Share

บทที่ 9 กลับบ้านเดิม

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-07 19:35:00

บทที่ 9

กลับบ้านเดิม

สามวันหลังแต่งงาน หนึ่งวันก่อนออกเดินทางไปชายแดนเหนือ

เซี่ยเหวินหรงพาหยางซูมี่มาเยี่ยมบ้านเดิมหลังจากแต่งงานได้สามวัน ซึ่งเป็นธรรมเนียมของคู่บ่าวสาวที่เจ้าบ่าวต้องพาเจ้าสาวกลับมาเยี่ยมบ้านเดิม ทั้งสองเดินทางมาถึงจวนตระกูลหยางตั้งแต่ยามเฉิน ทุกคนในจวนตระกูลหยางต่างออกมารอต้อนรับชินอ๋องกับพระชายา

หยางหมิงยืนอยู่ด้านหน้า ถัดมาเป็นหยางเฟยเทียน เสิ่นอี๋นั่ว หยางฟางหรง หยางเจียลี่ และบรรดาบ่าวรับใช้ทั้งหมด เมื่อทั้งสองลงมาจากรถม้า ทุกคนต่างยอบกายถวายความเคารพตามบรรดาศักดิ์ฐานะ

หยางซูมี่รีบเข้าไปประคองท่านพ่อและพี่ชายให้รีบลุกขึ้น นางไม่ชินกับการที่ทุกคนต้องมาถวายความเคารพเช่นนี้เลยแม้จะทำตามตำแหน่งฐานะพระชายาชินอ๋องก็ตาม

“เชิญเสด็จเข้าไปด้านในดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”

หยางหมิงเสนอให้ทั้งสองเข้าไปด้านในจะดีกว่า เพราะในเวลานี้ที่ด้านนอกจวนล้วนมีชาวบ้านที่มามุงดูกันหลายคนนัก เซี่ยเหวินหรงตรงเข้าไปจูงมือหยางซูมี่เดินเข้าไปในเรือนหลัก

คล้อยหลังทั้งสองคนเดินจากไป มีสายตาริษยาที่มองมาด้วยความร้อนรุ่ม ยิ่งเห็นชินอ๋องแสดงความโปรดปรานต่อพระชายามากเท่าใด นางยิ่งเจ็บปวดใจมากเท่านั้น ทำไมที่ตรงนั้นไม่เป็นของนาง หรือเพียงเพราะนางไม่ได้เป็นบุตรีที่เกิดจากภรรยาเอกเช่นนั้นหรือ หยางเจียลี่คิดโทษชาติกำเนิดของตน

ทั้งหมดเดินเข้าไปด้านในของเรือนหลักเพื่อพูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบของหยางซูมี่ พูดคุยกันได้สักพักหยางหมิงจึงได้ขอตัวไปทำงานต่อในห้องหนังสือ ซึ่งงานนั้นสืบเนื่องมาจากการที่ชินอ๋องจะต้องออกไปรบที่ชายแดนเหนือ ตัวเขาผู้เป็นเสนาบดีกรมคลัง มีหน้าที่เบิกจ่ายเงินเพื่อใช้ในการจัดหาเสบียงของกองทัพ

หยางเฟยเทียนจึงชวนชินอ๋องไปนั่งที่ศาลาใกล้กับสระน้ำที่มีดอกเหลียนฮวาสีชมพูออกดอกบานสะพรั่ง ซึ่งเป็นมุมโปรดของเขากับน้องสาว หยางเฟยเทียนกับเซี่ยเหวินหรงชิมชาจากดอกเหลียนฮวาและเล่นหมากล้อมกัน หยางซูมี่เห็นทั้งคู่ดูเข้ากันได้จึงขอตัวกลับไปที่เรือนไผ่หลิวของนาง

หยางเจียลี่เมื่อสบโอกาส จึงเดินเข้าไปในศาลาให้สาวใช้นำพิณเข้ามาด้วย เพื่อนางจะได้บรรเลงพิณให้ชินอ๋องได้ต้องตาต้องใจนาง แต่ความหวังเป็นอันต้องมอดดับลง

“เปิ่นหวางชมชอบการเดินหมากล้อมอย่างสงบมากกว่า ขอคุณหนูรองไปเล่นพิณที่อื่นเถิด”

หยางเฟยเทียนถึงกับกลั้นเสียงหัวเราะไม่ได้ น้องรองของเขานั้นช่างใจกล้าเหลือเกินชินอ๋องเป็นถึงพี่เขยของนาง แต่นางยังกล้ามายั่วยวนชินอ๋องเช่นนี้อีก

เมื่อเรื่องนี้รู้ไปถึงหูหยางหมิง เขาจึงสั่งกักบริเวณหยางเจียลี่และให้คัดตำราสอนหญิง 100 จบ ทั้งยังพูดตัดความหวังของบุตรสาว ว่าให้นางมองหาชายอื่นซะหากยังไม่เลิกราเขาจะให้นางแต่งไปกับพ่อค้าพาณิชย์ที่ชายแดนทางใต้ เรื่องนี้ทำให้หยางเจียลี่ยิ่งคับแค้นใจมากขึ้นถึงความลำเอียงของบิดา

เรือนไผ่หลิว

หยางซูมี่เดินเข้าไปที่ท้ายเรือนไผ่หลิวที่มีห้องเก็บสมุนไพรของท่านแม่ นางสั่งให้บ่าวสองคนที่คอยดูแลแปลงสมุนไพรเก็บฉั่งฉิกที่มีอยู่เต็มแปลง นำไปตากแดดให้แห้ง แล้วนำมาบดเป็นผงให้ละเอียด ฉั่งฉิกนั้นเป็นสมุนไพรห้ามเลือด แก้ปวด ลดอาการบวม

ผู้คนในยุคนี้ยังไม่รู้จักต้นฉั่งฉิกว่ามีสรรพคุณห้ามเลือดที่ได้ผลชะงัดนัก หยางซูมี่ขอบคุณตนเองที่ตอนเป็นไผ่หลิวนั้นเคยอ่านตำราสมุนไพรมาบ้าง ทำให้นางรู้สรรพคุณของสมุนไพร ผงฉั่งฉิกที่จะทำใหม่นั้นคงต้องรออีก 7 วันถึงจะได้ แต่ชินอ๋องต้องออกเดินทางพรุ่งนี้แล้วจึงสั่งให้เจินเจินเข้าไปเอาผงฉั่งฉิกที่ห้องเก็บสมุนไพรมา 100 ขวด เพื่อนำไปมอบให้ชินอ๋องก่อน

กลับเข้ามาในห้องส่วนตัวของหยางซูมี่ที่เรือนไผ่หลิว เมื่อแน่ใจว่าปิดประตูสนิทแล้วหยางซูมี่จึงสั่งให้เจินเจินและซินซินงัดไม้กระดานที่อยู่ข้างเตียงเพื่อนำหีบไม้ที่บรรจุของสำคัญของออกมา

เมื่อตรวจดูว่าไม่มีผู้ใดเข้ามาแอบเปิดดู จึงให้เจินเจินกับซินซินยกไปเก็บที่เดิม นางเพียงแค่หยิบสมุดออกมาเล่มเดียว เจินเจินเอาสมุดที่คุณหนูส่งให้เก็บไว้ในอก สมุดเล่มนี้ของคุณหนูนั้นล้ำค่ามากจะให้หายไปไม่ได้เด็ดขาด

“เจ้านำสมุดเล่มนี้ไปมอบให้เจ้าของหอหนังสือแสงจันทร์ เมื่อรับเงินมาแล้วก็นำไปฝากที่หอรับฝากเงินตงตง เสร็จแล้วซื้อขนมดอกกุ้ยฮวากับขนมเซาปิ่งกลับมาด้วย” เจินเจินรับคำสั่ง ก่อนจะลอบออกจากจวนไปทางประตูข้าง แต่นางไม่รู้เลยว่ามีองครักษ์ไป๋หู่แอบติดตามไปด้วย

หยางซูมี่สั่งการสาวใช้เสร็จ ก็ทำทีเป็นหยิบเครื่องประดับล้ำค่าที่ยังเก็บไว้ในช่องลับเอากลับไปจวนชินอ๋องด้วย จากนั้นจึงเดินไปที่ศาลาเหลียนฮวาเพื่อไปหาพระสวามีกับพี่ชายใหญ่ที่นั่งเล่นหมากล้อมกันมาเกือบ 1 ชั่วยามแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ ศาสตร์การเดินหมากล้อมนั้นนอกจะฝึกสมาธิ สติปัญญา ยังบอกนิสัยใจคอของผู้เล่นได้ด้วย

หยางซูมี่สังเกตว่าเซี่ยเหวินหรงวางหมากได้อย่างเฉียบคม ตรงไปตรงมา แต่บางทีก็ดูใจอ่อนมักอ่อนข้อให้พี่ชายใหญ่ของนางเสมอ หยางซูมี่อดจะนึกชื่นชมเซี่ยเหวินหรงในใจไม่ได้ว่าเขาช่างรู้จักเข้าหาครอบครัวของนาง

หยางซูมี่นั่งมาสักพักแต่แปลกใจว่าไม่เห็นหยางเจียลี่เลย ขนาดหยางฟางหรงยังมานั่งดูหมากล้อม หากเป็นปกติหยางเจียลี่จะต้องเข้ามาเสนอหน้า แฮ่ม! ต้องมาให้พระสวามีของนางเห็นหน้าแล้ว หยางเฟยเทียนสังเกตเห็นหยางซูมี่หันซ้ายหันขวาจึงรู้ว่าต้องมองหาหยางเจียลี่เป็นแน่

“ชินอ๋องทรงต้องการความสงบ จึงไล่น้องรองออกไปเล่นพิณที่อื่น” หยางซูมี่เลิกคิ้วมองคนข้างตัว อดยกยิ้มขึ้นมาไม่ได้

“กระหม่อมอยากลองเล่นหมากล้อมบ้างพ่ะย่ะค่ะ”

หยางฟางหรงหันมาเอ่ยกับหยางซูมี่ แต่ก่อนนั้นหยางฟางหรงมีนิสัยซุกซน ชอบรังแกบ่าวไพร่ และยังเคยกลั่นแกล้งหยางซูมี่คนเก่าแต่หลังจากที่ไผ่หลิวเข้ามาอยู่ร่างนี้ นางก็ได้กำราบเด็กนิสัยเสียจนหยางฟางหรงมีนิสัยที่ดีขึ้นมาก

“อยู่เพียงลำพัง ไม่ต้องใช้คำราชาศัพท์หรอก มาเถอะพี่จะเล่นกับเจ้าเอง”

หยางซูมี่หันไปสั่งซินซินให้ไปนำกระดานหมากล้อมเข้ามา เซี่ยเหวินหรงเองก็ชะงักการเดินหมาก เขาเคยได้ยินมาว่าหยางซูมี่นั้นอ่อนด้อยในศาสตร์ทั้งสี่ เขาเองก็ยังไม่เคยเห็นหยางซูมี่เดินหมากสักครั้ง นับว่าการมาที่จวนตระกูลหยางไม่เสียเที่ยวแล้ว

หยางซูมี่เดินหมากกับหยางฟางหรงอย่างสนุกสนาน ไม่เหมือนการเดินหมากของเซี่ยเหวินหรงกับ หยางเฟยเทียนที่ดูจริงจัง หยางซูมี่เพียงเดินหมากอย่างง่ายๆ เป็นการชี้แนะการเดินหมากให้กับหยางฟางหรง

ทั้งคู่เดินไปเกือบครึ่งชั่วยามผลออกมาว่าหยางซูมี่ชนะ แม้ว่าหยางฟางหรงจะแพ้แต่เขากลับรู้สึกภูมิใจมากกว่า ครั้งก่อนที่เขาเดินหมากกับพี่หญิงใหญ่นั้น เล่นเพียงหนึ่งเค่อเขาก็แพ้แล้ว ครั้งนี้ถือว่าเขาเล่นเก่งขึ้นใช่หรือไม่

เซี่ยเหวินหรงมองดูพระชายาตัวน้อยของตนอย่างประหลาดใจ และทึ่งกับการเดินหมากชี้แนะใช่ว่าจะเดินกันได้อย่างง่ายๆ เพราะไม่ได้หวังผลแพ้ชนะ แต่เป็นการชี้แนะแนวทางให้ฝ่ายตรงข้าม อีกทั้งการเดินหมากของหยางซูมี่ก็เหมือนกับการเดินหมากของบุรุษมากกว่าสตรีชนชั้นสูง ที่มักเดินหมากอ้อมไป อ้อมมา กว่าจะรู้ผลแพ้ชนะต้องใช้เวลาหลายชั่วยาม

เมื่อถึงยามอู่หยางหมิงได้ให้พ่อบ้านหยางมาเชิญทุกคนในศาลาให้มาร่วมโต๊ะอาหารกันที่โถงเรือนหลัก ทั้งหมดเมื่อมานั่งกันอย่างพร้อมหน้าแล้วขาดก็แต่เสิ่นอี๋นั่วกับหยาเจียลี่

เซี่ยเหวินหรงที่มีฐานะสูงกว่าจึงเป็นผู้คีบอาหารเป็นคนแรก ทั้งหมดจึงได้เริ่มคีบอาหารให้ตนเองบ้าง หยางซูมี่คอยคีบอาหารใส่จานให้ทุกคนเรียกรอยยิ้มจากทุกคนที่นางช่างเอาอกเอาใจเช่นนี้ เซี่ยเหวินหรงเองก็ทานได้มากถึง 2 ถ้วย บรรยากาศบนโต๊ะอาหารไม่ได้คร่ำเคร่งมารยาทมากนั้น มีเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะเป็นระยะ เซี่ยเหวินหรงรู้สึกอุ่นวาบในอก รู้สึกว่านี่ซินะถึงจะเป็นการทานอาหารของครอบครัว

หลังจากทานข้าวเสร็จ หยางซูมี่พาสวามีมาที่เรือนไผ่หลิวด้านหลังของเรือน นางพามาที่ห้องเก็บสมุนไพร นำผงฉั่งฉิกออกมาให้เซี่ยเหวินหรงดู พลางอธิบายถึงสรรพคุณห้ามเลือด ทั้งยังทดลองกับนิ้วมือของบ่าวผู้หนึ่ง โดยใช้มีดกรีดเป็นรอยเพียงเล็กน้อยให้เลือดไหลออกมา

เมื่อเทผงฉั่งฉิกลงไป เพียงชั่วลมหายใจเลือดก็หยุดไหล เซี่ยเหวินหรงถึงกับหัวเราะออกมาอย่างยินดี แล้วคว้าตัวหยางซูมี่เข้ามากอดแนบอกแกร่ง บ่าวในเรือนต่างรีบก้มหน้าแล้วเดินออกไปจากห้องเก็บสมุนไพรทันที

หยางซูมี่ถึงกับใจสั่นสะท้านกับสัมผัสแนบชิด ใบหน้างามซับสีเลือดสองข้างแก้ม เซี่ยเหวินหรงปล่อยมือออก แต่ไม่วายหันกลับมาจุมพิตที่หน้าผากกลมมนของหยางซูมี่ นางถึงกับทำวางหน้าไม่ถูกรีบหันหลังเดินออกไปจากห้องเก็บสมุนไพรทันที ร่างสูงเพียงยกยิ้มอ่อนโยนแล้วมองตามร่างบางที่เดินออกไป ก่อนจะเร่งตามไปง้อคนที่เขินอายจนรีบเดินหนีเขาไป

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 10 ธิดาเทพลี่จิน

    บทที่ 10ธิดาเทพลี่จิน วันออกเดินทางของกองทัพพยัคฆ์ทมิฬ แม่ทัพใหญ่ผู้นำทัพในครั้งนี้คือชินอ๋องเซี่ยเหวินหรง ฉายาอ๋องทมิฬ ตัวตนในเมืองหลวงของเขานั้นเปรียบดั่งคุณชายผู้สูงศักดิ์ แต่เมื่อเขาสวมเกราะสีดำเงาวาว ขี่อาชาโลหิตสีนิลนั้น รูปลักษณ์ช่างดูน่าเกรงขาม ประกอบกับหน้ากากสีดำปีกนกอินทรีสยายปีก ปิดเพียงครึ่งหน้าบนเผยให้เห็นปากหยักหนาที่ออกคำสั่งเคลื่อนทัพหยางซูมี่มองตามร่างสูงใหญ่ที่ค่อยๆ ห่างไกลไปจากสายตา นางนึกถึงร่างสูงเมื่อครึ่งชั่วยามก่อน ที่เข้ามาออดอ้อนให้นางสวมชุดเกราะให้ ก่อนจะลาจากกัน ยังมารังแกกันอีก ริมฝีปากหยักหนาที่ฉกมาขโมยจูบหอมหวานจากนางราวกับจะกลืนกินดวงวิญญาณของนางให้ออกจากร่างไป รสสัมผัสจากคราแรกอ่อนโยนดั่งปีกผีเสื้อกลับร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเมื่อเห็นว่านางหายใจไม่ออก เขาถึงได้ผละออกมา แล้ววนกลับมาจูบอีกครั้งจนปากของนางบวมเจ่อ แดงก่ำไปหมดแล้ว ฮือออ ท่านอ๋องบ้า“พี่จะรีบไปรีบกลับ หลังจากเสร็จศึกนี้ พี่จะมารับรางวัลจากเจ้านะมี่มี่” เซี่ยเหวินหรงยิ้มกริ่ม ส่งสายตาเจ้าเล่ห์ส่งมาให้หยางซูมี่ นางถึงกับวางหน

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-07
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 11 โทสะของพระชายาชินอ๋อง

    บทที่ 11โทสะของพระชายาชินอ๋อง จวนชินอ๋อง พ่อบ้านหลินคือคนที่ท่านอ๋องไว้ใจให้มาดูแลจวนชินอ๋อง แม้จะอายุ 50 ปี แต่ยังดูคล่องแคล่ว แข็งแรง สมกับเป็นคนที่เซี่ยเหวินหรงไว้ใจ แต่วันนี้เขากลับอยากจะกัดลิ้นให้ตายไปเสีย ไม่รู้ว่าเหตุใดพระชายาถึงกล้าทำเรื่องเช่นนี้ได้ หากชินอ๋องทรงทราบ คงได้มีใครตายเป็นแน่หลังจากวันนั้นที่พระชายาไปเยี่ยมบ้านเดิม แล้วมีสาวใช้ลอบออกจากจวนไป ไป๋เยียนองครักษ์ ไป๋หู่ได้ลอบติดตามไปด้วย หลังจากนั้นจึงลอบสืบความจนทราบว่าพระชายาคือ หิมะสีชาด เจ้าของนามปากกาที่กำลังโด่งดังในเวลานี้ เพราะหิมะสีชาดได้แต่งนิยายประโลมโลกที่มีฉากร่วมรักเร่าร้อนดุเดือดเผ็ดมัน หนังสือที่ออกมาต่างมีราคาแพงถึงเล่มละ 10 เหรียญทองแม้แต่พระสนมในวังยังลอบให้คนออกมาซื้อ ตัวเขาที่เป็นพ่อบ้านยังแอบซื้อมาอ่านเลย ทั้งยังเคยวิจารณ์ว่าหิมะสีชาด ช่างเป็นบุรุษที่ยอดเยี่ยมนัก แต่งหนังสือออกมาได้สนุกและตื่นเต้นเร้าใจมาก ทั้งเนื้อเรื่องก็มีความหลากหลาย เขาไม่คิดเลยจริงๆ ว่าหิมะสีชาดจะคือพระชายาหยางซูมี่ หากชินอ๋องทรงทราบต้องกริ้วมากเป็นแน่ แล้วถ้าหากม

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-07
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 12 ชำระหนี้แค้น

    บทที่ 12ชำระหนี้แค้น จวนตระกูลเถา หลังจากลงจากรถม้า เถาซูเม่ยรีบตรงกลับไปที่เรือนนอนของนางทันที ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด สั่งให้สาวใช้ข้างกายออกไปเฝ้าหน้าห้อง ห้ามผู้ใดเข้ามารบกวนโดยเด็ดขาด เมื่อในห้องปลอดคนแล้วเถาซูเม่ยจึงบรรจงหยิบกล่องไม้ออกมาค่อยๆ เปิดออกดู ภายในกล่องไม้บรรจุกำไลหยกสีเขียวกระจ่างใส 1 วง เมื่อลองเพ่งพิศจะเห็นว่าด้านในของกำไลหยกมีอักษรแกะสลักไว้อ่านว่า ‘เฟยเทียน’ นอกจากจะมีกำไลหยกยังมีกระดาษแนบมาด้วยหนึ่งแผ่น เถาซูเม่ยคลี่กระดาษเปิดอ่านดู"เพียงแรกพบสบตา ใจของข้าก็สั่นไหว เสียงสกุณณาในพงไพร ไม่อาจเทียบเสียงหัวเราะของเจ้าเลยกำไลหยกวงนี้คือตัวแทนแห่งข้า"หยางเฟยเทียนเมื่ออ่านจบในใจของเถาซูเม่ยให้รู้สึกอุ่นวาบในอก ใจของนางก็เฝ้าเพ้อฝันถึงบุรุษผู้นี้มานานแล้ว ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งบุรุษที่นางหลงรักจะใจตรงกับนางเช่นกันเถาซูเม่ยนั้นได้เพียงแค่แอบมองคุณชายหยางเฟยเทียนเพียงไกลๆ ไม่เคยอาจหาญไปบอกความในใจให้เขารู้ มีเพียงเมื่อหนึ่งปีก่อนที่นางได้พบกับเขาที่เหลาอาหาร ระหว่างกำล

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-08
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 13 พระชายารอง

    บทที่ 13พระชายารอง เมื่อหัวหน้าเผ่าสิ้นใจไป ทำให้ภายในเผ่าหูเจี๋ยน่าระส่ำระสาย มารดาของหูเจี๋ยลี่แต่งตั้งบุตรชายบุญธรรมของนางที่อายุเพียง 12 หนาวขึ้นมาเป็นหัวหน้าเผ่า แต่หลังจากนั้นเพียง 3 วันกลับถูกกองทัพของชินอ๋องยกทัพมาตีจนแตกพ่าย ความหวังที่จะเสวยสุขกับชู้รักและบุตรชายที่เกิดกับชู้รักเป็นอันต้องจบสิ้นลงเซี่ยเหวินหรงตัดสินให้ประหารครอบครัวของหัวหน้าเผ่าหูเจี๋ยน่า จัดตั้งรองแม่ทัพลู่เหอกังขึ้นมาดูแลจัดการเป็นการชั่วคราวแทน หากใครสวามิภักดิ์เขาจะละเว้นชีวิต ส่วนคนที่ไม่ยอมจำนนจะต้องถูกสังหารทั้งหมด ส่วนธิดาเทพลี่จิ่นนั้นถูกคุมตัวอยู่ภายในวิหารเทพ วิหารเทพ เซี่ยเหวินหรงเดินทางไปที่วิหารเทพพร้อมกับไป๋ลู่ และไป๋เย่ เขาเดินหยุดไปยืนตรงหน้าของลี่จิ่นที่กำลังคุกเข่าอยู่หน้ารูปปั้นธิดาเทพ นางหันมายกยิ้มแผ่วเบา แล้วลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับเซี่ยเหวินหรง"ข้าได้แก้แค้นแทนท่านแม่ของข้าแล้วเจ้าค่ะ ชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ข้าขอมอบให้ชินอ๋อง"ลี่จิ่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยอ่อนหวาน เดิมทีนางลอบติดต่อกับเซี่ยเหว

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-08
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 14 กลับเมืองหลวง   

    บทที่ 14กลับเมืองหลวง พ่อบ้านหลินเมื่อทราบข่าวจากจดหมายที่ชินอ๋องส่งมาถึงเขา ว่าชินอ๋องจะทรงรับพระชายารองเข้ามาก็รู้สึกเหมือนน้ำท่วมปาก จะบอกกล่าวพระชายาหยางซูมี่ก็ไม่กล้า จะไม่บอกก็ไม่ได้ เพราะชินอ๋องทรงส่งจดหมายฝากมาให้พระชายาด้วย ทั้งยังย้ำมาในจดหมายที่เขียนถึงเขาว่า อย่าได้สนใจกับข่าวลือ ให้พระชายาเชื่อมั่นในท่านอ๋องตัวเขานั้นก็เริ่มแก่จนผมสีขาวขึ้นแซมผมสีดำแล้ว ยังต้องมาวุ่นวายเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวอีก เขาได้แต่ถอดถอนใจ อยากจะรู้นักว่าทำไมท่านอ๋องถึงกล้ารับพระชายารองเข้ามา รู้ทั้งรู้ว่าพระชายานั้นทรงชิงชังบุรุษหลายใจ และรังเกียจการใช้สามีร่วมกับสตรีอื่นสิ่งที่พ่อบ้านหลินกังวลไม่ผิดจากที่สองสาวใช้คนสนิทของหยางซูมี่ที่กำลังกังวลอยู่ตอนนี้เลย หลังจากที่หยางซูมี่ทราบข่าวเรื่องการรับพระชายารอง นางก็เปลี่ยนไป จากปกติที่มักจะใช้เวลาว่างแต่งหนังสือ นางกลับไปนั่งที่ศาลาจวี๋ฮวา นั่งทอดสายตาออกไปไกลแสนไกล เหมือนกำลังมองทะลุให้เห็นไปถึงยังชายแดนเหนือ อยากจะถามพระสวามีว่าเหตุใดถึงต้องรับชายารองเข้ามา ทำไมไม่บอกนางก่

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-09
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 15 ไม่อาจยอมรับ

    บทที่ 15ไม่อาจยอมรับ เมื่อกลับมาถึงจวน เซี่ยเหวินหรงก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ แม้ว่าหยางซูมี่และบ่าวรับใช้จะมารอต้อนรับเขา แต่ทำไมบรรยากาศช่างดูห่างไกลจากความยินดีนักเขาสัมผัสได้ถึงสายตาที่กล่าวโทษเขามาจากทางพวกบ่าวรับใช้ แม้จะก้มหน้ามองต่ำ แต่ทุกคนต่างก็ลอบส่งสายตาผิดหวังมาให้เขา แม้แต่พ่อบ้านหลินก็เป็นไปกับเขาด้วย แต่คนที่ควรจะต้องผิดหวัง เสียใจกลับเพียงหันมาสบตา แล้วยกยิ้มอ่อนโยนส่งมาให้เขา แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าสายตาของมี่มี่ดูแข็งกร้าวยิ่งนัก"ยินดีต้อนรับกลับมาเพคะ/พ่ะย่ะค่ะ"ทุกคนส่งเสียงกล่าวคำยินดีพร้อมกัน เซี่ยเหวินหรงพยักหน้าแล้วหันไปทางหยางซูมี่"ลำบากเจ้าแล้วมี่เอ๋อร์ เราเข้าไปข้างในกันเถิด"เซี่ยเหวินหรงกำลังจะเข้าไปประคองหยางซูมี่ แต่นางกลับขยับตัวหนี พลางหันไปสั่งความกับสาวใช้ให้ไปเตรียมอาหารและน้ำอาบให้ชินอ๋อง มือหนาชะงักกลางอากาศคว้าเพียงอากาศธาตุเท่านั้น เขากระแอมไอแก้เก้อออกมา หันไปทางไป๋เยียนองครักษ์ที่ให้คอยดูแลหยางซูมี่อย่างสงสัยกับท่าทางของนาง แต่เขาได้รับเพียงสีหน้ากระอักกระอ่วนขอ

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-09
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 16 เอาคืน

    บทที่ 16เอาคืน ลี่จิ่นนั่งรออยู่บนเตียงในเรือนเหมยฮวาจนถึงยามจื่อ จนจะล่วงเข้าไปเช้าวันใหม่ของอีกวันแล้ว นางก็ไม่เห็นเงาของชินอ๋องเลย ใบหน้างามจากที่มีรอยยิ้มหวานประดับตลอดเวลา กลับเริ่มบิดเบี้ยวไม่น่ามอง นิ้วเรียวกำเข้าหากันอย่างคับแค้นใจชินอ๋องช่างโหดร้ายกับนางยิ่งนัก แม้ในคืนวันแต่งงานเขาก็ไม่มาเข้าหอกับนาง การกราบไหว้ฟ้าดินก็ไม่มี ดื่มสุรามงคลเขาก็ไม่ทำสักอย่าง เหมือนการที่นางแต่งเข้ามาเป็นเพียงแค่การแต่งงานในนามเท่านั้น ไฟในใจของลี่จิ่นยิ่งโหมกระพือไปด้วยเพลิงโทสะ ยิ่งเขาทำเช่นนี้นางยิ่งอยากเอาชนะ ส่วนสตรีที่เขารักมั่นจะต้องชดใช้ให้กับนางคนของจวนชินอ๋องไม่มีใครนึกยินดีในการแต่งงานครั้งนี้ พวกเขาต่างเมินเฉยทำราวกับการแต่งพระชายารองเข้ามา เป็นเพียงการรับสตรีคนหนึ่งเข้ามาอยู่ในจวนชินอ๋องเท่านั้นเองเซี่ยเหวินหรงออกไปที่ค่ายทหารตั้งแต่เช้า คืนนี้เขาก็นอนที่ค่าย อยากจะกลับไปนอนกับหญิงคนรักก็ทำไม่ได้ ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด ทหารของกองทัพพยัคฆ์ทมิฬต่างงุนงงสงสัย เหตุใดชินอ๋องไม่ไปงานแต่งงานของตัวเอง แต่กลับมาหมกตัวยังค่ายทหาร ข่าว

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-09
  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 17 ค่ำคืนร้อนระอุ

    บทที่ 17ค่ำคืนร้อนระอุ เซี่ยเหวินหรงเมื่อรู้อาการป่วยของลี่จิ่นเพราะนางเผลอไปกินหัวของดอกสือ ซว่านเข้า ก็รู้ได้เลยว่าต้องเป็นฝีมือของมี่มี่ที่เอาคืนลี่จิ่นเรื่องผงบดหนังคางคก ตอนแรกที่เขารู้เรื่องเข้าก็โกรธเคืองลี่จิ่นเป็นอย่างมากที่กล้าปองร้ายมี่มี่ของเขา เขาได้ลอบสั่งให้คนไปเสาะหาผงบดหนังคางคกเพื่อเอาคืนนาง เวลานี้ก็เหมาะสมแก่เวลาแล้วไป๋ลู่ที่ติดตามท่านอ๋องมาตั้งแต่เด็ก เพียงแค่มองตา เขาก็รู้ได้เลยว่าต้องทำเช่นไร หลังจากนั้นลี่จิ่นที่นอกจากจะมีอาการท้องเสียที่เพิ่งจะดีขึ้น บนใบหน้าและลำตัวของนางมีผื่นแดงขึ้นทั่วตัว ทั้งนางยังท้องเสียและอาเจียนจนลี่จิ่นทนไม่ไหวสลบไปเลยลู่เหอกังถึงกับกุมขมับหรูเหรินทรงกลับมาเยี่ยมบ้านเดิม แต่กลับมาป่วยเช่นนี้ ในใจเริ่มหวั่นวิตกเข้าแล้ว หรือการที่เขาช่วยกดดันชินอ๋องจนทำให้ลี่จิ่นได้แต่งไปเป็นหรูเหรินนั้นจะเป็นความคิดที่ผิด นี่เพียงผ่านไปแค่ 3 วัน นางก็โดนเล่นงานเสียแล้วเซี่ยเหวินหรงรู้ว่าลี่จิ่นมีผื่นแดงขึ้นทั่วตัวจากลู่เหอกัง เขาก็แสดงสีหน้าตกใจ แล้วสั่งความให้องครักษ์ไปเชิญตัวหมอหลวงมาดูอา

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-09

Bab terbaru

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 4 (ตอนปลาย)

    ตอนพิเศษ 4 (ตอนปลาย) “คุณหนูกู่เกรงใจเกินไปแล้ว ในฐานะตัวแทนของฝ่าบาทพวกข้าต้องมาร่วมยินดีอยู่แล้ว”หยางซูมี่เดินเข้างานไปเลย ไม่ได้สนใจสตรีนางนี้มากนัก ทำเพียงเหมือนกับว่านางไม่คู่ควรที่จะให้พระชายาเช่นนางต้องมาเสวนาด้วย กู่เจียอีได้แต่ลอบกำมือแน่น คอยดูเถอะวันนี้ข้าจะเหยียบหน้าจมให้จมดิน และจะกลายมาเป็นพระชายาของชินอ๋องให้จงได้“เจ้าอยากเล่นกับนางหรือไม่” เซี่ยเหวินหรงหันมาเอ่ยถามภรรยาคนงาม“ให้บทเรียนกับนางเบาๆ ก็พอเจ้าค่ะ” หยางซูมี่หันมายิ้มเจ้าเล่ห์ใส่พระสวามีงานเลี้ยงในจวนเจ้าเมืองวันนี้ กลับพบว่าขณะที่ทั้งหมดกำลังสนุกสนานกันภายในงานเลี้ยงนั้น กลับพบว่าคุณหนูกู่เจียอีผลัดตกลงไปในสระน้ำ แต่โชคดีที่มีคุณชายท่านหนึ่งช่วยเอาไว้ได้ แต่เพราะตอนเปียกน้ำทำให้ทั้งสองได้แนบชิดกัน และด้วยอาภรณ์ของกู่เจียอีนั้นที่เป็นสีขาว ทำให้มองเห็นเรือนร่างของนาง จนมองเห็นไปถึงเอี๊ยมตัวใน และคุณชายผู้นี้ก็ได้แตะต้องนางไปแล้วแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ด้วยเหตุนี้ในหนึ่งเดือนต่อมาจึงได้เกิดงานมงคลขึ้นกู่เจียอีได้แต่งเข้าไปเป็นฮูหยินรอง เน

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 4 (ตอนต้น)

    ตอนพิเศษ 4 (ตอนต้น) หลังจากงานแต่งผ่านไปได้หนึ่งเดือน คนในตระกูลหยางนำโดยท่านเสนาบดีหยางหมิงได้เดินทางกลับเมืองหลวง พวกเขานั้นได้จากเมืองหลวงมานานมากแล้ว สมควรต้องไปจัดการงานที่ค้างคาเอาไว้ แม้จะเสียดายที่หยางซูมี่กับเซี่ยเหวินหรงไม่ได้กลับไปด้วยก็ตาม“ท่านพ่อเดินทางกลับดีๆ นะเจ้าคะ อีก 3 เดือนลูกจะกลับเมืองหลวงพร้อมท่านอ๋องเจ้าค่ะ”“ดูแลตัวเองดีๆ ด้วยมี่เอ๋อร์ ข้าน้อยขอฝากบุตรสาวด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ประโยคท้ายหยางหมิงหันไปเอ่ยกับเซี่ยเหวินหรง“ท่านพ่อตาอย่าได้เป็นห่วง มี่เอ๋อร์อยู่กับข้าย่อมต้องปลอดภัย”เซี่ยเหวินหรงให้คำมั่น ทั้งสองยืนส่งจนขบวนรถม้าเคลื่อนตัวห่างไปเรื่อยๆ“พี่ต้องกลับไปยังจวนเจ้าเมืองเพื่อพบหน้ากับเจ้าเมืองคนใหม่ เจ้าอยู่ที่นี่ดีๆ แล้วพี่จะรีบกลับมา” เซี่ยเหวินหรงลูบหัวหยางซูมี่ด้วยความเอ็นดู“เจ้าค่ะท่านพี่”หยางซูมี่พยักหน้ารับ แล้วเขย่งปลายเท้ายื่นหน้าไปจูบแก้มสาก จนใบหูของเขาขึ้นสีแดงก่ำ“รีบกลับมานะเจ้าคะ ข้าจะรออาบน้ำพร้อมกับท่านพี่”หยางซูมี่ขยิบตาใส่เซี่ยเหวินหรง

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 3 (ตอนปลาย)

    ตอนพิเศษ 3 (ตอนปลาย) เซี่ยเหวินหรงเองก็รีบปลดอาภรณ์ของเขาออกเช่นกัน ร่างกายสูงใหญ่ไร้อาภรณ์ปกปิดกาย มองเห็นกล้ามหน้าท้องหนั่นแน่นที่เป็นลอนสวยอย่างคนที่ออกกำลังกาย ตรงกึ่งกลางเห็นแท่งหยกที่เริ่มจะขยายตัวอวดความศักดิ์ดาของตน หยางซูมี่ลอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นแท่งหยกของเขาหยางซูมี่เนื้อตัวแดงก่ำด้วยความเขินอาย แม้จะเคยร่วมรักกับเขามาหลายครั้ง แต่นางกับเขาก็ห่างหายกันไป 2 ปีกว่า นางจึงรู้สึกประหม่ามากนัก แต่เพราะไม่อยากจะให้เขารู้ว่านางนั้นเขินอายมากเพียงใด จึงทำใจกล้าเงยหน้ามองร่างสูง ยกยิ้มอ่อนหวานแล้วเอื้อมมือไปปลดสายผูกเอี๊ยมออก ทำให้ปราการชิ้นสุดท้ายหลุดร่วงลงมา มองเห็นก้อนเต้าหู้อวบอิ่มสองก้อนและเม็ดทับทิมสีชมพูระเรื่อเซี่ยเหวินหรงไม่อาจจะอดใจได้อีกต่อไป เขาช้อนร่างบางของหยางซูมี่อุ้มลงไปในถังอาบน้ำด้วยกัน เขานั่งพิงขอบอ่างให้หยางซูมี่นั่งบนตักแกร่ง มือข้างหนึ่งบีบสะโพกกลมกลึง อีกข้างก็ยื่นไปข้างหน้ากอบกุมก้อนเต้าหู้บีบคลึงอย่างอ่อนโยน นิ้วชี้เขี่ยเม็ดทับทิมสีชมพูจนตั้งช่อชูชันขึ้นมา“อ๊าาาา ท่านพี่”เซี่ยเหวินหรงจับร่างบางหั

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 3 (ตอนต้น)

    ตอนพิเศษ 3 (ตอนต้น) ขบวนเจ้าบ่าวนำโดยชินอ๋องเซี่ยเหวินหรง พระองค์ขี่อาชาโลหิตสีขาวนำขบวนสินสอดมากกว่า 100 หีบ โดยมีทหารของกองทัพพยัคฆ์ทมิฬคอยดูแล แม้ว่าหยางซูมี่จะเอ่ยว่าต้องการจัดงานแต่งงานแบบเรียบง่ายแต่เมื่อฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลงทรงทราบก็รีบส่งม้าเร็วนำราชโองการสมรสพระราชทานมามอบให้ ทั้งยังระบุว่าชินอ๋องจะมีหยางซูมี่เป็นพระชายาแต่เพียงผู้เดียวจวบจนทั้งคู่สิ้นอายุขัยข่าวการแต่งงานครั้งที่สองของทั้งคู่แพร่สะพัดไปทั่วแคว้นเซี่ย บางคนต่างก็ยินดีที่ทั้งสองกลับมาใช้ชีวิตร่วมกัน แต่บางคนก็ค่อนขอดที่ทั้งสองเลิกรากันไปแล้วแต่ยังกลับมาแต่งงานกันอีกครั้ง ไม่ว่าผู้คนจะพูดกันอย่างไร แต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็หาได้สนใจไม่ เพราะทั้งคู่ได้ตกลงใจที่จะกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง คำพูดของผู้อื่นหาได้สลักสำคัญกับพวกเขาทั้งสองคนไม่เซี่ยเหวินหรงขี่ม้ามาหยุดที่หน้าประตูบ้านพักของหยางซูมี่ เมื่อเขาเดินเข้าไปยังห้องโถงหลักก็พบว่าหยางซูมี่นั้นยืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว วันนี้นางสวมชุดสีแดงมงคลปักลายหงส์สยายปีก และมีผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงสวมทับเอาไว้ที่ศีรษะ ทำให้เขาไม่

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 2

    ตอนพิเศษ 2 ริมชายหาดแห่งหมู่บ้านผิงอัน มีสตรีร่างบอบบาง กับบุรุษร่างสูงใหญ่นั่งอิงแอบกันอยู่ใต้ต้นมะพร้าว สายตาทั้งคู่ทอดมองออกไปยังน้ำทะเลใสสีเขียวมรกต หาดทรายสีขาวละเอียด ลมทะเลพัดมาเป็นระยะๆ คล้ายกับกำลังปลอบประโลมคนทั้งคู่ ทั้งสองปล่อยให้จิตใจได้ซึมซับกับธรรมชาติที่สวยงามนี้“เจ้ามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อใด” เซี่ยเหวินหรงหันมาเอ่ยถามในสิ่งที่เขาสงสัย“ข้ามาถึงเมื่อสามวันก่อนเจ้าค่ะ ข้าตั้งใจมาทำให้ท่านแปลกใจเล่น” หยางซูมี่เอ่ยพลางหัวเราะ นัยน์ตาพราวระยับดั่งดวงดารา“รู้หรือไม่ว่าทำข้าเป็นห่วง ตอนที่ข้ารู้ว่าเจ้าหายตัวไป”เซี่ยเหวินหรงเอื้อมมือไปบีบจมูกโด่งรั้นอย่างมันเขี้ยว“ข้าเจ็บนะเหวินหรง”หยางซูมี่หันมาดุเขาอย่างไม่จริงจังนัก เซี่ยเหวินหรงเอื้อมมือไปกอบกุมที่มือขาวบางอย่างทะนุถนอม“ข้าไม่คิดว่าจะได้เจอเจ้าเร็วถึงเพียงนี้ ที่นี่มีเรื่องให้ข้าจัดการมากมายนัก ข้ายังคิดว่าอย่างเร็วก็คงอีกสักปีสองปีถึงจะกลับไปหาเจ้าที่เมืองหลวงได้”“ข้ารู้ว่าท่านทำงานหนักมากเพียงได ดูสิชินอ๋องผู้สง่างามกลายร่

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ 1 2 ปีต่อมาชายแดนใต้ของแคว้นเซี่ยที่ติดกับทะเล เมื่อ 2 ปีก่อนมีการค้าเกลือเถื่อนเกิดขึ้น เซี่ยเหวินหลินที่ได้ออกมาจัดการนั้น กลับจัดการแบบปล่อยผ่าน อนึ่งเพราะมีผลประโยชน์ร่วมกับพ่อค้าที่ค้าเกลือเถื่อนแต่หลังจากที่ชินอ๋องเซี่ยเหวินหรงจัดการปราบปรามกบฏได้หมดสิ้น จึงได้ทูลขอฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลงมาปราบปรามการค้าเกลือเถื่อน และมาจัดระบบการปกครองใหม่ของชายแดนใต้ ซึ่งฮ่องเต้ก็ได้ออกพระราชโองการมอบอำนาจทุกอย่างให้ชินอ๋องเป็นผู้จัดการทั้งหมดตลอดเวลากว่าสองปีที่ผ่านมานี้เซี่ยเหวินหรงออกรบไปปราบปรามโจรสลัดทั้งในน่านน้ำ และบนเรือ โจรสลัดนั้นชอบขึ้นมาดักปล้นฆ่าชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่ง แต่หลังจากที่ชินอ๋องมาโจรสลัดก็หนีหายไปหมดด้วยหวาดเกรงชินอ๋องนอกจากจะปราบโจรสลัดแล้ว เซี่ยเหวินหรงยังต้องเข้ามาปราบปรามพ่อค้าเกลือเถื่อน และยังต้องมาจัดระเบียบเมืองหนานผิงใหม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเจ้าเมืองหนานผิงปกครองเมืองชายแดนใต้อย่างไร้ความยุติธรรม กดขี่ข่มเหงชาวเมืองหนานผิง ทหารประจำเมืองก็ชอบรีดไถจากชาวบ้าน เรียกร้องค่าคุ้มครอง หากครอบค

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 67  จุดจบ (ตอนปลาย)

    บทที่ 67 จุดจบ (ตอนปลาย) “ถ้าเช่นนั้น ท่านก็คงเป็นผู้ที่นำแท่งเหล็กรูปพระอาทิตย์ที่เป็นเครื่องหมายประจำเผ่าหูเจี๋ยน่ามอบให้ไทเฮาเช่นนั้นสินะ”“ใช่แล้ว เป็นข้าเอง นางอยากจะทำให้ร่างกายของเจ้ามีมลทิน ข้าเลยเสนอวิธีนี้และมอบแท่งเหล็กร้อนนั้นให้กับนางเอง ฮ่าฮ่าฮ่า”เซี่ยเฟยหงหัวเราะออกมาด้วยความสาสมใจ ชินอ๋องที่แกร่งกล้ากลับมีตราประทับอยู่บนร่างกาย ช่างน่าอดสู่ยิ่งนัก“ส่วนท่านก็เป็นคนคอยชื่นชมข้า เพื่อหวังให้ไทเฮาหวาดระแวงข้าใช่หรือไม่” เซี่ยเหวินหรงหันไปถามไป๋วั่งซู“ทุกแผนการต้องมีผู้เสียสละเสมอพ่ะย่ะค่ะ”ไป๋วั่งซูเอ่ยตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก เพราะอีกไม่นานศีรษะของเขาก็จะไม่อยู่บนบ่าแล้ว“เช่นนั้นก็ดี ข้าจะได้หมดความสงสัยเสียที ทหาร! นำเข้ามา”เซี่ยเหวินหรงเอ่ยสั่งเสียงเหี้ยม ไม่นานก็มีทหารกว่า 10 นายเดินเข้ามา มีหนึ่งนายถือกระถางไฟ และอีกหนึ่งนายถือแท่งเหล็กที่ตรงปลายหล่อหลอมเป็นรูปพระอาทิตย์เฉกเช่นดั่งรอยแผลเป็นของเซี่ยเหวินหรง“จัดการซะ” เซี่ยเหวินหรงเอ่ยเสียงเหี้ยม“พ่ะย่ะค่ะ

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 66 จุดจบ (ตอนต้น)

    บทที่ 66จุดจบ (ตอนต้น) เหตุการณ์ในท้องพระโรงในวันนี้ ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างในหมู่ครอบครัวของขุนนาง เรื่องราวในครั้งนี้หนักหนายิ่งนัก นอกจากจะเป็นเรื่องของกบฏ ยังมีเรื่องการปรากฏตัวของเซี่ยเฟยหงและไป๋วั่งซู เรื่องของไทเฮาสตรีที่ได้ขึ้นชื่อว่าเคยเป็นโฉมงามอันดับหนึ่ง และยังเคยเป็นมารดาของแผ่นดิน ซึ่งตอนนี้ก็เป็นถึงไทเฮาพระมารดาของฮ่องเต้ แต่กลับทำตัวเฉกเช่นหญิงแพศยา สวมหมวกเขียวให้พระสวามี จนถึงขนาดวางยาฆ่าพระสวามีของตนเองผู้เป็นถึงฮ่องเต้เรื่องราวครั้งนี้สะเทือนฟ้าสะเทือนดินเป็นอย่างมาก ลุกลามใหญ่โตจนกระทั่งล่วงรู้ไปถึงราษฎรแห่งแคว้นเซี่ย มีบัณฑิตร่วมออกมาประท้วงเขียนฎีกาเพื่อขอให้ฮ่องเต้ลงโทษไทเฮา จวนตระกูลมู่ตอนนี้ถูกปิดตายไปแล้ว แต่กลับถูกเหล่าชาวบ้านพากันมาโยนก้อนหินและเศษผักเน่าเข้ามาในจวน จนส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วเช่นเดียวกับที่ชายแดนที่คนของตระกูลมู่เองก็ถูกเหล่าทหารและผู้คุมคอยกลั่นแกล้ง ด้วยรังเกียจคนตระกูลมู่ จนกระทั่งมีอดีตเจ้านายหลายคนทนความอัปยศไม่ไหว ตัดสินใจผูกคอฆ่าตัวตายไป รวมถึงมู่เจ๋อจ้านและเจียงเจี๋ยอีมู

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   บทที่ 65 อดีตขององค์ชายผู้สาบสูญ (ตอนปลาย)

    บทที่ 65 อดีตขององค์ชายผู้สาบสูญ (ตอนปลาย) แต่หลังจากนั้นเพียงหนึ่งปีก็มีข่าวออกมาว่าลี่เหมยผูกคอตายที่ตำหนักเย็น เขาเสียใจเป็นอย่างมากด้วยความมึนเมาในฤทธิ์สุราจึงลอบเข้ามาหามู่อิงฮวา เขาเข้ามาตัดพ้อต่อว่ามู่อิงฮวา แต่เพราะความเมาจึงทำให้เขาได้มีความสัมพันธ์กับมู่อิงฮวา นับจากนั้นเป็นต้นมาเขาจึงได้ลอบเสพสังวาสกับมู่อิงฮวาเรื่อยมา ส่วนหนึ่งก็เพื่อแก้แค้นเสด็จพี่ของเขา ลอบสวมหมวกเขียวให้พี่ชายของตนเองหลังจากที่ลี่เหมยตายไป จึงได้กลับไปหานายท่านตระกูลกู้ บอกเพียงว่าตระกูลของเขาได้ตายกันไปหมดแล้ว จึงกลับมาขอนายท่านกู้ทำงาน นายท่านกู้นั้นเห็นว่าเขาฉายแววฉลาดเฉลียวจึงสอนงานทุกอย่างให้แก่เขา เพียงไม่นานก็ได้ขึ้นมาเป็นมือขวาของนายท่านกู้ด้วยรูปโฉมหล่อเหลา และความสุภาพของเขานั้น จึงสามารถทำให้บุตรสาวของนายท่านกู้ ผู้มีนามว่าเฉินเย่วเล่อหลงรักได้ เหตุที่เฉินเย่วเล่อไม่ได้ใช้แซ่กู้เพราะว่ามารดาของนางได้ขอไว้ ด้วยความรักที่นายท่านกู้มีต่อภรรยา เขาจึงได้ยินยอมให้บุตรสาวใช้แซ่ 'เฉิน' ในที่สุดเขาจึงได้แต่งงานกับเฉินเย่วเล่อ มีบุตรสาวด้วยกันหนึ่งคนนามว่า กู

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status