Share

บทที่ 3

กู้ว่างเชินไม่เชื่อ เขาเดินตามหาฉู่เหมียนไปทั่วทุกหนแห่งที่เธออาจจะอยู่

สวนหลังบ้าน ห้องสมุด ห้องฉายหนัง... ไม่เพียงแต่จะไม่เห็นร่างของฉู่เหมียน แม้แต่ของใช้ของเธอก็ไม่เหลือ

ชั้นหนังสือในห้องสมุด ตำราวิชาแพทย์ที่ฉู่เหมียนชอบอ่านก็ว่างเปล่าเอี่ยมอ่อง

เดิมทีเขาแทบไม่กลับมาที่นี่อยู่แล้ว ตอนนี้ไม่มีฉู่เหมียน บ้านหลังนี้ก็เหมือนกับไม่เคยมีใครอยู่ ไม่มีแม้แต่ความอบอุ่น

กู้ว่างเชินเดินลงบันไดด้วยฝีเท้าหนักหน่วง เขาสังเกตเห็นว่าที่ว่างหลังโซฟาแปลก ๆ เหมือนมีอะไรหายไป เมื่อเขาเห็นภาพวาดที่เสียหายถูกโยนลงถังขยะ ลมหายใจของเขาก็ติดขัด

หลังจากฉู่เหมียนแต่งงานกับเขา เธอชอบอ้อนวอนให้เขาออกไปเดินเล่นกับเธอ แต่เพราะเขางานยุ่งมากและเกลียดเธอเป็นทุนเดิม จึงปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า

วันนั้นเป็นวันเกิดของฉู่เหมียน เธอมาหาเขาที่บริษัทและถามเขาว่า “อาเชิน ออกไปฉลองวันเกิดกับฉันหน่อยได้ไหม ถ้าคุณยุ่งมาก ขอแค่ครึ่งชั่วโมงก็ได้”

เขาเห็นว่าเธอน่าสงสารมาก จึงตกลงไปฉลองวันเกิดกับเธอ

เดิมทีเขาคิดว่าเธอจะขอให้เขาซื้อของขวัญให้ ไปทานข้าวกับเธอ หรือแม้แต่ขออะไรที่ไร้เหตุผล

แต่ใครจะรู้ว่าเธอแค่อยากให้เขาไปเดินเล่นกับเธอ และยังถามอย่างระมัดระวังอีกว่า “อาเชิน ขอจับมือคุณหน่อยได้ไหม?”

เธอรู้ว่าเขาทำงานยุ่ง จึงไม่ได้ทำให้เขาเหนื่อยมากนัก ไปหาซื้อภาพวาดจากร้านงานฝีมือ เพราะอยากวาดภาพร่วมกับเขา

เขาคิดว่ามันไร้สาระ จึงทำเพียงยืนดูอยู่ข้าง ๆ ระหว่างนั้นเขาก็รับโทรศัพท์จากลู่เจียวหลายสาย

ฉู่เหมียนไม่พูดอะไร พอกลับบ้านแล้วก็นำภาพวาดไปแขวนไว้ในห้องนั่งเล่น หน้าตาดูมีความสุขมาก

เพียงแต่หลังจากนั้น เธอก็ไม่เคยตื๊อให้เขาออกไปเดินเล่นกับเธออีกแล้ว และไม่เคยฉลองวันเกิดอีกเลย

กู้ว่างเชินกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบภาพวาดขึ้นมา แต่หางตาของเขาเหลือบไปเห็นใบหย่าที่วางอยู่บนโต๊ะกาแฟ

หัวใจของกู้ว่างเชินเต้นรัวขึ้นอย่างรุนแรง เมื่อเห็นชื่อของเขาและเธอตรงตำแหน่งเซ็นชื่อ

กู้ว่างเชินกลืนน้ำลายลงคอ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ

ฉู่เหมียนตัดสินใจจะหย่ากับเขาจริง ๆ เหรอ!?

ติ๊ง…

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น กู้ว่างเชินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที คิดว่าเป็นฉู่เหมียน แต่กลับพบว่าเป็นข้อความจากคนในครอบครัว

[อาเชิน งานเลี้ยงวันเกิดครบรอบเจ็ดสิบปีของย่าเตรียมพร้อมเกือบหมดแล้ว คงรู้อยู่ว่าย่าเป็นคนหน้าใหญ่ งานนี้อยากจัดให้ใหญ่โต บัตรเชิญก็ส่งออกไปหมดแล้ว ย่าขอสั่งเป็นพิเศษว่า เธอกับเหมียนเหมียนต้องมาร่วมงานให้ตรงเวลา ไม่งั้นเชิญรับผิดชอบกับผลที่ตามมาได้เลย!]

ใจของกู้ว่างเชินหงุดหงิดสุดจะบรรยาย

งานเลี้ยงวันเกิดนี้มาในเวลาที่ไม่ควรเลยจริง ๆ

...

ย่านใจกลางเมืองอวิ๋น บ้านตระกูลฉู่

คุณปู่ฉู่ซานในชุดเสื้อผ้าสไตล์จีน ยกแก้วบนโต๊ะอาหารชูขึ้นแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขอแสดงความยินดีกับ

เหมียนเหมียนของเราที่หลุดพ้นจากทะเลแห่งความทุกข์!”

“เหมียนเหมียน ตอนนี้ไหน ๆ ก็กลับบ้านแล้ว มารับช่วงต่อบริษัทของพ่อเถอะ พ่ออยากเกษียณจะแย่แล้ว!"

ฉู่เทียนเหออ้อนวอนอย่างเอาแต่ใจให้ลูกสาวสืบทอดมรดกมูลค่าหลายพันล้าน

"ไม่ได้ เหมียนเหมียนต้องไปทำงานที่โรงพยาบาลกับย่าสิ ฝีมือทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของหลานจะสูญเปล่าเอานะถ้าไม่ได้ใช้ให้เป็นประโยชน์" เชียนหลี่จวินพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“หรือไม่ก็ให้เหมียนเหมียนไปเรียนออกแบบเครื่องประดับกับแม่ดีกว่า!" เซิ่งฉิงยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วหัวเราะอย่างร่าเริง

ฉู่เหมียนถือตะเกียบเอาไว้ ชามข้าวตรงหน้าเธอเต็มไปด้วยอาหารจานโปรด

เธอเฝ้ามองสมาชิกทุกคนบนโต๊ะอาหาร หัวใจของเธอรู้สึกเจ็บปวด

ตระกูลฉู่ก็ยังคงเป็นตระกูลฉู่เหมือนเดิม เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและความอบอุ่น บรรยากาศในบ้านอบอุ่นที่สุดแล้ว

ทั้ง ๆ ที่เธอเตยทำร้ายจิตใจพวกเขาจนบาดเจ็บสาหัส แต่พวกเขากลับไม่พูดถึงเรื่องนี้เลย

ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้ว มีเพียงครอบครัวเท่านั้นที่สามารถยอมรับตัวตนที่ไม่สมบูรณ์แบบของเธอได้อย่างไม่มีเงื่อนไข

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉู่เหมียนก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองช่างโง่ไม่สมกับเป็นสายเลือดของพวกเขาเลย

เธอจะไม่ทำร้ายคนที่รักเธออีกแล้วเพื่อคนที่ไม่รักเธอ

"ให้เหมียนเหมียนเรียนต่อหมอเถอะ!"

"ไม่ ไปทำธุรกิจดีกว่าเยอะ!"

"โอ๊ย เป็นดีไซน์เนอร์ก็มีอนาคตเหมือนกันนะ!"

จู่ ๆ ทั้งสามคนก็เริ่มโต้เถียงกัน ฉู่เหมียนและฉู่ซานมองหน้ากันด้วยความที่ไม่รู้จะทำอย่างไร

"เหมียนเหมียนเลือกสิ หนูอยากเลือกอะไร?!" เสียงทั้งสามดังขึ้นพร้อมกัน

ฉู่เหมียนกระตุกมุมปาก ประสาทของเธอตึงเครียดจนแทบจะหายใจไม่ออก

"หนู..." ฉู่เหมียนกัดริมฝีปากชมพูระเรื่อของเธอไว้แน่น มือก็กำตะเกียบแน่นเช่นกัน ไม่ว่าจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ทำให้อีกสองคนไม่พอใจอย่างเลี่ยงไม่ได้!

ปี๊บ…

จู่ ๆ เสียงแตรรถมอเตอร์ไซค์ดังขึ้นจากด้านนอกตัวบ้าน ฉู่เหมียนหัวเราะคิกคัก เสิ่นเหราเพื่อนสนิทของเธอมารับเธอแล้ว

เธอเช็ดมุมปากแล้วพูดว่า "ครอบครัวที่รักขา หนูขอออกไปเที่ยวก่อนนะคะ รอเที่ยวเล่นจนหนำใจเมื่อไหร่ แล้วจะกลับมาสานต่อความฝันของพวกคุณทีละคนเลย!”

เมื่อพูดจบฉู่เหมียนก็วิ่งออกไป ปล่อยให้คนบนโต๊ะโต้เถียงกันจนหน้าดำหน้าแดง

มรดกมูลค่าหลายพันล้านและการเป็นหมอเฉพาะทางล้วนไม่เลว แต่สำหรับฉู่เหมียนในตอนนี้ความสุขยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

เธออยากทวงความเยาว์วัยที่เธอเสียไปตั้งสามปีกลับมาเสียก่อน!

เอสเคไนต์คลับ

เสียงเพลงดังกระหึ่ม แสงไฟสาดส่องไปยังกลางฟลอร์เต้นรำ

ฉู่เหมียนสวมชุดเดรสสั้นรัดรูปสีแดง รองเท้าส้นสูงสิบเซนติเมตร ขาเรียวยาวของเธอขาวผ่อง ชุดเดรสช่วยเน้นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเธอให้ชัดเจนขึ้น

วันนี้เธอแต่งหน้าจัด ผมหยิกยาวสยายไปด้านหลัง ดวงตาสวยงามเย้ายวนใจ

แสงไฟส่องลงมาที่ตัวเธอ รอยสักรูปผีเสื้อบนแผ่นหลังช่างงดงามชวนมอง ทำให้คนเห็นอดไม่ได้ที่จะอยากจุมพิตสักครั้ง

เสิ่นเหรามองฉู่เหมียน ดวงตาฉายความเจ็บปวดแวบหนึ่ง

ถึงแม้ฉู่เหมียนจะแสดงออกว่าไม่สนใจ แต่เธอและฉู่เหมียนเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก เธอย่อมเข้าใจหัวอกฉู่เหมียนดีที่สุด

ตอนนี้ฉู่เหมียนเจ็บปวดเกินจะทานทน แต่ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากสิ่งที่เธอเลือกเอง จึงไม่สามารถโทษใครได้ ได้แต่ใช้แอลกอฮอล์ทำให้ตัวเองมึนเมา

ไม่มีใครจะรักกู้ว่างเชินมากไปกว่าฉู่เหมียน

ไม่มีฉู่เหมียนสักคน กู้ว่างเชินจะไม่เสียใจจริง ๆ เหรอ?

สายตาของผู้ชายนับไม่ถ้วนในสถานที่นั้นต่างก็จ้องมองไปทางฉู่เหมียนด้วยความกระหาย พวกเขากลืนน้ำลายแล้วพูดว่า "คุณหนูฉู่นี่ทรวดทรงเย้ายวนดีจริง ๆ!"

"กู้ว่างเชินโชคดีจริง ๆ ที่มีภรรยาสวยขนาดนี้!"

เสียงเพลงขาดตอนลง ฉู่เหมียนโยนขวดเหล้าที่ดื่มหมดแล้วลงบนโซฟาล่างเวที ร่างกายของเธอสั่นเทิ้มเล็กน้อย พอดีกับตอนที่เธอได้ยินชื่อกู้ว่างเชิน

เธอเหลือบมองไปด้านล่างแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ค่ำคืนสุดเหวี่ยงแบบนี้ ชื่อกู้ว่างเชินทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยงและรังเกียจจริง ๆ”

“คืนนี้ฉันเหมาร้านแล้ว! ใครอยากพูดถึงกู้ว่างเชินนักก็เชิญออกไปจากที่นี่เลย!"

ผู้คนในสถานที่นั้นต่างก็โห่ร้อง แสดงให้เห็นว่าพวกเขายินดีทำตามในสิ่งที่คุณหนูฉู่บอก

ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าในมุมที่ไม่เด่นนัก ชายคนหนึ่งเกือบจะบีบแก้วเหล้าในมือแตก

"ฮ่าๆๆๆๆ คุณชายกู้ ตั้งแต่เมียนายขอหย่ากับนายแล้ว ดูเหมือนจะปล่อยตัวปล่อยใจได้ง่ายดีนะ?"

"ทำไมฉันไม่เคยสังเกตมาก่อนว่าเมียนายมีรอยสักด้วย? ดูเร้าใจดีชะมัด!"

สายตาของต้วนจิ่นเหนียนจ้องมองไปที่ฉู่เหมียนเขม็ง เขาเอาแต่เรียกเธอว่าเมียนายอยู่ตลอดเวลาแต่ไม่ละสายตาแม้แต่วินาทีเดียว

กู้ว่างเชินนิ่งเงียบ ฟังแล้วรู้สึกหงุดหงิดเป็นบ้า

แต่งงานกันมาสามปี ไม่ว่าจะต่อหน้าเขาหรือในงานสำคัญ เธอมักจะแต่งตัวสุภาพและวางตัวสง่างามอยู่เสมอ ไม่เคยแต่งตัวแบบนี้

เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลังของฉู่เหมียนมีรอยสักด้วย

"คุณหนูฉู่บอกว่าเลิกรักก็คือเลิกรักเลย ตรงไปตรงมาดี" ดวงตาของต้วนจิ่นเหนียนฉายแววชื่นชม

กู้ว่างเชินดื่มเหล้าต่อไป สีหน้าเย็นชา ไม่พูดอะไร

นั่นก็แค่กลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ ของฉู่เหมียนเท่านั้นแหละ ไม่เกินสามวันฉู่เหมียนจะต้องกลับมาตายรังที่เขาอย่างแน่นอน

กู้ว่างเชินอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ฉู่เหมียน เพียงเสี้ยววินาที สายตาของเขาก็เย็นชาลง

ฉู่เหมียนกำลังซบพิงอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง ริมฝีปากบางของเธอขยับเข้าใกล้ใบหูของผู้ชายคนนั้น ไม่รู้ว่าได้ยินอะไร เธอก้มลงหัวเราะเบา ๆ จริตช่างเย้ายวนใจ

คนอื่นยื่นแก้วเหล้าให้เธอ เธอก็รับมาดื่มโดยไม่ปฏิเสธ ท่าทีและรอยยิ้มล้วนทำให้หัวใจเต้นแรง

กู้ว่างเชินกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อเห็นว่าเรือนร่างของฉู่เหมียนแนบชิดกับร่างของผู้ชายคนนั้น

ทันใดนั้นก็มีคนโห่ร้องขึ้นมา เสียงดังก้องกังวาน “คุณหนูฉู่กับคุณชายหลินนี่เหมาะสมกันดีจริง ๆ!”

"คุณชายหลิน พวกเขาเชียร์ว่าเราเหมาะสมกัน ว่าแต่คุณแต่งงานหรือยังคะ?" ฉู่เหมียนเขย่าแก้วเหล้าในมือ ดวงตาของเธอหรี่ลงเล็กน้อย เหมือนจะเมาได้ที่

ชายคนนั้นถูกเธอทำให้ใจสั่น เขาถามกลับ "ผมยังโสดครับ คุณล่ะแต่งงานหรือยัง?"

"ฉันดูเหมือนคนเคยแต่งงานเหรอ บอกตามตรง ฉันเองก็โสดเหมือนกันค่ะ" มุมปากของฉู่เหมียนยกขึ้น รอยยิ้มของเธอช่างหวานล้ำ

กู้ว่างเชินฟังคำพูดของฉู่เหมียนแล้วกระดกดื่มเหล้าหมดแก้วในอึกเดียว

เขาอยากจะแกล้งทำเป็นไม่สนใจ แต่ไม่รู้ทำไม วันนี้เขาที่ปกติควรจะนั่งนิ่ง ๆ อยู่เฉย ๆ กลับกระวนกระวายใจขึ้นมา สายตาของเขาเผลอมองไปที่ฉู่เหมียนครั้งแล้วครั้งเล่า

"แล้วคุณกับกู้..." ชายคนนั้นพูดออกมา

ฉู่เหมียนยกนิ้วขึ้นแตะที่ริมฝีปากของชายคนนั้นทันที แล้วพูดว่า "อย่าพูดถึงคนนั้นเลยค่ะ น่าเบื่อจะตายไป"

กู้ว่างเชินกำแก้วในมือแน่นขึ้น ความโกรธผุดขึ้นในใจ

น่าเบื่อ?

ผู้หญิงคนนี้พูดจาหว่านล้อมสารพัดว่ารักเขา แต่ตอนนี้กลับหันหลังให้เขาแล้วไปเกาะแกะกับชายอื่น

ตอนนี้เธอไม่ใช่คนที่อยากแต่งงานกับเขาแล้วเหรอ?

ฉู่เหมียนแลบลิ้นเลียริมฝีปาก นิ้วของเธอคลายกระดุมเสื้อเชิ้ตของผู้ชายคนนั้นออก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงยั่วยวน "กล้าทำอะไรที่มันเกินเลยกว่านี้ไหมคะ?"

"เกินเลยยังไงครับ?" ชายคนนั้นให้ความร่วมมือเป็นอย่างยิ่ง

"เปิดห้องไงคะ" ฉู่เหมียนพูดโดยไม่ลังเล

บรรยากาศแห่งความยั่วเย้าเพิ่มขึ้น ผู้คนในไนต์คลับต่างก็โห่ร้องและผสมโรงเชียร์ไปด้วย

มีแค่กู้ว่างเชินที่ใบหน้ามืดลงในทันที

ต้วนจิ่นเหนียนรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่แผ่มาจากเพื่อนข้างกายเขาในทันที

ชายคนนั้นหัวเราะแล้วพูดต่อว่า “คุณหนูฉู่ ถ้าผมจริงจังขึ้นมาจะทำยังไงครับ?”

"คิดว่าฉันพูดเล่นกับคุณงั้นเหรอ?" ฉู่เหมียนไม่สนใจ

ชายคนนั้นลุกขึ้นจากโซฟาทันที จ้องมองฉู่เหมียน กลืนน้ำลายลงคอ แล้วพูดกับเธอว่า "ไปกันเลยไหม?"

ต้วนจิ่นเหนียนที่เฝ้ามองอยู่เลือดลมเริ่มสูบฉีด "คุณชายกู้ เมียนายเธอกำลังจะ..."

เมื่อต้วนจิ่นเหนียนหันกลับมา เขาก็ไม่เห็นกู้ว่างเชินอยู่ที่นั่นแล้ว

กระทั่งเขาเงยหน้าขึ้น ได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องดังมาจากสถานที่นั้น "กู้ว่างเชิน?!"

กู้ว่างเชินจับข้อมือของฉู่เหมียนแล้วดึงเธอออกมา จากนั้นก็จ้องเขม็งมองไปที่ชายคนนั้น ดวงตาเต็มไปด้วยการคุกคาม

จากนั้นเขาก็ลากฉู่เหมียนไปที่ห้องน้ำ

เสิ่นเหรานั่งอยู่บนโซฟา เมื่อเห็นร่างนั้น เธอก็ตกใจจนพูดไม่ออก

กู้ว่างเชินมาที่นี่ได้ยังไง?
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Yayma Nan
ฃฃจจจวมทือแ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status