8 ม.5 แล้วนะ
“หอม!!”
ร่างระหงในชุดนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ห้าหยุดชะงักบนทางเดินซุ้มโค้งต้นไม้
“ทอฝัน”
เธอมองร่างเตี้ยกว่า ผิวขาวคนจีนวิ่งกระหืดกระหอบในมือคือขนมและน้ำ ทั้งกระเป๋ายังห้อยติดแขน
“โอ๊ย..กว่าจะวิ่งตามทัน เดินก้าวยาวเชียวนะหอม รีบกลับหรือไง”
“วันนี้วันศุกร์ พี่แสนกลับบ้าน”
“ปีสามแล้วนี่นา ใกล้จบแล้ว”
“อืม..มาเราช่วยถือ”
“พอดีวันนี้ป๊าไม่ได้มารับ ว่าจะขอติดรถไปด้วยได้ไหม”
“เอาสิ”
เทียนหอมรับกระเป๋าเป้มาจากเพื่อน ส่วนขนมทอฝันจองกินคนเดียวตลอดทาง
“นั่นรถบ้านหอมมาแล้ว ใช่ไหมนะ” ทอฝันหันหน้าไปมอง “เราจำได้ แต่ทำไมคนขับหล่อขึ้น”
“ฮ่ะ ฮ่า นั่นพี่นนท์ นักมวยที่ค่าย สงสัยวันนี้ลุงพรตไม่ว่าง”
เทียนหอมยิ้มกว้างขณะเดินเข้าไปหาชานนท์
“พี่นนท์คะ วันนี้เพื่อนของส้มขอกลับด้วย แวะไปส่งที่ตลาดให้หน่อยนะคะ”
“ได้เลย เอากระเป๋ามาเดี๋ยวพี่ถือให้”
“ไม่ต้องค่ะ มาเร็วทอฝัน”
เพื่อนร่างเล็กกว่าเดินไปใกล้มือไม้เก้งก้างรู้สึกผิดที่ซื้อของกินมาเต็มมือ จะยกมือสวัสดีก็ทำไม่ได้ ยิ่งสีหน้าขบขันของชานนท์ หน้าตาหล่อยิ่งทำให้ทอฝันเขินอาย
“หอม เออ เรา ไม่กล้าเอาของกินขึ้นรถ”
ทอฝันมองประตูที่ยังเปิดกว้างรอรับเธอ
“ไม่เป็นไร ถ้าหกเลอะเช็ดเอาได้ ไปเร็วมีรถด้านหลังต่อคิวอยู่”
ทอฝันได้ยินจึงค่อยรีบขึ้นไปนั่งตัวลีบ ไม่กล้าล้วงขนมในถุงออกมากินอีก
ปัง!!
“ให้ไปส่งที่ไหนครับ”
“ร้านทองแม่สุวรรณค่ะ”
“อ๋อ! ร้านใหญ่นะ มีหลายสาขา”
ทอฝันนั่งนิ่งไม่ตอบ อายก็อาย แต่หิวก็หิว ชำเลืองมองเพื่อนเห็นเล่นแต่โทรศัพท์ ด้วยความหมั่นไส้ไม่ช่วยกันจึงโพล่งออกไป
“พี่จอม มอหกทับหนึ่ง”
เทียนหอมหันไปมองแปลกใจ กะพริบตาสงสัย
“ทำไมเหรอ”
“เมื่อเช้าเราเดินสวนกัน พี่เขาฝากความคิดถึงมาให้”
เทียนหอมมองทอฝัน สายตาหวานเพ่งสบตา ส่งสัญญาณให้หยุดพูด แต่เหมือนว่าจู่ ๆ ทอฝันกลายเป็นคนเลอะเลือน
“เราว่า อาทิตย์หน้าที่นัดไปดูหนังกับพี่จอม แวะกินข้าวด้วยเลยดีไหม”
“ดูหนังอะไร! ทอฝันพูดไปเองหรือเปล่า” น้ำเสียงเทียนหอมเริ่มไม่ดี ชำเลืองไปทางชานนท์ที่ยังขับรถนิ่งเฉย ลอบกลืนน้ำลาย - - ถ้าพี่แสนรู้มีหวัง!!
“พูดไปเองอะไรกัน นัดกันแล้ว” ทอฝันขยับเปลือกตาขึ้นลงไปทางขนมในมือ จนเทียนหอมเข้าใจจึงช่วยรับไปถือไว้ให้แต่เหมือนไม่ทันเสียแล้ว
“จะไปดูหนังเรื่องอะไรกันครับ”
“เรื่อง....” เทียนหอมเอ่ยค้างไว้หาทางหลบหลีก พอดีกับรถแล่นมาถึงหน้าร้านทอง “ถึงแล้วค่ะพี่นนท์ จอดเลยค่ะ”
ชานนท์ตวัดรถจอดเทียบฟุตบาท มองกระจกหลังเห็นสองสาวเพื่อนกันทำหน้าทำตามีพิรุธ เทียนหอมแย่งกระเป๋าไปถือให้แล้วลงจากรถไปพร้อมทอฝัน
เขาเอานิ้วเคาะพวงมาลัยยามเพ่งริมฝีปากของคนทั้งคู่ที่ยืนเถียงกันอยู่หน้าร้านทองไม่ยอมเข้าไปสักที จนกระทั่งเคลียร์บางอย่างเรียบร้อย สีหน้าของเทียนหอมค่อยดูมีเลือดฝาดขึ้นจึงกลับมาขึ้นรถ
“วันนี้ไอ้แสนมันกลับบ้านไหมน้องส้ม”
“คะ กลับค่ะพี่นนท์ แต่ส้มไม่รู้ว่าจะถึงกี่โมง พี่นนท์ถามทำไมคะ”
“ว่าจะนัดมัน พรุ่งนี้มีแข่งที่สุรินทร์”
“อ๋อ” เทียนหอมค่อยโล่งอก คราแรกเมื่อได้ยินคำถามเกิดกลัวว่าพี่ชานนท์จะฟ้องสุดแสนเรื่องนัดหนุ่มเที่ยว
“น้องส้มไม่ลองไปด้วยกัน”
“พี่แสนคงไม่ยอมหรอกค่ะ อีกอย่างส้มขี้เกียจนั่งรถบิ๊กไบค์”
“พรุ่งนี้เป็นแข่งรถเซอร์กิต ไอ้แสนคงไม่เอาบิ๊กไบค์ไป”
“ส้มจะลองขอดูก่อนแล้วกัน บางทีพี่แสนก็อารมณ์ไม่ดี ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไรหงุดหงิดไม่มีสาเหตุ”
ชานนท์เลี้ยวรถเข้ารั้วบ้าน ลอบมองเทียนหอมจากกระจกหลัง รู้ทั้งรู้ว่าเพื่อนสนิทหงุดหงิดเรื่องอะไรแต่เขาไม่อยู่ในฐานะที่จะพูดได้ จึงใช้วิธีเงียบไปเสียดีกว่า ปล่อยให้พี่น้องคนละสายเลือดเขาค่อยพูดดูแลกันไปเอง
บรื้น....เอี๊ยด...
สุดแสนเลี้ยวรถตีวงกว้างเข้าซองจอดรถสำหรับรถหรูแรงม้าราคาแพงโดยเฉพาะ พาร่างสูงใหญ่ลงจากรถแล้วโน้มตัวเข้าไปหยิบกระเป๋าโน้ตบุคลงมาด้วย คืนนี้มีนัดส่งงานเขียนโปรแกรมให้ทางเว็บ งานอดิเรกที่ทำมาตั้งแต่มัธยมจนมีลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติ งานอดิเรกที่ไม่เคยบอกใครแม้แต่เทียนหอม
“ไอ้แสน”
“อ้าว ไอ้นนท์” สุดแสนยกข้อมือขึ้น “จะห้าทุ่มแล้ว ทำไมยังไม่นอนอีก พรุ่งนี้มีซ้อมเช้านะมึง”
ปัง!!
เขาเดินนำชานนท์ไปยังตัวเรือนไทย ที่ยังเห็นเปิดไฟไว้บางดวง
“วันนี้กูไปรับน้องส้มที่โรงเรียน”
สุดแสนกำลังจะก้าวขึ้นบันไดบ้านพลันหยุดฝีเท้า หันกลับไปมองชานนท์ทั้งตัว “มีอะไร”
“เพื่อนน้องส้ม ชื่อทอฝัน ลูกบ้านร้านทองสุวรรณ”
“คนนี้กูรู้จัก”
“ไม่มีอะไร เห็นพวกน้องพูดเรื่องพี่จอม มอหกห้องหนึ่ง”
“จอม?”
“ถ้าให้กูเดาน่าจะลูกปลัดว่ะ” ชานนท์หยุดไปชั่วอึดใจแล้วควักบุหรี่ออกมาจุดสูบ อัดเข้าปอดแล้วส่งให้สุดแสนสูบต่อ “เห็นว่านัดกันดูหนังอาทิตย์หน้า”
สุดแสนคืนบุหรี่ให้เพื่อนหิ้วกระเป๋าเป้เดินขึ้นบ้าน ทิ้งให้ชานนท์ยืนสูบบุหรี่อยู่คนเดียวเป็นพักกว่าจะเดินกลับที่พัก ส่วนเขาลงฝีเท้าเบากริบบนพื้นไม้เรือนไทยด้วยความเคยชินตั้งแต่เด็ก ตรงไปยังห้องตัวเอง
แอ๊ด....
เดินฝ่าความมืดเข้าไปในห้องนอนวางกระเป๋าก่อน จึงค่อยเดินไปหาเทียนหอมโดยใช้ประตูห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน
ทั่วทั้งห้องอย่างเด็กสาววัยรุ่นสว่างด้วยแสงสลัวจากโคมไฟข้างเตียงแบบตั้งโต๊ะสีเหลืองนวล เขายอบกายลงนั่งขอบเตียงมองดวงหน้าโผล่พ้นผ้าห่มมาเพียงจมูกและลูกตา จึงเลื่อนผ้าห่มลงจนเห็นริมฝีปากกระจับ ใช้ข้อนิ้วไล้ขอบปากเบา ๆ แต่เทียนหอมกลับรู้สึกตัวตื่นขึ้น
“อือ พี่แสนมาแล้ว”
“นอนต่อเถอะ พี่มีงานต้องทำส่ง”
“กี่โมงแล้วคะ”
“ใกล้เที่ยงคืนแล้ว”
เทียนหอมขยับดวงหน้าไปยังฝ่ามือแล้วเอียงศีรษะ ใช้พวงแก้มอย่างเด็กสาวทับมือสุดแสนไว้
“พี่เพิ่งสูบบุหรี่มา”
“อืม”
เขาตอบรับเสียงแผ่ว ดวงตายังทอแสงละมุนมองน้องสาวผ่อนลมหายใจหลับต่อ จึงดึงฝ่ามือออกมาแล้วปัดเส้นผมออกจากกรอบหน้า นั่งอีกครู่หนึ่งจึงค่อยลุกเดินกลับห้องตัวเอง
เทียนหอมแทบปล่อยลมหายใจเสียงดังเมื่อเสียงประตูห้องน้ำระหว่างกันปิดลง เธอขยับเปลือกตาขึ้นจ้องเขม็งแล้วยกมือขึ้นทาบทรวงอก
ชีพจรเต้นรัวและหัวใจกระหน่ำแรงดังกลองตี ยามที่สุดแสนกำลังมองเธอนิ่ง เธอจำต้องแสร้งหลับเพื่อหลบหนีอาการบางอย่าง
เมื่อร่างกายปรับสภาพกลับมาปกติดีแล้วจึงค่อยหยิบตุ๊กตาหมีข้างตัวมากอดไว้ ตะแคงตัวหันหน้าไปทางห้องน้ำ นอนฟังเสียงคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ เสียงลุกเดินไปมา แล้วจึงผล่อยหลับไปจริง ๆ
9 หอม...ฮู ฮา ฮู ฮาเสียงที่ทุกคนในบ้านต้องได้ยินในทุกเช้ายกเว้นวันอาทิตย์ เสียงนักมวยทั้งเก่าใหม่ โค้ช หรือแม้กระทั่งลูกเจ้าของอย่างเฮียเสือเองยังต้องลงไปฝึกวิ่งทุกเช้า เสียงที่เทียนหอมเคยชินและชอบนอนฟังเสมอช่วงตื่นนอนวันเสาร์ เธอไม่จำเป็นต้องรีบตื่นเช้า มีเวลาเถลไถลได้อีกร่วมสองชั่วโมง จึงค่อยออกไปรับอาหารเช้าพร้อมแม่ตรึงใจทว่าวันนี้ เป็นวันที่พี่แสนกลับมาจากมหาวิทยาลัย เปลือกตาขยับเปิดมองแสงขอบฟ้าทอสีส้มสาดร่ำไรในวันใหม่ เตียงสามฟุตครึ่งผ้าปูที่นอนสีชมพูอ่อนหวานแหววอัดแน่นด้วยร่างของสองร่าง เธอเอี้ยวหน้าไปทางด้านหลัง“พี่แสน เช้านี้ไม่ไปวิ่งเหรอ”สุดแสนคลายท่อนแขนออกจากเอวเล็กแล้วพลิกตัวนอนหงาย “อืม” เสียงพึมพำงัวเงีย “นอนดึก”เธอขยับตัวถอยออกตะแคงข้างไปอีกด้าน หันหน้าไปหาพี่ชาย เขาเป็นพวกขี้ร้อน ขนาดเปิดแอร์เย็นฉ่ำขนาดไหนก็ไม่ยอมห่มผ้า ซ้ำยังเหงื่อออก“เย็นนี้พี่ไปแข่งรถใช่ไหม”สุดแสนพลิกหน้าไปอีกด้าน แต่ยังไม่ลืมตา “อือ” แม้ว่าร่างกายอ่อนเพลียและยังง่วงงุน แต่สัมผัสมือเล็กนุ่มที่เริ่มวางบนแผ่นท้องทำเขาตื่นตัว“ขอหนูไปด้วยได้ไหม”นิ้วเล็กเทียนหอมกำลังไต่เล่นบนหลังมือเขา ค่อยเดิ
10 น้องหวาน“พี่นนท์!!”เทียนหอมตะโกนเรียกแล้ววิ่งตรงไปทางชายร่างสูงใหญ่ที่ยืนพิงรถรออยู่ในลานจอด“มาช้านะ ไอ้แสนมึงไปเตรียมตัว เดี๋ยวกูอยู่เป็นเพื่อนส้มให้เอง”สุดแสนโยนเป้สีดำและกุญแจรถให้ก่อนจะเดินลับหายไปยังที่ส่วนสำหรับนักแข่งรถ“ขึ้นไปนั่งบนอัศจรรย์”“ตื่นเต้นจังพี่นนท์” เสียงหวานกระตือรือร้นยามกวาดตามองจนทั่ว เย็นนี้รถเข้าร่วมแข่งมากเป็นพิเศษเพราะเป็นรอบเปิดตัวการแข่งขันประจำปี เธอพาร่างระหงเดินตามชานนท์ขึ้นไปบนอัศจรรย์จนกระทั่งได้มุมดี“แข่งไม่นานหรอก รอบนี้แค่เปิดตัวไม่ได้แข่งจริง เดี๋ยวไอ้แสนคงขอตัวกลับก่อน”เทียนหอมกำลังตั้งใจฟังพลันมีอีกเสียงหวานใสดังขึ้นมาจากด้านล่าง“พี่นนท์คะ!!”สาวสวยจัดในชุดกระโปรงสั้นเสื้อรัดรึงสีขาวคาดแดงบอกยี่ห้อเบียร์ดังยี่ห้อหนึ่ง แต่งหน้าจัดจ้าน น่าจะเป็นพริตตี้ประจำงาน ยืนโบกมือโบกไม้ให้ก่อนจะวิ่งขึ้นมาด้านบนพร้อมกับสาวสวยอีกคน หน้าตาดีกว่า“มาช้าจังเลยค่ะ พวกหนูรอตั้งนาน” หญิงสาวหยุดพูดเหลือบมองเทียนหอม “แล้วคนนี้ ใครคะ”“หนูเป็นน้องสาวพี่แสน” เทียนหอมรีบพูดขึ้นทันที“อุ๊ย! ที่แท้ก็น้องสะใภ้ เฮ้ย! หวาน ๆ คนนี้น้องสะใภ้แก”เทียนหอมแว่วเสียงชาน
11 รัก...ภายในห้องพักของโรงแรมระดับสามดาว เครื่องปรับอากาศเดินเบาเย็นสบายทว่าภายในใจของเทียนหอมนั้นร้อนรุ่มเธอนอนคลุมโปงขดตัว ภาพหญิงสาวคนนั้นติดตา ภาพคนที่สวยกว่าเธอและที่สำคัญ ผู้หญิงคนนั้นเป็นสาวเต็มตัวแล้ว ไม่ใช่เด็กสาวอายุสิบเจ็ดก๊อก ก๊อกเธอเปิดผ้าห่มออกหยิบโทรศัพท์มาดูเวลาห้าทุ่มแล้ว...“น้องส้ม พี่นนท์เอง เปิดหน่อยได้ไหม”เทียนหอมลงจากเตียงแล้วเดินไปทางประตูมองลอดตาแมว เห็นชานนท์หิ้วปีกเพื่อนสนิทมาด้วยเมา!!“ไม่ค่ะ พี่นนท์พาพี่แสนไปนอนที่ห้องตัวเองสิคะ ไม่ก็เปิดห้องใหม่”“ห้องมันเต็มหมดแล้ว” ชานนท์ขยับเอาตัวสุดแสนพิงไว้เพราะร่างสูงใหญ่น้ำหนักเยอะ “พี่มีนัด”เสียงอ้อมแอ้มตอบในลำคอทำเทียนหอมเขินอายเมื่อเข้าใจความหมายแอ๊ด...“ก็ได้ค่ะ พี่นนท์หิ้วไปนอนอีกเตียง แล้วปล่อยไว้แบบนั้นแหล่ะ”เทียนหอมยืนรอหน้าประตูมองไปยังร่างของสุดแสนที่ถูกเพื่อนสนิททิ้งลงบนเตียง“เฮ้ย! นอนดี ๆ” ชานนท์ยาขาเพื่อนขึ้นแล้วถอดรองเท้าให้วางไว้ข้างเตียง“ทำไมถึงได้เมาขนาดนี้” เธอบ่นพึม“มันเสียใจ”“เสียใจอะไรกัน มีสาว ๆ คอยชงเหล้าให้ต่างหากเลยเมาขนาดนี้”“ไม่มีหรอก สองคนนั้นเผ่นหนีไปแล้ว ไอ้แสนมันอาละว
12 วันเกิดเทียนหอมบรรยากาศยามบ่ายคล้อยช่วงเลิกเรียนของโรงเรียนมัธยมชื่อดังประจำจังหวัดในช่วงวันศุกร์ ทำให้เด็ก ๆ วัยรุ่นวุ่นวายกว่าทุกวันปกติ กลิ่นหอมอย่างฝนหลงฤดูในช่วงเดือนตุลาคมใกล้จะปิดเทอม ยิ่งพาให้เทียนหอมเดินสูดดมพลางแกว่งแขนสบายใจร่างระหงในชุดนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายชั้นปีที่หกสวยน่ารักสมวัย รอยยิ้มระบายบนใบหน้า วันนี้วันเกิดเธอ อายุเต็มสิบแปดปีเสียที“หอม”เทียนหอมกำลังเดินผ่านเสาธงพลันหยุดชะงัก เหลียวหลังกลับไปมองแล้วคลี่ยิ้ม“ทอฝัน” เธอส่งยิ้มให้เพื่อนสนิท มองดวงหน้าอย่างคนจีนที่กำลังยิ้มจนหยีเรียวเล็ก“วันนี้วันเกิด ไปฉลองที่ไหนดี”“ไม่ได้ ต้องรอพี่แสน”“พี่แสนอีกแล้วววว แน่ใจหรือว่าจะมา อาทิตย์ที่แล้วก็ไม่มา”“มาสิ รับปากแล้วนี่นา”ตึ๊ง.. - - เสียงข้อความเข้า“นั่น พูดไม่ทันขาดคำ สงสัยข้อความจากพี่แสนสุดหล่อ”เทียนหอมยู่หน้าใส่เพื่อนสนิทแล้วล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากระโปรงนักเรียนจีบรอบ‘อาทิตย์นี้ไม่ได้กลับนะ มีงานต้องส่ง’ทอฝันถอนหายใจแทนเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อน“เป็นไง ไม่มาใช่ไหม”“อืม”เทียนหอมมองข้อความแล้วหดหู่ทันที รีบพิมพ์ข้อความกลับไปอย่างใช้อารมณ์‘เอะ! แ
13 ไอ้แสนนี่ ชักเหิมเกริม“พ่อครูสถิตคะ”เทียนหอมคลานเข่าเข้าไปใกล้เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วพบว่าพ่อครูนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น เป็นห้องเดียวที่ตกแต่งแบบโบราณด้วยพื้นยกและโต๊ะไม้ทรงสี่เหลี่ยมพอประมาณ เห็นว่าเอาไว้ข่มพวกเด็กในค่ายมวยตอนที่เทียนหอมคลานเข่าเข้าไป พ่อครูสถิตกำลังนั่งอ่านหนังสือเอนตัวบนเบาะสามเหลี่ยมลายผ้าขาวม้า“อ้าว กลับมาจากโรงเรียนแล้ว จริงสิวันนี้วันเกิดอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม หรือจะออกไปกินข้างนอก”เธอก้มลงกราบบนพื้นก่อนหนึ่งครั้ง ซึ่งทำเป็นปกติด้วยความเคยชินแล้วขยับไปนั่งใกล้“หนูตั้งใจมาขออนุญาตออกไปข้างนอกกับเพื่อนค่ะ ที่ชื่อทอฝัน พ่อครูจำได้ไหมคะ”“อ้อ! จำได้ ลูกร้านทอง ให้เจ้าพรตมันขับไปให้ เลือกเอาเลยจะเอารถคันไหนไป จะเอาบัตรเครดิตไปหรือเอาเงินสดล่ะ หมื่นหนึ่งพอไหม”“พะ พอค่ะ พ่อครู แต่ว่า...” เทียนหอมอ้ำอึ้งครู่หนึ่งจนพ่อครูปิดหนังสือขยับแว่นสายตายาวออกวาง“พูดมาเถอะ”“ทอฝันชวนหนูไปเที่ยวกลางคืนค่ะ พี่ชานนท์จะไปด้วย แต่หนูคิดว่าควรขออนุญาตพ่อครูเสียก่อน”“แล้วอายุถึงเกณฑ์เข้าแล้วหรือ”“ยังค่ะ”“ถ้ายัง พ่อครูคงอนุญาตไม่ได้ แล้วเจ้าแสนมันไม่กลับมาหรืออาทิตย์นี้” พ่อ
14 พังไม่เป็นท่า เละเทะไปหมดกรี๊ดดดดด....เสียงกรีดร้อง เสียงดนตรี อีกทั้งแสงสีชวนเร้าใจทำให้ทั้งทอฝันและเทียนหอมสนุกสนานจนลืมทุกสิ่ง“ไม่รู้มาก่อนว่ามันสนุกอย่างนี้นะหอม”“ใช่ อุ๊ย ๆ เพลงนี้ เราชอบ”ชานนท์มองสองสาวกำลังสนุกสนานก่อนที่หางตาจะเหลือบมองไปยังประตูทางเข้าผับเมื่อเห็นเงาของผู้ชายร่างสูงใหญ่คล้ายสุดแสน - - ฉิบหายแล้ว ไหนบอกไม่มาเขาตวัดสายตากลับไปทางเทียนหอมที่ยังเต้นสนุกสนานไม่รู้เรื่อง จึงลุกขึ้นยื่นมือออกไปตั้งใจจะสะกิดแต่ไม่ทันเสียแล้วหมับ!!ชานนท์สะดุ้งเฮือกเมื่อแขนซ้ายที่เต็มไปด้วยรอยสักจับลงบนข้อมือ กลืนน้ำลายเหนียวหนืดเหลียวกลับไปมองเพื่อนที่ตอนนี้จับจ้องแต่ร่างของน้องสาวบุญธรรมแต่แล้ว....“พี่แสน!!”ทั้งชานนท์และสุดแสนหันควับไปทางเสียงหวานใสตะโกนดังแข่งกับเครื่องเสียง แล้วหันมองหน้ากันเบิกตากว้างตอนนี้กลายเป็นสุดแสนที่กลืนน้ำลายลงคอเมื่อจู่ ๆ พริตตี้สาวที่เรียกใช้งานประจำทุกคืนวันเสาร์ที่เขากับชานนท์ออกท่องราตรีมาหลายปี ดันโผล่มาพอดี“พี่แสนนน ไม่เจอกันตั้งหลายอาทิตย์ ไม่เห็นเรียกเชอรี่มานั่งเป็นเพื่อนเลยคะ เนี่ยถ้าไม่มีคนจ้างเชอรี่มา เชอรี่คงยังอยู่กรุงเทพ”ร่
15 น้องหอมยอมตลอดฮู ฮา ฮู ฮายามเช้าวันเสาร์เวลาเดิมตีห้า ยังคงเป็นวันซ้อมของเหล่านักมวยของค่าย ส อรุณ ไม่เว้นแม้แต่สุดแสนเขาวิ่งพร้อมเพื่อนร่วมค่ายคนอื่น ทำเช่นนี้มาตั้งแต่อายุเก้าขวบ พลันเหลือบเห็นชานนท์ที่ตาเขียวปั้ด เมื่อคืนเขาคงหนักมือไปหน่อย แต่ด้วยทิฐิเขาจะไม่เอ่ยขอโทษก่อนแสงทองเริ่มสาดส่องทุกคนจึงแยกย้าย ยกเว้นเขาที่เดินเข้าไปในโรงยิมสนามมวย นั่งลงใช้ผ้าพันฝ่ามือหางตาเห็นชานนท์เดินวนไปเวียนมา - - ฮึหลังจากแค่นเสียงในใจสวมนวมผูกเชือกรัดเรียบร้อยจึงเดินตรงไปยังกระสอบทรายเพราะอารมณ์พลุ่งพล่านภายในตั้งแต่เมื่อคืน อาการนอนน้อย ซ้ำต้องการปลดปล่อยพลังงานลบออกมาด้วยการใช้แรง บางทีการพุ่งหมัดใส่กระสอบทรายอาจทำให้เขาลดความงุ่นง่านลง แล้วไปขอโทษเทียนหอมอย่างที่พี่ชายแสนดีพึ่งกระทำพลั่ก ตุบ พลั่ก ตุบหมัดซ้ายเหวี่ยงออกก่อนตามด้วยหมัดขวา ย่อเข่าแล้วศอก จากนั้นเหวี่ยงหมัดพร้อมเต้นฟุตเวิร์ค ได้ออกแรงจนเหงื่อท่วมหน้าตาสุดแสนค่อยมีสีสันขึ้นไม่บึ้งตึงจนทุกคนเข้าหน้าไม่ติดสุดแสนยังคงซ้อมกระสอบทรายต่อโดยที่ไม่รู้ตัวว่าเทียนหอมยืนรออยู่แถวนั้น เวลาผ่านไปราวสามสิบนาทีจึงได้หยุดลง“พี่แสน”เส
16 เล่นใหญ่สุดแสนถอดเสื้อกล้ามกีฬาสีบาสเก็ตบอลตั้งแต่ชั้นมัธยมปีที่ห้าเบอร์เจ็ดขว้างทิ้ง คุกเข่าคู้ตัวโน้มลงจนข้อศอกและใบหน้าแนบพื้น หันหน้าไปทางเทียนหอม ยังส่งสายตาดุดันปนห้ามปรามใส่พ่อครูสถิตคุณจากคราแรกทำทีท่าส่งเสียงดังไม่ได้โกรธอะไรจริงจังสักเท่าไร แต่พอลูกชายคนโปรดย้อนคำ แสดงทีท่าไม่หวั่นเกรงต่อหน้าลูกศิษย์ลูกหาในค่าย ทำให้พ่อครูเสียหน้า เลยยิ่งพาลโมโหขึ้นมาจริง ๆ มือกระชับด้ามไม้เรียวกำแน่นฟาดลงสุดแรงฟวับ ฟวับ ฟวับ!!“พ่อครู!!” เทียนหอมร้องเสียงหลงน้ำตารื้น พุ่งตัวออกไปทันทีใช้ร่างระหงตัวเองโอบร่างสุดแสนไว้กอดแน่น“เพราะหอมเอง ฮื้ออ อย่าตีพี่แสน เพราะหอมเอง ถ้า ฮัก ฮัก ถ้าหอมไม่ ไม่คิดทำอะไรนอกลู่นอกทาง ไปเที่ยว คงไม่เกินเรื่องขึ้น ถ้า ฮัก ฮื้อ ถ้าหอมไม่ได้มาอยู่บ้านหลังนี้ คงไม่เกิดเรื่องขึ้น อย่าตีพี่แสน ฮื้ออ”คำพูดแต่ละคำทำเอาทุกคนในห้องโดยเฉพาะพ่อครูสถิตคุณและตรึงใจสะอึกขึ้นเกร้ง!พ่อครูทิ้งไม้เรียวลงพื้นย่ำเท้าไปนั่งที่เดิม มองสองหนุ่มสาวบนพื้นเรือนด้วยตาแข็งกร้าวก่อนจะอ่อนแสงลง สบสายตากับเมียรักที่ยังยืนอยู่วงนอกห่าง ๆ“ถ้าพวกมึงสองคนรักกัน งั้นกูจะจัดงานหมั้นให้”“ไ
37 ตอนพิเศษสองปีที่แล้ว สามเดือนที่สุดแสนต้องบวชพระแสนจดฝีเท้าเปล่าไร้รองเท้า พาร่างตนเองบิณฑบาตรตามหลังหลวงพ่อ ยามเช้าตรู่ของจังหวัดบ้านนอก รถราไม่ได้ขวักไขว่เช่นเมืองหลวงกรุงเทพฯพระแสนก้มหน้านิ่งเดินผ่านญาติโยมกระทั่งหยุดลงตามหลวงพ่อที่เดินนำหน้า หันบาตรแล้วเปิดฝา ทำตามปกติอัตโนมัติ“นิมนต์เจ้าค่ะหลวงพี่”เสียงหวานใสดังขึ้น เสียงคุ้นเคยที่หลอกหลอนเขาทั้งกลางวันกลางคืนจนแม้แต่การบวชเรียนยังไม่อาจช่วยได้พระแสนเงยหน้าขึ้นมองร่างเล็กทรุดลงคุกเข่ากับพื้นก้มกราบสามครั้งอย่างไม่รังเกียจพื้นดินสกปรก ก่อนจะลุกขึ้นวางถุงข้าวลงในบาตร“หลวงน้องเป็นอย่างไรบ้าง”เสียงเฮียเสือทำให้เขาได้สติหันไปมอง “อืม” คำเดียวสั้น ๆ ตอบรับก่อนจะหันหน้ากลับไปมองดวงหน้าหวานไร้เครื่องสำอางจนเห็นเส้นเลือดพาดลำคอในชุดเสื้อลายลูกไม้สีขาวคอกระเช้า อวดไหปลาร้า“หลวงน้องชอบทานอะไร”เฮียเสือยังพูดขึ้นอีกครั้ง “อะไรก็ได้ แล้วแต่ญาติโยม” พระแสนตอบแบบไม่มอง เพราะสายตายังจ้องที่มือเล็กกำลังวางดอกไม้ธูปเทียนบนฝาบาตร แล้วคุกเข่าลงอีกครั้งจนเขามองเห็นกระหม่อม เส้นผมดกหนาสีอ่อน“หลวงน้องไม่ให้พรหรือ”เขาเอี้ยวหน้าไปมองเฮียเสื
36 NC พี่แต่งงานกับหนูได้ไหม จบบริบูรณ์“ก็พี่อยากเห็นหัวนม นะคนดี” สุดแสนทึ้งชุดเกาะออกจนหลุดพ้นหน้าอกจนได้ กอบด้วยสองมือดันขึ้นแล้วบีบแรง “สวยมาก ใหญ่ล้นมือ พี่เลือกคนไม่ผิดเลย โตมาแล้วสวยอย่างที่คิด”“คนลามก อ่า พี่คิดลามกตั้งแต่เด็ก”“เปล่าสักหน่อย” เขารั้งร่างเล็กลงเข้าหาแทน รัดจนอกอวบเบียดชิดแล้วเป็นฝ่ายตอกลำขึ้นหาท่อนเนื้อยาวสอดใส่แทรกเข้าถี่รัวยิ่งกว่าที่เทียนหอมจัดการขย่ม เขากดสะโพกเธอไว้ให้อยู่นิ่งระดมแรงชายตอกขึ้น“พี่แสน เบา ลึกเกินไปแล้ว”“ไม่เลย อ่า พี่ไม่ได้คิดลามก แต่หอมของพี่น่ารักขนาดนั้น ยิ่งแกล้งหน้ายิ่งแดง ผิวขาวจนเห็นเส้นเลือด พี่มองแล้วชอบมาก หอมของพี่”เทียนหอมหันหน้าประกบปากดูดลิ้น ปล่อยให้พี่ชายกระหน่ำร่างเธอด้วยท่อนเนื้อใกล้สุขสมเต็มทน ก่อนจะผละออก“เดี๋ยวก่อน หยุดก่อน”“หืมม์ อะไร พี่ใกล้แล้วนะ”“หนูยังไม่ได้พูดเลย ปล่อยหนู”สุดแสนจำใจปล่อยมือให้เทียนหอมลุกขึ้นนั่งตามเดิม ร่างระหงหยุดนิ่งก้มศีรษะมองลงมายังคนร่างโตด้านล่าง“เมื่อเย็นนี้ตอนเดินแบบ หนูคิดถึงพี่มาก” เธอโยกร่องรักเบา ๆ “มากเสียจนปวดร้าว” คลึงเคล้นเบียดรอยแยกให้สัมผัสแผ่นท้อง ขนอุยดกหนา “หนูอยา
35 สองปีต่อมาสองปีต่อมาในยามราตรีของจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดที่ได้ชื่อว่าตะวันออกสุดของประเทศเทียนหอมพารถหรูสีขาวที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองขับเคลื่อนผ่านตัวเมืองเพื่อตรงไปยังค่ายมวย ส อรุณ จุดหมายที่เธอตั้งใจไว้ เหลือบมองเวลาบนหน้าปัดจอแอลซีดี“เกือบเที่ยงคืนแล้ว” เอ่ยรำพึงคนเดียวแล้วเหยียดมือเมื่อยขบ “ไม่รู้ว่านอนหรือยังนะ”เธอตวัดรถเลี้ยวจอดหน้ารั้วก่อนจะลดกระจกรถลง ชะโงกหน้าออกไปให้ยามเห็น“ลุงชิดคะ ส้มเองค่ะ”“อ้าวคุณหนูส้ม มาเสียดึก ไม่เห็นมีใครบอกว่าจะกลับบ้าน เดี๋ยวผมเปิดให้ครับ”เธอยิ้มกว้างแล้วเลื่อนกระจกรถขึ้นตามเดิม เร่งเครื่องเลี้ยวตีวงไปจอดยังโรงจอดรถขนาดใหญ่“ขอบคุณนะคะลุงชิด ไม่ต้องช่วยยกของหรอกค่ะ มีแต่ขนม”“ครับ”เธอหยิบถุงกระดาษบรรจุขนมหวานที่แวะซื้อกลางทาง และอีกถุงซึ่งเป็นถุงพิเศษที่เธอนำกลับมาด้วยจากงานวันนี้ดวงหน้าหวานยังเกลื่อนรอยยิ้มอ่อนละมุนขณะก้าวขึ้นบันไดเรือนไทยหลังคุ้นเคยตั้งแต่สิบขวบ นับจากย่างเท้าจดลงไม้กระดานมันเงาหลังนี้งานแฟชั่นโชว์เมื่อเย็น ทำให้เธอตระหนักถึงความสำคัญบางอย่าง ยามเธอเยื้องย่างชุดฟินนาเล่ ชุดสุดท้ายปิดงานแฟชั่นด้วยชุดแต่ง
34 NC“พี่แสน”เธอซาบซ่านเสียวเนินรักยามสองนิ้วรูดผ่านจุดอ่อนไหวข้างใน หัวแม่มือบี้ลงติ่งนุ่มด้านนอก สอดเข้าสอดออกจนเกิดเสียงเฉอะแฉะ“เสียวไหม เด็กดี บอกพี่สิ” สุดแสนดันนิ้วเข้าลึกหยุดนิ่งใช้นิ้วหัวแม่มือบี้เม็ด“อืออ หนู อ่า อ๊า”เขาดึงลากนิ้วออกหงายมือจนปลายนิ้วสัมผัสปุ่มเล็กด้านในร่องเนื้อแสนฉ่ำ กดขึ้น“ตรงนี้ หนูเสียวไหม”เทียนหอมอ้าปากค้าง งอตัวขึ้น มือยังจับที่นอนไว้ด้านหลัง ร่างกายเกิดอาการเครียดขมึงรวดร้าว“ไม่ตอบพี่เลย”เธอมองรอยยิ้มบนใบหน้าคมสันด้านบนแล้วจับข้อมือเขาไว้“พี่แสน อ่า อย่า อืออ หนู”สุดแสนก้มมองรอยแยกสีชมพู กลีบอ่อนบางนุ่มนิ้วถูกแยกแหวกออกด้วยสองนิ้ว และกำลังแดงช้ำจากแรงกดของนิ้วหัวแม่มือ เขาขยับถี่ขึ้นอีก“สามเดือน อืมมม น้ำแฉะไปหมดเลยคนดี พี่ให้สามเดือน สึกแล้วเราจะหาฤกษ์แต่งเลย”“พี่แสน!”เขายกคิ้วแล้วเร่งความถี่แรงขึ้นอีก เฝ้ามองสีหน้ารวดร้าวของเทียนหอมอย่างพึงพอใจ ถ้าเธอคิดจะใช้เรือนร่างมามีอำนาจเหนือเขา เขาก็จะใช้อำนาจทางกายหยัดขึ้นเหนือเธอเช่นกัน“จากนั้นหอมจะไปทำงานนางแบบก็ตามใจ อ่า ใกล้แล้ว ร่องมันตอดนิ้วพี่แล้ว อืม”เขาเกือบจะเลื่อนนิ้วออกแต่คำปฏิเสธห
33 NCจริงอย่างที่สุดแสนพูดมา เธอเปียกชื้นจนแฉะตั้งแต่เริ่มก้าวขาลงอ่าง เธอเริ่มเรียนรู้พลิ้วลิ้นเคลื่อนไหวโฉบปลายลิ้น ด้านข้างแล้วเกี่ยวกระหวัด อ้าปากหอบเอาลมหายใจก่อนจะดันไปด้านหน้าจนประกบ เป็นฝ่ายสอดลิ้นเข้าไปยังโพรงปากอุ่นของเขาแทนข้างในของพี่ชายอุ่นจัดและฉ่ำด้วยน้ำเช่นเดียวกับเธอ เขามีรสชาติบุหรี่เจือจาง ยามปลายเรียวเล็กสอดลอดข้างกระพุ้งแก้มเสาะหาไรฟัน วนไปยังอีกฝั่งแล้วอ้าปากค่อยปล่อยคายลิ้นถอยห่าง มองขอบปากหนาชื้นน้ำ“พี่ชอบไหม ถ้าพี่ให้หนูสองปี พี่จะไม่ต้องเหนื่อยแรง”“จริงหรือ?” น้ำเสียงสุดแสนกระเส่าร้อนระอุ ดันนิ้วจนลึกหมุนวน สังเกตสีหน้าหวานแดงระเรื่อขึ้นทีละน้อย “แน่ใจเหรอว่าจะเป็นฝ่ายขย่มพี่ได้ตลอด”เธอส่งรอยยิ้มยั่วที่เขาเห็นว่ามันมีเสน่ห์ เพราะดวงหน้าหวานพลันดูลึกลับราวแม่มด สุดแสนขยับนิ้วอีกครั้งแล้วพบว่าแววตากวางทอแสงหรี่ปรือช่างดูงดงามเธอเอียงหน้าเข้าหาพยายามเคลื่อนปากเข้าใกล้ ต้องการจูบเขาอีกครั้ง แต่สุดแสนขยับหนีแล้วยิ้ม ขยับนิ้วเร็วขึ้นจนคล้ายรุนแรง เธอวางมือบนผนังห้องน้ำพยุงตัวยันร่างที่อ่อนยวบจากฤทธิ์พิศวาส“พี่ยอมแล้วใช่ไหม”“ยอมอะไร”“ก็..ที่หนูขอไป อือออ” ร
32 18+ ปัง!!สุดแสนย่ำเท้าเข้าไปในห้องนอนของเทียนหอมทันทีเมื่อเธอเปิดประตูให้ หลังจากที่เขาลงฝ่ามือบนแผ่นไม้เสียงดังก้อง“พี่แสนควรทำตัวมีมารยาทบ้าง”“มารยาท?”“พ่อครูกับแม่อยู่บนบ้าน”“แล้วไง พี่บอกไปแล้วว่าเราเป็นอะไรกัน พี่ไม่จำเป็นต้องรักษามารยาทถ้าจะเข้าห้องเมีย และเมียดันลงกลอนประตู!”“พี่แสน เราไม่ได้เป็นอะไรกัน”สุดแสนกระชากข้อมือเธอให้หันหน้ากลับมา “กลืนลงคอจนหมด เอร็ดอร่อยเลียริมฝีปาก แต่กลับบอกไม่ได้เป็นอะไรกัน”เทียนหอมเม้มปากสะบัดหน้าหนี “พี่บังคับหนู”“แน่ใจเหรอว่าบังคับ ไม่เสร็จเหรอ ร้องดังขนาดนั้น”“พี่แสน” เสียงหวานตวัดสูงขึ้นแล้วบิดข้อมือออก “หนูว่าพี่ไปอาบน้ำดีกว่าจะได้เย็นใจ แล้วเราค่อยคุยกัน”“รังเกียจหรือไง”“พี่นี่เหมือน...หมาบ้า พูดไม่รู้เรื่อง”สุดแสนหรี่ตาลงขยับตัวไปยืนด้านหน้า เทียนหอมเบือนหน้าไปอีกทาง เขาขยับต่อไปยืนด้านหน้าอีกครั้ง เธอหนีหน้าเบือนไปตรงข้าม สุดแสนจึงคว้าปลายคางบีบไว้ให้หันมา“ไม่เจอกันห้าปี ปากกล้าขึ้นเยอะ”“ปล่อย หนูเจ็บ” เทียนหอมสะบัดหน้าออกแล้วเดินหนี “พี่เข้าไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน เดี๋ยวหนูไปขัดขี้ไคลให้”“ฮึ เอาใจแบบนี้ มีแผนอีกแล้วใช่ไห
31 เอาให้หลาบจำพลั่ก ตุบ ตับ โครม!!ไม่ถึงสามนาทีเท่านั้น สุดแสนเสยหมัดขึ้นยาวเข้าปลายคางในช่วงจังหวะที่บิ๊กบอยลดเกราะป้องกัน ล้มลงนอนหงาย“หนึ่ง สอง สาม...”แย่แน่ ๆ เทียนหอมหันไปมองนักมวยรุ่นน้องในค่าย กวาดตามองหาคนที่พอจะช่วยได้ แล้วสะกิดทันที กระซิบข้างหู“ไปที่เรือน ไปบอกพ่อครูเดี๋ยวนี้!!”เกร้ง!!!เธอผ่อนลมหายใจเมื่อได้ยินเสียงระฆังหมดยกที่หนึ่ง จึงรีบวิ่งไปยังมุมเสาสีน้ำเงิน“พี่แสน” น้ำเสียงร้อนใจทำให้สุดแสนก้มศีรษะลงมองแล้วคลี่ยิ้ม“เพิ่งยกแรก แค่วอร์มเองหอม รอยกสามก่อน”“หนูให้เด็กไปตามพ่อครูมาแล้ว บิ๊กบอยต้องขึ้นชก ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาค่ายเราจะไม่มีนักมวย”สุดแสนขยับปากยิ้มกว้างให้ “ไม่มีนักมวยก็ไม่ต้องชก”“พี่แสน!!”เขาดีดตัวลุกขึ้นทันเมื่อเห็นสัญญาณมือจากชานนท์ พ่อครูกำลังมาถ้างั้นเขาต้องจัดการมันให้น่วมเสียแต่ยกนี้เลยเกร้ง!!จากที่ตั้งรับในช่วงยกหนึ่ง คราวนี้สุดแสนกลายเป็นฝ่ายรุก จากร่างที่สูงกว่าเหมือนเสียเปรียบกลายเป็นได้เปรียบเพราะช่วงลำแขนที่ยาวกว่า การออกหมัดแต่ละคราวเน้นไปที่ใบหน้าและโดนจัง ๆ หลายหมัด จน บิ๊กบอยเริ่มมึนหัว ตั้งการ์ดรับยกสูงด้วยความโปร่งไม่หนา
30 กลับมาก็หาเรื่องใส่หัวพ่อครูเลย“ซ้าย ซ้าย ขวา ขวา ซ้าย”ตุบ ตุบ ตุบสุดแสนเหวี่ยงหมัดซ้อมบนเป้าชกมวยของเพื่อนสนิทชานนท์ เขาส่งแรงที่อัดอั้นตลอดคืนบนที่นอนเปล่าเปลี่ยว ได้แต่พลิกตัวไปมา แทบจะเรียกได้ว่านอนไม่หลับจนเช้าเลยก็ว่าได้ จึงลุกขึ้นมาวิ่งซ้อมพร้อมเด็กในค่ายแล้วมาออกหมัดเรียกเหงื่อเพิ่มขึ้นไปอีก โดยหวังว่ามันจะทำให้เขาเหนื่อยจนหมดแรง คืนนี้เขาจะได้นอนหลับเป็นตาย ไม่ต้องเอาแต่คิดภาพน้องตอนไร้เสื้อผ้า“พี่แสน”เสียงหวานนุ่มดังขึ้นด้านล่างเวทีขณะที่เขากำลังฟุตเวิร์คพร้อมออกหมัด“ไอ้แสน” ชานนท์เรียกหลิ่วตาไปด้านล่างเวทีสุดแสนหยุดแล้วเอี้ยวหน้าไปมองร่างระหงในชุดอยู่บ้านที่เขาเคยเห็นคนชินตาเมื่อหลายปีก่อน กางเกงขาสั้นและเสื้อยืด ผิดแค่ว่าเทียนหอมสูงและอวบอิ่มขึ้นจนชุดที่สวมกลายเป็นรัดจนเกินไป“พี่ส้ม”“อ้าว คุณส้ม กลับมาแล้ว”คนในค่ายพวกนักมวยรุ่นเล็กใหญ่ที่คุ้นเคยกับเทียนหอมต่างส่งเสียงดังเซ็งแซ่“เฮ้ย!! เบา ๆ โว้ย”ชานนท์ยกยิ้มตบไหล่เพื่อนเมื่อสุดแสนตะโกนเสียงกร้าว“เด็กมันแค่ทักทายน้องส้ม มึงก็อย่าหึงจนหน้ามืด”“หึงอะไร!”สุดแสนปัดมือชานนท์ออกจากไหล่แล้วถอดนวมโยนให้เพื่อนก่อนจ
29 ถึงบ้านแล้วปัง!!!สุดแสนมองหน้าม่อยของน้องสาวยามเดินจูงมือกันขึ้นบ้าน เขาเอียงหน้าก้มลงมอง“เป็นอะไร”“หนูคาดว่า ลุงพรตต้องรู้แน่เลย”“รู้อะไร”“ที่เราทำกันในรถ”สุดแสนเอี้ยวหน้ากลับไปมองลุงพรต “ไม่เห็นลุงพรตจะว่ายังไงเลย ก็ปกติ”“ไม่...ไม่ปกติ เมื่อตอนหนูลงจากรถ ลุงพรตแกหูแดง”“ยุงอาจกัดหูแกก็ได้”“ตลกล่ะ ยุงอะไรจะมากัดในรถ” เธอดึงมือออกเมื่อเดินถึงมาชั้นสอง “หนูอายเป็นนะ ต่อไปห้ามพี่แสนทำรุ่มร่ามอย่างนั้นอีก”สุดแสนไม่ตอบเพียงหัวเราะชอบใจก่อนจะหุบยิ้มเมื่อเห็นพ่อครูเดินออกมาจากห้องนอน“มากันแล้ว แม่ ๆ”เขาถอนหายใจเหนื่อยหน่าย หรี่ตามองพ่อครูอย่างรู้ทัน “เรียกแม่ทำไมพ่อครู”“พี่แสน!!” เทียนหอมกระตุกเสื้อสุดแสนก่อนจะหันไปไหว้พ่อครู “สวัสดีค่ะพ่อ” จากนั้นจึงโผเข้าไปกอดแม่ตรึงใจ “แม่คะ คิดถึงแม่จังเลยค่ะ”“คิดถึงอาร๊ายย เพิ่งจะกลับไปได้สองเดือน แล้วกินอะไรมาหรือยัง ให้แม่ลงครัวไหม” ตรึงใจยังลูบหลังลูกสาวพาเดินไปทางห้องนั่งเล่น“กินมาแล้วครับแม่ ผมกับน้องขอตัวเข้านอนก่อนนะครับ เหนื่อย เพลีย”“แล้วกระเป๋าลูกส้มล่ะ ไม่เห็นมี” พ่อครูพูดพลางชะเง้อมองหา“ไม่ทันได้เก็บมาค่ะ พี่แสนบุกจู่โจม