Share

บทที่ 6

ห้องโถงวุ่นวาย ผู้คนต่างวางแก้วเหล้าลงแล้วเดินเข้าไปดูกันให้เห็นกับตา

“โทรเรียก 1669 หรือยัง?”

“1669 จะมาเมื่อไหร่? ถ้าเกิดคุณหานเป็นอะไรไปที่นี่ ครอบครัวคุณหานคงไม่ปล่อยเราไปแน่!”

ฉู่เหมียนเงยหน้ามอง ชายคนนั้นอายุราวห้าสิบกว่าปี ตอนนี้เขานอนอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าซีดเผือด

ฉู่เหมียนดูเวลา ที่นี่ห่างจากโรงพยาบาลเมืองสิบห้านาทีถ้าเดินทางโดยรถยนต์ แถมยังเป็นช่วงเวลาที่รถติดมากพอดี

ถ้ารอรถพยาบาลมากลัวว่าจะไม่ทันแล้ว

ไม่มีใครในโรงแรมมาจัดการสักที เห็นได้ชัดว่าอาการของชายคนนั้นแย่ลงเรื่อย ๆ ฉู่เหมียนที่เรียนวิชาแพทย์มาตั้งแต่เด็กเริ่มใจร้อน

ฉู่เหมียนขมวดคิ้ว เดินเข้าไป “ให้ฉันดูหน่อย”

สายตาของผู้คนต่างจ้องมาที่ฉู่เหมียนในทันที ฉู่เหมียนเหรอ?

“เธอทำได้เหรอ? ใคร ๆ ก็รู้ว่าตระกูลฉู่ของเธอเป็นตระกูลนักวิชาการแพทย์ แต่มีเธอคนเดียวที่เป็นแจกันประดับ ไม่มีวิชาแพทย์ติดตัวเลย!”

ไม่รู้ว่าใครพูดขึ้น จากนั้นก็มีคนจำนวนหนึ่งตะโกนโวยวายตามมา

“นั่นสิ! ชีวิตคนนะ ยกคุณหานให้เธอรักษาเหรอ นั่นไม่ต่างอะไรกับการผลักคุณหานลงเหว!”

“ถ้าคุณหานเป็นอะไรไป เธอรับผิดชอบไหวเหรอ? นี่ไม่ใช่ของเด็กเล่นนะ!”

“ห้ามเธอรักษาคุณหานเด็ดขา่ด ไล่เธอออกไป!”

ฝูงชนโห่ร้องครึกโครมราวกับเป็นการกลั่นแกล้งที่วางแผนไว้ เสียงซักถามเต็มไปด้วยความสงสัย

ฉู่เหมียนยังไม่ทันได้แตะตัวใครเลยก็ถูกผลักออกไปแล้ว

“แต่เรารอช้าไม่ได้แล้วนะคะ!” ฉู่เหมียนขมวดคิ้วแน่น

“ถึงจะตาย เราก็ไม่ขอให้แจกันประดับไร้ค่าอย่างเธอมาช่วย!”

เสียงของผู้หญิงคนนั้นแหลมสูง ไหล่ของฉู่เหมียนถูกผลัก

ถึงจะตาย ก็ไม่ยอมให้เธอช่วย

ประโยคนี้เหมือนมีดกรีดหัวใจของฉู่เหมียนอย่างรุนแรง ทำให้เธอสงบลงในทันที

ฉู่เหมียนเซถอยหลังไปสองก้าว ฝูงชนที่อัดแน่นขวางทางเธออยู่

เธอเงยหน้ามองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของทุกคน หัวใจชาไปหมด

ไร้ค่า?

แจกันประดับ?

ตั้งแต่เด็กจนโต เมื่อไหร่กันที่เธอเคยถูกตั้งคำถามเรื่องทักษะทางการแพทย์?

แค่สามปีที่ไม่ได้ออกงานสังคม ทำไมชื่อเสียงของเธอถึงได้แย่ขนาดนี้?

“ฉันเป็นหมอ ฉันเองค่ะ!”

เสียงนี้เด็ดเดี่ยวเป็นพิเศษ พริบตาเดียวก็ดึงดูดความสนใจจากทุกคนได้สำเร็จ ทุกคนหันมองด้วยความประหลาดใจ

ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นลู่เจียว

ผู้คนรอบข้างต่างตื่นเต้น “คุณหนูลู่อยู่ที่นี่ทั้งคน คุณหานรอดแน่ เธอเป็นหมอศัลยกรรมหัวใจ!”

“คุณหนูลู่กล้าหาญมากที่ยืนหยัดในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้! สมกับในข่าวจริง ๆ คนสวยใจบุญ!”

ลู่เจียวราวกับเทพธิดาที่ลงมาโปรดสัตว์โลก ร่างกายเต็มไปด้วยออร่า ผู้คนจำนวนมากต่างยกย่องเธอตาม ๆ กันทันที

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว การที่ฉู่เหมียนพุ่งเข้ามาก่อนหน้านี้กลายเป็นเรื่องไร้ค่า กลับกลายเป็นหนูในท่อระบายน้ำที่ผู้คนต่างตะโกนด่าทอ

ลู่เจียวคุกเข่าลงข้าง ๆ คุณหาน หยิบยารักษาโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันที่อยู่ในกระเป๋าออกมา สั่งว่า

“รบกวนทุกคนขยับออกห่างหน่อยค่ะ อย่าเข้ามาใกล้เกินไป”

“ญาติของคนไข้อยู่ไหมคะ? คนไข้มีประวัติโรคอะไรบ้างนอกจากโรคหัวใจ?” ลู่เจียวถามไปทั่ว แต่ไม่มีใครตอบ

“ผู้ช่วยของคุณหานมีธุระ เพิ่งจะออกไปก่อนหน้านี้ไม่นาน โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ค่ะ!” คนที่อยู่ด้วยกันตอบ

ลู่เจียวไม่สนใจเรื่องอื่นอีกต่อไป หลังจากป้อนยารักษาโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันแก่คุณหานก็ทำการปั๊มหัวใจ

งานเลี้ยงวันนี้มีคนดังมาร่วมมากมาย โอกาสเช่นนี้สำหรับลู่เจียวแล้วเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการแสดงตัว

เธอต้องพิสูจน์ให้คนในตระกูลกู้เห็น ว่าเธอ ลู่เจียวไม่ได้ด้อยไปกว่าฉู่เหมียน เธอต้องแต่งเข้าประตูบ้านตระกูลกู้ให้ได้

เวลาผ่านไปหลายนาที ทุกคนต่างก็ร้อนรน

กู้ว่างเชินยิ่งขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าเป็นห่วงคุณหานหรือเป็นห่วงลู่เจียว

ในตอนที่ทุกคนกลั้นหายใจอยู่ ก็มีคนร้องขึ้นว่า “ขยับแล้ว! ขยับแล้ว!”

นิ้วของชายคนนั้นขยับสองสามครั้ง แล้วค่อย ๆ ลืมตาขึ้น สีหน้ายังซีดเซียวอยู่

ลู่เจียวถามเสียงเบา “คุณหานเป็นยังไงบ้างคะ? ดีขึ้นหรือยัง?”

ชายคนนั้นขมวดคิ้ว มือข้างหนึ่งกุมหน้าอก

ลู่เจียวพูดขึ้นทันที “รถพยาบาลน่าจะใกล้มาถึงแล้ว คุณปลอดภัยแล้วนะคะ!”

เมื่อพูดจบ ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นในงาน จากนั้นก็มีเสียงสรรเสริญตามมา

“รถพยาบาลยังมาไม่ถึง ถ้าไม่มีคุณหนูลู่ ไม่อยากจะนึกภาพเลย!”

“คุณหนูลู่เก่งมากจริง ๆ ไม่เหมือนบางคน...”

“เกิดในตระกูลหมอแต่ใช้เส้นสายสมัครเข้าเรียน ยังกล้าทำตัวไม่รู้จักกาลเทศะอยากจะรักษาคุณหานที่นี่ ไม่ดูสารรูปตัวเองเลย!”

คุณหานหลับตาลงอย่างอ่อนแรง ปากขยับ แต่พูดไม่ออก

ลู่เจียวคิดว่าเขาอาจยังไม่ฟื้นตัวดี จึงไม่ได้สนใจ

เธอลุกขึ้น มองไปยังสายตาชื่นชมของทุกคน แล้วมองไปที่กู้ว่างเชิน

ดวงตาของกู้ว่างเชินอ่อนโยน สำหรับเธอแล้ว นี่คือการยอมรับที่ยิ่งใหญ่

ฉู่เหมียนยังคงนิ่งเงียบ ไม่สนใจที่คนเหล่านี้ชื่นชมคนหนึ่งแต่เหยียบย่ำอีกคน

มีคนอยู่ที่ไหน ก็มียุทธภพอยู่ที่นั่น[footnoteRef:0] ตระกูลลู่ก็เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ ยังไงก็ต้องมีคนคอยประจบ [0: มีคนอยู่ที่ไหน ก็มียุทธภพอยู่ที่นั่น (有人的地方就有江湖) เป็นการเปรียบเปรยว่า ทุกที่ที่มีผู้คนอยู่ ย่อมมีเรื่องราว ความขัดแย้ง การต่อสู้ เปรียบเสมือนยุทธภพในนิยายกำลังภายใน]

ยิ่งกว่านั้นสิ่งที่พวกเขาพูดว่าใช้เส้นสมัครเข้าเรียนแพทย์นั้นเป็นความจริง

แต่ว่า…

ฉู่เหมียนมองไปที่ลู่เจียว สายตาเย็นชาลง

คนที่ใช้เส้นสมัครเข้าเรียน จริง ๆ แล้วคือเธอ ฉู่เหมียนงั้นเหรอ?

สายตาของลู่เจียวเหลือบมองฉู่เหมียนอย่างรวดเร็ว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเล็กน้อย “ขอบคุณทุกคนสำหรับการยอมรับนะคะ จริง ๆ แล้วเหมียนเหมียนเองก็เก่งมาก”

“เธอเหรอ? ถ้าฉันเป็นคนไข้ คงไม่กล้าฝากชีวิตของฉันไว้กับเธอแน่!”

“ดูสิ คุณหนูลู่ใจกว้างจริง ๆ เลยนะ แต่ฉันยังชอบคุณหนูลู่มากกว่าอยู่ดี!”

“คุณหนูลู่ ขอเบอร์ติดต่อหน่อยได้ไหม?”

กู้ว่างเชินที่เงียบมานานพูดแทรกขึ้นทันทีด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อย่าล้ำเส้นกับผู้หญิงของผม”

ผู้คนรอบข้างมองหน้ากัน แล้วต่างก็หัวเราะ “ดูสิ คุณชายกู้หวงแฟนจริง ๆ เลยนะ”

ลู่เจียวหน้าแดงขึ้นมาทันใด เรียกเขาด้วยความเขินอาย “อาเชิน...”

กู้ว่างเชินลูบผมเธอ สายตาอ่อนโยน

สายตาของฉู่เหมียนค่อย ๆ มืดลง จากนั้นก็ก้มหน้าลง หัวใจเจ็บปวด

ถูกพวกเขาตั้งข้อกังขาและโจมตีเธอ เธอไม่เสียใจ

แต่กู้ว่างเชินยอมรับต่อหน้าเธอครั้งแล้วครั้งเล่าว่าลู่เจียวเป็นผู้หญิงของเขา นี่เจ็บปวดยิ่งกว่าการฆ่าเธอเสียอีก

แทบไม่กล้าคิดเลยว่าในเวลาปกติแล้วทั้งสองคนรักกันมากขนาดไหน

ลู่เจียวอมยิ้ม ถึงแม้ช่วงเวลาปกติเธอก็ได้รับความสนใจในฐานะที่เป็นคุณหนูลู่ก็ตาม

แต่ความรู้สึกที่ได้โดดเด่นด้วยตัวเธอเองในวันนี้แตกต่างออกไป

เมื่อก่อนตอนที่อยู่กับฉู่เหมียน อีกฝ่ายมักจะโดดเด่นกว่าเสมอ เธอเป็นเพียงไม้ประดับข้างกายฉู่เหมียนเท่านั้น

แต่ตอนนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว

โลกกำลังจะต้อนรับยุคทองของเธอ ลู่เจียว!

ลู่เจียวมองไปที่ฉู่เหมียน สายตาแวบหนึ่งที่คนอื่นไม่ทันสังเกตฉายชัดเจน

เธอจะแย่งทุกอย่างที่เคยเป็นของฉู่เหมียนไป!

ท่ามกลางเสียงสรรเสริญ คุณหานที่อาการดีขึ้นแล้วกลับเกิดอาการชักขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“ตายแล้ว! คุณหานดูอาการไม่ค่อยดีเลย คุณหนูลู่ รีบดูหน่อยสิคะ!”

สายตาของทุกคนต่างหันกลับมาที่คุณหานอีกครั้ง นอกจากเขาจะไม่ดีขึ้นแล้ว สีหน้ายังย่ำแย่กว่าตอนที่หมดสติไปเสียอีก!

ลู่เจียวรีบวิ่งไปข้างหน้า ทันใดนั้นคุณหานก็มีอาการหายใจลำบาก

นี่…

ลู่เจียวรู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมาเล็กน้อย หัวใจเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นมาเหรอ? หรือเขามีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ?

“ก่อนหน้านี้คุณทานอะไรเข้าไปคะ?” ลู่เจียวถามคุณหาน

ชายคนนั้นกุมคอด้วยมือข้างหนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ลู่เจียวไม่เข้าใจ พยายามตรวจสอบอย่างไม่หยุดหย่อน มือสั่นเทาไปหมด

ผู้จัดการที่อยู่ห้องโถงด้านนอกตะโกนว่า “เกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน รถพยาบาลติดแหง็ก! เราขับรถส่งคุณหานไปโรงพยาบาลกันเถอะ!”

ฉู่เหมียนเงยหน้าขึ้น สังเกตอาการของคุณหาน แล้วเหลือบมองเวลาเกรงว่าคงไม่ทันแล้ว

เธอจับแขนพนักงานเสิร์ฟที่เดินผ่านมาคนหนึ่ง แล้วขอยืมปากกาที่อีกฝ่ายเสียบไว้ตรงอกเสื้อ

“คุณหนูลู่ ไหวหรือเปล่า?” มีคนถามลู่เจียว

ลู่เจียวเงยหน้าขึ้น พบว่าฝูงชนรอบข้างยังคงมองมาที่เธอด้วยสายตาชื่นชมเหมือนเดิม

ในตอนนี้ แม้ว่าจะไม่ไหวเธอก็ต้องฝืนทำ

“ฉัน ขอตรวจดูก่อนนะคะ” เธอตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่เสียงพูดยังสั่นเครือ

แม้ว่าเธอจะเป็นหมอศัลยกรรมหัวใจ แต่ต้องยอมรับว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เธอเอาแต่ตามติดกู้ว่างเชินไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมเลย

ลู่เจียวคาดเดาว่าคุณหานอาจจะทานอะไรเข้าไปแล้วติดคอกระมัง?

แต่เธอไม่กล้าลงมือ ถ้าคุณหานเกิดเป็นอะไรไปด้วยน้ำมือเธอ คราวนี้เธอได้จบเห่แน่

เธอไม่สามารถเดิมพันชีวิตคนอื่นกับชื่อเสียงของตัวเองได้

ในขณะที่บรรยากาศตึงเครียด ลู่เจียวก็ถูกใครบางคนผลักออกไป

เสียงผู้หญิงเย็นชาลอยมาเข้าหู “หลบไป!”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status