตายเสียอีก เธอรู้สึกผิดที่ปกป้องลู่เจียวไม่ได้ รู้สึกว่าในเมื่อลู่เจียวทุกข์ เธอก็ทุกข์เหมือนกัน…“ใครจะไปรู้ว่าลูกสาวคุณเมาแล้วพูดอะไรออกมาบ้าง สรุปแล้ว…” ฉู่เหมียนเดินไปหาหลินเฮิงชุย เธอยกจดหมายไม่เปิดเผยตัวตนขึ้นมาดู “คุณหมอคะ ฉันมาเพื่อชี้แจงว่าจดหมายฉบับนี้ไม่ใช่ฉันที่เป็นคนเขียน”“ถ้าคุณหมอจะสอบสวน ฉันจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่” ฉู่เหมียนไม่กลัว เธอไม่ได้เขียน ก็คือไม่ใช่เธอเขียน เธอเกลียดลู่เจียวมาก แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอไม่เคยคิดจะทำร้ายลู่เจียว ใช่ว่าเธอไม่สู้คน เพราะเธอสู้ได้มากกว่าใคร แต่เพราะลู่เจียวเป็นคนที่กู้ว่างเชินรัก เธอจึงอดทนมาตลอด แต่ถ้าตระกูลลู่มาใส่ร้ายเธอ ฉู่เหมียนจะไม่ยอมอดทนอีกต่อไป“ได้ครับ ฉู่เหมียน ผมเข้าใจแล้ว” หลินเฮิงชุยตอบกลับอย่างจริงจังหลิ่วอิงยังคงไม่พอใจ “คุณหมอคะ ลูกสาวฉันถูกพักงานใช่ไหม? ฉันต้องการให้เธอโดนพักงานด้วย!”เมื่อได้ยินคำพูดนั้

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 287

    ห้องประชุมโรงพยาบาล ตรงข้ามคุณหมอหลินเฮิงชุ่ยนั่งกันอยู่สามคน คือพ่อและหลิ่วอิง และลู่อี้ที่มาร่วมประชุมสายเห็นได้ชัดว่าเรื่องของลู่เจียวเป็นเรื่องใหญ่สำหรับตระกูลลู่ ถึงกับทำให้ทั้งสามคนต้องมาโรงพยาบาลกันพร้อมหน้าหลินเฮิงชุยพลิกดูประวัติการศึกษาของลู่เจียวแล้วมองทั้งสามคนอย่างมีนัยยะสำคัญ“คุณลู่… ประวัติการศึกษาของลูกสาวคุณ…” หลินเฮิงชุยพูดขึ้นมาหลิ่วอิงรีบพูดแทรกขึ้นมาทันที “ประวัติการศึกษาของลูกสาวฉันถูกต้อง ไม่มีการปลอมแปลงแม้แต่น้อย!”“ใช่ครับ แต่ตอนนี้มีคนแจ้งว่าคุณลู่เจียวได้เข้าเรียนคณะแพทย์โดยการแย่งโควตาของคนอื่น” หลินเฮิงชุยพูดด้วยสีหน้าซับซ้อน การแย่งโควตาเรียนถือเป็นเรื่องใหญ่ เทียบได้กับคดีอาชญากรรม“ใครเป็นคนแจ้ง?” ลู่อวี้เหิงหน้าตาเปลี่ยนไปทันที “นี่มันใส่ร้ายลูกสาวผมชัด ๆ!”หลินเฮิงชุยรีบพูดขึ้นมา “คุณลู่ครับ อย่าเพิ่งใจร้อนนะครับ ตอนนี้เรากำลังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมหลักฐานอยู่”“บอกมาสิว่าใครแจ้ง!” หลิ่วอิงโมโห เธอตบโต๊ะดังปัง “ลูกสาวฉันยังนอนอยู่โรงพยาบาลอยู่เลย ใครมันมาใส่ร้ายลูกสาวฉันแบบนี้!”หลินเฮิงชุยตอบ “เป็นการแจ้งเบาะแสแบบไม่เปิดเผยตัวตนครับ”“แ

DMCA.com Protection Status