แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: กิตติรวิชญ์
กู้ว่างเชินไม่เชื่อ เขาเดินตามหาฉู่เหมียนไปทั่วทุกหนแห่งที่เธออาจจะอยู่

สวนหลังบ้าน ห้องสมุด ห้องฉายหนัง... ไม่เพียงแต่จะไม่เห็นร่างของฉู่เหมียน แม้แต่ของใช้ของเธอก็ไม่เหลือ

ชั้นหนังสือในห้องสมุด ตำราวิชาแพทย์ที่ฉู่เหมียนชอบอ่านก็ว่างเปล่าเอี่ยมอ่อง

เดิมทีเขาแทบไม่กลับมาที่นี่อยู่แล้ว ตอนนี้ไม่มีฉู่เหมียน บ้านหลังนี้ก็เหมือนกับไม่เคยมีใครอยู่ ไม่มีแม้แต่ความอบอุ่น

กู้ว่างเชินเดินลงบันไดด้วยฝีเท้าหนักหน่วง เขาสังเกตเห็นว่าที่ว่างหลังโซฟาแปลก ๆ เหมือนมีอะไรหายไป เมื่อเขาเห็นภาพวาดที่เสียหายถูกโยนลงถังขยะ ลมหายใจของเขาก็ติดขัด

หลังจากฉู่เหมียนแต่งงานกับเขา เธอชอบอ้อนวอนให้เขาออกไปเดินเล่นกับเธอ แต่เพราะเขางานยุ่งมากและเกลียดเธอเป็นทุนเดิม จึงปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า

วันนั้นเป็นวันเกิดของฉู่เหมียน เธอมาหาเขาที่บริษัทและถามเขาว่า “อาเชิน ออกไปฉลองวันเกิดกับฉันหน่อยได้ไหม ถ้าคุณยุ่งมาก ขอแค่ครึ่งชั่วโมงก็ได้”

เขาเห็นว่าเธอน่าสงสารมาก จึงตกลงไปฉลองวันเกิดกับเธอ

เดิมทีเขาคิดว่าเธอจะขอให้เขาซื้อของขวัญให้ ไปทานข้าวกับเธอ หรือแม้แต่ขออะไรที่ไร้เหตุผล

แต่ใครจะรู้ว่าเธอแค่อยากให้เขาไปเดินเล่นกับเธอ และยังถามอย่างระมัดระวังอีกว่า “อาเชิน ขอจับมือคุณหน่อยได้ไหม?”

เธอรู้ว่าเขาทำงานยุ่ง จึงไม่ได้ทำให้เขาเหนื่อยมากนัก ไปหาซื้อภาพวาดจากร้านงานฝีมือ เพราะอยากวาดภาพร่วมกับเขา

เขาคิดว่ามันไร้สาระ จึงทำเพียงยืนดูอยู่ข้าง ๆ ระหว่างนั้นเขาก็รับโทรศัพท์จากลู่เจียวหลายสาย

ฉู่เหมียนไม่พูดอะไร พอกลับบ้านแล้วก็นำภาพวาดไปแขวนไว้ในห้องนั่งเล่น หน้าตาดูมีความสุขมาก

เพียงแต่หลังจากนั้น เธอก็ไม่เคยตื๊อให้เขาออกไปเดินเล่นกับเธออีกแล้ว และไม่เคยฉลองวันเกิดอีกเลย

กู้ว่างเชินกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบภาพวาดขึ้นมา แต่หางตาของเขาเหลือบไปเห็นใบหย่าที่วางอยู่บนโต๊ะกาแฟ

หัวใจของกู้ว่างเชินเต้นรัวขึ้นอย่างรุนแรง เมื่อเห็นชื่อของเขาและเธอตรงตำแหน่งเซ็นชื่อ

กู้ว่างเชินกลืนน้ำลายลงคอ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ

ฉู่เหมียนตัดสินใจจะหย่ากับเขาจริง ๆ เหรอ!?

ติ๊ง…

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น กู้ว่างเชินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที คิดว่าเป็นฉู่เหมียน แต่กลับพบว่าเป็นข้อความจากคนในครอบครัว

[อาเชิน งานเลี้ยงวันเกิดครบรอบเจ็ดสิบปีของย่าเตรียมพร้อมเกือบหมดแล้ว คงรู้อยู่ว่าย่าเป็นคนหน้าใหญ่ งานนี้อยากจัดให้ใหญ่โต บัตรเชิญก็ส่งออกไปหมดแล้ว ย่าขอสั่งเป็นพิเศษว่า เธอกับเหมียนเหมียนต้องมาร่วมงานให้ตรงเวลา ไม่งั้นเชิญรับผิดชอบกับผลที่ตามมาได้เลย!]

ใจของกู้ว่างเชินหงุดหงิดสุดจะบรรยาย

งานเลี้ยงวันเกิดนี้มาในเวลาที่ไม่ควรเลยจริง ๆ

...

ย่านใจกลางเมืองอวิ๋น บ้านตระกูลฉู่

คุณปู่ฉู่ซานในชุดเสื้อผ้าสไตล์จีน ยกแก้วบนโต๊ะอาหารชูขึ้นแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขอแสดงความยินดีกับ

เหมียนเหมียนของเราที่หลุดพ้นจากทะเลแห่งความทุกข์!”

“เหมียนเหมียน ตอนนี้ไหน ๆ ก็กลับบ้านแล้ว มารับช่วงต่อบริษัทของพ่อเถอะ พ่ออยากเกษียณจะแย่แล้ว!"

ฉู่เทียนเหออ้อนวอนอย่างเอาแต่ใจให้ลูกสาวสืบทอดมรดกมูลค่าหลายพันล้าน

"ไม่ได้ เหมียนเหมียนต้องไปทำงานที่โรงพยาบาลกับย่าสิ ฝีมือทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของหลานจะสูญเปล่าเอานะถ้าไม่ได้ใช้ให้เป็นประโยชน์" เชียนหลี่จวินพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“หรือไม่ก็ให้เหมียนเหมียนไปเรียนออกแบบเครื่องประดับกับแม่ดีกว่า!" เซิ่งฉิงยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วหัวเราะอย่างร่าเริง

ฉู่เหมียนถือตะเกียบเอาไว้ ชามข้าวตรงหน้าเธอเต็มไปด้วยอาหารจานโปรด

เธอเฝ้ามองสมาชิกทุกคนบนโต๊ะอาหาร หัวใจของเธอรู้สึกเจ็บปวด

ตระกูลฉู่ก็ยังคงเป็นตระกูลฉู่เหมือนเดิม เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและความอบอุ่น บรรยากาศในบ้านอบอุ่นที่สุดแล้ว

ทั้ง ๆ ที่เธอเตยทำร้ายจิตใจพวกเขาจนบาดเจ็บสาหัส แต่พวกเขากลับไม่พูดถึงเรื่องนี้เลย

ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้ว มีเพียงครอบครัวเท่านั้นที่สามารถยอมรับตัวตนที่ไม่สมบูรณ์แบบของเธอได้อย่างไม่มีเงื่อนไข

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉู่เหมียนก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองช่างโง่ไม่สมกับเป็นสายเลือดของพวกเขาเลย

เธอจะไม่ทำร้ายคนที่รักเธออีกแล้วเพื่อคนที่ไม่รักเธอ

"ให้เหมียนเหมียนเรียนต่อหมอเถอะ!"

"ไม่ ไปทำธุรกิจดีกว่าเยอะ!"

"โอ๊ย เป็นดีไซน์เนอร์ก็มีอนาคตเหมือนกันนะ!"

จู่ ๆ ทั้งสามคนก็เริ่มโต้เถียงกัน ฉู่เหมียนและฉู่ซานมองหน้ากันด้วยความที่ไม่รู้จะทำอย่างไร

"เหมียนเหมียนเลือกสิ หนูอยากเลือกอะไร?!" เสียงทั้งสามดังขึ้นพร้อมกัน

ฉู่เหมียนกระตุกมุมปาก ประสาทของเธอตึงเครียดจนแทบจะหายใจไม่ออก

"หนู..." ฉู่เหมียนกัดริมฝีปากชมพูระเรื่อของเธอไว้แน่น มือก็กำตะเกียบแน่นเช่นกัน ไม่ว่าจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ทำให้อีกสองคนไม่พอใจอย่างเลี่ยงไม่ได้!

ปี๊บ…

จู่ ๆ เสียงแตรรถมอเตอร์ไซค์ดังขึ้นจากด้านนอกตัวบ้าน ฉู่เหมียนหัวเราะคิกคัก เสิ่นเหราเพื่อนสนิทของเธอมารับเธอแล้ว

เธอเช็ดมุมปากแล้วพูดว่า "ครอบครัวที่รักขา หนูขอออกไปเที่ยวก่อนนะคะ รอเที่ยวเล่นจนหนำใจเมื่อไหร่ แล้วจะกลับมาสานต่อความฝันของพวกคุณทีละคนเลย!”

เมื่อพูดจบฉู่เหมียนก็วิ่งออกไป ปล่อยให้คนบนโต๊ะโต้เถียงกันจนหน้าดำหน้าแดง

มรดกมูลค่าหลายพันล้านและการเป็นหมอเฉพาะทางล้วนไม่เลว แต่สำหรับฉู่เหมียนในตอนนี้ความสุขยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

เธออยากทวงความเยาว์วัยที่เธอเสียไปตั้งสามปีกลับมาเสียก่อน!

เอสเคไนต์คลับ

เสียงเพลงดังกระหึ่ม แสงไฟสาดส่องไปยังกลางฟลอร์เต้นรำ

ฉู่เหมียนสวมชุดเดรสสั้นรัดรูปสีแดง รองเท้าส้นสูงสิบเซนติเมตร ขาเรียวยาวของเธอขาวผ่อง ชุดเดรสช่วยเน้นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเธอให้ชัดเจนขึ้น

วันนี้เธอแต่งหน้าจัด ผมหยิกยาวสยายไปด้านหลัง ดวงตาสวยงามเย้ายวนใจ

แสงไฟส่องลงมาที่ตัวเธอ รอยสักรูปผีเสื้อบนแผ่นหลังช่างงดงามชวนมอง ทำให้คนเห็นอดไม่ได้ที่จะอยากจุมพิตสักครั้ง

เสิ่นเหรามองฉู่เหมียน ดวงตาฉายความเจ็บปวดแวบหนึ่ง

ถึงแม้ฉู่เหมียนจะแสดงออกว่าไม่สนใจ แต่เธอและฉู่เหมียนเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก เธอย่อมเข้าใจหัวอกฉู่เหมียนดีที่สุด

ตอนนี้ฉู่เหมียนเจ็บปวดเกินจะทานทน แต่ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากสิ่งที่เธอเลือกเอง จึงไม่สามารถโทษใครได้ ได้แต่ใช้แอลกอฮอล์ทำให้ตัวเองมึนเมา

ไม่มีใครจะรักกู้ว่างเชินมากไปกว่าฉู่เหมียน

ไม่มีฉู่เหมียนสักคน กู้ว่างเชินจะไม่เสียใจจริง ๆ เหรอ?

สายตาของผู้ชายนับไม่ถ้วนในสถานที่นั้นต่างก็จ้องมองไปทางฉู่เหมียนด้วยความกระหาย พวกเขากลืนน้ำลายแล้วพูดว่า "คุณหนูฉู่นี่ทรวดทรงเย้ายวนดีจริง ๆ!"

"กู้ว่างเชินโชคดีจริง ๆ ที่มีภรรยาสวยขนาดนี้!"

เสียงเพลงขาดตอนลง ฉู่เหมียนโยนขวดเหล้าที่ดื่มหมดแล้วลงบนโซฟาล่างเวที ร่างกายของเธอสั่นเทิ้มเล็กน้อย พอดีกับตอนที่เธอได้ยินชื่อกู้ว่างเชิน

เธอเหลือบมองไปด้านล่างแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ค่ำคืนสุดเหวี่ยงแบบนี้ ชื่อกู้ว่างเชินทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยงและรังเกียจจริง ๆ”

“คืนนี้ฉันเหมาร้านแล้ว! ใครอยากพูดถึงกู้ว่างเชินนักก็เชิญออกไปจากที่นี่เลย!"

ผู้คนในสถานที่นั้นต่างก็โห่ร้อง แสดงให้เห็นว่าพวกเขายินดีทำตามในสิ่งที่คุณหนูฉู่บอก

ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าในมุมที่ไม่เด่นนัก ชายคนหนึ่งเกือบจะบีบแก้วเหล้าในมือแตก

"ฮ่าๆๆๆๆ คุณชายกู้ ตั้งแต่เมียนายขอหย่ากับนายแล้ว ดูเหมือนจะปล่อยตัวปล่อยใจได้ง่ายดีนะ?"

"ทำไมฉันไม่เคยสังเกตมาก่อนว่าเมียนายมีรอยสักด้วย? ดูเร้าใจดีชะมัด!"

สายตาของต้วนจิ่นเหนียนจ้องมองไปที่ฉู่เหมียนเขม็ง เขาเอาแต่เรียกเธอว่าเมียนายอยู่ตลอดเวลาแต่ไม่ละสายตาแม้แต่วินาทีเดียว

กู้ว่างเชินนิ่งเงียบ ฟังแล้วรู้สึกหงุดหงิดเป็นบ้า

แต่งงานกันมาสามปี ไม่ว่าจะต่อหน้าเขาหรือในงานสำคัญ เธอมักจะแต่งตัวสุภาพและวางตัวสง่างามอยู่เสมอ ไม่เคยแต่งตัวแบบนี้

เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลังของฉู่เหมียนมีรอยสักด้วย

"คุณหนูฉู่บอกว่าเลิกรักก็คือเลิกรักเลย ตรงไปตรงมาดี" ดวงตาของต้วนจิ่นเหนียนฉายแววชื่นชม

กู้ว่างเชินดื่มเหล้าต่อไป สีหน้าเย็นชา ไม่พูดอะไร

นั่นก็แค่กลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ ของฉู่เหมียนเท่านั้นแหละ ไม่เกินสามวันฉู่เหมียนจะต้องกลับมาตายรังที่เขาอย่างแน่นอน

กู้ว่างเชินอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ฉู่เหมียน เพียงเสี้ยววินาที สายตาของเขาก็เย็นชาลง

ฉู่เหมียนกำลังซบพิงอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง ริมฝีปากบางของเธอขยับเข้าใกล้ใบหูของผู้ชายคนนั้น ไม่รู้ว่าได้ยินอะไร เธอก้มลงหัวเราะเบา ๆ จริตช่างเย้ายวนใจ

คนอื่นยื่นแก้วเหล้าให้เธอ เธอก็รับมาดื่มโดยไม่ปฏิเสธ ท่าทีและรอยยิ้มล้วนทำให้หัวใจเต้นแรง

กู้ว่างเชินกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อเห็นว่าเรือนร่างของฉู่เหมียนแนบชิดกับร่างของผู้ชายคนนั้น

ทันใดนั้นก็มีคนโห่ร้องขึ้นมา เสียงดังก้องกังวาน “คุณหนูฉู่กับคุณชายหลินนี่เหมาะสมกันดีจริง ๆ!”

"คุณชายหลิน พวกเขาเชียร์ว่าเราเหมาะสมกัน ว่าแต่คุณแต่งงานหรือยังคะ?" ฉู่เหมียนเขย่าแก้วเหล้าในมือ ดวงตาของเธอหรี่ลงเล็กน้อย เหมือนจะเมาได้ที่

ชายคนนั้นถูกเธอทำให้ใจสั่น เขาถามกลับ "ผมยังโสดครับ คุณล่ะแต่งงานหรือยัง?"

"ฉันดูเหมือนคนเคยแต่งงานเหรอ บอกตามตรง ฉันเองก็โสดเหมือนกันค่ะ" มุมปากของฉู่เหมียนยกขึ้น รอยยิ้มของเธอช่างหวานล้ำ

กู้ว่างเชินฟังคำพูดของฉู่เหมียนแล้วกระดกดื่มเหล้าหมดแก้วในอึกเดียว

เขาอยากจะแกล้งทำเป็นไม่สนใจ แต่ไม่รู้ทำไม วันนี้เขาที่ปกติควรจะนั่งนิ่ง ๆ อยู่เฉย ๆ กลับกระวนกระวายใจขึ้นมา สายตาของเขาเผลอมองไปที่ฉู่เหมียนครั้งแล้วครั้งเล่า

"แล้วคุณกับกู้..." ชายคนนั้นพูดออกมา

ฉู่เหมียนยกนิ้วขึ้นแตะที่ริมฝีปากของชายคนนั้นทันที แล้วพูดว่า "อย่าพูดถึงคนนั้นเลยค่ะ น่าเบื่อจะตายไป"

กู้ว่างเชินกำแก้วในมือแน่นขึ้น ความโกรธผุดขึ้นในใจ

น่าเบื่อ?

ผู้หญิงคนนี้พูดจาหว่านล้อมสารพัดว่ารักเขา แต่ตอนนี้กลับหันหลังให้เขาแล้วไปเกาะแกะกับชายอื่น

ตอนนี้เธอไม่ใช่คนที่อยากแต่งงานกับเขาแล้วเหรอ?

ฉู่เหมียนแลบลิ้นเลียริมฝีปาก นิ้วของเธอคลายกระดุมเสื้อเชิ้ตของผู้ชายคนนั้นออก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงยั่วยวน "กล้าทำอะไรที่มันเกินเลยกว่านี้ไหมคะ?"

"เกินเลยยังไงครับ?" ชายคนนั้นให้ความร่วมมือเป็นอย่างยิ่ง

"เปิดห้องไงคะ" ฉู่เหมียนพูดโดยไม่ลังเล

บรรยากาศแห่งความยั่วเย้าเพิ่มขึ้น ผู้คนในไนต์คลับต่างก็โห่ร้องและผสมโรงเชียร์ไปด้วย

มีแค่กู้ว่างเชินที่ใบหน้ามืดลงในทันที

ต้วนจิ่นเหนียนรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่แผ่มาจากเพื่อนข้างกายเขาในทันที

ชายคนนั้นหัวเราะแล้วพูดต่อว่า “คุณหนูฉู่ ถ้าผมจริงจังขึ้นมาจะทำยังไงครับ?”

"คิดว่าฉันพูดเล่นกับคุณงั้นเหรอ?" ฉู่เหมียนไม่สนใจ

ชายคนนั้นลุกขึ้นจากโซฟาทันที จ้องมองฉู่เหมียน กลืนน้ำลายลงคอ แล้วพูดกับเธอว่า "ไปกันเลยไหม?"

ต้วนจิ่นเหนียนที่เฝ้ามองอยู่เลือดลมเริ่มสูบฉีด "คุณชายกู้ เมียนายเธอกำลังจะ..."

เมื่อต้วนจิ่นเหนียนหันกลับมา เขาก็ไม่เห็นกู้ว่างเชินอยู่ที่นั่นแล้ว

กระทั่งเขาเงยหน้าขึ้น ได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องดังมาจากสถานที่นั้น "กู้ว่างเชิน?!"

กู้ว่างเชินจับข้อมือของฉู่เหมียนแล้วดึงเธอออกมา จากนั้นก็จ้องเขม็งมองไปที่ชายคนนั้น ดวงตาเต็มไปด้วยการคุกคาม

จากนั้นเขาก็ลากฉู่เหมียนไปที่ห้องน้ำ

เสิ่นเหรานั่งอยู่บนโซฟา เมื่อเห็นร่างนั้น เธอก็ตกใจจนพูดไม่ออก

กู้ว่างเชินมาที่นี่ได้ยังไง?
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 4

    ฉู่เหมียนมองชายหนุ่มที่จูงมือเธอเดินไปข้างหน้าอย่างเลื่อนลอยปีนั้นเขาก็เป็นแบบนี้ จูงมือเธอหนีการไล่ล่าของคนเหล่านั้นถ้าตอนนั้นกู้ว่างเชินเย็นชากับเธอ เธอคงจะไม่รักเขาอย่างสุดหัวใจ คงไม่ถึงขั้นยอมแตกหักกับครอบครัวแต่ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้? แล้วตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่?หรือว่าเห็นเธอคลุมเครือกับชายอื่นแล้วหึงหวง?แต่ไม่นานฉู่เหมียนก็ล้มเลิกความคิดนี้ไปซะกู้ว่างเชินน่ะเหรอ เขาไม่มีหัวใจ เขาไม่เคยรักเธอ แล้วจะหึงหวงได้อย่างไรฉู่เหมียนถูกผลักเข้าไปในห้องน้ำ ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เธอรู้สึกอ่อนแรงกู้ว่างเชินหน้าเคร่งเครียด กดเธอไว้กับขอบอ่างล้างหน้า หันหลังให้กับแสงไฟในห้องน้ำ ทำให้มองไม่เห็นโครงหน้าอย่างชัดเจน แต่แสงเงาก็ยังพอแสดงให้เห็นว่าเขาหล่อแค่ไหน"ฉู่เหมียน เราสองคนยังไม่ได้หย่ากัน!" เขากล่าวคำนี้ลอดไรฟันหลังของฉู่เหมียนแนบกับอ่างล้างหน้า กระจกเงาสะท้อนให้เห็นรอยสักรูปผีเสื้อบนหลังของเธอ สวยงามมากเธอเงยหน้าขึ้น กลั้นความเจ็บปวดใจไว้ น้ำเสียงนิ่งเฉย “คุณกู้ ฉันเซ็นใบหย่าเรียบร้อย ตามหลักถือว่าเราสองคนหย่าขาดกันไปแล้ว”กู้ว่างเชินมองดวงตาของฉู่เหมียนสั่นไหว มื

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 5

    กลางดึก ที่ชั้น 33 ของโรงแรมเซิ่งหลุนงานเลี้ยงกำลังดำเนินอยู่ ส่วนด้านนอกหน้าต่างบานใหญ่ทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันพลุกพล่านของเมืองอวิ๋นงดงามจับใจเสียงเปียโนอันไพเราะลอยมาเข้าหู ฉู่เหมียนเอนกายพิงเคาน์เตอร์บาร์อย่างเกียจคร้าน แกว่งแก้วไวน์แดงในมือไปมาอย่างเบื่อหน่าย ดวงตาอันเย้ายวนเหลือบมองไปรอบ ๆ เป็นครั้งคราวสายตาของชายหนุ่มในงานต่างก็จ้องมองเธออย่างหิวกระหาย พวกเขาต้องการจะเข้ามาพูดคุย แต่ไม่มีใครกล้าวันนี้เธอสวมชุดเดรสยาวสีดำสายเดี่ยว ชายกระโปรงออกแบบให้มีระบายเล็กน้อย เผยให้เห็นปลีน่องขาวเนียนสวยชุดเดรสยาวทรงหลวมห้อยอยู่บนร่างของเธออย่างลงตัว อวดให้เห็นสัดส่วนร่างกายที่สมบูรณ์แบบอย่างชัดเจน ผมหยิกยาวสลวยแผ่ลงมากลางหลัง รอยสักรูปผีเสื้อปรากฏให้เห็นราง ๆ ดูโดดเด่นเกินกว่าจะละสายตาเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ฉู่เหมียนก้มดู เป็นข้อความฉู่เทียนเหอ [ ถึงงานเลี้ยงหรือยัง ]ฉู่เหมียนถอนหายใจ ตอบกลับข้อความ [ ค่ะ ]เมื่อคืนนี้ฉู่เทียนเหอเป็นคนมารับเธอกลับบ้าน ตอนที่เธอเมาได้ที่เขาก็เกลี้ยกล่อมให้เธอยอมมาร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้และยังจะจัดแจงจับคู่ให้เธออีกประเด็นสำคัญคือเธอดันเผลอตกลงไป

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 6

    ห้องโถงวุ่นวาย ผู้คนต่างวางแก้วเหล้าลงแล้วเดินเข้าไปดูกันให้เห็นกับตา“โทรเรียก 1669 หรือยัง?”“1669 จะมาเมื่อไหร่? ถ้าเกิดคุณหานเป็นอะไรไปที่นี่ ครอบครัวคุณหานคงไม่ปล่อยเราไปแน่!”ฉู่เหมียนเงยหน้ามอง ชายคนนั้นอายุราวห้าสิบกว่าปี ตอนนี้เขานอนอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าซีดเผือดฉู่เหมียนดูเวลา ที่นี่ห่างจากโรงพยาบาลเมืองสิบห้านาทีถ้าเดินทางโดยรถยนต์ แถมยังเป็นช่วงเวลาที่รถติดมากพอดีถ้ารอรถพยาบาลมากลัวว่าจะไม่ทันแล้วไม่มีใครในโรงแรมมาจัดการสักที เห็นได้ชัดว่าอาการของชายคนนั้นแย่ลงเรื่อย ๆ ฉู่เหมียนที่เรียนวิชาแพทย์มาตั้งแต่เด็กเริ่มใจร้อนฉู่เหมียนขมวดคิ้ว เดินเข้าไป “ให้ฉันดูหน่อย”สายตาของผู้คนต่างจ้องมาที่ฉู่เหมียนในทันที ฉู่เหมียนเหรอ?“เธอทำได้เหรอ? ใคร ๆ ก็รู้ว่าตระกูลฉู่ของเธอเป็นตระกูลนักวิชาการแพทย์ แต่มีเธอคนเดียวที่เป็นแจกันประดับ ไม่มีวิชาแพทย์ติดตัวเลย!”ไม่รู้ว่าใครพูดขึ้น จากนั้นก็มีคนจำนวนหนึ่งตะโกนโวยวายตามมา“นั่นสิ! ชีวิตคนนะ ยกคุณหานให้เธอรักษาเหรอ นั่นไม่ต่างอะไรกับการผลักคุณหานลงเหว!”“ถ้าคุณหานเป็นอะไรไป เธอรับผิดชอบไหวเหรอ? นี่ไม่ใช่ของเด็กเล่นนะ!”“ห้ามเธ

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 7

    ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นฉู่เหมียน!ลู่เจียวถูกผลักจนล้มลงไปกับพื้น กู้ว่างเชินรีบเข้าไปประคองเธอไว้ฉู่เหมียนคุกเข่าลง มือเรียวสวยของเธอปลดเนคไทของคุณหานออกแล้วโยนทิ้งไปลู่เจียวส่ายหน้าให้กู้ว่างเชิน หันไปมองฉู่เหมียนแล้วขมวดคิ้วถามว่า "เหมียนเหมียน ทำอะไรน่ะ เธอทำได้ด้วยเหรอ?"คนข้าง ๆ ก็ตกใจจนนิ่งงันอยู่กับที่"แม้แต่คุณหนูลู่ยังทำไม่ได้เลย แล้วคนไร้ความสามารถอย่างเธอจะทำได้เหรอ?""คุณหานเป็นคนมีหน้ามีตาขนาดไหน เธอยังกล้าปลดเสื้อผ้าของคุณหานกลางงานเลี้ยงแบบนี้ ฉู่เหมียนเธอคิดอะไรอยู่?"เมื่อได้ยินคนทั้งหลายต่อว่าฉู่เหมียน ลู่เจียวก็เม้มริมฝีปากแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "เธออย่าดื้อรั้นเพียงเพราะคำพูดของคนอื่นแค่ไม่กี่คำสิ""เหมียนเหมียน ปกติคนในตระกูลฉู่อาจตามใจเธอ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเล่นอะไรแบบนี้ ถ้าเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นมาละก็…" ลู่เจียวยิ่งพูดก็ยิ่งร้อนใจ ถึงกับยกมือขึ้นมาลูบแขนฉู่เหมียน ทำทีเหมือนเป็นห่วงฉู่เหมียนฉู่เหมียนสะบัดแขนลู่เจียวออกแล้วหรี่ตามอง "หุบปากซะ”ลู่เจียวเงียบไปทันที แววตาของฉู่เหมียนดุร้ายเกินไป ทำให้เธอรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูกฉู่เหมียนมอง

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 8

    ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจ รีบพูดว่า "ผมแค่พูดเล่น คุณเก็บไปคิดจริงจังด้วยเหรอ?""จริงจังสิ ทำไมจะไม่จริงจัง ฉันเป็นคนจริงจังมาตั้งแต่เด็กแล้ว" ฉู่เหมียนหยิบแก้วเหล้าข้าง ๆ ขึ้นมาดื่มนึกถึงตอนที่กู้ว่างเชินปกป้องลู่เจียว กอดลู่เจียวและทำอะไรต่าง ๆ ให้ลู่เจียว เธอก็รู้สึกโกรธและไม่พอใจเธอแย่กว่าลู่เจียวตรงไหน แย่ยังไง?ทำไมกู้ว่างเชินถึงมองเธอเป็นแค่เสี้ยนหนามในสายตาตลอดเวลา"ฉู่เหมียน คุณใจแคบมากเลยนะ ไม่แปลกใจเลยที่กู้ว่างเชินไม่ชอบคุณ" ชายหนุ่มตะโกนด่าอย่างรุนแรงฉู่เหมียนเงยหน้า เมื่ออีกฝ่ายพูดถึงกู้ว่างเชิน ราวกับเธอถูกสะกิดบาดแผลพวกเขามีสิทธิ์อะไรมาว่าเธอใจแคบถ้าเมื่อกี้เธอไม่สามารถช่วยชีวิตคุณหานได้ พวกเขาก็คงจะแสดงสีหน้าแบบเดิมถ้าเธอขอให้พวกเขาปล่อยเธอไป พวกเขาจะปล่อยเธอไปโดยดีไหมพวกเขากัดไม่ปล่อยแน่ แถมยังจะเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธออย่างบ้าคลั่ง ผลักเธอลงสู่เหวลึกในเมื่อเป็นอย่างนั้น ทำไมถึงกล่าวหาว่าเธอใจแคบกันล่ะฉู่เหมียนโยนแก้วในมือลงที่เท้าของเขา สายตาเย็นชาและเฉียบคม "ในเมื่อคุณไม่ยอมคุกเข่าดี ๆ งั้นฉันจะช่วยทำให้คุณคุกเข่าเอง"พูดจบ เธอก็หยิบปากกาอ

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 9

    หัวใจของฉู่เหมียนเต้นรัวอย่างไม่ทันตั้งตัว รูม่านตาของเธอหดเล็กลงด้วยไม่เชื่อว่าประโยคนี้จะหลุดออกมาจากปากของกู้ว่างเชินเขาไม่เคยยอมรับการแต่งงานของพวกเรามาโดยตลอดไม่ใช่หรือกู้ว่างเชินรับรู้ถึงความตกใจในดวงตาของฉู่เหมียนได้อย่างชัดเจน ทำให้หัวใจของเขาหงุดหงิดเขาแค่บอกว่าตัวเองเป็นสามีของเธอ แล้วทำไมเธอถึงได้ประหลาดใจนักจอห์นชี้ไปที่พวกเขาทั้งสองด้วยสีหน้าสงสัย “พวกคุณเป็นสามีภรรยากันเหรอ?”ฉู่เหมียนรีบมองไปที่จอห์น รู้สึกเสียใจมากที่ตัวเองเล่นละครต่อหน้าจอห์นเมื่อครู่จอห์นมองไปที่ทั้งสองคน ดวงตาโตของเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อและผิดหวัง รู้สึกราวกับว่าถูกคนสองคนนี้หลอกให้เข้าใจผิดและไม่ให้เกียรติตามที่ควรแต่สำหรับฉู่เหมียน ก่อนหน้านี้เขาคิดเข้าข้างตัวเองด้วยความเห็นแก่ตัว"ฉู่เหมียน ผมยังชื่นชมคุณเสมอ และจะไม่ซักถามเรื่องส่วนตัวของคุณ แต่ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมยินดี"เขาจริงใจมากความจริงใจนี้ทำให้ฉู่เหมียนรู้สึกเสียใจมากยิ่งขึ้นนอกจากครอบครัวก็ดูเหมือนเธอจะไม่ได้รับความห่วงใยจากใครแบบนี้มานานแล้วฉู่เหมียนกำลังจะกล่าวขอบคุณ แต่ข้อมือของเธอก็ถูกคว้าเอาไว้ท

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 10

    กู้ว่างเชินรู้สึกประหลาดใจมากกับคำตอบของฉู่เหมียนเธอเป็นหลานสะใภ้ที่ย่าของเขารักและเอ็นดูมาก ตามใจเธอเหมือนเป็นหลานสาวแท้ ๆทุกครั้งที่เขาทำผิด คุณย่าจะคอยปกป้องเธอทันที หลายครั้งที่คุณย่าบุกไปที่บริษัทแล้วด่าเขาจนหัวหด!เธอพูดว่าจะไม่ไปงานวันเกิดคุณย่างั้นเหรอ? เขาไม่เชื่อหรอก"ฉู่เหมียน เรื่องที่เธอผลักลู่เจียวตกน้ำจบไปแล้ว" เขาย่นคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงยังคงความประนีประนอม"จบยังไงล่ะ จบก็เท่ากับฉันยอมรับว่าเป็นคนผลักสิ" ฉู่เหมียนโต้แย้งอย่างรวดเร็วกู้ว่างเชินไม่อยากยึดติดกับเรื่องนี้อีกแล้ว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ "เลิกงี่เง่าสักทีได้ไหม"ฉู่เหมียนมองเขา สายตาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นผิดหวังจนถึงตอนนี้เขาก็ยังคิดว่าเธอเป็นเด็กงี่เง่าฉู่เหมียนก้มหน้าลง ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน "แต่งงานกันมาตั้งหลายปี นอกจากช่วงแรก ๆ ที่ฉันไม่รู้เรื่องรู้ราวแล้ว คุณเคยเห็นฉันทำตัวงี่เง่ากี่ครั้ง?""คุณบอกเองนี่ว่าจะไม่ตามง้อฉัน ฉันรู้ตัวดีอยู่แล้ว""ฉันจะงี่เง่าไปเพื่ออะไร งี่เง่าให้ใครมาสงสารล่ะ?"ฉู่เหมียนพูดคำเหล่านี้ไปพลางใส่รองเท้าไปพลาง น้ำเสียงนิ่งมากเหม

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 11

    ที่วิลล่าฉู่เหมียนมาเอาแหวนคืน เธอใส่รหัสและรอให้ประตูเปิดแต่กลับได้ยินเสียงตอบกลับผ่านกลไก… รหัสไม่ถูกต้องฉู่เหมียนเงยหน้ามองประตูห้องให้แน่ใจว่านี่คือวิลล่าของกู้ว่างเชินไม่ผิดแน่ จากนั้นก็ใส่รหัสอีกครั้งแต่มันก็ยังแจ้งว่ารหัสผิดเปลี่ยนรหัสแล้วเหรอจนกระทั่งใส่รหัสผิดเป็นครั้งที่สาม แม้กระทั่งสแกนลายนิ้วมือก็ไม่ผ่าน เสียงล็อกอิเล็กทรอนิกส์ส่งเสียงเตือน ฉู่เหมียนถึงแน่ใจในสิ่งที่เธอคาดเดา… ใช่แล้ว รหัสถูกเปลี่ยนกู้ว่างเชินก็ยังคงเป็นกู้ว่างเชิน ทำอะไรก็รวดเร็วเสมอเขาคงรังเกียจเธอมากถึงขั้นไม่ต้องการให้เธอโผล่มาที่นี่อีกเธอเพิ่งจากไปแค่สองวัน เขาก็เปลี่ยนรหัสซะแล้วฉู่เหมียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหากู้ว่างเชิน แต่ประตูกลับเปิดออกเสียก่อน เสียงคุ้นเคยดังมาจากด้านใน “เหมียนเหมียน"ฉู่เหมียนหันกลับไปทันที เห็นลู่เจียวสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวของผู้ชายอยู่ เมื่อเหลือบตามองลงไปที่ขาของลู่เจียว เห็นว่าขาขาวเรียวของเธอเปลือยเปล่าตอนนี้แก้มของลู่เจียวแดงก่ำ คอของเธอมีรอยจ้ำแดงจาง ๆ ผมสีดำปล่อยสยายอยู่ด้านหลัง มีเสน่ห์เย้ายวนอย่างบอกไม่ถูก"เจียวเจียว ใครมาเหรอ" เสียงเย็นชาของผู้ช

บทล่าสุด

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 295

    ฉู่เหมียนไปที่ฐาน M ในทันที เธอต้องการรู้ให้ได้เดี๋ยวนี้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวเรื่องลู่เจียวเธอทนไม่ได้กับความอับอาย แม้แต่นิดเดียวก็ทนไม่ได้!โม่อี้กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล เขาตรวจสอบทุกมุมแล้ว แต่ก็หาคนที่เข้าไปในห้องทำงานของผู้อำนวยการไม่พบ“ดูกล้องวงจรปิดตรงหน้าต่างซิ” ฉู่เหมียนสั่งโม่อี้เสียงเย็นโม่อี้หันไป ก็เห็นฉู่เหมียนยืนอยู่ข้างหลังเขา “หัวหน้า มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?”“เมื่อกี้” ฉู่เหมียนพูดเสียงแข็ง ชัดเจนว่ากำลังโกรธ คำสองคำนั้นเหมือนเค้นผ่านไรฟันออกมาโม่อี้กำลังตรวจสอบอย่างตั้งใจมาก จนไม่ได้สังเกตเห็นว่าเธอมาโม่อี้ร้อง “อืม” เสียงหนึ่ง รีบเปลี่ยนภาพกล้องวงจรปิดไม่ลืมเหลือบมองฉู่เหมียนอย่างระมัดระวังดูตรงหน้าต่าง… เดี๋ยวนะ“หน้าต่างโรงพยาบาลเหรอ?” โม่อี้เหยียดยิ้ม ดูเหมือนจะไม่เชื่อ “หัวหน้า นั่นมันชั้นที่สามสิบกว่านะ คนคนนั้นจะเข้ามาทางหน้าต่างเพื่อแจ้งเบาะแสเรื่องลู่เจียวเหรอ? บ้าไปแล้ว!”แล้วก็ไม่มีที่ให้เข้าไปด้วยนี่นา?“นอกหน้าต่างห้องทำงานของหลินเฉิงชุยมีระเบียง พอจะเข้าไปได้” ฉู่เหมียนคลายความสงสัยของเขาโม่อี้รีบตรวจสอบกล้องวงจรปิดในห

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 294

    “ฉันไม่ได้แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับน้องสาวคุณ เราไม่มีอะไรต้องคุยกัน” ฉู่เหมียนไม่อยากติดต่อกับคนตระกูลลู่“คุณฉู่ ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดี” ลู่อี้อธิบายฉู่เหมียนเงียบไปสามวินาที ก่อนจะเดินไปที่รถ “คุยกันตรงนี้แหละ”ลู่อี้คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้“ฉู่เหมียน ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แต่บัตรใบนี้มีมูลค่าสองล้าน” ลู่อี้ยื่นบัตรเครดิตมาให้ฉู่เหมียนตกใจเมื่อเห็นบัตรเครดิตใบนี้เขาหมายความว่ายังไง?“ขอให้คุณใจดีกับน้องสาวผมด้วย” เขาจ้องฉู่เหมียน นัยยะคือ เรื่องนี้เป็นฝีมือคุณ รับเงินสองล้านนี้ไป แล้วจบเรื่องไปซะฉู่เหมียนหัวเราะเขาคิดจะใช้เงินฟาดหัวเธอ นี่ไม่ใช่การดูถูกเธอหรอกเหรอ?“คิดว่าเงินแค่สองล้านจะเปลี่ยนทัศนคติของฉันที่มีต่อน้องสาวคุณได้เหรอ?” ฉู่เหมียนหยิบบัตรเครดิตขึ้น พลางจ้องมองลู่อี้อย่างเยาะเย้ย “ฉันจ่ายให้คุณสองล้าน หวังว่าคุณจะไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก เป็นคุณจะรู้สึกยังไง?”“ฉู่เหมียน คุณไม่ยุติธรรมเลย! กล้าทำก็ต้องกล้ารับสิ!” ลู่อี้ขมวดคิ้ว คิดว่าฉู่เหมียนไม่เข้าใจเหตุผล“ฝ่ายที่ไม่ยุติธรรมคือตระกูลลู่ของคุณต่างหาก!” ฉู่เหมียนโยนบัตรเครดิตใส่ลู่อี้พวกเขาทั้งคร

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 293

    ชูหลานคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหัว เธอพูดว่า “ไม่มีเลย ตอนนั้นเลิกงานพอดี ฉันเลยเอาเอกสารมาให้ผู้อำนวยการ”ฉู่เหมียนเงียบไปสองสามนาที เธอมองวิดีโอในโทรศัพท์ สักพักก็คิดอะไรไม่ออก “ค่ะ”ถ้าไม่ใช่ชูหลานที่เอาเข้ามา งั้นจดหมายร้องเรียนที่ไม่ระบุชื่อนี่บินเข้ามาเองงั้นเหรอ?ไม่ไกลนัก หม่าจือหยางเดินเข้ามา เขามีสมุดประวัติการรักษาสองเล่มในมือ พูดพลางเดินเข้ามา “คุณหมอชู พรุ่งนี้ผมขอลาพักร้อนนะครับ”ชูหลานเหลือบมองหม่าจือหยาง หม่าจือหยางยื่นใบลาพักร้อนให้ชูหลาน“ค่ะ” ชูหลานตอบรับหม่าจือหยางมองฉู่เหมียน แล้วเลิกคิ้ว ก่อนจะหันหลังเดินจากไปฉู่เหมียนสังเกตเห็นใบลาพักร้อนในมือของชูหลาน นั่นเป็นลายมือของหม่าจือหยางแน่นอน“ลายมือรองผู้อำนวยการหม่า สวยดีนะคะ” ฉู่เหมียนพูด“ค่ะ ลายมือรองผู้อำนวยการหม่าอ่านง่ายดี หนักแน่นด้วย” ชูหลานเก็บใบลาพักร้อนไว้ฉู่เหมียนเหลือบมองอีกสองสามครั้ง แล้วก็ไปทำงานต่อแผนกฉุกเฉิน ฉู่เหมียนไปส่งเอกสาร กำลังจะจากไปก็ได้ยินเสียงคนเรียก “คุณหมอฉู่ มารับคนไข้เหรอคะ?”ฉู่เหมียนงง อะไรนะ?“มีคนไข้ของแผนกคุณอยู่ที่นี่พอดี อย่าลืมไปรับนะคะ” พยาบาลสาวเตือนฉู่เหมี

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 292

    ฉู่เหมียน “…” ก็เธอไม่ใช่เหรอ?“ตำแหน่งของใครมีความขัดแย้งกับลู่เจียวมากที่สุด?”ฉู่เหมียน “…”แผนกศัลยกรรมหัวใจมีหมอสองคน ถ้าตำแหน่งเดียวกัน ก็คงเป็นฉันสินะฉู่เหมียน “คุณหมอหลิน อย่าเอาแต่วิเคราะห์เลยค่ะ” ขืนยังวิเคราะห์ต่อไป เดี๋ยวจะถูกตัดสินว่ามีความผิดเอาเสียเองทุกอย่างชี้ไปที่เธอ ยากจะแก้ตัวจริง ๆฉู่เหมียนเท้ามือลงบนโต๊ะ ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง “ขนาดวันหยุดสุดสัปดาห์ฉันยังนอนไม่หลับเลย”“งั้น… คุณพักร้อนสักสองสามวันไหมครับ?” หลินเฮิงชุยถามความเห็นของฉู่เหมียนอย่างระมัดระวังฉู่เหมียนตกใจ ทำไมล่ะ? ทำอย่างนั้นก็เหมือนกับตัวเองมีความผิดน่ะสิ!เธอไม่ทำอย่างนั้นหรอก ไม่เพียงแต่จะไม่พักร้อน แต่ยังจะปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนอย่างองอาจทุกวันอีกด้วยจดหมายแจ้งเบาะแสฉบับนี้ “จริง ๆ แล้ว คุณไม่ได้เป็นคนเขียนใช่ไหม?”หลินเฮิงชุยเองก็เริ่มสงสัยแล้วฉู่เหมียน “…” ฉู่เหมียนเริ่มปวดหัว“ฉันไปดูที่ห้องควบคุมกล้องวงจรปิดดีกว่า” ฉู่เหมียนยิ้มขณะที่กำลังพูด ประตูห้องทำงานก็ถูกเคาะ เป็นพนักงานผู้รับผิดชอบเรื่องนี้“ผลการตรวจสอบกล้องวงจรปิดออกแล้วเหรอครับ?” หลินเฮิงชุยสวมแว่น รู้สึกว่ามีหว

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 291

    ขณะที่ฉู่เหมียนกำลังคิดไม่ตกว่าจะพูดอย่างไร เสียงแตกของแจกันที่ตกพื้นในห้องผู้ป่วยก็ดังขึ้น“กรี๊ดดด!”เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังแว่วแทรกเข้ามาในหูกู้ว่างเชินรีบเปิดประตูห้องผู้ป่วยเข้าไปทันที พบว่าผลไม้ถูกโยนมาตกอยู่ที่เท้าของเขากู้ว่างเชินเดินเข้าไปข้างใน ลู่เจียวกำลังนั่งอยู่บนเตียง ผมยุ่งเหยิง ดวงตาแดงก่ำ ดูเหมือนจะใกล้ถึงขีดสุดของความอดทนเมื่อลู่เจียวเห็นกู้ว่างเชิน เธอก็ร้องไห้จนพูดไม่ออก จบแล้ว จบสิ้นแล้วจริง ๆกู้ว่างเชินไม่ยอมรับตัวตนของเธอ ตอนนี้อาชีพที่เธอภาคภูมิใจที่สุดก็หายวับไปแล้ว!เธอจะทำอย่างไรดี?กู้ว่างเชินขมวดคิ้ว ลู่เจียวดูโทรมลงทุกวัน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอต้องมีปัญหาแน่ กู้ว่างเชินเก็บของที่ตกอยู่บนพื้น ลู่เจียวก็โยนลงไปอีกกู้ว่างเชินไม่พูดอะไร แค่คอย ๆ เก็บขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งลู่เจียวเหนื่อยที่จะโยน เธอหยุดโยนแล้วเอาแต่ร้องไห้กู้ว่างเชินรู้สึกอึดอัดใจ เดินเข้าไปลูบหัวลู่เจียวเพื่อปลอบโยน เมื่อเห็นเช่นนั้น ลู่เจียวก็ร้องไห้หนักกว่าเดิมเธอลุกขึ้นคุกเข่าแล้วโอบกอดกู้ว่างเชินไว้ ดูเหมือนว่ามีเพียงกู้ว่างเชินเท่

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 290

    ฉู่เหมียนตกใจ ร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ? ถึงกับต้องฉีดยา!“ใช่ค่ะ ตอนนี้คุณกู้กำลังรออยู่หน้าห้อง เป็นห่วงเจียวเจียวมาก” ซางหานถอนหายใจพอพูดถึงเรื่องนี้ ทุกคนต่างก็คิดว่าฉู่เหมียนแพ้แบบไม่ยุติธรรม!ทุกอย่างของฉู่เหมียนดีกว่าลู่เจียว แต่กลับแพ้ในเรื่องของกู้ว่างเชินฉู่เหมียนกัดริมฝีปาก ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วลุกขึ้น “ฉันจะไปดูหน่อย”“อย่าไปเลยค่ะ ถ้าเจียวเจียวตื่นขึ้นมา ไม่รู้ว่าเธอจะด่าคุณยังไงบ้าง พยาบาลบอกว่าตอนที่เธอกำลังใจเสีย เธอพูดว่า...” พูดมาถึงตรงนี้ ซางหานก็เงียบไปฉู่เหมียนไม่เข้าใจ พูดว่าอะไรล่ะ?ซางหานเกาหัว ดูเหมือนไม่อยากจะเล่าต่อฉู่เหมียนยิ้ม “พูดมาเถอะ ไม่เป็นไรหรอก”คำพูดที่ออกมาจากปากของลู่เจียวเจียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวกับเธอ…ฉู่เหมียน คงไม่ใช่เรื่องดีแน่“ลู่เจียวบอกว่า เธอจะฆ่าคุณซะ...” ซางหานพูดฉู่เหมียนเม้มปาก เป็นอย่างที่คิดไว้จริงด้วย“เพราะงั้นคุณหมอฉู่ ตอนนี้คุณต้องระวังตัวตอนอยู่ในโรงพยาบาลนะคะ เพราะทุกคนต่างก็คิดว่าคุณเป็นคนแอบเขียนจดหมายร้องเรียน” ซางหานเตือนฉู่เหมียนฉู่เหมียนพยักหน้า ลูบหัวซางหาน “ได้ พี่รู้แล้ว ไปทำงานเถอะ!”“

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 289

    ร่างกายของฉู่เหมียนเบี่ยงหลบทัน ทำให้มือของหลิ่วอิงพลาดเป้าหลิ่วอิงขมวดคิ้ว “แกยังกล้าหลบอีกเหรอ?”“พ่อแม่ฉันยังไม่เคยกล้าตีฉันเลยสักครั้ง คุณเป็นใครกันถึงมาทำแบบนี้?” ฉู่เหมียนถามหลิ่วอิงอย่างท้าทายหลิ่วอิงอึ้งไปชั่วขณะ เธอจ้องฉู่เหมียนด้วยความโกรธจนแทบจะระเบิดออกมา“ถ้าฉันมีลูกสาวอย่างแก ฉันจะ...” หลิ่วอิงชี้ไปที่ฉู่เหมียน ร่างกายสั่นเทาด้วยความโกรธฉู่เหมียนยิ้ม “โชคดีที่ฉันไม่ใช่ลูกสาวของคุณ และคุณก็ไม่มีลูกอย่างฉัน”พูดตามตรง ถ้าเธอมีแม่แบบหลิ่วอิง เธอก็อยากจะกระโดดตึกตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด!“นี่แก! นังตัวแสบ!” หลิ่วอิงโมโหจนสติแตกลู่อี้ที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่เงียบ ๆ อดรู้สึกไม่ได้ว่าฉู่เหมียนกับแม่ของเขาไม่เพียงแต่หน้าตาคล้ายกันแต่กระทั่งนิสัยที่ดื้อรั้นก้าวร้าวก็เหมือนกันอย่างน่าประหลาดลู่อี้กลืนน้ำลายลงคอ แล้วก็เห็นฉู่เหมียนเดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมาหลิ่วอิงที่โกรธจนหน้ามืดก็หันหลังกลับมุ่งหน้าสู่ห้องประชุมทันที เห็นว่าทั้งสองคนดูเหมือนจะเจรจาเข้าใจกันเป็นอย่างดีลู่อี้อดไม่ได้ที่จะดึงแขนหลิ่วอิงไว้ แล้วถามขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว “แม่ครับ แม่ไม่คิดว่า เ

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 288

    ปัญหาอยู่ที่ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวนี้ นี่มันทำลายอนาคตของลู่เจียวชัด ๆ“งั้นบอกมาสิ ถ้าไม่ใช่เธอ แล้วจะเป็นใคร?” หลิ่วอิงหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ สำหรับแม่คนหนึ่ง อนาคตของลูกสาวถูกทำลาย มันเจ็บปวดกว่าการตายเสียอีก เธอรู้สึกผิดที่ปกป้องลู่เจียวไม่ได้ รู้สึกว่าในเมื่อลู่เจียวทุกข์ เธอก็ทุกข์เหมือนกัน…“ใครจะไปรู้ว่าลูกสาวคุณเมาแล้วพูดอะไรออกมาบ้าง สรุปแล้ว…” ฉู่เหมียนเดินไปหาหลินเฮิงชุย เธอยกจดหมายไม่เปิดเผยตัวตนขึ้นมาดู “คุณหมอคะ ฉันมาเพื่อชี้แจงว่าจดหมายฉบับนี้ไม่ใช่ฉันที่เป็นคนเขียน”“ถ้าคุณหมอจะสอบสวน ฉันจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่” ฉู่เหมียนไม่กลัว เธอไม่ได้เขียน ก็คือไม่ใช่เธอเขียน เธอเกลียดลู่เจียวมาก แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอไม่เคยคิดจะทำร้ายลู่เจียว ใช่ว่าเธอไม่สู้คน เพราะเธอสู้ได้มากกว่าใคร แต่เพราะลู่เจียวเป็นคนที่กู้ว่างเชินรัก เธอจึงอดทนมาตลอด แต่ถ้าตระกูลลู่มาใส่ร้ายเธอ ฉู่เหมียนจะไม่ยอมอดทนอีกต่อไป“ได้ครับ ฉู่เหมียน ผมเข้าใจแล้ว” หลินเฮิงชุยตอบกลับอย่างจริงจังหลิ่วอิงยังคงไม่พอใจ “คุณหมอคะ ลูกสาวฉันถูกพักงานใช่ไหม? ฉันต้องการให้เธอโดนพักงานด้วย!”เมื่อได้ยินคำพูดนั้

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 287

    ห้องประชุมโรงพยาบาล ตรงข้ามคุณหมอหลินเฮิงชุ่ยนั่งกันอยู่สามคน คือพ่อและหลิ่วอิง และลู่อี้ที่มาร่วมประชุมสายเห็นได้ชัดว่าเรื่องของลู่เจียวเป็นเรื่องใหญ่สำหรับตระกูลลู่ ถึงกับทำให้ทั้งสามคนต้องมาโรงพยาบาลกันพร้อมหน้าหลินเฮิงชุยพลิกดูประวัติการศึกษาของลู่เจียวแล้วมองทั้งสามคนอย่างมีนัยยะสำคัญ“คุณลู่… ประวัติการศึกษาของลูกสาวคุณ…” หลินเฮิงชุยพูดขึ้นมาหลิ่วอิงรีบพูดแทรกขึ้นมาทันที “ประวัติการศึกษาของลูกสาวฉันถูกต้อง ไม่มีการปลอมแปลงแม้แต่น้อย!”“ใช่ครับ แต่ตอนนี้มีคนแจ้งว่าคุณลู่เจียวได้เข้าเรียนคณะแพทย์โดยการแย่งโควตาของคนอื่น” หลินเฮิงชุยพูดด้วยสีหน้าซับซ้อน การแย่งโควตาเรียนถือเป็นเรื่องใหญ่ เทียบได้กับคดีอาชญากรรม“ใครเป็นคนแจ้ง?” ลู่อวี้เหิงหน้าตาเปลี่ยนไปทันที “นี่มันใส่ร้ายลูกสาวผมชัด ๆ!”หลินเฮิงชุยรีบพูดขึ้นมา “คุณลู่ครับ อย่าเพิ่งใจร้อนนะครับ ตอนนี้เรากำลังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมหลักฐานอยู่”“บอกมาสิว่าใครแจ้ง!” หลิ่วอิงโมโห เธอตบโต๊ะดังปัง “ลูกสาวฉันยังนอนอยู่โรงพยาบาลอยู่เลย ใครมันมาใส่ร้ายลูกสาวฉันแบบนี้!”หลินเฮิงชุยตอบ “เป็นการแจ้งเบาะแสแบบไม่เปิดเผยตัวตนครับ”“แ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status