Share

บทที่ 2

“พ่อพูดถูกทุกอย่างค่ะ หนูไม่มีวันทำให้หัวใจของกู้ว่างเชินอ่อนลงได้ หนูรู้แล้วว่าผิด หนูจะกลับบ้านค่ะ"

เสียงแหบพร่าของฉู่เหมียนดังก้องอยู่ในห้องนั่งเล่นที่ว่างเปล่า

ตระกูลฉู่เป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองอวิ๋น ทั้งยังเป็นตระกูลนักวิชาการทางการแพทย์

คุณปู่ฉู่เป็นนักธุรกิจ คุณย่าเป็นศาสตราจารย์แพทย์หญิงแผนกผ่าตัดศัลยกรรมหัวใจที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ทั้งสองเหมาะสมกันทุกประการ

ตั้งแต่เด็ก ฉู่เหมียนได้รับการปลูกฝังวิชาการแพทย์จากคุณย่า คุณย่าบอกว่าเธอเป็นอัจฉริยะและถูกลิขิตมาเพื่ออาชีพนี้

คุณปู่และคุณย่าได้ปูทางสำหรับอนาคตไว้ให้เธอ พ่อเองก็เตรียมทรัพย์สมบัติไว้มากมายเพื่อรอให้เธอมารับมรดก ในขณะที่แม่บอกว่าเธอจะเป็นแก้วตาดวงใจของพวกเขาตลอดไป

แต่เธอกลับละทิ้งทุกอย่างเพื่อกู้ว่างเชิน ทำให้ตัวเองกลายเป็นคนน่าสมเพชเช่นนี้

เมื่อก่อนเธอคิดว่าตัวเองเป็นนักรบที่แสนจะกล้าหาญ ต่อสู้เพื่อความรัก สง่างามที่สุด

แต่เมื่อคิดดูดีๆ แล้ว มันช่างไร้สมองเสียจริง

ฉู่เหมียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ เธอขึ้นไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งหน้าบาง ๆ

จากนั้นก็เก็บของใช้ส่วนตัวของตนออกไปทั้งหมด

บนผนังด้านหลังโซฟาในห้องนั่งเล่น มีภาพวาดพระอาทิตย์ตกที่เธอและกู้ว่างเชินวาดด้วยกัน

ฉู่เหมียนยืนอยู่หน้าภาพนั้น ปลายนิ้วของเธอสัมผัสมันเบา ๆ อดไม่ได้ที่จะนึกถึงวันแรกที่เธอแต่งงานและย้ายมาที่นี่ด้วยความยินดี

แม่ของกู้ว่างเชินบอกว่ากู้ว่างเชินยินดีจะแต่งงานกับเธอ แต่ขอไม่จัดงานแต่ง

ฉู่เหมียนไม่สนใจเลย ขอแค่ได้แต่งงานกับกู้ว่างเชินก็พอ มีงานแต่งงานหรือไม่ก็ไม่สำคัญ

พ่อเธอได้ยินแบบนั้นก็โกรธมาก บอกว่าเธอไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ รีบร้อนแต่งงานเกินงาม เดี๋ยวชีวิตคู่ก็ล้มเหลว

ฉู่เหมียนกลั้นน้ำตาไว้แล้วปลดภาพนั้นลงมา ฉีกทำลายมันอย่างรุนแรงแล้วโยนลงถังขยะ

ความล้มเหลวครั้งนี้เกือบคร่าชีวิตเธอไปครึ่งหนึ่ง ตอนนี้เธอสำนึกผิดแล้ว

จากนี้ไปขอให้ทุกอย่างราบรื่น

ฉู่เหมียนวางใบหย่าที่กู้ว่างเชินโยนให้เธอในคืนแต่งงานไว้บนโต๊ะ คลี่ยิ้มบาง ๆ งดงามราวกับดอกไม้

“กู้ว่างเชิน สมใจคุณแล้วล่ะ ขอให้มีความสุขนะ”

หลังจากปิดประตูบ้าน ฉู่เหมียนหันกลับมา เห็นรถปากานีสีม่วงเข้มจอดอยู่หน้าประตู ซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งของเธอเอง

ชายหนุ่มคนหนึ่งก้าวลงจากรถ เขายกมุมปากขึ้นแล้วพูดติดตลก “คุณหนูฉู่ ในที่สุดก็ยอมปีนออกมาจากหลุมฝังศพของตัวเองแล้วเหรอ?”

“มาเร็วจังเลยนะ” ฉู่เหมียนเดินอ้อมหน้ารถแล้วขึ้นไปนั่งที่ตำแหน่งคนขับ

โม่อี้เป็นลูกน้องของฉู่เหมียน ตั้งแต่เด็ก ๆ โม่อี้ซุกซน เกือบจมน้ำตายในสระว่ายน้ำแล้ว แต่ฉู่เหมียนเป็นคนช่วยเขาไว้ ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ติดตามฉู่เหมียนมาตลอดและยินดีรับใช้เธอโดยไม่บ่นสักคำ

“แหงสิ ฉันรอวันนี้มาสามปีแล้วนี่”

ฉู่เหมียนรู้สึกเจ็บปวดในใจ เธอคาดเข็มขัดนิรภัยแล้วถามว่า “ทุกคนคิดว่าการแต่งงานของฉันครั้งนี้ต้องล่มแน่นอนกันหมดเลยเหรอ?”

โม่อี้มองฉู่เหมียนอย่างระมัดระวัง ใช้ความเงียบแทนคำตอบของเขา

ดวงตาสีอัลมอนด์ของฉู่เหมียนมืดลงเล็กน้อย

กู้ว่างเชิน ทั้งโลกบอกให้ฉันไม่รักคุณ แต่ฉันดันอยากจะพุ่งชนกำแพงนี้

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉู่เหมียนก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจจนแทบขาด

เธอจับพวงมาลัยด้วยมือข้างหนึ่ง เข้าเกียร์ด้วยมืออีกข้างหนึ่ง เหยียบคันเร่งจนสุด จากนั้นรถก็พุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว

รถปากานีสีม่วงเข้มแล่นไปบนถนนราวกับกำลังระบายความโกรธ

ไม่นานรถก็จอดอยู่หน้าร้านสักแห่งหนึ่ง ฉู่เหมียนลงจากรถแล้วเดินเข้าไป โม่อี้เดินตามมาติด ๆ

“หนีหราน สักลายนี้เลย” ฉู่เหมียนยื่นไอแพดให้ชายคนหนึ่งข้าง ๆ

บนหน้าจอเป็นลวดลายผีเสื้อที่ทั้งแปลกใหม่ สวยงาม และมีชีวิตชีวา

“สักตรงไหนดี?” หนีหรานถามฉู่เหมียน

ฉู่เหมียนถอดเสื้อคลุมออก ด้านในเป็นชุดสายเดี่ยวสีดำ ผิวของเธอขาวราวกับหิมะและมีสัดส่วนโค้งเว้าที่สวยงาม

ไหล่ขวาเฉียงลงมาของฉู่เหมียน มีรอยแผลเป็นลึก

“นี่ไปโดนอะไรมา…” หนีหรานประหลาดใจ

ฉู่เหมียนยังไม่ทันได้ตอบ โม่อี้ก็พูดก่อน “คุณหนูฉู่ทำอะไรไม่คิดสมัยยังเด็ก ดันไปช่วยคนเลว ๆ คนหนึ่งไว้”

หนีหรานเข้าใจในทันที ช่วยกู้ว่างเชินสินะ

เมื่อก่อนฉู่เหมียนชอบกู้ว่างเชิน ทั้งโลกต่างก็รับรู้ เรื่องนี้ยิ่งใหญ่และโด่งดังแพร่หลายไปทั่ว

นอกจากกู้ว่างเชินแล้ว ไม่มีใครที่เธอจะยอมแลกชีวิตเพื่อช่วยเหลือแน่

ฉู่เหมียนนอนบนเตียงพร้อมพูดเสียงเรียบ “ไม่ต้องทายาชา เริ่มสักได้เลย”

หนีหรานอ้าปากค้าง เขาอยากเตือนว่ามันเจ็บมากนะ แต่ก็ไม่อยากจะขัดใจฉู่เหมียน

ฉู่เหมียนมีนิสัยดื้อรั้นมาโดยตลอด ตราบใดที่เธอตัดสินใจแล้ว คนอื่นมาฉุดมาดึงก็รั้งเธอไว้ไม่อยู่

ไม่งั้นเธอคงไม่ล้มเหลวจากกู้ว่างเชินอย่างไม่เป็นท่าขนาดนี้

“แผลนี้ลึกน่าดูเลยนะ”

"เมื่อก่อนฉันไม่ยักรู้ว่าหลังของเธอมีรอยแผลเป็นด้วย เพื่อคนคนนั้น เธอเสียสละมามากมายเหลือเกิน แล้วได้อะไรกลับมาบ้าง?” หนีหรานพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด

ฉู่เหมียนหลับตา ความทรงจำถูกกระชากกลับไปเมื่อสี่ปีที่แล้ว

กู้ว่างเชินถูกลักพาตัว คนร้ายต้องการชีวิตของเขา เธอบ้าบิ่นตามไปคนเดียวหวังจะช่วยถ่วงเวลา

หลังจากที่เธอถูกจับได้ คนร้ายต่อรอง ต้องการให้เธอแลกชีวิตกับเขา เธอก็ยอม

เธอต่อสู้กับคนร้าย หลังของเธอถูกแทงด้วยมีด คนร้ายรู้ว่าเธอเป็นคุณหนูตระกูลฉู่ ถ้าเธอรอดกลับไปทั้ง ๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาคงอยู่ในสังคมต่อไปไม่ได้ จึงคิดฆ่าเธอซะ พวกนั้นมัดหินไว้ที่ตัวเธอแล้วจับเธอถ่วงลงทะเล

น้ำทะเลกลืนกินเธอทีละน้อย เธอสำลักน้ำและจมลงไปเรื่อย ๆ อาการขาดอากาศหายใจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ตั้งแต่นั้นมา เธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้แหล่งน้ำอีก

ความเจ็บปวดแผ่ซ่านจากด้านหลัง ฉู่เหมียนกัดริมฝีปากล่าง

เธออยากปกปิดรอยแผลเป็น ลบหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าตัวเองเคยรักเขาแค่ไหน

ที่ขอไม่ทายาชา ก็เพื่อให้ตัวเองจดจำความเจ็บปวดนี้ไว้ให้ลึกซึ้ง

จากนี้ไป เธอจะมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเองเท่านั้น

...

ในโรงพยาบาล

กู้ว่างเชินนั่งอยู่ข้างเตียง กำลังปอกแอปเปิลอยู่ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงผู้หญิงบนเตียงพูดเสียงอ่อย “อาเชิน หรือว่าเราเลิกกันดีไหม…”

กู้ว่างเชินเงยหน้ามองเธอ น้ำเสียงนุ่มนวลมาก “พูดอะไรไร้สาระ”

“เหมียนเหมียนรักคุณมากนะ ฉันไม่อยากทำร้ายจิตใจเหมียนเหมียน” ลู่เจียวสะอื้น น้ำตาไหลอาบแก้ม

กู้ว่างเชินขมวดคิ้ว เสียงของฉู่เหมียนดังก้องอยู่ในหูเขา… กู้ว่างเชิน เราหย่ากันเถอะ

จนถึงตอนนี้เขายังรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ ฉู่เหมียนจะยอมหย่ากับเขาได้ยังไง

หรือว่าเธอต้องการใช้กลอุบายที่เลวร้ายนี้เพื่อพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้ผลักลู่เจียวลงน้ำ

“เดี๋ยวผมจะพาเธอมาขอโทษคุณ” กู้ว่างเชินยื่นแอปเปิลที่ปอกแล้วให้ลู่เจียว พูดเสียงเรียบ

ลู่เจียวมีทั้งความเศร้าและน่าสงสารอยู่ในแววตา เธอเม้มริมฝีปากไม่รับผลไม้ แต่กลับพูดด้วยความน้อยใจ

“อาเชิน…”

“ผมบอกว่าผมจะรับผิดชอบคุณ นั่นหมายความว่าผมจะแต่งงานกับคุณแน่นอน” กู้ว่างเชินยกมือขึ้น ลูบผม

ลู่เจียวเบา ๆ เพื่อปลอบเธอว่าอย่าคิดมาก

เมื่อได้ยินอย่างนี้ ลู่เจียวก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ความพึงพอใจเกิดขึ้นในใจ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเกลียดฉู่เหมียนเข้าไส้

แม่นั่นครองตำแหน่งภรรยาของกู้ว่างเชินไม่ยอมปล่อย ไม่รู้จักละอายจริง ๆ

กู้ว่างเชินรู้สึกหงุดหงิดใจแปลก ๆ เขาจึงหาข้ออ้างออกไป “ที่บริษัทยังมีเรื่องต้องจัดการ ผมขอตัวก่อน เดี๋ยวค่อยมาหาใหม่นะ”

ลู่เจียวมองตามร่างของกู้ว่างเชิน ความน้อยอกน้อยใจในดวงตาค่อย ๆ จางหายไป

เธอก้มหน้าลง เมื่อนึกถึงฉู่เหมียนก็อดรู้สึกโกรธไม่ได้

ฉู่เหมียนกอดทะเบียนสมรสกับผู้ชายที่ไม่ได้รักตนเอาไว้แล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา

กู้ว่างเชินออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ได้รับโทรศัพท์จากต้วนจิ่นเหนียน

ลูกชายของหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่แห่งเมืองอวิ๋น ประธานบริษัทตระกูลต้วน พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก

เสียงของชายหนุ่มนั้นเกียจคร้าน และมีน้ำเสียงติดตลก “สาวน้อยใสซื่อของนายเป็นไงบ้างล่ะ?”

กู้ว่างเชินเปิดประตูรถแล้วขึ้นไปนั่ง เสียงเรียบเฉย “ลู่เจียวปลอดภัยแล้ว”

“ก็แหงล่ะสิ คนทั้งโรงพยาบาลลงไปรุมช่วยเธอขนาดนั้น เธอจะเป็นอะไรได้?” ต้วนจิ่นเหนียนพูดติดตลก แล้วก็ถามอีก “แล้วเมียนายล่ะ?”

กู้ว่างเชินเย็นชา เลียนแบบคำพูดของต้วนจิ่นเหนียน “เธอจะเป็นอะไรได้?”

ต้วนจิ่นเหนียนเดือดร้อนทันที “เหล่ากู้ ฉันเป็นคนช่วยชีวิตเมียนายไว้นะ วันนี้ถ้าฉันไม่อยู่ตรงนั้น เธอคงจมน้ำตายในสระว่ายน้ำไปแล้ว”

เมื่อได้ยินแบบนี้ กู้ว่างเชินก็ขมวดคิ้ว ภาพฉู่เหมียนที่น่าสงสารเมื่อครู่ผุดขึ้นมาในหัว อดไม่ได้ที่จะกำพวงมาลัยแน่น

แต่ไม่นานเขาก็กลับมาสงบ “นายนี่พูดอะไรตลกดี คนอย่างเธอแม้แต่ทะเลลึกยังกล้าดำ สระว่ายน้ำธรรมดา ๆ จะทำให้เธอจมน้ำพำตายเชียวรึ?”

“หรือว่าแกล้งทำ? ดูไม่เหมือนเลย ถ้าแสดงคงเนียนเกินไปแล้ว” ต้วนจิ่นเหนียนถอนหายใจ พูดอย่างเสียไม่ได้ “ฉู่เหมียนนี่ก็ใจร้ายเกิน เธอไม่รู้หรือไงว่าลู่เจียวเป็นโรคกลัวน้ำ เพราะตอนที่นายโดนลักพาตัว เธอเป็นคนไปช่วยนาย จากนั้นก็เลยเป็นคนกลัวน้ำตั้งแต่นั้น แต่ดันไปตอกย้ำปมเธออีก”

คนอื่นอาจไม่รู้ แต่ต้วนจิ่นเหนียนรู้

เหตุผลที่กู้ว่างเชินอยากแต่งงานกับลู่เจียว ก็เพราะตอนที่เขาถูกลักพาตัว ลู่เจียวช่วยชีวิตเขาไว้

ลู่เจียวช่วยชีวิตเขา ดังนั้นเขาต้องปกป้องลู่เจียวไปตลอดทั้งชีวิต

กู้ว่างเชินฟังแล้วรู้สึกหงุดหงิดและกระวนกระวายใจ ราวกับกำลังจะสูญเสียอะไรไปในเร็ว ๆ นี้ เขาพูดเสียงต่ำ “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันวางก่อนนะ”

“เย็นนี้ไปเอสเคไนต์คลับกันไหม?”

“ไม่ไป”

พูดจบ กู้ว่างเชินก็วางสายไป

เขามองไปยังไฟแดงข้างหน้า คำพูดของต้วนจิ่นเหนียนดังขึ้นในหู

…เหล่ากู้ ฉันเป้นคนช่วยชีวิตเมียนายไว้นะ วันนี้ถ้าฉันไม่อยู่ตรงนั้น เธอคงจมน้ำตายในสระว่ายน้ำไปแล้ว

กู้ว่างเชินขมวดคิ้ว แล้วก็นึกถึงคำพูดของฉู่เหมียนเมื่อกี้

…กู้ว่างเชิน ฉันก็กลัวน้ำเหมือนกันนะ

กู้ว่างเชินเม้มปาก ความสงสัยผุดขึ้นในใจ ฉู่เหมียนจะเป็นโรคกลัวน้ำได้ยังไง

เขาเหยียบคันเร่ง รถแล่นไปถึงบ้านโดยไม่รู้ตัว

กู้ว่างเชินลงจากรถ เปิดประตูแล้วตะโกนเรียกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ฉู่เหมียน”

เขาเปลี่ยนรองเท้า เดินผ่านห้องโถงยาวไปจนถึงห้องนั่งเล่น แต่ก็ไม่เห็นฉู่เหมียน

เมื่อก่อนเวลาเขากลับบ้าน ฉู่เหมียนจะวิ่งลงมาจากบันไดหรือไม่ก็ทำงานยุ่งอยู่ในห้องครัว เธอจะออกมาต้อนรับเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสทุกครั้ง

วันนี้บ้านกลับเงียบมากจนน่าใจหาย

กู้ว่างเชินขึ้นไปชั้นบน เปิดประตูห้องนอนกำลังจะเรียกฉู่เหมียน แต่กลับพบว่าห้องนอนสะอาดสะอ้านและเป็นระเบียบผิดปกติ

กู้ว่างเชินชะงักไป ห้องแต่งตัวก็ว่างเปล่า

แปรงสีฟันคู่ในห้องน้ำก็เหลือแค่ของเขา

ฉู่เหมียน... ไปแล้วเหรอ
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
สายลม สายลม
พอ กินอารัยเปนอาหาร
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status